The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อารยธรรมญี่ปุ่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by THANN THANYARAT, 2020-10-27 05:50:25

อารยธรรมญี่ปุ่น

อารยธรรมญี่ปุ่น

1233503 อารยธรรมตะวนั ออก

อประาวัตริศยาสตธร์ รรมญีป่ ่ ุน

นกั ศึกษาชน้ั ปีท่ี 3 โปรแกรมวชิ าสงั คมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั กาแพงเพชร



みみ
なな
ささ
んん

ここ
んん
にに
ちち
はは




บทนา

อารยธรรม คือ ความเจริญทางสงั คม เศรษฐกิจ ศิลปะ การเมืองการปกครองของ
มนุษย์ ท่ีดูไดจ้ ากการดารงชีวิตอยู่ในสงั คมของมนุษยต์ งั้ แต่อดีตมาจนถึงปัจจุบนั และอารยธรรมยงั
เป็ นส่ิงที่สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความคิด ทศั นคติ ความเชื่อของผูค้ นในยุคสมยั นน้ั ไดอ้ ีกดว้ ย ถา้ หากมอง
ในทางกลบั กนั การไม่มีอารยธรรม สงั คมก็ไม่อาจท่ีจะเกิดข้ึนเป็ นรปู ร่างไดเ้ ลย

เราจะพาทุกท่านไปเรียนรูอ้ ารยธรรมของประเทศญี่ป่ ุนกนั โดยประเทศญ่ีป่ ุนมกั

ไดร้ บั การเรียกขานอีกช่ือว่า ดินแดนอาทิตยอ์ ุทยั ท่ีมาของช่ือน้ีเริ่มมาจากชาวจีนใชเ้ รียกเกาะแห่ง

น้ีที่ตงั้ อยู่ทางทิศตะวนั ออกของประเทศจีนซ่ึงพระอาทิตยข์ ้ึนจากขอบฟ้ า ณ จุดน้ันชาวจีนจึงเรียก
เกาะน้ีว่าเป็ นถิ่นกาเนิดของดวงอาทิตยแ์ ละทงั่ สองประเทศน้ีก็มีความเกี่ยวโยงกนั มา แต่โบราณ
นบั เป็ นพนั ๆ ปี แลว้ เช่นกนั โดยเริ่มแรกนนั้ ญี่ป่ ุนรบั เอาทง้ั ศิลปะวฒั นธรรม ศาสนารวมทงั้ ภาษาจาก
จีนเสียเป็ นส่วนใหญ่ แต่ต่อมาก็มีการพฒั นาข้ึนเร่ือย ๆ จนมีความเป็ นเอกลกั ษณแ์ ละอตั ลกั ษณข์ อง
ตวั เองสืบมาจนถึงทุกวนั น้ี จนไดช้ ่ือว่าเป็ นชาติท่ีมีวฒั นธรรมโดดเด่นและมีความเป็ นเอกลกั ษณ์
เฉพาะตวั มากท่ีสดุ ชาติหนึ่งในโลกอีกดว้ ย

คณะผูจ้ ดั ทา

15 ตุลาคม 2563

สารบัญ 2
3
ขอ้ มูลทว่ั ไปของประเทศญ่ปี ุ่น 4
5
การแบง่ ยุคสมยั ของอารยธรรมญ่ปี ุ่น 7
 ยุคหินญ่ปี ุ่น 9
 สมยั โจมง (Jomon) 10
 สมยั ยาโยอิ (Yayoi) 11
 สมยั สุสานโบราณ หรือโคฟงุ (kofun) 15
 สมยั อสึกะ(asuka) 19
 สมยั นาระ (nara) 20
 สมยั เฮอนั (Helan) 22
 สมยั คามากูระ (Kamakura) 23
 สมยั มูโระมาจิ (Muromachi) 26
 สมยั เซง็ โงกุ (Sengoku) 29
 สมยั อาซูจิ–โมโมยามะ (Azuchi-Momoyama) 31
 สมยั เอโดะ (Edo) 31
 สมยั เมจิ (Meji) 31
 สมยั ไทโช (Taisho) 32
 สมยั โชวะ (Showa)
 สมยั เฮเซ (Heisei)
 สมยั เรวะ (Reiwa)

1

2

日日

ประเทศญ่ีปุ่น เป็นรัฐเอก 本本
ราชหมูเ่ กาะในเอเชยี ตะวนั ออก 
ตง้ั อยูใ่ นมหาสมุทรแปซิฟิกนอก
ฝ่ังตะวันออกของแผน่ ดินใหญ่
เอเชีย ทาง ตะวันตกติดกับ
คาบสมุทรเกาหลแี ละประเทศจนี
โดยมที ะเลญ่ปี ุ่นกน้ั สว่ นทางทิศ
เหนือติดกับประเทศรัสเซีย มี
ทะเลโอคอ็ ตสคเ์ ป็นเสน้ แบง่ แดน

ประเทศญ่ปี ุ่น เป็นกลุ่มเกาะกรวยภูเขาไฟสลบั ชน้ั ซ่ึงมีเกาะประมาณ 6,852 เกาะ เกาะใหญส่ ุด คือ
เกาะฮอนชู ฮอกไกโด ควี ชู และชโิ กกุ ซ่ึงคดิ เป็นพ้ืนท่แี ผน่ ดินประมาณรอ้ ยละ 97 ของประเทศญ่ปี ุ่น มกั เรียกวา่ เหมู่
เกาะเหยา้ (home islands) ประเทศแบง่ เป็น 47 จงั หวดั ใน 8 ภูมิภาค โดยมฮี อกไกโดเป็นจงั หวดั เหนือสุด และโอกิ
นาวะเป็นจงั หวดั ใตส้ ุด และมกี รุงโตเกยี ว เมืองหลวงของประเทศ

ตวั อกั ษรคนั จิของช่ือญ่ปี ุ่นแปลวา่ "ถ่ินกาเนิดของดวงอาทิตย"์ จึงทาใหม้ กั ไดช้ ่ือวา่ "ดินแดนแห่ง
อาทิตยอ์ ุทยั " ชาวอาทิตยอ์ ุทยั น้ันมคี วามเช่ือเก่ยี วกบั ตานานเลา่ ขานท่วี า่ เป็นชาตพิ นั ธุท์ ่กี าเนิดมาจากสุริยเทพ ท่ี
ชาวญ่ปี ุ่นนิยมเรียกตนเองวา่ นิปปอน (Nippon) หรือ นิฮอม (Nihom) แตช่ าวตะวนั ตกเรียกชาวญ่ปี ุ่นวา่
เจแปน (Japan) โดยผนั มาจากจนี ท่เี รียกชาวญ่ปี ุ่นวา่ เยอะเป่ิ น

การแบ่งยุ3คสมัยของ
อารยธรรมญีป่ ุ่น

ยุคแรก 4

ยุคหินญีป่ ุ่น

เร่ิมตน้ ตงั้ แตร่ ะยะเวลาจากรอบ ทางดา้ นการขุดคน้ พบ ในสมยั กอ่ น
35,000 ปีกอ่ นคริสตศ์ กั ราช - 14,000 ปีกอ่ น นั้นชาวญ่ปี ุ่นยุคใหมย่ งั ไมพ่ บหลกั ฐานใด ๆ ท่แี สดงวา่
คริสตศ์ กั ราช เป็นยุคแรกในประวตั ิศาสตร์อารย ญ่ปี ุ่นมคี นอาศยั อยูต่ งั้ แตก่ อ่ นสมยั โจมง (14,000-400
ธรรมญ่ปี ุ่น และเป็นยุคกอ่ นประวตั ศิ าสตร์ ปีกอ่ นคริสตศ์ กั ราช)

