45 สูตรในการคำนวณ IOC = ∑ R N เมื่อ IOC คือ ดัชนีความสอดคล้อง ∑ R คือ ผลรวมของความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ N คือ จำนวนของผู้เชี่ยวชาญ 6.3 สถิติพื้นฐานใช้ค่าเฉลี่ย X และค่าเฉลี่ยเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป ทำสถิติสำหรับข้อมูลทางสังคมศาสตร์ ̅= ∑ เมื่อ ̅ แทนค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง ∑ แทนค่าเฉลี่ย n แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง S. D. = √ ∑ (− ̅) 2 =1 เมื่อ S.D. แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ =1 แทน ผลรวมของข้อมูลทั้งหมด แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง n แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง
46 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยเรื่องผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึก แบบสถานีเพื่อพัฒนาการเลี้ยงบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและ หลังเรียน ผู้วิจัยขอนำเสนอผลการวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์ได้ดังนี้ ตอนที่ 1 ผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึกแบบ สถานีเพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตารางที่ 1 ผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึก แบบสถานีเพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนฝึกและ หลังฝึก คนที่ ก่อนฝึก 10 คะแนน หลังฝึก 10 คะแนน คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ 1 2 20 5 50 2 3 30 4 40 3 5 50 6 60 4 2 20 5 50 5 3 30 4 40 6 0 0 3 30 7 1 10 2 20 8 2 20 3 30 9 1 10 4 40 10 3 30 7 70 11 1 10 8 80 12 2 20 5 50 13 0 0 3 30 14 0 0 2 20 15 1 10 5 50 16 0 0 7 70 17 1 10 2 20 18 0 0 5 50
47 คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ 19 2 20 6 60 20 1 10 5 50 21 0 0 5 0 22 0 0 4 40 23 2 20 4 40 24 3 30 3 30 25 0 0 6 60 26 1 10 2 20 27 0 0 5 50 ̅ 1.33 13.33 4.44 42.59 S.D. 1.30 - 1.62 - จากตารางที่ 1 พบว่า การจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึก แบบสถานีเพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนฝึกและ หลังฝึก คะแนนเต็ม 10 คะแนน มีค่าเฉลี่ยก่อนฝึกเท่ากับ 1.33 คิดเป็นร้อยละ 13.33 ค่าเฉลี่ยหลังฝึก เท่ากับ 4.42 คิดเป็นร้อยละ 42.59 และค่าเฉลี่ยผลต่างเพิ่มขึ้น 29.26 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ก่อนฝึก 1.33 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังฝึก 1.62 ผลต่างค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อนฝึกและ หลังฝึกเท่ากับ 0.32 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 มีทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลกีฬา บาสเกตบอลหลังฝึกสูงกว่าก่อนฝึก ตอนที่ 2 ผลจากการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้ รูปแบบการฝึกแบบสถานีเพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ตารางที่ 2 ตารางผลการเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้ รูปแบบการฝึกแบบสถานีเพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ผลการทดลอง ̅ S.D. ร้อยละ ก่อนฝึก 1.33 1.30 13.33 หลังฝึก 4.44 1.62 42.59
48 บทที่ 5 สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแสนอแนะ การวิจัยเรื่องผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึก แบบสถานี เพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผู้วิจัยนำเสนอการ สรุปอภิปรายผล และข้อเสนอแนะดังนี้ วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึกแบบ สถานี เพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สมมุติฐานของการวิจัย ผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึกแบบสถานี เพื่อ พัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังฝึกสูงกว่าก่อนฝึก สรุปผลการวิจัย ของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึกแบบสถานี เพื่อ พัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างก่อนฝึกและหลังฝึก คะแนน เต็ม 10 คะแนน มีค่าเฉลี่ยก่อนฝึกเท่ากับ 1.33 คิดเป็นร้อยละ 13.33 ค่าเฉลี่ยหลังฝึกเท่ากับ 4.44 คิดเป็นร้อยละ 42.59 และค่าเฉลี่ยผลต่างเพิ่มขึ้น 3.11 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อนฝึก 1.30 มี ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหลังฝึก 1.62 ผลต่างค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อนฝึกและหลังฝึกเท่ากับ 0.32 พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี่ที่ 2 มีทักษะการเลี้ยงบาสเกตบอลหลังฝึกสูงกว่าก่อนฝึก
49 อภิปรายผลการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยมีประเด็นที่นำมาอภิปรายผลการวิจัยดังนี้ จากการศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึก แบบสถานี เพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 นำมา อภิปรายผลได้ดังนี้ การศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึกแบบ สถานี เพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่านักเรียนมีคะแนน ค่าเฉลี่ยก่อนฝึกเท่ากับ 0.30 คิดเป็นร้อยละ 6.15 ค่าเฉลี่ยหลังฝึกเท่ากับ 1.33 คิดเป็นร้อยละ13.33 และค่าเฉลี่ยผลต่างเพิ่มขึ้น 3.11 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อนฝึกเท่ากับ 1.30 มีค่าส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานหลังฝึก 1.62 ผลต่างค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานก่อนฝึกและหลังฝึกเท่ากับ 0.32 หลังเรียน เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งสอดคล้องกับสมมติฐาน ที่ว่านักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะการเลี้ยงบาสเกตบอล โดยใช้แบบฝึกแบบสถานีหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน เป็นเพราะนักเรียนเรียนรู้ได้ดีจากการลงมือปฏิบัติ การสังเกต การใช้รูปแบบของสถานี การฝึกแบบ เป็นขั้นตอนย่อยๆ ผู้วิจัยได้คิดขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ขั้นตอนการปฏิบัติของแต่ละสถานีที่ เหมาะสมมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนวิชาพลศึกษากีฬาบาสเกตบอลโดยใช้แบบฝึกแบบสถานี และนำไปเสนออาจารย์ที่ปรึกษา พร้อมทั้งเสนอตรวจสอบความสอดคล้องจากผู้เชี่ยวชาญทำให้ได้ แผนการจัดการเรียนรู้เหมาะสมในการที่จะนำไปใช้ทดลองภาคสนามกับกลุ่มตัวอย่างได้ ส่งเสริมให้ ผู้เรียนพัฒนาทางด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา และยังช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะ การเลี้ยงบาสเกตบอล การฝึกเเบบสถานีเป็นการฝึกเพื่อเพิ่มความเเข็งเเรงของกล้ามเนื้อเเละส่งเสริม เพื่อให้สมรรถภาพทางกายเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยการฝึกจะมีการวางแผนเพื่อพัฒนาสมรรถภาพทาง กายโดยจะเน้นการพัฒนาในทุกส่วนพร้อมๆกันอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น ความเเข็งเเรง ความอดทน ความคล่องตัวในการเปลี่ยนทิศทางการวิ่งเ ความเร็วในการวิ่งและอีกหลายๆอย่าง โดย การฝึกแบบสถานีจะมีการพัฒนาไปพร้อมกันหลายด้านเเละการฝึกเเบบสถานีจะหมุนเวียนไปจนครบ ทุกสถานี โดยจะมีข้อกำหนดที่ต้องทำเวลาให้ดีขึ้นกว่าเดิมหรือทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าเวลา เดิม เป็นการฝึกที่ใช้เวลาเข้าสถานีที่สั้น เเต่ได้ประสิทธิภาพสูงในการพัฒนาทุกๆด้าน มีความ หลากหลายสถานีเเละวนสถานีไปเรื่อยๆ จนครบตามเเบบฝึกที่กำหนด เเละจะสามารถพัฒนา สมรรถภาพหลายๆ ด้านในการฝึกในเวลาที่สั้นเเละจะเกิดการพัฒนาผู้ฝึก รวมไปถึงการคง ประสิทธิภาพความพร้อมของร่างกายเเละความเเข็งเเรงของร่างกายของผู้ทดสอบ ได้ผลดีเเละเห็นผล หลังจากการฝึกได้อย่างชัดเจนที่สุดนอกจากนี้การนำแบบฝึกแบบสถานีมาใช้ในการฝึกการเลี้ยง บาสเกตบอลยังช่วยเรื่องการพัฒนาความสามารถในการเลี้ยงบาสเกตบอลขึ้นสู่ขั้นสูงสุดโดยการฝึก แบบสถานีนั้นจะช่วยดึงประสิทธิภาพการเลี้ยงบาสเกตบอลขึ้นมาผ่านสถานีต่างๆ โดยเริ่มจากความ
50 ยากน้อยๆ ไปสู่ความยากมากๆเพื่อดึงขีดจำกัดของนักกีฬาให้เพิ่มขึ้นในทุกๆสถานีนักเรียนแต่ละคนมี ความสามารถทางการกีฬาและสมรรถภาพทางกายที่แตกต่างกัน ทำให้การฝึกแบบรวมกลุ่มด้วยกัน เป็นการฝึกที่ไม่เหมาะสม แบบฝึกแบบสถานีสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะของนักเรียนได้ จัดแบบฝึกแบบสถานีให้เข้ากับสมรรถภาพทางกายของนักเรียนตามการประเมินของคุณครูและผู้ ฝึกสอน เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าใช้แบบฝึกแบบสถานีในการจัดกิจกรรม การเรียนรู้เรื่อง ทักษะความสามารถในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จะ สามารถพัฒนาทักษะการเลี้ยงบาสเกตบอลให้กับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาศักยภาพ ของตนเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ไปสู่การเรียนรู้ทักษะกระบวนการที่ ถูกต้อง สามารถปฏิบัติทักษะการเลี้ยงบาสเกตบอลในการเล่นกีฬาบาสเกตบอลและสามารถนำความรู้ ด้านทักษะกระบวนการต่างๆ ไปประยุกต์ใช้ในการแข่งขันได้ ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยของ มโน มาพะ เนาว์ (2556) ที่ได้ศึกษาการพัฒนาทักษะการเลี้ยงบาสเกตบอล โดยใช้แบบฝึกแบบสถานี กลุ่มสาระ การเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเขมาไร่ศึกษา จังหวัดมหาสารคาม ผลการทดสอบทักษะการเลี้ยงกีฬาบาสเกตบอลของกลุ่มตัวอย่างหลังการฝึกสูงกว่าก่อนการฝึก อย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 การใช้แบบฝึกแบบสถานีการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลแบบฝึกที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพดีกว่าเกณฑ์ที่กำหนด แสดงว่าแบบฝึกแบบสถานีการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลมีคุณภาพดี ทำให้นักเรียนมีทักษะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากนักเรียนที่มาฝึกมีทักษะในวิจัยในครั้งนี้มีพื้นฐานกีฬา บาสเกตบอลอยู่แล้วเมื่อมาเพิ่มเติมทักษะกีฬาบาสเกตบอลเข้าไปทำให้นักเรียนมีความสนใจมากกว่า นักเรียนที่ไม่เคยเล่นกีฬาชนิดนี้มาก่อน ซึ่งอาจถือได้ว่าการที่ผลสัมฤทธิ์ทางการฝึกของนักเรียนมีระดับ ทักษะสูงขึ้นเป็นผลมาจากการใช้การที่นักเรียนมีทักษะกีฬาบาสเกตบอลมาก่อน เวลาที่ใช้ในการฝึก เนื่องจากเวลาที่ใช้ในการฝึกเป็นช่วงพักกลางวัน นักเรียนมีเวลามาฝึกทักษะได้ทุกวันไม่ติดเวลาเรียน และการกลับบ้านของนักเรียน และสอดคล้องกับงานวิจัยของเมธาวุฒิ วิลเลียมส์ (2555) ได้ศึกษา ค้นคว้าเรื่องการเลี้ยงงบาสเกตบอล ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบางบัว โดยใช้แบบฝึก แบบสถานีกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา จากการทดลองใช้แบบฝึกสถานีกีฬา บาสเกตบอลกับกลุ่มตัวอย่างผลการวิเคราะห์แบบฝึกแบบสถานีทักษะกีฬาบาสเกตบอล มีความ เหมาะสมมากที่สุด จะสรุปได้ว่า แบบฝึกสถานีชุดนี้มีคุณภาพและประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่สูงเป็นที่ น่าพอใจ ผลจากการศึกษาค้นคว้าพบว่า การพัฒนาทักษะการเลี้ยงบาสเกตบอลมีประสิทธิภาพเท่ากับ 4.40/8.20 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนโดยมี ความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เนื่องจากแบบฝึกเรียงลำดับความยากง่าย สอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้ให้ผู้เรียนรู้ผลการทำแบบฝึกของตนเองทุกครั้ง ทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่า ตนเองประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ จึงสรุปได้ว่าแบบฝึกแบบสถานีกีฬาบาสเกตบอล กลุ่มสาระ การเรียนรู้พลศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรม
51 การเรียนรู้ และมีผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นตามเกณฑ์ทางการเรียนรู้ที่โรงเรียนตั้งไว้และสอดคล้องกับงานวิจัย ของ ธีระศักดิ์ ยะวงศ์ (2555) ได้ทำการวิจัยเรื่อง ผลการใช้แบบฝึกแบบสถานีเพื่อแก้ปัญหาการเลี้ยง ลูกบาสเกตบอลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยเชียงใหม่ ผลการใช้แบบฝึกแบบสถานีเพื่อแก้ปัญหาการเลี้ยงบาสเกตบอลของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียน ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยเชียงใหม่ ปรากฏผลดังนี้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนปรินส์ รอยแยลส์วิทยาลัย ที่เรียนในรายวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา มีการพัฒนาทักษะในการ เลี้ยงลูกบาสเกตบอลมากขึ้นกว่าเดิมคือ ก่อนใช้แบบฝึกแบบสถานีในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลนักเรียน อยู่ในเกณฑ์ระดับพอใช้ และควรปรับปรุง ซึ่งหลังจากใช้แบบฝึกแบบสถานีในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล แล้ว นักเรียนได้มีการพัฒนาทักษะในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลอยู่ในเกณฑ์ระดับดีมาก ก่อนใช้แบบฝึก ทักษะในการเลี้ยงบอลนั้น นักเรียน อยู่ในเกณฑ์ระดับพอใช้และควรปรับปรุง หลังจากใช้แบบฝึกแบบ สถานีในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล นักเรียน ได้มีการพัฒนาทักษะในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลอยู่ใน เกณฑ์ระดับดีมากผลคือ นักเรียนมีการพัฒนาทักษะในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่ง นักเรียนมีการพัฒนาทักษะของตนเองในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลในระดับดีมาก ซึ่งเป็นที่น่าพอใจเป็น อย่างยิ่ง เพราะทำให้นักเรียนสามารถนำทักษะในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลไปใช้ในการเล่นและการ แข่งกีฬาบาสเกตบอลได้อย่างถูกต้อง มีความสนุกสนาน และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวันของตนเองได้ อีกทั้งการเล่นกีฬาบาสเกตบอลยังมีผลดีต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต สามารถพัฒนานักเรียนในด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และสังคมอีกด้วย และสอดคล้องกับงานวิจัย ของ คณิต เขียววิชัย (2561) ได้ทำการวิจัย เรื่องผลการใช้แบบฝึกแบบสถานีเพื่อพัฒนาทักษะการ เลี้ยงลูกบาสเกตบอลกีฬาบาสเกตบอล ที่มีต่อความแม่นยำในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลของนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากรพระราชวังสนามจันทร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของการใช้ทักษะการเลี้ยง ลูกบาสเกตบอลแบบสองมือเหนือศีรษะ นักศึกษา จำนวน 40 คน ที่เรียนวิชาบาสเกตบอล ของ มหาวิทยาลัยศิลปากรพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม มีความสามารถ ในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลใกล้เคียงกัน กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มที่ได้รับการสอนทักษะการยิงประตูสองมือ เหนือหัวศีรษะแบบไม่กระโดด กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่ได้รับการสอนทักษะการยิงประตูสองมือเหนือศีรษะ โดยการกระโดด ผลวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยการการยิงประตูสองมือเหนือศีรษะโดยการกระโดดและ ไม่กระโดด ของทั้ง 2 กลุ่มก่อนการทดลองและหลังการทดลองไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาคะแนน เฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างพบว่าทั้งสองกลุ่มมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 นักศึกษามีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ก่อนการทดลองกลุ่มการยิงประตูแบบสองมือ เหนือศีรษะแบบกระโดดและกลุ่มการยิงประตูสองมือ เหนือศีรษะแบบไม่กรโดด มีคะแนนเฉลี่ยที่ได้ จากการทดสอบความแม่นยำในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลสองมือเหนือศีรษะ ไม่แตกต่างกัน อย่างไรก็ ตามภายหลังการทดลองพบว่าคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากการทดสอบความแม่นยำในการเลี้ยงลูก
52 บาสเกตบอลของทั้งสองกลุ่มเพิ่มขึ้นแต่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งไม่เป็นไป ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มมีความแม่นยำมากขึ้นเพราะว่าในการทดสอบเป็นการ วัดเฉพาะทักษะหรือมุ่งเน้นไปเรื่องความแม่นยำในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลเท่านั้น ดังนั้นจึงควรมีการ วัดท่าทางการปฏิบัติด้วยน่าจะได้ผลของการศึกษาที่ครอบคลุม มากยิ่งขึ้น และสอดคล้องกับงานวิจัย ของ จีรวัฒน์ สัทธรรม (2555) การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ ศึกษาความแม่นยำในการยิงประตู บาสเกตบอลในระยะ 3 คะแนน ลักษณะการยิงประตู ตำแหน่งของผู้เล่น ทีมแพ้ทีมชนะ และช่วงเวลา การแข่งขัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่นักกีฬา บาสเกตบอลชายที่ยิงประตูบาสเกตบอล ในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 จำนวน 10 ทีม ซึ่งได้มา จากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ผลการวิจัยพบว่า ความแม่นยำในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลกีฬาบาสเกตบอลของนักกีฬา ชายที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 พบว่า ระยะใกล้มีความแม่นยำมากที่สุดคิดเป็นร้อย ละ 49.14 ระยะกลางมีความแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 44.22 และระยะไกล มีความแม่นยำน้อยที่สุดคิด เป็นร้อยละ 27.23 ในการยิงประตูระยะต่างๆเป็นปัจจัยที่มีความแม่นยำต่างกัน คือ ระยะทางยิ่งใกล้ เท่าใดยิ่งมีความแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น ความแม่นยำในการยิงประตูบาสเกตบอล ของนักกีฬาชายที่ เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 พบว่า ลักษณะในการยิงประตูที่มีความแม่นยำมากที่สุดคือ การยิงประตูแบบยืนยิ่งมีความแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 57.14 การยิงประตูแบบ เลย์-อัพ มีความแม่นยำ คิดเป็นร้อยละ 52.83 และการยิงประตูแบบกระโดดยิง ซึ่งเป็นแบบการยิงประตูที่ใช้มากที่สุดแต่มี ความแม่นยำน้อยที่สุดคิดเป็นร้อยละ 35.36 เนื่องจากในการแข่งขันจริงจะมีการป้องกันจากคู่ต่อสู้จึง ทำให้การยิงประตูเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก ยิ่งเป็นการยิงประตูแบบยืนยิงด้วยแล้วโอกาสยิง ประตูยิ่งมีน้อย ดังนั้นการกระโดดยิงประตูจึงใช้ในการแข่งขันมากที่สุด ความแม่นยำในการยิงประตู บาสเกตบอลของนักกีฬาชายที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 พบว่าตำแหน่งที่มีความ แม่นยำมากที่สุดคือ ตำแหน่งเซนเตอร์ มีความแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 45.64 ตำแหน่งการ์ด มีความ แม่นยำคิดเป็นร้อยละ 41.27 และตำแหน่งปีก มีการยิงประตูมากที่สุดแต่มี ความแม่นยำน้อยที่สุด มี ความแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 40.43 เนื่องจากผู้เล่นตำแหน่งเซนเตอร์จะเป็นผู้เล่นที่ยืนอยู่บริเวณใกล้ ห่วงประตูมากที่สุด ความแม่นยำในการยิงประตู บาสเกตบอลของนักกีฬาชายที่เข้าร่วมการแข่งขัน กีฬาแห่งชาติครั้งที่ 40 พบว่าในช่วงเวลาที่มีความแม่นยำในการยิงประตูมากที่สุดคือ ควอเตอร์ที่ 4 มี ความแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 45.22 ควอเตอร์ที่ 3 มีความแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 43.47 ควอเดอร์ที่ 1 มีความแม่นยำคิดเป็นร้อยละ 41.75 และช่วงเวลาที่มีความแม่นยำน้อยที่สุดคือ ควอเตอร์ที่ 2 มีความ แม่นยำคิดเป็นร้อยละ 38.54 ทั้งนี้ผู้วิจัยคิดว่า ในควอเตอร์ที่ 4 ที่มีความแม่นยำมากที่สุดก็เพราะว่า เกมการแข่งขันบางเกม ทีมที่ทำคะแนนได้มากกว่า ทีมคู่แข่งมากๆเมื่อจบควอเตอร์ที่ 3 ดังนั้นเมื่อเริ่ม เกมในควอเตอร์ที่ 4 นักกีฬาจึงไม่มีความกดดันมากนัก และเกิดความมั่นใจในการยิงประตู จึงทำให้ยิง ประตูได้ดีและมีความแม่นยำสูงขึ้น
