เรื่อง การศึกษาลักษณะตัวละครและคุณค่า
ของวรรณกรรมเรื่องอิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
จัดทำโดย
นายจักรกฤษณ์ กองเกิด รหัส 623050013-9
นางสาวกนกวรรณ โคตระวิระ รหัส 623050101-2
นางสาวสุนิดา เมาะราษี รหัส 623050128-2
อาจารย์ที่ปรึกษา
ผศ.ดร.ดนิตา ดวงวิไล
บทคัดย่อ
การศึกษาโครงงานเรื่อง การศึกษาลักษณะตัวละคร และคุณค่า
วรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง โดยโครงงานเรื่องนี้มุ่งศึกษา
ลักษณะตัวละคร และคุณค่าในวรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุ
หนิง ผลการศึกษาพบว่า ปรากฏลักษณะตัวละครสำคัญทั้งหมด 9 ตัวละคร
ได้แก่ 1) อิเหนา 2) จรกา 3) ท้าวกุเรปั น 4) ท้าวหมันหยา 5) ท้าวดาหา 6)
ท้าวกะหมังกุหนิง 7) จินตะหรา 8) วิหยาสะกำ และ 9) สังคามาระตา ใน
ส่วนของคุณค่าวรรณกรรมปรากฏทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านระบบ
การเมืองการปกครอง 2) ด้านค่านิยมสังคมปิตาธิปไตย 3) ด้านทรัพยากร
และ 4) ด้านวัฒนธรรมการกิน
บทที่ ๑
การศึกษาในยุคศตวรรษที่21 เป็นยุคที่ความรู้และข้อมูลข่าวสารมีการเปลี่ยนแปลง
ตลอดเวลา และมีการนำเทคโนโลยีใช้ประกอบการเรียนรู้เพื่อให้เข้าถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้
สะดวกยิ่งขึ้นผู้เรียนจึงต้องมีทักษะการเรียนรู้ ประกอบด้วย ทักษะด้านการเรียนรู้และ
นวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี และทักษะชีวิตและการทำงาน เพื่อให้
สามารถเรียนรู้และดำเนินชีวิต ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม
วรรณกรรมเรื่องอิเหนาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยมีวัฒนธรรมและอิทธิพลทางภาษาบางอย่างที่ปรากฏร่วม ทำให้วรรณกรรมเรื่องอิเหนา
สะท้อนถึงสภาพสังคมได้เป็นอย่างดีในสมัยครั้นประพันธ์ขึ้น โดยได้รับความนิยมอย่าง
สูงสุดในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซียหรือชวา นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมใน
ประเทศมาเลเซียด้วยเช่นกัน (ธานีรัตน์ จตุศรี, ๒๕๕๒)
ด้วยความไพเราะแห่งวาทศิลป์ทางภาษาที่มีกลวิธีทางด้านคำประพันธ์อันงดงามในพระ
ราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ นี้ ได้ถูกบรรจุลงใน
หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑
จากการศึกษาพบว่าวรรณกรรมเรื่องอิเหนา มีคุณค่าแฝงด้วยนัยคำประพันธ์และสะท้อน
ถึงสังคมวัฒนธรรมจากเนื้อเรื่องในเบื้องต้น คณะผู้จัดทำจึงเลือกศึกษาคุณค่าของ
วรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึก กะหมังกุหนิง เพื่อสะท้อนภาพ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม
ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ภาษาวรรณกรรมอันงดงามและควรค่าแก่ธำรงไว้สืบไป
๑. ลักษณะตัวละคร หมายถึง อุปนิสัย การแสดงออก
ภาพลักษณ์ อัตลักษณ์ ปั จเจกของตัวละคร
๒. คุณค่า หมายถึง การสะท้อนเชิงโครงสร้างสังคม วัฒนธรรม
การดำรงชีวิต และการสื่อความหาย
๑. ทราบถึงลักษณะตัวละครของวรรณคดีเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
