The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บทความ proceeding_สังคมฯ _67

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Autsawin, 2024-03-16 14:23:46

บทความ proceeding_สังคมฯ _67

บทความ proceeding_สังคมฯ _67

Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office ก รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับ เครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 14 (Proceedings The 14th Payap University and UNRN Research Symposium 2024) จัดท าโดย มหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับ เครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ปรึกษา ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. สัญชัย จตุรสิทธา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อาจารย์อภิชา อินสุวรรณ มหาวิทยาลัยพายัพ (อธิการบดี) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. วัลภา ทรงพระคุณ มหาวิทยาลัยพายัพ (รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย) บรรณาธิการ ดร. ฐิติ ฐิติจ าเริญพร มหาวิทยาลัยพายัพ กองบรรณาธิการ รองศาสตราจารย์ ดร. ทศพล มูลมณี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ดร. จ าเนียร บุญมาก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ รองศาสตราจารย์เยาวเรศ สมทรัพย์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. ทัดพงศ์ อวิโรธนานนท์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นฤพร เต็งไตรรัตน์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุชาดา เมฆพัฒน์ มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จิรภัทร กิตติวรากูล มหาวิทยาลัยพายัพ อาจารย์ ดร.อัครสิทธิ์ บุญส่งแท้ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่ ดร. กันยารัตน์ เอื้อมอัมพร มหาวิทยาลัยพายัพ นายอัษฎา บุญเรืองยา มหาวิทยาลัยพายัพ นางสาวธนณัฏฐ์ เสนาวงค์ มหาวิทยาลัยพายัพ นางสาวศิรินณา ศิรินภาพันธ์ มหาวิทยาลัยพายัพ นางสาวธารใจ ณ เชียงใหม่ มหาวิทยาลัยพายัพ นายนรเศรษฐ์ สุภารังษี มหาวิทยาลัยพายัพ นางหทัยทิพย์ ตาแส่ง มหาวิทยาลัยพายัพ


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office ข ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ (Peer Review) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ รองศาสตราจารย์เยาวเรศ สมทรัพย์ มหาวิทยาลัยพายัพ รองศาสตราจารย์ ดร. เดชา ท าดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ ภก. สรศักดิ์ เหลี่ยวไชยพันธุ์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. อรอนงค์ ธรรมจินดา มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุกัญญา เขียวสะอาด มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. รุ่งฤดี วงค์ชุม มหาวิทยาลัยพายัพ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นฤพร เต็งไตรรัตน์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เพชรรัช ปะระไทย มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทุติยาภรณ์ จิตตะปาดล มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปาริชาติ ศงสนันทน์ มหาวิทยาลัยพายัพ อาจารย์ ดร. สมนึก สินธุปวน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อาจารย์ ดร. ดิลก เกียรติเลิศนภา มหาวิทยาลัยพายัพ กลุ่มสาขาเศรษฐศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เทียน เลรามัญ มหาวิทยาลัยพายัพ รองศาสตราจารย์ดร. จ าเนียร บุญมาก มหาวิทยาลัยแม่โจ้ รองศาสตราจารย์พรรณนุช ชัยปินชนะ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ทัดพงศ์ อวิโรธนานนท์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ธีราลักษณ์ สัจจะวาที มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กรวีร์ ชัยอมรไพศาล มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กมลทิพย์ ค าใจ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. กัญญ์พัสวี กล่อมธงเจริญ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. ปัทมาวรรณ จินดารักษ์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. จิระ บุรีค า มหาวิทยาลัยพายัพ อาจารย์ ดร. ฐิติ ฐิติจ าเริญพร มหาวิทยาลัยพายัพ อาจารย์ ดร. กนกพร สัยยะสิทธิพาณิชย์ มหาวิทยาลัยพายัพ รองศาสตราจารย์เอนก ชิตเกษร ผู้ทรงคุณวุฒิ


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office ค กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์และสาขานิติศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. หนึ่งหทัย ชัยอาภร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ รองศาสตราจารย์ ดร. ปาริชาติ บัวเจริญ มหาวิทยาลัยพายัพ รองศาสตราจารย์ดร. จารุณี ทิพยมณฑล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รองศาสตราจารย์ดิเรก ควรสมาคม มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. เฉลิมชัย ไชยชมภู มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นงนภัส พันธ์พลกฤต มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. พัชร บุญธีรารักษ์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สรรพร ศิริขันธ์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จักรปรุฬห์ วิชาอัครวิทย์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุรชัย เดขพงษ์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์กษมา เดชรักษา มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์นวกาล สิรารุจานนท์ มหาวิทยาลัยพายัพ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. พัชร บุญธีรารักษ์ มหาวิทยาลัยพายัพ อาจารย์ดร. ดารนีย์ พยัคฆ์กุล มหาวิทยาลัยพายัพ อาจารย์ ดร. ศิรศักดิ์ ศศิวรรณพงศ์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กลุ่มสาขาภาษาศาสตร์ Dr. Robert Fried Payap University Dr. Elissa Ikeda Payap University ปีที่พิมพ์ มีนาคม 2567 จ านวนหน้า 1174 หน้า


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1 ค ำน ำ มหาวิทยาลัยพายัพ เป็นสถาบันการศึกษาเอกชนซึ่งตั้งอยู่ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นชาวล้านนา จึงตระหนัก และเล็งเห็นว่า การพัฒนางานวิจัยควบคู่ไปกับการจัดการความรู้ผ่านระบบการเรียนการสอนทั้งในชั้นเรียนและ นอกชั้นเรียน เป็นรากฐานที่ส าคัญของการน าองค์ความรู้ทางวิชาการไปสู่การประยุกต์ใช้ เพื่อการพัฒนาชุมชน ท้องถิ่น บนพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในระดับชุมชน ท้องถิ่น ภูมิภาค ระดับชาติและนานาชาติ มหาวิทยาลัยพายัพเห็นความส าคัญดังกล่าว จึงได้จัดการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับ เครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 14 (Proceedings The 14 h Payap University and UNRN Research Symposium 2024) ซึ่งเป็นเวทีที่มีบทบาทส าคัญของคณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษา ระดับบัณฑิตศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งหน่วยวิจัยต่าง ๆ ได้ร่วมน าเสนอผลงานวิจัย และเผยแพร่ผลงานทางวิชาการสู่สาธารณชนและชุมชนวิชาการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ความรู้สู่ส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถปรับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งพัฒนาศักยภาพในด้านต่าง ๆ ให้พร้อมต่อการ ก้าว สู่ประชาคมอาเซียนต่อไป


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 2 สำรบัญ หน้ำ ค ำน ำ 1 สำรบัญ 2 ค ากล่าว อาจารย์อภิชา อินสุวรรณ อธิการบดี 10 ค ากล่าว ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สัญชัย จตุรสิทธา ประธานเครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือ ตอนบน 11 ค ากล่าวรายงาน ดร.ฐิติ ฐิติจ าเริญพร ประธานคณะกรรมการด าเนินงานการประชุมวิชาการฯ 12 ประวัติ Keynote speaker ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ 14 กลุ่มสำขำเศรษฐศำสตร์(เฉพำะกลุ่มวิชำเศรษฐศำสตร์ กลุ่มวิชำบริหำรธุรกิจและกลุ่มกำรบัญชี) 16 การจัดสรรการเงินตามแนวทางทฤษฎีใหม่ของประชาชนจังหวัดนนทบุรี อรุณี นรินทรกุล ณ อยุธยา และ วรรณี ชลนภาสถิตย์ 17 อิทธิพลของปัจจัยคุณค่าตราสินค้าที่มีต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของกลุ่มคนวัยท างาน ในกรุงเทพมหานคร เกรียงไกรยศ พันธุ์ไทย วิไลวรรณ ทองประยูร วิไลพรรณ ตาริชกุล พิทยุตม์ โตข า และ ธรรมรัตน์ พลอยเพ็ชร์ 34 คุณภาพการให้บริการจุดรับซื้อมังคุดเจ๊อ้อสุราษฎร์ธานี ต าบลนาใต้ อ าเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี กิ่งเพชร ด่านพัฒนาภูมิ เสกสิต สอนประสม ปิ่นมณี สวัสดีและ ทุติยา ใจเปี่ยม 47 คุณภาพการให้บริการ บริษัทเอสทีการยาง จ ากัด อ าเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี สิริเกศ พูนสุขสมบัติ ชุติกาญจน์ นิธิกิจวาณิชย์และ ทุติยา ใจเปี่ยม 58 การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการท่องเที่ยวกับการใช้จ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศ ของคนไทยวัยท างาน วรรณี ชลนภาสถิตย์และ อรุณี นรินทรกุล ณ อยุธยา 69 อิทธิพลของส่วนประสมทางการตลาดต่อการใช้ Application ในการท าธุรกรรมทางการเงิน พีรพัฒน์ ปิยะจันทร์ อรุณี นรินทรกุล ณ อยุธยา และ วรรณี ชลนภาสถิตย์ 83 ค่าใช้จ่ายในการจัดการมลภาวะของอุตสาหกรรมโรงแรมในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวภาคตะวันออก กษิดิ์เดช จิรเสาวภาคย์และ บัณฑิต ชัยวิชญชาติ 96 การวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนในการติดตั้งชุดโซลาร์เซลล์บนหลังคา: กรณีศึกษา โรงงานอุตสาหกรรม เหล็กและโลหะพื้นฐานยานยนต์ สุรัญยา เจนอักขรกุล 109 การก าหนดราคาตราสารหนี้ผู้มีชีวิตรอดที่อ้างอิงการเสียชีวิตของประชากรไทยด้วยตัวเเบบลี-คาร์เตอร์ ธนกฤต เตชะเทียมจันทร์ และ ปุณฑวิกา นาคา 129 การศึกษาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการท างานผ่านระบบ DIGITIZER ของฝ่ายบริหารหนี้ภูมิภาค ธนาคาร อาคารสงเคราะห์ ช่อทิพย์ สะสม และ รวิดา วิริยกิจจา 142


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 3 สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ ศึกษาเปรียบเทียบผลงานตีพิมพ์บุคลากรสายวิชาการ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ระหว่าง ปีงบประมาณ 2565-2566 ฐิตารีย์ เสนาะค า 155 การพัฒนากลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดสินเชื่อรายย่อยของกลุ่มลูกค้าอาชีพอิสระ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ พื้นที่ เขตเชียงใหม่ ปวีณา กาเกตุ 166 การปรับปรุงขั้นตอนการท างานเพื่อลดความสูญเปล่าของแผนกรับฝากและฝ่ายปฏิบัติการ กรณีศึกษา : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จ ากัด สาขาบางไทร ปิยมน ทรัพย์เขต และ กิตินันท์ มากปรางค์ 178 Recruitment Strategy of Agriculture Enterprise : A Case Study of Jiangsu Xianghe Agricultural Development Co., LTD. Jiang Zhidong Sittichai Farlangthong and Lalita Puangmaha 196 การส ารวจความพึงพอใจของผู้ใช้งานระบบประเมินราคาหลักประกัน GHB D-App ฝ่ายประเมินราคา หลักทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ภาคภูมิ ขอมปรางค์ 208 ผลกระทบของสังคมสูงวัยต่อผลิตภาพรวมภาคเกษตรของไทยในระดับจังหวัด อักษราภัต เฉียดแหลม วลีรัตน์ สุพรรณชาติและ อิทธิพงศ์ มหาธนเศรษฐ์ 221 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ผ่าน Application GHB All Gen ของธนาคารอาคาร สงเคราะห์ ในเขตเชียงใหม่ มลฤดี ทองเพ็ญ 231 แนวทางการเพิ่มยอดการช าระหนี้เงินกู้ผ่านช่องทาง GHB ALL GEN จากกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการช าระหนี้ เงินกู้ผ่านตัวแทนรับช าระหนี้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ณปภัช สุทธิสวัสดิ์ และ อริสรา เสยานนท์ 244 THE EFFECT OF E-ESERVICE QUALITY ON FOREIGN CUSTOMER SATISFACTION OF ONLINE APPAREL STORES Wang Li Lalita Puangmaha and Sittichai Farlangthong 257 แนวทางการเพิ่มความตั้งใจซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. กรณีศึกษากลุ่มลูกค้าสาขา ฝ่ายสาขากรุงเทพและ ปริมณฑล 1 เขตกรุงเทพ-เหนือ สุนิสา อ าลอย และ ธีรข์กรณ์ อุดมรัตนะมณี 270 ปัจจัยที่มีผลต่อการสร้างความพึงพอใจต่อการบริการลูกค้าสินเชื่อ โครงการบ้านล้านหลัง ของธนาคาร อาคารสงเคราะห์ ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล น้ าเพชร ชาระมาตย์ และ ปราณี เอี่ยมละออภักดี 284 Factors Influencing Chinese Customers’ Purchase Intention in Live Streaming Zhang Xu 299


