รูปแบบโครงงานประวัติศาสตร์ 5 บท - แบบง่าย

๑

โครงงานประวตั ิศาสตร์

เรื่อง ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในท้องถ่ินของข้าพเจ้า

คณะผ้จู ดั ทา
นางสาวบุษราคมั แกว้ สด ช้นั ม.๔/๑๒ เลขที่๓๓
นางสาวณฐั ธิดา ยงคพ์ รหม ช้นั ม.๔/๗ เลขท่ี๒๒
นางสาวสวรรยา สนั เสนาะ ช้นั ม.๔/๑๒ เลขที่๔๔

ครูท่ีปรึกษาโครงงาน
นายแสงสุรีย์ ยอดคา
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
โครงงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาคน้ ควา้ รายวชิ าประวตั ิศาสตร์
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ การสร้างองคค์ วามรู้ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์
รหสั วชิ า ส๓๑๑๐๓
ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๔
โรงเรียนพบิ ลู มงั สาหาร องคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั อุบลราชธานี

๒

บทคดั ย่อ

โครงงานประวตั ิศาสตร์ เรื่อง ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้
คณะผ้จู ัดทา
๑นางสาว บุษราคมั แกว้ สด ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๔/๑๒ เลขที่๓๓
๒นางสาวณฐั ธิดา ยงคพ์ รหม ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๔/๗ เลขท่ี๒๒
๓นางสาวสวรรยา สันเสนาะ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๔/๑๒ เลขท่ี๔๔
ภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา๒๕๖๔โรงเรียนพบิ ูลมงั สาหาร
ครูท่ีปรึกษาโครงงาน : นายแสงสุรีย์ ยอดคา กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนาและ
วฒั นธรรม

โครงงานประวตั ิศาสตร์เร่ืองภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้ มี
วตั ถุประสงคข์ องการศึกษาคน้ ควา้ เพอ่ื ๑)เพ่ือศึกษาประวตั ิศาสตร์ในชุมชน ๒)เพ่ือรวบรวม
ขอ้ มูลภาพเก่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของขา้ พเจา้ ๓) เพ่ือเผยแพร่ความรู้เก่ียวกบั ขอ้ มูลภาพเก่าเล่า
ประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้ ระยะเวลาท่ีทาการศึกษา ระหวา่ ง วนั ท่ี๒เดือนสิงหาคม ถึง
วนั ท่ี๕ เดือนกนั ยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ มีข้นั ตอนในการศึกษาเร่ิมจากการต้งั หวั ขอ้ ในการศึกษาทา
โครงงาน เสนอเคา้ โครงงานต่อครูท่ีปรึกษา วางแผนการดาเนินการศึกษา ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูล ทา
การรวบรวมขอ้ มูลหลกั ฐาน ลงมือปฏิบตั ิตามแผนท่ีกาหนดไว้ รวบรวมผลขอ้ มูลการปฏิบตั ิงาน
เขียนรายงานผลการศึกษาและนาเสนอผลงาน

ผลการศึกษา
ผลการศึกษา
จากผลการศึกษาประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นเรื่องเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของ ขา้ พเจา้ ทาให้
ขา้ พเจา้ ไดศ้ ึกษาเกี่ยวกบั วฒั นธรรมประเพณีในทอ้ งถิ่นเก่ียวกบั การเขา้ พาขวญั ซ่ึงเป็นประโยชน์ต่อ
ตวั ของขา้ พเจา้ และไดร้ ู้จกั ความเป็นมาความสาคญั วฒั นธรรมประเพณีต้งั แตส่ มยั ก่อนจนถึง
ปัจจุบนั ทงั่ น้ีขา้ พเจา้ ไดเ้ ผยแพร่ความรู้ตา่ งๆใหผ้ อู้ ื่นไดศ้ ึกษาคน้ ควา้
ปัญหาอุปสรรค
๑)ขอ้ มลู อาจไมล่ ะเอียดและภาพอาจไม่คอ่ ยชดั
๒)การหารูปภาพประกอบโครงงานค่อนขา้ งยาก
ข้อเสนอแนะ
๑)ควรศึกษาขอ้ มลู ใหล้ ึกและกวา้ งกวา่ น้ี
๒)ควรศึกษาหาขอ้ มลู เพิ่มเติมกบั ผรู้ ู้เก่ียวกบั การเขา้ พาขวญั