๒. เข้าใจถึงคุณค่าบริบทสภาพสังคมและวัฒนธรรมในวรรณคดีเรื่องอิเหนา
ตอนศึกกะหมังกุหนิง
บทที่ ๒
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
๑. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมอิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง
๒. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์วรรณกรรม
๒.๑ แนวคิดภาพสะท้อนหรือคุณค่าวรรณกรรม
๒.๒ แนวคิดการวิเคราะห์ลักษณะตัวละคร
ตรีศิลป์ บุญขจร (๒๕๓๕) กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางสังคมกับวรรณกรรมมัก
สะท้อนคุณค่าทางสังคม เป็นประสบการณ์ของผู้เขียน จึงมักสอดแทรกสังคมอยู่
เสมอ ทำให้เห็นถึง ศาสนา วัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี ปรัชญาและการเมือง
รวมถึงมโนทัศน์เชิงโครงสร้าง และการแสดงถึงลักษณะตัวลคร
บทที่ ๓
วิธีการดำเนินการ
ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ดำเนินการได้กำหนดระเบียบวิธีในการ
ศึกษาไว้ ดังนี้
๑. ขั้นรวบรวมข้อมูล
๑.๑ คณะผู้จัดทำได้ศึกษาวรรณกรรมจากหนังสือเรียน
วรรณคดีวิจักษ์ ม.๔ เรื่อง อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
๑.๒ ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ตัวละคร
และการสะท้อนคุณค่าของวรรณกรรม
๑.๓ รวบรวมเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
๒. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมมาวิเคราะห์โดยใช้แนวคิด
ที่ได้ศึกษาในเบื้องต้น
๓.ขั้นนำเสนอผลการศึกษา
นำเสนอผลการศึกษาเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่าน
zoom
๔. ปรับปรุงแก้ไข
บทที่ ๔
ผลการศึกษา
อิเหนา
ลักษณะตัวละคร : เก่งกล้า พูดจาอ่อนหวาน แต่เป็นคนดื้อดึง
เอาใจตนเองเป็นใหญ่ รูปร่างหน้าตางดงาม
บทประพันธ์แสดงความเก่งกล้า ตัวอย่างเช่น
เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีใจกล้า
เห็นระตูต่อตีมีศักดา คงทั้งศัสตราอาวุธ
ทวงหนีทีไล่ไวว่อง เพลงกระบี่ที่คล่องเป็นที่สุด
ยากที่ใครจะรอต่อยุทธ์ เป็นบุรุษหนึ่งในแดนไตร
เมื่อนั้นระเด่นมนตรีใจกล้าเห็นระตูต่อตีมีศักดาคงทั้งศัสตรา
อาวุธทวงหนีทีไล่ไวว่องเพลงกระบี่ที่คล่องเป็นที่สุดยากที่ใครจะ
รอต่อยุทธ์เป็นบุรุษผู้หนึ่งในแดนไตรเป็นบุรุษผู้หนึ่งในแดนไตร
บทประพันธ์แสดงถึงความพูดจาอ่อนหวาน ตัวอย่างเช่น
เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวัญอสัญหยา
ปลอบนางพลางเช็ดชลนา ดวงยิหวาอย่าทรงโศกี
จงสร่างสิ้นกินแหนงแคลงใจ ที่ในบุษบามารศรี
พี่สลัดตัดใจไม่ไยดี มิได้มีปรารถนาอาลัย
บทที่ ๔
ผลการศึกษา
จรกา
ลักษณะตัวละคร : มักใหญ่ใฝ่สูง ที่อยากมีภรรยารูปโฉมงดงาม
แม้ตนเองมีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์
ท้าวกุเรปั น
ลักษณะตัวละคร : มีอารมณ์ฉุนเฉียว ถือยศศักดิ์
บทประพันธ์แสดงถึงความถือยศผสักดิ์ ตัวอย่างเช่น
อะหนะอิเหนานี้ผิดนัก ไปพะวงหลงรักจินตะหรา
ที่ร่วมวงศ์เทเวศร์ไม่เจตนา ส่วนที่ต่ำช้าสิชอบใจ
ท้าวหมันหยา
ลักษณะตัวละคร : อ่อนแอ จิตใจโลเล ไม่มั่นคง
บทที่ ๔
ผลการศึกษา
ท้าวดาหา
ลักษณะตัวละคร : มีความรักศักดิ์ศรี และวงศ์ตระกูล มีอารมณ์ประชด
