The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือครูการสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก"

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kakhaonaruemon, 2021-10-28 22:26:17

คู่มือครูการสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ

คู่มือครูการสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก"

คู่มือครู
การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ


หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก"


คณะผู้จัดทำ
นางสาวภาวิดา คงนาม 6312610002
นางสาวปริญฑิกา ดารุนิกร 6312610004
นายฐภัทรสกรรจ์ ปุญญธรพัฒนะกุล 6312610005
นางสาวนฤมล กาขาว 6312610007
นางสาวสุวิภา เข็มมณฑา 6312610011
นางสาวนฤมล ศรีบัวโรย 6312610023


อาจารย์ที่ประจำวิชา
รองศาสตราจารย์ ดร.สุวรรณี ยหะกร


คู่มือครูเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา TTH 6226
การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ
ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนภาษาไทย
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คำนำ

คู่มือครู หน่วยการเรียนรู้ “สัตว์โลกน่ารัก” จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประกอบการจัดการ
เรียนการสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ ออกแบบโดยใช้ วิธีสอนแบบฟัง-พูด
ซึ่งสามารถนำไปใช้กับผู้เรียนต่างชาติที่มีความสนใจในด้านภาษาไทย เพื่อให้รู้จักกับสัตว์
ต่าง ๆ และสามารถนำไปใช้ในการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง โดยรายละเอียดของคู่มือครู
ประกอบด้วย ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับผู้เรียน แผนการจัดการเรียนรู้ เอกสารประกอบ
การสอน ได้แก่ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบ เฉลยแบบฝึกทักษะ เฉลยแบบทดสอบ
และนิทานอ่านประกอบ

คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือครู หน่วยการเรียนรู้ “สัตว์โลกน่ารัก”
เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับครูผู้สอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ และเป็น
แนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาความรู้ และพัฒนา
ทักษะการฟัง การพูด และการอ่าน ที่เรียนภาษาไทยเป็นภาษาที่สองได้เป็นอย่างดี

ขอขอบพระคุณ รองศาสตราจารย์ ดร.สุวรรณี ยหะกร อาจารย์ประจำวิชา
TTH 6226 การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศเป็นอย่างสูง ที่ได้ให้คำปรึกษา
คำแนะนำ ในการปรับปรุง พัฒนาคู่มือครูเล่มนี้ อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้
ความรู้ ความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างเต็มที่ และขอขอบคุณคณะผู้จัดทำ
ที่ได้ร่วมมือกันศึกษาหาข้อมูลและนำมาเรียบเรียง จนทำให้คู่มือครูเล่มนี้บรรลุผลสำเร็จ
ด้วยดี

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า

เรื่อง ก

คำนำ 1
สารบัญ 2
คำชี้แจงการใช้คู่มือครู 4
วิธีสอนแบบฟัง-พูด (Audio-lingual method) 7
ลักษณะสำคัญของภาษาไทย 9
สัทอักษรสำหรับภาษาไทย 20
แผนการจัดการเรียนรู้ 21
บรรณานุกรม 22
ภาคผนวก 25
28
-แบบฝึกหัด 50
-แบบทดสอบ 74
-เกมและสื่อประกอบ 76
-นิทานอ่านประกอบ
-กระบวนการการทำงานกลุ่ม
-ประวัติคณะผู้จัดทำ

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 1

คำชี้แจงการใช้คู่มือครู
หน่วยการเรียนรู

้ "สัตว์โลกน่ารู้"

1. วิธีสอนภาษาต่างประเทศที่ใช้ในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้
คือ วิธีสอนแบบฟัง-พูด (Audio-lingual method)

2. เหมาะสำหรับผู้เรียนภาษาไทยระดับพื้นฐาน ( Basic-beginner)
ที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ และมีความรู้เบื้องต้น
เรื่อง พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ในภาษาไทย

3. กิจกรรมการเรียนรู้ในคู่มือครูเล่มนี้ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 9-12 ปี
4. องค์ประกอบของคู่มือครูเล่มนี้ ได้แก่

4.1 ข้อมูลเบื้องต้นสำหรับครู ได้แก่ วิธีสอนแบบฟัง-พูด ลักษณะของภาษาไทย
และคำอธิบายสัทอักษรสำหรับภาษาไทย

4.2 แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก"
จำนวน 3 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวม 6 ชั่วโมง ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เอ๊ะ! นี่มันเสียงอะไร
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เธอกินอะไร ฉันอยากรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เธออยู่ไหน ฉันจะไปหา

5. ครูผู้สอนสามารถปรับเปลี่ยนแผนการจัดการเรียนรู้ เช่น เพิ่มกิจกรรม
ลดเวลาเรียน เลือกใช้เทคนิค วิธีสอนให้เหมาะสมกับผู้เรียนและบริบท
ของแต่ละโรงเรียนได้

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 2

การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ

วิธีสอนแบบฟัง-พูด (Audio-lingual method)
วิธีสอนแบบฟัง-พูด มุ่งเน้นให้เด็กได้ยินเสียง เห็นพฤติกรรมทางภาษาสั้น ๆ

จนเด็กจดจำและเลียนแบบพฤติกรรมได้ เมื่อเด็กเริ่มแสดงพฤติกรรมทางภาษาแล้ว
ได้รับการตอบสนองทางบวก ทำให้เด็กเกิดความพึงพอใจและอยากแสดงพฤติกรรม
นั้นซ้ำ ๆ อีก จนพัฒนาเป็นความสามารถทางภาษา (Richard & Rogers,2014)

ดังนั้นมีวิธีสอนแบบฟัง-พูด จึงเป็นวิธีหนึ่งที่เหมาะกับเด็ก อายุ 9-12 ปี
เนื่องจากเด็กเรียนรู้จากการเลียนแบบ ชอบพูดตามหรือแสดงท่าเลียนแบบ ทำให้
เด็กจดจำได้รวดเร็วในช่วงเวลาสั้น ๆ (River, 1981)