๓

กติ ตกิ รรมประกาศ

การศึกษาโครงงานประวตั ิศาสตร์ เร่ือง ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้
ในคร้ังน้ีสาเร็จลุล่วงไปดว้ ยดี ขอขอบคุณคุณครูแสงสุรีย์ ยอดคา ที่ให้ดว้ ยความอนุเคราะห์เป็น
คุณครูที่ปรึกษาโครงงาน ท่ีไดด้ ูแลใหค้ าแนะนา และติดตามการทาโครงงาน และขอขอบคุณคุณแม่
สุขสอน สุขเตม็ ดี ท่ีใหค้ วามฃว่ ยเหลือและใหข้ อ้ มูลตา่ งๆเกี่ยวกบั การเขา้ พาขวญั ทาใหก้ ารศึกษาทา
โครงงานประวตั ิศาสตร์ในคร้ังน้ี ประสบความสาเร็จตามความประสงคท์ ุกประการ

จึงขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี

คณะผจู้ ดั ทา
นางสาวบุษราคมั แกว้ สด ช้นั ม.๔/๑๒
นางสาวณฐั ธิดา ยงคพ์ รหม ช้นั ม.๔/๗
นางสาวสวรรยา สันเสนาะ ช้นั ม.๔/๑๒

๔

สารบัญ

หน้า

บทที่ ๑ บทนา.......................................................................................................... ๑
๑.ที่มาและความสาคญั ของโครงงาน............................................................๑-๒
๒.วตั ถุประสงคข์ องการศึกษาคน้ ควา้ ...........................................................๑
๓.ขอบเขตการศึกษา....................................................................................๑
๔.วธิ ีดาเนินงาน............................................................................................๔
๕.ประโยชน์ที่คาดวา่ จะไดร้ ับ.......................................................................๒

บทท่ี ๒ เอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง.........................................................................................๓
การสร้างองคค์ วามรู้ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์...............................................๓

บทที่ ๓ วธิ ีดาเนินการ..............................................................................................๔
๑.วธิ ีดาเนินการ............................................................................................๔
๒.แหล่งขอ้ มูล.............................................................................................๔
๓.วธิ ีการเก็บขอ้ มูล.....................................................................................๔
๔.เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเก็บขอ้ มลู ...............................................................๔.
๕.การวเิ คราะห์ขอ้ มลู .................................................................................๔
๖.การนาเสนอผลงาน................................................................................๔

บทที่ ๔ ผลการศึกษา...............................................................................................๕

บทท่ี ๕ สรุปและข้อเสนอแนะ................................................................................๖
๑.สรุปผลการศึกษา............................................................................๖
๒.ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ....................................................................................๗
๓.ปัญหาอุปสรรค......................................................................................๗
๔.ขอ้ เสนอแนะ.........................................................................................๗