ประชัน ยึดมั่นในสัตยวาจา บทประพันธ์แสดงถึงอารมณ์ประชดประชัน
ตัวอย่างเช่น
แต่กาลศึกครั้งนี้ไม่ควรเป็น เกิดเข็ญเพราะลูกอัปลักษณ์
จะมีคู่ผู้ชายก็ไม่รัก จึงหักให้สาสมใจ
บทประพันธ์แสดงถึงความยึดมั่นในสัตยวาจา ตัวอย่างเช่น
อันศึกครั้งนี้ซึ่งมีมา เพราะเขาขอบุษบาเราไม่ให้
จึงเป็นเสี้ยนศัตรูหมู่ภัย น้อยใจด้วยอิเหนานัดดา
กะหมังกุหนิง
ลักษณะตัวละคร : มีความเป็นพ่อสูง ให้ท้ายลูก
บทประพันธ์แสดงถึงความเป็นพ่อ และการให้ท้ายลูก ตัวอย่างเช่น
โอ้ว่าพระองค์ผู้ทรงยศ พระเกียรติปรากฏในแหล่งหล้า
สงครามทุกครั้งแต่หลังมา ไม่เคยอัปราแก่ไพรี
ครั้งนี้ควรหรือมาพินาศ เบาจิตคิดประมาทไม่พอที่
เพราะรักบุตรสุดสวาทแสนทวี จะทัดทานภูมีไม่เชื่อฟั ง
บทที่ ๔
ผลการศึกษา
จินตะหรา
ลักษณะตัวละคร : มีอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจง่าย เอาแต่ใจตนเอง
บทประพันธ์แสดงถึงอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ เอาแต่ใจตนเอง ตัวอย่างเช่น
สตรีใดในภิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้า
ด้วยใฝ่รักให้เกินพักตรา จะมีแต่เวทนาเป็นเนืองนิตย์
และอีกบทหนึ่ง
ด้วยระเด่นบุษบาโฉมตรู ควรคู่ภิรมย์สมสอง
ไม่ต่ำศักดิ์รูปชั่วเหมือนตัวน้อง ทั้งพวกพ้องสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์
วิหยาสะกำ
ลักษณะตัวละคร : มีจิตใจห้าวหาญ วาจาคมคาย เอาแต่ใจตนเอง
บทประพันธ์แสดงถึงความมีจิตใจห้าวหาญ ตัวอย่างเช่น
เมื่อนั้น วิหยาสะกำใจกล้า
ได้ฟั งคั่งแค้นแทนบิดา จึงร้องตอบวาจาว่าไป
ดูก่อนอริราชไพรี อย่าพาทีลบหลู่ท่านผู้ใหญ่
โอหังบังอาจประมาทใคร จันบนอบยอบไหว้อย่าพึงนึก
มิเราก็เจ้าจะตายลง อย่าหมายคิดจิตทะนงในการศึก
ยังมิทันพันตูมาขู่คึก จะรับแพ้แลลึกไม่มีลาย
บทที่ ๔
ผลการศึกษา
สังคามาระตา
ลักษณะนิสัย : มีความกล้า และมีความมั่นใจในตนเองสูง
บทประพันธ์แสดงถึงความกล้า และมัคสามมันใจในตนเองสูง
ตัวอย่างเช่น
จึงทูลองค์ระเด่นมนตรี น้องนี้จะขออาสา
สู้วิหยาสะกำผู้ศักดา พระองค์จงยืนม้าเป็นประธาน
บทที่ ๔
ผลการศึกษา
๑. ระบบการเมืองการปกครอง
รูปแบบการปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์มีลักษณะเป็นระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือเทวราชาที่มีการเปรียบพระมหากษัตริย์เป็น
สมมติเทพ
๒. ค่านิยมสังคมปิตาธิปไตย
ในเรื่องอิเหนา ตอนศึกกระหมังกุหนิงปรากฏการที่เพศชาย
สามารถมีภรรยาได้หลายคน ดังบทประพันธ์ต่อไปนี้
ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่
เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่ไกลสามสุดามา
นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา
จากพรากจับจากจำนรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี
แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างห้องมาหยารัศมี
นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทั้งสามสั่งความมา
แสดงให้เห็นถึงอิเหนาที่มีมเหสีหลายองค์ โดยในบทประพันธ์
ข้างต้น ปรากฏมเหสี 3 องค์ ได้แก่ จินตะหรา สการะวาตี และมาหยารัศมี
