The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วย1_ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย -สมัยประวัติศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattagit Outmano, 2021-05-28 11:32:06

หน่วย1_ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย -สมัยประวัติศาสตร์

หน่วย1_ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ไทย -สมัยประวัติศาสตร์

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑

ยคุ สมัยทางประวัติศาสตรไ์ ทย : สมยั ประวตั ศิ าสตร์

โดย:ครณู ัฐกฤต อตุ มะโน
ครูสุปรยี า คาโมนะ

การแบ่งยุคสมยั ทางประวัติศาสตร์

สมัย ลักษณะการแบ่ง ชว่ งระยะเวลา
สมยั กอ่ น แบ่งตามลกั ษณะ
ประวตั ศิ าสตร์ ยคุ หินเกา่ (ประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐ ปมี าแล้ว)
เคร่ืองมอื หิน ยุคหนิ ใหม่ (ประมาณ ๑๐,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ ปีมาแลว้ )
สมัยประวัติศาสตร์ แบง่ ตามลกั ษณะ ยุคสาริด (ประมาณ ๔,๐๐๐ - ๒,๕๐๐ ปมี าแลว้ )
เคร่อื งมือโลหะ ยุคเหล็ก (ประมาณ ๒,๕๐๐ ปมี าแล้ว)
สมยั สโุ ขทัย (ราว พ.ศ. ๑๗๙๒ - พ.ศ. ๒๐๐๖)
แบ่งตามอาณาจักร สมยั อยธุ ยา (พ.ศ. ๑๘๙๓ - พ.ศ. ๒๓๑๐)
หรือราชธานี สมยั ธนบรุ ี (พ.ศ. ๒๓๑๐ - พ.ศ. ๒๓๒๕)
สมัยรตั นโกสนิ ทร์ (พ.ศ. ๒๓๒๕ - ปัจจบุ ัน)
แบง่ ตามลกั ษณะ
การปกครอง สมัยสมบรู ณาญาสิทธริ าชย์ (พ.ศ. ๑๗๙๒ - พ.ศ. ๒๔๗๕)
สมัยประชาธิปไตย (พ.ศ. ๒๔๗๕ - ปัจจุบัน)
แบง่ ตามหลักสากล
สมัยโบราณ (พ.ศ. ๑๗๙๒ - พ.ศ. ๒๓๙๔)
สมยั ใหม่ หรือสมัยปรับปรงุ ประเทศ (พ.ศ. ๒๓๙๔ - พ.ศ. ๒๔๗๕)
สมยั ปจั จุบนั หรือสมยั ประชาธิปไตย (พ.ศ. ๒๔๗๕ - ปจั จบุ นั )

สมยั ประวตั ิศาสตรข์ องประเทศไทย

สมัยอาณาจกั รโบราณ

• เปน็ สมัยก่อนสโุ ขทัย
• จากหลกั ฐานโดยการพบเหรยี ญเงนิ ท่ีจารึกว่า “ศรที วารวดี ศวรปณุ ยะ” ถอื วา่ เปน็ อาณาจกั ร

ทเี่ ก่าแก่ทีส่ ุด คอื อาณาจกั รทวารวดี (พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๑-๑๖)
• มีศูนย์กลางอยู่ในเขตจังหวัดจังหวัดนครปฐม
• อาณาจักรโบราณอน่ื ๆ เชน่ ละโว้ (พุทธศตวรรษที่ ๑๒-๑๘ ) ตามพรลิงค์ (พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๓-๑๘)

ตัวอยา่ งอาณาจกั ร /
พุทธศตวรรษที่ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙

ทวารวดี พุทธศตวรรษท่ี ๑๑ - ๑๖

ละโว้ พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๒ - ๑๘

ตามพรลงิ ค์ พทุ ธศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๘

ศรีวิชัย พุทธศตวรรษที่ ๑๓ - ๑๙

สมยั สุโขทัย
(ราว พ.ศ. ๑๗๙๒-๒๐๐๖)

• เริ่มตง้ั แต่สถาปนาอาณาจกั รสโุ ขทยั จนถกู ผนวกเขา้ กับอยธุ ยา
• มีการประดษิ ฐต์ ัวอักษรไทย
• มกี ารนบั ถอื พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท ลทั ธิลงั กาวงศ์
• มีการจดั ระเบยี บการปกครอง
• มกี ารสร้างศิลปะแบบสโุ ขทัย เช่น เจดีย์ทรงดอกบวั ตูม พระพุทธรปู ปางลลี า

