วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 1/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 9
เกจ (Gauge)
9.1 เกจบลอ็ ค (Gauge Block, Slip Gauge)
เกจบลอ็ ค เป็นแทง่ ทดสอบขนาดมาตรฐาน สามารถใชท้ ดสอบขนาดเคร่ืองมือวดั ใน การวดั ขนาดงาน
และใชว้ ดั เปรียบเทียบ ดงั น้นั เกจบลอ็ คจึงถูกสร้างข้ึนมาใหม้ ีขนาดแน่นอน ผวิ ของเกจบล็อคจะมีความเรียบเป็ น
มนั เงา มีขนาดใหเ้ ลือกหลายขนาดตามตอ้ งการ
9.1.1 ลกั ษณะรูปร่างของเกจบลอ็ ค
1.) รูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส
2.) รูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้
3.) รูปทรงกระบอก
ภาพที่ 9-1 เกจบลอ็ ครูปสี่เหลี่ยมจัตรุ ัส ภาพท่ี 9-2 เกจบลอ็ ครูปส่ีเหล่ียมผืนผ้า
(Square Gauge Block Sets) (Rectangular Gauge Block)
ภาพท่ี 9-3 เกจบลอ็ ครูปทรงกระบอก
(Cylindrical Gauge Block)
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 2/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
9.1.2 วสั ดุที่ใชท้ าเกจบล๊อค
เกจบล๊อคท่ีนิยมใชใ้ นปัจจุบนั ทาจาก
1.) เหลก็ เคร่ืองมือ (Tool Steel)
2.) เหล็กซิลิกอน ไนไตร (Silicon Nitride)
3.) เหลก็ คาร์ไบด์ (Tungsten Carbide)
4.) เซรามิก ทาจากเซอโคเนียม (Zirconium) (Cera Block)
กราฟที่ 9-1 กราฟความสัมพันธ์ระหว่างแรงท่ีกระทากบั การสึกหรอ
จากกราฟความสัมพนั ธ์ของเกจบลอ๊ คท่ีทาจากวสั ดุต่าง ๆ จะเห็นไดว้ า่
1.) เกจบลอ๊ คท่ีสึกหรอมากที่สุด คือเหลก็ เครื่องมือ
2.) เหล็กซิลิกอนไนไตรสึกหรอนอ้ ยกวา่
3.) เหลก็ คาร์ไบดส์ ึกหรอรองลงมา
4.) เซรามิกเป็ นวสั ดุที่มีการสึกหรอนอ้ ยที่สุด
9.1.3 เกจบลอ๊ คมาตรฐาน
เกจบล๊อคมาตรฐาน แบ่งเป็ น 4 เกรด คือ
1.) เกรด K เกจบลอ๊ คชนิดน้ีมีความเที่ยงตรง และความแมน่ ยาสูงสุด ขนาดทุกชิ้นไม่มีความ
ผดิ พลาดในการผลิตและจะใชง้ านในหอ้ งปฏิบตั ิการมาตรฐานเท่าน้นั ใชเ้ ป็ นเกจบลอ๊ คตน้ แบบแลว้ นาเกจบลอ๊ ค
เกรดต่ากวา่ มาสอบเทียบ
2.) เกรด 0 เกจบล๊อคชนิดน้ีใชใ้ นหอ้ งทดลองท่ีตอ้ งการตรวจสอบความเท่ียงตรง และ
แมน่ ยาในการสอบเทียบของเครื่องมือท่ีตอ้ งการความละเอียดสูง
3.) เกรด 1 เกจบลอ๊ คใชต้ รวจสอบคา่ มาตรฐานของเคร่ืองมือวดั และเกจวดั ตา่ ง ๆ
4.) เกรด 2 เกจบล๊อคใชต้ รวจสอบเครื่องมือวดั ในสายการผลิตในโรงงาน และใชป้ ระกอบ
ต้งั คา่ ที่ตอ้ งการความละเอียดในการติดต้งั อุปกรณ์ในโรงงาน
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 3/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
ขนาดเกจบล๊อคสี่เหลยี่ มผืนผ้าระบบองั กฤษ (INCH RECTANGULAR GAUGE BLOCK SETS)
บล๊อคเกจ 1 ชุด จานวนชิ้น ขนาดเลก็ – ขนาดใหญ่ ขนาดเพม่ิ ขนึ้ แผ่นละ
(จานวนชิ้น) (นิว้ )
81 1 0.05”
10 0.1000 – 0.1009” 0.0001”
49 0.101 – 0.149” 0.001”
17 0.15 – 0.95” 0.05”
4 1 – 4” 1”
36 1 0.05”
10 0.1000 – 0.1009” 0.0001”
9 0.101 – 0.109” 0.001”
9 0.11 – 0.19” 0.01”
4 0.2 – 0.5” 1”
1 1”
1 2”
1 4”
28 1 0.02005”
9 0.0201 – 0.0209” 0.0001”
9 0.021 – 0.029” 0.001”
9 0.01 – 0.09” 0.01”
ตารางท่ี 9.1 ขนาดของเกจบล๊อคสี่เหลยี่ มจัตุรัสระบบอังกฤษ
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 4/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
ขนาดเกจบล๊อคสี่เหลย่ี มผืนผ้าระบบเมตริก (METRIC RECTANGULAR GAUGE BLOCK SETS)
บล๊อคเกจ 1 ชุด จานวนชิ้น ขนาดเลก็ – ขนาดใหญ่ ขนาดเพมิ่ ขนึ้ แผ่นละ
(จานวนชิ้น) (นิว้ )
112 1 1.0005 มม.
9 1.001 – 1.009 มม. 0.001 มม.
49 1.01 – 1.49 มม. 0.01 มม.
49 0.5 – 24.5 มม. 0.5 มม.
4 25 – 100 มม. 25 มม.
103 1 1.005 มม.
49 1.01 – 1.49 มม. 0.01 มม.
49 0.5 – 24.5 มม. 0.5 มม.
4 25 – 100 มม. 25 มม.
76 1 1.005 มม.
49 1.01 – 1.49 มม. 0.01 มม.
19 0.5 – 9.5 มม. 0.5 มม.
4 10 – 40 มม. 10 มม.
3 50 – 100 มม. 25 มม.
47 1 1.005 ม.
9 1.01 – 1.09 มม. 0.01 มม.
9 1.1 – 1.9 มม. 0.1 มม.
24 1 – 24 มม. 1 มม.
4 25 – 100 มม. 25 มม.
32 1 1.005 มม.
9 1.01 – 1.09 มม. 0.01 มม.
9 1.1 – 1.9 มม. 0.1 มม.
9 1 – 9 มม. 1 มม.
3 10 – 30 มม. 10 มม.
1 60 มม.