ในขณะที่เพศหญิงสามารถมีสามีได้คนเดียว และเมื่ออยู่ในฐานะภรรยา
ต้องเชื่อฟั งสามี โดยสังคมจะยกย่องสตรีที่รักนวลสงวนตัว และไม่หึงหวง
สามีจนเกินงาม
บทที่ ๔
ผลการศึกษา
๓. ด้านทรัพยากร
ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่
เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่ไกลสามสุดามา
นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา
จากพรากจับจากจำนรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี
แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างห้องมาหยารัศมี
นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทั้งสามสั่งความมา
ตระเวนไพรร่อนร้องตระเวนไพร เหมือนเวรใดให้นิราศเสน่หา
เค้าโมงจับโมงอยู่เอกา เหมือนพี่นับโมงมาเมื่อไกลนาง
คับแคจับแคสันโดษเดี่ยว เหมือนเปล่าเปลี่ยวคับใจในไพรกว้าง
ชมวิหคนกไม้ไปตามทาง คะนึงนางพลางรีบโยธี
จากบทประพันธ์ข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เห็นได้จาก
การกล่าวถึงพืชพรรณ เช่น ไม้เบญจวรรณ และนกหลายชนิด เช่น นกนางนวล นกแขกเต้า
เป็นต้น
๔. ด้านวัฒนธรรมการกิน
บทละครอิเหนาตอนนี้แสดงวัฒนธรรมการกินหมากของคนไทยโบราณซึ่งเริ่มกินหมากตั้งแต่
อายุยังน้อยไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็กินหมาก
มาเห็นศพทอดทิ้งกลิ้งอยู่ พระพินิจพิศดูแล้วใจหาย
หนุ่มน้อยโสภาน่าเสียดาย ควรจะนับว่าชายโฉมยง
ทนต์แดงดังแสงทับทิม เพริศพริ้มเพรารับกับขนง
เกศาปลายงอนงามทรง องค์สารพัดไม่ขัดตา
จากบทประพันธ์ข้างต้น สามารถอนุมานได้ว่า วิหยาสะกำที่มีฟั นสีแดงดังสีทับทิม เกิดจากการ
รับประทานหมาก
บทที่ ๕
สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาพบว่าตัวละครถุกสร้างให้ทีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทั้ง
ภาพลักษณ์ อารมณ์ และสถานภาพสังคม นอกจากนี้ยังสะท้อนโครงสร้าง
สังคม เช่น การปกครองในระบอบกษัตริย์ การออกเรือนของฝ่ายชายและ
ฝ่ายหญิง ทั้งยังสะท้อนทรัพยากรที่มีความอุดมสมบูรณ์
ข้อเสนอแนะ
วรรณกรรมเรื่องอิเหนา มีตอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อมิติลักษณะตัวละคร
เพื่อให้การศึกษาชัดเจนและทราบถึงบทบาทตัวละครในมุมมองที่กว้างขึ้น
ควรศึกษาในตอนอื่น ๆ ประกอบการวิเคราะห์
อ้างอิง
กระทรงศึกษาธิการ. (2562). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔.
(พิมพ์ครั้งที่ 13). กรุงเทพมหานคร: สกสค.ลาดพร้าว
ตรีศิลป์ บุญขจร. (2535). เอกสารการสอนชุดวิชา พัฒนาการวรรณคดีไทย. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี:
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ธานีรัตน์ จัตุทะศรี. (2552). พระราชนิพนธ์อิเหนาในรัชกาลที่ 2: การสร้างนิทานปั นหยีให้เป็นยอดแห่ง
วรรณคดีบทละคร. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต). คณะอักษรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
บริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ. (2552). อิเหนา ฉบับแปลจาก
หิกะยัต ปั นหยี สะมิหรัง. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: