The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ม.4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Thanawat13112542, 2020-10-29 08:54:17

หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ม.4

หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ม.4

หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน 1

ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔

วรรณคดีวิจักษ์ ม.๔

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

ผ้เู รียบเรียง นายธนวฒั น์ รวมธรรม ๐๒๕ สาขาวิชาภาษาไทย วทิ ยาลัยการฝึกหดั ครู



3

หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย
วรรณคดวี ิจักษ์

ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๔

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

ผูเ้ รยี บเรียง นายธนวัฒน์ รวมธรรม

คำนำ

หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ นี้ เป็นส่วนหนึ่งของ
รายวิชาหนังสือเรียนภาษาไทย รหัสวิชา ๑๕๔๓๕๐๘ ของนักศึกษาชั้นปีที่ ๓ ภาคการศึกษาที่ ๑ ปีการศึกษา
๒๕๖๒ ถือเป็นแบบเรียนจำลองมิได้สร้างขึ้นเพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอน แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อฝึกทักษะ
ในการนำเนื้อหามาสู่กระบวนการสร้างสื่อการเรียนรู้ โดยเฉพาะแบบเรียนภาษษไทย และทำความเข้าใจ
องค์ประกอบของแบบเรียนอีกด้วย ซึ่งผู้จัดทำได้เลือกสร้างแบบเรียนวรรณคดี โดยเลือกวรรณกรรมเรื่อง
“ความน่าจะเป็น ตอน ความน่าจะเป็น” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแบบเรียนอิงตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

ผูจ้ ดั ทำขอขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.กมลพัทธ์ ใจเยอื กเยน็ อาจารย์ประจำวิชาท่ีให้โอกาสแก่
นักศึกษาในการศึกษาหาความรู้จากการสร้างแบบเรียนจำลองเล่มนี้ขึ้น ตลอดจนแนะแนวทางการสร้าง
แบบเรียนในคร้งั นี้

ผู้จำทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การสร้างแบบเรียน “หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย วรรณคดี
วิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔” ในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ และเป็นตัวอย่างในการสร้างแบบเรียน
เพือ่ วัตถุประสงค์ดงั กลา่ วให้แก่ผทู้ ี่สนใจ และนักศึกษาที่ศกึ ษาในรายวชิ านต้ี ่อไป

นายธนวัฒน์ รวมธรรม
๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๓

5

สารบัญ

ความนา่ จะเป็น ๑

บทนำ ๒

ประวตั นิ กั เขียน…………………………………………………………………………………………. ๓
บทวเิ คราะห์ ๓

เนอ้ื เรื่องย่อ……………………………………………………………………………………………….
แก่นเร่อื งหรอื แนวคิด…………………………………………………………………………………. ๑๒
การดำเนนิ เรื่อง…………………………………………………………………………………………. ๑๒
ตัวละคร…………………………………………………………………………………………………… ๑๓
ความนา่ จะเปน็ ตอน ความน่าจะเปน็ ..................................................................... ๑๔
คณุ คา่ ของวรรณกรรม ๑๕
คณุ ค่าด้านเนื้อหา……………………………………………………………………………………….
คณุ ค่าด้านสงั คม………………………………………………………………………….................
คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์……………………………………………………………………...............
คำอธบิ ายศัพทแ์ ละข้อความ………………………………………………………………………….
ชวนคิดพินจิ คุณค่า………………………………………………………………………………………

ความน่าจะเปน็

รางวัลวรรณกรรมสรา้ งสรรค์ยอดเย่ยี มแหง่ อาเซยี น
(ประเภทเรื่องส้นั ) พ.ศ. ๒๕๔๕

ปราบดา หยุ่น



บทนำ

ประวตั ินักเขยี น

ปราบดา หยุ่น เกิดเมื่อวันที่ ๒ เดือนสังหาคม พ.ศ. ๒๕๑๖ จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจาก
โรงเรียนเทพศิรินทร์ แล้วไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกาจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หลังจากนั้น ปราบ
ดา หยุ่นได้ทำงานเป็นคอลัมนิสต์ให้กับนติ ยสารเนช่นั สุดสปั ดาห์ และเป็นคนเขยี นบทให้กับรายการโทรทศั น์

ผลงานบทภาพยนตรข์ องปราบดา หยนุ่
- บทภาพยนตรเ์ รือ่ ง เรอ่ื งรกั นอ้ ยนิด มหาศาล
- บทภาพยนตรเ์ รอ่ื ง คำพิพากษาของมหาสมทุ ร

นอกจากน้ี ปราบดา หยุน่ ยังมผี ลงานด้านการเขยี นอีกด้วย
อาทิ เร่ืองสน้ั นวนิยาย บทความและความเรียงมากมาย
และยงั ไดร้ บั รางวลั วรรณกรรมสรา้ งสรรค์แหง่ อาเซยี น (ซีไรต์)
ประจำปพี ทุ ธศักราช ๒๕๔๕ จากเรือ่ งสั้น ความนา่ จะเปน็

โดยมีคำประกาศของคณะกรรมการตดั สินรางวลั วรรณกรรม
สร้างสรรคแ์ ห่งอาเซียน (ซไี รต์) ประจำปี ๒๕๔๕ ดงั น้ี

คณะกรรมการตัดสินวรรณกรรมสร้างสรรค์แห่งอาเซียน (ซีไรต์) มีมติให้หนังสือรวม เรื่องส้ัน
ความน่าจะเป็น ของ ปราบดา หยุ่น ได้รับรางวัลสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย
ประจำปี ๒๕๔๕

ความน่าจะเป็น เป็นวรรณกรรมที่น่าจะถือได้ว่าเป็นตัวแทนความคิดของคนรุ่นใหม่ ปราบดา หยุ่น
เป็นนักเขียนท่ีมคี วามคิดรเิ ร่ิมสร้างสรรค์ ช่างสังเกตชีวิตและพฤติกรรมมนุษย์ วิพากษ์วิจารย์สงั คมและค่านิยม
ของยคุ สมัย แล้วนำมาลอ้ เลียนเสยี ดสีด้วยอารมณข์ ันอย่างเฉียบคม

ความน่าจะเปน็ แสดงความสามารถของผูเ้ ขยี นในการนำเรื่องท่ีไม่น่าจะเป็นเรื่องมาเขียนให้เป็นเร่อื ง
ที่น่าขบคิดหรือตั้งคำถามโดยไม่ให้คำตอบ เรื่องสั้นในหนังสือรวมเรื่องสั้นชุดนี้มีลีลาและกลวิธีการเขียน
เฉพาะตัวและมีความหลากหลายแปลกใหม่ในด้านกลวิธีและขนบวรรณศิลป์ นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นใน
ดา้ นการเลน่ กับภาษาอย่างมีรากฐานทางวัฒนธรรม

ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น หนังสือรวมเรื่องสั้น ความน่าจะเป็น ของ ปราบดา หยุ่น จึงมีความ
ดเี ด่นสมควรแก่การยกย่องเปน็ วรรณกรรมสร้างสรรคย์ อดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซไี รต)์ ของประเทศไทย ประจำปี
พทุ ธศักราช ๒๕๔๕



บทวิเคราะห์

เนอื้ เร่อื งยอ่

กระดาษจากสมุดของฉันสมัยศึกษาอยู่มัธยมหน่ึง ทั้งหน้ากระดาษมีประโยคท่ีฉันเขียนด้วยลายมือตัว
บรรจง มีใจความว่า “ฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” เปลี่ยนแปลงจากอะไรฉันก็จำไม่ได้เสียแล้ว แต่มันน่าจะ
สำคัญทเี ดียว

เม่ือก่อนฉันชอบอ่านคำคมจากนักปราชญ์ บังเอิญอ่านเจอบางสิ่งบางอย่างจนต้องยึดถือเป็นคติ
ประจำตัว “หากคุณอยากเป็นคนดี แสดงว่าคุณไม่ใชค่ นดี” อ่านแล้วมันชา่ งถูกใจ คนที่อยากเปน็ คนดีแสดงว่า
ไมใ่ ช่คนดี เพราะฉะนน้ั ฉันตอ้ งไมอ่ ยากเปน็ คนดี แต่ตอ้ งประพฤติตนใหค้ นอื่นประจกั ษ์วา่ ฉนั เป็นคนดี

แม่ของฉันบอกว่า เมื่อโตขึ้นลูกอาจมีคำถามว่าลูกเกิดมาทำไม เมื่อคิดหาเหตุผลไม่ได้ก็จะหันมาโทษ
พ่อแม่ว่าทำให้เกิดมาทำไม ทำไมไม่ถามไถ่ หรือขออนุญาตก่อน แม่ของฉันฉลาดรีบพูดไถ่บาปให้ตัวเองก่อน
จากไป เมื่อพ่อกับแม่ของฉันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถคว่ำ ฉันก็ได้แต่คิดถึง เพื่อน ๆ ของฉันเกรงว่าฉันจะ
กลายเปน็ เด็กมปี ัญหาหลังจากอบุ ัติเหตคุ ร้ังน้ัน แตเ่ ปล่าเลย ถึงจะเสยี ใจทีไ่ ม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ ๆ อีกต่อไป แต่ฉัน
ก็มโี ลกสว่ นตัวที่กวา้ งใหญ่ โลกท่ไี มม่ ีพ่อ แม่ เพือ่ ถือวา่ เปน็ โลกภายนอก จะขาดไปสกั คนสองคนไม่ได้ทำให้โลก
ของฉันสะทกสะทา้ น

ฉันเคยคิดฆ่าตัวตาย ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจที่พ่อไม่ยอมซื้อหุ่นยนต์พลาสติกให้ ฉันใช้เนคไททำเป็น
ห่วงคล้องคอ พ่อมองฉันนิ่งแล้วพูดกับฉันว่า ตายเมื่อไรแล้วโทรมาบอกด้วย สมัยนั้นฉันไม่มีรายได้เป็นของ
ตนเอง ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ฉันคงไม่มีปัญญาโทรกลับบ้านได้ วันนี้ฉันแน่ใจได้แล้วว่าในโลกของคนตายไม่มี
โทรศพั ท์ เพราะถา้ มี พ่อกับแม่คงโทรมาตัง้ แต่ท่ขี า้ มไปใหม่ ๆ

