The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรวิชาชีพ การทำหมวกผ้าด้นมือ หลักสูตร 35 ชั่วโมง
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by คลังความรู้, 2022-07-01 01:58:20

หลักสูตรวิชาชีพ การทำหมวกผ้าด้นมือ หลักสูตร 35 ชั่วโมง

หลักสูตรวิชาชีพ การทำหมวกผ้าด้นมือ หลักสูตร 35 ชั่วโมง
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา

Keywords: หลักสูตรวิชาชีพ,กศน.อำเภอดอกคำใต้





คำนำ

หมวกผ้าด้นมือเป็นงานที่เย็บปักด้วยมือ สมัยก่อนจะมีการเย็บผ้าห่มนวมไว้ใช้เอง
ในครวั เรือน ฝีมือในการเย็บจะไมป่ ระณีตและไม่เรียบร้อย เพราะทำไว้ใช้กันเองในครัวเรือนและเป็น
ของฝากกับผู้ที่มาเยี่ยมเยือน ปัจจุบันได้มีการพัฒนารูปแบบการเย็บปัก ลายเส้น ลวดลาย สีสัน
เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย ใช้เป็นผ้าคลุมเตียงและผ้าห่มได้ แต่ยังไม่ทิ้งภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการเย็บปัก
ดว้ ยมือ ลายเสน้ และลวดลาย มีลักษณะที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของภมู ิปัญญาท้องถิ่น จึงกลายเป็น
ผ้าดน้ มือในรูปแบบใหม่ ทีม่ ิใช่เพียงแค่การเนาผ้าห่มที่ใช้ในครัวเรือนที่เย็บจากฝ้ายหรือนุ่นใช้ภายใน
ครอบครัวเรือนอยู่แล้ว ความรู้ประสบการณ์การทำผ้าด้นมือมาประยุกต์ดัดแปลง เดิมทำเป็นงาน
ด้นมือชิ้นเล็ก ๆ และได้พัฒนาชิ้นงานใหญ่ขึ้น เช่น ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอน
กระเป๋าสะพาย กระเป๋าเป้ กระเป๋าสตางค์ หมวก เป็นต้น โดยในปัจจุบันแนวโน้มความต้องการ
ผลติ ภัณฑ์ ที่ทำดว้ ยมอื น้ันมีแนวโน้มทีส่ งู ขนึ้ เรือ่ ย ๆ

กศน. อำเภอดอกคำใต้ เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงดำเนินการจัดทำหลักสูตรวิชาชีพ
การทำหมวกผ้าด้นมือ หลักสูตร 35 ช่ัวโมง ซึ่งมีขอบข่ายเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ
ผ้าดน้ มือ การทำหมวกผ้าดน้ มือ การบริหารจัดการและการตลาด และ คุณธรรม จริยธรรมในการ
ประกอบอาชีพ เพื่อนำไปใช้ในการจัดการศึกษาวิชาชีพให้กับผู้เรียน โดยศึกษาความต้องการของ
กลุ่มเป้าหมายและชุมชน มุ่งพัฒนาคนให้ได้รับการศึกษา เพื่อพัฒนาอาชีพและการมีงานทำ สามารถ
สร้างรายได้อาชีพให้มีความม่นั คง

กศน. อำเภอดอกคำใต้ ขอขอบคุณอาจารย์อัญชลี ธรรมะวิธีกุล ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ
คณะกรรมการสถานศึกษา กศน. อำเภอดอกคำใต้ ที่ให้คำแนะนำ คำปรึกษา ในการจัดทำ
หลักสูตรมา ณ โอกาสนี้ และหวังว่าเอกสารหลักสูตรวิชาชีพวิชาผ้าด้นมือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์
ต่อวิทยากร และผู้เกี่ยวข้องในการนำไปใช้ในการจัดการการศึกษาต่อเนื่องรูปแบบช้ันเรียนวิชาชีพ
ให้กบั กลุ่มเป้าหมายตอ่ ไป

( นายถนอม โยวงั )
ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอดอกคำใต้

มกราคม 2564



สารบัญ

หนา้

คำนำ ก
สารบัญ ข
หลักสูตรวิชาชีพ การทำหมวกผ้าด้นมือ
ความสำคัญ……………………………………………………………………………………………………. 3
จุดมุ่งหมาย…………………………………………………………………………………………………….. 3
วัตถปุ ระสงค์…………………………………………………………………………………………………… 3
เนือ้ หาของหลกั สตู ร………………………………………………………………………………………… 4
ระยะเวลาเรียน………………………………………………………………………………………………. 4
สือ่ ประกอบการเรียนและแหล่งเรียนรู้………………………………………………………………. 4
การวดั ผลประเมินผล………………………………………………………………………………………. 4
ประโยชน์ที่คาดวา่ จะได้รับ………………………………………………………………………………. 4
โครงสร้างหลกั สูตร………………………………………………………………………………………….. 5
แผนการจดั การเรียนรู้……………………………………………………………………………………… 29
คณะผจู้ ดั ทำ……………………………………………………………………………………………………… 35

1

กจิ กรรมที่ 2 เขียนผงั หลักสตู รวิชาชีพ ชื่อหลักสูตรการทำหมวกผา้ ด้นมือ

หัวเรื่อง หัวเร่อื งยอ่ ย หวั เรอ่ื งย่อย หัวเรื่องย่อย

หลกั (Theme)

((Theme)(The ความเป็นมาและ ประเภทของผ้า
ความรmทู้ eวั่ )ไ(Tปhเกeีย่mวeก)(ับT ความสำคัญของ ประโยชน์ของหมวกผ้าด้น
หมวกผ้าดน้ มือ
หมhวeกmผe้า)ด้นมือ มือ

การทำหมวกผ้าดน้ มือ

- การทำหมวกผ้าด้นมอื ทรงปกี กว้าง
- การทำหมวกผ้าด้นมอื ทรงบกั เก็ต
- การทำหมวกผ้าด้นมอื ทรงทวิ ลิป
- การทำหมวกผ้าด้นมอื ทรงหมวกแก็ป
- การทำหมวกผ้าด้นมอื ทรงฟกั ทอง

การทำหมวกผา้ ด้นมือ วสั ดุ/อปุ กรณ์ ข้ันตอนการออกแบบ การดูแลรักษา
ทรงบักเก็ต และการวธิ กี ารทำ

การทำหมวกผา้ ด้นมือ วัสดุ/อปุ กรณ์ ขั้นตอนการออกแบบ การดูแลรกั ษา
ทรงปกี กว้าง วสั ด/ุ อุปกรณ์ และการวธิ กี ารทำ การดูแลรกั ษา

การทำหมวกผ้าด้นมือ ข้ันตอนการออกแบบ
ทรงทิวลิป และการวธิ กี ารทำ

การทำหมวกผ้าด้นมือ วสั ดุ/อปุ กรณ์ ข้ันตอนการออกแบบ การดูแลรกั ษา
ทรงหมวกแกป็ วสั ด/ุ อปุ กรณ์ และการวธิ กี ารทำ การดูแลรกั ษา

การทำหมวกผา้ ด้นมือ ขั้นตอนการออกแบบ
ทรงฟกั ทอง และการวธิ กี ารทำ

การบริหารจัดการและ การวางแผน การวางแผน การกำหนด การทำบญั ชี
การตลาด การผลติ การจำหน่าย ราคาขาย รายรับ รายจ่าย

การค้าออนไลน์

2

คุณธรรม จริยธรรม ความหมายและ คณุ ธรรม และจริยธรรมในการ
ในการประกอบ ความสำคัญของ ประกอบอาชีพ
อาชีพ คุณธรรม จริยธรรมใน - ความขยัน
การประกอบอาชีพ - ความอดทน
- ความซื่อสตั ย์

3

หลักสูตรการทำหมวกผ้าด้นมือ

ความสำคญั

ผ้าดน้ มือเป็นงานหัตถกรรมที่เย็บปักด้วยมือ เริ่มต้นจากสมัยก่อนจะมีการเย็บผ้าห่มนวมไว้ใช้
เองในครัวเรือน ฝีมือในการเย็บจะไม่ประณีตและไม่เรียบร้อย เพราะทำไว้ใช้กันเองในครัวเรือน
แต่ปัจจุบันไดม้ ีการพฒั นารปู แบบการเย็บปัก ลายเส้น ลวดลาย สีสัน เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยมากยิง่ ขึ้น
พัฒนาเป็นชิ้นงานที่หลากหลาย เช่น ผ้าห่ม ผ้าคลุมเตียง ผ้าปูโต๊ะ ปลอกหมอน กระเป๋าสะพาย
กระเป๋าเป้ กระเป๋าสตางค์ สอดแทรกลายเส้น และลวดลาย มีลักษณะที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมของ
ภูมิปัญญาท้องถิ่นในท้องถิ่นนน้ันๆ พัฒนากลายเป็นผ้าด้นมือในรูปแบบใหม่ ที่มิใช่เพียงแค่การใช้
ในครัวเรือน แต่ไดป้ ระยุกต์ดดั แปลงทำเป็นงานด้นมือรูปแบบอื่นๆ โดยใช้ความรู้ประสบการณ์การทำ
ผ้าดน้ มือ

หมวกผ้าด้นมือ เป็นงานเย็บปัก ที่พัฒนามาจากงานผ้าด้นมือ ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาที่มี
เอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากมีขั้นตอนการทำและลักษะของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากหมวกอื่นๆ
ใช้ลายผ้าที่สีสันสดใน หลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่จะใช้เนื้อผ้าแคนวาส เนื่องจากมีราคาไมแ่ พง หมวก
แต่ละขนาดมีการคัดสรรลายผ้าและสีให้เหมาะสม สามารถใช้ได้ทุกวัย มีการเย็บที่มีลายเส้นที่เป็น
ระเบียบ สวยงาม ใช้ได้นาน

ชาวบ้านในอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา จึงได้ทำหมวกผ้าด้นมือ เพื่อการใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจำวนั และตอ่ ยอดเพื่อสร้างรายได้เสริมเล้ยี งครอบครวั เพิ่มรายได้ที่มัน่ คง โดยหมวกผ้าด้นมือ
กำลังเป็นที่นิยม เพราะสามารถใช้งานได้นาน อีกทั้งยังเป็นการอนรุ ักษ์ส่ิงแวดล้อม เพราะใช้วัสดุจาก
ธรรมชาติ สง่ ผลให้หมวกผ้าดน้ มือเป็นทีต่ ้องการของตลาดทั้งภายในท้องถิ่นและระดับประเทศ

ดังน้ันการพัฒนาหลักสูตรวิชาชีพ หมวกผ้าด้นมือ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการศึกษาวิชาชีพ
ให้กับผู้เรียน เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการพัฒนาอาชีพผลิตภัณฑ์หมวกผ้าด้นมือ
สามารถนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

จดุ มุ่งหมาย
มงุ่ ให้มีความรู้ความเข้าใจ และมที ักษะในการพัฒนาอาชีพการทำหมวกผ้าดน้ มือ นำความรไู้ ป

ใช้ในการประกอบอาชีพ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั

วัตถุประสงค์
1. เพือ่ ให้มคี วามรู้ ความเข้าใจและมีทักษะในการทำหมวกผ้าด้นมือ
2. เพื่อให้นำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพการทำหมวกผ้าด้นมือ และนำไปใช้ใน

