The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบความรู้บาลี-สันสกฤต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูจูน ภาษาไทย, 2022-09-05 02:07:19

ใบความรู้บาลี-สันสกฤต

ใบความรู้บาลี-สันสกฤต

1

2

คําที่ใช้ในภาษาไทย นอกจากเป็นคําภาษาไทยแท้แล้ว ยังมีคําภาษาต่างประเทศ หลายภาษาปนอยู่มาก
เนื่องจากประเทศไทยมีการติดต่อส่ือสารกบั ประเทศต่าง ๆ เราจงึ ได้รบั เอาภาษาและวัฒนธรรมของชาตินั้นเข้ามา
ด้วย จึงทำให้มีคําจากภาษาอ่ืนเข้ามา ปะปนใช้อยู่ในภาษาไทยเป็นจำนวนมาก คําภาษาต่างประเทศท่ี เข้ามาใน
ภาษาไทย ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคําไทย เพราะเราใช้ติดต่อสื่อสารกันในชีวิตประจำวัน คําที่นำมาใช้ในภาษาไทย
มากจนถือกันว่าเปน็ แมข่ องภาษาไทย คือ ภาษาบาลี และสนั สกฤต

ภาษาบาลีเป็นภาษาหนึ่งที่ไทยนำเข้ามาใช้ มาจากภาษาอินเดีย อารยันสมัยกลาง เป็นภาษาที่ใช้บันทึก
คัมภีร์พระไตรปิฎกและคัมภีร์สําคัญ ๆ ของ พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท (หินยาน) พระพุทธศาสนานิกาย
เถรวาท ปัจจุบัน มีแพร่หลายอยู่ในประเทศไทย ลังกา พม่า เป็นต้น ชาวพุทธในประเทศเหล่านี้ เชื่อว่า ภาษาบาลี
คือภาษามคธ

คาํ วา่ “บาลี” มีความหมาย ๓ อย่าง คือ
๑. บาลี หมายถึง พทุ ธวจนะ คือ คาํ สอนของพระพุทธเจ้า
๒. บาลี หมายถงึ ภาษาในคมั ภีรพ์ ระไตรปิฎก
๓. บาลี หมายถึง แนว หรอื แถวของพระไตรปิฎก

ความเปน็ มาของภาษาบาลี
จากหลักฐานทางประวัตศิ าสตร์ท่เี ปน็ ตัวเขยี นภาษาไทย เอกสารเก่าทส่ี ุดท ่ี พบ การนาํ คําภาษาบาลีมาใช้

ได้แก่ ศลิ าจารึกหลกั ท ี่ ๑ ของพ่อขนุ รามคําแหงมหาราช จารึกหลักน ี้แสดงให้เห็นวา่ ในสมัยสุโขทยั ภาษาบาลีและ
สันสกฤตได้เข้ามามีอทิ ธพิ ล ต่อภาษาไทยมากแลว้ นอกจากน้ียงั พบเน้ือหาในจารึกและวงศัพทภ์ าษาบาลีในเอกสาร
ตัวเขียนสมัยแรก ๆ ทำให้เชื่ออว่า การรับคําภาษาบาลีเข้ามาใช้ในภาษาไทยเป็นความ จําเป็นอันเนื่องมาจากการ
รบั ความเชื่อทางศาสนา

ภาษาบาลีเป็นภาษาสำหรับพุทธศาสนาฝ่ายหินยาน พระภิกษุสงฆ์จำเป็นต้องเรียนภาษาบาลีเพื่อ
ประโยชน์แกก่ ารเข้าใจธรรมะ

ประโยชน์ของภาษาบาลี
คํายืมภาษาบาลีที่นำมาใช้ในภาษาไทย ส่วนใหญ่จะนำมาใช้ในทางศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม

ประเพณี วรรณคดี และใช้เป็นคําสุภาพและคำศัพท์ทั่วไป ภาษาบาลีจึงมีอิทธิพลต่อภาษาไทยมากพอควร ถ้าเรา
เลิกใช้คําที่มาจากภาษานี้แลว้ คนไทยจะพูดจากันไม่สะดวก การเรียนรู้คํายืมภาษาบาลีแม้เพียงสงั เขปก็จะช่วยให้
เข้าใจภาษาไทยได้กวา้ งขวางย่ิงขน้ึ

ดังนั้น การรู้ลักษณะของคาํ ยมื บาลี จึงกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่การใชภ้ าษาไทย ท้ังในด้านการเขียนสะกดคํา
และการใช้คําให้ถูกต้องตรงตามความหมาย เราจึงควรเรียนรู้ เกี่ยวกับภาษาบาลี ตลอดจนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ไว้
เพอื่ จะไดเ้ ข้าใจวิธกี ารและนาํ ไปใช้ ได้ถูกตอ้ ง

3

คำภาษาบาลี บาลี (บาลี: ปาลิ; สันสกฤต: ปาฬิ); (อังกฤษ: Pali) เป็นไวยากรณ์หนึง่

ในตระกลู อินเดีย-ยุโรป (อินโด-ยูโรเปียน) และขอ้ สำคัญ คำบาลี เมื่อมีตวั สะกดตอ้ งมีตวั ตาม

หลักสงั เกตคำท่ีมาจากภาษาบาลี

๑. เสยี งสระในภาษาบาลมี ี ๘ เสียง คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
๒. พยัญชนะบาลมี ี ๓๓ ตัว (รวมเศษวรรคแต่ยกเวน้ ศ ษ) ซ่งึ แบ่งตามวรรคได้ ดังน้ี

นิคหิต ใช้เปน็ ตวั สะกดเทา่ นัน้
- บาลถี ือวา่ เปน็ เสียง ง สะกด เช่น พุทธ อ่านว่า พุด-ทงั
- สันสกฤตถือวา่ เป็นเสียง ม สะกด เชน่ พทุ ธ อ่านวา่ พดุ -ทำ

๓. หลักเกณฑก์ ารใช้ตวั สะกดตัวตามในภาษาบาลีมีหลักเกณฑท์ ่ีแน่นอนตายตวั ดังนี้ (สำคญั )
๓.๑ พยญั ชนะแถวท่ี ๑ ของทุกวรรคเป็นตวั สะกด พยญั ชนะแถวที่ ๑ หรอื ๒ ของทุกวรรค

เปน็ ตวั ตาม เชน่ ทกุ ข์ อจิ ฉา วัตถุ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓.๒ พยัญชนะแถวท่ี ๓ ของทุกวรรค เปน็ ตัวสะกด พยัญชนะแถวที่ ๓ หรือ ๔ ของทุกวรรค
เปน็ ตวั ตาม เช่น อัคคี อัชฌาสยั มัชฌิมา พยคั ฆ์
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๓.๓ พยญั ชนะแถวท่ี ๕ ของทุกวรรคเป็นตัวสะกด พยญั ชนะแถวท่ี ๑ ๒ ๓ ๔ หรอื ๕ ของ
ทกุ วรรคเป็น ตวั ตาม เชน่ สงฆ์ สญั ญา สนั ติ สมั ผสั
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4

๓.๔ เศษวรรคสะกดแล้วตามดว้ ยเศษวรรค เช่น ปัสสาวะ วลั ลี

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๔. พยัญชนะตัวสะกดตวั สามในภาษาบาลี เม่อื นำมาใช้ในภาษาไทยบางท่ตี ัดออกเสียตัวหน่ึง

เช่น นิจจ = นจิ เขตต = เขต ยุตติ = ยตุ ิ รัชชกาล = รชั กาล วชิ ชา = วิชา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๕. พยญั ชนะวรรค ฏะ นิยมตัดตวั สะกดเดิมแลว้ ใชต้ ัวตามสะกดแทน

เช่น รฏั ฐบาล = รฐั บาล วุฑฒ=ิ วฒุ ิ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๖. บาลนี ยิ มใช้ ฬ เชน่ กีฬา โอฬาร อาสาฬหบูชา