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 4 สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ การศึกษาปัจจัยการรับรู้คุณค่าและการยอมรับเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการซื้อสลากออม ทรัพย์ผ่านแอพพลิเคชั่นของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ จังหวัดเชียงใหม่ ณัฐภัช ปัญญายงค์ 311 ปัจจัยการสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการและภาพลักษณ์ตราสินค้าที่ส่งผลต่อ การตัดสินใจเลือกใช้ บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ของกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ระดับกลางของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในเขต กรุงเทพมหานคร โสภิดา ณ บุญหลง และ อริสรา เสยานนท์ 323 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดเกล็ดดาว พลัส ของลูกค้าธนาคารอาคาร สงเคราะห์ ในเขตกรุงเทพมหานคร ทัศนีย์ สิวะอมรรัตน์และ ปราณี เอี่ยมลออภักดี 335 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการปรับใช้มาตรฐาน GAP ส าหรับการผลิตน้ ายางสดของเกษตรกรสวนยาง ในต าบลแป-ระ อ าเภอท่าแพ จังหวัดสตูล อนัญญา สาครินทร์ ไชยยะ คงมณีและ อรอนงค์ ลองพิชัย 345 การพยากรณ์ประสิทธิภาพระบบการให้บริการทางดิจิทัลด้วยเหมืองข้อมูล (แอปพลิเคชัน MyMo) ชนากานต์ จันทร์และ ประสิทธิ์ สุวรรณี อัศวกุลชัย 357 การค านวณเบี้ยประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ร่วมกับตราสารสิทธิเงินรายปีรับรอง โดยตัวแบบลี-คาร์เตอร์และ ตัวแบบวาซิเซก ธนาคม มุขประดับ และ ปุณฑวิกา นาคา 370 การบริหารจัดการความขัดแย้งที่มีอิทธิพลต่อผลของการท างานของพนักงานธนาคารในภาคตะวันออก เสาวลักษณ์ ชูสง่า 386 ทุนมนุษย์ที่มีผลต่อประสิทธิภาพการท างานของพนักงานในโรงงานผลิตยานยนต์แห่งหนึ่งในจังหวัด สมุทรปราการ นันทยา สุขสวัสดิ์ 398 การพัฒนารูปแบบการสร้างความฉลาดทางวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมภาวะผู้น าส าหรับผู้บริหารธุรกิจระหว่าง ประเทศในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ณัฐพล บัวเปลี่ยนสี และ ปรีดาพร อารักษ์สมบูรณ์ 411 การศึกษาแนวทางการลดปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของลูกค้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในภาค ตะวันออก ปริญญ์ อภิวงศ์วาร และ สุทธาวรรณ ซาโต้ 423 อิทธิพลของส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อกาแฟสดจากร้านคาเฟ่ ในอ าเภอเมือง จังหวัด ล าปาง ชิดชนก ตาค าปัญญา มาตาลี ล าพูล วรัญญา ไทยใหม่และ อัจฉรา เมฆสุวรรณ 436 การประยุกต์ใช้กฎความสัมพันธ์เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการขายสินค้าด้วยอัลกอริทึม FP-Growth : กรณีศึกษา ร้านสะดวกซื้อของบริษัท ABC จิดาภา สว่างพาณิชย์ 447


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 5 สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ อิทธิพลของความไว้วางใจส่งผลต่อความภักดีในตราสินค้าแบรนด์ Apple ของผู้ใช้งานมือถือ อ าเภอเมือง จังหวัดล าปาง ชไมพร ทองค า วรัชยา ลาดสารี กชนิภา จิตแหลม และ อัจฉรา เมฆสุวรรณ์ 460 แนวทางการเพิ่มยอดสินเชื่อโครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ประเภทไม่มีเงินฝาก ของลูกค้าธนาคาร อาคารสงเคราะห์ในเขตกรุงเทพมหานคร ศิรินทิพย์ ปราบณรงค์ และ อริสรา เสยานนท์ 471 การศึกษาแนวทางการตลาดที่ส่งผลต่อความภักดีในการมาใช้บริการวิเคราะห์ ทดสอบ และทดลองทาง วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมของบริษัท VC จ ากัด วิชัย มนูญโย และ อัศวิณ ปสุธรรม 485 การศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนของฟาร์มจิ้งหรีดมาตรฐานจีเอพี ไพฑูรย์ ราษฎร์เจริญ อัมภิณี ลาภสมบูรณ์ดี และ ดนัยกฤต อินทุฤทธิ์ 497 แนวทางการยกระดับคะแนนของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ตามกรอบการประเมินผลงานรัฐวิสาหกิจด้าน Core Business Enabler ส าหรับปีบัญชี 2566 พนมกร แซ่หุ่น และ อัศวิณ ปสุธรรม 512 ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการยกเลิกการใช้บริการผลิตภัณฑ์บัตรเดบิตแบบมีความคุ้มครอง กรณีศึกษา ธนาคารออมสินในพื้นที่อ าเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา วิภาวรรณ เพ็ชร์ธงไชย และ สิริพันธ์ วงศ์อินทวัง 528 แนวทางการสร้างการรับรู้อัตลักษณ์ตราสินค้าและการตลาดบูรณาการกลุ่ม Gen Y ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ เข้าใช้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่าน Application GHB All Gen ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เรืองอุไร งามพิพัฒน์เมตตา และ อริสรา เสยานนท์ 542 ภาพลักษณ์องค์กรและคุณภาพการบริการของธนาคารอาคารสงเคราะห์ที่มีความสัมพันธ์กับความจงรักภักดี ของลูกค้าที่ใช้บริการด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ลัดดา ตองอ่อน 554 ปัจจัยที่ส่งผลต่อความส าเร็จในการจัดการความเสี่ยงของกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรใน ประเทศไทย เกษทิพย์ ศิลปะชัย วรรณวิภา ไตลังคะ และ ชัยวุฒิ จันมา 566 ปัจจัยการพัฒนาแรงงานที่ส่งผลต่อสมรรถนะของแรงงานก่อสร้างระบบรางในประเทศไทย อภิสิทธิ์ สว่างพรม วรรณวิภา ไตลังคะ และ ชัยวุฒิ จันมา 576 ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสลากออมทรัพย์ดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL GEN ของธนาคารอาคาร สงเคราะห์ในเขตจังหวัดพะเยา อภิลักษณ์ เขาพรง และ ปราณี เอี่ยมละออภักดี 585


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 6 สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ กลุ่มสำขำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี (เฉพำะกลุ่มวิชำวิทยำกำรคอมพิวเตอร์ กลุ่มวิชำเทคโนโลยีสำรสนเทศ กลุ่มวิชำวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยีอำหำร) 598 การใช้แป้งไฮโดรไลเซตเป็นแหล่งคาร์บอนทดแทนกากน้ าตาลในการผลิตเอทานอลของ Saccharomyces cerevisiae SC 90 กรองจันทร์ รัตนประดิษฐ์และ สมจิตต์ ปาละกาศ 599 การผลิตเส้นบะหมี่สุขภาพโดยการทดแทนแป้งสาลีด้วยแป้งกล้วยน้ าว้า กนกวลี สุขไชย สันทัด วิเชียรโชติและ รักชนก ภูวพัฒน์ 607 การศึกษาแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไอศกรีม 618 ทิพย์นิภา เอี่ยมเอื้อยุทธ อรวัลภ์ อุปถัมภานนท์และ สุนัน ปานสาคร การศึกษาแนวคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แผ่นเกี๊ยว วรรณภา นนยะโส และ อรวัลภ์ อุปถัมภานนท์ 630 ผลของก าลังไฟไมโครเวฟต่อปริมาณสารพฤกษเคมีและฤทธิ์การต้านออกซิเดชันของสารสกัดดอกทองอุไร น้ าฝน ไทยวงษ์ กุณฑิกา บุญสุภาวงศ์ วุฒิภัทร สุดโต ครองลาภ รูปคม และ ภูวดล แซ่เตียว 641 การออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ต้นแบบส าหรับกดน้ าอัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับวัตถุสิ่งกีดขวางอิน ฟาเรด ไออาร์และเซ็นเซอร์วัดระดับน้ าโดยแจ้งเตือนผ่านแอพพลิเคชั่น Line Notify วรรนิสา ราชนิยม พรทิตา ท านิยม ประมุข แย้มทิม คุณากร นิ่มพิลัย และ สงกรานต์ จรรจลานิมิตร 654 การพัฒนาเกมช่วยสอน วิชาวิทยาการค านวณ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วย Godot Engine ศิริชนก พงศ์ชาญวิทย์และ สิริลักษณ์ บริรักษ์ 672 กลุ่มสำขำวิทยำศำสตร์สุขภำพ 686 การประเมินผลลัพธ์ของการใช้แนวทาง Sepsis Six Bundles of care ในผู้ป่วยติดเชื้อในกระแสเลือด ที่เข้า รับการรักษาที่แผนกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลสังขะ ปรัชญาทวี ป้องญาติ เบญจพร พรหมสูง และ ภาวิณี แพงสุข 687 ประสิทธิผลการดูแลผู้ป่วยมะเร็งแบบประคับประคองที่คาดหวังและที่เกิดขึ้นจริง กันตา โกสุมภ์ พิศมัย จารุจิตติพันธ์และ ณัฐภัสสร ธนาบวรพาณิชย์ 699 การพัฒนารูปแบบส่งเสริมการใช้ยาสมเหตุผลแบบครบวงจรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ศุศราภรณ์ สามประดิษฐ์ คชาพล นิ่มเดช หนึ่งฤทัย สุขาทิพย์ ณัฐณิชา วงศ์ซัยยิด และ อุษณีย์ เอกสุวีรพงษ์ 711 The Comparative Study of The Effectiveness in Treating Back Acne between 0.005% Vitamin D Analogue and 0.025% Vitamin A Cream Siwadol Loetphornphawit and Rassapoom Sumaetheiwit 729 Personal Protective Equipment Use Behaviors – A case study of the blacksmiths in Zambia Vincent Kanyamata Mukwasa and Junjira Mahaboon 743


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 7 สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ กลุ่มสำขำสังคมศำสตร์และนิติศำสตร์ 763 บทบาทการเป็นตัวแปรสื่อของความผาสุกของพนักงานในความสัมพันธ์ระหว่างการสนับสนุนของผู้น าและ พฤติกรรมการแบ่งปันความรู้ของหัวหน้างานสังกัดส านักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขา ณัฏศรินทร์ สว่างอนันกุล และ พิมพ์ชนก เครือสุคนธ์ 764 การพัฒนาแบบทดสอบความรู้และประสบการณ์วิชาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพครู ด้านการวัดประเมินผลการ เรียนรู้ และการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน พิมพ์ทอง สังสุทธิพงศ์ อังษณีภรณ์ ศรีค าสุข ประสิทธิ์ กะตะศิลา และ วัลลภา พรมท้าว 779 คุณลักษณะครูที่สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ในยุคปัจจุบันตามความต้องการของผู้ใช้บัณฑิตครู เดช สาระจันทร์ ประสิทธิ์ กะตะศิลา สาโรช สะอาดเอี่ยม และ วัลลภา พรมท้าว 793 การศึกษาปัจจัยการจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี นิมิตร ศรียาภัย รินรดี ปาปะใน และ อัคครัตน์ พูลกระจ่าง 802 การศึกษาปัญหาการจัดการศึกษาห้องเรียนอาชีพส าหรับนักเรียนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. ของวิทยาลัย สารพัดช่างอุทัยธานี สุชาติ จินดาแจ้ง อัคครัตน์ พูลกระจ่าง และ รินรดี ปาปะใน 814 การศึกษาแนวทางการจัดการอาชีวศึกษาแบบเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน: สาขางานเทคนิคซ่อมตัวถังและสีรถยนต์ ณรงค์ หวังอีน รินรดี ปาปะใน และ อัคครัตน์ พูลกระจ่าง 825 การศึกษาความต้องการจ าเป็นในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะความเป็นพลเมืองดิจิทัลส าหรับการเรียน การสอนอาชีวศึกษา สมศักดิ์ ค าสนิท รินรดี ปาปะใน และ อัคครัตน์ พูลกระจ่าง 841 ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้และแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยในการมาท่องเที่ยววัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช วชิรวิทย์ บัวขาว และ มนทิรา สังข์ทอง 858 ศึกษาความคิดเห็นการพัฒนาบริหารศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร สังกัดส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยใช้หลัก 5M1E วิทวัต ปัญจมะ อัคครัตน์ พูลกระจ่าง และ รินรดี ปาปะใน 871 การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาที่ส่งผลต่อความสามารถของครูในการจัดการเรียนรู้ตาม แนวทางฐานสมรรถนะ ยศธร พลรงค์ พร้อมพิไล บัวสุวรรณ และ มีชัย ออสุวรรณ 884 การศึกษาปัญหาและอุปสรรคและเส้นทางความท้าทายที่มีผลต่อการตัดสินใจไม่ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ของนักเรียนผลการเรียนดี อรพิชา อรุโณทัย พร้อมพิไล บัวสุวรรณ และ วรรณวิศา สืบนุสรณ์ คล้ายจ าแลง 897 แนวทางการจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืนในพื้นที่องค์การบริหารส่วนต าบลสบป่อง อ าเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน วิศรุต โนราช 910


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 8 สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ การศึกษาความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อบทเรียนบนห้องเรียนเสมือนจริง (Virtual Learning) เพื่อส่งเสริม ทักษะปฏิบัติส าหรับครูผู้สอนที่สอนสาขาวิชาเทคนิคยานยนต์ไฟฟ้าในเขตพื้นที่อาชีวศึกษา จังหวัดปราจีนบุรี สมศักดิ์ จินาพันธ์ อัคครัตน์ พูลกระจ่าง และ รินรดี ปาปะใน 923 ความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้การสนับสนุนจากองค์การและความผูกพันในงานของพนักงานปฏิบัติการ บริษัท วีพีเอฟ กรุ๊ป (1973) จ ากัด: บทบาทการเป็นตัวแปรสื่อของการแต่งเติมงาน รวินท์นิภา จิโน และ ทัศนีย์ หอมกลิ่น 934 แนวทางการสร้างขวัญก าลังใจของบุคลากรสายงานสนับสนุนงานบริหารในโรงพยาบาลพร้าว จังหวัด เชียงใหม่ นวพร จารุมณีและ วรพงศ์ ตระการศิรินนท์ 945 การศึกษาผ้าทอไทใหญ่ หมู่บ้านใหม่หมอกจ๋าม ต าบลท่าตอน อ าเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่เพื่อหาแนว ทางการอนุรักษ์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ คุณากร เครือสุวรรณ และ สืบศักดิ์ แสนยาเกียรติคุณ 960 การส ารวจปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุในสถานศึกษา สังกัดส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งถูก ตรวจสอบจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย นิติธร แสนศรี อัคครัตน์ พูลกระจ่าง และ รินรดี ปาปะใน 972 การศึกษาความสัมพันธ์การจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการกับการท างาน (WIL) ที่ส่งผลต่อการฝึกประสบการณ์ วิชาชีพ ในสถานประกอบการ ดรพนม ป่าสนธ์ รินรดี ปาปะใน และ อัคครัตน์ พูลกระจ่าง 982 การพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสู่วิสาหกิจเพื่อสังคมในพื้นที่จังหวัดสงขลา อรทัย ไพยรัตน์ 997 การเข้าถึงระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลของกรมการปกครอง (ThaiD) ในพื้นที่อ าเภอคลอง ลาน จังหวัดก าแพงเพชร หฤษฎ์ชาญ์ คุณสมบัติและ วรพงศ์ ตระการศิรินนท์ 1006 การศึกษาความคิดเห็นการน าระบบสารสนเทศเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนรู้ร่วมกับการฝึกประสบการณ์ วิชาชีพในสถานประกอบการ วสุภัทร กุลเมือง อัคครัตน์ พูลกระจ่าง และ รินรดี ปาปะใน 1017 การศึกษาแนวทางการส่งเสริมคุณธรรม ความโปร่งใสของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดส านักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา วรวุฒิ ด าข า รินรดี ปาปะใน และ อัคครัตน์ พูลกระจ่าง 1031 การศึกษาวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอาหารชาติพันธุ์มูเซอหมู่บ้านปู่หมื่นต าบลแม่สาว อ าเภอแม่อาย จังหวัด เชียงใหม่ เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน คมกฤษณ์ ค าหวาย และ สืบศักดิ์ แสนยาเกียรติคุณ 1043 การอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญางานปั้น-หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ บ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อัศวิน แสงเป็ก และ สราวุธ รูปิน 1058


