สายลม แห่ง ความหวังดี ตั้มตาจั่น
ไม่มีอะไรคงอยู่ตลอดไป แต่อย่างน้อยเราก็มีความทรงจำ เหล่านี้เก็บไว้.
สายลม แห่ง ความหวังดี ตั้มตาจั่น
แจ๊บแจ๊บ
Every moment is a fresh beginning. ทุกช่วงเวลาคือการเริ่มต้นใหม่
หมู่บ้านกลางภูเขาแห่งหนึ่ง เป็นหมู่บ้านกลางธรรมชาติ ที่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวิถีชีวิตและความสโลว์ไลฟ์ ท่ามกลางบรรยากาศที่สงบยามค่ำ คืนก็จะได้เห็นแสงไฟ อันอบอุ่นพร้อมเสียงลำ ธาร ยามเช้าก็จะได้เห็นหมอกสีขาว ลอยอยู่เหนือธรรมชาติสีเขียว หมู่บ้านแห่งนี้มีจำ นวนประชากรในหมู่บ้านอยู่ในหลักร้อย ซึ่งชีวิตของผู้ใหญ่และเด็กก็ไม่ต่างจากโลกภายนอกที่วุ่นวายมากนัก ที่พ่อแม่ต้องทำ งานและเด็กที่ต้องเรียนหนังสือ สายลมแห่งความหวังดี ๔
ในหมู่บ้านแห่งนี้มีเด็กจำ นวนมาก พวกเขาจำ เป็นต้องเรียนหนังสือ กับครูอาสาสมัครชื่อ ดารินทร์ เธอสอนได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย เธอมักจะใส่ชุดสีเรียบๆ ทำ ให้เธอดูมีเสน่ห์ รองเท้าคัทชูส้นสูงไม่มากนัก และกระเป๋าสพายข้างสีน้ำ ตาล เธอมีเพียงปากกามากเกอร์สีส้มติดตัวตลอดเวลา เธอใช้ปากกามาร์กเกอร์สีส้มเพื่อสอนเด็กๆ เธอบอกเด็กๆว่า ปากกามาร์กเกอร์สีส้มของเธอเป็นของวิเศษ ชิ้นสำ คัญที่สามารถทำ ให้พวกเขาสนุกกับการเรียน " ถ้าครูเขียนด้วยปากกาสีส้มจะทำ ให้เด็กๆเรียนเก่ง และจำ เรื่องที่ครูสอนทั้งหมดได้^-^ " สายลมแห่งความหวังดี ๕
ครูดารินทร์สอนภาษาอังกษฤและภาษาไทยเพราะว่าสมัยนี้ภาษานั้น เป็นสิ่งสำ คัญ นักเรียนของเธอทุกคนชอบการสอนของเธอ เช่น การร้องเพลงทำ ท่าประกอบ และเทคนิดอื่นๆ อีกมากมาย ทักษะภาษาอังกฤษและภาษาไทยของนักเรียนของเธอได้รับการพัฒนา ซึ่งทำ ให้ผู้ปกครองพึงพอใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่นั้นมาครูดารินทร์ก็เป็น ที่รู้จักของผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ ทุกคนรักเธอมาก สายลมแห่งความหวังดี ๖
ข่าวใหญ่ในจังหวัดทางเหนือในขณะนี้ มีนักโทษคนหนึ่งได้หลบหนี ออกจากเรือนจำ ชื่อของเขาคือ นายดนุรักษ์ แซ่หลิว เขาอายุ 33 ปี ส่วนสูง 167 ผมสำ น้ำ ตาล ผิวสีขาว เขามีความผิดร้ายแรง หลังเกิดเหตุตำ รวจพยายามค้นหาเขาทุกที่ แต่ไม่พบเขาเลย ทางตำ รวจได้เผยภาพนายดนุรักษ์ ตำ รวจกำ ลังเร่งหาเบาะแส พวกเขาสันนิษฐานว่านักโทษคนนี้ต้องซ่อนตัวอยู่บนหมู่บ้าน บนภูเขา วันจบการศึกษา มาถึงจุดสิ้นสุดของการเรียนการสอนโดยครูอาสาสมัคร นักเรียนทุกคนประสบความสำ เร็จในการเรียนรู้ ผู้คนมากมายในหมู่บ้านนี้ มาร่วมแสดงความยินดีในวันจบการศึกษานี้ สายลมแห่งความหวังดี ๗
