แผนบูรณาการหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ทำดี...อย่าหวั่นไหว

50

แผนการจดั การเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย (ภาษาพาท)ี ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๓
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ เรื่อง ทำดี....อยา่ หว่นั ไหว เวลา 7 ช่วั โมง

แผนการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะทางภาษา (การเลน่ เกม) เวลา ๑ ช่ัวโมง
ผูส้ อน นางจินตนา โสมาศรี

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

สาระที่ ๑ การอา่ น

มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิด

เพอื่ นำไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา ในการดำเนินชีวติ และมี

นิสยั รักการอา่ น

สาระท่ี ๔ หลักการใชภ้ าษา

มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย

การเปลีย่ นแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมปิ ญั ญา

ทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ

ตวั ช้วี ัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสียงคำข้อความ เรื่องสน้ั ๆ และบทร้อยกรอง

ง่าย ๆ ไดถ้ ูกตอ้ ง คลอ่ งแคลว่

ท ๔.๑ ป.๓/๑ เขยี นสะกดคำและบอกความหมายของคำ

2. สาระสำคญั
การเลน่ เกมทางภาษาจะช่วยพัฒนาความรแู้ ละความเขา้ ใจภาษาไทยให้มากขน้ึ

3. สาระการเรียนรู้

ความรู้
กิจกรรมพัฒนาทักษะทางภาษา การเล่นเกมปริศนาคำทาย
ทกั ษะ/กระบวนการ
กระบวนการทำงาน กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการนำเสนอผลงาน

4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ความรู้ (K)
๑. นักเรยี นอา่ นคำยากได้ถูกต้อง

ทักษะกระบวนการ (P)
๒. นกั เรียนสามารถบอกความหมายของคำได้ถกู ตอ้ ง

เจตคติ (A)
๓. มีความใฝ่เรยี น เหน็ คุณค่าภาษาไทย

51

5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. มีความสนใจใฝเ่ รยี นรู้
๓. อยู่อย่างพอเพียง
๔. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
๕. รกั ความเป็นไทย
๖. มจี ิตสาธารณะ

๗. องคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ : การจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ด
พฤติกรรมท่คี าดหวัง : รู้จกั สร้างความสุขให้กับตนเอง
ตัวชี้วัด : วเิ คราะห์และเลือกวธิ กี าร/กิจกรรม ทที่ ำให้ตนเองมคี วามสขุ ไดอ้ ย่างเหมาะสม

8. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
นำสูก่ ระบวนการเรยี นรู้

1. นกั เรียนและครรู ่วมกันสนทนาทบทวนเนื้อหาของบทเรยี นทีผ่ า่ นมา
กระบวนการเรยี นรู้

๑. แบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลมุ่ ๒ กลุม่ แลว้ ให้นักเรยี นศึกษาค้นควา้ หาปริศนาคำทาย จากหนงั สือ
เรียนภาษาพาทแี ละหนงั สืออ่ืน ๆ

๒. นักเรียนแต่งคำปรศิ นาคำทาย ปากเปล่าคนละหนงึ่ ประโยค เขยี นลงในกระดาษที่ครูแจกใหแ้ ล้วนำมา

เสนอผลงานหน้าช้นั เรยี นกลมุ่ ละ ๔ – ๕ ประโยค โดยไม่ใหซ้ ้ำกนั
๓. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุป การนำเสนอผลงานของแต่ละกลมุ่

๔. แจกกระดาษให้กลมุ่ ละ ๑ แผ่น ตีกรอบให้สวยงาม เขยี นหวั กระดาษวา่ ปริศนาคำทาย
แลว้ นักเรยี นช่วยกันเขยี นปรศิ นาคำทาย ลงในกระดาษ

๕. แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาทายหน้าชั้นเรียน และอีกกลุ่มเป็นฝา่ ยตอบคำทายแล้วสลับกลุ่มกันทาย

และตอบคำทาย
๖. กลุ่มทายถกู มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ

๗. นำแผนภมู ปิ รศิ นาคำทายรวบรวมเปน็ สมดุ เลม่ เลก็ ไว้ฝกึ อา่ น
สรุปกระบวนการเรยี นรู้
๑. นักเรียนและครรู ่วมกันสรุปบทเรียนเรื่อง ปริศนาคำทาย

๒. นกั เรยี นทำใบงาน (ภาคผนวก)
๓. มอบหมายใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั ทักษะภาษา ชดุ ภาษาเพื่อชวี ติ เป็นการบ้าน

๙. สนทนาด้วยเทคนคิ คาํ ถาม R - C - A เพือ่ พฒั นาทกั ษะชีวติ

คําถามเพ่ือการสะท้อน (R) คาํ ถามเพื่อการเชือ่ มโยง (C) คาํ ถามเพื่อการปรับใช้ (A)

- นกั เรียนมคี วามรูส้ กึ อย่างไรบา้ งที่ - นักเรยี นเคยเลน่ ปรศิ นาคำทาย - นักเรียนทำกจิ กรรมท่ที ำให้

มีการละเล่นปรศิ นาคำทาย (สนกุ - หรือไม่ และเคยทายเพื่อนหรือไม่ ตนเองมคี วามสุขได้อย่างเหมาะสม

ไมส่ นกุ ชอบ-ไมช่ อบ) อย่างไร ได้อยา่ งไร

52

๑๐. ช้ินงาน/ภาระงาน
- นำเสนอผลงานเรอื่ ง การแตง่ คำปริศนาคำทาย
- แบบฝึกหัดเรอ่ื ง การเขียนแผนภาพโครงเรือ่ ง

11. สอื่ และแหล่งการเรียนรู้
๑. ปรศิ นาคำทาย
๒. ใบงานเรอ่ื ง ปรศิ นาคำทาย
๓. หนงั สือเรยี นภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เล่ม ๑ ภาษาพาที
๔. แบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ ชุดภาษาเพื่อชีวิต

12. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงค์ วิธกี ารวัด เครื่องมือวดั เกณฑ์

๑. นกั เรยี นอ่านคำ ตรวจแบบฝึกหัด เ ก ณ ฑ ์ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ร้อยละ 7๐ ขึ้นไป ผ่าน

ยากได้ถูกตอ้ ง แบบฝึกหัด เกณฑ์

๒. นกั เรียนสามารถบอก ตรวจแบบฝกึ หดั เ ก ณ ฑ ์ ก า ร ป ร ะ เ มิ น ร้อยละ 7๐ ขึ้นไป ผ่าน