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 9 สำรบัญ (ต่อ) หน้ำ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในระดับหมู่บ้าน โดยก านันและผู้ใหญ่บ้านของอ าเภอทองแสนขัน จังหวัด อุตรดิตถ์ วุฒิชัย หมั่นท า 1071 บทส ารวจความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับสังคมในการจัดการคลองแม่ข่า อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ สหัสวรรษ ติยะโคตร 1087 การพัฒนาแอปพลิเคชันการเขียนพยัญชนะภาษาไทย ส าหรับผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปาณิศา ทั่งกลาง และ สิริลักษณ์ บริรักษ์ 1098 แนวทางการบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยในโรงเรียนบ้านแม่สลิดหลวงวิทยา ส านักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 2 สุพรรณี สุริยะวงศ์และ ปาริิชาติิ บัิวเจริิญ 1108 ความยั่งยืนของโครงการถังขยะเปียก ลดโลกร้อนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอ าเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชลธิชา ทัตชัย และ วรพงศ์ ตระการศิรินนท์ 1122 กลุ่มสำขำภำษำศำสตร์ 1136 A Diachronic Typological Study on The Evolution of Tonal Complexity in Asian tonal languages Lulu Zou 1137 ภำคผนวก 1149


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 10 เรียน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. สัญชัย จตุรสิทธา / ผศ.ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ / รองอธิการบดี / ผู้ช่วยอธิการบดี /คณบดี / นิสิต / นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน กระผมในนามมหาวิทยาลัยพายัพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับเกียรติจากเครือข่ายบริหารการวิจัย ภาคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในการร่วมจัดการ ประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติมหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับ เครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 14 (The 14th Payap University and UNRN Research Symposium 2024) ในครั้งนี้เป็นการประชุมระดับชาติต่อเนื่องกันเป็นครั้ง ที่ 14 แล้ว กระผมขอขอบคุณนักวิจัยทุกท่าน ที่ให้ความสนใจร่วมส่งบทความวิจัยมาน าเสนอในการประชุมวิชาการ ในครั้งนี้ ถึงแม้การประชุมในครั้งเป็นการประชุมรูปแบบออนไลน์ ในโอกาสที่ท่านได้มาร่วมการประชุมวิชาการและ น าเสนอผลงานวิจัย ผมขอให้การประชุมในครั้งนี้ ประสบความส าเร็จ บรรลุตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ทุก ประการ อำจำรย์อภิชำ อินสุวรรณ อธิกำรบดี


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 11 ศำสตรำจำรย์เกียรติคุณ ดร.สัญชัย จตุรสิทธำ Professor Dr. SANCHAI JATURASITHA ประธำนเครือข่ำยบริหำรกำรวิจัยภำคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ต ำแหน่งปัจจุบัน ผู้อ านวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เรียน อธิการบดี / ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ / รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี / คณบดี / นิสิต / นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน กระผมรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการเสนอ ผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับ เครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน ส านักงาน ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 14 ซึ่งการจัดประชุมวิชาการ เสนอผลงานวิจัยฯ มีการจัดต่อเนื่องทุกปี โดยมีความมุ่งหมายให้ คณาจารย์ นักวิจัย และนิสิต นักศึกษา ระดับ บัณฑิตศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งหน่วยวิจัยต่าง ๆ ได้ร่วมน าเสนอ ผลงานวิจัยและ เผยแพร่ผลงานทางวิชาการสู่สาธารณชน และชุมชนวิชาการ กระผมขอแสดงความชื่นชมกับการเอาใจใส่ในการที่ จะพัฒนาตนเองของทุกท่านที่เข้ามาร่วมประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยในวันนี้ มหาวิทยาลัยพายัพ มีภารกิจ หลักอยู่ด้วยกัน 4 ด้าน คือ การจัดการเรียนการสอน การวิจัย การให้บริการทางวิชาการ และท านุบ ารุง ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งการจัดประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยเป็นรูปแบบหนึ่งของการให้บริการทางวิชาการที่มหาวิทยาลัยได้ ให้ความส าคัญเป็นอย่างยิ่ง ท้ายที่สุดนี้ กระผมขอขอบคุณผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ ที่ปรึกษาอาวุโส หน่วย บริหารจัดการทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข) ส านักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ที่ได้เสียสละเวลามาบรรยายถ่ายทอดประสบการณ์ และให้ ความรู้การด าเนินงานวิจัย เรื่อง "แนวโน้มการวิจัยตามทิศทางของการพัฒนาประเทศ" ขอขอบคุณคณะกรรมการ ด าเนินงาน /ผู้เสนอผลงานวิจัย / หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดการประชุมวิชาการฯ และขอให้การจัดการ ประชุมวิชาการในครั้งนี้ ส าเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ทุกประการ บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้ว กระผมขอเปิดการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัย พายัพ ร่วมกับ เครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 14


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 12 เรียน อธิการบดี / ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. สัญชัย จตุรสิทธา / ท่านวิทยากร ผศ.ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ / รองอธิการบดี / ผู้ช่วยอธิการบดี /คณบดี / นิสิต / นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา และผู้เข้าร่วมประชุมทุกท่าน กระผม อาจารย์ ดร. ฐิติ ฐิติจ าเริญพร ผู้อ านวยการส านักวิจัย ในนามประธานคณะกรรมการด าเนินงาน การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัยพายัพ ขอขอบคุณท่านศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. สัญชัย จตุรสิทธา ประธานเครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) เป็นอย่างสูง ที่ได้กรุณาให้เกียรติร่วมจัดโครงการประชุมวิชาการเสนอ ผลงานวิจัยระดับชาติฯ ซึ่งได้ด าเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 14 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ นักวิชาการ นักวิจัย คณาจารย์ นิสิต/นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา สถาบันอุดมศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน และ หน่วยงานวิจัยต่าง ๆ ได้น าเสนอผลงานวิจัยและเผยแพร่ผลงานวิชาการสู่สาธารณชนและชุมชน เป็นการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้และยกระดับคุณภาพผลงานวิจัยในระดับชาติ รวมทั้งส่งเสริมและสร้างความร่วมมือทางวิชาการ ในการพัฒนาองค์ความรู้ศาสตร์ต่าง ๆ ในประเทศ การจัดงานประชุมฯ ครั้งนี้ มีผู้เสนอผลงานวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ที่ผ่านการประเมินจาก ผู้ทรงคุณวุฒิ จ านวนทั้งสิ้น 88 บทความ โดยมีบทความวิจัยจากสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สถาบันอุดมศึกษา เอกชน และจากหน่วยงานภาครัฐ จาก 5 กลุ่มสาขา ดังนี้ 1) กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์และนิติศาสตร์ 2) กลุ่มสาขา เศรษฐศาสตร์ 3) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี 4) กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ 5) กลุ่มสาขาภาษาศาสตร์ ซึ่งเป็นการน าเสนอภาคบรรยายในรูปแบบออนไลน์ การประชุมวิชาการฯ ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก ผศ.ดร.อัครวิทย์ กาญจนโอภาษ ที่ปรึกษาอาวุโส หน่วย บริหารจัดการทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข) ส านักงานสภานโยบายการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เป็นวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ เรื่อง "แนวโน้มการวิจัยตามทิศทางของการพัฒนาประเทศ" บัดนี้ ได้เวลาสมควรแล้ว กระผมขอเรียนเชิญท่านศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สัญชัย จตุรสิทธา ประธาน เครือข่ายการบริหารวิจัยภาคเหนือตอนบน ผู้อ านวยการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวเปิด ดร.ฐิติ ฐิติจ ำเริญพร ผู้อ ำนวยกำรส ำนักวิจัย ประธานคณะกรรมการด าเนินงานการประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยฯ


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 13 การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ มหาวิทยาลัยพายัพ ร่วมกับ เครือข่ายบริหารการวิจัยภาคเหนือ ตอนบน ส านักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2567 ครั้งที่ 14 ขอเรียนเชิญครับขอเรียนเชิญครับ


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 14 ประวัติกำรศึกษำ Ph.D. (Oceanography-Marine Chemistry เน้น Marine Biotechnology) Scripps Institution of Oceanography, University of California San Diego (ทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) วท.ม. (เทคโนโลยีทางชีวภาพ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ทุนส านักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ, STDB) วท.บ.(อุตสาหกรรมเกษตร) เกียรตินิยมอันดับสอง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประสบกำรณ์ท ำงำน ตุลาคม 2565-ปัจจุบัน ที่ปรึกษาอาวุโส หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข) ส านักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ตุลาคม 2565- กันยายน 2566 ผู้เชี่ยวชาญระดับสูง ส านักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว) รับผิดชอบด้านทรัพย์สินทางปัญญา และการมองอนาคต (FORESIGHT) มีนาคม 2562-สิงหาคม 2565 รองผู้อ านวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี ส านักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ รับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า การแพทย์ และเครื่องมือแพทย์ เกษตรสมัยใหม่ อุตสาหกรรมชีวภาพและไม้เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต Keynote speaker ผศ.ดร.อัครวิทย์ กำญจนโอภำษ ที่ปรึกษาอาวุโส หน่วยบริหารจัดการทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ (บพข) ส านักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) Topic “เรื่อง "แนวโน้มกำรวิจัยตำมทิศทำงของกำรพัฒนำประเทศ"


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 15 การพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจเทคโนโลยีและ STARTUPS และการสนับสนุนความร่วมมือกับ ภาคเอกชน พฤศจิกายน 2559 – สิงหาคม 2565 CEO, FOODINNOPOLIS ศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้ในการจัดตั้งเมืองนวัตกรรมอาหารของประเทศไทย ซึ่งจัดเป็นอุทยานวิทยาศาสตร์ และพื้นที่นวัตกรรมพิเศษ (SPECIAL AREA OF INNOVATION) เฉพาะทางด้านอาหารของประเทศ และการ บริหารจัดการเมืองนวัตกรรมอาหาร พฤศจิกายน 2559 – กุมภาพันธ์ 2562 รองเลขาธิการ ส านักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ บริหารจัดการ และออกแบบนโยบายด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ระบบนิเวศนวัตกรรมที่สนับสนุนภาคเอกชน อุตสาหกรรม และการพัฒนาก าลังคนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและนวัตกรรม และ เลขานุการ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อน BIO, CIRCULAR AND GREEN (BCG) ECONOMY สาขานวัตกรรมและโครงสร้าง พื้นฐาน มกราคม 2558-สิงหาคม 2559 คณะท างานรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์) สิงหาคม 2551-พฤศจิกายน 2559 ผู้อ านวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และคณะท างานเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคใต้และอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยรับต าแหน่งเป็นผู้อ านวยการคนแรก มกราคม พ.ศ. 2537-ปัจจุบัน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพอุตสาหกรรม คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สอนในระดับปริญญาโท/เอก และท างานวิจัยเกี่ยวกับ เทคโนโลยีชีวภาพทางทะเล (MARINE BIOTECHNOLOGY) เน้นเคมีผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจากทะเล (MARINE NATURAL PRODUCTS) จากจุลินทรีย์ในทะเลโดยเฉพาะแบคทีเรียไกลดิง (MARINE GLIDING BACTERIA) จน สามารถแยกและจ าแนกแบคทีเรียไกลดิงจากทะเลชนิดใหม่ของโลกที่แยกได้จากทะเลในประเทศไทยได้หลายชนิด แล ะส ายพั น ธุ์แล ะยังเป็ น ผู้ ริเริ่มก า รส อน วิช าก ารเป็ น ผู้ป ระกอบ ก ารท างด้ าน เท คโนโลยีชี วภ าพ (ENTREPRENEURSHIP IN BIOTECHNOLOGY)


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 763 กลุ่มสาขาสังคมศาสตร์ และนิติศาสตร์