ชีวิตประจำวนั

4

เนอ้ื หาของหลักสูตร
1. ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั หมวกผ้าด้นมือ
2. การทำหมวกผ้าด้นมือทรงบกั เกต็
3. การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงปีกกว้าง
4. การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงทิวลิป
5. การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงหมวกแก็ป
6. การทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟกั ทอง
7. การบรหิ ารจัดการและการตลาด
8. คุณธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ

ระยะเวลาเรยี น
จำนวน 35 ช่ัวโมง
ภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง
ภาคปฏิบตั ิ 30 ชว่ั โมง

สือ่ ประกอบการเรยี นและแหล่งเรียนรู้
1. ใบความรู้
2. ภมู ิปญั ญาท้องถิน่
2.1 นางจินดา ฟแู สง บ้านเลขที่ 128 หมูท่ ี่ 7 ตำบลสวา่ งอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้

จังหวดั พะเยา
3. ใบงาน/แบบฝึกหัด

การวดั ผลประเมินผล
1. สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรยี น
2. การทำแบบฝึกหดั
3. การทำแบบทดสอบ
4. ประเมินจากชิน้ งาน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะไดร้ บั
1. ผู้เรยี นมีความรู้ ความเข้าใจและมีทกั ษะในการทำหมวกผ้าด้นมือ
2. ผู้เรยี นนำความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพการทำหมวกผ้าด้นมือ

และนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั

5

โครงสรา้ งหลักสูตร

1. ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกับการทำหมวกผา้ ดน้ มือ จำนวน 3 ชั่วโมง
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของหมวกผ้าดน้ มือ
1.2 ประเภทของผ้า
1.3 ประโยชน์ของหมวกผ้าด้นมือ

2. การทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงบักเกต็ จำนวน 7 ชัว่ โมง
2.1 วสั ดแุ ละอุปกรณใ์ นการทำหมวกผ้าด้นมือทรงบักเก็ต
2.2 ขั้นตอนการออกแบบและการวิธกี ารทำ
2.3 การดแู ลรักษา

3. การทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงปีกกวา้ ง จำนวน 5 ชั่วโมง
3.1 วสั ดแุ ละอปุ กรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือทรงปีกกว้าง
3.2 ขั้นตอนการออกแบบและการวิธกี ารทำ
3.3 การดแู ลรักษา

4. การทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงทิวลิป จำนวน 5 ชว่ั โมง
4.1 วัสดแุ ละอปุ กรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือทรงทิวลปิ
4.2 ข้ันตอนการออกแบบและการวิธกี ารทำ
4.3 การดแู ลรักษา

5. การทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงหมวกแกป็ จำนวน 5 ชัว่ โมง
5.1 วสั ดแุ ละอปุ กรณใ์ นการทำหมวกผ้าด้นมือทรงหมวกแกป็
5.2 ข้ันตอนการออกแบบและการวิธกี ารทำ
5.3 การดูแลรกั ษา

6. การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงฟกั ทอง จำนวน 8 ช่ัวโมง
6.1 วัสดแุ ละอุปกรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟกั ทอง
6.2 ข้ันตอนการออกแบบและการวิธกี ารทำ
6.3 การดูแลรกั ษา

6

7. การบรหิ ารจดั การและการตลาด จำนวน 1 ช่ัวโมง
7.1 การวางแผนการผลติ
7.2 การวางแผนการจำหน่าย
7.3 การกำหนดราคาขาย
7.4 การทำบัญชีรายรบั – รายจ่าย
7.5 การค้าออนไลน์

8. คณุ ธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ จำนวน 1 ชั่วโมง
8.1 ความหมายและความสำคัญของคณุ ธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ
8.2 คุณธรรม และจริยธรรมในการประกอบอาชีพ
8.2.1 ความขยัน
8.2.2 ความอดทน
4.2.3 ความซื่อสตั ย์

7

ใบความร้ทู ี่ 1

ความรทู้ ว่ั ไปเกีย่ วกับการทำหมวกผ้าด้นมือ

ความเปน็ มาและความสำคัญของการทำหมวกผ้าดน้ มือ

หมวกผ้าด้นมือเป็นงานเย็บผ้าและประกอบกันเข้าเป็นชิ้นงาน โดยทุกข้ันตอนของการทำล้วน
ใช้มือในการเย็บปัก ฉะน้ันจึงถือว่าเป็นภูมิปัญญาข้ันพื้นฐานที่ได้รับการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ
เพราะในอดีตไม่มีเครื่องมือทุ่นแรงในการเย็บผ้า ซึ่งการปกั ผ้าด้วยมือก็มีการพัฒนามากข้ึนโดยการทำ
ลวดลายต่างๆ นอกจากนี้การทำผ้าด้นมือถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พัฒนาความคิด
สร้างสรรค์ลงในชิน้ งาน

ปัจจุบันได้ มีการพัฒนารูปแบบการเย็บปัก ลายเส้น ลวดลาย สีสัน เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย
แต่ยังไม่ทิ้งภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการเย็บปักด้วยมือ ลายเส้นและลวดลาย มีลักษณะที่บ่งบอกถึง
วัฒนธรรมของ ภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงกลายเป็นผ้าด้นมือในรูปแบบใหม่ ที่มิใช่เพียงแค่การที่ใช้ใน
ครัวเรือนที่เย็บ ความรู้ประสบการณ์การทำผลิตภัณฑ์จากผ้าดน้ มือ มาประยกุ ต์ดดั แปลง เดิมทำเป็น
งานด้นมือชิ้นเล็กๆและได้พัฒนาชิ้นงานใหญ่ขึ้น มีรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น กระเป๋าสตางค์
กระเป๋าสะพาย เป้ใส่ของ เป็นต้น การทำกระเป๋าผ้าด้นมือขยายวงกว้างไมเ่ ฉพาะประชาชนวัยแรงงาน
เท่าน้ัน ยังส่งเสริม สนับสนุนไปยังเยาวชน และประชาชนในพื้นที่ ๆต่างมีความชื่นชอบในงานปัก
ผ้าด้นมือ ออกแบบลวดลาย และผสมผสานสีเนอื้ ผ้าให้มีความกลมกลืนกนั เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าที่
สามารถส่ังลวดลาย สี โทน รูปร่างฯลฯ ได้และ ในปัจจุบันแนวโน้มความต้องการของตลาด
ของผู้บริโภค ผลติ ภัณฑท์ ี่ทำดว้ ยมือน้ันมีแนวโน้มที่สูงขนึ้ เรือ่ ย ๆ สามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มอาชีพ
นีไ้ ด้เปน็ อย่างดี

ประเภทของผ้า
1. ผ้าคอตตอน

ผ้าคอตตอน หรือผ้าฝ้าย เปน็ เนื้อผ้าที่ผลติ มาจากเส้นใยฝ้าย (Cotton) ซึง่ เป็นเสน้ ใยธรรมชาติ
ทีไ่ ด้มาจากการนำผลฝ้ายที่แกจ่ ัดมาแยกเอาเปลือกและเมล็ดออก ก่อนจะนำปยุ ฝ้ายสขี าว ซึ่งเปน็ ส่วน
ที่ห่อหุ้มเมลด็ มาป่ันจนเกิดเป็นเสน้ ดา้ ย แล้วนำมาถักทอเปน็ ผนื ผ้า โดยคณุ ภาพและความยาวของเส้น
ใยฝ้ายน้ันจะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์ รวมถึงลักษณะพื้นที่ และสภาพภูมิอากาศที่ใช้ในการ
ปลูก เส้นใยฝ้ายส่วนใหญ่จะมีความยาวประมาณ 7/8 นิ้ว ซึ่งขนาดที่นิยมนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรม
ส่งิ ทอจะมีความยาวอยูท่ ีป่ ระมาณ 1/2 นวิ้

8

คุณสมบัติของผ้าคอตตอน
- ผลติ จากเสน้ ใยฝ้ายธรรมชาติ ให้สมั ผัสนมุ่ สวมใสส่ บาย มีความทนทาน
- ผ้าคอตตอนสามารถดูดซับความชื้นจากเหงื่อและน้ำได้ดี และยังสามารถระบายความชื้น

ออกไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว จึงเหมาะสมสำหรับการสวมใส่ในช่วงทีม่ อี ากาศร้อน
- ผ้าคอตตอนทนต่อความร้อน จึงสามารถซักและรีดได้ด้วยอุณหภูมิสูง โดยไม่ทำให้เนื้อผ้า

ไหม้หรือเกิดการหดตัว
- ผ้าคอตตอนมีคุณสมบัติการคืนต่ำ และค่อนข้างยับง่าย แต่ปัจจุบันได้มีการพัฒนา

กระบวนการในการผลิตเส้นใยฝ้ายให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น จึงทำให้ผ้าคอตตอนเป็นที่นิยมกันอย่าง
แพร่หลาย

- เนอื้ ผ้าเหมาะสำหรับการทำเส้อื ยืด โดยสามารถนำมาทำซิลค์สกรีนแบบสลี อย สจี ม รวมไป
ถึงการปร้ินสกรีน ได้โดยไมต่ ้องกลัวว่าเนือ้ ผ้าจะเสยี
2. ผ้าโพลเี อสเตอร์

ผ้าโพลีเอสเตอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ผ้า TK เป็นเนื้อผ้าที่ผลิตขึ้นมาจากเส้นใยสังเคราะห์ ซึ่ง
เกิดจากกระบวนการทางเคมีของ Ethylene Glycol และ กรด Terephthalic ทำให้ได้เส้นใยพลาสติกที่มี
ความแข็งแรงกว่าเส้นใยจากธรรมชาติ รวมถึงมีความยืดหยุ่นสูง และทนทานต่อการหลุดรุ่ยหรือฉีก
ขาดไดด้ ี

ในปจั จุบัน ผ้าโพลีเอสเตอร์ได้ถูกนำมาพฒั นาเพื่อให้มีรปู แบบที่หลากหลาย และมีคุณภาพทีด่ ี
มากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในรูปแบบที่ได้รับความนิยม คือการนำผ้าใยสังเคราะห์ชนิดนี้มาพัฒนาให้มีความ
นุ่มนวลจนมีสัมผัสคล้ายกันกับผ้าไหม หรือที่มักจะรู้จักกันในชื่อ Silk ประเภทต่าง ๆ เช่น Silk satin ,
Silk Italy และ Silk Spain เป็นต้น และบางคร้ังก็ได้มีการนำเส้นใยโพลีเอสเตอร์ไปผสมร่วมกับใย
ธรรมชาติอื่น ๆ เช่น ฝ้าย เพื่อชว่ ยให้เนื้อผ้ามีความคงทน รวมถึงสามารถระบายอากาศและซึมซับน้ำ
ได้ดีมากยิ่งข้นึ
คณุ สมบัติของผ้าโพลเี อสเตอร์

- ผ้าโพลเี อสเตอรม์ ีความเหนียว คงรปู ได้ดี และทนทานตอ่ สารเคมี เชน่ น้ำยาฟอกขาว
- เนอื้ ผ้ามีน้ำหนักเบา สัมผัสน่มุ สวมใส่สบาย ระบายอากาศได้ดี เหมาะสำหรับนำมาใช้ทำชุด
กีฬาและชดุ ออกกำลังกาย
- ผ้าโพลีเอสเตอร์ไม่ดูดความชื้น ทำให้แห้งเร็วและไม่อมน้ำ จึงทำให้ไม่เกิดเชื้อราและเป็น
แหลง่ สะสมของแบคทีเรยี
- เส้นใยสามารถทนความร้อนได้สูง และทนต่อการขัดสีได้ดี ทำให้สีของเส้ือไม่ซีด ไม่ตกง่าย
และไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว

9

- ผ้าโพลีเอสเตอร์ เป็นผ้าเพียงชนิดเดียวที่สามารถนำมาพิมพ์ลายผ้าแบบซับลิเมช่ัน
(Sublimation) ได้โดยทีไ่ มม่ ขี ้อจำกดั ในเรื่องของสีหรือลายที่พิมพ์

- ผ้าโพลีเอสเตอรม์ ีข้อจำกัดในเรื่องของการระบายอากาศ เมื่อสวมใส่จึงอาจทำให้เกิดความ
อึดอัดและรสู้ กึ ไมส่ บายตัวเทา่ ทีค่ วร
3. ผ้าลนิ ิน

ผ้าลินิน เป็นเนื้อผ้าที่ถักทอขึ้นมาจากเส้นใยของพืชชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า แฟล็กซ์ (Flax) โดยพืช
ชนิดนี้นิยมปลูกกันมากในภาคพื้นยุโรป เช่น เบลเยียม และรัสเซีย เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้ดี
ทีส่ ุดในภาคพนื้ ที่มีอากาศเยน็ สำหรบั กระบวนการในการผลติ เสน้ ใยเพื่อนำมาถักทอเป็นผืนผ้าลินินน้ัน
จะเริ่มต้นจากนำต้นแฟลก็ ซ์มาหมักให้ต้นเปื่อยนุ่ม ก่อนจะนำไปมัดเป็นฟ่อนแลว้ นำไปตากให้แห้ง เมื่อ
แห้งสนิทดแี ล้วจึงนำมาบดทับให้ส่วนของลำต้นและก้านแตกออกจากกันจนเห็นเป็นเส้นใย แลว้ จึงนำ
เสน้ ใยเหล่านั้นไปเข้าเคร่อื งหวีให้เรียบ เพื่อนำไปปนั่ เปน็ เสน้ ใยและเสน้ ดา้ ยในท้ายที่สดุ
คุณสมบัติของผ้าลนิ ิน

- คุณสมบัติส่วนใหญ่ของผ้าลินินน้ันจะมีความคล้ายคลึงกับคุณผ้าคอตตอน แต่จะแตกต่าง
กนั ตรงที่ ผ้าลนิ ินมีความแข็งแรง ทนทาน มากกว่าผ้าคอตตอนสองถึงสามเท่า เนือ่ งจากเส้นใยมีความ
เหนียวมากกว่า

- เสน้ ใยของผ้าลินินมีลกั ษณะเป็นรูพรนุ จึงแห้งได้เร็ว และมีคุณสมบตั ิในการดดู ความชืน้ และ
ระบายความร้อนได้ดี อีกทั้งยังสามารถเก็บความอบอุ่นได้ จึงนิยมนำมาใช้สำหรับตัดเป็นเส้ือผ้าหรือ
เครอ่ื งนอนในชว่ งฤดูร้อน

- ผ้าลนิ ินมีคุณสมบตั พิ ิเศษตรงที่ ยิ่งซกั ก็จะยิ่งทำให้มคี วามมันวาว จนดเู หมือนใหม่
- ผ้าลนิ ินมีขอ้ จำกัดในเรื่องความยืดหยุ่น เมือ่ สวมใส่จึงอาจเกิดรอยยบั ได้ง่าย
- ผ้าลินินมีให้เลือกมากมายหลากหลายสีสัน เนื่องจากผลิตขึ้นจากเส้นใยธรรมชาติ จึง
สามารถเก็บสีย้อมได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ และมีเนื้อผ้าให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่แบบเนื้อละเอียดบางเบา
ไปจนถึงเนื้อหยาบหนา จึงเหมาะที่จะนำมาใช้ในการผลิตส่ิงทอที่หลากหลาย เช่น เป็นผ้าปูโต๊ะ
ผ้าเชด็ หนา้ ผ้าเชด็ ตัว ผ้าม่าน และผ้าตัดเส้อื หน้าร้อน เปน็ ต้น
4. ผ้าอ๊อกฟอรด์
ผ้าอ๊อกฟอร์ด คือ ผ้าคอตตอนที่มีการถักทอออกมาเป็นพิเศษด้วยเทคนิคที่มีชื่อว่า Basket
Weave ซึ่งเป็นการสานด้ายเส้นใหญ่เหนือด้ายเส้นเล็กสองเส้น แล้วจึงลอดด้ายเส้นเล็กหนึ่งเส้น โดย
ทำวนสลับไปอย่างน้ีเรือ่ ย ๆ เมื่อนำไปย้อมสี ดา้ ยบางสว่ นของผ้าอ๊อกซฟอรด์ จงึ ไม่ติดสยี ้อมไปด้วย ทำ
ให้เหน็ เปน็ ลวดลายตารางถ่ี ๆ ที่มีความเป็นเอกลกั ษณ์เฉพาะตัว
โดยเนื้อสมั ผัสของผ้าออ๊ กฟอรด์ จะมีความนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว อีกท้ังยังสามารถระบายเหงื่อ
ได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาตัดเป็นเส้ือเชิ้ตที่สามารถสวมใส่ได้ท้ังในรูปแบบสปอร์ตและแบบทางการ

10

โดยเส้อื ทีต่ ดั จากผ้าอ๊อกฟอร์ดนั้น นิยมตัดเยบ็ ให้เข้ารปู พอดตี ัวแบบ Slim fit หรือ Normal fit เนื่องจาก
จะช่วยทำให้ผู้สวมใส่มีรปู ร่างและสรีระที่ดดู มี ากยิง่ ข้ึน
คณุ สมบตั ิของผ้าอ๊อกฟอรด์

- ผ้าอ๊อกฟอร์ดมีคุณสมบัติในการระบายอากาศได้ดี สามารถสวมใส่ได้ง่าย และช่วยให้รู้สึก
สบายขณะสวมใส่ จึงเหมาะสำหรับการสวมใสอ่ ย่างยาวนานตลอดท้ังวนั โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน

- เนื้อผ้าอ๊อกฟอร์ดมีลักษณะหนา และมีน้ำหนักที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้มีความ
ทนทานคอ่ นข้างสงู

- เนอื้ ผ้ามีความนุม่ ไม่ระคายเคืองผิว
- ผ้าอ๊อกฟอร์ดผ่านกระบวนการผลิตและจัดเรียงแบบพิเศษ ทำให้ยับยาก และสามารถรีด
เรียบได้งา่ ย
5. ผ้าทวิล
ผ้าทวิล หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “ผ้าลายสอง” เป็นผ้าที่ถูกถักทอออกมาด้วยเทคนิค
พิเศษ เพื่อให้ได้ผ้าทีม่ ีลักษณะลวดลายทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ของลายเสน้ ทแยงมุมที่ขนานกันไปตลอดทง้ั ผืน
สำหรับการทอผ้าทวิลน้ันจะทอจากเส้นใยฝ้าย เส้นใยลินิน เส้นใยไหม หรือเส้นใยสังเคราะห์ก็ได้ โดย
จะเริม่ ต้นจากการใช้เส้นด้ายด้านบนแบบเส้นเดย่ี วพาดทับกับเส้นดา้ ยด้านล่าง 2 เส้น และทอเล่ือนไป
ในแต่ละแถวเพือ่ ให้เกิดลวดลายทีเ่ ป็นเสน้ ทแยงมุมขนึ้
สำหรับความหนาบางของผ้านั้นจะวัดจากน้ำหนักของผ้า ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามขนาด
ประเภท และจำนวนของเสน้ ดา้ ยที่นำมาใช้ทอผ้าทวิล ในตลาดผ้าบางแหง่ มกั จะมีการเรียกผ้าทวิลทม่ี ี
น้ำหนักมากกว่า 12 ออนซ์ ว่า “Bull Denim” หรือผ้าหนังควาย เพื่อให้ง่ายต่อการแยกประเภทเพื่อการ
นำมาใช้งาน
คณุ สมบัติของผ้าทวิล
- ผ้าทวิลเป็นผ้าที่มีเนื้อสัมผัสนุ่ม แต่มีโครงสร้างของเส้นด้ายที่มีความแข็งแรง คงทน และมี
ลวดลายทีส่ วยงามเปน็ เอกลกั ษณ์
- ผ้าทวิลเหมาะสำหรับการนำมาตัดเย็บเป็นเส้ือเชิ้ตทางการและเส้ือเชิ้ตทำงาน เนื่องจากรีด
ได้ง่าย และเกิดรอยยับได้ยาก มีความยืดหยุ่นที่ค่อนข้างดี อีกท้ังเนื้อผ้ายังช่วยส่งเสริมให้เส้ือเชิ้ตดูมี
ความเงาขึน้ มากกวา่ เนือ้ ผ้าแบบปกติ
- ผ้าทวิลมีระยะเวลาการใช้งานทีย่ าวนานกวา่ ผ้าท่ัวไป
- การทอผ้าด้วยลวดลายเสน้ ทแยงมุมที่เปน็ เอกลักษณ์ ทำให้ผ้าทวิลมีคราบเลอะเปรอะเปื้อน
ฝงั ติดได้ยากกว่าผ้าลายอื่น ๆ

11

6. ผ้า wrinkle-free
Wrinkle-free เป็นนวัตกรรมพิเศษที่ถูกคิดค้นขึ้นมาสำหรับการผลิตผ้าที่สามารถคืนตัวจาก

รอยยับได้ดี โดยผ้า wrinkle-free นั้นถกู ผลิตขึ้นมาจากการผสมผสานระหว่างเสน้ ใยโพลีเอสเตอร์และ
เสน้ ใยคอตตอน ในสัดส่วนคอตตอน 50 % ไปจนถึง 100% และใช้สารเคมีประเภท Ethylene ที่ชว่ ยละ
ความยับจากการสวมใส่ลงไปได้ทั้งนี้ท้ังน้ันก๊ยังขึ้นอยู่กับส่วนผสมของผ้า เพราะผ้าที่มีโพลีเอสเตอร์
ผสมจะช่วยให้ยับน้อยกว่าและลดการยับได้นานกว่าแม้จะผ่านการซักมาหลายสิบครั้งก็ตามและ
สามารถอยู่ทรงได้ตลอดทั้งวัน เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ในระหว่างที่ต้องทำ
กิจกรรมต่าง ๆ ตลอดท้ังวนั

สารเคมีที่ช่วยในการลดการยับตัวสำคัญสำหรับผ้าเชิ้ตที่เป็นค้อตต้อน100% คือ Liquid
Ammonia Dry Cure หรือ Liquid Ammonia Moist cure ซึ่งสามารถให้ DP rate ได้สูงสุดจนถึง 4.00

**DP Rate ย่อมาจาก Durable Press Rate หรือ อัตราการคงรูปของเนื้อผ้าที่ผ่านการะบวน
การทางเคมีให้ไมเ่ กิดรอยยบั ท้ังตอนเปียกและแห้ง ไม่หดตวั คงสถาพอยู่ทรงตลอด
คณุ สมบตั ิของผ้า wrinkle-free

- ผ้า wrinkle-free มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถช่วยซับน้ำ ซับเหงื่อ และยังสามารถระบาย
อากาศได้เปน็ อยา่ งดี จึงทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบาย ไมร่ ้อน