อ้างองิ
ภาคผนวก

- แบบบนั ทึกการสอบถามสัมภาษณ์
- ภาพประกอบโครงงาน
- ใบอนุมตั ิรายชื่อกลุ่มโครงงาน

๕

บทท่ี ๑
บทนา

๑.ทมี่ าและความสาคญั ของโครงงาน

ประวตั ิศาสตร์เป็ นการศึกษาเร่ืองราวของมนุษยใ์ นอดีตอยา่ งมีระบบ หรือดว้ ยวิธีการทาง
ประวตั ิศาสตร์ โดยอาศยั หลกั ฐานต่างๆ ที่มีการจดบนั ทึกไว้ และหาหลกั ฐานอ่ืนๆ มาประกอบ การ
สร้างองค์ความรู้ด้วยวิธีทางประวตั ิศาสตร์ประกอบด้วยข้นั ตอนของการค้นควา้ หลักฐาน การ
ตรวจสอบหลกั ฐาน การวเิ คราะห์หลกั ฐาน การวิเคราะห์และประเมินคุณค่าของหลกั ฐาน และการ
นาเสนอองค์ความรู้ท่ีไดจ้ ากกการใช้วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ในการคน้ ควา้ ถือเป็ นองค์ความรู้ที่
ผ่านกระบวนการคน้ ควา้ ท่ีมีระบบและความน่าเชื่อถือ จากการเรียนในรายวิชาประวตั ิศาสตร์
ส๓๑๑๐๓ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง การสร้างองค์ความรู้ใหม่ทางประวตั ิศาสตร์ ซ่ึงศึกษา
เกี่ยวกบั วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ จึงเป็ นท่ีมาของการศึกษาทาโครงงานประวตั ิศาสตร์ เร่ือง ภาพ
เก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้ เพ่ือที่จะศึกษาและพฒั นาความรู้ทางประวตั ิศาสตร์
ตอ่ ไป

๒.วตั ถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า

๑. เพอ่ื ศึกษาประวตั ิศาสตร์ในชุมชน
๒. เพอ่ื รวบรวมขอ้ มลู ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของขา้ พเจา้
๓. เพือ่ เผยแพร่ความรู้เก่ียวกบั ขอ้ มูลภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้

๓.ขอบเขตการศึกษา

๑. ขอบเขตด้านเนือ้ หา
ศึกษาเก่ียวกบั ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของขา้ พเจา้ ที่แสดงประวตั ิศาสตร์
ประเพณี วฒั นธรรม วถิ ีชีวติ ของชุมชนในอดีต
๒.ขอบเขตด้านเวลา

ระหวา่ งวนั ท่ี ๒ - ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
๓.ขอบเขตด้านพนื้ ที่

บา้ นเลขท่ี ๓๐หม๓ู่ บา้ นวงั พอก ตาบลโพธ์ิศรี อาเภอพิบลู มงั สาหาร จงั หวดั
อุบลราชธานี รหสั ไปรษณีย์ ๓๔๑๑๐

๔.วธิ กี ารศึกษา

๑. ต้งั หวั ขอ้ ในการศึกษาทาโครงงาน

๖

๒. เสนอเคา้ โครงงานต่อครูที่ปรึกษา
๓. ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู
๔. วางแผนการดาเนินงาน
๕. ลงมือปฏิบตั ิตามแผนท่ีกาหนดไว้
๖. รวบรวมผลขอ้ มูลการปฏิบตั ิงาน
๗. ทาการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
๘. จดั ทารายงานรูปเล่มผลการศึกษา
๙. นาเสนอผลงาน

๕. ประโยชน์ทคี่ าดว่าจะได้รับ

๑.ได้ ไดศ้ ึกษาความรู้และเรียนรู้ส่ิงใหมๆ่ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกบั ประวตั ิศาสตร์ในชุมชน
๒.ไดไ้ ดค้ วามรู้ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นเกี่ยวกบั การเขา้ พาขวญั
๓.ไดน้ าความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาการเขา้ พาขวญั ไปเผยแพร่ใหผ้ อู้ ื่นไดศ้ ึกษาคน้ ควา้

๗

บทที่ ๒
เอกสารท่เี กย่ี วข้อง

การศึกษาโครงงานประวตั ิศาสตร์ เร่ือง ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของขา้ พเจา้
ไดท้ าการศึกษาเอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ ง ดงั น้ี
๑.ความหมาย ความสาคญั และประโยชน์ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์
๑.๑ความหมายของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์หมายถึงวธิ ีการหรือข้นั ตอน
ต่างๆที่ใชใ้ นการศึกษาคน้ ควา้ วจิ ยั เก่ียวกบั เร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์โดยเฉพาะอาศยั จากหลกั ฐาน
ท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษรเป็นความสาคญั ประกอบกบั หลกั ฐานอื่นๆ เช่นภาพถ่ายแบบบนั ทึกเสียงวดี ี
ทศั น์หลกั ฐานทางโบราณคดีเป็นตน้
๑.๒ความเป็นมาของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์มีความสาคญั คือทาให้
เรื่องราวกิจกรรมเหตุการณ์ที่เกิดข้ึนในประวตั ิศาสตร์มีความน่าเชื่อถือ มีความถูกตอ้ งเป็ นจริงหรือ
ใกลเ้ คียงความเป็นจริงมากท่ีสุด