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1058 1 การอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ บ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ Conservation and Development of Sculpture Wisdom Antique Cast Metal Buddha Statue Ban Chang Lo, Mueang District, Chiang Mai Province อัศวิน แสงเป็ก1* และ สราวุธ รูปิน2 Autsawin Sangpek1* and Sarawut Roopin. Phd. 2 บทคัดย่อ การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของการหล่อโลหะแบบโบราณและช่างหล่อพระพุทธรูป โลหะ ตลอดจนเทคนิคการหล่อโลหะแบบล้านนาโดยทั่วไป รวมทั้งการศึกษาบริบทของชุมชน สภาพสังคมและวัฒนธรรม รวมถึง ภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณของชุมชนช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อน าเสนอแนวทาง การอนุรักษ์ และสืบสานภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณของชุมชนบ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่สืบไป โดยใช้เครื่องมือในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสัมภาษณ์ แบบมีโครงสร้าง (In-depth Interview) จ านวน 1 ฉบับ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 เรื่องราวศิลปะการปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณของบ้านช่างหล่อที่เป็น เอกลักษณ์ วิเคราะห์ข้อมูล และน าเสนอข้อมูลในรูปตาราง ตอนที่ 2 สภาพปัญหาของการสืบทอด และข้อเสนอแนะเป็นค าถาม แบบปลายเปิดวิเคราะห์ข้อมูลโดยการพิจารณาค่าความถี่ประกอบการบรรยายร่วมกับการเก็บข้อมูลแบบสังเกตการณ์โดยไม่มีส่วน ร่วม (Non - Participant Observation) คือ ผู้ศึกษาใช้วิธีการสังเกตการณ์ (Observation) เป็นการสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Survey) ซึ่งอาศัยการเข้าไปสังเกตในกิจกรรมต่าง ๆ ของ สล่า หรือช่างปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ ที่เข้าไปศึกษา เช่น การเข้าไปร่วมเรียนรู้กระบวนการและวิธีการท าพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณกับพ่อครูสล่า เช่น เรียนรู้เทคนิค การปั้นเพื่อขึ้นรูปแม่พิมพ์ด้วยกรรมวิธีแบบโบราณ เป็นต้น เพื่อน าข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ถึงคุณค่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่ คาดหวังต่อการอนุรักษ์และสืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นกับชุมชนช่างหล่อต่อไป จากการศึกษาประวัติความเป็นมาขององค์ความรู้การหล่อโลหะแบบโบราณและช่างหล่อพระพุทธรูปโลหะ ตลอดจน สภาพการณ์จากบริบทของชุมชนรวมถึงปัจจัยที่มีผลต่อการสืบสานรวมถึงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาการปั้น – หล่อพระพุทธรูปโลหะ แบบโบราณของบ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่พบว่า การปั้น – หล่อพระพุทธรูปแบบล้านนาโบราณของบ้านช่างหล่อ เป็นมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้รับการสืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคแรกของก่อตั้งอาณาจักรล้านนาจวบจนถึงสมัยกาวิละวงศ์และ สืบเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน ยังคงมีการประกอบอาชีพด้วยกรรมวิถีการปั้น – หล่อพระพุทธรูปโลหะตามแบบฉบับล้านนาโบราณให้ พบเห็นอยู่ภายในชุมชนช่างหล่อ แต่ทว่าเหลือผู้ประกอบการเพียง 2 รายที่ยังคงรักษาอัตลักษณ์รูปแบบดั้งเดิมและยังคงใช้วิธีการ แบบโบราณนี้อยู่ซึ่งถือว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่องค์ความรู้นี้อาจสูญหายไปในไม่ช้า โดยปัจจัยหลักที่เป็นปัญหาต่อการสืบสานและ อนุรักษ์ คือ การขาดแคลนบุคลากรผู้สืบทอด เนื่องจากผู้ที่จะสามารถประกอบอาชีพนี้ได้นั้น จะต้องมีทักษะในงานประณีตศิลป์ หลายแขนงอยู่ด้วยกัน นอกจากจะมีใจรักในอาชีพนี้แล้ว ต้องใช้ความอดทนและต้องมีความพยายามเป็นอย่างมาก อีกทั้งสภาพ พื้นที่ปฏิบัติงานในปัจจุบันไม่เอื้ออ านวยต่อการประกอบอาชีพช่างหล่อ ด้วยกระบวนการและกรรมวิธีแบบโบราณที่ค่อนข้างจะเป็น 1 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีเมล : [email protected] 2 คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีเมล : [email protected]


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1059 อุปสรรคต่อการผลิตในบางขั้นตอนด้วยบริบทของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และยังขาดการสนับสนุนและ ส่งเสริมจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เข้าจะช่วยผลักดันให้เกิดการร่วมสืบสานและอนุรักษ์มรดกทาง ภูมิปัญญาแขนงนี้ไว้ ทั้งนี้ได้มีข้อเสนอแนะส าหรับการศึกษาวิจัย ได้แก่ 1) หน่วยงานที่รับผิดชอบควรให้การสนับสนุนด้วยการน า "ครูช่าง" หรือ ปราชญ์ชาวบ้าน ที่มีองค์ความรู้และภูมิปัญญาในด้านศิลปะการสร้างปฏิมากรรมพระพุทธรูปแบบโบราณมาถ่ายทอด สร้างกระบวนการเรียนรู้ร่วมกับสถานศึกษาผ่านโครงการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยสร้างพื้นที่แห่งการเรียนรู้ด้วยการมีส่วนร่วม เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาและต่อยอดในการสืบสานร่วมกับการอนุรักษ์ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยธ ารงไว้ซึ่งความเป็น เอกลักษณ์แบบโบราณล้านนา 2) นักวิชาการตลอดจนผู้สนใจทั้งหลายได้เรียนรู้สภาพการณ์จริงและน าไปพัฒนาปรับปรุง รวมถึงจัดระบบการท างานให้สอดคล้องกับการประกอบการในยุคปัจจุบันในการหล่อพระพุทธรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึง การจัดท าข้อมูลเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้และเรื่องราวของการปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบล้านนาโบราณของบ้านช่างหล่อให้ได้ เป็นที่รู้จักของบุคคลโดยทั่วไป เพื่อสร้างความตระหนักถึงมรดกทางวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ รวมถึงการคาดหวังที่จะมี หน่วยงานและคนที่สนใจเข้ามาช่วยสืบสานร่วมอนุรักษ์และพัฒนางานหัตถศิลป์แขนงนี้ไว้ให้อยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่สืบไป ค าส าคัญ : การสืบสาน การอนุรักษ์ ช่างหล่อ มรดกทางวัฒนธรรม การปั้น-หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ Abstract This study aimed to study the history of metal casting, technicians of metal casting Buddha statues including Lanna metal casting technique. A survey was conducted to study the history of Ban Chang Lo community located in the administrative area of Mueang Chiang Mai district. An in-depth interview was used for data collection, which was divided into 2 parts. Part 1 is the story of the art of antique molding and casting of Ban Chang Lo unique metal Buddha statues. Data were analyzed and presented in the form of tables. Part 2 is problem status of the inheritance and suggestion in an open-ended form. Data were analyzed by considering frequency and lectures in conjunction with non-participant observation data collection method. The researcher used unstructured survey observation in various activities performed by Sala or molding and casting antique metal Buddha statues; for example, participating in the learning of the process and method of how antique Buddha statues are made with Sala, such as learning molding techniques to form a mold using antique methods. The data obtained were analyzed the value from the current situation that cultural wisdom management in Ban Chang Lo community is expected so as to propose a guideline for conservation and continuation of sculpture wisdom antique cast metal Buddha statue Ban Chang Lo, Mueang district, Chiang Mai province accordingly. According to the study on the current situation and status of the continuation and conservation of sculpture wisdom antique cast metal Buddha statue Ban Chang Lo, Mueang district, Chiang Mai province, it is found that the molding and casting of ancient Lanna Buddha statue of Ban Chang Lo is local wisdom that has been passed down from ancestors to the current generation. People earn a living by using ancient Lanna method but there are a small number of operators. There is a risk that this knowledge will disappear soon due to a shortage of successors since persons who are able to pursue this profession must have skills in many fields of fine arts. In addition to work passion, they need to have great patience and effort. Meanwhile,


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1060 current working areas do not support the casting work that adheres to ancient process and method. It seems to be an obstacle for some parts of the production due to the context of changing environment as time passes, including a lack of support and promotion from government agencies and local administrative organizations that help push the continuation and conservation of this local wisdom. Suggestions for the research study are 1) Responsible agencies should provide support by bringing “technician teachers” who have local wisdom in the art of making ancient Buddha statues to transfer knowledge to future generations to continue and conserve it to be the heritage of Thai people accordingly by preserving the uniqueness of ancient Lanna. 2) Scholars and interested persons should learn the truth and use it to develop and improve the work system to be consistent with current operations of casting Buddha statues in an efficient manner. Keywords: Inheritance, Conservation, Casting Technicians, Cultural Heritage, Molding and Casting Art Buddha Image Antique Style ที่มาและความส าคัญของปัญหา บ้านช่างหล่อเป็นชุมชนช่างที่มีความช านาญในการปั้น - หล่อพระพุทธรูป ซึ่งชุมชนตั้งอยู่ด้านนอกเมืองประตูเชียงใหม่ มีชื่อเสียงด้านประติมากรรมการปั้น – หล่อพระพุทธรูปศิลปเชียงแสน ช่างหล่อเริ่มเข้ามามีบทบาทนับตั้งแต่สมัยพญามังราย เริ่มสร้างบ้านแปลงเมือง (ยุคการก่อตั้งอาณาจักรล้านนา พ.ศ 1839) จนกระทั่ง “ยุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง” ในยุคสมัย พระเจ้ากาวิละ บทบาทของบรรดาช่างฝีมือในแขนงต่าง ๆ ก็ยังมีความส าคัญต่อบ้านเมือง โดยในยุคนั้นได้มีการจัดสรรช่างฝีมือไว้ โดยรอบก าแพงเมือง เพื่อเป็นช่างหลวงและช่างฝีมือ โดยจ าแนกเป็นกลุ่มตามความถนัด ส าหรับถิ่นที่ตั้งบ้านช่างหล่อ นั้นมีอาณา เขตระหว่างสี่แยกประตูสวนปรุงกับสี่แยกประตูเชียงใหม่ มีถนนช่างหล่อผ่านหน้าหมู่บ้าน อยู่ติดกับคูเมืองด้านประตูเชียงใหม่ และประตูสวนปรุง (สมโชติ อ๋องสกุล, 2558) ในอดีต การหล่อพระเป็นงานของ “ช่างหล่อ” ซึ่งเป็นช่างที่สร้างผลงานทางศิลปกรรม วิจิตรศิลป์ประเภทงาน ประติมากรรม ซึ่งถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มตระกลูของ “ช่างสิบหมู่ไทย” โดยอดีตลักษณะงานจะเน้นหนักไปในงานประเภทการหล่อ พระพุทธรูปเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ ที่เกิดจากกระบวนการสร้างพิมพ์ด้วยการปั้น การหลอมโลหะ และขั้นตอนการ หล่อโลหะเทลงไปในแบบพิมพ์ หากดูตามลักษณะของกระบวนการผลิตจะต้องใช้ทักษะเชิงช่างในหลายแขนงที่เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยง กันในขั้นตอนการผลิตชิ้นงาน ซึ่งอาจจ าแนกประเภทได้ตามลักษณะงานโดยเริ่มจากการปั้น การหล่อ การพิมพ์ การขัดและการลง ลักษณ์ปิดทองจึงจะส าเร็จออกมาเป็นผลงานหนึ่งชิ้น เพราะฉะนั้นช่างหล่อจึงมักเป็นผู้ที่มีความสามารถอยู่หลายด้าน โดยเฉพาะใน งานปั้น และงานหล่ออยู่ในคนเดียวกัน ทั้งนี้เนื่องด้วยการหล่อเป็นขั้นตอนต่อจากการปั้น เมื่อจะท าเป็นรูปอย่างโลหะหล่อ ก็จะต้อง จัดการปั้นหุ่นขึ้นรูปนั้น ๆ ขึ้นมาเสียก่อน ด้วยหุ่นดินเหนียวแล้วพอกด้วยขี้ผึ้ง แล้วจึงท าการเปลี่ยนสภาพรูปหุ่นนั้น แปรเปลี่ยนไป เป็นรูปโลหะหล่อ โดยวิธีการหลอมโลหะและเทไปแทนที่ขี้ผึ้งที่พอกหุ่นดินเหนียว ซึ่งเป็นวิธีการหล่อโลหะแบบโบราณ ที่เรียกว่า “การหล่อโลหะอย่างสูญขี้ผึ้ง Lost Wax Process” ซึ่งกระบวนการแต่ละขั้นตอนของงานประเภทนี้ย่อมมีความสัมพันธ์แก่กันและ กันทุกขั้นตอน เนื่องจากมีความสลับซับซ้อนของขั้นตอนที่มีมากมายหลากหลาย จึงต้องอาศัยความประณีตและความอดทนเป็น อย่างสูง (สุรพล ด าริห์กุล, 2542 ) อนึ่ง จะเห็นได้ว่าภูมิปัญญาในการปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะของบ้านช่างหล่อแห่งนี้มีเรื่องราวประวัติความเป็นมา ที่ยาวนาน ซึ่งเป็นมรดกอันทรงคุณค่าทางด้านประวัติศาสตร์ของชุมชน ตลอดจนความผูกพันกับวิถีชีวิตของผู้คนในพื้นที่ ซึ่งมีมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1061 ด้วยเหตุนี้ จึงท าให้ผู้ศึกษาเกิดความสนใจที่จะศึกษาในองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ด้านการปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะของบ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นการศึกษาตั้งแต่ประวัติศาสตร์ ความเป็นมารวมถึงเทคนิค ขั้นตอน กรรมวิธีการท างาน รวมทั้งด้านคติความเชื่อและพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องในกระบวนการท างาน ทั้งหมด ซึ่งเป็นศาสตร์งานประณีตศิลป์ของชาวล้านนาที่มีความส าคัญและมีคุณค่ายิ่ง จึงควรมีการศึกษาเพื่อน าไปสู่แนวทางในการ อนุรักษ์และสืบสานงานภูมิปัญญาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมแขนงนี้ไว้ไม่ให้สูญหาย โดยด ารงไว้ซึ่งวัฒนธรรมอันดีงามให้คงอยู่คู่กับ ท้องถิ่นวิถีชุมชนบ้านช่างหล่อสืบไป ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้จึงเป็นการรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาที่เป็นมรดกทาง วัฒนธรรมด้านการปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณของบ้านช่างหล่ออ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลใน การเรียนรู้และเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของบ้านช่าง หล่อแห่งนี้ไว้โดยผ่านการจัดการอย่างเป็นระบบ ก่อนที่มรดกอันล้ าค่าเหล่านี้จะหายไปตามกาลเวลาอย่างน่าเสียดาย วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1) เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของการหล่อโลหะแบบโบราณและช่างหล่อพระพุทธรูปโลหะ ตลอดจนเทคนิคการหล่อ โลหะแบบล้านนาโดยทั่วไป 2) เพื่อศึกษาบริบทของชุมชน สภาพสังคมและวัฒนธรรม รวมถึงภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ ของชุมชนช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 3) เพื่อน าเสนอแนวทางการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ ของชุมชนบ้าน ช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่สืบไป ขอบเขตการศึกษา 1. ขอบเขตเนื้อหา การศึกษาประวัติความเป็นมาของการหล่อโลหะ ช่างหล่อพระพุทธรูปโลหะ และเทคนิคการหล่อพระพุทธรูปโลหะ แบบล้านนาโดยทั่วไป ตลอดจนการศึกษาบริบทของชุมชน สังคมและวัฒนธรรม บ้านช่างหล่อ รวมทั้งภูมิปัญญางานปั้น หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ บ้านช่างหล่อ และน าเสนอเป็นแนวทางการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญางานปั้น หล่อ พระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ บ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 2. ขอบเขตพื้นที่ การศึกษาครั้งนี้ได้ก าหนดขอบเขตพื้นที่ คือ บ้านช่างหล่อ ต าบลหายยา ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และชุมชนใกล้เคียง ได้แก่ ชุมชนวัดศรีสุพรรณ การทบทวนวรรณกรรม ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสาร แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม จากการศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากรวัฒนธรรมของสายันต์ ไพรชาญจิตร์ (2548) และ ธนิก เลิศชาญฤทธ์ (2554) สามารถสรุปความได้ว่า การจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม คือการสร้างคุณค่าของวัฒนธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อให้เกิด ประโยชน์มากที่สุดต่อการด ารงชีพของมนุษย์ ซึ่งสามารถที่จะสืบทอด สร้างสรรค์และสามารถน าไปใช้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นใน สังคมของมนุษย์ได้ โดยการให้คุณค่าและความหมาย อาจจะมีความแตกต่างกันตามพื้นฐานของทัศนะและมุมมองทางสังคม วัฒนธรรม เศรษฐกิจ ที่มีอยู่ ในขณะนั้น ซึ่งการมีคุณค่าของทรัพยากร อาจมีความหลากหลายตามวัตถุประสงค์และมุมมองของ


