แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ชุดที่ 3 เรือ่ ง โน้ตดนตรสี ากล
คาส่งั ใหน้ ักเรียนกาเครือ่ งหมาย X หนา้ ขอ้ คาตอบท่ถี ูกตอ้ งท่สี ดุ
เพียงขอ้ เดียว (20 คะแนน)
1. ขอ้ ใดไมใ่ ชอ่ งค์ประกอบของโน้ตดนตรีสากล
ก. บรรทดั 5 เส้น
ข. ค่าของตัวโน้ต
ค. ห้องดนตรี
ง. เครือ่ งดนตรี
2. ความหมายของโน้ตดนตรีสากล คอื ข้อใด
ก. เคร่ืองหมายหยุด
ข. เครือ่ งหมายแปลงเสียง
ค. เครื่องหมายทแี่ ทนคา่ เสียงดนตรี
ง. เคร่อื งหมายจังหวะ
3. ระดบั เสยี งสูงต่าของโน้ต สามารถทราบจากอะไร
ก. บรรทดั 5 เสน้
ข. กุญแจ
ค. เสน้ ก้ันหอ้ ง
ง. ตวั โนต้
4. ความส้นั ยาวของเสียง เรียกอีกอยา่ งหนงึ่ ว่าอะไร
ก. ตัวกลม
ข. จงั หวะ
ค. ตัวเขบ็ต
ง. เส้นน้อย
2
5. เราจะทราบความสนั้ ยาวของเสียงจากสง่ิ ใด
ก. บรรทดั 5 เสน้
ข. เสน้ นอ้ ย
ค. กญุ แจ
ง. ตวั โนต้
6. การกาหนดคา่ ของเสียงในบรรทดั 5 เสน้ จะทราบจากอะไร
ก. เส้นน้อย
ข. ตัวหยุด
ค. กุญแจ
ง. เส้นกน้ั หอ้ ง
7. เสยี งดนตรีถา้ สงู และตา่ กวา่ บรรทัด 5 เส้น จะบนั ทกึ ตอ่ ไปคือ
ก. เส้นนอ้ ย
ข. เสน้ กัน้ ห้อง
ค. เสน้ ปิดหอ้ งเพลง
ง. เสน้ ปิดวรรคเพลง
8. จะเขียนแบบใดถา้ มี 2 ตัว ติดกนั
ก.
ข.
ค.
ง.
9. ตัวหยุด เทียบเท่ากบั โน้ตตัวใด
ก. ตัวขาว
ข. ตัวกลม
ค. ตัวเขบต็
ง. ตวั ดา
10. การแบ่งห้องทางดนตรีออกเป็นส่วนเท่า ๆ กัน ตามแนวดง่ิ หรอื เรยี กว่า
ก. Dotted Note
ข. Staff
ค. Tied Note
ง. Bar tine
3
11. การเขียนเลขเศษส่วน คอื การเขยี นเพอื่ อะไร
ก. ความหนกั เบาของเสยี ง ข. ความนมุ่ ของเสียง
ค. ความยาวของเสยี ง ง. ความดงั ของเสียง
2
12. ความหมายของ 4 คือข้อใด
ก. ใหโ้ นต้ ตัวดามีคา่ เปน็ 1 จงั หวะ และมี 2 จังหวะ ใน 1 หอ้ ง
ข. ใหโ้ น้ตตัวดามีคา่ เป็น 1 จังหวะ และมี 3 จงั หวะ ใน 1 หอ้ ง
ค. ให้โนต้ ตวั ดามคี ่าเป็น 1 จงั หวะ และมี 4 จงั หวะ ใน 1 หอ้ ง
ง. ให้โนต้ ตัวดามีคา่ เปน็ 1 จงั หวะ และมี 6 จังหวะ ใน 1 หอ้ ง
13. ขอ้ ใดคอื การเพ่มิ คา่ ของโนต้ ประจดุ
ก. ข.
ค. ง.
14. เสน้ เสโคน้ ้งโทค่ีเง้ หท็น่ีเหเร็นยี เกรวยี ่ากว่า
ก. Staff ข. Tied Note
ค. Dotted Not ง. Time Signature
15. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง
ก. เครอื่ งหมายชาร์ฟ ปรากฏทโ่ี น้ตตวั ใดจะมีเสียงต่าลงครึ่งเสยี ง
ข. เคร่ืองหมายชาร์ฟ ปรากฏทโ่ี น้ตตัวใดจะมีเสยี งสงู ข้ึนครง่ึ เสียง
ค. เคร่อื งหมายแฟลท็ ปรากฏทโ่ี นต้ ตวั ใดจะมเี สยี งสงู ขึ้นครึ่งเสียง
ง. เคร่ืองหมายแฟล็ท ปรากฏทโ่ี นต้ ตัวใดจะมเี สียงสูงข้ึนหรอื ตา่ ลงครึ่งเสยี ง
16. เคร่ืองหมายเนเจอรัล หมายถึงอะไร
ก. คือเครอื่ งหมายถอดเสียง #, b ปรากฏท่ีโนต้ ตัวใดเสียงจะเปน็ ปกติ
ของมนั เอง
ข. คือเคร่อื งหมายแปลงเสียง #, b ปรากฏท่โี น้ตตวั ใดเสียงจะเปน็ ปกติ
ของมนั เอง
ค. คือเครือ่ งหมายเพ่ิมเสียง #, b ปรากฏท่ีโน้ตตวั ใดเสียงจะเปน็ ปกติ
ของมันเอง
ง. คือเครือ่ งหมายลดเสียง #, b ปรากฏท่โี นต้ ตวั ใดเสยี งจะเป็นปกติ
ของมันเอง
4
17. ทาไมการแต่งเพลง จึงต้องมเี คร่อื งหมายสัญลักษณ์แทนเสยี งดนตรี
ก. เพ่ือความสวยงามของการเขยี นโนต้ สากล
ข. เพ่อื ให้ง่ายต่อการอ่านโนต้ สากล
ค. เพอื่ ใหโ้ น้ตน้ันมีระดบั สงู ขนึ้ หรือต่าลงคร่งึ เสยี ง
ง. เพอ่ื ฝึกหัดการขับร้องตามเสียงดนตรี
ตอบคาถามจากขอ้ 18 – 20
ช่ือโนต้ ห้องที่ และ จานวนจังหวะ
(1) D E D C 1.5 0.5 1 1
(2) E E D C 1.5 0.5 1 1
(3) G G A C 1.5 0.5 1 1
(4) A A C 3 0.5 0.5
18. ชื่อโนต้ หอ้ งท่ี 1 และจานวนนบั จงั หวะ คอื ข้อใด
ก. (1)
ข. (2)
ค. (3)
ง. (4)
19. ชื่อโนต้ ห้องที่ 2 และจานวนนบั จังหวะ คือข้อใด
ก. (1)
ข. (2)
ค. (3)
ง. (4)
20. ชือ่ โน้ตห้องที่ 5 และจานวนนบั จังหวะ คือข้อใด
ก. (1)
ข. (2)
ค. (3)
ง. (4)
5
โน้ตดนตรีก็เป็นภาพสัญลักษณ์แทนเสียง เป็นภาษาหนึ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมา
ดังนั้นการจะให้สมองรวมภาพกับลักษณะเสียงแบบนั้นก็ใช้เวลาพอสมควร
