The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by hanaja.652, 2022-09-05 05:16:53

ตะไคร้ไล่ยุง

ตะไคร้ไล่ยุง

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
เรอื่ ง ตะไคร้ไลย่ ุง

โดย
1. นายวัชรากร ผลเวช
2. นายอภิมุข พึ่งเพียร
3. นายธีระศักดิ์ นาเมือง

ระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ(ปวช.)
ปีพุทธศักราช 2565

วิทยาลัยการอาชีพมหาราช อาชวี ศกึ ษาจังหวัดพระนครศรีอยธุ ยา
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา
กระทรวงศึกษาธกิ าร

รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์
เรือ่ ง ตะไคร้ไล่ยุง

โดย
1.นายวชั รากร ผลเวช
2.นายอภิมุข พ่ึงเพียร
3.นายธีระศกั ด์ิ นาเมือง

ครูท่ีปรกึ ษา
นางสาวอธชิ า ฉตั รยทุ ธนา
นายขวัญชัย เดชพจน์

ทป่ี รึกษาพิเศษ
นายณฐั พงศ์ แก้ววงศ์

ชือ่ โครงงาน ตะไครไ้ ลย่ ุง
ชอื่ ผูจ้ ัดทา นายวชั รากร ผลเวช
นายอภมิ ุข พ่ึงเพียร
ครูที่ปรกึ ษา นายธรี ะศกั ด์ิ นาเมอื ง
นางสาวอธิชา ฉัตรยทุ ธนา
ปที จ่ี ัดทาปีการศึกษา นายขวญั ชยั เดชพจน์
สถานศึกษา 2565
วทิ ยาลยั การอาชีพมหาราช

บทคัดยอ่
โครงงานวิทยาศาสตร์เร่ืองตะไคร้ไล่ยุงมีจุดประสงค์เพ่ือไล่ยุงโดยวิธีการทา นาตะไคร้มาหั่นเเละผสม

แอลกอฮอล์ผลการทดลองพบว่ากลุ่มท่ี 1 แขนที่ฉีดสเปรย์ทาแขนใช้เวลา 10 นาที ไม่มียุงมาตอม กลุ่มท่ี 2
แขนที่ไม่ได้ฉีดสเปรย์ใช้เวลา 10 นาที มียุงมาตอม 6-7 ตัว จะเห็นได้ว่ากลุ่มท่ี 1 ท่ีฉีดสเปรย์ทาแขนใช้เวลา
10 นาที ไม่มียุงมาตอมและยังมีกล่ินหอม แต่กลุ่มท่ี 2 ท่ีไม่ได้ฉีดสเปรย์ทาท่ีแขนน้ันมียุงมาตอม 6-7 ตัว ซ่ึง
แสดงว่าตะไครม้ ปี ระสทิ ธิภาพในการไล่ยุงได้และยงั มีกลิ่นหอม

กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานสามารถบรรลุผลสาเร็จได้ดี ด้วยความร่วมมือจากผู้ปกครอง อาจารย์และเพื่อนๆ ผู้จัดทา
ขอขอบพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ของคณะผู้จัดทาท่ีช่วยในการจัดหาใบตะไคร้เเละอุปกรณ์ต่าง ๆ ขอขอบคุณ
อาจารย์ท่ชี ว่ ยใหค้ าปรึกษาแนะนาในการทาโครงงานครง้ั นี้ ทาให้งานนี้สาเรจ็ ไปดว้ ยดี

คณะผ้จู ดั ทา

สารบญั หนา้

บทคดั ย่อ ข
กติ ตกิ รรมประกาศ ค
สารบัญ ง
สารบัญตาราง จ
สารบัญรูปภาพ 1
บทที่ 1 บทนา 1
1
ทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน 1
จดุ มงุ่ หมายของการการศกึ ษาคน้ คว้า 2
สมมตฐิ านการศึกษาค้นคว้า 2
ขอบเขตของการศกึ ษาค้นควา้ 2
ตัวแปร 3
นยิ ามเชิงปฏบิ ตั กิ าร 11
บทที่ 2 เอกสารท่ีเกีย่ วขอ้ ง 12
บทที่ 3 อุปกรณแ์ ละวธิ กี ารศึกษาคน้ ควา้ 13
บทท่ี 4 ผลการศึกษาค้นควา้ 14
บทท่ี 5 สรปุ และอภิปรายผลการศึกษาคน้ คว้า 14
สรปุ ผลการศกึ ษา 14
อภปิ รายผลการศกึ ษา 13
ประโยชนท์ ี่ไดร้ บั 15
ปัญหา/ขอ้ เสนอแนะ 16
บรรณานกุ รม
ภาคผนวก

สารบญั ตาราง หนา้

ตารางที่ 12
4.1 ตารางบันทกึ ผลการศึกษาตะไครผ้ สมกบั แอลกอฮอลแ์ ละเวลาที่ยงุ มาตอมได้