ความหมายของคำได้ แบบฝกึ หดั เกณฑ์

ถกู ต้อง

๓. มีความใฝ่เรียน เห็น การสังเกต แบบประเมนิ ร้อยละ 7๐ ขึ้นไป ผ่าน
คุณค่าภาษาไทย เกณฑ์

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

ความสาํ เรจ็ ในการจดั การเรียนรู้
นักเรียนอ่านคำ ยากได้ถูกต้อง สามารถบอกความหมายของคำได้ถูกต้อง มีความใฝ่เรียน เห็นคุณค่า

ภาษาไทยได้ รอ้ ยละ 7๐ ทุกคน จากนกั เรียนทง้ั หมด 10 คน โดยมนี กั เรยี นบางกลุ่มยงั นำเสนอไมส่ มบรู ณ์ ชดั เจน
อยู่บ้าง แตค่ ะแนนอยู่ในระดบั ท่ีผา่ นเกณฑ์

ปญั หาและอุปสรรค
นักเรียนบางกลุ่มยงั นำเสนอไม่สมบูรณ์ ชดั เจน

แนวทางแก้ไขปัญหา/อปุ สรรค
ครูสอนซ้ำเนื้อหา และร่วมสรุปเนื้อหาร่วมกับนักเรียนอีกครั้ง และบอกประโยชน์ของการเห็นคุณค่า

ภาษาไทย

ลงชือ่ .........................................................ผู้สอน
(นางจินตนา โสมาศรี)

53

ใบงาน (งานกลุม่ ชุดที่ ๑)
กลมุ่ ที่…….

เร่ือง ปรศิ นาคำทาย

คำช้แี จง ให้นกั เรียนตอบปริศนาคำทายให้ถกู ตอ้ ง คำตอบ

ปริศนาคำทาย
ปลา….อะไรเอ่ย …….

๑. ปลาหนึ่งเป็นขนมดี ปลา…………………………...
๒.ปลาสองเคม็ ปี๋ ปลา…………………………...
๓.ปลาสามเหมน็ สุดพรรณนา
ปลา…………………………...
๔. ปลาส่ีลอยฟ่องท่องฟา้ ปลา…………………………...
๕. ปลาห้ามหมึ า ปลา…………………………...
๖. ปลาหกหนวดพาเคล่อื นท่ี ปลา…………………………...

ปลาเคม็ ปลารา้ ปลาดาว
ปลากริม ปลาหมกึ ปลาวาฬ

รายชื่อสมาชกิ ในกลุ่ม

๑…………………………………… ๒…………………………………………….

๓…………………………………… ๔…………………………………………….

๕…………………………………… ๖…………………………………………….

๗…………………………………… ๘…………………………………………….

54

ใบงาน (งานกลมุ่ ชุดท่ี ๒)
กลุ่มที่…….

เรื่อง ปริศนาคำทาย

คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตอบปริศนาคำทายให้ถูกตอ้ ง คำตอบ

ปริศนาคำทาย มะ…………………………….
มะ…………………………….
มะ….อะไรเอ่ย ……. มะ…………………………….
มะ…………………………….
๑. มะหนึ่งสขี าวบูชาพระ มะ…………………………….
๒. มะสองขรขุ ระรสขม มะ…………………………….
๓. มะสามรสแซบคนชม ปรุงเปน็ สม้ ตำรสดี มะ…………………………….
๔. มะสี่พวงยาวราวห้อย
๕. มะห้าลูกน้อยเปรีย้ วจ๋ี
๖. มะหกทำขนมกล้วยบวชชี
๗. มะเจด็ ผิวขจีเปน็ เครอ่ื งแกง

รายชอ่ื สมาชิกในกลุม่

๑…………………………………… ๒…………………………………………….

๓…………………………………… ๔…………………………………………….

๕…………………………………… ๖…………………………………………….

๗…………………………………… ๘…………………………………………….

55

แบบฝึกหดั เร่ือง ปริศนาคำทาย

ชอ่ื …………………………..……………………………………………………เลขท่ี…….…….…. ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
โรงเรยี น…………………………………………………….………………………………..
วันท่ี………เดอื น………………………….พ.ศ……………

คำชแี้ จง ให้นกั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ ูกต้อง

นกั เรยี นชอบเล่นปรศิ นาคำทาย หรือคำถามทีข่ ้นึ ตน้ ด้วยอะไรเอ่ย หรือไม่
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ให้นกั เรยี นเขยี นปรศิ นาคำทาย มา ๓ ข้อ พรอ้ มคำตอบ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..………

(อยใู่ นดุลพินจิ ครผู ูส้ อน)

56

ลงช่ือ.........................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางจินตนา โสมาศรี)

วันท่.ี .........เดอื น..............................พ.ศ. .................

57

58

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงค์ 321
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 มคี วามรกั และภมู ิใจในความเป็นชาติ
1.2 ปฏิบตั ติ นตามหลักของศาสนา
กษตั รยิ ์ 1.3 แสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
4.1 แสวงหาข้อมลู จากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ
4. ใฝห่ าความรู้ 4.2 มกี ารจดบนั ทกึ ความรู้อย่างเปน็ ระบบ
4.3 สรปุ ความร้ไู ด้อย่างมเี หตุผล
5.อยอู่ ยา่ ง 5.1 ใช้ทรพั ย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรียนอย่างประหยัด
พอเพียง 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุง่ มนั่ ในการ 6.1 มีความตั้งใจ และพยายามในการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย
ทำงาน 6.2มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพ่ือให้งานสำเร็จ

7.รักความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สำนึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย
7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมไทย
8.1 รจู้ กั การให้เพือ่ ส่วนรวม และเพ่ือผู้อ่นื

8.มีจติ สาธารณะ 8.2 แสดงออกถึงการมีน้ำใจหรอื การให้ความช่วยเหลอื ผู้อน่ื
8.3 เข้าร่วมกิจกรรมบำเพญ็ ตนเพื่อส่วนรวมเมอ่ื มีโอกาส

ลงช่ือ......................................................................ผู้ประเมนิ
(นางจนิ ตนา โสมาศรี)

........... /................................/......................

เกณฑ์การให้คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน

59

.............................................................ผู้ประเมิน
(นางจนิ ตนา โสมาศร)ี
............./............/..............

60

ลงชอื่ .............................................ผู้ประเมนิ
(นางจนิ ตนา โสมาศร)ี

วันท่ี..........เดือน.......................พ.ศ. .................

