ความรู้ทางการเงินโดยอาจารย์จินตนา บุญสาลี

ฉนั เรยี นครู วิชาเอกวทิ ยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ และโท ภาษาองั กฤษ วิทย์–คณติ เปน็
วิชาท่ีทาให้ตอ้ งคดิ ๆ ๆ เสมอ เพราะ

วิชาวิทยาศาสตร์ เปน็ วิชาทสี่ อนการสังเกต การแก้ปัญหาอยา่ งมีระเบียบวิธี
วิชาคณติ ศาสตร์ เป็นวิชาทสี่ อนการคิดคานวณ
เมื่อต้องสอนให้นักเรยี นคิดเปน็ ครตู ้องคดิ เป็นดว้ ย จงึ จะบอกแนวทางแก่นกั เรยี น
ได้ และเกิดความทงึ่ ในการคดิ ตัวเลข 2 แบบ ที่ทาให้ฉันกลัวหนแี้ ละทาใหอ้ ยากลงทุน คอื
1. ดอกเบี้ยทบตน้
2. Flat rate (ต้นลด ดอกไมล่ ด เรียกว่า ดอกกระด้าง)
ดอกเบยี้ ทบตน้ ฉนั คดิ เปน็ ตอนเรยี นมธั ยม และชอบโจทย์การบ้านชนดิ นม้ี าก เพราะเมื่อ
ทาส่งครแู ล้วมักถกู ต้องเสมอ อกี ทัง้ เห็นการงอกข้ึนของเงนิ ท้ัง 2 ดา้ น

 ด้านที่เป็นเจา้ หน้ี นาเงนิ ไปฝากธนาคารและได้ดอกเบ้ียทบตน้

 ด้านท่ีเปน็ ลกู หนีแ้ ละตอ้ งนาเงนิ ไปจ่าย ถา้ ผิดนัดเขาจะเอาดอกเบ้ยี มาทบเปน็ ตน้
การทบดอกเขา้ ไปเปน็ เงนิ ตน้ ทาให้เงนิ ตน้ สูงขึ้น ธนาคารจึงไม่ค่อยทาวิธนี ้ี เพื่อจา่ ยดอกให้
ลกู ค้าในบญั ชีเงนิ ฝาก
Flat rate เป็นการคิดดอกเบ้ยี จากการผ่อนที่เท่ากันทุกเดือน แม้ต้นลดแต่ดอกไมล่ ด
ได้เหน็ จากการซอื้ รถยนตค์ ร้งั แรก รูส้ ึกว่าเสยี เปรียบมากเลย ตน้ ลด แตด่ อกไมล่ ด ฉนั จึงเลือกทจี่ ะ
ซือ้ รถยนตผ์ อ่ น 1 ปี เท่าน้ัน เพราะยิง่ ผ่อนยาวเรายิ่งเสียเปรียบ ถา้ จาเปน็ ก็จะผอ่ นไมเ่ กนิ 2 ปี
อกี เร่อื งหนึง่ ท่ีอยากจะบอก คือ ฉันไม่เคยคิดดอกเบีย้ ทบต้นกบั คนท่มี ายมื เงิน แต่ทาธรุ กจิ
ให้สนิ เชือ่ แบบ Flat rate เช่นเดยี วกับค่ายรถยนต์ รา้ นมอเตอรไ์ ซด์ มาระยะเวลาหนึง่
ธุรกจิ นท้ี าให้เงนิ หมนุ เวียนกลบั มาเร็วมาก ถา้ เรามวี ินยั ไม่นาเงินไปใชผ้ ดิ ทาง เงนิ จะงอก
เงยเพิ่มข้นึ มาเป็นเทา่ ตัวในเวลาไม่นาน
ปจั จบุ นั ธุรกจิ ของเราถกู ควบคุมโดยธนาคารแหง่ ประเทศไทยและคูแ่ ข่ง ทาใหไ้ มส่ ามารถ
คิดแบบFlat rate ได้
ฉนั คดิ ถงึ เรอ่ื งการลงทนุ มากกวา่ หน้ีสิน โดยได้เร่ิมการลงทนุ เทา่ ทม่ี เี งิน และให้ทุนงอกเงย
ข้นึ มาจากการลงทุน จนเมือ่ มัน่ ใจในธรุ กจิ เราสองคนซ่ึงมอี าชพี เปน็ ครู จงึ กู้เงินจาก
ธนาคารกรงุ ไทย (ธนวฒั น์) และสหกรณ์ครูมาทาทุน ดว้ ยทนุ ที่มีไมเ่ กนิ 300,000 บาท
เราไม่มีบา้ นเพราะอยบู่ ้านหลวง ไม่มรี ถยนต์นอกจากมอเตอรไ์ ซด์ พอ่ แม่เรามีบา้ น แต่
เชอื่ เถอะ พ่อแมไ่ ม่เสีย่ งไปกับเราดว้ ยหรอกท่ีจะจานองบ้านให้เอาเงนิ มาลงทุน

การเอาทรพั ย์สิน (บา้ น) ไปจานองเปน็ ความเสยี่ งอย่างยงิ่ สมัยทเ่ี ปน็ เดก็ บ้านไหนเอา
บ้านไปจานองธนาคาร พวกเราจะเหลียวมองอย่างสนใจ และคนในบ้านกค็ งไม่มคี วามสุข
ภาพลกั ษณเ์ หมือนคนท่ีจานองจะลาบากไมม่ ีทางออก

แต่สมยั นี้ นยิ มเปลีย่ นทรัพยส์ ินใหเ้ ปน็ ทุน ภาพลกั ษณ์จึงเปล่ียนไปว่า ใครเอาบ้านไป
จานองธนาคาร มักเป็นคนท่ีมเี ครดิต แตฉ่ นั เลอื กทจ่ี ะไม่มีเครดิต และไม่มแี ผนที่จะเอาบ้านเขา้
ธนาคารเพราะจะไมเ่ สย่ี ง

การเปน็ หน้ีจะสนุกเมื่อเรามเี งินใชห้ นต้ี รงเวลา และระหวา่ งเดือนเรามเี งนิ พอใช้ คณุ ภาพ
ชวี ิตของเราไมแ่ ยล่ ง

ฉนั บริหารเงินท้งั ทรัพย์สินและหนส้ี นิ ดว้ ยการวางแผนท่ีชดั เจนทุกขั้นตอน...หน้ีตอ้ งลด
และทรัพย์สนิ ต้องเพิ่ม โดยยึดหลักวา่

...จะบรหิ ารแบบทุนตอ้ งไมห่ าย กาไรต้องไม่ใช้หมด
...จะบรหิ ารให้เงินสดหมุนเวยี นกลบั มาใหเ้ ร็ว
...จะบรหิ ารทรัพย์สนิ ใหห้ มุนเวยี น เกดิ มลู ค่าเพ่ิมข้ึนมาอกี ฉะนนั้ ทรพั ย์สินของฉนั มักเปน็
ทรพั ย์สนิ ที่สามารถนามาค้าประกนั เตม็ มลู ค่า
บางครง้ั ตอ้ งถามตวั เองวา่ ทาไมกลา้ เปน็ หนหี้ ลายร้อยล้านบาทขนาดน้ี เปน็ เพราะทุกสงิ่
ผ่านการคดิ พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบแลว้ ใชค้ วามรู้ทางคณิตศาสตรท์ ีม่ ี ใช้การวางแผนทดี่ ี ก็ทาให้
ส่ิงทค่ี วรกลัวกลบั เป็นไม่น่ากลวั ต่อไป
แต่ถงึ อยา่ งไรฉนั ก็อยากจะหมดหน้ี เพราะหน้เี ปน็ ภาระเสมอ สง่ิ ใดเปน็ ภาระยอ่ มเปน็ ทุกข์

อ.จินตนา

การจะรู้สิ่งใดใหช้ ดั เจน ไม่ควรใช้วิธีเดา เหมา สรุป คดิ ๆ เอาเอง แต่ควรรจู้ ักการใช้
เครอื่ งมือให้เกิดความชดั เจนแน่นอนกว่า

ถา้ เรารวู้ า่ คนคนหนึ่งทางานได้เดือนละ 90,000 บาท เราคงรอ้ ง อูฮ้ ู้ ! และนกึ ภาพวา่
เขาคงรวย จะซื้อ จะใช้เงินอย่างไรกไ็ ด้ การสรปุ เช่นนี้ไมน่ ่าจะถูกนักถ้าไมผ่ ่านเคร่อื งมือการวัด
ประเมนิ

เคร่ืองมือแบบท่ี 1 คือ การทาบัญชีคู่ รายรับ รายจ่าย แล้วรวมตัวเลขสดุ ท้ายในวนั ส้ิน
เดอื นวา่ รายการไหนมตี ัวเลขมากกวา่ กนั

ชายคนนี้ ถา้ มีรายรับ 90,000 บาท แตม่ รี ายจ่ายรวมแล้ว 100,000 บาท ต่อเดอื น
ทกุ เดอื นเขายอ่ มไม่พอใช้แน่

รายจ่ายเดือนละ 100,000 บาท เป็นไปไดห้ รือ ลองนึกว่า

1. เขาอาจมพี อ่ หรือแม่ท่ชี รามาก ตอ้ งมีคนดูแล ซ้อื ยาและแพมเพิสเดอื นละ 30,000 .-

2. ตอ้ งส่งบ้านพรอ้ มตน้ และดอก เดือนละ 20,000 .-

3. ส่งรถยนตเ์ ดอื นละ 10,000 .-

4. คา่ น้ามันรถและค่ากนิ วันละ 500 15,000 .-

5. ภาษสี ังคม 5,000 .-

6. จา่ ยคืนกองทุน กยศ. 5,000 .-

7. ให้ภรรยาใช้จา่ ยในบา้ นและลกู 2 คน และซอ้ื ของอปุ โภคบริโภคต่าง ๆ 15,000 .-

8. คา่ โทรศพั ทแ์ ละ Wi-Fi 1,000 .-

เพราะเขาร้วู า่ มีรายได้มาก เขาไดส้ รา้ งคา่ ใช้จ่ายเอาไว้มากข้ึนเปน็ เงาตามตัว เขามี

รายจ่ายเดือนละ 101,000 บาท เงินสดเขาขาดมือทุกเดือน แตก่ บั ชายอีกคนหนึง่ ทางานได้

เดอื นละ 30,000 บาท รายจา่ ยของเขามดี งั น้ี

1.ส่งรถมอเตอร์ไซด์ เดือนละ 1,500 .-

2.ค่าน้ามันและอาหาร 5,000 .-

3.ภาษสี ังคม 2,000 .-

4.จา่ ย กยศ. 5,000 .-

5.ให้ภรรยา-ลูก ซ้ือของอปุ โภค บริโภค 15,000 .-

6.ค่าโทรศัพท์ และ Wi-Fi 500 .-

รายรบั มากกว่ารายจ่าย 1,000 บาท

การทาบัญชี รับ-จา่ ย ทกุ วัน และสรุปทุกเดือน จะทาใหเ้ รารู้ ว่าเงินเราเหลือหรือขาด
และถา้ ตอ้ งลดรายจา่ ยลง เราจะลดที่รายการไหน

ถา้ รายรับของเรานอ้ ยกว่ารายจา่ ย เราตอ้ งเลือกว่าจะเพ่มิ รายรับหรอื ลดรายจ่าย หรือจะ
ทาทั้งสองทาง

หลายคนไม่ได้ให้ความสนใจในการทาบญั ชี รายรบั รายจ่าย พอส้นิ เดอื นเงนิ ไม่พอใช้
ก็มักจะแก้ปญั หาแบบงา่ ย ๆ คือ การกู้ การทาบตั รเครดติ เพม่ิ แต่ไม่แกท้ ต่ี ้นเหตแุ หง่ ปัญหา