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1062 การน าทรัพยากรวัฒนธรรมเหล่านั้นไปใช้ เพื่อให้เกิดตามความเหมาะสม โดยคุณค่าของวัฒนธรรมสามารถเปลี่ยนแปลงไปตาม กาลเวลาที่เกิดขึ้นและบริบทสังคมของแต่ละกลุ่มคนที่ให้ความส าคัญไว้ในขณะนั้น ซึ่งการจัดการวัฒนธรรมในแต่ละแห่งต้องอาศัย พื้นฐานจากความเป็นชุมชน เพื่อเกิดความเข้มแข็งและความยั่งยืน โดยการให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการศึกษาชุมชน โดยข้อมูล เกี่ยวกับวัฒนธรรมในชุมชนอาจเป็นการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปแบบการจัดการข้อมูลวัฒนธรรมของชุมชน เพื่อใช้ในการ น ามาวิเคราะห์ถึงประวัติศาสตร์ บริบททางสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม รวมถึงศักยภาพและคุณค่าของทรัพยากรวัฒนธรรมที่ มีอยู่ในชุมชน จนน าไปสู่การจัดการทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพได้มากที่สุด แนวคิดการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage & Conservation) จากการศึกษาแนวคิดการอนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage & Conservation) ของ Kolasa, J.B. (1989) ยงธนิศร์ พิมลเสถียร (2543) และ รัตนะ ภู่สวาสดิ์ (2556) สามารถสรุปความได้ว่า การอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม หรือภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดมาจากอดีต ท าให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นชาติที่จะรักษาหวงแหนมรดก ทางวัฒนธรรมส่งเสริมให้เกิดการตระหนักรู้รักหน้าที่มีรากเหง้าทางวัฒนธรรม ในการอนุรักษ์ภูมิปัญญานั้นจ าเป็นที่จะต้องมีการ ส่งเสริมคนในชุมชนให้เกิดความเข้าใจในกระบวนการท างาน ปลูกฝังค่านิยมในการรู้สึกรักและหวงแหนในภูมิปัญญาท้องถิ่น ต้อง อาศัยการส่งเสริมที่ดีอย่างจริงใจจากภาครัฐ พร้อมกับมีการค้นคว้าวิจัย การอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนา ถ่ายทอด ส่งเสริมกิจกรรม เผยแพร่แลกเปลี่ยนความรู้และการส่งเสริมสนับสนุนปราชญ์ท้องถิ่นอย่างจริงจัง รวมถึงการอนุรักษ์ฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อ การด ารงอยู่สืบทอดต่อไปให้ถึงลูกหลาน ซึ่งจะน าประโยชน์ไปสู่ประเทศชาติ โดยการให้ความส าคัญกับวัฒนธรรมที่มีคุณค่าทาง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและมีการส่งเสริมในลักษณะที่หลากหลายวิธี การอนุรักษ์ฟื้นฟูและพัฒนาภูมิปัญญาพื้นบ้าน เป็นการเก็บรักษาคุณค่าของมรดกวัฒนธรรมเพื่อสืบทอดไปยังชนรุ่นหลัง เป็นการศึกษาค้นคว้ามรดกทางวัฒนธรรมและเผยแพร่ เพื่อยกระดับสังคมท าให้สังคมสามารถพัฒนาไปอย่างเหมาะสมและเป็นตัวของตัวเองบนรากฐานมรดกวัฒนธรรมและเทคโนโลยี ของที่มีอยู่เป็นทุนเดิม แนวคิดเกี่ยวกับชุมชนและทุนทางสังคม จากการศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับชุมชนและทุนทางสังคมของเฉลิมพล แจ่มจันทร์(2554) ราชบัณฑิตยสถาน (2546) วิทยากร เชียงกูล (2540) วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน (2534) อมรา พงศาพิชญ์ (2543) เทียนชัย กีระนันท์ (2544) และนภาภรณ์ หะวา นนท์ (2548) สามารถสรุปความได้ว่า เงื่อนไขและกระบวนการสร้างความเข้มแข็งภายในชุมชน จ าเป็นต้องให้ความส าคัญกับ กระบวนการสร้างทุนของชุมชนทั้งที่เป็นทุนที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ ทุนทางด้านความรู้ ทุนทางสังคม และทุนด้านมนุษย์ โดยมิติของทุน ในชุมชนเป็นสิ่งที่สมาชิกในชุมชนสามารถสร้างขึ้นได้ หากคนในชุมชนเกิดความตระหนักและสามารถสืบสานต้นทุนเหล่านี้ไว้ ซึ่ง ครั้งหนึ่งถูกสร้างขึ้นจากการที่ได้ใช้ในการด ารงชีวิตอยู่กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งเกิดกระบวนการก่อตัวขององค์ความรู้ ด้วยเงื่อนไขกฎกติกาที่คนในชุมชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการออกแบบและร่วมสร้าง หรือระบบความสัมพันธ์จากการจะสร้างทุนให้กับ ชุมชน จึงต้องเปิดโอกาสให้ชุมชนสามารถเป็นผู้ก าหนดกฎเกณฑ์ หรือกติกาต่าง ๆ ที่จะท าให้ชุมชนได้รับประโยชน์จากกฎกติกานั้น รวมทั้งช่วยให้ชุมชนสามารถจัดการกับระบบความสัมพันธ์ที่สามารถกระจายผลประโยชน์ต่าง ๆ สู่สมาชิกอย่างเสมอภาค ซึ่งจะท า ให้คนในชุมชนเกิดมีพลังชีวิตเกิดการเรียนรู้ มีความกล้า และมีความสามารถที่จะต่อสู้กับอุปสรรคต่าง ๆ ให้ส าเร็จลุล่วงตาม เป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ซึ่งทั้งนี้จะเป็นการสร้างให้ชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างแท้จริง หนังสือและเอกสาร ศาสตราจารย์เกียรติคุณสุรพล ด าริห์กุล (2566) หนังสือ “ประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา” สรุปความว่า พุทธลักษณะ ของพระพุทธรูปล้านนาเป็นงานศิลปกรรมประเภทหนึ่งที่มีรูปแบบของงานพุทธศิลป์สามารถบ่งบอกถึงเรื่องราวที่สะท้อน ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์บ้านเมือง สภาพเศรษฐกิจ สังคมในยุคสมัยนั้น รวมถึงประวัติการเผยแผ่เข้ามาของ พระพุทธศาสนาในล้านนา ซึ่งมีพัฒนาการที่มีความแตกต่างของแต่ละยุคแต่ละสมัยที่สะท้อนผ่านงานด้านพุทธศิลป์ โดย พระพุทธรูปในยุคแรกของดินแดนล้านนา คือ พระพุทธรูปแบบเชียงแสนสิงค์หนึ่ง มีลักษณะเป็นประติมากรรมแบบลอยตัว ซึ่งอยู่


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1063 ในสมัยหริภุญไชยตอนปลายในราวพุทธศตวรรษที่ 18 รูปแบบงานศิลปะอินเดียแบบปาละ ผสมผสานศิลปะแบบพุกาม ซึ่งได้รับ ความนิยมป็นอย่างมากในขณะนั้น เนื่องจากในดินแดนอาณาจักรพุกามมีความเจริญรุ่งเรือง และเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา เมื่อพญามังรายเข้ายึดครองแคว้นหริภุญไชยในต้นช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 และสถาปนาอาณาจักรล้านนาและสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้น เป็นราชธานี ได้น าเอารูปแบบงานพุทธศิลป์ดังกล่าว เข้ามาในดินแดนล้านนาแห่งนี้ด้วย อาทิเช่น พรพุทธรูปแบบเชียงแสนรุ่นแรก หรือเชียงแสนสิงห์หนึ่ง เป็นต้น วดี กัณหทัด (2521) หนังสือ “หล่อพระ” สรุปความว่า มีหลักฐานที่กล่าวถึงพระพุทธรูปและความเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกับ พุทธศาสนาซึ่งได้มีการค้นพบครั้งแรกสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชราว พ.ศ. 270 - 311 ในรูปแบบของศิลปวัตถุ ส่วนพระพุทธรูปที่ เป็น รูปปั้นแบบรูปมนุษย์เกิดขึ้นภายหลังพุทธศตวรรษที่ 6 เป็นฝีมือของช่างแคว้นคันธาระ และช่างเมืองมถุราประเทศปากีสถาน และอาฟกานิสถาน ระหว่าง พ.ศ. 662 - 706 เป็นฝีมือช่างกรีก – โรมันโบราณ ซึ่งเชื่อว่าได้รับอิทธิพลและช่างฝีมือจากเอเชียตะวันตก เพราะเหตุที่สร้างพระพุทธรูปภายหลังที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้วนี้เอง ต่อมามีผู้นิยมสร้างพระพุทธรูปกันแพร่หลาย จนถึงปัจจุบัน โดยได้สร้างพระพุทธรูปไม่ปรากฎหลักฐานที่ชัดเจน ซึ่งศิลปวัตถุที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเท่าที่พบในประเทศไทย นั้น มีตั้งแต่สมัยดั้งเดิม ซึ่งสร้างขึ้นตามคติแบบอินเดีย จนมาเป็นพุทธรูปแบบอมราวดี คุปตะ ปาละ และทวาราวดี ค้นพบหลักฐาน ที่จังหวัดนครราชสีมา กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี อุบลราชธานี และนครปฐม โดยล าดับ อย่างไรก็ดีพระพุทธรูปเหล่านี้ส่วนใหญ่ เป็นพุทธรูปศิลาบ้าง ส าริดบ้าง แต่เป็นขนาดเล็ก จนถึงสมัยสุโขทัยได้มีการหล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่และมีความสวยงามยิ่ง จึงเชื่อกันว่าประวัติการปั้น – หล่อพระพุทธรูปในประเทศไทย น่าจะเริ่มกันอย่างแพร่หลายในสมัยสุโขทัย สถาบันราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่ (2539) หนังสือ “สรรพช่าง” สรุปความว่า ภูมิหลังของชุมชน ช่างหล่อพระพุทธรูปในเมืองเชียงใหม่ และช่างฝีมือชาวเชียงใหม่ มีมาครั้งสมัยพญามังรายตั้งเมืองเชียงใหม่เป็นราชธานีของ อาณาจักรล้านนา เมื่อ พ.ศ. 1839 โดยต านานระบุว่า พญามังราย ได้ช่างฝีมือจ านวนมากมาจากหัวเมืองมอญและหงสาวดี ฝีมือ ของช่างดังกล่าวเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปทั้งภายในอาณาจักรและดินแดนใกล้เคียง เมื่อคราวที่เชียงใหม่อ่อนแอถูกพม่าเข้ามายึด ครองตั้งแต่ พ.ศ. 2101 หลังจากนั้นกษัตริย์พม่าได้เห็นความส าคัญของบรรดาช่างฝีมือทั้งหลาย ได้กวาดต้อนไปเป็นเชลยทั้ง ครอบครัว จึงท าให้เชียงใหม่ขาดแคลนช่างฝีมือและผู้คนจวบจนถึงสมัยกาวิละวงศ์ พญากาวิละ และพี่น้องทั้ง 7 คน ได้ให้ความ ร่วมมือกับกองทัพไทย พระเจ้ากรุงธนบุรีและกองทัพของกรุงรัตนโกสินทร์ สามารถปราบศัตรูให้หมดไปจากแผ่นดินเชียงใหม่ได้ ส าเร็จในปี พ.ศ. 2317 นับจากนั้นเป็นต้นมา ผู้น าชาวล้านนาได้มีการจัดสรรบรรดาช่างฝีมือทั้งหลายไว้โดยรอบก าแพงเมือง เพื่อให้ เป็นช่างหลวงและช่างฝีมือสืบไป ดังเช่นบ้านช่างหล่อ ซึ่งมีอาณาเขตระหว่างสี่แยกประตูสวนปรุงกับสี่แยกประตูเชียงใหม่ มีถนน ช่างหล่อผ่านหน้าหมู่บ้านอยู่ติดกับคูเมืองด้านประตูเชียงใหม่และประตูสวนปรุง พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์ (2557) หนังสือ “พิธีกรรมในวิถีชีวิตล้านนาจากเอกสารโบราณ” สรุปความว่า คติในการสร้าง พระพุทธรูป หรือสร้างพระเจ้า ตามธรรมเนียมจารีตล้านนาที่ปรากฏในคัมภีร์โบราณ (ใบลานและพับสา) ดังที่กล่าวมา แสดงถึง ความพิถีพิถันความเอาใจใส่ต่อการเลือกใช้วัสดุที่จะน ามาสร้างพระพุทธรูป รวมถึงการเลือกฤกษ์หรือวันดิถี เดือนที่เป็นมงคลในการ สร้างพระพุทธรูป ด้วยความเชื่อว่า จะท าให้เกิดความสุขสงบร่มเย็น มีลาภสักการะ ส่งเสริมยศศักดิ์ หากเลือกวันและเดือนผิดไป จะก่อให้เกิดอุปสรรค เภทภัยต่าง ๆ และส าคัญที่สุด เมื่อสร้างพระพุทธรูปเสร็จแล้ว คติทางล้านนายังได้สร้างหัวใจพระพุทธรูป เรียกว่า “หัวใจพระเจ้า” บรรจุด้วยสิ่งที่มีค่าและน้ ามันงา ถือว่าพระพุทธรูปก็มีชีวิต มีฤทธิ์เดชานุภาพ ช่วยอ านวยผลที่สังคมพึง ปรารถนาได้ และพิธีกรรมส าคัญสุดท้าย หากพระพุทธรูปที่สร้างเสร็จแล้ว แต่ยังไม่ได้ผ่านพิธีสวดพุทธาภิเษกที่เรียกว่า “บวชพระ เจ้า” สวดเบิกบายศรีให้สมบูรณ์ พระพุทธรูปก็ยังไม่ถือว่าเป็นพระเจ้าโดยสมบูรณ์ พระพุทธรูปจะเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ตามความเชื่อ ที่ถือสืบทอดส่งต่อกันมาโดยคติประเพณี สมควรหาสถานที่ประดิษฐานให้เหมาะสม จากการพิเคราะห์ถึงสาระที่อยู่เบื้องหลังการ สร้างพระพุทธรูป จะพบคุณค่าของมรดกคติธรรมทางวัฒนธรรม มรดกทางศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมที่บรรพชนมอบให้แก่เรา ซึ่งเป็นลูกหลาน สมควรที่จะอนุรักษ์และสืบสานต่อไปให้นานเคียงคู่อยู่กับสังคมล้านนาตลอดไป