เช่นเดียวกับการเรียนภาษาเขียนของภาษาที่ใช้สื่อสารของมนุษย์ในชนเผ่าต่างๆ
บนโลก
โนต้ ดนตรีท่ีควรรู้ มีดังนี้
1. บรรทดั 5 เสน้ (Staff)
2. ค่าของตัวโนต้
3. ห้องดนตรี
4. Time Signature กอ่ นอนื่ มารจู้ ักโนต้ ดนตรีกันนดิ นงึ
5. Dotted Note
6. Tied Note
7. Sharp และ Flat
โน้ตดนตรี คอื เครือ่ งหมายท่แี ทนคา่ เสยี งดนตรีนั่นเอง
พจิ ารณาได้ 2 ลักษณะ คือ
ระดบั เสยี งสูงตา่ ของโนต้ สามารถรู้ได้จาก
ระบบ “บรรทัด 5 เส้น” (Staff)
ระยะความสน้ั ยาวของเสียงหรอื จงั หวะ
จะรูไ้ ด้จากลกั ษณะของตวั โนต้ เชน่
โนต้ ตวั กลม ตัวด่า เปน็ ต้น
6
บรรทัด 5 เส้น (Staff)
เกิดจากเส้นตรง 5 เส้น ขีดซ้อนกันในแนวด่ิง ซ่ึงจะบอกให้ทราบถึงระดับเสียง
ของดนตรีหรือตวั โนต้ นน้ั วา่ เปน็ เสียงอะไร โดยที่แตล่ ะเสน้ และช่องระหว่างเส้นทั้ง 5 นั้น
จะมีค่าเสียงท่ีต่างกันจากเสียงต่าไปหาสูง ถ้าไล่จากเส้นล่างไปหาเส้นบน และจะ
กาหนดค่าของเสียงด้วยกุญแจ (Key Signature) สาหรับกีตาร์จะเป็นกุญแจซอล
(treble clef หรือ G - clef) ซ่ึงกาหนดให้เส้นที่ 2 จากล่างมีค่าเป็นเสียงซอล ดังน้ัน
จะได้เสียงประจาเส้นและช่องต่างๆ ของ staff ดังนี้
โดยที่ระดับเสียงต่าจะอยู่ด้านล่างของ staff และเม่ือระดับเสียงนั้นสูง หรือต่า
เกินกว่าในบรรทัด 5 เส้นปกติ ก็จะเขียนเส้นขนานเล็กๆ ท่ีด้านบนเพ่ือบันทึกโน้ต
เม่ือระดับเสียงสูงกว่าในบรรทัด 5 เส้นปกติ และในทางตรงกันข้ามถ้าระดับเสียงต่า
กว่าปกติก็จะเขียนเส้นดังกล่าวขนานกับบรรทัด 5 เส้นด้านล่าง ซึ่งเส้นดังกล่าวน้ี
เรียกว่า "เสน้ น้อย" (Leger Line)
สาหรับระดับเสียงของดนตรีสากลนั้นมี 7 เสียง แทนด้วยตัวอักษร 7 ตัวแรก
ของภาษาอังกฤษคือ A, B, C, D, E, F และ G แต่ในการอ่านจะเร่ิมจาก C และอ่าน
C = โด , D = เร, E = มี, F = ฟา, G = ซอล, A = ลา, B = ที จากนั้นก็จะวนกลับไปที่
C (โด) แต่จะมีระดับเสียงที่สูงกว่า C ตัวแรก (เรียกว่าเสียงสูงกว่า 1 อ็อกเตป
[Octave] ซงึ่ จะกลา่ วต่อไป)
7
ในขน้ั แรกขอให้เพ่อื น ๆ จ่าให้ไดก้ ่อนนะครับว่า
เสียงอะไรแทนด้วยสญั ลกั ษณ์อะไร
ซ่งึ มคี วามส่าคญั มากในการศกึ ษาข้ันตอ่ ไป
และผมจะแทนเสยี งต่าง ๆ น้ันดว้ ยตวั อักษร
ในการอธิบายตอ่ ไป
การกาหนดคา่ ความส้นั ยาวของเสียง
นอกจากระดับเสียงแล้ว เราต้องกาหนดความส้ันยาวของเสียง โดยการใช้
สัญลกั ษณท์ างดนตรี อันได้แก่
โน้ตตวั กลม หรอื เมอื่ มี 2 ตวั ติดกนั จะเขยี น
โน้ตตวั ขาว หรือเมอ่ื มี 2 ตัวตดิ กันจะเขยี น
โนต้ ตวั ดา
โน้ตเขบต็ 1 ช้นั
โน้ตเขบ็ต 2 ชั้น
8
อาจจะมีถงึ โนต้ เขบ็ต 3 หรือ 4 ช้นั กไ็ ด้
และอาจจะเขียนตวั โน้ตกลับหวั กไ็ ด้
ท้งั น้ีแลว้ แต่ความเหมาะสมในการเขียน
นอกจากสญั ลกั ษณ์ทบี่ อกความสัน้ ยาวของเสียงท่ีเล่นออกมาแล้ว ยังมีสัญลักษณ์ท่ี
บอกถงึ ความสัน้ ยาวของเสียงท่ีไม่ได้เล่น หรือ กาหนดความสั้นยาวของการหยุดเสียงซึ่ง
เรียกว่า "ตัวหยุด" โดยจะแบ่งเหมือนประเภทแรก แต่ความหมายตรงกันข้ามคือ
ประเภทแรกบอกความสั้นยาวในการเล่นเสียงออกมา แต่ตัวหยุดจะบอกความสั้นยาว
ของการหยดุ เสียงโดยใชส้ ัญลกั ษณด์ งั น้ี
ตัวหยดุ เทยี บเทา่ โนต้ ตวั กลม
ตวั หยดุ เทยี บเท่าโนต้ ตัวขาว
ตวั หยดุ เทียบเท่าโนต้ ตัวดา
ตัวหยุดเทยี บเทา่ โนต้ เขบ็ต 1 ชนั้
ตวั หยุดเทียบเท่าโนต้ เขบ็ต 2 ช้นั
การแบง่ ห้องทางดนตรี (Measure)
ในการบันทึกโน้ตดนตรีจะต้องแบ่ง staff ออกเป็นส่วน ๆ เท่า ๆ กันด้วยเส้นก้ัน
แต่ละห้องในแนวด่ิงท่ีเรียกว่า bar line โดยที่ผลรวมของจังหวะท้ังหมดในแต่ละห้อง
ตอ้ งมคี วามยาวหรอื จงั หวะเทา่ กัน และ 1 หอ้ ง จะเรียกวา่ 1 bar
9
Time Signature
ตอนนี้เราทราบระดบั เสียงของโนต้ จาก staff
(C, D, E ฯลฯ) ทราบความสัน้ ยาวของโน้ต
จากลกั ษณะของตัวโนต้ (ตวั ดา, ตวั ขาว ฯลฯ
คราวน้เี ราจะมาร้จู กั ตวั ทก่ี า่ หนดจงั หวะ
ให้ตวั โน้ต โดยท่เี มื่อก้ีเรารู้เพยี งอตั ราสว่ น
ของตัวโนต้ เท่านั้น เช่น
ตวั ขาวมคี วามยาวเปน็ 1/2 ของตัวกลม
แต่เป็น 2 เท่าของตัวด่า
