The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

3.อารยธรรมของโลกยุคโบราณEP.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattagit Outmano, 2021-04-20 04:49:42

3.อารยธรรมของโลกยุคโบราณEP.2

3.อารยธรรมของโลกยุคโบราณEP.2

ในยคุ โลหะ-สำรดิ มวี ัฒนธรรม
หลงซำน อยู่เป็นชุมชนใหญ่ มี
ถนน มกี ำรจดั ระเบียบกำร

ปกครอง กำรทำ
เครอ่ื งปั้นดนิ เผำแบบรมดำ นำ
หยกมำเป็นเคร่ืองมือเครอ่ื งใช้

ภาชนะสามขาและภาชนะสารดิ วฒั นธรรมหลงซาน

ภำชนะสำริดในสมยั รำชวงศ์ชำง
ตวั อักษร บนกระดองเต่ำ

เป็นราชวงศท์ ่ีปกครองจีนนานที่สุด ในประวัตศิ าสตรร์ าชวงศ์ของจนี
มีความเชื่อว่ากษัตรยิ ค์ ือโอรสแห่งสวรรค์
มคี วามรุ่งเรืองทางปรชั ญา เกดิ ลัทธิขงจอ้ื ลัทธิเต๋า
มีการประดิษฐ์เข็มทิศ การประดิษฐ์ตะเกียบเพื่อใช้หยิบอาหารซ่ึง
ได้กลายเปน็ สัญลักษณอ์ ยา่ งหน่งึ ของจนี

ปฐมจักรพรรดิ คือ จิ๋นซฮี อ่ งเต้
สามารถรวมจนี ให้เป็นปึกแผ่น และมีอานาจเด็ดขาดในการปกครองมณฑลต่างๆ
โปรดให้สร้างถนน ขุดคลอง เพอ่ื เชือ่ มโยงราชธานกี บั มณฑลตา่ งๆ
ทรงใหส้ ร้างกาแพงเมืองจนี โดยตอ่ เติมและเช่ือมโยงจากกาแพงที่มอี ยูเ่ ดิม
สญั ลักษณข์ องความยิ่งใหญ่อกี อย่างหนึง่ คอื พระราชวังขนาดใหญ่ และสสุ านท่มี ที รัพยส์ นิ และรปู ปั้นขนาดเทา่ ตัวจรงิ ของนกั รบและมา้

เปน็ สมยั ท่ีจีนมีความเจริญรุ่งเรอื ง
เริ่มมกี ารสอบจอหงวน
พระพุทธศาสนาจากอนิ เดียเริ่มเผยแผส่ ูจ่ นี มีผลตอ่ ความเจรญิ ร่งุ เรืองของอารยธรรมจนี มาก
มีการสารวจเสน้ ทางสายไหมเพ่อื ใชต้ ดิ ตอ่ กับอินเดีย และยุโรป

ซอื หมา่ เชียน ได้ปรบั ปรงุ ปฏิทินจันทรคติ และเขียนหนังสอื สอื่ จี้
มีการประดษิ ฐ์กระดาษ และเครื่องมือวัดแผน่ ดินไหว
เมื่อส้นิ สุดสมัยราชวงศ์ฮั่น จนี เกดิ การแตกแยกภายใน หรอื สมัยสามกก๊ แตใ่ น
ชว่ งเวลาดงั กล่าว พระพทุ ธศาสนามคี วามเจริญรุ่งเรืองมาก

เคร่อื งมอื วัดแผ่นดินไหว

จนี กลับมาเปน็ ปกึ แผ่นอกี ครั้ง และนบั เปน็ ยคุ
ทองของจนี
มีเขตแดนกว้างใหญ่ อารยธรรมรุ่งเรือง
สงู สุด โดยเฉพาะดา้ นบทกวี และจิตรกรรม
มีการเผยแผ่ศาสนามากมาย และพระ
ถงั ซาจ๋งั เดินทางไปศึกษาพระพทุ ธศาสนาท่ี
อนิ เดยี ทาให้เกดิ การแปล