สารบัญรปู ภาพ หนา้
3
ภาพท่ี 7
2.1 ยุง 17
2.2 ตะไคร้ 17
3.1 การหน่ั ตะไคร้แบบไม่ไดล้ ะเอียดมาก
3.2 นาตะไครท้ ห่ี ัน่ ไปใสใ่ นขวดทีม่ ีแอลกอฮอร์

บทที่ 1
บทนา

ทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน
ปัจจุบันถา้ จะกลา่ วถงึ สตั ว์ท่เี ป็นพาหะนาโรค สตั วอ์ นั ดบั ต้นๆที่คดิ คงไม่พน้ ยงุ เน่อื งจากยุงเป็น

พาหะนาโรคร้ายตา่ ง ๆ ทค่ี ร่าชวี ติ คนเป็นจานวนมาก ยงุ เป็นพาหะนาโรคหลายชนดิ ทเี่ ป็นอนั ตรายต่อมนุษย์
เช่น โรคไข้เลือดออก ไข้มาลาเรยี โรคเท้าชา้ ง เปน็ ต้น

จงึ มผี ู้คิดทาตัวยาเพ่ือกาจัด และป้องกันยุงขึน้ มาหลายชนิด เชน่ ครมี ทากันยุง ยาจดุ กนั ยุง ยาฉดี กนั
ยุง นา้ มนั ไล่ยงุ เป็นต้น แต่ยากนั ยงุ เหล่าน้ีก่อให้เกิดปญั หาข้ึนมากมาย เพราะมีสารทีเ่ ป็นอนั ตรายผสมอยู่ ซึ่ง
ทาให้ผใู้ ชบ้ างคนเกดิ อาการแพ้ ผู้จัดทาโครงงานได้พบว่ามีชาวบ้านในท้องถิ่นไดน้ าใบตะไคร้หอมนามาทบุ แล้ว
นามาวางไว้ใกล้ตัว พบว่าสามารถไลย่ ุงได้ จากการคน้ ควา้ ตะไครห้ อมเปน็ สมุนไพรทีส่ ามารถไล่ยุงได้ โดยใบ
ตะไคร้หอม จะมีน้ามนั หอมระเหยสกดั สามารถใช้ไลแ่ มลงได้ เมอ่ื นานา้ มันหอมระเหยจากตะไครห้ อม มา
ทดสอบกบั ยุงทเี่ ปน็ พาหะของโรคมาลาเรีย ไข้เลือดออก และเทา้ ชา้ ง พบวา่ มผี ลปอ้ งกันยุงกดั ไดน้ าน 8-
10 ชม.

ดงั นนั้ ทางกลุม่ จึงมีความคิดที่จะทาการศึกษา คน้ คว้า โดยนาตะไคร้หอมมาใช้ในรูปผลิตภณั ฑ์สเปรย์
ฉดี ไล่ยงุ โดยใหม้ ีส่วนผสมของในา้ ตะไคร้และแอลกอฮอล์ซ่งึ จะได้ท่มี ีประสิทธภิ าพในการไล่ยงุ และ หมดปญั หา
การแพส้ ารเคมีได้

จุดมุง่ หมายของการศกึ ษาค้นควา้

เพอื่ ทดลองวา่ ตะไครม้ ีผลสามารถไลย่ ุงได้

สมมติฐานการศึกษาค้นคว้า

เม่ือความเข้มข้นของน้าใบตะไคร้ผสมกับแอลกอฮอลจ์ ะชว่ ยเพม่ิ ประสทิ ธิภาพในการไล่ยงุ

ขอบเขตของการศึกษาคน้ ควา้

โครงงานวทิ ยาศาสตร์นี้เปน็ โครงานประเภทการทดลองการผสมตะไคร้กบั แอลกอฮอล์สามารถไลย่ ุง

ประชากร ประชากรการศึกษาครงั้ นีเ้ ปน็ ยงุ โดยยงุ ทน่ี ามาทาการทดลองเปน็ ยุงลายและยุงท่วั ไปในบา้ นหรือป่า
แถวๆบ้าน

ระยะเวลาในการศึกษาคน้ คว้าทาการทดลอง ระหวา่ งวันท่ี 15 สิงหาคม – 31 สงิ หาคม 2565 เปน็ เวลา 16

วนั

ตัวแปร

ตัวแปรตน้ ความเข้มข้นของนา้ ใบตะไคร้

ตัวแปรตาม เวลาทีย่ ุงไม่ตอม

ตวั แปรควบคมุ ปรมิ าณใบตะไคร้

นยิ ามเชงิ ปฏบิ ตั ิการ
ยุง คือ ยงุ ลายหรือยุงท่วั ๆ ไป
ตะไคร้ คอื ใบตะไคร้

บทท่ี 2
เอกสารท่เี กย่ี วข้อง
แนวคิด ทฤษฎี

โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่ือง ตะไคร้ไล่ยงุ คณะผ้จู ดั ทาไดค้ ้นคว้ารวบรวมทฤษฎีจากตารา,สารสนเทศ,
วารสาร,สอ่ื ออนไลน์ และเอกสารท่ีเกย่ี วข้องดังนี้