61

เกณฑ์การให้คะแนน การนำเสนอผลงาน

5 คะแนน นำเสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถกู ต้อง การลำดบั ข้ันตอนของเนอื้ เร่ืองมีความ
สอดคล้องกับเนอ้ื หา การนำเสนอมคี วามนา่ สนใจสมาชิกในกลมุ่ มีส่วนร่วมและตรง
4 คะแนน ต่อเวลา
3 คะแนน นำเสนอเนื้อหาในผลงานไดถ้ กู ตอ้ ง การลำดับขน้ั ตอนของเน้ือเรอื่ งมีความ
2 คะแนน สอดคลอ้ งกับเนื้อหา การนำเสนอมคี วามน่าสนใจสมาชกิ ในกลุ่มมีสว่ นร่วม
นำเสนอเน้อื หาในผลงานได้ถูกต้อง การลำดับขั้นตอนของเนอ้ื เรอ่ื งมคี วาม
สอดคลอ้ งกบั เนื้อหา
นำเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถูกต้อง

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ

(นางจินตนา โสมาศรี)
................ /................ /................

62

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย (ภาษาพาท)ี ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๕ เรือ่ ง ทำด.ี ...อย่าหวัน่ ไหว เวลา 7 ช่ัวโมง

แผนการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอื่ ง กจิ กรรมพฒั นาทกั ษะภาษา (การเขียนสร้างสรรค)์ เวลา ๑ ชวั่ โมง
ผูส้ อน นางจนิ ตนา โสมาศรี

1. มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ ๒ การเขียน
มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ
และเขยี นเรื่องราวในรูปแบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มูล
สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้า อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
สาระที่ ๔ หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ยี นแปลง
ของภาษาและ พลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษา
ภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ
ตวั ช้วี ัด ท ๒.๑ ป.๓/๕ เขยี นเร่ืองตามจินตนาการ
ท ๔.๑ ป.๓/๔ แตง่ ประโยคงา่ ยๆ

2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การเขยี นเชิงสร้างสรรค์ เปน็ ความสามารถในการเขยี นคำ ประโยคหรอื เรือ่ งราวได้อย่างถูกตอ้ ง แปลก

ใหมไ่ มซ่ ำ้ แบบใคร มคี ุณคา่ โดยจะตอ้ งเขยี นได้อยา่ งหลากหลายและคลอ่ งแคลว่ เสร็จทนั เวลาท่กี ำหนด การฝกึ
ให้ผูเ้ รยี นแสดงความคิดตอ่ สิง่ หน่ึงสงิ่ ใด ซง่ึ อาจจะเปน็ ภาพ ข้อความ บุคคล หรือเหตุการณ์ โดยไม่จำกดั ความ
คดิ เหน็ เป็นการฝกึ ท่ีจะชว่ ยให้ผูเ้ รียนเกดิ ความคิดสรา้ งสรรคท์ ่ดี ีได้วธิ หี นง่ึ

3. สาระการเรยี นรู้
ความรู้
๑. การแต่งประโยค
๒. การเขียนเรอ่ื งจากโครงเรอื่ ง
๓. การเขียนเรือ่ งจากภาพ
ทักษะ/กระบวนการ
กระบวนการทำงาน กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการนำเสนอผลงาน

4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ความรู้ (K)
๑. นกั เรียนบอกหลกั การเขียนโครงเรือ่ งได้
ทักษะกระบวนการ (P)
๒. นักเรียนสามารถบอกเขียนเรอ่ื งตามจินตนาการได้
เจตคติ (A)
๓. มีความใฝเ่ รียน เหน็ คุณคา่ ภาษาไทย

63

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
๑. ความรกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์
๒. มคี วามสนใจใฝ่เรียนรู้
๓. อยู่อย่างพอเพียง
๔. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
๕. รักความเปน็ ไทย

๗. องค์ประกอบทกั ษะชีวติ : การจดั การกบั อารมณแ์ ละความเครียด
พฤติกรรมที่คาดหวงั : รู้จกั สรา้ งความสขุ ให้กับตนเอง
ตวั ชี้วดั : วิเคราะหแ์ ละเลอื กวธิ กี าร/กจิ กรรม ท่ที ำใหต้ นเองมคี วามสุขได้อยา่ งเหมาะสม

8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
นำสู่กระบวนการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นเลน่ เกมเรียงคำทำความ (ภาคผนวก)
๒. นักเรียนฝึกแตง่ ประโยคปากเปลา่ คนละหนง่ึ ประโยค
กระบวนการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นแบ่งกล่มุ ออกเปน็ ๕ กล่มุ ๆ ละ ๔ - ๕ คน แข่งขนั เขียนประโยคจากคำทีก่ ำหนดให้มา

ใหม้ ากท่ีสุด โดยครกู ำหนดคำให้กลุ่มละ ๔ -๕ คำ แต่ละคำใหส้ มาชิกในกลุม่ ช่วยกันเขยี นประโยคที่ใช้คำนั้นมาให้
มากท่ีสุด ตามเวลาท่กี ำหนดลงบนกระดาษทแ่ี จกให้ แลว้ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น

๒. นกั เรยี นและครูร่วมกันทบทวนแนวคดิ ของบทเรียนดงั น้ี “ ทายปัญหาพาสุขสนั ต์ ”
๓. ครเู ขียนแผนภาพโครงเร่อื ง ดังน้ี

หลกั การ : ........................................................
เหตุผล : ........................................................
รายละเอยี ด : ........................................................
บทสรปุ และขอ้ คดิ : ........................................................
๔. นกั เรยี นและครูร่วมกันอภิปราย โดยใชค้ วามรู้จากเรอ่ื ง ทำดีอยา่ หวนั่ ไหว มาเขียนโครงเรอ่ื ง
๕. นักเรียนแต่ละคนเขยี นเร่อื ง “ทายปญั หาพาสขุ สนั ต์”ดว้ ยภาษาของตนเอง ลงในใบงาน พร้อมกบั
วาดภาพประกอบและระบายสีให้สวยงามโดยมขี ั้นตอนดังน้ี
- นกั เรียน และครูร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั รูปภาพ
- นกั เรียนบอกเหตกุ ารณ์ในภาพเปน็ ตอน ๆ ไป แล้วเลา่ เรอื่ งจากภาพตามความเขา้ ใจของนกั เรียน
- นกั เรียนเขียนบรรยายภาพประมาณ ๔ – ๕ บรรทัด พรอ้ มกบั เขยี นแนวคิดจากเรื่องของ
การกระทำในภาพ
สรุปกระบวนการเรียนรู้
๑. ให้นกั เรยี นอาสาสมัครออกมานำเสนอผลงานของตนเองประมาณ ๒ – ๓ คน
๒. มอบหมายใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัดทักษะภาษา ชุดภาษาเพอื่ ชวี ิต เปน็ การบา้ น
๓. นักเรยี นทำใบงาน “ทายปัญหาพาสขุ สันต์”