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1064 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สราวุธ รูปิน (2559) รายงานการวิจัย เรื่อง “โครงการมองล้านนาผ่านประวัติศาสตร์และโบราณคดี โครงการย่อย งาน ช่างพุทธศิลป์ล้านนา” สรุปความว่า ค าว่า "ช่าง" ในสังคมล้านนาแต่โบราณ หมายถึง ผู้ช านาญ ในสาขาอาชีพของตน ล้านนาได้มี การแบ่งประเภทผู้ช านาญในงานช่างพุทธศิลป์ไว้อันได้แก่ ช่างไม้ ช่างหล่อ ช่างปูน ช่างรัก ช่างต้อง ฯลฯ และช่างนั้นยังรวมไปถึงผู้ ที่มีความช านาญทางด้านนักดนตรี ช่างจ๊อย ช่างซอ ช่างทอ และช่างสาน ในงานหัตถกรรมพื้นบ้านอื่น ๆ อีกด้วย ช่างที่ปรากฏใน ล้านนา แต่ดั้งเดิม โดยเฉพาะในจารึกและเอกสารทางประวัติศาสตร์ใช้ค าว่า “ช่าง” น าหน้าผู้ช านาญงานในประเภทต่าง ๆ ส่วน ค าว่า “สล่า” หมายถึงช่างเช่นกัน หลังจากการติดต่อสัมพันธ์กับพม่าในล้านนา “สล่า” มาจากค าว่า “สย่า” ในภาษาพม่า หมายถึง ช่างผู้ช านาญมีความเชี่ยวชาญชั้นครูเช่นเดียวกับค าว่า ช่างในภาษาล้านนา และเป็นที่นิยมแพร่หลายกันในช่วงยุคหลัง พรรณงาม โควานนท์ (2558) วิทยานิพนธ์เรื่อง “การศึกษาองค์ความรู้ทางภูมิปัญญาท้องถิ่นการปั้นและหล่อพระพุทธรูป โลหะ บ้านช่างหล่อ ต าบลหายยา อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่” สรุปความว่า กรรมวิธีการผลิตพระพุทธรูปโลหะประกอบด้วย สองขั้นตอนได้แก่ ขั้นตอนการปั้นและการหล่อ โดยทั้งสองขั้นตอนนี้จะต้องด าเนินการต่อเนื่องกัน ซึ่งแต่เดิมนั้นช่างในสมัยโบราณ ไม่มีความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เลย แต่ด้วยลักษณะวิธีการท างานที่มีการพัฒนาปรับปรุงให้มีเหมาะสมอยู่เสมอ จนท าให้สามารถ พบความจริงและมีการเชื่อมโยง น ากระบวนการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาใช้โดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นการถ่ายทอดแบบไม่เป็นลักษณ์อักษร เป็นการเรียนรู้ด้วยการเลียนแบบหรือท าตาม ได้รับการฝึกปฏิบัติจนเกิดทักษะและความช านาญ ต่อมาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านนี้ ความส าคัญของช่างฝีมือดั้งเดิมอันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติที่เรียกว่าช่างสิบหมู่ โดยมีสถาบันการศึกษาได้น าไปบูรณาการ ในการจัดการเรียนรู้ ในเวลาต่อมา ได้มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร และรับการถ่ายทอดผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น วารสาร หนังสือพิมพ์ เป็นต้น ยิ่งศักดิ์ วิชกมลเศรษฐ์ (2560) วิทยานิพนธ์เรื่อง “การจัดการความรู้เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น การหล่อพระแบบ โบราณ บ้านช่างหล่อ ต าบลหายยา อ าเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่” สรุปความว่า การหล่อพระแบบล้านนาโบราณ เป็นงาน หัตถศิลป์ที่มีคุณค่าความส าคัญ และเป็นงานศิลปะชั้นสูงที่จะต้องอาศัยประสบการณ์ และแรงศรัทธา ดังนั้นการเรียนรู้ไม่เพียงแต่ จะต้องอาศัยการชี้น าที่ถูกต้อง และความสนใจที่มีต่องานศิลปะ แต่ยังจะต้องอาศัยการฝึกฝนและความอดทนอย่างสูงจนเกิดเป็น ทักษะ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องเริ่มที่ความสนใจก่อน การจัดการความรู้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่จะน าไปสู่ความสนใจและแรงบันดาลใจ หรือความต้องการที่จะท าให้เกิดการเรียนรู้ต่อไปซึ่งประกอบด้วยคุณค่าและความส าคัญ ความเป็นมา ตลอดจนองค์ความรู้ที่ต้องใช้ ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการจัดการความรู้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การจด บันทึก หรือสื่อที่ใช้ในการสอน ซึ่งเป็นสิ่งส าคัญในการใช้ ประกอบศึกษาเรียนรู้และสามารถที่จะมองเห็นภาพว่า มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด จนเกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะทดลองท า โดยผลที่ ได้จากการศึกษาท าให้ทราบว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ส าคัญหลาย ๆ แขนงได้สูญหายไป เนื่องจากไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ถึงแม้ว่าจะอยู่ในชุมชนก็ตาม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่แทบจะไม่รู้จักเลย ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ใด้เกิดจากความตั้งใจ หรืออาจจะ หลงลืมไปบ้าง เนื่องจากในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป กระแสสังคมและวัฒนธรรมก็เปลี่ยนตามไปอย่างหลีกเสี่ยงไม่ได้ รัตนะ ภู่สวาสดิ์ (2556) วิทยานิพนธ์เรื่อง "การอนุรักษ์และการพัฒนาความรู้งานคัวตองชุมชนวัดพวกแต้ม อ าเภอเมือง เชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่" สรุปความว่า "วัดพวกแต้มถูกจัดให้อยู่ในเขตอนุรักษ์ของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งชื่อของชุมชนวัดปรากฏขึ้น ในใบลานหรือพับสา เมื่อปีพุทธศักราช 2363 ด้วยชุมชนแห่งนี้มีชื่อเสียงและความช านาญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงรักปิดทอง หรือการปิดทองล่องชาด ซึ่งเป็นเทคนิคหนึ่งของงานประดับโลหะ ดังที่ปรากฎในปัจจุบัน โดยงานคัวตองนี้ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่น สู่รุ่น ด้วยกระบวนการสืบทอดผ่านการสอนของช่างผู้ช านาญการ โดยมีการน าเสนอรูปแบบและวิธีการของการจัดการอนุรักษ์ ควบคู่การพัฒนางานคัวตองของชุมชน “วัดพวกแต้ม” เป็นการจัดการอย่างมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในรูปแบบของการเสนอ รูปแบบและวิธีการของการจัดการอนุรักษ์และพัฒนางานคัวตองของชุมชุน โดยการจัดกิจกรรมรณรงค์ร่วมกับชุมชน เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพการกระจายองค์ความรู้สู่สาธารณะ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางภูมิปัญญา ซึ่งชุมชนสามารถต่อยอดด้วยการน าองค์


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1065 ความรู้ด้านการอนุรักษ์ไปถ่ายทอดยังชุมชนอื่นอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นกระบวนการพัฒนาองค์ความรู้เรื่องคัวตอง และการอนุรักษ์ มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชุมชนวัดพวกแต้มให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต ระเบียบวิธีวิจัย รูปแบบงานวิจัย บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของการค้นคว้าแบบอิสระ เรื่องการอนุรักษ์และพัฒนาภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะ แบบโบราณ บ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการศึกษาเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยใช้วิธีการศึกษา ในรูปแบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary Research) และน าเสนอผลการวิจัยในรูปแบบพรรณนา เพื่อการศึกษาประวัติความ เป็นมาของการหล่อโลหะ ช่างหล่อพระพุทธรูปโลหะ ตลอดจนเทคนิคการหล่อพระพุทธรูปโลหะแบบล้านนาโดยทั่วไป ตลอดจน การศึกษาบริบทของชุมชน สังคมและวัฒนธรรม บ้านช่างหล่อ รวมทั้งภูมิปัญญางานปั้น หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ บ้าน ช่างหล่อโดยน าเสนอแนวทางการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญางานปั้น หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ บ้านช่างหล่อ อ าเภอ เมืองจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อไป ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยได้ก าหนดและเลือกกลุ่มตัวอย่าง จากกลุ่มประชากร ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง (Sampling) แบบจ าเพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ให้ตรงตามหลักเกณฑ์หรือจุดมุ่งหมายของงานวิจัย โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจากกลุ่มคน (Agent) ที่เกี่ยวข้อง กับ งาน (Task) ภูมิปัญญาการปั้น – หล่อพระพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ และองค์กร (Organization) ที่เกี่ยวข้องกับการ สนับสนุนส่งเสริมกิจกรรมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก ดังนี้ 1) ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ จ านวน 1 ท่าน 2) ผู้ให้ข้อมูลที่สนับสนุนงาน (Support Informants) จ านวน 10 ท่าน ได้แก่ 2.1) ผู้ที่มีอิทธิพลและมีผลต่อการสนับสนุนในกิจกรรมด้านการปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ ได้แก่ สล่าหรือช่างที่เป็นลูกมือ จ านวน 3 ท่าน, คนในชุมชนละแวดใกล้เคียง จ านวน 2 ท่าน ลูกค้าที่ให้การสนับสนุนผลงานของบ้านช่าง หล่อ จ านวน 1 ท่าน 2.2) นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ศิลปะและวัฒนธรรมของล้านนา เชียงใหม่จ านวน 4 ท่าน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษาได้ใช้เครื่องมือในการเก็บและรวบรวมข้อมูล คือ 1. แบบสัมภาษณ์อย่างมีโครงสร้างเชิงลึก (In-depth Interview) ผู้ศึกษาใช้เครื่องมือในการศึกษา เป็นแบบสัมภาษณ์ แบบมีโครงสร้าง จ านวน 1 ฉบับ แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 เรื่องราวความเป็นมาของชุมชน สภาพสังคมและบริบททางวัฒนธรรม ด้านงานศิลปะที่ความเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของชุมชนช่างหล่อ ตลอดจนคุณค่าของภูมิปัญญางานช่างปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณแห่งบ้านช่างหล่อ อ าเภอ เมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตอนที่ 2 สภาพปัญหาของการสืบทอดและข้อเสนอแนะ (เป็นค าถามแบบปลายเปิด) ที่มีผลต่อการอนุรักษ์ สืบสานและ พัฒนาภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ ของชุมชนบ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 2. แบบสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม (Non - Participant Observation) คือ ผู้ศึกษาใช้วิธีการสังเกตการณ์ (Observation) เป็นการสังเกตแบบไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Survey) ซึ่งอาศัยการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ กับ สล่า หรือช่างปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณที่เข้าไปศึกษา เช่น การเข้าไปร่วมเรียนรู้กระบวนการและวิธีการท า พระพุทธรูปโลหะแบบโบราณกับพ่อครูสล่า เช่น เรียนรู้เทคนิคการปั้นเพื่อขึ้นรูปแม่พิมพ์ด้วยกรรมวิธีแบบโบราณ เป็นต้น รวมถึง


