บทเรียนสำ เร็จรูป นินิ นินิ ราศภูภู ภู เ ภู เขาทอง ระดับ ดั ชั้น ชั้ ระดับ ดั ชั้น ชั้ ม.๑
ก คำ นำ บทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูป เรื่อง นิราศภูเขาทอง สำ หรับรันักเรียรีนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ นี้จัดทำ ขึ้นเพื่อใช้พัฒนาทักษะด้านการวิเคราะห์วรรณคดี เรื่องนิราศภูเขาทอง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียรีนสามารถศึกษาเรียรีนรู้ไรู้ด้ด้วยตนเอง มีพัฒนาการที่ดี จนเกิดความเข้าใจจนถ่องเเท้เเละสามารถสรุปความรู้จรู้ากบทเรียรีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้จัดทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทเรียรีนสำ เร็จ ร็ เล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการ เรียรีนรู้ สำ หรับรัครูผู้สอน นักเรียรีน เเละผู้ที่สนใจได้เป็นอย่างดี และขอขอบพระคุณ ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านน ที่ให้คำ เเนะนำ เเละคำ ปรึกรึษาด้วยดีเสมอมา ปิติพัฒน์ ดงยัน นักศึกษาคณะครุศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์
คำ นำ ก สารบัญ ข คำ เเนะนำ การใช้งานบทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปสำ หรับรัครู 1 คำ เเนะนำ การใช้บทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปสำ หรับรันักเรียรีน 2 มาตรฐานการเรียรีนรู้/รู้ตัวชี้วัด/จุดประสงค์การเรียรีนรู้ 3 เเบบทดสอบก่อนเรียน 4 กระดาษคำ ตอบ 6 เฉลยเเบบทดสอบก่อนเรียน 7 นิราศภูเขาทอง 8 กรอบที่ 1 ประวัติเเละที่มาของวรรณคดี 9 -เเบบฝึกหัดประวัติเเละที่มาของวรรณคดี 13 กรอบที่ 2 ลักษณะคำ ประพันธ์เเละจุดมุ่งหมาย 14 -เเบบฝึกหัดกลอนนิราศหรือกลอนสุภาพ 15 กรอบที่ 3 เนื้อเรื่อง 16 -เเบบฝึกหัดเนื้อเรื่องนิราศภูเขาทอง 24 กรอบที่ 4 การวิเคราะห์คุณค่าของวรรณคดี 25 -เเบบฝึกหัดคุณค่าของวรรณคดีนิราศภูเขาทอง 31 เเบบทดสอบหลังเรียรีน 32 กระดาษคำ ตอบ 34 เฉลยเเบบฝึกหัด 35 เฉลยเเบบทดสอบหลังเรียรีน 40 บรรณานุกรม ข สารบัญ เรื่อง หน้า
1. ชี้เเจงให้นักเรียรีนอ่านคำ เเนะนำ การใช้งานบทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปเเละ ปฏิบัติตามขั้นตอนทุกกรอบ ทั้งเนื้อหาเเละกิจกรรมการเรียรีนรู้ 2.ใช้บทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปฉบับนี้ในการเรียรีน เพื่อให้นักเรียรีนมีความเข้าใจ ในบทเรียรีนที่ได้เรียรีนมากยิ่งขึ้น 3.ศึกษาบทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปตั้งเเต่กรอบเเรกจนถึงกรอบสุดท้าย ตาม ลำ ดับขั้นตอนทั้งเนื้อหา เเละกิจกรรมที่เข้าใจ 4.ทดสอบความรู้ขรู้องผู้เรียรีนก่อนเรียรีนเเละหลังเรียรีนโดยใช้บทเรียรีน สำ เร็จ ร็ รูป เรื่อง นิราศภูเขาทอง 5.ถ้านักเรียรีนมีปัญหาเเละอุปสรรคระหว่างเรียรีน โดยการใช้บทเรียรีน สำ เร็จ ร็ รูป ครูผู้สอนต้องให้คำ เเนะนำ หรือรื ให้คำ ปรึกรึษา 6.ชี้เเจงเกณฑ์การประเมินหลังเรียรีน โดยใช้เกณฑ์ร้อร้ยละ 80 เป็นเกณฑ์ผ่าน 1 คำ เเนะนำ การใช้งานบท เรียนสำ เร็จรูปสำ หรับครู บทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปนี้ใช้สำ หรับรัการเรียรีนการสอน เรื่องนิราศภูเขาทอง สำ หรับรันักเรียรีนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อให้บทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูป มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ครูควรปฏิบัติ ดังนี้
1.นักเรียรีนอ่านคำ เเนะนำ การใช้งานบทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปให้เข้าใจก่อนถึงปฏิบัติกิจกรรม 2.อ่านจุดประสงค์การเรียรีนรู้เรู้พื่อที่จะได้ทราบว่านักเรียรีนจะได้รับรัความรู้เรู้กี่ยวกับเรื่อง ใดบ้าง 3.ทำ เเบบทดสอบก่อนเรียรีนเพื่อทำ ความเข้าใจของนักเรียรีน 4.เริ่มศึกษาเนื้อหาทีละกรอบอย่างต่อเนื่องโดยไม่ข้ามกรอบ หากไม่เข้าใจให้ย้อน กลับไปศึกษาใหม่ 5.เมื่อศึกษาบทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปครบทุกกรอบเเล้ว ให้นักเรียรีนทำ เเบบทดสอบ หลังเรียรีนเเละตรวจคำ ตอบจากเฉลยเพื่อเปรียรีบเทียบคะเเนนก่อนเรียรีนเเละหลังเรียรีน ถ้าคะเเนนได้ไม่ถึงร้อร้ยละ 8o ทบทวนบทเรียรีนเเละทำ เเบบทดสอบใหม่อีกครั้ง 2 คำ เเนะนำ การใช้งานบทเรียน สำ เร็จรูปสำ หรับนักเรียน บทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูปนี้ใช้สำ หรับรัการเรียรีนการสอน เรื่องนิราศภูเขาทอง สำ หรับรันักเรียรีนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อให้บทเรียรีนสำ เร็จ ร็ รูป มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นักเรียรีนควรปฏิบัติ ดังนี้
3 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/ จุดประสงค์การเรียนรู้ มาตรฐานการเรีย รี นรู้ ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรีย รี นรู้ สาระที่ 5.1 วรรณคดีเเละวรรณกรรม มาตรฐาน 5.1 เข้าใจเเละเเสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดี เเละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าเเละนำ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงริ ท 5.1 ม.1/2 วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านพร้อร้มยกเหตุผลประกอบ วิเคราะห์คุณค่าเเละข้อคิดจากเรื่องนิราศภูเขาทอง