สมัยอยธุ ยา
(พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๒๓๑๐)

สมยั การวางรากฐานอานาจและเสรมิ สรา้ งความม่นั คง (พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๑๙๙๑)

• เรมิ่ ตงั้ แตส่ มัยสมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี ๑ (อู่ทอง) ถงึ สมยั พระบรมราชาธิราชที่ ๒
(เจา้ สามพระยา)

• เปน็ ช่วงเวลาเรมิ่ ตน้ อาณาจกั รจึงมขี นาดเลก็
• สรา้ งความมั่นคงโดยการเป็นพันธมติ รกับขอมหรือเขมรในระยะแรก
• มกี ารติดต่อคา้ ขายกับต่างประเทศโดยเฉพาะกบั จนี

สมัยอยธุ ยา
(พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๒๓๑๐)

สมัยทม่ี อี านาจทางการเมอื งและความรงุ่ เรืองทางเศรษฐกจิ (พ.ศ. ๑๙๙๑ - ๒๒๓๑)

• เร่มิ ตง้ั แตส่ มยั สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถถงึ สมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
• การปกครองมีความมน่ั คงและเป็นระบบย่งิ ขึน้
• การตดิ ตอ่ คา้ ขายกบั ต่างชาติกว้างขวาง ทัง้ ในทวีปเอเชียและยโุ รป
• เกดิ เหตุการณเ์ สียกรุงศรอี ยุธยาครง้ั ท่ี ๑
• มีพระมหากษตั รยิ ์ทีย่ ่ิงใหญ่หลายพระองค์ เช่น สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
• สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช

สมยั อยธุ ยา
(พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๒๓๑๐)

สมยั เสื่อมอานาจ (พ.ศ. ๒๒๓๑ - ๒๓๑๐)

• เริ่มตง้ั แต่สมยั สมเดจ็ พระเพทราชาถงึ สมัยสมเดจ็ พระทนี่ ง่ั สุรยิ าศนอ์ มั รนิ ทร์
(พระเจ้าเอกทัศ)

• เปน็ ชว่ งเวลาท่อี ยุธยามีความเขม้ แข็งนอ้ ยลง เนอื่ งจากมีการเกดิ กบฏและแยง่
ชิงอานาจกนั ภายใน

• เกดิ เหตกุ ารณเ์ สียกรงุ ศรอี ยธุ ยาครงั้ ที่ ๒ เป็นการส้ินสดุ สมยั อยธุ ยา
• สมัยอยธุ ยามีอายุยืนยาวถึง ๔๑๗ ปี

• การแบ่งเปน็ สมยั ย่อย เช่น แบ่งตามราชวงศ์ที่ปกครอง

สมัย ชว่ งเวลา
๑. สมัยราชวงศอ์ ทู่ อง พ.ศ. ๑๘๙๓ - ๑๙๑๓ และ พ.ศ. ๑๙๓๑ - ๑๙๕๒
๒. สมัยราชวงศ์สุพรรณภมู ิ พ.ศ. ๑๙๑๓ - ๑๙๓๑ และ พ.ศ. ๑๙๕๒ - ๒๑๑๒
๓. สมยั ราชวงศ์สโุ ขทยั พ.ศ. ๒๑๑๒ - ๒๑๗๓
๔. สมยั ราชวงศ์ปราสาททอง พ.ศ. ๒๑๗๓ - ๒๒๓๑
๕. สมยั ราชวงศบ์ ้านพลูหลวง พ.ศ. ๒๒๓๑ - ๒๓๑๐

• การแบง่ ดงั กลา่ ว = ทาให้เห็นไดช้ ัดวา่ อยธุ ยาอย่ภู ายใต้การปกครองของราชวงศ์ใดบา้ ง
= ราชวงศใ์ ดปกครองยาวนานท่สี ุด
= เปรียบเทยี บวา่ ในสมยั ราชวงศ์ใดท่อี ยุธยารงุ่ เรอื งหรือเสื่อมอานาจ

สมัยธนบุรี
(พ.ศ. ๒๓๑๐-๒๓๒๕)