วิธีการสอนแบบฟัง-พูด เป็นวิธีที่เน้นทักษะพูดและฟัง ลักษณะสำคัญของ
วิธีสอนนี้คือ

1. ทักษะพูดและทักษะฟัง เป็นทักษะที่ต้องพัฒนาก่อนทักษะอ่านและเขียน
2. ไม่สนับสนุนการใช้ภาษาที่หนึ่งในชั้นเรียน
3. ทักษะทางภาษาเป็นรูปแบบที่ตายตัวดังนั้นควรฝึก pattern ของภาษา
ที่เป็นรูปบทสนทนา (dialogue) เกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ภาษาได้
โดยอัตโนมัติ เพราะวิธีสอนแบบนี้ถูกพัฒนาขึ้นในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
จากความจำเป็นที่ทหารจะต้องเรียนรู้ภาษาต่างประเทศให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อนำไป
ใช้ในช่วงที่ทำการรบในต่างประเทศ วิธีสอนแบบไวยากรณ์และแปลที่ใช้แต่เดิมนั้น
ไม่สามารถช่วยให้พูดภาษาต่างประเทศได้ ในช่วงเวลานั้น นักจิตวิทยากลุ่มพฤติกรรม
นิยมกำลังได้รับความสนใจ แนวคิดนี้นำไปสู่การสอนแบบฟัง-พูด ซึ่งมีชื่อเรียกต่าง ๆ
กันในช่วง ค.ศ. 1980-1960 เรียกว่าวิธีสอนแบบนี้ว่า วิธีสอนแบบภาษาศาสตร์
(linguistic method) หรือวิธีสอนแบบฟัง-พูด (aural-oral method) ต่อมา
ปี ค.ศ. 1964 Nelsen Brooks แห่งมหาวิทยาลัยเยล ได้เรียกวิธีสอนแบบนี้ว่า
(audio-lingual method) และเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
(สุมิตรา อังวัฒนกุล. 2539 : 54-55)

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 3

ลักษณะพื้นฐานของของการสอนแบบฟัง-พูด มีดังนี้
(Baker. Colin and Sylvia. 1998 : 673)

1. คำศัพท์ และรูปประโยคจะถูกสอนเป็นลำดับก่อนหลัง เน้นความถูกต้อง
ของกฎเกณฑ์ภาษาและการออกเสียงทักษะเหล่านี้ทำได้โดยการฝึกซ้ำ ๆ โดยครูผู้สอน
เป็นผู้ควบคุมการฝึกทั้งหมดลักษณะการฝึกซ้ำ ๆ (drill)

2. เน้นการทำแบบฝึกหัด (drill) และบทสนทนา (dialogue) ในแต่ละ dialogue
จะประกอบไปด้วยหลักการใช้แกรมมาและการใช้ภาษาเพื่อสื่อสารวิธีเรียนคือท่องบท
สนทนาจนขึ้นใจ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการใช้กฎเกณฑ์ของภาษา

3. วิธีการสอนแบบนี้ครูจะเป็นศูนย์กลางควบคุมกระบวนการเรียนการสอน
แนะนำ และตรวจแก้การใช้ภาษาของนักเรียน ครูจะใช้สื่อในด้านการฟังช่วย เช่น เทป
บันทึกเสียง และห้องปฏิบัติการทางภาษา โดยเฉพาะห้องปฏิบัติการทางภาษาจะช่วยให้
ผู้เรียน มีโอกาส ในการฝึกภาษาด้วยตนเองได้

วิธีสอนสอนแบบฟัง-พูด ได้รับอิทธิพลจากทฤษฎีพฤติกรรมนิยมของ Skinner
ที่เชื่อว่าการเรียนรู้ทั้งหมดเป็นกระบวนการตอบสนองต่อสิ่งเร้า และถูกเสริมแรงจนกระทั่ง
กลายเป็นนิสัย การเรียนรู้ภาษาก็มิได้แตกต่างจากการเรียนรู้ด้านอื่น ๆ คือถ้าจะให้เกิดเป็น
นิสัย หรือเกิดการเรียนรู้ต้องฝึกบ่อย ๆ โดยการปฏิบัติซ้ำ

วิธีสอนแบบฟัง-พูด มีข้อดีที่สำคัญ คือ
1. วิธีสอนแบบฟังพูด เป็นการสอนภาษาตามหลักธรรมชาติของการเรียนรู้ภาษา
คือ เริ่มจากการสอนทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนตามลำดับ
2. บทเรียนเป็นบทสนทนาที่ใช้ตามสภาพจริง ทำให้ผู้เรียนได้ฝึกการใช้ภาษา
อย่างแท้จริง
3. ผู้เรียนทั่วไปสามารถเรียนรู้ภาษาได้ เพราะเน้นการฝึกปฏิบัติ
จริงแบบซ้ำ ๆ ผู้เรียนไม่จำเป็นต้องเป็น คนเก่ง แต่ต้องเป็นคนที่มีความขยัน
และอดทนในการฝึกซ้ำ ๆ

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 4

วิธีสอนแบบฟัง-พูด มีข้อจำกัดที่สำคัญ คือ
1. การฝึกซ้ำ ๆ ด้วยการเลียนแบบ บางครั้งผู้เรียนอาจไม่เข้าใจความหมายของ
เรื่องที่กำลังพูด อาจเกิดความเบื่อหน่ายในการฝึกได้
2. เป็นวิธีการสอนที่อาจไม่เหมาะกับผู้เรียนที่ต้องการคำอธิบาย
3. ผู้สอนต้องเป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้น ทั้งการเตรียมบทเรียน สื่อ
และกิจกรรมที่สอน เพื่อทำให้การเรียนประสบผลสำเร็จ

ลักษณะสำคัญของภาษาไทย
ลักษณะของภาษา คือ ภาษาไทยเป็
นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นสมบัติทาง

วัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ จึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่การเรียนรู้
ลักษณะของภาษาไทยมีความโดดเด่นเทียบเท่ากับภาษาสากลได้ ภาษาไทยมีลักษณะที่
นักภาษาศาสตร์ได้ศึกษาไว้ เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อ และฝึกฝนความเข้าใจ พอเป็น
สังเขปที่บอกถึงลักษณะของภาษาไทยได้ 7 ลักษณะ ดังนี้

1. ภาษาคำโดด
2. การเรียงคำแบบ ประธาน กริยา กรรม
3. ภาษาวรรณยุกต์
4. เสียงสระ พยัญชนะ วรรณยุกต์เป็นหน่วยภาษา
5. การวางคำขยายไว้ข้างหลังคำหลัก
6. การลงเสียงหนักเบาของคำ
7. การไม่เปลี่ยนแปลงรูปคำ

1. ภาษาไทยเป็นภาษาคำโดด คือภาษาที่เป็นคำพยางค์เดียว เช่น คำที่เกี่ยวกับญาติ
พี่น้อง ได้แก่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า พี่น้อง ยาย ป้า ตา ต่อมายืมคำจากภาษาต่างประเทศจึงมีคำ
หลายพยางค์ใช้ เช่น ดำริ เสด็จ ในที่สุดก็สร้างคำขึ้นใช้เองจากคำพยางค์เดียว และคำที่
ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ เป็นการเพิ่มคำขึ้นใช้ในภาษาเป็นคำหลายพยางค์ ได้แก่ คำซ้ำ
คำซ้อน คำประสม คำสมาส เช่น ปลา ๆ คณิตศาสตร์ ถูกต้อง เป็นต้น

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 5

2. การเรียงคำแบบ ประธาน กริยา กรรม ภาษาไทยเรียงคำแบบประธาน กริยา
กรรมเมื่อนำคำมาเรียงกันเป็นประโยค ประโยคทั่ว ๆ ไปในภาษาจะมีลักษณะสามัญ จะมี
การเรียงลำดับ ดังนี้ นาม กริยา นาม นามที่อยู่หน้ากริยา เป็นผู้ทำกริยา มักอยู่ต้น
ประโยค ทำหน้าที่เป็นประธาน ส่วนคำนาม ที่บอกผู้รับกริยา มักอยู่หลังคำกริยา
ตัวอย่าง
1. ก. เขาเป็นญาติกับทอง ข. ตุ้มเป็นญาติกับทอง
2. ก. พ่อเอาน้ำใส่กระติก ข. พ่อเอากระติกใส่น้ำ
3. ก. ดินเปื้อนกระเป๋า ข. กระเป๋าเปื้อนดิน
ประโยค ก ในตัวอย่าง มีความหมายไม่ต่างกับประโยค ข ทั้ง ๆ ที่ลำดับคำ
ต่างกัน นอกจากนี้บางประโยค อาจเปลี่ยนลำดับคำได้หลากหลายโดยที่ความหมายยังคง
เป็นเช่นเดิม
3. ภาษาวรรณยุกต์ ภาษาไทยเป็นภาษาวรรณยุกต์ ภาษาวรรณยุกต์เป็นภาษา
ที่มี การไล่เสียงของคำ ในภาษาไทยมีการไล่เสียงวรรณยุกต์ หรือการผันวรรณยุกต์
ได้ 5 เสียง ได้แก่ เสียงสามัญ เสียงเอก เสียงโท เสียงตรี และเสียงจัตวา การที่ภาษา
ไทยผัน ไล่เสียง ได้นี้ ทำให้มีคำใช้มากขึ้น การไล่เสียงสูง ต่ำ ทำให้ความหมายของคำ
เปลี่ยนไปด้วย เช่น มาม้า หมา มีความหมายแตกต่างกัน ถ้าออกเสียง คำว่า ม้า เป็น หมา
ความหมายก็จะเปลี่ยนไปด้วย
4. เสียงสระ พยัญชนะ วรรณยุกต์เป็นหน่วยภาษา ภาษาไทยมีเสียงสระ
พยัญชนะ และวรรณยุกต์เป็นหน่วยภาษา หน่วยเสียงที่ใช้ในภาษาไทยแบ่งได้เป็น
3 ประเภท คือ หน่วยเสียงสระ หน่วยเสียงพยัญชนะ และหน่วยเสียงวรรณยุกต์ เขาจึงให้
เสียงสระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์ เป็นหน่วยภาษา เนื่องจากแต่ละเสียงเป็นเสียงสำคัญ
ทำให้คำมีความหมายต่างกัน ทั้งหน่วยเสียงสระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ เป็นหน่วยเสียงที่มี
ความสำคัญทำให้ความหมายของคำเปลี่ยนไปได้
5. การวางคำขยายไว้ข้างหลังคำหลัก คำขยายในภาษาไทยจะวางไว้ข้างหลังคำหลัก
หรือคำที่ถูกขยายเสมอ การวางคำขยายจะเกิดในกรณีที่ผู้พูดหรือผู้เขียนมีความต้องการ
จะบอกกล่าวข้อความเพิ่มเติมในประโยค จึงหาคำมาขยายโดยการวางคำขยายไว้ข้างหลัง
คำที่ต้องการขยายความหมายมักจะเป็นคำนาม คำกริยา
ดังนั้น คำขยายจึงอยู่หลังคำที่ถูกขยายหรือคำหลัก
จะเรียงลำดับ ดังนี้

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 6

1. คำนาม (คำหลัก) + คำขยาย เช่น โรงเรียน ทางซ้าย ( โรงเรียน เป็นคำ
หลัก ส่วน ทางซ้าย เป็นคำขยาย)

2. คำกริยา (คำหลัก) + คำขยาย เช่น กินจุ วิ่งเร็ว (กิน วิ่ง เป็นคำหลัก
ส่วน จุ เร็ว เป็น คำขยาย)