4 เเบบทดสอบก่อนเรียน 1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับนิราศ ก. คร่ำ ครวญถึงพ่อแม่ที่ต้องเดินทางจากมา ข. ใช้เห่กล่อมเจ้านายเพื่อให้ข้อคิด คติเตือนใจ ค. มีจุดมุ่งหมายในการยอพระเกียรติของกษัตริย์ริ ย์ ง. นิยมแต่งเพื่อพรรณนาการเดินทางพร้อร้มรำ พึงถึงการจากหรือรืการพลัดพราก 2. ข้อใดมีความหมายเหมือนกับบทประพันธ์ที่กำ หนด ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศัรีศักดิ์ มีคนรักรัรสถ้อยอร่อร่ยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำ ลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ก. พูดจนลิงหลับ ข. พูดดีเป็นศรีแรีก่ปาก ค. น้ำ ท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ง. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำ ลึงทอง 3. ข้อใดแสดงให้เห็นถึงการประกอบอาชีพประมง ก. มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย ข. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย ค. ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง ง. ทั้งของสวนล้วนเรือรือยู่เรียรีงราย 4. เพราะเหตุใดพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงตั้งชื่อว่า เมืองปทุมธานี ตามบทประพันธ์ “ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า พระพุทธเจ้าหลวงบำ รุงซึ่งกรุงศรี ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว” ก. เพราะมีดอกบัวขึ้นอยู่มาก ข. เพราะเป็นตลาดค้าบัวขนาดใหญ่ ค. เพราะเจ้าเมืองที่ปกครองชื่อ เจ้าบัว ง. เพราะเป็นเมืองที่แห้งแล้งมาก่อนจึงตั้งแก้เคล็ด 5. คำ ในข้อใดมีความหมายว่า ดอกบัว ทุกคำ ก. บุษบา บุบผา กชกร ข. บุษบัน บุษบา บุษกร ค. ปทุม มาลี กชกร ง. อุบล บุษกร ปทุม
5 เเบบทดสอบก่อนเรียน 6. ข้อความใดชี้ให้เห็นสภาพสังคมไทยสมัยก่อนได้ชัดเจนที่สุด ก. ไปพ้นวัดทัศนาริมริท่าน้ำ แพประจำ จอดรายเขาขายของ ข. ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ให้ผ่องพ้นภัยพาลสำ ราญกาย ค. สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย มาจำ ไกลอารามเมื่อยามเย็น ง. อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา อยู่คู่ฟ้าดินได้ดังใจปอง 8. ข้อความใดมีสัมผัสอักษรมากที่สุด ก. ครรไลล่องเลยทางมากลางหน ข. มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย ค. กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน ง. แม้นมอดม้วยกลับชาติวาสนา 9. ข้อความใดเปรียรีบเทียบให้รู้จัรู้จักคน ก. โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง ข. โอ้รินริรินริกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคา ค. เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ง.เหมือนคนพานหวานนอกย่อมขมใน 10. “ดูน้ำ วิ่งกลิ้งเชี่ยวเป็นเกลียวกลอก กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน บ้างพลุ่งพลุ่งวุ้งวงเหมือนกงเกวียน ดูเวียนเวียนคว้างคว้างเป็นหว่างวน” ลักษณะใดไม่ปรากฏในคำ ประพันธ์นี้ ก. เล่นสัมผัสอักษร ข. เล่นสัมผัสสระ ค. มีการซ้ำ คำ ง. มีการเล่นคำ พ้องเสียง 7. กลอนนิราศนิยมขึ้นต้นด้วยคำ กลอนวรรคใด ก.วรรคสดับ ข.วรรครับรั ค.วรรครอง ง.วรรคส่ง
6 กระดาษคำ ตอบ
7 เฉลยเเบบทดสอบก่อนเรียน
นิราศภูเขาทอง 8
9 กรอบที่ 1 ประวัติเเละที่มาของวรรณคดี ประวัติเเละที่มาของวรรณคดี สุนทรภู่แต่งนิราศภูเขาทองในรัชรัสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อราวปลาย พ.ศ. ๒๓๕๓ โดยเล่าถึงการเดินทางโดยเรือรืเพื่อที่จะไปนมัสการเจดีย์ ภูเขาทองที่เมืองกรุงเก่าหรือรืจังหวัด พระนครศรีอรียุธยาในปัจจุบัน หลังจากจำ พรรษาอยู่ที่วัดราช-บุรณะหรือรืวัดเลียบ
10 สุนทรภู่เป็นกวีเอกแห่งกรุงรัตรันโกสินทร์ซึ่ร์ ซึ่งได้รับรัการยกย่องจากองค์การ การศึกษาวิทยาศาสตร์แ ร์ ละวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization) หรือรืยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นบุคคลที่มีผลงานดีเด่นด้านวรรณกรรม ประวัติของท่านโดยสังเขป มีดังนี้ สุนทรภู่เป็นกวีที่มีช่วงชีวิตอยู่ในสมัยรัตรันโกสินทร์ต ร์ อนต้นตั้งแต่รัชรักาลที่ 1 ถึง รัชรักาลที่ 4 ท่านเป็นสามัญชน แต่มีชีวิตที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับราชสำ นักตั้งแต่ปฐมวัยจนถึง ปัจฉิมวัย ชื่อ สุนทรภู่ เป็นชื่อที่คนทั่วไปเรียรีกกวีท่านนี้ โดยนำ คำ สุนทร จากบรรดาศักดิ์ "ขุนสุนทรโวหาร" "หลวงสุนทรโวหาร" และ "พระสุนทรโวหาร" ที่ท่านได้รับรัพระราชทาน ในรัชรักาลที่ 2 และรัชรักาลที่ 4 มารวมกับคำ ว่า ภู่ ซึ่งเป็นชื่อเดิม และเรียรีกมาแต่ครั้งท่านยัง มีชีวิตอยู่ ร.1 ร.2 ร.3 ร.4