1.ยงุ
2.ตะไคร้
3.งานวิจัยและโครงงานท่ีเกีย่ วข้อง
1.ยงุ

รปู ภาพ 1.1 ยุง

ยงุ เป็นแมลงทีพ่ บไดท้ ่ัวโลกแตพ่ บมากในเขตรอ้ นและเขตอบอุ่น โดยปกติ ลูกน้ามักจะกินจาพวก แบคทีเรีย
โปรโตซัว ยสี ต์ สาหร่าย และพืชนา้ ที่มีขนาดเล็ก ยุงตัวเมียกนิ นา้ หวานและเลือดเปน็ อาหาร ส่วนตัวผมู้ กั จะกนิ
นา้ หวานจากดอกไม้ ยุงยังเป็นแมลงท่ีเปน็ พาหะแพร่เช้ือโรคอกี ดว้ ย เช่น ไขเ้ ลือดออก ยุงทว่ั โลกมีอยู่ประมาณ
3,450 ชนดิ แตพ่ บในประเทศไทยประมาณ 412 ชนิด แตท่ ี่ค้นุ เคยกันดี คือ ยุงกน้ ปล่อง (Anopheles) และ
ยงุ ลาย
ระยะไข่

ไข่ยุงแต่ละชนดิ มีขนาดและลักษณะไมเ่ หมอื นกนั จากลกั ษณะการวางไขอ่ าจบอกชนิดของกล่มุ ยงุ
ได้ ยงุ ชอบวางไขบ่ นผิวนา้ หรอื บริเวณชื้น ๆ เช่น บรเิ วณขอบภาชนะเหนือระดับนา้ การวางไข่ของยงุ แบง่
ออกเปน็ 4 ประเภท
วางไข่ติดกับใบพชื นา้ เปน็ กลมุ่ เช่น ยุงเสอื หรือยงุ ฟิลาเรยี วางไข่ใบเด่ียว ๆ บนผวิ น้า เช่น ยงุ ก้นปลอ่ ง
วางไข่เปน็ แพ (raft) บนผวิ นา้ เชน่ ยุงราคาญ
วางไขเ่ ดี่ยว ๆ ตามขอบเหนือระดบั น้า เชน่ ยงุ ลาย
ระยะไข่ใชเ้ วลา 2-3 วัน จึงฟักตวั ออกเปน็ ลูกน้า ในยุงบางชนดิ ไข่สามารถอยใู่ นสภาพ
แห้งได้หลายเดือนจนกระท่งั เปน็ ปี เมอ่ื มนี ้ากจ็ ะฟกั ออกเป็นลกู นา้ แหลง่ วางไข่ของยุงแต่ละชนดิ แตกต่าง
กนั เชน่ ยุงลายชอบวางไขใ่ นภาชนะขังน้าที่มนษุ ยส์ รา้ งขึ้น สว่ นยงุ ราคาญชอบวางไข่ในแหล่งน้าสกปรกตา่ ง
ๆ นา้ เสียจากทอ่ ระบายนา้ แต่หากไมพ่ บสถาพน้าทีช่ อบยุงกอ็ าจวางไข่ในสภาพน้าท่ผี ดิ ไป นักวทิ ยาศาสตร์
หลายคนรายงานวา่ ปจั จยั ท่ชี ่วยใหย้ งุ ตวั เมียรวู้ า่ ควรจะวางไข่ที่ใดก็คือสารเคมีบางอย่างในนา้ สารเคมีอาจ

เป็น diglycerides ซ่งึ ผลิตโดยลกู น้ายุงที่อาศัยอยใู่ นแหล่งน้านน้ั หรือเป็นกรดไขมนั (Fatty acid) จาก
แบคทีเรีย หรือเปน็ สารพวก phenolic compounds จากพชื น้า
ระยะลูกนา

