พระราชบญญ ั ต ัิ ขอม ้ ู ลข ่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 --------------------------------------------- ภม ู ิ พลอดลยเดช ุ ป.ร. ใหไว้ ้ณ วนทั่ี๒ กนยายนัพ.ศ.๒๕๔๐ เป็นปีท่ี๕๒ ในรชกาลป ัจจัุบนั พระบาทสมเดจพระปรม ็นทรมหาภิมูพลอดิลยเดชุ มพระบรมราชโองการโปรดเกล ีา้ฯ ใหประกาศว ้า่ โดยท่เปี ็นการสมควรใหม้กฎหมายวีาด่วยข้อม้ลขูาวสารของราชการ่ จงทรงพระกรึุณาโปรดเกลา้ฯ ใหตราพระราชบ้ญญัตัขิÊนไว ึ โดยค ้าแนะนําและยํนยอมของริฐสภาั ดงตั ่อไปนÊี มาตรา ๑ พระราชบญญัตันิÊเรียกวีา่ “พระราชบญญัตัขิอม้ลขูาวสารของราชการ่ พ.ศ.๒๕๔๐” มาตรา ๒ พระราชบญญัตันิÊใหี ใช้บ้งคับเมั่อพืนก้าหนดเกําส้บวินนับแตั ่วนประกาศในราชก ัจจาิ นุเบกษาเป็นตนไป้ มาตรา ๓ บรรดากฎหมาย กฎ ระเบยบีและขอบ้งคับอั่นื ในส่วนท่บีญญัตัไวิแล้ วใน้ พระราชบญญัตันิÊ ีหรอซื่งขึดหรัอแยืงก้บบทแหั ่งพระราชบญญัตันิÊใหี ใช้พระราชบ้ญญัตันิÊแทนี มาตรา ๔ ในพระราชบญญัตันิÊี “ขอม้ลขูาวสาร่ ” หมายความวา่ ส่งทิ่สี่อความหมายให ืรู้เร้่องราวขือเท้จจร็งิขอม้ลู หรอสื่งใดๆ ิ ไมว่า่ การส่อความหมายนืนจะทัÊ าไดํ โดยสภาพของส ้่งนินเองหรัÊ อโดยผ ืานว่ธิการใดๆ ี และไมว่ าจะได ่จ้ดทั าไวํ ในร ู้ป ของเอกสาร แฟ้ม รายงาน หนงสัอืแผนผงัแผนท่ีภาพวาด ภาพถาย่ ฟิลม ์ การบนทักภาพหรึอเสืยงีการ บนทั กโดยเคร ึ่องคอมพืวเตอริ ์ หรอวืธิอี่นใดท ื่ทีาใหํส้่งทิ่บีนทั กไว ึ ปรากฏได ้ ้ “ขอม้ลขูาวสารของราชการ่ ” หมายความวา่ขอม้ลขูาวสารท่่อยีู่ในความครอบครองหรอควบคืมดุ ูแลของ หน่วยงานของรฐั ไมว่ าจะเป ่ ็นขอม้ลขูาวสารเก่่ยวกีบการดัาเนํนงานของริฐหรัอขือม้ลขูาวสารเก่่ยวกีบเอกชนั
“หน่วยงานของรฐั” หมายความวา่ ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภมูภาคิราชการส่วนทองถ้่นิ รฐวัสาหกิจิ ส่วนราชการสงกัดรัฐสภาั ศาลเฉพาะในส่วนท่ไมีเก่่ยวกีบการพัจารณาพิพากษาคดิ ีองคกร ์ ควบคมการประกอบวุชาชิพีหน่วยงานอสระของริฐและหนั ่วยงานอ่นตามทื่กีาหนดในกฎกระทรวง ํ “เจาหน้าท้่ของรีฐั” หมายความวา่ ผูซ้่งปฏ ึบิตังานให ิแก้ ่หน่วยงานของรฐั “ขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลุ ” หมายความวา่ขอม้ลขูาวสารเก่่ยวกีบสั่งเฉพาะติวของบัคคลุเช่น การศึกษา ฐานะการเงนิ ประวตัสิุขภาพ ประวตัอาชญากรรมิ หรอประว ืตัการทิางานํ บรรดาท่มีชี่อของผืู้ นนหรัÊอมืเลขหมายีรหสัหรอสื่งบอกลิกษณะอั่นทื่ทีาใหํรู้ต้วผัูน้นได ัÊ ้เช่น ลายพมพิน ์ Êวมิอื แผ่นบนทักึ ลกษณะเสัยงของคนหรีอรืูปถาย่ และใหหมายความรวมถ้งขึอม้ลขูาวสารเก่่ยวกีบสั่งเฉพาะติวของผัูท้่ถีงแกึ ่ กรรมแลวด้วย้ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการขอม้ลขูาวสารของราชการ่ “คนต่างดาว้ ” หมายความวา่ บคคลธรรมดาทุ่ไมีม่สีญชาตั ไทยและไม ิม่ถี่นทิ่อยีู่ ในประเทศไทย และนติบิคคลดุงตั ่อไปนÊี (๑) บรษิทหรัอหืางห้นสุ้ ่วนท่มีทีนเกุนกิ่งหนึ่งเปึ ็นของคนต่างดาว้ ใบหนชนุ้ ดออกให ิแก้ ่ผูถ้อื ใหถ้อวื าใบ่ หนนุ้นคนตัÊ่างดาวเป ้ ็นผูถ้อื (๒) สมาคมท่มีสมาชีกเกินกิ่งหนึ่งเปึ ็นคนต่างดาว้ (๓) สมาคมหรอมืลนูธิทิ่มีวีตถั ประสงคุเพ ์ ่อประโยชน ืของคนต ์ ่างดาว้ (๔) นติบิคคลตามุ (๑) (๒) (๓) หรอนืติบิคคลอุ่นใดท ื่มีผีูจ้ดการหรัอกรรมการเกืนกิ่งหนึ่งเปึ ็นคนต่าง ดาว้ นติบิคคลตามวรรคหนุ่งึ ถาเข้ าไปเป ้ ็นผูจ้ดการหรัอกรรมการืสมาชกิหรอมืทีนในนุติบิคคลอุ่นื ให้ ถอวืาผู่จ้ดการหรัอกรรมการื หรอสมาชืกิ หรอเจืาของท้นดุงกลั าวเป ่ ็นคนต่างดาว้ มาตรา ๕ ใหนายกร้ฐมนตรัรีกษาการตามพระราชบัญญัตันิÊีและมอีานาจออกกฎกระทรวงํ เพ่อปฏ ืบิตัิ ตามพระราชบญญัตันิÊี กฎกระทรวงนนัÊ เม่อประกาศในราชก ืจจานิุเบกษาแลวให้ ใช้บ้งคั บไดั ้ มาตรา ๖ ใหจ้ดตังสัÊานํกงานคณะกรรมการขัอม้ลขูาวสารของราชการข่Êนในส ึงกัดสัานํ กงานปล ัดสัานํกั นายกรฐมนตรั ีมหนีาท้่ปฏีบิตังานเกิ่ยวกีบงานวัชาการและธิุรการใหแก้ ่คณะกรรมการและคณะกรรมการ วนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสาร่ ประสานงานกบหนั ่วยงานของรฐั และใหค้าปร ํกษาแกึ ่เอกชนเก่ยวกีบการั ปฏบิตัตามพระราชบิญญัตันิÊี
หมวด ๑ การเปิดเผยขอมู้ลข่าวสาร _______________ มาตรา ๗ หน่วยงานของรฐตัองส้ ่งขอม้ลขูาวสารของราชการอย่ ่างนอยด้งตั ่อไปนÊลงพีมพิ ในราชก ์ จจาิ นุเบกษา (๑) โครงสรางและการจ้ดองคั กรในการด ์ าเนํนงานิ (๒) สรุปอานาจหนําท้่ที่สีาคํญและวัธิการดีาเนํนงานิ (๓) สถานท่ตีดติ ่อเพ่อขอรืบขัอม้ลขูาวสาร่หรอคืาแนะนํ าในการต ํดติ ่อกบหนั ่วยงานของรฐั (๔) กฎ มตคณะริฐมนตรั ีขอบ้งคับั คาสํง่ั หนงสัอเวืยนี ระเบยบี แบบแผน นโยบาย หรอการื ตความี ทงนัÊ Êีเฉพาะท่จีดให ัม้ขีÊนโดยม ึสภาพอยี ่างกฎ เพ่อใหืม้ผลเป ี ็นการทวไปต ่ั ่อเอกชนท่เกี่ยวขีอง้ (๕) ขอม้ลขูาวสารอ่่นตามทื่คณะกรรมการกีาหนดํ ขอม้ลขูาวสารใดท ่่ไดีม้การจีดพัมพิเพ ์ ่อใหืแพร้ ่หลายตามจานวนพอสมควรแลํว้ถาม้การลงพีมพิ ในราช ์ กจจานิุเบกษาโดยอางอ้งถิงสึ่งพิมพิน ์ นกัÊ็ใหถ้อวื าเป่ ็นการปฏบิตัตามบทบิญญัตัวรรคหนิ่งแลึว้ ใหหน้ ่วยงานของรฐรวบรวมและจั ดให ัม้ขีอม้ลขูาวสารตามวรรคหน่่งไว ึเผยแพร้ ่เพ่อขายหรือจืาหนํ ่าย จ่ายแจก ณ ท่ทีาการของหนํ ่วยงานของรฐแหั ่งนนตามทัÊ ่เหีนสมควร็ มาตรา ๘ ขอม้ลขูาวสารท่่ตีองลงพ้มพิตามมาตรา ์ ๗ (๔) ถาย้ งไมั ได่ลงพ้มพิ ในราชก ์ จจานิุเบกษา จะนามาใช ํบ้งคั บในทางท ั่ไมี เป่ ็นคณแกุ่ผูใดไม ้ ได่ ้เวนแต้ ่ผูน้นจะได ัÊรู้ถ้งขึอม้ลขูาวสารน่ นตามความเป ัÊ็นจรงมาิ ก่อนแลวเป้ ็นเวลาพอสมควร มาตรา ๙ ภายใตบ้งคับมาตราั ๑๔ และมาตรา ๑๕ หน่วยงานของรฐตัองจ้ ดให ัม้ขีอม้ลขูาวสาร่ ของราชการอย่างนอยด้งตั ่อไปนÊไวี ให้ ประชาชนเข ้าตรวจดู้ได ้ทงนัÊ Êีตามหลกเกณฑัและว ์ ธิการที่ี คณะกรรมการกาหนดํ (๑) ผลการพจารณาหริอคืาวํนิจฉิยทั่มีผลโดยตรงต ี ่อเอกชน รวมทงความเหัÊนแย็งและค้าสํงท่ั่เกี่ยวขีอง้ ในการพจารณาวินิจฉิยดังกลัาว่ (๒) นโยบายหรอการตืความที่ไมีเข่าข้ายต่องลงพ้มพิ ในราชก ์ จจานิุเบกษา ตามมาตรา ๗ (๔) (๓) แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจาปํ ีของปีท่กีาลํงดัาเนํนการิ (๔) คู่มอหรือคืาสํงเก่ั่ยวกีบวัธิปฏีบิตังานของเจิาหน้าท้่ของรีฐัซ่งมึผลกระทบถีงสึทธิหนิาท้่ของเอกชนี (๕) ส่งพิมพิท ์ ่ไดีม้การอีางอ้งถิงตามมาตราึ ๗ วรรคสอง
(๖) สญญาสั มปทาน ัสญญาทั่มีลีกษณะเป ั ็นการผูกขาดตดตอนหรัอสืญญารั ่วมทนกุบเอกชนในการ ั จดทัาบรํการสาธารณะิ (๗) มตคณะริฐมนตรั ีหรอมตืคณะกรรมการทิ่แตี ่งตงโดยกฎหมาย ัÊหรอโดยมต ืคณะริฐมนตรั ีทงนัÊ Êี ใหระบ้รายชุ่อรายงานทางวืชาการิรายงานขอเท้จจร็งิหรอขือม้ลขูาวสารท่่นีามาใช ํ ในการพ ้ จารณาไว ิด้วย้ (๘) ขอม้ลขูาวสารอ่่นตามทื่คณะกรรมการกีาหนดํ ขอม้ลขูาวสารท่่จีดให ั ประชาชนเข ้าตรวจดู้ไดตามวรรคหน้่งึ ถาม้สี่วนท่ตีองห้ามม้ ใหิ เป้ ิดเผยตามมาตรา ๑๔ หรอมาตราื ๑๕ อยู่ดวย้ ใหลบหร้อตืดทอนหรัอทื าโดยประการอ ํ่นใดท ื่ไมี เป่ ็นการเปิดเผยขอม้ลขูาวสาร่ นนัÊ บคคลไมุว่าจะม่สี่วนไดเส้ยเกี่ยวขีองหร้ อไม ืก่ ็ตาม ย่อมมสีทธิเขิาตรวจดู้ขอสาเนาหรํอขอสืาเนาทํ่มีคีาํ รบรองถักตูองของข้อม้ลขูาวสารตามวรรคหน่่งไดึ ้ในกรณีท่สมควรหนี ่วยงานของรฐโดยความเห ันชอบของ็ คณะกรรมการ จะวางหลกเกณฑัเร ์ ยกคี ่าธรรมเนยมในการน ีนกัÊ็ได้ในการนÊใหีค้านํงถึงการชึ ่วยเหลอผืูม้ี รายไดน้อยประกอบด ้วย้ ทงนัÊ Êีเวนแต้ ่จะมกฎหมายเฉพาะบีญญัตัไวิ เป้ ็นอย่างอ่นื คนต่างดาวจะม้สีทธิตามมาตรานิÊเพี ยงใดให ี เป้ ็นไปตามท่กีาหนดโดยกฎกระทรวง ํ มาตรา ๑๐ บทบญญัตัมาตราิ ๗ และมาตรา ๙ ไมกระทบถ่งขึอม้ลขูาวสารของราชการท่่มีี กฎหมายเฉพาะกาหนดให ํม้การเผยแพรี ่หรอเปื ิดเผย ดวยว้ธิการอยี ่างอ่นื มาตรา ๑๑ นอกจากขอม้ลขูาวสารของราชการท่่ลงพีมพิ ในราชก ์ จจานิุเบกษาแลว้หรอทื่จีดไว ั ให้ ้ ประชาชนเขาตรวจดู้ไดแล้ว้หรอทื่มีการจี ดให ั ประชาชนได ้ค้นคว้าตามมาตรา้๒๖ แลว้ถาบ้ คคลใดขอขุอม้ลู ขาวสารอ่่นใดของราชการและค ืาขอของผํูน้นระบัÊขุอม้ลขูาวสารท่่ตีองการในล ้กษณะทั่อาจเขี าใจได ้ตามควร้ ให้ หน่วยงานของรฐผัูร้บผัดชอบจิดหาขัอม้ลขูาวสารน่ นให ัÊแก้ ่ผูขอภายในเวลาอ ้นสมควรั เวนแต้ ่ผูน้นขอจัÊานวนํ มากหรอบือยคร่ งโดยไม ัÊม่เหตีผลอุนสมควรั ขอม้ลขูาวสารของราชการใดม ่สภาพที่อาจบีบสลายงุาย่ หน่วยงานของรฐจะขอขยายเวลาในการจ ัดหาั ใหหร้อจะจืดทัาสํ าเนาให ํ ในสภาพอย ้ ่างหน่งอยึ ่างใด เพ่อมื ใหิเก้ดความเสิยหายแกี ่ขอม้ลขูาวสารน่นกัÊ็ได้ ขอม้ลขูาวสารของราชการท่่หนี ่วยงานของรฐจั ดหาให ัตามวรรคหน้่งตึ องเป ้ ็นขอม้ลขูาวสารท่่มีอยีู่แลวใน้ สภาพท่พรี อมจะให ้ ได้ ้มใชิ ่เป็นการตองไปจ ้ดทัาํวเคราะหิ ์ จาแนกํ รวบรวม หรอจื ดให ัม้ขีÊนใหม ี ่เวนแต้ ่เป็น การแปรสภาพเป็นเอกสารจากขอม้ลขูาวสารท่่บีนทั กไว ึ ในระบบการบ ้นทักภาพหรึอเสืยงี ระบบคอมพวเตอริ ์ หรอระบบอื่นใด ื ทงนัÊ Êีตามท่คณะกรรมการกีาหนดํ แต่ถาหน้ ่วยงานของรฐเหันว็ากรณ่ ีท่ขอนีนมัÊ ใชิ ่การ แสวงหาผลประโยชนทางการค ์ า้ และเป็นเร่องทื่จีาเปํ ็นเพ่อปกป ื ้องสทธิเสริภาพสีาหรํบผัูน้นหรัÊอเปื ็นเร่องทื่จะี เป็นประโยชนแก ์ ่สาธารณะ หน่วยงานของรฐจะจัดหาขัอม้ลขูาวสารน่ นให ัÊก้็ได้