11 สุนทรภู่เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ร์ ที่26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 ที่บ้านของบิดามารดา ริมริคลองบางกอกน้อย ธนบุรี ใกล้บริเริวณพระราชวังหลัง (ปัจจุบันสถานที่บริเริวณ พระราชวังหลัง คือ บริเริวณที่เป็นสถานีรถไฟบางกอกน้อย โรงพยาบาลศิริรริาช และ บริเริวณใกล้เคียง) ท่านมีใจรักรัด้านกาพย์กลอนมาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อเติบโตขึ้นก็ได้รับรั การถ่ายทอดวิชาวรรณคดีและการประพันธ์จากพระภิกษุที่เป็นอาจารย์ ทั้งนี้ท่านยัง ศึกษาและเพิ่มพูนประสบการณ์ใน การประพันธ์ โดยการรับรัจ้างแต่งเพลงยาวและ บทดอกสร้อร้ยสักวา ด้วยลีลากลอนที่มีลักษณะเฉพาะตัวจึงทำ ให้สุนทรภู่เริ่มเป็นที่ รู้จัรู้จักในวงกวี ช่วงชีวิตที่รุ่งรุ่เรือรืงของสุนทรภู่ คือ ใน รัชรัสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้เข้ารับรัราชการในกรมพระอาลักษณ์ สุนทรภู่ได้แสดงความ สามารถในเชิงกลอนจนเป็น ที่พอพระราชหฤทัยหลายครั้ง ด้วยความดีความชอบดังกล่าว สุนทรภู่จึงได้รับรัพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นขุน สุนทรโวหาร มีหน้าที่เป็นกวีที่ทรงปรึกรึษา ในการทรงพระราชนิพนธ์บทกวีเรื่องต่าง ๆ และโปรดเกล้าฯ ให้ตามเสด็จ อย่างใกล้ชิด แต่ด้วยนิสัยที่ชอบดื่มสุราอยู่เป็นนิจจึงทำ ให้ชีวิตบางช่วงตกต่ำ และชีวิตครอบครัวรัไม่ราบรื่น เช่น ครั้งหนึ่งสุนทรภู่เมาสุรา แล้วไปทำ ร้าร้ยญาติผู้ใหญ่ของภรรยา จึงถูกนำ ตัวไปขังคุก แต่ไม่ นานก็พ้นโทษ และตอนปลายรัชรักาลสุนทรภู่ได้เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นหลวงสุนทรโวหาร
12 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทำ ให้ สุนทรภู่จงรักรัภักดี เทิดทูน และรำ ลึกถึงพระองค์อยู่เสมอ ดังปรากฏในงานนิพนธ์ หลายเรื่องของท่าน ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เช่น ในนิราศพระประธม นิราศ ภูเขาทอง ตอนผ่านตำ บลสามโคก และในเรื่องพระอภัยมณี โดยกำ หนดให้ วันสวรรคตของท้าวสุทัศน์ และพระมเหสี ซึ่งเป็นพระบิดาและพระมารดา ของพระ อภัยมณีและศรีสุรีสุวรรณ ตรงกับ วันสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย อีกทั้งยังได้บรรยายความโศกสลดของพระอภัยมณี ไว้อย่างสะเทือนใจ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยเสด็จสวรรคต และพระบาท สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ ชีวิตราชการของสุนทรภู่ในฐานะกวี ที่ทรงปรึกรึษาก็สิ้นสุดลง สุนทรภู่ออกจากราชการและออกบวช ด้วยเห็นว่าตนไม่มีที่ พึ่งและเกรง "ราชภัย" จากพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องจากสุนทรภู่เคย ท้วงติงและแก้กลอนพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้ง ดำ รงพระราชอิสริยริยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ในที่ประชุมกวีราชสำ นัก จนทำ ให้ไม่พอพระราชหฤทัย ในรัชรักาลที่ 3 เป็นช่วงที่ สุนทรภู่ออกบวชและลาสิกขา แล้วออกบวชอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งได้รับรัการอุปการะ จากเจ้านาย หลายพระองค์จนกระทั่งถึงแก่กรรมใน พ.ศ. 2398 ขณะมีอายุ 69 ปี
13 เเบบฝึกหัด ประวัติเเละที่มาของวรรณคดี คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ 1. นิราศภูเขาทอง ได้ร้ับร้ัการยกย่องให้เป็นยอดแห่งกลอนนิราศจากหน่วยงานใด ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 2. ในสมัยรัชรักาลของพระมหากษัตริย์ริ ย์ พระองค์ใดที่สุนทรภู่มีชีวิตรุ่งรุ่ โรจน์ที่สุด ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 3. สุนทรภู่เดินทางไปนมัสการเจดีย์ภูเขาทองอย่างไร ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 4. สุนทรภู่เดินทางไปนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทองในช่วงรัชรักาลใด ? ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................
14 กรอบที่ 2 ลักษณะคำ ประพันธ์เเละจุดมุ่งหมาย ลักษณะคำ ประพันธ์ ลักษณะคำ ประพันธ์ในนิราศภูเขาทองคือ กลอนนิราศ ซึ่งก็คือกลอนสุภาพ หากแต่ต่างกันที่กลอนนิราศจะขึ้นต้นด้วยวรรคที่สอง แล้วแต่งไปเรื่อยๆ จนจบบท วรรคสุดท้ายจะลงท้ายด้วยคำ ว่า “เอย” มักบรรยายและพรรณนาถึงสถานที่ อารมณ์รักรั และคร่ำ ครวญถึงนางอันเป็นที่รักรั โดยเอาไปผูกพันกับธรรมชาติหรือรืสถานที่ที่พบเห็น เดือนสิบเอ็ดเสร็จ ร็ ธุระพระวสา รับรักฐินภิญโญโมทนา ชุลีลาลงเรือรืเหลืออาลัย ............................................................................................................................................... จงรับรัทราบความจริงริทุกสิ่งสิ้น อย่านึกนินทาเเถลงเเหนงไฉน นักเลงกลอนนอนเปล่าก็เศร้าร้ใจ จึงร่ำ ไห้เรื่องร้าร้งเล่นบ้างเอย เเผนผังเเละตัวอย่างกลอนนิราศ
15 เเบบฝึกหัด กลอนนิราศหรือกลอนสุภาพ คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ เดือนสิบเอ็ดเสร็จ ร็ ธุระพระวสา รับรักฐินภิญโญโมทนา ชุลีลาลงเรือรืเหลืออาลัย ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส เมื่อตรุษสารทพระวสาได้อาศัย สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย มาจำ ไกลอารามเมื่อยามเย็น จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกลอนนิราศหรือรื ไม่ เพราะเหตุใด ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ดอกสร้อร้ยฟ้าเลื้อยเลาะเกาะไม้ใหญ่ ม่วงไสวกระจายคล้ายรัศรัมี ยามลมโชยโปรยกลิ่นแสนยินดี คือมาลีงดงามนามสร้อร้ยฟ้า จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกลอนนิราศหรือรื ไม่ เพราะเหตุใด ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... โอ้สังเวชวาศนานิจาเอ๋ย จะมีคู่มิได้อยู่ประคองเชย ต้องละเลยดวงใจไว้ไกลตา ถึงทุกข์ใครในโลกที่โศกเศร้าร้ ไม่เหมือนเราภุมรินริถวิลหา จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกลอนนิราศหรือรื ไม่ เพราะเหตุใด ? ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................
16 กรอบที่ 3 เนื้อเรื่อง ๏ เดือนสิบเอ็ดเสร็จ ร็ ธุระพระวสา รับรักฐินภิญโญโมทนา ชุลีลาลงเรือรืเหลืออาลัย ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส เมื่อตรุษสารทพระวสาได้อาศัย สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย มาจำ ไกลอารามเมื่อยามเย็น โอ้อาวาสราชบุรณะพระวิหาร แต่นี้นานนับทิวาจะมาเห็น เหลือรำ ลึกนึกน่าน้ำ ตากระเด็น เพราะขุกเข็ญคนพาลมารานทาง จะยกหยิบธิบดีเป็นที่ตั้ง ก็ใช้ถังแทนสัดเห็นขัดขวาง จึ่งจำ ลาอาวาสนิราศร้าร้ง มาอ้างว้างวิญญาณ์ในสาครฯ เนื้อเรื่อง ถึงเดือน ๑๑ ซึ่งออกจากการจำ พรรษาแล้ว เมื่อรับรักฐินอย่างยินดีเสร็จร็แล้ว ก็ต้องลงเรือรื ไป ด้วยความเศร้าร้โศก ออกจากวัดก็มองดูวัดที่เคยอาศัย เมื่อปีที่ผ่านมาได้อยู่อาศัย อีกทั้ง ๓ ฤดู ที่อยู่มาก็ไม่มีอะไรมากวนใจ อีกทั้งวัดราชบูรณะพระวิหารนี้คงอีกนานกว่าจะได้มาเห็น นึกแล้ว เศร้าร้ใจยิ่งนักทั้งนี้เป็นเพราะมีคนพาลมารังรัแกใส่ร้าร้ย คิดจะนำ ผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือท่านก็ไม่มี ความยุติธรรม จึงต้องอำ ลาวัดไปจนต้องมาอ้างว้างอยู่กลางสายน้ำ วัดราชบูรณะ ถอดความ
17 ๏ ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะขาด คิดถึงบาทบพิตรอดิศร โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น พระนิพพานปานประหนึ่งศีรษะขาด ด้วยไร้ญร้าติยากแค้นถึงแสนเข็ญ ทั้งโรคซ้ำ กรรมซัดวิบัติเป็น ไม่เล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา จะสร้าร้งพรตอตส่าห์ส่งส่วนบุญถวาย ประพฤติฝ่ายสมถะทั้งวสา เป็นสิ่งของฉลองคุณมุลิกา ขอเป็นข้าเคียงพระบาททุกชาติไปฯ ถึงถึหน้าวังวัก็เก็ศร้าร้โศกมาก คิดคิถึงถึพระบาทสมเด็จพระพุทพุธเลิศลิหล้าล้นภาลัยลัผู้ซึ่ผู้ซึ่งมีพมีระคุณคุกับกัสุนทรภู่ อย่าย่งมาก เมื่อมื่ก่อก่นเคยเข้าข้เฝ้าท่าท่นอย่าย่งใกล้ชิล้ชิดและบ่อบ่ยครั้ง เมื่อมื่พระองค์สค์วรรคตก็เก็หมือมืนกับกัสุนทรภู่ ตายไปด้วยเพราะไม่มีม่ญมีาติหติรือรืคนคอยช่วยเหลือลืชีวิตวิจึงจึยากแค้นค้แสนเข็ญข็อีกอีทั้งทั้มีโมีรคมีกมีรรมเข้าข้มา รุมล้อล้ม ไม่เม่ห็นใครที่จะพึ่งพาได้ จึงจึได้บวชเพื่อพื่อุทิศทิส่วนกุศกุลให้แก่รัก่ ชรักาลที่ ๒ ประพฤติตตินอยู่ใยู่น ศีลธรรมตลอดเวลา เพื่อพื่เป็นสิ่งทดแทนคุณคุพระองค์ แม้เม้กิดกิ ชาติใติดใดก็ขก็อให้เป็นข้าข้รับรั ใช้พระองค์ ตลอดไป หน้าวัง ถอดความ
18 ๏ ถึงหน้าแพแลเห็นเรือรืที่นั่ง คิดถึงครั้งก่อนมาน้ำ ตาไหล เคยหมอบรับรักับพระจมื่นไวย แล้วลงในเรือรืที่นั่งบัลลังก์ทอง เคยทรงแต่งแปลงบทพจนารถ เคยรับรัราชโองการอ่านฉลอง จนกฐินสิ้นแม่น้ำ แลลำ คลอง มิได้ข้องเคืองขัดหัทยา เคยหมอบใกล้ได้กลิ่นสุคนธ์ตลบ ละอองอบรสรื่นชื่นนาสา สิ้นแผ่นดินสิ้นรสสุคนธา วาสนาเราก็สิ้นเหมือนกลิ่นสุคนธ์ฯ เมื่อถึงหน้าแพก็เห็นเรือรืพระที่นั่ง คิดถึงเมื่อก่อนก็เศร้าร้จนน้ำ ตาไหล เคยหมอบกราบ รัชรักาลที่ ๒ แล้วก็ลงไปในเรือรืบัลลังก์ทอง เคยแต่งแปลงบทความ เคยรับรัราชโองการอ่าน ในงานฉลอง จนเรือรืที่มาทอดกฐินหมดแล้วก็ยังไม่ได้ทำ ให้พระองค์ขัดใจแต่อย่างใด เคยหมอบ กราบใกล้จนได้กลิ่นหอมจากพระวรกาย กลิ่นหอมนั้นหอมจนติดจมูก แต่เมื่อพระองค์สวรรคตก็สิ้นกลิ่นหอมไปด้วย อีกทั้งยังเหมือน วาสนาของสุนทรภู่ก็สิ้นตามกลิ่นไป ตำ หนักเเพ หรือรืท่าราชวรดิษฐ์ ดูในวังยังเห็นหอพระอัฐิ ตั้งสติเติมถวายฝ่ายกุศล ทั้งปิ่นเกล้าเจ้าพิภพจบสกล ให้ผ่องพ้นภัยสำ ราญผ่านบุรินริทร์ฯ ร์ มองไปในวังยังเห็นหอที่เก็บพระอัฐิของรัชรักาลที่ ๒ ก็ตั้งสติถวายส่วยบุญส่วนกุศล ไปให้รัชรักาลที่ ๓ ให้พ้นภัยในการปกครองบ้านเมือง ถอดความ ถอดความ
19 ๏ ถึงอารามนามวัดประโคนปัก ไม่เห็นหลักลือเล่าว่าเสาหิน เป็นสำ คัญปันแดนในแผ่นดิน มิรู้สิ้รู้สิ้นสุดชื่อที่ลือชา ขอเดชะพระพุทธคุณช่วย แม้นมอดม้วยกลับชาติวาสนา อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา อยู่คู่ฟ้าดินได้ดังใจปอง ไปพ้นวัดทัศนาริมริท่าน้ำ แพประจำ จอดรายเขาขายของ มีแพรผ้าสารพัดสีม่วงตอง ทั้งสิ่งของขาวเหลืองเครื่องสำ เภาฯ ถึงวัดประโคนปักก็มองไปไม่เห็นเสาหินที่ลือกัน เป็นเสาที่สำ คัญในแผ่นดิน ถึงจะไม่เห็น ก็ขอเดชะพระพุทธคุณช่วย ขอให้อายุยืนหมื่นๆปีเท่าดังเสาศิลา อยู่คู่ฟ้าดินได้ตลอดไป พอเรือรืล่อง เลยวัด ก็มองดูริมริท่าน้ำ มีแพมาจอดขายของอยู่เรียรีงราย มีขายทั้งผ้าแพรสีม่วงและสีอื่น ๆ ทั้งสิ่งของ ทีมาจากเมืองจีน วัดดุสิดารามวรวิหาร ๏ ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา โอ้บาปกรรมน้ำ นรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย ทำ บุญบวชกรวดน้ำ ขอสำ เร็จ ร็ พระสรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารักรัสุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำ ทุกค่ำ คืนฯ ถึงโรงเหล้าก็มีควันออกมาจากเตากลั่นมากมาย มีเครื่องตักน้ำ ผูกไว้ปลายเสา สุนทรภู่ เคยดื่มเหล้าจนเมาเหมือนคนบ้า จึงได้บวชเพื่อจะได้พ้นจากอบายมุข ขอให้ได้ตรัสรัรู้ดัรู้ ดัง พระพุทธเจ้า แต่เหล้าเคยทำ ให้รอดชีวิตดังนั้นจะเมินไปก็เกินไป ถึงจะไม่เมาเหล้าแต่ยังเมา รักรัอยู่ หักห้ามจิตใจไม่ให้รักรั ไม่ได้ การเมาเหล้านั้นพอรุ่งรุ่ขึ้นก็หายไป แต่การเมารักรันี้จะเป็น ทุก ๆ คืน ถอดความ ถอดความ
