The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บัญชีห้างหุ้น 3การแบ่งผลกำไรขาดทุน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นภัสสร บรรดิษฐ, 2023-03-30 03:34:54

บัญชีห้างหุ้น 3การแบ่งผลกำไรขาดทุน

บัญชีห้างหุ้น 3การแบ่งผลกำไรขาดทุน

เมื่อห้างหุ้นส่วนด าเนินกิจการมาระยะหนึ่ง หากมีผลก าไรขาดทุนเกิดขึ้นจะต้องน ามาแบ่งกันตามข้อตกลงในสัญญาการ จัดตั้งห้างหุ้นส่วน โดยมีหลักเกณฑ์การแบ่งผลก าไรขาดทุนที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่ การแบ่งเท่ากัน การแบ่งตามอัตราส่วนที่ตก ลงกัน การแบ่งตามอัตราส่วนทุน คิดดอกเบี้ยทุน แล้วแบ่งผลก าไรขาดทุนที่เหลือตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน และคิดเงินเดือน หรือโบนัส แล้วแบ่งผลก าไรขาดทุนที่เหลือตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน และเมื่อมีการค านวณแบ่งตามข้อตกลงแล้วก็จะน าไป บันทึกบัญชีตามวิธีทุนคงที่ หรือทุนเปลี่ยนแปลงแล้วแต่ห้างหุ้นส่วนนั้นเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไป


เมื่อกิจการตกลงเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนแล้ว ก็จะมีการน าเงินสด สินทรัพย์อื่นและแรงงานมาลงทุนในห้างหุ้นส่วน ซึ่งห้างหุ้นส่วนก็จะด าเนินการไประยะหนึ่ง หรืองวดเวลาใดเวลาหนึ่ง อาจมีผลก าไรหรือผลขาดทุนเกิดขึ้นภายในห้างหุ้นส่วน โดยผลก าไรขาดทุนที่เกิดขึ้นนี้ต้องแบ่งให้กับผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ในการจัดตั้งห้างหุ้นส่วน แต่ถ้าใน สัญญานั้นหุ้นส่วนไม่ได้ตกลงกันไว้ในเรื่องอัตราส่วนแบ่งผลก าไรขาดทุน ตามกฎหมายประมวลแพ่งและพาณิชย์ให้ถือปฏิบัติ โดยการแบ่งตามอัตราส่วนทุน เหตุผลส าคัญในการแบ่งผลก าไรขาดทุนของห้างหุ้นส่วน ได้แก่ 1. เป็นค่าตอบแทนแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนที่ให้บริการเป็นส่วนตัวแก่ห้างหุ้นส่วน 2. เป็นค่าตอบแทนแก่เงินหรือสินทรัพย์ที่ผู้เป็นหุ้นส่วนแต่ละคนน ามาลงทุน 3. เป็นผลก าไรที่แท้จริง และด าเนินนโยบายร่วมกันของผู้เป็นหุ้นส่วน การแบ่งผลก าไรขาดทุนให้ผู้เป็นหุ้นส่วนนั้น ควรระบุไว้ในสัญญาการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใน อนาคต โดยปกติหลักเกณฑ์การแบ่งผลก าไรขาดทุนที่นิยมปฏิบัติกันมีวิธีการแบ่งผลก าไรขาดทุน ดังนี้ 1.แบ่งเท่ากัน 2.แบ่งตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน 3. แบ่งตามอัตราส่วนทุน 4. คิดดอกเบี้ยทุน แล้วแบ่งผลก าไรขาดทุนที่เหลือตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน 5. คิดเงินเดือน หรือโบนัส แล้วแบ่งผลก าไรขาดทุนที่เหลือตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน


เมื่อห้างหุ้นส่วนทราบผลการด าเนินงานประจ าปีของกิจการ ก็จะน าผลก าไรขาดทุนที่ได้รับมาค านวณเพื่อแบ่งให้ผู้เป็น หุ้นส่วนตามอัตราส่วนที่ตกลงกันไว้ และบันทึกบัญชีตามหลักการบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไป ดังต่อไปนี้ 1. แบง่เท่ากนั ถ้าหุ้นส่วนตกลงแบ่งผลก าไรขาดทุนเท่ากัน หุ้นส่วนแต่ละคนย่อมมีส่วนในผลก าไรหรือขาดทุนเท่ากัน โดยไม่ค านึงถึงทุน ที่หุ้นส่วนแต่ละคนน ามาลงทุนว่ามีจ านวนมากหรือน้อย ตวัอย่าง ปิงปองและโปรดปราน เป็นหุ้นส่วนกัน น าเงินสดมาลงทุนคนละ 120,000 บาท และได้ท าสัญญาตกลงแบ่งผล ก าไรขาดทุนเท่ากัน ปรากฏว่าในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ห้างหุ้นส่วนมีก าไรสุทธิจ านวน 80,000 บาท การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ บัญชี เดบิต เครดิต เดือน วันที่ บาท สต. บาท สต. ธ.ค. 31 ก าไรขาดทุน 80,000 - ทุน (กระแสทุน) – ปิ งปอง 40,000 - ทุน (กระแสทุน) – โปรดปราน 40,000 - แบ่งผลก าไรขาดทุนเท่ากัน สมุดรายวันทั่วไป หน้า 1


2. แบง่ตามอตัราส่วนที่ตกลงกนั การแบ่งผลก าไรขาดทุนตามวิธีนี้ ส่วนมากจะใช้ในกรณีที่ผู้เป็นหุ้นส่วนมีความสามารถไม่เท่ากัน อาจจะตกลงกันให้แบ่ง ผลก าไรขาดทุนตามอัตราส่วนอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ที่เห็นว่ามีความเหมาะสม เช่น อัตราส่วนเดียวหรือสองส่วน (ก าไรขาดทุน ส่วนแรกเป็นอัตราหนึ่ง ส่วนที่เหลือแบ่งอีกอัตราหนึ่ง) หรืออาจแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) เป็นต้น ตวัอย่างสุรชาและสุรสา เป็นหุ้นส่วนกัน โดยน าเงินสด สินทรัพย์อื่นและแรงงานมาลงทุนร่วมกันจ านวนหนึ่ง ได้ตกลง แบ่งผลก าไรขาดทุนกันในอัตรา 3 : 2 ในการด าเนินงานปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนมีก าไรสุทธิจ านวน 150,000 บาท การบันทึกบัญชี เป็นดังนี้ สมุดรายวันทั่วไป หน้า 1 พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ บัญชี เดบิต เครดิต เดือน วันที่ บาท สต. บาท สต. ธ.ค. 31 ก าไรขาดทุน 150,000 - ทุน (กระแสทุน) – สุรชา 90,000 - ทุน (กระแสทุน) – สุรสา 60,000 - แบ่งผลก าไรขาดทุนในอัตรา 3 : 2


3. แบง่ตามอตัราส่วนทุน สินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่ผู้เป็นหุ้นส่วนทุกคนน ามาลงทุนนั้น ถือเป็นส่วนส าคัญในการหารายได้ให้แก่ห้างหุ้นส่วน ผู้เป็น หุ้นส่วนอาจจะตกลงกันให้แบ่งผลก าไรขาดทุนตามบัญชีทุนของการลงทุนแต่ละคน เพื่อจะได้มีเงินทุนในห้างหุ้นส่วนมากขึ้นซึ่ง ถือเป็นการจูงใจอย่างหนึ่ง และเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนที่น าเงินมาลงทุน ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนคนใดลงทุนมาก หุ้นส่วนผู้นั้นก็ควรจะได้ส่วนแบ่งผลก าไรขาดทุนมาก แต่ถ้าหุ้นส่วนคนใดลงทุนน้อยก็จะได้รับผลก าไรขาดทุนน้อยเช่นกัน ถ้าผู้ เป็นหุ้นส่วนได้ตกลงแบ่งผลก าไรขาดทุนตามอัตราส่วนทุน ก็จะต้องระบุไว้ในสัญญาการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนให้ชัดเจนว่าเป็นทุน ณ วันใด ดังนั้น ค าว่า “ทุน” จึงหมายถึงทุนต่าง ๆ ดังนี้ 3.1 ทุน ณ วันเริ่มตั้งกิจการ 3.2 ทุน ณ วันต้นงวดบัญชี 3.3 ทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชี 3.4 ทุนถัวเฉลี่ย 3.1 แบง่ตามอตัราส่วนทุน ณ วนัเริ่มตงั้กิจการ คือ ทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนที่น ามาลงในห้างหุ้นส่วน ณ วันเริ่มตั้งกิจการ ห้างหุ้นส่วน


