The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

พระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล

พระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล

พระราชบญั ญตั ิการรบั ขนของ
ทางทะเล พ.ศ.๒๕๓๔

ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๔

เปน็ ปที ี่ ๔๖ ในรชั กาลปจั จุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศวา่
โดยทีเ่ ปน็ การสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการรบั ขนของทางทะเล
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบัญญตั ขิ ึน้ ไวโ้ ดยคาแนะนาและยินยอมของสภานิติบญั ญัตแิ ห่งชาติ ดงั ตอ่ ไปนี้

มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตนิ ี้เรียกว่า “พระราชบัญญัตกิ ารรบั ขนของทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๔”

มาตรา ๒ พระราชบญั ญตั นิ ีใ้ หใ้ ช้บงั คบั เมือ่ พ้นกาหนดเกา้ สบิ วันนบั แตว่ ันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป

มาตรา ๓ ในพระราชบญั ญัตนิ ี้

“ผู้ขนส่ง” หมายความว่า บุคคลซึ่งประกอบการรับขนของทางทะเลเพื่อ บาเหน็จ เป็นทางค้าปกติ โดยทาสัญญารับขน
ของทางทะเลกบั ผสู้ ง่ ของ

“ผู้ขนส่งอื่น” หมายความว่า บุคคลซึ่งมิได้เป็นคู่สัญญากับผู้ส่งของในสัญญารับขนของทางทะเล แต่ได้รับมอบหมายจากผู้ขนส่ง
ให้ทาการขนส่งของตามสัญญาน้ันแม้เพียงช่วงระยะทางช่วงใดช่วงหนึ่ง และให้หมายความรวมถึงบุคคลอื่นใดซึ่งผู้ขนส่งอื่นได้
มอบหมายช่วงต่อไปให้ทาการขนส่งของนั้นด้วย ไม่ว่าจะมีการมอบหมายช่วงกันไปก่ีทอดก็ตาม แต่ทั้งนี้ ไม่รวมถึงบุคคลซึ่งได้รับ
มอบอานาจโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยายตามประเพณีในธุรกิจการรับขนของทางทะเล ให้เป็นตัวแทนผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นในการ
ดาเนินงานอันเก่ียวกับธุรกิจเนื่องจากการรับขนของทางทะเล เช่น พิธีการเข้าเมืองพิธีการศุลกากร การนาร่อง การเข้าท่า การ
ออกจากทา่ การบรรทุกของลงเรือ การขนถา่ ยของขึ้นจากเรือ หรือการสง่ มอบของแก่ผูร้ ับตราสง่ เป็นตน้

“ผสู้ ่งของ” หมายความวา่ บุคคลซึ่งเป็นคู่สัญญากับผ้ขู นสง่ ในสัญญารับขนของทางทะเล

“ผู้รบั ตราสง่ ” หมายความว่า

(ก) บุคคลซึ่งมีชอ่ื ระบไุ ว้ใน ใบตราสง่ ว่าเปน็ ผู้รับตราสง่ หรือผูร้ ับของสาหรบั ใบตราสง่ ที่ออกใหแ้ กบ่ ุคคลโดยนาม

(ข) ผู้รบั สลักหลังคนสุดท้าย สาหรับใบตราส่งทีอ่ อกให้แก่บุคคลเพื่อเขาสั่งหรือใบตราส่งที่ออกให้แก่บุคคลโดยนาม และไม่
มีข้อห้ามการสลกั หลังไว้ หรือ

(ค) บคุ คลซึ่งมีช่อื เปน็ ผ้รู ับของ ในกรณที ีไ่ ม่มีการออกใบตราสง่ หรือมีการออกเอกสารทีม่ ชี ือ่ เรยี กอยา่ งอื่น

“ของ” หมายความวา่ สังหารมิ ทรพั ย์ สัตวม์ ีชีวติ รวมทั้งภาชนะขนสง่ ทีผ่ ้สู ่งของเปน็ ผจู้ ดั หามาเพื่อใช้ในการขนส่งดว้ ย

“ภาชนะขนส่ง” หมายความว่า ตู้สินค้า ไม้รองสินค้า หรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะทานองเดียวกันซึ่งใช้บรรจุหรือรองรับของ หรือใช้รวมหน่วย
การขนส่งของหลายหน่วยเข้าด้วยกัน เพือ่ ประโยชน์ในการขนสง่ ทางทะเล

“หน่วยการขนส่ง” หมายความว่า หน่วยแห่งของที่ขนส่งทางทะเลซึ่งนับเป็นหนึ่ง และแต่ละหน่วยอาจทาการขนส่งไปตามลาพังได้ เช่น
กระสอบ ชิน้ ถงั ตู้ ม้วน ลงั ลูก ห่อ หีบ อัน หรือหน่วยที่เรียกชื่ออยา่ งอ่นื

“สัญญารบั ขนของทางทะเล” หมายความว่า สญั ญาที่ผู้ขนสง่ รบั ขนของทางทะเลจากท่าหรือที่ในประเทศหนึ่งไปยังท่าหรือทีใ่ นอีกประเทศ
หนึ่ง โดยคิดคา่ ระวาง

“อุปกรณ์แห่งค่าระวาง ” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายอย่างใดที่ผู้ขนส่งได้เสียไปโดยควรในระหว่างขนส่ง ซึ่งตามประเพณีในการขนส่งทาง
ทะเลถือเปน็ ส่วนหนึ่งของค่าระวาง และใหห้ มายความรวมถึงเงินทีผ่ ู้ขนส่งจาเป็นต้องเรียกเก็บเพิ่มขึ้นจากอัตราค่าระวางปกติ เพื่อชดเชย
คา่ ใช้จ่ายในการให้บริการของผขู้ นส่งเนือ่ งจากเหตุที่ผขู้ นส่งไมอ่ าจป้องกันได้ อนั มีประเพณีในการขนส่งทางทะเลที่ผู้ขนส่งจะเรียกได้ เช่น
การขึน้ ราคานา้ มนั เชือ้ เพลิง ค่าใชจ้ า่ ยทีเ่ พิม่ ขึ้นเนื่องจากภาวะคับคั่งของท่าเรือหรือที่ที่บรรทุกหรือขนถ่ายของ หรือการเปลี่ยนแปลงของ
อัตราแลกเปลย่ี นเงินตราตา่ งสกุลเปน็ ตน้

“ใบตราสง่ ” หมายความว่า เอกสารทีผ่ ขู้ นส่งออกให้แก่ผู้ส่งของเป็นหลักฐานแหง่ สัญญารับขนของทางทะเลแสดงวา่ ผูข้ นส่งได้รับของ
ตามที่ระบใุ นใบตราส่งไวใ้ นความดแู ลหรอื ไดบ้ รรทุกของลงเรอื แลว้ และผู้ขนส่งรับทีจ่ ะส่งมอบของดังกลา่ วให้แก่ผู้มีสิทธิรบั ของน้ันเมื่อ
ได้รบั เวนคืนใบตราส่ง

มาตรา ๔ พระราชบญั ญตั นิ ีใ้ ห้ใชบ้ งั คบั แกก่ ารขนสง่ ทางทะเลจากทีแ่ หง่ หนึ่งในราชอาณาจกั รไปยงั ที่อกี แหง่ หนงึ่ นอก
ราชอาณาจักร หรือจากทีแ่ หง่ หนึ่งนอกราชอาณาจักรมายังทีอ่ ีกแหง่ หนงึ่ ในราชอาณาจกั ร เว้นแตก่ รณีทไี่ ด้ระบใุ นใบตราสง่ ว่าใหใ้ ช้
กฎหมายของประเทศอืน่ หรือกฎหมายระหว่างประเทศบงั คับก็ใหเ้ ป็นไปตามนัน้ แตแ่ มว้ า่ จะได้ระบุไว้เช่นนนั้ กต็ าม ถา้ ปรากฏวา่ คกู่ รณี
ฝา่ ยหนึ่งฝา่ ยใดเป็นผมู้ ีสัญชาตไิ ทยหรือเปน็ นติ บิ คุ คลที่จัดตง้ั ขึ้นตามกฎหมายไทย กใ็ ห้ใช้พระราชบญั ญตั นิ ี้บังคบั
การขนสง่ ของทางทะเลภายในราชอาณาจกั ร ถา้ ไดต้ กลงกันเปน็ หนังสือวา่ ใหใ้ ชพ้ ระราชบญั ญตั นิ บี้ งั คับ กใ็ ห้ใช้พระราชบญั ญตั ินบี้ งั คบั
โดยอนุโลม