53 ข้อเสนอแนะ จากผลการวิจัยมีข้อเสนอแนะเพื่อประโยชน์ต่อการเรียนการสอนและผู้สนใจเพื่อการวิจัยใน ครั้งต่อไป 1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ 1.1 ผู้ที่สนใจควรศึกษาวิธีการสอน ขั้นตอนการสอนโดยใช้แบบฝึกแบบสถานีการเลี้ยงลูก บาสเกตบอลกีฬาบาสเกตบอลให้เข้าใจก่อนนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ 1.2 ผู้ที่สนใจสามารถนำไปบูรณาการในการสอนวิชาพลศึกษาในกีฬาอื่นๆ ได้ 2. ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป 2.1 ควรมีการศึกษากระบวนการจัดการเรียนรู้มีทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลโดยใช้ แบบฝึกแบบสถานี 2.2 ควรมีการเปรียบเทียบแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นไปสอนแล้วเปรียบเทียบกับ วิชาการสอนอื่นๆ
54 รายการอ้างอิง กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรง พิมพ์ ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด. กุศยา แสงเดช. (2555). แบบฝึกคู่มือพัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญระดับ ประถมศึกษา. กรุงเทพฯ : บริษัทสานักพิมพ์แม็ค จำกัด กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2545) คู่มือการจัดการสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุข ศึกษา และพลศึกษาตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพมหานคร : โรง พิมพ์ องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) กิตติ พัชรวิชญ์. (2555). การฝึกอบรมนอกระบบ. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช แก้วตา เข้มเเข็ง. (2555). ประโยชน์ของแบบฝึกทักษะ. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก https://www.gotoknow.org/posts/259865 กรรณิการ์ พวงเกษม. (2559). เรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างแบบฝึกหัดภาษาไทยระดับ ประถมศึกษาใน ภาควิชาประถมศึกษา,สัมมนาประถมศึกษาสัมพันธ์ครั้งที่ 15 เชียงใหม่ : คณะ ศ ึ ก ษ า ศ า ส ต ร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรมพลศึกษา. (2558). คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาบาสเกตบอล สืบค้นเมื่อ 12 มกราคม 2566. จาก www.dpe.go.th จริยภรณ์ รุจิโมระ. (2558). การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงภาษาอังกฤษโดยใช้ชุดฝึกทักษะการ อ่านออกเสียงของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงชั้น ปีที่ 1 วิทยาลัย. เชียงใหม่ : เทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชียงใหม่ ฉวีวรรณ กีรติกร. (2556). ประโยชน์แบบฝึกที่ดี,ประโยชน์ของแบบฝึกทักษะ กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย จิราภรณ์ เกียนแก้ง. (2556). การฝึกแบบสถานี (circuit training). สืบค้นเมื่อ 29 พฤษจิกายน 2565. จาก https://poohpinkpuff.blogspot.com/2013/08/ จงกลนี ชุติมาเทวินทร์. (2556). การฝึกอบรมเชิงพัฒนา พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ศูนย์หนังสือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชูพันธ์ ทาราศี. (2557). ความหมายการฝึก,องค์ประกอบของการฝึก,ขั้นตอนที่สำคัญของการฝึกสืบค้น เมื่อ 3 มกราคม 2565 จาก http://www.doohealthy.com/article/fitness/sport/ ณรงค์ สรรพศรี. (2557). ประโยชน์ของกีฬาบาสเกตบอล. สืบค้นเมื่อ 11 มกราคม 2566. จาก http://www.doohealthy.com/article/fitness/sport/316-health.html ถวัลย์ มาศจรัส. (2558). ความหมายของแบบฝึกทักษะ. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก https://www.kruchiangrai.net/2019/11/17
55 เทพประสิทธิ์ กุลธวัชวิชัย. (2555). ประวัติกีฬาบาสเกตบอล. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก http://cmuir.cmu.ac.th/bitstream/6653943832/39841/4/CHAPTER%202.pdf นนทิยา จิตราภรณ์. (2556). พลศึกษา. สืบคนเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก http://m3122007dj.blogspot.com/2013/09/blog-post_18.html นันทรัตน์ ศรีสวัสดิ์. (2560). แนวทางการพัฒนาการสอนกีฬาบาสเกตบอล ตามกระบวนการสอน แบบการเรียนรูเชิงรุก. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก http://digital_collect.lib.buu.ac.th/dcms/files/55910189.pdf. ประทีป แสงเปี่ยมสุข. (2561). แนวทางการสร้างแบบฝึกหัดสะกดคำยาก วารสารพัฒนาหลักสูตร อันดับที่ 11 14 (121). ซ 55-56. ปิติภูมิ ทรัพย์ปรีชา. (2558). การสอนคณิตศาสตร์โดยใช้หลักการเรียนรู้ของ จีดี ฮอทชตีส ใน โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาบ้านป่าลาน อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พัทธมน อ่อนถาวร. (2561). การฝึกแบบสถานี (circuit training). สืบค้นเมื่อ 29 พฤษจิกายน 2565. จาก https://shorturl.asia/HCRDS พงษ์พันธ์ พงษ์โสภา. (2560), จิตวิทยาการศึกษา, กรุงเทพฯ : พัฒนาการศึกษา ยงยุทธ เกษสาคร. (2558). ความหมายการฝึก กรุงเทพฯ : เอส แอนด์ จี กราฟฟิก ยุพา ยิ้มพงษ์. (2555). การสร้างแบบฝึกการเขียนคำที่ใช้อักษรควบ ร ล และ 3 สำหรับนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่4 (วิทยานิพนธ์ศิลป์ศาสตร์มหาบัณฑิตบัณฑิตวิทยาลัย) กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระยอง ก้านดอกไม้. (2561). ศึกษาและพัฒนาชุดฝึกปฏิบัติทักษะเบื้องต้นกีฬาบาสเกตบอลระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2561. สืบค้น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565.จาก http://elsd.ssru.ac.th/rayong_kh/pluginfile.php/59/mod_page/content/4 ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ : นามนี้บุ๊ค พับลิเคชั่น วันชัย ไทยใหม่. (2558). การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านสำหรับนักเรียนชาวเขา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในจังหวัดเชียงราย. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต). เชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วรศักดิ์ เพียรชอบ. (2557). ความหมายของการพลศึกษา. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก https://shorturl.asia/3pwFd สุรยุทธ์ จงจรรยา. (2558). การศึกษาในระบบ. สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2565 จาก https://www.mediathailand.org/
