บุคคลสำคัญของ
นาฏศิลป์ไทย
รัตติยะ วิกสิตพงศ์
นายฐปนรรฆ์ แวววีรคุปต์ ม.5/4 เลขที่ 26
ประวัติ
นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์ ปัจจุบันอายุ ๘๑ ปี เกิดวันที่ ๒๖ กรกฎาคม
พ.ศ. ๒๔๗๙ ที่ตรอกบางวัดพระยาไกร เขตพระนคร พ.ศ. ๒๕๐๓ สำเร็จ
การศึกษาระดับประกาศนียบัตรนาฏศิลป์ชั้นสูง ที่วิทยาลัยนาฏศิลป กรม
ศิลปากร ต่อมาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศึกษาศาสตรบัณฑิต
สาขานาฏศิลป์ไทย คณะนาฏศิลป์และดุริยางค์ วิทยาลัยเทคโนโลยีและ
อาชีวศึกษา เข้ารับราชการในตำแหน่งศิลปินจัตวา และตำแหน่งครู สอน
นาฏศิลป์ไทย (ละคร) ที่โรงเรียนนาฏศิลป กรมศิลปากร ตำแหน่งสุดท้าย
ก่อนเกษียณอายุราชการคือ ผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฏศิลปกรมศิลปากร
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์ไทย (ละคร - พระ)
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม
“นาฏศิลป์ในสายเลือด”
สมัยก่อนมีรำวง รำโทน ตอนเป็นเด็ก ๆ ก็จะลุกขึ้นรำวง คุณพ่อ คุณแม่
คุณตา คุณยาย ก็เห็นแววเรามาตั้งแต่ตอนเด็ก ๆ ว่าชอบเรื่องรำ ซึ่งคุณแม่
เห็นลูกสาวชอบทางด้านรำ
พอหลังจากจบม.1 ที่โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ก็เลยให้มาเรียนทางด้าน
นาฏศิลป์ดีกว่า พอดีมีอาจารย์พินิจ สุวรรณบุญ ศิลปินแห่งชาติ ของกรม
ศิลปากรในสมัยนั้น ได้แนะนำให้มาเรียนที่โรงเรียนนาฏศิลป
ก็เลยมาเรียน ม.1 ซ้ำที่โรงเรียนนาฏศิลปใหม่
เริ่มมาเข้าเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลปในปี พ.ศ.2492 เรียนตั้งแต่ชั้น ม.1
จนจบชั้นกลาง 3 แล้วต่อในระดับชั้นสูง เรียนทั้งหมด 11 ปี (ม.1-6,กลาง 1-
3 และสูง 1-2) ตอนที่เรียนชั้นกลาง 1-2 ได้สอบเป็นศิลปินสำรอง ซึ่งเด็ก
ๆ ที่มีแววจะได้เป็นศิลปินสำรอง จะมีเงินเดือนให้ เริ่มตั้งแต่ 15 บาท แล้ว
ก็ปรับเพิ่มขึ้นจนเป็น 45 บาท มีการสอบเป็นศิลปินจัตวา พอจบชั้นกลาง
3 ได้เงิน 350 บาท แล้วปรับขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึง 600 บาท
พอจบปริญญาตรีในปี พ.ศ.2503 สอบบรรจุได้เป็นชั้นตรีที่วิทยาลัย
นาฏศิลป์ ได้เงินเดือน 750 บาท 850 บาท และ 900 บาท ก็เยอะมากใน
สมัยนั้น จากนักเรียน จนมาเป็นครู ก็อยู่ที่กรมศิลปากรมาตลอดร่วม 60
ปีได้แล้ว จะเรียกว่าเป็นลูกหม้อของกรมศิลปากร ก็ว่าได้ ลูกศิษย์กี่รุ่น ๆ
ก็ผ่านหน้าท่าน จะมีทั้งที่สอนประจำและสอนตามชั้นต่าง ๆ ด้วย
ความเชี่ยวชาญ
นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์ เป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชานาฏศิลป์ทั้งในด้าน
ทฤษฎีและการปฏิบัติ มีความสามารถสูงในการแสดงหลายบทบาททั้ง
บทพระเอก นางเอก และบทบาทที่ต้องอาศัยทักษะพิเศษ โดยเฉพาะตัว
ละครที่จัดอยู่ในประเภท “พระใหญ่” เช่นเทพเจ้า กษัตริย์ ทั้งนี้ ด้วย
