สมเด็จพระนารายณ์มหาราชพระราชกรณียกิจ
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ของพระมหากษัตริย์ไทย
สมัยก่อนรัตนโกสินทร์ และสมัยรัตนโกสินทร์
นายสิริภัท อุ่มสาตร์ ม.4/3 เลขที่ 4
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
พ.ศ. 2199-2231
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้า
ปราสาททอง เสด็จขึ้นครองราชย์ด้วยการปราบดาภิเษกโดยกำจัด
สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา พระอนุชาในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
พระองค์เป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถมาก ทำให้กรุงศรีอยุธยา
มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านการค้า การต่างประเทศ การศึกษา
วรรณกรรม และศิลปกรรม วรรณคดีสำคัญหลายเรื่องเกิดใน
รัชสมัยของพระองค์ จนได้ชื่อว่า ยุคทองของวรรณคดีในสมัยอยุธยา
พระราชกรณียกิจ
ด้านการบริหารบ้านเมือง
ในรัชกาลนี้พยายามวางมาตรการป้องกันการถูกแย่งชิงบัลลังก์
เจ้านายขุนนางถูกกำจัด ควบคุม มีการลดส่วยอากรแก่ประชาชน
มีการใช้กฎหมายเพิ่มเติมลักษณะรับฟ้อง มีการนำวิทยาการและ
เทคโนโลยีที่ทันสมัยจากต่างชาติเข้ามา มีการสร้างป้อมปืน ระบบ
น้ำประปา และการแพทย์แบบตะวันตก
ด้านการทำศึกสงคราม
มีการทำศึกสงครามได้แก่
ตีเชียงใหม่ เชียงใหม่เป็นเมืองขึ้นของพม่าส่งราชทูตมาขอสวามิภักดิ์
กับอยุธยา ต่อมาพระเจ้าเชียงใหม่อ่อนน้อมต่อพม่า สมเด็จพระนารายณ์
มหาราช จึงไปตีเมืองเชียงใหม่ ไปตีอยู่สองครั้งจึงจะสำเร็จ อัญเชิญ
พระพุ ทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ที่วัดพระศรีสรรเพชญ์
รบพม่าที่ไทรโยค เนื่องจากมอญหนีการปราบปรามของพม่ามาพึ่ง
ไทย สมเด็จพระนารายณ์มหาราชจึงให้จัดกองทัพไปป้องกันพม่า
ที่ด่านแม่ละเมาและด่านเจดีย์สามองค์ ทัพไทย 2 ทัพได้ร่วมกันตี
ทัพพม่าจนถอยร่นไป
ศึกไทยตีอังวะ ทัพไทยรวมพลที่เมาะตะมะ ตีได้หัวเมืองรายทางจน
เข้าล้อมกรุงอังวะอยู่หลายเดือน แต่เสบียงอาหารขาดแคลนจึงต้อง
ถอยกลับ
ด้านวรรณกรรม
ได้รับความนิยมและเฟื่ องฟูเป็นอย่างมาก เพราะสมเด็จพระนารายณ์
มหาราชทรงเป็นกวีด้วย พระราชนิพนธ์สำคัญคือ สมุทรโฆษคำฉันท์
(ตอนต้น) พระราชนิพนธ์โคลงสุภาษิต 3 เรื่อง คือ โคลงพาลีสอนน้อง
โคลงทศรถสอนพระราม โคลงราชสวัสดิ์ และในรัชกาลยังมีกวีอีกหลาย
ท่านที่มีบทบาทในประวัติวรรณคดีไทย
ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
เป็นการเปิดโลกของสยามออกสู่ตะวันตกมากขึ้น ทรงติดต่อกับ
ประเทศในภูมิภาคตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น ญวน และประเทศในดิน
แถบตะวันตกนับแต่อินเดีย เปอร์เซียจนถึงประเทศในทวีปยุโรป
มีชาวต่างชาติหลายเชื้อชาติเข้ามาอยู่ในเมืองไทยและเข้ารับราชการ
ในราชสำนัก นอกจากนี้ยังมีสัมพันธไมตรีอันดีกับฝรั่งเศสเพื่อถ่วงดุล
การเมืองกับฮอลันดาที่คุกคามสยามมากขึ้น มีการส่งราชทูตแลก
เปลี่ยนกับฝรั่งเศสหลายครั้ง อนุญาตให้บาทหลวงคาทอลิกเผยแผ่
ศาสนาในหมูคนไทยได้ ข้าราชการชาวกรีกชื่อ คอนสแตนติน ฟอลคอน
หรือ เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ มีบทบาททางการเมืองอย่างมาก
ราชทูตฝรั่งเศส เชวาลิเยร์ ผู้แทนพระองค์ของพระเจ้าหลุยส์ ที่ 14 ความสัมพัธ์กับต่าง
เข้าเฝ้าและถวายพระราชสาส์นแด่สมเด็จพระนารายร์มหาราช ณ ประเทศ ในสมัยพระนารายณ์มหาราช
พระที่นั่งสรรเพชญ์มหาปราสาท กรุงศรีอยุธยา
ราชทูตสยามนำโดยโกษาปานเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่ ห้องกระจก
พระราชวังแวร์ซาย ณ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2229 (ค.ศ. 1686)
พระบาทสมเด็จ รัชกาลที่ 7
พ.ศ. 2468-2477 พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระราชโอรสของ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระอนุชาของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงพระเยาว์ได้
เสด็จไปศึกษาที่ประเทศฝรั่งเศสและอังกฤษ ต่อมาในพ.ศ. 2456
ทรงสำเร็จการศึกษาวิชาทหารปืนใหญ่ม้าจากโรงเรียนนายร้อย
เมืองวูลิช ประเทศอังกฤษ แล้วเสด็จไปประจำกรมทหารปืนใหญ่ม้า
อังกฤษ ณ เมืองออลเดอชอต เพื่อทรงศึกษาหน้าที่นายทหาร แต่
เนื่องจากภาวะสงครามโลกครั้งที่ 1 พ.ศ. 2457 พระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯให้เสด็จนิวัตประเทศไทย
พระราชกรณียกิจ
1 สนับสนุนให้สร้างโรงภาพยนตร์ที่ทันสมัยสำหรับฉาย
ภาพยนตร์เสียงแห่งแรกของประเทศไทยในโอกาสเฉลิม
ฉลองพระนครครบรอบ ๑๕๐ ปี และได้พระราชทานนาม
ว่า “ศาลาเฉลิมกรุง”
2 วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ พระบาทสมเด็จพระ
ปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จออก ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
ประทับเหนือพระที่นั่งพุ ดตานกาญจนสิงหาสน์บนพระราช
บัลลังก์ภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวรฉบับ
แรกแห่งราชอาณาจักรสยามแก่ปวงชนชาวไทย
3 เสด็จไปเจริญพระราชไมตรีกับต่างประเทศ และทรงขยาย
เส้นทางไปสู่ต่างประเทศ เช่น อินโดจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา
และแคนาดา และยังไปดูความเจริญของต่างประเทศเพื่อนำ
มาประยุกต์ในการพัฒนาประเทศสยามสืบต่อไป
นายสิริภัท อุ่มสาตร์ ม.4/3 เลขที่ 4