56 สุชาย วิจิตรบุญยรักษ์. (2561). กติกาบาสเกตบอล ฉบับปี 2561. สืบค้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก https://shorturl.asia/z04ZD สุนันทา สุนทรประเสริฐ. (2556). การผลิตนวัตกรรมการเรียนการสอน. ชัยนาท : ชมรมพัฒนาความรู้ ด้านระเบียบกฎหมาย สุพรรณี ไชยเทพ. (2559). การใช้แบบฝึกการเสริมทักษะภาษาไทยการใช้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. การค้นคว้าแบบอิสระศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตร และการ สอน บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิททยาลัย. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สุภัทรชัย สุนทรวิภาต เจริญ กระบวนรัตน์และนาทร พีผลใหญ่ (2562). ผลขอโปรแกรมการออก กำลังกายแบบสถานีที่มีต่อความอดทนของระบบไหลเวียนเลือดและระบบหายใจของนักเรียน หญิงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ศูนย์วิจัยและ พัฒนาการศึกษา. สืบค้น เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565. จาก thaijo.org/index.php/tahper/article/download/212829/148115/674877. สนธยา สีละมาด. (2559). การฝึกแบบสถานี. สืบค้นเมื่อ 8 มกราคม 2556. จาก https://shorturl.asia/HCRDS สมวงษ์ แปลงประสพโชค. (2558). การให้แบบฝึกหัดการบ้านคณิตศาสตร์, วารสารคณิตศาสตร์ปีที่ 38 ฉบับที่ 438-439 สมทรง สุวพานิช. (2562). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 1023623 : พฤติกรรมการสอน คณิต ศาสตร์ระดับประถมศึกษา, มหาสารคาม ภาควิชาหลักสูตรและการสอน สถาบันราชภัฏ มหาสารคาม. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 สมุทรสาคร : โรงพิมพ์ ทรงเกียรติ์การพิมพ์ จำกัด สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. (2555). โครงสร้างและระบบบริหารการ ประถมศึกษาแห่งชาติสืบค้นเมื่อ 23 มกราคม 2566จาก http://dc.oas.psu.ac.th/dcms/files//00827/Chapter2%2838-66%29 อุทัย สงวนพงศ์. (2559). ประโยชน์และคุณค่าของกีฬา สืบค้นเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 จาก. http://www.doohealthy.com/article/fitness/sport/ อำนวย เดชชัยศรี. (2555). สื่อการศึกษาพื้นฐาน. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ฟิสิกส์เซนเตอร์
57 ภาคผนวก
58 ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญ
59 รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ นายมงคล ช่างไม้ ตำแหน่งครูพี่เลี้ยง หมวดสุขศึกษาและพลศึก โรงเรียนโนนสูง พิทยาคาร นายอนุชา ป้องนอก ตำแหน่งครูพี่เลี้ยง หมวดสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนโนน สูงพิทยาคาร นายวรกาย พรหมขันธ์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ประจำสาขาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ
60 ภาคผนวก ข เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง แผนการจัดการเรียนรู้วิชาพลศึกษา กีฬาบาสเกตบอล โดยใช้รูปแบบการฝึกแบบสถานี เพื่อพัฒนาการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล
61 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กีฬาสากล (บาสเกตบอล) เรื่อง การฝึกแบบสถานีที่ 1 และ 2 เพื่อพัฒนาทักษะการเลี้ยงบาสเกตบอล วัน.....เดือน.............พ.ศ. ......... เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ3.1 มีความรู้ความเข้าใจทักษะการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม ตัวชี้วัด 3.1 ม.4/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ทั้งประเภทบุคคลและทีมอย่างละ 1 ชนิด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายลักษณะการเลียงลูกบาสเกตบอล (IQ) 2. นักเรียนมีระเบียบวินัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอล (MQ) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าของกีฬาบาสเกตบอล (AQ) 4. นักเรียนมีการพัฒนาด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (PQ) 5. นักเรียนมีทักษะในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล(SQ) สาระสำคัญ กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะการเล่นอย่างสูง การเลี้ยงบาสเกตบอลเป็นอีกหนึ่ง ทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นทักษะที่เป็นพื้นฐานในการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่การ ทำแต้มหรือการป้องกันก็เป็นทักษะที่สามารถช่วยในการเล่นของทีมได้เป็นอย่างดี สาระการเรียนรู้ การฝึกแบบสถานีเพื่อพัฒนาทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล
62 สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ไขปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน เรื่องความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ คำถามสำคัญ ถ้านักเรียนสามารถเลี้ยงลูกบาสได้อย่างคล่องแคล่ว จะเกิดอะไรขึ้น กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูเช็คชื่อ ตรวจสุขภาวะ และเครื่องแต่งกาย 2. ครูถามนักเรียนว่ารู้จักการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลและการฝึกแบบสถานีหรือไม่ 3. ครูพานักเรียนอบอุ่นร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อม ขั้นอธิบายและสาธิต 1. ครูอธิบายความรู้ความสำคัญของ เรื่องการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลและการฝึกแบบ สถานี 2. ครูจัดแบบฝึกในสถานีต่างๆ พร้อมอธิบายและสาธิตให้นักเรียนดู ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกแบบสถานีที่ 1 และสถานีที่ 2
63 สถานีที่ 1 ขั้นตอนที่ 1 แบ่งนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม เป็นกลุ่มละ 13 คน 1 กลุ่ม และ 14 คน 1 กลุ่ม และให้นักเรียน เข้าแถวหลังจุดที่ครูวางไว้ให้ ขั้นตอนที่ 2 ให้นักเรียนเลี้ยงบาสเกตบอลผ่านกรวยไปและกลับจากนั้นให้ส่งต่อให้เพื่อนคน ต่อไปจากนั้นคนที่ทำเสร็จแล้ววิ่งไปนั่งรอด้านหลัง ขั้นตอนที่ 3 หากทีมไหนทำเสร็จก่อนทีมนั้นชนะ ขั้นนำไปใช้ หลังจากให้นักเรียนปฏิบัติในการเข้าสถานีตั้งแต่ต้นจนจบก็ให้นักเรียนมาทำการเลี้ยงผ่าน กรวยและจับเวลา ขั้นสรุป 1. ครูเรียกรวมนักเรียน 2. ครูให้นักเรียนเข้าแถวเป็นวงกลมแล้วให้ตัวแทนมานำยืด 3. ครูให้นักเรียนสรุปกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติในชั่วโมงเรียน 4. ครูแจกใบงาน เรื่องความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ 5. ครูปล่อยนักเรียนทำภารกิจส่วนตัวก่อนไปเรียนคาบต่อไป สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลูกบาสเกตบอล 2. มาร์คเกอร์
64 กระบวนการวัดและการประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจใบงานเรื่องความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ 1.2 การเลี้ยงลูกบาสเกตบอล 1.3 สังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน 2. เครื่องมือ 2.1 ใบงานเรื่อง ความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ 2.2 แบบฝึกสังเกตพฤติกรรมในการร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ความถูกต้องของใบงานเรื่อง ความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ ร้อยละ 75 3.2 แบบสังเกตพฤติกรรมกระบวนการกลุ่ม ในเกณฑ์ผ่านร้อยละ 75 3.3 สามารถเลี้ยงบาสเกตบอลผ่านมาร์คเกอร์ได้ตามเวลาที่กำหนด กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ........................................................................................................................................................... ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ผู้สอน ............/................../..................
