The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ทำไมคนไทยถึงไม่ให้ความสำคัญกับงานศิลปะ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Pariyapat Nontree, 2023-02-04 08:17:33

ปุณณพร_24

ทำไมคนไทยถึงไม่ให้ความสำคัญกับงานศิลปะ

ทำ ไม คนไทย ถึงไม่ ให้ความ สำ คัญ กับงาน ศิลปะ


คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์(E-Book)นี้จัดทำ เพื่อให้ผู้อ่านได้ ทราบข้อมูลที่เกี่ยวกับการที่คนสมัยใหม่ไม่ให้ความสนใจกับ ศิลปะโดยมีเนื้อหาตั้งเเต่ความหมายของศิลปะคืออะไรและ รวมไปถึงความสนใจในด้านศิลปะของประเทศต่างๆจากงาน ประมูล คณะผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เล่มนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่านที่สนใจในด้าน ศิลปะไม่มากก็น้อย


สารบัญ บั ศิล ศิปะคืออะไร 1 4 5 6 8 ความสำ คัญของศิล ศิปะ ศิล ศิปะและสัง สั คมไทย ทำ ไม อุตสาหกรรมศิล ศิปะไทย ไม่ไม่ ปไหนสัก สั ที อุตสาหกรรมศิล ศิปะไทยจะก้าวไกลสู่ร สู่ ะดับโลกได้หรือ รืไม่ ประเทศ10อัน อั ดับจากการประมูลงานวิจิ วิจิ ตรศิล ศิป์แ ป์ ละNFT 9


ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้สร้างสรรค์แสดงออกทางความ รู้สึกความคิดและอารมณ์จากภาพที่ได้จากความจริงหรือ จินตนาการที่คิดฝันขึ้นอย่างมีเจตนาโดยใช้ศิลปะเป็นสื่อ กลางให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจในเจตนาจึงสร้างสรรค์ขึ้นจาก การแก้ปัญหาที่ต้องใช้ปัญญามีความเชื่อกันว่ามนุษย์เท่านั้น เป็นผู้มีสติปัญญาจนถึงขั้นที่สามารถแก้ปัญหาของการ สร้างสรรค์งานศิลปะได้การแสดงออกของมนุษย์ในการ สร้างสรรค์งานศิลปะจึงเกิดจากมูลเหตุที่ว่ามนุษย์ได้รับรู้ใน ความงามของธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นเป็นรูปแบบต่างๆ เช่นลักษณะพื้นผิวสีและสัดส่วนมนุษย์จะมีความชื่นชมใน ความงามที่ตนสร้างขึ้นจนเกิดความพอใจในและประทับใจ ในสิ่งที่ตนสร้างขึ้นมาเช่น ศิลปินจะแสดงความรู้สึกพอใจ เมื่อสามารถสร้างผลงานได้สำ เร็จจะมีคนชื่นชมต่อผลงาน นั้นของตนหรือไม่เป็นสิ่งที่รองลงมา ศิล ศิปะคืออะไร? 1


ปราชญ์ชาวกรีกได้ให้นิยามความหมายของศิลปะว่า งานศิลปะเป็นการลอกเลียนแบบธรรมชาติ (The imitation of natur)ต่อมาบรรดาพวกนักปรัชญากวี ศิลปินและนักการศึกษาหลายท่านได้ให้นิยามตามแนวคิด เห็นของแต่ละท่านซึ่งความคิดเห็นนั้นล้วนถูกต้องด้วยกัน ทั้งสิ้น เฮอเบิร์ต รีด (Herbert Read) นักวิจารณ์ศิลปะชั้นนำ ชาว อังกฤษได้ให้นิยามความหมาย ของศิลปะไว้ว่าศิลปะคือการ แสดงออก(Art is Expressio)ยึดหลักว่าอารมณ์ และความรู้สึกเป็นสิ่งผลักดันให้ เกิดการแสดงออกมาทางศิลปะ 2


เฮนรี่ มัวร์ ( Henry Moore ) ประติมากรรมสมัย ใหม่ชาว อังกฤษได้ให้ความหมายของ ศิลปะว่าศิลปะ คือ กิจกรรมอันต่อ เนื่องแห่งสากลที่ปราศจากการ แบ่งแยกระหว่างอดีตและปัจจุบัน ท่านศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี ได้ให้ความหมายของศิลปะไว้ว่า ศิลปะ หมายถึงงานอันเป็น ความพากเพียรของมนุษย์ซึ่ง จะต้องใช้ความพยายามด้วยมือ และด้วยความคิด 3