6. การลงเสียงหนัก-เบาของคำ ภาษาไทยมีการลงเสียงหนัก-เบาของคำ
การลงเสียงหนัก-เบาของคำในภาษาไทย จะมีการลงเสียงหนัก-เบาของคำในระดับคำ
ซึ่งมีมากกว่าสองพยางค์ และการลงเสียงหนัก-เบาของคำในระดับประโยค โดยพิจารณา
ในแง่ของไวยากรณ์ และเจตนาของการสื่อสาร เมื่อพิจารณาในแง่ของไวยากรณ์
การออกเสียงคำ ภาษาไทยมิได้ออกเสียงเสมอกันทุกพยางค์
การลงเสียงหนัก เบาของคำ

การลงเสียงหนัก-เบาของคำสองพยางค์ขึ้น มีดังนี้
1. ถ้าเป็นคำสองพยางค์ จะลงเสียงหนักที่พยางค์ที่สอง เช่น คนเราต้องอดทน
(ทน เสียงหนักกว่า อด)
2. ถ้าเป็นคำสามพยางค์ ลงเสียงหนักที่พยางค์ที่สาม และพยางค์ที่หนึ่ง
หรือพยางค์ที่สองด้วยถ้าพยางค์ที่หนึ่งและพยางค์ที่สองมีสระยาวหรือมีเสียงพยัญชนะท้าย
3. ถ้าเป็นคำสี่พยางค์ขึ้นไป ลงเสียงหนักที่พยางค์สุดท้าย ส่วนพยางค์อื่น ๆ จะลง
เสียงหนัก-เบาตามลักษณะส่วนประกอบของพยางค์ที่มีสระยาวหรือมีเสียงพยัญชนะท้าย
เช่น วิทยาลัย (ลงเสียงหนักที่ วิท , ยา, ลัย)
7. การไม่เปลี่ยนแปลงรูปคำ คำในภาษาไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคำ เมื่อนำ
ไปใช้ในประโยค เพื่อแสดงความสัมพันธ์กับคำอื่นในประโยค และไม่ต้องเปลี่ยนรูปคำ
เพื่อแสดงเพศ พจน์ หรือกาล ในเมื่อคำไทยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปคำเพื่อบอกเพศ
พจน์ หรือกาล และบอกความสัมพันธ์กับคำอื่นในประโยคเราสามารถทราบความหมาย
ของคำและความสัมพันธ์กับคำอื่นได้จากบริบท

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 7

สัทอักษรสำหรับภาษาไทย
(Internation Phonetic Alphabet for Thai : IPA for Thai)
พยัญชนะไทย

พยัญชนะควบกล้ำ
สระ

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 8

สัทอักษรสำหรับภาษาไทย
(Internation Phonetic Alphabet for Thai : IPA for Thai)

สระประสม (Diphthongs)



วรรณยุกต์ (Tones)

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 9

แผนการ
จัดการเรียนรูุ้

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 10

โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้
“สัตว์โลกน่ารัก”



จำนวน 3 แผน แผนละ 2 ชั่วโมง รวมเวลาทั้งหมด 6 ชั่วโมง

1. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 : เอ๊ะ! น
ี่มันเสียงอะไร (2 ชั่วโมง)
รายละเอียด : สัตว์จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ สุนัข แมว หมู วัว เป็ด
ให้ผู้เรียนได้รู้จักสัตว์ และเสียงของสัตว์แต่ละชนิด
ฝึกทั้งทักษะการฟัง การอ่าน
การพูดและการสังเกตลักษณะของเสียงสัตว์แต่ละชนิด

2. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 : เธอกินอะไร ฉันอยากรู้ (2 ชั่วโมง)

รายละเอียด : สัตว์จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ แกะ ช้าง ผึ้ง กระต่าย แพนด้า
ให้ผู้เรียนได้รู้จักสัตว์ และอาหารที่สัตว์แต่ละชนิดกิน
ฝึกทั้งทักษะการฟัง การอ่าน การพูด และการสังเกต
ลักษณะของอาหารสัตว์แต่ละชนิด

3. แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 : เธออยู่ไหน ฉันจะไปหา (2 ชั่วโมง)

รายละเอียด : สัตว์จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ โลมา นก เสือ ไก่ ค้างคาว
ให้ผู้เรียนได้รู้จักสัตว์ และที่อยู่อาศัยของสัตว์แต่ละชนิด
ว่าโดยธรรมชาติสัตว์แต่ละชนิดอาศัยอยู่ที่ใด ฝึกทั้งทักษะ
การฟัง การอ่าน การพูด และการสังเกตลักษณะของที่อยู่
ของสัตว์แต่ละชนิด

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 11

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 หน่วยการเรียนรู้สัตว์โลกน่ารัก เวลาเรียน 2 ชั่วโมง

เรื่อง เอ๊ะ! นี่มันเสียงอะไร ช่วงอายุ 9-12 ปี

1. สาระสำคัญ
คำศัพท์ในหน่วยสัตว์โลกน่ารัก เป็นคำศัพท์พื้นฐานที่สำคัญและพบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป

ดังนั้นการที่เรารู้จักคำศัพท์พื้นฐานเหล่านี้ จะทำให้ผู้เรียนสามารถอ่านชื่อสัตว์ได้อย่างถูกต้อง
และสามารถนำไปใช้สื่อสารกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้
2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์สัตว์ได้ถูกต้อง
2. นักเรียนสนทนาประโยคสื่อสารตามที่กำหนดได้
3. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. นักเรียนกล่าวคำทักทายครูเป็นภาษาไทย พร้อมทำท่าทางประกอบดังนี้