ไม่พบตัวอักษรใด ๆ ในยุคน้ี และในชว่ งหลงั สงครามโลกครั้งท่ี 2
สมยั นัน้ เป็นยุคน้าแข็ง และแผ่นดินญี่ป่ ุนยงั ติด จึงมาคน้ พบหลกั ฐานท่ยี ืนยนั วา่ มชี าวญ่ปี ุ่นอาศยั อยูใ่ น
กบั จีนแผ่นดินใหญ่ เพราะญ่ปี ุ่นในสมยั น้ันยงั ไม่ แผน่ ดินตงั้ แตก่ อ่ นสมยั โจมงแลว้ และหลกั ฐานท่แี สดง
หา่ งจากจนี มากนัก และชว่ งนั้นเป็นยุคน้าแขง็ ทา ถึงการเคยมมี นุษยน์ ั้น ช้ินท่เี กา่ ท่สี ุดมอี ายุ 35,000 ปี
ใหเ้ กิดสะพานน้าแขง็ เช่ือมระหว่างจีนกบั ญ่ีปุ่น กอ่ นค.ศ. ตอนน้ีจึงสรุปไดเ้ พยี งวา่ เร่ิมมมี นุษยม์ าตง้ั ถ่ิน
อารยธรรมและเมืองยงั ไมค่ อ่ ยมใี นยุคน้ี เน่ืองจาก ฐานในญ่ปี ุ่นตงั้ แตช่ ว่ ง 35,000 ปีกอ่ นคริสตศ์ กั ราช
ในชว่ งยุคน้าแขง็ อนั แรน้ แคน้

ชาวญ่ปี ุ่นในยุคนั้นจึงเลือกท่จี ะ
ทาการออกล่าสัตว์ คิดคน้ อาวุธล่าสัตว์ ออก
เดินทางไปยงั ทอ้ งถ่ินตอ่ ไปเม่ือสตั วใ์ นทอ้ งถ่ินถูก
ฆา่ หมด และตอ้ งกงั วลเร่ืองอาหารม้ือตอ่ ไปเสีย
มากกวา่

5

ยุคทีส่ อง สมัยโจมง(Jomon)
คาวา่ โจมง ในภาษาญ่ปี ุ่นแปลวา่ ลายเชือก ซ่ึงส่ือถึงลวดลายบนภาชนะหรือตุก๊ ตา
ดนิ เผาในยุคนัน้ ซ่ึงทาโดยใชเ้ ชือกพนั รอบก่งิ ไมแ้ ลว้ กดทาบลงบนวสั ดุ

เป็นยุคก่อนประวตั ิศาสตร์ของญ่ีปุ่น เคร่ืองป้ันดินเผา Jomon มลี กั ษณะเดน่ ดงั น้ี
ประมาณ 14,000 ปีกอ่ นคริสตศ์ กั ราชถึง 300 ปีกอ่ น สี น้าตาลอมดา
คริสตศ์ กั ราช
การออกแบบ หลายแหง่ มรี ูปร่างคลา้ ยเชือก
นักวิชาการส่วนใหญ่เห็นพอ้ งกันว่า ความทนทาน หนาและเปราะบาง
เม่ือประมาณ 40,000 ปีกอ่ นคริสตศ์ กั ราช ระหว่างหมู่ การใชง้ าน การปรุงอาหาร
เกาะญี่ป่ ุนกับแผ่นดินใหญ่ของทวีปเอเชียยังคง
เช่ือมต่อกนั ดว้ ยแผ่นน้าแข็ง โดยอาศยั หลกั ฐานทาง เครื่องมือหินในยุคโจมง
โบราณคดี นักวิชาการสันนิษฐานว่ามนุ ษย์ Homo
sapiens ไดอ้ พยพจากทางตะวนั ออกและตะวนั ออกเฉียง
ใตข้ องเอเชยี มาอาศยั บนหมูเ่ กาะญ่ปี ุ่นในชว่ ง 35,000 ปี
กอ่ นคริสตศ์ กั ราช และดารงชวี ิตแบบนักลา่ เกบ็ ของป่ า
และใชเ้ คร่ืองมือหิน นักโบราณคดไี ดค้ น้ พบเคร่ืองมือหิน
ท่อี ยูอ่ าศยั และซากดึกดาบรรพข์ องมนุษยใ์ นยุคนั้นทว่ั หมู่
เกาะญ่ปี ุ่น

นอกจากน้ี การศึกษาใน พ.ศ. 2531
ยงั ช้วี า่ ชาวญ่ปี ุ่นมพี ้ืนฐานทางพนั ธุกรรมร่วมกบั ชาวเอเชยี
ตะวนั ออกอกี ดว้ ย

ชาวโจมงอาจเป็ นคนพวกแรกในโลกท่ ี
ทาภาชนะดินเผาข้ึนอีกทั้งยังเป็ นพวกแรกที่ทา
เคร่ืองมือหินอกี ดว้ ย

ความเกา่ แกข่ องเคร่ืองดินเผาเหลา่ น้ี
ไดร้ ับการระบุภายหลงั สงครามโลกครั้งท่สี อง โดยวิธกี าร
หาอายุจากคาร์บอนกมั มนั ตรังสี ชาวโจมงไดป้ ั้นตุ๊กตา
และภาชนะจากดินเหนียวและทาลวดลายอยา่ งซบั ซอ้ น
ดว้ ยการกดดินท่ยี งั หมาดอยูด่ ว้ ยเชือกทงั้ แบบท่ีฟ่นั เป็น
เกลยี วและไมฟ่ น่ั และก่งิ ไม้

6

ยุคโจมงตอนตน้ และตอนกลางน้ันมกี าร
ขยายตวั ของประชากรอยา่ งมาก ซ่ึงเห็นไดจ้ ากปริมาณ
ของหลกั ฐานท่ขี ุดพบไดจ้ ากสองยุคน้ี ทงั้ สองยุคดงั กลา่ ว
สอดคลอ้ งกบั กับช่วงภูมิอากาศร้อนสุดในยุคโฮโลซีน
(ระหว่าง 4,000 ถึง 2,000 ปีกอ่ นคริสตศ์ ักราช) ซ่ึง
อุณหภูมิเฉล่ยี ข้ึนสูงกวา่ ปัจจุบนั หลายองศาเซลเซยี ส และ
ระดบั น้าทะเลสูงกวา่ ปัจจุบนั ประมาณ 5 ถึง 6 เมตร งาน
ศิลปะท่ีงดงามเช่นภาชนะดินเผารู ปเปลวไฟซ่ึงประดบั
ประดาอยา่ งซบั ซอ้ นน้ันเกิดข้ึนในยุคน้ี หลงั จาก 1,500 ปี
กอ่ นคริสตศ์ กั ราช ภูมิอากาศเร่ิมเยน็ ลง และประชากรเร่ิม
หดตวั ลงอยา่ งมาก การคน้ พบแหลง่ ทางโบราณคดีหลงั
1,500 ปีกอ่ นคริสตศ์ กั ราชมจี านวนนอ้ ยลง

เม่ือถึงช่วงทา้ ยของยุคโจมง ไดม้ ีการ

เปล่ยี นแปลงอยา่ งสาคญั เกิดข้ึนในแงโ่ บราณคดี โดยการ

เพาะปลูกและเกบ็ เก่ยี วไดพ้ ฒั นาจากแบบเร่ิมตน้ มาเป็นนา

アミニズム ข้า ว แบบ ซับ ซ้อ น แล ะเกิ ดระ บบ กา ร ปก ครอ ง ข้ึ น

ยุคโจมงเป็นชว่ งเวลาท่คี วามเช่ือ องคป์ ระกอบอ่ืน ๆ หลายอยา่ งของวฒั นธรรมญ่ปี ุ่นอาจนับ
เร่ือง เวทมนตร์ คือ การทานายโชคชะตา เขา้ ยอ้ นไปไดถ้ ึงยุคน้ีดว้ ยเชน่ กนั ซ่ึงสะทอ้ นถึงการอพยพเขา้
มาเก่ียวขอ้ งอยา่ งลึกซ้ึงในชีวิตประจาวนั เช่ือว่า มาผสมปนเปกนั ของชาวแผน่ ดินใหญจ่ ากเอเชยี ตอนเหนือ
วิญญาณและเทพเจา้ อาศยั อยูใ่ นธรรมชาติและกลวั และชาวแปซิฟิกตอนใต้ องคป์ ระกอบเหล่านั้นมีทงั้ เทพ
วา่ เป็นวิญญาณและเทพเจา้ เม่ือเหย่ือไมถ่ ูกจบั หรือ ปก ร ณัมชิ น โ ต ป ร ะ เพ ณี ก า ร แ ต่ง ง า น ลี ล า ท า ง
เม่ือเกิดภยั พิบตั ิข้ึน ส่ิงน้ีเรียกวา่ アミニズム สถาปัตยกรรม และความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี
เช่น ภาชนะเคลือบเงา ส่ิงทอ คนั ธนูท่ีทาโดยการอดั
นอกจากน้ี ยังมีหลักฐานทาง ไมต้ ่างชนิดเขา้ ดว้ ยกนั งานโลหะ และงานแกว้
โบราณคดที ่ปี รากฏวา่ ในยุคน้ัน ผูค้ นสว่ นใหญอ่ าศยั