บทบญญัตัวรรคสามไม ิ เป่ ็นการหามหน้ ่วยงานของรฐทั่จะจี ดให ัม้ขีอม้ลขูาวสารของราชการใดข ่Êนใหม ึ ่ ใหแก้ ่ผูร้องขอ้ หากเป็นการสอดคลองด้วยอ้านาจหนําท้่ตามปกต ีของหนิ ่วยงานของรฐนันอยัÊู่แลว้ ใหน้าความในมาตรา ํ ๙ วรรคสอง วรรคสาม และวรรคส่ ีมาใชบ้งคับแกั ่การจดหาขัอม้ลขูาวสารให ่ ้ ตามมาตรานÊีโดยอนุโลม มาตรา ๑๒ ในกรณีท่มีผีูย้่นคืาขอขํอม้ลขูาวสารของราชการตามมาตรา่ ๑๑ แมว้าข่อม้ลขูาวสารท่่ี ขอจะอยู่ในความควบคมดุ ูแลของหน่วยงานส่วนกลาง หรอสื ่วนสาขาของหน่วยงานแห่งนนหรัÊอจะอยืู่ในความ ควบคมดุ ูแลของหน่วยงานของรฐแหั ่งอ่นกืตาม็ ใหหน้ ่วยงานของรฐทั่รีบคั าขอให ํค้าแนะนําํเพ่อไปย ื่นคืาขอตํ ่อ หน่วยงานของรฐทั่ควบคีมดุ ูแลขอม้ลขูาวสารน่ นโดยไม ัÊช่กชัา้ ถาหน้ ่วยงานของรฐผัูร้บคัาขอเหํนว็าข่อม้ลขูาวสารท่่มีคีาขอเป ํ ็นขอม้ลขูาวสารท่่จีดทั าโดยหน ํ ่วยงานของ รฐแหั ่งอ่นื และไดระบ้หุามการเป ้ ิดเผยไวตามระเบ้ยบที่กีาหนดตามมาตราํ ๑๖ ใหส้่งคาขอนํ นให ัÊหน้ ่วยงาน ของรฐผัูจ้ดทัาขํอม้ลขูาวสารน่นพัÊจารณาเพิ่อมืคีาสํงต่ั ่อไป
มาตรา ๑๓ ผูใดเห ้นว็าหน่ ่วยงานของรฐไมัจ่ดพัมพิข ์ อม้ลขูาวสารตามมาตรา่๗ หรอไม ืจ่ดขัอม้ลู ขาวสารไว ่ ให้ ประชาชนตรวจด ู้ไดตามมาตรา้๙ หรอไม ืจ่ดหาขัอม้ลขูาวสารให ่แก้ ่ตนตามมาตรา ๑๑ หรอฝื ่าฝืน หรอไม ื ปฏ่บิตัตามพระราชบิญญัตันิÊีหรอปฏ ืบิตัหนิาท้่ลีาช่าหร้อเหืนว็ าตนไม ่ ได่ร้บความสะดวกโดยไม ัม่เหตีอุนั สมควร ผูน้นมัÊสีทธิริองเร้ยนตี ่อคณะกรรมการ เวนแต้ ่เป็นเร่องเกื่ยวกีบการมัคีาสํงม่ั ใหิ เป้ ิดเผยขอม้ลขูาวสาร่ ตามมาตรา ๑๕ หรอคืาสํ งไม่ัร่ บฟังคัาคํดคัานตามมาตรา้ ๑๗ หรอคืาสํ งไม่ัแก่ ไขเปล ้่ยนแปลงหร ีอลบื ขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลตามมาตราุ๒๕ ในกรณีท่มีการรีองเร้ยนตี ่อคณะกรรมการตามวรรคหน่งึ คณะกรรมการตองพ้ จารณาให ิแล้วเสร้ ็จ ภายในสามสบวินนับแตั ่วนทั่ไดีร้บคัารํองเร้ยนี ในกรณีท่มีเหตีจุาเปํ ็นใหขยายเวลาออกไปได ้ ้แต่ตองแสดง้ เหตผลและรวมเวลาทุงหมดแลัÊวต้ องไม ้เก่นหกสิบวินั หมวด ๒ ขอมู้ลข่าวสารท่ไมี ่ตองเป ้ ิดเผย _______________ มาตรา ๑๔ ขอม้ลขูาวสารของราชการท่่อาจกี ่อใหเก้ดความเสิยหายตี ่อสถาบนพระมหากษัตรัยิจะ ์ เปิดเผยมไดิ ้ มาตรา ๑๕ ขอม้ลขูาวสารของราชการท่่มีลีกษณะอยั ่างหน่งอยึ ่างใดดงตั ่อไปนÊีหน่วยงานของรฐหรัอื เจาหน้าท้่ของรีฐอาจมัคีาสํงม่ั ใหิ เป้ ิดเผยก็ได้โดยคานํงถึ งการปฏ ึบิตัหนิาท้่ตามกฎหมายของหนี ่วยงานของรฐั ประโยชนสาธารณะ ์ และประโยชนของเอกชนท ์ ่เกี่ยวขี องประกอบก ้นั (๑) การเปิดเผยจะก่อใหเก้ดความเสิยหายตี ่อความมนคงของประเทศ่ั ความสมพันธัระหว ์ างประเทศ ่ และความมนคงในทางเศรษฐก ่ัจหริอการคลื งของประเทศ ั (๒) การเปิดเผยจะทาใหํการบ้งคั บใช ักฎหมายเส้่อมประส ืทธิภาพิ หรอไม ือาจส่าเรํ ็จตามวตถั ประสงคุ์ ได ้ไมว่าจะเก่่ยวกี บการฟ ั ้องคด ีการป้องกนั การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ หรอการรืู้ แหลงท่่มาของขีอม้ลขูาวสารหร่ อไม ืก่ ็ตาม (๓) ความเหนหร็อคืาแนะนํ าภายในหน ํ ่วยงานของรฐในการด ัาเนํนการเริ่องหนื่งเรึ่องใด ื แต่ทงนัÊ Êไมี ่ รวมถงรายงานทางวึชาการิ รายงานขอเท้จจร็งิ หรอขือม้ลขูาวสารท่่นีามาใช ํ ในการท ้าความเหํนหร็อคืาแนะนําํ ภายในดงกลัาว่ (๔) การเปิดเผยจะก่อใหเก้ดอินตรายตั ่อชวีตหริ อความปลอดภ ืยของบัคคลหนุ่งบึ คคลใดุ