20 ๏ ถึงบางจากจากวัดพลัดพี่น้อง มามัวหมองม้วนหน้าไม่ฝ่าฝืน เพราะรักรั ใคร่ใร่จจืดไม่ยืดยืน จึงต้องขืนในพรากมาจากเมือง ถึงบางพลูคิดถึงคู่เมื่ออยู่ครอง เคยใส่ซองส่งให้ล้วนใบเหลือง ถึงบางพลัดเหมือนพี่พลัดมาขัดเคือง ทั้งพลัดเมืองพลัดสมรมาร้อร้นรน ถึงบางโพโอ้พระศรีมรีหาโพธิ์ ร่มร่นิโรธรุกขมูลให้พูนผล ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ให้ผ่องพ้นภัยพาลสำ ราญกาย ถึงบางจากไม่อยากได้ยินคำ ว่าจาก เพราะสุนทรภู่จากหลาย อย่างมา ต้องมีใจ มัวหมองเพราะรักรันั้นไม่ยืนยาว จึงต้องจากเมืองพรากมา ถึงบางพลูคิดถึงนางจันเมื่อแต่งงานกัน เคยส่งหมากพลูโดยใส่ซองให้ทั้งหมดเป็น ใบเหลืองซึ่งอร่อร่ยมาก ถึงบางพลัดก็ไม่อยากได้ยินคำ ว่าพลัดเพราะได้พลัดจากนางจัน ทั้งยัง พลัดจากเมืองและอื่น ๆ อย่างร้อร้นรน ถึงบางโพก็คิดถึงต้นโพธิ์ใธิ์ห้ร่มร่เงาให้ความร่มร่เย็นทั้งยังทำ ให้โคนต้นไม้งอกงาม ได้ ขอเดชะของพระพุทธเจ้า ให้พ้นภัยพาลตลอดไป ๏ ถึงบ้านญวนล้วนแต่โรงแลสะพรั่ง มีข้องขังกุ้งปลาไว้ค้าขาย ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญิงชายพร้อร้มเพรียรีงมาเมียงมอง จะเหลียวกลับลับเขตประเทศสถาน ทรมานหม่นไหม้ฤทัยหมอง ถึงเขมาอารามอร่าร่มทอง พึ่งฉลองเลิกงานเมื่อวานซืนฯ ถึงบ้านญวนเห็นมีโรงแลมากมาย มีคนค้าขายของเช่นกุ้งหรือรื ปลาโดยการขัง ไว้ในข้อง ข้างหน้าโรงวางที่สำ หรับรัดักปลาวางเรียรีงไว้ มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายมาจับจ่าย ซื้อของ จะมองกลับไปยังประเทศบ้านเกิดก็ทรมานเหมือนโดนไฟไหม้ จิตใจก็ หม่นหมอง ล่องเรือรืมาจนถึงวัดเขมา ก็รู้ว่รู้ว่าพึ่งเลิกงานฉลองไปเมื่อวานซืน ถอดความ ถอดความ
21 ๏โอ้ปางหลังครั้งสมเด็จพระบรมโกศ มาผูกโบสถ์ก็ได้มาบูชาชื่น ชมพระพิมพ์ริมริผนังยังยั่งยืน ทั้งแปดหมื่นสี่พันได้วันทา โอ้ครั้งนี้มิได้เห็นเล่นฉลอง เพราะตัวต้องตกประดาษวาสนา เป็นบุญน้อยพลอยนึกโมทนา พอนาวาติดชลเข้าวนเวียน ดูน้ำ วิ่งกลิ้งเชี่ยวเป็นเกลียวกลอก กลับกระฉอกฉาดฉันฉวัดเฉวียน บ้างพลุ่งพลุ่งวุ้งวงเหมือนกงเกวียน ดูเปลี่ยนเปลี่ยนคว้างคว้างเป็นหว่างวน ทั้งหัวท้ายกรายแจวกระชากจ้วง ครรไลล่วงเลยทางมากลางหน โอ้เรือรืพ้นวนมาในสาชล ใจยังวนหวังสวาทไม่คลาดคลาฯ คิดถึงเมื่อก่อนซึ่งรัชรักาลที่ ๒ ได้มาตัดหวายลูกนิมิต ได้ชมพระพิมพ์ทั้ง ๘๔,๐๐๐ องค์ซึ่งเท่ากับจำ นวนพระธรรมที่อยู่ในพระไตรปิฎกที่อยู่ริมริผนัง แต่ครั้งนี้ไม่ได้เห็นการ เล่นฉลองเพราะสุนทรภู่ต้องหมดวาสนาและลำ บาก เป็นเพราะบุญน้อยก็นึกเศร้าร้แต่แล้ว เรือรืก็ติดน้ำ วน มองเห็นน้ำ วิ่งเชี่ยวหมุนเป็นเกลียว พุ่งไปมาตัดกัน บางส่วนก็พุ่งวนเหมือน กงเกวียน ดูเวียนๆเป็นเหมือนพายุวน ทั้งหัวท้ายเรือรื ได้รับรัแจวเรือรืดังนั้นเรือรืจึงหลุดน้ำ วน ออกมาได้ แต่ถึงเรือรืจะพ้นน้ำ วนมาแล้วแต่ใจก็ยังไม่พ้นจากความรักรั ๏ ตลาดแก้วแล้วไม่เห็นตลาดตั้ง สองฟากฝั่งก็แต่ล้วนสวนพฤกษา โอ้รินริรินริกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคง เหมือนกลิ่นผ้าแพรดำ ร่ำ มะเกลือ เห็นโศกใหญ่ใกล้น้ำ ระกำ แฝง ทั้งรักรัแซงแซมสวาทประหลาดเหลือ เหมือนโศกพี่ที่ระกำ ก็ซ้ำ เจือ เพราะรักรัเรื้อรื้แรมสวาทมาคลาดคลาย ถึงตลาดแก้วแต่ไม่เห็นมีตลาดตั้งขายของทั้งสองฝั่งเห็นแต่ต้นไม้พืชพันธุ์ต่าง ๆ ได้กลิ่นดอกไม้ หอมไปเรื่อย ๆ ตลอดทางและกลิ่นเหมือนผ้าแพรที่ย้อมด้วยมะเกลือ เห็นต้นโศกใหญ่และต้นระกำ เป็น แผงแต่แปลกที่มีต้นรักรัขึ้นแซมอยู่ด้วย เหมือนความโศกเศร้าร้ระกำ ใจที่สุนทรภู่ต้องเป็นเพราะรักรัแม่จัน ถอดความ ถอดความ
22 ๏ ถึงแขวงนนท์ชลมารคตลาดขวัญ มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย ทั้งของสวนล้วนแต่เรือรืเรียรีงราย พวกหญิงชายชุมกันทุกวันคืนฯ ถึงจังหวัดนนทบุรีก็รีก็ เห็นมีตลาดน้ำ มีแพอยู่ซึ่งขายเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม มีทั้ง เรือรืจอดอยู่ เพื่อขายผลไม้จากสวนแท้ มีทั้งผู้หญิงผู้ชายมาประชุมซื้อของกันมาก ทุกวันทุกคืน ๏ มาถึงบางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร เมื่อเคราะห์ร้าร้ยกายเราก็เท่านี้ ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมือนนกไร้รัร้งรัเร่อร่ยู่เอกาฯ มาถึงหมู่บ้านบางธรณีก็โศกเศร้าร้มากขึ้นมาก เพราะตอนลำ บากพาให้ใจสะอื้นมาก ทั้งที่แผ่นดินหนาขนาดสองแสนสี่หมื่นโยชน์แต่เมื่อถึงคราวลำ บากแม้แต่แผ่นดินก็ไม่มี ที่อาศัย เหมือนโดนหนามเสียดแทงเจ็บแสบมาก เหมือนกับนกไม่มีรังรัที่จะอาศัยต้อง เร่ร่ร่อร่นไปเรื่อย ๆ ถอดความ ถอดความ