ในกรณที ี่เปน็ การขนส่งโดยไมค่ ดิ ค่าระวาง ผขู้ นสง่ ไม่ต้องรับผดิ ตามพระราชบญั ญตั ินี้ แต่ถ้ามีการออกใบตราสง่ ใบรบั ของ หรือ
เอกสารอน่ื ทานองเดียวกนั ผขู้ นสง่ ต้องดแจง้ ไว้ในใบตราส่ง ใบรับของ หรือเอกสารอืน่ น้นั วา่ ผขู้ นสง่ ไม่ต้องรบั ผิด มิฉะน้ันจะยกขึน้ ใชย้ นั
บคุ คลภายนอกซึง่ เป็นผู้รับตราส่ง หรือรบั โอนสิทธิตามใบตราสง่ ใบรบั ของ หรือเอกสารดังกลา่ วมไิ ด้

มาตรา ๕ พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่การขนส่งของทางทะเลตามสัญญาจ้างเหมาระวางบรรทุกของเรือไม่ว่าท้ังลาหรือบางส่วน
แตถ่ ้ามีการออกใบตราสง่ สาหรับของที่ขนสง่ ตามสญั ญาจ้างเหมานั้นด้วย หน้าทีแ่ ละสิทธิของผขู้ นสง่ และผู้รบั ตราสง่ ซึง่ มิใชผ่ จู้ ้างเหมา
ใหเ้ ป็นไปตามพระราชบัญญัตนิ ี้

มาตรา ๖ สัญญารับขนของทีม่ ีการขนสง่ ทางทะเลและทางอืน่ รวมอยู่ดว้ ยใหอ้ ย่ภู ายใต้บงั คับแห่งพระราชบัญญตั ินีเ้ ฉพาะในส่วน
ทีเ่ กย่ี วกบั การขนสง่ ทางทะเลเทา่ นนั้

มาตรา ๗ ใหร้ ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงคมนาคมรกั ษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้

หมวด ๑ หนา้ ทีแ่ ละสิทธิของผขู้ นสง่

มาตรา ๘ กอ่ นบรรทุกของลงเรือหรอื กอ่ นที่เรือนน้ั จะออกเดนิ ทาง ผู้ขนส่งมีหนา้ ที่ตอ้ ง
(๑) ทาใหเ้ รืออยู่ในสภาพที่สามารถเดินทะเลไดอ้ ย่างปลอดภัยในเส้นทางเดินเรือนน้ั
(๒) จดั ใหม้ ีคนประจาเรือ เครือ่ งมือ เครือ่ งใช้ เครือ่ งอุปกรณ์ และสิง่ จาเป็นใหเ้ หมาะสมแกค่ วามต้องการสาหรับเรอื น้ัน
(๓) จัดระวางบรรทกุ และส่วนอืน่ ๆ ทีใ่ ชบ้ รรทกุ ของให้เหมาะสมและปลอดภัยตามสภาพแหง่ ของที่จะรบั ขนสง่ และรักษา เช่น
เครื่องปรบั อากาศ ห้องเยน็ เปน็ ตน้
ในการปฏบิ ัติหน้าทีต่ ามมาตรานี้ ผขู้ นสง่ ตอ้ งกระทาการทั้งปวงเท่าทีเ่ ป็นธรรมดาและสมควรจะตอ้ งกระทาสาหรบั ผ้ปู ระกอบอาชีพรบั ขน
ของทางทะเล

มาตรา ๙ ถา้ มีความบกพรอ่ งอย่างใดอย่างหนึง่ ตามมาตรา ๘ เกดิ ข้นึ หลงั จากบรรทุกของลงเรือหรือเมือ่ เรือนน้ั ออกเดินทางแล้ว ผ้ขู นส่ง
จะตอ้ งจดั การแกไ้ ขความบกพรอ่ งนั้นโดยเร็วทสี่ ุดเท่าทอี่ ยใู่ นวิสัยทผี่ ้ปู ระกอบอาชพี รบั ขนของทางทะเลจะทาได้ในภาวะเช่นนน้ั

มาตรา ๑๐ ผขู้ นส่งตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั และปฏบิ ัติการให้เหมาะสมในการบรรทกุ ลงเรอื การยกขน การเคลือ่ นย้าย การเกบ็ รักษา
การดแู ลและการขนถา่ ยซึ่งของที่ตนทาการขนสง่

มาตรา ๑๑ ผู้ขนสง่ มีสิทธิบรรทุกของบนปากระวางเฉพาะในกรณีทไี่ ดต้ กลงกับผ้สู ่งของ หรือเป็นการกระทาตามที่กฎหมายบญั ญตั ิ
หรือเปน็ การปฏิบัตติ ามประเพณีทางการคา้ เกีย่ วกับการบรรทกุ ของเช่นนน้ั

ถ้าผู้ขนส่งและผสู้ ่งของตกลงกนั ให้บรรทุกหรอื อาจบรรทกุ ของบนปากระวางได้ผขู้ นส่งต้องจดแจ้งข้อตกลงดงั กลา่ วไว้ในใบตราส่ง
หรือเอกสารอน่ื อนั เปน็ หลกั ฐานแหง่ สัญญารบั ขนของทางทะเลในกรณีทไี่ มม่ ีการออกใบตราส่ง

ถา้ ไมม่ ีการจดแจง้ ข้อความในใบตราสง่ หรือเอกสารอืน่ ตามวรรคสองหากผู้ขนส่งอ้างว่ามีข้อตกลงกนั ให้ผขู้ นสง่ มีหน้าที่พสิ ูจนถ์ ึง
ขอ้ ตกลงน้นั แต่จะยกขึน้ เป็นขอ้ ตอ่ สผู้ รู้ ับตราส่งหรือบคุ คลภายนอกซึง่ ไดใ้ บตราส่งหรือเอกสารอน่ื มาโดยไม่รูถ้ งึ ข้อตกลงนัน้ มิได้

ถ้ามีการบรรทุกของบนปากระวางโดยขัดต่อบทบัญญตั ใิ นวรรคหนงึ่ หรอื ในกรณที ไี่ ม่ไดจ้ ดแจ้งข้อตกลงไวใ้ นใบตราสง่ หรอื เอกสารอ่นื
ตามวรรคสาม มิให้นาบทบญั ญตั ใิ นมาตรา ๑ มาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ หรือมาตรา ๕๖ มาใชบ้ ังคบั

ในกรณที ี่มีความตกลงโดยชัดแจ้งระหวา่ งผูข้ นสง่ กบั ผสู้ ง่ ของใหบ้ รรทุกของใดในระวาง ถ้าผ้ขู นสง่ บรรทกุ ของนั้นบนปากระวาง
ให้ถือว่าผ้ขู นสง่ กระทาการหรืองดเว้นกระทาการตามมาตรา ๖๐ (๑)

มาตรา ๑๒ เมือ่ ผูข้ นสง่ ได้รับของไว้ในความดแู ลแล้ว ถ้าผูส้ ง่ ของเรียกเอาใบตราส่ง ผู้ขนส่งต้องออกให้

มาตรา ๑๓ เมือ่ ได้บรรทุกของลงเรือเสรจ็ แล้ว ถา้ ผ้สู ่งของเรียกเอาใบตราสง่ ชนิด “บรรทุกแลว้ ” ผู้ขนสง่ ตอ้ งออกให้

มาตรา ๑๔ เมื่อได้ขนของไปถึงท่าปลายทางหรือที่หมายปลายทางตามที่ตกลงกันไว้ และพร้อมที่จะส่งมอบของนั้นแล้ว ผู้
ขนส่งมีสทิ ธิได้รับค่าระวางและอุปกรณ์แห่งค่าระวาง เว้นแต่จะมีข้อกาหนดในใบตราส่งหรือได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญารับ
ขนของทางทะเล