ฉันย้ายไปอยู่กับคุณตาคุณยาย ส่วนคุณปู่และคุณย่าเสียไปตั้งแต่ฉันยังไม่เกิด คุณปู่เป็นทนาย แต่ฉัน
ไม่รูอ้ ะไรเกี่ยวกบั คุณย่าเลย นอกจากคิดคำนวณเอาเองว่าย่าต้องเป็นเมียทนาย คณุ ตาของฉนั เปิดร้านขายโจ๊ก
ในตลาด ยายของฉันเป็นคนประหลาดไม่ได้เป็นแค่เมยี คนขายโจ๊ก แตเ่ ป็นครูดว้ ย ยายมีรสนยิ มในการฟังเพลง
พลิ กึ เชา้ ๆ จะไดย้ นิ เสยี งโมซาร์ท เบโธเฟน และบาค นอกจากตาของฉนั จะขายโจ๊กแล้ว ตายังชอบดหู นงั เป็น
ชีวิตจิตใจ ทุกวันศุกร์ตาจะฉายหนัง โดยจอของหนังคือผ้าปูที่นอนสีขาวขึงกับขอบประตูให้ตึง และมียายทำ
หนา้ ทีค่ วบคุมเสยี งเนื่องจากเครอื่ งฉายหนงั ของตาไมม่ ีเสยี ง

หนังของตานิยมฉายหนังเขย่าขวัญคลาสสิก เรื่องแดร็กคูล่าฉบับขาวดำ เมื่อตาเสียชีวิต ยายก็ทำ
หน้าที่แทนตาและทำหนา้ ท่ีควบคุมเสียงไปดว้ ยในการฉายหนัง

ฉันอยู่กับยายจนเข้ามหาวิทยาลัย ฉันตัดสินใจเรียนศิลปะ เพราะเพื่อน ๆ ฉันเป็นศิลปินกันเสียส่วน
ใหญ่ จะวาดรูปสมยั น้ีตอ้ งคิดลกึ ๆ ไม่ใช่นั่งวาดผูห้ ญงิ เปลอื ยอยู่ ต้องมีคอนเซ็ปต์ ฉันหมดเวลาสี่ปีไปกับศิลปะ
ฉันนบั คอนเซป็ ต์ทหี่ าเจอได้ไม่ถึงคร่ึงน้วิ มือ ท่ีสำคัญฉนั แปลคำว่าคอนเซ็ปตไ์ ม่ออกเลย ไมร่ ู้ว่ามันคอื อะไรกันแน่



พอออกมานอกร้วั มหาวิทยาลัย ก็ใชว่ า่ เรอ่ื งของกูจะอยใู่ นสังคมได้ ฉันก็เลยจบั พลัดจับผลไู ปกับเขา ตามคติทว่ี ่า
“เข้าเมอื งตาหลว่ิ ต้องหล่วิ ตาตาม” ฉนั กบั เพ่ือน ๆ เมื่อเรยี นจบกไ็ ดเ้ ข้าทำงานเลย

งานโฆษณาชนิ้ แรกท่ีฉนั เปน็ คนสร้างสรรค์อย่างเต็มตัว ผลดีท่ีตามมาก็คือ ฉันมีน้อง ๆ เพ่ิมขน้ึ ในสังคม
อีกหลายคน ผลดีอีกอย่างคอื งานเขา้ มาอยา่ งล้นหลาม งานของฉนั เน้นอารมณ์ขนั เปน็ หลัก ทำใหช้ ่อื สนิ คา้ ตดิ หู
คนกค็ อื ตรงเป้าหมายแลว้

ยายแก่ตัวไปกับวันเวลา ฉันไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมเยียนยายบ่อยนัก โทรไปทีไรน้ำเสียงยายก็ยังคงสดชื่น
ฉันไม่เป็นห่วงยายเพราะรู้ว่ายายเข้มแข็งทั้งกายและใจ แต่ถ้าจะให้บอกตามความจริง บางทีฉันก็มัวแต่ห่วง
ตวั เองจนลืมยายเปน็ ปลิดทิ้ง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฉันได้รับมอบหมายงานใหม่ สินค้าคือลูกอมดับกลิ่นปาก ฉันคิดหลายตลบว่าจะ
สร้างสรรค์อย่างไรดี ฉันสร้างสรรค์งานจากความทรงจำในวัยเด็กผ่านไปด้วยดี ฉันภูมิใจกับหนังเรื่องนี้ไม่น้อย
และไดอ้ ัดเทปเอาไปใหย้ ายเกบ็ ไว้ดูยามเหงา

วันนี้ฉันอยู่บ้านยาย แต่ยายไม่อยู่เสยี แลว้ ฉันเปิดสมุดและหนังสือเรียนสมยั มัธยมออกดูหลายเล่ม จำ
ได้ว่าเคยเขียนบันทึกอย่หู ลายครงั้

กระดาษเส้นน้ำเงินจาง ๆ แผ่นนี้เป็นหน้าหนึ่งจากสมุดบันทึกที่ฉันเขียนไม่เสร็จ “ฉันจะไม่มีวัน
เปลยี่ นแปลง” เปลี่ยนแปลงจากอะไรกจ็ ำไมไ่ ด้เสียแล้ว แตฉ่ ันกอ็ ยากรักษามนั ไว้ เป็นไปได้วา่ สักวันจะนึกออก

แกน่ เรื่อง

ผู้เขียนได้สอดแทรกข้อคิดอย่างหนึ่งไว้ในเรื่องสั้นเรื่องนี้คือ สิ่งที่คิด ไม่สำคัญเท่าสิ่งท่ีทำ และยัง
สะทอ้ นการตกี รอบสังคม รวมไปถึงการเสยี ดสีเรอ่ื งความไม่เท่าเทียมระหว่างชายกบั หญิง

การดำเนนิ เร่ือง

การเปิดเรอ่ื ง ผู้เขียนได้พูดถึงประโยคที่อยู่ในกระดาษ “ฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
ซ่งึ เขาเองกจ็ ำไม่ไดว้ า่ เปลย่ี นแปลงอะไร

การดำเนนิ เรือ่ ง เขาไดเ้ ล่าเร่อื งราวของตนเองต้งั แตเ่ ดก็ จนถึงวัยทำงาน
การปดิ เรอื่ ง เขานกึ ถงึ ความหลังสมัยมัธยมท่ีมกี ารเขียนบนั ทึก

ตวั ละคร

๑. ฉนั หรือตวั ผเู้ ล่าเรื่อง เปน็ คนทช่ี อบความคิดของตนเองมาก ปรับตวั ใหเ้ ข้ากบั สงั คมได้
๒. ตา ทำอาชพี ขายโจก๊ ชอบดูหนงั เปน็ ชวี ิตจิตใจ
๓. ยาย ทำอาชีพครูสอนดนตรี ชอบฟงั ดนตรีโมซารท์ เบโธเฟน บาค



ความนา่ จะเป็น
ตอน ความนา่ จะเป็น

กระดาษของฉันตก (มันเป็นกระดาษจากสมุดฉนั สมัยฉันศึกษาอยู่มธั ยมหนึ่ง สีเส้นน้ำเงนิ บนผิวของมันเริ่มจาง
ทั้งหน้ากระดาษมีเพียงหนึ่งประโยคบนเส้นบรรทัดที่สามนับจากเส้นบนสุด ลายมือบรรจงของฉันเขียนด้วย
ปากกาลูกลื่นสีดำ น่าแปลกใจที่ยังคมชัดอยู่ถึงวันนี้ประโยคนั้นมีใจความว่า “ฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

เปลี่ยนแปลงจากอะไรฉันก็จำไม่ได้เสยี แล้ว จึงจนใจจรงิ ๆ ที่จะรู้ว่าฉนั รกั ษาคำปฏิญาณของตัวเองไว้
ไดห้ รอื ไม่ ฉันลองนกึ ดเู ม่ือคร้ังยังอายุประมาณสิบสองสิบสาม ฉนั คดิ อะไรอยู่ แตไ่ ม่วา่ มันจะเป็นอะไร ท่าทางจ
สลักสำคัญทีเดียว ถึงขั้นต้องสัญญากับตัวเองว่าจะไม่บิดเบือนเคลื่อนคล้อยไปจากความคิดนั้น ฉันคงชอบ
ความคดิ อา่ นของตวั เองเอามาก

เมื่อก่อนฉันชอบอ่านคำคมนักปราชญ์ ทึกทักเอาว่าตัวเองก็มีความหลักแหลมไม่แพ้กันเป็นไปได้ที่
บังเอิญอ่านเจอบางสิ่งบางอย่างที่ถูกใจฉันเหลือเกิน จนต้องยึดถือเป็นคติประจำตัว จำได้อยู่อันหนึ่ง“หากคุณ
อยากเปน็ คนดี แสดงวา่ คุณไมใ่ ชค่ นด”ี อ่านแลว้ ตบเข่าตวั เอง

ฉาดใหญ่ ชิชะ มันช่างถูกกระดูกดำ ใช่จริง ๆ คนที่อยากเป็นคนดี แสดงว่ายังไม่ใช่คนดี เพราะฉะน้ัน
นั้นต้องไม่อยากเปน็ คนดี แตต่ ้อง ประพฤตติ นให้คนอ่นื ประจักษว์ ่าฉนั เปน็ คนดี คิดแลว้ อดขำไม่ได้

