5.1.2.1 กองทัพภาค 15 เลขหมาย 5.1.2.2 มณฑลทหารบก 10 เลขหมาย 5.1.2.3 กองพล, กองบัญชาการช่วยรบ, ศูนย์การทหารหรือเทียบเท่า, จังหวัดทหารบก, โรงพยาบาลขนาด 300 เตียงขึ้นไป 7 เลขหมาย 5.1.2.4 จังหวัดทหารบก (ส่วนแยก ค.), กรม, โรงพยาบาลขนาด 150 – 300 เตียง 5 เลขหมาย 5.1.2.5 จังหวัดทหารบก (ส่วนแยก ข.) โรงพยาบาลขนาด 60 -120 เตียง 3 เลขหมาย 5.1.2.6 จังหวัดทหารบก (ส่วนแยก ก.) โรงพยาบาลต่ำกว่า 60 เตียง, กองพัน 2 เลขหมาย 5.1.2.7 หน่วยอิสระ, หน่วยสัสดีจังหวัด 1 เลขหมาย 5.1.3 การติดตั้งโทรศัพท์ประเภท ก. เพื่อเป็นสายกลางของตู้สาขาโทรศัพท์อัตโนมัติ(ประเภท ข.) ให้กรมการทหารสื่อสาร พิจารณาติดตั้งได้ตามความจำเป็น 5.1.4 การติดตั้งโทรศัพท์ประเภท ก. ประจำบ้านพักส่วนตัวหรือบ้านพักที่ทางราชการจัดให้พัก อาศัยสำหรับผู้ครองตำแหน่งอัตราตั้งแต่ พันเอก (พิเศษ) ขึ้นไป ให้ติดตั้งได้ 1 เลขหมาย หากค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเกิน วงเงิน สามหมื่นห้าพันบาท ให้รายงานผู้บัญชาการทหารบก เพื่อพิจารณาอนุมัติ 5.1.5 การติดตั้งโทรศัพท์ประเภท ก.นอกเหนือจากที่ได้กล่าวมาแล้วในข้อ 5.1.4 ให้หน่วย รายงานชี้แจงเหตุผลความจำเป็น เสนอตามลำดับขั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณาอนุมัติ 5.2 การติดตั้งโทรศัพท์ประเภท ข. ประจำหน่วยต่างๆ ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้ดำเนินการตาม ที่กองทัพบกกำหนด และให้ติดตั้งได้ในครั้งแรกได้ไม่เกินร้อยละ 80 ของจำนวนเลขหมายหรือทางสายทั้งหมดของตู้สาขา โทรศัพท์นั้นๆ 5.3 การติดตั้งโทรศัพท์ประเภท ค. ให้ติดตั้งประจำสำนักงานของหน่วยทหารเท่านั้นโดยถือเกณฑ์ ดังนี้.- 5.3.1 กองทัพภาค 3 เลขหมาย 5.3.2 มณฑลทหารบก 2 เลขหมาย 5.3.3 กองพล, กองบัญชาการช่วยรบ, ศูนย์การทหารหรือเทียบเท่าจังหวัดทหารบก, โรงพยาบาลขนาด 300 เตียงขึ้นไป 2 เลขหมาย 5.3.4 จังหวัดทหารบก (ส่วนแยก ค.) กรม, โรงพยาบาลขนาด 150 – 300 เตียง 1 เลขหมาย 5.3.5 จังหวัดทหารบก (ส่วนแยก ข.) โรงพยาบาลขนาด 60- 120 เตียง 1 เลขหมาย 5.3.6 จังหวัดทหารบก (ส่วนแยก ก.)