• เป็นสมัยกอบกู้อสิ รภาพและเอกราชของบา้ นเมอื ง หลงั จากเสยี กรุงศรอี ยธุ ยาในครัง้ ท่ี ๒
• มีการสร้างบา้ นเมืองให้เป็นปึกแผ่น สรา้ งอานาจข้ึนมาใหม่
• มีการฟน้ื ฟูพระพทุ ธศาสนา ศิลปกรรม วรรณกรรม มกี ารเขียนสมดุ ภาพไตรภูมิ ฟนื้ ฟูละครหลวง
• ในด้านเศรษฐกจิ มีการฟื้นฟคู วามสัมพนั ธก์ ับจนี เพ่ือผลประโยชน์ทางการค้า
• มีการทาสงครามกับพมา่ เกือบตลอดเวลา และยังขยายอานาจไปยังล้านนา ล้านช้าง

สมยั รตั นโกสินทร์
(พ.ศ. ๒๓๒๕ - ปจั จุบัน)

สมยั รัตนโกสนิ ทร์ตอนต้น (พ.ศ. ๒๓๒๕ - ๒๓๙๔)

• สมยั รัชกาลที่ ๑-๓ หรือเรียกวา่ “สมยั การทาให้เหมอื นเมอ่ื ครัง้ ทบี่ ้านเมืองดี”
• เกิดกฎหมายตราสามดวง = ร.๑
• มีกฎหมายหา้ มสูบฝ่ิน = ร.๒
• เกิดการทาสนธิสญั ญาทางพระราชไมตรแี ละการพาณิชย์กับอังกฤษหรอื สนธสิ ัญญาเบอร์นีย์ = ร.๓
• สรา้ งพระบรมมหาราชวังและวัดรูปแบบเหมือนกรุงศรอี ยธุ ยา
• มกี ารสงั คายนาพระไตรปิฎก และออกกฎหมายคณะสงฆ์
• ฟ้ืนฟูพระราชพธิ ี พระราชประเพณีในสมยั อยธุ ยา และสง่ เสรมิ ด้านศลิ ปกรรมและวรรณกรรมตา่ งๆ
• ร.๓ ไดท้ านบุ ารุงพระพุทธศาสนา สรา้ งและบรู ณะวดั ข้นึ จานวนมาก

สมยั รัตนโกสินทร์
(พ.ศ. ๒๓๒๕ - ปัจจุบัน)

สมัยรัตนโกสนิ ทรย์ คุ ปรับปรงุ ประเทศ (พ.ศ. ๒๓๙๔ - ๒๔๗๕)

• เป็นชว่ งเวลาในสมัยรัชกาลท่ี ๔-๗ (ถึง พ.ศ. ๒๔๗๕)
• สมยั รชั กาลที่ ๔ เป็นชว่ งเรม่ิ ปรับปรุงประเทศ เปิดการติดต่อกบั ชาตติ ะวนั ตกอย่างเป็นทางการ ปรับปรุงการ

คมนาคม มกี ารตัดถนน ขุดคลอง
• สมยั รัชกาลท่ี ๕ เปน็ ชว่ งปฏิรปู ประเทศในทกุ ดา้ น ปฏริ ปู ระบบบริหารราชการแผ่นดนิ มกี ารเลิกทาส พฒั นาการ

คมนาคม เกิดรถไฟ รถราง โทรเลข ประปา
• สมยั รัชกาลที่ ๖ เป็นช่วงนาประเทศเข้าสู่สงั คมโลก ส่งทหารเข้ารว่ มกับฝา่ ยสัมพนั ธมิตรในสงครามโลกคร้ังท่ี ๑

สรา้ งแนวคดิ ให้รกั ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กาหนดใหใ้ ชน้ ามสกุล มธี งไตรรงค์
• สมยั รัชกาลท่ี ๗ เกิดปัญหาเศรษฐกิจตกต่าท่ัวโลก เกดิ กระแสเรียกร้องประชาธปิ ไตยเพิ่มมากขึ้น จนนาไปสู่

การเปล่ียนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตย

สมยั รตั นโกสนิ ทร์
(พ.ศ. ๒๓๒๕ - ปจั จบุ ัน)

สมยั รตั นโกสนิ ทร์สมัยประชาธิปไตย (พ.ศ. ๒๔๗๕ - ปัจจุบัน)