ถา้ อิงหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงของในหลวงรชั กาลท่ี 9 ซึง่ กลา่ วถงึ วิถชี วี ิตที่
พอเพียงของพระองค์ อธบิ ายด้วยคาใน 3 หว่ ง 2 เง่ือนไข หว่ งแรกคอื ความพอประมาณ
เราต้องประมาณใหไ้ ด้ก่อนว่า การเงินของเราพอใช้ไหม หลกั ปรชั ญานี้จงึ สอนใหท้ าบญั ชี
ครัวเรอื นขึน้ คือ บญั ชีคู่ รับ-จ่าย นีเ้ อง

จะเห็นได้วา่ ชวี ติ หยาบ ๆ ไม่สามารถทาให้คุณภาพชีวิตเราดไี ด้ ชวี ิตทลี่ ะเอยี ด คือ
การใสใ่ จในการใช้ชีวิต ลงรายละเอยี ดเป็นตัวเลขให้ชดั เจน เปน็ การใช้วิชาคณิตศาสตรอ์ ันเป็นวิชา
พนื้ ฐานอย่างง่าย ๆ แคบ่ วกกับลบ

เรือ่ งการเงนิ เปน็ เร่ืองการใชช้ ีวิตในปจั จบุ นั และตอ้ งคานงึ ถึงอนาคตประกอบดว้ ย
อนาคตของเรา ในเรือ่ งการเงนิ จะเปน็ เช่นไร คนฉลาดจะมองเห็น ณ ปจั จุบนั ก่อน เพราะ
เปน็ เรอ่ื งที่ต้องวางแผนตอ้ งมีเปูาหมายท่ีชดั เจน อนาคตคือ ความไมแ่ นน่ อนท่ีแน่นอนคอื หลัง
60 ปี เราตอ้ งใช้ชีวิตดว้ ยเงินทเี่ ราหาไว้ในปจั จุบัน

จาไดแ้ มน่ ยามาก เม่ือฉันเรียนอยู่โรงเรียนวดั คลองยาง ไดใ้ ช้กระดานชนวนฝึกการเขยี น
หนงั สอื ตัวเลข ตัวอักษรท่ีเขยี นยากทส่ี ุดคอื ฐ ฏ ฉนั ชอบการอา่ นตวั เลข แล้วเขยี นเป็น
ตวั หนงั สือ เชน่ 954 อ่านวา่ เกา้ ร้อยห้าสบิ ส่ี ตัวเลขเรมิ่ ยากขึ้น ๆ แต่ฉนั ก็ยงั อ่านได้ เช่น
10,101 ฉนั ดใี จทุกครั้งที่ส่งให้ครูตรวจแล้วมีแต่เครื่องหมายถูก

พอเริ่มเรยี นมัธยมต้น วชิ าทตี่ ้องระมัดระวังมากคือ การตีตารางบญั ชคี ู่ในหน่ึงหน้ากระดาษ
แบง่ ซา้ ยมอื เปน็ ด้านรายรับ ทางขวามอื เป็นดา้ นรายจ่าย ซง่ึ ระหว่าง 2 ดา้ นนีต้ ้องตีเส้นคู่
ตรงกลาง... จงึ ต้องต้ังใจตเี สน้ นี้ด้วยดนิ สออนั แหลมคมใหต้ รง ขนานกนั กว้างแคบพอดีพองาม

ตอนเป็นเด็กอาจรู้จักแตร่ ูปบัญชีแตไ่ ม่เคยเอามาใช้จริง ๆ เลย ต่อมาจึงรถู้ ึงความสาคญั
ด้วยตวั เอง ก่อนน้ันฉันอาจจะแคว่ างรายรับท่ไี ด้จากแม่ให้มาทกุ เดอื นไวเ้ ป็นกอง ๆ หยิบเอาไปได้
วนั ละกอง (เหรียญห้าสิบสตางคบ์ ้าง สลึงบ้าง) รู้แต่วา่ รายรบั ต้องพอดกี ับรายจา่ ย ใช้เกินไม่ได้
ถา้ เหลอื บา้ งกจ็ ะไดก้ นิ อะไร ๆ ที่อยากกิน เชน่ ก๋วยเต๋ยี วชามละ 1 บาท แตก่ ไ็ ม่ได้บอ่ ยนกั

ความจนทาให้ฉันมจี ินตนาการเสมอ มันอาจจะให้ความสุขแก่เรายามนกึ ฝนั สามารถ
หลอ่ เล้ียงจรรโลงจติ ใจของเราได้

ไดเ้ ห็นเมียกานัน เมยี ผู้ใหญ่บา้ น เมียนายเตย์(นายสถานีรถไฟ) เขาคาดเข็มขัดนาก ฉนั
มองดมู นั ชา่ งสวยเหลอื เกนิ แต่ของแม่เป็นเข็มขัดเงนิ ที่ขาดไปหลายข้อ แมเ่ อาลวด เอาเศษผ้า
มามดั ไว้ ฉนั ฝนั วา่ ถ้ามีเงินจะตอ้ งซ้อื เขม็ ขดั นากใหแ้ ม่ และไดแ้ อบถามเพอื่ นวา่ แม่เธอซอื้ เข็มขัด
นากมาแพงไหม เขาตอบว่า 2,000 บาท แนน่ อนว่าเงนิ 2,000 บาท ไมม่ ีแน่ ๆ แคจ่ ะจ่ายคา่ งวด
บ้านแม่กย็ ังตอ้ งผ่อนผนั เขา

พอมเี งนิ เดอื น ฉนั เกบ็ รวบรวมเงนิ ไปซ้ือเข็มขัดนากมา 1 เสน้ ราคาตอนน้ี 15,000 บาท
เอาไปให้แมใ่ ช้ แต่แม่ก็เลิกใสผ่ ้าถุงเสียแลว้ ... เขม็ ขัดนากจึงเปน็ สัญลกั ษณข์ องความต้องการเก็บ
อยู่ในลิ้นชักจนทกุ วนั น้ี