โรงพยาบาลขนาดต่ำกว่า 60 เตียง, กองพัน 1 เลขหมาย 5.3.7 หน่วยอิสระ, หน่วยสัสดีจังหวัด 1 เลขหมาย 5.4 การติดตั้งโทรศัพท์ประเภท ง.ให้รายงานผู้บัญชาการทหารบก พิจารณาอนุมัติ ข้อ 6. การใช้โทรศัพท์ การใช้โทรศัพท์ทุกประเภทให้ใช้เฉพาะติดต่อราชการเท่านั้น 6.1 การใช้โทรศัพท์ประเภท ค. และ ง. ให้กรมการทหารสื่อสารเป็นผู้พิจารณากำหนดเลขหมาย โทรศัพท์ที่จะใช้ให้เป็นไปโดยประหยัด และแจ้งให้องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยหรือการสื่อสารแห่งประเทศไทย ทราบ 6.2 หลักเกณฑ์การใช้ 6.2.1 ใช้เฉพาะการติดต่อหรือส่งข่าวราชการเร่งด่วน ถ้าส่งข่าวด้วยเครื่องมือสื่อสารอย่างอื่นแล้ว จะเกิดการชักช้าและจะเสียหายแก่ทางราชการ 6.2.2 ใช้เมื่อไม่สามารถติดต่อหรือส่งข่าวด้วยเครื่องมือสื่อสารอย่างอื่นของทางราชการได้ 6.2.3 ต้องทำระเบียบคุมการใช้โทรศัพท์ทางไกล ได้บันทึกลงในสมุดและแผ่นปลิวตามผนวก ก. ทุกครั้งเมื่อมีการใช้ เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบและประกอบการเบิกค่าใช้บริการ 6.2.4 การใช้โทรศัพท์ทางไกลจะต้องใช้ภายในสายการบังคับบัญชาและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เท่านั้น หากมีการใช้นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น หน่วยจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการใช้โทรศัพท์นั้น 6.3 ข้อห้าม 6.3.1 ห้ามใช้ในเรื่องส่วนตัว 6.3.2 ห้ามใช้ส่งข่าวที่มีชั้นความลับด้วยข้อความธรรมดา 6.3.3 ห้ามใช้โทรศัพท์ประเภท ค. และ ง. เป็นสายกลางของตู้สาขาโทรศัพท์เป็นอันขาด 6.4 แนวทางปฏิบัติ 6.4.1 ให้ผู้บังคับหน่วยรับผิดชอบการใช้โทรศัพท์ทางไกล และทางไกลระหว่างประเทศให้เป็นไป โดยประหยัด สามารถออกระเบียบปลีกย่อยควบคุมการใช้ได้เอง เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ และส่งทะเบียนคุมการใช้ โทรศัพท์ทางไกลตามผนวก ก. (เพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ทางไกลของสำนักตรวจเงินแผ่นดิน) เป็น ประจำทุกเดือน จำนวน 2 ชุด ให้กรมการทหารสื่อสาร ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป เพื่อใช้ประกอบการเบิกค่าใช้ บริการและรายงานผู้บัญชาการทหารบกทราบ 6.4.2 ให้ผู้บังคับหน่วยที่มีโทรศัพท์ประเภท ค. และ ง. ในครอบครอง กำหนดตัวบุคคลที่มีสิทธิ ใช้โทรศัพท์ขึ้นตามความเหมาะสม ข้อ 7. การติดตั้ง การโยกย้าย การโอน และการเลิกใช้ 7.1 ให้หน่วยราชการหรือผู้ใช้ที่มีความประสงค์จะทำการติดตั้ง โยกย้าย โอน และเลิกใช้ ทำรายงาน ความต้องการตามผนวก ข. จำนวน 2 ชุด ส่งไปตามสายการบังคับบัญชาเพื่อเสนอไปยังกรมการทหารสื่อสาร พิจารณา ดำเนินการต่อไป