23 ๏ ถึงเกร็ด ร็ ย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง เหมือนอย่างเยี่ยงชายหญิงทิ้งวิสัย นี่หรือรืจิตคิดหมายมีหลายใจ ที่จิตใครจะเป็นหนึ่งอย่าพึงคิดฯ ถึงตำ บลปากเกร็ด ร็ ซึ่งเป็นบริเริวณที่ชาวมอญอพยพมา ตามธรรมเนียม ผู้หญิงมอญจะเกล้าผม แต่สมัยนี้ผู้หญิงมอญมาถอนไรผมเหมือนตุ๊กตา ทั้งยัง ใช้เครื่องสำ อาง ใช้แป้งผัดหน้าซึ่งเหมือนกับชาวไทย ทำ ให้เห็นได้ว่าสมัยนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความเที่ยงแท้ เหมือนดังที่ชาวมอญละทิ้งประเพณี วัฒนธรรมของตนเองแล้วจะนับประสาอะไรกับจิตใจของคน ซึ่งไม่มีใครมีใจ เดียวแต่มีหลายใจ ๏ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศัรีศักดิ์ มีคนรักรัรสถ้อยอร่อร่ยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำ ลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ๏ ถึงบ้านใหม่ใจจิตก็คิดอ่าน จะหาบ้านใหม่มาดเหมือนปรารถนา ขอให้สมคะเนเถิดเทวา จะได้ผาสุกสวัสดิ์จำ กัดภัย ๏ ถึงบางเดื่อโอ้มะเดื่อเหลือประหลาด บังเกิดชาติแมลงหวี่มีในไส้ เหมือนคนพาลหวานนอกย่อมขมใน อุปไมยเหมือนมะเดื่อเหลือระอา ๏ถึงบางหลวงเชิงรากเหมือนจากรักรัสู้เสียศักดิ์สัดิ์ สังวาสพระศาสนา เป็นล่วงพ้นรนราคราคา ถึงนางฟ้าจะมาให้ไม่ไยดีฯ ถึงหมู่บ้านบางพูดสุนทรภู่ก็นึกถึงคำ ว่าพูด ดังว่า ถ้าใครพูดดีก็จะมีคนรักรัแต่ถ้าพูด ไม่ดีก็อาจจะเป็นภัยต่อตนเองได้อีกทั้งยังไม่มีใครคบ ไม่มีเพื่อนสนิทมิตรสหาย ทั้งการจะดู ว่าใครดีไม่ดีดูได้จากการพูด ถึงหมู่บ้านบ้านใหม่สุนทรภู่ก็คิดอยากจะได้บ้านซักหลังตามที่ต้องการโดยขอกับ เทวดาให้สมดังปรารถนา เพราะ การมีบ้านใหม่จะได้มีความสุขและมีที่อาศัยอย่างปลอดภัย ถึงหมู่บ้านบางเดื่อก็คิดถึงลูกมะเดื่อที่ภายนอกนั้นดูสวยงามน่ารับรั ประทานแต่ ภายในกลับมีแมลงมีหนอนชอนไชอยู่ เหมือนกับคนพาลที่ปากพูดดีแต่ในใจคิดทำ อันตราย ถึงบางหลวงเหมือนจากนางจันมานานแล้วเราต้องสละจากยศถาบรรดาศักดิ์เพื่อมา บวชเพื่อจะได้พ้นจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง ถึงจะมีนางฟ้ามายั่วก็ไม่สนใจ ถอดความ ถอดความ
24 เเบบฝึกหัด เนื้อเรื่องนิราศภูเขาทอง คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ ๏ มาถึงบางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกล่าวถึงสถานที่ใด ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ๏ ตลาดแก้วแล้วไม่เห็นตลาดตั้ง สองฟากฝั่งก็แต่ล้วนสวนพฤกษา โอ้รินริรินริกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคง เหมือนกลิ่นผ้าแพรดำ ร่ำ มะเกลือ จากบทประพันธ์ข้างต้น คำ ว่า “ตลาดเเก้ว” หมายถึงอะไร ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ๏ ถึงอารามนามวัดประโคนปัก ไม่เห็นหลักลือเล่าว่าเสาหิน เป็นสำ คัญปันแดนในแผ่นดิน มิรู้สิ้รู้สิ้นสุดชื่อที่ลือชา จากบทประพันธ์ข้างต้น คำ ว่า “วัดประโคนปัก” มีชื่อเรียรีกอีกอย่างว่าวัดอะไร ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................
25 กรอบที่ 4 การวิเคราะห์คุณค่าวรรณคดี คุณค่าด้านเนื้อหา สะท้อนสภาพสังคมและบ้านเมือง ถึงแขวงนนท์ชลมารคตลาดตลาดขวัญ มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย ทั้งของสวนล้วนเรือรือยู่เรียรีงราย พวกหญิงชายประชุมกันทุกวันคืน วิถีชีวิตริมริน้ําแสดงให้เห็นถึงสภาพการตั้งถิ่นฐานของ คนไทยในอดีตว่ามักตั้งบ้านเรือรืนอยู่ริมริน้ําและมีการติดต่อ ค้าขายของผู้คนสองฝั่งแม่น้ําเจ้าพระยา ที่นําสินค้าหลากหลาย ประเภทมาค้าขายแลกเปลี่ยนกันอย่างคึกคัก
26 คุณค่าด้านเนื้อหา สะท้อนสภาพสังคมและบ้านเมือง ถึงเกร็ด ร็ ย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย วิถีชีวิตของคนต่างชาติในไทย แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตประเพณี วัฒนธรรมของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย เช่น การแต่งหน้าของหญิงสาวชาวมอญที่ นิยมการแต่งหน้าทําผมอย่างหญิงไทย
27 คุณค่าด้านเนื้อหา สะท้อนสภาพสังคมและบ้านเมือง มาจอดท่าหน้าวัดพระเมรุข้าม ริมริอารามเรือรืเรียรีงเคียงขนาน บ้างขึ้นล่องร้อร้งรำ เล่นสำ ราญ ทั้งเพลงการเกี้ยวแก้กันแซ่เซ็ง บ้างฉลองผ้าป่าเสภาขับ ระนาดรับรัรัวรัคล้ายกับนายเส็ง มีโคมรายแลอร่าร่มเหมือนสามเพ็ง เมื่อคราวเคร่งร่ก็มิใคร่จร่ะได้ดู การละเล่นและงานมหรสพ สุนทรภู่ได้กล่าวถึงการละเล่น และงานมหรสพพื้นบ้านที่นิยมเล่นกัน ในสมัยนั้น (การเล่นเพลงครึ่งท่อน) ที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลสําคัญประจําปี
28 คุณค่าด้านเนื้อหา ตำ นานเเละสถานที่ วัดประโคนปัก ที่มาของชื่อวัดมาจากบริเริวณ แห่งนี้เป็นที่ปักเสาประโคนเพื่อปันเขตแดน ถึึงอารามนามวัดประโคนปัก ไม่เห็นหลักลือเล่าว่าเสาหิน เป็นสำ คัญปันแดนในแผ่นดิน มิรู้สิ้รู้สิ้นสุดชื่อที่ลือชา ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า พระพุทธเจ้าหลวงบำ รุงซึ่งกรุงศรี ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว บทประพันธ์ข้างต้นเป็นที่มาของจังหวัด ปทุมธานีในวรรณคดีเรื่อง นิรศภูเขาทอง
29 คุณค่าด้านเนื้อหา ข้อคิดเเละคติเตือนใจ คติธรรมเกี่ยวกับความเป็นอนิจจัง อนิจัง หมายถึง ไม่เที่ยง, ไม่แน่นอน, ไม่คงที่, เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ. โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง เหมือนอย่างเยี่ยงชายหญิงทิ้งวิสัย นี่หรือรืจิตคิดหมายมีหลายใจ ที่จิตใครจะเป็นหนึ่งอย่าพึงคิด งิ้วนรกสิบหกองคุลีแหลม ดังขวากแซมเสี้ยมแทรกแตกไสว ใครทำ ชู้คู่ท่านครั้นรั้บรรลัย ก็ต้องไปปีนต้นน่าขนพอ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศัรีศักดิ์ มีคนรักรัรสถ้อยอร่อร่ยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำ ลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา คติในการพูดจา ศีลสังวร สำ รวมระวังด้วยศีล คือ การสำ รวมระวังตามสิกขาบทที่ทรงบัญญัติไว้ ด้วยการไม่ล่วงละเมิด สิกขาบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ ศีล ๘