ตารางท่ี 9.2 ขนาดของเกจบล๊อคส่ีเหลยี่ มจัตุรัสระบบเมตริก
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 5/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
ภาพท่ี 9-4 ลกั ษณะของเกจบล๊อคบรรจุอย่ใู นกล่อง
ลกั ษณะของเกจบล๊อครูปสี่เหล่ียมผนื ผา้ ระบบเมตริกและระบบองั กฤษมีขนาดจานวนชิ้นเทา่ กบั เก
จบลอ๊ คสี่เหล่ียมจตั ุรัส
9.1.4 ข้นั ตอนการประกอบเกจบล๊อค
เนื่องจากเกจบล๊อคมีหลายขนาด ขนาดที่ตอ้ งการอาจไม่สามารถหาขนาดไดจ้ ากเกจบล๊อค
จาเป็นตอ้ งใชเ้ กจหลาย ๆ ชิ้นประกอบร่วมกนั การนาเกจบลอ๊ คหลายชิ้น มาประกอบเขา้ ดว้ ยกนั ขนาดท่ีไดอ้ าจ
ผดิ พลาดได้ เม่ือปี ค.ศ. 1870 เซอร์โจเซฟ วทิ เวอร์ท ไดท้ าชิ้นงานใหม้ ีผวิ เรียบเป็ นมนั เงา และไดท้ าความสะอาด
ผวิ งานท้งั สองใหส้ ะอาดเมื่อนาชิ้นงานท้งั สองมากดและเล่ือนสัมผสั กนั ปรากฏวา่ ชิ้นงานท้งั สองเกาะติดกนั แน่น
และตอ้ งออกแรงมากจึงจะทาใหช้ ิ้นงานท้งั สองแยกออกจากกนั
ภาพที่ 9-5 เกจบล๊อค 1 ชุด 112 ชิ้น ภาพที่ 9-6 เกจบล๊อค 1 ชุด 103 ชิ้น
9.1.5 ข้นั ตอนการเลือกเกจบล๊อค
1.) จะตอ้ งทราบขนาดที่จะประกอบเกจบล๊อคใหม้ ีจานวนแผน่ นอ้ ยที่สุด
2.) ใหท้ าความสะอาดเกจบลอ๊ ค โดยใชผ้ า้ สะอาดเช็ดใหป้ ราศจากคราบน้ามนั
3.) สังเกตผวิ ของเกจบลอ๊ คบริเวณท่ีตอ้ งประกอบผวิ ของเกจจะมีผวิ เรียบเป็นมนั เงา
4.) ใหป้ ระกอบเกจบลอ๊ คขนาดใหญส่ ุดกบั ขนาดของเกจบลอ๊ คที่มีขนาดใกลเ้ คียงก่อน
เพราะเกจบล๊อคขนาดใหญจ่ ะสามารถติดไดแ้ น่นกวา่ ดีกวา่
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 6/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
5.) ทดสอบการเกาะยดึ แน่นของเกจบลอ๊ คท้งั สองก่อนที่จะประกอบขนาดของเกจบล๊อค
แผน่ ต่อไป
9.1.6 การใชง้ านเกจบลอ๊ ค
1. เช็ดทาความสะอาดเกจบลอ๊ ค เกจบลอ๊ ค
บริเวณท่ีเรียบเป็นเงาใหส้ ะอาด
ภาพท่ี 9-7 การเช็ดทาความสะอาดเกจบล๊อค
2. นาดา้ นท่ีเรียบเป็ นเงากดเขา้ หากนั ต้งั แต่ขอบ
และคอ่ ยเลื่อนพร้อมกดดว้ ย
ภาพที่ 9-8 เร่ิมกดเกจบล๊อคเข้าหากนั
3. เล่ือนและกดเกจบล๊อคจนกระทงั่ เกจบลอ๊ ค
เสมอกนั
ภาพท่ี 9-9 เร่ิมเล่ือนเกจบล๊อคให้เสมอกัน
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 7/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
4. ลองดึงเกจบลอ๊ คทดสอบวา่ ยดึ ติดแน่น
หรือไม่ ถา้ ยดึ ติดแน่นดีแสดงวา่ การประกอบ
ขนาดเกจบล๊อคถูกตอ้ ง
ภาพที่ 9-10 ตรวจสอบการประกอบเกจบล๊อค
5. การถอดเกจบล๊อคสามารถทาได้ 2 วธิ ี
ซ่ึงจะเลือกวธิ ีใดก็ได้
1.) วธิ ีการเลื่อนดงั ภาพท่ี 9-12 โดยการ
เล่ือนออกจากกนั
2.) วธิ ีการหมุนดงั ภาพที่ 9-13 โดยการ
หมุนออกจากกนั
ภาพที่ 9-11 การถอดเกจบล๊อคโดยการเล่ือนออกจากกัน
6. ทาความสะอาดแลว้ ชโลมน้ามนั และเกบ็
ใส่กล่องที่ตาแหน่งเดิม
ภาพที่ 9-12 การถอดเกจบล๊อคโดยการหมนุ
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 8/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
9.1.7 การเกบ็ และบารุงรักษาเกจบล๊อค
เกจบลอ๊ คเป็ นเคร่ืองวดั ท่ีมีความละเอียดสูงและราคาแพง การใชง้ านจะตอ้ งใชด้ ว้ ยความ
ระมดั ระวงั และใชอ้ ยา่ งถูกวธิ ี
1. ก่อนใชง้ านควรทาความสะอาดเกจบล๊อคให้ดีก่อนใชง้ าน
2. เม่ือเลิกใชค้ วรเกบ็ ชโลมน้ามนั และเกบ็ ใส่กล่องใหเ้ รียบร้อย
3. อยา่ ใหเ้ กจบลอ๊ คท่ีมีรอยเยนิ กบั เกจบล๊อคท่ีดี เพราะทาใหเ้ กจบลอ๊ คชารุดเสียหาย
4. พยายามหลีกเลี่ยงการใชม้ ือเปล่าจบั เกจบลอ๊ คขณะวดั งาน เน่ืองจากความร้อนจากมือจะ
ทาใหเ้ กจขยายตวั ควรสวมถุงมือหรือใชไ้ มห้ นีบจบั เกจบลอ๊ คขณะวดั ขนาดงาน
5. เมื่อพบเกจบล๊อคชารุด มีรอยเยนิ ควรแยกออกและซ่อมส่วนที่ชารุดทนั ที
ภาพที่ 9-13 การแก้รอยเยินของเกจบล๊อค ลบรอยเยินด้วยหินอลมู ิเนยี มเซรามิค
ภาพที่ 9.14 การตรวจสอบสแนปเกจด้วยเกจบล๊อค
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 9/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
9.2 เกจก้ามปู
9.2.1 ลกั ษณะของเกจก้ามปู
เกจก้ามปู เป็ นเกจท่ีใช้ตรวจสอบขนาดของชิ้นงานโดยเฉพาะขนาดใดขนาดหน่ึงเท่าน้ัน