แต่เรายงั ไม่รู้วา่ ไอ้ความยาวเสียงนน้ั
มนั ยาวเท่าไหนถึงเรียกวา่ ครบ 1 จังหวะ
สิง่ ทจี่ ะก่าหนดให้เราทราบค่าดงั กล่าวคอื
Time Signature โดยจะเขยี นเป็น
ตัวเลขเศษสว่ นกัน ดงั น้คี รับ
จานวนจงั หวะนับใน 1 ห้อง
X
Y โน้ตทีม่ คี ่าเป็ น 1 จงั หวะ : 1= , 2 = , 4 = , 8 =
10
เรามาดคู วามหมายของตัวเลขต่าง ๆ กันนะครบั
ตัวเลขตัวบน หมายถงึ จานวนจงั หวะใน 1 ห้อง (1 bar) ว่าใน 1 ห้องดังกล่าวนั้น
มกี ่ีจังหวะนับ เช่น 2 หมายถึงในห้องน้ันมี 2 จังหวะนับ ถ้า 3 คือ มี 3 จังหวะนับใน
1 หอ้ ง
ตัวเลขตัวลา่ ง หมายถึง การกาหนดว่าจะให้สัญลักษณ์โน้ตประเภทใดมีค่าเป็น
1 จังหวะ เช่น เลข 4 จะหมายถึงให้โน้ตตัวดา (quarter note) มีค่าเป็น 1 จังหวะ
และมีผลให้โน้ตตัวขาว (half note) มีค่าเป็น 2 จังหวะนับ โน้ตตัวกลม (whole note)
มีค่าเป็น 4 จังหวะนับ และโน้ตเขบ็ต 1 ชั้น (eighth note) มีค่า 1/2 จังหวะนับ
เปน็ ต้น
หรือถ้าเป็น 8 หมายถึงให้โน้ตเขบ็ต 1 ชั้น (eighth note) มีค่าเป็น 1 จังหวะ
นับโน้ตตัวดา (quarter note) มีค่าเป็น 2 จังหวะนับ และมีผลให้โน้ตตัวขาว (half
note) มีค่าเป็น 4 จังหวะนับ โน้ตตัวกลม (whole note) มีค่าเป็น 8 จังหวะนับ และ
โนต้ เขบ็ต 2 ช้ัน (sixteenth note) มคี า่ 1/2 จังหวะนบั เป็นตน้
ลองมาดูตัวอย่าง time signature
ท่ีพบเห็นบ่อย ๆ กนั นะครับ
2
4 ใหโ้ น้ตตวั ดามคี ่าเปน็ 1 จงั หวะ และมี 2 จงั หวะใน 1 หอ้ ง 4
3 ใหโ้ นต้ ตัวดามีค่าเป็น 1 จังหวะ และมี 3 จงั หวะใน 1 หอ้ ง
4
4 ให้โน้ตตวั ดามคี ่าเปน็ 1 จงั หวะ และมี 4 จังหวะใน 1 หอ้ ง
4
6 ใหโ้ น้ตเขบต็ 1 ชน้ั มีค่าเป็น 1 จงั หวะ และมี 6 จังหวะใน 1 หอ้ ง
8
12 ให้โนต้ เขบ็ต 1 ชัน้ มีค่าเป็น 1 จังหวะ และมี 12 จงั หวะใน 1 หอ้ ง
8
11
โนต้ ประจุด (Dotted Note)
ในบางกรณีทีเราต้องการให้ค่าตัวโน้ตนั้นมีจังหวะยาวขึ้นมาอีกครึ่งหนึ่งของตัว
มันเอง เราจะใช้จุด (dot) แทนค่าให้เพิ่มจังหวะอีกครึ่งหนึ่งของตัวเอง โดยเขียนจุด
ไวด้ า้ นข้างของตัวโน้ตท่ีต้องการเพ่ิมจังหวะ เช่น เมื่อต้องการสร้างโน้ต 3 จังหวะจาก
โน้ตตัวขาวที่มีค่า 2 จังหวะ (กรณีท่ี time signature เป็น 4/4 โน้ตตัวขาวมีค่า 2
จังหวะ) เราก็ประจุดโน้ตตัวขาว ซึ่งมีผลให้มีจังหวะเพิ่มขึ้นครึ่งหนึ่งของ 2 คือ 1
รวมเปน็ 3 จงั หวะ หรอื เท่ากับโนต้ ตัวดา 3 ตัว
หรอื เม่ือให้โน้ตตวั ดา่ มคี วามยาว 1 จังหวะ
ประจุดกจ็ ะหมายถงึ จังหวะจะเพ่มิ ขึ้นอกี ครึ่งหนึ่ง
ของ 1 คือ ½ รวมเปน็ 1 ½ หรอื 1 จงั หวะครง่ึ น่นั เอง
ซ่ึงมีคา่ เท่ากับโน้ตเขบ็ต 1 ชัน้ 3 ตวั
ลองดูจากการเปรียบเทียบขา่ งล่างนี้
Tied Note
สาหรับโน้ตประจุดนั้นจะใช้เพิ่มจังหวะที่อยู่ในห้องเดียวกัน แต่เมื่อต้องการให้
จังหวะของโน้ตตัวน้ันยาวข้ามไปยังอีกห้องหรืออีก bar หน่ึงนั้น เราจะใช้สัญลักษณ์
tie หรอื เสน้ โยงโน้ตข้ามไปอกี หอ้ งโดยท่โี น้ตตัวท่ีอย่ทู างท้ายเส้นโยงนั้นไม่ต้องเลน่
12
แต่เล่นท่ีตัวทางหัวเส้นโยงแล้วนับจังหวะรวมไปถึงตัวที่อยู่ท้ายเส้น อย่างไรก็ตาม
tied note สามารถใช้ร่วมในห้องเดียวกันก็ได้ความหมายก็เช่นเดียวกันคือเล่นโน้ต
ตัวแรกแล้วนบั จงั หวะรวมกับโนต้ ทอ่ี ยู่ท้ายเส้นโยง
ดจู ากรปู นะครับแลว้ ลองฝกึ นบั ในใจดู
โดยอาจเคาะมอื หรอื เทา้ เปน็ จังหวะนับก็ได้
ตัว C ที่เห็นอย่ตู อ่ จากกญุ แจซอลนั้น หมายถึง
time signature 4/4 ในการเขียนโนต้ มกั แทนดว้ ย C
จากตัวอย่างข้างบนจะเห็นมี 2 จุดที่มี tied โน้ต จุดท่ี 1 ในห้องแรก โน้ตตัว D
เป็นโนต้ ตัวดามเี สน้ โยงไปยังโน้ต D ที่เป็นโนต้ ตวั ตาอกี ตวั ในเชิงปฏิบัติเราจะดีดโน้ต
ตัวขาวตัวแรกเสียง B นับ 2 จังหวะ จากนั้นดีดโน้ตตัวที่สองคือตัวดาตัวแรกแต่เรา
จะนับจังหวะรวมกับตวั ดาตัวทส่ี อง (เน่ืองมาจากเส้นโยง) แล้วนับรวมเป็น 2 จังหวะ
ดังนนั้ ในหอ้ งแรกเราจะเล่นโน้ตแค่ 2 ตัว คือ โน้ต B ตัวขาว และโน้ต D ตัวดานับ 2
จงั หวะเช่นกนั
และที่จุดท่ีสองเป็นการโยงข้ามห้องจากห้องที่ 2 โน้ต C ตัวดาไปยังห้องที่ 3 โน้ต
