The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การศึกษาโครงงานเรื่อง การศึกษาลักษณะตัวละคร และคุณค่าวรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง โดยโครงงานเรื่องนี้มุ่งศึกษาลักษณะตัวละคร และคุณค่าในวรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง ผลการศึกษาพบว่า ปรากฏลักษณะตัวละครสำคัญทั้งหมด 9 ตัวละคร ได้แก่ 1) อิเหนา 2) จรกา 3) ท้าวกุเรปัน 4) ท้าวหมันหยา 5) ท้าวดาหา 6) ท้าวกะหมังกุหนิง 7) จินตะหรา 8) วิหยาสะกำ และ 9) สังคามาระตา ในส่วนของคุณค่าวรรณกรรมปรากฏทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านระบบการเมืองการปกครอง 2) ด้านค่านิยมสังคมปิตาธิปไตย 3) ด้านทรัพยากร และ 4) ด้านวัฒนธรรมการกิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jakkitbosmpk, 2021-09-16 13:53:01

โครงงาน เรื่อง การศึกษาลักษณะตัวละครและคุณค่า ของวรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง

การศึกษาโครงงานเรื่อง การศึกษาลักษณะตัวละคร และคุณค่าวรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง โดยโครงงานเรื่องนี้มุ่งศึกษาลักษณะตัวละคร และคุณค่าในวรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง ผลการศึกษาพบว่า ปรากฏลักษณะตัวละครสำคัญทั้งหมด 9 ตัวละคร ได้แก่ 1) อิเหนา 2) จรกา 3) ท้าวกุเรปัน 4) ท้าวหมันหยา 5) ท้าวดาหา 6) ท้าวกะหมังกุหนิง 7) จินตะหรา 8) วิหยาสะกำ และ 9) สังคามาระตา ในส่วนของคุณค่าวรรณกรรมปรากฏทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านระบบการเมืองการปกครอง 2) ด้านค่านิยมสังคมปิตาธิปไตย 3) ด้านทรัพยากร และ 4) ด้านวัฒนธรรมการกิน

Keywords: อิเหนา

เรื่อง การศึกษาลักษณะตัวละครและคุณค่า
ของวรรณกรรมเรื่องอิเหนา

ตอน ศึกกะหมังกุหนิง

จัดทำโดย

นายจักรกฤษณ์ กองเกิด รหัส 623050013-9

นางสาวกนกวรรณ โคตระวิระ รหัส 623050101-2

นางสาวสุนิดา เมาะราษี รหัส 623050128-2

อาจารย์ที่ปรึกษา
ผศ.ดร.ดนิตา ดวงวิไล

บทคัดย่อ

การศึกษาโครงงานเรื่อง การศึกษาลักษณะตัวละคร และคุณค่า
วรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง โดยโครงงานเรื่องนี้มุ่งศึกษา
ลักษณะตัวละคร และคุณค่าในวรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุ
หนิง ผลการศึกษาพบว่า ปรากฏลักษณะตัวละครสำคัญทั้งหมด 9 ตัวละคร
ได้แก่ 1) อิเหนา 2) จรกา 3) ท้าวกุเรปั น 4) ท้าวหมันหยา 5) ท้าวดาหา 6)
ท้าวกะหมังกุหนิง 7) จินตะหรา 8) วิหยาสะกำ และ 9) สังคามาระตา ใน
ส่วนของคุณค่าวรรณกรรมปรากฏทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านระบบ
การเมืองการปกครอง 2) ด้านค่านิยมสังคมปิตาธิปไตย 3) ด้านทรัพยากร
และ 4) ด้านวัฒนธรรมการกิน

บทที่ ๑

การศึกษาในยุคศตวรรษที่21 เป็นยุคที่ความรู้และข้อมูลข่าวสารมีการเปลี่ยนแปลง

ตลอดเวลา และมีการนำเทคโนโลยีใช้ประกอบการเรียนรู้เพื่อให้เข้าถึงองค์ความรู้ต่าง ๆ ได้