ส่วนมากจะใชใ้ นงานผลิตชิ้นส่วนเคร่ืองกล โดยในเกจตวั เดียวกนั น้นั จะมีปากวดั สูงสุดและต่าสุดในตวั เดียวกนั
และขนาดของปากวดั ที่แตกตา่ งกนั น้ี ไม่ไดแ้ ตกตา่ งกนั มาก แต่จะแตกตา่ งกนั ในพกิ ดั ความเผอื่ เลก็ นอ้ ยเท่าน้นั
ลกั ษณะของเกจกา้ มปูแบ่งไดด้ งั น้ี
1. เกจกา้ มปูที่ใชต้ รวจสอบงานขนาดเล็ก
ภาพที่ 9-15 ภาพท่ี 9-16
บริเวณกลางลาตวั ของเกจกา้ มปูจะเป็นตวั เลขขนาดกาหนด ซ่ึงอาจจะเป็ นขนาดกาหนดของชิ้นงาน
ที่กาหนดข้ึนเอง หรือขนาดกาหนดท่ีเป็ นมาตรฐานของเพลา ซ่ึงจะตอ้ งมีตวั อกั ษรและตวั เลขต่อทา้ ยขนาด
กาหนด ดา้ นบนและดา้ นล่างของขนาดกาหนดจะเป็ นตวั เลขจานวนเต็มมีเครื่องหมายบวกหรือลบ มีหน่วยเป็ น
µm (หารดว้ ย 1000 เป็ นมิลลิเมตร) เม่ือเปลี่ยนเป็ นมิลลิเมตรแลว้ นาไปบวกหรือลบออกจากขนาดกาหนดตาม
เคร่ืองหมายท่ีอยขู่ า้ งหนา้ จะเป็ นขนาดท่ีแทจ้ ริงของเกจกา้ มปูตวั น้นั ปากวดั ดา้ นบนหรือปากวดั เสีย (NOT GO)
ซ่ึงมีสีแดงทาไว้ ท่ีขอบด้านในของลาตวั มีค่าเท่ากบั ขนาดเล็กสุดของเพลาท่ีจะนามาตรวจสอบ ส่วนปากวดั
ดา้ นล่างหรือปากวดั ดี (GO) ระยะห่างของปากวดั ดา้ นน้ีเท่ากบั ขนาดโตสุดของเพลาท่ีจะนามาตรวจสอบ
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 10/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
2. เกจกา้ มปูท่ีใชต้ รวจสอบงานขนาดใหญ่
เพ่อื ไมใ่ หล้ าตวั ของเกจกา้ มปูยาวเกินไป ซ่ึงยากตอ่ การเกบ็ และบารุงรักษา จึงรวมปากวดั
ท้งั คูไ่ วด้ า้ นเดียวกนั
ภาพที่ 9-17 แบบปรับค่าได้ ภาพที่ 9-18 แบบปรับค่าไม่ได้
ตรงกลางของลาตวั จะมีตวั เลขขนาดกาหนด ปากวดั คู่นอกหรือปากวดั ดี (GO) มีระยะห่างระหวา่ ง
ปากวดั เท่ากบั ขนาดโตสุดของเพลาที่จะนามาตรวจสอบ ส่วนปากวดั คู่ในหรือปากวดั เสีย (NOT GO) มีระยะห่าง
ระหว่างปากวดั เท่ากบั ขนาดเล็กสุดของเพลาท่ีจะนามาตรวจสอบ ท่ีปากวดั ดา้ นซ้ายมือของปากวดั ท้งั คู่จะมี
ตวั เลขเป็น µm แสดงค่าพกิ ดั สูงสุดและพิกดั ต่าสุด
ภาพที่ 9-19 ปากวดั ดี ภาพท่ี 9-20 ปากวดั เสีย
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 11/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
ปากวดั ท้งั คู่จะแยกอยคู่ นละอนั เกจกา้ มปูอนั หน่ึงจะเป็ น “ปากวดั เสีย” มีสีแดงทาไวท้ ี่ขอบดา้ นใน
ของลาตวั ระยะห่างของปากวดั เท่ากบั ขนาดเล็กสุดของเพลาท่ีจะนามาตรวจสอบ ส่วนอีกอนั หน่ึงจะเป็ น “ปาก
วดั ดี” ระยะห่างของปากวดั เท่ากบั ขนาดโตสุดของเพลาท่ีจะนามาตรวจสอบบนลาตวั ของปากวดั ท้งั คู่ จะมีขนาด
กาหนดซ่ึงเขียนไวเ้ หมือนกนั ที่ปากวดั ดา้ นซา้ ยมือจะมีตวั เลขเป็น µm แสดงค่าเหนือพิกดั และใตพ้ ิกดั เอาไว้
9.2.2 การใช้เกจก้ามปู
เกจกา้ มปู เป็นเครื่องมือใชต้ รวจสอบชิ้นงานวา่ ใชไ้ ดห้ รือไม่ไดเ้ ทา่ น้นั แต่ไม่สามารถบอกได้
วา่ ขนาดท่ีแทจ้ ริงมีคา่ เท่าใด ชิ้นงานท่ีตรวจสอบจะถูกตอ้ งหรือไมข่ ้ึนอยกู่ บั ความรู้สึกสัมผสั และวธิ ีการใชท้ ่ี
ถูกตอ้ ง
1. ขนาดของชิ้นงานถูกตอ้ ง
ชิ้นงานผา่ นปากวดั ดีได้ แต่ไมผ่ า่ นปากวดั
เสีย ขนาดชิ้นงานอยใู่ นพกิ ดั ความเผอ่ื
ภาพที่ 9-21
2. ขนาดของชิ้นงานโตเกินไป
ชิ้นงานไม่ผา่ นปากวดั ดีได้ ขนาดชิ้นงาน
โตกวา่ ค่าพิกดั ความเผือ่ ที่ยอมใหช้ ิ้นงานมีขนาดโต
สุดได้
ภาพท่ี 9-22
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 12/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
3. ขนาดของชิ้นงานเลก็ เกินไป
ชิ้นงานสามารถผา่ นปากวดั เสียได้ ขนาด
ชิ้นงานเล็กกวา่ คา่ พกิ ดั ความเผอื่ ท่ียอมใหช้ ิ้นงานมี
ขนาดเล็กสุดได้
ภาพท่ี 9-23
9.2.3 การตรวจสอบชิ้นงานด้วยเกจก้ามปู
การวางชิ้นงานและวธิ ีจบั เกจกา้ มปูกม็ ีส่วนสาคญั ตอ่ ขนาดของชิ้นงานที่จะตรวจสอบมาก การ
ตรวจสอบชิ้นงานตามแนวนอนจะสามารถตรวจสอบไดง้ ่ายและถูกตอ้ งมากกวา่ โดยเพยี งแต่วางลาตวั ของ
เกจกา้ มปูใหต้ ้งั ฉากกบั ผวิ งานแลว้ ปล่อยใหป้ ากวดั ผา่ นผิวงานดว้ ยน้าหนกั ของตวั เอง หา้ มออกแรงกดเกจกา้ มปู
ภาพที่ 9-24 วิธีตรวจสอบขนาดของชิ้นงานในแนวนอน
การตรวจสอบชิ้นงานในแนวต้งั ผตู้ รวจสอบจะตอ้ งออกแรงกดปากวดั ใหผ้ า่ นผวิ งานดว้ ย
แรงกดที่พอเหมาะ ถา้ ออกแรงกดมากเกินไป ปากวดั อาจผา่ นผวิ งานไดเ้ หมือนกนั เนื่องจากปากวดั อา้ ออก