- เนื้อผ้า wrinkle-free มีความคงทนตอ่ รอยยับ สามารถอยู่ทรงดีได้ตลอดท้ังวัน แม้นำไปซัก
ผ้ากส็ ามารถคืนตัวจากรอยยบั ได้อย่างรวดเรว็ ทำให้ง่ายต่อการรีด

- ผ้า wrinkle-free ดูแลรกั ษาได้งา่ ย ไม่ขนึ้ ขยุ ไมเ่ ก่าเรว็
7. ผ้าใยไผ่ Bamboo

คืออีกหนึ่งนวัตกรรมที่นำเอาเส้นใยธรรมชาติจากต้นไผ่ มาถักทอเป็นผืนผ้าคุณภาพระดับ
พรีเมี่ยม ผ้าใยไผ่ (Bamboo Fabrics) มีความนุ่มนวล เบาสบาย และไม่ระคายเคืองต่อผิวแพ้ง่าย
ทีส่ ำคัญราคาไม่แพงและทนทานต่อการใช้งาน ด้วยคุณภาพของเนื้อผ้าที่มีความนุ่มอยา่ งน่าอัศจรรย์
เทียบเท่ากบั ผ้าไหม ผ้าแคชเมียร์หรือแม้แต่อียิปตเ์ ชีย่ นคอตตอน ผ้าใยไผ่ยังมีส่วนช่วยในการลดภาวะ
โลกร้อน ทำให้ผ้าใยไผ่เป็นวัตถุดิบในการผลิตที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอุตสาหกรรม
สง่ิ ทอและเคร่อื งนงุ่ หม่

ประโยชนข์ องหมวกผา้ ดน้ มือ
1. หมวกผ้าผ้าด้นมือสามารถออกแบบให้ทนั ยคุ สมยั และใช้ไดก้ บั ทุกเพศทกุ วัย เป็นสินค้า

ประเภทแฟชนั่ ได้
2. ซักทำความสะอาดได้ พับเก็บไดป้ ระหยัดที่ ใช้งานไดท้ ั้งด้านนอกและด้านใน และสวยด้วย

การสลับสี สลับลาย

12

3. ผลติ ได้จากหลากหลายเนือ้ ผ้า ตามงบประมาณ และจดุ ประสงค์ ทีน่ ำไปใช้
3. สามารถสร้างงานและอาชีพให้ได้ขายหมวกผ้าด้นมือ หรือเปน็ รายไดเ้ สริมให้กับท้องถิ่นได้
เป็นอย่างดี เพราะไมต่ ้องมีเครอ่ื งจกั รขนาดใหญ่
4. สามารถทำหมวกผ้าดน้ มือได้เอง จากการใช้ผ้าที่มอี ย่แู ล้ว มาตดั เย็บและใช้เองได้งา่ ย
5. หมวกผ้าดน้ มือ สามารถแจกเปน็ สินค้าที่ระลกึ เป็นเอกลักษณ์และมปี ระโยชนต์ ่อผู้รบั หรือ
ผู้ซ้ือและนำไปใช้ไดท้ ันที

13

ใบความรทู้ ี่ 2

การทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงบกั เกต็

วสั ดแุ ละอุปกรณ์
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซบั ใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เข็มสอย
6. แผ่นรอง
7. สายวัด
8. ไมบ้ รรทัด
9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกนั กับผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เข็มหมดุ
12. ผ้ากุ๊น

ข้ันตอนการทำและการออกแบบ
1. การเตรียมผ้าชิน้ นอก ชิน้ ใน
2. การคัดลอกแบบลงบนผา้
3. ตัดหมวกสว่ นบนเป็นรปู วงกลม
4. ตดั สว่ นปีกท้ังหมด 4 ชิน้
5. การเยบ็ ปีกหมวกให้ติดกนั
6. นำส่วนบนของหมวกมาประกบสว่ นปีก
7. จากนั้นนำตัวหมวกกับปีกหมวกมาเย็บรมิ และขลิบริมให้เรยี บรอ้ ย

การดูแลรกั ษา
- ควรซกั ด้วยมือไม่ควรซักด้วยเครอ่ื งซักผ้า และไมค่ วรตากในที่แดดแรงเกินไปเพราะจะทำให้

เนอื้ ผ้าซีดเร็ว สามารถยืดอายกุ ารใช้งาน ควรเกบ็ ในถงุ ให้เรยี บรอ้ ยหลังการใช้งาน

14

ใบความร้ทู ี่ 3

การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงปีกกว้าง

วสั ดุและอปุ กรณ์
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซบั ใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เข็มสอย
6. แผน่ รอง
7. สายวัด
8. ไมบ้ รรทดั
9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกันกบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เขม็ หมดุ
12. ผ้ากนุ๊

ขนั้ ตอนการทำและการออกแบบ
1. การเตรียมผ้าชิน้ นอก ชิน้ ใน
2. การคดั ลอกแบบลงบนผา้
3. ตัดชิน้ แผน่ หมวกจำนวน 2 ชนิ้
4. ตัดชิน้ ตัวหมวกจำนวน 6 ชนิ้
5. การเยบ็ ปีกหมวกให้ติดกัน
6. การเย็บตัวหมวกโดยนำชิน้ ที่ 1 และชนิ้ ที่ 2 ติดกัน ผ้าดา้ นถกู ชนผ้าดา้ นถกู
7. นำชิน้ ที่ ประกบชิน้ ที่ 2 แล้วเย็บ จนครบ 6 ชนิ้
8. จากนั้นนำตวั หมวกกบั ปีกหมวกมาเย็บรมิ และขลิบริมให้เรยี บรอ้ ย

การดูแลรกั ษา
- ควรซักด้วยมือไม่ควรซกั ด้วยเครอ่ื งซกั ผ้า และไม่ควรตากในที่แดดแรงเกินไปเพราะจะทำให้

เนอื้ ผ้าซีดเร็ว สามารถยืดอายกุ ารใช้งาน ควรเก็บในถุงให้เรยี บรอ้ ยหลังการใช้งาน

15

ใบความรู้ที่ 4

การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงทิวลิป

วสั ดุและอุปกรณ์
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซบั ใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เขม็ สอย
6. แผน่ รอง
7. สายวัด
8. ไมบ้ รรทดั
9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกันกบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เข็มหมดุ
12. ผ้ากุ๊น

ขัน้ ตอนการทำและการออกแบบ
1. การเตรียมผ้าชิน้ นอก ชิน้ ใน
2. การคดั ลอกแบบลงบนผา้
3. ตัดผา้ ชิน้ นอก 6 ชั้น ชิน้ ใน 6 ชนิ้
4. นำผ้าชิน้ ในมาเยบ็ ติดกนั ท้ัง 6 ช้ัน
5. นำผ้าชิน้ นอกมาเยบ็ ตดิ กนั ทั้ง 6 ชั้น
6. น้ำชิน้ นอกมาประกบชิน้ ในดา้ นถกู ประกบด้านถกู
7. จากน้ันเก็บริมและขลิบริมให้ปลายหมวกให้สวยงาม

การดูแลรักษา
- ควรซกั ด้วยมือไม่ควรซักด้วยเคร่อื งซกั ผ้า และไมค่ วรตากในทีแ่ ดดแรงเกินไปเพราะจะทำให้

เนือ้ ผ้าซีดเร็ว สามารถยืดอายุการใช้งาน ควรเก็บในถงุ ให้เรยี บรอ้ ยหลังการใช้งาน

16

ใบความรู้ที่ 5

การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงหมวกแก๊ป

วัสดุและอปุ กรณ์
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซับใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เขม็ สอย
6. แผน่ รอง
7. สายวดั
8. ไมบ้ รรทดั
9. ดา้ ยเยบ็ สเี ดยี วกนั กบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เขม็ หมดุ
12. ผ้าก๊นุ

ขัน้ ตอนการทำและการออกแบบ
1. การเตรียมผ้าชิน้ นอก ชิน้ ใน
2. การคัดลอกแบบลงบนผา้
3. ตัดผา้ ชิน้ นอก 6 ชั้น ชิน้ ใน 6 ชนิ้ และสว่ นของปีกหมวกด้านหน้า
4. นำผ้าชิน้ ในมาเย็บติดกันทั้ง 6 ช้ัน
5. นำผ้าชิน้ นอกมาเย็บตดิ กันทั้ง 6 ช้ัน
6. นำชิน้ นอกมาประกบชิน้ ในดา้ นถูกประกบด้านถูก
7. นำตัวหมวกและปีกหมวกด้านหน้ามาประกบกนั
8. จากน้ันเกบ็ ริมและขลิบริมของตัวหมวกให้สวยงาม

การดูแลรกั ษา
- ควรซกั ด้วยมือไม่ควรซักด้วยเคร่อื งซกั ผ้า และไม่ควรตากในทีแ่ ดดแรงเกินไปเพราะจะทำให้

เนือ้ ผ้าซีดเรว็ สามารถยืดอายุการใช้งาน ควรเก็บในถุงให้เรยี บรอ้ ยหลงั การใช้งาน

17

ใบความรูท้ ี่ 6

การทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟักทอง

วัสดุและอุปกรณ์
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซับใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เขม็ สอย
6. แผ่นรอง
7. สายวัด
8. ไมบ้ รรทดั
9. ดา้ ยเยบ็ สเี ดยี วกนั กบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เข็มหมุด
12. ผ้ากุ๊น

ขนั้ ตอนการทำและการออกแบบ
1. การเตรียมผ้าชิน้ นอก ชิน้ ใน
2. การคดั ลอกแบบลงบนผา้
3. ตัดผา้ ชิน้ นอก 6 ช้ัน ชั้นใน 6 ชนิ้ ปีกหมวกด้านหน้า 1ชน้ั
4. นำผ้าชิน้ ในมาเยบ็ ติดกนั ทั้ง 6 ช้ัน
5. นำผ้าชิน้ นอกมาเยบ็ ตดิ กันทั้ง 6 ช้ัน
6. นำชิน้ นอกมาประกบชิน้ ในดา้ นถูกประกบด้านถูก
7. นำตวั หมวกมาประกบกับปีกหมวก
8. จากน้ันเกบ็ ริมและขลิบริมให้ปลายหมวกให้สวยงาม

การดแู ลรักษา
- ควรซกั ด้วยมือไมค่ วรซักด้วยเครอ่ื งซักผ้า และไม่ควรตากในที่แดดแรงเกินไปเพราะจะทำให้

เนือ้ ผ้าซีดเรว็ สามารถยืดอายกุ ารใช้งาน ควรเก็บในถุงให้เรยี บรอ้ ยหลังการใช้งาน

18

ใบความรู้ที่ 7

การบรหิ ารจัดการและการตลาด

การวางแผนการผลิต

ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนนิ ธรุ กิจการพฒั นาผลิตภณั ฑ์จากหมวกผ้าด้นมือ จะต้องคำนงึ ถึงสิง่ ตอ่ ไปนี้ คือ
1. ทุน ถ้าไม่มีทุนเป็นของตนเองต้องอาศัยแหล่งเงินกู้ จะต้องพิจารณาว่าแหล่งเงินกู้นั้นมา

จากไหน ถ้ากู้จากเอกชนก็ต้องเสียดอกเบี้ยแพงกว่าสถาบันการเงิน ถ้าเสยี ดอกเบี้ยแพงจะคุ้มกับการ
ลงทุนหรือไม่