65 บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................... แนวทางการแก้ไขปัญหา ................................................................................................................................... ............................. ...................................................................................................... .......................................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................ ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ผู้สอน ............./............................./.............. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ครูพี่เลี้ยง ............./.............................../.............
66 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมนักเรียนระหว่างคาบเรียนแล้วทำเครื่องหมาย √ ลงในช่อง คะแนนตามเกณฑ์คะแนนที่กำหนด เลขที่ ชื่อ-สกุล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวม 9 คะแนน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติเป็นประจำให้ 3 คะแนน ปฏิบัติบ่อยครั้ง 2 คะแนน ปฏิบัติบางครั้ง 1 คะแนน เกณฑ์การประเมิน 7 – 9 คะแนน หมายถึง ดีมาก 5 – 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (................................................) ……../…………./……..
67 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน เลขที่ ชื่อ-สกุล ปฏิบัติตามคำสั่ง ความตั้งใจ ความมีน้ำใจ ให้ความร่วมมือในการ ทำกิจกรรม รวมคะแนน หมายเหตุ คะแนนเต็ม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 สรุปพิจารณาระดับคุณภาพ ปฏิบัติได้ 9-12 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 3 ปฏิบัติได้ 5-8 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 2 ปฏิบัติได้ 1-4 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 1
68 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กีฬาสากล (บาสเกตบอล) เรื่อง การฝึกแบบสถานีที่ 2 เพื่อพัฒนาทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล วัน.....เดือน.............พ.ศ. ......... เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 มีความรู้ความเข้าใจทักษะการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม ตัวชี้วัด 3.1 ม.4/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ทั้งประเภทบุคคลและทีมอย่างละ 1 ชนิด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายลักษณะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลได้(IQ) 2. นักเรียนมีระเบียบวินัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอล (MQ) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าของกีฬาบาสเกตบอล (AQ) 4. นักเรียนมีการพัฒนาด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (PQ) 5. นักเรียนมีทักษะในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล(SQ) สาระสำคัญ กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะการเล่นอย่างสูง การเลี้ยงบาสเกตบอลเป็นอีกหนึ่ง ทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นทักษะที่เป็นพื้นฐานในการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่การ ทำแต้มหรือการป้องกันก็เป็นทักษะที่สามารถช่วยในการเล่นของทีมได้เป็นอย่างดี สาระการเรียนรู้ การฝึกแบบสถานีเพื่อพัฒนาทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล
69 สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ไขปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน เรื่องแบบฝึกแบบสถานีและการเลี้ยงบาสเกตบอล คำถามสำคัญ ถ้านักเรียนสามารถเลี้ยงบาสเกตบอลได้อย่างคล่องแคล่วจะเกิดอะไรขึ้น กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูเช็คชื่อ ตรวจสุขภาวะ และเครื่องแต่งกาย 2. ครูถามนักเรียนว่าเป็นยังไงบ้างการฝึกแบบสถานีสัปดาห์ที่ผ่านมา 3. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อม ขั้นอธิบายและสาธิต 1. ครูอธิบายความรู้และความสำคัญเรื่องการเลี้ยงลูกบารสเกตบอลและการฝึกแบบ สถานี 2. ครูจัดแบบฝึกในสถานีต่าง พร้อมอธิบายและสาธิตให้นักเรียนดู
70 ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกแบบสถานีที่ 2 สถานีที่ 2 ขั้นตอนที่ 1 ครูวางมาร์คเกอร์ไว้2 แถวแถวละ 4 จุดจากนั้นแบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม ขั้นตอนที่ 2 ให้นักเรียนต่อแถวเป็นแถวเดียวตรงหลังมาร์คเกอร์ที่ครูวางไว้ให้ จากนั้นให้เลี้ยงบา สจากจุดที่ 1 ไปจุดที่ 2 และเลี้ยงถอยกลับมาจุดที่ 1 จากนั้นเลี้ยงไปจุดที่ 3 และ เลี้ยงถอยมาจุดที่ 2 และเลี้ยงจัดที่ 4 และเลี้ยงถอยมาจุดที่ 3 จากนั้นเลี้ยงผ่านจุด ที่ 4 และวิ่งเลี้ยงกลับมาส่งต่อให้เพื่อน ขั้นตอนที่ 3 พอเสร็จ 3 คนแล้วให้ไปเปลี่ยนเพื่อนที่ถือลูกบาสเกตบอลและทำต่อกันไปเรื่อย ๆ จนครบทุกคน ขั้นนำไปใช้ หลังจากให้นักเรียนปฏิบัติในการเข้าสถานีตั้งแต่ต้นจนจบก็ให้นักเรียนมาทำการเลี้ยง บาสเกตบอลผ่านมาร์คเกอร์แบบจับเวลา ขั้นสรุป 1. ครุเรียกนักเรียนมารวมเข้าแถว 2. ครูให้นักเรียนเข้าแถวเป็นวงกลมแล้วให้ตัวแทนมานำยืด 3. ครูให้นักเรียนสรุปกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติในชั่วโมงเรียน 4. ครูแจกใบงาน เรื่องความรู้ที่ได้จากการฝึกในสถานีนั้น ๆ 5. ครูปล่อยนักเรียนทำภารกิจส่วนตัวก่อนไปเรียนคาบต่อไป สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลูกบาสเกตบอล 2. มาร์คเกอร์
71 กระบวนการวัดและการประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1. ตรวจใบงานเรื่องความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ 2. การเลี้ยงลูกบาสเกตบอล 3. สังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน 2. เครื่องมือ 1. ใบงานเรื่อง ความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ 2. แบบฝึกสังเกตพฤติกรรมในการร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 3. เกณฑ์การประเมิน 1. ความถูกต้องของใบงานเรื่อง ความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ ร้อยละ 75 2. แบบสังเกตพฤติกรรมกระบวนการกลุ่ม ในเกณฑ์ผ่าน ร้อยละ 75 3. สามารถเลี้ยงบาสเกตบอลผ่านมาร์คเกอร์ได้ตามเวลาที่กำหนด กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. .............................. ลงชื่อ.................................................... (............................................................) ผู้สอน