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 13/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
ภาพที่ 9-25 วิธีตรวจสอบขนาดของชิน้ งานในแนวตง้ั
9.2.4 การตรวจสอบระยะห่างของปากวดั
แมว้ า่ ผิวสัมผสั ของปากวดั ท้งั คู่จะผ่านการชุบผวิ แข็งมาแลว้ ก็ตาม แต่ถา้ ใชอ้ ยา่ งผิดวิธี เช่น
ออกแรงกดมากเกินไป หรือผิวเพลาหยาบเกินไป ฯลฯ ผิวสัมผสั งานของปากวดั ท้งั คู่จะสึกหรอ ซ่ึง
หมายความวา่ เกจกา้ มปูอนั น้นั เสียแลว้ วธิ ีตรวจสอบระยะห่างของปากวดั ที่มีขนาดเท่ากบั 20 มม. ให้ใชเ้ กจแท่ง
ที่หนา 20 มม. ทดสอบดู
ภาพที่ 9-26 ระยะห่างปากวดั ของเกจก้ามปูที่ยงั ไม่สึก เพราะเกจแท่งไม่สามารถผ่านปากวดั ได้
ภาพที่ 9-27 ผิวสัมผสั งานของปากวดั ลึก เพราะเกจแท่งสามารถผ่านปากวดั ได้
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 14/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
หมายเหตุ ขณะทดสอบระยะห่างของปากวดั กบั เกจแทง่ ใหผ้ วิ สัมผสั งานของปากวดั ผา่ นเกจแท่งดว้ ย
น้าหนกั ของตวั เองหรือในบางกรณีท่ีตรวจสอบระยะห่างของปากวดั ที่มีพิกดั ความเผอ่ื ไม่แน่นอน ควรใช้
ไมโครมิเตอร์แบบคาลิปเปอร์ที่ไดม้ าตรฐานเป็นตวั ตรวจสอบปากวดั ของเกจกา้ มปู
9.2.5 ข้อควรระวงั
1.) หา้ มใชต้ รวจสอบผิวเพลาที่หยาบหรือยงั ไม่ผา่ นการเจียระไนมา
2.) หา้ มใชต้ รวจสอบเพลาท่ีกาลงั หมุน
3.) หา้ มออกแรงกดปากวดั ใหผ้ า่ นชิ้นงาน
4.) ก่อนทดสอบเพลา จะตอ้ งทาความสะอาดท่ีเพลาและเกจกา้ มปูโดยเฉพาะท่ีผวิ สัมผสั งาน
ใหส้ ะอาดปราศจากคราบน้ามนั และฝ่ นุ
5.) หา้ มใชต้ รวจสอบเพลาที่ร้อน
6.) เมื่อตอ้ งการจะตรวจสอบเพลาหลาย ๆ จุด จะตอ้ งยกเกจกา้ มปูข้ึนก่อน แลว้ จึงเลื่อนเพลา
ไปในตาแหน่งที่ตอ้ งการ
7.) ก่อนใชเ้ กจกา้ มปู จะตอ้ งตรวจสอบความสมบูรณ์โดยเฉพาะที่ผวิ สมั ผสั งานวา่ มีรอยเยนิ
หรือไม่ ถา้ มีใหล้ บออกดว้ ยหินน้ามนั อยา่ งละเอียด
9.2.6 วธิ ีการเกบ็ และบารุงรักษา
1. อยา่ เกบ็ เกจกา้ มปูรวมกบั เครื่องมืออ่ืน ๆ
2. หลงั จากเลิกใชแ้ ลว้ ใหเ้ ช็ดดว้ ยผา้ สะอาดแลว้ จึงทาน้ามนั กนั สนิม
3. หา้ มเก็บไวใ้ นท่ี ๆ มีอุณหภูมิร้อนจดั หรือเยน็ จดั เกินไป
9.3 เกจทรงกระบอก
9.3.1 ลกั ษณะของเกจทรงกระบอก
เกจทรงกระบอก (Plug gauge) ใชส้ าหรับตรวจสอบขนาดของรูตา่ ง ๆ สาหรับรูปร่างของ
เกจทรงกระบอกน้นั โดยทว่ั ไปแบง่ ออกเป็น 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ด้ามจับ ท่ีดา้ มจบั จะพมิ พล์ ายกนั ลื่นเพ่อื ใหจ้ บั ชิ้นงานไดส้ ะดวก ตรงกลางของดา้ ม
จบั จะมีตวั เลขกาหนดขนาดของเกจทรงกระบอก แต่ถา้ เป็ นเกจทรงกระบอกท่ีใชต้ รวจสอบความโตในรูที่เป็น
มาตรฐาน จะมีสัญลกั ษณ์เป็นตวั อกั ษรและมีตวั เลขต่อทา้ ยขนาดกาหนดเช่น 25H7, 30S7 เป็นตน้ ปลายสุดของดา้ ม
จบั จะมีเครื่องหมายบวกหรือลบและตวั เลขจานวนเตม็ มีหน่วยเป็น µm (หารดว้ ย 1000 เป็นมิลลิเมตร) ซ่ึงเม่ือ
เปลี่ยนเป็นมิลลิเมตรแลว้ นาไปบวกหรือลบออกจากขนาดกาหนดตามเคร่ืองหมายที่อยูข่ า้ งหนา้ จะเป็นขนาดที่
แทจ้ ริงของเกจทรงกระบอกของดา้ นน้นั
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 15/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
ภาพที่ 9-28
ส่วนที่ 2 ด้านวดั ทใ่ี ช้งานไม่ได้หรือด้านเสีย (NOT GO) ซ่ึงจะมีสีแดงทาเอาไว้ ขนาดของ
ดา้ นเสียจะเทา่ กบั ขนาดความโตสูงสุดที่ยอมให้ หรือมีคา่ เทา่ กบั ขนาดกาหนดบวกหรือลบดว้ ยคา่ สูงสุดของพิกดั
ส่วนท่ี 3 ด้านทใ่ี ช้งานได้หรือด้านดี (GO) จะมีความหนามากกวา่ ดา้ นเสีย ขนาดของดา้ นดีน้ี
จะเทา่ กบั ขนาดความโตต่าสุดที่ยอมใหไ้ ด้ หรือมีคา่ เทา่ กบั ขนาดกาหนดบวกหรือลบดว้ ยคา่ ต่าสุดของพิกดั
9.3.2 การใช้เกจทรงกระบอก
เกจทรงกระบอกเป็นเครื่องมือใชต้ รวจสอบชิ้นงานวา่ ใชไ้ ดห้ รือไม่เท่าน้นั แตไ่ มส่ ามารถ
บอกไดว้ า่ ขนาดความโตในของรูท่ีแทจ้ ริงมีคา่ เท่าใด ชิ้นงานท่ีตรวจสอบจะถูกตอ้ งหรือไมข่ ้ึนอยกู่ บั ความรู้สึก
สัมผสั และวธิ ีใชท้ ่ีถูกตอ้ ง
ภาพท่ี 9-29
ดา้ นเสียไม่สามารถสวมผา่ นได้ ดา้ นดีสามารถสวมผา่ นได้