ลูกน้ายุงแต่ละชนิดอาศัยอยใู นน้าต่างชนดิ กนั เช่น ตามภาชนะขังนา้ ตา่ ง ๆ ตามบ่อนา้ หนอง ลา
ธาร โพรงไม้ หรอื กาบใบไม้ที่อุ้มนา้ เป็นต้น ลูกน้ายุงส่วนใหญล่ อยตัวขึ้นมาหายใจบนผิวน้า โดยมีท่อ
สาหรับหายใจเรยี กวา่ siphon ยกเว้นยงุ ก้นปล่องไม่มีทอ่ หายใจ แตจ่ ะวางตวั ขนานกบั ผิวน้า โดยมขี น
ลักษณะคลา้ ยใบพดั (palmate hair) ช่วยให้ลอยตัวและหายใจทางรหู ายใจ (spiracle) ส่วนยุง
เสือ (Mansonia sp.) จะใช้ทอ่ หายใจซ่ึงสั้นและปลายแหลมเจาะพวกพืชนา้ และหายใจเอาออกซิเจนผา่ นราก
ของพืชนา้ อาหารของลูกน้ายงุ ได้แก่ สงิ่ มีชีวติ เล็ก ๆ ในน่ันเอง เช่น แบคทเี รีย ยีสต์ สาหรา่ ย ลกู น้าจะ
ลอกคราบ 4 ครงั้ เม่ือลอกคราบครัง้ สุดทา้ ยกลายเป็นตวั โมง่ การเจริญเติบโตในระยะลูกนา้ ใชเ้ วลา
ประมาณ 7-10 วนั ขนึ้ อยู่กับชนิดของลูกน้า อาหาร อุณหภมู ิ และความหนาแน่นของลกู นา้ ด้วย
ตัวโม่ง

ตวั โม่งรปู ร่างผดิ ไปจากลกู น้า ส่วนหัวเช่อื มตอ่ กับส่วนอก รูปร่างลกั ษณะคลา้ ยเคร่ืองหมายจลุ ภาค ( ,
) ระยะนี้ไม่เกนิ อาหาร เคล่ือนไหวอย่างรวดเรว็ มที อ่ หายใจคู่หนึ่งท่ีส่วนหัวเรียก trumpets ระยะนส้ี ้นั ใช้
เวลาเพยี ง 1-3 วนั
ระยะตัวเตม็ วัย ตัวยงุ แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น
สว่ นหัว (Head) มลี ักษณะกลมเชื่อมตดิ กบั ส่วนอก ประกอบดว้ ย 1 คู่ ตาของยงุ เปน็ แบบตา
ประกอบ (compound eyes) มีหนวด (antenna) 1 คู่ มรี ะยางค์ปาก (palpi) 1 คู่ และมี อวัยวะ
เจาะดูด (proboscis) 1 อัน มีลักษณะเป็นแท่งเรยี วยาวคลา้ ยเข็มสาหรับแทงดดู อาหาร
หนวดของยงุ แบ่งเปน็ 15 ปล้อง สามารถใชจ้ าแนกเพศของยุงได้แตล่ ะปลอ้ งจะมีขนรอบ ๆ ในยงุ ตวั เมียขน
นจ้ี ะสั้นและไมห่ นาแน่น (sparse) เรียกวา่ pilose antenna สว่ นตัวผขู้ นจะยาวและเป็น
พมุ่ (bushy) เรยี กวา่ plumose antenna หนวดยุงเปน็ อวัยวะท่ีใช้ในการรับคลนื่ เสียง ตัวผู้จะใช้รบั เสยี ง
การกระพือปกี ของตวั เมีย ความช้ืนของอากาศ รับกลิน่
Palpi แบง่ เป็น 5 ปล้อง อยู่ตดิ กับ proboscis ในยงุ ก้นปลอ่ งตวั เมยี Palpi จะตรงและยาว
เท่ากับ proboscis สว่ นยุงตวั ผตู้ รงปลาย Palpi จะโปง่ ออกคล้ายกระบอง ในยุงอ่นื ที่ไม่ใช่
ยุงก้นปลอ่ ง Palpi ของตัวเมยี จะสนั้ ประมาณ ¼ ของ proboscis สว่ นตวั ผู้ Palpi จะยาว แต่ตรงปลาย
ไม่โป่ง และมีขนมากทีส่ องปล้องสุดทา้ ยซึง่ จะงอขึน้

1.4.2 ส่วนอก (thorax) มีปีก 1 คู่ ด้านบนของอก (mesonotum) ปกคลุมดว้ ยขนหยาบ ๆ และ
เกล็ด ซงึ่ มสี ีและลวดลายตา่ ง ๆ กนั เราใชล้ วดลายน้สี าหรบั แยกชนิดยุงได้ ด้านขา้ งของอกมีเกล็ดและกล่มุ
ขนซง่ึ ใช้แยกชนิดของยุงได้เช่นกนั ดา้ นลา่ งของอกมีขาแต่ละขาแบ่งออกเปน็ ช่วงต่าง ๆ คือ coax ซ่งึ มี
ขนาดส้ันอยูทีโ่ คนสุด ต่อไปเปน็ trochanter คลา้ ย ๆ บานพับ femur , tibia และ tarsus ซง่ึ มี
อยู่ 5 ปล้อง ปลอ้ งสุดท้ายมหี นามงอ ๆ 1 คู่ เรยี กว่า claws ขากม็ ีเกล็ดสตี ่าง ๆ ใชแ้ ยกชนิดของยงุ
ได้ ปีกมีลกั ษณะแคบและยาว มีลายเสน้ ปีก (veins) ซ่ึงมีชอ่ื เฉพาะของแต่ละเสน้ ปีกจะมีเกลด็ สีตา่ ง
ๆ กนั ตรงขอบปีกดา้ นหลงั จะมีขนเรยี งเปน็ แถวเรยี ก fringe เกล็ดและขนบนปีกนี้กใ็ ชใ้ นการแยกชนดิ ของ
ยงุ ไดเ้ ชน่ กัน นอกจากนี้ยังมี halteres 1 คู่ มีลักษณะเปน็ ปมุ่ เลก็ ๆ อยู่ต่อหลังจากปีก เมือ่ ยุง
บิน halteres จะส่นั อย่างรวดเรว็ ใช้ประโยชน์ในการทรงตัวของยุง