มาตรา ๑๕ ผู้ขนส่งชอบที่จะยึดหน่วงของไว้จนกวา่ จะได้รบั ชาระคา่ ระวางและอุปกรณแ์ ห่งค่าระวาง หรือจนกว่าผู้รับตราส่งจะ
ไดจ้ ัดใหม้ ีประกันตามควร

มาตรา ๑๖ เมือ่ ของไปถึงท่าปลายทางหรือที่หมายปลายทางตามที่ตกลงกนั ไว้แลว้ ผู้ขนสง่ ต้องบอกกล่าวแกผ่ ู้รับตราส่งโดยไม่ชกั ชา้

มาตรา ๑๗ ขอ้ กาหนดใดในสัญญารับขนของทางทะเลซึ่งมีวัตถุประสงค์หรือมีผลไม่ว่าโดยตรงหรือโดยปริยายดังต่อไปนี้ ข้อกาหนด
น้นั เป็นโมฆะ

(๑) ปลดเปลอ้ื งผ้ขู นสง่ จากหนา้ ทีห่ รือความรับผดิ ใดๆ ตามที่บญั ญตั ไิ ว้ในพระราชบญั ญตั นิ ี้

(๒) กาหนดความรบั ผดิ ของผขู้ นส่งให้นอ้ ยกวา่ ที่กาหนดไวใ้ นมาตรา ๕๘ หรือมาตรา ๖๐

(๓) ปดั ภาระการพสิ จู นซ์ ึง่ พระราชบัญญตั นิ ี้กาหนดใหเ้ ป็นหนา้ ทีข่ องผ้ขู นส่งไปใหผ้ ู้สง่ ของหรือบุคคลภายนอกเป็นผ้พู สิ ูจน์

(๔) ใหผ้ ขู้ นส่งเปน็ ผู้รับประโยชนใ์ นสัญญาประกนั ภยั แห่งของตามสัญญารบั ขนของทางทะเลอันเปน็ วัตถุทีเ่ อาประกันภยั

ความเป็นโมฆะของข้อกาหนดตามวรรคหนึ่งไม่กระทบกระทั่งถึงความสมบูรณ์ของข้อกาหนดอื่นในสัญญาน้ัน และให้ถือว่าคู่สัญญา
ได้เจตนาใหข้ อ้ กาหนดอ่นื น้นั แยกออกต่างหากจากขอ้ กาหนดทีเ่ ปน็ โมฆะตามวรรคหนึง่

บทบัญญัติในมาตรานี้ไม่ตัดสิทธิคู่กรณีที่จะตกลงกันกาหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ขนส่งให้มากขึ้นกว่าที่บัญญัติไว้ใน
พระราชบญั ญตั นิ ี้

หมวด ๒ ใบตราสง่

มาตรา ๑๘ ใบตราส่งพงึ แสดงรายการดงั ต่อไปนี้
(๑) ลักษณะทั่วไปแห่งของ เครื่องหมายที่จาเป็นเพื่อบ่งตัวของ ข้อความที่แจ้งลักษณะอันตรายแห่งของ หากจะต้องมี จานวน

หน่วยการขนส่ง และน้าหนักของหรือปรมิ าณอย่างอืน่ ทั้งนี้ ตามทีผ่ สู้ ่งของแจง้ หรือจัดให้
(๒) สภาพแห่งของเทา่ ทีเ่ หน็ ได้จากภายนอก
(๓) ชื่อและสานกั งานของผู้ขนสง่
(๔) ชื่อของผู้ส่งของ
(๕) ชื่อของผู้รบั ตราสง่ ถ้าผสู้ ่งของระบุไว้

(๖) ค่าระวางเทา่ ทีผ่ ู้รบั ตราสง่ จะตอ้ งจา่ ย หรือข้อความแสดงวา่ ผรู้ ับตราส่งเป็นผจู้ า่ ยคา่ ระวางและค่าเรือเสียเวลาในการ
บรรทกุ ของลงเรือ ณ ท่าต้นทาง

(๗) ทา่ ต้นทางที่บรรทกุ ของลงเรอื ตามสญั ญารบั ขนของทางทะเลและวันทผี่ ขู้ นสง่ รับของเขา้ มาอยู่ในความดูแล
(๘) ทา่ ปลายทางที่ขนถา่ ยของขึน้ จากเรอื ตามสญั ญารบั ขนของทางทะเล
(๙) ข้อความแสดงวา่ ของนั้นใหบ้ รรทกุ บนปากระวางหรืออาจบรรทกุ บนปากระวางได้
(๑๐) วันหรือระยะเวลาส่งมอบของ ณ ทา่ ปลายทางที่ขนถา่ ยของขึ้นจากเรือ ถ้าคูส่ ญั ญาไดต้ กลงกันไว้
(๑๑) ข้อจากัดความรับผดิ ซึง่ มากกว่าที่กาหนดไว้ในมาตรา ๕๘
(๑๒) สถานที่และวันทอี่ อกใบตราสง่
(๑๓) จานวนตน้ ฉบับใบตราสง่ ทีอ่ อก
(๑๔) ลายมือชอ่ื ผู้ขนส่งหรือตัวแทนผู้ขนส่ง

มาตรา ๑๙ ใบตราส่งชนิด “บรรทุกแล้ว” ตามมาตรา ๑๓ นอกจากจะมีรายการตามมาตรา ๑๘ แล้ว ให้ระบุชื่อเรือที่รับบรรทุก
ของและวันที่บรรทุกของนน้ั ลงเรือเสร็จแลว้ ดว้ ย

มาตรา ๒๐ ในกรณีที่ผู้ขนส่งได้ออกใบตราส่งหรือเอกสารสิทธิอย่างอื่นที่เก่ียวข้องกับของให้แก่ผู้ส่งของไว้ก่อนบรรทุกของลงเรือ
ถา้ ผู้สง่ ของขอใหผ้ ขู้ นส่งออกใบตราส่งชนิด “บรรทกุ แลว้ ” ผสู้ ่งของต้องคนื ใบตราสง่ หรือเอกสารดงั กล่าวให้แก่ผขู้ นสง่ เพื่อแลกกับใบตรา
ส่งชนิด “บรรทุกแล้ว” ในการนีผ้ ู้ขนส่งอาจทาให้โดยแก้ไขใบตราส่งหรือเอกสารดังกล่าวให้เป็นใบตราส่งชนิด “บรรทุกแล้ว” ก็ได้ ถ้าใบ
ตราส่งหรือเอกสารที่แกไ้ ขแลว้ นัน้ มีรายการตา่ งๆ ครบถว้ นตามที่ใบตราส่งชนิด “บรรทกุ แลว้ ” จะพงึ มี

มาตรา ๒๑ ใบตราส่งที่ออกโดยผู้ขนส่งมีรายการไม่ครบตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๑๙ ใบตราส่งน้ันยังคงมีฐานะทาง
กฎหมายเป็นใบตราสง่ ถา้ มีขอ้ ความครบลักษณะเป็นใบตราส่งตามมาตรา ๓

มาตรา ๒๒ ใบตราสง่ ใดไมม่ ีข้อความตามมาตรา ๑๘ (๖)ให้สันนิษฐานไว้กอ่ นว่าผู้รับตราส่งไมต่ ้องจา่ ยคา่ ระวางและค่าเรือเสียเวลา
ในการบรรทุกของลงเรือ ณ ท่าต้นทาง แต่ถ้าใบตราส่งนั้นได้โอนไปยังผู้รับตราส่งหรือบุคคลภายนอกซึ่งได้กระทาการโดยสุจริตโดยเชื่อ
ใบตราสง่ นั้น ห้ามมิให้ผขู้ นส่งพิสจู นเ์ ปน็ อย่างอื่น