ขนาดความโตในของรูจะอยูใ่ นคา่ พิกดั ความเผอื่ แสดงวา่ ชิ้นงานใชไ้ ด้
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 16/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
ภาพที่ 9-30
ดา้ นเสียและดา้ นดีไมส่ ามารถสวมผา่ นได้
ขนาดความโตของรูในจะเล็กกวา่ คา่ พิกดั ความเผอื่ แสดงวา่ ชิ้นงานใชไ้ ม่ได้
ภาพที่ 9-31
ดา้ นเสียและดา้ นดีสามารถสวมผา่ นได้
ขนาดความโตของรูในจะโตกวา่ ค่าพิกดั ความเผอื่ แสดงวา่ ชิ้นงานใชไ้ ม่ได้
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 17/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
9.3.3 การตรวจสอบชิ้นงานด้วยเกจทรงกระบอก
การตรวจสอบชิ้นงานในแนวต้งั ใชม้ ือจบั เกจทรงกระบอกที่ดา้ มจบั ใหอ้ ยเู่ หนือชิ้นงาน และ
สมั ผสั กบั ผวิ ชิ้นงานโดยใหแ้ กนกลางของเกจทรงกระบอกกบั ของรูเป็ นเส้นตรงเดียวกนั ปล่อยมือใหเ้ กจทรง
กระบอกผา่ นผวิ งานดว้ ยน้าหนกั ของตวั เอง
ภาพที่ 9-32 ภาพท่ี 9-33
การตรวจสอบชิ้นงานในแนวนอน ใหป้ ลายเกจทรงกระบอกจอ่ ที่ปากรู ขยบั ดา้ มจบั เบา ๆ
แลว้ คอ่ ย ๆ ใส่โดยใหเ้ กจทรงกระบอกต้งั ฉากกบั แกนกลาง หลกั จากน้นั จึงออกแรงดนั เขา้ ไป
ภาพที่ 9-34
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 18/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
9.3.4 ข้อควรระวงั
1.) ทาความสะอาดชิ้นงานและเกจทรงกระบอกก่อนใชท้ ุกคร้ัง
2.) ผวิ งานจะใชต้ รวจสอบดว้ ยเกจทรงกระบอกจะตอ้ งมีผวิ เรียบและผา่ นการเจียระไนมาแลว้
3.) รูท่ีใชต้ รวจสอบขนาดดว้ ยเกจทรงกระบอกจะตอ้ งเป็นรูที่ทะลุตลอด หรือถา้ ไม่ทะลุตลอด
ใหใ้ ชเ้ กจทรงกระบอกที่ระบายอากาศได้
4.) จะตอ้ งลบคมชิ้นงานเสียก่อนนามาตรวจสอบดว้ ยเกจทรงกระบอก
5.) จะตอ้ งวางเกจทรงกระบอกใหอ้ ยใู่ นแนวร่วมศูนยก์ บั รู
6.) ใหเ้ กจทรงกระบอกผา่ นเขา้ ไปในชิ้นงานดว้ ยน้าหนกั ของตวั เอง อยา่ ออกแรงดนั
7.) เม่ือสวมลงไปในชิ้นงานแลว้ อยา่ หมุนเกจทรงกระบอก
8.) เม่ือสวมเกจทรงกระบอกไม่เขา้ ควรหมุนเปลี่ยนตาแหน่ง ก่อนหมุนตอ้ งยกใหพ้ น้ ผิวงาน
เสียก่อน
9.) ควรยดึ หรือจบั ชิ้นงานให้แน่นก่อนตรวจสอบ
10.) อยา่ ใชต้ รวจสอบงานที่กาลงั หมุนหรือเกือบหยดุ หมุน
11.) อยา่ ใชต้ รวจสอบชิ้นงานขณะที่ร้อน
12.) ขณะใชค้ วรจบั ท่ีดา้ มของเกจทรงกระบอกเท่าน้นั
13.) ก่อนใชเ้ กจทรงกระบอกจะตอ้ งตรวจสอบดูความเรียบร้อย เช่น มีรอยเยนิ ท่ีเกิดจากการ
ตกหล่นหรือไม่ ถา้ มีใหล้ บออกดว้ ยหินน้ามนั อยา่ งละเอียด
14.) เมื่อไมใ่ ชง้ านให้วางไวใ้ นกล่องไมห้ รือต้งั ข้ึน เพราะถา้ วางกบั พ้นื อาจจะกลิ้งตกพ้นื ได้
9.3.5 วธิ ีการเกบ็ บารุงรักษา
1.) หลกั จากเลิกใชแ้ ลว้ ใหร้ ีบเช็ดดว้ ยผา้ ท่ีสะอาด และทาน้ามนั กนั สนิม
2.) ขณะเก็บควรแยกจากกนั เพ่ือป้องกนั ไมใ่ หก้ ลิ้งมากระทบกนั
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 19/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
9.4 หววี ดั ฟันเกลยี ว (Thread Pitch Gauge)
การผลิตเกลียวข้ึนมาใหมด่ ว้ ยเคร่ืองกลึง หรือการกาหนดขนาดเพ่อื จดั ซ้ือ จาเป็นตอ้ งทราบคา่
ระยะพติ ช์ (Pitch) ของเกลียวตวั เดิมเสียก่อน การหาระยะพิตช์ของเกลียวสามารถกระทาไดห้ ลายวธิ ี เช่น ใช้
เคร่ืองมือวดั วดั ระยะห่างของสันเกลียว ซ่ึงวดั ไดไ้ มส่ ะดวกนกั และไดค้ ่าที่ไมล่ ะเอียดพอ เนื่องจากสันเกลียว
แหลม โดยเฉพาะการวดั ระยะพติ ช์ของเกลียวใน ดงั น้นั การวดั ระยะพติ ช์และการตรวจสอบความถูกตอ้ งของรูป
ฟันเกลียวไดส้ ะดวกและรวดเร็วจึงใชเ้ คร่ืองมือตรวจสอบท่ีมีช่ือวา่ “หววี ดั ฟันเกลียว”
ภาพท่ี 9-34 ลกั ษณะเกลยี วเมตริก
9.4.1 ลกั ษณะสร้างของหววี ดั ฟันเกลยี ว
หววี ดั ฟันเกลียวจดั ทามาเป็นชุด ๆ หน่ึงมีหลายแผน่
แตล่ ะแผน่ จะทาเป็ นรูปฟันเกลียวพร้อมตวั เลขแสดงระยะพิตช์
ต่าง ๆ กนั ตามลาดบั และร้อยดว้ ยสลกั เกบ็ ไวใ้ นดา้ มจบั ท้งั สอง
ดา้ น สาหรับเกลียวเมตริก ตาม DIN 13/14 จะมีท้งั หมด 24 แผน่
โดยเริ่มจากระยะพิตช์ละเอียดสุด 0.25 มม. ถึงหยาบสุด 6.00
มม. หววี ดั ฟันเกลียวทาจากเหล็กแผน่ สปริงแต่ละแผน่ มี
ภาพที่ 9-35 ลกั ษณะหววี ดั ฟันเกลยี ว ความหนาประมาณ 0.60 มม.