บุคลิกลักษณะที่สง่างามลีลาท่ารำมีอัตลักษณ์ซึ่งในวงการนาฏศิลป์
ยกย่องว่าเป็นรำแบบ “ทีพระทีพระยา” บทบาทต่างๆ ที่สร้างชื่อเสียงให้
เป็นที่ประจักษ์ ได้แก่ การแสดงโขน เป็นพระอิศวร พระราม พระพรต
ละครใน เป็นท้าวดาหา ปะการะกาหลา ท้าวดาหา สุหรานากง ละครนอก
เป็นเจ้าเงาะ(ออกเพลงกลม) ท้าวรำไพ ชาละวัน ละครชาตรี เป็นรถเสน
ท้าวอาทิตยวงศ์,ท้าวทุมราช,ละครพันทางเป็นพญางำเมือง
ปู่เจ้าสมิงพราย เป็นต้น
นอกจากเป็นนักแสดงที่มีผลงานการแสดงทั้งในประเทศและต่าง
ประเทศแล้วยังมีความสามารถในการกำกับการแสดง ได้ออกแบบ
สร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปะการแสดงให้กับหน่วยงานในสังกัดและ
หน่วยงานอื่นๆ เป็นจำนวนมากและด้วยความรัก ศรัธทาในวิชาชีพจึงมุ่ง
มั่นทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้ด้านนาฏศิลป์ไทยให้กับสถานศึกษาสังกัด
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์และสถาบันการศึกษาอื่นๆ อีกหลายแห่ง
คุณประโยชน์
การสร้างคุณประโยชน์ที่สำคัญต่อการอนุรักษ์ สืบสาน สืบทอด
และการพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมของชาติ เพื่อฝากไว้เป็นสมบัติ
แก่อนุชนรุ่นหลังได้ภาคภูมิใจ และเป็นการประกาศเกียรติคุณให้เป็น
ที่ประจักษ์ในสังคมโลก โดยผ่านการอุทิศตนมาโดยตลอดระยะเวลาที่
ยาวนาน เป็นผู้ที่พร้อมด้วยความเมตตา ยกย่องและให้เกียรติ แม้แต่
ผู้ที่มีอาวุโสน้อยกว่า มีศิษย์ที่ผ่านการอบรมสั่งสอน เพื่อสานต่อการ
ธำรงรักษาภูมิปัญญาของบรรพบุรุษมากมายทั่วทุกภูมิภาค นับว่า
ท่านได้สร้างคุณูปการต่องานศิลปวัฒนธรรม สิ่งที่เน้นให้เห็น
คุณลักษณะพิเศษ คือ ในปี พ.ศ.๒๕๓๙ ได้รับเข็ม "คุรุสดุดี" ในฐานะ
ครูผู้ประพฤติตนมีจรรยามารยาทดีเด่น อันถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่
อนุชนรุ่นหลัง เป็นปูชนียบุคคลที่ควรยึดเป็นต้นแบบอย่างยิ่ง
สรุป
การศึกษา
•ท่านจบการศึกษาระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนอัสลาฟียะห์มัธยมปีที่1
โรงเรียนศรีสุริโยทัย
•สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรนาฏศิลป์ชั้นต้นชั้นกลางชั้นสูงที่โรงเรียน
นาฏศิลป กรุงเทพฯ
•ระดับปริญญาตรีสาขานาฏศิลป์ไทย คณะนาฏดุริยางค์วิทยาลัยเทคโนโลยี
และอาชีวะศึกษา (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พระนคร)
ผลงาน การทำงานด้านศิลปะการแสด
งท่านได้รับบทตัวละครสำคัญ อาทิ
• โขน เรื่องรามเกียรติ์ รับบทเป็น พระอิศวร พระพรต พระราม
• ละครใน เรื่องอิเหนา ระบท ประตาระการหลาเทพเจ้า ท้าวดาหา ฯลฯ
• ละครนอก เรื่องขุนช้างขุนแผน รับบทขุนแผน พลายเพชร พลายชุมพล
• เรื่องเงาะป่า รับบทพ่อนางลำหับ ฯลฯ
นางรัตติยะ วิกสิตพงศ์ จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ
เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย)
พุทธศักราช ๒๕๖๐