ผู้ชาย ออกเสียง sa-wat-dee-krap
ผู้หญิง ออกสียง sa-wat-dee-ka
2. ครูเปิดวิดีทัศน์นิทานภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ เรื่อง ลูกหมูสามตัว ให้นักเรียนดู แล้วถาม
นักเรียน ว่า “What kind of animals from the stories?” (จากนิทานนักเรียนเห็นสัตว์ชนิด
ใดบ้าง)
3. ครูรับฟังคำตอบของนักเรียน จากนั้นถามนักเรียนว่ารู้จักคำศัพท์ภาษาไทยที่เป็นชื่อสัตว์
เหล่านั้นหรือไม่ เช่น How do you say “pig” in Thai?
ขั้นสอน
1. นักเรียนสังเกตบัตรภาพ เรื่อง “สัตว์โลกน่ารัก” ที่มีคำศัพท์ 5 คำ ได้แก่ หมู แมว สุนัข วัว
และเป็ด โดยให้นักเรียนดูภาพสัตว์และคำศัพท์ในบัตรภาพแล้วฝึกอ่านออกเสียงภาษาไทยเป็นชื่อสัตว์
ชนิดนั้น ซึ่งในภาพ จะประกอบด้วย รูปสัตว์ชนิดนั้น ชื่อภาษาไทย ชื่อภาษาอังกฤษ และคำศัพท์ภาษา
คาราโอเกะ

11

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 12

2. ครูถามนักเรียนว่า รู้จักเสียงร้องของสัตว์ในบัตรภาพที่ได้ศึกษาในภาษาไทยหรือไม่ เช่น
“What is the sound of a “pig” in Thai?

3. นักเรียนทำกิจกรรม “เอ๊ะ! นี่มันเสียงอะไร” โดยครูเลียนเสียงร้องของสัตว์แต่ละชนิด
แล้วให้นักเรียน จับคู่เสียงกับบัตรภาพที่ครูเตรียมมาให้ จำนวน 5 ชนิด

4. ครูเฉลยคำตอบของเสียงสัตว์ในแต่ละบัตรภาพ พร้อมครูให้ความรู้นักเรียนเรื่องเสียงของ
สัตว์ทั้ง 5 ชนิด เช่น หมู ร้อง อู๊ด อู๊ด, วัว ร้อง มอ มอ เป็นต้น

5. จากนั้นให้นักเรียนจับคู่สนทนาจากแถบประโยคที่ครูกำหนด เช่น
A : นี่คือสัตว์อะไร (นักเรียนเลือกภาพสัตว์เอง ชูให้เพื่อดูสลับกันให้ครบทั้ง 5 ภาพ)
มีภาษาคาราโอเกะประกอบ
B : นี่คือ “หมู”
A : หมูร้องอย่างไร
B : หมูร้อง “อู๊ด อู๊ด”

ขั้นสรุป
1. นักเรียนฝึกอ่านนิทานเรื่อง “ติ๊ดตี่ขี้สงสัย ตอนที่ 1 เสียงนี้คืออะไรนะ” แล้วสังเกตชื่อและ

เสียงของสัตว์ที่ปรากฏในนิทาน
2. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง “เอ๊ะ! นี่มันเสียงอะไร” โดยร่วมกันพูดสรุปความรู้

เป็นประโยคสั้น ๆ เช่น หมู ร้อง อู๊ด อู๊ด, วัว ร้อง มอ มอ เป็นต้น
3. นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 1 ให้เวลา 10 นาที จากนั้นร่วมกันเฉลย
4. นักเรียนทดสอบทักษะการอ่านออกเสียง โดยครูเป็นผู้ทดสอบความรู้หลังเรียนรายบุคคล

ในแบบทดสอบ
การวัดและการประเมินผล

วิธีการประเมิน
- การตรวจแบบฝึกหัดที่ 1
- การสังเกตการพูดสนทนารายบุคคล
- การตรวจแบบทดสอบที่ 1

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 13

เครื่องมือการวัดและประเมินผล
- แบบฝึกหัดที่ 1
- แบบสังเกตพฤติกรรมการพูดสนทนารายบุคคล
- แบบประเมินการทำแบบทดสอบที่ 1

แบบประเมินแบบฝึกหัดที่ 1 และแบบทดสอบที่ 1

เกณฑ์ตัดสินคุณภาพงาน

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 14

หน่วยการเรียนรู้สัตว์โลกน่ารัก

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ช่วงอายุ 9-12 ปี เวลาเรียน 2 ชั่วโมง

เรื่องเธอกินอะไร ฉันอยากรู้

1. สาระสำคัญ
คำศัพท์ในหน่วยสัตว์โลกน่ารัก เป็นคำศัพท์พื้นฐานที่สำคัญและพบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป

ดังนั้นการที่เรารู้จักคำศัพท์พื้นฐานเหล่านี้ จะทำให้ผู้เรียนสามารถอ่านชื่อสัตว์ได้อย่างถูกต้อง
และสามารถนำไปใช้สื่อสารกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้
2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์สัตว์ได้ถูกต้อง
2. นักเรียนสนทนาประโยคสื่อสารตามที่กำหนดได้
3. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูเปิดวิดีทัศน์นิทานภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ เรื่อง กระต่ายกับเต่า ให้นักเรียนดู แล้วถาม
นักเรียนว่า “What kind of animals from the stories?” (จากนิทานนักเรียนเห็นสัตว์ชนิดใดบ้าง)
2. ครูรับฟังคำตอบของนักเรียน จากนั้นถามนักเรียนว่ารู้จักคำศัพท์ภาษาไทยที่เป็นชื่อสัตว์
เหล่านั้นหรือไม่ เช่น How do you say “rabbit” in Thai?
ขั้นสอน
1. นักเรียนสังเกตบัตรภาพ เรื่อง “สัตว์โลกน่ารัก” ที่มีคำศัพท์ 5 คำ ได้แก่ แกะ ช้าง ผึ้ง
กระต่าย และแพนด้า โดยให้นักเรียนดูภาพสัตว์และคำศัพท์ในบัตรภาพแล้วฝึกอ่านออกเสียงภาษาไทย
เป็นชื่อสัตว์ชนิดนั้น ซึ่งในภาพจะประกอบด้วย รูปสัตว์ชนิดนั้น ชื่อภาษาไทย ชื่อภาษาอังกฤษและ
คำศัพท์ภาษาคาราโอเกะ
2. ครูถามนักเรียนว่า รู้หรือไม่ว่าสัตว์ในบัตรภาพกินอะไร เช่น “What do this animal eat?”