ตวัอย่าง เฟิร์สและโฟร์เป็นหุ้นส่วนกัน เริ่มจัดตั้งกิจการเมื่อ 1 มกราคม 2557 โดยเฟิร์สลงทุนเงินสด 40,000 บาท โฟร์ลงทุน 80,000 บาท ต่อมาห้างหุ้นส่วนด าเนินงานมาระยะหนึ่งจนสิ้นงวดบัญชีวันที่ 31ธันวาคม 2557 ปรากฏว่ามีผลก าไรสุทธิ จ านวน 75,000 บาท และบัญชีทุนของห้างหุ้นส่วนมีดังต่อไปนี้ (ห้างหุ้นส่วนบันทึกบัญชีวิธีทุนเปลี่ยนแปลง) บัญชีทุน-เฟิรส์ เลขที่ 30X พ.ศ. 2557 รายการ หน้า บัญชี เดบิต พ.ศ. 2557 รายการ หน้า บัญชี เครดิต เดือน วันที่ บาท สต. เดือน วันที่ บาท สต. ก.ย. 1 ถอนทุน 20,000 - ม.ค. 1 ยอดยกมา ร.ว.1 100,000 - มิ.ย. 1 ลงทุนเพิ่ม 40,000 - พ.ศ. 2557 รายการ หน้า บัญชี เดบิต พ.ศ. 2557 รายการ หน้า บัญชี เครดิต เดือน วันที่ บาท สต. เดือน วันที่ บาท สต. เม.ย. 1 ถอนทุน 40,000 - ม.ค. 1 ยอดยกมา ร.ว.1 160,000 - ก.ย. 1 ลงทุนเพิ่ม 60,000 - บัญชีทุน-เฟิรส์ เลขที่ 30X


การค านวณเป็นดังนี้ ทุน ณ วันเริ่มตั้งกิจการ -เฟิร์ส = 40,000 -โฟร์ = 80,000 รวมทุน ณ วันเริ่มตั้งกิจการ = 120,000 อัตราส่วนทุน ณ วันเริ่มตั้งกิจการ -เฟิร์ส = = อัตราส่วนทุน ณ วันเริ่มตั้งกิจการ -โฟร์ = = ดังนั้น อัตราส่วนทุน ณ วันเริ่มกิจการเฟิร์สและโฟร์ = 1 : 2 การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 120 ,000 40 ,000 120 ,000 80 ,000 3132พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ บัญชี เดบิต เครดิต เดือน วันที่ บาท สต. บาท สต.ธ.ค. 31 ก าไรขาดทุน 75,000 - ทุน – เฟิ ร์ส 25,000 - ทุน – โฟร์ 50,000 - แบ่งผลก าไรขาดทุนตามอัตราส่วนทุน ณ วันเริ่มตั้งกิจการ 1 : 2 สมุดรายวันทั่วไป หน้า 1


3.2 แบง่ตามอตัราส่วนทุน ณ วนัต ้ นงวดบญัชีคือ ทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนที่น ามาลงในห้างหุ้นส่วน ณ วันต้นงวดบัญชี ตวัอย่างจากตัวอย่างที่แล้ว การค านวณเป็นดังนี้ ทุน ณ วันต้นงวดบัญชี -เฟิร์ส = 100,000 -โฟร์ = 160,000 รวมทุน ณ วันต้นงวดบัญชี = 260,000 อัตราส่วนทุน ณ วันต้นงวดบัญชี -เฟิร์ส = = อัตราส่วนทุน ณ วันต้นงวดบัญชี-โฟร์ = = ดังนั้น อัตราส่วนทุน ณ วันต้นงวดบัญชีเฟิร์สและโฟร์ = 5 : 8 การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ 260,000 160,000 260,000 100,000 13 5 13 8 พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ บัญชี เดบิต เครดิต เดือน วันที่ บาท สต. บาท สต. ธ.ค. 31 ก าไรขาดทุน 75,000 - ทุน – เฟิ ร์ส 28,846 - ทุน – โฟร์ 46,154 - แบ่งผลก าไรขาดทุนตามอัตราส่วนทุน ณ วันต้นงวดบัญชี 5 : 8 สมุดรายวันทั่วไป หน้า 1 **ห้างหุ้นส่วนใช้บันทึกบัญชีวิธีทุนเปลี่ยนแปลง