แม่บอกว่า เมื่อลูกโตขึ้นจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่ลูกอาจถาม ตัวเองว่าลูกเกิดมาทำไม เมื่อคิดหาเหตุผล
ไม่ได้ ลูกกจ็ ะหันมาโทษ พ่อกับแม่วา่ ให้กำเนดิ ลกู ทำไม ไม่ไดข้ อร้องให้พามาอยู่ในโลกใบนี้ เสียหน่อย จู่ ๆ ก็พา
มาเองโดยไม่ได้รับอนุญาต แม่ขอบอกลูกไว้ต้ังแต่ ตอนนี้เลยว่า พ่อกับแม่ขอโทษ สิ่งที่ลูกคิดนั้นเป็นความจรงิ
พ่อกับแม่ ไม่มีสิทธิ์ให้กำเนิดลูกโดยไม่ถามไถ่ พามาอยู่ในโลกแล้ว ยังสั่งโน่น สั่งนี่ดามอำเภอใจ บังคับให้เข้า
โรงเรียน บังคับให้กินผัก บังคับให้ อ่านหนังสือ บังคับให้ตื่น บังคับให้นอน พยายามวางโครงสร้างชีวิต ให้ลูก
ควรประกอบอาชีพน้ี ลกู ควรแต่งงานกับคนแบบนัน้ ลกู ต้องไหว้ คนน้นั นบั ถือคนนี้ เรียกคนนั้นว่าลุง เรียกคน
นี้ว่าป้า ทั้งหมดนี้พ่อ กับแม่ขอรับผิดด้วยใจจริง ถ้าเป็นไปได้ เมื่อลูกเกิดความต้องการ จะมีลูกเป็นของตัวเอง
ลองถามเขาดูก่อนว่าอยากเกิดมาไหม ถ้าเขา ไม่ตอบก็แสดงว่าไม่อยากเกิด ถ้าเขาไม่อยากเกิดก็ไม่ต้องไปพา
เขามาใหไ้ ปเกดิ ในท้องหมาทอ้ งแมวตามยถากรรม พอ่ กบั แม่ผิดไปแลว้ ถูกจะโกรธจะเกลยี ดก็ตามใจ

แม่เป็นคนฉลาด ซึ่งพูดไถ่บาปให้ตัวเองก่อนจากไป เมื่อพ่อกับแม่ตายในอุบัติเหตุรถคว่ำ ฉันก็ได้แต่
คิดถึง จะให้ไปโกรธ ไปเกลียดลงคออย่างไร ฉันไม่ได้ขอร้องให้พามาเกดิ ในโลกนี้ฉันใด พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ขอร้อง
ใหใ้ ครพาหนีไปจากโลกฉนั น้ัน อยา่ งน้อยก็ คงไมต่ อ้ งการจากไปพร้อม ๆ กัน ในรถคันเดยี วกัน ไม่ใครสักคนคง
อยากไปทหี ลัง จะไดอ้ ย่กู ับฉนั ตอ่ อีกหน่อย

เพื่อน ๆ ต่างเกรงว่าฉันจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาหลังจาก อุบัติเหตุในครั้งนั้น แต่เปล่าเลย ถึงฉันจะ
เสยี ใจทไ่ี มม่ ีพ่อกบั แม่ อย่ใู กล้ ๆ อกี ตอ่ ไปแล้ว แต่ฉันก็เปน็ คนมโี ลกส่วนตัวท่กี วา้ งใหญ่ ไพศาลพอสมควร โลกที่
มีพ่อมีแม่มีเพื่อนนั้นถือว่าเป็นโลกภายนอก จะขาดไปคนสองคนไม่ได้ทำให้โลกของฉันสะทกสะท้าน เมื่อต้อง
กลับไปในโลกภายนอกก็มีเหงามีเศร้าบ้างเป็นเรือ่ งธรรมดา ไม่ถึงกับ เป็นปัญหาใหญ่โตให้ต้องไปพึ่งพายาเสพ
ติด ไม่ถึงกับต้องคิดดับชีวิต ตัวเองตามใครไป เพราะในโลกของฉันมีอิสระไม่จำกัด ฉันจะทำอะไรก็ได้



จะเป็นอะไรก็ได้ จะกินอะไรก็ได้ สนุกสนานเต็มที่ โดยไม่ต้อง กังวลใจ ถ้าฉันหันไปพึ่งยาเสพติดก็ต้องห่างเหนิ
จากโลกมหัศจรรย์น้ัน หากฉันฆ่าตัวตายกจ็ ะไม่มวี ันไดก้ ลับไปหรรษากบั มันอีกเลย

ฉนั เคยคิดฆา่ ตวั ตายหนึ่งครง้ั ตอนเด็ก ดว้ ยความนอ้ ยเนื้อ ตำ่ ใจที่พอ่ ไม่ยอมซื้อหุ่นยนต์พลาสติกให้ ทั้ง
ที่มันราคาถูกกว่าไวน์ ขวดใหม่ของพ่อเป็นไหน ๆ ฉันเข้าไปหยิบเน็คไทในตู้เสื้อผ้าของพ่อ แล้วมัดมันเป็นบ่วง
คล้องไว้ที่คอ ประกาศพร้อมน้ำตาว่าจะผูกคอตาย เป็นภาพที่ยังติดตรึงอยู่ในม่านสมองของฉันมาถึงทุกวันนี้
เพราะมันเป็นการแสดงที่ถึงบทถึงบาทขนาดน่าเข้าชิงรางวัล พ่อมองฉันนิ่งแล้วเดินหนีไป พ่อบอกว่า ตาย
เมื่อไรแล้วโทรฯมาบอกด้วย สมัยนั้น ฉันไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง ไม่มีแม้แต่เศษสตางค์ในกระเป๋า ไม่มี
โทรศัพท์มอื ถือ ถึงจะมีโทรศพั ทส์ าธารณะในภพโนน้ ฉนั คงไม่มปี ญั ญาโทรฯกลบั บ้านได้

วันนี้ฉันแน่ใจได้แล้ววา่ ในโลกของคนตายไม่มีโทรศัพท์ เพราะถ้ามี พ่อกับแม่คงโทรฯมาต้ังแต่เพิ่งขา้ ม
ไปใหม่ ๆ คงไมใ่ ช่เพราะ ค่าโทรศัพท์แพง

ฉนั ย้ายไปอยู่กับคณุ ตาคุณยาย คุณปกู่ บั คณุ ย่ายา้ ยไป โลกโนน้ ตั้งแต่ฉนั ยังไมเ่ กิด พอ่ เลา่ ให้ฟังว่าปู่เป็น
ทนาย ฉันรู้เพียง เท่านั้น ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับย่าเลย นอกจากที่คิดคำนวณเอาเองได้ว่า ย่าต้องเป็นเมียทนาย
ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่าเมียแล้ว จะเป็นเมียหมอ เมียครู เมียภารโรง ย่อมไม่แตกต่างกันมาก แม้กระทั่งเมียงู ก็ยังเป็น
มนุษย์ ปรนนิบัติผิวอยู่วนั ยังค่ำ งูกลับมาบ้าน เหนื่อยหรือไม่เหนื่อยกต็ ้อง มีข้าวปลาอาหารเพียบพร้อมอยูบ่ น
โตะ๊ งเู มือ่ ยก็ตอ้ งมคี นนวดให้ งูหวิ น้ำกไ็ มต่ อ้ งเล้อื ยไปหาเองตามบ่อตามบึง

ตาของฉันเปิดร้านขายโจ๊กในตลาด ยายเป็นผู้หญิง ประหลาด เพราะไม่ได้เป็นแค่เมียคนขายโจ๊ก
เท่านัน้ ยายยงั เป็นครู อกี ด้วย ยายสอนดนตรีให้กับนักเรียนประถม รสนยิ มในการฟงั เพลง ของยายกพ็ ลิ ึกไม่ใช่
เล่น เช้าๆฉันตื่นมาก็จะได้ยินโมซาร์ท ได้ยิน เบโธเฟน ได้ยินบาค ยายชอบฟังดนตรีดัง ๆ จนคนบ้านใกล้
เรือนเคียงรำคาญ เด็กหนุ่มบ้านตรงข้ามก็ไม่ยอมน้อยหน้า หมุนปุ่มเปิดเสียง เพลงร็อคแอนด์โรลล์กระห่ึมแข่ง
กับยายทุกเช้า ยายบ่นอุบว่าเพลงบ้าบออะไร มีแต่เสียงตะโกนโหวกเหวกไม่รู้เรื่อง ไม่มีศิลปะ ไม่จรรโลง
ความงดงามให้ประสาทสัมผัส แต่สำหรับคนอื่นในละแวกนั้น ยายต่างหากที่เป็นคนแปลก อยู่บ้านเรือนไม้ที่
ห้อมล้อมไปด้วย ต้นมะม่วงกับกระเช้ากล้วยไม้ แต่อุตริเปิดเพลงคลาสสิกของพวกฝรั่งหัวทอง ไม่ได้เข้ากับ
ส่ิงแวดลอ้ มรอบข้างเอาเสียเลย

นอกจากจะขายโจ๊กแล้ว ตายังชอบดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ ลงทุนซือ้ เคร่ืองฉายหนงั ขนาด ๑๖ มิลลิเมตร
มาจากไหนกไ็ ม่รู้ ทุกคืนวันศกุ ร์ตาจะฉายหนังให้ยายกบั หลานดู เป็นพิธรี ีตองสำคัญ สำหรบั ตาทเี ดยี ว ศุกร์ไหน
คึก ๆ ก็จะรวบรวมพรรคพวกเพื่อนฝูงมานั่งสังสรรค์กันหน้าจอด้วย บางคนก็ตั้งใจดูหนัง บางคนก็ตั้งใจเมา
แล้วแตค่ วามถนดั และความชอบของแต่ละคน

จอของตาคือผ้าปูที่นอนสีขาวดี ๆ นี่เอง จับขึงกับขอบประตูให้ตึงเครื่องฉายหนังของตาไม่มีเสียง
ยายจึงทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุม ดนตรีด้วยความสมัครใจ โมซาร์ทเป็นคนโปรดตลอดกาลของยาย ไม่ว่าหนังจะ
เปน็ เรอ่ื งอะไร ดนตรตี อ้ งเป็นโมซาร์ท ฉันดูหนังเงียบ กลั้วเสียงโมซารท์ มาหลายเร่ือง จนบัดนี้เวลาเข้าไปดูหนัง
ในโรงทีไร เสียงโมซารท์ ยังดังก้องอยใู่ นหู หนังทต่ี านยิ มฉายท่ีสุดคือหนงั เขย่าขวัญคลาสสกิ เรื่อง แดร็กคลู ่าฉบับ
ขาวดำ นำแสดงโดยเบล่า ลูโกซี่ โดยเฉพาะศุกร์ไหน ที่ฝนตกหนัก ๆ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าตาจะฉายเรื่องอะไรให้
เหมาะกับ บรรยากาศ จะว่าไป หน้าตาและรูปพรรณสัณฐานของตาก็ไม่ต่าง ไปจากท่านเคานต์แดร็กคูล่าใน



