The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by komkomzax159, 2021-10-29 08:35:17

0102230601

0102230601

ห น ้ า | 47

(สำเนา)
คำสั่งกองทพั บก

(คำชีแ้ จง)
ท่ี 320/23630
เรอ่ื ง วธิ ีการซอ่ มบำรุงยุทโธปกรณส์ ายสรรพาวธุ
-------------------------------------
1. ความมุง่ หมาย
เพ่ือเป็นการขยายความในคำสั่งกองทัพบกที่ 306/25616 เร่ือง หลักการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์
สายสรรพาวุธ ลง 30 พ.ย.97 และเพ่ือให้หน่วยท่ีไดร้ ับยุทโธปกรณ์สายสรรพาวุธ ตามโครงการปอ้ งกันร่วมฯ
สามารถปฏิบัติการซ่อมบำรุงและนำยุทโธปกรณ์ส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธที่ให้การสนับสนุนได้โดยถูกต้องและ
รวดเรว็ จงึ ไดอ้ อกคำส่งั ชี้แจงฉบับน้ีไว้ให้หน่วยตา่ ง ๆ ถอื เปน็ หลักปฏิบัติตอ่ ไป
2. คำจำกดั ความ
2.1 ชงักใช้ราชการ
ได้แก่ลกั ษณะอย่างหนึ่งอยา่ งใดใน 3 ประการ ทเ่ี กดิ ข้ึนแกย่ ุทโธปกรณ์ คอื
2.1.1 ไม่ทำงานตามหนา้ ที่
2.1.2 ไมป่ ลอดภัยในการใช้งาน
2.1.3 ถ้าใชต้ ่อไปจะเสยี หายมากขนึ้
2.2 ชำรดุ ตามสภาพ
ได้แก่ลักษณะการชำรุดที่เป็นไปตามธรรมชาติของยุทโธปกรณ์น้ัน ๆ เช่น สึกหรอเพราะใช้มานาน
หรอื เสือ่ มคณุ ภาพตามระยะเวลาเป็นต้น
2.3 ชำรุดผิดปกตหิ รือสญู หาย
ได้แก่การชำรุดท่ีไม่เป็นไปตามสภาพ แต่เน่ืองจากเหตุอื่น เช่น อุบัติเหตุ ประมาท เลินเล่อ หรือ
สูญหาย
2.4 หน่วยใช้
ได้แก่หน่วยทหารทใ่ี ชย้ ุทโธปกรณส์ ายสรรพาวุธ
3. ลกั ษณะแห่งการชำรุดของยุทโธปกรณ์
ในการทย่ี ทุ โธปกรณ์ชะงักใชร้ าชการนั้น ย่อมเน่ืองมาจากลกั ษณะแหง่ การชำรดุ 2 ประการ คือ
3.1 ชำรุดตามสภาพ
3.2 ชำรดุ ผิดปกติ หรอื สญู หาย
4. การปฏิบัตเิ ม่อื ยทุ โธปกรณ์ชำรดุ หรอื ชะงักใช้ราชการ
เมื่อยุทโธปกรณ์ชำรุดหรือชะงักใช้ราชการ ให้ผู้รับผิดชอบรายงานตามลำดับ ช้ัน หรือผู้มีอำนาจส่ัง
การในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยภายใน 24 ช่ัวโมง และห้ามมิให้ใช้ยทุ โธปกรณ์ท่ีอยใู่ นสภาพงดใช้การนัน้ อีก
ต่อไป จนกว่าจะได้ทำการซ่อมบำรุงให้กลับมาอยู่ในสภาพใช้การได้เรียบร้อย ผู้มีอำนาจส่ังการในการซ่อม
บำรุงประจำหนว่ ย ไดแ้ ก่
ก. ผบ.กรม หรอื ฝอ.4
ข. ผบ.พัน. หรือ ฝอ.4
ค. ผบ.ร้อยอสิ สระ
( ข้อ ก. ข. ค. แก้ตามคำสั่ง ทบ. (คำชี้แจง) ที่ 19/7017 สั่ง ณ 5 ม.ิ ย. 05 )

ห น ้ า | 48

5. การปฏิบัติการซ่อมบำรงุ ของหน่วยใช้
เมื่อได้รับรายงานว่ายุทโธปกรณ์ชะงักใช้ราชการ ให้ผู้มีอำนาจสั่งการในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย

ปฏิบตั ิ ดังนี้
5.1 เม่ือชำรุดตามสภาพ
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงประจำหน่วยจัดการซ่อมทันที โดยใช้เครื่องอะไหล่ประจำหน่วยซ่ึง

ได้เบิกข้ันต้นมาจาก คส.สพ.ทบ. ถ้าการชำรุดนั้นต้องการเครื่องอะไหล่ ซึ่งยังอยู่ในประเภทการซ่อมบำรุง
ประจำหน่วย ( ข้ันที่ 1 - 2 ) แต่หน่วยนั้นไม่ได้รับอนุมัติให้เบิกประจำหน่วยได้ ก็ให้ทำการเบิกไปยัง
สรรพาวธุ ที่ให้การสนับสนุนทนั ที เพอ่ื นำมาทำการซ่อมตอ่ ไป

5.2 เม่อื ชำรดุ ผดิ ปกตหิ รือสญู หาย
สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุแห่งการชำรุดหรือสูญหาย เพื่อเก็บรายงานการสอบสวน

ไว้เป็นหลักฐานในการ เบกิ ทดแทน หรอื การนำส่งซ่อมภายหลงั และสัง่ การเก่ียวกับการซอ่ มบำรุงดงั เชน่ ในข้อ
ก.ต่อไป

5.3 ถา้ การชำรดุ ของยทุ โธปกรณอ์ ยูใ่ นประเภทการซ่อมบำรุงในสนาม ( ขั้น 3 - 4 )
ให้เจ้าหน้าท่ีนำยุทโธปกรณ์นั้นส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธ ท้ังน้ีห้ามมิให้หน่วยใช้ทำการซ่อมบำรุง

เกินข้ันเป็นอันขาด ในการที่จะพิจารณาว่า การชำรุดของยานยนต์อยู่ในการซ่อมบำรุงขั้นใด และเป็นหน้าท่ี
ของหน่วยใดนน้ั ให้ปฏิบัตติ ามคำสั่งชี้แจงกองทัพบกท่ี 183/14352 เร่ือง การแบง่ ข้ันการซ่อมบำรุงยานยนต์
สายสรรพาวธุ ลง
22 ก.ค.98 โดยเครง่ ครดั
6. หลักฐานการนำยุทโธปกรณส์ ง่ ซอ่ ม

หลักฐานการนำยุทโธปกรณ์สง่ ซอ่ ม ไดแ้ ก่
6.1 ใบสง่ ซ่อม ( สพ.811 )
6.2 ซองประวตั ิยทุ ธภัณฑป์ ระจำหนว่ ย ( สพ.478 ) หรอื สมุดประวัติ
6.3 รายงานยุทโธปกรณช์ ำรดุ ( ดูขอ้ 4 ) หรอื รายงานการสอบสวนให้รู้
7. ใบสง่ ซอ่ ม ( สพ.811 )
7.1 ลกั ษณะ

ใบส่งซ่อมนี้เป็นใบส่งซ่อมแบบใหม่ มี 4 แผ่น ใช้ในการส่งซ่อมยุทโธปกรณ์สาย สพ. ทุกอย่าง คือ
อาวุธ ยานยนต์ และสรรพาวุธอ่ืน ๆ แผ่นที่ 1 ( สีเหลือง ) แผ่นท่ี 2 ( สีขาว ) และแผ่นท่ี 3 ( สีฟ้า ) มี
ข้อความเหมือนกันทุกประการ และแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนส่งซ่อมอยู่มุมบนซ้าย ส่วนเหลือเป็นส่วน
สง่ั งาน แผ่นที่ 4 ( สชี มพู ) มีลักษณะแตกตา่ งจากแผ่นที่ 1 - 2 - 3 คือ ใช้เป็นใบรบั และหลักฐานของหน่วยสง่
ซ่อมในการมารับยุทโธปกรณ์ทซ่ี ่อมเสร็จจากกองสรรพาวุธท่รี บั ซ่อม

7.2 การกรอกข้อความ
7.2.1 ลงวัน, เดือน, ปี ท่ีส่งซ่อม นาม และที่ตั้งของหน่วยส่งซ่อม เลขที่ใบส่งซ่อม และวันท่ี ผู้อนุมัติให้

ส่งซอ่ มลงนาม ชนิดและหมายเลขของยทุ โธปกรณ์ รายการชำรดุ ผูอ้ นมุ ัตใิ ห้สง่ ซ่อม และผู้ส่ง ในชอ่ งวา่ งซึง่ อยู่
ในกรอบบนซ้าย ( ดูตัวอยา่ งในผนวกท้ายคำสง่ั )

7.2.2 รายการชำรุด ใหล้ งรายการชำรุดทสี่ ำคญั ๆ ไว้
7.2.3 ผู้อนุมัติให้ส่งซ่อม ได้แก่ ผู้บังคับบัญชาในข้อ 4 ทั้งน้ีให้หน่วยได้ส่งลายเซ็นไปให้กองสรรพาวุธที่
สนับสนุนไว้เป็นหลักฐาน

ห น ้ า | 49

7.2.4 ผู้ส่ง อาจเป็นนายทหาร สพ. นายทหารยานยนต์ หรือนายทหารท่ีได้รับมอบให้เป็นผู้มีสิทธิรับ
ของ และลายเซน็ อย่ทู ก่ี องสรรพาวธุ แลว้

7.2.5 ผู้รับ ให้เว้นชอ่ งว่างไว้สำหรับนายทหาร หรือนายสิบควบคุมการซ่อมของกองสรรพาวุธเป็นผู้รับ
เซน็

7.2.6 ในกรณีท่ีหน่วยใชไ้ ด้เบิกชิน้ ส่วนอะไหล่ท่ีใช้ในการซ่อมบำรุง ข้ันท่ี 2 สำหรับยุทโธปกรณ์ที่จะส่ง
ซอ่ มไปยังกองสรรพาวธุ แล้ว แต่ยงั ไม่ได้รบั ใหห้ มายเหตุทใี่ บเบกิ วันที่เบกิ ชื่อหมายเลข และจำนวนของ
ชนิ้ ส่วนอะไหลน่ ั้นไว้ขา้ งหลงั ใบสง่ ซอ่ มน้นั ดว้ ย

7.2.7 การกรอกข้อความให้ทำท้งั 4 แผ่น
7.2.8 ในขณะท่ยี งั ไม่มีใบสง่ ซอ่ ม ( สพ.811 ) ใหห้ น่วยใชใ้ บส่ง ( ย.57 ) แทน
7.3 ใบส่งซ่อมน้ีสำหรับการส่งซ่อมยานยนต์ และปืนใหญ่ ให้ทำหนึ่งชุดต่อยานยนต์ 1 คัน หรือปืนใหญ่
1 กระบอก ส่วนอาวุธเบา และเคร่ืองควบคุมการยิงชนิดเดียวกัน ให้ทำหน่ึงชุด ต่ออาวุธเบา 10 กระบอก
หรอื เครอ่ื งควบคุมการยิง 10 ชนิ้
8. ซองประวตั ยิ ุทธภัณฑ์ประจำหน่วย ( สพ.478 )

เป็นซองสำหรับเก็บประวัติในการซ่อมบำรุงยานยนต์ และยุทธภัณฑ์อื่น ๆ เช่น เคร่ืองทำไฟฟ้า
เครื่องประจุแบตเตอร่ี ฯลฯ ในขณะท่ียังไม่มีซองยุทธภัณฑ์ประจำหน่วย ให้หน่วยใช้สมุดประวัติรถยนต์
ทหารบก ( ย.46 ) เกบ็ หลักฐาน และใหส้ ง่ สมดุ ประวตั ริ ถยนตน์ มี้ าพรอ้ มกบั รถทสี่ ่งซอ่ มเสมอ
9. สมดุ ประวัตปิ ืน

เป็นสมุดสำหรับบันทึกรายละเอียดเก่ียวกับตัวปืน พร้อมทั้งสถิติในการใช้ และการซ่อมบำรุงด้วย
อาวุธในโครงการป้องกันรว่ ม ทมี่ ีสมุดประวัติไดแ้ ก่ปนื ใหญท่ ุกขนาด เครื่องยงิ ลูกระเบิดขนาด 4.2 นิว้ และปืน
ใหญไ่ ร้แรงสะท้อนถอยหลงั
10. รายงานยุทโธปกรณช์ ำรดุ และรายงานการสอบสวน

ในกรณีที่นำยุทโธปกรณ์ซึ่งชำรุดตามสภาพส่งซ่อม หน่วยใชจ้ ะต้องแนบรายงานยุทโธปกรณ์ชำรุดไป
ดว้ ย แต่ถ้าเป็นการชำรุดผิดปกติหรือสูญหาย ใชร้ ายงานการสอบสวนของคณะกรรมการแทนทั้งนี้ ผู้มีอำนาจ
สั่งการในการซอ่ มบำรุงประจำหนว่ ย จะต้องลงความเห็นในทา้ ยรายการนัน้ ด้วยเสมอ
11. การสง่ ยานยนตซ์ ่อม

ในการสง่ ยานยนต์ซ่อมให้หน่วยใช้ และกองสรรพาวธุ ท่รี ับซอ่ ม ปฏบิ ัตดิ ังน้ี
11.1 หน่วยใช้ต้องนำหลักฐานในการส่งซ่อมตามข้อ 6 ไปพร้อมกับยานยนต์ที่ส่งซ่อมเสมอ กอง
สรรพาวุธจงึ จะพจิ ารณา และรบั ทำการซอ่ มให้
11.2 หน่วยใช้จะต้องทำความสะอาดยานยนต์ให้เรียบร้อย ภายในยานยนต์ต้องไม่มีอาวุธ กระสุน
วัตถรุ ะเบดิ และเครื่องมือเครือ่ งใช้ประจำรถติดมาดว้ ย
11.3 ให้หน่วยใช้จดหมายเลข ยาง แบตเตอร่ี และสิ่งอ่ืน ๆ ที่จำเป็นไว้หลังใบส่งซ่อมเพื่อป้องกัน
การสับเปล่ยี น และการเขา้ ใจผิดภายหลังได้
11.4 หน่วยใช้ต้องทำการซ่อมบำรุงขั้นท่ี 1 - 2 เสียให้เรียบร้อย ก่อนนำยานยนต์ส่งซ่อมยังกอง
สรรพาวุธ ถ้าปรากฏว่าหน่วยใช้นำยานยนต์มาซ่อม โดยยังมีการชำรุดในการซ่อมบำรุงข้ันที่ 1 - 2 ไม่เกิน 3
รายการ ให้กองสรรพาวุธจัดท่ีและเครื่องมือที่จำเป็นให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยใช้ ไปทำการซ่อมเองได้ โดยไม่
ต้องนำยานยนต์กลับไปซ่อมที่หน่วย การปฏิบัติเช่นนี้ เฉพาะเม่ือเป็นการชำรุดเล็กน้อยเท่านั้น และหน่วยใช้
พยายามหลีกเลีย่ งมิให้มขี น้ึ ได้

ห น ้ า | 50

11.5 ในกรณีท่ีมีการชำรุดในการซ่อมบำรุงข้ันที่ 1 - 2 หลายรายการซ่ึงหน่วยใช้ไม่สามารถแก้ไขได้

เพราะขาดช้ินส่วนอะไหล่ ให้กองสรรพาวุธปฏิบตั ิดังนี้

11.5.1 ตรวจสอบหมวดส่งกำลัง ถ้าปรากฏว่าหน่วยใช้ไม่ได้เบิกช้ินส่วนอะไหล่ไป หรือไม่

ปรากฏวา่ หน่วยใช้ ได้เคยมหี ลักฐานเบิกไวเ้ ลย ให้หน่วยใชน้ ำรถกลับไปทำการซ่อม หรือใบเบกิ ช้ินส่วนอะไหล่

ไปทำการซ่อมเสียให้เรยี บรอ้ ยกอ่ น จงึ นำส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธได้

11.5.2 ถ้าหน่วยใช้ได้เคยเบิกมายังกองสรรพาวธุ แล้วตามหลกั ฐานของใบเบิก ซง่ึ หมายเหตุไว้

หลังใบสง่ ซอ่ มแตย่ ังไมไ่ ดร้ บั ไป ใหก้ องสรรพาวุธรบั ยานยนตน์ ้ันไว้ซ่อมได้

11.6 หน่วยใชต้ ้องมนี ้ำมันเชื้อเพลงิ ติดยานยนต์มาดว้ ย เพอ่ื ให้กองสรรพาวธุ ใช้ในการเดินเครื่อง และ

ทดลองวิง่ ในเมื่อทำการซ่อมแล้วเสรจ็ ตามจำนวนดงั นี้

รถยนตบ์ รรทกุ ขนาด 1/4 ตนั 20 ลิตร

รถยนตบ์ รรทุกขนาด 3/4 ตัน และ รยบ.2 1/2 ตนั 30 ลติ ร

รถฉดุ ลากและรถกขู้ นาด 5 ตนั 40 ลติ ร

รถกู้ขนาด 6 ตัน 50 ลิตร

รถกงึ่ สายพาน 60 ลติ ร

รถถัง เอ็ม 24 200 ลติ ร

รถสายพานลำเลียงพลหุ้มเกราะ เอ็ม 113 260 ลติ ร

รถถัง เอม็ 41 260 ลติ ร

11.7 ในกรณีที่ช่างตรวจยานยนต์ ตรวจพบข้อบกพร่อง เพราะหน่วยใช้ไม่ปฏิบัติการซ่อมบำรุงขั้นที่

1 - 2 ให้รายงานให้นายทหารยานยนต์ควบคุมการซ่อมทราบ เพ่ือทำหนังสือแจ้งให้ ผบ.หน่วยใช้ทราบ

ขอ้ บกพรอ่ งต่าง ๆ ที่กองสรรพาวุธไมส่ ามารถรบั ยานยนต์นนั้ ไว้ซอ่ มได้ แล้วมอบให้แก่ผ้สู ่งซ่อมไปพร้อมกับใบ

ส่งซอ่ ม

11.8 เม่ือชา่ งตรวจยานยนต์ของสรรพาวุธได้ทำการตรวจ และยอมรับไวท้ ำการซ่อมได้ ให้มอบใบส่ง

ซ่อมท้ัง 4 แผ่น พร้อมด้วยแบบฟอร์มการตรวจสภาพทางเทคนิค ( สพ.461 หรือ 462 ) ให้แก่ผู้ส่งซ่อมของ

หนว่ ยใช้รับไป ให้แก่เจ้าหนา้ ทหี่ มู่ควบคุมการซอ่ ม เพอ่ื ออกเลขงานให้นายทหาร หรือนายสบิ ควบคุมการซอ่ ม

จะมอบใบส่งซ่อมแผ่นท่ี 4 ( สีชมพู ) ให้แก่ผู้ส่งซ่อมรับไว้เป็นหลักฐานในการนำมารับยานยนต์เม่ือซ่อมเสร็จ

แล้ว และในการสอบสวนเร่อื งยานยนตท์ ส่ี ง่ ซ่อม ให้หนว่ ยใชอ้ า้ งเลขงานที่กองสรรพาวุธให้ไปนีด้ ้วยเสมอ

11.9 ให้ ผบ.กองสรรพาวธุ เปน็ ผู้พิจารณาและใหค้ วามเห็นว่า รายงานยุทโธปกรณ์ชำรดุ หรือรายงาน

การสอบสวนของคณะกรรมการทหี่ น่วยใช้สง่ มาน้นั มเี หตุผลสมควรหรอื ไม่เพียงใด ถา้ ปรากฏว่าเปน็ การชำรุด

ผิดปกติหรือสูญหาย ให้รายงานไปตามสายบังคับบัญชาจนถึงผู้มีอำนาจส่ังการจำหน่าย เพ่ือดำเนินการให้

ผู้กระทำผิดชดใช้เงินหรือลงทัณฑ์ตามแต่กรณี การดำเนินการซ่อมนั้นให้อยู่ในดุลย์พินิจของ ผบ.กอง

สรรพาวธุ วา่ จะปฏิบัตไิ ปทันที หรือรอจนกวา่ จะไดร้ ับอนุมัติจากผู้มีอำนาจส่ังการจำหน่ายเสียก่อน ท้ังนี้ย่อม

ขน้ึ แก่สถานการณ์ และความเร่งดว่ น และจะต้องไม่เสียผลแกท่ างราชการ

11.10 เมื่อได้รับแจ้งจากกองสรรพาวุธ ว่าได้ซ่อมยานยนต์เสร็จ ให้หน่วยใช้ส่งเจ้าหน้าที่ไปทำการ

ตรวจรับทันที กองสรรพาวุธจะยึดใบส่งซ่อมแผ่นท่ี 4 ( สีชมพู ) ไว้ และส่งคืนใบส่งซ่อมแผ่นที่1 ( สีเหลือง )

พร้อมด้วยแบบฟอร์มการตรวจสภาพทางเทคนิค ( สพ.461 หรือ 462 ) ให้แก่ผู้รับเพื่อเก็บไว้เป็นสถิติในการ

ซอ่ มบำรุงยานยนตน์ ้นั ๆ ในซองประวัติยทุ ธภัณฑป์ ระจำหนว่ ยต่อไป

12. การสง่ อาวธุ

ห น ้ า | 51

ให้ปฏิบตั เิ ช่นเดียวกบั การส่งซอ่ มยานยนต์ โดยใช้สมุดประวตั ิปนื เป็นหลักฐานในการส่งซ่อมแทนซอง
ประวัติยุทธภัณฑ์ประจำหน่วย เนอ่ื งจากปืนใหญ่เปน็ อาวุธท่ีมีน้ำหนักมาก ลำบากต่อการลำเลียงและอาจเกิด
การชำรุดเสียหายในระหว่างเดินทางได้ ดังน้ันจึงให้หน่วยใช้แจ้งรายการชำรุดโดยละเอียด ให้กองสรรพาวุธ
ทราบก่อนนำส่งซ่อม ในการปฏิบัติการซ่อมน้ันได้ ผบ.กองสรรพาวุธ เป็นผู้พจิ ารณาว่าจะส่งเจ้าหน้าที่ไปซ่อม
ใหท้ ี่หนว่ ยใช้ หรอื จะใหห้ น่วยใชน้ ำส่งซ่อมยังกองสรรพาวุธ

ระเบียบกองทัพบก

วา่ ดว้ ย ชิ้นสว่ นซอ่ มตามอัตราพกิ ดั และชน้ิ สว่ นซอ่ มทสี่ ะสม
พ.ศ.2512

------------------------------------
โดยท่ีเห็นเป็นการสมควร ท่ีจะกำหนดความรับผิดชอบ และระเบียบปฏิบัติเก่ียวกับการกำหนด
รายการ และจำนวนชิ้นส่วนซ่อม การจัดทำ การแจกจ่าย และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงบัญชีชิ้นส่วนซ่อมตาม
อัตราพิกัด และบัญชีชิ้นส่วนซ่อมที่สะสม จึงได้กำหนดระเบียบน้ีขึ้น เพื่อถือเป็นหลักในการดำเนินการ
เกยี่ วกับช้นิ สว่ นซอ่ มตอ่ ไป
ขอ้ 1. ระเบยี บนี้เรียกว่า “ระเบยี บกองทพั บก วา่ ด้วย ช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกดั และชิ้นส่วนซ่อมท่ี
สะสม พ.ศ.2512 ”
ข้อ 2. ให้ยกเลิก

2.1 ระเบียบกองทพั บกว่าดว้ ยชนิ้ สว่ นซอ่ มตามอตั ราพิกดั และช้ินสว่ นซ่อมทส่ี ะสมพ.ศ.2511
2.2 บรรดาระเบียบ คำสง่ั คำแนะนำ คำช้ีแจง ฯลฯ ที่ขดั แยง้ กบั ระเบยี บน้ี
ขอ้ 3. ขอบเขต
3.1 ระเบียบน้ีใช้เป็นหลักฐานสำหรับช้ินส่วนซ่อมของส่ิงอุปกรณ์ทั้งในโครงการและนอก

โครงการ
3.2 ระเบียบน้ีใชก้ ับหน่วยใช้ หน่วยสนับสนุน และคลัง ซึ่งอยู่ในสายการส่งกำลัง และซ่อม
บำรุงของกองทพั บก
ขอ้ 4. คำจำกัดความ
4.1 ชิ้นส่วนซ่อม หมายถึง องค์ประกอบ ส่วนประกอบและช้ินส่วนท่ีใช้ในการซ่อมบำรุงส่ิง
อุปกรณ์ ตามทีก่ ำหนดในค่มู อื สง่ กำลัง และ/หรือคูม่ อื เทคนิคท่มี บี ัญชีช้นิ ส่วนซ่อม
4.2 บัญชีชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด ( บชอพ.) คือ เอกสารแสดงรายการ และจำนวน
ชิ้นส่วนซ่อมซึ่งอนุมัติให้หน่วยใช้สะสมไว้ เพ่ือสนับสนุนขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย ( ขั้น
1–2)
4.3 ช้ินสว่ นซ่อมตามอัตราพิกัด ( ชอพ.) คือ ชน้ิ ส่วนซ่อมสำหรบั การซ่อมบำรุงประจำหน่วย
ซ่ึงอนมุ ัติใหห้ นว่ ยใชส้ ะสมไว้ได้ตามบัญชีช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด
4.4 ชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพกิ ัดรวม คือ ชิ้นส่วนซ่อมท่ีใช้ในการซ่อมบำรุงยทุ ธภัณฑ์ไดต้ ั้งแต่
2 ชนดิ ข้ึนไป
4.5 บัญชีชิ้นส่วนซ่อมที่สะสม ( บชสส.) คือ เอกสารแสดงรายการชิ้นส่วนซ่อมซ่ึงต้องการ
ให้หน่วยสนับสนุนโดยตรง และหน่วยสนับสนุนท่ัวไป สะสมไวเ้ พื่อสนับสนุนหน่วยใช้ และหน่วยสนับสนุนใน
สายงานส่งกำลังบำรุง
4.6 หนว่ ยใช้ หมายถงึ หน่วยซง่ึ ไดร้ ับประโยชน์จากการใชส้ ่ิงอปุ กรณ์นัน้ โดยตรง
4.7 หน่วยสนบั สนนุ โดยตรง หมายถึง หนว่ ยของสายงานฝา่ ยยทุ ธบรกิ าร ซงึ่ มี

ห น ้ า | 52

ภารกิจสนับสนุนในดา้ นการส่งกำลงั และ/หรอื การซอ่ มบำรงุ ตอ่
4.7.1 หนว่ ยในอัตราการจัดของหนว่ ยระดับกองพล
4.7.2 หนว่ ยอนื่ ๆ ภายในพน้ื ทีซ่ ึง่ ไดร้ ับมอบหมายให้สนับสนุน

4.8 หน่วยสนับสนุนทั่วไป หมายถึง หน่วยของสายงานฝ่ายยุทธบริการ ซึ่งมีภารกิจ
สนับสนุนดา้ นการสง่ กำลงั และ/หรือการซอ่ มบำรงุ ต่อ

4.8.1 หน่วยสนับสนุนโดยตรง
4.8.2 หน่วยอน่ื ๆ ภายในพ้ืนทซ่ี ง่ึ ไดร้ ับมอบหมายให้สนับสนนุ
4.9 คลัง หมายถึง หน่วยท่ีมีความรับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจ อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ
หลายอย่างในเรื่อง ความต้องการ การควบคุม การจัดหา การตรวจ การแยกประเภท การแจกจ่าย การซ่อม
บำรุง และจำหนา่ ยส่ิงอุปกรณ์
4.10 คลังแจกจ่าย หมายถึง คลังสายงาน คลังท่ัวไป คลังกองบัญชาการช่วยรบ และคลัง
ส่วนภูมิภาค ซึ่งดำเนินการสะสมและแจกจ่ายสิ่งอุปกรณ์ โดยปกติจะแบ่งเป็นหน่วยบัญชีคุม และคลังเก็บ
รักษา
4.11 คลังสายงาน หมายถึง คลังซ่ึงกรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษไดจ้ ัดต้ัง
ขน้ึ เพื่อดำเนินการสะสม และแจกจ่ายสิง่ อุปกรณ์
4.12 คลังท่ัวไป หมายถึง คลังของหน่วยบัญชาการ ซึ่งใช้สำหรับดำเนินการเก่ียวกับส่ิง
อปุ กรณ์ และยทุ ธภณั ฑ์ ในความรบั ผดิ ชอบของกรมฝา่ ยยุทธบรกิ ารต่าง ๆ อย่างนอ้ ย 2 กรมฝ่ายยุทธบรกิ าร
4.13 คลังกองบัญชาการช่วยรบ หมายถึง คลังซ่ึงกองบัญชาการช่วยรบได้จัดต้ังข้ึนเพื่อ
ดำเนนิ การสะสม และแจกจ่ายสิ่งอปุ กรณ์
4.14 คลังส่วนภูมิภาค หมายถึง คลังซ่ึงมณฑลทหารบก หรือจังหวัดทหารบกได้จัดต้ังขึ้น
เพื่อดำเนินการสะสม และแจกจ่ายสง่ิ อปุ กรณใ์ หแ้ กห่ น่วยใช้ภายในเขตพื้นที่ที่รับผดิ ชอบ
4.15 คลังเก็บรักษา หมายถึง คลังซึ่งดำเนินการเก็บรักษาสิ่งอุปกรณ์ที่ได้รับอนุมัตใิ ห้สะสม
ไว้เพ่ือการแจกจ่ายดำเนินไปดว้ ยดี
ข้อ 5. ความรับผดิ ชอบ
5.1 กบทบ.
5.1.1 กำหนดนโยบายและหลักการในการจัดทำบัญชีช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด
และบัญชีชน้ิ ส่วนซอ่ มที่สะสม
5.1.2 จัดทำ แก้ไข ปรับปรุง แบบธรรมเนียมเกี่ยวกับชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด
และช้ินส่วนซ่อมท่ีสะสม เพื่อให้ ทบ.สามารถควบคุมการปฏบิ ัติของหน่วยที่เกี่ยวข้องได้ และให้สอดคล้องกับ
นโยบาย หรือหลกั การที่อาจเปล่ยี นแปลงไป
5.1.3 กำกับดูแลหน่วยต่าง ๆ ท่ีมีหน้าที่รับผิดชอบซึ่งระบุไว้ในระเบียบนี้ เพ่ือให้
การปฏิบัติงานไปตามมุ่งหมายทก่ี ำหนดไว้
5.2 กรมฝ่ายยุทธบรกิ าร
5.2.1 จดั หาชนิ้ ส่วนซ่อม
5.2.2 ควบคุม กำกับดูแล คลังกรมฝ่ายยุทธบริการ หน่วยสนับสนุนท่ัวไป หน่วย
สนับสนุนโดยตรงในสายงานของตน เพื่อให้ปฏิบัติตามนโยบาย และหลักการเก่ียวกับการสะสม และการส่ง
กำลังชนิ้ สว่ นซ่อม