2. แรงงาน ถ้าสามารถใช้แรงงานในครอบครัวได้ก็จะสามารถลดรายจา่ ยลงได้
3. วัตถดุ ิบ สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่นหรือไม่ หากไม่มีท้องถิ่นจะมีปัญหาเรื่องราคาและการ
ขนส่งหรือไม่
4. การจัดการ หมายถึง การจัดการด้านตลาด การจัดจำหน่ายก่อนอื่นต้องคำนึงถึง
กลุ่มเป้าหมายที่จะนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายการกำหนดราคาขาย ราคาต้นทุน กำไรและการลงบัญชี
เบื้องต้น สง่ิ เหลา่ นีจ้ ำเปน็ อย่างยิ่งในการประกอบธรุ กิจ

การวางแผนการจำหนา่ ย
1. ประเภทของการจัดจำหนา่ ย มี 2 แบบ คือ
1.1. การจำหน่ายแบบสั้น คือ การนำสินค้าจากผู้ผลิตสู่ร้านค้าปลีก หรือร้านค้าย่อยถึงผู้ซื้อ

หรือผู้บรโิ ภคโดยตรง
1.2. การจัดจำหนา่ ยแบบยาว คือ การนำสนิ ค้าจากผู้ผลิต (บ้าน) ถึงร้านค้าขายสง่ แลว้ รา้ นค้า

ขายส่งจำหน่ายต่อไปยังร้านค้าขายปลีก ร้านค้าขายปลีกจำหน่ายต่อไปยังผู้บริโภค สรุป การทำให้
สนิ ค้าทีผ่ ลิตขนึ้ สามารถขายได้จำนวนมาก มีวิธดี ำเนนิ การได้หลายรปู แบบ คือ

1. จากผู้ผลิต ถึง ร้านขายส่ง ถึง ร้านขายปลกี ถึง ผู้ซ้ือหรือผู้บรโิ ภค
2. จากผู้ผลิต ผ่าน นายหน้า ถึง ร้านค้าปลกี ถึง ลกู ค้า
3. จากผู้ผลิต ผ่าน นายหน้า ลูกค้า (ผู้บริโภค) โดยตรง โดยระบบการขายฝากและ
สร้างภาพพจน์ของสินค้า จูงใจผู้ซื้อด้วยวิธีการต่าง ๆ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีวิธีการส่งเสริมการ
จำหนา่ ยที่ได้ผลอีก 2 ประการ คือ
1. การให้ข้อมูลจงู ใจผู้ซ้ือและภาพพจน์ของสินค้าทีผ่ ู้ซอื้ ต้องการ
2. ภาพพจนข์ องสินค้าทีผ่ ู้ซอื้ ต้องการ และพอใจทำให้สนิ ค้านนั้ มีค่าและมรี าคา
ในตวั เองมากกว่า

19

การกำหนดราคาขาย
เมื่อทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากหมวกผ้าด้นมือ ขึ้นมาเพื่อการจำหน่าย ส่ิงแรกที่ต้องทำคือ

การกำหนดราคาขายทีผ่ ู้ซื้อสามารถซื้อไดใ้ นราคาไม่แพงจนเกินไปและผู้ขายก็พอใจที่จะขายเพราะได้
กำไรตามที่ต้องการการกำหนดราคาขายทำได้ดังนี้

1. ติดตามความต้องการของลกู ค้า ลกู ค้าเป็นผกู้ ำหนดราคาขาย ถ้าลกู ค้ามีความตอ้ งการและ
สนใจมากก็จะสามารถตั้งราคาได้สงู

2. ต้ังราคาขายโดยบวกราคาตน้ ทุนกับกำไรที่ต้องการก็จะเป็นราคาขาย ในกรณีเชน่ นจี้ ะต้องรู้
ราคาตน้ ทนุ มาก่อนจงึ จะสามารถบวกกำไรลงไปได้ การตั้งราคาขายนี้ จะมีผลต่อปรมิ าณการขาย ถ้า
ตง้ั ราคาขายไม่แพง หรือตำ่ กว่าราคาตลาดก็สามารถขายได้จำนวนมาก ผลทีไ่ ด้รบั คือ ได้กำไรเพิม่ มาก
ขนึ้ ดว้ ยการกำหนด ราคาขายมีหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่สำคัญคอื ต้องคำนงึ ถึงราคาที่สูงทีส่ ุดที่ผู้ซ้ือ
สามารถซ้ือได้และราคาตำ่ สดุ ทจ่ี ะได้เงินทุนคืน
หลกั เกณฑใ์ นการกำหนดราคาขาย มีดังน้ี

1. ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย
2. เพือ่ รักษาเสถียรภาพดา้ นราคาไมถ่ ูกหรือแพงจนเกินไป
3. เพื่อรกั ษาหรือปรบั ปรงุ ส่วนแบง่ ของการตลาด กล่าวคือ ตั้งราคาขายสง่ ถูกกว่าราคา
ขายปลกี เพือ่ ให้ผู้รับซือ้ ไปจำหนา่ ยปลกี จะได้บวกกำไรได้ด้วย
4. เพือ่ แข่งขนั หรือป้องกันคู่แขง่ ขันหรือผู้ผลติ รายอืน่
5. เพือ่ ผลกำไรสงู สดุ
การกำหนดราคาขาย มีหลกั สำคญั คือ ราคาต้นทนุ + กำไรที่ต้องการ ดงั นั้น จึงจำเปน็ ต้องศึกษา
เรื่องราวการคิดราคาตน้ ทนุ ให้เข้าใจก่อน

การคิดราคาต้นทุน
การคิดราคาตน้ ทนุ หมายถึง การคิดคำนวณราคาวตั ถดุ ิบทีใ่ ช้ในการผลิต มีคา่ แรงคา่ ใช้จ่าย

ในการผลติ ประกอบดว้ ย คา่ เช่าสถานท่ี ค่าไฟฟ้า คา่ ขนสง่ ฯลฯ การคิดราคาตน้ ทุนมปี ระโยชน์ คือ
1) สามารถต้ังราคาขายได้โดยรู้วา่ จะได้กำไรเท่าไร
2) สามารถรู้วา่ รายการใดที่กอ่ ให้เกิดต้นทนุ สูง หากต้องการกำไรมากก็สามารถลดต้นทนุ

น้ัน ๆ ลงได้
3) รู้ถงึ การลดต้นทุนในการผลติ แล้วนำไปปรับปรงุ และวางแผนการผลิตเพิม่ ข้นึ ได้

20

ต้นทุนการผลิตมี 2 อยา่ ง คือ
1. ต้นทนุ ทางตรง หมายถึง ต้นทุนในการซอื้ วัตถุดิบรวมท้ังค่าขนส่ง
2. ต้นทุนทางอ้อม หมายถึง ต้นทนุ ทีจ่ า่ ยเป็นคา่ บริการต่าง ๆ เช่น ค่าแรงงาน คา่ ไฟฟ้า
ค่าเชอื้ เพลงิ ท้ังนี้ ให้คิดเฉพาะสว่ นที่เกี่ยวกบั การผลติ โดยตรง แล้วนำต้นทุนท้ังสองอย่างมาคิดรวมกัน
กจ็ ะได้เปน็ ราคาตน้ ทุนรวม
การกำหนดราคาขาย จะต้องคำนงึ ถึง
1. ต้นทนุ ทางตรง + ต้นทุนทางอ้อม คือ ต้นทนุ รวม
2. การหากำไรทีเ่ หมาะสม ทำได้โดยเพิ่มต้นทุนรวมขึ้นอีก 20-30%
ตวั อยา่ ง ต้นทนุ รวมในการทำดอกไมจ้ ากกระดาษสา 500 บาท

บวกกำไร 30% ของ 500 จะได้ = 150 บาท
ฉะน้ัน ราคาขาย คือ ต้นทุน + กำไร
คือ 500 + 150 เทา่ กบั 650 บาท
โดยท่ัวไปร้านค้าปลีกจะกำหนดราคาขาย โดยการบวกกำไรที่ต้องการเข้ากบั ราคาต้นทนุ การ
ผลติ สนิ ค้านนั้ ๆ แต่บางรายกก็ ำหนดราคาสูง สำหรับการผลิตระยะเริ่มแรก เพราะความต้องการของ
ตลาดค่อนข้างสูงในระยะเวลาอันสั้น การเปล่ียนแปลงราคาขายอาจมีผลให้ยอดลดหรือเพิ่มขึ้น
แล้วแตภ่ าวะแวดล้อม จึงต้องคำนงึ ถึงเชน่ เดยี วกัน ดงั น้ัน จึงสามารถคิดราคาขายได้ง่าย ๆ ดังนี้
ราคาขาย = ราคาทุน (ต้นทนุ + ค่าแรง) + กำไรทีต่ ้องการ

การทำบญั ชีรายรับ – รายจา่ ย
หมายถึง การจดบันทึกรายการข้อมูลด้านการเงินของการปฏิบัติงาน ท้ังที่เกี่ยวกับรายการที่

รับเข้ามาและรายการที่ต้องจ่ายออกไป เพื่อให้มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องทางด้านการเงิน ตลอดจนผลของ
การดำเนินงานนั้นไว้ว่าคงเหลือเงินหรือไม่ จำนวนเท่าไร และเปรียบเทียบผลการดำเนินกิจการว่าได้
กำไร หรือขาดทนุ เพียงไร

ประโยชนข์ องการทำบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย
1. ทำให้ทราบฐานะทางการเงินในการปฏิบตั งิ าน
2. ใช้ประกอบการวางแผนในการทำงานหรอื ในการใช้จ่ายเงิน
3. ใช้ในการติดตามการทำงานด้านต่าง ๆ
4. ทำให้ทราบปญั หาในการทำงานและแก้ไขทัน
5. ใช้รายงานผลการดำเนนิ งาน
6. ใช้เปน็ ข้อมูลรายจา่ ยปรบั ลดคา่ ใช้จ่ายเพื่อให้เหลอื เงินหรือได้กำไรเพิม่ ข้นึ
7. นำวิธกี ารจัดทำบญั ชีไปใช้ในชีวิตประจำวัน

21

หลกั การจดั ทำบญั ชีรายรับ-รายจ่าย มีดงั น้ี
1. รายรับ เปน็ ข้อมลู ทั้งหมดทีไ่ ดร้ บั เงินเข้ามา เชน่ คา่ หุ้น เงินกู้ ค่าขายของ ค่าขายผลผลิต
2. รายจ่าย เปน็ ข้อมูลราจา่ ยทั้งหมดในการประกอบกิจการ เช่น ค่าขนส่ง ค่าซอื้ วตั ถุดิบ คา่ จ้าง

แรงงาน
3. เงินคงเหลอื ได้ ผลต่างระหว่างรายรบั กบั รายจ่ายท้ังหมด

การค้าออนไลน์
E-Commerce คือ การประยุกต์ส่ืออินเตอร์เน็ตมาใช้ในการดำเนินธุรกิจการค้า หรือเรียกว่า