สะดวกยิ่งขึ้นผู้เรียนจึงต้องมีทักษะการเรียนรู้ ประกอบด้วย ทักษะด้านการเรียนรู้และ

นวัตกรรม ทักษะสารสนเทศ สื่อและเทคโนโลยี และทักษะชีวิตและการทำงาน เพื่อให้

สามารถเรียนรู้และดำเนินชีวิต ในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม

วรรณกรรมเรื่องอิเหนาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยมีวัฒนธรรมและอิทธิพลทางภาษาบางอย่างที่ปรากฏร่วม ทำให้วรรณกรรมเรื่องอิเหนา

สะท้อนถึงสภาพสังคมได้เป็นอย่างดีในสมัยครั้นประพันธ์ขึ้น โดยได้รับความนิยมอย่าง

สูงสุดในประเทศไทยและประเทศอินโดนีเซียหรือชวา นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมใน

ประเทศมาเลเซียด้วยเช่นกัน (ธานีรัตน์ จตุศรี, ๒๕๕๒)

ด้วยความไพเราะแห่งวาทศิลป์ทางภาษาที่มีกลวิธีทางด้านคำประพันธ์อันงดงามในพระ

ราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ นี้ ได้ถูกบรรจุลงใน

หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ตามหลักสูตร

แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑

จากการศึกษาพบว่าวรรณกรรมเรื่องอิเหนา มีคุณค่าแฝงด้วยนัยคำประพันธ์และสะท้อน

ถึงสังคมวัฒนธรรมจากเนื้อเรื่องในเบื้องต้น คณะผู้จัดทำจึงเลือกศึกษาคุณค่าของ

วรรณกรรมเรื่องอิเหนา ตอนศึก กะหมังกุหนิง เพื่อสะท้อนภาพ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม

ผ่านกระบวนการวิเคราะห์ภาษาวรรณกรรมอันงดงามและควรค่าแก่ธำรงไว้สืบไป

๑. ลักษณะตัวละคร หมายถึง อุปนิสัย การแสดงออก
ภาพลักษณ์ อัตลักษณ์ ปั จเจกของตัวละคร
๒. คุณค่า หมายถึง การสะท้อนเชิงโครงสร้างสังคม วัฒนธรรม
การดำรงชีวิต และการสื่อความหาย

๑. ทราบถึงลักษณะตัวละครของวรรณคดีเรื่องอิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
๒. เข้าใจถึงคุณค่าบริบทสภาพสังคมและวัฒนธรรมในวรรณคดีเรื่องอิเหนา
ตอนศึกกะหมังกุหนิง

บทที่ ๒

เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

๑. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมอิเหนา
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง

๒. เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์วรรณกรรม
๒.๑ แนวคิดภาพสะท้อนหรือคุณค่าวรรณกรรม
๒.๒ แนวคิดการวิเคราะห์ลักษณะตัวละคร

ตรีศิลป์ บุญขจร (๒๕๓๕) กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางสังคมกับวรรณกรรมมัก
สะท้อนคุณค่าทางสังคม เป็นประสบการณ์ของผู้เขียน จึงมักสอดแทรกสังคมอยู่
เสมอ ทำให้เห็นถึง ศาสนา วัฒนธรรม ความเชื่อ ประเพณี ปรัชญาและการเมือง
รวมถึงมโนทัศน์เชิงโครงสร้าง และการแสดงถึงลักษณะตัวลคร

บทที่ ๓

วิธีการดำเนินการ

ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ดำเนินการได้กำหนดระเบียบวิธีในการ
ศึกษาไว้ ดังนี้
๑. ขั้นรวบรวมข้อมูล

๑.๑ คณะผู้จัดทำได้ศึกษาวรรณกรรมจากหนังสือเรียน
วรรณคดีวิจักษ์ ม.๔ เรื่อง อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง

๑.๒ ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ตัวละคร
และการสะท้อนคุณค่าของวรรณกรรม