64

๙. สนทนาดว้ ยเทคนิคคาํ ถาม R - C - A เพื่อพฒั นาทกั ษะชีวติ

คําถามเพอื่ การสะทอ้ น (R) คาํ ถามเพอื่ การเชอ่ื มโยง (C) คําถามเพ่อื การปรบั ใช้ (A)

- นักเรียนมคี วามรสู้ กึ อย่างไรบ้างที่ - นกั เรยี นเคยเล่าเร่อื งหรือแต่ง - นกั เรียนจะนำเสนอเรอ่ื งที่ตนเอง

เลา่ เรอ่ื งจากภาพตามความเข้าใจ เรอ่ื งจากภาพทเี่ ห็นหรือไม่ อย่างไร มคี วามสุข ไดอ้ ยา่ งไร
ของนกั เรียน

๑๐. ช้ินงาน/ภาระงาน
- นำเสนอผลงานเรือ่ ง การแต่งคำปริศนาคำทาย
- แบบฝกึ หัดเรอื่ ง บรรยายภาพประมาณ พร้อมกบั เขียนแนวคิดจากเรือ่ ง

11. สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
๑. บตั รคำ

๒. แผนภาพ
๓. ใบงาน

๔. หนงั สือแบบเรยี นภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เลม่ ๑ ภาษาพาที
๕. หนงั สือแบบฝกึ หดั ทกั ษะภาษา ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ติ
๖. เกมเรียงคำทำความ

12. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

จดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั เคร่อื งมือวัด เกณฑ์
ตรวจแบบฝึกหัด
1.นกั เรยี นบอก เกณฑ์การประเมิน ร้อยละ 7๐ ข้นึ ไป ผา่ น
หลกั การเขียนโครงเรื่อง แบบฝกึ หดั เกณฑ์
ได้

๒. นักเรยี นสามารถบอก ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 7๐ ขึ้นไป ผ่าน
แบบฝึกหัด เกณฑ์
เขยี นเร่อื งตาม
จนิ ตนาการได้

๓. มีความใฝ่เรียน เห็น การสังเกต แบบประเมิน ร้อยละ 7๐ ขึ้นไป ผา่ น
คณุ ค่าภาษาไทย เกณฑ์

65

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้

ความสาํ เรจ็ ในการจัดการเรยี นรู้
นักเรียนบอกหลักการเขียนโครงเรื่อง สามารถบอกเขียนเรื่องตามจินตนาการได้ และมีความใฝ่เรียน

เหน็ คณุ คา่ ภาษาไทยได้ รอ้ ยละ 7๐ ทุกคน จากนักเรียนทง้ั หมด 10 คน โดยมนี ักเรยี นบางกลมุ่ ยังเขียนเรื่องตาม
จินตนาการไม่สมบรู ณ์ ชดั เจน และวกวนอยบู่ ้าง แตค่ ะแนนอยใู่ นระดบั ทีผ่ ่านเกณฑ์

ปญั หาและอปุ สรรค
นกั เรียนบางกล่มุ ยังเขียนเรือ่ งตามจินตนาการไม่สมบูรณ์ ชัดเจน และวกวนอย่บู า้ ง แตค่ ะแนนอยใู่ นระดับ

ทผ่ี ่านเกณฑ์

แนวทางแก้ไขปญั หา/อุปสรรค
ฝกึ ให้ผู้เรยี นเขียนเรื่องจากการวิเคราะหโ์ ครงเรื่อง จะทำใหผ้ เู้ รยี นเปน็ คนทีม่ ีเหตผุ ล รู้จักวิเคราะห์วิจารณ์

เร่อื ง ซงึ่ จะชว่ ยให้สามารถเขียนเรอื่ งอย่างสรา้ งสรรคไ์ ด้

ลงชื่อ.........................................................ผู้สอน
(นางจนิ ตนา โสมาศรี)

66

เกม เรยี งคำทำความ

จุดประสงค์ เพื่อให้นักเรียนสามารถหรอื รู้จักนำคำ หรือข้อความเรียบเรียงตอ่ กันเป็นเรือ่ งราว ซึ่งเป็นที่มาของ
การเขียนเรียงความ เขียนนิทาน

อปุ กรณ์
บัตรคำเขียนข้อความ จัดไวเ้ ป็นชุดเท่ากับจำนวนกลุ่มผู้เล่น – กระดาษ – ดินสอ เท่ากับจำนวน
กล่มุ ผเู้ ล่นเชน่ กัน – นกหวีด – นาฬกิ าจับเวลา

วธิ ีเล่น
๑. แบ่งผเู้ ลน่ ออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละประมาณ ๑๐ คน
๒ . ครูอธบิ ายการเลน่ ให้นักเรยี นฟงั ดงั น้ี
- ให้แต่ละกลุ่มรับบัตรคำกลุ่มละ ๑ ชุด อย่าเพิ่งเปิดอ่านดูว่าเป็นคำอะไรจนกว่าจะให้สัญญาณ

เพราะจะเป็นการเอาเปรยี บกลุ่มอ่ืน
- เมื่อใหส้ ญั ญาณนกหวดี แตล่ ะกล่มุ จะต้องชว่ ยกันเรียบเรียงข้อความตา่ ง ๆ ในกระดาษนำมาเขียน

เป็นเนอ้ื เรือ่ งใหไ้ ดใ้ จความท่ีถกู ตอ้ ง
- ครูจะใหเ้ วลาเพียง ๖ นาที เมอื่ ได้ยนิ เสียงนกหวีดให้รีบหยดุ ทันที
- ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ นำผลงานออกมารายงานเลา่ เรอ่ื งราวทเี่ รียบเรียงไดใ้ หเ้ พ่อื น ๆ ฟงั

๓. เมอื่ เขา้ ใจกตกิ าการเลน่ แลว้ ครูให้สัญญาณนกหวีดเริ่มเลน่ นักเรยี นเล่นเกมหรือเรมิ่ กิจกรรมคือลง
มือทนั ที เมอ่ื ไดย้ นิ เสียงนกหวีดอกี ครัง้ ใหห้ ยดุ ทนั ที

๔. ครูเฉลยเร่อื งใหน้ ักเรยี นฟงั
๕. ในการตัดสินให้คะแนนควรดูที่การลำดับเรียบเรียงใจความว่า มีความถูกต้องเหมาะสมแค่ไหน
เพยี งใด

67

ใบงาน เรื่อง การเขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ (การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค)์

โรงเรียน.........................................................................ภาคเรยี นที่ ……. ปีการศกึ ษา ................