เรื่องเท่าไร แก้มของตาตอบ กระดูก กรามหักมุมเป็นเหลี่ยมแหลมจรดลงตรงปลายคางเบ้าตาลึกเป็นหลุม คิ้ว
สีดำขลับทิ้งปลายคมกริบขึน้ หาขมับผมของตาหวีเรียบแปล้ไปกบั รูปศีรษะ เสียแต่วา่ ตาไม่มีเข้ียว และบริเวณ
ต้นคอของยายก็ไม่เคย ปรากฎรอยกัดสองจุดตามลักษณะรอยกัดของผีดูดเลือดแต่อย่างไร ตาเป็นคนขายโจก๊
ธรรมดา ๆ ตอนกลางวันยังไง ตอนกลางคืนก็เป็น อย่างนั้น มิได้กลายร่างเป็นค้างคาวกระพือปีกผับ ๆ
ท่องราตรีไปเที่ยว กัดคอชาวบ้านให้เป็นที่อกสั่นขวัญแขวน กระเทียมตาก็รับประทานได้ ไม่เกิดอาการวิตก
กังวลต้องยกไม้ยกมือขึ้นปกป้องใบหน้าเมื่อเห็น กระเทียมสักหัวสองหัว ตานับถือศาสนาพุทธ สวดมนต์
ไหวพ้ ระ กอ่ นหัวตกถงึ หมอนทุกวัน ต่อใหใ้ ครเอาไม้ยาวๆสองท่อนมาวาง ทบั กันให้เป็นรูปไม้กางเขน ตาก็ไม่มี
ทางหวาดหวั่น และที่สำคัญตาเป็นคนรักแดด ขอนออกไปนั่งยอง ๆ ตัดเล็มยอดหญ้าในสนาม หน้าบ้าน
ยามวา่ ง หมวกกไ็ มใ่ ส่ ปล่อยให้แสงสวา่ งสาดลงใสผ่ ิวจนคล้ำ หากเปน็ ผดี ูดเลือด ร่างคงมอดไหม้เปน็ จนุ ตง้ั แต่รา
กา้ วออกจาก ประตูบา้ น

ตาของฉันเป็นมนุษยส์ ามัญ มไิ ดม้ ีชวี ติ เป็นอมตะ อย่มู าวันหนึ่ง ตาก็ตาย
ตาบอกว่าหนังเร่ืองแดรก็ คูลา่ ที่จรงิ แล้วไม่ใช่หนงั ผี แดร็กคูล่า ไม่ได้เป็นผีที่มีแต่วิญญาณเที่ยวอาฆาต
พยาบาทมนุษย์ คอยมา หลอกหลอนแหกอก แลบลิ้นปลิ้นตา ยื่นแขนยาว ๆ เก็บลูกมะนาว ใต้ถุนบ้านเหมอื น
ผขี ี้เกียจเดินแบบไทย ๆ แต่เคานตแ์ ดรก็ คูลา่ โชครา้ ย ตายไมไ่ ด้ ถูกสาปแชง่ ให้มชี ีวิตยืนยาวตลอดกาล ต้องเลี้ยง
ชีพอยู่ เยี่ยงสัตว์เดียรัจฉาน ถือเป็นคนอาภัพยิ่ง ที่จริงท่านเคานต์อาจ ไม่ได้ประสงค์จะทำร้ายใครเลยแม้แต่
นอ้ ย อยู่ในปราสาทสวย ๆ บนยอดเขาในเมืองชอ่ื ทรานซิลเวเนียของตัวเองไปวนั ๆ กน็ ่าจะมีความสขุ ดีอยแู่ ล้ว
ทต่ี อ้ งแปลงรา่ งเปน็ คา้ งคาวไปไล่กัดคอคนน้ันไม่น่าจะเปน็ กจิ กรรมท่ีนำความสุขมาให้ได้แต่อย่างใด จะออกไป
เดินห้างตอน กลางวันแสกๆเหมือนคนอื่นเขาก็ไม่ได้ คนเราจึงโชคดีนักที่ได้ตาย เมื่อเวลามาถึง ความตายเป็น
คณุ สมบัตอิ นั เลอคา่ ที่สุดของมนุษย์
ทว่าเมื่อได้สาธิตคุณสมบัติอันเลอค่านั้นให้ประจักษ์แก่ สายตาคนรอบข้างแล้ว ฉันกลับรู้สึกว่า
ความเปน็ อมตะน้นั มีอย่ใู น มนุษย์เหมอื นกนั ไม่วา่ ใครจะตาย คนคนน้นั กย็ า้ ยเข้าไปอย่ใู นร่าง ของคนอื่นต่อกัน
เปน็ ทอดไมจ่ บส้ิน จนกวา่ มนษุ ย์คนสุดท้ายบนโลก ฉะดับสลายไป
เมื่อตาตาย ตากย็ า้ ยเข้าไปอย่ใู นรา่ งยาย ทกุ วนั ศกุ รย์ ายจะดึงผ้าปูที่นอนสีขาวออกมาขึงกับขอบประตู
ยกเครื่องฉายหนัง ออกจากตู้เก็บของ แล้วฉายหนังเก่าๆของตาให้ฉันดู ยายกลายเป็นคนสองวิญญาณ
ทำหน้าทฉี่ ายหนงั และควบคุมดนตรใี นร่างเดียวกัน
หนังที่ยายนิยมฉายที่สุดคือเรื่องแดร็กคูล่า ดนตรีที่เปิดกลั้วกันไปคือโมซาร์ท ซึ่งยายมักจะเปิดแผ่น
ไวโอลินคอนแชร์โต หมายเลข ๕ สลับกับซิมโฟนีหมายเลข ๔๑ หรือที่รู้จักดีในชื่อ จูปีเตอร์ บางครั้งก็ไม่ค่อย
เขา้ กบั การดำเนนิ เร่ืองนกั ถอื เอาความชอบใจของยายเป็นหลกั
ทกุ อยา่ งดำเนนิ ไปตามปกติ ขาดเพยี งลมหายใจของคนเพียงคนเดยี ว
ฉันอยูก่ บั ยายจนเข้ามหาวิทยาลัย ยายไม่เคยวุ่นวายกับ ชีวิตการศึกษาของฉนั จะเรียนอะไรก็เรียนไป
เถอะ ยายไม่รู้เรื่องรู้ราว ด้วยหรอก ยายเลิกสอนดนตรีหลังการจากไปของตาไม่กี่ปี ร้านโจ๊ก ของตายังดำเนิน
กิจการต่อไป ถึงแม้จะเปลี่ยนรสชาติไปบ้าง ลูกค้า ก็ยังแน่นร้านอยู่เสมอ คนงานของตายังทำงานอย่างขยัน



ขันแข็ง ช่วยเลี้ยงดูยายให้สบายอยู่ได้โดยไม่ต้องเปน็ ภาระตกมาถึงฉัน ฉันก็ดำเนินชีวิตวัยคึกคะนองของฉันไป
ตามประสา

ฉันตัดสินใจเรียนศิลปะเพราะเพื่อน ๆ ของฉันเป็นศิลปินกันเสยี ส่วนใหญ่ ด้วยเหตุท่ีมันเรยี นอยา่ งอืน่
ไม่ได้ดีเอาเสียเลย ฉันก็ทึกทักเอาว่าตัวเองเป็นศิลปินไปด้วย เขียนรูปไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรนักหรอก โชคดีที่
สมยั น้ีเขาไม่นิยมคนเขียนรูปเปน็ เร่ืองเป็นราว กนั แลว้ ฉันเคยนึกวา่ ตวั เองเป็นปิกัสโซ่กลับชาติมาเกิด ต่อมาฉัน
จงึ ระลึกไดว้ ่าถึงฉันจะเปน็ ปิกัสโซ่กลับชาติมาเกดิ จรงิ ก็ไม่มปี ระโยชน์ ปีกัสโซล่ องมาเรยี นศิลปะในยุคน้ีคงไปไม่
รอดเหมือนกัน อาจารย์คงหาว่าหัวเก่า ทำอะไรโบร่ำโบราณ จะวาดรูปประหลาตยัปลักษณ์ ไปทำโมให้เสียเว
ล่ำเวลา สมัยนต้ี อ้ งคติ ลกึ ๆ ไมใ่ ชม่ ัวแตน่ ั่งร่างภาพผู้หญิงเปลือยอยู่ ตอ้ งมคี อนเซป็ ต์

ไอ้พวกเพ่ือน ๆ ฉันมันก็มีคอนเซ็ปต์กันใหญ่ วัน ๆ ไมท่ ำอะไร ออกไปตระเวนหาคอนเซ็ปต์กันนอกร้ัว
โรงเรียน หาไม่เจอก็ไมม่ ใี ครวา่ การไม่เจอก็เปน็ คอนเซปตไ์ ด้เหมือนกัน พวกท่ีหาเจอก็เหนือ่ ยไปสิ

เวลาสี่ปีที่ฉันหมดไปกับศิลปะ ฉันนับคอนเซปต์ที่หาเจอ ได้ไม่ถึงครึ่งนิ้วมือ ที่สำคัญ ฉันยังแปลคำว่า
ตอนเซป็ ต์ไมอ่ อกเลย ไมร่ วู้ า่ มนั คอื อะไรกันแน่ หาเจอมาได้บา้ งก็เป็นบุญโขอยู่ ไอ้พวกที่หาเจอกนั เยอะ ๆ ก็น่า
นับถือไม่ใช่เล่น บางคนมันก็ยืมคอนเซ็ปต์มา จากคนอ่ืนกันให้พร่ำเพรื่อ อาจารย์ก็ไม่เห็นทักท้วง ถือการหยิบ
ยืม เป็นคอนเซ็ปต์อีกเช่นกัน ฉันสรุปเอาว่าตอนเซ็ปต์แปลว่าเรื่องของกู ใครมีเรื่องของที่น่าสนใจในสายตาคน
อ่นื กเ็ จริญไปใครคดิ เร่ืองของกูไมเ่ ป็นก็เรื่องของมึง