๑.๓ รวบรวมเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

๒. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมมาวิเคราะห์โดยใช้แนวคิด

ที่ได้ศึกษาในเบื้องต้น

๓.ขั้นนำเสนอผลการศึกษา
นำเสนอผลการศึกษาเป็นสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่าน

zoom

๔. ปรับปรุงแก้ไข

บทที่ ๔

ผลการศึกษา

อิเหนา

ลักษณะตัวละคร : เก่งกล้า พูดจาอ่อนหวาน แต่เป็นคนดื้อดึง
เอาใจตนเองเป็นใหญ่ รูปร่างหน้าตางดงาม
บทประพันธ์แสดงความเก่งกล้า ตัวอย่างเช่น

เมื่อนั้น ระเด่นมนตรีใจกล้า
เห็นระตูต่อตีมีศักดา คงทั้งศัสตราอาวุธ
ทวงหนีทีไล่ไวว่อง เพลงกระบี่ที่คล่องเป็นที่สุด
ยากที่ใครจะรอต่อยุทธ์ เป็นบุรุษหนึ่งในแดนไตร

เมื่อนั้นระเด่นมนตรีใจกล้าเห็นระตูต่อตีมีศักดาคงทั้งศัสตรา
อาวุธทวงหนีทีไล่ไวว่องเพลงกระบี่ที่คล่องเป็นที่สุดยากที่ใครจะ
รอต่อยุทธ์เป็นบุรุษผู้หนึ่งในแดนไตรเป็นบุรุษผู้หนึ่งในแดนไตร
บทประพันธ์แสดงถึงความพูดจาอ่อนหวาน ตัวอย่างเช่น

เมื่อนั้น พระสุริย์วงศ์เทวัญอสัญหยา
ปลอบนางพลางเช็ดชลนา ดวงยิหวาอย่าทรงโศกี
จงสร่างสิ้นกินแหนงแคลงใจ ที่ในบุษบามารศรี
พี่สลัดตัดใจไม่ไยดี มิได้มีปรารถนาอาลัย

บทที่ ๔

ผลการศึกษา

จรกา

ลักษณะตัวละคร : มักใหญ่ใฝ่สูง ที่อยากมีภรรยารูปโฉมงดงาม
แม้ตนเองมีรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์

ท้าวกุเรปั น

ลักษณะตัวละคร : มีอารมณ์ฉุนเฉียว ถือยศศักดิ์

บทประพันธ์แสดงถึงความถือยศผสักดิ์ ตัวอย่างเช่น
อะหนะอิเหนานี้ผิดนัก ไปพะวงหลงรักจินตะหรา

ที่ร่วมวงศ์เทเวศร์ไม่เจตนา ส่วนที่ต่ำช้าสิชอบใจ

ท้าวหมันหยา

ลักษณะตัวละคร : อ่อนแอ จิตใจโลเล ไม่มั่นคง

บทที่ ๔

ผลการศึกษา

ท้าวดาหา

ลักษณะตัวละคร : มีความรักศักดิ์ศรี และวงศ์ตระกูล มีอารมณ์ประชด

ประชัน ยึดมั่นในสัตยวาจา บทประพันธ์แสดงถึงอารมณ์ประชดประชัน

ตัวอย่างเช่น

แต่กาลศึกครั้งนี้ไม่ควรเป็น เกิดเข็ญเพราะลูกอัปลักษณ์

จะมีคู่ผู้ชายก็ไม่รัก จึงหักให้สาสมใจ

บทประพันธ์แสดงถึงความยึดมั่นในสัตยวาจา ตัวอย่างเช่น

อันศึกครั้งนี้ซึ่งมีมา เพราะเขาขอบุษบาเราไม่ให้

จึงเป็นเสี้ยนศัตรูหมู่ภัย น้อยใจด้วยอิเหนานัดดา

กะหมังกุหนิง

ลักษณะตัวละคร : มีความเป็นพ่อสูง ให้ท้ายลูก

บทประพันธ์แสดงถึงความเป็นพ่อ และการให้ท้ายลูก ตัวอย่างเช่น

โอ้ว่าพระองค์ผู้ทรงยศ พระเกียรติปรากฏในแหล่งหล้า

สงครามทุกครั้งแต่หลังมา ไม่เคยอัปราแก่ไพรี

ครั้งนี้ควรหรือมาพินาศ เบาจิตคิดประมาทไม่พอที่

เพราะรักบุตรสุดสวาทแสนทวี จะทัดทานภูมีไม่เชื่อฟั ง

บทที่ ๔

ผลการศึกษา

จินตะหรา


ลักษณะตัวละคร : มีอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจง่าย เอาแต่ใจตนเอง