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1066 การสังเกตการณ์และสัมภาษณ์ครูช่าง สล่า ผู้รู้ของชุมชน ผู้น าชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ได้แก่ สมุดบันทึก ข้อมูล กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีทัศน์ และเครื่องบันทึกเสียง การเก็บข้อมูล 1. การเก็บข้อมูลภาคเอกสาร การศึกษานี้ เป็นการศึกษาประวัติความเป็นมาเพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของช่างหล่อโลหะ และเทคนิคการปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบล้านนาโดยทั่วไป และมีการส ารวจเพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของชุมชนบ้านช่างหล่อ ที่ตั้งอยู่ในเขต การปกครองของอ าเภอเมืองเชียงใหม่ โดยน าข้อมูลจากการส ารวจมาวิเคราะห์ถึงคุณค่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันที่คาดหวัง ต่อการจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในชุมชนช่างหล่อ รวมถึงการศึกษาแนวคิดทฤษฎี ตลอดจนเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยท าการค้นคว้าจากหนังสือเอกสารสิ่งพิมพ์และงานวิจัย ด้วยวิธีการค้นข้อมูลและเรียบเรียงล าดับความส าคัญ 2. การเก็บข้อมูลภาคสนาม การเก็บข้อมูลจากพ่อครูสล่าชัยรัตน์ แก้วดวงแสง (สล่าอี๊ด) ผู้น าชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นที่เกี่ยวกับบริบทชุมชน คุณค่างานพุทธศิลป์และบทบาทศิลปะ การผลิต พระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ รวมถึงเทคนิควิธีการที่เป็นเอกลักษณ์ และศึกษาสภาพปัญหาของการอนุรักษ์สืบทอดงานปั้น - หล่อ พระพุทธรูปโลหะแบบโบราณของบ้านช่างหล่อ ต าบลหายยา อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยืนยันและสนับสนุนผลการศึกษา ภาคเอกสาร ซึ่งผู้ศึกษาได้ใช้แบบสัมภาษณ์อย่างมีโครงสร้างเชิงลึก (In-depth Interview) และแบบสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม (Non-Participant Observation) การวิเคราะห์ข้อมูล (Analysis) การวิเคราะห์ข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยมีขั้นตอนในการวิเคราะห์ ดังนี้ 1. การใช้แนวคิดทฤษฎีจากหนังสือ เอกสาร ผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรม เพื่อให้เข้าใจ ในหลักการที่จะท าการศึกษา แล้วน ามาสร้างกรอบแนวคิดส าหรับการวิเคราะห์ 2. น าข้อมูลจากการสัมภาษณ์มาจัดล าดับความส าคัญแล้ว เปรียบเทียบกับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย แนวคิด ทฤษฎี เอกสารผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบถึงลักษณะความคล้ายคลึงกัน หรือความแตกต่างกันของข้อมูล แล้วน ามาประเมิน คุณภาพของข้อมูล เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการบันทึกและการจัดเก็บข้อมูล 3. น าข้อมูลที่ได้จากการศึกษาเอกสารต่าง ๆ มาท าการวิเคราะห์ร่วมกันอย่างเป็นระบบและน าไปสู่การเชื่อมโยงเข้า ด้วยกัน แสดงความส าคัญของข้อมูลให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ตามข้อเท็จจริงทั้งในเชิงเหตุและผล เพื่อ สะดวกในการวิเคราะห์และการเขียนรายงานสรุป ตีความตามหลักวิชาการ เขียนรายงานผลการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยด้วยวิธีการ พรรณนา การบรรยาย ข้อเสนอแนะ เพื่อชี้ให้เห็นถึงแนวทางการอนุรักษ์ สืบสานและพัฒนาภูมิปัญญางานปั้น – หล่อพระพุทธรูป โลหะแบบโบราณ ของชุมชนบ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป ผลการวิจัยสามารถสรุปได้ดังนี้ จากการศึกษาพบว่า การหล่อพระกับบ้านช่างหล่อ ในอดีตเป็นชุมชนช่างเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงด้านประติมากรรมปั้น - หล่อ พระพุทธรูปศิลปะเชียงแสน โดยชุมชนแห่งนี้มีอาณาเขตตั้งแต่บริเวณประตูเชียงใหม่ถึงประตูสวนปรุง นอกแนวก าแพงเมือง ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันในชื่อของประตูสวนปรุง นับตั้งแต่สมัยพญามังรายเริ่มสร้างบ้านแปลงเมือง เชียงใหม่ พ.ศ. 1839 กระทั่งในยุคสมัยพระเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองนครล้านนาท าสงครามกับพม่า และได้รวบรวมช่างฝีมือต่าง ๆ มา จากลุ่มแม่น ้าสาละวินฝั่งตะวันตก เรียกว่า “ยุคเก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง” บรรดาช่างฝีมือเหล่านี้ได้รับหน้าที่ช่างหลวง มีการตั้ง บ้านเรือนอยู่รวมกันเป็นชุมชนต่าง ๆ (สมโชติ อ๋องสกุล, 2558) ดั่งเช่น ช่างหล่อ ซึ่งผลงานประติมากรรมงานพุทธศิลป์ล้านนาแห่ง บ้านช่างหล่อจะมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะที่ แสดงถึงอัตลักษณ์ซึ่งเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1067 โดยที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ รูปแบบและพุทธลักษณะ ช่างหล่อจะให้ความส าคัญกับลักษณะพิเศษของพระทางเหนือมากที่สุดตาม ความเชื่อที่ได้ถูกสั่งสอนกันมา เพราะในการปั้นหล่อพระพุทธรูปของเชียงใหม่นั้น ถือได้ว่าเป็นศิลปะชั้นสูงและเป็นงานศิลปะที่ต้อง อาศัยฝีมือ แรงงาน แรงใจ และเวลาเป็นอย่างมาก จึงได้ผลงานที่ประณีตเพื่อสร้างความศรัทธาและความน่าเคารพย าเกรงของ ชาวบ้าน เวลาเข้าพระอุโบสถ หรือพระวิหาร ดังนั้นช่างจะค านึงถึงความส าคัญของลักษณะพิเศษของพระพุทธลักษณะเป็นส าคัญ ตามที่ได้มีการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ(ชัยรัตน์ แก้วดวงแสง , 2566) ซึ่งจะมีอยู่ 3 ลักษณะ ดังนี้ 1. พรหมลักษณะ คือพระพุทธรูปจะต้องมีพระวรกายที่ตรง งดงามดูไม่เบื่อ มีพระพักตร์สวยชวนให้พิศชอบแก่การพบเห็น และการเคารพกราบไหว้ พระพุทธรูปที่ถูกต้องตามพรหมลักษณะนี้ได้แก่ พระพุทธรูปพระเจ้าเก้าตื้อ 2. สิงหะลักษณะ คือพระพุทธรูปจะต้องมีพระวรกายอวบอ้วน องอาจผึ่งผายดุจพญาราชสิงห์ ได้แก่ พระพุทธรูปสกุล พระพุทธสิหิงค์ทั้งหมด ซึ่งแสดงลักษณะแห่งพระราชสีห์ 3. พระพักตร์ของพระพุทธรูป ลักษณะดังพระพุทธเจ้าที่มีพระเนตรทอดต ่า อยู่ในอาการส ารวมโดยสังเกตได้ พระประธาน ในพระวิหารของวัดในภาคเหนือมักจะสร้างพระพุทธรูปตามแบบพุทธลักษณะตามนี้ และส่วนใหญ่ช่างสร้างพระพุทธรูป ให้ครบทุกลักษณะ” จากการสัมภาษณ์ (9 พฤศจิกายน 2566) ฉะนั้นรูปแบบขององค์พระพุทธรูปของบ้านช่างหล่อ จึงให้ความเป็นเอกลักษณ์ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากบรรพบุรุษ โดยมี ความเชื่อ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย และสืบความเชื่อนั้นมาจนถึงปัจจุบัน ดังตัวอย่าง พระพุทธรูปหล่อ ส าริด ชื่อว่า พระสิงค์หลวงมังคะละสะหรี จินดามณี ณ วัดถ ้าดอยค า ต าบลน ้าแพร่ อ าเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ตามรูปแบบของ พระสิงค์ (ศิลปะเชียงแสน) หรือพระพุทธสิหิงค์ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหารจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีพุทธลักษณะศิลปะแบบเชียงแสน หรือล้านนาเป็นปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร ฐานมีกลีบบัวคว่ าและบัวหงายรองรับ มักหล่อด้วยสัมฤทธิ์ มีรัศมีเป็นดอกบัวตูม พระ เกศาขมวดใหญ่พระพักตร์กลมอมยิ้ม พระหนุเป็นปม พระวรกายอวบอ้วน พระอุระนูน ชายสังฆาฏิอยู่เหนือ พระถันแยกเป็นเขี้ยว ตะขาบ รุ่นต่อมานิยมสร้างชายสังฆาฏิยาวจรดพระนาภีและแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ ดังรูปภาพตัวอย่าง ภาพที่1 พระพุทธสิหิงค์ ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหารจังหวัดเชียงใหม่ โดยกรรมวิธีและวัสดุที่ใช้ในการประกอบอาชีพการปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะของบ้านช่างหล่อจะด าเนินตามวิธีการ และกระบวนการคิดตามขั้นตอนโบราณ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่หาได้ในท้องถิ่น จึงท าให้ผลงานที่ได้มีความแตกต่าง จากที่อื่น กล่าวว่า “การปั้นพระของตนนั้นยังยึดตามแบบโบราณที่ขึ้นรูปพระด้วยการปั้นด้วยดินเหนียวและแกลบ น ามาขึ้นรูปตาม แบบของผู้ว่าจ้าง ซึ่งได้รับความนิยมของวัดตามภาคเหนือในการปั้นและหล่อพระแบบโบราณ โดยเฉพาะเซียนพระจะชื่นชอบพระ ลักษณะแบบนี้มาก ส่วนดินเหนียวมาจากบ้านเหมืองกุง อ าเภอหางดง ส่วนแกลบเหลืองซื้อตามโรงสีรอบตัวเมือง จะไม่เหมือนกับ ทางภาคกลาง หรือแบบอุตสาหกรรม ที่จะใช้วิธีการใช้แบบพิมพ์และเบ้าหลอมโลหะจะเป็นปูนซึ่งมีอายุการใช้งานนานและสะดวก กว่าเบ้าของทางเหนือจะสามารถใช้ได้เพียง 4-5 ครั้งเท่านั้นแล้วก็ต้องทุบท าใหม่ และจะต้องอาศัยประสบการณ์ในการดูใช้ไฟ และกะระยะเวลาให้พอเหมาะ เมื่อน้ าทองเหลวได้ที่จะต้องเททันทีจึงจะได้องค์พระที่มีเนื้อเต็มและสวยงาม” จากการสัมภาษณ์