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 20/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
9.4.2 ชนิดของหววี ดั เกลียว
ระบบเมตริก มีระยะ ฟิ ตต้งั แต่ 0.25 – 6 มม.
ระบบองั กฤษ มีขนาดเกลียวต่อนิ้ว ต้งั แต่ 62 – 4 เกลียวตอ่ นิ้ว
ภาพท่ี 9-36 หววี ดั เกลยี ว
9.4.3 การใช้หววี ดั ฟันเกลยี ว
หววี ดั ฟันเกลียวสามารถใชง้ านได้ 2 ลกั ษณะ คือ
1.) การตรวจสอบระยะพติ ช์ของเกลียว
ใชว้ ดั หาระยะพิตช์ของเกลียวนอกและ
เกลียวใน วธิ ีใช้ เลือกแผน่ ท่ีมีระยะพติ ชใ์ กลเ้ คียงกบั
ระยะพติ ชข์ องเกลียว แลว้ วางทาบลงบนสันเกลียว
ส่วนแผน่ ท่ีเหลือท้งั หมดใหพ้ บั เก็บไวใ้ นดา้ มจบั ถา้
ไม่สามารถวางทาบลงบนสันเกลียวไดท้ ุกฟันให้
เปลี่ยนแผน่ ใหม่จนสามารถวางทาบลงไดท้ ุกฟัน
ภาพท่ี 9-37 การตรวจสอบระยะพิตช์เกลียวนอก อา่ นระยะพิตชข์ องเกลียวจากตวั เลขนบแผน่ หววี ดั
ฟันเกลียว
ภาพท่ี 9-38 การตรวจสอบระยะพิตช์เกลยี วใน
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 21/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
2.) การตรวจสอบรูปฟันเกลียว
ใชต้ รวจสอบความถูกตอ้ งของรูปฟันเกลียว เช่น ความลึก มุมรวม มุมแต่ละดา้ น ส่วน
โคง้ ท่ีกน้ ร่องและความหนาของสันเกลียวในกรณีท่ีไมต่ อ้ งการความละเอียดมากนกั โดยหนั หนา้ เขา้ หาแสง
สวา่ งหรือกล่องไฟ โดยวางทาบหววี ดั ฟันเกลียวลงบนสันเกลียว สงั เกตแสงท่ีลอดผา่ นมาระหวา่ งหววี ดั ฟัน
เกลียวกบั เกลียวของชิ้นงาน ดงั ภาพที่ 9-39 และภาพท่ี 9-40
ภาพที่ 9-39 รูปฟันเกลยี วท่ีถกู ต้อง
ภาพที่ 9-40 รูปฟันเกลยี วท่ีไม่ถกู ต้อง มมี มุ เอียง
หมายเหตุ การตรวจสอบรูปฟันเกลียวดว้ ยหววี ดั ฟันเกลียว จะตรวจสอบไดเ้ ฉพาะเกลียวนอกท่ีมีขนาดโต
พอท่ีจะเห็นแสงลอดผา่ นไดเ้ ทา่ น้นั
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 22/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
9.4.4 วธิ ีการวดั ด้วยหววี ดั ฟันเกลยี ว
วธิ ีการวดั หาระยะพติ ชข์ องเกลียวหรือตรวจสอบความถูกตอ้ งของเกลียวจะวดั ค่าไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ งก็ตอ่ เมื่อไดว้ างทาบหววี ดั ฟันเกลียวลงบนเกลียวชิ้นงานในตาแหน่งท่ีถูกตอ้ ง ฟันเกลียวของแผน่ หววี ดั
ฟันเกลียวจะตอ้ งวางแนบสนิทกบั ทุกฟันของเกลียวชิ้นงานและอยใู่ นแนวเดียวกบั แกนศูนยก์ ลางชิ้นงาน ดงั ภาพ
ท่ี 9-41
ภาพที่ 9-41 แนวตาแหน่งวางหววี ดั ฟันเกลยี ว
9.4.5 ข้อควรระวงั ในการใช้หววี ดั ฟันเกลยี ว
1.) ก่อนวางทาบหววี ดั ฟันเกลียวควรทาความสะอาดเกลียวและหววี ดั ฟันเกลียวเสียก่อน
โดยเฉพาะเกลียวละเอียดและเกลียวใน
2.) ขณะใชง้ านใหน้ าออกมาใชท้ ีละใบส่วนใบท่ีไมใ่ ช้ ใหพ้ บั เกบ็ ไวใ้ นดา้ มจบั
3.) อยา่ เกบ็ หววี ดั ฟันเกลียวรวมกบั เครื่องมือวดั อื่น ๆ
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 23/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
9.5 เกจวดั ความโตรูคว้าน (TELESCOPING GAUGE SETS)
เกจวดั ความโตรูควา้ น เป็นเคร่ืองมือวดั ประเภทถ่ายทอดขนาด ลกั ษณะการใชง้ านเพ่ือใชว้ ดั
เส้นผา่ ศูนยก์ ลางรูขนาดโตที่ไมส่ ามารถใชเ้ ครื่องมือวดั แบบมีสเกลเขา้ ไปวดั ได้ นาเกจวดั ขนาดรูที่วดั ไดม้ า
เปรียบเทียบหรือวดั ขนาดจากเวอร์เนียคาลิปเปอร์ หรือไมโครมิเตอร์ เพอื่ ใหท้ ราบค่าและขนาดท่ีวดั ได้
ภาพท่ี 9-41 เกจวัดความโตรูคว้านระบบเมตริก
เกจวดั ความโตรูควา้ น 1 ชุด ประกอบดว้ ยเกจวดั ขนาดต่าง ๆ กนั จานวน 6 ตวั เพ่ือใหส้ ามารถ
เลือกใชใ้ หเ้ หมาะสมกบั ขนาดของรูชิ้นงาน ขนาดของเกจวดั ในระบบเมตริกรูใหญ่กวา่ 8 มม. ข้ึนไป และไม่เกิน
150 มม. ในระบบองั กฤษรูขนาด 5 นิ้วข้ึนไป และไมเ่ กิน 6 นิ้ว
16
9.5.1 เกจวดั ความโตรูคว้านระบบเมตริก
ตวั ที่ 1 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 8 – 12.7 มม.
