The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ภาษีมูลค่าเพิ่ม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by saruttayastd, 2022-12-09 00:33:46

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ภาษีมูลค่าเพิ่ม

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ภาษีมูลค่าเพิ่ม

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ

ความหมายของภาษีมูลคา่ เพิ่ม

ภาษมี ลู คา่ เพ่ิม (Value Added Tax: VAT) คือ ภาษีทจ่ี ัดเกบ็ จากการขายสินค้า หรือการให้บริการในแต่
ละขั้นตอนการผลิตแลำจำหน่ายสินค้าหรือบริการ ทั้งที่ผลิตภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ
ประกอบด้วยภาษซี อ้ื และภาษีขาย

ภาษีซอื้ (Input Tax) หมายถึง ภาษมี ูลค่าเพิม่ ทีผ่ ้ปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู ค่าเพม่ิ ไดจ้ ่ายให้แก่ผู้ขาย
สินค้าหรือผู้ให้บริการที่เป็นผู้จัดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการเพื่อใช้ในกิจการของตน
ภาษีซื้อที่จะนำมาหักได้นี้ครอบคลุมไปถึงภาษีซื้อของสินค้าประเภททุนด้วย หากภาษีซื้อเกิดขึ้นในเดือนใดก็เป็น
ภาษีซ้ือของเดือนน้ัน ไมค่ ำนึงว่าสนิ ค้าทซ่ี ้ือมาน้นั จะขายหรอื นำไปใชใ้ นการผลติ ในเดือนใดกต็ าม

ภาษีขาย (Output Tax) หมายถึง ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้เรียกเก็บ
หรือพึงเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการเมื่อมีการขายสินค้าหรอื รับค่าบริการ หากภาษีขายเกิดขึ้นในเดือน
ใดก็เป็นภาษีขายของเดือนนั้น ไม่คำนึงว่าสินค้าที่ขายสินค้าหรือรับค่าบริการที่ให้นั้นจะซื้อมาหรือเป็นผลมาจาก
การผลิตในเดือนใดกต็ าม

ผมู้ หี นา้ ท่ีจดทะเบียนกาษีมูลค่าเพม่ิ และกำหนดเวลาการจดทะเบียน

ผมู้ ีหนา้ ทจี่ ดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพม่ิ ไดแ้ ก่

1. ผู้ประกอบกิจการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเป็นปกติธุระเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี
กำหนดเวลาการจดทะเบียนให้ยืน่ คำขอดทะเบียนภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ที่มีรายรับเกิน

2. ผู้ประกอบกจิ การขายสินค้าหรือให้บริการ ซ่ึงมแี ผนงานท่ีสามารถพิสจู น์ไดว้ ่าได้มีการดำเนินการและเตรียมการ
ประกอบกิจการอันเป็นเหตุให้ต้องมีการซื้อสินค้า หรือรับบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การ
ก่อสรา้ งโรงาน ก่อสรา้ งอาคารสำนกั งาน หรอื การติดตงั้ เคร่อื งจกั ร กำหนดเวลาการ

จดทะเบียนใหย้ ่นื คำขอจดทะเบียนภายในกำหนด 6 เดือนก่อนวันเร่ิมประกอบกจิ การ เวน้ แตม่ สี ัญญาหรอื หลกั ฐาน
จะดำเนนิ การก่อสรา้ งภายในเวลาที่เหมาะสม

3. ผู้ประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักร และได้ขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นปกติธุระ โดยมี
ตวั แทนอยูใ่ นราชอาณาจักรให้ตัวแทนเปน็ ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบการจดทะเบียน

ประกอบกจิ การที่ได้รับการยกเว้น แตม่ สี ทิ ธิขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพม่ิ

ผปู้ ระกอบกจิ การทไี่ ดร้ ับยกเวน้ ภาษมี ลู คา่ เพิม่ ตามกฎหมาย แต่มสี ทิ ธิแจ้งขอจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพม่ิ ไดแ้ ก่

1. ผปู้ ระกอบกิจการขายสินคา้ พชื ผลทางการเกษตร สตั ว์ไม่ว่ามีชวี ติ หรือไม่มีชีวิต ปยุ้ ปลาป่น อาหารสัตว์ ยาหรือ
เคมภี ณั ฑ์ทใี่ ชส้ ำหรบั พืชหรอื สตั ว์ หนงั สือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรยี น

2. ผูป้ ระกอบกิจการขายสนิ ค้าหรอื ใหบ้ รกิ าร และมีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทตอ่ ปี

3. การใหบ้ รกิ ารขนสง่ ในราชอาณาจกั รโดยท่าอากาศยาน

4. การส่งออกของผ้ปู ระกอบการในเขตอุตสาหกรรมสง่ ออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอตุ สาหกรรมแห่งประเทศ
ไทย

5. การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักรให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอแจ้งใช้สิทธิเพื่อขอจ ด
ทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม ภ.พ.01.1 จำนวน 1 ชุด 3 ฉบบั พร้อมกบั คำขอจดทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพ่ิม ภ.พ.01

ผู้ประกอบกิจการทีไ่ มต่ ้องจดทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพ่มิ

1. ผปู้ ระกอบการท่ีมีรายรับจากการขายสนิ ค้าหรอื ให้บรกิ ารไมเ่ กิน 1.8 ล้านบาทตอ่ ปี

2. ผูป้ ระกอบการท่ขี ายสนิ ค้าหรือใหบ้ รกิ ารทไ่ี ดร้ ับยกเวน้ ภาษีมูลค่าเพม่ิ ตามกฎหมาย

3. ผู้ประกอบการทใ่ี ห้บริการจากต่างประเทศและได้มกี ารใช้บรกิ ารนัน้ ในราชอาณาจกั ร

4. ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรและเขา้ มาประกอบกจิ การขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเปน็
ครงั้ คราว