3. นักเรียนเล่นเกมวงล้ออาหาร “เธอกินอะไร ฉันอยากรู้” โดยครูอธิบายวิธีการเล่น

เกม ดังนี้

3.1 นักเรียนหมุนวงล้ออาหาร ซึ่งประกอบไปด้วยอาหารของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด

3.2 นักเรียนตอบคำถามว่า สัตว์ชนิดใดที่กินอาหารที่ปรากฏในวงล้อที่หมุนได้

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 15

3.3 ครูถามเพื่อนในห้องว่าคำตอบที่เพื่อนตอบถูกต้องหรือไม่
3.4 นักเรียนอ่านออกเสียงชื่อสัตว์ และอาหารที่สัตว์กินในแต่ละครั้งที่หมุน เช่น
กระต่าย กิน แคร์รอต, ช้าง กิน อ้อย เป็นต้น
4. จากนั้นให้นักเรียนจับคู่สนทนาจากแถบประโยคที่ครูกำหนด เช่น

A : นี่คือสัตว์อะไร (นักเรียนเลือกภาพสัตว์เอง ชูให้เพื่อดูสลับกันให้ครบทั้ง 5 ภาพ)
มีภาษาคาราโอเกะประกอบ

B : นี่คือ “กระต่าย”
A : กระต่ายกินอะไร
B : กระต่ายกินแคร์รอต
ขั้นสรุป
1. นักเรียนฝึกอ่านนิทานเรื่อง “ติ๊ดตี่ขี้สงสัย ตอนที่ 2 เธอกินอะไรนะ” แล้วสังเกตชื่อและ
อาหารของสัตว์ที่ปรากฏในนิทาน
2. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง “ติ๊ดตี่ขี้สงสัย ตอนที่ 2 เธอกินอะไรนะ” โดยร่วมกันพูดสรุป
ความรู้ เป็นประโยคสั้น ๆ เช่น กระต่าย กิน แคร์รอต, ช้าง กิน อ้อย เป็นต้น
3. นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 2 ให้เวลา 10 นาที จากนั้นร่วมกันเฉลย
4. นักเรียนทดสอบทักษะการอ่านออกเสียง โดยครูเป็นผู้ทดสอบความรู้หลังเรียนรายบุคคล
ในแบบทดสอบที่ 2

สื่อ/เอกสารประกอบการสอน
1. บัตรภาพ เรื่อง “สัตว์โลกน่ารัก”
2. วิดีทัศน์นิทานเรื่อง กระต่ายกับเต่า (สามารถสแกนดูได้ที่ภาคผนวก)
3. เกมวงล้ออาหาร “เธอกินอะไร ฉันอยากรู้”
4. แถบประโยคสื่อสาร
เช่น A : นี่คือสัตว์อะไร (นักเรียนเลือกภาพสัตว์เอง ชูให้เพื่อดูสลับกันให้ครบทั้ง 5 ภาพ)
มีภาษาคาราโอเกะประกอบ
B : นี่คือ “กระต่าย”
A : กระต่ายกินอะไร
B : กระต่ายกินแคร์รอต

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 16

5. นิทานเรื่อง “ติ๊ดตี่ขี้สงสัย ตอนที่ 2 เธอกินอะไรนะ”
6. แบบฝึกหัดที่ 2
7. แบบทดสอบที่ 2

การวัดและการประเมินผล
วิธีการประเมิน
- การตรวจแบบฝึกหัดที่ 2
- การสังเกตการพูดสนทนารายบุคคล
- การตรวจแบบทดสอบที่ 2
เครื่องมือการวัดและประเมินผล
- แบบฝึกหัดที่ 2
- แบบสังเกตพฤติกรรมการพูดสนทนารายบุคคล
- แบบประเมินการทำแบบทดสอบที่ 2

แบบประเมินแบบฝึกหัดที่ 2 และแบบทดสอบที่ 2

เกณฑ์ตัดสินคุณภาพงาน

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 17

หน่วยการเรียนรู้สัตว์โลกน่ารัก

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 ช่วงอายุ 9-12 ปี เวลาเรียน 2 ชั่วโมง

เรื่องเธออยู่ไหน ฉันจะไปหา

1. สาระสำคัญ
คำศัพท์ในหน่วยสัตว์โลกน่ารัก เป็นคำศัพท์พื้นฐานที่สำคัญและพบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป

ดังนั้น การที่เรารู้จักคำศัพท์พื้นฐานเหล่านี้ จะทำให้ผู้เรียนสามารถอ่านชื่อสัตว์ได้อย่างถูกต้อง
และสามารถนำไปใช้สื่อสารกับสถานการณ์ในชีวิตประจำวันได้
2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนอ่านออกเสียงคำศัพท์สัตว์ได้ถูกต้อง
2. นักเรียนสนทนาประโยคสื่อสารตามที่กำหนดได้
3. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูเปิดวิดีทัศน์นิทานภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสัตว์ เรื่อง แม่ไก่กับนกนางแอ่น ให้นักเรียนดู
แล้วถามนักเรียนว่า “What kind of animals from the stories?” (จากนิทานนักเรียนเห็นสัตว์
ชนิดใดบ้าง)
2. ครูรับฟังคำตอบของนักเรียน จากนั้นถามนักเรียนว่ารู้จักคำศัพท์ภาษาไทยที่เป็นชื่อสัตว์
เหล่านั้นหรือไม่ เช่น How do you say “bird” in Thai?
ขั้นสอน
1. นักเรียนสังเกตบัตรภาพ เรื่อง “สัตว์โลกน่ารัก” ที่มีคำศัพท์ 5 คำ ได้แก่ โลมา นก เสือ ไก่
และค้างคาว โดยให้นักเรียนดูภาพสัตว์และคำศัพท์ในบัตรภาพแล้วฝึกอ่านออกเสียงภาษาไทยเป็นชื่อ
สัตว์ชนิดนั้น ซึ่งในภาพจะประกอบด้วย รูปสัตว์ชนิดนั้น ชื่อภาษาไทย ชื่อภาษาอังกฤษ และคำศัพท์
ภาษาคาราโอเกะ
2. ครูถามนักเรียนว่า ที่อยู่ของสัตว์ในบัตรภาพอยู่ที่ใด เช่น “Where is the “bird” live in ?
3. นักเรียนทำกิจกรรม “เธออยู่ไหน ฉันจะไปหา” โดยครูเปิดภาพที่อยู่อาศัยของสัตว์แล้วให้
นักเรียนจับคู่ ที่อยู่อาศัยกับบัตรภาพสัตว์ที่ครูเตรียมมาให้ จำนวน 5 ชนิด
4. ครูเฉลยคำตอบของที่อยู่อาศัยของสัตว์ในแต่ละบัตรภาพ พร้อมให้ความรู้นักเรียนเรื่องที่อยู่
อาศัย ของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด เช่น นก อาศัยอยู่ใน รัง, เสือ อาศัยอยู่ใน ป่า เป็นต้น

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 18

5. จากนั้นให้นักเรียนจับคู่สนทนาจากแถบประโยคที่ครูกำหนด เช่น
A : นี่คือสัตว์อะไร (นักเรียนเลือกภาพสัตว์เอง ชูให้เพื่อดูสลับกันให้ครบทั้ง 5 ภาพ)
มีภาษาคาราโอเกะประกอบ
B : นี่คือ “นก”
A : นกอาศัยอยู่ที่ไหน
B : นกอาศัยอยู่ในรัง

ขั้นสรุป
1. นักเรียนฝึกอ่านนิทานเรื่อง “ติ๊ดตี่ขี้สงสัย ตอนที่ 3 เธออยู่ที่ไหนนะ” แล้วสังเกตชื่อและที่อยู่

อาศัย ของสัตว์ที่ปรากฏในนิทาน
2. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง “ติ๊ดตี่ขี้สงสัย ตอนที่ 3 เธออยู่ที่ไหนนะ” โดยร่วมกันพูดสรุป

ความรู้ เป็นประโยคสั้น ๆ เช่น นก อาศัยอยู่ใน รัง, เสือ อาศัยอยู่ใน ป่า เป็นต้น
3. นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 3 ให้เวลา 10 นาที จากนั้นร่วมกันเฉลย
4. นักเรียนทดสอบทักษะการอ่านออกเสียง โดยครูเป็นผู้ทดสอบความรู้หลังเรียนรายบุคคล

ในแบบทดสอบ

สื่อ/เอกสารประกอบการสอน
1. บัตรภาพ เรื่อง “สัตว์โลกน่ารัก”
2. วิดีทัศน์นิทานเรื่อง แม่ไก่กับนกนางแอ่น (สามารถสแกนดูได้ที่ภาคผนวก)
3. แถบประโยคสื่อสาร เช่น
A : นี่คือสัตว์อะไร (นักเรียนเลือกภาพสัตว์เอง ชูให้เพื่อดูสลับกันให้ครบทั้ง 5 ภาพ)
มีภาษาคาราโอเกะประกอบ
B : นี่คือ “นก”
A : นกอาศัยอยู่ที่ไหน
B : นกอาศัยอยู่ในรัง
4. นิทานเรื่อง “ติ๊ดตี่ขี้สงสัย ตอนที่ 3 เธออยู่ที่ไหนนะ”
5. แบบฝึกหัดที่ 3
6. แบบทดสอบที่ 3

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 19

การวัดและการประเมินผล
วิธีการประเมิน
- การตรวจแบบฝึกหัดที่ 3
- การสังเกตการพูดสนทนารายบุคคล
- การตรวจแบบทดสอบที่ 3
เครื่องมือการวัดและประเมินผล
- แบบฝึกหัดที่ 3
- แบบสังเกตพฤติกรรมการพูดสนทนารายบุคคล
- แบบประเมินการทำแบบทดสอบที่ 3

แบบประเมินแบบฝึกหัดที่ 3 และแบบทดสอบที่ 3

เกณฑ์ตัดสินคุณภาพงาน

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 20

บรรณานุกรม

รุ่งฤดี แผลงศร. (2560). ศาสตร์การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ.
กรุงเทพมหานคร. สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อุทัยวรรณ ปิ่นประชาสรร. (2557). กลวิธีการสอนภาษาไทยให้สนุก.กรุงเทพฯ:
สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

อัจฉรา ชีวพันธ์. (2550). พัฒนาทักษะภาษา พัฒนาความคิดด้วยกิจกรรมการเล่นประกอบ
การสอนภาษาไทย. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อุไรวรรณ ชลเกษม. วิธีสอนแบบฟัง-พูด (audio – lingual method).
ค้นเมื่อวันที่ 20 เดือนกันยายน พ.ศ. 2564
จาก https://sites.google.com/site/uraiwaneng04/the-audio-lingual-method

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 21

ภาคผนวก

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 22

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 23
แบบฝึกหัดที่ 2

คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นจับคู่ชื่อสัตว์และอาหารของสัตว์ให้ถูกต้อง
Example
1.

2.

3.

4.

5.

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 24

แบบฝึกหัดที่ 3

คำชี้แจง ให้นักเรียนโยงเส้นจับคู่ชื่อสัตว์และที่อยู่อาศัยของสัตว์ให้ถูกต้อง
Example
1.