(๕) รายงานการแพทยหร ์ อขือม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลซุ่งการเป ึ ิดเผยจะเป็นการรุกลาสํÊทธิสิ่วนบคคลโดยุ ไมสมควร่ (๖) ขอม้ลขูาวสารของราชการท่่มีกฎหมายคีมครองมุ้ ใหิ เป้ ิดเผย หรอขือม้ลขูาวสารท่่มีผีูให้ มาโดยไม ้ ่ ประสงคให์ ทางราชการน้ าไปเป ํ ิดเผยต่อผูอ้่นื (๗) กรณีอ่นตามทื่กีาหนดให ํพระราชกฤษฎ้กาี คาสํงม่ั ใหิ เป้ ิดเผยขอม้ลขูาวสารของราชการจะก่าหนดเงํ่อนไขอย ื ่างใดก็ได ้แต่ตองระบ้ ไวุด้วยว้าท่่ี เปิดเผยไมได่ เพราะเป ้ ็ขอม้ลขูาวสารประเภทใดและเพราะเหต ่ ใดุและใหถ้อวืาการม่คีาสํ งเป่ั ิดเผยขอม้ลู ขาวสารของราชการเป ่ ็นดลพุนิจโดยเฉพาะของเจ ิาหน้าท้่ของรีฐตามลัาดํบสายการบังคับบัญชาั แต่ผูขออาจ้ อทธรณุต ์ ่อคณะกรรมการวนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารได ่ตามท้่กีาหนดในพระราชบ ํญญัตันิÊี มาตรา ๑๖ เพ่อใหืเก้ดความชิ ดเจนในทางปฏ ับิตัวิาข่อม้ลขูาวสารของราชการจะเป ่ ิดเผยต่อบคคลใดไดุ้ หรอไม ื ภายใต ่เง้่อนไขเช ื ่นใด และสมควรมวีธิรีกษามั ใหิร้วไหลให ่ัหน้ ่วยงานของรฐกัาหนดวํธิการคีมครองุ้ ขอม้ลขูาวสารน่นัÊ ทงนัÊ Êีตามระเบยบที่คณะรีฐมนตรักีาหนดวําด่วยการร้กษาความลับของทางราชการั มาตรา ๑๗ ในกรณีท่เจีาหน้าท้่ของรีฐเหันว็า่ การเปิดเผยขอม้ลขูาวสารของราชการใดอาจกระทบถ ่งึ ประโยชนได์ เส้ยของผีูใด้ ใหเจ้าหน้าท้่ของรีฐแจั งให้ผู้น้นเสนอัÊ คาคํดคั านภายในเวลาท ้่กีาหนดํแต่ตองให ้เวลาอ้นสมควรทั่ผีูน้นอาจเสนอคัÊาคํดคั านได ้ ้ซ่งตึ องไม ้น่อยกว้าส่บิ หาว้นนับแตั ่วนทั่ไดีร้บแจัง้ ผูท้่ไดีร้บแจังตามวรรคหน้่งึ หรอผืูท้่ทราบวี าการเป ่ ิดเผยขอม้ลขูาวสารของราชการใดอาจกระทบถ ่งึ ประโยชนได์ เส้ยของตนีมสีทธิคิดคั านการเป ้ ิดเผยขอม้ลขูาวสารน่ นได ัÊ โดยท ้ าเปํ ็นหนงสัอถืงเจึาหน้าท้่ของรีฐั ผูร้บผัดชอบิ ในกรณีท่มีการคีดคัาน้ เจาหน้าท้่ของรีฐผัูร้บผัดชอบติองพ้จารณาคิาคํดคัานและแจ้งผลการพ้จารณาิ ใหผู้ค้ดคั านทราบโดยไม ้ช่กชัา้ ในกรณีท่มีคีาสํ งไม่ัร่ บฟังคัาคํดคัาน้เจาหน้าท้่ของรี ฐจะเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสาร่ นนมัÊ ไดิจนกว้าจะล่วงพ่นก้าหนดเวลาอํทธรณุตามมาตรา ์ ๑๘ หรอจนกวืาคณะกรรมการว่นิจฉิ ยการเป ั ิดเผย ขอม้ลขูาวสารได ่ม้คีาวํนิจฉิ ยให ั เป้ ิดเผยขอม้ลขูาวสารน่ นได ัÊ ้แลวแต้ ่กรณี
มาตรา ๑๘ ในกรณีท่เจีาหน้าท้่ของรีฐมัคีาสํงม่ั ใหิ เป้ ิดเผยขอม้ลขูาวสารใดตามมาตรา ่ ๑๔ หรอื มาตรา ๑๕ หรอมืคีาสํ งไม่ัร่ บฟังคัาคํดคัานของผู้ม้ประโยชน ี ได์ เส้ยตามมาตราี๑๗ ผูน้นอาจอัÊทธรณุต ์ ่อ คณะกรรมการวนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารภายในส ่บหิาว้นนับแตั ่วนทั่ไดีร้บแจังค้าสํงน่ั นโดยย ัÊ ่นคืาํ อทธรณุต ์ ่อคณะกรรมการ มาตรา ๑๙ การพจารณาเกิ่ยวกีบขัอม้ลขูาวสารท่่มีคีาสํงม่ั ใหิ เป้ ิดเผยนนไม ัÊว่ าจะเป ่ ็นการพจารณาของิ คณะกรรมการ คณะกรรมการวนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารหร่อศาลกื ็ได ้จะตองด้าเนํนกระบวนการิ พจารณาโดยม ิ ใหิข้อม้ลขูาวสารน่ นเปัÊิดเผยแก่บคคลอุ่นใดท ื่ไมีจ่ าเปํ ็นแก่การพจารณาและในกรณ ิ ีท่จีาเปํ ็นจะ พจารณาลิบหลังคัู่กรณีหรอคืู่ความฝ่ายใดก็ได้ มาตรา ๒๐ การเปิดเผยขอม้ลขูาวสารใด ่แมจะเข้าข้ายต่องม้ความรีบผั ดชอบตามกฎหมายใด ิ ใหถ้อื วาเจ่าหน้าท้่ของรี ฐไมัต่องร้บผั ดหากเป ิ ็นการกระทาโดยส ํุจรตในกรณ ิ ีดงตั ่อไปนÊี (๑) ขอม้ลขูาวสารตามมาตรา่ ๑๕ ถาเจ้าหน้าท้่ของรี ฐไดัด้าเนํ นการโดยถ ิกตูองตามระเบ้ยบตามมาตราี ๑๖ (๒) ขอม้ลขูาวสารตามมาตรา่ ๑๕ ถาเจ้าหน้าท้่ของรี ฐในระด ับตามทั่กีาหนดในกฎกระทรวงม ํคีาสํ งให่ั ้ เปิดเผยเป็นการทวไปหร ่ัอเฉพาะแกื ่บคคลใดุเพ่อประโยชน ือ ์ นสัาคํญยั่งกวิาท่่เกี่ยวกี บประโยชน ัสาธารณะ ์ หรอชืวีติ ร่างกาย สุขภาพ หรอประโยชน ือ ์่นของบืคคลุ และคาสํงน่ั นได ัÊกระท้ าโดยสมควรแก ํ ่เหต ุในการนÊี จะมการกีาหนดขํอจ้ากํดหรัอเงื่อนไขในการใช ืข้อม้ลขูาวสารน่นตามความเหมาะสมกัÊ็ได้ การเปิดเผยขอม้ลขูาวสารตามวรรคหน่่งไมึ เป่ ็นเหตใหุหน้ ่วยงานของรฐพันจากความร้บผัดตามิ กฎหมายหากจะพงมึ ในกรณ ี ีดงกลัาว่ หมวด ๓ ขอมู้ลข่าวสารสวนบ่คคลุ ______________ มาตรา ๒๑ เพ่อประโยชน ืแห ์ ่งหมวดนÊ “ีบคคลุ ” หมายความวา่บคคลธรรมดาุ ท่มีสีญชาตั ไทย ิและบคคลธรรมดาทุ่ไมีม่สีญชาตั ไทยแต ิ ่มถี่นทิ่อยีู่ในประเทศไทย