มาตรา ๒๓ ในกรณที ี่ผสู้ ง่ ของเป็นผู้แจ้งหรือจัดให้ซึ่งข้อความในใบตราส่งเก่ียวกับลักษณะทั่วไปแห่งของ เครื่องหมายที่จาเป็นเพื่อบ่ง
ตัวของ จานวนหน่วยการขนส่งน้าหนักของหรือปริมาณอย่างอื่น ถ้าผู้ขนส่งหรือบุคคลอื่นซึ่งออกใบตราส่งในนามของผู้ขนส่งทราบ หรือมี
เหตุอันควรสงสัยว่าข้อความดังกล่าวไม่ถูกต้องตรงกับของที่รับไว้จริง หรือไม่ถูกต้องตรงกับของที่ได้รับบรรทุกไว้จริงในกรณีที่มีการ ออกใบ
ตราส่งชนิด “บรรทุกแล้ว” หรือไม่อาจตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงของรายการดังกล่าวในใบตราส่งโดยวิธีการอันสมควรแก่วิสัยและ
พฤติการณ์ในภาวะเช่นนั้นได้ บุคคลดังกล่าวต้องบันทึกเป็นข้อสงวนไว้ในใบตราส่งโดยระบุถึงข้อที่ไม่ตรงกับความจริง เหตุแห่งความสงสัย
หรือพฤติการณท์ ีไ่ มอ่ าจตรวจสอบความถูกต้องแท้จริงได้ แลว้ แต่กรณี

มาตรา ๒๔ ถา้ ผู้ขนสง่ หรือบุคคลอน่ื ซึ่งออกใบตราส่งในนามของผู้ขนส่งมิได้บันทึกสภาพแห่งของเท่าที่เห็นได้จากภายนอกไว้ในใบตรา
ส่งใหถ้ ือว่าของตามใบตราส่งนน้ั มีสภาพภายนอกเรียบร้อย

มาตรา ๒๕ ถ้ามิได้บันทึกเป็นข้อสงวนไว้ในใบตราส่งตามมาตรา ๒๓ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ขนส่งได้รับของไว้หรือได้บรรทุกของลง
เรือในกรณีที่เป็นใบตราส่งชนิด “บรรทุกแล้ว” ทั้งนี้ ตามรายการที่แสดงไว้ในใบตราส่งน้ัน แต่ถ้าใบตราส่งใดได้โอนไปยังผู้รับตราส่งหรือ
บุคคลภายนอกซึ่งไดก้ ระทาการโดยสุจริต โดยเช่อื ตามขอ้ ความในใบตราส่งนนั้ แล้ว หา้ มมิให้ผ้ขู นสง่ พิสจู น์เป็นอย่างอืน่

มาตรา ๒๖ ในกรณีที่ได้ออกใบตราส่งใหแ้ ก่กันไว้ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ขนส่งกับผู้รับตราส่งในเรื่องท้ังหลายเกี่ยวกับการขนส่งของที่
ระบุไวใ้ นใบตราส่งน้ัน ใหเ้ ป็นไปตามข้อกาหนดในใบตราสง่

มาตรา ๒๗ ใบตราสง่ ใดแมจ้ ะได้ออกใหแ้ ก่บคุ คลใดโดยนามก็ยงั อาจโอนให้กนั ไดโ้ ดยการสลกั หลงั เวน้ แตจ่ ะมีขอ้ กาหนดหา้ มการสลกั หลัง
ไว้ในใบตราส่งนั้น

มาตรา ๒๘ เมื่อไดอ้ อกใบตราสง่ ใหแ้ กก่ ันไว้แลว้ ผูร้ บั ตราสง่ จะเรียกให้สง่ มอบของได้ตอ่ เมื่อเวนคืนใบตราสง่ นั้นแกผ่ ขู้ นส่งหรอื ใหป้ ระกัน
ตามควร

มาตรา ๒๙ ในกรณีที่ได้ออกใบตราสง่ ให้แก่กนั ไวโ้ ดยมีตน้ ฉบับมากกวา่ หนงึ่ ฉบบั และของไดถ้ ึงทา่ ปลายทางหรือที่หมายปลายทางแลว้

(๑) แมผ้ ้รู บั ตราสง่ จะนาตน้ ฉบับใบตราส่งมาเวนคืนเพียงฉบับเดยี วผู้ขนส่งกจ็ าต้องสง่ มอบของให้ และเมือ่ ผขู้ นสง่ ได้สง่ มอบของแลว้ ให้ใบ
ตราส่งฉบับอื่นๆ ที่ยงั ไม่ไดเ้ วนคืนเป็นอนั ส้นิ ผล

(๒) ก่อนหรือในระหวา่ งการสง่ มอบของ ถ้าปรากฏวา่ มีผรู้ บั ตราสง่ มากกวา่ หนึ่งคนเรียกใหส้ ง่ มอบของรายเดยี วกนั โดยแต่ละคนตา่ งมี
ต้นฉบบั ใบตราส่งมาเวนคืนให้ ให้ผู้ขนส่งนาของทง้ั หมดหรอื ของสว่ นที่ยงั ไม่ได้ส่งมอบไปฝากไว้ ณ สานักงานวางทรพั ย์และให้นาบทบญั ญตั มิ าตรา
๓๓๓ แหง่ ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์มาใชบ้ ังคบั โดยอนุโลม

มาตรา ๓๐ ในกรณีทีไ่ ดอ้ อกใบตราสง่ ใหแ้ ก่กันไว้โดยมีต้นฉบับมากกว่าหนึง่ ฉบบั ในระหว่างทีข่ องยังไปไม่ถงึ ท่าปลายทางหรือทหี่ มาย
ปลายทาง ผขู้ นส่งไม่จาต้องสง่ มอบของน้นั แก่บคุ คลใด เวน้ แต่จะไดร้ บั เวนคืนตน้ ฉบบั ใบตราส่งท้ังหมดทอี่ อกใหแ้ กก่ ันไว้

ถา้ ผ้ขู นส่งส่งมอบของไปโดยทีย่ งั ไม่ได้รับเวนคืนใบตราสง่ ทั้งหมดผูข้ นส่งต้องรบั ผิดตอ่ ผรู้ ับตราส่งซึง่ มีตน้ ฉบบั ใบตราส่งที่ยังไม่ได้เวนคืน

หมวด ๓ หนา้ ที่และสิทธิของผู้ส่งของ

มาตรา ๓๑ ผู้ส่งของไม่ต้องรับผิดเพื่อการที่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นได้รับความเสียหายหรือการที่เรือเสียหาย เว้นแต่จะเป็นเหตุมาจาก
ความผิดหรือประมาทเลินเล่อของผู้ส่งของหรือตัวแทนหรือลูกจ้างของผู้ส่งของหรือจากสภาพแห่งของนั้นเอง โดยผู้ส่งของมิได้ปฏิบัติ
ตามกฎหมายหรือประเพณีทางการค้าเก่ยี วกับการส่งของนน้ั

มาตรา ๓๒ ถ้าผู้ส่งของได้แจ้งหรือจัดให้ซึ่งข้อความตามมาตรา ๒๓ เพื่อให้ผู้ขนส่งบันทึกข้อความนั้นไว้ในใบตราส่ง และเมื่อได้
บนั ทึกให้ตามนนั้ แลว้ ให้ถือวา่ ผูส้ ง่ ของได้รับรองกับผขู้ นสง่ วา่ ข้อความที่แจ้งหรือจดั ให้น้นั ถกู ตอ้ งตรงกับความเป็นจริงเกี่ยวกับของนั้นทุก
ประการ

ถ้ามีความเสียหายใดๆ เกิดขึน้ เนือ่ งจากความไม่ถูกต้องแท้จริงของข้อความตามวรรคหนึ่ง ผู้ส่งของต้องรับผิดชดใช้ความเสียหาย
ให้แก่ผู้ขนส่งแม้ว่าผู้ส่งของจะได้โอนใบตราส่งน้ันให้แก่บุคคลภายนอกไปแล้วก็ตาม แต่ท้ังนี้ ผู้ขนส่งยังคงต้องรับผิดตามสัญญารับขน
ของทางทะเลตอ่ บคุ คลภายนอก

มาตรา ๓๓ ของใดที่มีสภาพอันก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น ไวไฟ หรืออาจเกิดระเบิด หรืออาจเป็นอันตรายโดยประการอื่น ผู้
สง่ ของต้องทาเครื่องหมายหรือปดิ ปา้ ยตามสมควรเพื่อให้รู้วา่ ของนั้นมีอนั ตราย

เมื่อส่งของตามวรรคหนึ่งให้แก่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่น ผู้ส่งของต้องแจ้งให้ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นทราบถึงสภาพอันตรายแห่ง
ของน้ัน และในกรณีที่ผู้ขนสง่ หรือผู้ขนส่งอื่นรอ้ งขอ ใหผ้ สู้ ่งของแจง้ ขอ้ ควรระวงั และวิธีปอ้ งกันอันตรายให้ทราบด้วย