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1068 และสังเกตการณ์ (9 พฤศจิกายน 2566) การหล่อพระแบบล้านนาโบราณนี้เป็นการสร้างสรรค์ผลงานในการปั้นหล่อพระพุทธรูป ที่มีตั้งแต่ขนาด 2 นิ้ว ไปจนถึง 50 นิ้ว โดยใช้แรงงานคนเพียง 1 - 2 เท่านั้น ซึ่งตามคติในการสร้างพระพุทธรูปหรือสร้างพระเจ้า ตามธรรมเนียมจารีตล้านนาที่ปรากฏในคัมภีร์โบราณ (ใบลานและพับสา) แสดงถึงความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุที่จะน ามาสร้าง พระพุทธรูปแบบล้านนาสมัยโบราณ ตั้งแต่การขึ้นรูปด้วยการปั้นหุ่นองค์พระด้วยแกนดินและการตกแต่งลวดลายให้ได้ตามพุทธ ลักษณะของพระทางภาคเหนือ การหลอมโลหะให้ได้น้ าทองในอุณหภูมิที่เหมาะสม และการหลอมโลหะเข้าไปในหุ่นจนได้หุ่นองค์ พระที่เป็นเนื้อส าริดที่สวยงาม ทั้งหมดนี้ถือได้ว่าเป็นงานฝีมือ โดยจะท ากันทีละองค์เท่านั้น ประกอบกับประเพณีวัฒนธรรมที่ดีงาม เช่น การไหว้ครูบาอาจารย์ก่อนที่รับเป็นลูกศิษย์ หรือผู้ช่วยช่าง โดยจะต้องปฏิบัติตามกฎข้อห้าม และการถือฤกษ์ วัน เวลา ซึ่งถือ ได้ว่าเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่ดีงาม ตามความเชื่อที่ถือสืบทอดส่งต่อกันมาโดยคติประเพณี สมควรหาสถานที่ ประดิษฐานให้เหมาะสม จากการพิเคราะห์ถึงสาระที่อยู่เบื้องหลังการสร้างพระพุทธรูปจะพบคุณค่าของมรดกคติธรรมทาง วัฒนธรรม มรดกทางศิลปกรรม และสถาปัตยกรรมที่บรรพชนมอบให้แก่เราซึ่งเป็นลูกหลาน สมควรที่จะอนุรักษ์และสืบสานต่อไป (พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์, 2557) การอภิปรายผล ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการอนุรักษ์ สืบสานและพัฒนาภูมิปัญญางานปั้น – หล่อพระพุทธรูปโลหะ แบบโบราณของชุมชนบ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีดังนี้ 1. จากการศึกษาสถานการณ์ปัจจุบันของบ้านช่างหล่อ อ าเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ กับการสืบสานและอนุรักษ์ภูมิ ปัญญา การหล่อพระพุทธรูปโลหะแบบโบราณ พบว่าในปัจจุบัน การปั้น - หล่อพระพุทธรูปแบบล้านนาโบราณของบ้านช่างหล่อ ประสบปัญหาในการขาดแคลนบุคคลากรผู้สืบทอด และมีความสุ่มเสี่ยงที่องค์ความรู้นี้จะสูญหายไปในไม่ช้า เนื่องจากลูกหลานของ คนในชุมชน ช่างหล่อหันไปประกอบอาชีพอื่น เช่น รับราชการ พนักงานเอกสาร หรือประกอบธุรกิจอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับงาน หัตถศิลป์แขนงนี้ สอดคล้องกับวิทยานิพนธ์ของ ยิ่งศักดิ์ วิชกมลเศรษฐ์ (2560) ที่ได้ท าการศึกษาเรื่อง “การจัดการความรู้เพื่อ อนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น การหล่อพระแบบโบราณ บ้านช่างหล่อ ต าบลหายยา อ าเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ จาก การศึกษาพบว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ส าคัญหลาย ๆ แขนงได้สูญหายไป เนื่องจากไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร ถึงแม้ว่าจะอยู่ใน ชุมชนก็ตาม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ แทบจะไม่รู้จักเลย ซึ่งอาจจะไม่ใด้เกิดจากความตั้งใจ หรืออาจจะหลงลืมไปบ้าง เนื่องจากในยุค สมัยที่เปลี่ยนไปกระแสสังคมและอย่างหลีกเสี่ยงไม่ได้ 2. การปั้น - หล่อพระพุทธรูปแบบล้านนาโบราณของบ้านช่างหล่อ เป็นภูมิปัญญาและทักษะฝีมือของช่าง (สล่า) ที่มีการเลือกใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น และมีกลวิธีในการสร้างสรรค์ผลงานที่แสดงถึงอัตลักษณ์ อันสะท้อนถึงพัฒนาการทางสังคม และวัฒนธรรมของกลุ่มชน ซึ่งเป็นงานช่างฝีมือแบบดั้งเดิม โดยผลงานซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย คือ พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน (พระสิงห์หนึ่ง พระสิงห์สอง) ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาในหนังสือ “ประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา” ของศาสตราจารย์เกียรติคุณ สุรพล ด าริห์กุล (2566) ที่ได้กล่าวถึง พุทธลักษณะของพระพุทธรูปล้านนา ซึ่งเป็นพัฒนาการทางด้านศิลปะที่มีความแตกต่าง ของแต่ละยุคแต่ละสมัยที่เป็นผลสะท้อนผ่านงานพุทธศิลป์ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะพื้นที่ในดินแดนล้านนา 3. สภาพพื้นที่การปฏิบัติงานในปัจจุบันไม่เอื้ออ านวยต่อการประกอบอาชีพช่างหล่อ ด้วยกระบวนการและกรรมวิธีแบบ โบราณที่ค่อนข้างจะเป็นอุปสรรคต่อการผลิตในบางขั้นตอน ด้วยบริบทของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย สอดคล้อง กับการศึกษาในหนังสือชุมชนช่างในเวียงเชียงใหม่ ประวัติศาสตร์ชุมชนเชียงใหม่ ของรองศาสตราจารย์สมโชติ อ๋องสกุล (2558) ที่ได้กล่าวถึง การตั้งอยู่ของชุมชนช่างรอบเวียงเชียงใหม่และบริบททางสังคมของชุมชนช่างที่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย 4. ยังขาดการสนับสนุนและส่งเสริมจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เข้าช่วยผลักดันให้เกิด การร่วมสืบสานและอนุรักษ์มรดกทางภูมิปัญญางานปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะ ที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของชุมชนช่างหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ สอดคล้องจากการศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับชุมชนและทุนทางสังคมของเฉลิมพล แจ่มจันทร์(2554) ที่ได้กล่าวถึง


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1069 กระบวนการสร้างความเข้มแข็งภายในชุมชน จ าเป็นต้องให้ความส าคัญกับกระบวนการสร้างทุนของชุมชนทั้งที่เป็นทุนที่มีอยู่แล้ว ในพื้นที่ ทุนทางด้านความรู้ ทุนทางสังคม และทุนด้านมนุษย์ จึงควรได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากส่วนงานที่เกี่ยวข้อง 5. ปัจจุบันนี้จะท างานตามออร์เดอร์ที่มีคนมาสั่ง นอกจากนั้นแล้วก็ยังส่งจ าหน่ายในเชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก อยุธยา และสุโขทัย รวมทั้งแถบภาคอีสาน สนนราคาก็อยู่ในระดับที่น่าพอใจ อย่างพระพุทธรูปปางมารวิชัยสูง 9 นิ้วที่ใช้เวลาท าประมาณ ร่วมสองอาทิตย์จะรายได้ประมาณหมื่นสองพันบาท นอกจากการมีความรู้เรื่องหล่อพระเป็นอย่างดีแล้ว ช่างหล่อทุกคนจะต้องหา ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องแบบของพระพุทธรูปสมัยต่าง ๆ ด้วยการศึกษาจากของเก่าอีกด้วย และดูเหมือนว่าจะยังคงด าเนินต่อไป แม้ว่ารอบ ๆ ข้างบ้านจะกลายเป็นร้านค้าที่จ าหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคไปแล้ว แต่ลมหายใจของช่างหล่อที่ท าเพียงไม่กี่คน จะจุดประกายให้อาชีพนี้ได้รับความสนใจขึ้นอีกครั้ง เพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์ไว้ ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษ ได้ส่งต่อให้แก่ลูกหลาน โดยสอดคล้องกับวิทยานิพนธ์ของรัตนะ ภู่สวาสดิ์ (2556) จากการศึกษา "การอนุรักษ์และการพัฒนาความรู้ งานคั่วตองชุมชนวัดพวกแต้ม อ าเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ผลจากการอนุรักษ์และการพัฒนาองค์ความรู้ถูก ถ่ายทอด ยังชุมชนอื่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการพัฒนาองค์ความรู้เรื่องคัวตอง และการอนุรักษ์มรดกทาง ศิลปวัฒนธรรมของชุมชนวัดพวกแต้มให้ยั่งยืนต่อไป ข้อเสนอแนะ 1. หน่วยงานที่รับผิดชอบควรให้การสนับสนุนด้วยการน า "ครูช่าง" ที่เป็นภูมิปัญาชาวบ้านในด้านศิลปะการสร้าง ปฏิมากรรมพระพุทธรูปแบบโบราณมาถ่ายทอดแก่อนุชนรุ่นหลัง เพื่อต่อยอดในการสืบสานและรักษาให้เป็นมรดกแก่ชนชาติไทยรุ่น ต่อไป โดยธ ารงไว้ซึ่งความเป็นเอกลักษณ์แบบโบราณล้านนา เช่น จัดท าโครงการสืบสานอัตลักษณ์ล้านนา โดยครูสล่าช่างล้านนา ร่วมกับสถานศึกษาใกล้เคียงในพื้นที่ อาทิ โรงเรียนธรรมราชศึกษา วัดพระสิงห์ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐาน “พระพุทธสิหิงค์” อันถือ เป็นองค์ต้นแบบของการปั้น - หล่อพระพุทธรูปของบ้านช่างหล่อ เพื่อปลุกฝังจิตส านึกและสร้างความตระหนักให้แก่เยาวชนในพื้นที่ 2. นักวิชาการตลอดจนผู้สนใจทั้งหลายได้เรียนรู้สภาพการณ์จริงและน าไปพัฒนาปรับปรุงรวมถึงจัดระบบการท างาน ให้สอดคล้องกับการประกอบการในยุคปัจจุบัน ในการหล่อพระพุทธรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงการจัดท าข้อมูลเพื่อเผยแพร่ องค์ความรู้และเรื่องราวของการปั้น - หล่อพระพุทธรูปโลหะแบบล้านนาโบราณของบ้านช่างหล่อให้ได้เป็นที่รู้จักของบุคคล โดยทั่วไป เพื่อสร้างความตระหนักถึงมรดกทางวัฒนธรรมให้เกิดขึ้นกับคนในพื้นที่ รวมถึงการคาดหวังที่จะมีหน่วยงานและคนที่ สนใจเข้ามาช่วยสืบสานร่วมอนุรักษ์และพัฒนางานหัตถศิลป์แขนงนี้ไว้ให้อยู่คู่กับเมืองเชียงใหม่สืบไป เอกสารอ้างอิง หนังสือ/เอกสาร (ภาษาไทย) ธนิก เลิศชาญฤทธ์. (2554) กำรจัดกำรทรัพยำกรวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์กรมหาชน). นภาภรณ์ หะวานนท์. (2548) กำรเสริมสร้ำงทุนทำงสังคมเพื่อชุมชนเข้มแข็ง. กรุงเทพฯ: ส านักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. พิสิฏฐ์ โคตรสุโพธิ์. (2557). พิธีกรรมในวิถีชีวิตล้ำนนำจำกเอกสำรโบรำณ. เชียงใหม่ : นพบุรีการพิมพ์. ยงธนิศร์ พิมลเสถียร. (2543).“วิชำกำรอนุรักษ์”. เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำกำรอนุรักษ์. กรุงเทพฯ : ภาควิชาการวางแผนผัง และเมือง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง. รัตนะ ภู่สวาสดิ์. (2556). กำรอนุรักษ์และกำรพัฒนำควำมรู้งำนคัวตอง ชุมชนพวกแต้ม อ ำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนำนุกรมฉบับรำชบัณฑิตยสถำน พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์ พับลิเคชั่น. หน้า 534. วดี กัณหทัต. (2521). หล่อพระ. กรุงเทพฯ : องค์การค้า คุรุสภา.หน้า 52 – 56


Payap University and UNRN Research Symposium 2024 February 9, 2024 Research office 1070 วิทยากร เชียงกูล. (2540). พจนำนุกรมศัพท์เศรษฐกิจ ธุรกิจ กำรเงิน และกำรธนำคำร. กรุงเทพฯ : ส านักพิมพ์มติชน. หน้า 78. วันรักษ์ มิ่งมณีนาคิน. (2534). พจนำนุกรมศัพท์เศรษฐศำสตร์. กรุงเทพฯ: ส านักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. หน้า 45. ศาสตราจารย์เกียรติคุณสุรพล. (2542). โครงกำรสืบสำนมรดกวัฒนธรรมไทย. ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ความเป็นอยู่และ ประเพณี. กรุงเทพฯ. หน้า 319-329 ศาสตราจารย์เกียรติคุณสุรพล ด าริห์กุล. (2566). ประวัติศำสตร์และศิลปะล้ำนนำ : พระพุทธรูปล้ำนนำ. ส านักพิมพ์เมืองโบราณ, ในนามบริษัทวิริยะธุรกิจ จ ากัด. (พิมพ์ครั้งที่ 2). หน้า 202 – 207. สถาบันราชภัฏเชียงใหม่ ศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดเชียงใหม่. (2539). สรรพช่ำง : ภูมิปัญญำท้องถิ่นเชียงใหม่, โรงพิมพ์ดาว 37, หน้า 226. สายันต์ ไพรชาญจิตร์. (2548). กระบวนกำรโบรำณคดีชุมชน : กำรวิจัยเชิงปฏิบัติกำรพัฒนำแบบมีส่วนร่วมเพื่อเสริมสร้ำง ควำมสำมำรถของชุมชนท้องถิ่นในกำรจัดกำรทรัพยำกรทำงวัฒนธรรมในจังหวัดน่ำน (รายงานการวิจัย), .กรุงเทพ: โรงพิมพ์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์. หน้า 24 – 26. สมโชติ อ๋องสกุล. (2558). ชุมชนช่ำงในเวียงเชียงใหม่ : ประวัติศำสตร์ชุมชนเชียงใหม่ : ศูนย์ล้านนาศึกษา คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย เชียงใหม่. อมรา พงศาพิชญ์. (2543). ธรรมรัฐกับประชำสังคม. กรุงเทพฯ: สมาคมรัฐประศาสนศาสตร์แห่งประเทศไทย. หน้า 25. หนังสือ/เอกสาร (ภาษาอังกฤษ) Kolasa, J.B. Introduction to behavioral Science for business. New York: John Willey and Sons Ins. (1989). วิทยานิพนธ์(ภาษาไทย) พรรณงาม โควานนท์. (2558). กำรศึกษำองค์ควำมรู้มรดกภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรมกำรปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะ บ้ำนช่ำงหล่อ ต ำบลหำยยำ อ ำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ เชียงใหม่). ยิ่งศักดิ์ วิชกมลเศรษฐ์. (2560). กำรจัดกำรควำมรู้เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญำท้องถิ่นกำรหล่อพระแบบล้ำนนำโบรำณ (วิทยานิพนธ์ : วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการความรู้ บัณฑิตวิทยาลัย), มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สราวุธ รูปิน.(2559). โครงกำรมองล้ำนนำผ่ำนประวัติศำสตร์และโบรำณคดี โครงกำรย่อย งำนช่ำงพุทธศิลป์ล้ำนนำ ล้ำนนำคดี ด้ำนที่2 โบรำณคดีและประวัติศำสตร์, (เชียงใหม่: โครงการล้านนาคดีศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่), หน้า 3 และ 7. รัตนะ ภู่สวาสดิ์. (2556). "กำรอนุรักษ์และกำรพัฒนำควำมรู้ งำนคัวตอง ชุมชนวัดพวกแต้ม อ ำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่" ศิลปศาสตรมหาบัณติด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. นายชัยรัตน์ แก้วดวงแสง. ปรำชญ์ท้องถิ่นกำรปั้นและหล่อพระพุทธรูป, สัมภาษณ์, 16 กรกฏาคม 2566.


Click to View FlipBook Version