บทประพันธ์แสดงถึงอารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจ เอาแต่ใจตนเอง ตัวอย่างเช่น

สตรีใดในภิภพจบแดน ไม่มีใครได้แค้นเหมือนอกข้า

ด้วยใฝ่รักให้เกินพักตรา จะมีแต่เวทนาเป็นเนืองนิตย์

และอีกบทหนึ่ง

ด้วยระเด่นบุษบาโฉมตรู ควรคู่ภิรมย์สมสอง

ไม่ต่ำศักดิ์รูปชั่วเหมือนตัวน้อง ทั้งพวกพ้องสุริย์วงศ์พงศ์พันธุ์

วิหยาสะกำ


ลักษณะตัวละคร : มีจิตใจห้าวหาญ วาจาคมคาย เอาแต่ใจตนเอง

บทประพันธ์แสดงถึงความมีจิตใจห้าวหาญ ตัวอย่างเช่น

เมื่อนั้น วิหยาสะกำใจกล้า

ได้ฟั งคั่งแค้นแทนบิดา จึงร้องตอบวาจาว่าไป

ดูก่อนอริราชไพรี อย่าพาทีลบหลู่ท่านผู้ใหญ่

โอหังบังอาจประมาทใคร จันบนอบยอบไหว้อย่าพึงนึก

มิเราก็เจ้าจะตายลง อย่าหมายคิดจิตทะนงในการศึก

ยังมิทันพันตูมาขู่คึก จะรับแพ้แลลึกไม่มีลาย

บทที่ ๔

ผลการศึกษา

สังคามาระตา


ลักษณะนิสัย : มีความกล้า และมีความมั่นใจในตนเองสูง

บทประพันธ์แสดงถึงความกล้า และมัคสามมันใจในตนเองสูง

ตัวอย่างเช่น

จึงทูลองค์ระเด่นมนตรี น้องนี้จะขออาสา

สู้วิหยาสะกำผู้ศักดา พระองค์จงยืนม้าเป็นประธาน

บทที่ ๔

ผลการศึกษา

๑. ระบบการเมืองการปกครอง

รูปแบบการปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์มีลักษณะเป็นระบอบ