พอออกมานอกรั้วการศึกษา ไม่ว่าเรื่องของกูจะอยู่รอด ในสังคมได้ ใครอยากทำงานได้เงินได้ทอง
เป็นกอบเป็นกำ ก็ย่อม ที่ย่อมเอาเลี้ยงของตาเป็นเป็นใหญ่ไว้ก่อน พวกเพื่อน ๆ ของฉัน ที่กุเรื่องของกูเก่งกัน
นักกันหนา ก็จำต้องพากันแยกย้ายไปยกยอเรื่อง ของตนยื่น ไปช่วยเขาขายน้ำยาสระผม ขายเหล้า ขายขนม
อบกรอบ ขายเครื่องปรับอากาศ ขายเสื้อผ้า ขายเทป ขายอะไรต่อมิอะไรมากมายนับไม่ถ้วน บางคนก็ทนทำ
ด้วยความเจ็บปวด บางคนยิ่งทำไปยงิ่ ภูมใิ จว่าขายของเกง่ กลายเป็นคอนเซป็ ต์ไปอีก ตาของฉันขายโจ๊กเกง่ ทั้ง
ทตี่ าไมเ่ คยมคี อนเซ็ปต์

ฉนั กจ็ บั พลัดจบั ผลูไปกบั เขาด้วย ตามคตทิ ี่วา่ เข้าเมอื งตาหล่ิว ต้องหล่ิวตาตาม ฉันจึงเร่ิมหลิว่ ตาไปกับ
คนอื่น จนเดย๋ี วน้ีเกอื บมองอะไรไมเ่ หน็ แล้ว ฉันกย็ งั อดทนทำต่อไป ในเมือ่ ทกุ คนหลิว่ ตากันหมด จะพยายามให้
วิญญาณปีกัสโซ่โผล่ออกมาแสดงฤทธ์ิ คงไม่มีใครสังเกด ฉันกับเพื่อน ๆ เรียนจบจากสถาบันที่เผอิญมีรุ่นพี่นัก
หลิ่วตา ท่ีมีอิทธิพลในวงการมากมาย การได้รับเข้าทำงานจึงไม่ใช่เรื่องยาก ยังไม่ทันเรียนจบก็มีคนชวนไปทำ
โน่นทำนี่เยอะแยะ เปน็ การฝึกหลิว่ ตาเสียแต่เน่ิน ๆ พอรับประกาศนียบัตรเสร็จ วนั รงุ่ ขึ้นฉนั ก็เข้าไป นั่งเล่นอยู่
ในที่ทำงานซึ่งเป็นที่อยู่ใหม่ของฉัน ต้องยอมรับว่าที่ทำงานของฉันนั้นสวยงามหรูหราที่เดียว นั่งอยู่เฉย ๆ
ก็รู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญขึ้นมาตงิด ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย คนรอบข้างก็ดูดีไม่หยอก ใส่เสื้อผ้าทั้งที่
ราคาแพงและที่ดูเหมือนว่าราคาแพง ทรงผมของแต่ละคน ก็ร่วมสมัยดีแท้ บางคนสายตาก็ปกติ ไม่ได้สั้น
ไมไ่ ด้ยาว ไมไ่ ด้เอยี ง แตก่ ลบั สวมแว่นขอบดำหนาเตอะให้เท่ นา่ รกั นา่ ชงั ไปอีกแบบ หรอื ว่าอยู่เมืองตาหล่ิวแล้ว
ตอ้ งใสแ่ วน่ ก็อาจจะเป็นไปได้

แล้วมันก็เป็นจริง ฉันนั่งเฉย ๆ อยู่ได้ไม่กี่เดือน ตั้งจมูกของฉัน ก็ต้องทำหน้าที่รองรับแว่นกรอบดำ
เพิ่มความมั่นใจให้ฉันเป็นกอง ใครถาม ฉันก็บอกว่าจู่ ๆ สายตาของฉันมันก็เล่นตลก เกิดผิดปกติขึ้นมาเอง



โดยไม่คาดฝัน ไม่รู้เหมือนกันว่ามันสั้น หรือยาว หรือเอียง แต่ที่แน่ ๆ คือมันมองอะไรไม่ค่อยชัด ยิ่งเวลาต้อง
มองผลิตภัณฑ์สินค้า ที่ฉันมีหน้าท่ีต้องขาย สภาพสายตายิ่งขุ่นมัวอย่างไรชอบกล ไม่ได้ไป ถามความเห็นจาก
จกั ษแุ พทย์ทไ่ี หนหรอก ตัดสนิ ใจซ้ือแวน่ ใส่เองเลย ถอื เป็นเรื่องของจิตวิทยามากกวา่ ใส่แล้วโลกทัศน์ชัดเจนข้ึน
ทำงานสะดวก ขายของเกง่ เจอใคร ๆ กเ็ รยี กพ่ี ฉันเพงิ่ ร้สู กึ ถึงรสชาติของการไดเ้ ปน็ พ่ขี องคนที่ไม่ได้เกี่ยวดองป
รองญาติ ช่างเป็นความรู้สึกที่สร้างพลังลึกลับมหาศาลระหว่างทรวงอก ช่วยเพิ่มเติมความฮึกเหิมให้กับ
ชวี ติ ประจำวัน แต่บางทีฉนั ก็ตอ้ งระงับความรสู้ ึกน้ันเอาไว้ ไมใ่ ห้ประเจดิ ประเจ้อจนออกนอกหน้า ฉนั ต้องแกล้ง
บอกไปว่าไม่ตอ้ ง มาเรียกพหี่ รอก อายุก็ไลเ่ ลย่ี กัน แตใ่ นใจของตัวบอกว่า ถ้าเจอกัน คราวหน้าแลว้ มงึ ไมเ่ รียกว่า
พี่ละก็ กูจะไม่คบกับมึงอีก กับคนสนิท ฉันจะย้ำเสมอว่า อย่าเชื่อคำที่ออกมาจากปากากของฉันจนเกินไป
มันไมต่ รงกบั ใจจริง ๆ จะเอาไมบ้ รรทดั ย่ีห้อไหนมาวดั ก็ไม่ตรง เพราะเปน็ ธรรมชาตขิ องคนเมืองตาหลิว่ ท่ีอาการ
ผดิ ปกติทางสายตามกั ทำให้ เส้นสมองสว่ นท่บี งการคำพดู น้ันบิดเบย้ี วไปด้วย อย่าได้ถือสาไปเลย

งานโฆษณาชน้ิ แรกทฉ่ี ันเปน็ คนสร้างสรรค์อยา่ งเต็มตัว ภายใตแ้ ว่นใหม่สรา้ งชอื่ เสยี งใหฉ้ ันพอประมาณ
ผลทต่ี ามมาก็คอื ฉนั มนี ้อง ๆ เพ่ิมข้ึนในสงั คมอีกหลายคน ผลดีอีกอยา่ งคอื งานทีเ่ ขา้ มา อย่างล้นหลาม งานของ
นั้นเน้นอารมณ์ขันเป็นหลัก ยิ่งทำให้มนุษย์ หัวเราะได้มากเท่าไร ฉันก็ยิ่งเจริญเร็วเท่านั้น ฉันไม่สนใจหรอกว่า
ของที่ฉันต้องขายนั้นเกี่ยวอะไรกับการสร้างสรรค์ของฉันหรือไม่ เป็นโชคดีที่เจ้าของสินค้าเขาก็ไม่ค่อยสนใจ
เหมือนกัน ยิ่งไม่เกี่ยว เท่าไรยิ่งดี ขอแค่ให้ซื้อสินค้าติดหูคนก็ตรงเป้าหมายแล้ว ขึ้นไป ประกาศสรรพคุณ
มากเข้า กลัวต้องกุเรื่องโกหกเกินเหตุจำเป็น จะพากันตกนรกเป็นแถว ๆ เอาแค่มดเท็จนิดหน่อยพอหอมปาก
หอมคอ มดเป็นสัตว์ตัวเล็ก จะเท็จอย่างไรก็ไม่มีผลใหญ่โตต่อมวลมนุษยชาติ เวลาทำงานฉันถือตัวเองเป็นมด
แตเ่ ม่อื การเท็จของฉนั สมั ฤทธผิ ล น่ันคอื ราชสหี ์

ยายแก่ตัวไปกับวันเวลา ฉันไม่ค่อยว่างไปเยี่ยมเยียนยายบ่อยนัก โทรฯไปทีไรน้ำเสียงยายยังสดช่ืน
ยายตื่นไปออกกำลังกาย ที่สวนสาธารณะใกล้บ้านกับเพื่อนรุ่นคราวเดียวกันทุกเช้า เมื่ออยู่บ้านเฉย ๆ ก็ไม่
ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า รับอาสาพาลูกหลานเพื่อนมาเลี้ยงดูตอนกลางวัน เลี้ยงไปด้วยก็กล่อมทั้งเด็กทั้งตัวเอง
ด้วยดนตรีคลาสสกิ อันโปรดปรานไม่มวี ันเลิก ฉันไมเ่ ป็นหว่ งยายเพราะรู้ว่ายาย เขม้ แข็งท้ังกายและใจ แต่ถ้าจะ
ใหบ้ อกความจริง บางทฉี นั กม็ ัวแต่หว่ งตัวเองจนลืมยายเป็นปลิดทิ้ง ชา่ งเปน็ สำนวนทีน่ ่ารังเกียจพิลึก เป็นปลิด
ทิ้ง เหมือนยายเป็นใบไม้เห่ียว ๆ ที่ต่อให้เจอแสงแดดจดั จ้าขนาดไหนก็ไร้ประโยชน์ ไม่สามารถรบั อาหารได้อีก
ต่อไป ปลิดมันทิ้งไปเสียเถิด ใบอ่อนใหม่ ๆ จะได้มีที่เกิด ฉันต้องเตือนตัวเองเสมอ ไม่ให้ลืมใครเป็นปลิดทิ้ง
โดยเฉพาะยาย เพราะหากปลิดยายทงิ้ ไปเสยี แล้ว ทงั้ ต้นจะเหลือฉนั อยเู่ พยี งใบเดียว

เมือ่ อาทิตย์ทแี่ ลว้ ฉันได้รับมอบหมายงานใหม่ สนิ ค้าคอื ลกู อมดับกล่ินปาก ฉันคิดไปคิดมาหลายตลบ
ว่าคราวนี้จะสร้างสรรค์ อย่างไรดี แล้วหลอดไฟก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวเหมือนทุกครั้งที่ฉันคิดงานออก เป็นที่น่า
สังเกตว่า เวลาฉันไม่ได้คิดงาน เหนือหัวของฉันไม่เคยปรากฏหลอดไฟสักหลอด แปลว่าตามปกติแล้ว สมอง
ของฉัน มันมืดมิดทึมทึบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปวัน ๆ คลำหาทิศทางโดยไม่ใส่ใจไยดี จะหาแสงสว่างแต่ละครั้ง
ต้องมีเงื่อนไข ถ้าไม่เป็นงาน ไม่เป็นเงินก็ปล่อยให้มันมืดอยู่อย่างนั้น เกรงว่าสว่างไปแลว้ จะเหน็ ความกลวงโบ๋
นา่ ใจหาย คลงั สมองของฉนั อาจดใู หญโ่ ตจากภายนอก คล้ายมเี สบียงปญั ญาตุนไว้ไม่มวี ันหมด แตข่ ้นึ มหี ลอดไฟ