ห น ้ า | 53

5.2.3 อำนวยการ จัดทำ และแจกจ่าย บญั ชชี ้ินส่วนซอ่ มตามอัตราพกิ ัด และบัญชี
ชิน้ ส่วนซอ่ มที่สะสม

5.3 คลงั
5.3.1 จัดทำบัญชีช้ินส่วนซ่อมตามอัตราพิกัดขั้นต้นของหน่วยใช้ เฉพาะรายการ

ยุทธภัณฑ์ซ่งึ อยู่ในความรับผดิ ชอบของตน แลว้ แจกจา่ ยให้คลัง หนว่ ยสนบั สนนุ และหน่วยใช้ทีเ่ กีย่ วข้อง
5.3.2 สะสมชนิ้ ส่วนซอ่ มเฉพาะรายการท่ีอยู่ในความรับผิดชอบไวใ้ นปริมาณ

ทเ่ี พียงพอสำหรับสนับสนนุ หนว่ ยซงึ่ ตนมภี ารกจิ ต้องใหก้ ารสนับสนนุ หนว่ ยใช้โดยตรง
5.3.3 อนุมัติการเปลี่ยนแปลงบัญชีชิ้นส่วนซ่อมตามอัตราพิกัด ตามเกณฑ์ความ

ต้องการของหน่วยใช้ ในกรณที ท่ี ำหน้าท่ีสนบั สนุนหนว่ ยใช้โดยตรง
5.4 หนว่ ยสนบั สนุนโดยตรง
5.4.1 อนมุ ตั ิการเปลีย่ นแปลง บชอพ. ตามเกณฑค์ วามต้องการของหน่วยใช้
5.4.2 ทำ บชสส.ของตนและแก้ไขใหต้ รงกบั เกณฑค์ วามตอ้ งการในปัจจุบนั
5.4.3 สะสมชิ้นสว่ นซอ่ มตาม บชสส.
5.4.4 เสนอ บชสส. และการแก้ไขให้หน่วย หรอื คลงั ท่สี นบั สนนุ ทราบ
5.5 หน่วยสนับสนนุ ท่วั ไป
5.5.1 ทำ บชสส.ของตนและแก้ไขใหต้ รงกับเกณฑ์ความต้องการในปจั จุบนั
5.5.2 สะสมช้ินสว่ นซ่อมตาม บชสส.
5.5.3 เสนอ บชสส. และการแกไ้ ขใหห้ น่วย หรือคลงั ท่สี นบั สนุนทราบ
5.6 หน่วยใช้
5.6.1 สะสมชน้ิ ส่วนซ่อมตาม บชอพ.
5.6.2 จดั หา และเกบ็ รักษา บชอพ. ไว้ใหพ้ รอ้ มทจ่ี ะใช้ และรบั ตรวจได้เสมอ
5.6.3 จดั ทำ บชอพ.รวมของหน่วย ( ตามผนวก ก )
5.6.4 บนั ทกึ ข้อมลู สง่ กำลังชนิ้ ส่วนซอ่ มลงในแผนเก็บของ และสำรวจยอด ทบ.400

– 068 ( ตามผนวก ข ) ทกุ คร้งั ท่มี กี ารเบกิ รับ และจ่าย
5.6.5 สอบทานความต้องการช้ินส่วนซ่อมจากแผนเก็บของ และสำรวจยอดถ้ามี

การเปลี่ยนแปลงไปจาก บชอพ. ก็แจ้งไปยังหน่วยสนับสนุนโดยตรงเพ่ือขออนุมัติเปล่ียนแปลงแก้ไขให้ตรงกับ
ความตอ้ งการท่คี ำนวณได้

ขอ้ 6. การปฏบิ ัตเิ กีย่ วกบั ชอพ.
6.1 การจัดทำ บชอพ.ขน้ั ตน้ และการแจกจา่ ย
6.1.1 คลงั ใช้แบบพมิ พ์ ทบ.400 - 065 บญั ชชี น้ิ ส่วนซอ่ มตามอัตราพกิ ดั

( ผนวก ก )
6.1.2 ชอพ.ขั้นต้นสำหรับ 15 วันส่งกำลัง ใช้รายการ และจำนวนช้ินส่วนซ่อม

ตามท่ีระบุไว้ในคู่มือส่งกำลัง หรือคู่มือเทคนิค สำหรับจำนวนน้ัน ถ้าคู่มือดังกล่าวข้างต้นแสดงความส้ินเปลือง
ตอ่ ยทุ ธภณั ฑ์ 100 ช้นิ ไว้ ก็คำนวณโดยใช้สตู ร

จำนวนเกณฑส์ งู ในชอ่ งจำนวนยทุ ธภณั ฑใ์ บแ1บ0บ0ทบ.400-066 X ความส้ินเปลือง
= ระดับสะสมท่อี นุมตั ิ
ผลลัพธ์ท่ีได้ใช้จำนวนเต็ม ทศนิยมต้ังแต่ .5 ข้ึนไป ปัดเศษเป็น 1 ต่ำกว่านั้นปัดเศษเป็น 0 เช่น
จำนวนความสนิ้ เปลืองในคมู่ อื สง่ กำลงั และคมู่ อื เทคนิค = 5 มยี ุทธภณั ฑ์อยู่ 44 ช้ิน

ห น ้ า | 54

ระดับสะสมทีอ่ นมุ ตั ิ = 50 X 5 = 2.5 ( ป1ดั 0เศ0ษ .5 เปน็ 1 ) = 3
6.1.3 รายการท่ีมีความสำคัญต่อการรบ ใช้ตามคู่มือส่งกำลัง และ/หรือ คู่มือ

เทคนิค และใหท้ ำเครือ่ งหมายดอกจันทร์ไวใ้ นชอ่ งรายการท่ีสำคญั ตอ่ การรบของ บชอพ. ด้วย
6.1.4 คลังสายงาน แจกจ่าย บชอพ.ขั้นต้น ซ่ึงจัดทำข้ึนตามข้อ 5.3.1 ให้แก่หน่วย

ใช้ หนว่ ยสนับสนนุ และคลังสายงานอ่ืนท่ีเกีย่ วข้อง
6.2 การปฏิบัตขิ องหน่วยใช้เมอ่ื ไดร้ ับ บชอพ.ขน้ั ต้น
6.2.1 ตรวจสอบรายการและจำนวนชน้ิ ส่วนซอ่ มที่มี คงคลังรวมค้างรับกบั บชอพ.

ขั้นต้นที่ได้รับ แล้วเบิก ส่งคืน หรือแจ้งยกเลิกค้างรับ เพ่ือให้มีรายการและจำนวนคงคลังรวมค้างรับ ของ
ช้ินสว่ นซ่อมตรงกับ บชอพ.นั้น ท้ังน้ตี อ้ งดำเนินการใหเ้ สรจ็ ส้นิ ภายใน 30 วนั นบั จากวนั ทไี่ ดร้ บั บชอพ.ขนั้ ต้น

6.2.2 ทำ บชอพ.รวมดว้ ยแบบพิมพ์ ทบ.400-066 โดยใช้ บชอพ.ขั้นตน้ เปน็
มลู ฐาน และแยกสำหรับแตล่ ะสายยุทธบรกิ าร แล้วเสนอหน่วยหรอื คลังท่ีสนบั สนนุ โดยตรงไว้เป็นหลกั ฐาน

6.2.3 ใช้ ชอพ.ทำการซ่อมบำรุงประจำหน่วย แล้วเบิกทดแทนให้เต็มระดับอยู่
เสมอ

6.2.4 เก็บเอกสารต่าง ๆ เก่ียวกับชิ้นส่วนซ่อม และ บชอพ. ไว้เป็นหลักฐานใน
สำนกั งานของหน่วย และใหพ้ รอ้ มท่จี ะรบั ตรวจได้

6.3 การทำบัญชีคุม ทุกหน่วยที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย บันทึก
สถานภาพและข้อมูลการส่งกำลังของชิ้นส่วนซ่อมทุกรายการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในการซ่อมบำรุง ลงในแผน
เกบ็ ของและสำรวจยอด ( ทบ.400-068 ) ดังน้ี

6.3.1 สำหรับ ชอพ. คงบันทึกตามวิธีเขียนใน ผนวก ข และหมายเหตุคำว่า
“ชอพ.” ด้วยสีแดงไว้มมุ บนซ้าย

6.3.2 สำหรับชิ้นส่วนซ่อมที่ไม่ใช่ ชอพ. แต่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในการซ่อมบำรุง
ประจำหน่วยได้ โดยบันทกึ ตามวิธีเขียนใน ผนวก ข ยกเวน้ ช่องท่เี ก็บและชอ่ งระดับสะสมทอ่ี นุมัติ

6.4 การสอบทานความต้องการ เพ่ือปรับปรุง บชอพ. ให้มีรายการ และจำนวนของ ชอพ.
ได้สมดุลกับความต้องการในการซ่อมบำรุงประจำหน่วย ให้หน่วยที่รับผิดชอบการซ่อมบำรุงประจำหน่วย
ปฏิบตั ดิ งั นี้

6.4.1 ชอพ.ให้สอบทานแผนเก็บของและสำรวจยอดทุกรอบเดือน เพ่ือทราบ
ความถ่ีและจำนวนของความต้องการทดแทนในห้วง 6 เดือนที่แล้วมา และขีดเส้นแดงในแผนเก็บของและ
สำรวจยอดใตบ้ ันทึกสุดทา้ ยของรอบเดือนทางดา้ นขวามอื

6.4.2 ช้ินส่วนซ่อมที่ไม่ปรากฏใน บชอพ. แต่คู่มือส่งกำลังหรือคู่มือเทคนิคอนุมัติ
ให้เบิกไปใช้ในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยได้ เช่น รายการที่มีเคร่ืองหมายแสดงไว้ว่า “ตามความต้องการ”
หรือรายการท่ีกำหนดระดับสะสมไว้ แต่ผลของการคำนวณโดยถือจำนวนยุทธภัณฑ์เป็นหลัก ได้ผลลัพธ์ต่ำ
กว่า 0.5 น้ัน ถ้าปรากฏว่ามีความถ่ีของความต้องการทดแทนตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปในห้วง 6 เดือนที่แล้วมา
เม่ือใด ใหส้ อบทานความตอ้ งการตามข้อ 6.4.1 ได้

6.5 การเพิ่ม และการตดั รายการใน บชอพ.
6.5.1 การเพิ่มรายการชิ้นส่วนซ่อมท่ีไม่ปรากฏใน บชอพ. แต่คู่มือส่งกำลังหรือ

คู่มือเทคนิคอนุมัติไปใช้ในการซ่อมบำรุงประจำหน่วยได้ ถ้ารายการใดมีความถ่ีของความต้องการทดแทน
ตั้งแต่ 3 คร้ังข้ึนไปในห้วง 6 เดือนที่แล้วมา ให้คำนวณระดับสะสมท่ีอนุมัติ โดยนำจำนวนรวมท่ีต้องการของ
ความต้องการทดแทนในห้วง 6 เดอื นทแี่ ลว้ มา ไปค้นหาระดับสะสมทอ่ี นุมตั ิจาก

ห น ้ า | 55

ตาราง ผนวก ค วิธีหา ดูตัวอย่างท้ายผนวก ค และเสนอขอเพิ่มรายการน้ันต่อหน่วยสนับสนุนโดยตรง เมื่อ
ได้รับอนมุ ตั แิ ล้ว ให้เพม่ิ รายการนั้นลงใน บชอพ. และทำการเบกิ ใหเ้ ต็มระดับสะสมทอี่ นมุ ัติ

6.5.2 การตัดรายการ ชอพ.รายการใด เมื่อมีการบันทึกความต้องการทดแทนใน
แผนเก็บของและสำรวจยอด ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป และมีความถี่ของความตอ้ งการทดแทนตำ่ กวา่ 3 ครั้งใน
หว้ ง 6 เดอื นที่แลว้ มา ให้ขอตดั รายการนั้นต่อหนว่ ยสนับสนุนโดยตรง เมื่อไดร้ บั อนมุ ัตแิ ล้ว ให้ตัดรายการนั้น
ออกจาก บชอพ.ได้ ชอพ. รายการทีม่ ีความสำคัญต่อการรบ แม้วา่ จะมีความถ่ีของความต้องการทดแทนไม่ถึง
3 ครง้ั ในห้วง 6 เดือนทแ่ี ล้วมา ไม่ต้องตดั รายการนน้ั ออก คงสะสมไว้ได้จำนวน 1 หนว่ ยนับ เมือ่ ตัดรายการ
ชอพ. ออกจาก บชอพ.แล้ว ใหส้ ง่ คนื และ/หรอื ยกเลิกค้างรับต่อหน่วยสนบั สนนุ โดยตรงดว้ ย

6.6 การเพมิ่ และการลดระดับสะสมท่ีอนมุ ัติใน บชอพ.
6.6.1 การเพ่ิมระดับสะสมที่อนุมัติ ชอพ. รายการใดที่มีความถ่ีของความต้องการ

ทดแทนตั้งแต่ 3 ครั้งข้ึนไปในห้วง 6 เดอื นที่แล้วมา ให้คำนวณระดับสะสมที่อนมุ ัติตามวธิ ีในข้อ 6.5.1 ถ้าได้
ผลลัพธ์สูงกว่าใน บชอพ. ให้ขอเพิ่มระดับสะสมนั้นต่อหน่วยสนับสนุนโดยตรง เม่ือได้รับอนุมัติแล้วจึงเพ่ิม
ระดับสะสมใน บชอพ.ได้ และเบิกให้เต็มระดับสะสมที่อนุมัติเว้น ชอพ.ค่าควรซ่อม ซึ่งกำหนดให้ทำการ
แลกเปลย่ี นโดยตรง หรอื ชอพ.ท่ีคลังสายงานรับผดิ ชอบการส่งกำลงั กำหนดไว้ว่าไมใ่ ห้เพิ่มระดบั สะสมเกินกว่า
ทอ่ี นุมัติไวใ้ น บชอพ.ขนั้ ต้น

6.6.2 การลดระดับสะสมที่อนุมัติ ชอพ. รายการใดถ้ามีความถ่ีของความต้องการ
ทดแทนต้ังแต่ 3 คร้ังขึ้นไปในห้วง 6 เดือนท่ีแล้วมา ให้คำนวณระดับสะสมท่ีอนุมัติเช่นเดียวกับ ข้อ 6.5.1
ถ้าต่ำกว่าที่กำหนดไว้ใน บชอพ.ให้ขอลดระดับสะสมต่อหน่วยสนับสนุนโดยตรง เมื่อได้รับอนุมัติแล้วจึงลด
ระดับสะสมในรายการนั้นใน บชอพ.ได้ การลดระดับสะสมท่ีอนุมัติของ บชอพ.ลงต่ำกว่าท่ีกำหนดใน บชอพ.
ขั้นต้น ให้กระทำได้เมื่อมีข้อมูลความต้องการทดแทนในแผนเก็บของและสำรวจยอดต้ังแต่ 12 เดือนขึ้นไป
และส่งคืน และ/หรือยกเลกิ คา้ งรับต่อหนว่ ยสนับสนุนโดยตรง

6.7 ข้อยกเว้น
6.7.1 ชอพ. รายการใดเป็น สป. ล้าสมัย หรือหน่วยใช้ไม่มียุทธภัณฑ์ท่ีใช้ ชอพ.

รายการน้ันสำหรับการซ่อมบำรุงประจำหน่วยอีกแล้ว ให้หน่วยใช้ส่งคืนทันที และตัด ชอพ.รายการนั้นออก
จาก บชอพ.ได้โดยอัตโนมัติ

6.7.2 ชอพ.รายการใดมีความตอ้ งการทดแทนไม่ถึง 3 ครั้งในห้วง 6 เดือนที่แล้ว
มา เน่ืองจากยุทธภัณฑ์ไม่ได้ใช้งาน เช่น งดใช้การ ฯลฯ หรือ ชอพ.นั้นมีความตอ้ งการเฉพาะฤดูกาล ให้สะสม
ไวไ้ ด้เทา่ กับจำนวนคงคลังทีม่ ีอยู่ แตไ่ ม่เกินระดับสะสมท่ีอนุมัตคิ ร้งั สุดท้าย

6.7.3 เม่ือได้รับแจ้งการเปลี่ยนแปลงหมายเลขส่ิงอุปกรณ์ และ/หรือรายการจาก
หน่วยสนับสนุนโดยตรง ให้หน่วยใช้แก้ไข บชอพ. กับแผนเก็บของและสำรวจยอดได้โดยอัตโนมัติ เพื่อใช้
สำหรับเบกิ คราวตอ่ ไปดว้ ย

6.8 วธิ ีปรบั ปรงุ บชอพ.ตามขอ้ 6.5 และ 6.6
6.8.1 หน่วยใช้ ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-066 ตามผนวก ก เขียนเฉพาะรายการที่

ต้องการปรับปรุง บชอพ. เสนอหน่วยสนับสนุนโดยตรง จำนวน 2 ชุด ภายใน 15 วัน นับต้ังแต่วันท่ีทำการ
สอบทานความต้องการ

6.8.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง ตรวจสอบหมายเลขส่ิงอุปกรณ์ รายการขั้นการ
ซอ่ ม และความตอ้ งการทขี่ อปรับปรุง บชอพ. เมอ่ื เหน็ วา่ ถูกตอ้ งแล้ว ใหห้ ัวหน้าหนว่ ยสนบั สนุนโดยตรง หรือผู้

ห น ้ า | 56

ที่ได้รับมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษร ลงนามอนุมัติ แล้วส่งคืนให้หน่วยที่เสนอมา จำนวน 1 ชุดภายใน
30 วัน นบั แตว่ ันทีไ่ ด้รับ

6.8.3 เมื่อไดร้ ับหลกั ฐานทอ่ี นุมตั แิ ล้ว ใหแ้ ก้ไข บชอพ.ไดต้ ามอนุมตั ิ
6.9 การปฏบิ ตั เิ พ่มิ เติมจากการปรบั ปรงุ บชอพ.

6.9.1 การเพิ่มรายการ และการเพ่มิ ระดบั สะสมท่ีอนุมตั ิ
6.9.1.1 เพ่มิ ระดับสะสมท่ีอนุมัตใิ นแผนเก็บของและสำรวจยอด
6.9.1.2 ตรวจสอบจำนวนคงคลัง ค้างรับ และค้างจ่ายเปรียบเทียบกับ

ระดับสะสมทีอ่ นมุ ตั ิ ถ้าจำเปน็ ให้เบกิ ทดแทนจากหน่วยสนบั สนุน เพ่ือให้เต็มระดบั ระดับสะสมที่อนมุ ัติ
6.9.2 การตัดรายการ และการลดระดบั สะสมที่อนมุ ัติ
6.9.2.1 ลดระดับสะสมทอี่ นมุ ตั ใิ นแผนเก็บของและสำรวจยอด
6.9.2.2 ตรวจสอบจำนวนคงคลัง ค้างรับ และค้างจ่ายเปรียบเทียบกับ

ระดับสะสมท่ีอนุมัติ ถ้าจำเป็นให้ส่งคืน และ/หรือยกเลิกค้างรับต่อหน่วยสนบั สนุนโดยตรง เพอ่ื มิให้เกินระดับ
สะสมทอ่ี นุมตั ิ

ขอ้ 7. การปฏิบัตเิ กย่ี วกับชิ้นสว่ นซอ่ มท่สี ะสม ( ชสส.)
7.1 หลกั เกณฑใ์ นการสะสม
ชนิ้ ส่วนซอ่ มรายการใดท่ีเข้าหลกั เกณฑใ์ นการสะสมต่อไปนใี้ ห้จัดไวเ้ ปน็

พวก ชสส. และต้องทำ บชสส. ได้แก่
7.1.1 ชิ้นส่วนซ่อมที่มีความถ่ีของความตอ้ งการประจำตั้งแต่ 3 คร้ังข้ึนไป ในห้วง

ควบคมุ 12 เดอื น ( 360 วัน )
7.1.2 ชิ้นส่วนซ่อมที่มีความถี่ของความต้องการประจำต่ำกว่า 3 ครั้งในห้วง

ควบคมุ 12 เดอื น ( 360 วัน ) แตเ่ ป็นรายการทีจ่ ำเป็นตอ่ ภารกจิ รวมทง้ั รายการตอ่ ไปน้ี คอื
7.1.2.1 ชอพ.ของหน่วยซึ่งตนมีภารกิจให้การสนบั สนุน
7.1.2.2 ชสส.ของหนว่ ยซงึ่ ตนมีภารกจิ ใหก้ ารสนับสนุน
7.1.2.3 ชิ้นส่วนซ่อม ที่อนุมัติให้สะสมไว้ได้ โดยจำนวนตามคู่มือส่งกำลัง

หรือคมู่ อื เทคนคิ ทม่ี บี ัญชีชิ้นสว่ นซ่อม เพอ่ื ประกนั ได้วา่ ยุทธภณั ฑ์ในความสนับสนุนสามารถนำไปใชง้ านได้โดย
ตอ่ เนอื่ ง

7.1.2.4 องค์ประกอบของยุทธภัณฑ์ ท่ีกรมฝ่ายยุทธบริการอนุมัติให้
หน่วยสนับสนุนในการส่งกำลังสะสมไว้ เพ่ือจ่ายทดแทนองค์ประกอบท่ีชำรุดซ่อมของยุทธภัณฑ์ เม่ือหน่วย
สนบั สนนุ การซ่อมบำรุงไมส่ ามารถซอ่ มยทุ ธภัณฑท์ ช่ี ำรดุ ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ทนั ความต้องการ

7.1.2.5 ชิ้นส่วนซ่อมควบคู่ ที่จัดให้โดยอัตโนมัติที่หน่วยจ่ายส่งให้เพ่ือ
สนบั สนนุ ยทุ ธภณั ฑร์ ายการใหม่

7.1.2.6 ชน้ิ ส่วนซอ่ มตามบัญชีแลกเปล่ยี นโดยตรง ซึ่งกรมฝา่ ยยุทธบริการ
อนมุ ัตใิ หส้ ะสม

7.1.2.7 ชิ้นส่วนตามบัญชีสะสม ของโรงงานซ่อมบำรุงของหน่วย
สนบั สนนุ

7.2 การจดั ทำบญั ชีชน้ิ สว่ นซ่อมท่ีสะสม ( บชสส.)

ห น ้ า | 57

7.2.1 หน่วยสนับสนุนโดยตรง และหน่วยสนับสนุนท่ัวไป จัดทำ บชสส.โดยใช้
แบบพิมพ์ ทบ.400-069 บัญชชี ้ินส่วนซ่อมท่ีสะสม ( ผนวก ง ) และเสนอให้หน่วย หรือคลังที่สนับสนุนทราบ
เพอื่ เป็นหลักฐาน

7.2.2 เม่ือมีการปรับปรุง บชสส. ให้จัดทำใหม่ทุก ๆ ปี และเสนอให้หน่วย หรือ
คลังท่สี นับสนนุ ทราบภายใน ม.ค. ของทุกปี

7.3 การสอบทานความต้องการเพ่ือปรับปรุง บชสส. ให้มีรายการ ชสส.ไดส้ มดลุ ย์กับความ
ตอ้ งการในการสง่ กำลัง และ/หรอื การซ่อมบำรุง ใหป้ ฏิบตั ิดงั นี้

7.3.1 ชสส. ที่สะสมโดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามข้อ 7.1.1 ให้สอบทานบัตรบัญชีคุม
ทบ.400-003 ในช่องในความต้องการประจำทุกรอบเดือน เพื่อให้ทราบความถ่ีของความต้องการประจำใน
หว้ งควบคุม และขีดเส้นแดงใตบ้ ันทกึ สุดทา้ ยของรอบเดอื นท่ีสอบทานนน้ั ทกุ คร้งั

7.3.2 ชสส.ที่สะสมโดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามข้อ 7.1.2 และชิ้นส่วนซ่อมท่ียังไม่
เข้าเกณฑ์ในการสะสมตามข้อ 7.1.1 ให้สอบทานทุกคร้ังที่บันทึกความต้องการประจำลงในบัตรบัญชีคุม
ทบ.400-003 เม่อื มคี วามต้องการประจำถึง 3 คร้ังในหว้ งควบคมุ เม่อื ใด ใหค้ ำนวณและกำหนดเกณฑเ์ บกิ ดว้ ย

7.4 การเพิม่ และตดั รายการใน บชสส.
7.4.1 การเพ่ิมรายการชิ้นส่วนซ่อมที่ไม่ปรากฏใน บชสส. แต่คู่มือส่งกำลัง หรือ

คู่มือเทคนิคท่ีมีบัญชีช้ินส่วนซ่อมอนุมัติให้เบิกไปสะสมไว้ เพื่อภารกิจในการสนับสนุนได้ ถ้ารายการใดเข้า
หลักเกณฑ์สะสมตามข้อ 7.1 อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้เพิ่มรายการนั้นใน บชสส. ได้ และให้ใช้แบบพิมพ์
ทบ.400-069 บัญชีช้ินส่วนซอ่ มท่ีสะสม ( ผนวก ง ) เสนอใหห้ นว่ ย หรอื คลังท่ีสนับสนุนทราบเฉพาะรายการที่
เพิ่มภายใน 1 เดอื น

7.4.2 การตดั รายการ
รายการต่อไปน้ีต้องตัดออกจาก บชสส.
7.4.2.1 ชสส.ท่ีสะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.1 ถ้าปรากฏว่าในห้วง

ควบคมุ ใดไมม่ คี วามตอ้ งการเลย และไมเ่ ข้าหลักเกณฑต์ ามข้อ 7.1.2 ด้วย
7.4.2.2 ชสส. ที่สะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.1 ถ้าหากหน่วยใช้ไม่มี

ความต้องการอีกต่อไป
7.4.2.3 ชสส. ทสี่ ะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.2 ถ้าหากหน่วยซ่ึงตนมี

ภารกิจใหก้ ารสนับสนุนไมม่ คี วามตอ้ งการอีกต่อไป
7.4.2.4 ชสส. ที่สะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.3 ถ้าหากคู่มือส่งกำลัง

หรือคู่มือเทคนิค มกี ารแก้ไขโดยตัดรายการนน้ั ออก
7.4.2.5 ชสส. ท่ีสะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.4 ถ้ากรมฝ่ายยุทธ

บรกิ ารท่ีอนุมัตใิ หส้ ะสมแจ้งการแกไ้ ขโดยยกเลกิ การอนุมตั ิ
7.4.2.6 ชสส. ที่สะสมตามหลกั เกณฑใ์ นข้อ 7.1.2.5 เมือ่ สะสมไว้ครบตาม

เวลาของหว้ งควบคุมแล้ว และไมเ่ ขา้ หลกั เกณฑอ์ ยา่ งใดตามข้อ 7.1
7.4.2.7 ชสส. ที่สะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.6 ถ้ากรมฝ่ายยุทธ

บรกิ ารทอ่ี นุมัติใหส้ ะสมแจ้งการแกไ้ ขโดยยกเลกิ อนมุ ัติ
7.4.2.8 ชสส. ท่ีสะสมตามหลักเกณฑ์ในข้อ 7.1.2.7 ถ้าโรงงานซ่อมบำรุง

ของหน่วยสนบั สนนุ ไมต่ ้องการอกี ต่อไป

ห น ้ า | 58

การตัดรายการใน บชสส. ให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-069 บัญชีช้ินส่วนซ่อมท่ีสะสม
( ผนวก ง ) เสนอใหห้ นว่ ยหรือคลงั ที่สนบั สนนุ ทราบเฉพาะรายการทีต่ ัดออกภายใน 1 เดอื น

ข้อ 8. ให้กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ท่ีรับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ ออกระเบียบ
ปลกี ยอ่ ยได้ตามความจำเปน็ โดยไมข่ ัดกับระเบียบน้ี

ข้อ 9. ให้กรมส่งกำลงั บำรุงทหารบก รักษาการให้เปน็ ตามระเบียบน้ี
ข้อ 10. ใหใ้ ช้ระเบียบน้ี ตงั้ แต่บัดน้เี ปน็ ต้นไป

หมายเหตุ แบบพิมพ์ “แผนเก็บของและสำรวจยอด ทบ.400-068” ให้ เปลยี่ นช่อื เปน็
“บตั รบญั ชีคุมช้นิ สว่ นซ่อม และสง่ิ อุปกรณ์ใช้สน้ิ เปลือง ทบ.400-068”
เพือ่ ให้เป็นไปตามระเบียบ ทบ.ว่าดว้ ยการสง่ กำลัง สป.2 และ 4 พ.ศ.2534

คดั สำเนาจาก ประมวลระเบยี บ คำส่งั อนุมตั หิ ลักการ ฯลฯ กองทัพบก
สายงานสรรพาวธุ พ.ศ.2480 ถึง 2519 ฉบับรา่ ง รวบรวมโดยกองวทิ ยาการ
กรมสรรพาวธุ ทหารบก

ห น ้ า | 59

(สำเนา)
ระเบยี บกองทพั บก
วา่ ดว้ ย การสง่ กำลังสงิ่ อุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4