มาตรา ๓๔ ถ้าผู้ส่งของไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๓๓ และผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นไม่ทราบถึงสภาพอันตรายแห่งของน้ัน สิทธิและ
หนา้ ทีข่ องผู้ส่งของ ผขู้ นส่ง และผขู้ นส่งอื่นมีดงั ต่อไปนี้

(๑) ไม่ว่าเวลาใดๆ ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นอาจขนถ่ายของน้ันขึ้นจากเรือ ทาลาย หรือทาให้หมดฤทธิ์ ตามความจาเป็นแห่ง
กรณี โดยไมต่ อ้ งชดใชค้ า่ สินไหมทดแทน

(๒) ผสู้ ่งของยงั คงตอ้ งรบั ผดิ ในความเสียหายหรือค่าใชจ้ ่ายท้ังปวงอันเกดิ ขน้ึ หรือเป็นผลเนือ่ งจากการขนส่งของนั้น นอกจาก
คา่ ใชจ้ ่ายตาม (๑)

มาตรา ๓๕ แม้ว่าผู้ส่งของจะได้ปฏิบัติตามมาตรา ๓๓ แล้ว หรือผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นได้รับบรรทุกของตามมาตรา ๓๓ วรรค
หนึ่ง โดยรู้ถึงสภาพอันตรายแห่งของน้ันก็ตาม แต่ถ้าปรากฏในภายหลังว่าของนั้นจะเกิดเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือทรัพย์สินขึ้นอย่างแน่
ชัด ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นอาจขนถ่ายของน้ันขึ้นจากเรือ ทาลาย หรือทาให้หมดฤทธิ์ตามความจาเป็นแห่งกรณีได้ โดยไม่ต้องชดใช้ค่า
สินไหมทดแทน เว้นแต่เป็นกรณีที่ผู้ขนส่งต้องรับผิดตามมาตรา ๓๙ โดยไม่อาจอ้างข้อยกเว้นความรับผิดตามมาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒
มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ หรือมาตรา ๕๖ ได้

มาตรา ๓๖ ในระหว่างที่ของอยู่ในความดูแลของผู้ขนส่ง ผู้ส่งของจะส่ังให้ผู้ขนส่งงดการส่งของนั้นไป ส่งกลับคืนมา ระงับการส่ง
มอบแก่ผู้รับตราส่ง หรือจัดการแก่ของน้ันเป็นประการอื่นก็ได้ แต่ต้องเวนคืนต้นฉบับใบตราส่งท้ังหมดที่ออกให้แก่กันไว้แก่ผู้ขนส่ง ใ น
กรณเี ชน่ นี้ ผูข้ นสง่ มีสิทธิได้รับค่าใชจ้ ่ายที่ได้เสยี ไปเพือ่ จัดการในการขนสง่ หรือตามคาสั่งของผ้สู ่งของและมีสิทธิไดร้ ับคา่ ระวางตามส่วน
แห่งระยะทางที่ไดจ้ ัดการขนสง่ ไปแล้ว

ถ้าได้จัดการไปตามคาส่ังของผู้ส่งของโดยยังไม่ได้รับเวนคืนต้นฉบับใบตราส่งท้ังหมด ผู้ขนส่งต้องรับผิดต่อผู้รับตราส่งซึ่งมีใบตรา
สง่ ฉบบั ที่ยงั ไมไ่ ด้เวนคืน

มาตรา ๓๗ ถา้ ผ้ขู นสง่ หรือผู้ขนส่งอืน่ ได้รับความเสียหายเนื่องจากความผดิ หรือประมาทเลินเล่อของผู้ส่งของหรือตัวแทน
หรือลูกจ้างของผู้ส่งของ ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นน้ันต้องส่งคาบอกกล่าวเป็นหนังสือแก่ผู้ส่งของหรือตัวแทนว่าได้เกิดความ
เสียหายพร้อมท้ังแจ้งให้ทราบถึงสภาพโดยทั่วไปของความเสียหายดังกล่าวภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้เกิดความเสียหาย
หรือวันที่ส่งมอบของตามมาตรา ๔๐ แล้วแต่วันใดจะเป็นวันหลัง มิฉะน้ันให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นไม่ได้รับ
ความเสียหายน้ัน

มาตรา ๓๘ ในกรณที ี่ผสู้ ง่ ของขอให้ผขู้ นสง่ หรือตัวแทนออกใบตราส่งให้แก่ตนโดยไม่ต้องบันทึกข้อสงวนเก่ียวกับรายการ
ใดๆ ในใบตราส่งและให้ใบตราส่งมีข้อความตามที่ผู้ส่งของได้แจ้งหรือจัดให้ หรือโดยไม่มีข้อสงวนเกี่ยวกับสภาพภายนอกแห่ง
ของในใบตราส่งนั้น และผู้ส่งของรับรองหรือตกลงว่าตนยินยอมชดใช้ค่าเสียหายอันเกิดจากการออกใบตราส่งนั้น คารับรอง
หรือขอ้ ตกลงดงั กล่าวจะใชย้ นั ผูร้ ับตราสง่ หรือบุคคลภายนอกผรู้ บั โอนใบตราส่งนนั้ มิได้

หมวด ๔ ความรบั ผิดของผู้ขนสง่

มาตรา ๓๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ มาตรา ๕๔ มาตรา ๕๕ มาตรา ๕๖ และมาตรา ๕๘ ผู้ขนส่งต้องรับผิด
เพื่อความเสียหายอันเป็นผลจากการที่ของซึ่งได้รับมอบจากผู้ส่งของ สูญหาย เสียหาย หรือมีการส่งมอบชักช้า ถ้าเหตุแห่งการ
สูญหาย เสียหาย หรือการสง่ มอบชกั ช้านน้ั ได้เกดิ ข้นึ ในระหว่างที่ของดงั กลา่ วอยใู่ นความดูแลของตน

เพือ่ ประโยชน์แหง่ มาตรานี้ ให้ถือว่าของอยูใ่ นความดูแลของผูข้ นส่งนบั ตง้ั แตเ่ วลาที่ผู้ขนส่งได้รับของนั้นไว้จากผู้ส่งของ หรือ
ตัวแทนผูส้ ง่ ของหรือจากเจ้าหนา้ ที่หรือบคุ คลใดๆ ซึง่ กฎหมายหรือกฎขอ้ บงั คบั ที่ใช้อยู่ ณ ท่าต้นทางที่บรรทุกของลงเรือกาหนดให้
ผสู้ ่งของต้องมอบของที่จะขนสง่ ไวก้ บั เจา้ หน้าที่หรือบุคคลดังกล่าวจนถึงเวลาทีผ่ ูข้ นส่งสง่ มอบของนั้น ณ ท่าปลายทางหรือที่หมาย
ปลายทางตามที่กาหนดไวใ้ นมาตรา ๔๐

มาตรา ๔๐ ในกรณดี งั ตอ่ ไปนี้ ให้ถือว่าผขู้ นสง่ ไดส้ ่งมอบของซึ่งตนไดร้ ับไว้แล้ว

(๑) ผู้ขนสง่ ได้มอบของใหแ้ กผ่ ้รู ับตราสง่ แลว้

(๒) ในกรณที ี่ผูร้ ับตราส่งไม่มารับของจากผขู้ นส่ง ผ้ขู นสง่ ได้จดั การอย่างหนึง่ อยา่ งใดแกข่ องนัน้ ตามทีก่ าหนดไวใ้ นสญั ญารบั ขนของ
ทางทะเล หรือตามกฎหมายที่ใช้บงั คบั หรอื ประเพณีทางการค้าที่ถอื ปฏิบตั กิ ันอยู่ ณ ทา่ ปลายทางแลว้ หรือ

(๓) ผ้ขู นส่งได้มอบของไว้กบั เจา้ หนา้ ที่หรอื บคุ คลใดๆ ซึ่งกฎหมายหรือกฎขอ้ บงั คบั ทีใ่ ชอ้ ยู่ ณ ท่าปลายทางกาหนดใหผ้ ู้ขนสง่ ตอ้ งมอบ
ของทีข่ นถ่ายขึ้นจากเรือไว้กับเจ้าหนา้ ทีห่ รอื บุคคลดงั กล่าว