มาตรา ๒๒ สานํกขัาวกรองแห่ ่งชาต ิสานํกงานสภาความมันคงแห่ั ่งชาติและหน่วยงานของรฐแหั ่ง อ่นตามทื่กีาหนดในกฎกระทรวง ํ อาจออกระเบยบโดยความเห ีนชอบของคณะกรรมการก็าหนดหลํกเกณฑั ์ วธิการีและเง่อนไขท ื่มีใหิน้าบทบํญญัตัวรรคหนิ่งึ (๓) ของมาตรา ๒๓ มาใชบ้งคับกับขัอม้ลขูาวสารส่ ่วน บคคลทุ่อยีู่ในความควบคมดุ ูแลของหน่วยงานดงกลัาวก่ ็ได้ หน่วยงานของรฐแหั ่งอ่นทื่จะกี าหนดในกฎกระทรวงตามวรรคหน ํ่งนึนัÊตองเป ้ ็นหน่วยงานของรฐซั่งการึ เปิดเผยประเภทขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลตามมาตราุ๒๓ วรรคหน่งึ (๓) จะเป็นอปสรรครุายแรงต้ ่อการ ดาเนํนการของหนิ ่วยงานดงกลัาว่ มาตรา ๒๓ หน่วยงานของรฐตั องปฏ ้บิตัเกิ่ยวกีบการจัดระบบขัอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลดุงตั ่อไปนÊี (๑) ตองจ้ ดให ัม้ระบบขีอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลเพุยงเที ่าท่เกี่ยวขีอง้และจาเปํ ็นเพ่อการดืาเนํนงานของิ หน่วยงานของรฐใหัส้าเรํ ็จตามวตถั ประสงคุเท ์ ่านนัÊ และยกเลกการจิ ดให ัม้ระบบดีงกลัาวเม่่อหมดความจื าเปํ ็น (๒) พยายามเก็บขอม้ลขูาวสารโดยตรงจากเจ ่าของข้อม้ลู โดยเฉพาะอย่างย่งในกรณ ิ ีท่จะกระทบถีงึ ประโยชนได์ เส้ ยโดยตรงของบ ีคคลนุนัÊ (๓) จดให ัม้การพีมพิ ในราชก ์ จจานิุเบกษา และตรวจสอบแกไขให ้ถ้กตูองอยู้่เสมอเก่ยวกีบสั่งดิงตั ่อไปนÊี (ก) ประเภทของบคคลทุ่มีการเกี ็บขอม้ ลไวู้ (ข) ประเภทของระบบขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลุ (ค) ลกษณะการใช ัข้อม้ ลตามปกตูิ (ง) วธิการขอตรวจดีูขอม้ลขูาวสารของเจ่าของข้อม้ลู (จ) วธิการขอให ีแก้ ไขเปล ้่ยนแปลงข ีอม้ลู (ฉ) แหลงท่่มาของขีอม้ลู (๔) ตรวจสอบแกไขข้อม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลในความรุบผั ดชอบให ิถ้กตูองอยู้่เสมอ (๕) จดระบบรั กษาความปลอดภ ั ยใหัแก้ ่ระบบขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลุตามความเหมาะสม เพ่อื ป้องกนมั ใหิม้การนี าไปใช ํ โดยไม ้เหมาะสมหร่ อเปื ็นผลรายต้ ่อเจาของข้อม้ลู ในกรณีท่เกี ็บขอม้ลขูาวสารโดยตรงจากเจ ่าของข้อม้ลู หน่วยงานของรฐตัองแจ้ งให้เจ้าของข้อม้ลทราบู ลวงหน่าหร้อพรือมก้บการขอขัอม้ลถูงวึตถั ประสงคุท ์ ่จะนีาขํอม้ ลมาใชู ้ลกษณะการใช ัข้อม้ ลตามปกตู ิและ กรณีท่ขอขีอม้ลนูนเปัÊ็นกรณีท่อาจให ีข้อม้ ลไดูโดยความสม ้ ครใจหร ั อเปื ็นกรณีมกฎหมายบีงคับั หน่วยงานของรฐตัองแจ้ งให้เจ้าของข้อม้ ลทราบในกรณูีมการให ีจ้ดสั ่งขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลไปยุงทั่ี ใดซ่งจะเป ึ ็นผลใหบ้คคลทุวไปทราบข ่ัอม้ลขูาวสารน่ นได ัÊ ้เวนแต้ ่เป็นไปตามลกษณะการใช ัข้อม้ ลตามปกตูิ
มาตรา ๒๔ หน่วยงานของรฐจะเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลทุ่อยีู่ในความควบคมดุ ูแลของตนต่อ หน่วยงานของรฐแหั ่งอ่นหรือผืูอ้่นื โดยปราศจากความยนยอมเป ิ ็นหนงสัอของเจืาของข้อม้ลทู่ใหี ไว้ล้วงหน่า้ หรอในขณะน ืนมัÊ ไดิ ้เวนแต้ ่เป็นการเปิดเผยดงตั ่อไปนÊี (๑) ต่อเจาหน้าท้่ของรี ฐในหน ั ่วยงานของตน เพ่อการนื าไปใช ํตามอ้านาจหนําท้่ของหนี ่วยงานของรฐแหั ่ง นนัÊ (๒) เป็นการใชข้อม้ ลตามปกตูภายในว ิตถั ประสงคุของการจ ์ ดให ัม้ระบบขีอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลนุนัÊ (๓) ต่อหน่วยงานของรฐทั่ทีางานดํวยการวางแผน้หรอการสถืติิหรอสื ามะโนต ํ ่างๆ ซ่งมึหนีาท้่ตีอง้ รกษาขัอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลไวุไม้ ให่ เป้ ิดเผยต่อไปยงผัูอ้่นื (๔) เป็นการใหเพ้่อประโยชน ื ในการศ ์ ึกษาวจิยั โดยไมระบ่ชุ่อหรือสื ่วนท่ทีาใหํรู้ว้าเป่ ็นขอม้ลขูาวสารส่ ่วน บคคลทุ่เกี่ยวกีบบั คคลใดุ (๕) ต่อหอจดหมายเหตแหุ่งชาติกรมศิลปากร หรอหนื ่วยงานอ่นของรืฐตามมาตราั๒๖ วรรคหน่งึ เพ่อการตรวจดืูคณคุ่าในการเก็บรกษาั (๖) ต่อเจาหน้าท้่ของรีฐัเพ่อการป ื ้องกนการฝ ั ่าฝืนหรอไม ื ปฏ่บิตัตามกฎหมายิ การสบสวนื การ สอบสวน หรอการฟ ื ้องคด ี ไมว่ าเป่ ็นคดประเภทใดก ี ็ตาม (๗) เป็นการใหซ้่งจึ าเปํ ็น เพ่อการป ื ้องกนหรัอระงืบอันตรายตั ่อชวีตหริอสืุขภาพของบคคลุ (๘) ต่อศาล และเจาหน้าท้่ของรีฐหรัอหนื ่วยงานของรฐหรัอบืคคลทุ่มีอีานาจตามกฎหมายทํ่จะขอี ขอเท้จจร็งดิงกลัาว่ (๙) กรณีอ่นตามทื่กีาหนดในพระราชกฤษฎ ํกาี การเปิดเผยขอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลตามวรรคหนุ่งึ (๓) (๔) (๕) (๖) (๗) (๘) และ (๙) ใหม้การจีดทัาํ บญชั แสดงการเป ี ิดเผยกากํ บไว ัก้บขัอม้ลขูาวสารน่นัÊ ตามหลกเกณฑัและว ์ ธิการที่กีาหนดในกฎกระทรวง ํ มาตรา ๒๕ ภายใตบ้งคับมาตราั๑๔ และมาตรา ๑๕ บคคลยุ่อมมสีทธิทิ่จะได ีรู้ถ้งขึอม้ลขูาวสาร่ ส่วนบคคลทุ่เกี่ยวกีบตนั และเม่อบืคคลนุนมัÊคีาขอเป ํ ็นหนงสัอืหน่วยงานของรฐทั่ควบคีมดุ ูแลขอม้ลขูาวสาร่ นนจะตัÊ องให ้บ้คคลนุนหรัÊอผืูกระท้าการแทนบํคคลนุนได ัÊตรวจดู้หรอได ืร้บสัาเนาขํอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลสุ่วน ท่เกี่ยวกีบบัคคลนุนัÊ และใหน้ามาตราํ๙ วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบ้งคั บโดยอน ัุโลม การเปิดเผยรายงานการแพทยท ์่เกี่ยวกีบบั คคลใดุ ถากรณ้ ีมเหตีอุนควรเจัาหน้าท้่ของรี ฐจะเป ั ิดเผยต่อ เฉพาะแพทยท ์ ่บีคคลนุนมอบหมายกัÊ็ได้ ถาบ้ คคลใดเหุนว็าข่อม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลทุ่เกี่ยวกีบตนสั ่วนใดไมถ่กตูองตามท้่เปี ็นจรงิ ใหม้สีทธิยิ่นื คาขอเป ํ ็นหนงสั อใหืหน้ ่วยงานของรฐทั่ควบคีมดุ ูแลขอม้ลขูาวสารแก่ ไขเปล ้่ยนแปลงหร ีอลบขือม้ลขูาวสารส่ ่วน นนได ัÊ้ซ่งหนึ ่วยงานของรฐจะตัองพ้จารณาคิาขอดํงกลัาว่และแจงให้บ้คคลนุนทราบโดยไม ัÊช่กชัา้
ในกรณีท่หนี ่วยงานของรฐไมัแก่ ไขเปล ้่ยนแปลงหร ีอลบขือม้ลขูาวสารให ่ตรงตามท้่มีคีาขอํ ใหผู้น้นมัÊี สทธิอิทธรณุต ์ ่อคณะกรรมการวนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารภายในสามส ่บวินนับแตั ่วนไดัร้บแจังค้าสํ งไม่ั ่ ยนยอมแกิ ไขเปล ้่ยนแปลงหร ีอลบขือม้ลขูาวสาร่ โดยย่นคืาอํทธรณุต ์ ่อคณะกรรมการ และไมว่ากรณ่ ีใดๆ ใหเจ้าของข้อม้ลมูสีทธิริองขอให ้หน้ ่วยงานของรฐหมายเหตัคุาขอของตนแนบไว ํก้บขัอม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลทุ่ี เก่ยวขี องได ้ ้ ใหบ้คคลตามทุ่กีาหนดในกฎกระทรวงม ํสีทธิดิาเนํนการตามมาตราิ๒๓ มาตรา ๒๔ และมาตรานÊแทนี ผูเยาว้ ์ คนไรความสามารถ้ คนเสมอนไร ืความสามารถ้ หรอเจืาของข้อม้ลทู่ถีงแกึ ่กรรมแลวก้ ็ได้ หมวด ๔ เอกสารประวตัศาสตร ิ ์ ___________ มาตรา ๒๖ ขอม้ลขูาวสารของราชการท่่หนี ่วยงานของรฐไมั ประสงค ่จะเก ์ ็บรกษาหรัอมือายีุครบ กาหนดตามวรรคสองนํบแตั ่วนทั่เสรี ็จสÊนการจิ ดให ัม้ขีอม้ลขูาวสารน่นัÊ ใหหน้ ่วยงานของรฐสั ่งมอบใหแก้ ่หอ จดหมายเหตแหุ่งชาติกรมศิลปากรหรอหนื ่วยงานอ่นของรืฐตามทั่กีาหนดในพระราชกฤษฎ ํกาีเพ่อคืดเลั อกไว ื ้ ใหประชาชนได ้ศ้ึกษาคนคว้า้ กาหนดเวลาตํองส้ ่งขอม้ลขูาวสารของราชการตามวรรคหน่่งใหึ แยกประเภท ้ ดงนัÊี (๑) ขอม้ลขูาวสารของราชการตามมาตรา่๑๔ เม่อครบเจืดส็บหิ าป้ ี (๒) ขอม้ลขูาวสารของราชการตามมาตรา่ ๑๕ เม่อครบยื่สีบปิ ี กาหนดเวลาตามวรรคสองํ อาจขยายออกไปไดในกรณ ้ ีดงตั ่อไปนÊี (๑) หน่วยงานของรฐยังจั าเปํ ็นตองเก้ ็บรกษาขัอม้ลขูาวสารของราชการไว ่เองเพ้่อประโยชน ื ในการใช ์ ้ สอย โดยตองจ้ดเกั ็บและจดให ั ประชาชนได ้ศ้ึกษาคนคว้าตามท้่จะตกลงกีบหอจดหมายเหตัแหุ่งชาติกรม ศิลปากร (๒) หน่วยงานของรฐเหันว็า่ ขอม้ลขูาวสารน่นยัÊ งไมั ควรเป ่ ิดเผย โดยมคีาสํงขยายเวลาก่ัากํ บไว ั เป้ ็น การเฉพาะราย คาสํงการขยายเวลาน่ั นให ัÊก้าหนดระยะเวลาไว ํด้วย้ แต่จะกาหนดเกํนคราวละหิ าป้ ีไมได่ ้ การตรวจสอบหรอทบทวนมื ใหิม้การขยายเวลาไม ี เป่ ิดเผยจนเกนความจิ าเปํ ็น ใหเป้ ็นไปตามหลกเกณฑั ์ และวธิการที่กีาหนดในกฎกระทรวง ํ
บทบญญัตัตามมาตรานิÊีมใหิ ใช้บ้งคับกับขัอม้ลขูาวสารของราชการตามท่่คณะรีฐมนตรัออกระเบียบี กาหนดให ํหน้ ่วยงานของรฐหรัอเจืาหน้าท้่ของรีฐจะตัองท้าลายหรํออาจทื าลายได ํ โดยไม ้ต่องเก้ ็บรกษาั หมวด ๕ คณะกรรมการขอมู้ลข่าวสารของราชการ ______________ มาตรา ๒๗ ใหม้คณะกรรมการขีอม้ลขูาวสารของราชการ่ ประกอบดวยร้ฐมนตรั ีซ่งึ นายกรฐมนตรั มอบหมายเป ี ็นประธาน ปลดสัานํกนายกรัฐมนตรั ีปลดกระทรวงกลาโหม ั ปลดกระทรวงั เกษตรและสหกรณ ์ ปลดกระทรวงการคลังั ปลดกระทรวงการตั ่างประเทศ ปลดกระทรวงมหาดไทย ั ปลดกระทรวงพาณั ิชย ์ เลขาธการคณะกรรมการกฤษฎิกาี เลขาธการคณะกรรมการขิาราชการพลเร้อนื เลขาธการสภาความมินคงแห่ั ่งชาต ิเลขาธการสภาผิูแทนราษฎร้ ผูอ้านวยการสํานํกขัาวกรองแห่ ่งชาต ิ ผูอ้านวยการสํานํ กงบประมาณ ั และผูทรงค้ณวุ ุฒอิ่นจากภาครืฐและภาคเอกชนัซ่งคณะรึฐมนตรัแตี ่งตงอัÊกี เกาคนเป ้ ็นกรรมการ ใหปล้ดสัานํกนายกรัฐมนตรัแตี ่งตงขัÊาราชการของส้านํ กงานปล ัดสัานํกนายกรัฐมนตรัคนหนี่งเปึ ็น เลขานุการ และอกสองคนเป ี ็นผูช้่วยเลขานุการ มาตรา ๒๘ คณะกรรมการมอีานาจหนําท้่ ีดงตั ่อไปนÊี (๑) สอดส่องดูแล และใหค้าแนะนําเกํ่ยวกีบการดัาเนํนงานของเจิาหน้าท้่ของรีฐและหนั ่วยงานของรฐั ในการปฏบิตัตามพระราชบิญญัตันิÊี (๒) ใหค้าปร ํกษาแกึ ่เจาหน้าท้่ของรีฐหรัอหนื ่วยงานของรฐั เก่ยวกี บการปฏ ับิตัตามพระราชบิญญัตันิÊี ตามท่ไดีร้บคัาขอํ (๓) เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎกาีและการออกกฎกระทรวง หรอระเบืยบของคณะรีฐมนตรั ี ตามพระราชบญญัตันิÊี (๔) พจารณาและให ิความเห้นเร็่องรืองเร้ยนตามมาตราี ๑๓ (๕) จดทัารายงานเกํ่ยวกี บการปฏ ับิตัตามพระราชบิญญัตันิÊีเสนอคณะรฐมนตรั เปี ็นครงคราวตามัÊ ความเหมาะสม แต่อย่างนอยป ้ ีละหน่งครึงัÊ (๖) ปฏบิตัหนิาท้่อี่นตามทื่กีาหนดในพระราชบ ํญญัตันิÊี (๗) ดาเนํนการเริ่องอื่นตามทื่คณะรีฐมนตรัหรีอนายกรืฐมนตรัมอบหมายี
มาตรา ๒๙ กรรมการผูทรงค้ณวุ ุฒซิ่งไดึร้บแตั ่งตงตามมาตราัÊ๒๗ มวาระอยีู่ในตาแหนํ ่งคราวละ สามปีนบแตั ่วนทั่ไดีร้บแตั ่งตงัÊ ผูท้่พีนจากต้าแหนํ ่งแลวอาจได ้ร้บแตั ่งตงใหม ัÊ ได่ ้ มาตรา ๓๐ นอกจากการพนจากต้าแหนํ ่งตามวาระ กรรมการผูทรงค้ณวุ ุฒซิ่งไดึร้บแตั ่งตงตามัÊ มาตรา ๒๗ พนจากต้าแหนํ ่ง เม่อื (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) คณะรฐมนตรั ใหีออกเพราะม้ ความประพฤต ีเสิ่อมเสืยี บกพร่อง หรอไม ืสุ่จรตติ ่อหนาท้่ ีหรอื หย่อนความสามารถ (๔) เป็นบคคลลุมละลาย้ (๕) เป็นคนไรความสามารถหร้อคนเสมื อนไร ืความสามารถ้ (๖) ไดร้บโทษจ ัาคํ กโดยคุาพํพากษาถิงทึ่สีุดใหจ้าคํกุ เวนแต้ ่เป็นโทษสาหรํบความผัดทิ่ไดีกระท้ าโดย ํ ประมาทหรอความผืดลหิ โทษุ มาตรา ๓๑ การประชมของคณะกรรมการุตองม้ กรรมการมาประช ี มไมุน่อยกว้าก่่งหนึ่งของจึานวนํ กรรมการทงหมดจัÊงจะเป ึ ็นองคประช ์ มุ ใหประธานกรรมการเป ้ ็นประธานในท่ประช ีมุ ถาประธานกรรมการไม ้ มาประช ่มหรุอไม ื อาจปฏ ่บิตัิ หนาท้่ไดี ้ใหกรรมการท้่มาประช ีมเลุอกกรรมการคนหนื่งเปึ ็นประธานในท่ประช ีมุ การวนิจฉิยชัÊขาดของที่ประช ี มใหุถ้อเสืยงขีางมาก้ กรรมการคนหน่งใหึม้เสียงหนี่งในการลงคะแนน ึ ถาคะแนนเส้ยงเที ่ากนั ใหประธานในท ้่ประช ีมออกเสุยงเพี่มขิÊนอึกเสียงหนี่งเปึ ็นเสยงชีÊขาดี มาตรา ๓๒ ใหคณะกรรมการม้อีานาจเรํ ยกให ีบ้คคลใดมาใหุถ้อยค้าหรํ อให ืส้่งวตถั ุเอกสาร หรอื พยานหลกฐานมาประกอบการพ ั จารณาได ิ ้ มาตรา ๓๓ ในกรณีท่หนี ่วยงานของรฐปฏ ัเสธวิ าไม่ม่ขีอม้ลขูาวสารตามท่่มีคีาขอไม ํว่ าจะเป ่ ็นกรณี มาตรา ๑๑ หรอมาตราื ๒๕ ถาผู้ม้คีาขอไม ํเช่่อวื าเป่ ็นความจรงและริองเร้ยนตี ่อคณะกรรมการตามมาตรา ๑๓ ใหคณะกรรมการม้อีานาจเขําด้าเนํนการตรวจสอบขิอม้ลขูาวสารของราชการท่่เกี่ยวขี องได ้ ้และแจงผล้ การตรวจสอบใหผู้ร้องเร้ยนทราบี หน่วยงานของรฐหรัอเจืาหน้าท้่ของรีฐตัองย้ นยอมให ิคณะกรรมการหร้อผืูซ้่งคณะกรรมการมอบหมายึ เขาตรวจสอบข้อม้ลขูาวสารท่่อยีู่ในความครอบครองของตนได้ไมว่ าจะเป ่ ็นขอม้ลขูาวสารท่่เปี ิดเผยไดหร้ อไม ืก่ ็ ตาม มาตรา ๓๔ คณะกรรมการจะแต่งตงคณะอนัÊุกรรมการเพ่อพืจารณาหริ อปฏ ืบิตังานอยิ ่างใดอย่างหน่งึ ตามท่คณะกรรมการมอบหมายกี ็ไดและให ้น้าความในมาตรา ํ๓๑ มาใชบ้งคั บโดยอน ัุโลม
หมวด ๖ คณะกรรมการวนิิจฉยการเป ั ิดเผยขอมู้ลข่าวสาร ________________ มาตรา ๓๕ ใหม้คณะกรรมการวีนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารสาขาต่ ่างๆ ตามความเหมาะสม ซ่งคณะรึฐมนตรัแตี ่งตงตามขัÊอเสนอของคณะกรรมการ้ มอีานาจหนําท้่พีจารณาวินิจฉิยอัทธรณุค ์ าสํงม่ั ใหิ ้ เปิดเผยขอม้ลขูาวสารตามมาตรา่๑๔ หรอมาตราื ๑๕ หรอคืาสํ งไม่ัร่ บฟังคัาคํดคัานตามมาตรา้ ๑๗ และ คาสํ งไม่ัแก่ ไขเปล ้่ยนแปลงหร ีอลบขือม้ลขูาวสารส่ ่วนบคคลตามมาตราุ ๒๕ การแต่งตงคณะกรรมการวัÊนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารตามวรรคหน่่งึ ใหแต้ ่งตงตามสาขาความัÊ เช่ยวชาญเฉพาะดีานของข้อม้ลขูาวสารของราชการ่ เช่น ความมนคงของประเทศ่ั เศรษฐกจและการคลิงั ของประเทศ หรอการบืงคั บใช ักฎหมาย้ มาตรา ๓๖ คณะกรรมการวนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสาร่คณะหน่งๆึ ประกอบดวยบ้คคลตามุ ความจาเปํ ็น แต่ตองไม ้น่อยกว้าสามคน่ และใหข้าราชการท้่คณะกรรมการแตี ่งตงปฏ ัÊบิตัหนิาท้่เปี ็นเลขานุการ และผูช้่วยเลขานุการ ในกรณีพจารณาเกิ่ยวกีบขัอม้ลขูาวสารของหน่ ่วยงานของรฐแหั ่งใด กรรมการวนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลู ขาวสารซ่่งมาจากหนึ ่วยงานของรฐแหั ่งนนจะเขัÊาร้ ่วมพจารณาดิ วยไม ้ ได่ ้ กรรมการวนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสาร่ จะเป็นเลขานุการหรอผืูช้่วยเลขานุการไมได่ ้ มาตรา ๓๗ ใหคณะกรรมการพ้จารณาสิ ่งคาอํทธรณุให์ คณะกรรมการว้นิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลู ขาวสาร่ โดยคานํงถึงความเชึ่ยวชาญเฉพาะดีานของคณะกรรมการว้นิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารแต่ ่ละ สาขาภายในเจดว็นันบแตั ่วนทั่คณะกรรมการได ีร้บคัาอํทธรณุ์ คาวํนิจฉิยของคณะกรรมการวันิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารให ่ เป้ ็นท่สีุด และในการมคีาวํนิจฉิยจะมั ี ขอส้งเกตเสนอตั ่อคณะกรรมการเพ่อใหืหน้ ่วยงานของรฐทั่เกี่ยวขี องปฏ ้บิตัเกิ่ยวกีบกรณั ีใดตามท่เหีนสมควรก็ ็ ได้ ใหน้าความในมาตรา ํ ๑๓ วรรคสอง มาใชบ้งคับแกั ่การพจารณาอิทธรณุของคณะกรรมการว ์ นิจฉิยั การเปิดเผยขอม้ลขูาวสารโดยอน ุ่โลม มาตรา ๓๘ อานาจหนําท้่ของคณะกรรมการวีนิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสาร่แต่ละสาขา วธิี พจารณาและวินิจฉิยั และองคคณะในการพ ์ จารณาและวินิจฉิยั ใหเป้ ็นไปตามระเบยบที่คณะกรรมการี กาหนดโดยประกาศในราชก ํจจานิุเบกษา
มาตรา ๓๙ ใหน้าบทบํญญัตัมาตราิ๒๙ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๒ และบทกาหนดโทษท ํ่ประกอบ ี กบบทบัญญัตัดิงกลั าวมาใช ่บ้งคับกับคณะกรรมการวันิจฉิ ยการเป ั ิดเผยขอม้ลขูาวสารโดยอน ุ่โลม หมวด ๗ บทกาหนดโทษ ํ _______________ มาตรา ๔๐ ผูใดไม ้ ปฏ่บิตัตามคิาสํงของคณะกรรมการท่ั่สีงตามมาตรา่ั ๓๒ ตองระวางโทษจ ้าคํกุ ไมเก่นสามเดิอนื หรอปร ื บไมัเก่นหิาพ้นบาทั หรอทืงจัÊาทํ งปร ัÊบั มาตรา ๔๑ ผูใดฝ้ ่าฝืนหรอไม ื ปฏ่บิตัตามขิอจ้ากํดหรัอเงื่อนไขท ื่เจีาหน้าท้่ของรีฐกัาหนดตามมาตราํ ๒๐ ตองระวางโทษจ ้าคํ กไมุเก่นหนิ่งปึ ี หรอปร ื บไมัเก่นสองหมิ่นบาทื หรอทืงจัÊาทํ งปร ัÊบั บทเฉพาะกาล _____________ มาตรา ๔๒ บทบญญัตัมาตราิ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ มใหิ ใช้บ้งคับกับขัอม้ลขูาวสารของ่ ราชการท่เกีดขิÊนกึ ่อนวนทั่พระราชบีญญัตันิÊใชีบ้งคับั ใหหน้ ่วยงานของรฐจัดพัมพิข ์ อม้ลขูาวสารตามวรรคหน่่งึ หรอจื ดให ัม้ขีอม้ลขูาวสารตามวรรคหน่่งไว ึ ้ เพ่อใหื ประชาชนเข ้าตรวจดู้ได้แลวแต้ ่กรณี ทงนัÊ Êีตามหลกเกณฑัและว ์ ธิการที่คณะกรรมการจะได ีก้าหนดํ มาตรา ๔๓ ใหระเบ้ยบวีาด่วยการร้ กษาความปลอดภ ัยแหั ่งชาติพ.ศ.๒๕๑๗ ในส่วนท่เกี่ยวกีบั ขอม้ลขูาวสารของราชการ่ ยงคงใช ับ้งคับตั ่อไปไดเท้ ่าท่ไมีข่ดหรัอแยืงต้ ่อพระราชบญญัตันิÊ ีเวนแต้ ่ระเบยบที่ี คณะรฐมนตรักีาหนดตามมาตราํ๑๖ จะไดก้าหนดเป ํ ็นอย่างอ่นื ผูร้บสนองพระบรมราชโองการ ั พลเอก ชวลติ ยงใจยุทธ นายกรฐมนตรั ี หมายเหต :- ุเหตผลในการประกาศใชุพระราชบ้ญญัตัฉบิบนัÊีคอื ในระบอบประชาธปไตย ิ การใหประชาชน ้ มโอกาสกว ี างขวางในการได ้ร้บขัอม้ลขูาวสารเก่่ยวกีบการดัาเนํนการติ ่างๆ ของรฐเปั ็นส่งจิ าเปํ ็น เพ่อทื่ี
ประชาชนจะสามารถแสดงความคดเหิ นและใช ็ส้ทธิทางการเมิ องได ื โดยถ ้กตูองก้ บความเป ั ็นจรงิ อนเปั ็นการ ส่งเสรมให ิม้ความเป ี ็นรฐบาลโดยประชาชนมากย ั่งขิÊนึ สมควรกาหนดให ํ ประชาชนม ้สีทธิ ไดิรู้ข้อม้ลขูาวสาร่ ของราชการ โดยมขีอยกเว้นอ้ นไมัต่ องเป ้ ิดเผยท่แจีงช้ดและจัากํดเฉพาะขัอม้ลขูาวสารท่่หากเป ี ิดเผยแลวจะ้ เกดความเสิยหายตี ่อประเทศชาตหริอตื ่อประโยชนท ์ ่สีาคํญของเอกชนั ทงนัÊ Êีเพ่อพืฒนาระบอบั ประชาธปไตยให ิม้นคงและจะย่ั งผลให ั ประชาชนม ้ โอกาสร ีูถ้งสึทธิหนิาท้่ของตนอยี ่างเตมท็่ ีเพ่อทื่จะปกป ีกั รกษาประโยชน ั ของตนได ์ อ้กประการหน ี่งดึวย้ ประกอบกบสมควรคัมครองสุ้ทธิสิ่วนบคคลในสุ่วนท่เกี่ยวขีอง้ กบขัอม้ลขูาวสารของราชการไปพร ่อมก้นั จงจึ าเปํ ็นตองตราพระราชบ้ญญัตันิÊี