1.4.3 ส่วนท้อง (abdomen)
มลี กั ษณะกลม ยาว ประกอบด้วย 10 ปล้อง แต่จะเหน็ ชดั เจนเพียง 8 ปลอ้ ง ปลอ้ งที่ 9-

10 จะดัดแปลงเปน็ อวยั วะสืบพันธุ์ ในยุงตวั ผูจ้ ะใช้สว่ นนีแ้ ยกชนดิ ของยงุ ได้
2. อาหาร
ยุงท้งั 2 เพศ กนิ น้าหวานจากเกสรดอกไมก้ ส็ ามารถดารงชีวิตอยู่ได้ แตส่ ว่ นใหญ่ยุงตวั เมยี ยังตอ้ งการโปรตนี
จากเลือดมนุษยห์ รือสัตว์ เพื่อช่วยในการเจรญิ ของไข่และใชส้ ร้างพลงั งานยงุ ตัวเมยี เท่านั้นท่ีกัดคนและ
สัตว์ ยุงแต่ละชนิดชอบกินเลือดต่างกนั พวกท่ชี อบกนิ เลือดสัตวเ์ รยี ก zoophilic ส่วนพวกทช่ี อบกนิ เลอื ด
คน เรยี ก anthropophilic เลอื ดจะเข้าไปช่วยในการเจริญของไข่การเจริญของไขแ่ บบทต่ี อ้ งการโปรตีนจาก
เลอื ดเรียก anautogeny ในยุงไม่ก่ีชนิดไขจ่ ะสุกไดโ้ ดยใชอ้ าหารทส่ี ะสมไวโ้ ดยไมต่ ้องกนิ
เลือด เรยี ก autogeny เช่น ยงุ Aedes togoi , Culex molestus เวลาทีย่ ุงออกหากนิ ก็ไม่
เหมอื นกัน เช่น ยุงลายชอบหากินในเวลากลางวนั ส่วนยงุ ราคาญชอบหากินในเวลากลางคนื ยงุ แม่ไก่ชอบ
หากินตอยพลบคา่ และย่ารงุ่ เปน็ ตน้
การบนิ
มีลีกษณะเฉพาะสาหรบั ยุงแต่ละชนิด เชน่ ยุงลายบา้ นจะบนิ ไปไมไ่ กลบนิ ได้ประมาณ 30-
300 เมตร ยงุ ลายสวนบนิ ได้ประมาณ 400-600 เมตร ยงุ ก้นปล่องบินไดป้ ระมาณ 0.5-
2.5 กิโลเมตร สว่ นยงุ ราคาญบินได้ต้ังแต่ 200 เมตรถงึ หลายกโิ ลเมตร ยุงพาหะนาโรคไขส้ มองอักเสบบินได้
ไกลถึง 50 กิโลเมตร ยงุ ตวั เมียสามารถบนิ ได้ไกลกวา่ ยงุ ตัวผู้
4. การผสมพนั ธ์ุ

ยุงตัวผลู้ อกคราบโผลอ่ อกจากตัวโมง่ กอ่ นยุงตวั เมีย และอยใู่ กล้ ๆ แหลง่ เพาะพันธุ์ เม่อื ตวั เมีย
ออกมา 1-2 วนั จะผสมพนั ธ์กุ ัน หลงั จากผสมพนั ธ์ุแลว้ ยงุ ตวั เมยี จะออกหาแหล่งเลือด แต่ยงุ บางชนิด
ต้องการเลอื ดก่อนการผสมพันธุ์ เชน่ Anopheles culicifacies นอกจากนยี้ ุงกน้ ปล่องมีพฤติกรรมการบิน
วอ่ นเป็นกลุม่ เพื่อการจับคูผ่ สมพันธุ์ เรียก swarming ซึ่งมกั เกดิ ขึ้นตอนพระอาทติ ยก์ าลังตก โดยแสงที่อ่อน
ลงอยา่ งรวดเร็วมีผลในการกระต้นุ กิจกรรมนี้
ส่วนยุงลายจบั คผู่ สมพันธโ์ุ ดยไมต่ ้อง swarm ตัวผจู้ ะตอบสนองต่อเสียงกระพือ ปีกของยุงตวั เมีย ยงุ ลายตัว
ผู้สามารถค้นหาตวั เมยี ไดภ้ ายในระยะทาง 25 เซนติเมตร
5. อายุของยุง