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๗. สงั เกตการใช้ ณ ในภาษาบาลีจะใช้ ณ นำหน้าพยัญชนะวรรค ฏะ (ฏ ฐ ฑ ฒ ณ)

เช่น กัณฑ์ บัณฑติ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๘. คำทใี่ ช้พยญั ชนะซ้อน ๒ ตวั

เชน่ เมตตา ใช้ ตต นิพพาน ใช้ พพ ปจั จบุ ัน ใช้ จจ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๙. ใชร้ ปู พยญั ชนะซ้อน ญห ณห มห เช่น ปญั หา ตัณหา เสมหะ

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๑๐. คำส่วนใหญ่ทข่ี ้นึ ตน้ ดว้ ย ปฏิ เชน่ ปฏิบัติ ปฏิเสธ เป็นต้น

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

………………………………………………………………………………………………………………………………………………

สรปุ คำบาลี

............................................................................................................................. ...................................

............................................................................................... ...............................................................................

............................................................................................................................. .................................................

.............................................................................................................................. ................................................

.................................................................................. ............................................................................................

5

คำสันสกฤต

1. สระมี 14 ตวั เพ่ิมจากบาลี 6 ตวั คือ ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ ไอ เอา (แสดงวา่ คำทมี่ สี ระ 6 ตัวนีจ้ ะเปน็ บาลี

ไมไ่ ด้เด็ดขาด)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. มพี ยญั ชนะ 35 ตวั เพมิ่ จากภาษาบาลี 2 ตัว คอื ศ ษ (แสดงวา่ คำท่มี ี ศ ษ เป็นภาษาสันสกฤต

*ยกเว้น ศอก ศกึ เศกิ โศก เศรา้ เป็นภาษาไทยแท)้

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. มีตวั สะกดและตวั ตามไม่แนน่ อน เช่น กนั ยา จกั ษุ ทักษณิ ปฤจฉา วิทยุ อัธยาศัย เป็นต้น

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4. นยิ มใช้ ฑ เชน่ กรีฑา จฑุ า

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5. นยิ มควบกล้ำและอกั ษรนำ เช่น ประถม มัตสยา สวามี สถาน ประทมุ สถาวร เปรม กริยา เป็นตน้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
6. นิยมใช้ รร (รอหัน) เช่น ภรรยา จรรยา อศั จรรย์ เปน็ ต้น

เน่ืองจากแผลงมาจาก รฺ (ร เรผะ) เชน่ วรฺณ = วรรณ ธรฺม = ธรรม * ยกเว้น บรร เป็นคำเขมร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
7. นยิ ม "เคราะห์" เช่น วเิ คราะห์ สังเคราะห์ อนุเคราะห์ เปน็ ตน้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๘. มี ย์ (หรอื ธย ทย นย ตย) เชน่ อาทิตย์

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๙. ส นำหน้า ด ต ถ เชน่ สถาน สดดุ ี สติ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๑๐. ญช เปน็ บาลี อัญชลี ชญ เปน็ สนั กฤต อาชญา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