3.3 แบง่ตามอตัราส่วนทุน ณ วนัสิ้นงวดบญัชีคือ ทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนที่ค านวณหาได้ โดยการน ารายการลงทุนเพิ่ม ในระหว่างงวดบัญชีมาบวก หรือการถอนทุนในระหว่างงวดบัญชีหักออกจากทุน ณ วันต้นงวดบัญชี ดังนี้ ทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชี = ทุน ณ วันต้นงวดบัญชี + ลงทุนเพิ่ม – การถอนทุน ตวัอย่างที่5 จากตัวอย่างที่ 3 การค านวณเป็นดังนี้ ทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชี -เฟิร์ส = 120,000 -โฟร์ = 180,000 รวมทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชี = 300,000 อัตราส่วนทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชี-เฟิร์ส = = อัตราส่วนทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชี-โฟร์ = = ดังนั้น อัตราส่วนทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชีเฟิร์สและโฟร์ = 2 : 3 300,000 120,000 300,000 180,000 5 2 5 3


การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ สมุดรายวันทั่วไป หน้า 1 พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ บัญชี เดบิต เครดิต เดือน วันที่ บาท สต. บาท สต. ธ.ค. 31 ก าไรขาดทุน 75,000 - ทุน – เฟิ ร์ส 30,000 - ทุน – โฟร์ 45,000 - แบ่งผลก าไรขาดทุนตามอัตราส่วนทุน ณ วันสิ้นงวดบัญชี 2:3 **ห้างหุ้นส่วนใช้บันทึกบัญชีวิธีทุนเปลี่ยนแปลง 3.4 แบง่ตามอตัราส่วนทุนถวัเฉลี่ย ในกรณีที่ทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนเปลี่ยนแปลงในระหว่างงวดบัญชี การใช้ทุนต้นงวด บัญชี หรือทุนสิ้นงวดบัญชีเป็นเกณฑ์ในการแบ่งผลก าไรขาดทุนนั้นย่อมจะไม่ยุติธรรม เนื่องจากจ านวนทุนไม่ใช่จ านวนที่ แท้จริงตลอดงวด ควรจะพิจารณาทุนที่เปลี่ยนแปลงระหว่างงวดพร้อมทั้งระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงด้วย ดังนั้น ควรแบ่งผลก าไร ขาดทุนกันในอัตราส่วนทุนถัวเฉลี่ย ซึ่งเป็นวิธีที่ให้ความเป็นธรรมมากกว่าวิธีอื่นๆ ในการค านวณทุนถัวเฉลี่ยอาจคิดเป็นวัน สัปดาห์ หรือเดือนซึ่งในทางปฏิบัติส่วนมากจะคิดเป็นเดือนเพราะใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด


ตวัอย่าง เพชรและแพทเป็นหุ้นส่วนกัน เริ่มจัดตั้งกิจการเมื่อ 1 มกราคม 2557 โดยเพชรลงทุนเงินสด 180,000 บาท แพทลงทุน 120,000 บาท ต่อมาห้างหุ้นส่วนด าเนินงานมาระยะหนึ่งจนสิ้นงวดบัญชีวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ปรากฏว่า มีผลก าไรสุทธิจ านวน 120,000 บาท และบัญชีทุนของห้างหุ้นส่วนมีดังต่อไปนี้ (ห้างบันทึกบัญชีวิธีทุนคงที่) พ.ศ. 2557 รายการ หน้า บัญชี เดบิต พ.ศ. 2557 รายการ หน้ า บัญ ชี เครดิต เดือน วัน ที่ บาท ส ต. เดือน วัน ที่ บาท ส ต . มิ.ย. 1 ถอนทุน 92,000 - ม.ค. 1 ยอดยกมา ร.ว .1 360,000 - ก.ย. 1 ถอนทุน 52,000 - มี.ค. 1 ลงทุนเพิ่ม 120,000 - ต.ค. 1 ลงทุนเพิ่ม 124,000 - พ.ศ. 2557 รายการ หน้า บัญชี เดบิต พ.ศ. 2557 รายการ หน้ า บัญ ชี เครดิต เดือ น วันที่ บาท ส ต. เดือน วัน ที่ บาท ส ต . ก.พ. 1 ถอนทุน 100,000 - ม.ค. 1 ยอดยกมา ร.ว .1 300,000 - พ.ค. 1 ลงทุนเพิ่ม 40,000 - ก.ย. 1 ลงทุนเพิ่ม 80,000 - ธ.ค. 1 ลงทุนเพิ่ม 220,000 -


การค านวณทุนถัวเฉลี่ยเป็นดังนี้ วัน เดือน ปี จ านวนทุน ระยะเวลาทุนคงที่ ผลคูณ 1 ม.ค. 2557 360,000 2 720,000 1 มี.ค. 2557 480,000 3 1,440,000 1 มิ.ย. 2557 388,000 3 1,164,000 1 ก.ย. 2557 336,000 1 336,000 1 ต.ค. 2557 460,000 3 1,380,000 12 5,040,000 ทุนถัวเฉลี่ยของเพชร = 5,040,000/12= 420,000 วัน เดือน ปี จ านวนทุน ระยะเวลาทุนคงที่ ผลคูณ 1 ม.ค. 2557 300,000 1 300,000 1 ก.พ. 2557 200,000 3 600,000 1 พ.ค. 2557 240,000 4 960,000 1 ก.ย. 2557 320,000 3 960,000 1 ธ.ค. 2557 540,000 1 540,000 12 3,360,000 ทุนถัวเฉลี่ยของแพท = 3,360,000/12= 280,000 ดังนั้น อัตราส่วนทุนถัวเฉลี่ยของเพชรและแพท 420,000 : 280,000 = 3 : 2


การคา นวณส่วนแบง่ผลกา ไรขาดทุน - เพชร = 120,000X = 72,000 บาท - แพท = 120,000X = 48,000 บาท การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ **ห้างหุ้นส่วนใช้บันทึกบัญชีวิธีทุนคงที ่ หมายเหตุ▪ โดยปกติจะใช้ทุนถัวเฉลี่ยในกรณีที่มีการคิดดอกเบี้ยทุนเท่านั้น โดยเอา 12 ไปหาร ▪ รายการที่เปลี่ยนแปลงทุนที่เกิดขึ้นในระหว่างเดือนให้ปฏิบัติดังนี้ 1) รายการที่เกิดขึ้นก่อนกลางเดือน ให้ถือว่าเกิดขึ้นในวันต้นเดือน เช่น 1-15 2) รายการที่เกิดขึ้นหลังวันกลางเดือน ให้ถือว่าเกิดขึ้นในวันสิ้นเดือน หรือต้นเดือนถัดไป เช่น 16-31 พ.ศ. 2557 รายการ เลขที่ บัญชี เดบิต เครดิต เดือน วัน ที่ บาท สต. บาท สต. ธ.ค. 31 ก าไรขาดทุน 120,000 - กระแสทุน – เพชร 72,000 - กระแสทุน – แพท 48,000 - แบ่งผลก าไรขาดทุนตามอัตราส่วนถัวเฉลี่ย