5. ผูป้ ระกอบการอนื่ ตามที่อธบิ ดีจะประกาศกำหนดเมื่อมเี หตุอันสมควร

กิจการพาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนิกสท์ ีต่ ้องย่นื แบบแสดงรายการภาษี

ปัจจุบันกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) เป็นกิจการที่มีการเจริญเติบโตมาก แต่
ผ้ปู ระกอบการบางส่วนยงั ไม่มีความเข้าใจเร่ืองภาษีอากร ดังน้ันกรมสรรพากรจึงรวบรวมประเภท “ธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์รูปแบบใหม่” ที่มีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี แสดงให้ผู้ประกอบการการทราบเพื่อได้
ดำเนนิ การอย่างถูกตอ้ งตอ่ ไปดงั น้ี

1. เว็บไซต์แสดงรูปและราคาสินค้า (Catalog Website) หมายถึง เว็บไซต์ที่ผู้ประกอบการจัดทำขึ้นมาเพื่อทำ
หน้าที่เป็นห้องแสดงสินค้า รายการราคาสินค้า ประชาสัมพันธ์รายการสินค้าส่งเสริมการขาย ณ ช่วงเวลานั้นอาจ
เน้นไปทางโฆษณาสินค้าใหม่ ๆ แต่ไม่มีการซื้อขายสินค้าออนไลน์แต่อย่างใด หากผู้ซื้อสินค้าสนใจจะซื้อสินค้า
จะต้องโทรศัพท์สั่งสินค้า ส่วนการชำระราคาค่าสินค้าจะเกิดขึ้นทันทีที่รับมอบสินค้าจากพนักงานส่งสินค้า
ข้อสังเกตเว็บไซต์ประเภทนี้จะไม่มีระบบ ไม่มีตะกร้าในการซื้อขาย แต่จะมีเพียงรูปภาพหรือรายการสินค้าพร้อม
ราคาเท่านัน้

สำหรบั ผปู้ ระกอบการที่ต้องย่ืนแบบแสดงรายการภาษี คอื ผู้ประกอบการท่ีมรี ายได้จากการให้บริการ
หรือขายสินคา้ ผา่ นเวบ็ ไซต์

2. เว็บไซต์เพื่อการขายสินค้า (e-Shopping) หมายถึง เว็บไซต์ที่ผู้ประกอบการสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของ
กิจการ ส่วนใหญ่จะใชช้ ่ือกิจการเป็นช่ือเว็บไซต์โดยไม่มีคำอื่นต่อท้าย กิจการจะสร้างกิจกรรมบนเว็บไซต์แบบเต็ม
รูปแบบ โดยจะมีกิจกรรมต่างๆ มีการเคลื่อนไหวปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ให้ทันสมัยตลอดเวลา มีผู้เข้าชม
จำนวนมาก ในส่วนของการขายสินค้าจะมีระบบการรับชำระค่าสินค้า มีตะกร้าให้เลือกสินค้า มีระบบการ
ตรวจสอบการส่งขอบมรี ะบบต่างๆ จำนวนมาก เพอ่ื อำนวยความสะดวกใหล้ ูกคา้

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการให้บริการ
หรือขายสินค้าผ่านเว็บไซต์

3. การขายสินค้าบนชุมชนเว็บบอร์ดโดยผู้ขายไม่มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง (Community Web) หมายถึง
ชมุ ชนเว็บบอรด์ ซง่ึ เปน็ ทรี่ วมตวั ของคนท่ีมคี วามสนใจคล้ายๆกนั โดยทางเว็บไซต์ได้ จัดทำเว็บบอรด์ แล้วอนุญาตให้
สมาชิกนำสินคา้ ตา่ งๆ มาโพสตข์ ายไดด้ ว้ ย ซงึ่ ปจั จุบันจะมเี วบ็ ไซตแ์ บบนี้อยจู่ ำนวนมาก เช่น เว็บสำหรับคนชอบมือ
ถือ กลอ้ งถ่ายรูป อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น ซึ่งการทำเวบ็ ไซตใ์ หม้ สี นิ คา้ ตรงกบั ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
จะช่วยใหข้ ายสนิ คา้ ได้ง่าย และรวดเรว็ ขน้ึ การขายสินค้าบนเว็บบอร์ดของ Community Web เป็นการซื้อขายท่ีผู้
ซื้อส่วนใหญ่จะติดต่อกันทางโทรศัพท์หรืออีเมลที่ให้ไว้บนเว็บบอร์ด แล้วคุยกันนอกรอบเพื่อตกลงเรื่องราคา ซ่ึง
มักจะใชก้ ารชำระราคาค่าสินคา้ ดว้ ยวิธีการโอนเงินผา่ นบัญชีธนาคาร และรบั สินคา้ ทางไปรษณีย์

สำหรบั ผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผปู้ ระกอบการที่มรี ายได้จากการให้บริการ
หรอื ขายสินค้าผ่านเว็บไซต์

4. เว็บไซตเ์ พ่อื การประมลู ขายสนิ ค้า (e-Auction = electronic auction) หรือเรียกวา่ online auction, e-
bidding, online bidding หรือการประมูลออนไลน์ คือการประมูลสินค้าและบริการผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ซ้ือ

และผู้ขายเห็นความเคลื่อนไหวของราคาขณะประมูลในแบบเรียลไทม์ (real time) โดยไมม่ ขี ้อจำกัดเรื่องของเวลา
และสถานท่ีเขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี คือ ผู้ประกอบการที่มีรายได้จากการให้บริการ
หรือขายสินคา้ ผ่านเวบ็ ไซต์

5. เว็บไซต์ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ (e-Market Place) หรือ Shopping Mall) หมายถึง ห้างสรรพสินค้า
ออนไลน์ ทำหน้าที่เหมือนห้างสรรพสินค้าปกติโดยทั่วไป คือ แบ่งเนื้อที่ในเว็บไซต์ออกเป็นขนาดเล็กๆ อาจจะจัด
หมวดหมู่โซนต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจมาเช่าหน้าร้านเพื่อประกอบธุรกิจโดย e-Market Place จะมี
ระบบจดั การเวบ็ ไซตร์ ้านค้าไวบ้ รกิ ารผู้ประกอบการ เช่น ระบบตะกร้าสงั่ ซอื้ สนิ ค้า เป็นตน้