บนเวที หลังจากที่ประธานผู้นำ ชุมชนมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียน ทุกคนเสร็จแล้ว ครูอาสาสมัครทุกคนถูกเรียกชื่อทีละคนเพื่อไปรับ ของขวัญ เมื่อประกาศชื่อครูดารินทร์ เธอก็ขึ้นหปบนเวที แต่แล้วก็มี บางอย่างที่ทำ ให้ทุกคนตกใจ เพราะมีตำ รวจอยู่ทุกจุดในที่นั่น ตำ รวจหนึ่งนายได้ตะโกนบอก "หยุด! ดารินทร์!" ในเวลาเดียวกันครูดารินทร์ล้วงเขาไปในกระเป๋าสะพายของเธอ ตำ รวจคิดว่าเธอจะล้วงหยิบอาวุธจึงยิงใส่เธอทันทีเธอล้มลง และมือ กำ ปากกามาร์กเกอร์สีส้มเอาไว้และค่อยๆหมดลมหายใจ ตำ รวจมาตรวจสอบมาตรวจสอบร่างของครูดารินทร์ทันใด นั้ วิกผมสีน้ำ ตาลของเธอก็ร่วงหล่นลงมาจากศีรษะ ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นตกใจเป็นอย่างมาก สายลมแห่งความหวังดี ๘
จากนั้นตำ รวจประกาศว่าดารินทร์เคยเป็นนักโทษชื่อ นายดนุรักษ์ แซ่หลิว ซึ่งถูกข้อกล่าวหาคดีอาชญากรรม ร้ายแรงและหลบหนีออกจากคุก " ครูดารินทร์ไม่ใช่ผู้หญิง!" จากนี้จะไม่มีนักโทษอีกต่อไปและจะไม่มีนักโทษและจะไม่มี ปากกามาร์กเกอร์สีส้มของครูดารินทร์อีกต่อไป ผู้คนในหมู่บ้านแห่งนี้ มีเพียงความทรงจำ ของครูดารินทร์ ในเรื่องความดี ความรักและ ความรู้ ซึ่งครูดารินทร์แสดงออกผ่านปากกามาร์กเกอร์สีส้มที่เธอรัก สายลมแห่งความหวังดี ๙
หลายวันต่อมาหัวหน้าหมู่บ้านได้ไปพบกับสมุดจดบันทึกเล่มหนึ่งซึ่งเขียนไว้ เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๖ “ บางเรื่องในชีวิตพลาดได้ แต่ก็เริ่มต้นใหม่ได้เหมือนกัน แต่เรารู้ ว่าการเริ่มต้นใหม่ของเรานั้นไม่ถูกต้องตามที่มันควรจะเป็น แต่ผิดหรือที่ เราอยากทำ ในสิ่งที่เราปรารถนามาตลอดชีวิต นั่นคือการได้มาเป็นครู ดอยอาสาบนภูเขาสูงที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ชีวิตตอนนี้ของเรา เหมือนโดนปลอบประโลมไปด้วยความเรียบง่ายของวิถีของชีวิตผู้คนใน หมู่บ้าน ที่ให้การต้อนรับและดูแลเราอย่างดี ซึ่งไม่อยากจะคิดเลยว่า หากพวกเขาได้รับรู้ว่าเรามีชนักติดหลังที่ร้ายแรง พวกเขายังจะมองเรา เป็นคนธรรมดาหรือไม่ ถ้าเราในวัยรุ่นไม่คึกคะนอง ไม่โลภ เราคงไม่ต้อง หวาดระแวงทุกวันว่าเราจะถูกจับเป็นหรือจับตายวันไหน แต่ไ่ม่ว่าใน กรณีไหนเราก็ไม่เสียดายอะไรแล้ว เพราะเราได้ทำ ในสิ่งที่เราชอบแล้ว ” สายลมแห่งความหวังดี ๑๐
Past is something that you can’t let go. อดีตคือสิ่งที่คุณไม่สามารถปล่อยมันไปได้
นายวีรพัฒน์ สงนอก เลขที่ ๖ ม.๖/๑