C ตวั ขาว หลักการปฏิบัตเิ ชน่ เดียวกับแบบแรกคอื เลน่ โน้ต C ตวั ดาแตน่ บั จงั หวะรวม
โน้ตตัวขาวไปด้วย ดังนั้นรวมจังหวะในการเล่นโน้ต C ตัวนี้เป็น 3 จังหวะ (ตัวดา 1
จงั หวะ + ตวั ขาว 2 จังหวะ = 3 จงั หวะ)
13
ขอ้ สงั เกตอย่างหนง่ึ คือ การใช้ tied note มกั จะเป็นโน้ตตัวเดียวกัน ถ้าเกิดเป็น
โนต้ คนละตัวจะไม่ใช่ tied note แต่อาจจะเป็นโน้ตแฮมเมอร์ออน ถ้าตัวท้ายเส้นโยง
มีระดับเสียงสูงกว่าตัวหน้า และอาจจะเป็นพูลออฟ ถ้าโน้ตตัวท้ายเส้นโยงเสียงต่ากว่า
ตัวหนา้ เป็นต้น
ลองมาดูตวั อย่างการบนั ทึกโนต้ ดนตรดี นู ะครบั
อาจจะยากไปนดิ หนึ่ง แตล่ องศึกษาดูครบั
ศึกษาไวเ้ ล็กนอ้ ยพอเขา้ ใจหน่อยกย็ ังดีครับ
เผ่อื ไวต้ ่อไปอาจจะไดศ้ ึกษาในข้ันทส่ี งู ๆ ตอ่ ไปได้
ผมไดเ้ ลือกเพลงดฟล์คเก่า ๆ ที่หลายคนคงรูจ้ ัก
คือเพลง 500 ไมล์ ส่วนหน่งึ มาใหล้ องดู
พรอ้ มทงั้ คา่ อธบิ ายการอ่านโน้ต
อธิบายการอ่าน 14
ลาดับตัวโน้ต ช่อื โนต้ จานวนจงั หวะ
1 G 1
2 C 1
2
จังหวะรวม (เศษห้อง) 1.5
0.5
3E 1
4E 0.5
5D 0.5
6C 4
7D 1.5
0.5
จงั หวะรวมหอ้ ง 1 1
1
8E 4
9E 1.5
10 D 0.5
11 C 1
1
จงั หวะรวมห้อง 2 4
3
12 D 0.5
13 E 0.5
14 D 4
15 C
จงั หวะรวมห้อง 3
16 A
17 A
18 C
จงั หวะรวมห้อง 4
15
ลาดับตัวโน้ต ชื่อโนต้ จานวนจงั หวะ
19 D 1.5
20 E 0.5
21 D 1
22 C 0.5
23 A 0.5
จังหวะรวมหอ้ ง 5 4
24 G 1.5
25 G 0.5
26 A 1
27 C 1
จงั หวะรวมห้อง 6 4
29 C 4
จังหวะรวมหอ้ ง 7 4
จากตารางจะมีเพียงห้องแรก ซ่งึ เรยี กว่าเศษหอ้ ง
จะมีไม่ครบ 4 จังหวะ แต่นอกน้ันทุกหอ้ งจะรวมได้
จงั หวะหมด ตาม time signature ทเ่ี ปน็ ตัว C
นนั่ แหละครบั หมายถึง 4/4
ซึง่ ท่าใหโ้ นต้ ตัวดา่ มคี ่าเปน็ 1 จังหวะ
และทงั้ ห้อง หรือ 1 bar จะมี 4 จังหวะ
16
เครอื่ งหมาย ชารฟ์ และ แฟลท็ (Sharp & Flat)
จากท่ีไดร้ จู้ ักเสียงดนตรีท้ัง 7 เสียงนั้น
ถอื เป็นระดับเสียงตามธรรมชาตขิ องมนุษย์
ซึง่ ระดับเสยี งจะหา่ งกัน 1 เสยี งเต็ม
หมายถงึ ระดบั ความสูงตา่ ของเสียงนะครับ
แตจ่ ะมี 2 คู่ที่ต่างกันคร่งึ เสยี ง คอื
ระหว่าง E, F และ B, C
ไมใ่ ช่ครงึ่ จงั หวะนะครบั
อยา่ เพ่ิงงงละ่ ครบั
ตอนนเ้ี ราพูดถงึ เรือ่ ง
ระดับของเสยี งอยู่ไมใ่ ช่จังหวะ
ในการแต่งเพลงหรือดนตรีสากลมักจะมีเสียงที่เป็นครึ่งๆ คือ ไม่ใช่เสียงเต็ม
แบบธรรมชาติซ่ึงไม่มีกาหนดในสัญลักษณ์ดนตรีสากล จึงต้องมีการสร้างสัญลักษณ์
เพื่อทาให้โน้ตน้ันมีระดับเสียงสูงข้ึนหรือต่าลงครึ่งเสียงและสัญลักษณ์ดังกล่าวก็คือ
เครื่องหมายชาร์ฟ (#) และแฟลท็ (b) น่นั เอง
เคร่ืองหมาย ชารฟ์ (Sharp ; #)
เม่ือปรากฏท่ีโน้ตตัวใดจะทาใหโ้ น้ตนนั้ มีระดับเสียงสูงขึน้ คร่ึงเสยี ง เช่น C # อา่ นว่า
ซี - ชารฟ์ จะมีระดบั เสียงสงู กว่า C อยคู่ รึง่ เสยี ง
17
เครอื่ งหมาย แฟล็ท (Flat ; b)
ตรงกันข้ามกับ # เ ม่ือปรากฎท่ีโน้ตตัวใดจะทาให้โน้ตตัวนั้นมีระดับเสียงต่าลง
ครึ่งเสียง เช่น Eb อ่านว่า อี-แฟล็ท จะมีระดับเสียงต่ากว่า E อยู่ครึ่งเสียง ดังนั้นจะต้อง
มีโน้ตที่มีระดับเสียงซ้ากันอันได้แก่
C# = Db , D# = Eb , F# = Gb , G# = Ab และ A# = Bb
นอกจากนย้ี ังมี Cb = B , B# = C , E# = F และ Fb = E
ซึง่ แบบหลังมักไม่นยิ มเขียนในรปู # , b
เมื่อมีการกาหนดเครื่องหมาย # หรือ b ลงบน staff ท่ีในช่องระหว่างเส้น หรือ
บนเส้นใดกต็ าม (ศกึ ษาจากเรื่อง scale ได้) จะมีผลบังคับให้ตัวโน้ตทุกๆ ตัวที่อยู่บน
เส้นหรือในช่องน้ันๆ ถูกบังคับด้วย # หรือ b เช่นกัน นอกจากน้ียังรวมถึงโน้ตที่มี
เสยี งเดียวกันทั้งหมด ไมว่ า่ จะอยู่ที่ช่องหรือบนเส้นใดของ staff ดังเช่น เมื่อมีการติด
เครื่องหมาย # ไว้บนเส้นบนสุดของ staff ซึ่งเส้นนี้มีเสียง F อยู่ เมื่อมี # อยู่บนเส้น
นี้จะมีผลให้โน้ตทุกตัวท่ีอยู่บนเส้นน้ีมีค่าเป็น F# ท้ังหมดโดยที่ไม่ต้องเขียน # ไว้ท่ี
โน้ตทุกๆ ตัว นอกจากนี้โน้ตท่ีมีเสียง F ทั้งหมด เช่น ในช่องล่างสุด(ระหว่างเส้นท่ี 1
กับ 2) ซ่ึงมีเสียง F เช่นกัน ก็จะกลายเป็น F# ไปโดยปริยาย สาหรับเคร่ืองหมาย b