ตวั ที่ 2 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 12.7 – 19 มม.
ตวั ที่ 3 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 19 – 32 มม.
ตวั ที่ 4 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 32 – 54 มม.
ตวั ท่ี 5 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 54 – 90 มม.
ตวั ที่ 6 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 90 – 150 มม.
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 24/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
9.5.2 เกจวดั ความโตรูคว้านระบบองั กฤษ 5 1 นิ้ว
ตวั ที่ 1 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 16 2 นิ้ว
ตวั ท่ี 2 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 13 นิ้ว
ตวั ที่ 3 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 24 นิ้ว
ตวั ที่ 4 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ นิ้ว
ตวั ท่ี 5 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 3 11 นิ้ว
ตวั ท่ี 6 วดั ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางไดต้ ้งั แต่ 44
11 21
48
21 31
82
31 6
4
9.5.3 ข้นั ตอนในการใช้เกจวดั ความโตรูคว้านวดั ขนาดงาน
1.) ทาความสะอาดเกจวดั และรูของชิ้นงาน
2.) ใชบ้ รรทดั วดั ขนาดรูชิ้นงานและเลือกใชเ้ กจวดั ใหม้ ีขนาดใกลเ้ คียงกบั ขนาดชิ้นงาน
3.) หุบแกนวดั ท้งั 2 ขา้ ง ใหเ้ ล็กกวา่ รูชิ้นแลว้ ลอ็ คไว้
4.) สวมเกจวดั เขา้ ไปในรูชิ้นงานคลายลอ็ คหวั สกรู ใหแ้ กนวดั ดนั ออกมาสัมผสั กบั ผวิ ชิ้นงาน
ดงั รูปที่ 9.42
5.) เม่ือแกนวดั สมั ผสั กบั ผวิ งานพอดีแลว้ ลอ็ คหวั สกรู ดงั รูปท่ี 9-43
6.) คอ่ ยเอียงเกจวดั แลว้ เอาออกมาภายนอก
7.) นาเกจวดั งานมาวดั ถ่ายขนาดจากไมโครมิเตอร์ หรือเวอร์เนียและอา่ นคา่ ที่วดั ได้ ดงั รูปท่ี
9-44
ภาพที่ 9-42 สวมเกจวดั เข้าไปในรูชิ้นงานคลายสกรูลอ็ คให้แกนวดั ออกสัมผสั รูชิ้นงาน
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 25/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
ภาพท่ี 9-43 การวดั ขนาดรูชิ้นงานและลอ็ คสกรูแกนวัด
ภาพท่ี 9-44 นาเกจวดั มาวดั ถ่ายขนาดจากไมโครมิเตอร์
9.6 การตรวจสอบเรียว
ในการผลิตชิ้นงานเรียว สามารถทาไดด้ ว้ ยการกลึงเรียว บนเคร่ืองกลึงการเจียระไนเรียว การ
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ของรูงานในส่วนของมุมเรียว ขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลางระยะต่าง ๆ ตลอดจนความยาวเรียว
ในการใชเ้ คร่ืองมือตรวจสอบวดั ขนาดความเรียวไดย้ ากเพราะฉะน้นั การตรวจสอบวดั รูเรียวไดส้ ะดวกและ
รวดเร็วจึงใชเ้ กจเพลาเรียวเป็ นตวั ตรวจสอบ
ประเภทของการตรวจสอบเรียว
1.) การตรวจสอบเรียวภายนอก โดยใชเ้ กจวดั เพลาเรียว (Taper Plug Gauge)
2.) การตรวจสอบเรียวภายใน โดยใชเ้ กจรูเรียว (Taper Ring Gauge)
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 26/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
9.6.1 เกจวดั เพลาเรียว (Taper Plug Gauge)
ภาพท่ี 9-45 เกจวดั เพลาเรียว
ส่วนประกอบของเกจวดั เพลาเรียว
ลกั ษณะของเกจวดั เพลาเรียวดา้ มจบั จะเป็นปลอกพมิ พล์ ายนามาสวมใส่เพ่อื ทาใหส้ ามารถจบั
เพลาเรียวไดถ้ นดั ขณะใชง้ าน ที่ดา้ มจะมีรายละเอียดขนาดบอกไว้ ส่วนประกอบของเกจวดั เพลาเรียวดงั น้ี
1.) เป็นงานกลึงเรียวและผา่ นการเจียระไน ใหม้ ีขนาดไดม้ าตรฐานเรียวตา่ ง ๆ เช่น เรียวระบบ
มอส (MORSE) วสั ดุท่ีใชท้ าลาตวั แทง่ ทาจากเหลก็ แขง็ คุณภาพสูงผา่ นการชุบแขง็ และเจียระไนใหไ้ ดข้ นาด
2.) ปลายกน่ั อยสู่ ่วนปลายดา้ มมีลกั ษณะเช่นเดียวกบั ปลายของดอกสวา่ นกา้ นเรียวเป็นตวั
ตรวจสอบระยะห่างของร่องในการทาปลอกเรียว
3.) ส่วนปลายท้งั สองขา้ ง จะถูกเจาะรูยนั ศูนยไ์ ว้ เพ่ือใชท้ ดสอบจบั ยนั ศูนยห์ วั ทา้ ยของแทง่
ทดสอบบนเคร่ืองกลึงเพื่อลอกขนาดเพอ่ื เอียงทามุมเรียวบนเคร่ืองกลึง เพอ่ื กลึงเพลาเรียวใหไ้ ดข้ นาดตาม