อยูต่ ามชายฝ่งั ทะเลทาใหเ้ กิดกองขยะสะสมจานวน

มากจน เรียกวา่ สุสานหอย ซ่ึงนบั เป็นหลกั ฐานทาง

ประวตั ศิ าสตร์โบราณคดที ่ไี ดส้ ะทอ้ นใหเ้ ป็นถึงสภาพ

ความเป็นอยูก่ ารดารงชพี ของคนในยุคสมยั โจมงได้

เป็ นอย่างดีอันเป็ นจุดเด่นในยุคสมัยท่ีเริ่ ม

ดารงชีวิตอาศยั อยู่รวมกนั อย่างหนาแน่นตาม

ช า ย ฝั่ ง ท ะ เ ล อัน อุ ด ม ส ม บู ร ณ์ ไ ป ด้ว ย

ทรพั ยากรธรรมชาติ

บา้ นหลุม ในโยชิโนการิ

7

ยุคทีส่ าม สมัยยาโยอิ(Yayoi)
ยาโยอิ หมายถึง เดือนแหง่ การหวา่ นเมลด็ พนั ธุ์

เป็นยุคท่อี ยูใ่ นชว่ ง 300 ปี กอ่ นคริสตศ์ กั ราช
- คริสตศ์ กั ราช 250 วฒั นธรรมยาโยอิ ไดร้ ับอิทธิพลมาจาก
การอพยพเขา้ มาของคนจากผืนแผน่ ดินใหญส่ ู่หมูเ่ กาะญ่ปี ุ่น
เรียกไดว้ า่ ชาวญ่ปี ุ่นเป็นผูท้ ่สี ามารถดดั แปลง เลยี นแบบ ในการ
รบั เอาวฒั นธรรมอ่ืนทุก ๆ อยา่ งท่สี ูงกวา่ ตน มาใชอ้ ยา่ งไดผ้ ลดี
ตอ่ สังคม ผูค้ นตงั้ ถ่ินฐานทางตะวันตกและตะวนั ออกของ
ประเทศ

เร่ิ มเรียนรู ้การเพาะปลูกข้าว วิชาช่าง
เคร่ืองมือเคร่ืองใชท้ าดว้ ยทองสมั ฤทธ์ิและเหลก็ เชน่ เคร่ืองมือ
เพาะปลูก ดาบ กระจกเงา เคร่ืองปั้นดินเผายาโยอิ ใชแ้ กน
หมุนในการข้ึนรปู เคร่ืองมือเคร่ืองใชท้ าดว้ ยโลหะและหินขดั

เครื่องป้ันดินเผายาโยอิ มลี กั ษณะเดน่ ดงั น้ี
สี สแี ดงออ่ น

การออกแบบ เรียบงา่ ยและสมมาตร
ความทนทาน บางและแขง็
การใชง้ าน การจดั เกบ็ การปรุงอาหาร การ

เสิรฟ์ อาหาร ฯลฯ

อาคารยกพ้ืน ในโยชิโนการิ

8

ชาวจนี เรียกแผน่ ดินญ่ปี ุ่นวา่ หว่อ แตภ่ าษาญ่ปี ุ่นเรียกวา่ แผ่นดินของ
วา (วา แปลว่า แคระ) ใน ค.ศ. 57 เจา้ เมืองแผน่ ดินวา ไดร้ ับตราประจาตาแหน่งทาดว้ ย
ทอง เขยี นไวว้ า่ “เจา้ เมืองแผ่นดินวาของฮนั่ ” หลงั จากสง่ เคร่ืองบรรณาการใหแ้ กฮ่ อ่ งเต้
เมืองฮ่นั ตอนตน้ ของศตวรรษแรก แผน่ ดินวาน้ีแบง่ ออกเป็นรัฐตา่ งๆนอ้ ยใหญป่ ระมาณ
100 กลุม่ ชนดว้ ยกนั แตใ่ นศตวรรษตอ่ ไปนั้นจานวนรัฐลดเหลือเพยี ง 30 กลุม่ ชน อยู่
รวมกนั ภายใตก้ ารคุม้ ครองของราชินีองคห์ น่ึง นามวา่ พระนางฮิมิโกะ (Himiko) ซ่ึงเป็น
ผูท้ าหนา้ ท่ที างศาสนามากกวา่ เป็นประมุขทางการเมือง พระนางทาหนา้ ท่เี ป็นคนทรงและ
ประกอบเวทมนตร์คาถาใหป้ ระชาชน สว่ นประมุขทางการเมืองยงั เป็นจกั รพรรดิ

เร่ืองประมุขสตรีของชาววาดงั กลา่ ว
ท่ชี ่ือวา่ ฮิมิโกะ น้ีมปี รากฏอยูใ่ น นิฮนั โซกิ (Nihon
Shoki) บนั ทึกประวตั ิศาสตร์ยุคโบราณของญ่ปี ุ่นอกี
เลม่ หน่ึงท่เี ขยี นข้ึนประมาณศตวรรษท่ี ๗-๘ กลา่ ว
วา่ ฮิมิโกะ คือ ผูป้ กครองยามาไตโกกุ (Yamatai
Koku) ซ่ึงเป็นช่ือของเมืองหลวงในยุคสมยั ยาโยอิ

ในเร่ืองของท่ตี งั้ เมืองยามาไตโกกุน้ี
นักประวตั ิศาสตร์ถกเถยี งกนั อยูโ่ ดยท่ยี งั หาขอ้ สรุ ป
ไมไ่ ดว้ า่ ตงั้ อยูท่ ่ใี ดกนั แน่ จากขอ้ สรุปเบ้ืองตน้ ท่ไี ดจ้ าก
ร่องรอยของอารยธรรมยาโยอิท่คี น้ พบไดบ้ นเกาะคิวชู
นั้นทาให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีตั้ง
ขอ้ สงั เกตวา่ เมืองหลวงในยุคยาโยอิกน็ ่าจะตงั้ อยูบ่ น
เกาะคิวชูนั้นเอง แตน่ ักประวตั ิศาสตร์อกี กลุม่ หน่ึง
กลบั เช่ือวา่ น่าจะอยูท่ ่เี ขตคนั ไซ (Kansai) ทางตอนใต้
ของเกาะฮอนชูในปัจจุบนั เน่ืองจากเป็นท่ตี งั้ ของ
เมืองยามาโตะ ท่เี ป็นศูนยก์ ลางของการปกครองในยุค
สมยั โคฟุง และอสึกะ

ศาสนาชิ นโต

ศาสนาสมยั แรกของชาวญ่ปี ุ่น
คือ ชินโต หรือ “ทางของเทพเจา้ ” เป็นศาสนา
ท่สี ักการบูชาเทพเจา้ ซ่ึงไดแ้ กป่ รากฏการณ์ทาง
ธรรมชาติ หรือ บรรพบุรุษในตานาน

9

ยุคทีส่ ี ่ สมัยสุสานโบราณหรือโคฟุง(kofun)

อยูใ่ นประวตั ศิ าสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช. 250 -คริสตศ์ กั ราช. 538

ทงั้ ในยุคโคฟุง และยุคอสึกะ มกั เรียก

กนั อกี อยา่ งในช่ือ ยุคยามาโตะ ในสมยั โคฟุง ท่ตี ง้ั ของ

เมืองหลวง คือ เมืองยามาโตะ ซ่ึงเป็นเมืองหลวงท่อี ยูส่ ืบ
ตอ่ ไปจนถึงยุค อสึกะ

เม่ือประมาณกลางศตวรรษท่ี 4 ชน

เผา่ อิสระกลุม่ ตา่ ง ๆ ไดถ้ ูกรวบรวมโดยชนเผ่ายามา

โตะ (Yamato-Minzoku) ท่สี ามารถรวบรวมชนเผา่

ตา่ งๆใหอ้ ยูใ่ ตอ้ านาจของตนเอง ซ่ึงตระกลู ยามาโตะได้ ไดเซ็นเรียวโคฟุง
อา้ งว่าตนสืบเช้ือสายมาจากเทพีพระอาทิตย์ และ