6

ตัวอย่างคำภาษาบาลี ความหมาย คำยืมจากภาษาบาลี ความหมาย
คำยืมจากภาษาบาลี คำเลา่ ลอื , คำสรรเสริญ ภรยิ า ภรรยา, เมยี
กติ ติ เครื่องทำใจใหห้ มองเศรา้ มัจจรุ าช พญายม
กเิ ลส การกระทำ มัจฉา ปลา
กิรยิ า กิจกรรมหรือการเล่น มชั ฌิม ปานกลาง
กีฬา แดนทก่ี ำหนดขดี คั่นไว้ มหนั ต์ ใหญ,่ มาก
เขต คร,ู่ ครัง้ เมตตา ความรกั และเอ็นดู
ขณะ ฤดูรอ้ น มิจฉา ผิด
คมิ หนั ต์ สตั วส์ ี่เท้า มเหสี ชายของพระเจ้าแผน่ ดนิ
จตบุ ท ใจ มุสา เทจ็ , ปด
จิต ยอด, หัว, มงกุฎ มัสสุ หนวด
จฬุ า ผูร้ า้ ยท่ลี ักขโมย รัตนา แกว้
โจร ส่งิ ซง่ึ ก่อมยี อดแหลม โลหิต เลือด
เจดยี ์ การกำเนิด วตั ถุ สิ่งของ
จุติ ไมง้ ว้ิ วชิ า ความรู้
ฉมิ พลี คนในวงศว์ าน วิญญาณ ความรบั รู้
ญาติ วันตามจนั ทรคติ วิตถาร มากเกนิ ไป, พสิ ดาร
ดถิ ี ดาว, ดวงดาว วิริยะ ความเพยี ร
ดารา เครือ่ งดีดสีตีเปา่ วสิ ทุ ธิ์ สะอาด, หมดจด
ดุริยะ อำนาจ วุฒิ ภมู ิรู้
เดชะ เครอื่ งตักข้าว สงกา ความสงสัย
ทัพพี ความอวดด้ือถือดี สังข์ ช่ือหอยชนดิ หนงึ่
ทิฐิ เครอ่ื งบอกเวลา สงฆ์ ภิกษุ
นาฬิกา ความดบั สนทิ แห่งกิเลส สญู ทำใหห้ ายสนิ้ ไป
นิพพาน บัวขาบ สิริ ศร,ี มง่ิ ขวญั , มงคล
นิลบุ น แบบสำหรบั ดวู ัน เดือน ปี สันติ ความสงบ
ปฏทิ ิน ดำเนนิ การไปตามระเบยี บ สัญญาณ เครอื่ งแสดงไว้ให้เห็นหรือ
ปฏิบตั ิ แบบแผน ใหไ้ ด้ยนิ
แผน่ ดนิ เสมหะ เสลด
ปฐพี ธรรมดา สัจจะ ความรู้สกึ
ปกติ ความรอบรู้ สติ ความรู้สึก
ปัญญา

7

คำยืมจากภาษาบาลี ความหมาย คำยมื จากภาษาบาลี ความหมาย
ปจั จัย เหตุอนั เปน็ ทางให้เกดิ ผล
บุคคล คน โสมนัส ความสขุ ใจ
บัลลังก์ ที่น่งั
บปุ ผา ดอกไม้ อทิ ธิ ฤทธิ์
โบกขรณี สระบวั
อคั คี ไฟ
ปฐม ลำดบั แรก
ปัญหา ขอ้ สงสัย, ขอ้ ขดั ข้อง อจั ฉรา นางฟ้า
พยคั ฆ์ ช่ือพระผู้เป็นเจา้ สร้างโลก
ภตั ตา อาหาร อนิจจา คำทอี่ ุทานแสดงความ
ภกิ ขุ ภกิ ษุ
สงสารสงั เวช

อชั ฌาสัย นสิ ัยใจคอ

อายุ เวลาทด่ี ำรงชวี ติ อยู่

โอวาท คำแนะนำ, คำตกั เตือน

โอรส ลูกชาย

โอกาส ช่อง, ทาง

ตัวอย่างคำภาษาสนั สกฤต

คำยืมจาก ความหมาย คำยืมจาก ความหมาย
ภาษาสันสกฤต
ภาษาสนั สกฤต มฤตยู ความตาย
มนุษย์ สัตวท์ ี่มจี ิตใจสูง
กัลบก ชา่ งตัดผม มนัส ใจ
มารุต ลม
กรรณ ห,ู ใบหู มติ ร เพอ่ื น
มนตรี ทป่ี รึกษา
กรรม การกระทำ ไมตรี ความหวงั ดีต่อกนั
มหัศจรรย์ แปลกประหลาดมาก
กษตั ริย์ พระเจา้ แผน่ ดนิ ยักษา ยักษ์
วรรค ตอน
กัลป์ อายขุ องโลก วรรณะ สี
วัสดุ วัตถทุ ีน่ ำมาใช้
การบรู ชอ่ื ไม้ตน้ ชนดิ หน่งึ พรรษา ช่วงระยะเวลา 3 เดือน
พยายาม ทำโดยมานะ
กีรติ เกียรติ พฤศจิกายน ช่อื เดอื นที่ 11
วทิ ยุ เครอ่ื งรับวิทยุ
โกรธ ขนุ่ เคืองใจ พิสดาร แปลกพลิ ึก
วเิ ศษ ยอดเย่ียม, เลิศลอย
กรีฑา กีฬาประเภทหน่งึ