มาตรา ๔๑ การส่งมอบชักช้าตามมาตรา ๓๙ ได้แก่

(๑) ในกรณที ีไ่ ด้กาหนดเวลาสง่ มอบไวก้ ับผู้ส่งของ ผขู้ นส่งไม่ได้สง่ มอบของภายในกาหนดเวลานัน้

(๒) ในกรณีที่ไม่ไดก้ าหนดเวลาส่งมอบไว้ ผขู้ นสง่ ไม่ได้ส่งมอบของภายในกาหนดเวลาอนั ควรที่ผูข้ นสง่ จะส่งมอบตามหน้าที่อันพึง
ปฏบิ ัติได้ ท้ังนี้ โดยคานึงถึงพฤติการณ์แห่งกรณปี ระกอบด้วย

มาตรา ๔๒ ถา้ เวลาได้ล่วงพ้นไปแล้วไม่นอ้ ยกว่าหกสบิ วนั นบั แต่วนั สิน้ กาหนดสง่ มอบหรือกาหนดเวลาอันควรส่งมอบตามมาตรา
๔๑ (๑)หรือ (๒)แล้วแต่กรณี บุคคลซึ่งมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนจะรับมอบของและเรียกค่าเสียหายอันเป็นผลจากการส่งมอบ
ชักช้า หรือจะเรียกค่าสินไหมทดแทนเสมือนว่าของน้ันได้สูญหายสิ้นเชิงก็ได้ ในกรณีนี้ให้นาบทบัญญัติมาตรา ๒๒๗ แห่งประมวล
กฎหมายแพง่ และพาณิชยม์ าใช้บังคบั โดยอนุโลม

มาตรา ๔๓ แม้ว่าผู้ขนส่งจะได้มอบหมายให้ผู้ขนส่งอื่นทาการขนส่งของที่ตนรับขน ผู้ขนส่งก็ยังคงต้องรับผิดเพื่อการสูญหาย
เสียหาย หรือส่งมอบชักช้าแห่งของนั้น และจะต้องรับผิดเพื่อการกระทาของผู้ขนส่งอื่นรวมท้ังลูกจ้างและตัวแทนของผู้ขนส่งอื่น ซึ่งได้
กระทาไปภายในทางการทีจ่ ้าง หรือภายในขอบอานาจของการเป็นตัวแทนน้นั ดว้ ย

มาตรา ๔๔ ให้นาบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของผู้ขนส่งมาใช้บังคับแก่ผู้ขนส่งอื่นเฉพาะการขนส่งในส่วนที่ผู้ขนส่งอื่นได้รับ
มอบหมายดว้ ย

มาตรา ๔๕ เมื่อมีกรณีที่ผู้ขนส่งต้องรับผิดและผู้ขนส่งอื่นจะต้องรับผิดในกรณีเดียวกันนั้นด้วย ให้ผู้ขนส่งและผู้ขนส่งอื่นดังกล่าว
เป็นลกู หนี้รว่ มกัน

มาตรา ๔๖ ภายใต้บังคับมาตรา ๔๗ และมาตรา ๔๘ สิทธิเรียกร้องเอาค่าเสียหายเพื่อการสูญหาย เสียหาย หรือส่งมอบชักช้า
แห่งของที่รับขนตามสัญญารับขนของทางทะเล ถ้าไม่ได้ฟ้องคดีต่อศาลหรือเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้ขาดภายในหนึ่งปีนับ
แต่วันที่ผู้ขนส่งได้ส่งมอบของ หรือถ้าไม่มีการส่งมอบนับแต่วันที่ล่วงเลยกาหนดส่งมอบตามมาตรา ๔๑ (๑)หรือนับแต่วันที่ล่วงเลย
กาหนดเวลาอนั สมควรตามมาตรา ๔๑ (๒)ให้เป็นอนั ขาดอายุความ

มาตรา ๔๗ ก่อนอายุความตามมาตรา ๔๖ จะครบบริบูรณ์ ถ้าฝ่ายที่ถูกเรียกร้องยินยอมโดยทาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายที่
ถูกเรยี กร้องว่าจะไม่ยกอายุความขึ้นเปน็ ข้อต่อสใู้ นกรณที ี่ฝา่ ยที่มสี ิทธิเรียกรอ้ งฟ้องคดตี อ่ ศาลหรือเสนอข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการชี้
ขาด ความยินยอมนีใ้ ห้ใช้บังคับได้

มาตรา ๔๘ สิทธิเรียกรอ้ งคา่ เสียหายอันเปน็ ผลจากการสง่ มอบชักชา้ ย่อมสิ้นไป ถ้าผู้รับตราส่งมิได้ส่งคาบอกกล่าวเป็นหนังสือแก่
ผขู้ นส่งภายในหกสิบวนั นบั แต่วันที่ไดร้ ับมอบของ

มาตรา ๔๙ เมื่อผู้รับตราส่งได้รับมอบของจากผู้ขนส่งหรือจากบุคคลตามมาตรา ๔๐ (๓)ไว้แล้ว ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ขนส่งได้
มอบของซึ่งมีสภาพ จานวน น้าหนัก และรายละเอียดอื่นๆ ตรงตามที่ระบุไว้ในใบตราส่งหรือถ้าไม่ได้ออกใบตราส่งให้ไว้แก่กันให้
สันนิษฐานว่าไดส้ ง่ มอบของซึ่งมีสภาพดี แล้วแตก่ รณี เว้นแต่

(๑) ผู้รับตราส่งหรือบุคคลตามมาตรา ๔๐ (๓) และผู้ขนส่งได้ทาการสารวจ หรือตรวจสภาพของร่วมกันและจดแจ้งการสูญ
หายหรือเสยี หายไวแ้ ลว้ กอ่ นที่ผรู้ บั ตราสง่ จะรบั มอบของ

(๒) ในกรณีที่ไม่มีการสารวจหรือตรวจสภาพของร่วมกันตาม (๑) ผู้รับตราส่งได้ส่งคาบอกกล่าวเป็นหนังสือแก่ผู้ขนส่ง ณ ท่า
ปลายทางกอ่ นรับมอบของตามวรรคหนึ่งหรือภายในหนึ่งวันทาการถัดจากวันรับมอบของว่ามีของสูญหายหรือเสียหายพร้อมท้ังแจ้ง
ถึงสภาพการสูญหายหรือเสียหายนั้นๆ ด้วยหรือในกรณีที่การสูญหาย หรือเสียหายไม่อาจพบหรือเห็นได้จากการตรวจสภาพ
ภายนอกแหง่ ของน้นั ผรู้ ับตราส่งได้สง่ คาบอกกลา่ วภายในสิบหา้ วนั นับแต่วนั รับมอบของ

มาตรา ๕๐ ในกรณที ี่จะต้องส่งคาบอกกลา่ วแกก่ นั ตามมาตรา ๔๘ หรือมาตรา ๔๙ (๒)ถ้ามิได้สง่ คาบอกกล่าวโดยตรงแก่
บุคคลที่จะเป็นผรู้ ับคาบอกกลา่ วนัน้ ใหบ้ งั คับดงั นี้

(๑) ถา้ ได้ส่งคาบอกกล่าวใหแ้ กต่ ัวแทนผขู้ นส่ง หรือนายเรือ หรือเจา้ หนา้ ที่ประจาเรอื ซงึ่ เปน็ ผู้ควบคมุ เรือทผี่ ู้ขนส่งใชท้ าการ
ขนสง่ ให้ถือว่าได้สง่ คาบอกกลา่ วนั้นใหแ้ ก่ผู้ขนสง่ แล้ว

(๒) ถ้าได้สง่ คาบอกกล่าวให้แกต่ ัวแทนผู้ขนสง่ อ่นื หรือนายเรอื หรอื เจา้ หนา้ ทปี่ ระจาเรอื ซงึ่ เปน็ ผ้คู วบคมุ เรือทผี่ ้ขู นสง่ อืน่ ใช้
ทาการขนส่ง ให้ถือว่าได้สง่ คาบอกกล่าวนนั้ ใหแ้ กผ่ ู้ขนสง่ อื่นแล้ว