พ.ศ. 2534
-------------------------------
โดยท่ีเป็นการสมควรปรับปรุงระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการส่งกำลังส่ิงอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ.
2532 ใหเ้ หมาะสมยิ่งข้ึน จึงวางระเบยี บไว้ดังนี้
ข้อ 1 ระเบียบน้ีเรียกว่า “ระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งกำลังสิ่งอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4
พ.ศ. 2534”
ข้อ 2 ใหใ้ ช้ระเบยี บนี้ ตั้งแตบ่ ัดนี้เป็นตน้ ไป
ข้อ 3 ให้ยกเลิกระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งกำลังส่ิงอุปกรณ์ ประเภท 2 และ 4 พ.ศ. 2524
บรรดาระเบียบ คำส่ัง และคำชี้แจงอ่ืนใด ที่นำมากำหนดไว้ในระเบียบนี้ หรือที่ขัดแย้งกับระเบียบน้ี ให้ใช้
ระเบยี บนแ้ี ทน
ข้อ 4 ใหเ้ จ้ากรมส่งกำลงั บำรุงทหารบกรกั ษาการใหเ้ ป็นไปตามระเบียบน้ี

ตอนที่ 1
คำจำกดั ความ
ข้อ 5 คำจำกัดความทีใ่ ชใ้ นระเบยี บน้ี
5.1 การส่งกำลัง หมายถึง การปฏิบัติการในเรื่อง ความต้องการการจัดหา การแจกจ่าย และการ
จำหนา่ ยสง่ิ อุปกรณ์ รวมทัง้ การควบคมุ การปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนดังกลา่ ว
5.2 ความต้องการ หมายถึง การกำหนดหรือการเสนอหรือคำขอในเร่ืองส่ิงอุปกรณ์ตามจำนวน
และในเวลาทบี่ ง่ ไว้ หรอื ตามเวลาที่กำหนดไว้
5.3 การควบคมุ หมายถงึ การควบคมุ ทางบัญชี และการควบคมุ ทางการสง่ กำลัง
5.4 การควบคุมทางบัญชี หมายถึง วิธีการในการควบคุมส่ิงอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับ การควบคุมการ
แจกจ่าย การจ่ายเพิ่มเติม การรวบรวมบันทึกรายงาน การจัดทำข้อมูลถาวรต่าง ๆ การสำรวจ การรายงาน
สถานภาพสิ่งอุปกรณ์ การกำหนดนโยบายเกี่ยวกับระดับส่ิงอุปกรณ์เพื่อการประหยัดโดยต่อเนื่องทุกขั้นตอน
ในสายการส่งกำลัง และสายการบังคับบัญชา นับตั้งแต่สิ่งอุปกรณ์ได้เร่ิงเข้าสู่ระบบการส่งกำลังจนกระท่ัง
หนว่ ยใชไ้ ดใ้ ชห้ มดสิน้ ไป และได้รบั อนุมัติให้จำหน่ายออกจากบญั ชคี มุ ของกองทัพบกแลว้
5.5 การควบคุมทางการส่งกำลัง หมายถึง วิธีการท่ีเกี่ยวกับระบบการรายงาน การคำนวณ การ
รวบรวมข้อมูล และการประเมินค่า เพ่ือให้สิ่งอุปกรณ์ตามความต้องการทั้งสิ้นได้ส่วนสัมพันธก์ ับทรัพย์สินที่มี
อยู่ อันเปน็ แนวทางในการประมาณการด้านงบประมาณ การจดั หา การแจกจา่ ย และการจำหน่ายส่ิงอุปกรณ์
5.6 การจดั หา หมายถึง กรรมวธิ ีเพอื่ ใหไ้ ด้มาซึ่งส่งิ อปุ กรณ์
5.7 การแจกจา่ ย หมายถงึ การรับ การจ่าย การเกบ็ รักษา และการขนส่ิงอปุ กรณ์
5.8 การจำหน่าย หมายถึง การตัดยอดส่ิงอุปกรณ์ออกจากความรับผิดชอบของกองทัพบก
เนื่องจากสูญไป สิ้นเปลืองไป (ส่ิงอุปกรณ์ส้ินเปลือง) ชำรุดเสียหายจนไม่สามารถซ่อมคืนสภาพไดอ้ ย่างคุ้มค่า
เสอ่ื มสภาพจนใชก้ ารไมไ่ ด้ หรอื สูญหาย ตาย เกนิ ความตอ้ งการ หรอื เปน็ ของล้าสมัย ไมใ่ ชร้ าชการตอ่ ไป

ห น ้ า | 60

5.9 สิ่งอุปกรณ์ หมายถึง ส่งิ ของทจ่ี ำเปน็ ท้ังมวล สำหรับหนว่ ยทหาร รวมท้งั ท่ีมไี วเ้ พ่ือการดำรงอยู่
และการปฏิบัติของหน่วยทหารด้วย เช่น อาหาร เคร่ืองแต่งกาย เชื้อเพลิง สัตว์ ยานพาหนะ อาวุธ กระสุน
วตั ถรุ ะเบดิ เครื่องจักรกล ตลอดจนเครื่องมอื เครื่องใชต้ า่ ง ๆ เปน็ ตน้

5.10 สิ่งอุปกรณ์ประเภท 2 หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ซ่ึงอนุมัติให้หน่วยมีไว้ในครอบครอง โดยระบุ
เป็นอตั ราของหนว่ ย หรอื บุคคล เชน่ เครื่องแต่งกาย อาวุธ เคร่ืองมอื และชน้ิ ส่วนซ่อม เป็นตน้

5.11 ส่ิงอุปกรณ์ประเภท 4 หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ซึ่งมิได้ระบุไวใ้ นอัตราของหน่วย หรือมิได้จัดเป็น
สิ่งอุปกรณ์ตามประเภทอ่ืน ๆ แต่อาจอนุมัติให้หน่วยมีไว้ในครอบครองตามความจำเป็น เช่น วัสดุในการ
กอ่ สร้าง และเครื่องปรบั อากาศ เป็นต้น

5.12 ส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูป หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่เกิดจากการรวมเข้าด้วยกันของผลิตภัณฑ์
สำเร็จรูป องค์ประกอบ ส่วนประกอบ ช้ินส่วน และ/หรือ วัสดุซึ่งพร้อมจะใช้ได้ตามความมุ่งหมาย เช่น เรือ
รถถัง เครอ่ื งบิน และโรงงานจกั รกลเคลือ่ นที่ เป็นต้น

5.13 สิ่งอุปกรณ์สำคัญ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต่อ การฝึก การรบ ราคาแพง ยาก
ตอ่ การจดั หา หรอื การผลิต มคี วามต้องการไมแ่ นน่ อน อาจจะขาดหรอื เกนิ อยู่เสมอในระบบการส่งกำลัง และ/
หรือ เป็นรายการท่ีอาจเกิดวิกฤตในวัสดขุ ั้นมูลฐาน โดยกรมฝ่ายยุทธบริการเสนอบัญชีให้กองทัพบกประกาศ
เป็นส่ิงอุปกรณ์สำคัญ เช่น รถถัง ชุดเรดาห์ เครื่องแต่งกายพิเศษ โทรศัพท์สนาม และหน้ากากป้องกันไอพิษ
เป็นตน้

5.14 ส่ิงอุปกรณ์หลัก หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ที่ใช้เวลาในการจัดหานาน และราคาแพง แต่มิได้ระบุ
ไว้เป็นอุปกรณ์สำคัญ โดยกรมฝ่ายยุทธบริการที่รับผิดชอบทำบัญชี และประกาศเป็นส่ิงอุปกรณ์หลักได้เอง
เช่น เคร่อื งมอื กอ่ สร้าง และเครอ่ื งส่ือสารประจำที่ เปน็ ตน้

5.15 สิ่งอุปกรณ์รอง หมายถึง สิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปทุกรายการซ่ึงมิได้ระบุไวเ้ ป็นส่ิงอุปกรณ์สำคัญ
และส่ิงอุปกรณ์หลัก โดยทั่วไปแล้วสิ่งอุปกรณ์เหล่านี้ จะเวลาในการจัดหาส้ัน ราคาถูก และง่ายต่อการจัดหา
เชน่ เครอ่ื งแตง่ กาย เคร่ืองสนาม ส่งิ อปุ กรณท์ ั่วไป เครือ่ งใชป้ ระจำบา้ นพัก และน้ำมัน เปน็ ตน้

5.16 สิ่งอุปกรณ์ถาวร หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ถาวรกำหนดอายุ และสิ่งอุปกรณ์ถาวรไม่กำหนดอายุ
ของสง่ิ อปุ กรณท์ งั้ มวล ซึ่งจำเปน็ สำหรับการปฏิบตั ิของหน่วยทางทหาร

5.17 สิง่ อุปกรณ์ถาวรกำหนดอายุ หมายถงึ ส่งิ อปุ กรณ์สำเรจ็ รปู ซ่ึงมสี ภาพ และลักษณะมัน่ คงต่อ
การใช้งาน แตย่ ่อมเสื่อมสภาพเสื่อมราคาไปตามวาระ และระยะเวลาแห่งการใช้งาน

5.18 ส่ิงอุปกรณ์ถาวรไม่กำหนดอายุ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูปซ่ึงมีสภาพ และลักษณะม่ันคง
ตอ่ การใช้งาน หากมีการเก็บรกั ษา และการปรนนบิ ตั บิ ำรงุ เปน็ อยา่ งดีแล้วย่อมจะมีอายุยืนนาน

5.19 ส่ิงอุปกรณ์ใช้สิ้นเปลือง หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่ใช้แล้วย่อมหมดส้ินไป ไม่คงรูป ไม่คงสภาพ
และ/หรอื ไมม่ ีคุณคา่ ของการใชง้ านเหมอื นเดิม

5.20 ส่ิงอุปกรณ์สำรองเพ่ือการซ่อมบำรุง หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูป หรือองค์ประกอบเพ่ือ
สะสมไว้ ณ ที่ตง้ั การส่งกำลัง หรือซ่อมบำรุง เพ่อื จ่ายทดแทนส่ิงอุปกรณ์ชำรุดซ่อมได้ ซ่ึงไม่สามารถซ่อมบำรุง
โดยหน่วยสนับสนุนได้ทันตามกำหนด

5.21 สง่ิ อุปกรณ์ใช้การได้ หมายถงึ สิง่ อุปกรณ์ที่มคี ณุ ภาพใชง้ านได้ตามความมงุ่ หมายเดิม
5.22 ส่ิงอุปกรณ์ใช้การไม่ได้ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่ล้าสมัย หรือสึกหรอชำรุด ไม่สามารถนำไปใช้
ได้ตามความมุ่งหมายเดิม จำเป็นต้องซ่อมปรับสภาพ หรือดัดแปลงก่อนท่ีจะนำเข้าเก็บรักษาเพื่อแจกจ่าย
หรือเพ่ือใช้งานต่อไป

ห น ้ า | 61

5.23 ส่ิงอุปกรณ์ซ่อมคุ้มค่า หมายถึง สิ่งอุปกรณ์ที่ชำรุด และต้องการซ่อม ซ่ึงพิจารณาแล้วว่าเป็น
การเหมาะสม และประหยัดในการซอ่ มบำรงุ

5.24 ส่ิงอุปกรณ์งดใช้การ หมายถึงส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูปซ่ึงอยู่ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง
ดงั ต่อไปน้ี

5.24.1 ไมท่ ำงานตามหนา้ ท่ี
5.24.2 ไมป่ ลอดภยั ในการใชง้ าน
5.24.3 ถา้ ใช้ตอ่ ไปจะเสยี หายมากข้ึน
5.25 ยุทธภัณฑ์ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ทั้งมวลอันจำเป็นเพ่ือปฏิบัติการ เพ่ือดำรง และสนับสนุน
การปฏิบัติการรบของหน่วยทหาร (รวมถึง เรือรบ รถถัง อาวุธอัตตาจร อากาศยาน ฯลฯ และอะไหล่ที่
เก่ียวข้อง ช้ินส่วนอะไหล่ หรือ ช้ินส่วนซ่อม และอุปกรณ์สนับสนุนแต่ไม่รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ สถานที่ตั้ง
และสาธารณูปโภค)
5.26 ยทุ โธปกรณ์ หมายถงึ สงิ่ อปุ กรณ์ท้ังมวลที่ต้องการจดั ให้บุคคล หรอื หน่วยทหาร ไดแ้ ก่ อาวุธ
ยานพาหนะ เครอ่ื งแตง่ กาย เครอื่ งมอื ฯลฯ
5.27 วสั ดุ หมายถึง ชน้ิ ส่วน หรือส่ิงของตา่ ง ๆ ซึง่ ได้จัดทำขึ้น หรอื ประกอบขน้ึ
5.28 ช้ินส่วนซ่อม หมายถึง องค์ประกอบ ส่วนประกอบ และช้ินส่วนท่ีใช้ในการซ่อมบำรุงสิ่ง
อุปกรณ์ตามที่กำหนดไวใ้ นคู่มือการส่งกำลัง และ/หรือคู่มือทางเทคนิคที่มีบัญชีชิ้นส่วนซ่อม เช่น ลำกล้องปืน
ใหญ่ และคาบเู รเตอร์ เป็นต้น
5.29 องค์ประกอบ หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่เกิดจากการรวมเข้าด้วยกันของชิ้นส่วนประกอบ และ
ช้ินส่วนต่าง ๆ ซึ่งสามารถปฏิบัติงานได้ในตัวเอง แต่อาจต้องอาศัยการควบคุมจากภายนอก หรืออาศัยการ
ขับเคลอื่ นจากแหล่งอื่นประกอบดว้ ย เชน่ เครอื่ งยนต์ และเครอื่ งกำเนิดไฟฟา้ เปน็ ต้น
5.30 ส่วนประกอบ หมายถงึ สิ่งอุปกรณ์ซ่ึงประกอบด้วยชนิ้ สว่ นตา่ ง ๆ ท่เี ช่อื มตอ่ สัมพันธ์กนั ตั้งแต่
สองช้ินข้ึนไป และสามารถถอดแยกออกจากกนั ได้ เช่น เคร่ืองเปล่ยี นความเร็ว และคาบเู รเตอร์ เปน็ ตน้
5.31 ชิ้นส่วน หมายถึง ส่ิงอุปกรณ์ที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ หรือเป็นส่ิงอุปกรณ์ท่ีได้
ออกแบบไว้ใหถ้ อดแยกออกจากกนั ไมไ่ ด้ เชน่ หลอดวทิ ยุ ยางนอกรถยนต์ และลำกล้องปืน เปน็ ตน้
5.32 คลัง หมายถึง หน่วยที่มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจในเรื่อง ความต้องการ การ
ควบคุม การจัดหา การแยกประเภท การแจกจา่ ย การซอ่ มบำรงุ และการจำหนา่ ยส่ิงอุปกรณ์
5.33 คลังสายงาน หมายถึง คลังซ่ึงกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ได้จัดตั้งข้ึน
เพอ่ื ปฏิบัตภิ ารกิจของคลงั สายงานเดียวกัน
5.34 คลังทวั่ ไป หมายถงึ คลังทจ่ี ดั ตงั้ ขน้ึ เพือ่ ปฏิบตั ภิ ารกิจของคลงั ตงั้ แตส่ องสายงานขน้ึ ไป
5.35 คลังกองบญั ชาการช่วยรบ หมายถงึ คลงั ท่ัวไปซ่ึงกองบัญชาการชว่ ยรบได้จัดตง้ั ข้ึน
5.36 คลังสว่ นภมู ภิ าค หมายถงึ คลงั ทวั่ ไปซ่ึงมณฑลทหารบก หรอื จังหวดั ทหารบก ไดจ้ ัดตง้ั ขน้ึ
5.37 หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง หมายถึง หน่วยสนับสนุนโดยตรง หน่วยสนับสนุนท่ัวไป
และคลัง
5.38 หน่วยสนับสนุนทั่วไป หมายถึง หน่วยซ่ึงมีภารกิจสนับสนุนด้านการส่งกำลัง และ/หรือ การ
ซอ่ มบำรงุ ต่อหนว่ ยสนบั สนนุ โดยตรง
5.39 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หมายถึง หน่วยซงึ่ มีภารกิจสนับสนุนดา้ นการส่งกำลัง และ/หรือ การ
ซอ่ มบำรงุ โดยตรงใหก้ ับหน่วยใช้

ห น ้ า | 62

5.40 หน่วยใช้ หมายถึง หน่วยที่ได้รับสิ่งอุปกรณ์ตาม อจย., อสอ. หรืออนุมัติอ่ืนใด ซึ่งได้รับ
ประโยชนจ์ ากใชส้ ่งิ อปุ กรณ์นั้น ๆ

5.41 หน่วยเบิก หมายถึง หน่วยใช้ตั้งแต่ระดับกองพัน หรือเทียบเท่า หรือกองร้อยอิสระข้ึนไป
หรอื หนว่ ยอสิ ระที่ ทบ.อนมุ ัติ หรือหนว่ ยสนับสนุนทางการส่งกำลังทุกระดับท่ีเบกิ ส่ิงอุปกรณ์ไปยังหน่วยจ่าย

5.42 หน่วยจ่าย หมายถึง หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังซ่ึงทำหน้าท่ีจ่ายส่ิงอุปกรณ์ให้แก่หน่วย
เบิก

5.43 หนว่ ยบญั ชีคุม หมายถงึ หนว่ ยซ่งึ ดำเนนิ การควบคุมทางบัญชีตอ่ สิ่งอุปกรณ์
5.44 วันส่งกำลัง หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ที่ประมาณว่าจะใช้สิ้นเปลืองไปหน่ึงวัน ตาม
สภาวการณ์ตา่ ง ๆ
5.45 ระดับส่งกำลัง หมายถึง ปริมาณสิ่งอุปกรณ์ ณ ที่ต้ังการส่งกำลังต่าง ๆ ท่ีได้รับอนุมัติให้
สะสมไว้เพื่อสนับสนุนการส่งกำลังให้สมบูรณ์ และต่อเน่ือง โดยปกติจะต้องกำหนดเป็นจำนวนวันส่งกำลัง
หรืออาจจะกำหนดเป็นจำนวนสิ่งอุปกรณ์กไ็ ด้
5.46 ระดบั ปฏิบตั กิ าร หมายถึง ปริมาณส่งิ อปุ กรณ์ท่ีตอ้ งการใหม้ ไี วเ้ พื่อสนบั สนนุ การปฏบิ ตั กิ ารใน
ระยะเวลาเบกิ หรอื รับสิ่งอปุ กรณ์ที่ส่งมาเพิ่มเตมิ
5.47 ระดบั ปลอดภยั หมายถงึ ปริมาณสง่ิ อุปกรณท์ ี่เพม่ิ เติมจากระดับปฏิบตั ิการใหม้ คี งคลังไว้ เพ่ือ
สามารถปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่องในเมื่อมีเหตุขัดข้องในการส่งเพิ่มเติมตามปกติ หรือเมื่อความต้องการไม่
เป็นไปตามความที่คาดคะเนไว้
5.48 ระดับเก็บกัน หมายถึง ปริมาณส่ิงอุปกรณ์ท่ีหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลังได้รับอนุมัติให้
เก็บกันไวไ้ ด้เกินกว่าเกณฑ์เบิก
5.49 เกณฑ์สะสม หมายถึง ปริมาณสูงสุดของสิ่งอุปกรณ์ที่มีคงคลังเพื่อสนับสนุนการปฏบิ ัตกิ ารได้
อย่างตอ่ เนือ่ ง ซ่งึ ประกอบดว้ ยระดับปฏบิ ตั กิ าร และระดับปลอดภัย
5.50 เกณฑ์เบิก หมายถึง ปริมาณสูงสุดของสิ่งอุปกรณ์คงคลังรวมกับค้างรับ ซึ่งจำเป็นสำหรับ
สนับสนุนการปฏิบตั ิการในระยะน้ัน และเพียงพอสำหรับความตอ้ งการทคี่ าดว่าจะมใี นอนาคต หรอื คือผลรวม
ของเกณฑ์สะสมกับเวลาในการเบกิ และจัดส่ง
5.51 เกณฑ์ความต้องการ หมายถึง ปริมาณสูงสุดของส่ิงอุปกรณ์คงคลังรวมกับท่สี ั่งช้ือ ซ่ึงจำเปน็
สำหรบั สนบั สนนุ การปฏิบัตกิ ารในระยะน้นั และเพียงพอสำหรับความต้องการท่ีคาดว่าจะมีในอนาคต หรือคอื
ผลรวมของสิ่งอุปกรณ์ ตามระดับปลอดภัย วงรอบการจัดหา เวลาล่วงหน้าในการจัดหา และเวลาท่ีเสียไปใน
การรายงานสถานภาพ
5.52 เวลาในการเบกิ และจัดสง่ หมายถงึ เวลานับตั้งแตห่ น่วยเบิกทำการเบิกสิง่ อุปกรณ์ จนถึงวนั ที่
ได้รับส่ิงอุปกรณ์
5.53 เวลาล่วงหน้าในการจัดหา หมายถึง เวลานับตั้งแต่ริเริ่มทำการจัดหา จนถึงวันท่ีได้รับส่ิง
อปุ กรณ์งวดแรก เขา้ สรู่ ะบบการส่งกำลงั
5.54 วงรอบการสอบทาน หมายถงึ หว้ งเวลาท่ีกำหนดใหท้ ำการสอบทาน
5.55 วงรอบการเบิก หมายถงึ ห้วงเวลาทกี่ ำหนดให้ทำการเบกิ
5.56 วงรอบการจดั หา หมายถงึ ห้วงเวลาที่กำหนดใหท้ ำการจัดหา
5.57 จุดเพ่ิมเติม หมายถึง ปริมาณส่ิงอุปกรณ์ท่ีต้องการทำการเบิกเพิ่มเติม ซ่ึงเท่ากับผลรวมของ
ระดบั ปลอดภยั กบั เวลาในการเบกิ และจัดสง่ ทัง้ นี้เพือ่ เกบ็ รกั ษาไว้ซึง่ เกณฑส์ ะสม

ห น ้ า | 63

5.58 ปัจจยั ทดแทน หมายถึง ตัวเลขแสดงความส้ินเปลอื งของสิ่งอปุ กรณ์ถาวร เปน็ ร้อยละ หรือพนั
ละตอ่ เดอื น

5.59 อัตราส้ินเปลือง หมายถึง ตัวเลขแสดงความส้ินเปลืองของสิ่งอุปกรณ์ใช้ส้ินเปลือง โดย
กำหนดเปน็ มาตราอย่างใดอย่างหนึง่ ตามความเหมาะสม

5.60 คงคลัง หมายถึง ประมาณส่ิงอุปกรณ์ที่มีอยู่ในครอบครองของหน่วย ตามบัญชีคุมใน
ขณะน้นั

5.61 คา้ งรับ หมายถึง ปรมิ าณส่ิงอุปกรณ์ท่ีคาดหมายว่าจะไดร้ บั จากการจัดช้ือ การเบกิ และจาก
แหลง่ อ่นื ๆ เช่น การโอน และการซอ่ มบำรุง เป็นต้น

5.62 ค้างจ่าย หมายถึง ปริมาณส่ิงอุปกรณ์ ซึ่งหน่วยจ่ายไม่สามารถจ่ายให้หน่วยเบิกได้ครบใน
ขณะทขี่ องเบิกมา และบนั ทึกเปน็ หลกั ฐานไว้เพ่ือปลดเปลอื้ งคา้ งจา่ ยใหเ้ มื่อมสี ง่ิ อุปกรณ์

5.63 การเบิก หมายถึง วธิ ีดำเนินการเสนอคำขอไปยังหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง เพื่อขอรับ
สงิ่ อปุ กรณต์ ามจำนวนที่ต้องการ

5.64 การยืม หมายถึง วิธีดำเนินการขอรับการสนับสนุนส่ิงอุปกรณ์เป็นการชั่วคราว (เว้นช้ินส่วน
ซ่อม) สำหรับเพิ่มพูลการปฏิบัติภารกิจ หรือสำหรับการทรงชีพของหน่วยใช้ ซ่ึงหน่วยไม่ได้รับอนุมัติให้มีสิ่ง
อปุ กรณ์ดงั กล่าวไว้ในครอบครอง หรืออนุมตั ใิ หม้ ไี ว้แล้วแตไ่ มเ่ พียงพอ

5.65 การตดิ ตามใบเบกิ หมายถงึ การสอบถามเพื่อขอทราบผลการปฏบิ ัตติ อ่ ใบเบกิ ท่ีได้เสนอไปยัง
หนว่ ยสนับสนุนทางการส่งกำลัง

5.66 การยกเลิกใบเบิก หมายถึง การแจ้งระงับการจ่ายสิ่งอุปกรณ์ตามใบเบิกท่ีหน่วยเบิกเสนอมา
อาจจะเปน็ ทัง้ หมด หรือบางส่วนของการเบิกกไ็ ด้

5.67 การรบั หมายถึง การดำเนินกรรมวิธีเพื่อครอบครองส่ิงอุปกรณท์ ี่ไดม้ าจากการจดั หา
5.68 การจ่าย หมายถึง การดำเนินการตอบสนองความต้องการตามทห่ี น่วยเบิกได้ส่งคำขอมา
5.69 การปลดเปลื้องค้างจ่าย หมายถึง การจ่ายสิ่งอุปกรณ์ท่ีค้างจ่ายให้กับหน่วยเบิกโดยอตั โนมัติ
ตามใบเบกิ ท่ีคา้ งจา่ ย
5.70 การเก็บรักษา หมายถึง การเตรียมพ้ืนที่ การนำสิ่งอุปกรณ์เข้า-ออก การเก็บ หรือการวาง
การระวงั รักษาสิง่ อุปกรณ์ในทเี่ กบ็ รวมท้งั การปรนนบิ ตั บิ ำรงุ และการซอ่ มบำรุงขณะเกบ็ และกอ่ นจ่ายด้วย
5.71 การสำรวจ หมายถงึ การสำรวจส่ิงอุปกรณ์ และสำรวจทเี่ ก็บ
5.72 การสำรวจส่ิงอุปกรณ์ หมายถึง การนับจำนวน และการตรวจสภาพสิ่งอุปกรณ์ในที่เกบ็ ให้ตรง
กับหลักฐานในบัญชีคุม
5.73 การสำรวจท่ีเก็บ หมายถึง การตรวจสอบที่เก็บสิ่งอุปกรณ์ให้ตรงกับบัตรบัญชีคุมสิ่งอุปกรณ์
หรอื บัตรแสดงที่เกบ็ ของ
5.74 การขนส่ง หมายถึง การเคล่อื นย้ายสงิ่ อุปกรณร์ ะหวา่ งหน่วยสง่ กบั หนว่ ยรบั
5.75 การส่งคนื หมายถึง การส่งสงิ่ อุปกรณก์ ลับคืนหน่วยจ่าย หรอื สนบั สนนุ ทางการส่งกำลัง มิได้
หมายถึงการสง่ ซอ่ ม หรือส่งสิ่งอปุ กรณ์ท่ซี ่อมเสรจ็ แลว้ กลับคืนหน่วยส่งซอ่ ม
5.76 การโอน หมายถึง การโอนความรับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ หรือการ
โอนสิทธคิ รอบครองสิ่งอุปกรณร์ ะหวา่ งหน่วย
5.77 สายการบังคับบัญชา หมายถึง ความเก่ียวพันในการบังคับบัญชาของหน่วยเหนือที่มีต่อ
หน่วยรอง ตามลำดบั เชน่ กองทพั บก - กองทัพภาค - กองพล - กรม - กองพนั - กองร้อย เปน็ ต้น

ห น ้ า | 64

5.78 สายการส่งกำลัง หมายถึง ความเกี่ยวพันในการส่งกำลังของหน่วยเหนือที่มีต่อหน่วยรอง
ตามลำดับ เช่น กองทัพบก - กรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษ - หน่วยสนับสนุนท่ัวไป - หน่วย
สนบั สนุนโดยตรง – หน่วยใช้

ตอนที่ 2
ความต้องการ
ขอ้ 6 ลักษณะความตอ้ งการ
6.1 ความต้องการประจำ
6.1.1 ความต้องการประจำ คือ ความต้องการเพ่ือทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีใช้หมด
ไป หรือใช้สิ้นเปลือง และเพ่ือเพมิ่ เติมระดับการส่งกำลงั อนั สบื เนื่องมาจากการปฏิบัติงาน
6.1.2 ความต้องการประจำ ใช้เป็นข้อมูลสำหรับคำนวณความต้องการทั้งเพ่ือการ
จัดหา และการเบกิ
6.2 ความตอ้ งการครัง้ คราว
6.2.1 ความต้องการคร้ังคราว คือ ความต้องการท่ีเกิดข้ึนครั้งเดียวในห้วงเวลา
12 เดือน สำหรับความมุ่งหมายอย่างเดียวกัน และหมายรวมถึงความตอ้ งการข้ันต้น เพื่อสนองความต้องการ
ตามอัตรา ความต้องการเพื่อรักษาระดับการส่งกำลังท่ีเพ่ิมข้ึน และความต้องการตามโครงการพิเศษต่าง ๆ
เช่น ความตอ้ งการเพอ่ื การซอ่ มบำรุงสง่ิ อุปกรณ์สำเร็จรปู เปน็ ตน้
6.2.2 ความต้องการครั้งคราว ใช้เป็นข้อมูลสำหรับคำนวณความต้องการเพ่ือการ
จดั หาเทา่ นนั้
ข้อ 7 ประเภทความตอ้ งการ
7.1 ความต้องการขั้นต้น ได้แก่ ความต้องส่ิงอุปกรณ์ท่ีทหาร หรือหน่วยต้องการมีไว้เพ่ือการ
ปฏิบัติภารกิจของตน ซึ่งสิ่งอุปกรณ์น้ัน ๆ ยังไม่เคยได้รับมาก่อน และเป็นความต้องการสิ่งอุปกรณ์ในกรณี
ดังตอ่ ไปน้ี
7.1.1 การรบั ทหารเขา้ ประการใหม่
7.1.2 การจดั ตัง้ หนว่ ยใหม่
7.1.3 การกำหนดมาตรฐานส่งิ อุปกรณใ์ หม่
7.1.4 การเพิ่มจำนวน และรายการเนอื่ งมาจากการแก้อตั รา
7.1.5 รายการทไ่ี ด้รับอนุมัติใหจ้ ่ายครง้ั แรก แก่หน่วยท่ียังไม่ได้รบั อนมุ ัตอิ ตั รา
7.1.6 รายการทไ่ี ด้รบั อนุมัตใิ ห้จ่ายคร้งั แรก ซ่งึ เกนิ จำนวนจากอัตรา
7.1.7 การอนุมัติจ่ายสิ่งอุปกรณ์ใหม่ เพ่ือทดแทนส่ิงอุปกรณ์เดิมท่ียังใช้ราชการได้
ซ่งึ ได้รบั คนื จากหน่วยทหาร
7.1.8 การจ่ายครง้ั แรกใหก้ บั หนว่ ยนอกกองทพั บก ตามคำส่ังกองทพั บก
7.2 ความต้องการทดแทน ไดแ้ ก่ ความตอ้ งการเพอ่ื ทดแทนสงิ่ อุปกรณ์ที่หน่วยใชเ้ คยได้รับมาแล้ว
และเป็นความต้องการสิง่ อุปกรณใ์ นกรณดี ังต่อไปน้ี
7.2.1 เพ่ือทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีหมดเปลืองไป หรือชำรุดเน่ืองจากการใช้ และ
รวมทงั้ ทดแทนชนิ้ ส่วนซอ่ มท่ชี ำรุดด้วย
7.2.2 เพื่อทดแทนสิ่งอุปกรณ์ท่ีถูกละท้ิง ทำลาย ข้าศึกทำให้เสียหาย โจรกรรม หรือ
เสียหายโดยเหตอุ น่ื ๆ