ความสำ คัญของวิชาศิลปะนอกเหนือไปจากการสร้างเสริมจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ดังที่ใครๆก็เข้าใจกันอยู่แล้วนั้นยังสามารถใช้ เพื่อพัฒนาผู้เรียนที่ประสบปัญหาด้านการอ่านอีกด้วยโดยงานศึกษาของ คริสติน เบอร์เกอร์ (Kristin Burger) และเอลเลน วินเนอร์ (Ellen Winner) ตีพิมพ์ในวารสาร The Aesthetic Education หัวข้อ ‘Instruction in Visual Art: Can it Help Children Learn to Read’ มีข้อสรุปว่า การให้การเรียนรู้ด้านทัศนศิลป์ในวิชาศิลปะนั้นสามารถที่จะ พัฒนาทักษะการเรียนรู้ผ่านสายตาได้การเรียนการสอนด้านทัศนศิลป์จึง มีส่วนช่วยให้นักเรียนที่ประสบปัญหาด้านการอ่านสามารถเพิ่มศักยภาพ ได้อย่างมีนัยยะสำ คัญ ดังนั้นวิชาศิลปะจึงไม่ได้มีคุณค่าน้อยกว่าวิชาอื่นๆ ในหลักสูตรที่ควรได้รับความใส่ใจและพัฒนาหลักสูตรควบคู่กันต่อไปใน อนาคตรวมไปถึงการออกแบบหลักสูตรวิชาอื่นๆ ให้สามารถนำ ศาสตร์ และศิลป์ของวิชาศิลปะไปผสมผสานได้ซึ่งจะเป็นการอุดช่องโหว่ด้าน พัฒนาการของเด็กได้ดียิ่งขึ้น ความสำ คัญของศิล ศิปะ 4


อาจเป็นเพราะการเริ่มต้นด้วยความเข้าใจของศิลปินหรืออาจเป็นเพราะ ความคิดแบบเหมารวมของผู้คนในสังคมไทยที่ว่างานศิลปะและศิลปินเป็น สิ่งที่แปลกแยกไปจากสังคม ไม่ได้มาซึ่งประโยชน์อะไรต่อผู้ใดเลยนอกจาก ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานจึงทำ ให้การชื่นชมและเข้าใจผลงานศิลปะกลาย เป็นเรื่องไกลตัวและดูจะห่างไกลจากชีวิตอันเร่งรีบของคนทั่ว ทั่ ไป ประเทศไทยมีศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพิ่มขึ้นทุกวัน มีสถาบันที่ ให้การเรียนการสอนศิลปะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับในอดีตแต่อย่าพึ่งพูดถึง การสะสมผลงานศิลปะเลย แม้แต่การไปชื่นชมผลงานศิลปะตามแหล่งที่ จัดนิทรรศการต่าง ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกจากการเดินทาง และค่าใช้จ่ายส่วนตัวตามปกติก็ยังเป็นกิจกรรมลำ ดับท้าย ๆ ที่ผู้คนทั่ว ทั่ ไป จะเลือกทำ หรืออาจไม่เคยมีความคิดนี้อยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ ไป ลองคิดดูว่า เมื่อผู้คนออกจากบ้านไปชื่นชมงานศิลปะ แม้ว่าจะเข้าใจหรือไม่ก็ตามที แต่ ทำ ให้เขามีความสุขทางจิตใจมากขึ้น มีความอ่อนโยนและเป็นมิตรกับผู้คน และสิ่งต่างๆ รอบตัวมากขึ้น สังคมไทยเราจะน่าอยู่เพียงใด ถ้าศิลปินและผู้ เกี่ยวข้องเริ่มต้นวันนี้เมื่อมีโอกาส ประเทศไทยก็จะเป็นประเทศสำ คัญ ที่มี การเติบโตของการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอย่างยั่ง ยั่ ยืน ศิล ศิปะและสัง สั คมไทย 5


1. สภาพสังคมที่ไม่สนับสนุนการสร้างคุณค่าของศิลปะและ ศิลปิน ตั้งเเต่อดีตมาจนถึงตอนนี้ประเทศไทยไม่เคยหลุดพ้นจาก ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ได้เลย ประชาชนที่ออกมาจากระบบ การศึกษาก็มุ่งไปสู่สายงานที่ตอบโจทย์ความต้องการใน ตลาดเพื่อพยายามสร้างความมั่นคงในชีวิต แทนที่จะหันไป ทำ อาชีพทางเลือกงานสายศิลปะจึงไม่เป็นที่นิยมและ ไม่มีValueเท่าที่ควร 2.ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศยังมีปัญหาเรื่องปากท้อง ไม่มีเวลามาชื่นชมสิ่งจรรโลงใจ ประชาชนในประเทศส่วนใหญ่เป็นชนชั้นแรงงานและชนชั้น กลางที่ยังต้องทำ งานหนักหาเช้ากินค่ำ การแบ่ง เวลาไปใช้กับ การเสพงานศิลป์ คงไม่คุ้มค่ามากนักเมื่อต้องเเลกกับเวลา พักผ่อนอันน้อยนิดหรทอรายวันที่ต้องเสียไป ทำ ไม อุตสาหกรรมศิล ศิปะ ไทย ไม่ไม่ ปไหนสัก สั ที 6