ชือ่ .......................................................................ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓.............เลขที่..............
วันที่………….เดือน……………..พ.ศ……………

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขยี นเรื่องจากคำทก่ี ำหนดให้ พรอ้ มกับวาดภาพประกอบระบายสใี หส้ วยงาม

ผักสด วติ ามิน ประโยชน์

ผลไม้ รบั ประทาน

เรอ่ื ง…………………………….
........................................................ ............................................................................................

................................................................................................ .....................................................
................................................................................................ .....................................................
................................................................................................ .....................................................

................................................................................................ .....................................................
................................................................................................ .....................................................

........................................................ ............................................................................................
................................................................................................ .....................................................
................................................................................................ .....................................................

68

ใบงาน เรอื่ ง การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์

โรงเรียน.....................................................................ภาคเรียนที่ ……… ปีการศกึ ษา .....................

ชอ่ื .......................................................................ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๓.............เลขที่..............
วนั ที่……….เดอื น………………….. พ.ศ……………..

คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนฝึกเขยี นบนั ทกึ ตลาดในชุมชน หรอื ในหมู่บ้านของนกั เรียนอยู่ ว่ามี

ลักษณะอย่างไร จำหนา่ ยสินคา้ ชนดิ ใดบ้าง และมีข้อคดิ เห็นอย่างไรเกี่ยวกับตลาดนั้น ให้ระบวุ ันเวลาและสถานท่ี

ดว้ ย

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

...............................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................

69

ลงชื่อ.........................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางจนิ ตนา โสมาศรี)

วันท.่ี .........เดือน..............................พ.ศ. .................

70

71

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ลงช่ือ......................................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางจินตนา โสมาศรี)

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน

อนั พงึ ประสงค์ 321

1. รักชาติ ศาสน์ 1 มคี วามรัก และภมู ใิ จในความเปน็ ชาติ
กษตั รยิ ์ 2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา

3 แสดงออกถึงความจงรกั ภักดตี ่อสถาบันพระมหากษัตริย์

2. ใฝ่หาความรู้ 1 แสวงหาขอ้ มูลจากแหล่งเรียนรู้ตา่ งๆ
2 มกี ารจดบนั ทึกความรอู้ ยา่ งเปน็ ระบบ

3 สรุปความรู้ได้อย่างมเี หตุผล

3.อยอู่ ยา่ ง 1 ใช้ทรพั ย์สินและสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
พอเพยี ง 2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอย่างประหยัดและรู้คณุ ค่า

3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ

4. ม่งุ ม่ันในการ 1 มคี วามต้ังใจ และพยายามในการทำงานที่ได้รบั มอบหมาย

ทำงาน 2มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออปุ สรรคเพือ่ ให้งานสำเร็จ

5.รักความเปน็ ไทย 1 มจี ติ สำนึกในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาไทย

2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย

........... /................................/......................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏิบัติชัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

72

.............................................................ผู้ประเมิน
(นางจนิ ตนา โสมาศร)ี
............./............/..............

73

ลงชอื่ .............................................ผู้ประเมนิ
(นางจนิ ตนา โสมาศร)ี

วันท่ี..........เดือน.......................พ.ศ. .................

74

เกณฑ์การให้คะแนน การนำเสนอผลงาน

5 คะแนน นำเสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถกู ต้อง การลำดบั ข้ันตอนของเนอื้ เร่ืองมีความ
สอดคล้องกับเนอ้ื หา การนำเสนอมคี วามนา่ สนใจสมาชิกในกลมุ่ มีส่วนร่วมและตรง
4 คะแนน ต่อเวลา
3 คะแนน นำเสนอเนื้อหาในผลงานไดถ้ กู ตอ้ ง การลำดับขน้ั ตอนของเน้ือเรอื่ งมีความ
2 คะแนน สอดคลอ้ งกับเนื้อหา การนำเสนอมคี วามน่าสนใจสมาชกิ ในกลุ่มมีสว่ นร่วม
นำเสนอเน้อื หาในผลงานได้ถูกต้อง การลำดับขั้นตอนของเนอ้ื เรอ่ื งมคี วาม
สอดคลอ้ งกบั เนื้อหา
นำเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถูกต้อง

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ

(นางจินตนา โสมาศรี)
................ /................ /................

75

เกณฑก์ ารให้คะแนนการเขียนเรือ่ งตามจินตนาการ (การเขยี นเชงิ สรา้ งสรรค์)
เป็นฉบับของนกั เรียนโดยใช้สำนวนนกั เรยี น

ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คะแนน

54 32

เขียนเรอื่ งจากคำท่ี เขยี นเร่ืองจากคำท่ี กำหนดให้ เป็น กำหนดให้ เป็นสำนวน กำหนดให้ เปน็
กำหนดให้ เป็นสำนวน สำนวนนักเรยี นตาม
กำหนดให้ เป็น สำนวนนักเรียนตาม นักเรียนตาม
นกั เรยี นตามจินตนาการ จินตนาการได้ 5
สำนวนนกั เรียนตาม จินตนาการได้ 5 จินตนาการได้ 5 บรรทดั ขึ้นไป ได้
แต่ยงั สอื่ ถงึ ใจความ
จนิ ตนาการได้ 5 บรรทัดข้ึนไป ได้ บรรทัดขนึ้ ไป ได้
สำคัญไม่ได้
บรรทดั ข้นึ ไป ได้ ใจความสอื่ ถึง ใคร ทำ ใจความสอ่ื ถึง ใคร ทำ

ใจความส่ือถึง ใคร ทำ อะไร ทีไ่ หน เมอื่ ไร อะไร ท่ีไหน เม่อื ไร

อะไร ทีไ่ หน เมอื่ ไร อยา่ งไร ทำไม อย่างไร ทำไม ได้

อย่างไร ทำไม ปรากฏ ใจความบางสว่ น

คำที่กำหนดใหค้ รบ

ทุกคำ

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

ระดบั ท่ี 4 ได้ 5 คะแนน ดมี าก

ระดบั ที่ 3 ได้ 4 คะแนน ดี

ระดบั ที่ 2 ได้ 3 คะแนน ปานกลาง

ระดบั ท่ี 1 ได้ 2 คะแนน ปรบั ปรงุ

76

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย (ภาษาพาท)ี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๕ เรือ่ ง ทำดี....อย่าหวั่นไหว เวลา 7 ช่วั โมง

แผนการเรียนรทู้ ี่ 7 เรอ่ื ง ไตร่ตรองให้ดีกอ่ นเช่ือ เวลา ๑ ชั่วโมง
ผสู้ อน นางจินตนา โสมาศรี