2.

3.

4.
5.

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 25

แบบทดสอบที่ 1

คำสั่ง ให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ หมวดชื่อสัตว์ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
ชื่อ-นามสกุล...........................................................................................

ลงชื่อ....................................................................ครูผู้บันทึก

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 26

แบบทดสอบที่ 2
คำสั่ง ให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ หมวดชื่อสัตว์ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

ชื่อ-นามสกุล...........................................................................................

ลงชื่อ....................................................................ครูผู้บันทึก

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 27

แบบทดสอบที่ 3

คำสั่ง ให้นักเรียนอ่านคำศัพท์ หมวดชื่อสัตว์ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
ชื่อ-นามสกุล................................................................................................

ลงชื่อ....................................................................ครูผู้บันทึก

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 28

เกมวงล้ออาหาร “เธอกินอะไร ฉันอยากรู้”

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 29

QR CODE สื่อวีดิทัศน์ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ทั้ง 3 แผน





นิทานเรื่องลูกหมูสามตัว





นิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า





นิทานเรื่องแม่ไก่กับนกนางแอ่น

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 30

บัตรภาพเรื่อง“สัตว์โลกน่ารัก”



แมว

mɛɛw





สุนัข

sù na̒ k




มู

mǔu

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 31

บัตรภาพเรื่อง“สัตว์โลกน่ารัก”



เป็ด

pèd





วัว

wuua






กระต่าย

krà tàaj

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 32

บัตรภาพเรื่อง“สัตว์โลกน่ารัก”



ช้าง

ʨháaŋ




แพนด้า
pɛɛn dâa

แกะ

kɛ̀

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 33

บัตรภาพเรื่อง“สัตว์โลกน่ารัก”



ผึ้ง

pêung





นก

nók





ไก่

kàj

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 34

บัตรภาพเรื่อง“สัตว์โลกน่ารัก”



เสือ

sɯ̌ aa





โลมา

loo maa





ค้างคาว

káaŋ kaaw

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 35

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj



นี่ คือ หมู

nîi - khɯɯ - mǔu



หมู ร้อง อย่างไร

mǔu - rɔ́ɔŋ - yàaŋ raj



หมู ร้อง อู๊ด อู๊ด

mǔu - rɔ́ɔŋ - ʔùud - ʔùud

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 36

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj



นี่ คือ สุนัข

nîi - khɯɯ - sù nák



สุนัข ร้อง อย่างไร

sù nák - rɔ́ɔŋ - yàaŋ raj



สุนัข ร้อง โฮ่ง โฮ่ง

sù nák - rɔ́ɔŋ - hǒoŋ - hǒoŋ

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 37

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj



นี่ คือ แมว

nîi - khɯɯ - mɛɛw



แมว ร้อง อย่างไร

mɛɛw - rɔ́ɔŋ - yàaŋ raj



แมว ร้อง เหมียว เหมียว

mɛɛw - rɔ́ɔŋ - mǐaaw - mǐaaw

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 38

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj



นี่ คือ เป็ด

nîi - khɯɯ - pèd



เป็ด ร้อง อย่างไร

pèd - rɔ́ɔŋ - yàaŋ raj



เป็ด ร้อง ก้าบ ก้าบ

pèd - rɔ́ɔŋ - kâab - kâab

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 39

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj



นี่ คือ วัว

nîi - khɯɯ - wuua



วัว ร้อง อย่างไร

wuua - rɔ́ɔŋ - yàaŋ raj



วัว ร้อง มอ มอ

wuua - rɔ́ɔŋ - mɔɔ - mɔɔ

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 40

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj



นี่ คือ กระต่าย

nîi - khɯɯ - krà tàaj



กระต่าย กิน อะไร

krà tàaj - kin - ʔà raj



กระต่าย กิน แคร์รอต

krà tàaj - kin - khɛɛ rɔ̀d

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 41

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj

นี่ คือ ช้าง

nîi - khɯɯ - cháaŋ



ช้าง กิน อะไร

cháaŋ - kin - ʔà raj



ช้าง กิน อ้อย

cháaŋ - kin - ʔɔ̂ ɔj

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 42

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj

นี่ คือ แกะ

nîi - khɯɯ - kɛ̀



แกะ กิน อะไร

kɛ̀ - kin - ʔà raj



แกะ กิน หญ้า

kɛ̀ - kin - yâa

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 43

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj

นี่ คือ แพนด้า

nîi - khɯɯ - pɛɛn dâa



แพนด้า กิน อะไร

pɛɛn dâa - kin - ʔà raj



แพนด้า กิน ไผ่

pɛɛn dâa - kin - phàj

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 44

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj

นี่ คือ ผึ้ง

nîi - khɯɯ - pêung

ผึ้ง กิน อะไร

phɯ̂ ŋ - kin - ʔà raj



ผึ้ง กิน เกสรดอกไม้

phɯ̂ ŋ – kin - kee sǒn - dɔ̀ɔk máj

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 45

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj

นี่ คือ ไก่

nîi - khɯɯ - kàj



ไก่ อาศัย อยู่ ที่ไหน

kàj - ʔa sǎj - yùu – tîi - nǎj



ไก่ อาศัย อยู่ ใน เล้า

kàj - ʔa sǎj - yùu – naj - láw

คู่มือครู การสอนภาษาไทยในฐานะภาษาต่างประเทศ หน่วยการเรียนรู้ "สัตว์โลกน่ารัก" 46

แถบประโยคสื่อสาร

นี่ คือ สัตว์ อะไร

nîi - khɯɯ - sàt - ʔà raj

นี่ คือ นก

nîi - khɯɯ - nók



นก อาศัย อยู่ ที่ไหน

nók - ʔa sǎj - yùu – tîi - nǎj




นก อาศัย อยู่ ใน รัง

nók - ʔa sǎj - yùu - naj - raŋ


Click to View FlipBook Version