ยงุ ตวั ผ้มู ักมีอายสุ ัน้ กวา่ ยงุ ตวั เมีย โดยยงุ ตวั ผู้มีอายุประมาณ 1 สปั ดาห์ ยกเว้นในกรณที ่ีเล้ียงดดู ว้ ย
อาหารสมบรู ณ์และมีความชนื้ เหมาะสมจะมีอายุอยู่ได้เปน็ เดอื น ส่วนยุงตวั เมยี มอี ายุ 1-5 เดอื นอายุของยุง
ข้นึ อยู่กับปัจจยั หลายอยา่ ง เชน่ ในฤดูร้อน ยงุ มีกิจกรรมมากทาใหอ้ ายุสั้นเฉล่ยี ประมาณ 2 สัปดาห์ ในฤดู
หนาวยงุ มกี จิ กรรมน้อย จึงอายุยืน ในบางพน้ื ทย่ี ุงสามารถจาศลี ตลอดฤดูหนาว

2.ตะไคร้

ภาพ 2.1 ตะไคร้
กลุม่ สมุนไพรไลย่ ุงหรือฆา่ แมลงตะไคร้หอม
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Cymbopogon nardus Rendle
ช่อื สามญั : Citronella grass

วงศ์ : GRAMINEAE
ชือ่ อืน่ : จะไคมะขูด ตะไครมะขดู (ภาคเหนอื ) ตะไคร้แดง (นครศรธี รรมราช)
ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์ : : ไม้ล้มลกุ อายหุ ลายปี สงู 0.75-1.2 เมตร แตกเป็นกอ เหง้าใต้ดินมีกล่ินเฉพาะ
ข้อและปลอ้ งสน้ั มาก กาบใบของตะไครห้ อมมีสเี ขียวปนม่วงแดง ยาวและหนาหมุ้ ขอ้ และปลอ้ งไว้แน่น ใบ
เด่ียวเรยี งสลบั กวา้ ง 1-2 ซม. ยาว 70-100 ซม. แผ่นใบและขอบใบสากและคม (ตะไคร้หอมใบยาวและนิ่ม
กว่าตะไครธ้ รรมดาเลก็ น้อย ทาให้ปลายหอ้ ยลงปรกดินกวา่ ) ดอก ช่อ สีนา้ ตาลแดง แทงออกจากกลางตน้
ออกดอกยาก ผลเปน็ ผลแห้ง ไมแ่ ตก
สว่ นทใ่ี ช้ : ต้น ใบสด นา้ มันของต้นตะไคร้หอม
สรรพคณุ :

นา้ มันสะกัดตะไครห้ อม
- ปรงุ กับนา้ หอมทาตัวปอ้ งกันยุงกดั
- ใสก่ ระบอกสูบผสมกบั นา้ มันอื่นฉดี ไล่ยุงไดด้ ีมากท้ังตน้
-ใช้ตะไครห้ อม 4-5 ต้น นามาทงั้ ตน้ ทบุ ๆ วางทง้ิ ไว้ในหอ้ งมืดๆ กลิน่ น้ามันหอมระเหยออกมา ยงุ แมลงจะหนี
หมด
ประโยชน์ทางยา
แก้รดิ สีดวงในปาก (คือปากแตกระแหงเป็นแผลในปาก)
ปรุงเป็นยาขับลมในลาไส้ และแก้แนน่ ไดด้ ้วย
สตรมี คี รรภ์รบั ประทานให้ตกลกู หรอื ทาลายโลหิตใหด้ ว้ ย (ทาใหแ้ ท้ง) คือมีอานาจในทางบบี รัดมดลูกได้ดีดว้ ย
วธิ ใี ช้ : นานา้ มนั หอมระเหยตะไคร้หอมทาตามตวั ไลแ่ มลง ยงุ

สารเคมี นา้ มันหอมระเหย มี 0.4-0.9% ประกอบด้วย geraniol 57.6-61.1% Citronellal 7.7-
14.2% eugenol, camphor, methyl eugenol.
3.งานวจิ ัยและโครงงานที่เกยี่ วข้อง