30 คุณค่าด้านวรรณศิลป์ การใช้คำ เพื่อสร้าร้งจินตภาพ จนแจ่มแจ้งแสงตะวันเห็นพันธุ์ผัก ดูน่ารักรับรรจงส่งเกสร เหล่าบัวเผื่อนแลสล้างริมริทางจร ก้ามกุ้งซ้อนเสียดสาหร่าร่ยใต้คงคง เป็นการพรรณนาความด้วยถ้อยคํา ที่เรียรีบง่ายแต่เห็นภาพชัดเจน ดูน้ำ วิ่งกลิ้งเชี่ยวเป็นเกลียวกลอกกลับ กระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน บ้างพลุ่งพล่งวุ้งวงเป็นกงเกวียน ดูเวียนเวียนคว้างคว้างเป็นหว่างวน การเล่นเสียง งานประพันธ์ของสุนทรภู่มีความดีเด่นเรื่อง การเล่นเสียงโดยเฉพาะการเล่นเสียงสัมผัสภายในวรรค ทั้งสัมผัสสระและสัมผัสอักษร ทําให้กลอนนิราศภูเขา ทองมีความไพเราะเป็นอย่างมาก ความเปรียรีบลึกซึ้งกินใจ สุนทรภู่เลือกใช้คําเปรียรีบเปรย ที่สร้าร้งอารมณ์สะเทือนใจให้แก่ผู้อ่าน เมื่อเคราะห์ร้าร้ยกายเราก็เท่านี้ ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมือนนกไร้รัร้งรัเร่อร่ยู่เอกา
31 เเบบฝึกหัด การวิเคราะห์คุณค่าวรรณคดี คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ “...ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศัรีศักดิ์ 1. ดิ์มีคนรักรัรสถ้อยอร่อร่ยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำ ลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา...” นักเรียรีนเห็นด้วยกับบทประพันธ์นี้หรือรื ไม่ อย่างไร ? ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 2. มาจอดท่าหน้าวัดพระเมรุข้าม ริมริอารามเรือรืเรียรีงเคียงขนาน บ้างขึ้นล่องร้อร้งรำ เล่นสำ ราญ ทั้งเพลงการเกี้ยวแก้กันแซ่เซ็ง บ้างฉลองผ้าป่าเสภาขับ ระนาดรับรัรัวรัคล้ายกับนายเส็ง มีโคมรายแลอร่าร่มเหมือนสามเพ็ง เมื่อคราวเคร่งร่ก็มิใคร่จร่ะได้ดู บทประพันธ์นี้สะท้อนให้เห็นสภาพสังคมอย่างไร ................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... 3. ถึงเกร็ด ร็ ย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย บทประพันธ์นี้สะท้อนให้เห็นสภาพสังคมอย่างไร ................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................
32 เเบบทดสอบหลังเรียน 1. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับนิราศ ก. คร่ำ ครวญถึงพ่อแม่ที่ต้องเดินทางจากมา ข. ใช้เห่กล่อมเจ้านายเพื่อให้ข้อคิด คติเตือนใจ ค. มีจุดมุ่งหมายในการยอพระเกียรติของกษัตริย์ริ ย์ ง. นิยมแต่งเพื่อพรรณนาการเดินทางพร้อร้มรำ พึงถึงการจากหรือรืการพลัดพราก 2. ข้อใดมีความหมายเหมือนกับบทประพันธ์ที่กำ หนด ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศัรีศักดิ์ มีคนรักรัรสถ้อยอร่อร่ยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำ ลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา ก. พูดจนลิงหลับ ข. พูดดีเป็นศรีแรีก่ปาก ค. น้ำ ท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง ง. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำ ลึงทอง 3. ข้อใดแสดงให้เห็นถึงการประกอบอาชีพประมง ก. มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย ข. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย ค. ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง ง. ทั้งของสวนล้วนเรือรือยู่เรียรีงราย 4. เพราะเหตุใดพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย จึงตั้งชื่อว่า เมืองปทุมธานี ตามบทประพันธ์ “ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า พระพุทธเจ้าหลวงบำ รุงซึ่งกรุงศรี ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว” ก. เพราะมีดอกบัวขึ้นอยู่มาก ข. เพราะเป็นตลาดค้าบัวขนาดใหญ่ ค. เพราะเจ้าเมืองที่ปกครองชื่อ เจ้าบัว ง. เพราะเป็นเมืองที่แห้งแล้งมาก่อนจึงตั้งแก้เคล็ด 5. คำ ในข้อใดมีความหมายว่า ดอกบัว ทุกคำ ก. บุษบา บุบผา กชกร ข. บุษบัน บุษบา บุษกร ค. ปทุม มาลี กชกร ง. อุบล บุษกร ปทุม
33 เเบบทดสอบหลังเรียน 6. ข้อความใดชี้ให้เห็นสภาพสังคมไทยสมัยก่อนได้ชัดเจนที่สุด ก. ไปพ้นวัดทัศนาริมริท่าน้ำ แพประจำ จอดรายเขาขายของ ข. ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ให้ผ่องพ้นภัยพาลสำ ราญกาย ค. สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย มาจำ ไกลอารามเมื่อยามเย็น ง. อายุยืนหมื่นเท่าเสาศิลา อยู่คู่ฟ้าดินได้ดังใจปอง 8. ข้อความใดมีสัมผัสอักษรมากที่สุด ก. ครรไลล่องเลยทางมากลางหน ข. มีพ่วงแพแพรพรรณเขาค้าขาย ค. กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน ง. แม้นมอดม้วยกลับชาติวาสนา 9. ข้อความใดเปรียรีบเทียบให้รู้จัรู้จักคน ก. โอ้สามัญผันแปรไม่แท้เที่ยง ข. โอ้รินริรินริกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคา ค. เดี๋ยวนี้มอญถอนไรจุกเหมือนตุ๊กตา ง.เหมือนคนพานหวานนอกย่อมขมใน 10. “ดูน้ำ วิ่งกลิ้งเชี่ยวเป็นเกลียวกลอก กลับกระฉอกฉาดฉัดฉวัดเฉวียน บ้างพลุ่งพลุ่งวุ้งวงเหมือนกงเกวียน ดูเวียนเวียนคว้างคว้างเป็นหว่างวน” ลักษณะใดไม่ปรากฏในคำ ประพันธ์นี้ ก. เล่นสัมผัสอักษร ข. เล่นสัมผัสสระ ค. มีการซ้ำ คำ ง. มีการเล่นคำ พ้องเสียง 7. กลอนนิราศนิยมขึ้นต้นด้วยคำ กลอนวรรคใด ก.วรรคสดับ ข.วรรครับรั ค.วรรครอง ง.วรรคส่ง