(๓) ถ้าผ้ขู นสง่ อืน่ เปน็ ผู้สง่ มอบของตามมาตรา ๔๐ การส่งคาบอกกล่าวแก่ผู้ขนส่งอื่นน้นั ให้มีผลเช่นเดียวกบั การส่งคาบอก
กล่าวแกผ่ ขู้ นสง่ และการส่งคาบอกกลา่ วแกผ่ ู้ขนสง่ ก็ให้มีผลเช่นเดยี วกบั การส่งใหแ้ ก่ผู้ขนส่งอืน่ ดว้ ย

หมวด ๕ ขอ้ ยกเวน้ ความรับผิดของผขู้ นสง่

มาตรา ๕๑ ผขู้ นส่งไมต่ ้องรับผดิ เพ่อื การสญู หาย เสียหาย หรือสง่ มอบชักชา้ อนั เกิดขึน้ จากการไมเ่ ปน็ ไปตามมาตรา ๘ วรรคหนึ่ง
ถ้าพิสจู น์ไดว้ า่ ตนปฏบิ ตั ิหน้าที่ตามมาตรา ๘ วรรคสอง หรือมาตรา ๙ แล้ว

มาตรา ๕๒ ผ้ขู นสง่ ไมต่ อ้ งรบั ผดิ เพ่อื การสญู หาย เสียหาย หรือสง่ มอบชักช้า ถ้าพิสูจนไ์ ดว้ า่ การสญู หาย เสียหาย หรือสง่ มอบชกั ชา้
น้นั เกิดขึ้นหรือเป็นผลจาก

(๑) เหตสุ ดุ วสิ ยั
(๒) ภยันตรายหรืออบุ ัตเิ หตุแหง่ ทอ้ งทะเลหรอื น่านนา้ ทีใ่ ชเ้ ดินเรือได้
(๓) การสงครามหรือการสู้รบของกองกาลงั ตดิ อาวธุ
(๔) สงครามกลางเมือง การจลาจล การกอ่ การรา้ ยหรือการก่อการวุ่นวายในบ้านเมือง

(๕) การยึด การจบั การหน่วงเหนยี่ วหรือการแทรกแซงด้วยประการใดๆ ซึ่งกระทาตอ่ เรือ โดยผู้มีอานาจปกครองรัฐหรือดินแดนหรอื
ตามบทบัญญัตแิ หง่ กฎหมาย แต่ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นเหตุมาจากความผดิ หรือประมาทเลินเลอ่ ของผขู้ นสง่

(๖) การใชม้ าตรการปอ้ งกันและปราบปรามโรคติดตอ่

(๗) การนัดหยดุ งาน การปดิ งานงดจ้าง การผละงาน หรือการจงใจทางานล่าชา้ ที่ทา่ เรือ ซึง่ การกระทาดงั กลา่ วเป็นอุปสรรคแก่การ
บรรทกุ หรือขนถ่ายของหรือเป็นอปุ สรรคแกก่ ารทีเ่ รือจะเขา้ หรอื ออกจากทา่ เรือนน้ั

(๘) การกระทาของโจรสลดั

(๙) ความผดิ ของผ้สู ง่ ของหรือผู้รับตราส่ง เช่น การบรรจุหีบหอ่ หรือรวมมดั ไมม่ น่ั คงแข็งแรงหรือไมเ่ หมาะสมกับสภาพแหง่ ของ การทา
เครือ่ งหมายทีข่ องหรือหีบหอ่ ไมช่ ัดเจนหรือไมเ่ พียงพอ

(๑๐) สภาพแหง่ ของนั้นเอง

(๑๑) ความชารุดบกพรอ่ งของเรอื ทีแ่ ฝงอยภู่ ายในซึ่งไมอ่ าจพบเห็นหรือทราบไดด้ ว้ ยการตรวจสอบอย่างระมดั ระวังและโดยใช้
ฝมี ือเทา่ ทีเ่ ปน็ ธรรมดาและสมควรจะต้องใชส้ าหรบั ผู้ประกอบอาชีพตรวจเรอื

(๑๒) ความผดิ พลาดในการเดินเรืออันเกดิ จากความบกพรอ่ งในการปฏิบัตหิ นา้ ทีห่ รือตามคาส่งั ของผนู้ าร่อง

(๑๓) เหตอุ ื่นใดที่มใิ ช่ความผดิ หรอื ประมาทเลนิ เลอ่ หรืออยู่ในความรู้เหน็ ของผูข้ นส่ง และมิใช่ความผิดหรือประมาทเลินเลอ่ ของ
ตวั แทนหรือลูกจ้างของผขู้ นสง่

มาตรา ๕๓ ผ้ขู นส่งไมต่ อ้ งรบั ผดิ เพอ่ื การสูญหาย เสียหาย หรือสง่ มอบชักชา้ อันเกิดจากอัคคีภัย เวน้ แต่ผ้ใู ช้สิทธิเรยี กรอ้ งจะพสิ จู น์
ไดว้ า่ อคั คภี ยั น้ันเกดิ ขึน้ จากความผิด หรือประมาทเลินเลอ่ ของผู้ขนส่งหรอื ตัวแทนหรือลกู จ้างของผ้ขู นส่ง

มาตรา ๕๔ ผขู้ นสง่ ไม่ตอ้ งรบั ผดิ เพ่อื การสูญหาย เสียหาย หรือสง่ มอบชักช้า อนั เป็นผลจากการใชม้ าตรการต่างๆ ทีพ่ ึงกระทา
เพือ่ ระงบั อคั คีภยั หรือหลีกเล่ยี งหรอื บรรเทาผลเสียหายจากอัคคภี ยั เว้นแต่ผใู้ ชส้ ิทธิเรยี กรอ้ งจะพสิ จู นไ์ ด้ว่าเปน็ ความผดิ หรือ
ประมาทเลินเลอ่ ของผู้ขนส่งหรอื ตวั แทนหรือลกู จ้างของผู้ขนส่งในการใช้มาตรการดงั กลา่ ว

มาตรา ๕๕ ผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดเพื่อการสูญหาย เสียหาย หรือส่งมอบชักช้า ถ้าพิสูจน์ได้ว่าการสูญหาย เสียหาย หรือส่งมอบชักช้า
นน้ั เป็นผลจากการใชม้ าตรการทั้งปวง เพือ่ ช่วยชีวติ มนุษยใ์ นทะเล หรือจากการใชม้ าตรการอนั สมควรเพื่อชว่ ยทรพั ย์สินในทะเล แตผ่ ้ขู นส่ง
ยงั คงตอ้ งรบั ผิดตามสว่ นของตนในการเฉลีย่ ความเสียหายทั่วไป ถา้ มี

มาตรา ๕๖ ในการขนส่งสัตว์มีชีวิต ผู้ขนส่งไม่ต้องรับผิดเพื่อการสูญหาย เสียหาย หรือส่งมอบชักช้าอันเป็นผลจากภัยซึ่งมีลักษณะ
พิเศษทีม่ ีประจาอยู่ในการขนส่งสัตวม์ ชี ีวติ หรอื จากสภาพของสัตวน์ นั้ เอง ถา้ พสิ ูจน์ไดว้ ่า

(๑) ผูข้ นส่งไดป้ ฏบิ ตั ิตามคาแนะนาเก่ยี วกบั สัตวน์ ้ันโดยเฉพาะที่ผ้สู ง่ ของได้ให้ไว้แกต่ นแลว้ และ

(๒) ในพฤติการณแ์ หง่ กรณีเชน่ นั้น การสญู หาย เสียหาย หรือส่งมอบชักชา้ อาจเกิดจากภยั หรือสภาพของสตั วด์ ังกลา่ วได้

ความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับถ้าพิสูจน์ได้ว่า การสูญหาย เสียหายหรือส่งมอบชักช้าไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่วน เป็นผลจาก
ความผดิ หรือประมาทเลินเลอ่ ของผู้ขนสง่ หรือตวั แทนหรือลูกจ้างของผู้ขนสง่