สมบูรณาญาสิทธิราชย์ หรือเทวราชาที่มีการเปรียบพระมหากษัตริย์เป็น

สมมติเทพ

๒. ค่านิยมสังคมปิตาธิปไตย

ในเรื่องอิเหนา ตอนศึกกระหมังกุหนิงปรากฏการที่เพศชาย

สามารถมีภรรยาได้หลายคน ดังบทประพันธ์ต่อไปนี้

ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่

เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่ไกลสามสุดามา

นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา

จากพรากจับจากจำนรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี

แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างห้องมาหยารัศมี

นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทั้งสามสั่งความมา

แสดงให้เห็นถึงอิเหนาที่มีมเหสีหลายองค์ โดยในบทประพันธ์

ข้างต้น ปรากฏมเหสี 3 องค์ ได้แก่ จินตะหรา สการะวาตี และมาหยารัศมี

ในขณะที่เพศหญิงสามารถมีสามีได้คนเดียว และเมื่ออยู่ในฐานะภรรยา

ต้องเชื่อฟั งสามี โดยสังคมจะยกย่องสตรีที่รักนวลสงวนตัว และไม่หึงหวง

สามีจนเกินงาม

บทที่ ๔

ผลการศึกษา

๓. ด้านทรัพยากร

ว่าพลางทางชมคณานก โผนผกจับไม้อึงมี่

เบญจวรรณจับวัลย์ชาลี เหมือนวันพี่ไกลสามสุดามา

นางนวลจับนางนวลนอน เหมือนพี่แนบนวลสมรจินตะหรา

จากพรากจับจากจำนรรจา เหมือนจากนางสการะวาตี

แขกเต้าจับเต่าร้างร้อง เหมือนร้างห้องมาหยารัศมี

นกแก้วจับแก้วพาที เหมือนแก้วพี่ทั้งสามสั่งความมา

ตระเวนไพรร่อนร้องตระเวนไพร เหมือนเวรใดให้นิราศเสน่หา

เค้าโมงจับโมงอยู่เอกา เหมือนพี่นับโมงมาเมื่อไกลนาง

คับแคจับแคสันโดษเดี่ยว เหมือนเปล่าเปลี่ยวคับใจในไพรกว้าง

ชมวิหคนกไม้ไปตามทาง คะนึงนางพลางรีบโยธี

จากบทประพันธ์ข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เห็นได้จาก
การกล่าวถึงพืชพรรณ เช่น ไม้เบญจวรรณ และนกหลายชนิด เช่น นกนางนวล นกแขกเต้า
เป็นต้น

๔. ด้านวัฒนธรรมการกิน

บทละครอิเหนาตอนนี้แสดงวัฒนธรรมการกินหมากของคนไทยโบราณซึ่งเริ่มกินหมากตั้งแต่

อายุยังน้อยไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายก็กินหมาก

มาเห็นศพทอดทิ้งกลิ้งอยู่ พระพินิจพิศดูแล้วใจหาย

หนุ่มน้อยโสภาน่าเสียดาย ควรจะนับว่าชายโฉมยง

ทนต์แดงดังแสงทับทิม เพริศพริ้มเพรารับกับขนง

เกศาปลายงอนงามทรง องค์สารพัดไม่ขัดตา

จากบทประพันธ์ข้างต้น สามารถอนุมานได้ว่า วิหยาสะกำที่มีฟั นสีแดงดังสีทับทิม เกิดจากการ
รับประทานหมาก

บทที่ ๕

สรุปผลการศึกษา

จากการศึกษาพบว่าตัวละครถุกสร้างให้ทีรูปแบบที่แตกต่างกันไป ทั้ง
ภาพลักษณ์ อารมณ์ และสถานภาพสังคม นอกจากนี้ยังสะท้อนโครงสร้าง
สังคม เช่น การปกครองในระบอบกษัตริย์ การออกเรือนของฝ่ายชายและ
ฝ่ายหญิง ทั้งยังสะท้อนทรัพยากรที่มีความอุดมสมบูรณ์

ข้อเสนอแนะ

วรรณกรรมเรื่องอิเหนา มีตอนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อมิติลักษณะตัวละคร
เพื่อให้การศึกษาชัดเจนและทราบถึงบทบาทตัวละครในมุมมองที่กว้างขึ้น
ควรศึกษาในตอนอื่น ๆ ประกอบการวิเคราะห์

อ้างอิง

กระทรงศึกษาธิการ. (2562). หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔.
(พิมพ์ครั้งที่ 13). กรุงเทพมหานคร: สกสค.ลาดพร้าว

ตรีศิลป์ บุญขจร. (2535). เอกสารการสอนชุดวิชา พัฒนาการวรรณคดีไทย. พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี:
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ธานีรัตน์ จัตุทะศรี. (2552). พระราชนิพนธ์อิเหนาในรัชกาลที่ 2: การสร้างนิทานปั นหยีให้เป็นยอดแห่ง
วรรณคดีบทละคร. (วิทยานิพนธ์อักษรศาสตรดุษฎีบัณฑิต). คณะอักษรศาสตร์, จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.

บริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ. (2552). อิเหนา ฉบับแปลจาก
หิกะยัต ปั นหยี สะมิหรัง. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ:


Click to View FlipBook Version