กเ็ ชน่ เดียวกัน แต่จะทาให้คา่ ของโนต้ ลดลงครง่ึ เสียง
แต่ในการแต่งเพลงบางทีอาจต้องการปรับกลับมาให้เป็นเสียงเต็ม คือ ต้องการ
ถอดเครื่องหมาย # , b ออกชั่วคราว เช่น แค่ 1 หรือ 2 ห้องหรือเพียงแค่โน้ตตัวเดียว
ทีต่ อ้ งการปลดเจ้า #, b ออก ดังนั้นเราจึงมีเคร่ืองหมายอีกตัวที่ใช้ในการปลดเจ้า #,
b ออก
เครือ่ งหมายเนเจอรัล (naturals ; )
เครื่องหมายน้ีจะตรงกันข้ามกับ #, b คือ เม่ือปรากฏท่ีโน้ตตัวใดจะทาให้โน้ตนั้น
มีระดับเสียงเป็นปกติตามสัญลักษณ์ของมัน คือใช้ในการถอดเคร่ืองหมาย #, b
น่ันเอง เช่น จากตัวอย่างที่แล้ว staff เส้นบนสุดติด # อยู่ ดังน้ันเสียง F จึงกลายเป็น
F# แต่ที่โน้ตตัวหนึ่งเราต้องการให้เป็นเสียง F เฉยๆ เราก็จะเขียนเครื่องหมาย
naturals ไว้ทโี่ นต้ ตวั ดงั กลา่ ว ซ่งึ มผี ลให้เฉพาะโน้ตตัวนนั้ ท่ีกลายเปน็ F
หากต้องการยกเลิกเคร่อื งหมาย #, b
ทัง้ ห้องน้นั ก็จะเขียน naturals ไว้บนเส้นนั้นเลย
18
ตวั อยา่ งเชน่
ท่ีหอ้ งหนง่ึ ผมตอ้ งการยกเลิก F# ท้ังหมด
ผมกจ็ ะใสเ่ ครอ่ื งหมาย naturals
ไวบ้ น staff เส้นบนสดุ ในห้องนัน้
ลองมาดูตวั อย่าง
พรอ้ มค่าอธิบายดูครับ
ตัวอย่างท่ี 1
ตัวอย่างท่ี 1 เป็นสเกลทาง #
โดยมี 1 # คือ F# ซ่ึงอยู่ในสเกล
G major และ time signature
เป็น 4/4 (หรอื เคร่อื งหมาย C)
เรามาดูโน้ตท่นี า่ สนใจกนั
19
โน้ตตวั ที่ 1 ตามบรรทัด 5 เส้นจะมเี สยี ง F แตเ่ นื่องจากใน staff นี้ตดิ 1 # คือ
F# ดังนั้นโน้ตตัว F ทกุ ตวั ตอ้ งตดิ # หมด จึงมผี ลให้โน้ตตวั ที่ 1 ติด # ไปด้วย เป็น
F#
โน้ตตวั ท่ี 2 ตามบรรทัด 5 เสน้ จะมเี สยี ง G แตต่ ิด # จงึ กลายเป็น G#
โน้ตตัวที่ 3 ตามบรรทัด 5 เสน้ จะมีเสียง F# (เหตุผลเดยี วกับโนต้ ตวั ท่ี 1) แต่ตดิ
จงึ กลายเปน็ F ธรรมดา
โนต้ ตัวที่ 4 ตามบรรทัด 5 เส้นจะมีเสียง F# (เหตุผลเดียวกับโน้ตตัวท่ี 1)
แม้จะมี ในห้องที่สอง แต่มันจะมีผลเฉพาะในห้องน้ัน เม่ือข้ึนห้องใหม่แล้วก็จะ
เหมือนเดมิ
โน้ตตัวท่ี 5 ตามบรรทัด 5 เสน้ จะมีเสยี ง G แต่ตดิ # จึงกลายเปน็ G#
โน้ตตัวที่ 6 ตามบรรทัด 5 เส้นจะมีเสียง F# (เหตุผลเดียวกับโน้ตตัวที่ 1)
แม้จะมี ในห้องที่สอง แต่มันจะมีผลเฉพาะในห้องนั้น เมื่อขึ้นห้องใหม่แล้วก็จะ
เหมอื นเดมิ เหมือนตวั ที่ 4
โนต้ ตวั ที่ 7 จะมีผลเป็น G# เน่ืองมาจากโน้ตตัวท่ี 5 แต่ติด จึงกลายเป็น
G ธรรมดา
โนต้ ตวั ที่ 8 ตามบรรทดั 5 เสน้ จะมีเสียง F# เนอื่ งมาจากโน้ตตวั ท่ี 4
ตวั อย่างท่ี 2
ตวั อยา่ งทส่ี องเปน็ สเกลทาง b
โดยมี 1 b คือ Bb ซง่ึ อยู่ใน
สเกล F major
ลองมาดูรายละเอยี ดดูนะครบั
20
โน้ตตัวที่ 1 ตามบรรทัด 5 เส้นจะมีเสียง B แต่เน่ืองจากใน staff นี้ติด 1 b
คือ Bb ดังน้ันโน้ตตัว B ทุกตัวต้องติด b หมดจึงมีผลให้โน้ตตัวท่ี 1ติด b ไปด้วยเป็น
Bb
โน้ตตัวที่ 2 เนื่องจากโน้ตตัวที่ 1 จะมีเสียง Bb แต่เนื่องจากติด จึงมีผล
ให้กลายเป็น B ธรรมดา
โน้ตตัวที่ 3 ตามบรรทัด 5 เสน้ จะมเี สียง D แตต่ ดิ b จงึ กลายเป็น Db
โน้ตตัวที่ 4 ยังคงเป็น Bb แม้ว่าโน้ตตัวที่ 2 จะติด natural ก็ตาม แต่เมื่อ
ต่าง octave หรือคนละขนั้ เสยี ง natural จะไมม่ ผี ล
โนต้ ตัวที่ 5 ตามบรรทดั 5 เส้นจะมเี สยี ง E แต่ตดิ b จึงกลายเป็น Eb
โน้ตตัวท่ี 6 ตามบรรทัด 5 เส้นจะมีเสียง Bb (เหตุผลเดียวกับโน้ตตัวที่ 1)
แม้จะมี ในห้องท่ีสอง แต่มันจะมีผลเฉพาะในห้องนั้น เม่ือข้ึนห้องใหม่แล้วก็จะ
เหมือนเดมิ
โนต้ ตวั ท่ี 7 จะมเี สยี ง Bb เหตผุ ลเดียวกับโน้ตตัวที่ 6
โนต้ ตัวท่ี 8 ตามบรรทดั 5 เสน้ จะมเี สียง G แต่ตดิ b จึงกลายเปน็ Gb
คุณรู้จกั โน้ต ระดับเสยี ง
และจังหวะดนตรีวา่ คืออะไร
ใช้สัญลกั ษณอ์ ะไร
เรยี กยังไง อ่านยงั ไง
ท้ังหมดนร้ี ู้ไว้เป็นพืน้ ฐานนะครบั ผม
21
แบบฝึกกจิ กรรมท่ี 3.1
ชุดที่ 3 เรื่อง โนต้ ดนตรีสากล
คาส่งั ให้นักเรียนบอกความหมายจากเลขไปหาลูกศรชี้ใหถ้ กู ต้อง (5 คะแนน)
1 2
4
5
3
1. เรยี กวา่ ………………………………………………................……..