ฉนั แต่งงานได้ 5 ปี เราสองคน อยากมรี ถยนตบ์ ้าง สามีไปซือ้ รถเกือบพงั มา 1 คัน ราคา
12,000 บาท เขาขัดถดู ูแล 1 วนั เตม็ ราวกบั จะปลุกซากให้คนื ชีพ เอาให้ใหม่ วาววับ ขับดี และ
ฝันว่าตอ้ งซอื้ รถให้สามีให้ไดส้ ักคนั โดยฝนั ถงึ ปูายแดงเลย

ทุก ๆ ความฝันของฉนั เกี่ยวขอ้ งกับเงินทง้ั สิน้ จงึ ต้องวางแผนและเก็บออมโดยมเี ปาู หมาย
ใหพ้ ุ่งชนตอ้ งทาใหไ้ ด้

ฉันมแี รงบนั ดาลใจอันแรงกลา้ ทีจ่ ะทาเพอ่ื แม่ เพ่ือสามี และ...สดุ ท้ายทุกสงิ่ ก็มาเกดิ ผลที่
เรา เพราะเหตุที่เราจุดประกายไว้นัน้ เปน็ คุณธรรมท่ีดี สร้างคณุ สมบตั ิท่ีดีในตัวเรา

การระมดั ระวงั รายจ่ายดว้ ยการประหยดั เปน็ สิง่ ทีส่ นุกกับมันมาก เพราะคนท่จี ะประหยัด
อะไร ต้องผ่านการคดิ เสมอ ฉนั ประหยดั จนเป็นนิสัย

คิดประเมนิ ชง่ั ตวง วดั ว่าอยา่ งไหนดกี วา่ กนั อย่างไหนไม่ต้องใช้เงนิ มาก ทกุ ครง้ั ท่ีไป
ตรวจ 5 ส. ตามพน้ื ที่ ไดพ้ บเห็นการประหยดั ส่ิงใด อดชน่ื ชมพนกั งานเหล่านั้นไมไ่ ด้ อยากบอก
ใหร้ ู้วา่ เราเปน็ พวกเดยี วกนั นะ

ประหยัดไม่ใชก่ ารขาดแคลนหรือให้อด แต่เป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มควรแกค่ า่ ของมนั
ไม่ฟุมเฟอื ยเห็นในคุณค่าของทุกสงิ่

ลองมาเริ่มประหยดั คา่ ใช้จ่ายกันดีไหม จะทา้ ทายให้เราไดใ้ ชส้ มองคิด คิดเร่อื งการ
ประหยัดดีกว่าคิดเรอื่ งการใชเ้ งิน

อ.จินตนา

เราเคยสงสัยตวั เองว่า อว้ นขึ้นหรือเปล่า เราก็ไปชั่งน้าหนกั เราสงสัยว่าเราจะเปน็
เบาหวานหรือไม่ เราก็ไปตรวจเลอื ด ถ้าสงสยั ว่าสายตายาวหรอื ไม่เราก็ไปวดั สายตา

เคร่ืองมอื ตา่ ง ๆ น้ี ชว่ ยให้เรามนั่ ใจได้ว่า เราเปน็ อะไร อยูใ่ นระดบั ใดแลว้ ควรแก้ไข
อยา่ งไร

อายขุ องพวกเรา บางคน 30 – 40 - 50 ปี แล้วเคยรู้ไหมวา่ ขณะนเี้ รามีทนุ (เงิน) อยู่เท่าไร
เผอื่ ว่าเมอ่ื เกษียณอายุแล้วเราจะได้พ่ึงทนุ ของเราทีม่ ี

เคร่ืองมอื ในการหาทุนของเราได้คือ บัญชีคู่ท่ีเรยี กว่า งบดลุ ดว้ ยการบนั ทึกทางซา้ ยมอื ว่า
เป็นทรัพยส์ ินและช่องทางขวามอื วา่ เป็นหนี้สนิ

น้าทรัพยส์ ินมาเปน็ ตวั ต้ัง แลว้ ลบด้วยหนี้สิน เหลือเท่าไรคือ ทนุ ส้าหรับชวี ิตเรา
ทุนจะเปน็ ภมู คิ ุ้มกนั ให้กบั เราตลอดไป ถ้าเราบรหิ ารได้อยา่ งถูกตอ้ ง
การพจิ ารณาทรพั ย์สินและหนส้ี นิ อยเู่ สมอจะท้าใหเ้ รารู้ว่า เราควรสะสมอะไร เราควร
สะสางอะไร
คนทมี่ วั แต่สบั สนและสงสัยอยู่น่ัน จะท้าอะไรไมท่ ันการ การลงรายการทรัพย์สนิ -หน้สี ิน
เพื่อหาทนุ นี้ เรียกวา่ งบดุล อยากใหล้ องฝึกท้าดทู กุ ปี ท้าขน้ึ มาสักครง้ั กจ็ ะเป็นแนวทางใหก้ ารท้า
ปตี ่อไปง่ายขน้ึ
เราจะเหน็ ชดั เจน เหมอื นเรารู้ว่า 1 ปี อายุเราเพ่ิมขนึ้ แลว้ ใน 1 ปี เรามที ุนเพม่ิ ข้นึ ไหม
จะเป็นก้าลงั ใจให้เราวางแผนชวี ิตเพ่ืออนาคต
ในด้านทรพั ย์สนิ ให้พิจารณาทรพั ยส์ นิ ทช่ี ว่ ยเพม่ิ ค่า และทีม่ ีสภาพคลอ่ ง
ในดา้ นหนี้สนิ ใหพ้ ิจารณาสิ่งที่ควรบริหารจดั การให้ลดลง
ทุน เป็นสงิ่ ท่คี วรมีเพิ่มขนึ้ ตามอายแุ ละเวลา
บางคน อายุ 60 ปกี วา่ เคยมีรายได้ใช้ประจา้ อย่างสบาย แต่ไดก้ อ่ หน้ไี วม้ ากหลายทาง
พอทา้ งบดุลของตัวเอง พบวา่ ทนุ ติดลบ แปลวา่ ตลอดชีวิต 50 – 60 ปี ไมไ่ ดส้ ะสมทนุ เอาไวย้ าม
จา้ เป็นยามชราเลย
ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พูดถึงภูมคิ ุ้มกนั บุคคลเชน่ นี้ ขาดภูมิคมุ้ กนั
ซ่ึงอันตรายอยา่ งยิ่งกับชวี ิตทเี่ รม่ิ แกล่ ง ๆ
ในห่วงท่ี 2 ของหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง พูดถึงการพิจารณาให้สมเหตุสมผล เราตอ้ งฝกึ
พจิ ารณาทง้ั รายรบั – รายจ่าย ทรพั ย์สนิ หน้ีสิน ทุน
พิจารณาจนเหน็ และรดู้ ้วยตัวเองว่าควรท้าอย่างไร
และให้มีความเพียร ความอดทน ท้าอย่างมีวินยั อยู่ใน 2 เงอ่ื นไข
ทใ่ี นหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงตรสั ไวว้ ่า เศรษฐกจิ พอเพียงตอ้ งค้านงึ ถงึ