• เป็นชว่ งเวลา พ.ศ. ๒๔๗๕ - ปัจจุบนั
• มกี ารปกครองเปน็ ระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ
• มรี ฐั ธรรมนูญเปน็ กฎหมายสงู สุดของประเทศ โดยอานาจการปกครองแบ่งออกเปน็ ๓ ฝา่ ย แก่ ฝ่าย

บริหาร ฝ่ายนิติบญั ญัติ และฝา่ ยตลุ าการ
• การปกครองในระบอบประชาธิปไตยทีผ่ ่านมายังไมม่ ั่นคงนกั เพราะมีการปฏวิ ัติและรัฐประหารหลายครั้ง

รวมทั้งมกี ารเปล่ียนแปลงรฐั ธรรมนูญหลายฉบับ

ตวั อยา่ งเวลาและยคุ สมัยทีป่ รากฏในหลกั ฐานทางประวัตศิ าสตร์ไทย

การใชเ้ วลาและศกั ราช

“๑๒๐๕ ศก ปีมะแม พ่อขุนรามคาแหง หาใคร่ใจในใจ แลใส่ลายสือไทย
นี้ ลายสอื ไทยนี้ จ่งึ มเี พอ่ื ขนุ ผนู้ ้นั ใส่ไว้”

ทีม่ า : ศิลาจารกึ สุโขทัยหลักที่ ๑ จารกึ พอ่ ขนุ รามคาแหง หนา้ ๓๖.

• เวลาทก่ี ลา่ วถึงในศลิ าจารกึ น้ี ๑๒๐๕ เป็นมหาศักราช เทียบเป็นพุทธศักราช + ๖๒๑ = ๑๘๒๖
พ่อขุนรามคาแหงมหาราชทรงประดิษฐอ์ กั ษรไทย ลายสอื ไทยจงึ มขี นึ้ เพราะพอ่ ขุนรามคาแหง
มหาราชคดิ ประดิษฐข์ ึ้นมา

“ศกั ราช ๗๑๒ ขาลศก๖วัน ฯ ๕ คา่ เวลารุ่งแลว้ ๓ นาฬิกา ๙ บาท
แรกสถาปนากรงุ พระนครศรอี ยุธยา”

ท่มี า : พระราชพงศาวดารกรุงเกา่ ฉบบั หลวงประเสรฐิ ฯ หนา้ ๕.

• ศกั ราชทก่ี ล่าวถงึ ๗๑๒ เป็นจุลศักราช เมื่อเทยี บเปน็ พ.ศ. + ๑๑๘๑ = ๑๘๙๓ วัน ๖ คือ วนั ศุกร์
เดือน ๕ ขึ้น ๖ คา่ ตรงกับวนั ท่ี ๔ มนี าคม รงุ่ แลว้ ๓ นาฬกิ า ๙ บาท คอื เวลา ๓ นาฬิกา ๕๔ นาที
(๑ บาท = ๖ นาที) เปน็ เวลาทส่ี มเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ ๑ (อทู่ อง) ทรงสถาปนาพระนครศรีอยุธยา
เปน็ ราชธานี ถอื เปน็ การเริ่มต้นสมยั อยธุ ยา

“ถึงรัชกาลที่ ๔ เม่ือปีกุน พ.ศ. ๒๓๙๔ พระบาทสมเด็จฯ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงสถาปนาสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้ากรมขุนอิศเรศรังสรรค์เป็นพระมหาอุปราช
แต่โปรดให้ยกพระยศข้ึนเป็นอย่างพระเจ้าแผ่นดินอีกพระองค์หน่ึง ทรงพระนามว่า
พระบาทสมเด็จพระปนิ่ เกลา้ เจา้ อย่หู วั ทรงศักด์สิ งู กวา่ พระมหาอุปราช”

ที่มา : สมเดจ็ ฯ กรมพระยาดารงราชานภุ าพ. พระราชพงศาวดาร รัชกาลท่ี ๕ หน้า ๑๗๓.