สำหรบั ผ้ปู ระกอบการท่ีต้องย่ืนแบบแสดงรายการภาษี คอื ผู้ประกอบการที่มรี ายไดจ้ ากการให้บริการ
หรอื ขายสนิ คา้ ผ่านเว็บไซต์

6. เว็บไซต์แหล่งซื้อขายภาพถ่ายดิจิทัล (Stock Photo) หมายถึง ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายไว้ด้วยกัน โดนมี
วตั ถุประสงค์ขายภาพนน้ั การขายภาพถ่ายเป็นเพยี งผขู้ ายยนิ ยอม หรืออนญุ าตให้ผซู้ ้อื ใหภ้ าพถา่ ยของผู้ขายเท่านั้น
โดยผู้ขายไม่ได้ขายขาดสทิ ธใิ นภาพถ่ายดังกล่าว ดังนนั้ ภาพถา่ ยยงั คงเปน็ ลิขสิทธ์ขิ องผู้ขายอยู่อย่างสมบูรณ์เช่นเดิม
ซึ่งทำให้ผู้ขายสามารถนำภาพถ่ายเดียวกันนี้ไปขายซ้ำแล้วซ้ำอีกจะกี่เว็บไซต์ก็ได้ ส่วนภาพถ่ายที่ซื้อมานั้น ผู้ซ้ือ
สามารถนำไปใช้ในการพิมพ์หนังสือ การพิมพ์เอกสารในโอกาสพิเศษ นิตยสาร บริษัทโฆษณา การสร้างภาพยนตร์
นกั ออกแบบเวบ็ ไซต์ ศิลปนิ ด้านภาพ บริษัทรับตกแตง่ ภายใน และด้านอน่ื ๆตามตอ้ งการ

7. การรับโฆษณาจากเว็บไซตก์ ูเกิล (Google AdSeanse) หมายถึง โปรแกรมการโฆษณาสนิ ค้าที่ทาง Google
เปิดโอกาสให้แก่ผู้ที่มีเว็บไซต์สามารถสร้างรายได้ด้วยการนำโฆษณา Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์โดยรายได้จะเกิด
จากการมีผู้อื่นมาเยี่ยมชม และการคลิกโฆษณานั้น ซึ่งโฆษณาต่างๆ ของ Google จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหา
สอดคลอ้ งกบั เนอื้ หาของเว็บไซต์

8. การทำให้ผลการค้นหาบนกูเกิลติดอันดับแรก ๆ (SEO = Search Engine Optimization ) Search
Engine Optimization คือ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นหลักการหรือเทคนิคต่างๆ ในการปรับปรุง
เวบ็ ไซต์เพ่ือจะทำเว็บไซตต์ ิดอันดับต้นๆ ในส่วนของผลลัพธ์ของการค้นหาด้านซ้ายของเว็บเสริ ์ชเอนจิ้น ด้วยคำค้น
ด้วยคีย์เวิร์คที่เกี่ยวข้องกับสินค้า หรือข้อมูลต่างๆ ของเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น Google, MSN, Yahoo ซึ่งเป็นเสิร์ช
เอนจิ้นหลกั ๆ ทีน่ ิยมใช้ค้นหาขอ้ มูล

9. เว็บไซต์นายหน้าการขายสินค้าและบริการ (Affiliate Marketing) หมายถึง ธุรกิจที่ใช้ระบบการขายและ
ชำระเงินของผู้ขาย โดยผู้ประกอบการจะชักชวนให้ซื้อสินค้าด้วยการโฆษณาข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์ของตนเอง
แล้วผู้ซื้อทำการคลิกผ่าน Banner หรือ Link ID เพื่อเข้าไปซื้อสินค้าจากเว็บไซต์นั้นจึงจะได้รับผลตอบแทน
คา่ ธรรมเนียมภายหลงั การขายประสบผลสำเรจ็

10. การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์ (Game Online) หมายถึง การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่าย
ออนไลน์ โดยผเู้ ล่นเกมออนไลนจ์ ะต้องตดิ ต้งั โปรแกรม Client เพือ่ เชื่อมโยงกบั บริษทั ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ซึ่งทำ
หน้าท่ีเก็นServer ท้งั นี้ขอ้ มูลตา่ งๆ ของผเู้ ล่นเกมออนไลน์จะถกู เกบ็ ไว้ในเคร่ือง Server ซ่ึงทำใหผ้ ู้เล่นเกมออนไลน์
สามารถแข่งขนั และสนทนา (Chat) กบั ผู้เลน่ รายอนื่ ที่อยู่ในเกมออนไลน์ได้ทนั ทีทัง้ นี้ผ้เู ล่นเกมออนไลน์จะต้องเสีย
ค่าบรกิ าร สำหรับการเลน่ เกมออนไลน์ตามอัตราและเง่อื นไขทบี่ รษิ ทั ผ้ใู ห้บริการกำหนดไว้

วธิ กี ารจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพิม่

การจดทะเบยี นภาษมี ูลค่าเพิม่ สามารถกระทำได้ 2 ชอ่ งทาง ดงั น้ี

1. ย่นื แบบคำขอผา่ นทางอินเทอรเ์ น็ตท่ี www.rd.go.th

2. ย่นื แบบคำขอด้วยกระดาษ ณ หน่วยจดทะเบยี นท่ีตัง้ สถานประกอบการ

• สถานที่จดทะเบียนภาซีมูลค่าเพิ่ม การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการให้ยื่นคำขอจดทะเบียน
ภาษมี ลู คา่ เพ่มิ ณ สถานท่ี ดงั ต่อไปน้ี