กษยั การสนิ้ ไป

เกษียณ ส้ินไป

เกษยี ร นำ้ นม

เกษตร ท่ีดนิ , ทุ่ง, นา, ไร่

ครรชติ เอิกเกริก, กึกก้อง

ครรภ์ ท้อง

จกั ร อาวธุ ในนิยาย

จักรวาล บริเวณโดยรอบของโลก

จันทรา ดวงเดอื น

8

คำยืมจาก ความหมาย คำยมื จาก ความหมาย
ภาษาสนั สกฤต ภาษาสนั สกฤต
จุฑา ยอด, หัวมงกุฎ เพศ รปู ทีแ่ สดงให้รวู้ า่ หญิงหรือ
ชาย
ดัสกร ข้าศึก ศพั ท์ เสยี ง, คำ
ทรมาน ทำใหล้ ำบาก ศาสนา ลทั ธคิ วามเชอื่
ทรัพย์ เงินตรา ศาสตรา ศัตรา, อาวธุ
ทฤษฎี เอาตามหลักวชิ า ศกึ ษา การเล่าเรียน
ทศิ ดา้ น ศลิ ปะ ฝีมือทางการชา่ ง
ทหาร ผมู้ หี นา้ ที่ในเรื่องรบ ศษิ ย์ ผู้ศกึ ษาวชิ าความรู้
ทัศนีย์ น่าดู, งาม ศกุ ร์ ชอ่ื วันท่ี 6 ของสปั ดาห์
ทพิ ย์ เป็นของเทวดา ศูนย์ ว่างเปลา่
นักษัตร ดาว, ดาวฤกษ์ ศรี สิริมงคล, ความรุ่งเรือง
นมัสการ การกราบไหว้ เศียร หวั
นาที ชอ่ื หน่วยเวลา สตั ย์ ความจริง
นฤคหิต ช่ือเคร่อื งหมาย สันโดษ มักนอ้ ย
นิตยา สมำ่ เสมอ สมปฤดี ความรู้สกึ ตวั
นทิ รา การหลับ สตรี ผู้หญิง
นฤมล ไม่มีมลทนิ สวรรค์ โลกของเทวดา
เนตร ดวงตา สรรพ ทกุ ส่งิ , ทั้งปวง
บษุ บา ดอกไม้ สุวรรณ ทอง
บรรพต ภูเขา สถาปนา แต่งตั้งให้สงู ข้ึน
บุษกร ดอกบัวสีน้ำเงิน สดุดี คำยกย่อง
บุรุษ ผชู้ าย สกล สากล
ประเทศ บ้านเมอื ง, แว่นแคว้น สกลุ ตระกลู , วงศ์
ประทปี ไฟท่ีมีเปลวสว่าง อกั ษร ตวั หนังสือ
ประพนั ธ์ แตง่ , เรยี บเรียง อาตมา ตวั เอง
ประพฤติ การกระทำ อัศจรรย์ แปลก, ประหลาด
ประเวณี การเสพสังวาส อัธยาศยั นสิ ัยใจคอ
ประมาท ขาดความรอบคอบ อารยะ เจริญ
ประโยค ขอ้ ความทีไ่ ด้รับความ อวกาศ บริเวณทอี่ ยูน่ อกโลก
บรบิ รู ณ์
ประถม ลำดับแรก อาจารย์ ผสู้ ัง่ สอนวชิ าความรู้
ภกั ษา อาหาร อาทิตย์ ดวงอาทติ ย์
ภกิ ษุ ชายท่บี วช อุทยาน สวน