ช่อื โครงงาน: ยากนั ยุง ตะไคร้หอม
ชื่อนักศึกษา: นายอชริ ะ ลิมานวัฒน์ 5704400271
อาจารย์ทป่ี รึกษา: อาจารยส์ ุนทร สอนกิจดี
ระดับการศึกษา: ปริญญาตรี
ภาควชิ า: การโรงแรมและการท่องเท่ยี ว
คณะ: ศลิ ปศาสตร์
ภาคการศึกษา/ ปี การศกึ ษา: 3/2560

บทคัดย่อ
จากการที่ไดเ้ ขา้ รับการปฏบิ ตั ิงานโครงการสหกจิ ศึกษา ณ โรงแรม รวิ า เซอร์ยา กรงุ เทพฯ

(Riva Surya)ผจู้ ัดท ามคี วามสนใจท่จี ะน าวตั ถุดิบเหลือใช้ มาพฒั นาเป็น “ยากนั ยงุ ตะไคร้หอม Riva
Surya” มีวัตถุประสงคเ์ พ่ือสร้างผลติ ภัณฑ์“ยากนั ยุงตะไคร้หอม Riva Surya” ป้องกนั ยงุ ใหก้ บั
โรงแรม ริวา เซอร์ยา กรุงเทพฯ (Riva Surya)และเพื่อนา วัตถุดบิ ทเี่ หลือมาใชใ้ ห้เกดิ ประโยชนแ์ ละ
สร้างสรรค์เพราะปกติใช้ยากันยุง ใหม่

จากการที่ผู้จดั ทา “ยากันยงุ ตะไคร้หอม Riva Surya”ออกมาสมบูรณ์ โดยศกึ ษาหาข้อมูล
และได้ลงมือปฏบิ ตั ิหลงจั ากน้ันจึงไดจ้ ัดทา แบบประเมนิ ให้กับ พนกั งานส่วนหนา้ (Front office)
และแขกผมู้ าใช้บริการโรงแรม จานวน 30 คน สรปุ ได้ว่า ความพึงพอใจผลิตภัณฑ์“ยากันยุงตะไคร้
หอม Riva Surya” พบวา่ คุณลักษณะด้านความสามารถในการปกป้องจากยุง มีคะแนนความพึง
พอใจเฉลีย่ 4.97 คะแนน ซึง่ มคี วามพึงพอใจระดบั มากทีส่ ุด รองลงมาคือดา้ นความสวยงามของ
ผลิตภัณฑม์ ีคะแนนความพงึ พอใจเฉลย่ี 4.90คะแนน ด้านการระคายเคอื งผวิ มีคะแนนความพึง
พอใจเฉล่ีย 4.87คะแนน ด์านกล่ินของผลิตภณั ฑ์มีคะแนนความพงึ พอใจเฉลีย่ 4.83คะแนน และ
ดา้ นความชอบโดยรวม มีคะแนนความพึงพอใจเฉลีย่ 4.88 คะแนน จากการผลิต “ยากนั ยุงตะไคร้
หอม Riva Surya” นัน้ สามารถปกป้องจากยงุ ได้อกี ทง้ั ยังสามารถสรา้ งผลติ ภัณฑ์ใหมท่ ่ีทาประโยชน์

บทท่3ี
อปุ กรณ์และวิธีการศกึ ษาค้นควา้

วสั ดุอปุ กรณ์
1.เขียง 2.ตะไคร้
3.มดี 4.แอลกอฮอล์
5.ขวดสเปรย์

ข้นั ตอนและวธิ กี ารดาเนินงาน
ขัน้ ตอนการเตรียมการ

1) ต้งั ประเด็น
2) สบื ค้นขอ้ มูล
3) รวมรอบข้อมูล
4) แบง่ งานใหก้ ับสมาชิกทกุ คนในกลุ่ม
5) จดั วสั ดุ อปุ กรณ์และเครอ่ื งมอื ทีใ่ ช้
ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน
1) เตรียมมดี กบั เขยี งให้พร้อมสาหรับการห่นั ตะไคร้
2) นาใบตะไคร้ไปหน่ั ไม่ตอ้ งละเอียดมาก
3) นาใบตะไคร้ทห่ี น่ั ไปใส่ในขวดแอลกอฮอล์
4) หมักทงิ้ ไว้ 7 วนั
5) นาไปใสข่ วดสเปรยแ์ ละฉีดพ่นทแ่ี ขน
6) แขนซา้ ยไม่ได้ฉดี สเปรย์และแขนขวาทีฉ่ ดี สเปรย์
7) สงั เกต จับเวลา และบันทึการทดลอง

บทท่ี4
ผลการศกึ ษาค้นคว้า
การศกึ ษาเกี่ยวกบั ตะไครท้ ่ีมีผลตอ่ ประสิทธภิ าพการไลย่ ุง มีวตั ถปุ ระสงค์เพือ่ ศึกษาว่าตะไคร้ท่ีกบั
แอลกอฮอลม์ ผี ลต่อประสทิ ธิภาพการไล่ยงุ มผี ลการศึกษาดงั แสดงใน ตาราง ดังนี้
ตารางท่ี 4.1 : ตารางบันทึกผลการศึกษาตะไครผ้ สมกับแอลกอฮอล์และเวลาทยี่ ุงมาตอม