72 บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................ แนวทางการแก้ไขปัญหา ............................................................................................................... ................................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. .............................. ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ผู้สอน ............./............................./.............. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ....................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... ...................................................... .......................................... ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ครูพี่เลี้ยง ............./.............................../..............
73 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมนักเรียนระหว่างคาบเรียนแล้วทำเครื่องหมาย √ ลงในช่อง คะแนนตามเกณฑ์คะแนนที่กำหนด เลขที่ ชื่อ-สกุล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวม 9 คะแนน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติเป็นประจำให้ 3 คะแนน ปฏิบัติบ่อยครั้ง 2 คะแนน ปฏิบัติบางครั้ง 1 คะแนน เกณฑ์การประเมิน 7 – 9 คะแนน หมายถึง ดีมาก 5 – 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (................................................) ……../…………./……..
74 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน เลขที่ ชื่อ-สกุล ปฏิบัติตามคำสั่ง ความตั้งใจ ความมีน้ำใจ ให้ความร่วมมือในการ ทำกิจกรรม รวมคะแนน หมายเหตุ คะแนนเต็ม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 สรุปพิจารณาระดับคุณภาพ ปฏิบัติได้ 9-12 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 3 ปฏิบัติได้ 5-8 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 2 ปฏิบัติได้ 1-4 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 1
75 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 กีฬาสากล (บาสเกตบอล) เรื่อง การฝึกแบบสถานีที่ 3 เพื่อพัฒนาทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล วัน.....เดือน.............พ.ศ. ......... เวลา 1 ชั่วโมง มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน พ 3.1 มีความรู้ความเข้าใจทักษะการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม ตัวชี้วัด 3.1 ม.4/1 เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ทั้งประเภทบุคคลและทีมอย่างละ 1 ชนิด จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายลักษณะวิธีการเลี้ยงบาสเกตบอลได้อย่างถูกต้อง (IQ) 2. นักเรียนมีระเบียบวินัยในการเล่นกีฬาบาสเกตบอล (MQ) 3. นักเรียนเห็นคุณค่าของกีฬาบาสเกตบอล (AQ) 4. นักเรียนมีการพัฒนาด้านความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (PQ) 5. นักเรียนมีทักษะในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล(SQ) สาระสำคัญ กีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่ต้องใช้ทักษะการเล่นอย่างสูง การเลี้ยงบาสเกตบอลเป็นอีกหนึ่ง ทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นทักษะที่เป็นพื้นฐานในการเคลื่อนไหวที่จะนำไปสู่การ ทำแต้มหรือการป้องกันก็เป็นทักษะที่สามารถช่วยในการเล่นของทีมได้เป็นอย่างดี สาระการเรียนรู้ การฝึกแบบสถานีเพื่อพัฒนาทักษะการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล
76 สมรรถนะของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ไขปัญหา 3. ความสามารถในการสื่อสาร คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน เรื่องแบบฝึกแบบสถานีและการเลี้ยงบาสเกตบอล คำถามสำคัญ ถ้านักเรียนสามารถเลี้ยงบาสเกตบอลได้อย่างคล่องแคล่วจะเกิดอะไรขึ้น กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูเช็คชื่อ ตรวจสุขภาวะ และเครื่องแต่งกาย 2. ครูถามนักเรียนว่าเป็นยังไงบ้างกับการเรียนครั้งก่อน 3. ให้นักเรียนอบอุ่นร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อม ขั้นอธิบายและสาธิต 1. ครูอธิบายความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกบาสเกตบอลและอธิบายการฝึกแบบ สถานีในวันนี้ 2. ครูจัดแบบฝึกในสถานีต่าง พร้อมอธิบายและสาธิตให้นักเรียนดู
77 ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกแบบสถานีที่ 5 และสถานีที่ 6 สถานีที่ 3 ขั้นตอนที่ 1 ครูวางมาร์คเกอรืโดยใช้การผสมระหว่างฐานที่ 1 และฐานที่ 2 โดยให้ฐานที่ 1 ขึ้นก่อนจำนวน 5 มาร์คเกอร์ต่อด้วยฐานที่ 2 2 มาร์ค เกอร์ ขั้นตอที่ 2 ให้นักเรียนแบ่งเป็น 2 กลุ่มจากนั้นต่อด้านหลังมากเกอร์เป็น แถว จากนั้นให้นักเรียนปฏิบัติ ขั้นนำไปใช้ หลังจากให้นักเรียนปฏิบัติในการเข้าสถานีตั้งแต่ต้นจนจบก็ให้ นักเรียนมาทำการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล ขั้นสรุป 1. ครุเรียกนักเรียนมารวมตัวเข้าแถว 2. ครูให้นักเรียนเข้าแถวเป็นวงกลมแล้วให้ตัวแทนมานำยืด 3. ครูให้นักเรียนสรุปกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติในชั่วโมงเรียน 4. ครูแจกใบงาน เรื่องความรู้ที่ได้จากการฝึกในสถานีนั้น ๆ 5. ครูปล่อยนักเรียนทำภารกิจส่วนตัวก่อนไปเรียนคาบต่อไป สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. ลูกบาสเกตบอล 2. แลคซีน 3. มาร์คเกอร์ กระบวนการวัดและการประเมินผล 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.4 ตรวจใบงานเรื่องความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ 1.5 การเลี้ยงลูกบาสเกตบอล 1.6 สังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียน
78 2. เครื่องมือ 2.1 ใบงานเรื่อง ความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ 2.2 แบบฝึกสังเกตพฤติกรรมในการร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ความถูกต้องของใบงานเรื่อง ความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ ร้อยละ 75 3.2 แบบสังเกตพฤติกรรมกระบวนการกลุ่ม ในเกณฑ์ผ่านร้อยละ 75 3.3 สามารถเลี้ยงบาสเกตบอลผ่านมาร์คเกอร์ได้ตามเวลาที่กำหนด กิจกรรมเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. .............................. ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ผู้สอน ............/................../..................