พาณิชย์อิเลก็ ทรอนิกส์ ที่นิยมกันมาก ณ ปจั จุบันคือ การซื้อขายสนิ ค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต การหันมา
ใช้เว็บส่ือกลางทางการค้ามากยิ่งขึ้น เป็นส่ือกลางในการรวบรวมสินค้าและผู้ซื้อผู้ขายไว้ในเว็บไซต์
เดยี ว เพือ่ อำนวยความสะดวกในการติดตอ่ ซื้อ-ขาย ทำให้การค้นหาข้อมลู เป็นเรื่องที่ง่ายและสามารถ
จำกัดขอบเขตข้อมูลให้ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น ตามการจัดกลุ่มสินค้าของผู้ให้บริการ
แหลง่ ข้อมลู ออนไลนน์ ้ัน ๆ

E-Commerce จึงเป็นเสมือนส่ือกลางในการโฆษณาและเชื่อมโยงข้อมูล หรือความต้องการของ
ผู้ใช้งาน ไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายโดยตรง พร้อมทั้งสามารตอบสนองต่อความต้องการของ
ตลาด ยน่ เวลาในการนำสนิ ค้าเข้าสตู่ ลาด ทำให้สามารถขยายตลาดได้อย่างรวดเรว็ ทวีคูณ

ประโยชน์ของ E-commerce
1. เพ่ิมโอกาสทางการตลาด

ขยายโอกาสในการเข้าถึงตลาด เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายมากยิ่งขึ้นสนองความต้องการ
ของตลาด และขยายตลาดได้อย่างรวดเร็วนำเทคโนโลยีมาใช้ สร้างผลกำไรแก่องค์กร ตามทันส่ือ
การตลาดยุคใหม่เพิ่มโอกาสโลกตลาดออนไลน์ รู้ทนั พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน สามารถเก็บข้อมูล
ลูกค้าเพื่อการทำการตลาดทางตรง สร้างการรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว ย่นระยะเวลาการนำสินค้าเข้าสู่
ตลาดเปิดบริการตลอด 24 ช่ัวโมง 7 วัน สะดวกในการค้นหาข้อมูล และติดต่อซื้อ - ขายนำเสนอ
ข้อมูลสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถส่ือสารกับลูกค้า ได้ในลักษณะ Interactive Market

22

(การตลาดเชิงตอบโต้)เพิ่มโอกาสทางการตลาดในการบริหารข้อมูลลูกค้าจากระบบอิเล็กทรอนิกส์
ปรับปรงุ หรือ Update ข้อมูลเกีย่ วกับสนิ ค้าและบริการได้ตลอดเวลา
2. ลดต้นทุนในการจัดซื้อ

ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อท้ังทางตรงและทางอ้อม ไม่ว่าจะเป็นราคาสินค้า ตลอดจน
ค่าใช้จ่ายในกระบวนการซื้อที่ลดลงสามารถควบคุมข้ันตอนการจัดซื้อจัดจ้างได้ ข้ันตอนไม่ซับซ้อน
สะดวกและรวดเร็วขึ้นสามารถเลือก ผู้ผลิต/ผู้จำหน่ายสินค้าและบริการได้อย่างหลากหลาย
ประหยดั เวลาในการเปรยี บเทียบสนิ ค้าและผู้ขายเป็นผลให้ได้สนิ ค้าคุณภาพดี และราคาเป็นทีน่ า่ พอใจ
ตรงกบั ความต้องการที่สุด
3. สนับสนุนการซื้อ - ขาย

มีระบบค้นหาสินค้าจาก “คำค้นหาสนิ ค้า” และช่องทางการเข้าถึงข้อมูลทาง“สารบัญข้อมูล”
แบง่ ออกเป็นหมวดหมแู่ ละประเภทอย่างชัดเจน เพื่อความสะดวกในการค้นหาเลอื กดูสนิ ค้า หรือบริษัท
ได้ตามความต้องการระบบผู้ติดต่อ และระบบข้อความทางหน้าเว็บไซต์ เพิ่มความสะดวกรวดเร็วใน
การติดตอ่ สอ่ื สารระหว่างกนั สง่ เสริมการเข้าถงึ ข้อมลู ของผู้เข้าชมเวบ็ ไซต์จำนวนมาก สามารถมองเห็น
สนิ ค้าและบริษัทของคณุ ไดอ้ ย่างง่ายดาย ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการ
ซอื้ - ขายแบบเดิม เนื่องจากต้นทุนการจัดซื้อและจัดจำหน่ายต่ำกว่าทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงและ
กำไรจากการขายตอ่ หน่วยเพิม่ ข้ึน
4. ส่งเสริมการขายการโฆษณาและประชาสัมพันธ์

ลดต้นทุนการสง่ เสริมการตลาด โฆษณาและประชาสมั พันธ์ เช่น ลดต้นทนุ การโฆษณาผา่ นสื่อ
ปกติอื่น ๆ ลดต้นทุนการจัดกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งสามารถใช้ส่ืออิเล็กทรอนิกส์บริหารจัดการได้
สร้างภาพลักษณ์ทีด่ ีให้กบั ธรุ กิจหรือองคก์ ร ในเรื่องของความทันสมัย และเป็นโอกาสทีจ่ ะทำให้สนิ ค้า
หรือบริการเป็นทีร่ ู้จกั อยา่ งรวดเรว็ ในวงกว้าง
5. ลดการใช้ทรัพยากร

ลดเวลาในการหาข้อมูลสินค้าหรือผู้ขาย และย่นเวลาในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดลดข้ันตอน
ทางการตลาดลดพลงั งานในการเดนิ ทางลดการใช้ทรพั ยากรดา้ นองคป์ ระกอบทางธุรกิจ เชน่ พืน้ ทีก่ าร
ขาย อาคารประกอบการ ทำเลท่ีต้ัง โกดังเก็บสินค้า เป็นต้นลดต้นทุนด้านช่องทางจำหน่ายในรปู แบบ
ร้านค้า, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมทั้งค่าเช่าพื้นที่ขายหรือการลงทุนในการสร้างร้าน ซึ่งจะ
ช่วยให้ต้นทนุ ของธุรกิจต่ำลง

Credit : คณุ สุดารตั น์ เพง็ ขนุ ทด
Credit : http://about.b2bthai.com/ArticleInfo.aspx?ArticleTypeID=78&ArticleID=74

23

ใบความรทู้ ี่ 8

คุณธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ

ความสำคญั ของคณุ ธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ

จริยธรรมเป็นมาตรฐานความประพฤติของมนษุ ยจ์ ะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง
จรรยาคือความประพฤติ และธรรม คือเครื่องรักษาความประพฤติ การประกอบอาชีพใด ๆ ก็ตามผู้
ประกอบอาชีพจะต้องคำนึกถึงผลกระทบต่อสังคมภายนอกเสมอ ท้ังนี้ก็คือจะต้องไม่ใช้ความรู้
ความสามารถในทางที่ผิด หากประกอบอาชีพโดยไร้จริยธรรมผลเสียหายจะตกอยู่กับสังคมและ
ประเทศชาติฉะน้ันจริยธรรมจึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งที่จะลดปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ความสำคัญ
ของจริยธรรมในการประกอบอาชีพ มีดงั นี้

1. ชว่ ยให้ผู้ประกอบอาชีพแตล่ ะสาขาได้ใช้วิชาชีพในทางที่ถูกต้องเหมาะสม และเป็นประโยชน์
ต่อสังคมและประเทศชาติ

2. ช่วยควบคุมและส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความสำนึก
ในหน้าที่และมีความรับผิดชอบในงานของตน

3. ชว่ ยสง่ เสริมและควบคุมการผลติ และการปฏิบัตงิ านให้มีคุณภาพเปน็ ทีเ่ ชือ่ ถอื และไว้วางใจ
ได้ในเรื่องของความปลอดภัยและการบรกิ ารทีด่ ี

4. ช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพไม่เอารดั เอาเปรียบผู้บริโภค และไม่เห็นแก่ตัว ท้ังนี้ต้องยึด
หลักโดยคำนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดแก่ผู้บรโิ ภคเสมอ

5. ช่วยให้วงการธุรกิจของผู้ประกอบอาชีพมีความซื่อสัตย์ ยุติธรรม และมีความเอื้อเฟื้อต่อ
สังคมส่วนรวมมากขนึ้

หลกั ในการยึดถอื ปฏิบัตขิ องผู้ประกอบอาชีพทั่วไปพึงกระทำเพือ่ ความเจริญก้าวหน้าในอาชีพ
ของตน และร่วมรบั ผิดชอบในสังคม ควรมีดงั นี้

1. ความซื่อสตั ยส์ ุจริต และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
2. การมีจริยธรรมตอ่ ส่งิ แวดล้อม
3. ความนา่ เชอ่ื ถอื และความปลอดภัยในบรกิ าร
4. การมีจรรยาอาชีพและดำเนนิ กิจการอย่างมีคุณภาพ
5. การสร้างสมั พนั ธภาพทีด่ ีตอ่ ลกู ค้า
6. การเคารพสทิ ธิและรกั ษาผลประโยชน์ของผู้อื่น
7. การใช้จริยธรรมในการติดต่อส่อื สาร
8. การสร้างสัมพนั ธภาพกบั ชุมชน
9. การสร้างวินยั ในการประกอบอาชีพ

24

10. การดำเนนิ งานอยา่ งถูกต้องตามกฎหมาย
11. การให้แหล่งข้อมูลขา่ วสารอยา่ งถูกต้อง
12. การประกอบอาชีพดว้ ยความขยนั หมั่นเพียร

ผปู้ ระกอบการจะตอ้ งมีคณุ ธรรมประจำใจที่สำคญั 7 ประการ

1. ซือ่ สตั ยส์ จุ ริต
2. ขยนั หมัน่ เพียร
3. มีความรับผิดชอบ
4. มีความละเอียดรอบคอบ
5. ตัดสินใจอยา่ งฉลาดและมีเหตผุ ล
6. ตรงตอ่ เวลา
7. เหน็ แก่ประโยชน์สว่ นรวม

ผทู้ ี่มีคุณลักษณะที่ดีเหมาะสมกับการประกอบอาชีพ ต้องมีจริยธรรมดงั น้ี
1. ทำงานเตม็ ความรู้ความสามารถและอทุ ิศเวลาให้กับงาน
2. ไม่แก่งแยง่ ชงิ ดีชิงเดน่
3. ไม่คดโกงเอาเปรยี บเพื่อนร่วมงานและผู้บรโิ ภค
4. ไม่หลอกลวงโดยการโฆษณาชวนเช่อื
5. เลอื กประกอบอาชีพทีไ่ ม่ขัดกบั กฎหมายและศีลธรรม
6. เสยี ภาษีอากร ภาษีเงินได้จากการประกอบอาชีพตามความเป็นจริง

25

ใบงานที่ 1

เร่อื ง ความรทู้ ว่ั ไปเกี่ยวกบั การทำหมวกผา้ ดน้ มือ

จงตอบคำถามต่อไปน้ี
1. จงบอกความเป็นมาของหมวกผ้าดันมือ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………......……………………………………………
………………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
……………………………………………………………………………...…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………...…………………………………………………………………………………………………
2. ให้อธิบายประเภทของผ้าที่ใช้ทำหมวกผา้ ดน้ มือ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………......……………………………………………
………………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
……………………………………………………………………………...…………………………………………………………………………………
……………………………………………………………...…………………………………………………………………………………………………
……………………………………………...…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………......……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จงบอกประโยชนข์ องหมวกผ้าด้นมือ
………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………………
……………………………………………………………………………………………...…………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………...………………………………………………………………
……………………………………………………………………………...…………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………...………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………...………………………………………………
……………………………………………………………………………………………...…………………………………………………………………