๑.๓ประโยชน์ของวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ วธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์มีประโยชนท์ ้งั ต่อการศึกษา
ประวตั ิศาสตร์ที่ทาใหไ้ ด้ เร่ืองราวทาง ประวตั ิศาสตร์นาเช่ือถือ ประโยชนอ์ ีกดา้ นหน่ึงคือผทู้ ี่ไดร้ ับ
การฝึกฝนการใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์จะทาใหเ้ ป็ นคนละเอียดครอบคอบ มีการตรวจสอบ
เรื่องราวท่ีศึกษา

๘

บทท่ี ๓

วธิ ีดาเนินงาน

การศึกษาโครงงานประวตั ิศาสตร์ เรื่อง ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้ มี
วธิ ีดาเนินการโดยใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ๕ ข้นั ตอน ดงั น้ี
ข้นั ตอนที่ ๑ การกาหนดหัวข้อศึกษา

ประชุมกลุ่มต้งั หวั ขอ้ ในการศึกษาทาโครงงานและเสนอเคา้ โครงงานต่อครูท่ีปรึกษา
โครงงาน
ข้นั ตอนที่ ๒ รวบรวมหลกั ฐาน

ทาการรวมรวมหลกั ฐานที่เป็ นลายลกั ษณ์อกั ษรและที่ไม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ท่ีเกี่ยวขอ้ ง
กบั โครงงาน

๒.๑ การบนั ทึกขอ้ มูลการสอบถาม สัมภาษณ์ จากบุคคลในชุมชน และบนั ทึกภาพถ่าย
๒.๒ การสารวจสถานที่จริง
ข้นั ตอนที่ ๓ ประเมินคุณค่าหลกั ฐาน
การประเมินคุณคา่ ภายนอก คือประเมินความน่าเชื่อถือของหลกั ฐานท่ีปรากฏ
การประเมินคุณค่าภายใน คือการอธิบายความหมาย เรื่องราวจากหลกั ฐานที่ปรากฏ
ข้นั ตอนที่ ๔ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ และเรียบเรียงข้อมูล
ทาการวเิ คราะห์ขอ้ มูลจากหลกั ฐานที่ปรากฏ และทาการเรียบเรียงประวตั ิศาสตร์จดั ทา
รายงานผลการศึกษาในรูปแบบโครงงาน
ข้นั ตอนที่ ๕ นาเสนอ
จดั ทาวดี ีทศั นน์ าเสนอโครงงานประวตั ิศาสตร์และนาเสนอผลงาน
๕.๑) จดั รูปเล่มรายงาน จานวน ๑ เล่ม
๕.๒) การทาส่ือออนไลน์ เผยแพร่ ในกลุ่มFace Book วชิ าประวตั ิศาสตร์ ม.4 ปี 2564

๙

บทที่ ๔
ผลการศึกษา

ผลจากการศึกษาโครงงานประวตั ิศาสตร์ เร่ืองภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของ
ขา้ พเจา้ นางสาวบุษราคมั แกว้ สด นกั เรียนช้นั ม. ๔/๑๒ เลขที่ ๓๓

นางสาวณฐั ธิดา ยงคพ์ รหม นกั เรียนช้นั ม.๔/๗ เลขที่ ๔๔
นางสวรรยา สันเสนาะ นกั เรียนช้นั ม.๔/๑๒ เลขท่ี ๔๔

๑.ชื่อภาพ การเขา้ พาขวญั แห่นาค
๒.ภาพน้ีถ่ายเมื่อวนั ที่๘เดือนกุมภาพนั ธ์ประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๑ อาย๒ุ ๓ปี
๓.เจา้ ของภาพน้ีคือ นายเศษฐชาติ สุขเตม็ ดี อาย๔ุ ๘ปี อาชีพรับจา้ ง ที่อยู่ บา้ นวงั พอก บา้ นเลขท่ี๓๐
หม๓ู่ ตาบลโพธ์ิศรี อาเภอพิบูลมงั สาหาร จงั หวดั อุบลราชธานี
๔.รายละเอียดของกบั ภาพ