จานวนมาก

จีนถูกชนเผ่าทางเหนือรกุ รานจนตอ้ งย้ายเมืองหลวงลงมาทางใต้
มกี ารประดษิ ฐด์ นิ ปืน เพอ่ื ใช้ในการทาดอกไมไ้ ฟ
งานศิลปะทโ่ี ดดเดน่ ไดแ้ ก่ ภาพวาด และเคร่ืองกระเบื้อง

อานาจและชอ่ื เสียงของจีนขยายออกไปอย่างกวา้ งขวาง
มีอาณาเขตไปจนถงึ ยโุ รป

ชาวยโุ รปเดนิ ทางเข้าสรู่ าชสานกั จีน ท่ีสาคัญ คอื มารโ์ ค
โปโล ไดเ้ ขียนบันทึกเหตุการณเ์ กี่ยวกับจนี ในยคุ นน้ั ไว้

กบุ ไลขา่ น



ในระยะแรกขยายอานาจ มีการทาสงครามฝน่ิ การเข้ามาของ
ออกไปไดก้ วา้ งใหญ่ แต่ตอ่ มา ระหว่างจีนกับองั กฤษซงึ่ จนี จักรวรรดินิยมตะวนั ตก
เสอ่ื มอานาจเพราะจกั รพรรดิ เป็นสาเหตหุ นึ่งท่ที าให้
ไมม่ คี วามสามารถ และเกดิ เปน็ ฝา่ ยแพ้
การฉอ้ ราษฎร์บังหลวงกนั มาก การปกครองแบบ
จักรพรรดิสิน้ สุดลง

อารยธรรมอนิ เดยี

สมัยก่อนประวัติศาสตร์

ยคุ หนิ เกา่ ผูค้ นยงั เรร่ อ่ นเก็บหำอำหำร ล่ำสตั ว์

ยุคหนิ กลาง รูจ้ กั นำสุนขั ปำ่ มำเล้ียง ทำเคร่ืองมือหินให้ดีขน้ึ
ยคุ หินใหม่ รจู้ กั กำรเพำะปลกู นำสัตว์มำเลย้ี ง ปั้นภำชนะใส่อำหำร รู้จกั ทอผำ้ อยู่

รวมกนั เป็นชุมชน มีกำรนบั ถือพระแมธ่ รณีเพอื่ ควำมอุดมสมบรู ณใ์ น
กำรเพำะปลกู
ยุคโลหะ หรืออำรยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ เปน็ อำรยธรรมของชำวอนิ เดยี ดง้ั เดมิ
ท่ีเรยี กว่ำ เผำ่ ทรฺ วิฑ

ชาวเผ่าทรฺ วฑิ หรือทมิฬ มรี ปู รา่ งเล็ก ผิวคล้า

• แหลง่ อารยธรรมลุม่ แม่นา้ สนิ ธุอยทู่ ่เี มอื งโมเฮนโจ-ดาโร และเมอื งฮารัปปา
• ซงึ่ แสดงให้เห็นถึงความเจริญแบบอารยธรรมเมือง มีการวางผังเมือง มีที่อาบน้าสาธารณะ มีระบบการระบายน้า

และยา่ นการค้า

ตอ่ มาชาวอารยันรุกรานเข้ามาในอินเดีย และใหช้ าวทมฬิ เป็นผูร้ ับใช้ และถกู เรยี กวา่
และมี แต่ไม่มีการจดบนั ทกึ

ตอ่ มาอินเดยี เร่มิ มีการประดิษฐต์ วั อกั ษร จงึ มกี ารจดบนั ทึกคัมภีรท์ ้ังหลาย



1. ฤคเวท เป็นพระเวทท่ศี กั ดสิ์ ิทธ์ทิ ี่สดุ เปน็ กำรสวดออ้ นวอนใหเ้ ทพ
เจ้ำประทำนชัยชนะแกต่ น

2. ยชุรเวท เป็นคมั ภรี ์อธบิ ำยวธิ ีประกอบพิธบี วงสรวง

3. สามเวท เป็นบทสวดสำหรบั กำรทำพธิ ีบูชำดว้ ยน้ำโสมในพิธขี อง
บ้ำนเมือง หรือของกษตั รยิ ์

4. อถรรพเวท เป็นคมั ภรี ์เกิดขึ้นทีหลัง นับถือเทพและไม่ใชเ่ ทพ ท้งั
ท่ีให้คุณและใหโ้ ทษแก่มนษุ ย์