ความรู้ คณุ ธรรม

การใช้เครอ่ื งมือทางการเงิน ตรวจสุขภาพทางการเงินของตัวเองทงั้ 2 บัญชคี ู่ เป็นสิ่งท่ี
ทกุ คน ทุกบ้านควรจดั ท้าอย่างยง่ิ

การละเลยไม่อยากรู้เหมือนเราอมโรคไวไ้ ม่ไปหาหมอ คนเดือดรอ้ นคือเรา โรคทางกาย
หรอื โรคทางการเงิน แม้เกิดขึ้นเพยี งนิดแต่มโี อกาสลกุ ลามได้เสมอ

การรู้ตัวกอ่ นจะทา้ ใหแ้ ก้ไขไดท้ นั การรู้จักใชเ้ ครื่องมือจะทา้ ให้เรามัน่ ใจวา่ เราไม่ได้คิดเอง
เดาเอาเอง

การไม่รู้ – กจ็ ะได้รู้ชัดเจนข้ึน
การรผู้ ิด ๆ – กจ็ ะได้รูถ้ กู ตอ้ งขึน้
แต่ถ้ายงั ไม่ยอมรบั รู้ใช้ชวี ิตไปเรอ่ื ย ๆ เหมอื นเรือไมม่ ีหางเสือ ยามพบมรสุมชีวิตจะชว่ ย
ตวั เองได้อย่างไร
การใชช้ ีวติ ในเรอ่ื งเงนิ ตอ้ งชดั เจนมั่นใจอยู่เสมอ โดยผา่ นการคิดและการวางแผนท่ดี ี

สงิ่ ใดทฉี่ ันสนใจ มกั หาความรู้เพิม่ เตมิ ขึน้ เสมอ ถา้ ไมม่ ่ันใจกจ็ ะถามผู้รู้ พร้อมกับแสวงหา

หนังสอื มาอา่ น ถา้ “ใช่เลย” จะลงมอื ทา้ ทนั ที

ฉนั ไดอ้ ่านหนังสือการเงินเลม่ หนึง่ บอกว่าอยากรวย ตอ้ งรูจ้ กั คา้ 2 ค้า

1. โอกาส 2. การเสยี่ ง

โอกาส คอื ส่งิ ที่ผา่ นเข้ามา หรอื สง่ิ ทเี่ ราสร้างข้นึ

การเสย่ี ง คือ ความกลา้ ในการลงทุนเมอื่ เหน็ โอกาส

ฉนั ใชค้ ้า 2 ค้านใ้ี นการพิจารณาการลงทุนเสมอ แรก ๆ ที่เรมิ่ มีเงนิ เดอื น มีรายได้ จะฝาก

เงินกับธนาคารเพื่อให้ได้ดอกเบีย้ วธิ ีการนไ้ี มไ่ ดแ้ สวงหาโอกาสใด ๆ และไมร่ ู้จักกับค้าวา่ เสย่ี ง แต่

ทา้ ไปเพราะควรท้า

เมื่อมาพบค้า 2 ค้านี้ จงึ เรม่ิ สนใจและจะใช้มนั ในปี พ.ศ. 2538-2539 เป็นชว่ งเวลาท่ี

อตั ราดอกเบ้ยี ธนาคารสูงท่ีสุด และทุกธนาคารแข่งขนั กนั หาเงนิ ทุนเข้า โดยเฉพาะธนาคารทเ่ี ริ่ม

ย้า่ แย่ เชน่ ธนาคารกรุงเทพพาณชิ ยการ จา่ ยดอกเบี้ยสงู กวา่ ธนาคารอ่ืน ๆ มาก ฉันเห็นโอกาสที่

จะทา้ ให้เงินงอกเงยเพ่ิมมากขึ้น ในความเส่ยี ง ฉันกลับเช่ือวา่ ธนาคารลม้ ไม่ได้เพราะผูค้ นจะ

เดือดร้อนมาก จงึ ระดมทนุ ท่มี ีเข้าฝากธนาคารนเี้ พ่อื กนิ ดอกเบยี้ 18-19 % สูงมาก ๆ

ฉนั ระดมทนุ ได้เท่าที่มี และได้คน้ พบคา้ อีกค้าหนงึ่ คอื “ความพร้อม” เราจ้าเป็นต้องมี

ความพร้อมเสมอเม่ือโอกาสเข้ามาหา พรอ้ มตดั สินใจทก่ี ลา้ เส่ียงในการลงทนุ

ความพร้อม เป็นเร่อื งทตี่ ้องมากอ่ น คดิ ให้ไดก้ อ่ น ความพรอ้ มกนิ ใจความกวา้ งขวางมาก

ทงั้ เปน็ รูปธรรม เชน่ ตวั เงิน และเปน็ นามธรรม เช่น ความมงุ่ มนั่ ต้ังใจ เอาจริง