ไดร้ บั มอบหมายจากพระนางใหเ้ ป็ นผูป้ กครองญี่ป่ ุน กลุม่ สุสานเหล่าน้ีสร้างข้ึนระหว่างชว่ งคร่ึงหลงั ของ

แต่ยังไม่มีการสถาปนาตระกูลยามา โตะข้ึนเป็ น ศตวรรษท่ี 4 ถึงชว่ งคร่ึงหลงั ของศตวรรษท่ี 5 ประกอบไป

จกั รพรรดญิ ่ปี ุ่น (ตระกูลยามาโตะ จึงเป็นเหมือนรัฐบาล ดว้ ยเนินสุสาน 49 แห่ง โดยเช่ือกนั วา่ ในจานวนน้ีสุสาน

ปกครองประเทศ) 29 แหง่ เป็นท่บี รรจุพระศพของอดีตพระจกั รพรรดิ พระ

ในขณะเดียวกันยังคน้ พบสุสานหิน จกั รพรรดินี และสมาชิกราชวงศข์ องญ่ีป่ ุน

และสุสานดินขนาดใหญแ่ ถบชายฝ่ังคิวชู ท่มี ีลกั ษณะ หน่ึงในนั้นคือสุสานรูปรูกุญแจ
พิเศษเป็นสุสานรูปกุญแจ ในสมยั น้ียงั มีความรู ้ และ ซ่ึงเช่ือกันว่าไดส้ ร้างข้ึนมาเพ่ือ

วิทยาการตา่ ง ๆจากจีนไดห้ ล่งั ไหลเขา้ มาเป็นจานวน บรรจุพระศพของพระจกั รพรรดิ
มาก นิ น โ ต กุ ( Nintoku-tenno)

ต่อมาในสมัยศตวรรษท่ี 5 ได้นา สุสานแห่งน้ีเป็นสุสานท่ใี หญท่ ่สี ุด

วิทยาการตา่ ง ๆ เขา้ มาจากจีน เชน่ การผลิตเครื่อง แห่งหน่ึงในโลก โดยมีความยาว

โลหะ เคร่ืองป้ันดินเผา การทอผา้ การถลุงเหล็ก 486 เมตรซ่ึงเป็นการแสดงใหเ้ ห็น

และวิศวกรรมโยธา รวมทงั้ มกี ารเร่ิมใชอ้ กั ษรคนั จิซ่ึง วา่ สงั คมญ่ปี ุ่นไดม้ าถึงยุคท่มี คี วาม

เป็นตวั อกั ษรของจีนดว้ ย แ ต ก ต่ า ง ก ัน ข อ ง ช น ช ้ัน ภ า ย ใ น

เม่ือเขา้ สูศ่ ตวรรษท่ี 6 ลทั ธิขงจ๊ือกบั แผ่นดินญ่ีปุ่นยังแบ่งออกเป็นรัฐ
ศาสนาพุทธ ไดแ้ พร่เขา้ สู่ญ่ีปุ่น เม่ือกษัตริ ย์แห่ง หรือแควน้ ตา่ งๆอกี ดว้ ย

อาณาจกั รแพก็ เจ (อาณาจกั รทางตะวนั ตกของเกาหลี)

สง่ ทูตพรอ้ มกบั พระคมั ภรี ์และพระพุทธรูปมามอบให้ โดย

หวงั ท่จี ะขอความชว่ ยเหลือจากญ่ปี ุ่นตอ่ ตา้ นการรุกราน

ของอาณาจักรชิลลา (อาณาจกั รทางตะวันออกของ ฮานิวะ (Haniwa) สญั ลกั ษณแ์ ห่งจิตวิญญาณ
เกาหล)ี เป็นส่ือขบั ไลว่ ิญญาณของผูต้ ายใหไ้ ปสูส่ ุคตติ ามความเช่ือ

10

ยุคทีห่ ้า สมัยอสึกะ(asuka)
อยู่ในประวัติศาสตร์ของญ่ีปุ่นในช่วงคริสต์ศักราช 538–คริสต์ศักราช 710

• ค ริ ส ต์ศัก ร า ช 5 3 9 จัก ร พ ร ร ดิ คิ ม เ ม อิ

(Kimmei) ข้ึนครองราชย์ มีตระกลู โซงะ โมโนโน

เบะ ซ่ึงเป็นตระกูลท่มี อี านาจอทิ ธิพลสูงในราชสานกั

• คริสตศ์ กั ราช 587 ตระกูลโซงะไดส้ นับสนุนให้

หลานชายของตนข้ึนเป็นจกั รพรรดิซูชุง ซ่ึงเม่ือ

พระองคไ์ มย่ อมเช่ือฟงั คาส่งั อยูใ่ ตอ้ านาจพวกโซงะ ก็

ถูกปลงพระชนม์ และพวกโซงะก็หันไปสนับสนุ น

หลานสาว คือ พระนางซูอิโกะ (Suiko) ข้ึนเป็น
จกั รพรรดินีองคแ์ รกของญ่ีป่ ุน แตต่ ระกูลโซงะก็ • คริ สต์ศักราช 604 เจ้าชายโชโตกุ ตรา

ไมไ่ ดม้ อี านาจเหนือราชสานักโดยส้ินเชิง เพราะยงั มี รฐั ธรรมนูญ 17 มาตรา กาหนดใหเ้ มืองยามา

เจา้ ชายแห่งราชตระกูลอีกมากท่ีมีอิทธิพลทาง โตะ (เมืองนาระ) เป็ นศูนยก์ ลางการปกครอง

การเมือง โดยเจา้ ท่มี ีช่ือเสียงมากท่สี ุดในกลุม่ ราช และกาหนดใหจ้ กั รพรรดิมีอานาจสูงสุดเป็ นครงั้

ตระกูล คือ เจา้ ชายโชโตกุ (Shotoku-taishi) แรก โดยบทบญั ญตั ิดงั กลา่ วมิไดอ้ ยูใ่ นรูปกฎหมาย

• คริสตศ์ กั ราช 593 เจา้ ชายโชโตกุ สาเร็จราช หรื อขอ้ บังคับการบริ หารท่ีแน่นอนเลย มีการ

กาลแทนจกั รพรรดินีซูอิโกะ พระองคเ์ ป็นผูน้ าท่ี รวบรวมธรรมะในพุทธศาสนาและคติพจน์ตา่ ง ๆ

สาคญั ในการปฏิรูปส่วนกลาง นอกจากน้ียงั เช่ือวา่ ตามลทั ธิขงจ้ือในสมยั ราชวงศฮ์ นั่ ของจีน ซ่ึงให้

พระองคเ์ ป็นผูส้ รา้ งวดั โฮริวจิบริเวณขอบนอกของ หลกั เกณฑท์ ่จี าเป็นสาหรับการเป็นขา้ ราชการท่มี ี
คุณธรรม
เมืองนาระในปัจจุบนั ดว้ ย ซ่ึงจดั ว่าเป็นอาคารไม้ คริสตศ์ กั ราช 645 เกิดการปฏิรูปไทกะ โนะ
เกา่ แกท่ ่สี ุดของโลกท่ยี งั หลงเหลืออยูใ่ นปัจจุบนั •

• คริสตศ์ กั ราช 603 เจา้ ชายโชโตกุ กาหนดใหม้ ี ไคชิน (Taika-no-kaishin) (ตามรู ปแบบการ
ระบบขุนนางราชการ 12 ตาแหน่ง ปกครองของราชวงศ์สุย และราชวงศถ์ งั ของจนี )

ยงั มีการส่งทูตไปเจริญสมั พนั ธไมตรีจนถึงปลาย

ศตวรรษท่ี 9 ถึงสิบกวา่ ครั้ง ซ่ึงทาใหส้ ภาพสงั คม

ก า ร เ มื อ ง ก า ร ป ก ค ร อ ง พ ัฒ น า ไ ป อ ย่า ง ร ว ด เ ร็ ว

เปล่ยี นจากชุมชนกลายเป็ นประเทศ มีการแบ่ง

ชนช้ันทางสังคมอย่างชัดเจน มีการปฏิรูป

ท่ีดิน ทาลายระบบนายทนุ ท่ีดิน

• คริสตศ์ กั ราช 672 ศึกจินชิน เป็นศึกชิงบลั ลงั ก์

จกั รพรรดิ และ คริสตศ์ กั ราช 701 เกิดประมวล

กฎหมายไทโฮ ตรากฎหมายเพ่ือใชร้ ่วมกนั ท้งั

ประเทศ

11

ยุคทีห่ ก สมัยนาระ(nara)
อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 710 – คริสตศ์ กั ราช 794