สวา่ ง สกั ดวงทเี่ ฉดิ ฉายอยภู่ ายในตลอดเวลา จะเห็นเพียงโกดงั โลง่ ๆ โยนเขม็ ลงไปสักเล่มรับรองส่งเสยี งกระทบ
ก้องจนปวดแกว้ หู ทิ้งไวม้ ีด ๆ จะปลอดภยั กวา่

ฉันนึกถึงใบหน้าของนายเบล่า ลูโกซี่ ในหนังเรื่องแดร็กคูล่า ฉันจะจับเอาผู้ชายคางแหลมสักคนมา
แต่งหนา้ แต่งตวั ให้เหมือน ท่านเคานต์ ยงิ่ เปน็ ดาราร่นุ เดอะท่ีหางานแสดงหนังแสดงละคร ไมไ่ ด้แล้วย่ิงดี ถือว่า
เป็นการทำบุญสงเคราะหน์ ักแสดงอาวุโส เผลอๆจะกลับมาโด่งดงั อีกครั้ง ฉันจะได้ขึ้นช่ือว่าเป็นผู้ชบุ ชีวิต คนมี
ความสามารถ ใครอายุมากหน่อยก็ขึ้นชื่อว่ามีความสามารถ ทั้งนั้นในเมืองตาหลิ่ว สมัยยังหนุ่มยังแน่นอาจจะ
ไม่ได้เรื่องเลยก็ได้ พอได้ตัวท่านเคานต์แล้ว ก็ต้องหานางแบบสวย ๆ สักคนมาเล่นเป็นเหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย
ควรเป็นเด็กผู้หญิงหน้าใหม่ยังไม่ได้ผ่านหน้ากล้องมามากจนสิวเสีย้ นขึ้นเป็นผื่นเพราะเครื่องแต่งหน้า พวกน้ัน
เปลยี่ นอาชพี เปน็ ศลิ ปินเพลงกันไปหมดแลว้ จะใหม้ าเลน่ โฆษณาแตล่ ะคร้ังก็มากทง้ั เรือ่ ง มากท้ังเงนิ ตัดปัญหา
ดว้ ยการใชเ้ ด็กใหม่ ถา้ ดวงดีก็จะแตกเป็นพลุ กลายเปน็ นางแบบคลื่นลูกใหม่มาแรง ถ้าเธอถกู โฉลกกับชายอายุ
มากกวา่ ฉันกอ็ าจจะสม้ หล่น ไดค้ วงเดก็ ผู้หญิงหน้าตาดีท่ียังไม่ บรรลนุ ิติภาวะไปไหนมาไหนด้วยได้หลายเดือน
ในฐานะผู้ชักนำเข้าสู่ วงการ ได้นางแบบถูกใจแล้วก็ต้องตามด้วยนายแบบหล่อๆสักคน มาเป็นผู้ปราบผีดูด
เลือด มีชื่อเสียงอยู่บ้างแล้วก็ดี ลูกค้าจะได้พอใจ สำหรับฉันแล้วมันจะเป็นใครก็ช่าง ฉันไม่อยากควงนายแบบ
หนา้ ตาดี ไปไหนมาไหนดว้ ย ยกให้เหลา่ นกั รักรว่ มเพศในทีมงานฉนั เป็นคน ตดั สินก็แล้วกัน

หนังของฉันต้องเป็นขาวดำเหมือนหนังฉบับจริง เปิดเรื่องขึ้นมาด้วยตวั หนังสือแบบโบราณ ที่คนนิยม
ใช้เป็นไตเต้ิลหนังเขยา่ ขวัญ ฉันจะขึ้นช่ือเรื่องใหญ่ๆว่า “แดร๊กคูล่าผจญ...” ที่จุดจุดจุดไว้คอื ช่ือ ยี่ห้อลูกอมดับ
กลิ่นปาก ภาพแรกต้องเป็นปราสาทหินของท่านเคานต์ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา ฝนกระหน่ำตกไม่ลืมหูลืม
ตา สายฟ้าพุ่ง แปลบปลาบไปมาน่าขนลุก จากนั้นก็ตัดไปภายในปราสาท แดร็กคูล่า กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มกับ
เหย่ือสาวบนเตียง โคลสอพั ไปท่ปี ลายเขี้ยว อันคมกริบกำลงั เคลื่อนเขา้ หาผิวขาวผุดผอ่ งของคอหญงิ

ทันใดนั้น ท่านเคานต์ก็ได้ยินเสียงประตูปราสาทถูก พังทลายลง ยังไม่ทันได้กัดคอน้องนางให้หายมัน
เขี้ยวก็ตอ้ งชะงัก ด้วยความตกใจ ตัดภาพไปที่ตนี กระไดชั้นล่างของปราสาท นักปราบผีดูดเลือดหนุ่มกำลงั ยา่ ง
ขึน้ ตามขั้นพรอ้ มคบเพลิงในมือซ้าย มอื ขวาถือไม้กางเขน ทา่ นเคานตโ์ ผล่พรวดออกมาที่หัวกระได ใบหน้าเดือด
ด้วยโทสะ ชายหนุ่มไม่รีรอ ขว้างคบเพลิงไปที่แดร็กคูล่า หมายให้ไฟเผาผลาญผีดูดเลือดจนสิ้นฤทธิ์ ทว่าท่าน
เคานต์เป็นนักตระกร้อเก่า เดาะคบเพลิงที่เดียวก็กระดอนกลับไปหาตัวหนุ่มนักปราบ เล่นเอาไฟลุกลามตาม
เสอื้ ผ้าแทบรบั ไม่ทนั ชายหนุ่ม ยงั ไม่ลดละ ถึงผมจะเกรียมเป็นตอตะโกก็มุ่งมั่นจะพิชติ มารร้าย ให้ได้ เขายกไม้
กางเขนขึ้น แล้วย่างเท้ากระชั้นชิดตัวท่านเคานต์ เข้าทุกทีแต่ท่านเคานต์กลับยืนนิ่ง แถมแสยะยิ้มเยาะเย้ย
นักรบหนุ่ม ไมส่ ะทกสะท้านกับเคร่ืองหมายของพระเจ้าแต่อย่างใด สรา้ งความ ฉงนให้หนมุ่ รูปหล่อเปน็ อย่างย่ิง
แดร็กคูล่าเกิดความสงสารชายหนุ่ม จึงยอมเผยความลับให้เอาบุญ โดยการส่งสัญญาณมือเรียกให้ชายหนุ่ม
หนั ไปมองบนผนงั ปราสาท

ไม่ไกลจากที่ทั้งสองยืนสู้รบตบมือกันอยู่ ภาพแพนตามสัญญาณมือของท่านเคานต์ ปรากฏให้เห็นห้ิง
พระท่ีมีธปู เทียนบชู า พร้อมดอกบัวปักไวเ้ สรจ็ สรรพ แดร็กคูลา่ ได้เปลี่ยนศาสนาเสยี แลว้ ต่อใหข้ นไม้กางเขนมา
เป็นคันรถก็ไม่มีประโยชน์ ชายหนุ่มเหงื่อตก โยนไม้กางเขนทิ้งไปอย่างขวยเขิน พนมมือไหว้ท่านเคานต์หนึ่งท่ี
แล้ววิง่ แจ้นลงกระไตหนีออกจากประตูปราสาทไป ภาพตดั กลับสู่ห้องนอนของท่านเคานต์ เหยื่อสาวยังนอนน่ิง

๑๐

อยู่บนที่นอนนุ่ม แตร็กคูล่าเคลื่อนตัวเข้าห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมปฏิบัติศึก กับสาวน้อยผิวนวล ตัดภาพ
เป็นโคลสอัพที่เขี้ยวท่านเคานต์อีกครั้ง คราวนี้เมื่อปลายคมใกล้แตะผิวละมุน สาวน้อยนิทราก็ลืมตาโพลง ยืน
ลกู อมดับกลิ่นปากใหผ้ ีดูดเลือต “ไม่อม...ไมใ่ หด้ ูดนะจ๊ะ” ที่จุดจุดจุด คือช่ือยี่หอ้ ลกู อมดังกล่าว ว่าแล้วสาวสวย
กส็ ง่ ยิ้มหวาน แดรก็ คูลา่ ดดี ลูกอมเขา้ ปากแตโ่ ดยดี

ภาพสุดท้ายกลับไปที่ภายนอกปราสาทอีกครั้ง คราวนี้ฝน หยุดแล้ว ฟ้ากำลังเริ่มสาง ค้างคาวสองตัว
บินเคียงคู่กันออกจาก หน้าต่างชั้นสองของปราสาทอย่างมีความสุข เสียงพากย์ประกอบ ภาพในช่วงนี้ดังขึ้น
“แดร็กคูล่าสมัยใหม่ใช้...” ที่จุดจุดจุดคือชื่อยี่ห้อ ลูกอมดังกล่าว พูดจบค้างคาวคู่รักหวานแหววก็กระพือปีก
ผา่ นจอไป ตัวหนงั สอื ขึ้น “โปรดตดิ ตามภาคสอง” เพอื่ เรอื่ งของกูช้ินนข้ี ายได้ จะไดท้ ำตอนต่อไป จรงิ ๆ ถ้าขาย
ไมด่ ี กท็ ง้ิ ไว้เปน็ ความเกไ๋ ก๋

ดนตรีประกอบในหนงั ของฉนั มโี มซาร์ทแน่นอน แต่จะเลน่ คลอเบาๆอยู่เบื้องหลงั เท่าน้ัน ดนตรหี ลักจะ
เป็นดนตรคี ลอน อารมณต์ ามสูตรดนตรปี ระกอบหนังผีทว่ั ไป เพราะความจริงไวโอลิน คอนแชร์โตหมายเลข ๕
กบั ซมิ โฟนหี มายเลข ๔๑ ก็ไมค่ อ่ ยเขา้ กบั เนอื้ ภาพนัก แตไ่ หน ๆ จะเอาความทรงจำสมยั เด็กมาขายแลว้ ฉันต้อง
จำลองใหใ้ กล้เคียงทีส่ ุด

เดาไว้ไม่ผิดว่างานสร้างสรรค์ของฉันต้องเป็นท่ีช่ืนชอบในทีป่ ระชุม ก็ฉันคิดขึ้นให้คนอื่นชอบ คนอื่นก็
ต้องชอบเป็นเรอ่ื งธรรมดา เป็นหนึง่ ในหนา้ ทีข่ องฉนั อยแู่ ลว้ ประชุมแคค่ รง้ั สองครัง้ กผ็ ่าน เร่มิ งานได้เลย

ว่ากันว่าคนเราใช้สมองเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น พวกอัจฉริยะอาจจะใช้ได้มากกว่าคนเดินดิน
ธรรมดาหนอ่ ย แตฉ่ ันไมใ่ ช่ อัจฉริยะ ยง่ิ ฉันใช้ความคดิ เปอร์เซ็นตก์ ารใช้สมองของฉันย่ิงลดต่ำลง เหล่าเจ้านาย
ในที่ประชุมยิ่งใช้สมองน้อยเปอร์เซ็นต์กว่าฉันเสียอีก ไม่เช่นนั้นคงไม่รับความคิดตื้นๆของฉันได้โดยง่ายดาย
ดังเช่นทเี่ ป็นอยู่ ฉนั คดิ อะไรออกมากข็ ำกนั กลง้ิ ย่ิงความคดิ กระจอกเท่าไร ก็ยงิ่ กลง้ิ กนั มากตลบเท่านน้ั

การขยายความทรงจำวัยเด็กของฉันผ่านไปดว้ ยดี ถึง แมว้ ่าจะไม่ได้นางเอกในเร่ืองมาควงเล่น แต่ฉันก็
ได้น้องสาวตาโต เด็กฝึกงานไว้พาไปทัศนาจรเมืองกรุงด้วยกันยามราตรีอยู่พักใหญ่ ทัศนาจนหมดทุกที่ที่
จำเปน็ ต้องทศั นาแลว้ กจ็ รกนั ไป ฉนั ต้องเก็บหอมรอมริบอีกครัง้ เพอื่ ต้อนรับการทัศนาจรครงั้ ใหม่กับสาวน้อยคน
ใหม่ ณ นาทนี ้ยี ังไมร่ ้วู ่าเป็นใคร แต่ฉันก็ไมต่ ้องกังวลใจให้ระบบขับถ่ายป่นั ปว่ น ไปเปล่า ๆ

ฉันภูมิใจกับหนังเร่อื งแดรก็ คลู า่ ผจญลูกอมดับกลิ่นปาก เรื่องนน้ั ไม่น้อย ถงึ กับอัดเทปเอาไปให้ยายเก็บ
ไวเ้ ปิดดูยามเหงา

ฉันขับรถคันใหม่ที่ถอยออกมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ไปเยี่ยมยายพร้อมวิดีโอแดร็กคูล่า ต้องมี
ของไปอวดจึงจะถ่อร่าง ไปหา ยายก็ดีใจเหลือเกนิ จัดแจงหาของกินทีฉ่ ันโปรดปรานรอไว้ ปรนนิบัติแต่เช้า ไป
ถงึ ฉันก็ไมร่ รี อ บอกยายฤดนู กี่ อ่ น ไมร่ วู้ า่ ยายได้ดใู นทีวีบ้างแล้วหรือยัง ฉนั ทำหนงั เร่อื งนีใ้ หย้ ายกับตาโดยเฉพาะ
เรียานะ ฉันจับตลับเทปยัดเข้าไปในเครื่องเล่นวิดีโอ ยายก็ตั้งหน้าตั้งตารอดู ภาพที่จะปรากฏบนจอด้วยความ
ตน่ื เต้น แตจ่ อของยายมิไดอ้ ยู่บนตวั โทรทัศน์ สายตาของยายจบั อย่ทู ่ตี วั ฉนั ทใี่ บหน้าน้ันเหมอื นกนั เป็นหนงั เก่า
ที่ยายไม่ได้ดูมานาน ฉันทำเป็นไม่สนใจ ปากก็เล่าเรื่องราว เบื้องหลังการถ่ายทำหนังโฆษณาชิ้นนั้นให้ยายฟัง
โดยไม่ใส่ใจวา่ ยาย จะเข้าใจศัพท์เฉพาะของคนวงการโฆษณาหรือไม่ ยายเองก็ไม่มีทีท่า ว่าสนใจเหมือนกัน ได้

๑๑

แต่เงีย่ หฟู งั อยา่ งวา่ นอนสอนง่าย ฉนั พูดอะไร ยายกย็ ิ้ม ฉันหวั เราะ ยายก็หัวเราะ หากลกู คา้ ของฉันเป็นเหมือน
ยายทุกคนกค็ งดี คงทำงานสะดวกขึน้ เยอะ

ยายดูหนังแดร็กคูล่าผจญลูกอมดับกลิ่นปากของฉันด้วยรอยยิ้ม แต่ฉันกลับรู้สึกแปลกเมื่อได้มานั่งดู
ผลงานช้นิ นี้กบั ยาย ในบ้านยาย บา้ นซึ่งเปน็ ที่มาของความทรงจำเกยี่ วกับท่านเคานต์ นกั ตดู เลอื ต ความทรง
จำที่ทำให้ฉันได้สตางค์มาใช้ความทรงจำที่ซื้อ ความเชื่อถือจากผู้ร่วมงานและลูกค้า ฉันมองจอโทรทัศน์รุ่น
โบราณ ของยายด้วยอาการเหมอ่ ลอย

สนุกดนี ี่ลูก เป็นคำวิจารณข์ องยายเม่ือหนังจบลง
ไมเ่ หน็ สนกุ เลย
ฉนั ถามยายวา่ ไดย้ นิ ดนตรโี มซารท์ ในหนังหรือเปล่า ยายตีสีหนา้ ประหลาดใจ มดี นตรโี มซาร์ทด้วยหรือ
ฉันพยักหน้า มีสิ ไวโอลนิ คอนแชร์โตหมายเลข ๕ กบั ซิมโฟนหี มายเลข ๔๑ ทยี่ ายใช้บรรเลงควบคูก่ บั หนงั แดรัก
ดูก ฉบับเบล่า ลูโกซี่ ที่ตาชอบฉายหลายคืน วันศุกร์นั่นไง ยายว่า อ๋อ เหรอ จริงเหรอ มีด้วยเหรอ ไม่ยักได้ยนิ
ยายแก่แล้วนี่ลูก หูตาไม่ค่อยดี ฉันอยากกรอเทปกลับแล้วเปิดหนังให้ยายดูอีกรอบ ยายลองตั้งใจฟังสักนิดนะ
ยายบอกไมต่ อ้ งหรอก ยายเชื่อวา่ มีดนตรีโมซาร์ทอยา่ งท่ลี กู ว่า ไมต่ อ้ งดอู ีกรอบหรอก
วันน้ฉี ันอยู่บา้ นยาย แตย่ ายไมอ่ ยู่เสียแล้ว ยายไปไหนก็ไมร่ ู้ เหมือนพ่อกับแม่ที่ไปไหนก็ไม่รู้ เหมือนตา
ท่ไี ปไหนก็ไม่รู้ ฉันมานงั่ อยูท่ ่บี ้านยายเพ่ือเก็บของ ในเมอ่ื ไมม่ ยี ายอยแู่ ล้ว บ้านหลังนี้ ก็หมดความจำเป็น ฉันมา
นั่งรื้อนั่งเลือกของที่จะเก็บไว้เป็นที่ระลกึ ฉันเพิ่งรู้ว่ายายเป็นนักเก็บของตัวยง ทั้งหนังสอื เรียน หนังสือการ์ตนู
นิตยสาร ของเล่น ข้าวของของฉันในวัยเด็ก ยายเก็บไว้อย่างเป็น ระเบียบในตู้ ขนไปวันนี้วันเดียวคงไม่หมด
แผ่นเสียงดนตรีคลาสสิกของยายมีอยู่เป็นสิบๆลัง ทุกแผ่น ยังอยู่ในสภาพดี เครื่องฉายหนังของตาก็
เช่นกัน เอี่ยมอ่องเหมือน ของใหม่ หนังทุกเรื่องของตายังบรรจุอยู่ในตลับเหล็ก ฉันหยิบตลับหนึ่ง ขึ้นมาถือใน
มอื นานเปน็ พเิ ศษ บนตลบั มีลายมอื ของตาเขยี นเป็น ภาษาองั กฤษ “Dracula" ฉันนกึ ถงึ ผา้ ปทู ่ีนอนสขี าวผืนนั้น
นึกถึง แสงไฟจากเครื่องฉายหนงั ทส่ี ง่ เปน็ เสน้ ผา่ นความมืดไปตกลงบนเนื้อผอ่ งของผ้า
ฉันเปิดสมุดและหนังสือเรียนหน้าปกเชย ๆ สมัยมัธยมออกดู หลายเล่มเต็มไปด้วยการ์ตูนที่ฉันแอบ
เขยี นเลน่ ระหว่างชั่วโมง เรยี น หลายหนา้ ในสมุดเปรอะเปื้อนไปดว้ ยสงครามดาว ฉันไม่ได้ เลน่ สงครามดาวนาน
แล้ว มันเป็นเกมของเด็ก วาดรูปดาวเป็นกองทัพ แล้วใช้ปลายปากกาลูกลื่นยิงเป็นเส้นให้โดนกองทัพดาวของ
อกี ฝ่าย ย่ิงโดนดาวก็ดบั
จำได้ว่าฉันเคยพยายามเขียนบันทึกอยู่หลายครั้ง แต่ละครั้ง เขียนได้ไม่เกินอาทิตย์ก็เบื่อ เลิกเขียนไป
ในทสี่ ุด
เด็ก ๆ จะมีเรื่องราวประจำวันอะไรให้บันทึกมากมาย วันนี้ฉันตื่นไปโรงเรียน ถูกครูตีหนึ่งครั้ง กลับ
บา้ น ดูทีมี อา่ นการต์ นู นอน
กระดาษเสน้ สีน้ำเงินจาง ๆ แผน่ นี้เป็นหนา้ หนง่ึ จากสมดุ บนั ทกึ ทฉ่ี นั เขียนไม่เสร็จ
“ฉนั จะไม่มวี ันเปลี่ยนแปลง”
เปล่ียนแปลงจากอะไรกจ็ ำไม่ไดเ้ สยี แล้ว
แต่ฉนั ก็อยากรักษามันไว้ เปน็ ไปได้ว่าสักวนั จะนกึ ออก) ฉนั จึงก้มลงไปเก็บ