26

ใบงานที่ 2

เรอ่ื ง การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงบกั เก็ต

คำชีแ้ จง ให้ผู้เรยี นศกึ ษาการทำหมวกผ้าดน้ มือทรงบกั เกต็ ต่อไปนี้

1. ศึกษาใบความรู้เร่อื งการทำหมวกผ้าด้นมือทรงบักเกต็
2. ศึกษาการทำหมวกผ้าด้นมือ จากภูมิปัญญาท้องถิ่น

2.1 นางจินดา ฟูแสง บ้านเลขที่ 128 หมทู่ ี่ 7 ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้
จังหวัดพะเยา

3. ให้ผู้เรยี นเตรียมวสั ดุ อปุ กรณใ์ นการทำหมวกผ้าด้นมือทรงบกั เกต็ ดงั นี้
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซบั ใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เข็มสอย
6. แผน่ รอง
7. สายวดั
8. ไมบ้ รรทดั
9. ดา้ ยเยบ็ สเี ดยี วกนั กบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เข็มหมุด
12. ผ้ากุ๊น

4. ให้ผู้เรยี นทำหมวกผ้าด้นมือทรงบักเกต็ ตามข้ันตอนในใบความรู้

27

ใบงานที่ 3

เรอ่ื ง การทำหมวกผา้ ด้นมือทรงปีกกวา้ ง

คำชีแ้ จง ใหผ้ ้เู รยี นศกึ ษาการทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงปีกกว้าง ต่อไปนี้

1. ศึกษาใบความรู้เร่อื งการทำหมวกผ้าด้นมือทรงปีกกว้าง
2. ศึกษาการทำหมวกผ้าด้นมือ จากภมู ิปัญญาท้องถิ่น

2.1 นางจินดา ฟูแสง บ้านเลขที่ 128 หมทู่ ี่ 7 ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้
จงั หวดั พะเยา

3. ให้ผู้เรยี นเตรียมวัสดุ อปุ กรณใ์ นการทำหมวกผ้าด้นมือทรงปีกกว้าง ดังนี้
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซับใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เขม็ สอย
6. แผ่นรอง
7. สายวดั
8. ไมบ้ รรทดั
9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกนั กบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เข็มหมุด
12. ผ้าก๊นุ

4. ให้ผู้เรยี นทำหมวกผ้าด้นมือทรงปีกกว้าง ตามขั้นตอนในใบความรู้

28

ใบงานที่ 4

เรอ่ื ง การทำหมวกผ้าด้นมือทรงทิวลิป

คำชี้แจง ให้ผเู้ รยี นศกึ ษาการทำหมวกผ้าดน้ มือทรงทิวลิป ต่อไปนี้

1. ศึกษาใบความรู้เร่อื งการทำหมวกผ้าด้นมือทรงทิวลปิ
2. ศึกษาการทำหมวกผ้าด้นมือ จากภมู ิปัญญาท้องถิน่

2.1 นางจินดา ฟูแสง บ้านเลขที่ 128 หมทู่ ี่ 7 ตำบลสวา่ งอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้
จังหวัดพะเยา

3. ให้ผู้เรยี นเตรียมวัสดุ อปุ กรณใ์ นการทำหมวกผ้าด้นมือทรงทิวลิป ดงั นี้
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรับทำซบั ใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เขม็ สอย
6. แผ่นรอง
7. สายวัด
8. ไมบ้ รรทัด
9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกนั กบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เขม็ หมุด
12. ผ้ากุ๊น

4. ให้ผู้เรยี นทำหมวกผ้าด้นมือทรงทิวลิป ตามขั้นตอนในใบความรู้

29

ใบงานที่ 5

เร่อื ง การทำหมวกผา้ ด้นมือทรงหมวกแก๊ป

คำชี้แจง ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาการทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงหมวกแก๊ป ต่อไปนี้

1. ศึกษาใบความรู้เร่อื งการทำหมวกผ้าด้นมือทรงหมวกแกป๊
2. ศึกษาการทำหมวกผ้าด้นมือ จากภูมิปัญญาท้องถิ่น

2.1 นางจินดา ฟูแสง บ้านเลขที่ 128 หมู่ที่ 7 ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้
จงั หวัดพะเยา

3. ให้ผู้เรยี นเตรียมวสั ดุ อปุ กรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือทรงหมวกแก๊ป ดงั นี้
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซับใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เขม็ สอย
6. แผ่นรอง
7. สายวดั
8. ไมบ้ รรทัด
9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกนั กบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เขม็ หมุด
12. ผ้ากุ๊น

4. ให้ผู้เรยี นทำหมวกผ้าด้นมือทรงหมวกแกป๊ ข้ันตอนในใบความรู้

30

ใบงานที่ 6

เรอ่ื ง การทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟักทอง

คำชีแ้ จง ใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษาการทำหมวกผา้ ดน้ มือทรงฟกั ทอง ตอ่ ไปนี้

1. ศึกษาใบความรู้เร่อื งการทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟักทอง
2. ศึกษาการทำหมวกผ้าด้นมือ จากภูมิปญั ญาท้องถิ่น

2.1 นางจินดา ฟูแสง บ้านเลขที่ 128 หมทู่ ี่ 7 ตำบลสว่างอารมณ์ อำเภอดอกคำใต้
จงั หวัดพะเยา

3. ให้ผู้เรยี นเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟักทอง ดงั นี้
1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส
2. ผ้าสำหรบั ทำซับใน
3. ใยโพลี ความหนา 250 g
4. ปากกาเขียนผ้า
5. เขม็ สอย
6. แผ่นรอง
7. สายวัด
8. ไมบ้ รรทดั
9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกนั กบั ผ้า
10. ดา้ ยเนา
11. เขม็ หมุด
12. ผ้ากุ๊น

4. ให้ผู้เรยี นทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟักทอง ข้ันตอนในใบความรู้

31

ใบงานที่ 7

เรอ่ื ง การบรหิ ารจัดการและการตลาด

จงตอบคำถามต่อไปน้ี

1. จงบอกความหมายของการวางแผนการผลติ
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
2. จงบอกประเภทของการจัดจำหนา่ ย
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
3. จงบอกประโยชน์ของการทำบญั ชีรายรับ–รายจา่ ย
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
4. จงบอกความหมายของการค้าออนไลน์
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
5. จงบอกประโยชนข์ อง E – Commerce
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

32

ใบงานที่ 8

เร่อื ง คุณธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ

จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ี

1. ความสำคัญของคณุ ธรรม จริยธรรม ในการประกอบอาชีพ
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

2. คณุ ธรรมสำหรบั ผู้ประกอบการ 7 ประการ คือ
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

แผนการจัดการเรียนรู้ 33
แบบ กศ.ตน.12

วิทยากร.............................................................................................................................................
หลักสตู ร.....การทำหมวกผา้ ดน้ มือ.....จำนวน ...35...ช่วั โมง (เรียนวนั ละ...............................ชว่ั โมง)
ระหว่างวันที่................................................................................เวลาเรียน ................................. น.
สถานทจ่ี ดั การเรียน............................................................................................................................

วนั /เดอื น/ปี เวลา กระบวนการจัดการเรียนรู้ หมายเหตุ

1. วิทยากรบรรยายถึงความเป็นมาและความสำคัญของ 5 ช่ัวโมง

หมวกผ้าด้นมือ และประเภทของผ้า ให้ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติม

จากใบความรู้

2. วิทยากรบรรยายถึงประโยชน์ของหมวกผ้าด้นมือ และให้

ผู้เรยี นศึกษาเพิม่ เตมิ จากใบความรู้

3. วิทยากรบรรยายถึงการทำหมวกผ้าด้นมือ

- การทำหมวกผ้าด้นมือทรงปีกกว้าง

- การทำหมวกผ้าด้นมือทรงบักเกต็

- การทำหมวกผ้าด้นมือทรงทิวลิป

- การทำหมวกผ้าด้นมือทรงหมวกแก็ป

- การทำหมวกผ้าดน้ มือทรงฟกั ทอง

4. วิทยากรบรรยายถึงการเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ใน

การทำหมวกผ้าด้นมือ พร้อมท้ังแสดงตัวอย่างของวสั ดุและ

อุปกรณ์

5. วิทยากรให้ผู้เรยี นเตรียมวัสดแุ ละอุปกรณ์ในการทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงบักเก็ต ดงั นี้

1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส 2. ผ้าสำหรบั ทำซับใน

3. ใยโพลี ความหนา 250 g 4. ปากกาเขยี นผ้า

5. เขม็ สอย 6. แผน่ รอง

7. สายวัด 8. ไมบ้ รรทัด

9. ดา้ ยเยบ็ สเี ดยี วกันกบั ผ้า 10. ดา้ ยเนา

11. เข็มหมดุ 12. ผ้ากนุ๊

34

วัน /เดอื น/ปี เวลา กระบวนการจดั การเรียนรู้ หมายเหตุ

7. วิทยากรสาธติ ข้ันตอนการทำหมวกผ้าด้นมือทรงบกั เก็ต

และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามใบความรู้ที่ 2 เรื่อง การทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงบักเก็ต

1. การเตรียมผ้าชนิ้ นอก ชนิ้ ใน

2. การคัดลอกแบบลงบนผา้

8. วิทยากรให้คำปรกึ ษา/แนะนำข้ันตอนการทำให้กับผู้เรียน

1. วิทยากรสาธติ ขั้นตอนการทำหมวกผ้าด้นมือทรงบกั เก็ต 5 ชว่ั โมง

และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามใบความรู้ที่ 2 เรื่อง การทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงบักเก็ต (ต่อ)

3. ตัดหมวกส่วนบนเป็นรปู วงกลม

4. ตัดสว่ นปีกทั้งหมด 4 ชนิ้

5. การเย็บปีกหมวกให้ติดกัน

6. นำสว่ นบนของหมวกมาประกบสว่ นปีก

7. จากน้ันนำตัวหมวกกับปีกหมวกมาเยบ็ รมิ และขลิบริม

ให้เรียบรอ้ ย

2. วิทยากรให้คำปรกึ ษา/แนะนำขั้นตอนการทำให้กับผู้เรียน

3. วิทยากรบรรยายการดแู ลรักษาหมวก

1. วิทยากรอธิบายวสั ดุและอปุ กรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือ 5 ชั่วโมง

ทรงปีกกว้าง พร้อมทั้งแสดงตวั อยา่ งของวัสดแุ ละอปุ กรณ์

2. วิทยากรให้ผู้เรียนเตรียมวัสดแุ ละอุปกรณ์ในการทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงปีกกว้าง ดังนี้

1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส 2. ผา้ สำหรบั ทำซบั ใน

3. ใยโพลี ความหนา 250 g 4. ปากกาเขียนผ้า

5. เขม็ สอย 6. แผ่นรอง

7. สายวัด 8. ไมบ้ รรทดั

9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกนั กบั ผ้า 10. ดา้ ยเนา

11. เข็มหมดุ 12. ผ้ากุ๊น

35

วัน /เดือน/ปี เวลา กระบวนการจัดการเรยี นรู้ หมาย

เหตุ

3. วิทยากรสาธิตข้ันตอนการทำหมวกผ้าดน้ มือทรงปีกกว้าง

และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามใบความรทู้ ี่ 3 เรื่อง การทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงปีกกว้าง