1) ในเขตกรเุ ทพมทานครใหย้ นื ณ สำนักงานสรรพากรพื้นท่ที ่สี ถานประกอบการตั้งอยู่

2) นอกเขตกรุงเทพฒหานครให้ยืน่ ณ สำนกั งานสรรพากรพน้ื ท่สี าขาที่สถานประกอบการต้ังอยู่

3) กรณีสถานประกอบการที่อยู่ในความดูแลของสำนักบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ให้ยื่น ณ สำนักงาน
บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่หรือจะยื่นผ่านสำนักงานสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาท่ี
สถานประกอบการต้ังอยู่ก็ได้

ใบทะเบียนภาษีมูลคา่ เพ่ิม

เมื่อเจ้าพนักงานได้รับคำขอจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพิ่มตามแบบ ภ.พ.01 พร้อมเอกสารครบถ้วนแล้วจะมีการ
ออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (แบบ ภ.พ.20)ให้ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ประกอบการเป็นผู้จดทะเบียนตามกฎหมาย
ตั้งแต่วันทีร่ ะบุในใบทะเบียนภาษมี ลู คา่ เพิม่ เป็นตน้ ไป

หน้าท่ีของผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษมี ูลค่าเพิ่ม
1. เรยี กเก็บภาษมี ลู คา่ เพมิ่ จากผู้ซือ้ สินคา้ หรอื ผรู้ บั บริการ
2. ออกใบกำกบั ภาษตี ามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเง่ือนไขทอ่ี ธบิ ดกี รมสรรพากรกำหนด
3. จดั ทำรายงานตามทกี่ ฎหมายกำหนด ซงึ่ ไดแ้ ก่

3.1 รายงานภาษีซ้ือ

3.2 รายงานภาษขี าย
3.3 รายงานสนิ ค้าและวัตถุดบิ
4. ยน่ื แบบแสดงรายการภาษมี ูลค่าเพิ่มช่องทางอน่ื ได้แก่
4.1 การยื่นแบบฯ และชำระภาษีผ่านอินเทอร์เน็ต (www.rd.go.th) แบบแสดงรายการที่ยื่น ได้แก่ ภ.พ.30,
ภ.พ.36

• เขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ สำนักงานบริหารการเสียภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์อาคารกรมสรรพากร
แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรงุ เทพฯ

• นอกเขตกรงุ เทพมหานคร ให้ย่ืน ณ สำนกั งานสรรพากรพ้ืนที่ทส่ี ถานประกอบการตั้งอยู่
4.2 การยืน่ แบบฯ และชำระภาษีท่ีสำนกั งานสรรพากรพื้นท่ีสาขา

1) ภ.พ.30 ถา้ มีสถานประกอบการหลายแหง่ ใหแ้ ยกย่นื แบบและชำระภาษเี ปน็ รายสถานประกอบการ เว้น
แต่ได้ยื่นคำร้องขออนุมัติยื่นแบบและชำระภาษีรวมกันและได้รับอนุมัตแิ ล้ว สามารถยื่นแบบรวมกันได้ตัง้ แต่เดือน
ภาษีที่กำหนดเป็นต้นไปภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป ไม่ว่าจะมีการขายสินค้า หรือให้บริการในเดือนภาษีนั้น
หรอื ไม่ก็ตาม

2) ภ.พ.30.2 กำหนดย่นื ภายในวันท่ี 15 ของเดอื นถดั จากเดอื นภาษีทม่ี กี ารปรบั ปรุงภาษซี ้อื
3) ภ.พ.30.3 กำหนดย่นื ภายในวนั ที่ 15 ของเดือนถดั จากเดือนภาษีท่มี กี ารปรบั ปรงุ ภาษีซอื้
4) ภ.พ.36 กำหนดเวลาผู้จ่ายเงินนำส่งภาษีภายใน 7 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินให้แก่
ผู้ประกอบการ

4.3 การย่ืนแบบฯ และชำระภาษที ี่ธนาคารพาณิชยไ์ ทย

4.4 การยื่นแบบฯ และชำระภาษีที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ 1-5 และสำนักงานสรรพสามิต สาขาสำหรับ
ผู้ประกอบการท่ขี ายสนิ คา้ หรอื ให้บรกิ าร

4.5 การยน่ื แบบใบขนสนิ ค้าขาเข้าและชำระภาษีมูลคา่ เพ่ิมพร้อมกบั การชำระอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วย
ศลุ กากร ณ ดา่ นศลุ กากรที่มกี ารนำเขา้ สนิ ค้าสำหรับผู้ประกอบการจดทะเบยี นหรือผนู้ ำเขา้ ท่ีนำเข้าสินค้า
เอกสารสำคญั เกยี่ วกับภาษซี อื้

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) เป็น
รายเดือนภาษี โดยยื่นได้ตั้งแต่วันท่ี 1-15 ของเดือนถัดไปทุกเดือน ไม่ว่ากิจการจะมีรายรับจากการขายสินค้าหรอื
ให้บริการในเดือนภาษีน้ันหรือไม่ก็ตาม ภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม นำมาหักออกจากภาษี
ขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มหรือขอคืนภาษีซอ้ื ต้องเป็นไปตามหลกั เกณฑ์และเงื่อนไขทก่ี ฎหมายกำหนด ซึ่งใน
ระบบภาษีมูลคา่ เพ่ิมหลกั ฐานหรอื เอกสารสำคญั ประกอบภาษีซอ้ื มดี ังนี้
1. ใบกำกบั ภาษี (Tax Invoice) เป็นเอกสารท่ีผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพ่มิ ออกให้แกผ่ ู้ซื้อสินค้าหรือ
ผู้ใช้บริการเมื่อขายสินค้าหรือให้บริการ และต้องส่งมอบใบกำกับภาษีให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรื อผู้ใช้บริการทันที ซ่ึง
ใบกำกับภาษีแบง่ ได้ดงั น้ี

1.1 ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปจาก
การซื้อสินค้าหรือรับบริการสามารถนำภาษีซื้อที่เกิดขึ้นมาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ
ขอคืนภาษีซื้อ เว้นแต่เป็นภาษีซื้อต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนดจะไม่สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายในการ
คำนวณภาษีมลู ค่าเพิ่มหรือขอคืนภาษซี ้ือได้

ใบกำกบั ภาษีรปู แบบใหม่ ตามประกาศอธิบดกี รมสรรพากร ฉบับท่ี 196 เริม่ ใช้ 1 มกราคม 2558

ลกั ษณะใบกำกับภาษแี บบเตม็ รูปตอ้ งมีข้อความ ดงั นี้
1) คำวา่ "ใบกำกับภาษ"ี
2) เลขประจำตัวผ้เู สียภาษอี ากรของผูข้ าย
3) กรณีมีเอกสารอื่นประกอบในชุดของใบกำกับภาษีจะต้องมีข้อความว่า "เอกสารออกเป็นชดุ ” และ "ต้นฉบบั " ใน
ใบกำกบั ภาษี
4) ชอ่ื ทอ่ี ยู่ ของผขู้ ายสินคา้ หรอื ให้บรกิ าร
5) ชอ่ื ที่อยู่ ของผู้ซ้ือสินคา้ หรอื ผู้รับบรกิ าร
6) เลขประจำตัวผู้เสียภาษขี องผซู้ อื้ หรอื ผรู้ ับบรกิ ารเฉพาะผูป้ ระกอบการทจ่ี ดทะเบยี น
7) ระบุ "สำนกั งานใหญ"่ หรือ "เลขทส่ี าขา" ของผซู้ ้ือหรอื ผู้รับบริการ
8) วัน เดอื น ปี ทอ่ี อกใบกำกับภาษี
9) เลขที่ใบกำกับภาษี
10) ชื่อ ชนิด ประเภท ปรมิ าณ และมูลคา่ ของสินค้าหรอื บรกิ าร
11) จำนวนภาษมี ลู ค่าเพิ่มท่ีคำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการ โดยใหแ้ ยกจากมูลค่าของสินค้าหรือบริการให้
ชัดเจน

1.2 ใบกำกับภาษอี ย่างย่อ ใบกำกบั ภาษอี ย่างย่อทผ่ี ้ปู ระกอบการจดทะเบยี นภาษีมลู คา่ เพม่ิ ได้
รับจากการซื้อสินค้าหรือรับบริการ ภาษีซื้อที่เกิดขึ้นเป็นภาษีซื้อต้องห้ามไม่สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายใน
การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มหรือขอคืนภาษีซื้อ แต่นำมาถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้
นิตบิ ุคคลได้

ลักษณะใบกำกบั ภาษีอย่างยอ่ ต้องมีข้อความ ดงั น้ี
1) คำว่า "ใบกำกับภาษอี ย่างยอ่ " ในที่ที่เหน็ ไดเ้ ดน่ ชดั
2) ชอื่ หรอื ทอ่ี ยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษอี ากรของผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพม่ิ ท่อี อกใบกำกบั ภาษี
3) หมายเลขลำดบั ของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเลม่ (ถา้ มี)
4) ชอ่ื ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสนิ ค้าหรือบรกิ าร
5) วัน เดอื น ปี ทอี่ อกใบกำกับภาษี
6) ราคาสนิ ค้าหรือราคาคา่ บริการตอ้ งมีข้อความระบุชัดเจนว่าได้รวมภาษีมูลค่าเพม่ิ ไวแ้ ลว้
7) ขอ้ ความอืน่ ที่อธบิ ดกี ำหนด
2. ใบเพ่มิ หน้ี (Debit Note) กฎหมายให้ถือว่าเป็นใบกำกับภาษี ซ่งึ ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นมูลค่าเพิ่มท่ีได้ขาย
สินค้าหรือให้บรกิ ารไปแล้ว แต่ต้องคำนวณภาษีมูลค่าเพิม่ ใหม่ เนื่องจากมูลคา่ สินค้า หรือบริการมรจำนวนเพิม่ ขนึ้
ไมว่ า่ ทงั้ หมดหรือบางสว่ น

ใบเพ่มิ หนี้ตอ้ งมีรายการอย่างนอ้ ย ดงั น้ี

1) คำวา่ "ใบเพมิ่ หน"้ี ในทท่ี เี่ ห็นได้เดน่ ชัด

2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ออกใบเพ่มิ
หนี้ และในกรณที ่ีตวั แทนเป็นผอู้ อกใบเพิ่มหนใี้ นนามของผปู้ ระกอบการ จดทะเบียนภาษมี ูลคา่ เพ่ิมให้ระบุ
ช่ือ ทีอ่ ยู่ และเลขประจำตัวผ้เู สยี ภาษอี ากรของตวั แทนนั้นด้วย

3) ช่อื ท่อี ยู่ ของผซู้ อ้ื สนิ คา้ หรือผ้รู ับบริการ

4) วัน เดือน ปี ทอ่ี อกใบเพม่ิ หนี้

5) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษีเดิม รวมทั้งหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี) มูลค่าของสินค้าหรือ
บริการที่แสดงไว้ในใบกำกับภาษี มูลค่าที่ถูกต้องของสินค้าหรือบริการ ผลต่างของจำนวนมูลค่าทั้งสอง
และจำนวนภาษที เี่ รียกเก็บเพิ่มเตมิ สำหรบั สว่ นตา่ งนนั้

6) คำอธิบายสั้น ๆ ถงึ สาเหตุในการออกใบเพิม่ หน้ี

7) ขอ้ ความอ่ืนที่อธิบดกี ำหนด

3. ใบลดหนี้ (Credit Note) กฎหมายให้ถือว่าเป็นใบกำกับภาษี ผู้ประกอบการที่มีสิทธิออกใบลดหนี้ต้องเป็น
ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้ออกใบกำกับภาษีจากการขายสินค้าหรือให้บริการแล้ว ต่อมา
ภายหลังได้เกดิ เหตุการณ์ทำให้มลู คา่ สนิ ค้าหรอื บริการมจี ำนวนลดลง ไมว่ ่าทั้งหมดหรือบางสว่ น