เม่ือปีคริ สต์ศตวรรษ 710 ขณะท่ี
บา้ นเมืองเจริญรุ่งเรืองดว้ ยหลกั กฎหมายและจริยธรรมก็
ไดย้ า้ ยเมืองหลวงมาท่ี เฮโจเกียว (Heijoukou)หรือ
เมืองนาระและบริเวณใกลเ้ คยี งในปัจจุบนั แตใ่ นเวลา
ต่อมาก็เร่ิ มเกิดความวุ่นวายเม่ือระบบโคจิโคมิน
(Kochi-komin is Shoen Ritsuryoi) ระบบท่รี ัฐบาล
กลางครอบครองท่ดี ินทงั้ หมดและปันส่วนใหก้ บั ขุนนาง
และชาวนา โดยท่ีชาวนาตอ้ งเสียภาษีท่ีดิน เส่ือมลง
เน่ืองจากมที ่ดี ินท่ไี ดร้ ับยกเวน้ ภาษี อยูเ่ ป็นจานวนมาก
รวมถึงความยากจนไรท้ ่อี ยูอ่ าศยั ของชาวนา

ในตน้ คริสตศ์ ตวรรษท่ี 7 ในสมัยน้ี น อ ก จ า ก จ า ก น้ี ห ลัก ฐ า น ท า ง
ศาสนาพทุ ธไดร้ ับการทานุบารุงอยา่ งดี ทาใหว้ ฒั นธรรม ประวัติศาสตร์ในยุคสมัยนาระท่ีสาคัญ คือ บันทึก
หรือศิลปะทางพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก เร่ิมจาก ประวตั ศิ าสตร์อนั เกา่ แกท่ ่สี ุด
วัฒนธรรมอาสึกะ (Asuka) หรื อ ฮากุโฮะ
(Hakuhou) ซ่ึงเป็นวฒั นธรรมทางพุทธศาสนาอนั ดบั
แรกของญ่ปี ุ่น

ในคร่ึงหลงั ของคริสตศ์ ตวรรษท่ี 7 ท่ี ในชว่ งปีคริสตศกั ราชท่ี 712 เรียกวา่
แสดงใหเ้ หน็ ความทุกขย์ ากของมนุษย์ จนถึงวฒั นธรรม โคจิกิ (Kojiki)
เทมเปี ยว (Tempyou) ในกลางคริสตศ์ ตวรรษท่ี 8 ท่ี
แสดงถึงความรูส้ ึกของมนุษยท์ ่สี มบูรณต์ ามท่เี ป็นจริง ซ่ึง ในชว่ งปีคริสตศกั ราชท่ี 720 นิฮนั
รบั อทิ ธิพลทางวฒั นธรรมในยุคท่รี ุ่งเรืองท่สี ุดของราชวงศ์ โชกิ (Nihon Shoki) นับวา่ เป็นบนั ทึกเหตุการณท์ าง
ถงั ในดา้ นศิลปวฒั นธรรม คือ มนั โยชู (Man Youshu) ประวตั ิศาสตร์อนั ยาวนานของชาวอาทติ ยอ์ ุทยั ตามลาดบั
ถือเป็นงานวรรณกรรมช้ินเอกแห่งยุค ซ่ึงเป็นการ เวลาอยา่ งละเอยี ดนับเป็นฉบบั ท่เี กา่ แกท่ ่สี ุด
รวบรวมบทกวขี องคนทุกระดบั ชน้ั ตงั้ แตส่ ามญั ชนจนถึง
จกั รพรรดิไวป้ ระมาณ 4,500 บท โดยใชเ้ วลารวบรวม ในปีคริสตศกั ราชท่ี 751 อกี หน่ึงฉบบั
จนถึงกลางคริสตศ์ ตวรรษท่ี 8 รวมเป็นเวลาถึง 400 ปี รวมทงั้ วรรณกรรมท่ลี า้ คา่ ซ่ึงไดร้ วบรวมบทกวที ่ีเรียกวา่
ไคฟโู ซ (Kalfuusou) ถือเป็นวรรณกรรมท่เี กา่ แกท่ ่สี ุด
เน้ื อหาใน มันโยชู ไดร้ ับบรรยาย เป็นผลงานวรรณกรรมอนั ทรงคุณคา่ มหาศาลท่รี วบรวม
ความรู ้สึกของการใชช้ วี ิตอยา่ งสมถะของคนญ่ปี ุ่นใน ทงั้ บทกวจี นี โดยนักกวชี าวญ่ปี ุ่นเป็นคร้ังแรกยุคนาระจึง
สมัยโบราณไดอ้ ย่างตรงไปตรงมา และยังคงเป็นท่ี ถือเป็นยุคท่มี คี วามเจริญรุ่งเรืองทางดา้ นศิลปวฒั นธรรมท่ี
ประทบั ใจของคนญ่ปี ุ่นจานวนมากในปัจจุบนั น้ี เฟ่ืองฟูท่สี ุดจนมเี อกลกั ษณ์ท่โี ดดเดน่ เป็นสญั ลกั ษณ์ทง้ั
ผลงานทางวรรณกรรมท่ลี า้ คา่

12

โคจิกิ (Kojiki)

จากหลกั ฐานท่บี นั ทึกอยูใ่ นคมั ภรี ์โบราณ
ของชาวญ่ปี ุ่นซ่ึงเขยี นข้ึนประมาณชว่ งกอ่ นศตวรรษท่ี 8
ช่ือ โคจิกิ (Kojiki) โคจิกมคี วามหมายวา่ “บนั ทึก
โบราณเกี่ยวกบั ทุกสรรพส่ิง” เขยี นโดยใชต้ วั อกั ษร“
คนั ยิ” หรือ ตวั อกั ษรจีนกล่าวถึงความเช่ือโบราณตาม

หลกั ศาสนาชินโต (Shinto) อนั เป็ นศาสนาดงั้ เดิม

ในสมยั โบราณเช่ือวา่ เทพเจา้ เป็นผูท้ ่สี รา้ ง

ทุกสรรพส่ิงข้ึน และเกาะญ่ปี ุ่นกถ็ ูกสรา้ งข้ึนโดยเทพเจา้ 2

องค์ คือ อิซานางิ (Izanagi) และอิชานามิ (Izanami)

เทพและเทพที ่เี ป็นคูก่ นั เทพอิซานางิเป็นผูใ้ หก้ าเนิดอมาเท

รา (Amaterasu) เทพแี หง่ ดวงอาทิตยท์ ่เี กิดจากตาขา้ งซา้ ย

และเทพแหง่ ดวงจนั ทร์สึกโยมิ (Tsukuyomi) เกดิ ข้ึนจากตา

ซ่ึง จิมมุ คือ ปฐมกษตั ริย์ ขา้ งขวากบั เทพแห่งพายุและทอ้ งทะเลซีซานู (Susanoo)
ญี่ป่ ุน ท่รี วบรวมอาณาจกั รญ่ปี ุ่นข้ึนตามตานานท่ี เกิดข้ึนจากจมูกซ่ึงเทพแี หง่ ดวงอาทิตยอ์ มาเทราสึ คือ ตน้
กาเนิดของชาวญ่ปี ุ่น ในโคจิกิเลา่ ถึงตานานการสรา้ ง
เลา่ ขานกนั และดว้ ยเหตุท่กี ษัตริยจ์ ิมมุสืบสายมาจาก เผา่ พนั ธุค์ นญ่ปี ุ่นวา่ เทพอมาเทราไดส้ ง่ หลานชาย คือ นินิกิ
เทพอี มาเทราสเี ทพแี หง่ ดวงอาทิตย์ โนะมิโกโตะ (Minigi no Mikoto) ลงมายงั โลกท่เี กาะ
ญ่ปี ุ่นเพ่ือหวา่ นเมลด็ ขา้ วตอ่ มากไ็ ดส้ มรสกบั โคโนฮานา
ดงั น้ัน ชาวญ่ีปุ่นจึงถือว่าตนก็สืบ ซากยู ะฮิเมะ (Konohanasakuya Hime) ธิดาของเทพ
เช้ือสายมาจากเทพีแห่งดวงอาทิตย์ดว้ ยเชน่ กนั แห่งขุนเขาและสืบเผา่ พงศต์ อ่ ไปอกี 3 รุ่น จนกระท่งั ถึง
ความเป็นลูกพระอาทิตยจ์ ึงสืบเน่ืองมาดว้ ยเหตุน้ีใน
ศาสนาชินโตท่ชี าวญ่ปี ุ่นยงั คงศรัทธาและเช่ือถือมา จิมมุ (Jimmu)
จนถึงทุกวนั น้ีจึงมีพิธีกรรมในการบวงสรวงเทพแี ห่ง
ดวงอาทิตยท์ ่ถี ือเป็นพิธีกรรมท่สี าคญั ท่กี ระทาอยา่ ง

เคร่งครดั สืบมาทุกๆปี

13

สถาปั ตยกรรมทีส่ าคัญในสมัยนาระ

• วดั โทไดจิ (Todal-ji) สรา้ งข้ึนโดยหลวงจีนช่ือ
กนั จิน (Kanjin) ในปีคริสตศกั ราช 751 ในยุคนา
ระเป็นวิหารท่มี รี ูปทรงขนาดใหญห่ ลงั คามคี วามสงา่
งามในรูปแบบสถาปัตยกรรมท่ปี ระณีตงดงามเป็น
อาคารไมท้ ง้ั หลงั มคี วามเกา่ แกท่ ่สี ุดในโลก

• วดั ซงั งดั ซโู ดะ (Sangatsudo Temple) ซ่ึงสรา้ ง
ข้ึนในยุคนาระในราวปีคริสตศกั ราช 746 เป็นวดั
สาคญั อนั เป็นท่ปี ระดิษฐานพระพุทธรู ปองค์ใหญ่
ฟุคุเค็นจากุคนั นง (Fukukenjaku Kannon) ท่มี ี
ฉายาวา่ พระอวโลกิเตศวร

• ศาลเจา้ คิริฌิมะ จินงู (Kirishima jingu) เป็น
ศาลเจา้ ประจาเมืองคิริฌิมะ สรา้ งข้ึนในยุคนาระ
เพ่ือสกั การะดวงวิญญาณของ นินิงิโนะมิโคะโตะ
(Niniginomkoto)



15

ยุคทีเ่จ็ด สมัยเฮอนั (Helan)
อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 794 – คริสตศ์ กั ราช 1185

นับเป็นยุคทองของประเทศญ่ปี ุ่น ท่ที งั้ รวมทั้ง บันทึกข้างหมอนมากุระ

ศิลปะและวัฒนธรรมรุ่งเรื องถึงขีดสุด มีการพัฒนา โนะโชชิ (Makura No Soshi) ซ่ึงวรรณกรรมเหลา่ น้ี

ปรับปรุงวฒั นธรรมตา่ งๆ ท่หี ยิบยืมมาจากประเทศจนี ใน เขยี นดว้ ยตวั อกั ษรคานะ (Kana) ท่ชี าวอาทิตยอ์ ุทยั ได้

สมยั ราชวงศถ์ งั และลทั ธิขงจ้ือ จนกลายเป็นวฒั นธรรม รังสรรค์ข้ึนจากตัวอักษรคันจิโดยเฉพาะอย่างย่ิง

แบบเฉพาะตวั ของญ่ปี ุ่น เฮองั (Heian) แปลว่า ความ สามารถใชเ้ ขยี นคาศพั ทเ์ พ่ือส่ือถึงความรูส้ ึกท่ลี ึกซ้ึงของ

สงบสนั ติ ชาวอาทิตยอ์ ุทยั จากจุดกาเนิดของตวั อกั ษรท่ไี ดป้ ระดิษฐ์

นับเป็นยุคท่เี กิดจุดเปล่ยี นคร้ังสาคญั ข้ึนเป็นครงั้ แรก จึงสง่ ผงใหเ้ กิดแรงบนั ดาลใจใหเ้ หลา่ กวที ่ี

หลงั จากมกี ารยา้ ยเมืองหลวงไปอยูท่ ่เี มืองเกียวโต หรือ มชี ่ือเสียงไดส้ รา้ งสรรคง์ านวรรณกรรมท่ที รงคุณคา่ อนั

เฮอนั เกียว (Holankyou) เป่ียมดว้ ยความหมาย ดา้ นคุณธรรม ความรักชาติ

ในช่วงปลายคริสต์ท่ี 8 ญ่ีปุ่นเร่ิมมี ปรากฏแพร่หลายมากมาย อยา่ งน่าอศั จรรยค์ วามมอี ตั
วฒั นธรรมท่เี ป็นรูปแบบของชาวอาทติ ยอ์ ุทยั โดยเฉพาะมี ลกั ษณเ์ ฉพาะตวั แบบชาวอาทิตยอ์ ุทยั เร่ิมมคี วามโดดเดน่
เอกลกั ษณ์อนั โดดเดน่ จากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวปรากฏให้เห็นแพร่หลาย
ปรากฏชดั เจนมากมายในศตวรรษท่ี 9 (ยังเป็นช่วง มากมา ยจ าก ผลงานว รรณกรรม ศิ ลปกรรม

รอยตอ่ ท่ญี ่ปี ุ่นรับวฒั นธรรมของราชวงศถ์ งั อยู)่ จะเหน็ ได้ สถาปัตยกรรม การเขียนภาพ การแกะสลกั

จาก พุทธศาสนานิกายมิกเกียว (Mikkyou) และ หากไดส้ ังเกตอย่างพินิจพิเคราะห์

การเขียนรู ปประโยคแบบจีนซ่ึงแพร่หลายอย่าง รูปแบบสถาปัตยกรรมท่เี มืองเกยี วโตยงั คงมรี ่องรอยของ

กวา้ งขวาง จนี ปรากฏอยูอ่ ยา่ งผสมผสานซ่ึงเตม็ ไปดว้ ยความวิจิตร

จากน้ันเม่ือกา้ วเขา้ สู่ยุคคริสตวรรษท่ี งดงามตระการตาความเจริญรุ่งเรืองในยุคน้ียงั มใี หเ้ ห็น
10 ตอนตน้ ญ่ปี ุ่นไดย้ ุติความสมั พนั ธก์ บั บนภูมิภาคอยา่ ง เป็นประจกั ษ์ตามปราสาทและวดั เกา่ แกโ่ บราณศาลเจา้
ส้ินเชิงจึงนับเป็นจุดเปล่ียนคร้ังสาคญั จากร่องรอยท่ี ในเมื องเกียวโต อาทิเช่น ปราสาทอิ มพิ เรี ยล
ปรากฏในวรรณกรรมอนั โดดเดน่ ท่ลี ือล่นั ในยุคนั้น คือ (Imperial Palace) และวดั เบียวโดอิน (Byudoin)

โคคินวากาชู (Kokinwakashu) ซ่ึงเป็นหนังสือท่ไี ด้ อนั สวยงามท่ไี ดส้ รา้ งข้ึนในปีคริสตศกั ราชท่ี 1013

รวบรวมบทกวนี ิพนธญ์ ่ปี ุ่นเลม่ แรกตามพระราชโองการ

ขององค์จักรพรรดิเกนจิ โมโนงาตาริ (Genji

Monogatari) หรือเจา้ ชายเกนจิไดเ้ กิดการรังสรรค์

วรรณกรรมท่มี ากดว้ ยคุณคา่ ในรูปแบบของนวนิยายเร่ือง

ยาวถือเป็นตานานอันเก่าแก่ท่ีสุดในโลก (ประมาณ

คริสตศ์ ตวรรษท่ี 1000)