4. คิดดอกเบีย้ทุน แล ้ วแบง่ผลกา ไรขาดทุนที่เหล ื อตามอตัราส่วนที่ตกลงกนั การคิดดอกเบี้ยทุนให้หุ้นส่วนถือเป็นการแบ่งผลก าไรขาดทุนอย่างหนึ่ง โดยค านึงว่าทุนเป็นส่วนส าคัญในการหารายได้ ของห้างหุ้นส่วน จึงควรจะแบ่งส่วนของก าไรหรือขาดทุนให้เป็นดอกเบี้ยทุนแก่ผู้เป็นหุ้นส่วนของจ านวนเงินที่ลงทุนในห้าง หุ้นส่วน และส่วนของก าไรหรือขาดทุนที่เหลือจึงจะน ามาแบ่งกันตามอัตราส่วนที่ตกลงกัน การคิดดอกเบี้ยทุนสามารถค านวณ ได้ 3 วิธี คือ 4.1 คิดดอกเบี้ยทุนจากทุน ณ วันต้นงวด 4.2 คิดดอกเบี้ยทุนจากทุน ณ วันสิ้นงวด 4.3 คิดดอกเบี้ยทุนจากทุนถัวเฉลี่ย 5. คิดเงินเด ื อน หร ื อโบนัส แล ้ วแบง่ผลกา ไรขาดทุนที่เหล ื อตามอตัราส่วนที่ตกลงกนั การคิดเงินเดือนให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วน จะต้องระบุไว้ในสัญญาการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนให้คิดเงินเดือนให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วน การคิดเงินเดือนนั้นถือเป็นค่าตอบแทนส าหรับความสามารถในการปฏิบัติงานของหุ้นส่วนแต่ละคน จึงถือว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของการแบ่งผลก าไรขาดทุน ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับการคิดดอกเบี้ยเงินทุน ตามหลักการบัญชีที่รับรองกันโดยทั่วไปถือว่า เงินเดือนของผู้เป็นหุ้นส่วนเป็นการแบ่งผลก าไรขาดทุนอย่างหนึ่ง ไม่ว่าห้างหุ้นส่วนจะมีผลการด าเนินงานเป็นก าไรสุทธิ หรือขาดทุนสุทธิก็ตาม ก็ต้องคิดเงินเดือนให้ผู้เป็นหุ้นส่วน


นอกจากนี้ห้างหุ้นส่วนอาจจะคิดโบนัสให้ผู้เป็นหุ้นส่วนอีกด้วยก็ได้ เพื่อเป็นการตอบแทนพิเศษ และจะคิดให้เฉพาะใน กรณีที่ห้างหุ้นส่วนมีก าไรสุทธิเท่านั้น การคิดโบนัสให้ผู้เป็นหุ้นส่วนในสัญญาการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนอาจจะตกลงคิดโบนัสให้ หุ้นส่วนผู้จัดการ หรือผู้เป็นหุ้นส่วนที่มาร่วมท างานในห้างหุ้นส่วนซึ่งเป็นผลตอบแทน ตามปกติจะคิดโบนัสให้เป็นอัตรา เปอร์เซ็นต์จากยอดก าไรสุทธิ ในทางบัญชีนั้นจะไม่ถือว่าโบนัสเป็นค่าใช้จ่าย แต่บางครั้งผู้เป็นหุ้นส่วนอาจให้ถือเสมือนหนึ่ง เป็นค่าใช้จ่ายก็ได้ ดังนั้น การท าข้อตกลงในสัญญาของห้างหุ้นส่วนจึงควรระบุให้ชัดเจนว่าโบนัสจะคิดจากยอดก าไรสุทธิ (ก าไร สุทธิก่อนหักโบนัส) หรือคิดจากยอดก าไรสุทธิหลังหักโบนัส การค านวณโบนัสมี 2 วิธีคือ 5.1 โบนัสไม่ถือเป็นค่าใช้จ่าย จะค านวณจากยอดก าไรสุทธิ หรือก าไรสุทธิก่อนหักโบนัส โบนัส = 5.2 โบนัสถือเป็นค่าใช้จ่าย จะค านวณจากยอดก าไรสุทธิหลังหักโบนัสแล้ว โบนัส = ก าไรส ุ ทธ ิ 100 เปอร เซ ็ นต ของโบน ั ส (100 เปอรเ ซน ็ ต ของโบน ั ส) เปอรเ ซน ็ ต ของโบน ั ส ก าไรสท ุ ธ ิ +