๑๒

คุณค่าของวรรณกรรม

คณุ ค่าด้านเน้ือหา

๑. ฉันจะไมม่ ีวนั เปล่ยี นแปลง
เรารู้อยู่แล้วว่าชีวิตเราต้องเปลีย่ นแปลง เราจึงอยากจะข้ามกฎของธรรมชาตดิ ้วยการบอกวา่

ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงตนเองเพื่ออะไรบางอย่าง หรือไม่ก็อะไรบางอย่างทำให้เราอยากจะไม่แปลี่ยนแปลง
ตนเอง แตท่ ว่าอะไรบางอยา่ งนน้ั กไ็ ม่ใช่สิ่งท่ีสำคญั เทา่ กบั ว่า เรายอมรับถงึ การเปลีย่ นแปลงตนเอง ด้วยประโยค
ปฏิเสธท่บี อกว่า ฉนั จะไมเ่ ปล่ียนแปลงตัวเอง

๒. หากคณุ อยากเป็นคนดีแสดงวา่ คณุ ไมใ่ ช่คนดี
อาจจะมองได้หลากหลายแบบ แบบแรกความหมายตามตัวอักษรก็คือ "เราอยากจะเป็น"

คนดี กเ็ ท่ากบั ว่า เรายงั ไม่ไดเ้ ป็นคนดีจริง ๆ หรอื ในแบบอีกอย่างคือ การท่ีเราจะเป็นคนดี น้นั มันเป็นเร่ืองยาก
พอกับการเป็นคนเลว ก็เพราะการเป็นคนดี ก็ต้องมีคนเลว ดังนั้นคนดีก็พยายามสร้างคนเลวข้ึนมา ให้ใครจะ
คนหรอื กลุ่มเปน็ คนเลวเพ่ือทีจ่ ะบอกว่า ตนเองเป็นคนดี หรอื อกี แบบเราถอื อโี ก้ความดี จนความดีนนั้ กลายเป็น
Subject กลายเป็น S ตัวใหญ่ กลายเป็นองค์ประธานของเรา จนทำให้เราเห็นว่าตัวเรามีแต่ความดี ทั้งที่จริง
ชีวติ ของมนษุ ย์มที ง้ั ความดีและความเลวไม่แพ้กนั และมนั เป็นแบบน้นั

๓. ลูกอาจถามตวั เองว่าลกู เกิดมาทำไม?
เป็นประโยคแห่งการเฟอ้ ฝนั ที่ทำใหผ้ คู้ ดิ หมกม่นุ หาแตค่ ำตอบที่วา่ เราเกดิ มาเพือ่ อะไร โดยที่

เราไม่ไดส้ งั เกตเห็นการเมืองของการพูด ประโยคคำถามทีว่ า่ ลกู อาจถามตวั เองว่าลูกเกิดมาทำไม? เราไม่ได้หัน
ไปดูว่าผู้ที่พูดประโยคนี้ เขาต้องการอะไรจากเรา หรือเขาอยากให้เราทำตามอะไรในสิ่งที่เขาพูดมากกว่า
หาคำตอบท่ีเกิดจากปมปญั หาทเี่ ขาสร้างขนึ้

คณุ ค่าดา้ นสงั คม

การตีกรอบความคดิ และสงั คม ผู้เขยี นไดซ้ อ่ นขอ้ คิดเกยี่ วกับกรอบความคิดและสังคมเอาไว้ จะเห็นได้
จากการเปลี่ยนศาสนาของท่านเคาวต์ เปรียบเสมือนการเปลี่ยนเงือ่ นไขทางสังคมของตนเอง ทำให้นักปราบผี
ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ และดูเหมอื นวา่ นักปราบผีจะยอมรับเง่ือนไขการเปล่ยี นแปลงนี้ด้วย จงึ ทำให้นักปราบ
ผีพา่ ยแพ้ตอ่ ทา่ นเคาวตไ์ ป

การเขา้ สงั คม ผู้เขียนได้ให้มุมมองเกีย่ วกับการตีกรอบทางสงั คมผ่านถ้อยคำของแม่ท่ีมีต่อลูก
“...พามาอยู่ในโลกแล้ว ยังสั่งโน่นสั่งนี่ตามอาเภอใจ บังคับให้เข้าโรงเรียน บังคับให้กินผัก บังคับให้นอน
พยายามวางโครงสรา้ งชวี ิตให้ ลูกควรประกอบอาชพี น้ี ลูกควรแต่งงานกบั คนแบบนนั้ ลกู ตอ้ งไหว้คนนัน้ นับถือ
คนน้ี เรยี กคนนั้นว่าลุง เรียกคนนี้วา่ ป้า…”

๑๓

ความไม่เท่าเทียมระหว่างชายกับหญิง ผู้เขียนใช้ตัวละครปู่กับย่าในการเชื่อมโยงการเสียดสีสังคม
เกี่ยวกับความไม่เท่าเทยี มระหว่างชายกับหญงิ
“…พ่อเล่าให้ฟังว่าปู่เป็นทนาย...ย่าต้องเป็นเมียทนาย ซึ่งเมื่อขึ้นชื่อว่าเมียแล้ว จะเป็นเมียหมอ เมียครู เมีย
ภารโรง ย่อมไม่แตกต่างกันมาก แม้กระทั่งเมียงู ก็เป็นมนุษย์ปรนนิบัติผัวอยู่วันยังค่า งูกลับมาบ้าน เหนื่อย
หรอื ไม่เหนือ่ ยก็ตอ้ งมขี ้าวปลาอาหารเพยี บพร้อมอยู่บนโต๊ะ งูเมอื่ ยกต็ อ้ งมคี นนวดให้ งหู วิ นา้ กไ็ ม่ตอ้ งเลอ้ื ยไปหา
เองตามบอ่ ตามบงึ …”

คณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์

๑. การใช้คำ
การใช้สำนวน
ผู้เขียนได้ใช้สำนวนในการเปรียบเทียบพฤติกรรมของตัวละคร คือ เข้าเมืองตาหลิ่ว

ต้องหลวิ่ ตาตาม หมายความว่า ประพฤติตนตามที่คนส่วนใหญป่ ระพฤตกิ นั
“...ฉันกจ็ บั พลดั จบั ผลไู ปกับเขาด้วย ตามคตทิ ่ีว่า เขา้ เมืองตาหล่วิ ตอ้ งหล่วิ ตาตาม ฉนั จึงเรม่ิ หลว่ิ ตาไป

กับคนอน่ื จนเดย๋ี วน้ีเกอื บมองอะไรไม่เห็นแล้ว ฉันก็ยังอดทนทำตอ่ ไป…”
๒. การใช้ภาพพจน์
บุคลาธิษฐาน การสมมุติให้สิ่งที่ไม่มีชีวิต ไม่มีความคิด สิ่งที่เป็นนามธรรม หรือสัตว์ให้มี

สติปัญญา อารมณ์หรือกิริยาอาการ เหมือนมนุษย์เพือ่ ให้สิง่ เหลา่ นั้นเกิดปรากฏการณ์เสมือนเปน็ สิ่งมีชวี ติ ทีม่ ี
ความรู้สึก นึกคิดขึ้นมา แล้วสื่อความรู้สึกออกมาให้ผู้รับสารได้รับรู้เป็นการเปรียบเทียบโดยนำเอาส่ิงไม่มีชีวิต
หรือมชี วี ิต
“…ฝนกระหน่ำตกไม่ลืมหูลืมตา…”

สัญลักษณ์ คอื การใช้ส่ิงหนึง่ แทนอีกสง่ิ หนง่ึ เน่อื งจากมคี ณุ สมบัติร่วมกันหรือเกยี่ วข้องกัน
“…นกั ปราบผีดดู เลือดหน่มุ กำลงั ยา่ งขน้ึ ตามขั้นพร้อมคบเพลิงในมือซา้ ย มอื ขวาถอื ไม้กางเขน…”

๑๔

คำอธบิ ายศพั ท์และข้อความ

ปฏญิ าณ ก. ใหค้ ำมัน่ สญั ญา โดยมากมักเป็นไปตามแบบพธิ ี เช่น พธิ ีถวายสตั ย์
ปฏญิ าณของขา้ ราชการเนื่องในวันเฉลมิ พระชนมพรรษา
ยถากรรม ว. ตามบญุ ตามกรรม, ตามแต่จะเปน็ ไป.
ไพศาล ว. กว้างใหญ่.
มหศั จรรย์ ว. แปลกประหลาดมาก, น่าพิศวงมาก, ผิดปรกตวิ ิสยั ของธรรมชาติ
ประจักษ์ ว. ปรากฏชัด อาจเป็นทางตาหรือใจก็ได้ เช่น ประจักษ์แกต่ า ประจกั ษ์แกใ่ จ
จักษแุ พทย์ น. หมอรักษาตา.
สมั ฤทธิ์ น. ความสาํ เรจ็

๑๕

ชวนคิดพนิ ิจคุณค่า

กิจกรรมทา้ ยบท

๑. ให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นกับประโยคทีว่ า่ “หากเราอยากเป็นคนดี แสดงวา่ เราไม่ใช่คนดี”
๒. ให้นกั เรียนเขยี นเลา่ เรื่องราวการเปล่ียนแปลงในชวี ติ ที่สำคัญที่สดุ

๑๖

สง่ิ ทเ่ี หน็ วา่ กำลงั นง่ิ
ใชว่ ่าจะไม่มีการเปลย่ี นแปลงซอ่ นอยู่

ส่งิ ทเ่ี ห็นว่า กำลงั จะจบลง
กม็ กี ารเรมิ่ ต้นใหมแ่ ฝงอยู่
อยา่ ยดึ ติดกับคำพูดท่วี ่า
ฉนั จะไม่มีวนั เปลีย่ นแปลง


Click to View FlipBook Version