16

สถาปั ตยกรรมทีส่ าคัญในสมัยเฮอนั

• วดั เบียวโดอิน (Byodolin) วดั ท่มี คี วามงดงาม
อลงั การเป็นท่รี ูจ้ กั กนั อยา่ งแพร่หลายนอกจากจะมี
ความงดงามทางประวตั ิศาสตร์แลว้ ยงั เป็นวดั ท่มี อี ายุ
เกา่ แกท่ ่สี ุดถูกรังสรรคข์ ้ึนในปีคริสตศกั ราช 998
อดตี เคยเป็นท่พี านกั ของ โชกุนฟูจิวาระ โนะ มิจิ
นางะ (Fulnara No Michinaga) โชกุนผูเ้ รือง
อานาจในยุคเฮอนั ตอ่ มาบุตรชายไดบ้ ูรณะใหเ้ ป็น
วดั พุทธโดยไดต้ งั้ ช่ือใหมว่ า่ เบียวโดอิน มกี ารสรา้ ง
หอธรรมอามิดะ หรือ หอฟิ นิกซ์ (Phoenix
Hall) มกี ารสรา้ งพระพุทธรูปใหเ้ ป็นพระประธาน
ประดษิ ฐานภายในวดั เป็นวดั ท่มี ชี ่ือเสยี งมากท่สี ุดจึง
ไดร้ บั การจดทะเบยี นใหเ้ ป็นมรดกโลกรวมทง้ั อารยะ
สถาปัตยกรรมภายในเมืองเกยี วโตหลายแหง่ โดยมี
ช่ือรวมกนั วา่ Historic Monuments of Ancient
Kyoto

• ศาลเจา้ ยูโทะคุ อินะริจินจะ (Yutoku Inarinja)
หลกั ฐานท่สี าคญั ในยุคเฮอนั ศาลเจา้ ท่กี ราบไหว้
บูชาองคเ์ ทพเจา้ อินะริโนะคะมิ ท่ใี หญท่ ่สี ุดในแดน
อาทิตยอ์ ุทยั และถือเป็นศาลเจา้ ท่มี ชี ่ือเสยี งท่สี ุดแหง่
หน่ึงในภูมิภาคควิ ญ

• วดั ยามาเดระ หรือ วดั ริชชะกุจิ (Risshakuji)
เป็นวดั ท่ีมคี วามศกั ด์ิสิทธ์ิเป็นท่ศี รัทธาเช่ือถือจาก
ชาวอาทิตยอ์ ุทยั มากท่สี ุดตง้ั อยูบ่ นเนินเขาโอจุซงั
(Hojusan) ไดถ้ ูกสรา้ งข้ึนในปีคริสตศกั ราช 800
โดยพระจิคาคุ ไดชิ (Jlgaku Dalshi) ซ่ึงเป็นเจา้
อาวาสในศาสนาพุทธนิกายเทนได บริเวณ
ด ัง ก ล่า ว ต า ม ต า น า น บ อ ก เ ล่า ว่า เ ป็ น ศู น ย ์ก ล า ง
สาคญั ทางพระพุทธศาสนาท่มี ีความเจริญรุ่งเรือง
มากท่สี ุด

17

เหตุการณ์ทีส่ าคัญในสมัยเฮอนั

• คริสตศ์ กั ราช 794 ยา้ ยเมืองหลวงไปท่เี ฮองั เกยี ว • คริสต์ศักราช 1010 ชิกิบุ มุราซากิ เขียน

• คริสตศ์ กั ราช 804 ส่งพระไซโช (Saichou) นิยายเร่ือง เกนจิ โมโนงาตาริ

และ คูไก (Kukai) ไปยงั ประเทศจีนในสมยั • คริสตศ์ กั ราช 1016 มิจินางะ ฟุจิวะระ ไดเ้ ป็น

ราชวงศถ์ งั ตามคาแนะนาของราชทูตญ่ปี ุ่น ผูส้ าเร็จราชการแผน่ ดิน และตระกูลฟุจิวะระไดก้ า้ ว

• คริสต์ศักราช 805 พระไซโช เดินทางกลับ เขา้ สูย่ ุคแหง่ ความรุ่งเรือง

ญ่ปี ุ่น และกอ่ ตง้ั ศาสนาพุทธ นิกายเทนได • คริสตศ์ กั ราช 1051 โยริโยชิ มินาโมโตะ ได้

• คริสตศ์ กั ราช 806 พระคูไก เดินทางกลบั ญ่ปี ุ่น ปราบปรามกลุม่ กบฏของตระกูลอาเบะท่โี อชู

และกอ่ ตงั้ ศาสนาพุทธ นิกายชินงอน อานาจ • คริสตศ์ กั ราช 1053 หอนกฟิ นิกซใ์ นวดั เบียว

ของจักรพรรดิเร่ิ มส่ันคลอน จากการข้ึนมามี โดอิน ไดส้ รา้ งเสร็จสมบูรณ์

อานาจของตระกูลฟูจิวาระ • คริสตศ์ กั ราช 1083 โยชิอิเอะ มินาโมโตะ ได้

• คริสตศ์ กั ราช 884 โมโททสึเนะ ฟุจิวะระ ไดร้ ับ ปราบปรามตระกูลคิโยฮาระท่โี อชู

แตง่ ตงั้ เป็น คมั ปากุ ตาแหน่งผูส้ าเร็จราชการผู ้ • คริสตศ์ กั ราช 1086 จกั รพรรดิชิรากาวะ เป็น

อาวุโส ซ่ึงเป็นตาแหน่งสูงสุดของขุนนาง จกั รพรรดิองคแ์ รกท่สี ละบลั ลงั กอ์ อกบวช แตย่ งั กุม

• คริสตศ์ กั ราช 894 มิจิซาเนะ สุงาวาระ (ซ่ึง อานาจทางการเมืองอยูเ่ บ้ืองหลงั และต่อมาก็มี

เป็นตระกูลท่จี กั รพรรดิทรงใหก้ ารอุปถมั ภเ์ พ่ือยบั ยงั้ จกั รพรรดิอกี หลายองคท์ ่ที าเชน่ เดยี วกนั จกั รพรรดิ

การมอี านาจของตระกูลฟูจิวาระ) ไดส้ ่งั ระงบั การ ชิรากาวะไดแ้ สวงหาวิธกี ารท่จี ะตอ่ ตา้ นอิทธิพลของ

สง่ ทูตไปเมืองถงั ของจนี (เน่ืองจากการเมืองในจนี ตระกูลมินาโมโตะ จึงไดแ้ ตง่ ตงั้ คนในตระกูลไทระ

กาลังวุ่นวาย) ส่งผลให้การรับวัฒนธรรมจาก เป็นท่ปี รึกษาของพระองค์

แผน่ ดินใหญย่ ุติลงดว้ ย แตส่ ่งผลทาใหอ้ ารยธรรม • คริสตศ์ กั ราช 1156 ศึกโฮเงน แสดงใหเ้ ห็นถึง

ญ่ีป่ ุนเริ่มท่ีจะมีลักษณะและรูปแบบพิเศษ ความรุ่งเรืองและความมอี านาจของชนชน้ั นักรบ

เฉพาะเป็ นของตนเอง • คริสตศ์ กั ราช 1180 เกิดสงครามเก็มเป เป็น

• คริสตศ์ กั ราช 901 สุงาวาระ ถูกเนรทศไปอยูท่ ่ี การตอ่ สูร้ ะหวา่ งตระกูลไทระ กบั ตระกูลมินาโมโตะ

ดาไซฟุ เกาะคีวชู เน่ืองจากถูกกลา่ วหาวา่ มสี ว่ น ตระกูลมินาโมโตะ เป็นฝ่ายชนะ และทาใหต้ ระกูลมิ

ร่วมในการวางแผนลม้ ลา้ งการปกตรอง นาโมโตะ ข้นึ มามอี านาจสูงสุดในราชสานกั

– มกี ารประดิษฐอ์ กั ษรคานะ โดยพระคูไก • คริสตศ์ กั ราช 1185 ตระกูลไทระ ถูกทาลาย

ประกอบดว้ ยพยางคท์ ง้ั หมด 47 ตวั โดย ลา้ งโดยตระกลู มินาโมโตะ ในศึกดนั โนะอุระ

ดดั แปลงมาจากตวั อกั ษรของจีน นับเป็น

การเปิดทางใหแ้ กง่ านเขยี นท่มี รี ูปแบบเป็น

ของญ่ีปุ่นอย่างแทจ้ ริง และมีการใชก้ ัน

อยา่ งแพร่หลายแทนถอ้ ยคาสานวนท่ยี ืมมา

จากภาษาจนี



19

ยุคทีแ่ ปด สมัยคามากรู ะ(Kamakura)
อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 1185 – คริสตศ์ กั ราช 1333