กลุม่ แขนทที่ ากับแขนทไี่ ม่ทา ผลการทดลอง
ที่ ตะไครไ่ ลย่ งุ
เวลา จานวนยุงมาตอม
(นาที) (ตัว)

1 แขนที่ทา 10 0

2 แขนทีไ่ ม่ได้ทา 10 5-7

จากตาราง ตะไครส่ ามารถไล่ยงุ ได้ กล่มุ ที่ 1 แขนที่ฉีดสเปรยท์ าแขนใชเ้ วลา 10 นาที ไม่มียุงมาตอม
กลุ่มที่ 2 แขนท่ีไม่ได้ฉดี สเปรย์ใชเ้ วลา 10 นาที มยี ุงมาตอม 6-7 ตวั จะเหน็ ได้วา่ กลุ่มที่ 1 ท่ีฉีดสเปรยท์ าแขน
ใชเ้ วลา 10 นาที ไมม่ ียงุ มาตอมและยงั มีกลิน่ หอม แต่กลุ่มท่ี 2 ทไ่ี ม่ได้ฉดี สเปรยท์ าที่แขนนั้นมียุงมาตอม 6-7
ตวั ซ่งึ แสดงว่าตะไคร่มปี ระสิทธิภาพในการไลย่ ุงได้และยังมีกล่ินหอม

บทที่5
สรุปและอภิปรายผลการศกึ ษาค้นควา้
การศึกษาเกีย่ วกับตะไครท้ ่ีมผี ลตอ่ ประสิทธภิ าพการไล่ยงุ มีวัตถุประสงคเ์ พ่ือ ศึกษาว่าตะไครท้ ่ีกับ
แอลกอฮอล์มผี ลต่อประสิทธิภาพการไลย่ ุง
สรปุ ผลการศกึ ษา/อภปิ รายผลการศกึ ษา
จากการทดลองวา่ ตะไครส้ ามารถไลย่ งุ ได้ กลมุ่ ท่ี 1 แขนท่ีฉดี สเปรย์ทาแขนใชเ้ วลา 10 นาที ไม่มียงุ มา
ตอม กลมุ่ ที่ 2 แขนที่ไม่ไดฉ้ ีดสเปรยใ์ ช้เวลา 10 นาที มยี ุงมาตอม 6-7 ตัว
ประโยชน์ทไี่ ดร้ ับ
1.ทาให้ทราบวา่ ตะไคร้สามารถไล่ยุงได้
2.ลดอตั ราการเสยี่ งและการใช้สารเคมี
3.เป็นการนาสมุนไพรใกลต้ วั มาใช้ประโยชน์
ปญั หา/ข้อเสนอแนะ
ปญั หาท่ีพบ
1.ไม่สามารถควบคุมจานวนยุงไดย้ ุงได้
ขอั เสนอแนะ
ถา้ ไม่อยากให้ยงุ มากดั หรือมารบกวนควรฉีดสเปรยเ์ เละทาบ่อยๆ

บรรณานุกรม

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ ตะไคร้หอมไลย่ ุง //(21 สิงหาคม 2565)
https://sites.google.com/site/takhirhxmliyung45/bth-thi1

ไล่ยุงด้วยตะไคร้ //(21 สงิ หาคม 2565)//
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2196752

วธิ ปี อ้ งกนั จากยงุ //(21 สิงหาคม 2565)//
https://www.unicorgroup.com/16642159/12-

%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%AD
%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%87%
E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94

ภาคผนวก
ภาพกจิ กรรมการศกึ ษาทดลอง
ขันตอนการดาเนินงาน
1) เตรยี มมีดกบั เขียงให้พร้อมสาหรบั การห่นั ตะไคร้
2) นาใบตะไคร้ไปห่ันไม่ต้องละเอียดมาก

ภาพที่ 3.1 การหัน่ ตะไครแ้ บบไมไ่ ด้ละเอยี ดมาก
3) นาใบตะไคร้ที่หั่นไปใส่ในขวดแอลกอฮอล์

ภาพท่ี 3.2 นาตะไคร้ท่ีห่นั ไปใสใ่ นขวดที่มแี อลกอฮอร์
4) หมักทง้ิ ไว้ 7 วัน
5) นาไปใสข่ วดสเปรยแ์ ละฉดี พน่ ท่แี ขน
6) แขนซ้ายไมไ่ ด้ฉีดสเปรยแ์ ละแขนขวาทีฉ่ ีดสเปรย์
7) สังเกต จับเวลา และบนั ทึกผลการทดลอง


Click to View FlipBook Version