ห น ้ า | 65

7.2.3 เพื่อทดแทนส่ิงอุปกรณ์ที่อยู่ในระหว่างการซ่อมบำรุง โดยใช้สิ่งอุปกรณ์สำรองเพื่อ
การซอ่ มบำรุง

7.3 ความต้องการเพ่ือรักษาระดับส่งกำลัง ได้แก่ ความต้องการสิ่งอุปกรณ์ที่
นอกเหนือไปจากความต้องการตามปกติ เพื่อสนับสนุนโครงการ หรือการปฏิบัติการพิเศษตามแผน และ
วัตถุประสงค์ของกองทัพบก เช่น ส่ิงอุปกรณ์ประเภท 4 โครงการจัดตั้งหน่วยใหม่ และโครงการระดมสรรพ
กำลัง เปน็ ต้น

ข้อ 8 การคำนวณความตอ้ งการ
8.1 ความตอ้ งการขนั้ ต้น = อตั ราอนุมตั ิ X จำนวนหน่วยทหาร ตามอัตรานั้น
8.2 ความต้องการทดแทน = ความตอ้ งการข้ันต้น X ปัจจัยทดแทน/อตั ราสิ้นเปลือง

X จำนวนเดอื น/วัน จะตอ้ งการทดแทน
8.3 ความต้องการเพื่อรักษาระดับส่งกำลัง = ความต้องการขั้นต้น X ปัจจัยทดแทน/

อตั ราส้นิ เปลอื ง X จำนวนเดือน/วัน ในสายทางเดนิ ส่งกำลงั
8.3.1 สายทางเดินส่งกำลัง ไดแ้ ก่ ระยะเวลาเป็นวันสง่ กำลังนบั ตัง้ แตร่ เิ ร่ิมจดั หา

สง่ิ อุปกรณจ์ นถึงหน่วยใชไ้ ด้รบั สิ่งอปุ กรณน์ นั้
8.3.2 ระดับคลังสายงาน สายทางเดินส่งกำลังประกอบด้วยระดับปลอดภัย +

วงรอบการจดั หา + เวลาล่วงหนา้ ในการจดั หา
8.3.3 ระดับคลังกองบัญชาการช่วยรบ และคลังส่วนภูมิภาค หรือหน่วย

สนับสนุนโดยตรง สายทางเดินส่งกำลังประกอบดว้ ย ระดับปลอดภัย + ระดับปฏิบัติการ/วงรอบการเบกิ +
เวลาในการเบกิ และจัดส่ง

8.4 ความต้องการตามโครงการ การคิดคำนวณขึ้นอยู่กับโครงการ หรือการปฏิบัติการ
พิเศษ ตามแผน และวัตถปุ ระสงค์ของกองทพั บก

8.5 ความต้องการรวม = ความต้องการข้ันต้น + ความต้องการเพ่ือรักษาระดับส่งกำลัง/
ความต้องการทดแทน + ความตอ้ งการตามโครงการ

8.6 ความต้องการสุทธิ = ความตอ้ งการรวม + ค้างจ่าย - คงคลัง - คา้ งรบั
ขอ้ 9 การเสนอความตอ้ งการ

9.1 สิ่งอปุ กรณ์ตามอัตรา ตามระดบั สง่ กำลงั หรือตามโครงการทไ่ี ดร้ ับอนมุ ัตแิ ลว้ กรมฝ่าย
ยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษท่ีรับผิดชอบ เป็นผู้รวบรวมความต้องการส่ิงอุปกรณ์เสนอไปยังกรมส่ง
กำลังบำรงุ ทหารบก ตามทีก่ องทัพบกกำหนด

9.2 ส่งิ อปุ กรณ์ทนี่ อกเหนอื ทกี่ ลา่ วมาแลว้ ในขอ้ 9.1
9.2.1 หน่วยใช้ เสนอความต้องการไปตามสายงานส่งกำลังจนถึงกรมฝ่ายยุทบริ

การ หรอื กรมฝา่ ยกจิ การพิเศษที่รบั ผิดชอบ
9.2.2 กรมฝ่ายยุทบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษ รวมรวมความต้องการแล้ว

เสนอไปยงั กรมส่งกำลงั บำรุงทหารบก ตามท่ีกองทัพบกกำหนด

ห น ้ า | 66

ตอนที่ 3
การจัดหา
ข้อ 10 ทางท่ีได้มาซึ่งส่ิงอุปกรณ์ โดยท่ัวไปหน่วย หรือคลังซ่ึงมีการสะสมส่ิงอุปกรณ์ และ/หรือ มี
ไวเ้ พอ่ื การปฏบิ ัติการยอ่ มจะไดร้ บั สงิ่ อปุ กรณ์จากลักษณะใดลักษณะหนง่ึ ดังต่อไปนี้
10.1 การจัดช้ือ และการจ้าง หน่วยหรือเจ้าหน้าท่ีซ่ึงมีหน้าที่ในการจัดช้ือ และจ้าง
จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2521 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)
และระเบียบหรือคำสง่ั อ่นื ใดทเี่ กย่ี วขอ้ ง
10.2 การรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ให้ปฏิบัติตามวิธีการซึ่งได้ตกลงระหว่าง
กองทัพบกกับองค์การหรอื ตัวแทนของประเทศน้ัน ๆ
10.3 การซ่อมบำรุงสิ่งอุปกรณ์ท่ีหน่วยใช้ส่งซ่อม หากหน่วยซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง
หรือหน่วยสนับสนุนทั่วไปพิจารณาเกินข้ันการซ่อมบำรุง ก็ให้นำส่งซ่อมต่อไปยังหน่วยซ่อมบำรุงระดับคลัง
เม่ือหน่วยซ่อมบำรุงระดับคลังทำการซ่อมเสร็จแล้ว ให้ส่งส่ิงอุปกรณ์น้ันเข้าคลังเพื่อดำเนินการตามระบบส่ง
กำลังต่อไป และให้หน่วยซ่อมบำรุงสนับสนุนโดยตรง หรือสนับสนุนทั่วไป แจ้งให้หน่วยใช้ทราบทันที่ได้ส่งส่ิง
อปุ กรณ์ไปยังหน่วยซอ่ มบำรงุ ระดบั คลงั ท้งั น้เี พื่อใหห้ น่วยใชเ้ บิกรบั ส่งิ อปุ กรณ์ทดแทนต่อไป
10.4 การเก็บซ่อมส่ิงอุปกรณ์ชำรุด ถูกทำลาย เสื่อมสภาพ หรอื ถูกทอดท้ิง ไม่ว่าจะเป็น
ของใหม่หรือของใช้แล้วก็ตาม หากหน่วยซ่อมบำรุงของสายยุทธบริการพิจารณาเห็นว่าเกินข้ันการซ่อมบำรุง
ไม่สามารถซ่อมได้คุ้มค่า ให้หน่วยซ่อมน้ันรายงานขออนุมัติถอดแยกช้ินส่วนซ่อมท่ีสามารถใช้ราชการได้จาก
เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษท่ีรับผิดชอบ เพื่อดำเนินการบำรุงรักษา และนำเข้าระบบส่ง
กำลังตอ่ ไป
10.5 การบริจาค ส่ิงอุปกรณ์ท่ีได้มาโดยมีผู้บริจาคให้แก่ส่วนราชการเป็นส่ิงอุปกรณ์ท่ี
จะตอ้ งดำเนินการตามระบบส่งกำลงั
10.6 การยืม หน่วยที่มีความจำเป็นในการยืมสิ่งอุปกรณ์ให้ปฏิบัติตามที่กำหนดไวใ้ นตอน
ท่ี 4 การเบกิ การยืม การโอน และการสง่ คนื
10.7 การโอน
10.7.1 การโอนความรับผิดชอบในส่ิงอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ ให้ปฏิบัติ
ตามระเบียบปฏิบัติในการโอนสิ่งอุปกรณ์จากสายยุทธบริการหน่ึงไปให้อกี สายหน่ึง พ.ศ.2501 และคำส่ัง ทบ.
ที่ 90/2508 ลง 30 ส.ค. 08 เรื่อง กำหนดวธิ ีดำเนนิ การโอนสง่ิ อุปกรณ์ครบชุดของสายยุทธบริการเพิ่มเติม
จากระเบยี บปฏบิ ตั ิในการโอนสง่ิ อปุ กรณจ์ ากสายยุทธบริการหนง่ึ ไปใหอ้ ีกสายหนึ่ง พ.ศ.2501
10.7.2 การโอนสิทธิครอบครองส่ิงอุปกรณ์ระหว่างหน่วยให้ปฏิบัติตามระเบียบน้ี
ตอนท่ี 4 การเบิก การยมื การโอน และการส่งคืน
10.8 การเบิก หน่วยในสายการส่งกำลังซึ่งต่ำกว่าระดับคลังสายงานให้ถือการเบิกเป็นวิธี
หลักในการได้มาซึ่งสิ่งอุปกรณ์ ส่วนรายละเอียดให้ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ตอนท่ี 4 การเบิก การยืม การโอน
และการส่งคนื
10.9 การผลติ หากกรมฝา่ ยยทุ ธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพเิ ศษใดมีการผลิตส่ิงอปุ กรณ์
เพ่ือใช้ราชการ ให้เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือเจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษน้ันรับผิดชอบในการปฏิบัติให้เป็นไป
ตามข้อกำหนด และความมุ่งหมายของราชการต่อไป
10.10 การเกณฑ์ และการยึด ใหป้ ฏบิ ตั ิตามพระราชบญั ญตั ิกฏอยั การศึก พ.ศ.2457 และ
พระราชบัญญัตกิ ารเกณฑ์ชว่ ยราชการ พ.ศ.2530

ห น ้ า | 67

10.11 การแลกเปล่ียน ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการแลกเปลี่ยน
ยานพาหนะ และครภุ ัณฑข์ องส่วนราชการ พ.ศ.2518

ขอ้ 11 งานของการจดั หา ในการดำเนนิ กรรมวิธีเพื่อให้ไดซ้ ่ึงส่งิ อปุ กรณม์ ีงานทเ่ี กี่ยวข้องดงั นี้
11.1 การกำหนดแบบสิง่ อุปกรณ์
11.2 การกำหนดคุณลกั ษณะเฉพาะสิ่งอุปกรณ์
11.3 การกำหนดมาตรฐานสง่ิ อปุ กรณ์
11.4 การกำหนดราคากลาง
11.5 การกำหนดแบบสัญญา
11.6 การทำสญั ญา
11.7 เงอื่ นไขท่เี กยี่ วขอ้ งกับการสงวนสิทธิต่าง ๆ
11.8 การปฏิบัติตามสญั ญา
11.9 การแกไ้ ขสญั ญา
11.10 การตรวจรบั สง่ิ อุปกรณ์
11.11 ข้อปฏิบัตเิ ก่ียวกบั การเงนิ
11.12 ขอ้ กำหนดอืน่ ๆ ทีเ่ กีย่ วกับการจดั หา

ข้อ 12 ประเภทการจัดหา แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทรวมการ และประเภทแยก
การ

12.1 ประเภทรวมการ ไดแ้ ก่ การจดั หาในลักษณะดังต่อไปน้ี
12.1.1 หน่วยจัดหา ได้แก่ กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษ ซ่ึง

จัดหาเปน็ ส่วนรวมในระดบั กองทพั บก
12.1.2 ความมุ่งหมาย จัดหาเพ่ือสะสมและแจกจ่ายให้แก่คลังกองบัญชาการช่วย

รบ และคลังสว่ นภูมิภาค หรอื บางกรณีอาจจะแจกจ่ายโดยตรงให้กบั หนว่ ยใชก้ ไ็ ด้
12.1.3 ลักษณะส่ิงอุปกรณ์ที่จัดหา เป็นสิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปที่ความต้องการมี

ปรมิ าณมาก มคี วามถ่ีในการความต้องการสูง เปน็ ยทุ โธปกรณท์ างทหาร หรอื ยุทโธปกรณ์ทางเทคนคิ
12.1.4 งบประมาณท่ีใช้ในการจัดหา ใช้เงินงบส่งกำลังบำรุง หรือเงินงบอื่น ๆ

ทกี่ องทพั บกอนุมตั ิ
12.1.5 ราคาสิ่งอุปกรณ์สว่ นมากราคาแพง หรือวงเงนิ ในการจัดหามาก

12.2 ประเภทแยกการ ได้แก่ การจดั หาในลักษณะดงั ต่อไปน้ี
12.2.1 หน่วยจัดหา ได้แก่ กองบัญชาการช่วยรบ และส่วนภูมิภาค หรือหน่วย

ใชท้ ีไ่ ด้รบั อนุมตั ิใหจ้ ัดหาได้
12.2.2 ความมุ่งหมาย จัดหาสนับสนุนหน่วยใช้ เพื่อเป็นการแก้ปญั หาเฉพาะหน้า

หรือหนว่ ยใช้จดั หาเพอ่ื ใชเ้ อง
12.2.3 ลักษณะส่ิงอุปกรณ์ที่จัดหา เป็นสิ่งอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดที่มีขายในท้องตลาด

โดยท่วั ไป ปริมาณความต้องการไม่มาก และความถใี่ นความต้องการไม่สูง
12.2.4 งบประมาณในการจัดหา ใช้เงินงบบริหาร และเงินงบเคร่ืองช่วยฝึก หรือ

อาจจะเปน็ เงนิ งบอื่น ๆ ท่ีกองทัพบกอนมุ ตั ิเป็นกรณพี เิ ศษ
12.2.5 ราคาส่งิ อปุ กรณ์ สว่ นมากราคาไมแ่ พง หรอื เปน็ วงเงินทจี่ ดั หาไมม่ าก
12.2.6 รายละเอยี ดในการปฏบิ ัติ ใหถ้ อื ปฏบิ ตั ติ ามคำสัง่ กองทัพบกดงั ตอ่ ไปน้ี

ห น ้ า | 68

12.2.6.1 คำสั่งกองทัพบก ที่ 96/2524 ลง 20 ก.พ. 24 เร่ืองการ
จัดหา และซ่อมบำรงุ รายยอ่ ยโดยใชเ้ งินบรหิ ารทวั่ ไปของหนว่ ย

12.2.6.2คำส่ังกองทัพบก ที่ 476/2524 ลง 23 ก.ย. 24 เร่ืองการ
จัดหาและซ่อมบำรงุ รายย่อยโดยใช้เงินงบเคร่อื งชว่ ยฝกึ

12.2.6.3 คำส่ังหรืออนุมัติของกองทัพบก เร่ืองอื่นใดท่ีกำหนด หรือ
อนมุ ัติ โดยเฉพาะเกีย่ วกบั การจัดหาประเภทแยกการของการบญั ชาการชว่ ยรบส่วนภูมิภาค หรอื หน่วยใช้

ข้อ 13 ความรบั ผิดชอบในการจดั หา
13.1 กรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่ายกิจการพิเศษ รับผิดชอบจัดหาสิ่งอุปกรณ์เป็น

ส่วนรวม ประเภทรวมการตามท่ีกำหนดไว้ในข้อ 12.1 โดยเจ้าหน้าท่ีของกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือกรมฝ่าย
กจิ การพเิ ศษ ดงั น้ี

13.1.1 รวบรวมความต้องการเสนอไปยังกรมส่งกำลังบำรงุ ทหารบก ตามทก่ี ำหนด
ไวใ้ นข้อ 9

13.1.2 เสนองบประมาณไปยังสำนักงานปลัดบัญชีกองทัพบก ตามระยะเวลาท่ี
กองทพั บกกำหนด เพื่อพจิ ารณาจัดสรรงบประมาณตอ่ ไป

13.1.3 ทำแผนจัดหาโดยถือมูลฐานจากงบประมาณท่ีได้รับแต่ละปี เสนอ กรมส่ง
กำลงั บำรงุ ทหารบก ตามระยะเวลาทก่ี ำหนดเพ่ือขอรับอนมุ ัติจากกองทพั บก

13.1.4 ดำเนนิ การจดั หาเพ่อื สะสม และแจกจา่ ยตามงบประมาณท่ีไดร้ ับ
13.2 กองบัญชาการช่วยรบ และส่วนภูมิภาค รับผิดชอบการจัดหาสิ่งอุปกรณ์ประเภท
แยกการตามท่กี ำหนดในข้อ 12.2 โดยเจา้ หนา้ ท่ีกองบญั ชาการช่วยรบ หรอื สว่ นภูมภิ าค
ข้อ 14 รายละเอียดในการปฏิบัติอ่ืนใดท่ีมิได้กำหนดไว้ในระเบียบน้ีให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ และ
คำสัง่ ท่เี กีย่ วข้องกบั การจดั หา ซง่ึ กำหนดไว้โดยเฉพาะสำหรบั เรือ่ งนัน้

ตอนท่ี 4
การเบิก การยมื การโอน และการสง่ คนื
ข้อ 15 การเบิก ได้แก่ วิธีดำเนินการเสนอคำขอไปยังหน่วยสนับสนุน เพ่ือขอรับสิ่งอุปกรณ์ตาม
จำนวนที่ตอ้ งการ
ข้อ 16 ประเภทการเบิก แบง่ ออกเป็น 4 ประเภท คือ
16.1 การเบิกขั้นต้น ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ตามความต้องการขั้นต้นที่ระบุไว้ในข้อ
7.1
16.2 การเบิกทดแทน ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ตามความต้องการทดแทนท่ีระบุไว้ในข้อ
72
16.3 การเบิกเพ่ิมเติมเพ่ือรักษาระดับส่งกำลัง ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ตามความ
ต้องการ เพอื่ รกั ษาระดับสง่ กำลัง ท่ีระบไุ ว้ในขอ้ 7.3
16.4 การเบิกพเิ ศษ ได้แก่ การเบกิ เรง่ ด่วน การเบิกนอกอตั รา การเบิกก่อนกำหนด
16.4.1 การเบิกเร่งด่วน ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ท่ีหน่วยใช้มีความจำเป็นท่ีต้อง
ใช้โดยเรง่ ด่วน หรอื ในยามฉกุ เฉิน หรอื เพ่ือการซอ่ มบำรงุ สง่ิ อปุ กรณ์งดใชก้ าร
16.4.2 การเบกิ นอกอัตรา ได้แก่ การเบิกสง่ิ อุปกรณ์ ประเภท 4

ห น ้ า | 69

16.4.3 การเบิกก่อนกำหนด ได้แก่ การเบิกส่ิงอุปกรณ์ที่หน่วยมีความจำเป็นต้อง
ใชก้ ่อนวงรอบการเบิก ซงึ่ หนว่ ยสนบั สนุนได้กำหนดขน้ึ

ข้อ 17 หนว่ ยเบิก
17.1 ผู้บังคับหน่วยเบิก ต้องรับผิดชอบในการขอเบิกสิ่งอุปกรณ์ เพ่ือให้หน่วยสามารถ

ปฏบิ ตั ภิ ารกิจตามท่ไี ดร้ ับมอบหมายอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
17.2 ผู้บังคับหน่วยเบิก จะต้องส่งรายมือช่ือผู้มีสิทธิเบิก และผู้รับสิ่งอุปกรณ์ ตาม

ระเบียบกองทพั บก ว่าด้วยการสง่ รายมอื ชือ่ ผู้มสี ทิ ธิเบิก และผู้รับส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.2510
ข้อ 18 วิธดี ำเนนิ การเบิก
18.1 การเบิกขนั้ ต้น
18.1.1 หน่วยใช้ เมือ่ ความต้องการขั้นต้น ทำใบเบกิ เสนอหน่วยสนับสนนุ โดยตรง

หรือคลังส่วนภมู ภิ าค หรือคลังกองบัญชาการช่วยรบ หรือคลังสายงานแลว้ แต่กรณี ยกเว้นส่ิงอุปกรณ์ประเภท
2 และ 4 สายอากาศยานใหเ้ สนอใบเบิกผ่าน พัน.ขส.ซบร.บ.ทบ. สำหรับส่ิงอปุ กรณ์ตาม อจย. และ อสอ. ให้
ดำเนินการเบิกเมอื่ ไดร้ ับเอกสารการแจกจา่ ยส่งิ อุปกรณ์แลว้

18.1.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือคลังส่วนภูมิภาค หรือคลังกองบัญชาการ
ชว่ ยรบ

18.1.2.1 เม่ือได้รับใบเบิกจากหน่วยใช้แล้ว ให้ดำเนินกรรมวิธีเพ่ือการ
แจกจ่าย ถ้าไมส่ ามารถสนับสนนุ ได้ ให้ดำเนนิ การเบิกตามสายการสง่ กำลังตอ่ ไป

18.1.2.2 ในกรณีที่มีการจัดตงั้ หน่วยใหม่ และมิได้มีการสะสมส่ิงอุปกรณ์
ไว้ เม่ือหน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือคลงั ส่วนภมู ิภาค หรือคลังกองบัญชาการช่วยรบ ไดท้ ราบการจัดต้ังหน่วย
โดยแน่นอนแลว้ ใหท้ ำใบเบกิ เสนอตามสายการสง่ กำลัง เพื่อให้มกี ารสะสมสง่ิ อปุ กรณ์พรอ้ มจ่ายหนว่ ยได้ทนั ที
เวน้ ส่ิงอุปกรณต์ าม อจย. และ อสอ. ใหด้ ำเนนิ การเมอ่ื ไดร้ ับเอกสารการแจกจา่ ยสิ่งอปุ กรณแ์ ล้ว

18.1.2.3 คลังสายงาน เมื่อได้รับใบเบิกจากหน่วยรับการสนับสนุน ให้
ดำเนินกรรมวิธีเพ่ือการแจกจ่าย ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์สนับสนุนให้ดำเนินการเสนอความต้องการเพ่ือจัดหา
ตอ่ ไป

18.2 การเบิกทดแทน เมื่อมีความต้องการทดแทน ให้ดำเนินการเบิกตามสายการ ส่ง
กำลัง

18.3 การเบิกเพม่ิ เตมิ เพื่อรักษาระดบั สง่ กำลงั
18.3.1 หน่วยใช้ ไมม่ กี ารเบิก
18.3.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง คลังส่วนภมู ิภาค หรือคลังกองบัญชาการช่วย

รบ เมื่อสิง่ อุปกรณ์ท่ีสะสมไว้เพื่อสนับสนุนหนว่ ยลดระดับลงถึงจดุ เพิม่ เตมิ หรือถึงวงรอบการเบิก ให้ทำการ
เบกิ ตามสายการส่งกำลังต่อไป

18.3.3 คลงั สายงาน เมอื่ สิ่งอปุ กรณ์ทสี่ ะสมไว้เพ่อื สนบั สนุนให้แกห่ นว่ ยรับการ
สนับสนุนลดระดับลงถึงจุดเพ่ิมเตมิ หรอื ถึงวงรอบการจัดหาใหด้ ำเนนิ การเสนอความต้องการเพื่อจดั หาต่อไป

18.4 การเบิกพเิ ศษ
18.4.1 การเบกิ เรง่ ด่วน
18.4.1.1 หน่วยใช้เมื่อมีความตอ้ งการเร่งด่วน ให้ผู้บังคับบญั ชาหน่วยใช้ท่ี

มสี ิทธิเบกิ ตดิ ต่อขอรับสิ่งอปุ กรณ์จากหน่วยใหก้ ารสนับสนุนโดยเคร่ืองส่ือสารท่ีเหมาะสม เมอ่ื ได้รบั ส่ิงอุปกรณ์
แล้ว จะต้องทำใบเบิกส่งหนว่ ยจ่ายภายใน 3 วัน โดยอ้างหลักฐานในการเบกิ เรง่ ด่วน

ห น ้ า | 70

18.4.1.2 หน่วยสนับสนุนโดยตรง หรือคลังส่วนภูมิภาค หรือคลัง
กองบัญชาการช่วยรบ ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุน ให้ผู้มีอำนาจส่ังจ่ายตามท่ีกำหนดไว้ในข้อ 36.6 อนุมัติจ่าย
ตามหลักฐานในการเบิกเร่งด่วน ถ้าไม่มีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุนให้ติดต่อขอรับการสนับสนุนด้วยเคร่ืองส่ือสารที่
เหมาะสม เมื่อไดร้ ับสิ่งอุปกรณแ์ ล้ว จะต้องทำใบเบกิ ส่งหน่วยจ่ายภายใน 3 วนั

18.4.1.3 คลังสายงาน ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุนให้ผู้มีอำนาจในการสั่ง
จ่ายตามท่ีกำหนดไว้ในข้อ 36.6 อนุมัตจิ ่ายตามหลักฐานในการเบิกเรง่ ด่วน ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์สนับสนุน หาก
พิจารณาเหน็ วา่ สามารถจัดหาสนับสนุนได้ทนั ที ก็ใหด้ ำเนินการต่อไป

18.4.2 การเบิกนอกอัตรา เมอื่ ได้รับอนมุ ัติความตอ้ งการตามทเ่ี สนอไปในข้อ 9.2
แลว้ ให้ดำเนินการเบิกได้

18.4.3 การเบิกก่อนกำหนด เมื่อมีความจำเป็นตอ้ งใช้สิ่งอุปกรณ์ก่อนวงรอบการ
เบิก ซึง่ หนว่ ยสนับสนุนได้กำหนดข้ึน ใหด้ ำเนินการเบิกได้

18.5 วิธีทำใบเบิก
18.5.1 ใบเบิกหลายรายการ ไดแ้ ก่ แบบพมิ พ์ ทบ.400-006 และ ทบ.400-007

ใช้เบกิ ส่ิงอปุ กรณ์ในใบเบกิ ชดุ เดยี วกันไดห้ ลายรายการ ดำเนินการดังนี้
18.5.1.1 ทำใบเบิกโดยแยกประเภทสิ่งอุปกรณ์ และสายงายท่ีรับผิดชอบ

1 ชดุ 4 ฉบบั (ชมพู ฟ้า เขยี ว ขาว ตามลำดับ)
18.5.1.2 ใบเบกิ ฉบบั ท่ี 1, 2 และ 3 เสนอไปยงั หนว่ ยจา่ ย
18.5.1.3 ใบเบกิ ฉบบั ที่ 4 เกบ็ ไวใ้ นแฟ้มรอเร่ือง
18.5.1.4 ถ้าหน่วยเบิกไปรับของเองจากหน่วยจ่าย ให้นำใบเบิกฉบับท่ี 4

ไปตรวจสอบกับจำนวน และประเภทกับส่ิงอุปกรณ์ที่ได้จ่ายจริง ตามใบเบิกฉบับท่ี 1 และ 2 ลงนามรับส่ิง
อุปกรณใ์ นใบเบกิ ฉบบั ท่ี 1, 2 และ 4 แลว้ นำใบเบกิ ฉบับท่ี 2 และ 4 กลังพร้อมส่งิ อปุ กรณ์

18.5.1.5 ถ้าหน่วยเบิกได้รับสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้
ตรวจสอบใบเบกิ ฉบับที่ 4 กับจำนวน และประเภทสิ่งอุปกรณ์ที่จ่ายจริงตามใบเบิกฉบับท่ี 1 และ 2 ลงนาม
รบั สง่ิ อปุ กรณใ์ นใบเบกิ ฉบับที่ 1, 2 และ 4 แลว้ ส่งใบเบิกฉบบั ท่ี 1 คืนหน่วยจา่ ย

18.5.1.6 เก็บใบเบิกฉบับที่ 2 ในแฟ้มเสร็จเร่ือง แนบใบเบิกฉบับท่ี 4 ไป
กับรายงานการรับส่ิงอุปกรณ์ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยเบิกทราบ เพ่ือรายงานหน่วยตามสายการบังคับบัญชา
เหนือขน้ึ ไปอีก 1 ขั้น

18.5.2 ใบเบิกรายการเดียว ได้แก่ แบบพิมพ์ ทบ.400-007-1 ใช้เบิกส่ิงอุปกรณ์
ในใบเบกิ ชดุ เดยี วกันเพียงรายการเดียว ดำเนนิ การดงั นี้

18.5.2.1 ใบเบิก 1 ชุด มี 5 ฉบับ ( ชมพู ฟ้า เขียว ขาว ขาว
ตามลำดับ )

18.5.2.2 ใบเบิกฉบับท่ี 1,2,3 และ 4 เสนอไปยังหนว่ ยจ่าย
18.5.2.3 ใบเบิกฉบบั ท่ี 5 เก็บไวใ้ นแฟม้ รอเรื่อง
18.5.2.4 ถ้าหน่วยเบิกไปรับของเองจากหน่วยจ่าย ให้นำใบเบิกฉบับท่ี 5
ไปตรวจสอบกับจำนวน และประเภทกับส่ิงอุปกรณ์ที่ได้จ่ายจริง ตามใบเบิกฉบับที่ 1, 2 และ 4 ลงนามรับสิ่ง
อปุ กรณใ์ นใบเบิกฉบับที่ 1, 2, 4 และ 5 แลว้ นำใบเบกิ ฉบับที่ 2 และ 4 กลับพร้อมสิ่งอุปกรณ์

ห น ้ า | 71

18.5.2.5 ถ้าหน่วยเบิกได้รับส่ิงอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้
ตรวจสอบใบเบกิ ฉบับที่ 5 กับจำนวน และประเภทสิ่งอุปกรณ์ที่จ่ายจริงตามใบเบิกฉบับที่ 1 และ 2 ลงนาม
รับส่ิงอปุ กรณ์ในใบเบกิ ฉบบั ที่ 1, 2 และ 5 แล้วส่งใบเบกิ ฉบับที่ 1 คนื หน่วยจ่าย

18.5.2.6 เก็บใบเบิกฉบับท่ี 2 ในแฟ้มเสร็จเร่ือง แนบใบเบิกฉบับที่ 5 ไป
กับรายงานการรับส่ิงอุปกรณ์ให้ผู้บังคับบัญชาหน่วยเบิกทราบ เพื่อรายงานหน่วยตามสายการบังคับบัญชา
เหนือขนึ้ ไปอีก 1 ขัน้

18.6 จำนวนเบิก
18.6.1 การเบิกข้ันตน้
จำนวนเบิก = จำนวนตามอัตรา - คงคลงั - คา้ งรับ
18.6.2 การเบกิ ทดแทน
จำนวน = จำนวนส่งิ อุปกรณ์ท่ีชำรุด สญู หาย ฯลฯ ซ่ึงได้ดำเนินการตามระเบียบ

กองทัพบกวา่ ด้วยการจำหนา่ ยสงิ่ อุปกรณ์ พ.ศ.2524 แลว้
18.6.3 การเบกิ เพมิ่ เติมเพอื่ รกั ษาระดับสง่ กำลงั
จำนวนเบิก = เกณฑ์เบกิ (RO) - คงคลงั (OH) - ค้างรับ (DI) + คา้ งจา่ ย (DO)
18.6.4 การเบกิ พเิ ศษ
จำนวนเบิก = จำนวนสิ่งอุปกรณ์ตามความจำเป็นท่ีระต้องปฏิบัติภารกิจ หรือ

จำนวนท่ีได้รับอนุมตั ิ
18.7 ข้อกำหนดในการใช้แบบพิมพ์
18.7.1 ให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-007-1 ในการเบิกสิ่งอุปกรณ์ทุกประเภท และทุก

กรณี เว้นส่ิงอปุ กรณ์ทีก่ ำหนดในขอ้ 18.7.2
18.7.2 ให้ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-006 ในกรณีที่หน่วยเบิกต้องไปรับของเอง

หรือแบบพิมพ์ ทบ.400-007 ในกรณีท่ีหน่วยเบิกต้องการให้หน่วยจ่ายส่งส่ิงอุปกรณ์ผ่านสำนักงานขนส่งใน
การเบิก
สิ่งอุปกรณด์ งั ตอ่ ไปน้ี

18.7.2.1 เคร่ืองแตง่ กาย
18.7.2.2 เคร่ืองนอน
18.7.2.3 เคร่อื งสนาม
18.7.2.4 เครือ่ งเขียน
18.7.2.5 แบตเตอร่แี หง้
18.7.2.6 สิ่งอปุ กรณ์สิน้ เปลืองสายทหารชา่ ง
18.7.2.7 สงิ่ อปุ กรณ์สนิ้ เปลอื งสายแพทย์
18.7.2.8 ส่ิงอปุ กรณส์ ้ินเปลอื งสายการสตั ว์
18.7.2.9 ส่ิงอุปกรณ์ประเภท 4 จำพวกสารเคมีชนิดต่าง ๆ ก๊าช น้ำกรด และน้ำ
กลน่ั สายวิทยาศาสตร์
18.7.2.10 สิ่งอุปกรณ์ประเภท 4 จำพวกวัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์ท่ีเก่ียวกับ
สาธารณูปโภคสายยทุ ธโยธา
18.7.2.11 วัสดุทำความสะอาด และปรนนิบตั ิบำรุงสายสรรพาวธุ และเป้า
18.7.2.12 แบบพิมพ์

ห น ้ า | 72

ข้อ 19 การติดตามใบเบิก ได้แก่ การสอบถามเพื่อขอทราบผลการปฏิบัติต่อใบเบิกท่ีได้เสนอไป
ยงั หนว่ ยสนบั สนุน

19.1 หน่วยเบิก เม่ือเสนอใบเบิกไปยังหน่วยสนับสนุนเกิน 45 วัน แล้วยังไม่ได้รับสิ่ง
อปุ กรณ์ ให้ติดตามใบเบกิ โดยใช้แบบพมิ พ์ ทบ.400-071

19.2 หน่วยสนับสนุน เมื่อได้รับใบติดตามใบเบิกแล้ว ให้ทำการตรวจสอบใบเบิก และ
บันทกึ ผลการปฏบิ ตั ใิ นใบตดิ ตามใบเบกิ แล้วสง่ คืนหน่วยเบกิ โดยเรว็

ข้อ 20 การยกเลิกการเบิก ได้แก่ การแจ้งระงับการจ่ายสิ่งอุปกรณ์ตามใบเบิกที่หน่วยเบิกเสนอ
มา อาจจะเป็นทั้งหมดหรอื บางส่วนของการเบิกก็ได้

20.1 เหตุผลในการยกเลิก การยกเลิกอาจริเริ่มจากหน่วยเบิก หรือหน่วยจ่ายก็ได้ เมื่อมี
เหตุผลตามรหัสการยกเลิกอย่างใดอย่างหน่ึงหรอื หลายอย่าง ดงั ต่อไปน้ี

รหัส ความหมาย
01 รายการน้ยี กเลิกแล้ว ไม่สะสมอีก
02 ขาดแคลนไมส่ ามารถจา่ ยใหไ้ ดใ้ นระยะรอบนี้
03 ไม่สะสมเพราะความตอ้ งการหา่ งมาก ให้แจ้งเหตผุ ลที่ตอ้ ง

การโดยละเอียดใหม่
04 ใหเ้ บกิ จากหนว่ ยสนบั สนุนโดยตรง
05 ให้เบิกจากคลังสว่ นภมู ิภาคหรอื คลงั กองบัญชาการชว่ ยรบ
06 ให้เบิกจากคลงั สายงาน
07 ให้เบกิ จากคลงั สายงานท่ีรบั ผิดชอบ
08 ไมจ่ ่ายทั้งชดุ ใหเ้ บิกเฉพาะชิ้นสว่ นซอ่ มตามคู่มือสง่ กำลัง
09 ไมจ่ ่ายเฉพาะชน้ิ ส่วนซอ่ ม ให้เบิกท้ังชุดตามคู่มือส่งกำลัง
10 ปฏิบัตติ ามระเบยี บไมถ่ ูกตอ้ ง ให้แก้ไขใหมต่ ามที่แจ้งให้ทราบ
11 จำนวนท่ีเบกิ ไม่คมุ้ คา่ ขนสง่ ให้จัดหาในท้องถนิ่
12 งดเบกิ เพราะหมดความต้องการ
13 จำนวนท่ีเบิกเกนิ กวา่ อตั ราทีอ่ นมุ ตั ิ
14 มสี ง่ิ อปุ กรณช์ นิดนี้เกนิ ระดบั สะสมท่หี นว่ ยเบกิ
15 เปน็ สิ่งอปุ กรณ์ประเภท 4 ใหข้ ออนุมตั ิหลักการกอ่ น
16 เบกิ ซ้ำ
17 ตรวจสอบหมายเลขสิง่ อปุ กรณไ์ ม่พบ ขอให้เบกิ ใหม่ โดย

อ้างช่ือสิ่งอปุ กรณส์ ำคัญ สิ่งอปุ กรณห์ ลัก สิ่งอุปกรณร์ อง
แบบ ชอ่ื คู่มอื และหน้า
20.2 วิธดี ำเนนิ การยกเลิก มี 2 วิธี คือ
20.2.1 บันทึกยกเลิกในใบเบิก ใช้เมื่อต้องการยกเลิกการเบิกสิ่งอุปกรณ์ทุก
รายการในใบเบิก ให้ดำเนินการ ดังน้ี
20.2.1.1 บันทึก “ยกเลิกรหัส.... วัน เดือน ปี” ดว้ ยอักษรสีแดง ด้านบนของใบ
เบกิ แลว้ ลงชื่อผ้ตู รวจสอบกำกับไว้
20.2.1.2 ในกรณีท่ีหน่วยจ่ายขอยกเลิก ให้เก็บใบเบกิ ฉบับที่ 1 ไว้ ส่งใบเบกิ ฉบับท่ี
2 คนื หน่วยเบกิ ส่วนท่เี หลอื ให้ทำลาย

ห น ้ า | 73

20.2.1.3 ในกรณีท่ีหน่วยเบิกขอยกเลิก ให้ส่งใบเบิกฉบับที่เก็บรอเรื่องไว้ไปยัง
หน่วยจ่าย

20.2.2 ยกเลิกด้วยใบแจ้งการยกเลิกใช้เมื่อต้องการยกเลิกการเบิกให้ดำเนินการ
ดังน้ี

20.2.2.1ทำใบแจง้ การยกเลกิ ด้วยแบบพิมพ์ ทบ.400-008 จำนวน 2 ฉบับ
20.2.2.2 ส่งใบแจ้งการยกเลิกไปยังหน่วยเบิก หรือหน่วยจ่ายแล้วแตก่ รณี จำนวน
1 ฉบบั แลว้ เก็บไว้ 1 ฉบบั
ข้อ 21 การยืมสิ่งอุปกรณ์ ได้แก่ วธิ ดี ำเนินการขอรับการสนับสนุนส่ิงอุปกรณ์เป็นการชว่ั คราว (
เวน้ ช้นิ ส่วนซ่อม ) สำหรบั การเพิ่มพนู การปฏิบัตภิ ารกิจ หรือสำหรับการทรงชพี ของหนว่ ยใช้ ซ่ึงหนว่ ยไมไ่ ด้รบั
อนมุ ัติให้มสี ิ่งอปุ กรณ์ดงั กลา่ วไวใ้ นครอบครอง หรอื อนุมัตใิ ห้มีไว้แลว้ แตไ่ มเ่ พยี งพอ
ขอ้ 22 วิธปี ฏิบัติในการยืมสิง่ อปุ กรณ์
22.1 หนว่ ยใช้
22.1.1 ทำรายงานขอยืมส่ิงอุปกรณ์เป็นลายลักษณ์อักษร เสนอตามสายการส่ง
กำลัง ในรายการให้แจ้งเหตุผล และรายละเอียดในการใช้ส่ิงอุปกรณ์ให้ชัดเจนพอท่ีจะเป็นข้อมูลในการ
พจิ ารณาตกลงใจของผู้มีอำนาจอนุมัตสิ ่ังใหย้ มื ได้ ทัง้ นี้ใหก้ ำหนดวันส่งคนื ในรายงานนั้นด้วย
22.1.2 ทำใบเบิกตามข้อ 18.5 แนบไปพรอ้ มกบั รายงาน
22.1.3 เมื่อครบกำหนดเวลาที่ได้รับอนุมัติให้ยืมตามบ่งไว้ในใบเบิก ต้องนำส่งคืน
ภายใน 7 วนั
22.1.4 ถ้าส่ิงอุปกรณ์ยืม เกิดการชำรุด สูญหาย ให้ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก
ว่าด้วยการจำหน่ายสง่ิ อุปกรณ์ พ.ศ.2524
22.1.5 เม่ือมีการโยกย้าย หรือสับเปล่ียนตำแหน่งผู้เบิกยืม ให้แจ้งยกเลิกใบเบิก
เดิม พร้อมกับทำใบเบิกเสนอไปใหม่
22.2 หน่วยสนบั สนนุ ทางการส่งกำลัง
22.2.1 หากส่ิงอุปกรณ์ใดไม่มีให้ยืม ให้ยกเลิกรายการน้ัน และแจ้งให้หน่วยยืม
ทราบ
22.2.2 ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์สนับสนุนได้ ให้บันทึกเหตุผลในรายงาน และแนบใบเบิก
เสนอจนถึงผ้มู อี ำนาจอนุมัติสั่งให้ยืม
22.2.3 ผูอ้ ำนาจอนุมัติส่งั ใหย้ ืม

22.2.3.1 สง่ิ อุปกรณส์ ำคญั ไดแ้ ก่ ผู้บัญชาการทหารบก
22.2.3.2 สิ่งอุปกรณ์อื่น ๆ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ หรือเจ้ากรม
ฝา่ ยกจิ การพิเศษ หรอื แม่ทพั แลว้ แตก่ รณี
ข้อ 23 การโอน ได้แก่ การโอนความรับผิดชอบในส่ิงอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ หรือการ
โอนสทิ ธคิ รอบครองส่งิ อุปกรณร์ ะหว่างหนว่ ย
ข้อ 24 การโอนความรับผิดชอบในสิ่งอุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ ได้แก่ การโอนความ
รับผิดชอบส่ิงอุปกรณ์จากสายยุทธบริการหนึ่งไปยังสายยุทธบริการหน่ึง ตามระเบียบ หรือคำสั่งกองทัพบก
กำหนด
ข้อ 25 การโอนสิทธิครอบครองส่ิงอุปกรณ์ระหว่างหน่วย ได้แก่ การเปลี่ยนกรรมสิทธิในการ
ครอบครองสงิ่ อุปกรณจ์ าหนว่ ยหน่งึ ไปยงั อีกหนว่ ยหนึ่ง เพือ่ ความมงุ่ หมายดังตอ่ ไปน้ี

ห น ้ า | 74

25.1 ใหห้ นว่ ยมสี ่ิงอปุ กรณค์ รบตามอตั รา หรอื ระดับสะสม
25.2 ใชส้ ง่ิ อปุ กรณ์ที่มอี ยใู่ หเ้ กิดประโยชนม์ ากท่สี ดุ
25.3 ประหยดั เวลา และคา่ ขนส่ง
25.4 ใหก้ ารสง่ กำลงั เป็นไปอย่างตอ่ เนื่อง
ข้อ 26 การดำเนินการโอนความรับผิดชอบในส่งิ อุปกรณ์ระหว่างสายยุทธบริการ ให้ปฏิบัติตาม
ระเบยี บ และคำสงั่ กองทพั บก ดงั ตอ่ ไปน้ี
26.1 ระเบียบปฏบิ ัติการโอนสงิ่ อุปกรณ์จากสายยุทธบรกิ ารหนึง่ ไปให้อีกสายหนึง่ พ.ศ.2501
26.2 คำส่ังกองทพั บก ที่ 290/2508 ลง 30 ส.ค. 08 เร่อื ง กำหนดวธิ ดี ำเนนิ การโอนส่ิง
อปุ กรณ์ครบชดุ ของสายยทุ ธบริการ เพ่ิมเตมิ จากระเบียบปฏบิ ัติในการโอนสิง่ อปุ กรณ์จากสายยทุ ธบรกิ ารหน่ึง
ไปให้อีกสายหนงึ่ พ.ศ.2501
ขอ้ 27 การดำเนินการโอนสิทธคิ รอบครองส่ิงอปุ กรณ์ระหว่างหนว่ ย เมื่อได้รบั อนุมัติโอนจากผู้มี
อำนาจในการสั่งโอนตามขอ้ 28 ใหป้ ฏิบัตดิ ังนี้
27.1 หนว่ ยโอน

27.1.1 ทำการปรนนบิ ตั ิบำรงุ สงิ่ อุปกรณ์กอ่ นโอน
27.1.2 ตรวจสอบใหม้ ีส่ิงอปุ กรณ์ครบชุด และสามารถใช้การได้
27.1.3 ผูกป้ายประจำสง่ิ อุปกรณ์ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-010
27.1.4 ทำใบโอนสิ่งอุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-074 จำนวน 1 ชุด
(5 ฉบบั )
27.1.5 ส่งสิ่งอุปกรณ์พร้อมใบโอนไปยังหน่วยรับโอน จำนวน 4 ฉบับ เก็บไว้ใน
แฟม้ รอเรอื่ งจำนวน 1 ฉบับ
27.1.6 เก็บใบโอนที่ได้รับคืนจากหน่วยรับโอน และสำเนาใบโอน รายงานหน่วย
สนบั สนุนหนว่ ยโอน จำนวน 1 ฉบบั
27.1.7 ตัดยอดสิ่งอุปกรณจ์ ากบัญชคี ุม
27.2 หนว่ ยรบั โอน
27.2.1 ลงทะเบยี นใบโอน
27.2.2 ตรวจรับสิ่งอปุ กรณ์ตามใบโอน
27.2.3 ลงนามรับสิ่งอุปกรณ์ในใบโอน ทั้ง 4 ฉบับ เก็บไว้ 1 ฉบับ และส่งให้กรม

ฝ่ายยทุ ธบริการทร่ี บั ผิดชอบ 1 ฉบับ
ข้อ 28 ผู้มอี ำนาจสง่ั ใหโ้ อน

28.1 ส่ิงอุปกรณ์เกินอัตรา หรือระดับสะสม ส่ิงอุปกรณ์รอง และช้ินส่วนซ่อมเว้นอาวุธ
ไดแ้ ก่ เจา้ กรมฝา่ ยยทุ ธบรกิ าร

28.2 กรณอี นื่ ๆ นอกเหนอื จากทก่ี ล่าวมาแล้ว ไดแ้ ก่ ผู้บัญชาการทหารบก
ข้อ 29 การส่งคืน ได้แก่ การส่งสิ่งอุปกรณ์กลับคืนหน่วยจ่าย หรือหน่วยสนับสนุนทางการส่ง
กำลงั มิได้หมายถงึ การส่งซอ่ ม หรือสง่ สงิ่ อปุ กรณ์ท่ซี ่อมเสรจ็ แลว้ กลบั คืนหน่วยสง่ ซอ่ ม
ขอ้ 30 มลู เหตกุ ารส่งคนื

30.1 เกินอัตรา หรอื ระดับสะสมท่ไี ด้รับอนมุ ัติ
30.2 ล้าสมัย เปล่ียนแบบ หรอื เลิกใช้
30.3 เมอ่ื ครบกำหนดเวลาท่ใี ห้ยมื

ห น ้ า | 75

30.4 เม่ือได้รับอนมุ ัตใิ หจ้ ำหนา่ ย
30.5 กรณีอ่ืน ๆ
ข้อ 31 ประเภทส่งิ อปุ กรณท์ ่สี ง่ คืน
31.1 สิ่งอปุ กรณใ์ ชก้ ารได้ ได้แกส่ ่ิงอปุ กรณ์ทมี่ คี ุณภาพใช้งานไดต้ ามความม่งุ หมายเดมิ
31.2 ส่ิงอุปกรณ์ใช้การไม่ได้ ได้แก่ สิ่งอุปกรณ์ที่สึกหรอ ชำรุดไม่สามารถนำไปใช้งาน
ตามความมุ่งหมายเดิม จำเป็นต้องซ่อม ปรับสภาพ ก่อนนำเข้าเก็บรักษาเพ่ือแจกจ่าย หรือในกรณีท่ีหน่วย
ซ่อมบำรุงพิจารณาแล้วเห็นว่าซ่อมไม่คุ้มค่า ซ่ึงจะต้องดำเนินการขอจำหน่ายต่อไป หรือซากส่ิงอุปกรณ์ ตาม
ระเบียบกองทัพบกว่าด้วย การจำหน่ายส่ิงอุปกรณ์ หรือสัตว์พาหนะที่ปลดจำหน่ายออกจากทะเบียน ตาม
ระเบยี บกองทพั บกว่าดว้ ย กจิ การสตั ว์พาหนะ
ขอ้ 32 การดำเนินการสง่ คืน
32.1 สิง่ อุปกรณ์ใช้การได้

32.1.1 หนว่ ยส่งคนื เมื่อมีมูลเหตุท่ีจะตอ้ งส่งคนื ตามขอ้ 30 ให้ปฏิบตั ดิ ังนี้
32.1.1.1 ทำการปรนนิบตั บิ ำรงุ สงิ่ อุปกรณก์ อ่ นสง่ คืน
32.1.1.2 ตรวจสอบใหม้ สี งิ่ อุปกรณ์ครบชุด
32.1.1.3 ผกู ป้ายประจำสิ่งอปุ กรณ์ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-010
32.1.1.4 ทำใบส่งคืนโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-013 หรือ ทบ.400-014

หรอื ทบ.400-007-1 แล้วแตก่ รณี จำนวน 1 ชดุ ทางเดนิ ของใบสง่ คนื ตามเอกสารที่แนบทา้ ยระเบยี บ
32.1.1.5 ส่งสิ่งอุปกรณ์พร้อมใบส่งคืนไปยังหน่วยรับคืน ภายใน 7 วัน

เวน้ จะไดร้ ับคำส่งั เปน็ อยา่ งอื่น
32.1.1.6 ตัดยอดส่ิงอุปกรณ์ออกจากบัญชีคุม เมื่อได้รับใบส่งคืนจาก

หน่วยรับคนื
32.1.2 หนว่ ยรบั คืน ปฏิบัตดิ ังนี้
32.1.2.1 ลงทะเบียนใบส่งคืน
32.1.2.2 ตรวจรับสง่ิ อุปกรณต์ ามใบสง่ คืน
32.1.2.3 ลงนามรับส่ิงอุปกรณ์ในใบส่งคืน และส่งใบส่งคืน คืนหน่วย

สง่ คืน จำนวน 1 ฉบบั
32.1.2.4 บันทึกการรบั สง่ิ อปุ กรณใ์ นบตั รบัญชคี ุม

32.2 ส่ิงอุปกรณใ์ ช้การไมไ่ ด้
32.2.1 สิ่งอุปกรณ์ชำรุดไม่สามารถนำไปใช้ได้ตามความมุ่งหมายเดิมจำเป็นต้อง

ซ่อม ปรบั สภาพ ก่อนนำเข้าเกบ็ รกั ษาเพือ่ แจกจ่าย เมอื่ ได้รบั คำส่งั ให้ส่งคนื ใหป้ ฏิบัตดิ งั นี้
32.2.1.1 หน่วยส่งคืน ใหป้ ฏิบตั เิ ชน่ เดียวกับขอ้ 32.1.1
32.2.1.2 หน่วยรับคนื ใหป้ ฏบิ ตั ิเชน่ เดียวกับขอ้ 32.1.2

32.2.2 สิ่งอุปกรณ์ชำรุด ในกรณีที่หน่วยซ่อมบำรุงพิจารณาแล้วเห็นว่าซ่อมไม่
คมุ้ ค่า และดำเนินการจำหนา่ ยตามระเบยี บแล้ว ใหป้ ฏิบัติดังต่อไปน้ี

32.2.2.1 หน่วยส่งคืน ทำใบส่งคืนโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-013 หรือ
ทบ.400-014 หรือ ทบ.400-007-1 แล้วแต่กรณี จำนวน 1 ชุด ส่วนสิ่งอุปกรณ์นั้นไม่ต้องนำส่งคืน เพราะอยู่
กบั หนว่ ยซอ่ มซงึ่ เป็นหนว่ ยเดียวกันกบั หนว่ ยรบั คืนอยแู่ ลว้

23.2.2.2 หนว่ ยรับคืน ให้ปฏบิ ัติเชน่ เดียวกบั กบั ข้อ 32.1.2

ห น ้ า | 76

32.2.3 ซากสิ่งอุปกรณ์ ตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการจำหน่ายส่ิง
อุปกรณ์ พ.ศ.2524 ใหป้ ฏิบัติดงั น้ี

32.2.3.1 หน่วยสง่ คนื ให้ปฏิบัติเช่นเดยี วกับขอ้ 32.1.1
32.2.3.2 หน่วยรบั คืน ให้ปฏิบตั ิเชน่ เดียวกบั ขอ้ 32.1.2
ขอ้ 33 ผมู้ อี ำนาจสงั่ ให้สง่ คืนส่งิ อปุ กรณ์
33.1 สง่ิ อุปกรณเ์ กินระดบั สะสม ได้แก่ ผู้บงั คบั หน่วยเก็บรักษา
33.2 สิ่งอุปกรณท์ ค่ี รบกำหนดยมื แล้วยงั ไมส่ ่งคนื ไดแ้ ก่ ผมู้ ีอำนาจอนุมัติสัง่ ใหย้ ืม
33.3 สิ่งอุปกรณ์หรือซากสิ่งอุปกรณ์ที่ไดร้ ับอนุมัติให้จำหน่าย ไดแ้ ก่ ผมู้ ีอำนาจส่ังให้ตัด
ยอดสิง่ อุปกรณ์ออกจากบัญชีคมุ
33.4 ส่ิงอุปกรณ์เกินอัตรา ล้าสมัย เปลี่ยนแบบ หรือ เลิกใช้ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยุทธ
บริการ หรือเจ้าฝ่ายกิจการพเิ ศษ
33.5 เหตอุ ่นื ๆ นอกเหนือจากท่ีกล่าวมาแลว้ ไดแ้ ก่ ผูบ้ ญั ชาการทหารบก

ตอนที่ 5
การแจกจ่าย
ข้อ 34 การรบั ส่ิงอปุ กรณ์ ไดแ้ ก่ การดำเนนิ กรรมวธิ เี พื่อเข้าครอบครองสิ่งอปุ กรณท์ ่ีได้มา
34.1 การเตรียมรับส่ิงอปุ กรณ์
34.1.1 ตรวจสอบเอกสารการรับสงิ่ อปุ กรณ์
34.1.2 เตรียมสถานที่ และสง่ิ อำนวยความสะดวกในการรบั สงิ่ อุปกรณ์
34.2 การรบั ส่งิ อปุ กรณจ์ ากการเบิก
34.2.1 หน่วยเบิกไปรบั สง่ิ อปุ กรณ์เอง
34.2.1.1 ผู้รับสิ่งอุปกรณ์ดำเนินการตามข้อ 18.5.1.4 หรือ 18.5.2.4
แลว้ แตก่ รณี
34.2.1.2 สำหรับสิ่งอุปกรณ์ที่ไม่ประสงคจ์ ะเปิดหีบห่อ ให้ผู้รับสง่ิ อุปกรณ์
ตามจำนวนทีร่ ะบไุ ว้ และให้ผ้จู า่ ยบนั ทกึ ในใบเบิกไว้ดว้ ย “ไมเ่ ปิดหบี หอ่ ”
34.2.1.3 การจำหน่ายสิ่งอุปกรณ์ออกจากหน่วยจ่าย ให้ผู้รับปฏิบัติตาม
ระเบยี บ และคำแนะนำของหน่วยจา่ ย
34.2.1.4 เม่ือผู้รับนำส่ิงอุปกรณ์ไปถึงหน่วยเบิก ให้ผู้บังคับหน่วยเบิกต้ัง
กรรมการตรวจรบั ส่ิงอปุ กรณ์ จำนวน 3 นาย ประกอบด้วยนายทหารสญั ญาบัตรอย่างน้อย 2 นาย โดยเฉพาะ
ควรจะต้ังเจ้าหนา้ ทใ่ี นสายงานท่รี บั ผดิ ชอบต่อสิ่งอุปกรณ์นน้ั เขา้ รว่ มด้วย
34.2.1.5 ให้คณะกรรมการรายงานผลการตรวจรับให้ผู้บังคับหน่วยเบิก
ทราบ ถ้าปรากฏวา่ ส่ิงอุปกรณ์คลาดเคล่ือนไปจากใบเบิก หรือมีการชำรุดเสียหาย ให้คณะกรรมการสอบสวน
สาเหตุแล้วแนบสำเนาการสอบสวนไปพรอ้ มกับรายงานดว้ ย
34.2.1.6 ถ้ามีส่ิงอุปกรณ์ชำรุด หรือสูญหาย ให้ปฏิบัติตามระเบียบ
กองทพั บก ว่าด้วยการจำหนา่ ยสิ่งอปุ กรณ์ พ.ศ.2524 ลง 30 ก.ย. 24
34.2.1.7 ให้คณะกรรมการตรวจรบั มอบสิ่งอุปกรณใ์ ห้แกเ่ จ้าหนา้ ทีค่ ลงั
เจา้ หนา้ ท่ีเก็บรักษา
34.2.1.8 เจ้าหน้าท่ีบัญชีคมุ บันทกึ การรับสงิ่ อุปกรณใ์ นบตั รบญั ชคี ุม

ห น ้ า | 77

34.2.2 หนว่ ยเบกิ รับส่งิ อปุ กรณจ์ ากสำนกั งานขนสง่ ปลายทาง
34.2.2.1 เมื่อหน่วยได้รับสิ่งอุปกรณ์จากสำนักงานขนส่งปลายทาง ให้

ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการส่งและรับส่ิงอุปกรณ์ พ.ศ.2500 และคำสั่งกองทัพบก (คำส่ังช้ีแจง)
ท่ี 57/13166 ลง 11 ต.ค.2504 เร่ือง ชแ้ี จงการปฏบิ ัตกิ ารส่งและรบั สง่ิ อปุ กรณ์ของ ทบ. (คร้งั ท่ี 3)

34.2.2.2เจ้าหนา้ ท่บี ญั ชคี มุ บันทึกการรบั ส่ิงอุปกรณใ์ นบัตรบญั ชีคมุ
หลงั จากคณะกรรมการตรวจรบั ได้ตรวจรบั เรียบรอ้ ยแลว้

34.3 การรบั สิ่งอปุ กรณจ์ ากกรณีอ่นื ใหถ้ อื ปฏิบตั ดิ งั นี้
34.3.1 ตรวจรับสง่ิ อปุ กรณ์
34.3.2 ขน้ึ บญั ชคี มุ ส่งิ อปุ กรณ์
34.3.3 รายละเอียดการดำเนินการให้ถือปฏิบัติตามระเบียบหรือคำส่ังต่าง ๆ ท่ี

เกีย่ วข้องกับทีม่ าของส่ิงอุปกรณน์ ัน้ ๆ
ข้อ 35 การเก็บรักษา ได้แก่ การเตรียมพ้ืนท่ี การนำสิ่งอุปกรณ์เข้า-ออก การเก็บ หรือการวาง

การระวังรกั ษาสิ่งอุปกรณใ์ นทีเ่ กบ็ รวมทั้งการปรนนิบัตบิ ำรงุ และการซอ่ มบำรงุ ขณะเก็บ และกอ่ นจ่ายด้วย
35.1 ความรบั ผดิ ชอบในการเกบ็ รักษา
35.1.1 เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือ เจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ ผู้บัญชาการ

ช่วยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนโดยตรง ผู้บังคับ
หนว่ ยใช้ จะตอ้ งวางระเบียบ และจดั งานเกบ็ รกั ษาสิ่งอุปกรณ์ในที่เกบ็ ใหป้ ลอดภยั และอยูใ่ นสภาพทใี่ ช้การได้

35.1.2 เจ้าหน้าที่เก็บรักษา จะต้องเก็บรักษาส่ิงอุปกรณ์ให้เป็นไปตามระเบียบที่
ผบู้ ังคับบัญชา ในขอ้ 35.1.1 กำหนด

35.2 ปัจจัยในการเก็บรักษา เพื่อให้การเก็บรักษาไดผ้ ลดี ผู้บังคับหน่วยเก็บรักษาจะต้อง
คำนึงปัจจยั ดงั ตอ่ ไปนี้

35.2.1 พนื้ ทเ่ี กบ็ รกั ษา
35.2.2 กำลังคน
35.2.3 เคร่ืองมอื ยกขน
35.3 การเตรยี มท่เี ก็บรักษา
35.3.1 ท่ีเก็บ เตรียมทำที่เก็บในพื้นที่คลังปิด หรือคลังกลางแจ้ง แบ่งเป็นคลัง
หรือพ้ืนที่ แถว ตอน และช่อง โดยใช้ตัวอักษรผสมกับตัวเลข ตัวอย่างเช่น 1-ก-2-4 หมายความว่า คลังพื้นท่ี
1 แถว ก ตอนที่ 2 ช่องท่ี 4
35.3.2 ให้เขียนผังแสดงที่เก็บตามท่ีจัดระบบไว้ในข้อ 35.3.1 เพื่อสะดวกในการ
วางแผนนำส่ิงอปุ กรณ์เข้าทีเ่ ก็บ
35.4 การนำส่ิงอุปกรณเ์ ข้าทเ่ี กบ็ เจ้าหนา้ ทเ่ี กบ็ รักษาดำเนนิ การดังนี้
35.4.1 บันทึกบัตรแสดงท่ีเก็บโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-009 สำหรับหน่วย
สนับสนนุ และแบบพมิ พ์ ทบ.400-068 สำหรับหน่วยใช้
35.4.2 ทำการบำรุงรกั ษาสิ่งอุปกรณ์ก่อนนำเขา้ เก็บ
35.4.3 ผกู ปา้ ยประจำสิง่ อปุ กรณโ์ ดยใช้แบบพิมพท์ บ.400-010 โดยอนโุ ลม
35.4.4 นำส่ิงอุปกรณ์เขา้ เกบ็ ในท่ที ีก่ ำหนดให้
35.5 การเก็บรักษา หรือการวางสิ่งอปุ กรณ์

ห น ้ า | 78

35.5.1 กำหนดทางเดินในพ้ืนที่เก็บรักษาเพ่ือความสะดวกในการใช้แรงงาน หรือ
เครอ่ื งทุ่นแรง ดงั ตอ่ ไปน้ี

35.5.1.1 ทางเดนิ หลัก อาจมีทางเดยี วตรงกง่ึ กลางตามความยาวของพ้ืนท่ี
เก็บรกั ษา หรอื มีทง้ั สองขา้ งของพืน้ ท่เี ก็บรกั ษาก็ได้ ควรใหม้ ีความกวา้ งพอท่ีรถยก 2 คนั สวนทางกนั ได้

35.5.1.2 ทางเดินขวาง ตั้งฉากกับทางเดินหลักควรกำหนดให้ตรงกับ
ประตู

35.5.1.3 ทางเดนิ ระหวา่ งทเี่ ก็บของควรให้รถเขน็ หรอื รถยกปฏบิ ตั งิ านได้
35.5.1.4 ทางเดินฉุกเฉิน จดั สำรองไว้สำหรบั ใชใ้ นกรณีฉกุ เฉิน
35.5.2 เก็บสง่ิ อปุ กรณใ์ หเ้ ตม็ ท่ีวา่ งทงั้ ทางดง่ิ และทางระดับ
35.5.3 เกบ็ สง่ิ อุปกรณใ์ ห้พ้นจากอนั ตราย
35.5.4 เก็บสิ่งอุปกรณ์ในท่ีเก็บรักษาให้ตรงกับลักษณะและคุณสมบัติของสิ่ง
อุปกรณ์
35.6 การระวังรักษา เจ้าหน้าท่ีเก็บรักษาจะต้องระวังรักษาสิ่งอุปกรณ์ให้ปลอดภัย และ
อย่ใู นสภาพใช้การได้ ดงั ตอ่ ไปนี้
35.6.1 ภยั ธรรมชาติ
35.6.1.1 เก็บสิ่งอุปกรณ์ในคลังเก็บรักษาซ่ึงสามารถระบายอากาศหรือ
ป้องกันความชื้นได้
35.6.1.2 ตรวจ ปอ้ งกนั และทำลายจำพวกสตั ว์ และแมลงตา่ ง ๆ
ในกรณพี ้ืนทคี่ ลังไม่เพียงพอ ให้แยกเกบ็ สงิ่ อุปกรณท์ ม่ี คี วามคงทนตอ่ สภาพดนิ ฟ้าอากาศไวใ้ นคลังเปิด
35.6.1.4 ใช้ไม้รอง หรือทาสี หรือทาน้ำมันสำหรับสิ่งอุปกรณ์ที่เก็บไว้ใน
คลงั เปดิ
35.6.2 อคั คภี ยั
35.6.2.1 กำหนดเขตและกวดขันไมใ่ ห้นำเชอื้ เพลิงเขา้ บริเวณท่ีเก็บรกั ษา
35.6.2.2 รักษาความสะอาด และขจดั เชื้อเพลงิ บรเิ วณที่เก็บรักษา
35.6.2.3 ดูแลรักษาเครือ่ งมอื ดบั เพลิงให้อยู่ในสภาพพรอ้ มท่ใี ชก้ ารได้
35.6.2.4 จดั เจา้ หนา้ ท่ีดับเพลงิ และหมน่ั ฝกึ ซ้อมอยู่เสมอ
35.6.2.5 กำหนดข้อปฏิบัติเก่ียวกับการใช้เครื่องมือ และแรงงาน เพ่ือลด
ความเสียหายเม่อื เกิดอัคคีภัย
35.6.2.6 จัดทำป้ายเตือน เช่น ป้าย “ห้ามสูบบุหร่ี” หรือ “ไวไฟ” เป็น
ต้น
35.6.2.7 หม่ันตรวจตราสภาพการอ่ืน ๆ อันอาจก่อให้เกิดอัคคีภัย เช่น
สายไฟฟ้า เปน็ ตน้ ส่วนรายละเอียดในการปฏบิ ัติอื่น ๆ ใหถ้ ือปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก วา่ ด้วยการป้องกัน
อคั คภี ยั พ.ศ.2503 และท่ีแกไ้ ขเพิ่มเตมิ
35.6.3 การทจุ รติ
35.6.3.1 สิ่งอุปกรณ์ที่มีค่าสูง ขนย้าย และขายงา่ ย ต้องเก็บรักษาไว้ในที่
ปลอดภัย และมอบความรับผดิ ชอบให้เฉพาะบุคคล
35.6.3.2 คลังทกุ คลังจะตอ้ งปดิ ประตูใส่กญุ แจ และตตี ราใหเ้ รียบร้อยเมื่อ
เลกิ งาน

ห น ้ า | 79

35.6.3.3 ระมดั ระวงั มิใหบ้ ุคคลลกั ลอบนำส่ิงอุปกรณอ์ อกจากคลัง
35.6.4 วินาศกรรม

35.6.4.1 จัดเจ้าหน้าท่ีรักษาการณ์ หรือเวรยาม พร้อมอาวุธเพ่ือตรวจ
รอบๆ บริเวณที่เก็บรักษาตามความจำเป็น ถ้าหากบริเวณกว้างขวางอาจจัดให้มียานพาหนะ และเคร่ืองมือ
สอื่ สารด้วยก็ได้

35.6.4.2 กวดขันบุคคล และยานพาหนะที่จะผา่ นขา้ -ออก
35.6.4.3 จัดให้มีเครื่องกีดขวางหรือเครื่องเตือนภัยในบริเวณท่ีเก็บรักษา
ตามความเห็นสมควรรายละเอียดในการปฏิบัติอื่น ๆ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ ว่าด้วยการรักษาความ
ปลอดภยั แห่งชาติ พ.ศ.2517
35.6.5 อุบตั เิ หตุ
35.6.5.1 อบรมชีแ้ จงการใช้เคร่ืองมือยกขน วธิ ีการขนย้าย และวธิ ีการจัด
วางสงิ่ อปุ กรณ์
35.6.5.2 หม่ันตรวจ และปรนนบิ ตั ิบำรุงเครือ่ งยกขนอยูเ่ สมอ
35.6.5.3 ทำความสะอาดในที่เกบ็ รักษา
35.6.6 การชำรดุ หรอื เส่อื มสภาพ
ส่ิงอุปกรณ์ซ่อมอยู่ในท่ีเก็บจะต้องได้รับการดูแลรักษาให้อยู่ในสภาพใช้การได้ หรือมิให้เสื่อมสภาพ
ก่อนนำไปใช้โดยจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ หรือคำสั่งที่ทางราชการกำหนด หรือตามคำแนะนำของผู้ผลิต
หรือทำหนา้ ท่ที างเทคนิค
35.7 การนำสิง่ อุปกรณอ์ อกจากท่ีเก็บ
35.7.1 การนำสงิ่ อปุ กรณอ์ อกจากทเี่ ก็บ ต้องมหี ลักฐานการนำออก
35.7.2 การย้ายท่เี กบ็ สง่ิ อปุ กรณ์ ต้องบนั ทึกการยา้ ยไวเ้ ปน็ หลกั ฐาน
35.7.3 สิ่งอุปกรณ์ใดทนี่ ำเขา้ เก็บก่อน ให้นำออกจากจ่ายกอ่ น
ข้อ 36 การจ่ายส่ิงอุปกรณ์ ได้แก่ การดำเนินการตอบสนองความต้องการท่ีหน่วยเบิกได้ส่งคำขอ
มา
36.1 ข้อพิจารณาในการจ่ายสิ่งอุปกรณ์ หลักเกณฑ์ที่จะต้องพิจารณาว่าควรจ่ายรายการ
ใด จำนวนเทา่ ใดนั้น ใหค้ ำนึงถงึ ปจั จยั ดงั ตอ่ ไปนี้
36.1.1 ความต้องการของหน่วยรบั การสนบั สนนุ
36.1.2 สถานการณ์ทางยุทธวธิ ี
36.1.3 ระดับสง่ กำลัง หรอื อตั ราของหนว่ ยรบั การสนับสนนุ
36.1.4 สงิ่ อำนวยความสะดวกในการขนสง่
36.1.5 สถานท่ีเกบ็ รกั ษาของหน่วยรับการสนบั สนุน
36.1.6 ปริมาณสิ่งอปุ กรณค์ งคลังของหน่วยจา่ ย
36.1.7 ขดี ความสามารถในการซ่อมบำรุงของหน่วยรบั การสนบั สนนุ
36.2 การเตรยี มการจา่ ยส่งิ อปุ กรณ์
36.2.1 จดั ทำแผนการแจกจ่าย หรือเอกสารการแจกจา่ ยสงิ่ อปุ กรณแ์ ลว้ แต่กรณี
36.2.2 ดำเนนิ การปรนนบิ ัติบำรุงสงิ่ อปุ กรณก์ อ่ นจา่ ย ถา้ จำเปน็
36.2.3 จดั สถานทีเ่ ตรียมจา่ ยโดยแบง่ ส่วนดังต่อไปนี้
36.2.3.1 สว่ นจา่ ย และคัดแยก

ห น ้ า | 80

36.2.3.2 สว่ นบรรจุหบี ห่อ และจดั สง่
36.3 วธิ ีดำเนินการจ่ายส่งิ อปุ กรณ์

36.3.1 สว่ นบัญชคี ุม
36.3.1.1 รับใบเบิก และลงทะเบียนเอกสารโดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.

400-002
36.3.1.2 ตรวจสอบใบเบิกในเร่อื งดังต่อไปน้ี
36.3.1.2.1 ลายมอื ชอื่ ผู้มสี ิทธิเบิก
36.3.1.2.2 ความเรียบร้อยและความถูกต้องของใบเบกิ เช่น การ

อ้างหลักฐานท่ีใชใ้ นการเบิก รายการและจำนวนทขี่ อมา เปน็ ต้น
36.3.1.2.3 ความผูกพันระหว่างหน่วยเบิกกับหน่วยจ่าย เช่น

คา้ งรบั และคา้ งจ่าย เปน็ ตน้
36.3.1.2.4 ห้วงเวลากำหนดให้ทำการเบกิ

36.3.1.3 การดำเนนิ การทางบญั ชี
36.3.1.3.1 จำนวนท่ีขอเบิกมาอาจเพ่ิม หรือลดได้ ทั้งนี้เพ่ือ

ความเหมาะสมกบั มาตรฐานการบรรจหุ ีบหอ่
36.3.1.3.2 พิจารณาจ่ายตามลำดับทะเบียนหน่วยจ่าย เว้นแต่

จะได้รับอนุมัติจากผู้มอี ำนาจอนมุ ตั ิสั่งจ่ายใหด้ ำเนนิ การเปน็ อยา่ งอ่นื
36.3.1.3.3 ถ้าไม่มีส่ิงอุปกรณ์จ่ายให้บันทึกการจ่ายโดยผู้

ตรวจสอบลงนามในใบเบกิ สง่ ใบเบกิ ฉบับที่ 2 คืนหน่วยเบกิ ส่วนท่เี หลือเก็บไวใ้ นแฟม้ รอเร่ือง
36.3.1.3.4 ถ้าไม่มีสิ่งอุปกรณ์จ่ายให้บันทึกการจ่าย ผู้ตรวจสอบ

ลงนามแล้วเสนอผู้มีอำนาจส่ังจ่ายลงนามอนุมัติ เก็บใบเบิกฉบับท่ี 3 ไว้ในแฟ้มรอเรื่อง ส่วนใบเบิกท่ีเหลือส่ง
ส่วนเกบ็ รักษาดำเนนิ การต่อไป เมอื่ ไดร้ ับใบเบิกฉบับท่ี 1 คนื แล้วใหส้ ำเนาช่ือผูร้ ับผจู้ ่ายลนามในใบเบิกฉบบั ท่ี
3 แลว้ สง่ ให้สว่ นเกบ็ รกั ษาไว้เปน็ หลักฐาน

36.3.2 ส่วนเก็บรกั ษา
36.3.2.1 ลงนามผูจ้ ่ายในใบเบกิ
36.3.2.2 จัดเตรยี ม และคัดแยกส่ิงอุปกรณ์ใหค้ รบถว้ นตามใบเบิก
36.3.2.3 เขยี นปา้ ยประจำสง่ิ อุปกรณ์ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.400-010
36.3.2.4 ในกรณีท่ีหน่วยเบิกมารับส่ิงอุปกรณ์เอง ให้ตรวจสอบรายมือชื่อผู้มีสิทธิ
รบั ส่งิ อปุ กรณ์ใหถ้ ูกตอ้ ง
36.3.2.5 มอบส่ิงอปุ กรณ์ให้ผู้รับไปพร้อมกับใบเบิกฉบับที่ 2 และส่งใบเบิกฉบับท่ี
3 คนื สว่ นบญั ชีคมุ
36.3.2.6 ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในการบรรทุกสิ่งอุปกรณ์
36.3.2.7 ในกรณีที่ผ้รู ับไมส่ ามารถรับสิ่งอุปกรณ์ตามใบเบิกได้ครบในครั้งเดียว ให้ผู้
จ่ายและผู้รับทำบนั ทึกไวด้ า้ นหลงั ใบเบิก แล้วลงนามรับรองไว้
36.3.2.8 ในกรณีที่หน่วยจ่ายส่งสิ่งอุปกรณ์ ให้หน่วยเบิกผ่านสำนักงานขนส่ง ให้
ปฏิบตั ิตามระเบียบกองทัพบก วา่ ด้วยการส่งและรบั สิ่งอปุ กรณ์ พ.ศ.2500 และระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการ
ทำหีบหอ่ และทำเครื่องหมายเพ่อื การขนสง่ สิ่งอปุ กรณ์ พ.ศ.2499

ห น ้ า | 81

36.4 การจ่ายส่ิงอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ ได้แก่ การจ่ายส่ิงอุปกรณ์ให้หน่วยรับการ
สนบั สนนุ โดยหนว่ ยที่รบั การสนับสนนุ นน้ั ไม่ตอ้ งทำใบเบิก

36.4.1 ข้อพจิ ารณาในการจ่ายอตั โนมัติ
36.4.1.1 หน่วยจ่ายทำใบเบิก 1 ชุด โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-007 หรือ

ทบ.400-007-1 แล้วแต่กรณี
36.4.1.2 ลงทะเบียนเอกสารแล้วบันทึกคำว่า “อัตโนมัติ” ไวด้ ้านบนของ

ใบเบกิ ด้วยอกั ษรสแี ดง
36.4.1.3 บันทกึ การจ่าย
36.4.1.4 ผูต้ รวจสอบลงนามแลว้ เสนอผู้มีอำนาจส่งั จ่าย ลงนาม อนมุ ตั ิ
36.4.1.5 เก็บใบเบิกฉบับท่ี 3 ไว้ในแฟ้มรอเรื่อง ส่วนท่ีเหลือส่งไปให้

หน่วยรบั การสนบั สนุน พร้อมกับส่ิงอุปกรณ์
36.4.1.6 หน่วยรับการสนับสนุน ลงที่ใบเบิก ลงนามผู้เบิก และผู้รับสิ่ง

อปุ กรณ์ในใบเบิก ฉบับที่ 1, 2, 4, หรือ 5 แล้วแต่กรณี ส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คนื หน่วยจ่ายภายใน 7 วนั นับจาก
วันทไ่ี ดร้ บั ส่งิ อปุ กรณ์ สว่ นใบเบิกทเ่ี หลอื ให้ดำเนนิ การเหมือนกบั การเบิกตามปกติ

36.4.1.7 หากหน่วยรับการสนับสนุนส่งใบเบิกฉบับท่ี 1 คืนหน่วยจ่ายช้า
เกินกว่ากำหนด ให้หน่วยจ่ายแจ้งผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือของหน่วยรับการสนับสนุนนั้นทราบ เพื่อพิจารณา
สอบสวนสาเหตุแหง่ ความล่าชา้ ตอ่ ไป

36.5 การปลดเปลื้องค้างจา่ ย
36.5.1 การปลดเปล้ืองค้างจ่าย ไดแ้ ก่ การจ่ายสิ่งอุปกรณ์ท่ีค้างจ่ายใหก้ ับหน่วย

โดยอตั โนมตั ิ
36.5.2 วธิ ีดำเนินการปลดเปลือ้ งคา้ งจ่าย
36.5.2.1 หน่วยจ่ายทำใบเบิก 1 ชุด ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-007 หรือ

ทบ.400-007-1 แลว้ แตก่ รณี โดยใช้ทใี่ บเบกิ เดมิ
36.5.2.2 บันทึกทะเบียนเอกสารในใบเบิก โดยใช้เลขทะเบียนเดิม แล้ว

เพ่ิมจำนวนคร้ังท่ีปลดเปลื้องท้ายทะเบียนน้ัน กับบันทึกคำว่า “ปลดเปลื้องค้างจ่าย” ไว้ด้านบนของใบเบิก
ดว้ ยอักษรสแี ดง

36.5.2.3 บนั ทกึ การจา่ ย
36.5.2.4 ผู้ตรวจสอบลงนามแล้วเสนอผู้มอี ำนาจสง่ั จ่าย ลงนาม
36.5.2.5 เก็บใบเบิกฉบับท่ี 3 ไว้ในแฟ้มรอเรื่อง ส่วนท่ีเหลือส่งไปให้
หน่วยรับการสนบั สนุน พร้อมกบั สง่ิ อุปกรณ์
36.5.2.6 หน่วยรับการสนับสนุนลงนามผู้เบิก และผู้รับสิ่งอุปกรณ์ในใบ
เบิกฉบับท่ี 1, 2, 4 หรือ 5 แล้วแต่กรณี ส่งใบเบิกฉบับที่ 1 คืนหน่วยจ่ายภายใน 7 วัน นับจากวันที่ได้รับส่ิง
อปุ กรณ์ ส่วนใบเบกิ ท่ีเหลือให้ดำเนนิ การเชน่ เดยี วกบั การเบิกตามปกติ

ห น ้ า | 82

36.5.2.7 หากหน่วยรับการสนับสนุนส่งใบเบิกฉบับท่ี 1 คืนหน่วยจ่าย
ล่าช้าเกินกว่ากำหนด ให้หน่วยจ่ายแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาช้ันเหนือของหน่วยรับการสนับสนุนนั้นทราบ เพ่ือ
พิจารณาสอบสวนสาเหตุแห่งความลา่ ช้าต่อไป

36.6 อำนาจสง่ั จา่ ยในใบเบิก
36.6.1 การเบกิ
36.6.1.1 สิ่งอุปกรณ์สำคัญ และส่ิงอุปกรณ์หลัก เมื่อผู้บัญชาการ

ทหารบก อนุมัติหลักการแจกจ่ายแล้ว ผู้อำนวยการกอง หรือหัวหน้ากอง ตามที่เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ
และ/หรือเจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษกำหนด ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก
หรอื ผูบ้ งั คับการจังหวดั ทหารบก เป็นผ้สู ่ังจ่าย

36.6.1.2 ส่ิงอุปกรณ์รอง และช้ินส่วนซ่อม ผู้อำนวยการกอง หรือ หรือ
หัวหน้ากอง ตามท่ีเจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือ เจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ กำหนด ผู้บัญชาการ
กองบัญชาการช่วยรบ ผู้บญั ชาการมณฑลทหารบก หรือผู้บังคับการจังหวดั ทหารบก หรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผสู้ ่ังจา่ ย

36.6.2 การยืม
36.6.2.1 ส่งิ อปุ กรณส์ ำคญั เมื่อผู้บัญชาการทหารบก อนมุ ัติหลักการยืม

แล้ว ผู้อำนวยการกอง หรือหัวหน้ากอง ตามท่ีเจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ และ/หรือ เจ้ากรมฝ่ายกิจการพิเศษ
กำหนด ผู้บญั ชาการกองบัญชาการชว่ ยรบ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบก หรือผบู้ งั คบั การจงั หวัดทหารบก เป็น
ผูส้ ง่ั จา่ ย

36.6.2.2 ส่ิงอุปกรณ์อ่ืน ๆ เม่ือได้รับหลักการจากผู้มีอำนาจให้ยืมแล้ว
ผอู้ ำนวยการกอง หรือหัวหน้ากอง ตามท่ีเจา้ กรมฝ่ายยทุ ธบรกิ าร และ/หรอื เจ้ากรมฝ่ายกิจการพเิ ศษ กำหนด
ผู้บัญชาการกองบัญชาการช่วยรบ ผู้บญั ชาการมณฑลทหารบก หรอื ผู้บังคับการจงั หวดั ทหารบก เปน็ ผู้สง่ั จ่าย

ตอนที่ 6
การจำหน่าย
ข้อ 37 การจำหน่าย หมายถึง การตัดยอดสิ่งอุปกรณ์ออกจากความรับผิดชอบของกองทัพบก
เนื่องจากสูญไป ส้ินเปลืองไป (สิ่งอุปกรณ์ส้ินเปลือง) ชำรุดเสียหายจนไม่สามารถคืนสภาพได้อย่างคุ้มค่า
เส่อื มสภาพจนใชก้ ารไมไ่ ด้ หรอื สญู หาย ตาย เกินความตอ้ งการ เปน็ ของลา้ สมยั ไมใ่ ช้ราชการตอ่ ไป
ข้อ 38 การดำเนินการ ให้ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยการจำหน่ายส่ิงอุปกรณ์
พ.ศ.2524 ลง 30 ก.ย. 24
ตอนท่ี 7
การควบคุม
ข้อ 39 ประเภทการควบคุม แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ การควบคุมทางการคลัง และการ
ควบคุมทางบญั ชี
39.1 การควบคุมทางการส่งกำลัง หน่วยในสายการส่งกำลังต่ำกว่า ต้องอยู่ในความ
ควบคุมของหน่วยระดับเหนือกว่าในสายการส่งกำลังเดียวกัน โดยถือว่ามูลฐานภารกิจ และความ
รบั ผิดชอบในการควบคุม ดังตอ่ ไปน้ี
39.1.1 มูลฐานการควบคุมทางการสง่ กำลัง มดี งั น้ี
39.1.1.1 นโยบายการส่งกำลังของหนว่ ยเหนอื
39.1.1.2 หลกั ฐานการควบคุมสิ่งอุปกรณ์

ห น ้ า | 83

39.1.1.3 การพยากรณ์ความต้องการส่ิงอุปกรณ์ในอนาคตตามห้วง
ระยะเวลาทีก่ ำหนด

39.1.1.4 ปัจจัยท้ังมวลที่อาจเป็นอปุ สรรค และขัดต่อสถานภาพทางการ
ส่งกำลงั

39.1.2 ภารกจิ การควบคุมทางการส่งกำลัง มดี งั นี้
39.1.2.1 สำรวจการทำบัญชรี ายการสิ่งอุปกรณ์
39.1.2.2 คำนวณความต้องการ
39.1.2.3 อำนวยการจัดหา
39.1.2.4 จัดงานการแจกจา่ ย
39.1.2.5 อำนวยการซอ่ มสร้าง
39.1.2.6 อำนวยการจำหนา่ ย

39.1.3 ความรับผดิ ชอบในการควบคุมทางการสง่ กำลงั
39.1.3.1 กองทัพบกกำหนดระดบั สง่ กำลัง
39.1.3.2 หน่วยสนับสนนุ ทางการส่งกำลงั

39.1.3.2.1 คำนวณปรมิ าณสิง่ อปุ กรณ์ ตามวันสง่ กำลงั ทก่ี องทัพบกกำหนด
39.1.3.2.2 รกั ษาระดับสง่ กำลงั
39.1.3.2.3 รวบรวมข้อมูลที่มีผลกระทบกระเทือนต่อสถานภาพทางการส่งกำลัง
แล้วเสนอขออนมุ ตั ิเปลยี่ นแปลงระดับสง่ กำลัง

39.2 การควบคุมทางบัญชี ผู้บังคับหน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง และหน่วยใช้จะตอ้ ง
รับผิดชอบดำเนินการควบคุมทางบัญชีต่อสิ่งอุปกรณ์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเหมาะสม เพ่ือให้ทราบ
สถานภาพส่ิงอปุ กรณไ์ ดต้ ลอดเวลา โดยถอื มูลฐาน ภารกจิ และความรบั ผดิ ชอบในการควบคุม ดงั ต่อไปน้ี

39.2.1 มูลฐานการควบคุมทางบัญชี มีดงั น้ี
39.2.1.1 บัตรบัญชีคุมสิ่งอุปกรณ์ และข้อมูลต่าง ๆ ที่เก่ียวข้องกับบัตร

บัญชีคมุ รวมท้งั ประวตั สิ ่ิงอปุ กรณ์
39.2.1.2 สถานภาพส่งิ อปุ กรณ์
39.2.1.3 ประสบการณ์ในการรับ-จา่ ย สิ่งอปุ กรณ์

39.2.2 ภารกจิ ในการควบคมุ ทางบัญชี มีดังนี้
39.2.2.1 บันทึก รายงาน และจัดทำข้อมูลท่ีเกี่ยวกับจำนวนสภาพ และ

สถานภาพของส่ิงอุปกรณ์
39.2.2.2 จัดทำแผนการแจกจ่ายหรอื เอกสารการแจกจ่ายสิง่ อปุ กรณ์ แล้วแต่กรณี
39.2.2.3 พจิ ารณาจำนวนส่ิงอปุ กรณ์ใหห้ น่วยสนับสนนุ ตามความจำเป็นให้น้อยทส่ี ุด
39.2.3 ความรบั ผิดชอบในการควบคมุ ทางบัญชี
39.2.3.1 หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง
39.2.3.1.1 ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน จัดทำสถิติ และข้อมูล

สำหรบั สิ่งอุปกรณ์แต่ละรายการ
39.2.3.1.2 จัดทำบัญชคี ุมส่ิงอุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-

003 และแบบพิมพ์ ทบ.400-003-2

ห น ้ า | 84

39.2.3.1.3 จัดทำบัญชีคุมอุปกรณ์ถาวรท่ีอยู่ในความครอบครอง
ของหนว่ ยใช้ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-003-3 และ ทบ.400-002-4

39.2.3.2 หนว่ ยใช้
39.2.3.2.1 ดำเนินการรวบรวมหลักฐาน จัดทำสถิติ และข้อมูล

สำหรับสิ่งอุปกรณ์แต่ละรายการ
39.2.3.2.2 จัดทำบัญชีคุมส่ิงอุปกรณ์ถาวร โดยใช้แบบพิมพ์