ตน้ แบบ
9.6.2 ข้นั ตอนการตรวจสอบรูเรียวโดยใช้เกจเพลาเรียวทดสอบ
1.) ทาความสะอาดรูเรียวท่ีตอ้ งการทดสอบ
2.) เลือกเกจเพลาเรียวใหใ้ กลเ้ คียงกบั ขนาดรู
3.) ใชช้ อลค์ หรือปากกาเคมีที่มีสีเห็นชดั ขีดเป็ นเส้นยาวตามความยาวของเรียวโดยรอบ 3 เส้น
4.) จึงใส่เกจเพลาเรียวเขา้ ไปในรู
5.) ดนั เกจเพลาเรียวเขา้ ไปในรูใหส้ ุดและหมุนไปทางเดียวใหร้ อบ
6.) ดึงเกจออกจากรูเรียว
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 27/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
7.) สังเกตดูวา่ สีที่ทาไวบ้ นเกจส่วนใดหายไป แสดงวา่ บริเวณน้นั จะเป็นส่วนของเพลาที่ความ
เรียวไม่ถูกตอ้ งจะตอ้ งกลึงบริเวณน้นั ออก
8.) การใชเ้ กจเพลาเรียวจะตอ้ งตรวจสอบหลาย ๆ คร้ังจนกระทงั่ เมื่อใส่เกจเขา้ ไปแลว้ ตลอด
ความยาวของเกจสีจะถูกลบหมดตลอดท้งั แนวแสดงวา่ รูเรียวน้นั ไดข้ นาดรูเรียวไดม้ าตรฐาน
ภาพที่ 9-46 การใช้ชอล์คทาบนเกจเพลาเรียว
ภาพท่ี 9-47 การใส่เกจวดั เพลาเรียวเข้าไปในรู
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 28/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
ภาพที่ 9-48 การหมนุ เกจเพลาเรียวเพื่อตรวจสอบหารอยชอล์ค
ภาพท่ี 9-49 อัตราเรียวของงานถกู ต้อง สีโคนเรียวลอกออกเท่ากนั
ภาพท่ี 9-50 อัตราเรียวของงานมากเกินไป สีโคนเรียวลอกออกที่ปลายกั่น
ภาพที่ 9-51 อัตราเรียวของงานน้อยเกินไป สีโคนเรียวลอกออกที่ใกล้ด้ามจับ
9.6.3 ข้อควรระวงั ในการใช้เพลาเรียว
1. รูเรียวท่ีตอ้ งทดสอบ ควรมีผวิ เรียบ
2. ทาความสะอาดบริเวณภายในรูของชิ้นงานไมค่ วรมีคราบน้ามนั หลงเหลืออยู่
3. การใชเ้ กจเพลาเรียวตรวจสอบวดั รูเรียว ควรหมุนเพียงรอบเดียวไมค่ วรหมุนหลายรอบ
4. หลงั เลิกใชแ้ ลว้ ควรชโลมน้ามนั บริเวณเรียวก่อนเกบ็
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 29/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ
9.6.4 เกจวดั รูเรียว (TAPER RING GAUGE)
เกจวดั รูเรียว ถูกสร้างข้ึนมาเพอื่ ใชต้ รวจสอบความเรียวของเพลามาตรฐาน
ภาพท่ี 9-52 เกจวดั รูเรียว
9.6.5 ลกั ษณะของเกจวดั รูเรียว
เกจวดั รูเรียวถูกผลิตข้ึนมาดว้ ยการกลึงรูเรียวโดยใชเ้ ครื่องกลึงใหใ้ กลเ้ คียงกบั ขนาดแลว้
เจียระไนรูในใหม้ ีผวิ เรียบและไดข้ นาดมาตรฐาน
วสั ดุท่ีใช้ ทาจากเหล็กแขง็ ที่มีคุณภาพสูงเมื่อกลึงเสร็จแลว้ จะนาไปชุบแขง็ และใชเ้ คร่ือง
เจียระไนใหไ้ ดข้ นาดมาตรฐาน
9.6.6 วธิ ีการตรวจสอบโดยใช้เกจวดั รูเรียว
1. ทาความสะอาดเพลาท่ีตอ้ งการตรวจสอบ
2. เลือกเกจวดั รูเรียวที่มีขนาดใกลเ้ คียงกบั เพลาท่ีตอ้ งการทดสอบทาความสะอาดใหเ้ รียบร้อย
3. ขีดเส้นบาง ๆ ตรงกลางของเพลาเรียวตามความยาวของเรียว 3 เส้นรอบเพลาเรียว
4. ใส่เกจวดั รูเรียว เขา้ ไปในเพลาดนั จนติด
5. หมุนเกจวดั รูเรียวไปทางเดียวโดยรอบ
6. ถอดเกจออกมาใหส้ ังเกตดูที่เพลาเรียววา่ สีที่ทาไวบ้ ริเวณส่วนใดถูกลบออกมากที่สุด
แสดงวา่ ส่วนน้นั ความเรียวยงั ไมไ่ ดข้ นาดจะตอ้ งกลึงบริเวณน้นั ออก
7. ตรวจสอบแบบน้ีหลายคร้ังจนกระทง่ั สีที่ติดบนเพลาถูกลบออกเทา่ ๆ กนั ตลอดความ
ยาวแสดงวา่ ขนาดความเรียวไดต้ ามมาตรฐาน
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 30/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
ภาพที่ 9-53 การทาสีชอล์คบนเพลาเรียวเพ่ือตรวจสอบ
ภาพที่ 9-54 ใส่เกจวดั รูเรียวเข้าไปในเพลา
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 31/31
หน่วยการเรียนที่ 9 : เกจ
ภาพที่ 9-55 หมนุ รูเรียวบนเพลาและดึงออก
ภาพท่ี 9-56 ขนาดความโตของเพลาถกู ต้อง ปลายด้านเลก็ อย่รู ะหว่างผิวต่างระดบั ทั้งสองพอดี
ภาพที่ 9-57 ขนาดความโตของเพลาจะเลก็ เกินไป ปลายด้านเลก็ อย่เู ลยผิวต่างระดบั ท้ังสองออกไป
ภาพท่ี 9-58 ขนาดความโตของเพลาจะโตเกินไป ปลายด้านเลก็ ยงั ไม่ถึงผิวต่างระดบั ทั้งสองความโต
วชิ า : การวดั ละเอยี ด ใบเนื้อหา 32/31
หน่วยการเรียนท่ี 9 : เกจ