• เวลาทก่ี ล่าวถึงน้ี ชดั เจนอยู่แล้วว่าเปน็ พทุ ธศกั ราชหรือ พ.ศ. ในปีนน้ั พระบาทสมเด็จพระ
จอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัวเสด็จขึน้ ครองราชสมบัติ ทรงสถาปนาพระอนุชาเปน็ พระมหาอปุ ราช
แต่มีพระยศสงู กว่าพระมหาอปุ ราช คอื เทยี บเท่าพระเจา้ แผน่ ดนิ จึงทรงพระนามวา่
“พระบาทสมเดจ็ พระปิน่ เกล้าเจา้ อย่หู วั ”

“ไกลบ้าน พระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ถึงสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้านิภานภดล เม่ือเสด็จไปประพาสยุโรป ร.ศ.
๑๒๖”

• ตัวอย่างนีเ้ ป็นขอ้ ความบนปกหนงั สอื ไกลบ้าน ซ่งึ เปน็ เรื่องการเสดจ็ ประพาสยโุ รป
ครง้ั ท่ี ๒ ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจา้ อย่หู ัว เมื่อ ร.ศ. ๑๒๖ หรือ
รตั นโกสินทรศ์ ก ๑๒๖ เทียบเป็น พ.ศ. + ๒๓๒๔ = ๒๔๕๐

ตวั อยา่ งเวลาและยคุ สมยั ที่ปรากฏในหลักฐานทางประวัติศาสตรไ์ ทย

การใชย้ ุคสมยั

การใช้ยคุ สมัยเป็นช่อื หนังสอื

• หนังสอื สมัยกอ่ นประวตั ิศาสตรใ์ นประเทศไทย ของศาสตราจารย์ชนิ อยู่ดี
• หนงั สอื กฎหมายสมัยอยุธยา ของ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช
• หนังสือประชุมศิลาจารึก ภาคท่ี ๑ จารึกกรงุ สุโขทัย
• พระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบบั หลวงประเสริฐฯ

การใช้ยุคสมยั เพ่อื อธิบายความ

• เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจง่ายตรงกนั โดยไม่ตอ้ งอธบิ ายใหย้ ดื ยาว ในการปรบั ปรุง
บา้ นเมอื งในสมยั รชั กาลท่ี ๑ คอื “ทาให้เหมือนเมอื่ ครง้ั บา้ นเมอื งดี” หมายถงึ
เหมอื นในยคุ สมัยทีก่ รงุ ศรอี ยธุ ยามีสนั ตสิ ขุ ภายใน การใช้คาในลักษณะน้ที าใหเ้ กดิ
ความสนใจวา่ “เหมือนเม่ือครัง้ บา้ นเมืองดี” เป็นอย่างไร

การใช้ยุคสมยั ประกอบบทความ

• เพ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจตรงกนั วา่ บทความน้ันจะศกึ ษาวเิ คราะหป์ ระวตั ศิ าสตรย์ ุคสมัยใด ไมใ่ ห้
เกิดความเขา้ ใจผดิ ทง้ั ผู้เขยี นและผอู้ า่ น อย่างเชน่ บทความ “การปรับตัวของไทย จีน และญี่ป่นุ
ในยคุ จักรวรรดินยิ มใหม่” จากหนังสือไทย จนี ญ่ปี ุน่ ในยุคจักรวรรดนิ ิยมใหม่ ของวุฒิ
ชัย มูลศลิ ป์

• ยุคจักรวรรดินิยมอย่ใู นช่วงครสิ ตศ์ ตวรรษที่ ๑๙ ถงึ ตน้ คริสตศ์ ตวรรษที่ ๒๐ ตรงกับสมยั รชั กาล
ที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ รชั กาลท่ี ๖ ของไทย สมยั พระนางฉือซี (ซสู ี) เป็นผู้สาเรจ็ ราชการของจีน และ
สมยั จักรพรรดิเมจขิ องญ่ปี นุ่

คำถำมขอ้ คดิ สะกดิ ใจ ..??

คาถามขอ้ คิด สะกดิ ใจ

เฉลย คาถามขอ้ คดิ สะกิดใจ
ตอบ 3 รชั ศักราชของพระเจา้ กนิษกะ กษัตรยิ ์ของอนิ เดยี เรียกอกี อยา่ งว่า มหาศักราช

คาถามขอ้ คิด สะกดิ ใจ

เฉลย คาถามข้อคดิ สะกิดใจ

ตอบ 4 สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดารงราชานุภาพ


Click to View FlipBook Version