ชีวิตท่ผี า่ น ๆ มา ฉันมคี ุณสมบตั ิในการเตรียมความพรอ้ มทุกเรอื่ งที่เกย่ี วกบั งานและเงนิ

ยกเวน้ การแตง่ งาน เพราะฉนั ยังไมร่ ้จู ักความหมายของความรัก ฉันไม่รูอ้ ะไรในสง่ิ ท่เี ก่ยี วข้องกับ

ความรักมากนัก งานแตง่ งานแฟนฉันเตรยี มใหห้ มด แมแ้ ตก่ ารจัดหาเพื่อนเจ้าสาวให้ พรอ้ มเงนิ

ทองในการจัดงาน

เม่ือใดท่มี คี วามพรอ้ ม น่ันคือ ฤกษง์ ามยามดขี องฉัน ฉันจงึ เปน็ คนไมเ่ ช่อื โชคลางใด ๆ

ไมด่ หู มอดู ไม่เสยี่ งโชค ฤกษ์ของฉนั คือความพร้อมของฉัน น่ันเอง

ทกุ ๆ กิจกรรมท่เี ป็นเร่ืองงาน เร่อื งเงนิ ฉนั ต้องพรอ้ มเสมอ เมอ่ื เวลาและโอกาสมาถงึ

ฉนั ก็เหลือแตก่ ารตดั สินใจว่าฉันจะเสีย่ งหรอื ไม่

ทกุ ความเสยี่ งหรอื การลงทุนใด ๆ ฉันต้องไม่ขาดทนุ ทุนของฉันต้องยังอยู่ ฉนั จึง

ระมัดระวังการลงทนุ มาก ไม่ดดี ลูกคดิ รางแกว้ ไม่เหน็ อะไรแลว้ ตาโต ฉันจะคดิ ทบทวนถึงความ

เปน็ ไปได้ ในโอกาสที่จะได้ ฉะนน้ั ฉันจงึ ไมเ่ ลน่ หวย ฉนั ไม่เสีย่ งโชคเพราะมีโอกาสน้อยนดิ แค่ได้

กบั ไม่ได้

ฉนั รวู้ า่ มนษุ ย์ทุกคนชอบเส่ียงเปน็ ธรรมชาติ แตค่ วามพร้อมและโอกาสไม่ใช่ธรรมชาติ
เราตอ้ งสร้างข้นึ มาหรอื มองหาโอกาสให้เห็น คนเห็นก่อนยอ่ มไดโ้ อกาสน้ันไป

ฉนั ทา้ ธรุ กิจลสิ ซิ่งก็ดว้ ยความพรอ้ ม โอกาส และการกลา้ เส่ียง โอกาสของการให้สินเชอ่ื
รายยอ่ ยที่ธนาคาร ไม่สนใจ แตก่ ่อนเราคิดดอกเบีย้ ร้อยละ 3 ตอ่ เดอื น และ Flat rate (ดอก
กระดา้ ง) เสียด้วย

โอกาสเชน่ นใ้ี นปัจจบุ ันไม่มอี ีกแล้ว เหลอื แค่รอ้ ยละ 1.25 และ Effective rate
(เงนิ ตน้ ลด ดอกเบ้ยี ลด)

โอกาสมาแลว้ กไ็ ป แตค่ วามพรอ้ มของเราตอ้ งมไี ว้เสมอ อย่าประมาท ต้องมีความหวัง
มีศรทั ธาในสงิ่ ที่ทา้

ฉันจะตอ้ งท้าใหพ้ นักงาน ไดม้ องเห็นโอกาส และเริ่มสรา้ งความพร้อมให้ตวั เอง เพอื่
การลงทุนทีเ่ สี่ยงนอ้ ยในธรุ กิจของเราในอกี ไม่ช้า

อ.จินตนา

การลงทุนไมเ่ หมือนการซื้อหวยหรือลอตเตอรี่ทีม่ ี 2 ทางเลือก คอื ไม่ได้ ก็เสยี ... น่.ี ..ไม่ใช่
การลงทุน เปน็ กิจกรรมสนุก ๆ ของคนไทย

แตก่ ารลงทุน เปน็ การเอาทนุ ไปลง แล้วควรตอ้ งไดก้ าไรหรอื ปนั ผลกลบั มา จงึ จะเรยี กได้
ว่า ลงทุน

ทุน ควรเปน็ ทุน ท่เี กิดจากการออมของเราเองจะดีกว่า แต่ถ้าจาเปน็ ตอ้ งกู้มาเพือ่
การลงทุน เราตอ้ งมั่นใจว่าจะคนื เงินก้ไู ดเ้ ร็วทีส่ ดุ ลงทุนแล้วอย่างนอ้ ยต้องได้ทนุ กลบั คืนมา ไม่ใช่
“ขาดทุน” ไดเ้ งินทุนกลบั มาไมค่ รบ

คณุ สมบตั ิของผ้ทู ่จี ะลงทนุ ได้
1. มที นุ ในทน่ี ค้ี งตอ้ งเปน็ “เม็ดเงิน” ไม่ใชค่ ณุ สมบัติท่ีดีของตวั เราเปน็ ทุน การจะมเี งนิ

มาลงทนุ สักกอ้ นหน่ึง เราอาจใชว้ ิธี รวบรวม (ออมไว้) หรือใช้เครดติ กยู้ มื มา ถา้ มคี าถามวา่
เดอื น ๆ เงินก็ไม่ค่อยพอใช้อยแู่ ลว้ จะรวบรวมเงนิ เพ่ือการลงทนุ ได้อยา่ งไร... การลงทุนเหมาะ
สาหรับคนทีม่ สี ายตายาวไกล มองเห็นแสงท่ีปลายอโุ มงค์อนั สดใส