2. เรียกว่า ……………………………………………................………..
3. เรียกวา่ ………………………………………................……………..
4. เรยี กว่า ………………………………………................……………..
5. เรียกว่า …………………………………………................…………..
ชอื่ ……………………...................…………สกลุ ………..............……………..เลขที่……………..
ชั้น……………………..โรงเรียน…….................................………………………………………….
22
แบบฝึกกจิ กรรมที่ 3.2
ชุดที่ 3 เร่อื ง โนต้ ดนตรีสากล
คาสงั่ ใหน้ ักเรยี นบอกค่าและเสยี งของโน้ตสากลดงั ต่อไปน้ี (3 คะแนน)
ค่า __ __ __ __ __ __ __ __ __ __ __
เสียง ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___
ค่า __ __ __ __ __ __ __ __ __ __ __
เสยี ง ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___
คา่ __ __ __ __ __ __ __ __ __
เสียง ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___
ชอ่ื …………………................…..…………สกลุ ……………..............………..เลขท่ี……………..
ชน้ั ……………………..โรงเรยี น…................................…………………………………………….
23
แบบฝกึ กจิ กรรมท่ี 3.3
ชดุ ท่ี 3 เร่ือง โน้ตดนตรสี ากล
คาส่ัง ใหน้ กั เรียนฝึกปฏิบตั ิเขียนโนต้ สากลและปฏบิ ตั ิเครื่องดนตรีสากล
ทต่ี นเองเลือกฝึกตามโนต้ เพลงตอ่ ไปน้ี (12 คะแนน)
เพลงตื่นแตเ่ ช้า
ตืน่ แต่ เชา้ อาบ น้า สี ฟัน กิน อาหาร บา รงุ ร่าง กาย
โต เร็ว เร็ว แลว้ เรา เปน็ ผู้ ใหญ่ กาย ใจ เรา สขุ เอย
เพลงต่ืนแต่เช้า
|1. 2 3 1|2 3 1 |3. 4 5 3 |4 5 3 |
ต่นื แต่ เช้า อาบ นา้ สี ฟนั กิน อาหาร บา รุง ร่าง กาย
5. 5 5 6|5 4 3 1 |2 2 1 7 |1 . 0 |
โต เร็ว เร็ว แลว้ เรา เป็น ผู้ ใหญ่ กาย ใจ เรา สขุ เอย
ชื่อ……………………..........…………สกลุ ………………….......................…..เลขท่ี……………..
ชนั้ ……………………..โรงเรยี น………….................................…………………………………….
24
แบบทดสอบหลงั เรยี น
ชดุ ที่ 3 เร่อื ง โน้ตดนตรีสากล
คาสง่ั ให้นกั เรียนกาเครอ่ื งหมาย X หนา้ ข้อคาตอบทถี่ กู ตอ้ งท่ีสุด
เพียงขอ้ เดยี ว (20 คะแนน)
1. การกาหนดค่าของเสียงในบรรทัด 5 เส้น จะทราบจากอะไร
ก. เส้นนอ้ ย
ข. ตัวหยดุ
ค. กญุ แจ
ง. เส้นกั้นหอ้ ง
2. เสยี งดนตรถี ้าสูงและตา่ กว่าบรรทดั 5 เส้น จะบันทกึ ต่อไปคือ
ก. เสน้ นอ้ ย
ข. เสน้ กั้นหอ้ ง
ค. เสน้ ปดิ ห้องเพลง
ง. เส้นปิดวรรคเพลง
3. จะเขยี นแบบใดถา้ มี 2 ตัว ตดิ กนั
ก.
ข.
ค.
ง.
4. ตัวหยดุ เทยี บเท่ากบั โน้ตตัวใด
ก. ตัวขาว
ข. ตวั กลม
ค. ตวั เขบต็
ง. ตวั ดา
25
5. การแบง่ หอ้ งทางดนตรีออกเปน็ ส่วนเท่า ๆ กัน ตามแนวด่ิง หรอื เรยี กว่า
ก. Dotted Note
ข. Staff
ค. Tied Note
ง. Bar tine
6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่องค์ประกอบของโน้ตดนตรีสากล
ก. บรรทดั 5 เส้น
ข. ค่าของตวั โน้ต
ค. หอ้ งดนตรี
ง. เครื่องดนตรี
7. ความหมายของโนต้ ดนตรีสากล คือ ขอ้ ใด
ก. เคร่อื งหมายหยุด
ข. เคร่อื งหมายแปลงเสียง
ค. เคร่ืองหมายที่แทนคา่ เสียงดนตรี
ง. เครอ่ื งหมายจังหวะ
8. ระดบั เสยี งสงู ตา่ ของโน้ต สามารถทราบจากอะไร
ก. บรรทดั 5 เส้น
ข. กุญแจ
ค. เสน้ กั้นหอ้ ง
ง. ตัวโน้ต
9. ความส้ัน ยาวของเสยี ง เรียกอกี อย่างหนึง่ ว่าอะไร
ก. ตวั กลม
ข. จังหวะ
ค. ตวั เขบต็
ง. เสน้ น้อย
10. เราจะทราบความสนั้ ยาวของเสียงจากส่งิ ใด
ก. บรรทดั 5 เสน้
ข. เสน้ น้อย
ค. กญุ แจ
ง. ตัวโน้ต
26
11. เครอ่ื งหมายเนเจอรลั หมายถึงอะไร
ก. คือเครือ่ งหมายถอดเสียง #, b ปรากฏที่โนต้ ตวั ใดเสยี งจะเปน็ ปกติ
ของมนั เอง
ข. คือเครอ่ื งหมายแปลงเสยี ง #, b ปรากฏที่โนต้ ตวั ใดเสยี งจะเป็นปกติ
ของมันเอง
ค. คือเครอ่ื งหมายเพิม่ เสยี ง #, b ปรากฏที่โนต้ ตัวใดเสยี งจะเปน็ ปกติ
ของมนั เอง
ง. คอื เครือ่ งหมายลดเสียง #, b ปรากฏท่โี น้ตตวั ใดเสียงจะเปน็ ปกติ
ของมนั เอง
12. ทาไมการแตง่ เพลง จึงต้องมเี คร่อื งหมายสัญลกั ษณ์แทนเสียงดนตรี
ก. เพ่อื ความสวยงามของการเขยี นโนต้ สากล
ข. เพื่อให้ง่ายตอ่ การอา่ นโนต้ สากล
ค. เพอื่ ใหโ้ นต้ นั้นมรี ะดับสูงขึ้นหรอื ตา่ ลงครงึ่ เสยี ง
ง. เพอื่ ฝึกหัดการขับรอ้ งตามเสยี งดนตรี
ตอบคาถามจากข้อ 13 - 15
ช่ือโน้ตห้องที่ และ จานวนจงั หวะ
(1) D E D C 1.5 0.5 1 1
(2) E E D C 1.5 0.5 1 1
(3) G G A C 1.5 0.5 1 1
(4) A A C 3 0.5 0.5
13. ชือ่ โนต้ หอ้ งที่ 1 และจานวนนับจงั หวะ คอื ขอ้ ใด
ก. (1) ข. (2)
ค. (3) ง. (4)
27
14. ชื่อโน้ตหอ้ งที่ 2 และจานวนนับจังหวะ คือข้อใด
ก. (1)
ข. (2)
ค. (3)
ง. (4)
15. ช่อื โน้ตห้องที่ 5 และจานวนนบั จังหวะ คือข้อใด
ก. (1)
ข. (2)
ค. (3)
ง. (4)
16. การเขียนเลขเศษสว่ น คอื การเขียนเพ่ืออะไร
ก. ความหนักเบาของเสียง
ข. ความนุ่มของเสียง
ค. ความยาวของเสียง
ง. ความดังของเสยี ง
17. ความหมายของ 2 คือขอ้ ใด
4
ก. ใหโ้ น้ตตัวดามีค่าเปน็ 1 จังหวะ และมี 2 จังหวะ ใน 1 หอ้ ง
ข. ให้โนต้ ตัวดามคี ่าเป็น 1 จังหวะ และมี 3 จังหวะ ใน 1 หอ้ ง
ค. ใหโ้ น้ตตัวดามคี า่ เปน็ 1 จังหวะ และมี 4 จงั หวะ ใน 1 หอ้ ง
ง. ให้โนต้ ตัวดามคี ่าเป็น 1 จังหวะ และมี 6 จงั หวะ ใน 1 หอ้ ง
18. ข้อใดคือ การเพม่ิ คา่ ของโน้ตประจุด
ก.