มาตรา ๕๗ ถ้าของทข่ี นส่งเป็นเงินตรา ธนาคารบัตร ต๋วั เงนิ พันธบัตร ใบหุ้น ใบหุ้นกู้ ประทวนสินค้า อัญมณีหรือของมีค่าอย่าง
อื่นผู้ขนสง่ ไมต่ อ้ งรบั ผดิ เพ่อื การสญู หายหรือเสยี หายแหง่ ของดงั กล่าว เวน้ แตผ่ สู้ ่งของจะไดแ้ จง้ ใหผ้ ้ขู นส่งทราบถึงสภาพและราคาของ
นนั้ ในเวลาที่นาของมามอบให้

ในกรณที ี่แจ้งราคาของไว้ ให้ผู้ขนสง่ รบั ผิดเพียงไมเ่ กนิ ราคาทีแ่ จง้ ไว้นน้ั

หมวด ๖ ขอ้ จากดั ความรับผิดของผู้ขนส่งและการคิดค่าเสียหาย

มาตรา ๕๘ ภายใตบ้ งั คบั มาตรา ๖๐ ในกรณที ี่ของซึ่งผขู้ นสง่ ได้รบั มอบหมายสูญหายหรอื เสียหายไมว่ ่าทั้งหมดหรอื บางสว่ น ให้จากัด
ความรับผิดของผู้ขนสง่ ไว้เพียงหนึ่งหมื่นบาทต่อหนงึ่ หนว่ ยการขนส่งหรือกิโลกรมั ละสามสิบบาทต่อนา้ หนกั สทุ ธิแหง่ ของนนั้ แลว้ แตเ่ งิน
จานวนใดจะมากกวา่

ในกรณที ีค่ านวณราคาของทีส่ ูญหายหรือเสียหายไดต้ ามมาตรา ๖๑ และปรากฏวา่ ราคาของน้ันตา่ กวา่ ทีจ่ ากัดความรบั ผิดไวต้ าม
วรรคหนึ่ง ใหถ้ ือเอาตามราคาทีค่ านวณได้น้นั

ในกรณีทีม่ กี ารสง่ มอบของชกั ช้า ให้จากัดความรับผดิ ของผ้ขู นสง่ ไวเ้ พียงสองเทา่ ครึง่ ของคา่ ระวางแห่งของเฉพาะทีส่ ง่ มอบชกั ชา้ แต่
รวมกนั ตอ้ งไมเ่ กนิ คา่ ระวางทง้ั หมดตามสญั ญารับขนของทางทะเล

ในกรณที ีผ่ ขู้ นส่งตอ้ งรับผิดทั้งตามวรรคหนงึ่ และวรรคสามโดยมีหนว่ ยการขนสง่ เดียวกันเปน็ มูลแห่งความรับผดิ ใหจ้ ากัดความรับผดิ
ของผขู้ นสง่ ไวไ้ ม่เกนิ จานวนเงินที่กาหนดตามวรรคหนงึ่

มาตรา ๕๙ ในการคานวณว่าเงินจานวนใดจะมากกว่าตามมาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง ใหใ้ ชห้ ลักเกณฑด์ ังตอ่ ไปนี้

(๑) ในกรณที ี่มีการรวมของหลายหนว่ ยการขนสง่ เป็นหนว่ ยการขนสง่ เดยี วกนั ไมว่ า่ จะมีการใช้ภาชนะขนสง่ บรรจหุ รอื รองรับ
หรือไมก่ ็ตาม ถา้ ระบจุ านวนและลกั ษณะของหนว่ ยการขนส่งที่รวมกันนน้ั ไวใ้ นใบตราส่ง ใหถ้ ือว่าของตามใบตราสง่ นั้นมีจานวนหนว่ ย
การขนส่งตามทีร่ ะบุไว้นัน้ แต่ถ้ามิได้ระบุให้ถือว่าของทั้งหมดทรี่ วมเปน็ หนว่ ยการขนส่งเดยี วกันนนั้ เปน็ หนงึ่ หนว่ ยการขนส่ง

(๒) ในกรณที ีต่ ัวภาชนะขนส่งสูญหายหรอื เสียหาย ถ้าผ้ขู นส่งไม่ไดเ้ ปน็ เจา้ ของหรือผู้จดั หาภาชนะขนสง่ น้นั ให้ถือว่าภาชนะขนส่ง
อนั หนึ่งเปน็ ของหนึง่ หนว่ ยการขนส่งอีกต่างหากจากของทีอ่ ยู่ในหรือบนภาชนะขนสง่ นน้ั

มาตรา ๖๐ การจากัดความรับผดิ ของผูข้ นส่งตามมาตรา ๕๘ มิใหใ้ ช้บงั คบั แกก่ รณีดงั ต่อไปนี้

(๑) การสูญหาย เสียหาย หรือส่งมอบชักช้าที่เกิดขึ้นน้ันเป็นผลจากการที่ผู้ขนส่งหรือตัวแทนหรือลูกจ้างของผู้ขนส่งกระทาหรืองด
เว้นกระทาการโดยมีเจตนาที่จะให้เกิดการสูญหาย เสียหาย หรือส่งมอบชักช้า หรือโดยละเลยหรือไม่เอาใจใส่ ทั้งที่รู้ว่าการสูญหาย
เสียหาย หรือสง่ มอบชักชา้ น้ันอาจเกิดขึ้นได้

(๒) ผสู้ ง่ ของและผูข้ นส่งตกลงกันกาหนดความรับผดิ ของผู้ขนส่งไวม้ ากกว่าที่กาหนดไว้ในมาตรา ๕๘ โดยระบุไวใ้ นใบตราสง่

(๓) ผู้ขนสง่ ไดจ้ ดแจ้งรายการใดๆ ไว้ในใบตราส่งตามที่ผู้ส่งของแจง้ หรอื จัดใหโ้ ดยไม่บนั ทึกขอ้ สงวนเกี่ยวกับรายการนั้นไว้ในใบตรา
สง่ ท้ังนี้ โดยมีเจตนาที่จะฉอ้ ฉลผูร้ ับตราส่งหรือบุคคลภายนอกซึ่งกระทาการโดยเช่อื รายการในใบตราสง่ นน้ั

(๔) ผู้สง่ ของได้แจง้ ราคาของทีข่ นสง่ ให้ผ้ขู นสง่ ทราบและผู้ขนส่งยอมรับ โดยแสดงราคาของนน้ั ไว้ในใบตราสง่

ในกรณีตาม (๔)นี้ ถ้าราคาที่คานวณได้ตามมาตรา ๖๑ ต่ากว่าราคาที่แสดงไว้ในใบตราส่ง ให้ผู้ขนส่งรับผิดเพียงเท่าราคาที่คานวณ
ได้นั้นและถา้ ราคาทีค่ านวณไดต้ ามมาตรา ๖๑ สงู กวา่ ราคาทีแ่ สดงไว้ในใบตราส่งให้ผ้ขู นส่งรับผิดเพียงเทา่ ราคาที่แสดงไว้ในใบตราส่ง

มาตรา ๖๑ การคานวณราคาของที่สูญหายหรือเสยี หายตามมาตรา ๕๘ ให้ใชห้ ลักเกณฑด์ ังนี้

(๑) ถา้ ของสญู หายหรือเสียหายทงั้ หมด ใหค้ านวณเท่ากับราคาทีข่ องนั้นจะพึงมีในเวลาที่พงึ สง่ มอบ ณ ทา่ ปลายทาง

(๒) ถ้าของสูญหายหรือเสียหายบางส่วน ให้คานวณตามส่วนโดยเทียบกับราคาของอย่างเดียวกันและคุณภาพเท่า
เทียมกันทีย่ งั เหลืออยู่ในเวลาส่งมอบ ณ ทา่ ปลายทาง

สมาชิกกลมุ่

นางสาวกนกวรรณ คิมสนิท รหัสนกั ศกึ ษา 363342241001
นางสาวณัฐนันท์ อานวยวฒั นกุล รหสั นักศึกษา 363342241009
นางสาวทิพวรรณ อินทร์เชื้อ รหสั นกั ศึกษา 363342241011
นายพนั กร มแี กว้ รหสั นักศึกษา 363342241017
นางสาววรรณติ ษา ยงเขตรก์ ารณ์ รหัสนักศึกษา 363342241022
นางสาววิชญาพร นา้ ใจดี รหัสนักศึกษา 363342241025


Click to View FlipBook Version