เม่อื เราเชื่อมน่ั การลงทนุ เราจะอดทนเกบ็ ออมโดยการดทู ีร่ ายจา่ ยที่ไม่จาเป็น เชน่ คา่
เหล้า บุหร่ี คา่ โทรศพั ท์ ค่าน้ามนั เราดงึ เงินออกมาจากรายจา่ ยนี้ได้ทุก ๆ เดือน เราก็จะเรม่ิ มี
เงินออมเอาไปลงทุนได้ ไมม่ ีทุน...เลิกคดิ เรอ่ื งการลงทนุ ได้เลย

2. มีเวลา เป็นตน้ ทุนอยา่ งหนึ่งของการลงทุน เช่น เมื่อเปิดรา้ นอาหาร เราตอ้ งมีเวลาไป
บริหารจัดการ แตถ่ ้าไมม่ ีเวลา เราก็ให้ผู้อน่ื มาบรหิ ารเงินทุนของเราแทน เชน่ การซือ้ กองทุนตา่ ง ๆ

เงินทนุ จะงอกมากข้นึ จะลงทุนในส่งิ ใดตอ้ งรู้ธุรกจิ นนั้ ๆ อย่างแท้จริง จะเปิดร้านขาย
ข้าวแกง ตอ้ งคดิ ว่าจะขายอะไร ขายท่ีไหน ให้ลูกค้าระดบั ไหน หา้ มใช้ความโลภเปน็ ตวั ตดั สนิ
การลงทนุ และไม่ใชค้ วามกลัว เป็นการห้ามการลงทนุ แตใ่ หใ้ ช้สมอง ใชป้ ัญญาท่ีมองเห็นชัดเจน
แล้ว

จะลงทุนในหนุ้ ตอ้ งรู้ว่าธุรกิจน้นั ทาอะไร มผี ลกาไรขาดทนุ เป็นอย่างไร เราไว้วางใจ
จึงเอาเงินไปลงทุนร่วมกับเขา เราตอ้ งรธู้ ุรกิจเขา

การลงทนุ ควรมีเปา้ หมาย ใหถ้ ามตวั เองชัด ๆ ว่า เราตอ้ งการลงทนุ เพ่ืออะไร เชน่
1. เพอ่ื การศึกษาของลกู ควรเริม่ ออมทนั ทีทค่ี ิดว่าจะมีลูก และควรคานวณให้เพียงพอ

ไปจนถึง จบปรญิ ญาตรี ซึ่งตอ้ งใชเ้ งนิ มากข้ึน โดยการหกั เงินเดือนออกมาเท่า ๆ กนั
ทุกเดอื น ฝากธนาคารชนิดไม่เสยี ภาษา
2. เพอื่ การรักษาพยาบาล ลูกหรือพอ่ แม่ที่เราตอ้ งรับผิดชอบไม่ได้อยู่ในระบประกันสงั คม
ต้องซอ้ื ประกนั ไว้
3. เพือ่ ความสะดวกสบาย เชน่ การสร้างบ้าน การซือ้ รถ เป็นการลงทนุ ท่เี ป็นภาระ
ยาวนานมาก ให้นึกถึงความเส่ยี งเอาไวด้ ว้ ย

4. เพ่อื ให้มีกิน มีใช้ ยามเกษียณจากงานตอ้ งรีบวางแผนทนั ที เพราะเป็นการลงทนุ
“เพื่อตัวเอง” แท้ ๆ แกเ่ ฒ่าแลว้ เราตอ้ งพง่ึ พาตวั เองใหไ้ ด้ ไมเ่ ปน็ ภาระของลูก
และสังคม

5. หาเงินมากิน มาเที่ยว มาใช้ เช่น การเก็งกาไรในหุ้นระยะสั้น

ทกุ การลงทุนให้นึกถึงเป้าหมายกอ่ น เงินที่นามาลงทนุ ต้องเป็นเงนิ เย็น คอื ออมแล้วนาไป
ลงทนุ ออมแล้วตอ้ งไมอ่ ัตคัด ไมเ่ บยี ดเบยี นตัวเองจนทาให้เครยี ดในชวี ิตประจาวัน สาคัญคือ ให้
ค่อยเปน็ ค่อยไปไมเ่ ร่งโตเร็วนกั

ยคุ ทีด่ อกเบี้ยเงินฝากถูกสุด ๆ ไมน่ า่ ลงทนุ ในเงินฝากแลว้ การลงทนุ ในห้นุ (ตลาดทุน) เปน็
อกี ชอ่ งทางหนง่ึ ทนี่ ่าสนใจ

สาหรับผู้ท่ีสนใจในหนุ้ อยากใหร้ ้จู กั คาวา่ การลงทนุ ในหุ้น การออมในห้นุ และการเลน่
หุ้นให้ชดั เจนเสียก่อนที่จะลงทุน

ย้อนอดตี เม่อื ตอนเปน็ เดก็ ๆ ฉนั ไดเ้ หน็ และไดเ้ คยลองเล่นสิ่งท่ีเรียกว่า “ การลงทุน”
ของคนไทยมาบ้าง เคยเล่นไฮโล ... จะไม่ให้ลองได้อย่างไร เพราะบา้ นอยตู่ ิดกัน เขามอี าชพี เปน็
เจา้ มอื ไฮโล เขาฝึกเปน็ อาชีพเลย้ี งตน เลย้ี งคนในบ้านจนทุกวนั นี้ อกี ท้ังยังเคยซ้ือเบอร์ม้าแขง่
จากเพื่อน ๆ สมัยที่เรียนมัธยมเอามาขายให้ ถ้าเลือกม้าไดถ้ ูก ก็เข้า Win จะไดเ้ งิน และก็เคยซ้อื
หวย ซ่ึงซ้อื เพียง 1 บาท ถูก 2 ตัวก็ได้ 60 บาท ถูก 3 ตวั ก็ได้ 500 บาท ยว่ั ยวนให้น่าลงทุน
เหมอื นกนั ฉันเคยเลน่ สล๊อตในบอ่ นประเทศเขมร ลงไป 10 บาท เงนิ ไหลพรูออกมาเกือบ 300
บาท ตลอดจนเคยเลน่ ไพป่ ๊อกกินเงินอกี ด้วย ซึง่ ส่งิ ทเี่ ล่ามา 4-5 อยา่ งนี้ฉันเคยเลน่ แต่ไม่ตดิ เพราะ
พบวา่