ยุคมหากาพย์ ภาพวาดมหากาพยม์ หาภารตะ พระกฤษณะ
กับอรชนุ กลางสนามรบ
• เรียกตำมช่อื มหำกำพย์ยิง่ ใหญข่ องอนิ เดีย 2 เรื่อง คือ มหำภำรตะ และรำมำยณะ
• พวกอำรยันได้ขยำยอำนำจตอ่ ไปทำงตะวันออก และไปตั้งอำณำจักรในเขตพำรำณสี
• มีกำรก่อตงั้ อำณำจักรของเผำ่ ต่ำงๆ กำรคำ้ และงำนฝมี อื มมี ำกข้ึน กำรบันทึกมมี ำกขนึ้

สมัยประวตั ิศาสตร์

ศาสนาฮินดู

เช่ือวา่ พระวษิ ณุและพระศิวะเป็นผูม้ าโปรด
ชว่ ยให้พน้ จากชวี ิตท่ียากลาบาก และช่วยให้มี

ชีวติ ทีด่ ีกวา่ ในชาตหิ นา้
ยอมรบั วา่ ทางไปสสู่ จั ธรรมมหี ลายทาง
มเี สรภี าพท่ีจะปฏิบตั ติ ามความเชอ่ื ของตนเอง
มีอทิ ธิพลตอ่ วัฒนธรรมอินเดียอย่างมาก

เจดยี ์พทุ ธคยา พระพุทธศาสนา

• ถือกาเนิดขึ้นเพ่ือให้เป็นทางเลือกของมนุษย์ท่ีต้องการ

หลุดพน้ จากทกุ ข์
• หลักคาสอนมีบทบาทสาคัญต่อวิถีการดาเนินชีวิตของ

ผู้คน เช่น เชอ่ื เรื่องกรรม ทาดีไดด้ ี ทาชั่วไดช้ ั่ว เป็นต้น
• หัวใจของพระพุทธศาสนา คือ การทาความดี ละเว้น

ความช่วั ทาจติ ในใหบ้ รสิ ทุ ธ์ิ
• ภายหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระพุทธศาสนาแยก

ออกเปน็ 2 นิกาย คอื เถรวาท และมหายาน

พระเจา้ อโศกมหาราช • พระเจ้าจนั ทรคปุ ต์ได้รวบรวมอนิ เดียใหเ้ ปน็
ปีกแผ่นและรวมอานาจไวท้ ่ศี ูนย์กลางได้เปน็

ครั้งแรก
• กษัตริยท์ ส่ี าคัญในเวลาต่อมา คือ พระเจา้

อโศกมหาราช ทรงทานบุ ารงุ และเผยแผ่

พระพุทธศาสนาไปยงั ดนิ แดนตา่ งๆ
• เมอื่ ราชวงศเ์ มารยะหมดอานาจ อินเดียถูก

ตา่ งชาตหิ ลายพวกรกุ ราน ทาให้อินเดยี

แตกแยกและออ่ นแอ

พระเจ้าจนั ทรคปุ ตท์ ่ี 1 เริม่ รวมประเทศและขยายอานาจออกไปจากแควน้ มคธ
เปน็ สมัยแหง่ ความรงุ่ เรอื งทางวิทยาศาสตร์ และคณติ ศาสตร์ โดยเปน็ ผู้เรมิ่ ใช้เลขอารบกิ และเลขศนู ย์ ก่อนดินแดนอ่ืน
หลงั การส้นิ สุดของราชวงศค์ ุปตะ อินเดียทางเหนอื ถูกตา่ งชาตริ กุ ราน ทาให้ศาสนาอสิ ลามเริม่ เผยแผ่เขา้ สอู่ นิ เดีย ส่วนทางใตศ้ าสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดูยงั รุ่งเรอื ง

ถา้ เอลโลรา ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เมอื งออรงั กบาด รฐั มหาราษฎระ

ราชวงศโ์ มกุล

เป็นรำชวงศ์สุดทำ้ ยทป่ี กครองอินเดีย
ผู้กอ่ ต้งั จักรวรรดิโมกลุ คือ อกั บำรม์ หำรำช ทรงส่งเสรมิ ให้มีขันตธิ รรมทำงศำสนำ
สุลตำ่ นท่สี ำคญั อกี พระองค์ คอื ชำห์ เจฮนั ผสู้ ร้ำงทัชมำฮัล
จักรวรรดิโมกลุ หมดอำนำจลง เมื่ออังกฤษเขำ้ ยดึ ครองอินเดยี