1. การเตรียมผ้าชนิ้ นอก ชนิ้ ใน

2. การคัดลอกแบบลงบนผา้

3. ตัดชนิ้ แผ่นหมวกจำนวน 2 ชนิ้

4. ตดั ชนิ้ ตัวหมวกจำนวน 6 ชนิ้

5. การเยบ็ ปีกหมวกให้ติดกัน

6. การเย็บตวั หมวกโดยนำชนิ้ ที่ 1 และชนิ้ ที่ 2 ติดกัน ผ้า

ดา้ นถกู ชนผ้าดา้ นถกู

7. นำชนิ้ ที่ ประกบชนิ้ ที่ 2 แล้วเยบ็ จนครบ 6 ชนิ้

8. จากน้ันนำตัวหมวกกบั ปีกหมวกมาเย็บรมิ และขลิบริม

ให้เรียบรอ้ ย

4. วิทยากรให้คำปรกึ ษา/แนะนำข้ันตอนการทำให้กบั ผู้เรียน

5. วิทยากรบรรยายการดแู ลรกั ษาหมวก

1. วิทยากรอธิบายวัสดแุ ละอุปกรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือ 5 ชวั่ โมง

ทรงทิวลปิ พร้อมทั้งแสดงตัวอยา่ งของวัสดุและอปุ กรณ์

2. วิทยากรให้ผู้เรียนเตรียมวัสดุและอปุ กรณใ์ นการทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงทิวลิป ดังนี้

1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส 2. ผา้ สำหรับทำซับใน

3. ใยโพลี ความหนา 250 g 4. ปากกาเขยี นผ้า

5. เข็มสอย 6. แผน่ รอง

7. สายวดั 8. ไมบ้ รรทัด

9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกันกบั ผ้า 10. ดา้ ยเนา

11. เข็มหมุด 12. ผ้ากนุ๊

36

วัน /เดอื น/ปี เวลา กระบวนการจดั การเรียนรู้ หมายเหตุ

3. วิทยากรสาธติ ขั้นตอนการทำหมวกผ้าด้นมือทรงทิวลิป

และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามใบความรู้ที่ 4 เรื่อง การทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงทิวลิป

1. การเตรียมผ้าชนิ้ นอก ชนิ้ ใน

2. การคัดลอกแบบลงบนผา้

3. ตัดผา้ ชนิ้ นอก 6 ช้ัน ชนิ้ ใน 6 ชนิ้

4. นำผ้าชนิ้ ในมาเยบ็ ติดกันท้ัง 6 ช้ัน

5. นำผ้าชนิ้ นอกมาเยบ็ ตดิ กนั ท้ัง 6 ช้ัน

6. น้ำชนิ้ นอกมาประกบชนิ้ ในดา้ นถูกประกบด้านถกู

7. จากนั้นเก็บริมและขลิบริมให้ปลายหมวกให้สวยงาม

4. วิทยากรให้คำปรกึ ษา/แนะนำข้ันตอนการทำให้กับผู้เรียน

5. วิทยากรบรรยายการดูแลรักษาหมวก

1. วิทยากรอธิบายวสั ดแุ ละอปุ กรณใ์ นการทำหมวกผ้าด้นมือ 5 ชัว่ โมง

ทรงหมวกแกป๊ พร้อมทั้งแสดงตวั อย่างของวัสดแุ ละอุปกรณ์

2. วิทยากรให้ผู้เรียนเตรียมวัสดุและอปุ กรณใ์ นการทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงหมวกแก๊ป ดังนี้

1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส 2. ผ้าสำหรบั ทำซับใน

3. ใยโพลี ความหนา 250 g 4. ปากกาเขียนผ้า

5. เข็มสอย 6. แผน่ รอง

7. สายวดั 8. ไมบ้ รรทัด

9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกนั กับผ้า 10. ดา้ ยเนา

11. เข็มหมดุ 12. ผ้ากุน๊

3. วิทยากรสาธิตข้ันตอนการทำหมวกผ้าด้นมือทรงหมวก

แก๊ปและให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามใบความรู้ที่ 5 เรื่อง การทำ

หมวกผ้าด้นมือทรงหมวกแกป๊

1. การเตรียมผ้าชนิ้ นอก ชนิ้ ใน

2. การคัดลอกแบบลงบนผา้

37

วัน /เดอื น/ปี เวลา กระบวนการจดั การเรียนรู้ หมายเหตุ

3. ตัดผา้ ชนิ้ นอก 6 ชั้น ชนิ้ ใน 6 ชิ้น และสว่ นของปีก

หมวกด้านหน้า

4. นำผ้าชนิ้ ในมาเยบ็ ติดกันท้ัง 6 ช้ัน

5. นำผ้าชนิ้ นอกมาเยบ็ ตดิ กันทั้ง 6 ช้ัน

6. นำชนิ้ นอกมาประกบชนิ้ ในดา้ นถกู ประกบด้านถูก

7. นำตัวหมวกและปีกหมวกด้านหน้ามาประกบกนั

8. จากนั้นเกบ็ ริมและขลิบริมของตัวหมวกให้สวยงาม

4. วิทยากรให้คำปรกึ ษา/แนะนำขั้นตอนการทำให้กบั ผู้เรียน

5. วิทยากรบรรยายการดแู ลรักษาหมวก

1. วิทยากรอธิบายวัสดุและอุปกรณ์ในการทำหมวกผ้าด้นมือ 5 ช่ัวโมง

ทรงฟกั ทอง พร้อมท้ังแสดงตวั อยา่ งของวัสดุและอปุ กรณ์

2. วิทยากรให้ผู้เรียนเตรียมวัสดแุ ละอปุ กรณใ์ นการทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงฟักทอง ดังนี้

1. ผ้าคอตตอน หรือ ผา้ แคนวาส 2. ผา้ สำหรบั ทำซับใน

3. ใยโพลี ความหนา 250 g 4. ปากกาเขยี นผ้า

5. เข็มสอย 6. แผน่ รอง

7. สายวัด 8. ไมบ้ รรทดั

9. ดา้ ยเย็บสเี ดยี วกันกบั ผ้า 10. ดา้ ยเนา

11. เข็มหมดุ 12. ผ้ากุ๊น

3. วิทยากรสาธิตข้ันตอนการทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟักทอง

และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบตั ิตามใบความรทู้ ี่ 6 เรื่อง การทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงฟกั ทอง

1. การเตรียมผ้าชนิ้ นอก ชนิ้ ใน

2. การคัดลอกแบบลงบนผา้

3. ตดั ผา้ ชนิ้ นอก 6 ช้ัน ชั้นใน6ชนิ้ ปีกหมวกดา้ นหน้า 1ช้ัน

4. นำผ้าชนิ้ ในมาเยบ็ ติดกันท้ัง 6 ชั้น

5. นำผ้าชนิ้ นอกมาเย็บตดิ กนั ท้ัง 6 ช้ัน

38

วัน /เดอื น/ปี เวลา กระบวนการจดั การเรียนรู้ หมายเหตุ

1. วิทยากรสาธิตขั้นตอนการทำหมวกผ้าด้นมือทรงฟักทอง 5 ชว่ั โมง

และให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตามใบความรทู้ ี่ 6 เรื่อง การทำหมวก

ผ้าดน้ มือทรงฟักทอง (ตอ่ )

6. นำชนิ้ นอกมาประกบชนิ้ ในดา้ นถกู ประกบด้านถกู

7. นำตวั หมวกมาประกบกบั ปีกหมวก

8. จากนั้นเกบ็ ริมและขลิบริมให้ปลายหมวกให้สวยงาม

2. วิทยากรให้คำปรกึ ษา/แนะนำขั้นตอนการทำให้กบั ผู้เรียน

3. วิทยากรบรรยายการดแู ลรกั ษาหมวก

4. วิทยากรและผู้เรียนแลกเปลย่ี นเรียนรู้ เรื่อง การบรหิ าร

จดั การและการตลาด และศึกษาจากใบความรู้ที่ 7 เรือ่ ง

การบรหิ ารจัดการและการตลาด ดังนี้

- การวางแผนการผลิต - การวางแผนการจำหน่าย

- การกำหนดราคาขาย - การทำบญั ชีรายรบั –รายจา่ ย

- การค้าออนไลน์

5. ผู้เรียนทำใบงานที่ 7เรือ่ ง การบริหารจัดการและการตลาด

6. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ เรื่องคุณธรรม จริยธรรมใน

การประกอบอาชีพ หวั เรือ่ ง ความหมายและความสำคัญ

ของคุณธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ

7. วิทยากรและผู้เรียนรว่ มกันแลกเปล่ยี นเรียนรู้ เรือ่ ง

คุณธรรม จริยธรรมในการประกอบอาชีพ หัวเรือ่ ง คณุ ธรรม

และจริยธรรมในการประกอบอาชีพ

- ความขยนั - ความอดทน - ความซือ่ สตั ย์

8. ผู้เรยี นศึกษาเพิม่ เตมิ จากใบความรทู้ ี่ 8 เรือ่ ง คณุ ธรรม

จริยธรรมในการประกอบอาชีพ

9. ผู้เรยี นทำใบงานที่ 8 เรื่อง คณุ ธรรม จริยธรรมในการ

ประกอบอาชีพ

ลงชื่อ.................................................วิทยากร

(..........................................)

วันที.่ ......./............../...........

39

คณะผจู้ ัดทำ

ทีป่ รกึ ษา

นางมีนา กิติชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน. จงั หวดั พะเยา
นางอัญชลี ธรรมะวิธกี ุล ศึกษานิเทศกเ์ ชย่ี วชาญ สำนักงาน กศน.

นายถนอม โยวัง ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอดอกคำใต้

คณะกรรมการสถานศึกษา กศน. อำเภอดอกคำใต้

ผจู้ ดั ทำ

นายถนอม โยวัง ผู้อำนวยการ กศน. อำเภอดอกคำใต้

นางอารยี า ไชยชนะ ครูผู้ชว่ ย

นางสาวอรณุ ศรี นามสาร ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน

นางสนธยา กาศสนุก ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน

นางวนั ทนา โยวงั ครู กศน. ตำบล

นางสาวละอองดาว วรรณสมพร ครู กศน. ตำบล

นางสาวภคั นันท์ ปญั โญ ครู กศน. ตำบล

นางสาวสุวิมล สมวงค์ ครู กศน. ตำบล

นายมงคล แก้วเทพ ครู กศน. ตำบล

นางสาวนนั ทนา ใจสมคั ร ครู กศน. ตำบล

นางสาวอัญชลี วรรณชยั ครู กศน. ตำบล

นายกฤษกร พรหมมา ครู กศน. ตำบล
นางสาวกนกกาญจน์ บุตรดี ครู กศน. ตำบล

นางสาวดวงดาว อุปพรรณ์ ครู กศน. ตำบล

นางสาวมธั ยา วนั เปีย้ ครู กศน. ตำบล

นายคมสนั แปงศรี ครผู ู้สอนคนพิการ

นางสาวเพชรรัตน์ ใชสงคราม บรรณารกั ษ์

นางสาวปิยากร ปกั ษา นกั วิชาการศึกษา

บรรณาธิการ

นางวันทนา โยวัง ครู กศน.ตำบล

นางสาวเพชรรัตน์ ใชสงคราม บรรณารกั ษ์

ผู้รับผดิ ชอบ

นางสาวนนั ทนา ใจสมัคร ครู กศน.ตำบล

40


Click to View FlipBook Version