3.ทัศนคติของคนในประเทศที่ลดทอนคุณค่าของงานศิลปะ โดยไม่รู้ตัว เป็นอีกเหตุผลที่ทำ ให้อุตสาหกรรมศิลปะไทยไม่ไปไหนก็ เพราะมาจากทัศนคติของใครหลายๆคนที่มองว่างานศิลปะ เป็น "งานฟรี" ซึ่งความเห็นแบบนี้ยิ่งไปลดคุณค่าของงาน ศิลปะน้อยไปอีก ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม ลาวพม่า หรือ กัมพูชา ศิลปิน มีงานมูลค่าหลักสิบ ล้านแต่บ้านเรายังอยู่ที่หลักแสน หรือล้านต้นๆเป็นเพราะเรท ราคามักขึ้นตามความพอใจของคนขายและคนซื้อต่างจาก ประเทศอื่นๆที่มีการกำ หนด มาตรฐานราคางานตามคุณภาพ และความนิยมของศิลปิน 4.ระบบการจัดการศิลปะยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ระบบของจัดการศิลปะในประเทศถือว่ายังไม่ดีพอเมื่อเทียบ กับระดับสากลแกลลอนี่ในไทย ยังเป็นเเค่พื้นที่ฝากขายงาน ศิลปะของกลุ่มเอกชน ไม่ได้มีระบบจัดการที่ดีเพื่อเกื้อหนุน ให้วงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในขณะที่อุตสาหกรรมศิลปะ ในระดับสากล จะมีการทำ งานประสานกันระหว่าง Gallery, Dealer และ Agency อย่า งเป็น ระบบไม่มีการแยกจากกัน ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานให้วงการศิลปะแข็งแรงมากขึ้น 7


แล้วอุตสาหกรรมศิล ศิปะ ไทย จะก้าวไกลสู่ร สู่ ะดับ โลกได้หรือ รืไม่?ม่ คำ ตอบในตอนนี้ คือค่อนข้างยากระหว่างอุตสาหกรรม ศิลปะไทยที่ยังคงย่ำ อยู่กับที่แต่ประเทศอื่นๆต่างพยายาม นำ จุดแข็งด้านนี้มาสร้างรายได้เข้าประเทศ เช่นการเข้า ร่วมกับตลาดศิลปะโลก (The global art market) เพื่อ เพิ่มโอกาสในการสร้างเม็ดเงินจากงานศิลปะโดยยอด ขายจากการแสดงผลงานทางออนไลน์โดยสำ นักประมลู ต่างๆ เพิ่มขึ้น 720% ทั่วโลกในช่วงสองปีที่โควิด-19 ระบาดซึ่งแนวโน้มการเติบโตระดับ นี้คาดการณ์ไว้ก่อน หน้านี้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี2568-2570ด้วย 8


ประเทศ10อัน อั ดับแรกจาก การประมูลงานวิจิ วิจิ ตรศิล ศิป์ และNFT(พัฒ พั นาการเทียบ กับปี 2563) 1.จีน (อาร์ตทรอน): 5,953,355,500 ดอลลาร์ (+43.0%) 2.สหรัฐ:5,794,793,900ดอลลาร์(+102.3%) 3.สหราชอาณาจักร:1,996,657,600ดอลลาร์(+28.6%) 4.ฝรั่ง รั่ เศส:1,008,464,700ดอลลาร์(+71.8%) 5.เยอรมนี: 356,967,400 ดอลลาร์ (+18%) 6.เกาหลีใต้:237,290,600 ดอลลาร์ (+369.90%) 7.อิตาลี: 212,554,100 ดอลลาร์ (+49.1%) 8.สวิตเซอร์เเลนด์:193,884,700 ดอลลาร์ (+74.7% ) 9.ญี่ปุ่น:167,464,400ดอลลาร์(+75.6%) 10.โปแลนด์:142,070,800ดอลลาร์(+66.5%) 9


บรรณาณุกรม ศิลปะคืออะไร https://www.finearts.cmu.ac.th/wp-content/uploads/ ทําไม“อุตสาหกรรมศิลปะไทย”ไม่ไปไหนสักที https://missiontothemoon.co/why-thai-arts-industry-not-shine/ ตลาดศิลปะโลกปี 64 https://www.ryt9.com/s/anpi ความสำ คัญของศิลปะ https://research.eef.or.th/art-education/ ศิลปะและสังคมไทย https://www.unlockmen.com/art-and-thai-culture/


Click to View FlipBook Version