ใบลดหน้ตี อ้ งมีรายการอยา่ งน้อย ดังน้ี

1) คำว่า "ใบลดหน้ี" ในท่ีทเ่ี หน็ ได้เดน่ ชัด

2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ออกใบลด
หนี้ และในกรณีที่ตัวแทนเปน็ ผู้ออกใบลดหนีใ้ นนามของผู้ประกอบการ จดทะเบียนภาษีมลู คา่ เพ่ิมให้ระบุ
ชือ่ ท่อี ยู่ และเลขประจำตวั ผู้เสียภาษอี ากรของตวั แทนน้ันด้วย

3) ช่อื ทอี่ ยู่ ของผู้ซือ้ สนิ คา้ หรือผรู้ บั บรกิ าร

4) วนั เดือน ปี ท่อี อกใบลดหน้ี

5) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษีเดิม รวมทั้งหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี) มูลค่าของสินค้าหรือ
บรกิ ารท่ีแสดงไวใ้ นใบกำกับภาษีดังกลา่ ว มลู คา่ ทีถ่ ูกตอ้ งของสินค้าหรือบริการ ผลต่างของจำนวนมูลค่าทั้ง
สองและจำนวนภาษที ่ใี ช้คนื สำหรับส่วนต่างน้ัน

6) คำอธิบายสัน้ ๆ ถงึ สาเหตใุ นการออกใบลดหน้ี

7) ข้อความอ่ืนท่ีอธบิ ดกี ำหนด

4. ใบเสร็จรับเงินจากการรับชำระภาษีมูลค่าเพิมของกรมสรรพากร ใบเสริจรับเงินของกรมสรรพากรต้องเป็น
ใบเสร็จรบั เงินที่ออกให้จากการรับชำระภาษีมูลค่าเพิม่ ที่ผู้ประกอบการมีหน้าทีน่ ำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อชำระราคา
สินคา้ หรือราคาคา่ บริการดังน้ี

1. เม่ือชำระราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักร ซึ่งได้เข้ามา
ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และไม่ได้จดทะเบียน
ภาษมี ูลค่าเพ่ิมเป็นการชว่ั คราว

2. เมื่อชำระราคาสินค้าหรือราคาค่าบริการให้ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการต่างประเทศ และได้มีการนำ
บริการนัน้ มาใช้ในราชอาณาจกั ร

3. เมอ่ื รับโอนสนิ ค้าหรือรบั โอนสิทธิในบริการสำหรับสนิ ค้าหรอื บริการที่ได้เสียภาษีมูลคา่ เพ่มิ

ในอัตรารอ้ ยละ 0

5. ใบเสร็จรบั เงนิ ท่ีกรมศุลกากรหรือกรมสรรพสามิตเรยี กเก็บภาษมี ูลค่าเพม่ิ เพื่อกรมสรรพากร ถอื เป็นใบกำกับ
ภาษี มีลักษณะดังนี้

1. ใบเสร็จรับเงินที่กรมศุลกากรเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม อันเนื่องมาจากการนำเข้าสินค้าหรือการนำเข้า
สนิ คา้ ของตกคา้ งตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร หรือการรบั โอนสินคา้ นำเขา้ ทจ่ี ำแนกไวใ้ นภาคว่าด้วยของท่ี
ไดร้ ับยกเวน้ อากรตามกฎหมายวา่ ดว้ ยพิกัดอตั ราศลุ กากร

2. ใบเสร็จรับเงินที่กรมสรรพสามิตเรยี กเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการขายสินค้าหรือการให้บริการที่ต้อง
เสยี ภาษีสรรพสามติ

6. ใบเสร็จรับเงินของส่วนราชการ ที่ได้เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการขายทอดตลาดทรัพย์สินของ
ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี นภาษมี ูลคา่ เพิ่มหรือการขายโดยวธิ ีอ่นื ถือเปน็ ใบกำกับภาษี

หมายเหตุ : ใบเพมิ่ หนี้ ใบลดหนี้ และใบเสรจ็ รับเงนิ คา่ ภาษีมูลคา่ เพิม่ ท่ีสว่ นราชการเป็นผอู้ อกถือเป็นใบกำกบั ภาษี

7. การเก็บรักษาใบกำกับภาษีและเอกสารหลกั ฐาน

ผู้ประกอบการต้องจัดทำรายงานต่าง ๆ และจะต้องเก็บรักษารายงานใบกำกับภาษี สำเนาใบกำกับภาษี
พร้อมทั้งเอกสารประกอบการลงรายงานอื่นไว้ ณ สถานประกอบการที่จัดทำรายงานนั้น หรือสถานที่อื่นที่อธิบตี
กำหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันท่ีได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือวันที่ทำรายงานแล้วแต่กรณี เว้นแต่
กรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนหรือผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดง
รายการภาษีและชำระภาษีหรือผู้มีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานเก็บรักษารายงานและเอกสารที่ตนมีหน้าที่ต้องเก็บ
รักษาอยู่ในวันเลิกประกอบกิจการต่อไปอีก 2 ปี และกรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบยี นที่จะจดั ทำเอกสารหลักฐาน
ตามประมวลรัษฎากร ด้วยรูปแบบของข้อมลู อเิ ล็กทรอนิกสต์ ้องปฏบิ ตั ิตามคำสงั่ กรมสรรพากร เร่อื ง การจัดทำและ
การจดั เกบ็ เอกสารหลกั ฐานตามประมวลรษั ฎากร ท่มี ขี อ้ ความอยใู่ นรูปแบบของข้อมูลอเิ ล็กทรอนิกส์

การจัดเก็บใบกำกบั ภาษีและเอกสารหลกั ฐานอน่ื ท่ีใชป้ ระกอบการลงรายงานภาษซี ื้อ มีดังนี้