ข้อสังเกต 1. โบนัส = 2. ตัวหารจะเป็น 100 เสมอ 3. คิดโบนัสเป็น % จากก าไรสุทธิหลังหักเงินเดือน ดอกเบี้ยทุน แต่ก่อนหักโบนัส 4. คิดโบนัสเป็น % จากก าไรสุทธิก่อนหักเงินเดือน ดอกเบี้ยทุนและโบนัส 5. โบนัสไม่ถือเป็นค่าใช้จ่าย 6. คิดโบนัสจากก าไรสุทธิ ข้อสังเกต 1. ก าไรสุทธิก่อนหักโบนัส = % ของโบนัส + 100 2. โบนัส = 3. ตัวหารจะเป็น 100 + เปอร์เซ็นต์ของโบนัส 4. โบนัสถือเป็นค่าใช้จ่าย 5. คิดโบนัสเป็น % จากก าไรสุทธิหลังหักโบนัส 6. คิดโบนัสเป็น % จากก าไรสุทธิก่อนหักเงินเดือน ดอกเบี้ยทุน แต่หลังหักโบนัส 7. คิดโบนัสเป็น % จากก าไรสุทธิหลังหักเงินเดือน ดอกเบี้ยทุน และโบนัส ก าไรส ุ ทธ ิ 100 เปอร เซ ็ นต ของโบน ั ส % ของโบน ั ส 100 % ของโบน ั ส ก าไรส ุ ทธ ิ +


ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนต้องการจะเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนแบ่งผลก าไรขาดทุน ก็ต้องปรับปรุงส่วนทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนให้ถูกต้อง แต่ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนแบ่งก าไรขาดทุนนั้น ให้พิจารณาราคาสินทรัพย์และหนี้สินของห้างหุ้นส่วน และตีราคา ใหม่ให้เท่ากับราคาที่จะขายได้ หรือราคาทดแทน (Replacement cost) ในวันที่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนแบ่งก าไรขาดทุน ผลต่างของราคาสินทรัพย์ที่ตีราคาใหม่กับราคาสินทรัพย์ตามบัญชี จะน าไปปรับปรุงกับบัญชีทุนของผู้เป็นหุ้นส่วนตาม อัตราส่วนแบ่งก าไรขาดทุนเดิม ตวัอย่าง ภูภูมิและมาริโอ้เป็นหุ้นส่วนกัน แบ่งก าไรขาดทุนในอัตรา 2 : 3 ตามล าดับ ต่อมาในวันที่ 1 มกราคม 2557 ได้ตกลงกันแบ่งก าไรขาดทุนเท่ากัน สินทรัพย์ทั้งสิ้นของห้างหุ้นส่วนมีราคาตลาดจ านวน 400,000 บาท ราคาบัญชี 200,000 บาท ในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ห้างหุ้นส่วนได้ขายสินทรัพย์ไปทั้งหมดเงิน 450,000 บาท การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนแบ่งก าไร ขาดทุน เป็นดังนี้ กรณีมีการปรบัปรงุสินทรพัย ์(1 ม.ค. 2557) จะแบ่งผลก าไรขาดทุน ดังนี้ รายการ ภูภูมิ มาริโอ้ ก าไรจากการตีราคาสินทรัพย ใหม่ (200,000x2/5) และ (200,000x3/5) 80,000 120,000 ก าไรจากการขายสินทรัพย ภายหลัง (50,000/2) 25,000 25,000 รวม 105,000 145,000


กรณีไม่มีการปรบัปรงุสินทรพัย ์(1 ม.ค. 2557) จะแบ่งผลก าไรขาดทุน ดังนี้ รายการ ภูภูมิ มาริโอ้ ก าไรจากการตีราคาสินทรัพย 125,000/2 = 62,500 125,000/2 = 62,500 กรณีผเ ู้ป็ นห ้ นุส่วนตกลงเปลีย่นแปลงอตัราส่วนแบง่กา ไรขาดทุนในระหว่างงวดบญัชี การแบ่งผลก าไรขาดทุนเป็นดังนี้ = 125,000 บาท 2 250,000


Click to View FlipBook Version