79 บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ............................... แนวทางการแก้ไขปัญหา ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................. .................................. ............................................................................................................................................................ ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ผู้สอน ............./............................./.............. ความคิดเห็นของครูพี่เลี้ยง ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................ .... ........................................................................................................................................................... ลงชื่อ..................................................... (............................................................) ครูพี่เลี้ยง ............./.............................../..............
80 แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมนักเรียนระหว่างคาบเรียนแล้วทำเครื่องหมาย √ ลงในช่อง คะแนนตามเกณฑ์คะแนนที่กำหนด เลขที่ ชื่อ-สกุล คุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวม 9 คะแนน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติเป็นประจำให้ 3 คะแนน ปฏิบัติบ่อยครั้ง 2 คะแนน ปฏิบัติบางครั้ง 1 คะแนน เกณฑ์การประเมิน 7 – 9 คะแนน หมายถึง ดีมาก 5 – 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ต่ำกว่า 4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ลงชื่อ................................................ผู้ประเมิน (................................................) ……../…………./……..
81 แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน คำชี้แจง ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แล้วทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับระดับ คะแนน เลขที่ ชื่อ-สกุล ปฏิบัติตามคำสั่ง ความตั้งใจ ความมีน้ำใจ ให้ความร่วมมือในการ ทำกิจกรรม รวมคะแนน หมายเหตุ คะแนนเต็ม 3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 2 1 12 สรุปพิจารณาระดับคุณภาพ ปฏิบัติได้ 9-12 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 3 ปฏิบัติได้ 5-8 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 2 ปฏิบัติได้ 1-4 คะแนน ได้ระดับคุณภาพ 1
82 ใบงาน ความรู้หรือสิ่งที่ได้จากวันนี้ ชื่อ – นามสกุล ชั้น เลขที่....... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................ .............................. ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ .............................................................. ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................. ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................. ................................................................................................................................. ............................... .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... .............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. .................................
83 ภาคผนวก ค เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบทดสอบการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล
84 แบบทดสอบ การเลี้ยงลูกบาสเกตบอลชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วัตถุประสงค์ เพื่อวัดความสามารถในการเลี้ยงลูกบาสเกตบอล การทดสอบ 1. ให้นักเรียนเลี้ยงบาสผ่านมาร์คเกอร์ทีละคน 2. ยืนยิงประตูหลังเส้นสามคะแนนในจุดกึ่งกลาง 3. ท่าทางในการเลี้ยงบาสต้องถูกต้องตามหลักการ 4. ให้นักเรียนเลี้ยงบาสผ่านมาร์คเกอร์ตามเวลาที่กำหนด 4.1 เลี้ยงบาสผ่านมาร์คเกอร์ได้ก่อนเวลา10วินาทีได้ 10 คะแนน 4.2 เลี้ยงบาสช้ากว่าเวลาที่กำหนดลดลงลงวิละ 1 คะแนน
85 สนามกีฬาบาสเกตบอล 1 2 4 3 5
86 เกณฑ์การประเมิน เงื่อนไข คะแนน นักเรียนเลี้ยงลูกบาสเกตบอลผ่านมาร์ค เกอร์ไม่เกิน 10 วินาที 10 นักเรียนเลี้ยงเกิน 10 วินาทีลดลงวินาที ละ 1 เกณฑ์ตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน คุณภาพ 10 ดีมาก 8 ดี 6 ปกติ 4 พอใช้ 2 ปรับปรุง
87 แบบบันทึกการทดสอบ เรื่อง การเล ี้ ยงลูกบาสเกตบอลของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 คนที่ ก่อนเรียน หลังเรียน คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19
88 ภาคผนวก ง การวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือ
89 ตารางค่า IOC ในการตรวจสอบหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 แผนการ จัดการ เรียนรู้ รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ผลรวม ของ คะแนน ค่า IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1 1. สาระสำคัญ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 6. กระบวนการวัดและ ประเมินผล 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ ตารางค่า IOC ในการตรวจสอบหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 แผนการ จัดการ เรียนรู้ รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ผลรวม ของ คะแนน ค่า IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 2 1. สาระสำคัญ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 6. กระบวนการวัดและ ประเมินผล 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
90 ตารางค่า IOC ในการตรวจสอบหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 แผนการ จัดการ เรียนรู้ รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ผลรวม ของ คะแนน ค่า IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 3 1. สาระสำคัญ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 3. สาระการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 4. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 6. กระบวนการวัดและ ประเมินผล 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ ตารางวิเคราะห์ IOC ในการตรวจสอบหาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของรูปแบบการฝึกแบบสถานี รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ผลรวม ของ คะแนน ค่า IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1. วัตถุประสงค์มีความเหมาะสม 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 2. ความสอดคล้องเหมาะสม 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 3. การปฏิบัติ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 4. อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบมีความเหมาะสม 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 5. เกณฑ์การประเมิน 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้ 6. เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 1 1 1 3 1.00 ใช้ได้
91 ภาคผนวก จ ภาพการวิจัย
92
93
94