1. มาตรฐานการเรียนรู้

สาระท่ี ๑ การอา่ น

มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่ือ

นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปญั หา ในการดำเนินชีวิตและมี

นิสัยรักการอา่ น

สาระท่ี ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม

มาตรฐานการเรียนรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดแี ละ

วรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ คา่ และนำมาประยกุ ตใ์ ช้ใน

ชวี ติ จรงิ

ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป.๓/๑ อ่านออกเสยี งคำข้อความ เรื่องสน้ั ๆ และบทร้อย

กรองงา่ ยไดถ้ ูกต้อง คลอ่ งแคลว่

ท ๑.๑ ป.๓/๕ สรปุ ความรูแ้ ละข้อคิดจากเร่อื งทีอ่ ่านเพ่อื นำไปใช้ใน

ชวี ิตประจำวัน

2. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

การอานเสริมบทเรียน ทําใหผูอานไดรับความรู ความบนั เทิงและขอคดิ จากการอาน และสามารถเลือก

หนงั สืออานไดตรงตามความตองการ นอกจากนีท้ ่ีสาํ คัญ คอื สามารถนาํ ความรูทีไ่ ดรบั จากการอานมาปรบั ใชใหเป

นประโยชนในชวี ติ ประจําวันได

3. สาระการเรียนรู้
ความรู้

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะทางภาษาและกจิ กรรมส่งเสรมิ การอา่ น
- การอา่ นเสรมิ บทเรียน บทร้อยกรอง เร่อื ง ไตรต่ รองกอ่ นเช่อื

ทักษะ/กระบวนการ

กระบวนการทำงาน กระบวนการกลมุ่ และกระบวนการนำเสนอผลงาน

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ความรู้ (K)
1. สามารถอ่านเร่อื งท่ีกำหนดใหไ้ ด้อย่างถูกต้อง
ทักษะกระบวนการ (P)
2. นักเรยี นสรุปและบอกขอคิดจากเร่ืองทอ่ี าน
เจตคติ (A)
3. สามารถทำงานร่วมกับผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมีความสุข

77

5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
๑. ความรักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. มีความสนใจใฝเ่ รียนรู้
๓. อยู่อย่างพอเพียง
๔. รักความเป็นไทย
๕. มจี ิตสาธารณะ

6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

๗. องคป์ ระกอบทกั ษะชวี ติ : การสร้างสมั พนั ธภาพที่ดีกบั ผอู้ ื่น
พฤตกิ รรมท่คี าดหวัง : รจู้ ักปฏิเสธ ตอ่ รอง และรอ้ งขอความ ช่วยเหลือในสถานการณเ์ ส่ียง
ตัวช้ีวดั : ปฏิเสธในส่งิ ท่ีควรปฏิเสธได้โดยไมเ่ สยี สัมพนั ธภาพ หรอื เสียนำ้ ใจ
: ขอความชว่ ยเหลือเมอื่ อยู่ในภาวะวิกฤต

8. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
นำสู่กระบวนการเรียนรู้
๑. ทบทวนเนอ้ื หาทเ่ี รียนในชัว่ โมงทแ่ี ล้วด้วยการเล่าเรอ่ื ง ทำดี…อยา่ หว่นั ไหว
๒. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี งพร้อมกนั เรอื่ ง ทำดอี ยา่ หวัน่ ไหว จากหนงั สอื เรียนภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปี

ท่ี ๓ หน้า ๖๔ – ๖๘
กระบวนการเรียนรู้
1. นกั เรยี นอา่ นออกเสยี ง อา่ นเสริม “ไตรต่ รองกอ่ นเชอ่ื ” จากหนังสือเรียนภาษาพาที ชน้ั
ประถมศึกษาปที ่ี ๓ หนา้ ๖๙ พรอ้ มกนั
2. นักเรยี นอ่านออกเสียงตามเป็นจงั หวะจนคลอ่ งโดยอ่านคนละวรรคต่อเนอ่ื งกัน

และอา่ นคนละบรรทัด
3. นักเรยี นพูดคุย สนทนา เกี่ยวกบั “ไตรต่ รองก่อนเชอ่ื ” จากความรู้ท่ไี ด้อ่านโดยตง้ั คำถาม

ดงั น้ี
- พราหมณไ์ ด้แพะมาอยา่ งไร
- สาเหตุใดพราหมณจ์ งึ ทิ้งแพะ
- ถ้านักเรยี นเป็นพราหมณ์จะทิง้ แพะหรือไม่ เพราะเหตุใด
4. นกั เรียนนำเสนอผลงาน และรว่ มกนั อภปิ ราย ซักถามเนื้อหา โดยนกั เรยี นตง้ั คำถามให้

เพ่ือน ๆ ตอบ
สรปุ กระบวนการเรยี นรู้
๑. นกั เรียนและครูร่วมกนั อภปิ ราย สรุปเนื้อหาจากการอ่านเร่ือง โดยนักเรียน ต้งั คำถามให้เพอ่ื นตอบ
พร้อมกบั เขยี นคำยากจากเรื่องและหาความหมายของคำ
2. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั การเรียนรู้ (ภาคผนวก)

78

๙. สนทนาด้วยเทคนคิ คาํ ถาม R - C - A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต

คาํ ถามเพือ่ การสะท้อน (R) คําถามเพ่อื การเชื่อมโยง (C) คําถามเพอ่ื การปรบั ใช้ (A)

- นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง - นักเรียนเคยเจอสถานการณ์ที่มี - นักเรียนจะมีวิธี ปฏิเสธในสิ่งที่

หลังจากที่ได้อ่านเรื่อง “ไตร่ตรอง ส่ิงทำให้นกั เรียนไขว้เขวจากคำพูด ค ว ร ป ฏ ิ เ ส ธ ไ ด ้ โ ด ย ไ ม ่ เ สี ย

ก่อนเชอ่ื ” คนอื่นหรอื ไม่ สัมพันธภาพ หรือ เสียน้ำใจ ได้

หรือไม่นักเรียนจะขอความ

ช่วยเหลือเมื่ออยู่ในภาวะวิกฤตได้

อย่างไร

๑๐. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
- นำเสนอผลงานเรือ่ ง “ไตร่ตรองก่อนเชือ่ ” จากความรู้ท่ีได้อา่ น

- แบบฝึกหดั เรอ่ื ง สรปุ เนื้อหาจากการอา่ นเรอ่ื ง “ไตรต่ รองก่อนเชอ่ื ”

11. สอ่ื และแหลง่ การเรียนรู้

1. บตั รคำยาก
2. ใบงาน

3. หนงั สือแบบเรียนภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เล่ม ๑ ภาษาพาที
4. แบบฝึกหดั ทกั ษะภาษา ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ติ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓
5. แบบทดสอบหลงั การเรยี นรู้

12. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

จดุ ประสงค์ วิธกี ารวดั เครอื่ งมอื วดั เกณฑ์

1. สามารถอา่ นเรือ่ งที่ สังเกตพฤตกิ รรมการอ่าน เกณฑ์การประเมนิ การ ร้อยละ 7๐ ขึ้นไป ผ่าน
เกณฑ์
กำหนดใหไ้ ด้อย่างถกู ตอ้ ง อ่าน

2. นักเรยี นสรปุ และ ตรวจแบบฝกึ หัด เกณฑก์ ารประเมนิ ร้อยละ 7๐ ขึ้นไป ผ่าน
บอกขอคิดจากเรอ่ื งที่ การสงั เกต แบบฝกึ หดั เกณฑ์
อาน
แบบประเมนิ รอ้ ยละ 7๐ ขึน้ ไป ผา่ น
3. สามารถทำงาน เกณฑ์
ร่วมกับผู้อน่ื ได้อย่างมี
ความสุข

79

บันทึกผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

ความสาํ เรจ็ ในการจดั การเรียนรู้
นักเรียนอ่านเรือ่ งทก่ี ำหนดใหไ้ ด้อย่างถกู ตอ้ ง สรุปและบอกขอคดิ จากเรอื่ งทอ่ี าน และสามารถทำงาน

รว่ มกับผู้อืน่ ได้อยา่ งมคี วามสุขได้ รอ้ ยละ 7๐ ทกุ คน จากนกั เรียนทั้งหมด 10 คน โดยมีนักเรียนบางกล่มุ ยังอา่ น
เรือ่ ง มีการเวน้ วรรคยังไมถ่ ูกตอ้ ง แตค่ ะแนนอยู่ในระดบั ท่ผี า่ นเกณฑ์

ปัญหาและอุปสรรค
นักเรยี นบางกล่มุ ยังอ่านเรื่อง มีการเวน้ วรรคยังไมถ่ กู ตอ้ ง

แนวทางแก้ไขปญั หา/อปุ สรรค
ฝึกให้ผู้เรยี นเขียนและอา่ นเวน้ วรรคพร้อมอธบิ ายถงึ ความสำคญั ของการเวน้ วรรคขอ้ ความหรือประโยคให้

ถูกตอ้ ง จะช่วยใหส้ ามารถสื่อสารไดต้ รงตามจุดประสงคข์ องเน้ือหาทต่ี ้องการสือ่ ออกมาได้ดีย่งิ ข้นึ

ลงชอ่ื ........................................................ผสู้ อน
(นางจนิ ตนา โสมาศรี)

กระจาด บัตรคำยากจากบทเรยี น 80

สารพดั โฆษณา

ขับขาน รสโอชา ละลานตา

อนนั ต์ เศรษฐี อาจิณ
ทรัพย์สิน วิตามิน ชายฉกรรจ์

ฉกฉวย กระวกี ระวาด ธนบตั ร
ความการญุ สัญญา ลบหลู่ดูหมิน่

81

แบบฝกึ หัดเรอ่ื ง “ไตรต่ รองกอ่ นเช่อื ”

โรงเรยี น.........................................................................ภาคเรียนท่ี .......... ปีการศึกษา ....................
ช่ือ.......................................................................ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓.............เลขท่ี..............
วนั ท่ี………..เดอื น………………….. พ.ศ…………..

คำชี้แจง ให้นักเรยี นอา่ นบทอา่ นเสริม เรอ่ื ง“ไตรต่ รองกอ่ นเชอ่ื ” แล้วตอบคำถามให้ถูกต้องสมบรู ณ์

๑. ใครเป็นคนอยากไดแ้ พะจากพราหมณ์

…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..

๒. พราหมณแ์ บกอะไรขณะเดนิ ทางกลบั บ้าน

…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..

๓. ใครท่ีชอบดูถูก ดหู ม่ิน เหยียดหยามคนจน

…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..………
…………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..

๔. ทำไมพราหมณ์จงึ ทิง้ แพะไว้ระหว่างเดินทาง

…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..

๕. บทร้อยกรอง เรื่อง ไตร่ตรองก่อนเชื่อ ใหข้ อ้ คิดอยา่ งไร

…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………………………..

82

แบบฝึกหดั เรอ่ื ง การอา่ นคำยาก

ชือ่ ………………………………………………………………………………………..เลขท่ี…………..….ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓
วันท…่ี ………..เดือน…………………….พ.ศ………………

คำชี้แจง ให้นักเรยี นเขยี นคำอา่ นจากคำทก่ี ำหนดให้อย่างถูกตอ้ ง
ตวั อยา่ ง สำราญ อา่ นวา่ สำ – ราน

๑. สารพดั อ่านว่า …………………………………..
๒.โฆษณา อ่านวา่ …………………………………..
๓. รสโอชา อา่ นวา่ …………………………………..
๔.พทุ รา อ่านวา่ …………………………………..

๕. สตรอวเ์ บอร์ อ่านวา่ …………………………………..
๖รี. วติ ามนิ อ่านว่า …………………………………..
อ่านว่า …………………………………..
๗. เศรษฐี

๘. ชายฉกรรจ์ อ่านวา่ …………………………………..

๙. กรรม อา่ นวา่ …………………………………..

๑๐.ธนบตั ร อ่านวา่ …………………………………..

83

แบบทดสอบหลังการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๕ เรื่อง ทำดี.......อย่าหวัน่ ไหว

โรงเรยี น................................................................ภาคเรยี นท่ี ......... ปีการศกึ ษา ....................
ช่ือ................................................................ชั้น..................เลขท.่ี ..................