ข.
ค.
ง.
28
19. เส้นโคง้ ทเี่ หน็ เรียกว่า
ก. Staff
ข. Tied Note
ค. Dotted Not
ง. Time Signature
20. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง
ก. เครอ่ื งหมายชารฟ์ ปรากฏทโี่ น้ตตัวใดจะมเี สยี งต่าลงครึ่งเสียง
ข. เครอ่ื งหมายชารฟ์ ปรากฏที่โนต้ ตัวใดจะมเี สยี งสงู ขึ้นครงึ่ เสียง
ค. เครอ่ื งหมายแฟล็ท ปรากฏทโ่ี น้ตตวั ใดจะมีเสียงสงู ขึน้ คร่งึ เสยี ง
ง. เครอ่ื งหมายแฟล็ท ปรากฏทโ่ี น้ตตวั ใดจะมีเสียงสูงข้ึนหรอื ตา่ ลง
ครงึ่ เสียง
29
ภาคผนวก
30
เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
ชดุ ท่ี 3 เรอ่ื ง โน้ตดนตรีสากล
1. ง 8. ค 14. ค
2. ค 9. ข 15. ข
3. ก 10. ง 16. ก
4 . ข 11. ค 17. ค
5. ง 12. ก 18. ข
6. ค 13. ค 19. ก
7. ก 20. ค
31
เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมท่ี 3.1
ชดุ ท่ี 3 เรือ่ ง โน้ตดนตรสี ากล
1. กุญแจซอล
2. บรรทดั 5 เส้น
3. เสน้ นอ้ ย
4. เครื่องหมายกาหนดจังหวะ
5. เส้นก้นั หอ้ ง
32
เฉลยแบบฝกึ กจิ กรรมที่ 3.2
ชดุ ท่ี 3 เรือ่ ง โน้ตดนตรีสากล
ค่า 1 1 1 1 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 1
เสยี ง ซอล มี ซอล มี ซอล ลา ซอล ฟา มี โด เร
ค่า 1 1 1 1 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 1
เสียง ฟา เร ฟา เร ซอล ลา ซอล ฟา มี เร โด
คา่ 1 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 1 3
เสียง โด เร มี ฟา ซอล ลา ซี โด
33
เฉลยแบบฝกึ กจิ กรรมท่ี 3.3
ชุดที่ 3 เรอ่ื ง โน้ตดนตรสี ากล
อยู่ในดุลพินจิ ของครผู สู้ อน
34
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
ชุดท่ี 3 เรอ่ื ง โนต้ ดนตรสี ากล
1. ค 8. ก 15. ค
2. ก 9. ข 16. ค
3. ค 10. ง 17. ก
4 . ข 11. ก 18. ค
5. ง 12. ค 19. ค
6. ง 13. ข 20. ข
7. ค 14. ก
35
บรรณานุกรม
กรมวชิ าการ. คู่มอื การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ศิลปะดนตรี. กรุงเทพฯ : กรมวชิ าการ,
2544.
โกวิทย์ ขันธศริ ิ. ดรุ ยิ างคศลิ ป์ตะวันตก (เบอื้ งต้น). กรงุ เทพฯ : สานกั พิมพ์
แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550.
ไขแสง ศขุ ะวัฒนะ. สงั คตี นยิ มวา่ ด้วย : ดนตรตี ะวันตก. กรงุ เทพมหานคร :
ไทยวัฒนาพานิช, 2541.
คมสันต์ วงศว์ รรณ์. ดนตรตี ะวนั ตก. กรุงเทพฯ : จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ม.ป.ป.
เจนดรุ ิยางค์. หลกั วิชาการดนตรีและการขบั ร้อง. เล่ม 1. พิมพค์ รงั้ ท่ี 7.
กรุงเทพฯ : โรงพมิ พก์ รมแผนทท่ี หาร, 2516.
ณชั ชา โสดตยิ านรุ ักษ์. ทฤษฎดี นตรี. พิมพค์ ร้งั ท่ี 6. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์
แหง่ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2549.
ดนยั ลมิ ปดนยั . ดนตรแี ห่งชวี ติ . พิมพค์ รง้ั แรก. กรงุ เทพฯ : กราฟิดอาร์ต, 2522.
ธวัชชัย นาควงษ์. การสอนดนตรสี าหรบั ตามแนวของโคได. พมิ พค์ รั้งที่ 1.
กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2541.
ธวชั ชัย นาควงษ์. การสอนดนตรีสาหรบั เดก็ ตามแนวของคาร์ล ออร์ฟ. พมิ พค์ ร้งั ท่ี 1.
กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์, 2542.
ประพนั ศักด์ิ พุ่มอนิ ทร์. ทฤษฎดี นตรสี ากลขั้นพ้ืนฐาน. กรุงเทพมหานคร : เอม็ ไอเอส
ซอฟทเ์ ทค, 2548.
ประสิทธิ์ เลียวศิรพิ งศ์. ประวัติดนตรตี ะวันตกโดยสังเขป. พิมพค์ ร้งั ท่ี 1. กรงุ เทพฯ :
ดอกเตอร์แซก, 2533.
พชิ ัย ปรชั ญานุสรณ์. ทฤษฎดี นตรีเกรดหนง่ึ . พมิ พ์ครัง้ แรก. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์
หนึ่งเจด็ การพมิ พ์, 2531.
พงึ จิตต์ สวามิภกั ด์ิ. หนงั สอื เรยี นศิลปกรรมรายวิชา ศ 0215 – ศ 0216 ทฤษฎดี นตรี
สากล 1–2 ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ตามหลักสูตรมธั ยมศึกษาตอนปลาย
พุทธศักราช 2524. กรงุ เทพฯ : องค์การค้าของครุ สุ ภา, 2524.