9

ข้อสังเกตเพิ่มเตมิ สำหรับคำทใ่ี ชใ้ นภาษาบาลี-สนั สกฤต คือ
๑. คำบาลมี ี ณ อยู่หลงั ร เช่น นารายณ์ พราหมณ์ สาราณยี กร ฯลฯ
๒. คำทีม่ ี “เคราะห”์ อยู่ในคำจัดเปน็ คำสนั สกฤต เช่น พิเคราะห์ สงเคราะห์ สงั เคราะห์ ฯลฯ
๓. คำทปี่ ระสมสระไอ เอ ถ้าเป็นสระท่เี กิดจากการแผลงคำขนึ้ ใชใ้ นภาษาไทยไม่นับวา่ เป็นภาษาสนั สกฤต เช่น

มโหฬาร = มเหาฬาร

โอฬาร = เอาฬาร

นิพพาน = นฤพาน

เทยฺยทาน = ไทยทาน

อปุ เมยยฺ = อปุ ไมย

เวยเนยฺย = เวไนย

๔. คำทใี่ ช้ ศ ษ จดั เป็นคำไทยทรี่ ับมาจากภาษาสนั สกฤต ยกเว้นคำดังกลา่ วเพราะเปน็ คำไทยแท้

ศอก ศก ศึก ศอ เศรา้

เลิศ กระดาษ ดาษดา ดารดาษ องั กฤษ

ข้อแตกตา่ งของภาษาบาลแี ละสนั สกฤต
ภาษาบาลี สันสกฤต เป็นภาษาตระกูลเดยี วกัน และมีแหลง่ กำเนดิ ทป่ี ระเทศอินเดียเหมือนกัน

จึงมีลกั ษณะใกลเ้ คยี งกนั มาก แต่มีข้อแตกตา่ งที่เปรียบเทียบได้ดังนี้

ภาษาบาลี ภาษาสนั สฤกต
๑. สระมี ๘ ๑. สระมี ๑๔ เพ่ิมจากบาลคี ือ ไอ เอา ฤ ฤๅ ฦๅ
๒. พยญั ชนะ ๓๓ ตัว ๒. พยัญชนะ ๓๕ ตัว (เพิม่ ศ ษ)
๓. มีตวั สะกดตวั ตามแน่นอน ๓. มีตัวสะกดตวั ตามไม่แนน่ อน
๔. ไมน่ ยิ มคำควบกล้ำ ๔. มกั คำควบกลำ้
๕. นยิ มใช้ ฬ ๕. นยิ มใช้ ฑ
๖. ใช้ ริ แทน รร ๖. มกี ารใช้ รร (ร หัน)

สรุปความรดู้ ้วยตนเอง

……………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

10

กิจกรรม เรื่องคำบาลี-สันสกฤต

๑. จำแนกคำต่อไปน้ีลงในตารางให้ถูกตอ้ ง

สญั ญาณ กรรณ โสมนัส โบกขรณี มนษุ ย์ มหัศจรรย์ สงกา เมตตา โลหติ จฑุ า นฤมล มัชฌมิ เด็ก

อิทธิ ฤทธ์ิ สงั ข์ วรรค อนจิ จา วตั ถุ ศาสตรา อคั คี บัลลังก์ ครฑุ กรฑี จกั รวาล มิจฉา ทัพพี ประมาท มฤตยู

อักษร มะม่วง วสิ ุทธ์ิ ปัญญา ประพฤติ สจั จะ มจั ฉา อชั ฌาสยั มะนาว กษตั ริย์ ประโยค นทิ รา ปัญหา มัสสุ

กีฬา ระฆงั สัจจะ ปฏิบัติ ปฏสิ นธิ ศรี ษะ บรรณารกั ษ์ ทฤษฎี ทัพพี บัญญัติ อุปถัมภ์ ราชนิ ี กติกา ลัทธิ

คำไทยแท้ คำบาลี คำสันสฤกต

๒. ใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ งคำบาลีและสนั สกฤต อย่างละ ๕ คำ (หา้ มซำ้ กับตวั อยา่ งในใบความรู)้
พร้อมอธิบายหลกั การสังเกต
เช่น วิศวกรรม เป็น คำบาลี เพราะวา่ มี ศ ปรากฏอยูใ่ นคำ และมกี ารใช้ รร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