7.2 การโยกย้ายโทรศัพท์ตามข้อ 5.1.4 ทางราชการจะออกค่าใช้จ่ายในการโยกย้ายภายในภูมิลำเนาที่ รับราชการนั้นๆ ให้เพียงพอครั้งเดียว โดยให้กรมการทหารสื่อสารเป็นผู้พิจารณา 7.3 การโยกย้ายโทรศัพท์ข้ามเขตจังหวัด หากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการ โยกย้ายให้ได้ ให้ขอติดตั้งโทรศัพท์ใหม่ทดแทนการย้ายได้ โดยขอยกเลิกการใช้โทรศัพท์เลขหมายเดิม เมื่อได้รับการติดตั้ง โทรศัพท์ใหม่แล้ว 7.4 ผู้ครอบครองโทรศัพท์ตามข้อ 5.1.4 ที่ทางราชการขอติดตั้งให้ต้องรับผิดชอบในการชำระเงินค่าใช้ โทรศัพท์ส่วนเกินตามที่ทางราชการกำหนด และค่าใช้โทรศัพท์ทางไกลที่เกิดขึ้นต่อองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หรือ กรมการทหารสื่อสาร โดยตรง 7.5 ผู้ครอบครองโทรศัพท์ตามข้อ 5.1.4 ย้ายไปรับราชการนอกกองทัพบก ต่างกระทรวง ออกจาก ราชการ หรือถึงแก่กรรม ให้ปฏิบัติดังนี้.- 7.5.1 เมื่อย้ายไปรับราชการนอกกองทัพบก ภายในกระทรวงกลาโหม ให้ กรมการทหารสื่อสาร โอนเครื่องโทรศัพท์นั้นไปให้หน่วยสังกัดใหม่ โดยแจ้งเลขหมาย และสถานที่ติดตั้งโทรศัพท์ภายใน 30 วัน 7.5.2 เมื่อย้ายไปรับราชการต่างกระทรวงหรือออกจากราชการ หากประสงค์จะมีโทรศัพท์ไว้ใช้ ต่อไป ให้หน่วยสังกัดใหม่หรือผู้ครอบครองโทรศัพท์ แจ้งให้กรมการทหารสื่อสารทราบ เพื่อพิจารณาภายใน 30 วัน หาก พ้นกำหนดนี้แล้ว ให้กรมการทหารสื่อสารสั่งถอนการติดตั้งโทรศัพท์นั้น 7.5.3 เมื่อถึงแก่กรรม หากทายาทมีความประสงค์จะใช้โทรศัพท์ต่อไปอีก ให้แจ้งความจำนงต่อ กรมการทหารสื่อสาร ภายใน 30 วัน เพื่อพิจารณาดำเนินการหากพ้นกำหนดนี้แล้ว ให้กรมการทหารสื่อสาร สั่งถอนการ ติดตั้งโทรศัพท์นั้น 7.5.4 การโอนโทรศัพท์ ตามข้อ 7.5.1, 7.5.2 และ 7.5.3 ผู้ครอบครองจะต้องเสียค่าธรรมเนียมใน การโอน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต่อองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย 7.6 ในกรณีผู้มีโทรศัพท์ใช้ส่วนตัวอยู่แล้ว และมีสิทธิ์ขอติดตั้งโทรศัพท์ตามข้อ 5.1.4 หากต้องการ จะขอโอนมาใช้ในราชการให้แจ้งความประสงค์พร้อมด้วยเหตุผล เสนอกรมการทหารสื่อสาร เพื่อพิจารณาดำเนินการให้ 7.7 การติดตั้ง การโยกย้าย การโอน และการยกเลิกใช้โทรศัพท์ถาวรของกองทัพบก เป็นหน้าที่ของ กรมการทหารสื่อสาร ที่จะแจ้งให้องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ทราบ ข้อ 8. ความรับผิดชอบ 8.1 หน่วยราชการหรือบุคคลที่มีสิทธิ์ขอติดตั้งโทรศัพท์ตามระเบียบนี้เป็นผู้รับผิดชอบครอบครอง และ บำรุงรักษาเครื่องโทรศัพท์ หากชำรุดสูญหายเนื่องจากเหตุใดก็ตาม อันมิใช่เกิดจากการเสื่อมสภาพการใช้งานตามปกติ แล้ว ผู้ครอบครองจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย 8.2 หน่วยราชการหรือบุคคลที่มีโทรศัพท์อยู่ในครอบครอง จะต้องรับผิดชอบในการรักษาสายและ อุปกรณ์โทรศัพท์ที่อยู่ในพื้นที่ของตน ให้ใช้งานได้คงทนถาวร แต่ถ้าเครื่องขัดข้องหรือชำรุดเสียหาย ให้ดำเนินการดังนี้.- 8.2.1 สำหรับโทรศัพท์ ประเภท ก., ค. และ ง. ให้แจ้งองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ดำเนินการให้ โดยหน่วยหรือบุคคลผู้ใช้เป็นผู้เสียค่าใช้จ่ายเอง
8.2.2 สำหรับโทรศัพท์ ประเภท ข. หน่วยต้องสนับสนุนในการส่งกำลัง และการซ่อมบำรุงในขั้น หน่วยก่อน ส่วนในขั้นต่อไปให้แจ้ง กรมการทหารสื่อสาร พิจารณาดำเนินการ 8.2.3 ห้ามมิให้ทำการซ่อม แก้ไขดัดแปลงใดๆ เกินขั้นการซ่อมของหน่วยเป็นอันขาด ข้อ 9. การโยกย้าย การติดตั้ง การต่อพ่วง การเปลี่ยนเครื่องและเลขหมาย หรือบริการอื่นๆ ให้ดำเนินการดังนี้.- 9.1 สำหรับโทรศัพท์ประเภท ก., ค., และ ง. ให้หน่วยผู้ใช้รายงานให้กรมการทหารสื่อสารทราบ เพื่อ แจ้งองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยดำเนินการ และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง 9.2 สำหรับโทรศัพท์ประเภท ข. การต่อพ่วงหรือการติดตั้งเพิ่มเติม ต้องได้รับอนุมัติจาก กรมการทหาร สื่อสาร ข้อ 10. การดำเนินการเกี่ยวกับโทรศัพท์ประเภท ก., ค. และ ง. ที่กล่าวแล้วทั้งสิ้น ถ้าวงเงินไม่เกินเลขหมายละ 35,000.-บาท (สามหมื่นห้าพันบาทถ้วน) ให้เจ้ากรมการทหารสื่อสารอนุมัติดำเนินการได้ แต่ถ้าวงเงินเกินกว่านี้แล้ว ให้ รายงานขออนุมัติผู้บัญชาการทหารบก เป็นรายๆ ไป ข้อ 11. หน่วยราชการใดที่ดำเนินงานในลักษณะที่มีรายได้เป็นของตัวเอง ได้รับการยกเว้นไม่ต้องดำเนินการ นำเงินรายได้ส่งกระทรวงการคลัง และไม่ต้องส่งหลักฐานให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบจะต้องชำระเงิน ค่าติดตั้ง ค่าเช่าและค่าใช้บริการโทรศัพท์ จากเงินรายได้ของตน ให้กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หรือ การสื่อสารแห่งประเทศไทย โดยตรง ข้อ 12. ในกรณีผู้ครอบครองโทรศัพท์เปลี่ยนแปลง ยศ ชื่อ หรือตำแหน่ง ให้รีบแจ้ง กรมการทหารสื่อสาร เพื่อดำเนินการเสนอองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยแก้ไขต่อไป ข้อ 13. ให้กรมการทหารสื่อสาร เป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ 12 มีนาคม 2531 (ลงชื่อ) พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ( ชวลิต ยงใจยุทธ ) ตรวจถูกต้อง ผู้บัญชาการทหารบก พ.ท. ( สุวัฒน์ ยศประกอบ ) หน.ทส.กสส.สส. ก.ย.๕๒