สมนกึ อนุ่ แกว้ . ทฤษฎดี นตรแี นวปฏิบัติ. พิมพ์คร้ังที่ 4. กรุงเทพฯ : สามัคคีสาร
(ดอกหญา้ ), 2538.
สาเรจ็ คาโมง. ทฤษฎีดนตรสี ากล ฉบบั สรรพสูตร. กรงุ เทพมหานคร : ฐานบัณฑิต,
2552.
36
www.easyguitar.kwanruean.com/basicnote.htm/ โนต้ ดนตรสี ากล.
www.grand-oper.exteen.com/20090311/entry-1 ยุคสมัยของดนตรสี ากล.
www.kungsup.blogspot.com/2007/10/1.html ประโยชนข์ องดนตรตี อ่ สังคมมนษุ ย์.
www.riverlightmusic.com/propetduntree%20.htm ประเภทของดนตรีสากล.
www.sema.go.th/files/content/Art…__9.html การดูแลรกั ษาเคร่อื งดนตรี.
www.share.psu.ac.th/blog/commusic/1846 สว่ นประกอบของดนตรแี ละระดับเสียง.
www.vcharkarn.com/varticle/39909 สบายๆ กับวถิ ี “ดนตรีบาบัด”
www.yes-iloveyou.com ประวัตเิ คร่ืองดนตรีสากล.
37
ดนตรีกับชีวิต
กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ (วชิ าดนตรี)
สาหรบั นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1
ชดุ ท่ี 3 เรื่อง โนต้ ดนตรสี ากล
นายนราศกั ดิ์ สรอ้ ยสนธ์ิ
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
โรงเรียนบ้านโสกชนั
สานกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2
จังหวัดอบุ ลราชธานี
38
คานา
ชุดการสอน “ดนตรีกับชีวิต” ชุดที่ 3 เร่ือง โน้ตดนตรีสากล ผู้เขียนได้จัดทาข้ึน
เพื่อพัฒนาการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ประกอบ
แผนการจัดการเรียนรู้ เรอื่ ง ดนตรกี ับชีวติ และนกั เรียนกลุม่ สนใจดนตรสี ากล
ชุดการสอน “ดนตรีกับชีวิต” ชุดนี้ สาเร็จลุล่วงไปด้วยดี ก็เนื่องจากได้รับ
ความอนเุ คราะหใ์ หค้ าปรึกษาจากผู้ทรงคุณวฒุ ิ ดงั น้ี
ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ทินกร อัตไพบูลย์ อาจารย์วิทยาลัยดรุ ยิ างคศิลป์
มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
จังหวดั มหาสารคาม
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ประณต พลอาสา อาจารย์ภาควชิ าดนตรี
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
จงั หวัดอุบลราชธานี
นางเนตรบงั อร ศรไชย ครูวิทยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรยี นรศู้ ิลปะ (วชิ านาฏศลิ ป)์
โรงเรียนเทศบาลวารนิ วิชาชาติ
จังหวัดอบุ ลราชธานี
ที่กรุณาตรวจสอบ เสนอแนะและแก้ไขปรับปรุง ผู้เขียนขอกราบขอบพระคุณ
เป็นอย่างสงู
นายนราศกั ดิ์ สรอ้ ยสนธิ์
สารบัญ 39
คาชแี้ จง หน้า
จุดประสงค์
แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง โนต้ ดนตรสี ากล ก
เอกสารประกอบการเรยี น เรือ่ ง โน้ตดนตรีสากล ข
แบบฝึกกิจกรรมที่ 3.1 เรือ่ ง โน้ตดนตรีสากล 1
แบบฝึกกจิ กรรมท่ี 3.2 เรือ่ ง โน้ตดนตรสี ากล 5
แบบฝกึ กิจกรรมที่ 3.3 เรื่อง โนต้ ดนตรสี ากล 21
แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง โน้ตดนตรีสากล 22
ภาคผนวก 23
24
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เรือ่ ง โนต้ ดนตรีสากล
เฉลยแบบฝึกกิจกรรมท่ี 3.1 เรื่อง โน้ตดนตรสี ากล 30
เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมที่ 3.2 เร่ือง โน้ตดนตรีสากล 31
เฉลยแบบฝกึ กิจกรรมท่ี 3.3 เรอ่ื ง โน้ตดนตรสี ากล 32
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง โน้ตดนตรสี ากล 33
บรรณานุกรม 34
4ก0
คาชีแ้ จง
ชุดการสอน “ดนตรกี ับชวี ติ ” กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (วชิ าดนตรี)
จัดทาข้ึนเพ่ือประกอบแผนการจดั การเรียนรู้ โดยมีเน้ือหายอ่ ยดังนี้
โนต้ ดนตรีสากล
- บรรทัด 5 เสน้
- การกาหนดค่าความสั้นและยาวของเสียง
- การแบง่ ห้องทางดนตรี (Measure)
- Time Signature
- โน้ตประจดุ (Dotted Note)
- Tied Note
- อธบิ ายการอ่าน
- เคร่อื งหมายชาร์ฟ และ แฟลท็ (Sharp & Flat)
ชุดการสอน “โนต้ ดนตรีสากล” ครูผู้สอนและผู้เก่ียวข้องสามารถนาไปใช้ได้
หลายแนวทาง คอื
1. ใช้ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง “ดนตรกี บั ชวี ิต”
2. ใช้สอนนักเรยี นกลุ่มสนใจดนตรี ชมุ นุมดนตรสี ากล
3. นกั เรียนใช้เป็นหนังสอื อ่านเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง
4. เพอ่ื เผยแพรแ่ กบ่ ุคคลอื่นตามท่เี หน็ สมควร
4ข1
จุดประสงค์
1. บอกและอธบิ ายองค์ประกอบของโนต้ ดนตรสี ากลได้
2. บอกความหมายและเขยี นบันทกึ โนต้ สากลในบรรทัดหา้ เส้นได้
3. บอกการกาหนดความยาวสั้นของเสยี งและค่าของตวั โน้ตได้
4. บอกความหมายของการแบง่ ห้องของดนตรีได้
5. บอกความหมายของเลขตัวบนและเลขตัวล่าง เขียนบันทึกโน้ตสากลได้
6. บอกและอธบิ ายหน้าท่ีของตวั ประจุดได้
7. บอกและเขียนบันทกึ โน้ตสากลในแต่ละหอ้ งเพลงได้
8. บอกความหมายและคา่ ของกุญแจซอลกับตัว C ได้
9. อ่านลาดับตัวโนต้ ชื่อโน้ต จานวนจงั หวะ จงั หวะรวม เศษหอ้ งได้
10. บอกและอธบิ ายความหมายของเคร่ืองหมายชาร์ฟและแฟลท็ ได้
11. เขียนและบอกคา่ ของเคร่ืองหมายชาร์ฟและแฟลท็ ได้
12. อา่ นและนบั จังหวะของโน้ตท่ีบันทึกในบรรทดั หา้ เสน้ ได้
13. บอกหน้าทข่ี องเครือ่ งหมายเนเจอรลั ได้
14. บอกประโยชน์และความสาคญั ของดนตรตี อ่ มนุษย์ในการดาเนินชีวติ ได้