ทบ.400-005 สำหรับบญั ชีคุมชนิ้ สว่ นซอ่ ม และสิ่งอุปกรณใ์ ช้สิ้นเปลืองน้ันใหใ้ ช้แบบพมิ พ์ ทบ.400-068
ข้อ 40 ความรับผิดชอบ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต้องรับผิดชอบในการควบคุมส่ิงอุปกรณ์ให้

เปน็ ไปโดยเรยี บรอ้ ยเหมาะสม ถูกตอ้ งตามความมงุ่ หมายของทางราชการ

ตอนที่ 8
การสำรวจ
ข้อ 41 การสำรวจ ได้แก่ การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ และการสำรวจทเ่ี กบ็
41.1 การสำรวจสิ่งอุปกรณ์ ไดแ้ ก่ การนับจำนวน และตรวจสภาพส่ิงอุปกรณ์ในที่เกบ็ ให้
ตรงกับหลักฐานบญั ชีคุม
41.2 การสำรวจท่ีเก็บ ได้แก่ การตรวจสอบท่ีเก็บสิ่งอุปกรณ์ให้ตรงกับบัตรบัญชีคุมสิ่ง
อปุ กรณ์ หรือบัตรแสดงท่ีเก็บ
ขอ้ 42 ประเภทการสำรวจสงิ่ อุปกรณ์
42.1 การสำรวจเบ็ดเสร็จ ไดแ้ ก่ การสำรวจส่ิงอุปกรณ์ในครอบครองทั้งหมด โดยปดิ การ
เบิกจ่ายท้ังส้ิน เว้นกรณีเร่งด่วน การสำรวจประเภทน้ีกระทำเมื่อมีเคร่ืองมือสำรวจสมบูรณ์ ซ่ึงจะทำให้การ
สำรวจนัน้ เสรจ็ สนิ้ โดยเร็ว
42.2 การสำรวจหมุนเวียน ได้แก่ การสำรวจส่ิงอุปกรณ์ท่ีได้แบ่งออกเป็นจำพวก หรือ
ชนิด หรือรายการเพื่อทำการสำรวจหมุนเวียนกันไปตามห้วงระยะเวลาที่กำหนด โดยปิดการเบิกจ่ายเฉพาะ
รายการทส่ี ำรวจนน้ั เว้นกรณีเร่งดว่ น
42.3 การสำรวจพิเศษ ได้แก่ การสำรวจสิ่งอุปกรณ์เป็นครั้งคราวตามความจำเป็น โดย
ปดิ การเบิกจ่ายเฉพาะรายการที่สำรวจน้ัน เว้นกรณีเร่งด่วน การสำรวจประเภทนี้จะสำรวจส่ิงอุปกรณ์จำพวก
ใด ชนดิ ใด หรอื รายการใดนั้น ขนึ้ อยู่กบั กรณีดงั ตอ่ ไปน้ี
42.3.1 เมอื่ อันตรายเกิดข้ึนกับสง่ิ อปุ กรณ์
42.3.2 เมือ่ หน่วยบัญชคี มุ ตอ้ งการทราบจำนวน
42.3.3 เมือ่ ยอดคงคลังในบัตรบญั ชีคมุ เป็นศูนย์
42.3.4 เมือ่ มกี ารยบั ยั้งการจา่ ย
42.3.5 เมอ่ื พบส่งิ อุปกรณต์ กหล่น
42.3.6 เมื่อมกี ารรับสง่ หน้าที่
42.3.7 เมอ่ื สิง่ อปุ กรณใ์ นทีเ่ กบ็ เป็นศูนย์
ขอ้ 43 การดำเนินการสำรวจสง่ิ อปุ กรณ์
43.1 การสำรวจเบ็ดเสรจ็
43.1.1 ประกาศระงับการเบิก-จ่าย ให้หน่วยรับการสนับสนุน และหน่วยท่ี
เกย่ี วข้องทราบล่วงหน้า

ห น ้ า | 85

43.1.2 ให้ทำการจา่ ยสง่ิ อปุ กรณ์ใหเ้ สร็จส้นิ กอ่ นวันเรม่ิ สำรวจ
43.1.3 วิธปี ฏบิ ตั ิในการสำรวจ

43.1.3.1 เจ้าหนา้ ทบ่ี ญั ชคี มุ กรอกหมายเลข ชือ่ และทเ่ี ก็บส่งิ
อุปกรณ์ โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-011 และบันทึกคำว่า “ สำรวจ วัน เดือน ปี ” ท่ีทำการสำรวจ ลงในบัตร
บัญชีคุม ขดี เส้นใตด้ ว้ ยหมกึ สีแดง เสร็จแล้วส่งแบบพมิ พ์ ทบ.400-011 ให้คณะกรรมการหรือชดุ สำรวจ

43.1.3.2 คณะกรรมการ หรือชุดสำรวจ ทำการสำรวจส่ิงอุปกรณ์ ตาม
แบบพมิ พ์ ทบ.400-011 เสรจ็ แล้วสง่ แบบพมิ พด์ งั กลา่ วคืนเจ้าหน้าที่บัญชีคมุ

43.1.3.3 เจ้าหน้าที่บัญชีคุม บันทึกผลการรายงานลงในใบรายงานผล
การเปรยี บเทยี บการตรวจสอบยอดสง่ิ อปุ กรณ์ โดยใชแ้ บบพิมพ์ ทบ.400-012

43.1.3.4 เจ้าหน้าท่ีบัญชีคุมเสนอใบรายงานผลเปรียบเทียบการ
ตรวจสอบยอดสง่ิ อุปกรณต์ ่อผู้มีอำนาจสัง่ ปรับยอดในบัตรบัญชคี ุม ตามข้อ 48

43.1.3.5 เจ้าหน้าที่ บัญชีคุม ทำการปรับยอดในบัตรบัญชีคุมเม่ือได้รับ
อนมุ ัติ

43.2 การสำรวจหมุนเวียน
43.2.1 เจ้าหน้าที่บัญชีคุมทำตารางการสำรวจเพื่อให้มีการสำรวจอย่างต่อเน่ืองใน

รอบปี
43.2.2 ให้ทำการจ่ายสิ่งอปุ กรณ์เฉพาะรายการท่ีทำการสำรวจ ใหเ้ สร็จสิ้นกอ่ นวนั

เร่มิ สำรวจ
43.2.3 ระงบั การเบิกจ่าย เฉพาะรายการที่ทำการสำรวจ โดยไม่ต้องแจ้งให้หน่วย

รบั การสนับสนุนทราบ
43.2.4 วิธีการปฏิบัติในการสำรวจ ดำเนินการเช่นเดียวกับการสำรวจเบ็ดเสร็จ

ตามที่กล่าวในข้อ 43.1.3
43.3 การสำรวจพเิ ศษ

43.3.1 เมื่อมีเหตุที่จะต้องทำการสำรวจพิเศษอันเน่ืองมาจากกรณีใดกรณีหนึ่ง ตามท่ีกล่าวมา
ในข้อ 42.3 ให้ผู้รับผิดชอบโดยตรงรายงานขออนุมัติทำการสำรวจตอ่ ผูม้ ีอำนาจส่งั สำรวจ

43.3.2 ให้ทำการจ่ายส่ิงอุปกรณ์เฉพาะรายการที่ทำการสำรวจให้เสร็จส้ินก่อนวัน
เร่มิ สำรวจ

43.3.3 ระงับการเบิกจ่าย เฉพาะรายการท่ีทำการสำรวจ โดยไมต่ ้องแจ้งให้หน่วย
รบั การสนับสนุนทราบ

43.3.4 วิธีปฏิบัติในการสำรวจ ดำเนินการเช่นเดียวกับการสำรวจเบ็ดเสร็จตามท่ีกล่าวมาใน
ขอ้ 43.1.3

ข้อ 44 ผู้มีอำนาจในการสัง่ สำรวจส่งิ อุปกรณ์
44.1 คลังกรมฝ่ายยุทธบริการ หรือฝ่ายกิจการพิเศษ ได้แก่ เจ้ากรมฝ่ายยุทธบริการ

หรือฝา่ ยกจิ การพเิ ศษ
44.2 คลังกองบัญชาการชว่ ยรบ ได้แก่ ผูบ้ ัญชาการชว่ ยรบ
44.3 คลังมณฑลทหารบก ได้แก่ ผู้บญั ชาการมณฑลทหารบก
44.4 คลงั จังหวัดทหารบก หน่วยสนบั สนนุ โดยตรง หรือหน่วยใช้ ได้แก่ ผู้บังคับ

บญั ชาช้ันผบู้ ญั ชาการกองพล หรือเทียบเท่า
ขอ้ 45 การตัง้ กรรมการ หรือชุดสำรวจส่งิ อุปกรณ์

ห น ้ า | 86

ให้ผู้มีอำนาจในการสั่งสำรวจสิ่งอุปกรณ์ตามข้อ 44 ต้ังกรรมการ หรือชุดสำรวจส่ิงอุปกรณ์
อย่างน้อย 3 นาย (ประธานกรรมการ หรือหัวหน้าชุดต้องเป็นนายทหารสัญญาบัตร) เพ่ือทำการสำรวจส่ิง
อุปกรณ์ตามทีก่ ล่าวแลว้ ในขอ้ 43

ข้อ 46 วิธีสำรวจส่ิงอุปกรณ์ ให้คณะกรรมการ หรือชุดสำรวจส่ิงอุปกรณ์ ใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-
011 ซ่งึ มีอยู่ 3 สว่ น ดำเนนิ การสำรวจตามลำดับดงั ต่อไปนี้

46.1 คนท่ี 1 สำรวจสงิ่ อุปกรณ์ แลว้ บนั ทึกผลลงในใบสำรวจสง่ิ อปุ กรณ์สว่ นท่ี 1
46.2 คนท่ี 2 สำรวจส่ิงอุปกรณ์รายการเดียวกับคนท่ี 1 แล้วบันทึกผลลงในใบสำรวจ
ส่วนท่ี2
46.3 คนท่ี 3 (ประธานกรรมการ หรือหัวหน้าชุด) ตรวจสอบผลการสำรวจของคนท่ี 1
และ 2 ถ้าตรงกันให้บันทึกผลในใบสำรวจส่ิงอุปกรณ์ส่วนท่ี 3 ถ้าผลการสำรวจของคนท่ี 1 และ 2 ไม่ตรงกัน
ให้คนท่ี 3 ทำการสำรวจใหม่ ผลการสำรวจของคนที่ 3 ตรงกับคนใดคนหน่ึง ให้เอาผลน้ันบันทึกลงในใบ
สำรวจส่ิงอุปกรณ์ส่วนท่ี 3 ถ้าผลการสำรวจของคนท่ี 3 ไม่ตรงกับใครเลย ให้ทำการสำรวจใหม่พร้อมกันท้ัง 3
คน
ขอ้ 47 การรายงานการสำรวจส่ิงอุปกรณ์

47.1 เม่ือเจ้าหน้าที่บัญชีคุมได้รับใบสำรวจส่ิงอุปกรณ์จากคณะกรรมการ หรือชุด

สำรวจแล้ว ทำการเปรยี บเทียบการตรวจสอบยอดสิง่ อุปกรณ์ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-012

47.2 ถ้าผลตรวจนับส่ิงอุปกรณ์คลาดเคล่ือนจากยอดในบัตรบัญชคี ุมก่อนเสนอรายงาน ให้
ปฏบิ ัตดิ งั นี้

47.2.1 ตรวจสอบเอกสารการรับสง่ิ อปุ กรณ์และหลักฐานการนำส่งิ อุปกรณ์เขา้ ที่เกบ็

47.2.2 ตรวจสอบเอกสารการจา่ ยส่งิ อุปกรณแ์ ละหลักฐานการนำส่งิ อปุ กรณอ์ อกจาก
ทเ่ี กบ็

47.2.3 สำรวจทีเ่ ก็บสิง่ อุปกรณ์
47.3 เสนอรายงานผลการเปรียบเทียบการตรวจสิ่งอุปกรณ์ต่อผู้มีอำนาจในการส่ังสำรวจ
และบนั ทกึ จำนวนสิง่ อุปกรณ์ตามทไ่ี ด้รับอนมุ ัตใิ ห้ปรบั ยอดแล้วด้วยหมึกสแี ดงในบัตรบญั ชีคุม
ขอ้ 48 การปรบั ยอดในบัตรบญั ชคี ุม
48.1 ถ้าจำนวนสิ่งอุปกรณ์ขาดจากยอดในบัตรบัญชีคุม ให้ปฏิบัติตามระเบียบกองทัพบก
ว่าด้วยการจำหน่ายส่งิ อุปกรณ์ พ.ศ.2524 ลง 30 ก.ย.24
48.2 ถ้าจำนวนส่ิงอุปกรณ์เกนิ กว่ายอดในบญั ชีคุม ใหผ้ ู้มีอำนาจในการส่ังสำรวจสิ่งอปุ กรณ์
สง่ั แก้ไขในบัตรบัญชคี มุ ได้ แล้วแจง้ ให้สายยทุ ธบริการที่รับผดิ ชอบในสิ่งอปุ กรณน์ นั้ ทราบด้วย
ข้อ 49 การสำรวจที่เก็บสิ่งอุปกรณ์
49.1 ความมุง่ หมายในการสำรวจท่เี ก็บที่ส่ิงอุปกรณ์

49.1.1 เพอื่ ใหส้ งิ่ อปุ กรณ์อย่ใู นทีเ่ กบ็ ตรงกบั บัตรแสดงทเี่ กบ็
49.1.2 เพ่ือใหส้ ่งิ อุปกรณ์ชนดิ เดียวกนั เก็บในท่แี หง่ เดยี วกัน
49.1.3 เพ่อื ให้สิง่ อุปกรณใ์ นที่เกบ็ ตรงกับลกั ษณะ และคุณสมบัติ
49.1.4 เพื่อให้ทราบที่เก็บทวี่ ่าง
49.2 การดำเนินการสำรวจทเ่ี ก็บ

ห น ้ า | 87

49.2.1 ผู้บังคับหน่วยเก็บรักษาทำตารางการสำรวจที่เก็บส่ิงอุปกรณ์ เพ่ือให้มีการ
สำรวจอยา่ งต่อเนอ่ื งในรอบปี

49.2.2 เจ้าหน้าท่ีบัตรแสดงที่เก็บบันทึกรายละเอียดสิ่งอุปกรณ์ในที่เก็บเดิมลงใบ
สำรวจทเี่ ก็บ โดยใชแ้ บบพมิ พ์ ทบ.400-011-1 ตามตารางการสำรวจท่เี ก็บส่งิ อุปกรณ์ทกี่ ำหนดไว้

49.2.3 ผู้สำรวจทำการสำรวจที่เก็บ ถ้ามีการเปล่ียนแปลงแก้ไขให้บันทึกในใบ
สำรวจท่ีเกบ็

49.2.4 ผู้บงั คับหน่วยเกบ็ รกั ษาสั่งการแกไ้ ข
49.2.5 เจา้ หน้าทบ่ี ตั รแสดงท่ีเก็บ แก้บตั รแสดงท่ีเกบ็ แลว้ สง่ ให้เจ้าหนา้ ท่ีบัตรบญั ชี
คมุ ทราบด้วย

ตอนที่ 9
การรายงานสถานภาพ
ข้อ 50 ความม่งุ หมาย เพื่อให้ผบู้ ังคับบัญชา และหนว่ ยส่งกำลังบำรุงชั้นเหนือทราบสถานภาพ สิ่ง
อปุ กรณ์ของหน่วยใช้ และหน่วยสนับสนนุ ทางการสง่ กำลงั ตามห้วงระยะเวลา
ข้อ 51 หน่วยรายงาน
51.1 หน่วยใช้ ได้แก่ หน่วยระดับกองพัน หรือเทียบเท่า หรือหน่วยอิสระที่กองทัพบก
อนุมัติขน้ึ ไป
51.2 หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง ได้แก่ หน่วยสนับสนุนโดยตรง หน่วยสนับสนุน
ท่ัวไป และคลัง
ข้อ 52 ห้วงระยะเวลาการรายงาน
52.1 หน่วยใช้ รายงานรอบ 3 เดือน ปิดรายงานสิ้น มีนาคม มิถุนายน กันยายน และ
ธนั วาคม
52.2 หน่วยสนับสนนุ ทางการสง่ กำลงั รายงานในรอบ 6 เดือน ปดิ รายงานในสนิ้ มีนาคม
และ กนั ยายน
ข้อ 53 สิ่งอปุ กรณท์ ตี่ อ้ งรายงาน
53.1 หน่วยใช้ รายงานสถานภาพสิ่งอุปกรณ์ตาม อจย. ทุกรายการ ส่วนส่ิงอุปกรณ์ตาม
อสอ. นนั้ ใหร้ ายงานเฉพาะรายการท่กี องทพั บกกำหนด
53.2 หน่วยสนับสนุนทางการส่งกำลัง ให้รายงานสถานภาพสิ่งอุปกรณ์ท่ีสะสมเฉพาะ
รายการท่ีกองทัพบกกำหนด
ขอ้ 54 การดำเนนิ การรายงาน
54.1 รายงานของหน่วยใช้
54.1.1 หน่วยใช้ ทำรายงานในรอบ 3 เดือน โดยใช้แบบพิมพ์ ทบ.400-016
จำนวน 3 ชุด แยกส่ิงอุปกรณ์ตามความรับผิดชอบของสายยุทธบริการ หน่วยรายงานเก็บไว้ 1 ชุด ส่ง
รายงานตามสายการบังคับบัญชา 2 ชุด สำหรับส้ิน มีนาคม ให้รายงานสถานภาพสิ่งอุปกรณ์ทุกรายการ
ตามที่กำหนดในข้อ 53.1 ส่วนส้ิน มิถุนายน กันยายน และ ธันวาคม ให้รายงานเฉพาะรายการท่ี
เปลีย่ นแปลง ถ้าไม่มกี ารเปลี่ยนแปลงใหย้ นื ยนั ให้ทราบ
54.1.2 หน่วยบังคับบัญชาช้ันเหนือของหน่วยรายงาน รับทราบสถานภาพสิ่ง
อปุ กรณ์ แล้วส่งรายงานจำนวน 2 ชดุ ไปตามสายการบังคบั บัญชาจนถงึ นขต.ทบ. และ นขต.ทบ. ส่งรายงาน
ให้กรมฝา่ ยยทุ ธบริการทรี่ บั ผิดชอบสง่ิ อุปกรณ์ จำนวน 2 ชุด ภายใน 30 วนั นบั จากวันปิดรายงาน

ห น ้ า | 88

54.1.3 กรมฝ่ายยุทธบริการ ตรวจสอบสถานภาพสิ่งอุปกรณ์แล้วส่งรายงานให้
กองทพั บก จำนวน 1 ชดุ เก็บไว้ 1 ชุด

ข้อ 55 ประเภทเอกสาร เอกสารต่าง ๆ ท่ีใชใ้ นการรายงานสถานภาพส่ิงอปุ กรณ์ให้ถือเป็นเอกสาร
“ลบั ”

ตอนที่ 10
ข้อกำหนดอนื่ ๆ
ข้อ 56 แบบพิมพ์ทใ่ี ชใ้ นระเบียบนี้

การเบกิ การยืม การโอน และการสง่ คืน

56.1 ทบ.400-006 ใบเบกิ
56.2 ทบ.400-007 ใบเบิก และใบสง่ สิง่ อุปกรณ์
56.3 ทบ.400-007-1 ใบเบิก หรือใบส่งคนื สิง่ อุปกรณ์
56.4 ทบ.400-008 ใบแจง้ การยกเลกิ
56.5 ทบ.400-013 ใบส่งคนื
56.6 ทบ.400-014 ใบสง่ คืน และส่งสิ่งอุปกรณ์
56.7 ทบ.400-071 ใบตดิ ตามใบเบกิ
56.8 ทบ.400-073 เอกสารการแจกจ่ายส่งิ อปุ กรณ์
56.9 ทบ.400-074 ใบโอนสงิ่ อุปกรณ์
การเกบ็ รกั ษา
56.10 ทบ.400-009 บตั รแสดงทเี่ ก็บ
56.11 ทบ.400-010 บัตรประจำสง่ิ อุปกรณ์
การควบคมุ
56.12 ทบ.400-002 ทะเบียนหลกั ฐานการสง่ กำลงั
56.13 ทบ.400-003 บตั รบัญชีคมุ
56.14 ทบ.400-003-2 บัตรบญั ชีคุมส่งิ อุปกรณ์ใช้การไมไ่ ด้
56.15 ทบ.400-003-3 บตั รบัญชีคมุ ส่งิ อุปกรณถ์ าวรคุมเป็นรายการ
56.16 ทบ.400-003-4 บตั รบญั ชีคุมสิ่งอุปกรณถ์ าวรคุมเป็นหน่วย
56.17 ทบ.400-005 บญั ชสี ง่ิ อปุ กรณข์ องหน่วย
56.18 ทบ.400-068 บตั รบัญชีคุมชิ้นสว่ นซอ่ ม และสง่ิ อปุ กรณใ์ ช้ส้นิ เปลือง
การสำรวจ
56.19 ทบ.400-011 ใบสำรวจสง่ิ อุปกรณ์
56.20 ทบ.400-011-1 ใบสำรวจที่เก็บ
56.21 ทบ.400-012 ใบรายงานผลการเปรยี บเทยี บการตรวจสอบยอดสิง่ อปุ กรณ์
การรายงานสถานภาพ
56.22 ทบ.400-016 ใบรายงานสถานภาพสิง่ อุปกรณข์ องหน่วยใช้
56.23 ทบ.400-017 ใบรายงานสถานภาพส่ิงอุปกรณข์ องหนว่ ยสนับสนนุ
ข้อ 57 สิ่งอปุ กรณท์ ี่อยูใ่ นความรบั ผิดชอบหลายสายงาน
57.1 องค์ประกอบ สว่ นประกอบ ชิ้นสว่ น ฯลฯ

ห น ้ า | 89

57.1.1 ให้สายยุทธบริการซึ่งรับผิดชอบต่อส่ิงอุปกรณ์สำเร็จรูปชนิดใด รวบรวม
องค์ประกอบ ส่วนประกอบ ชิ้นส่วน ฯลฯ ของสิ่งอุปกรณ์สำเร็จรูปนั้นแจกจ่ายข้ันต้นให้กับหน่วยรับการ
สนับสนุน

57.1.2 ส่วนการแจกจ่ายทดแทน องค์ประกอบ ส่วนประกอบ ชิ้นส่วน ฯลฯ ให้
สายยุทธบริการทรี่ บั ผิดชอบเป็นผู้ดำเนนิ การ

57.2 สิ่งอปุ กรณท์ ี่จัดเป็นชุด
57.2.1 ให้สายยุทธบริการที่รับผิดชอบต่อสิ่งอุปกรณ์ท่ีจัดเป็นชุดรวบรวม

สว่ นประกอบของชุดแจกจา่ ยขน้ั ตน้ ให้แก่หนว่ ยท่รี ับการสนับสนนุ
57.2.2 ส่วนการแจกจา่ ยทดแทนสว่ นประกอบชุด ให้สายยทุ ธบริการท่รี ับผิดชอบ

เปน็ ผดู้ ำเนินการ
ข้อ 58 อำนาจในการวางระเบียบปลีกย่อย ให้กรมฝ่ายยุทธบริการ และกรมฝ่ายกิจการพิเศษ

ออกระเบียบปลกี ย่อยได้โดยไม่ขัด หรือแย้งกับระเบียบนี้

ห น ้ า | 90

แผนกวิชายานยนต์ กองการศึกษา
โรงเรียนทหารม้า ศูนยก์ ารทหารมา้

คา่ ยอดิศร สระบรุ ี
----------
เอกสารนำ

วชิ า การระมดั ระวงั ความปลอดภยั และเครอ่ื งดบั เพลงิ
1. ขอ้ แนะนำในการศึกษา

วิชานี้ใช้เวลาสอน 2 ช่ัวโมง ทำการสอนแบบเชิงประชุม และสาธิต เพื่อให้นักเรียนมีความรู้
ความสามารถเก่ียวกับการระมัดระวังความปลอดภัยเม่ือปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ และการ
ปฏิบัติงานในโรงซ่อม วิธีป้องกันอันตรายต่าง ๆ ท่ีอาจเกิดขึ้นได้ การใช้เคร่ืองดับเพลิง และการดับเพลิงที่
ถูกวิธี ตลอดจนวิธีการตรวจสภาพเครื่องดับเพลิง เพ่ือใช้เป็นหลักปฏิบัติในการระมัดระวังความปลอดภัย
และเป็นแนวทางในการกำหนดวิธปี ฏิบตั ิ และมาตรการในการระมดั ระวังความปลอดภัยของหน่วย ตอ่ ไป
2. หวั ขอ้ สำคัญในการศกึ ษา เพื่อใหน้ ักเรยี นมีความรู้ในเร่อื งเหล่าน้ี คือ

2.1 อนั ตรายเกย่ี วกับเพลิง
2.2 อันตรายซึ่งเกดิ จากการกระทบกระแทก
2.3 อันตรายซ่งึ เกิดจากยานพาหนะ
2.4 อันตรายเกีย่ วกบั เครื่องมือ
2.5 อันตรายจากสารเคมี
2.6 สาเหตุของอุบตั ิเหตุ ในโรงซ่อม และวิธีป้องกัน
2.7 เครอื่ งดบั เพลงิ
2.8 หลกั ทว่ั ไปในการดบั เพลงิ
2.9 ชนดิ ของเคร่ืองดบั เพลิง
2.10 หลักการใชเ้ ครือ่ งดับเพลงิ
2.11 การตรวจสภาพเคร่ืองดับเพลงิ
3. งานมอบ ให้นักเรียนอ่านเอกสารเพ่ิมเติม เร่ืองการระมัดระวังความปลอดภัย และเครื่องดับเพลิง ก่อน
เข้าหอ้ งเรยี น
4. คำแนะนำพเิ ศษ ไมม่ ี
5. เอกสารแจกจา่ ยพรอ้ มเอกสารนำ เอกสารเพิ่มเตมิ

***********

ห น ้ า | 91

แผนกวชิ ายานยนต์ กองการศกึ ษา
โรงเรียนทหารมา้ ศนู ย์การทหารมา้

คา่ ยอดศิ ร สระบุรี
----------
เอกสารเพิ่มเตมิ

วชิ า การระมดั ระวงั ความปลอดภยั และเครอ่ื งดับเพลงิ
ตอนที่ 1

การระมัดระวงั ความปลอดภยั
1. กล่าวท่ัวไป

1.1 คำแนะนำเหล่านี้แจกจ่ายให้เพ่ือเป็นหลักปฏิบัติในการระมัดระวังความปลอดภัย และเป็นแนวทาง
กำหนดวิธีปฏิบตั ิ เพื่อความปลอดภัยในโรงซ่อมเมื่อทำการซ่อมบำรุงยานพาหนะ และอย่าเข้าใจว่าคำแนะนำ
น้ีเป็นสิ่งถาวร โดยท่านจะต้องแก้ไข เปล่ียนแปลงหรือทบทวนให้ตรงกันกับข้อบังคับของกองทัพบกหรือ
เอกสารของทางราชการซึง่ กำหนดไว้ รวมทงั้ รปจ.ของหนว่ ยด้วย

1.2 ผู้มีหน้าทจี่ ะต้องปฏบิ ัตงิ านเก่ยี วกับการซ่อมบำรุงจะตอ้ งศกึ ษาวิธกี ารปฏิบัติ และตอ้ งปฏบิ ตั ิตามอย่าง
เคร่งครัด ต้องย้ำให้ผู้ปฏิบตั เิ ข้าใจว่าจะต้องทำการฝึกให้เปน็ นิสัยตลอดในชีวิตรับราชการ ฉะนั้นในหลักสูตรน้ี
เราจะนำข้อระมัดระวังความปลอดภัย และวธิ ีปฏิบัตทิ ี่มีประสิทธิภาพมาใช้ ในขณะนักเรียนปฏิบัตงิ านซ่อม
บำรุง ครู และนักเรียนจะต้องตื่นตวั อยเู่ ป็นนจิ เกี่ยวกบั ข้อระมัดระวังอันตรายในขณะฝกึ งาน และจะต้องแกไ้ ข
ขอ้ ผดิ พลาดทีเ่ กิดขึ้นโดยทันที
1.3 การซ่อมหรือการบริการยานพาหนะท่ีรบี ด่วนจะไม่เกดิ ผลงานท่ีดี ถ้าการทำงานขาดความระมัดระวัง
ปกตอิ ุบัติเหตุซึ่งเกิดข้ึนส่วนมากจากสาเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ เราต้องหลีกเลี่ยงโดยสนใจต่อสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่า
เพกิ เฉยละเลยเสีย สิง่ ซึ่งจะกล่าวต่อไปน้เี ปน็ อนั ตรายท่วั ๆ ไปซ่ึงต้องหลีกเล่ียงอยา่ ใหเ้ กิดขึ้น
2. อนั ตรายเกยี่ วกับเพลงิ

2.1 ของเหลวที่หก น้ำมันเครื่อง ไขข้น น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันทำความสะอาดซ่ึงติดไฟได้ง่าย ที่
หกหรือหยดอยบู่ นพ้ืนโรง หรือบนยานพาหนะจะตอ้ งทำความสะอาดทันทีอย่าปล่อยทงิ้ ไว้เป็นอนั ขาด

2.2 การสูบบุหร่ีภายในโรงรถ และรอบ ๆ ยานพาหนะ ถ้าอนุญาตให้มีการสูบบุหร่ีได้ในบริเวณ
รอบ ยานพาหนะ หรือในโรงซ่อม ย่อมทำให้เกิดอันตรายจากไฟได้ การสูบบุหร่ี อย่าสูบใกล้โรงซ่อม หรือ
ยานพาหนะอย่างน้อย 15 ฟุต ถ้าอนุญาตให้สูบภายในโรงซ่อมได้ต้องกำหนดพ้ืนที่เฉพาะ และจัดหาท่ีทิ้งก้น
บหุ ร่ไี ว้ให้ผูส้ ูบท้ิงตามท่ี ทไี่ ด้กำหนดไว้