(1) จัดเกบ็ แยกตา่ งหากจากเอกสารหลักฐานอืน่ แยกเป็นรายเดือนภาษี

(2) เรียงตามลำดบั วนั เดอื น ปี ที่รายการเกิดขน้ึ กอ่ นหลงั

(3) ให้เลขท่ีกำกบั ใบสำคัญดงั กล่าวเรยี งตามลำดบั ข้ึนใหมท่ างดา้ นบนขวาของใบสำคัญนนั้ ๆ

ฐานภาษีและอัตราภาษมี ูลคา่ เพมิ่

ฐานภาษี หมายถงึ ส่ิงที่เป็นมูลเหตจุ ูงใจให้ต้องมีการเสยี ภาษี ได้แก่ การมรี ายได้ การมีทรัพย์สินหรือการใช้
จา่ ย หรอื การบรโิ ภค เปน็ ต้น

แต่ฐานภาษีในทางภาษี หมายถึง การพิจารณาภาษีอากรที่ต้องเสีย = ฐานภาษี X อัตราภาษี ซึ่งปัจจุบัน
อตั ราภาษีมูลค่าเพมิ่ มอี ยู่ 2 อตั รา กลา่ วคอื

1. อัตราภาษีร้อยละ 7 โดยเก็บจากการขายสินคา้ หรือการให้บรกิ ารที่มีมลู ค่าของฐานภาษี (รายรับ) เกินกว่า 1.8
ล้านบาทต่อปี เสยี ภาษมี ลู ค่าเพ่มิ ในอัตราร้อยละ 10 แต่ได้มีพระราชกฤษฎกี าลดอตั ราลงเหลือร้อยละ 6.3 เม่อื รวม

กับภาษีทอ้ งถิ่นอีกร้อยละ 0.7 รวมภาษมี ูลคา่ เพ่ิมทัง้ ส้ินร้อยละ 7.0 แตส่ ำหรบั สนิ ค้าฟุ่มเฟือย เชน่ สุรา บุหร่ี ฯลฯ
ต้องเสียภาษสี รรพสามิตเพ่มิ จากการเสียภาษีมูลคา่ เพมิ่ อีกดว้ ย

2. อัตราภาษีร้อยละ 0 ซงึ่ ใชส้ ำหรบั การประกอบการต่อไปนี้

1) การส่งออกสนิ ค้าของผู้ประกอบการจดทะเบยี น

2) การให้บริการที่กระทำในราชอาณาจักรและได้มีการใช้บริการนั้นในต่างประเทศตามประเภท
หลักเกณฑ์ วิธีการและเงือ่ นไขทอ่ี ธบิ ดีกำหนด

3) การใหบ้ ริการขนส่งระหวา่ งประเทศโดยอากาศยานหรือเรือเดินทะเลโดยผปู้ ระกอบการ

นิติบคุ คล

4) การขายสินค้าหรือการให้บริการแก่ส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ
จากต่างประเทศ

5) การขายสินค้าหรือการให้บริการกับองค์การสหประชาชาติ ทบวงการชำนัญพิเศษของสตประชาชาติ
สถานเอกอคั รราชทตู สถานกงสุลใหญ่ สถานกงสลุ

6) การขายสินค้าหรือการให้บริการที่ก่อให้เกิดสินค้าที่มีรูปร่างหรือการให้บริการที่ไม่ก่อให้เกิดสินค้าที่มี
รูปร่างแต่ทำให้สินค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือมีมูลค่าเพิ่มขึ้นระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนด้วยกันหรือ
ระหว่างผู้ประกอบการที่ประกอบการอยู่ในเขตปลอดอากรไม่ว่าจะอยู่ในเขตเดียวกันหรือไม่รวมทั้งการ
ขายสินค้าหรือการให้บริการระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนกับผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการอยู่ในเขต
ปลอดอากร

การคำนวณภาษมูลคา่ เพม่ิ

ผปู้ ระกอบการท่ีขายสินค้าหรือให้บรกิ ารทอ่ี ยใู่ นบงั คับภาษมี ลู ค่าเพ่ิม หากมรี ายรบั เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อ
ปี หรือต่อรอบระยะเวลาบัญชีต้องจดทะเบียนเปน็ ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพ่มิ และเมื่อขายสินค้าหรือ
ให้บริการต้องออกใบกำกับภาษีเพื่อเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ พร้อมทั้งส่งมอบ
ใบกำกับภาษีให้แกผ่ ซู้ ้ือสินค้าหรือผ้ใู ช้บรกิ าร

ภาษที ีต่ อ้ งเสีย คำนวณจากการนำภาษขี ายท้ังเดอื นภาษมี าหกั ดว้ ยภาษีซ้ือทั้งเดือนภาษี

การคำนวณภาษีมลู คา่ เพ่มิ ให้คำนวณ
โดยการนำภาษขี ายหักดว้ ยภาษีซ้ือในแต่ละเดอื นภาษี ดงั นี้

ภาษมี ลู ค่าเพิ่มต้องชำระ = ภาษขี าย – ภาษีซ้อื

• หากมีภาษีขายมากกวา่ ภาษซี ้อื ให้ชำระภาษสี ว่ นตา่ งน้นั

• หากมภี าษซี ้อื มากกวา่ ภาษีขายจะคนื ภาษสี ว่ นตา่ งเปน็ เงินสดหรอื ยกไปเครดิตภาษีในเดือนถดั ไปกไ็ ด้ดังน้ี

ภาษมี ูลค่าเพม่ิ = ภาษีขาย - ภาษีซือ้

หากภาษขี าย > ภาษซี ือ้ = ภาษมี ลู คา่ เพ่มิ ท่ตี อ้ งชำระ

หากภาษขี าย > ภาษซี ื้อ = ภาษีท่ีมสี ทิ ธิขอคืนหรอื ขอเครดิตภาษี

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมลู ค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) เป็นรายเดือน