1. สงิ่ ทเี่ ล่นมีเสยี มากกว่าได้
2. เมื่อไดม้ ามากตอนแรกกจ็ ะโลภ และเสยี หมดในเวลาต่อมา
3. มันเปน็ เรอ่ื งโชค ดวง ที่ไม่เชอื่ อยแู่ ลว้
แต่กลบั มาสนใจ การลงทุน ทค่ี ิดคานวณตัวเลขได้ - เสีย ฉันสามารถโลภได้ ไมก่ ลวั
เพราะคดิ ไว้แลว้ วา่ ถูกตอ้ งตามเหตตุ ามผล จึงลงทุนค้าขาย ซื้อมาเท่าไรฉันรู้ จะบวกกาไรเท่าไร
ฉันคิด การขายฉนั ทาไดเ้ ห็นกาไรชดั ๆ และจะขายในส่งิ ทีช่ อบซงึ่ ตอ้ งรู้จกั ส่ิงท่ีขายนน้ั อย่างดี
ฉันมีคณุ สมบัตขิ องนกั ลงทุนทีด่ ีคือ มีทุน มีเวลา (เร่ิมต้นเร็ว) และมีสมอง ที่สาคัญมี
เป้าหมายในการลงทุนทช่ี ัดเจน “ฉนั อยากมอี ิสระทางการเงนิ ” “ยามแกต่ วั ลง เงินตอ้ งทางาน
แทนฉนั ”
อายุมากข้นึ รวู้ ่าการลงทุนในเงนิ ฝากและพันธบตั ร ได้ผลตอบแทนนอ้ ยเกนิ ไป ไม่ทาให้
บรรลเุ ปา้ หมาย ฉันจงึ เริ่มสนใจ ตลาดทุน...คือ ลองซ้อื หนุ้
ซ้ือหนุ้ ตวั แรก คือ ปตท. (PTT) ในราคา IPO เปน็ ราคาเปิดตลาดครัง้ แรกท่ี 35 บาท
จานวน 10,000 ห้นุ ต่อมาขายไปในราคา 90 บาท ในช่วงระยะเวลา 6 เดือน
ฉันตืน่ เต้นมาก เพราะลงทุนไป 350,000 บาท ไดก้ าไรมา 550,000 บาท... จงึ เรม่ิ คดิ
และหาความรเู้ กยี่ วกับหุ้น หุ้นใหค้ าตอบแก่ฉนั คือ
1. ทาใหฉ้ นั ได้เปน็ เจ้าของกิจการน้นั ๆ
2. ทนุ ท่ลี งไปจะงอกเงยในรปู ของปันผล
3. บางโอกาสทุนอาจจะลดลง แตไ่ ม่ใชเ่ ปน็ ศูนย์
4. หนุ้ ทีด่ ีอาจทาให้ฉันขายไดก้ าไรมาก

ฉันเริ่มจัดพอรต์ การลงทุนของตวั เองเปน็ 3 ลักษณะ คือ
1. ลงทุนเพอื่ กนิ ปนั ผลเทา่ น้ัน จงึ เลอื กลงทุนในธุรกิจทฉี่ นั ร้จู ักดี เชน่ เมืองไทยลิสซ่ิง ยอด

นีจ้ ะนอนนิง่ ไม่ซ้อื -ไมข่ าย ฉนั เลอื กซ้อื ในชว่ งเขา้ ตลาดแรก จะไดร้ าคาต่า เหมาะแกก่ าร
เก็บไวย้ ามเกษยี ณ
2. ลงทนุ ออมในหุน้ เพอ่ื การกนิ ปันผลและการขายตอ่ เมื่อไดร้ าคา เลอื กหุน้ ยอดนยิ ม เชน่
โรงพยาบาล การส่ือสาร ธนาคารบ้าง เฉลย่ี ๆ การลงทนุ สัก 3-4 ตัว แต่ถา้ ไม่พอใจก็จัด
พอร์ตซอ้ื ตวั ใหม่แทนตวั เกา่ จะออมในห้นุ ทกุ เดือน ๆ ละเท่าๆ กัน โดยจะเลอื กหุน้ ทมี่ ี
ปันผลเท่าน้ัน ฉันได้ผลตอบแทนกลบั มาเฉลย่ี 7-8 %
3. เล่นห้นุ เก็งกาไร เปน็ ความสุขตน่ื เต้นดี ไดเ้ งนิ มากินขนม เลยี้ งเพ่ือน ๆ เลี้ยงพนักงาน
ฉันมกั จะเก็งในหุน้ ที่ร้จู ักเทา่ น้นั ยามเสียยังไมไ่ ด้ใหร้ ู้จักรอ เงนิ ทนุ ไม่หายแต่ให้รอกาไรท่ี
จะมาในอีกไม่ชา้ สาหรบั คนเงนิ น้อย ไมค่ วรเลน่ หนุ้ เก็งกาไร เราควรเปน็ นกั ลงทุน ไม่ใช่
นักเก็งกาไรมากกว่า ข้อน้ีไม่สนับสนนุ ใหพ้ นกั งานเล่น

การลงทนุ ในหุน้ ท่ปี ลอดภัยคอื ข้อ 1 และขอ้ 2 เพราะเปน็ เช่นนี้ ฉนั จงึ สามารถ
ควบคุมการเงินได้ดีเสมอมา ฉันเปน็ ผู้เลน่ เกมทางการเงนิ แต่เงินไม่ไดม้ าเลน่ งานฉนั ฉันเลน่
โดยไม่โลภและไมม่ คี วามกลวั เพราะผา่ นการคิดการอา่ นมาแลว้ ฉนั สนุกกับการลงทนุ ในหุ้น
เพราะทาให้ฉันมเี งนิ ใช้โดยไม่ตอ้ งทางาน