34 กระดาษคำ ตอบ
35 เฉลยเเบบฝึกหัด
36 เฉลย ประวัติเเละที่มาของวรรณคดี คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ 1. นิราศภูเขาทอง ได้ร้ับร้ัการยกย่องให้เป็นยอดแห่งกลอนนิราศจากหน่วยงานใด ? วรรณคดีสโมสร 2. ในสมัยรัชรักาลของพระมหากษัตริย์ริ ย์ พระองค์ใดที่สุนทรภู่มีชีวิตรุ่งรุ่ โรจนท์ที่สุด ? 3. สุนทรภู่เดินทางไปนมสัการเจดีย์ภูเขาทองอย่างไร ? สุนทรภู่เดินทางโดยการใช้เรือรื 4. สุนทรภู่เดินทางไปนมสัการพระเจดีย์ภูเขาทองในช่วงรัชรักาลใด ? สุนทรภู่เดินทางไปนมสัการพระเจดีย์ภูเขาทอง ช่วงรัชรักาลที่ 3 สมัยรัชรักาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
37 เฉลย กลอนนิราศหรือกลอนสุภาพ คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ เดือนสิบเอ็ดเสร็จ ร็ ธุระพระวสา รับรักฐินภิญโญโมทนา ชุลีลาลงเรือรืเหลืออาลัย ออกจากวัดทัศนาดูอาวาส เมื่อตรุษสารทพระวสาได้อาศัย สามฤดูอยู่ดีไม่มีภัย มาจำ ไกลอารามเมื่อยามเย็น จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกลอนนิราศหรือรื ไม่ เพราะเหตุใด ? เป็นกลอนนิราศ เพราะว่าขึ้นต้นด้วยวรรคที่สอง ดอกสร้อร้ยฟ้าเลื้อยเลาะเกาะไม้ใหญ่ ม่วงไสวกระจายคล้ายรัศรัมี ยามลมโชยโปรยกลิ่นแสนยินดี คือมาลีงดงามนามสร้อร้ยฟ้า จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกลอนนิราศหรือรื ไม่ เพราะเหตุใด ? เป็นกลอนสุภาพ เพราะว่าขึ้นต้นด้วยวรรคที่หนึ่ง โอ้สังเวชวาศนานิจาเอ๋ย จะมีคู่มิได้อยู่ประคองเชย ต้องละเลยดวงใจไว้ไกลตา ถึงทุกข์ใครในโลกที่โศกเศร้าร้ ไม่เหมือนเราภุมรินริถวิลหา จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกลอนนิราศหรือรื ไม่ เพราะเหตุใด ? เป็นกลอนนิราศ เพราะว่าขึ้นต้นด้วยวรรคที่สอง
38 เฉลย เนื้อเรื่องนิราศภูเขาทอง คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ ๏ มาถึงบางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร จากบทประพันธ์ข้างต้นเป็นกล่าวถึงสถานที่ใด ? บางธรณี ๏ ตลาดแก้วแล้วไม่เห็นตลาดตั้ง สองฟากฝั่งก็แต่ล้วนสวนพฤกษา โอ้รินริรินริกลิ่นดอกไม้ใกล้คงคง เหมือนกลิ่นผ้าแพรดำ ร่ำ มะเกลือ จากบทประพันธ์ข้างต้น คำ ว่า “ตลาดเเก้ว” หมายถึงอะไร ? ตลาดที่ไม่มีของขาย ทั้งสองฝั่งเห็นแต่ต้นไม้พืชพันธุ์ต่าง ๆ ๏ ถึงอารามนามวัดประโคนปัก ไม่เห็นหลักลือเล่าว่าเสาหิน เป็นสำ คัญปันแดนในแผ่นดิน มิรู้สิ้รู้สิ้นสุดชื่อที่ลือชา จากบทประพันธ์ข้างต้น คำ ว่า “วัดประโคนปัก” มีชื่อเรียรีกอีกอย่างว่าวัดอะไร . วัดดุสิดารามวรวิหาร
39 เฉลย การวิเคราะห์คุณค่าวรรณคดี คำ ชี้เเจง ให้นักเรียรีนตอบคำ ถามต่อไปนี้ “...ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศัรีศักดิ์ 1. ดิ์มีคนรักรัรสถ้อยอร่อร่ยจิต แม้นพูดชั่วตัวตายทำ ลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา...” นักเรียรีนเห็นด้วยกับบทประพันธ์นี้หรือรื ไม่ อย่างไร ? เห็นด้วย เพราะการพูดสามารถให้คุณเเละโทษเเก่ผู้พูด ซึ่งถ้ารู้จัรู้จักพูด พูดใน สิ่งที่ดีจะทำ ให้เกิดมงคลเเก่ตนเอง มีเเต่คนรักรัเเละปรารถนาดี เเต่ถ้าหากพูดไม่ดีก็ จะเป็นการสร้่าร้่งศัตรูได้ 2. บ้างขึ้นล่องร้อร้งรํารํเล่นสําราญ ทั้งเพลงการเกี้ยวแก้กันแซ่เซ็ง บ้างฉลองผ้าป่าเสภาขับ ระนาดรับรัรัวรัคล้ายกับนายเส็ง มีโคมรายแลอร่าร่มเหมือนสามเพ็ง เมื่อคราวเคร่งร่ก็มิใคร่ จะได้ดู ไอ้ลําหนึ่งครึ่งท่อนกลอนมันมาก ช่างยาวลากเลื้อยเจื้อยจนเหนื่อยหู บทประพันธ์นี้สะท้อนให้เห็นสภาพสังคมอย่างไร สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตที่มีการละเล่นและงานมหรสพพื้นบ้านที่นิยมเล่นกัน ในสมัยนั้น (การเล่นเพลงครึ่งท่อน) ที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลสําคัญประจําปี 3.ถึงเกร็ด ร็ ย่านบ้านมอญแต่ก่อนเก่า ผู้หญิงเกล้ามวยงามตามภาษา เดี๋ยวนี้มอญถอน ไรจุกเหมือนตุ๊กตา ทั้งผัดหน้าจับเขม่าเหมือนชาวไทย บทประพันธ์นี้สะท้อนให้เห็นสภาพสังคมอย่างไร สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตประเพณีวัฒนธรรมของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในไทย เช่น การแต่งหน้าของหญิงสาวชาวมอญที่ นิยมการแต่งหน้าทําผมอย่างหญิงไทย
40 เฉลยเเบบทดสอบหลังเรียน
บรรณานุก นุ รม DLTV. (2564). นิราศภูเขาทอง. สืบค้น ธันวาคม 29, 2566 จาก dltv.ac.th ติวฟรี.รี (2566). นิราศภูเขาทอง โดยสุนทรภู่. สืบค้น ธันวาคม 30, 2566 จาก https://www.tewfree.com/นิราศภูเขาทอง/ DLTV. (2564). ใบความรู้นิรู้นิราศภูเขาทอง. สืบค้น ธันวาคม 29, 2566 จาก dltv.ac.th DLTV. (2564). ใบงานนิราศภูเขาทอง. สืบค้น ธันวาคม 29, 2566 จาก dltv.ac.th