11

๓. ให้นกั เรียนเขยี น “ป” หน้าข้อความท่เี ปน็ ภาษาบาลแี ละ “ส” หน้าข้อความที่เป็นภาษาสนั สกฤต

………. ๑. สามี ………. ๒. สวามี

………. ๓. ดัชนี ………. ๔. ฤดู

………. ๕. ดรรชนี ………. ๖. ฤษี

………. ๗. นฤคหติ ………. ๘. นิคหิต

………. ๙. เขต ………. ๑๐. เกษตร

………. ๑๑. ไทยทาน ………. ๑๒. มนษุ ย์

………. ๑๓. เขม ………. ๑๔. เกษม

………. ๑๕. เกษียร ………. ๑๖. ปราณี

………. ๑๗. นารายณ์ ………. ๑๘. อาสาฬห

………. ๑๙. โกรธ ………. ๒๐. อรยิ ะ

………. ๒๑. จรรยา ………. ๒๒. จกั รี

………. ๒๓. บตุ รี ………. ๒๔. ภรยิ า

………. ๒๕. ชวิ หา ………. ๒๖. มัลลกิ า

………. ๒๗. วลั ลยี ์ ………. ๒๘. อัสสาสะ

………. ๒๙. อณุ หภูมิ ………. ๓๐. กญั ญา

………. ๓๑. อินทร์ ………. ๓๒. นพิ พาน

………. ๓๓. อธปิ ไตย ………. ๓๔. มโหฬาร

………. ๓๕. สริ ิ ………. ๓๖. องค์

………. ๓๗. อิทธิ ………. ๓๘. ฤทธิ์

………. ๓๙. อัคคี ………. ๔๐. อัคนี

………. ๔๑. อักขระ ………. ๔๒. อกั ษร

………. ๔๓. การณ์ ………. ๔๔. ปจั จุบนั

………. ๔๕. กัป ………. ๔๖. กลั ป์

………. ๔๗. แพทย์ ………. ๔๘. รงั สี

………. ๔๙. รศั มี ………. ๕๐. พฤกษ์

12

๔. จงจับคู่คำบาลแี ละสันสกฤตให้สัมพนั ธก์ ัน ก. หัสดิน
………. ๑. หทัย

………. ๒. มน ข. ขยั
………. ๓. หตั ถี ค. อัตถ์
………. ๔. ดาวดึงส์ ง. ทิฐิ

………. ๕. สาลกิ า ฉ. ปัทมา
………. ๖. กษยั ช. หฤทัย
………. ๗. สเิ น่หา ซ. ศรี

………. ๘. อัตตา ฌ. มัชฌิม
………. ๙. มธั ยม ญ. มนสั
………. ๑๐. อรรถ ฎ. พสิ ดาร

………. ๑๑. วิตถาร ฏ. สาริกา
………. ๑๒. กณั หา ฐ. โสตถิ
………. ๑๓. สุริยะ ฑ. ไตรตรงึ ษ์

………. ๑๔. สวสั ดี ฒ. จรรยา
………. ๑๕. ปทมุ ณ. อาตมา
………. ๑๖. จริยา ด. สรู ย์

………. ๑๗. ทฤษฎี ต. พฤกษ์
………. ๑๘. ฤทธ์ิ ถ. เมาลี
………. ๑๙. รกุ ข์ ท. เสนห่ ์

ตวั อย่าง …ป......๒๐. โอรส ธ. อทิ ธฤิ ทธิ์
น. คุรุ
บ. กฤษณา

ป. เอารส
๕. ให้นกั เรียนวิเคราะห์คําท่กี ําหนดให้ แล้วตอบคาํ ถามตามหลักตัวสะกดและตัวตาม ให้สมบูรณ์

ตวั อย่าง มัณฑนา วรรค ฏะ แถวที่ ๕ ณ สะกด แถวท่ี ๓ ฑ ตาม
วลั ลภ เศษวรรค สะกด เศษวรรค ตาม

๑. มัลลิกา ....................................................................................................................