เป็นการเขา้ พาขวญั ซ่ึงเป็ นนาคในภาพเม่ือประมาณปี ๒๕๓๑เป็นการเขา้ พาขวญั ท่ีวดั บา้ น
วงั พอก ตาบลโพธ์ิ อาเภอ พิบูลมงั สาหารบุคคลในภาพน้ีไดก้ ่ นายเศษฐชาติ สุขเตม็ ดี อาย๒ุ ๓ ปี ซ่ึง
กาลงั เขา้ สู่พธิ ีบายศรีสู่ขวญั หรือเรียกอีกแบบวา่ การเขา้ พาขวญั ตามภาษาชาวบา้ นพดู กนั ซ่ึงหน่ึงใน
น้นั มีบิดมารดาญาติพีน่ อ้ งพากนั เขา้ ร่วมบายศรีสู่ขวญั พร้อมหนา้ พร้อมตากนั

ภาพน้ีสะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ การเขา้ ะพิธีบายศรีสู่ขวญั ในสมยั ก่อนจะมีการจดั งานตามประเพณี
คือการทาขวญั นาคเองการแห่นาคซ่ึงเป็นวฒั นธรรมของชาวพุทธและประเพณีและความหนา้ เชื่อถือ
ของวฒั นธรรมทอ้ งถิ่นขิงชาติการบวชหรือการอุปสมบทในคร้ังน้ีเพือ่ ตอบแทนพระบิดามารดาและ
ป่ ูท่ีล่วงลบั ไปแลว้

๑๐

บทท่ี ๕

สรุปและอภปิ ราย

จากโครงงานประวตั ิศาสตร์ เร่ืองภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของขา้ พเจา้ มี
วตั ถุประสงคข์ องการศึกษาคน้ ควา้ เพ่อื ๑)เพ่ือศึกษาประวตั ิศาสตร์ในชุมชน ๒)เพื่อรวบรวม
ขอ้ มูลภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้ ๓)เพอ่ื เผยแพร่ความรู้เก่ียวกบั ขอ้ มูลภาพเก่า
เล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นของขา้ พเจา้ ระยะเวลาในการศึกษา ต้งั แต่ วนั ท่ี๒เดือนสิงหาคมถึง
วนั ท่ี๕เดือนกนั ยายนพ.ศ. ๒๕๖๔ มีวธิ ีการดาเนินการศึกษา ประชุมต้งั หวั ขอ้ ในการศึกษาทา
โครงงาน เสนอเคา้ โครงงานต่อครูท่ีปรึกษา และครูผสู้ อน ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู วางแผนการ
ดาเนินงาน ลงมือปฏิบตั ิตามแผนท่ีกาหนดไว้ รวบรวมผลขอ้ มลู การปฏิบตั ิงาน เขียนรายงานผล
การศึกษาและนาเสนอผลงาน
๑.สรุปผลและอภปิ ราย ผลการศึกษา

จากผลการศึกษาประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถิ่น เร่ืองภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถ่ินของขา้ พเจา้
ทาใหข้ า้ พเจา้ ไดท้ าความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การแห่นาครอบโบสถต์ ้งั แต่สมยั ก่อนจนถึงปัจจุบนั ซ่ึง
เป็นประโยชน์ต่อขา้ พเจา้ ละไดล้ งมือทาหาความรู้สืบคน้ หาขอ้ มูลเก่ียวกบั กรห่นาครอบโบสถด์ ว้ ย
ตนเองและไดเ้ ผยแพร่ความรู้ใหผ้ อู้ ่ืนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้
๓.ประโยชน์ทไี่ ด้รับจากการศึกษาทาโครงงานคร้ังนี้