2.3 การกระโดดของประกายไฟฟ้า ไอระเหยของน้ำมันเช้ือเพลิง และน้ำมันเครื่องจะติดไฟได้
งา่ ย เนอ่ื งจากประกายไฟจากการกระโดดของไฟฟา้ ที่ลัดวงจร การปอ้ งกันมิให้เกิดอนั ตรายจากไฟฟา้ น้ัน
ก่อนจะเรม่ิ ทำงานเกยี่ วกับระบบไฟฟ้าของยานพาหนะให้ปลดข้วั แบตเตอร่ีทตี่ อ่ ลงดินออกเสียก่อน

2.4 ของเหลวซ่ึงไวไฟ ไฟซ่ึงลุกไหม้ท่ีภาชนะใส่ของเหลวไวไฟภายในอาคารดับได้ยากมาก ฉะน้ัน
ภาชนะท่ีใส่น้ำมันเครื่อง สี น้ำ ยาเคมี และน้ำมันล้างเครื่อง เมื่อใช้งานเสร็จแล้วให้เก็บที่โรงเก็บน้ำมัน โดย
บรรจไุ วใ้ นภาชนะทท่ี ำด้วยโลหะมฝี าปิดมดิ ชิด เพือ่ ปอ้ งกันอนั ตรายซึง่ เกิดจากเพลงิ ไหม้

2.5 การเผาไหม้ซ่ึงเกิดเองโดยธรรมชาติ ผ้าข้ีริ้วเปียกน้ำมัน หรือเปื้อนน้ำมัน หรือขยะซึ่งชุ่ม
น้ำมนั จะเปน็ เหตุใหเ้ กิดเพลิงไหมเ้ องโดยธรรมชาตไิ ด้จากการย่อยสลายตวั จากเช้ือราตา่ ง ๆ ท่ีนำมาทงิ้

ห น ้ า | 92

สุมกองรวมเข้าไว้ด้วยกัน ฉะนั้นภาชนะท่ีใช้ใส่ขยะเปื้อนน้ำมันควรจะกันไฟได้ มีฝาปิดมิดชิด และเก็บไว้
ภายนอกอาคาร

2.6 น้ำมนั ทำความสะอาด ไม่ควรใชน้ ้ำมันเชอ้ื เพลงิ ในการทำความสะอาด เน่อื งจากนำ้ มันติดไฟ
ง่าย แอลกอฮอล์ ทนิ เนอร์ น้ำมันอาซิโตน และน้ำมันผสมสีบางชนดิ เปน็ วัสดไุ วไฟเชน่ เดียวกนั แตบ่ างคร้งั
จำเป็น จะต้องใช้ล้างส่ิงของในรายการพิเศษบางรายการ เมื่อเราใช้สารเคมีเหล่าน้ีทำความสะอาดให้ใช้ในท่ี
โล่งแจ้ง เม่ือเกิดเพลิงไหม้สามารถจะดับได้ทันทีโดยไม่ไปติดกับสิ่งอ่นื ๆ การเก็บน้ำมัน และสารเคมีเหล่านี้
ให้เก็บแยกต่างหากกับเสื้อผ้าเพ่ือป้องกันไฟไหม้ น้ำมันพิเศษซึ่งมีการลุกไหม้ต่ำ เช่น น้ำมันล้างเครื่อง (
โซลเว้นท์ ) ท่ี ใช้ทำการล้างส่วนประกอบ องค์ประกอบเครื่องยนต์ เม่ือเกิดการติดไฟเราสามารถดับได้ง่าย
ผ้าข้ีริ้วชุบน้ำมันเครื่อง เมื่อใช้แล้วให้เผาท้ิง ให้หลีกเล่ียงการใช้น้ำมันทำความสะอาดทา ยานพาหนะเพื่อ
รกั ษายานพาหนะ เพราะไมป่ ลอดภยั ดังกลา่ วมาแล้วข้างต้น

2.7 ถังน้ำมันเช้ือเพลิง ไฟซ่ึงเกิดจากการลุกไหม้ที่ถังน้ำมันเชื้อเพลิง ปกติจะเกิดข้ึนเน่ืองจาก
ไฟฟ้าสถิต ข้อระมัดระวังในการป้องกันไฟฟ้าสถิตน้ี ให้แตะพวยเติมน้ำมันกับปากถังน้ำมัน ก่อนท่ีจะเล่ือน
พวยเติมน้ำมันเขา้ ไปในคอถงั น้ำมัน และแตะไว้ตลอดเวลาระหวา่ งขณะเตมิ น้ำมนั จะต้องจดั หาเครื่องดบั เพลิง
พร้อมเจา้ หนา้ ทไี่ ว้ใกล้ ๆ และอยา่ ตดิ เคร่อื งยนต์ไว้ระหว่างเตมิ นำ้ มัน

2.8 ป๊ัมน้ำมนั เช้ือเพลงิ ไฟฟา้ ยานพาหนะซง่ึ มีปั๊มนำ้ มันเชื้อเพลิงไฟฟ้าเปน็ อันตรายอย่างยงิ่ ในการ
จะทำให้เกดิ การลุกไหม้ข้ึนได้ เม่อื ปิดสวิตชจ์ ุดระเบิดท้ิงไว้ในขณะดบั เครื่องยนต์ เพื่อป้องกันอนั ตรายดงั กล่าว
มาแล้วน้ี เจ้าหน้าท่ีผู้เก่ียวข้องควรระมัดระวังอย่าเปิดสวิตช์จุดระเบิดทิ้งไว้เป็นอันขาด เม่ือเคร่ืองยนต์ไม่
ทำงาน
3. อนั ตรายซงึ่ เกิดจากการกระทบกระแทก

กลา่ วโดยท่ัวไป การบาดเจ็บซ่งึ เกิดจากการล้ม และการกระแทกของวัสดุ สว่ นใหญเ่ กิดจากการกระทำ
ของบุคคล ถ้ารอบ ๆโรงซ่อมจัดระเบียบไว้ดีพอย่อมมีความปลอดภัย และโอกาสท่ีจะทำให้เกิดการบาดเจ็บ
ข้ึนจะน้อยลง ต่อไปจะกล่าวถึงสภาพอันตรายซึ่งเป็นสาเหตุทำให้บุคคลได้รับบาดเจ็บระหว่างการล้ม การ
กระทบกระแทก

3.1 น้ำมันท่ีหก และหยด น้ำมันเครื่อง ไขข้น น้ำมันเชื้อเพลิง หรือน้ำ หรือการทำความ
สะอาดด้วยของเหลวตา่ ง ๆ จะสาเหตใุ ห้มกี ารลน่ื ท่ีพ้ืน เปน็ แหง่ ๆ จะตอ้ งเช็ดของเหลวทีห่ กโดยทันที

3.2 การคลาน และการลุกข้ึน การคลานออกจากใต้พ้ืนรถ และลุกยืนข้ึน หรือบางคร้ังอาจต้อง
กลิ้งออกมาน้ันอาจ จะเป็นสาเหตุให้ล้มลง ในขณะยืนขึ้นได้ ฉะน้ันผู้คลานออกจากใต้ท้องรถควรจะหยุดพัก
เม่อื สิน้ สดุ การคลาน หรือใช้การพยงุ ตวั ลุกขึน้ โดยใช้ผนงั ช่วย

3.3 การเปิดประตูยานพาหนะทิ้งไว้ อันตรายจะเกิดข้ึนได้เสมอเมื่อมีผู้ใดผู้หน่ึงคลานออกจากใต้
ท้องรถ แล้วผงกศีรษะขึ้น ศีรษะจะชนขอบประตูรถส่วนที่เป็นมุมแหลม เพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุ
ดังกล่าวมาแล้ว จะตอ้ งปดิ ประตูรถไวเ้ สมอเมอื่ ลงจากรถ

3.4 การลืมองค์ประกอบและเครื่องมือ องค์ประกอบของพาหนะ และเคร่ืองมือท่ีวางทิ้งไว้หรือ
ลืมไว้บนยานพาหนะ อาจจะหล่นเข้าไปในส่วนเคล่ือนไหว และอาจจะทำให้องค์ประกอบ หรือชิ้นส่วนของ
เคร่ืองยนต์แตกหักเสียหายได้
4. อันตรายซ่ึงเกดิ จากยานพาหนะ

4.1 การปฏิบัติของพลประจำรถ อย่าหมุนเคร่ืองยนต์เมื่อเครื่องเปล่ียนความเร็วไม่อยู่ใน
ตำแหน่งว่าง และเม่ือมีผู้หนึ่งผู้ใดอยู่ใตย้ านพาหนะ ต้องจัดให้มีผู้ตรวจ และร้องวา่ "เรียบร้อย" เป็นสัญญาณ
เตือนก่อนท่จี ะติดเคร่ืองยนต์

ห น ้ า | 93

4.2 การขับยานพาหนะ อย่าอนุญาตให้นักเรยี นขบั รถ
4.3 ไม่สนใจการทำงานของเคร่ืองยนต์ อย่าออกจากรถเมื่อเคร่ืองยนต์ติดอยู่ ในโรงซ่อม ต้องมี
คนควบคุมบังคบั อยตู่ ลอดเวลาในหอ้ งพลขับ เมอ่ื เครือ่ งยนต์ตดิ
4.4 เม่ือจะนำรถเข้า-ออกในโรงซอ่ ม จะต้องให้สัญญาณแก่พลขบั แตผ่ ูเ้ ดยี ว เพ่ือหลีกเลยี่ งความ
ย่งุ ยากสบั สน บคุ คลอื่น ๆ ตอ้ งอยู่ในความสงบ และไม่สง่ เสยี ง
4.5 การนั่งโดยสารรถ ระหว่างการว่ิงลองเครื่อง นักเรียนจะต้องน่ังประจำท่ีใกล้ตอนหน้ารถ ซ่ึง
สามารถคอยสังเกตดูแผงหน้าปัด และศึกษาการตรวจสอบของครู ได้อย่างปลอดภัย และเห็นการปฏิบัติได้
สมบรู ณ์
4.5 ก๊าซคาร์บอนโมน๊อกไซด์ ก๊าซไอเสียทำให้เกิดอันตรายถึงตายได้ โรงซ่อมที่ปิดมิดชิดควร
จัดหาข้อต่อท่อไอเสียเสรมิ ต่อจากทอ่ ไอเสยี ของรถออกไปภายนอกโรงซอ่ ม และควรจะต่อท่อไอเสียก่อนเสมอ
ก่อนติดเครือ่ งยนต์ ถา้ ไม่มีทอ่ ดงั กล่าวแลว้ ให้เปดิ ประตูหนา้ ตา่ งใหห้ มดเพื่อใหอ้ ากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก
4.6 ยานพาหนะล้ม จะต้องจัดหาแม่แรงที่เหมาะสมกับการยกยานพาหนะเพื่อป้องกันมิให้
ยานพาหนะล้ม จึงจะดำเนินงานซ่อมไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ และปลอดภยั ก่อนยกจะตอ้ งหาเคร่ืองหนุนล้อ
ไว้ มใิ ห้ยานพาหนะเคลื่อนท่ีแลว้ จึงขน้ึ แมแ่ รงได้
4.7 แหวน นาฬิกา และเครื่องประดับร่างกาย ถ้าแหวน หรือนาฬิกาซ่ึงเป็นโลหะเกิดลัดวงจร
ขึ้นกับระบบไฟฟ้าของรถ จะทำให้เกิดการชำรุดเสียหาย และการบาดเจ็บข้ึนได้อย่างร้ายแรง เพื่อป้องกัน
อุบัติเหตุที่อาจเกิดข้ึนให้ถอดแหวน นาฬิกาข้อมือ สายสร้อย และเครื่องประดับออกก่อนท่ีจะทำงานกับ
ยานพาหนะ
5. อนั ตรายเกยี่ วกับเครอ่ื งมือ
5.1 ใช้เครื่องมือไม่ถูกต้อง อย่าใช้กุญแจงัด ขัด หรือดันถ้าใช้กุญแจโดยการดันออกจากตัว
อันตรายจะเกดิ ขึน้ ได้เมอื่ ปากกุญแจเกดิ การเลอ่ื น หรือหลุดออกจากชน้ิ งาน
5.2 การยืนไม่ม่ันคง การยืนควรยืนให้ทะมัดทะแมง และมั่นคง ก่อนที่จะพยายามใช้เครื่องมือใด
ๆ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงในการใชเ้ ครอื่ งมือทตี่ ้องการใช้แรงมาก ๆ
5.3 การใช้เคร่ืองมือไม่ถูกต้องกับงาน เช่นใช้ กุญแจเลื่อน คีม กุญแจจับของกลมยึดจับ
สิ่งของ (ยกเว้นการใช้กับของกลม) จะต้องพิจารณาในเรื่องการชำรุดของเคร่ืองมือ ควรหลีกเลี่ยงการใช้
เครอ่ื งมอื เหล่าน้ี ถ้ามเี ครื่องมอื อื่น ๆ ทเ่ี หมาะสมกว่า
5.4 สกัด เหล็กส่ง ค้อน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเสมอ ๆ ในการตีเหล็กส่ง หรือสกัดโดยเกิดการตีล่ืน
ถูกมือของผู้ตี หรือเกิดเศษโลหะหลุดออกจากส่วนบนของเหล็กส่ง และสกัด เม่ือจะทำการตีด้วยค้อนควร
ตรวจดูความมั่นคงที่ปลายเหล็กส่ง หรือสกัดจะต้องตรวจสภาพส่วนบน และตบแตง่ เครื่องมือให้เรียบร้อย
กอ่ นใช้ เพื่อหลกี เล่ียงอุบตั เิ หตจุ ากเศษวัตถทุ ่หี ลดุ ออกจากชิ้นงาน
5.5 แวน่ กนั สะเกด็ ใหส้ วมแว่นกนั สะเกด็ เสมอเมือ่ ใช้ลอ้ หินเจียระไน เมื่อ
ทำการเจาะด้วยสว่าน ทำการสกัดโลหะ โดยปกติจะต้องจัดให้มี แว่นกันสะเก็ดไว้ประจำกับหินเจียระไนทุก
โรงซ่อม
5.6 ท่อลม มีบุคคลจำนวนมากท่ีได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บเม่ือใช้กับท่อลมเสมอ ๆ ฉะน้ันบุคคล
ทุกนาย จะตอ้ งไมห่ ยอกล้อเลน่ ดว้ ยทอ่ ลม และระมดั ระวังอนั ตราย ซง่ึ จะเกิดขึ้นจากทอ่ ลม
5.7 ทอ่ น้ำ อยา่ เปดิ นำ้ เมือ่ ไม่มีผู้ใดจับสายสูบนำ้ และอยา่ ฉีดนำ้ ร้อนใส่บคุ คลใกลเ้ คียง

ห น ้ า | 94

5.8 เครื่องมือหล่อลื่นด้วยกำลังดันของลม เช่นเคร่ืองอัดไขข้นด้วยลม สามารถจะดันไขข้น
ออกมาได้ไกลถึง 50 ฟุต เมื่อกดกระเด่ืองใช้งาน ไขข้นซึ่งออกจากปลายท่อสามารถทำให้ผิวหนังแตกได้
ฉะน้ัน เมอื่ จะกดกระเดอ่ื ง ควรจะใสป่ ลายหวั อัดเขา้ ไปในหัวอัดไขขน้ ให้สนทิ กอ่ นทจ่ี ะกดกระเดอ่ื งใช้งาน

5.9 สายยาง อย่าวางหรือจุ่มสายยางลงในน้ำ เมื่อจะต่อสายยางเข้ากับท่อที่มีความดัน ถ้า
เห็นว่าจะมีผู้ใดถูกสะบัดหรือฟาดด้วยสายยางนั้น และอย่าคว้าหรือจับออก แต่ให้พยายามถอดสายยางออก
จากท่ใี ส่ และดงึ ออกจากมือถือ ดว้ ยมอื
6. อนั ตรายจากสารเคมี

6.1 น้ำกรดแบตเตอร่ี ให้หลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆ ที่จะทำให้เกิดประกายไฟโดยรอบแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ท่ีกำลังประจุไฟอยู่ จะปล่อยก๊าซไฮโดรเจน และอ๊อกซิเจนออกมา ซ่ึงสามารถจะทำให้ระเบิดอย่าง
รา้ ยแรงได้ ถา้ มผี ู้ใดถกู นำ้ กรดเข้าตาให้เปิดตาข้ึนดว้ ยนวิ้ มือ แล้วใช้นำ้ เปน็ จำนวนมาก ๆ ลา้ งตาและใหร้ นิ น้ำ
ลงบนทุกส่วนของรา่ งกาย ท่ีถกู น้ำกรดหกรด หากสามารถใชเ้ บกกิ้งโซดา ผสมกับน้ำจะชว่ ยให้กรดเป็นกลาง
ได้เร็วขึ้น ท่ีกล่าวมาแล้วน้ีเป็นเพียงการปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น และควรนำคนเจ็บไปพบแพทย์ให้เร็วท่ีสุด
เทา่ ที่จะทำได้

6.2 น้ำมันห้ามล้อ เม่ือน้ำมันห้ามล้อเข้าตาคงใช้วิธีปฏิบัติเช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วในเรื่อง
ของน้ำกรด และให้ลา้ งผวิ หนังทเี่ ปื้อนน้ำมันหา้ มลอ้ ดว้ ยสบู่ และนำ้ จนสะอาด

6.3 น้ำมันเชื้อเพลิง ถ้าเข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาด และล้างผิวหนังท่ีเปื้อนน้ำมันด้วยสบู่และ
นำ้

6.4 น้ำมนั ล้างเครื่อง (โซลเวน้ ท์) ให้ปฏิบตั เิ ชน่ เดยี วกบั น้ำมันเช้ือเพลงิ
6.5 แอลกอฮอล์ ให้ปฏบิ ตั เิ ชน่ เดยี วกบั นำ้ มนั เชอื้ เพลิง
6.6 น้ำมันอาซิโทน ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับน้ำกรดแบตเตอรี่ และหลีกเลี่ยงอย่าให้น้ำมัน
อาซิโทนถกู ผิวหนงั
6.7 น้ำมันหลอ่ ล่นื ใหป้ ฏบิ ตั เิ ช่นเดยี วกับน้ำมนั เช้ือเพลิง

ตอนที่ 2
สาเหตขุ องอบุ ตั ิเหตุ และวธิ ปี อ้ งกนั มใิ หเ้ กดิ อุบตั เิ หตุภายในโรงซอ่ ม
1. ความปลอดภัยในโรงซ่อม จะต้องมีความเข้าใจ และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อปฏิบัติงาน ภายในโรง
ซ่อม พลประจำรถและเจ้าหน้าที่ในโรงซ่อมต้องตื่นตัวคอยสังเกตการทำงานของเจ้าหน้าท่ีอื่น ๆ และแจ้งให้
เพือ่ นซ่ึงปฏบิ ัติงานอยู่ด้วยทราบ และให้สนใจต่อการกระทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ท่ีกำลังดำเนินอยู่ในโรงซ่อม จะ
เป็นการป้องกัน และลดอุบตั ิเหตลุ งได้
2. การระมดั ระวงั ความปลอดภยั ในโรงซ่อม

2.1 การยกรถให้ลอยพน้ พ้ืน
2.2 ระเบยี บขอ้ บงั คบั เกี่ยวกบั เพลงิ
2.3 การยก และการติดตั้งเครื่องยนต์ และองค์ประกอบหลัก เคร่ืองมือยก เครื่องผูกมัด
ตอ้ งรบั นำ้ หนักได้อย่างมัน่ คง
2.4 ความสะอาดภายในโรงซอ่ ม
3. อธบิ าย
3.1 การใช้เครื่องยนต์ และยานยนตอ์ ย่างผดิ วิธี
3.2 อุปนสิ ยั แต่ละบคุ คล

ห น ้ า | 95

3.3 การล้อเล่นกันภายในโรงซ่อม
4. ความบกพร่องส่วนบุคคลทเ่ี กิดขึ้นภายในโรงซ่อม

4.1 ความชำนาญไม่เพยี งพอ
4.2 ไมม่ มี งุ่ ความสนใจต่องานที่กำลงั กระทำอยู่
4.3 ทำงานตอ่ เน่อื งกันนาน จนเหนอื่ ยล้า
4.4 เชอื่ ใจตนเองมากจนเกินควร
4.5 ประมาทเลินเลอ่
4.6 ใช้กำลังมากเกนิ ควร
5. สรุป
อุบัติเหตุท้ังปวงนั้นมิได้เกิดขึ้นเอง แต่มีผู้ทำให้เกิดขึ้น ซึ่งอาจเป็นผู้หนึ่งผู้ใดก็ได้ แม้แต่ตัวท่านเอง
การระมัดระวงั รกั ษาความปลอดภยั เป็นหน้าทข่ี องทุกคนต้องรบั ทตี่ ้องผิดชอบร่วมกนั รวมท้ังการปฏิบัติตาม
รปจ.ของหนว่ ยทไ่ี ดก้ ำหนดไว้

ตอนที่ 3
เครอื่ งดบั เพลงิ
1. กล่าวท่ัวไป เพลิงที่เกิดลุกไหม้ข้ึนในรถเป็นอันตรายอย่างย่ิง และน่ากลัวท่ีสุด สำหรับหน่วยยานยนต์
ดังน้ันหากเกิดเพลิงไหม้ขึ้นจะต้องรีบดับเสียก่อนที่จะลุกลามใหญ่โต โดยใช้เคร่ืองดับเพลิงประจำรถ และ
เจ้าหน้าที่ผู้เก่ียวข้อง ควรจะมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับประเภทต่าง ๆ ของเพลิง ชนิดของเครื่อง
ดบั เพลิง และวิธีการดบั เพลิงที่กำลังลกุ ไหม้ จะตอ้ งทราบวธิ ีการใชเ้ ครือ่ งดับเพลิง และอปุ กรณ์ปอ้ งกันเพลิง
โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ การระงับความตืน่ ตระหนกตกใจอนั เปน็ สาเหตุใหน้ ำความรู้ไปใช้ในการดับเพลงิ ไมไ่ ด้
2. หลักทัว่ ไปในการดับเพลิง เมอ่ื เร่ิมเกิดเพลงิ ไหม้ลกุ ไหมข้ ้ึน
2.1 คุมสติ
2.2 แบง่ ประเภทของเพลิง
2.3 เลือกเครอื่ งดบั เพลิงทีถ่ ูกต้อง
2.4 เขา้ ไปให้ใกลเ้ พลงิ ทสี่ ุด
2.5 เปิดเครอื่ งดบั เพลงิ
2.6 ฉีดไปท่ตี ้นเพลงิ
3. การแบง่ ประเภทของเพลงิ
3.1 เพลิงประเภท "ก" (CLASS "A") เพลิงประเภทนี้เกิดจากวัสดุที่ติดไฟ เช่น ผ้า กระดาษ ไม้
ฯลฯ
3.2 เพลิงประเภท " ข " (CLASS " B ") เพลิงประเภทนเ้ี กดิ จากสารไวไฟ เช่น น้ำมนั แก๊สโซลนี และ
นำ้ มันเชอ้ื เพลิง หรือน้ำมันหล่อล่ืน ฯลฯ
3.3 เพลิงประเภท " ค " (CLASS " C ") เพลิงประเภทนี้เกิดจากกระแสไฟฟ้า
3.4 เพลิงประเภท "ง" (CLASS "D") เพลิงประเภทน้ีเกิดจากโลหะที่ติดไฟ เช่น โลหะแมกนีเซียม
ฯลฯ
4. ชนิดของเครือ่ งดบั เพลงิ
4.1 ชนิดป๊ัมน้ำ (WATER TYPE) เคร่ืองดับเพลิงชนิดน้ีใช้น้ำเป็นตัวดับเพลิง อย่าใช้เคร่ือง
ดบั เพลงิ ชนิดใชน้ ำ้ ในการดบั เพลิงท่ีเกิดจากกระแสไฟฟา้ หรอื น้ำมนั เชื้อเพลิง

ห น ้ า | 96

4.2 ชนิดโซดา และกรด (SODA - ACID) เครื่องดับเพลิงชนิดนี้ใช้น้ำเป็นตัวดับเพลิง ภายใน
เครื่องดับเพลิงตอนบนจะมีขวดโซดาไบคาร์บอเนต (NaHCO3) และกรดกำมะถัน (H2SO4 ) ซ่ึงแยกกันอยู่
เม่อื คว่ำเครื่องดบั เพลิงลงจะทำใหโ้ ซดา และน้ำกรดผสมทำปฏิกริ ิยากัน เกดิ แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซดข์ นึ้ ขับดัน
ให้น้ำพุ่งออกจากเคร่ืองดับเพลิง อย่าใช้เคร่ืองดับเพลิงชนิดโซดา และกรด ดับเพลิงที่เกิดจากกระแสไฟฟ้า
หรือน้ำมันเชื้อเพลงิ

4.3 ชนิดฟองเหลว (FOAM) เคร่ืองดับเพลิงชนิดน้ีใช้สารเคมีซึ่งเป็นฟองเหลวซ่ึงประกอบด้วย
น้ำยาโซเดียมไบคาร์บอเนต (NaHCO3) กับน้ำยาแมกนีเซียมซัลเฟต (MgSO4 ) โดยปกติน้ำยาท้ังสองชนิดนี้
จะบรรจุยู่ในภาชนะแยกกันอยู่ เมื่อควำ่ เคร่ืองดับเพลิงลง จะทำให้น้ำยาสองชนิดผสมกัน ทำปฏิกิริยาเกิด
แก๊ส และฟองเหลวขบั ดันออกจากเครื่องดบั เพลิง เคร่ืองดับเพลิงชนิดนม้ี ีขนาด และรูปร่างเหมือน กับเครื่อง
ดบั เพลงิ ชนิดโซดา และกรด

4.4 ชนิด โบรไมไตรฟลูออโรมีเธน (CF3C) เครื่องดับเพลิงชนิดน้ีใช้สารโบรไมไตรฟลูออโรมีเธน
ซ่ึงรู้จักทั่วไปในช่ือของฟรีออน 1301 หรือ เฮลอน 1211 ในรูปของแก๊สเหลวเป็นตัวดับเพลิง และใช้ดับเพลิง
ประเภท ข และ ค ที่ให้ความปลอดภัยและมีประสิทธภิ าพดเี ปน็ พเิ ศษ แต่ควรหลีกเลี่ยงการหายใจ เอา
ไอระเหยของแก๊สดับเพลิงชนิดนี้เข้าไป เน่ืองจากแก๊สน้ีเป็นพิษ รถซึ่งใช้เคร่ืองดับเพลิงชนิดน้ีคือรถตระกูล
รถถังเบา 21 (สกอร์เปี้ยน) ทุกแบบ รถถงั 30 (T96-2) และ รถสายพานกู้ซอ่ ม T 653 รวมทั้งเคร่ืองดบั เพลิง
ชนดิ มอื ถอื ขนาด 2 3/4 ปอนด์ ทใ่ี ชอ้ ยกู่ ับรถตา่ ง ๆ

4.5 ชนิด ผงเคมีแห้ง (DRY CHEMICAL) เครื่องดบั เพลิงชนิดน้ใี ช้สารเคมีบางชนิดเชน่ โซเดยี มไบ
คารบ์ อเนต หรือโปแตสเซ่ียมไบคาร์บอเนต เป็นตัวดบั เพลิง โดยใช้แก๊สไนโตรเจน เป็นตวั ขับดันผงเคมีออก
จากเครือ่ งดบั เพลงิ รถซึ่งใช้เครือ่ งดบั เพลิงชนิดนี้คือรถเกราะ วี-150 ทุกแบบ และรถถงั เบา 32 "สตงิ เรย"์

4.6 ชนิด คาร์บอนเทตระคลอไรด์ (CCL3) ปัจจบุ ันเลกิ ใช้ เครือ่ งดับเพลิงชนิดน้ใี ช้สารคารบ์ อนเท
ตระคลอไรด์ ซึ่งเป็นของเหลวระเหยเร็วเป็นตัวดับเพลิง ปกตินิยมบรรจุสารดับเพลิงน้ีไว้ในขวดแก้ว และใช้
ดับเพลิงด้วยการขว้างเข้าไปในเพลิงให้ขวดแตก เม่ือสารดับเพลิงได้รับความร้อนก็จะระเหยอย่างรวดเร็ว
ครอบคลมุ เพลิงไว้ ปอ้ งกันมิให้ออกซิเจนในอากาศเขา้ ไปทำปฏิกิรยิ ากบั เชื้อเพลิง เม่ือขาดออกซิเจนเพลิงกจ็ ะ
ดับ

4.7 ชนิด คาร์บอนไดอ๊อกไซด์ (CO2) เคร่ืองดับเพลิงชนิดน้ีใช้แก๊สคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ซึ่งมี
คุณสมบัติไม่ช่วยให้ติดไฟ และหนักกว่าอากาศเป็นตัวดับเพลิง โดยปกติจะบรรจุแก๊สคาร์บอนได
อ๊อกไซดท์ ่ถี กู อดั ตัวจนเป็นแกส๊ เหลวไวใ้ นเคร่ืองดับเพลงิ ซึง่ เปน็ ท่อโลหะรูปทรงกระบอก เคร่ืองดับ-เพลิงชนิด
คาร์บอนไดออ๊ กไซด์ ท่ีใชก้ ับยานยนต์ทหาร มอี ยู่ 2 ขนาด คือ

- เครือ่ งดับเพลิงประจำท่ี บรรจนุ ำ้ ยาดับเพลิง 10 ปอนด์
- เครือ่ งดบั เพลงิ เคลือ่ นย้ายได้ บรรจุนำ้ ยาดับเพลงิ 5 ปอนด์
หมายเหตุ ก่อนใช้เคร่ืองดับเพลิง ซึ่งเกิดลุกไหม้ขึ้นในห้องเครื่องยนต์ จะต้องดับเครื่องยนต์เสียก่อน และ
ตอ้ งปดิ สวติ ซแ์ บตเตอร่ีประจำรถ ด้วย


Click to View FlipBook Version