ภาษี โดยยื่นแบบตั้งแต่วันที่ 1-15 ของเดือนถัดไปทุกเดือน ไม่ว่ากิจการจะมีรายรับจากการขายสินค้าหรือ

ใหบ้ รกิ ารในเดอื นภาษนี ัน้ หรือไม่กต็ าม

กรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม และผลจากการ
คำนวณภาษีพบว่าภาษีขายมากกว่าภาษีซื้อจะตอ้ งนำส่งเงนิ ภาษีตอ่ กรมสรรพากรเท่ากับส่วนต่างนั้น แต่หากภาษี
ขายนอ้ ยกวา่ ภาษีซื้อ ผ้ปู ระกอบการมสี ิทธิไดร้ ับคนื ภาษีซื้อโดยจะขอคืนภาษีซ้ือเป็นเงินสดหรือให้นำเครดิตภาษีไป
ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนถัดไปก็ได้ การแสดงรายละเอียดการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งยอดภาษีขายและยอด
ภาษีซื้อที่แสดงในแบบ ก พ.30 จะต้องเป็นภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีสิทธินำมาใช้ในการคำนวณ
ภาษีมลู คา่ เพิม่ เทา่ น้ัน

หลกั ในการคำนวณภาษีมลู คา่ เพม่ิ

การคำนวณภาษมี ลู ค่าเพิม่ แยกเปน็ 2 กรณี ดงั น้ี

1. กรณีผู้ประกอบการจดทะเบยี นภาษีมูลค่าเพิ่มในอตั ราร้อยละ 7 ให้คำนวณภาษีซ้ือและภาษีขายประจำเดือน
โดยดจู ากบัญชภี าษซี อ้ื และภาษขี ายหรอื จากรายงานภาษซี ้ือและภาษขี ายและหาผลต่าง

ถ้า ภาษีซอ้ื > ภาษขี าย จะได้รบั คืน
ถา้ ภาษีซือ้ < ภาษขี าย จะตอ้ งชำระเพม่ิ

2. กรณผี ปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลคา่ เพิ่มในอตั ราร้อยละ 0 ให้คำนวณภาษมี ลู ค่าเพ่ิมโดยคำนวณเป็นราย
เดือน เช่นเดียวกับภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 7 แต่ภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราร้อยละ 0 ภาษีขายจะเป็น 0 ดังนั้นภาษี
ซ้ือจึงขอคนื ไดท้ ง้ั หมด

การจดั ทำแบบแสดงรายงานภาษมี ูลค่าเพิ่ม

รายงานที่ผู้ประกอบการต้องจัดทำตามที่กฎหมายกำหนด มีดงั นี้

1. รายงานภาษีซื้อ เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นเพื่อบันทึกยอดซื้อและจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการได้จ่ายไป
ในการซ้ือสินค้าหรือบริการเพ่ือใชป้ ระกอบกิจการท่ีมีสทิ ธนิ ำภาษีมลู ค่าเพ่ิมที่เสยี ไปแล้วมาหักออกจากภาษีขายใน
การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชำระทั้งสิ้น ผู้ประกอบการทุกรายมีหน้าที่ต้องจัดทำรายงานภาษีซื้อ ซึ่งรูปแบบ
ของรายงานภาษซี ้อื ตอ้ งกำหนดขึ้นตามหลักเกณฑท์ ี่กรมสรรพากรกำหนด

2. รายงานภาษีขาย เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์ในการบันทึกยอดขายสินค้าหรือบริการ และจำนวน
ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ (ภาษีขาย) ในแต่ละวัน เมื่อถึงสิ้นเดือน
ผู้ประกอบการต้องรวมยอดขายและภาษีขายเพื่อนำส่งกรมสรรพากร ซึ่งรูปแบบของรายงานภาษีขายต้อง
กำหนดขน้ึ ตามหลักเกณฑ์ทก่ี รมสรรพากรกำหนด

3. รายงานสนิ คา้ และวตั ถุดิบตอ้ งมีขอ้ ความดังต่อไปน้ี
1) ชอ่ ง "วัน เดอื น ป"ี ใหก้ รอกวัน เดือน ปี ท่ีเกดิ รายการรับหรอื จ่ายสนิ ค้าหรอื วัตถดุ บิ
2) ช่อง "เลขทใี่ บสำคัญ"
• ใหก้ รอกเลขทีข่ องใบสำคัญรับหรือจ่ายสินคา้ หรือวัตถุดิบ โดยทใี่ บสำคญั ดงั กลา่ วจะเป็นใบกำกบั ภาษี หรือ
ไมใ่ ชใ่ บกำกบั ภาษกี ็ได้
• กรณีลงรายการเป็นยอดรวมของการรับหรือจา่ ยสินคา้ หรือวัตถดุ ิบเปน็ รายวันไม่ต้องกรอกแลขที่ใบสำคัญ
แต่ใหห้ มายเหตวุ า่ "ลงรายการเป็นยอดรวมของการรบั หรอื จา่ ยสนิ ค้าหรอื วัตถุดิบ

รายงานสินค้าและวัตถุดิบ เป็นรายงานที่จัดทำขึ้นเพื่อบันทีกยอดวัดถุดิบที่ซื้อมาใช้ในการผลิตจำนวนผลผลิตท่ี
ผลติ และขายออกไปตามความเปน็ จริง

ในกรณีผู้เสียภาษี เปน็ ผ้ผู ลติ ต้องจัดทำรายงานสนิ คา้ และวัดถุดบิ แยกออกจากกัน
ในกรณีประกอบกิจการซื้อมาขายไป ซึ่งไม่มีวัตถุดิบให้จัดทำร้ายงานสินค้าเพียงอย่างเดียว สำหรั บ
ผู้ประกอบการให้บริการอย่างเดยี วไมม่ ีการขายสนิ คา้ ไม่ตอ้ งทำรายงานสนิ คา้ และวัตถดุ ิบ


Click to View FlipBook Version