คำช้แี จง นักเรียนทำเคร่ืองหมาย X ทับตวั อกั ษร ก, ข, ค, ง หนา้ คำตอบท่ีถูกทสี่ ุดเพยี งข้อเดียว

๑. ครูแก้วและครูสดใส ไปเล่านิทานให้ จอ้ ย แดง แท่ง และไฝ ในวันใด

ก. วนั อาทติ ย์ ข. วนั จันทร์

ค. วนั ศุกร์ ง. วนั เสาร์

๒. ของฝากทค่ี รแู ก้วและครูสดใส มอี ะไรบ้าง ข. ข้าว นม สบู่
ก. ขนม นม นำ้ อัดลม ง. ถูกทุกข้อ
ค. ขนม และนม

๓. ครแู ก้วเลา่ นทิ านเกยี่ วกบั ใคร ข. เศรษฐีพอ่ หมา้ ย, มา้ แสนสวย
ง. เศรษฐีพอ่ หม้าย, ลูกชาย
ก. เศรษฐีพ่อหม้าย, ลูกสาว
ค. เทพารกั ษ,์ คนตัดไม้

๔. ครูแก้วชอบทำกิจกรรมอะไรรว่ มกับเด็ก ๆ

ก. เลา่ เรือ่ งราวในอดีตสมัยเป็นเด็ก ข. ทายปัญหากบั เด็ก ๆ

ค. รอ้ งเพลงกล่อมเด็ก ง. เลา่ นทิ าน

๕. ของฝากที่ครูแกว้ และครูสดใส นำมาใครเปน็ คนซื้อมาฝาก

ก. ครแู กว้ ข. ครูสดใส

ค. ผใู้ จบุญ ง. ครูแก้วและครูสดใส

๖. ................ขึ้นเขา หนักเอาเบาสู้ ข้อใดเติมคำได้ถูกต้อง

ก. ขบั รถ ข. เดนิ เท้า

ค. เข็นครก ง. ไมม่ ขี ้อถกู

๗. อะไรเอย่ เรือนปัน้ หยา ทาสีเขยี ว นอนคนเดยี วไม่กางมุ้ง

ก. มะมว่ ง ข. มะยม

ค. ส้มโอ ง. นอ้ ยหนา่

๘. พราหมณแ์ บกอะไรในขณะเดนิ ทางกลบั บา้ น

ก. แกะ ข. ผลไม้

ค. เนอ้ื สตั ว์ ง. ปลา

๙. ปา้ ฉลองเป็นเจ้าของร้านขายอะไรบ้าง ข. ผลไม้
ง. ปลา
ก. ผัก
ค. เน้อื สตั ว์

84

๑๐. ใครท่หี น่ั ไหวไปกับคำพดู ของคนบางคน ข. ป้าฉลอง
ก. ลุงเฉลิม ง. คณุ เฉลียว

ค. เศรษฐหี ม้ายและลูกชาย

๑. ง ๒. ข เฉลย ๔. ง
๕. ค ๖. ค ๓. ง ๘. ก
๙. ข ๑๐. ค ๗. ง

85

แบบประเมินการอา่ นบทเรียน เรอื่ ง “ไตรต่ รองกอ่ นเชอื่ ”

คำชแ้ี จง กำหนดให้นกั เรียนอ่านบทรอ้ ยกรองในบทเรียน แลว้ ใช้แบบจัดอันดับคณุ ภาพ

ประเมนิ การอา่ นออกเสียงบทรอ้ ยกรองเปน็ ระดับคณุ ภาพ ๐, ๑, ๒ ในแต่ละ

รายการดังนี้ ๑. เสยี งดังชัดเจน ๔. เวน้ วรรคตอนระหวา่ งวรรคถกู ตอ้ ง

๒. ออกเสยี งคำถูกต้อง ๕. นำ้ เสยี งต่อเน่ืองเปน็ ธรรมชาติ

๓. เวน้ วรรคตอนในวรรคถูกตอ้ ง

พฤตกิ รรมทสี่ ังเกต ๑๒ ๓ ๔ ๕ สรุป
เลข
ท่ี ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ๐ ๑ ๒ ผา่ น ไม่

ชื่อ – สกลุ ผ่าน

๑
๒
๓

๔
๕
๖

๗
๘
๙
๑๐

๑๑
๑๒
๑๓

๑๔
๑๕
๑๖

๑๗
๑๘
๑๙
๒๐

๒๑

86

ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมนิ
(นางจนิ ตนา โสมาศรี)

วันท.่ี .........เดือน..............................พ.ศ. ................

87

88

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
321
อนั พงึ ประสงค์

1. รักชาติ ศาสน์ 1 มคี วามรกั และภมู ิใจในความเป็นชาติ

กษัตรยิ ์ 2 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ของศาสนา

3 แสดงออกถงึ ความจงรักภักดีตอ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์

2. ใฝห่ าความรู้ 1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ
2 มกี ารจดบนั ทกึ ความร้อู ย่างเป็นระบบ

3 สรุปความร้ไู ด้อย่างมเี หตุผล

3. มุ่งมนั่ ในการ 1 มีความตงั้ ใจ และพยายามในการทำงานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ทำงาน 2มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพื่อใหง้ านสำเรจ็

4.รักความเป็นไทย 1 มีจิตสำนึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย

2 เหน็ คุณคา่ และปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมไทย

1 รจู้ กั การใหเ้ พ่ือสว่ นรวม และเพื่อผ้อู น่ื

5.มจี ิตสาธารณะ 2 แสดงออกถงึ การมนี ้ำใจหรอื การให้ความชว่ ยเหลือผอู้ น่ื

3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมบำเพญ็ ตนเพอื่ สว่ นรวมเม่ือมโี อกาส

ลงช่อื ......................................................................ผ้ปู ระเมนิ
(นางจนิ ตนา โสมาศรี)

........... /................................/......................

เกณฑ์การให้คะแนน

- พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ตั ิชดั เจนและสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

- พฤตกิ รรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางคร้งั ให้ 1 คะแนน

89

ลงชอ่ื ...................................................ผูป้ ระเมิน
(นางจนิ ตนา โสมาศรี)
............./............/..............

90

ลงชอื่ .............................................ผู้ประเมนิ
(นางจนิ ตนา โสมาศร)ี

วันท่ี..........เดือน.......................พ.ศ. .................

91

เกณฑ์การให้คะแนน การนำเสนอผลงาน

5 คะแนน นำเสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถกู ต้อง การลำดบั ข้ันตอนของเนอื้ เร่ืองมีความ
สอดคล้องกับเนอ้ื หา การนำเสนอมคี วามนา่ สนใจสมาชิกในกลมุ่ มีส่วนร่วมและตรง
4 คะแนน ต่อเวลา
3 คะแนน นำเสนอเนื้อหาในผลงานไดถ้ กู ตอ้ ง การลำดับขน้ั ตอนของเน้ือเรอื่ งมีความ
2 คะแนน สอดคลอ้ งกับเนื้อหา การนำเสนอมคี วามน่าสนใจสมาชกิ ในกลุ่มมีสว่ นร่วม
นำเสนอเน้อื หาในผลงานได้ถูกต้อง การลำดับขั้นตอนของเนอ้ื เรอ่ื งมคี วาม
สอดคลอ้ งกบั เนื้อหา
นำเสนอเน้ือหาในผลงานได้ถูกต้อง

ลงชื่อ.................................................... ผปู้ ระเมนิ

(นางจินตนา โสมาศรี)
................ /................ /................

92