๑. ไดศ้ ึกษาหาความรู้และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆท่ีไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกบั ประวตั ิในชุมชน
๒. ไดค้ วามรู้จากภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในทอ้ งถิ่นเก่ียวกบั การแห่นาครอบโบสถ์
๓. นาความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาการแห่นาครอบโบสถไ์ ปเผยแพร่ใหผ้ อู้ ่ืนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้
๔.ปัญหาและอุปสรรค

๑.ขอ้ มูลอาจไม่ละเอียดและภาพอาจไมค่ ่อยชดั
๒.การหารูปประกอบโครงงานค่อนขา้ งยาก
๓.การสัมภาษณ์คอ่ นขา้ งยากเพราะผใู้ หข้ อ้ มลู ไมค่ อ่ ยอยบู่ า้ น
๕.ข้อเสนอแนะ
๑. ควรศึกษาขอ้ มลู ใหล้ ึกและกวา้ งกวา่ น้ี
๒. ควรศึกษาหาขอ้ มูลเพ่ิมเติมกบั ผรู้ ู้เกี่ยวกบั การแห่นครอบโบสถ์

๑๑

อ้างองิ

ณรงคพ์ ว่ งพิศและวฒุ ิชยั ,มูลศิลป์ ,หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้ืนฐานประวตั ิศาสตร์ไทยม.๔-๖
บริษทั อกั ษรเจริญทศั น์ อจท.จากดั พิมพค์ ร้ังท่ี๑

ผู้ให้ข้อมูล
๑.ช่ือนางสุขสอน สุขเตม็ .อาย๗ุ ๓ปี
อาชีพ-ท่ีอยบู่ า้ นเลขที่๓๐หมู่๓บา้ นวงั พอก.ตาบลพ์ิศรีอาเภอพบิ ูลมงั สาหารจงั หวดั

อุบลราชธานี โทร๐๖๒๑๔๒๙๑๘๘

๑๒

ภาคผนวก

๑๓

ภาพประกอบโครงงาน

ภาพประกอบโครงงานประวตั ศิ าสตร์

เร่ือง ภาพเก่าเล่าประวตั ิศาสตร์ในท้องถิ่นของข้าพเจ้า

ภาพที่๑ ภาพการสมั ภาษณ์ นางสุขสอน สุขเตม็ ดี
ทตี่มอ้ าง:เกปา็นรลภงาพพ้ืนนทกั่ีสเมั รภียานษกณา์ขลอ้ งัมทูลา,กวานั รทส่ี๑มั๘ภาษณ์ผใู้ หข้ อ้ มลู

ภาพท่ี๒ภาพการสมั ภาษณ์ นางสุขสอน สุขเตม็ ดี กเรียนกาลงั ทาการสมั ภาษณ์ผใู้ หข้ อ้ มลู
ภาพที่๓ ภาพการสมั ภาษณ์ นางสุขสอน สุขเตม็ ดี
ท่ีมา: การลงพ้ืนท่ีสมั ภาษณ์ขอ้ มูล ,วนั ที่๑๘
ทมี่ า: การลงพนื้ ท่สี มั ภาษณ์ข้อมูล ,วันท๑่ี ๘

ตอ้ งเป็นภาพนกั เรียนกาลงั ทาการสมั ภาษณ์ผใู้ ห้
ขอ้ มลู

๑๔

ผู้จดั ทาโครงงานประวตั ศิ าสตร์

โครงงานประวตั ศิ าสตร์ เร่ืองภาพเก่าเล่าประวตั ศิ าสตร์ในท้องถ่ินของข้าพเจ้า

คุณครูทีป่ รึกษาโครงงาน
นายแสงสุรีย์ ยอดคา

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชื่อนางสาวรบูปุษถร่ายคมั แกว้ สดช้นั ม.๔/๑๒ ชื่อนางสาวณฐั ธิดา ยงคพ์ รหมช้นั ม.๔/๗ ชื่อนางสาวสวรรยา สนั เสนาะช้นั ม.๔/
เลขที่๓๓ เลขท่ี๒๒ ๑๒เลขท่ี๔๔