๒. ลัทธิ ....................................................................................................................

๓. สมุฏฐาน ....................................................................................................................

๔. นิพนธ์ ....................................................................................................................

๕. เพชฌฆาต ....................................................................................................................

๖. วิปสั สนา ....................................................................................................................

๗. กิตติศพั ท์ ....................................................................................................................

๘. คิมหันต์ ....................................................................................................................

๙. ผรสุ วาท ....................................................................................................................

๑๐. ดิรัจฉาน ....................................................................................................................

13

๖. ใหน้ กั เรยี นวงกลมล้อมรอบคํายมื ภาษาบาลี

๑. ปกปดิ ปรานี ปริยัติ ปรชั ญา

๒. รฐั รษิ ยา รศั มี ราชาวดี

๓. จาระบี จกั รี จรยิ า จักกาย

๔. วิจิตร วิงเวียน วรรณา วิชา

๕. วัตถุ วาโมร วายงั วารณุ

๖. อศั จรรย์ อคั นี องอาจ อุตุ

๗. ปรศิ นา ปญั ญา ปลดปล่อย ปรักปรํา

๘. เจริญ เจษฎา จฬุ า จนี แส

๙. อิตี อามา อาเพศ แอลฟา

๑๐. เอกเขนก อจั ฉรา อศั เจรยี ์ อกั ษร

๑๑. ขวนขวาย ขมีขมนั เขนย ขตั ตยิ ะ

๑๒. วงศ์วาน วติ ถาร วานซนื วิษณุ

๗. ใหน้ กั เรียนอ่านบทความท่ีกำหนด แลว้ พจิ ารณาหาคํายมื ภาษาบาลี แล้วนาํ คําทีไ่ ด้
เขียนลงในกลอ่ งข้อความ (ไม่นับคาํ ซ้ำ)

ประโยชนข์ องการทำสมาธิในการดำรงชีวติ

การฝึกสมาธิเป็นเร่ืองราวของการฝึกจิตเพ่ือให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการปฏิบัติ เราควรเรียนรู้จากผู้ที่มี

ความร้แู ละประสบการณ์จะดีกว่า มฉิ ะนั้นแทนท จี่ ะได้ประโยชน์อาจกลายเปนผลรา้ ยได้ ในการฝึกทำสมาธินั้น

จุดประสงค์ที่แท้จริงคือ “การสะสมพลังแห่งจิต” เพราะกําลังของจิต เป็นส่ิงจําเป็นของชีวิตมนุษย์ คนทุกคน

ต้องมีพลังจิตจึงจะทำงานได้สำเร็จ คนที่มีพลังจิตสูงจะทำงาน ได้ดีมีประสิทธิภาพมากกว่า ตรงกันข้ามถ้าขาด

พลงั จิตและมีกาํ ลังใจไม่เพยี งพอก็ไม่สามารถควบคมุ จิตใจของตนเองได้ การทำสมาธอิ ย่างสม่ำเสมอส่งเสริมให้

เรามีสติปัญญาหลักแหลมขึ้น ช่วยให้จิตใจ ปลอดโปร่ง สงบสุข คลายเครียด จึงทำให้สุขภาพกายดีไปด้วย เรา

มักเป็นทุกข์เมอื่ ปรารถนาส่งิ ใดแลว้ ไมส่ มความปรารถนา แต่เป็นไปไม่ไดท้ ค่ี นเราจะสมความ ปรารถนาทุกอย่าง

พระพุทธองค์จึงทรงสอนให้พวกเราทำจิตเป็นกลาง ซึ่งการจะทำจิตเป็นกลาง ได้นั้นต้องอาศัยสมาธิ การได้ทำ

สมาธิเท่ากบั เราไดพ้ ัฒนาเคร่ืองมอื ในการแก้ไขกิเลสให้เบาบางลง (ทมี่ า: www. ความรู้รอบตวั .com)


Click to View FlipBook Version