• องั กฤษปกครองอินเดียโดยวธิ ีแบ่งแยก
การปกครอง โดยตั้งข้าหลวงเป็น

ผู้ปกครอง
• มีการสร้างทางรถไฟ ถนน สะพาน

โรงพยาบาลและจดั การศกึ ษา
• ต่อมาชาวอนิ เดยี เรียกรอ้ งการ

ปกครองตนเอง
• และนาไปสกู่ ารเรยี กรอ้ งเอกราช



ภาพวาดคณะพระธรรมทตู ทีเ่ ดนิ ทางไป ในสมยั พระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราช แห่งมาซิโดเนีย รุกราน
ประกาศพระพุทธศาสนาในดนิ แดนตา่ งๆ เอเชียมผี ลทาให้สถาปตั ยกรรมของกรีกแพร่หลายใน เอเชีย

การเผยแผศ่ าสนาในทวีปเอเชียด้วยกนั มีพระพทุ ธศาสนา
และศาสนาอิสลาม สว่ นศาสนาที่เผยแผข่ า้ มทวีป คือ คริสตศ์ าสนา

พระพทุ ธรูปที่ไดร้ บั อิทธพิ ลรูปแบบประตมิ ากรรมกรกี ในสมัย
พระเจา้ อะเลก็ ซานเดอรม์ หาราช

ในสมัยราชวงศฮ์ ั่น มีการส่งทูตไปยงั
ดินแดนทางตะวนั ตกของจนี เสน้ ทางที่
เดินทางไปเรยี กวา่ เส้นทางสายไหม
นักผจญภยั เชน่ อิบน์ บัตตูตา ชาว
โมรอ็ กโก เดนิ ทางไปยงั ดนิ แดนต่างๆ
และเปน็ แรงบนั ดาลใจใหน้ ักเดนิ ทาง

รุน่ หลงั ทาตาม

มกี ารแลกเปล่ียนซ้ือขายสนิ ค้าระหวา่ งโลกตะวันออกกบั โลกตะวนั ตก สินค้าของจีนโดยเฉพาะผ้าไหม เป็นที่นยิ มของชาวโรมนั ช้นั สงู
สมยั กลางชาวยุโรปตอ้ งการสินคา้ เครอ่ื งเทศและพริกไทย จึงเป็นสาเหตใุ หเ้ กดิ การแสวงหาเสน้ ทางเดินเรอื



ความตอ้ งการสนิ ค้าจากโลกตะวนั ออก

เลขอารบกิ และระบบการคานวณ

อนิ เดยี คดิ ค้นระบบตวั เลขอำรบิกมำใชแ้ ทนเลขโรมนั

ชำวอนิ เดียยังไดค้ ดิ ค้นระบบทศนยิ มขึน้ มำเพอื่ ใชใ้ น
กำรคำนวณ

เม่ือแลกเปล่ียนสินค้ำ กำรค้ำขำย กำรคำนวณผล
กำไร ขำดทุน จงึ จำเป็นต้องใชค้ วำมรู้ในกำรคำนวณ
มำเพอ่ื หำคำตอบ

เขม็ ทศิ

จีนประดษิ ฐ์เข็มทศิ ได้เปน็ ชาตแิ รกของ มีการพัฒนาเข็มทศิ เพ่ือใชใ้ นการ ต่อมาพฒั นาเขม็ ทิศไว้ใชใ้ นการ
โลก ใชเ้ พ่อื การทานายเปน็ หลัก บอกทศิ ทาง ในระยะแรกใช้เพ่อื หา เดนิ ทาง เดินเรอื ชาวอาหรับได้
ทศิ ทางในการกอ่ สรา้ งบ้านเมอื ง นาความรูจ้ ากเรอื่ งเขม็ ทศิ จาก
จีนไปใช้ และชาวยุโรปกร็ บั

มาจากอาหรับอกี ตอ่ หน่ึง


Click to View FlipBook Version