เป็นยุคท่ีญ่ีปุ่นเร่ิมตน้ การปกครอง
ระบบศกั ดินา โดยจกั รพรรดเิ ป็นผูม้ อี านาจการปกครอง
แตเ่ พยี งในนามรัฐบาลทหารท่เี รียกวา่ คามากรู ะ บะกฟุ ุ
ซ่ึงมโี ชกุนเป็นหวั หนา้ ปกครองประเทศในนามจกั รพรรดิ
มอี านาจเดด็ ขาดทงั้ ทางการเมืองและการทหาร มินาโม
โตะ โนะ โยริโตโมะ ไดร้ ับการแตง่ ตงั้ ใหเ้ ป็นโชกุนคน
แรกจดั ตง้ั รัฐบาลทหารมีศูนยก์ ลางการปกครองอยูท่ ่ี
เมืองคามากรู ะ สว่ นจกั รพรรดิประทบั ท่เี มืองเฮองั

ในยุคคามากูระญ่ปี ุ่นตอ้ งเผชิญหน้า วัฒ น ธ ร ร ม ข อ ง ช น ชั้น นั ก ร บ ไ ด้
กบั การรุกรานจากกองทพั มองโกลภายใตก้ ารนาของ กอ่ กาเนิด ลทั ธิบูชิโด (Boshido) ข้ึนโดยมวี ฒั นธรรม
กบุ ไลข่าน ในสมยั ราชวงศห์ ยวน ซ่ึงโดนโจมตคี รั้งแรก ของชนชนั้ ปกครองเป็นรากฐาน แตย่ งั คงเอกลกั ษณข์ อง
ในปีคริสตศ์ กั ราช 1274 และอกี ครั้งในปี คริสตศ์ กั ราช ชนชน้ั นักรบไว้ อนั ไดแ้ ก่ ความมีพลวตั ร และการ
1281 แตก่ องทพั มองโกลเขา้ โจมตญี ่ปี ุ่นไมส่ าเร็จเพราะ สะทอ้ น ความเป็ นจริงอย่างเรียบง่าย
สภาพอากาศไมเ่ อ้ืออานวยกองทพั มองโกลไดร้ ุกรานสู่
ญ่ปี ุ่นโดยเขา้ โจมตภี าคเหนือของเกาะควี ชู กองทพั ทหาร ในดา้ นศาสนา พุทธศาสนาแบบคามากู
ไดท้ าการต่อสูป้ ้ องกันอยา่ งเขม้ แข็ง ประกอบกบั ภยั ระก็ไดก้ าเนิดข้ึนโดยพระเถระผูม้ ีช่ือเสียง โฮเน็ น
ธรรมชาติเป็นส่วนช่วยเหลือ ญ่ีปุ่นจึงรอดพน้ จาก ( Hounen) ชิ น รั น ( Shinran) แ ล ะ นิ ฉิ เ ร น
อนั ตรายมาได้ แต่น่ันก็เป็นจุดเร่ิมตน้ ของการเส่ือม (Nichiren) เป็นตน้ นักรบซามูไรฝ่งั ท่รี าบคนั โตจะนับ
อ า น า จ ใ น ก า ร ค ว บ คุ ม ช น ช ั้น นั ก ร บ ข อ ง รั ฐ บ า ลท ห า ร ถือศาสนาเซนอนั ไดร้ ับการถา่ ยทอดจากจนี ในศตวรรษ
สงครามครงั้ น้ีไดส้ รา้ งความออ่ นแอใหก้ บั รัฐบาลทหารคา ท่ี 12 เป็นหลกั
มากูระอยา่ งมากสว่ นความเจริญทางดา้ นวฒั นธรรมนน้ั
รูปแบบศิลปะใหม่ ๆ กเ็ กิดข้ึนในยุคน้ี
อยา่ งเชน่ ประติมากรรมสมยั คามากูระตอนตน้ น้ัน จะมี
ลายเสน้ ท่หี นกั แน่นมพี ลงั เหมือนของจริง และแสดงออก
ถึงความเป็นมนุษย์ วรรณศิลป์ สว่ นใหญจ่ ะเป็นส่ิงท่ชี น
ช้ันนักรบนิ ยม เช่น เฮเคะ โมโนงาตาริ (Heike
Monogatari) ซ่ึงแตง่ ข้ึนเม่ือตน้ ศตวรรษท่ี 13 เป็น
ผลงานท่ดี ที ่สี ุดในจานวนนิยายเก่ยี วกบั การสูร้ บ และกย็ งั
มีห นั ง สื อ ร ว บ ร ว ม บ ท เ รี ย ง ค ว า ม เ ร่ื อ ง โ ฮ โ จ กิ
(Houjouki) ซ่ึงแตง่ ในศตวรรษท่ี 13 และ สึเรซเู รงู
ซะ (Tsurezuregusa) ซ่ึงแตง่ ในศตวรรษท่ี 14

20

ยุคทีเ่ก้า สมัยมูโระมาจิ(Muromachi)
อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 1333 – คริสตศ์ กั ราช 1568

นับเป็นยุคแรกของการเปล่ยี นแปลง
หลกั การปกครองการเมืองและสังคมอนั เป็นพ้ืนฐานท่ี
สาคญั ซ่ึงเป็นรากฐานท่นี าไปสูก่ ารเจริญเติบโตทางดา้ น
เศรษฐกิจ โดยเฉพาะมีการเปล่ียนแปลงรู ปแบบการ
เกษตรกรรมมกี ารนาพืชพนั ธุใ์ หมม่ าเพาะปลูก เร่ิมมกี าร
พฒั นาระบบชลประทานมีการสนับสนุนส่งเสริมงาน
ฝีมื อ ก า ร เ ก ษ ต ร ก ร ร ม ท่ ีมุ ่ง เ น้น ก า ร พ า ณิ ช ย ์จึ ง ท า ใ ห ้
เศรษฐกจิ มคี วามมน่ั คงขยายตวั อยา่ งรวดเร็ว

โ ช กุ น อ า ชิ ค า ง ะ โ ย ชิ มิ ต สึ ราชวงศ์ เหนือ-ใต้
(Ashlkage Yoshimitsu) แห่งตระกูลอาชิคางะ
(Ashikaga) ผูม้ อี านาจท่มี ากดว้ ยความสามารถมคี วาม ยุคราชสานักเหนือ-ใต้ ยุคแห่งความ
เช่ยี วชาญในดา้ นการบริหารกองทพั รวบรวมศูนยอ์ านาจ วุ่นวายในการอา้ งสิทธิในการสืบราชบัลลังก์ดอก
ไวท้ ่ตี นเอง การส่งั ใหส้ รา้ งปราสาทข้ึนใหมจ่ านวนมาก มี เบญจมาศโดยดาเนินไปใน ยุคอะซุชิ โมะโมะยะมะ
การรวมตวั ของเหลา่ ขุนศึกตงั้ รัฐบาลโชกุนข้ึนอกี คร้ังท่ี หรื อตรงกับยุค รัฐบาลโชกุนอาชิกางะ ในช่วงปี
เกยี วโตในชว่ งหลงั คริสตวรรษท่ี 14 ซ่ึงรัฐบาลโชกุน คริสตศ์ กั ราช 1334 - 1392
ส า ม า ร ถ ป ก ค ร อ ง ญ่ ีป่ ุ น เ ป็ น เ ว ลา ท่ ีย า ว น า น ก ว่า ส อ ง
ศตวรรษอนั เป็นชว่ งเวลาท่วี ฒั นธรรมของชนชน้ั นักรบมี ราชสานักเหนื อ สถา ปนาโดย
อิทธิพลครอบงาวฒั นธรรมของชนชนั้ ปกครองจนถึงคร่ึง รฐั บาลโชกนุ อาชิกางะ โดยมรี าชธานีอยูท่ ี นครหลวง
หลงั ของคริสตศตวรรษท่ี 15 เหลา่ ขุนศึกตามหัวเมือง เฮองั หรือ เคียวโตะ ในปัจจุบนั ส่วน ราชสานักใต้
เร่ิมแยง่ ชงิ อานาจกนั เองจากหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ สถาปนาโดย จกั รพรรดิโกะ-ไดโงะ โดยมรี าชธานีอยูท่ ่ี
ท่ปี รากฏในยุคน้ีมคี วามเจริญรุ่งเรืองดา้ นเศรษฐกิจมาก เมือง โยะชิโนะ
ท่สี ุดมกี ารปกครองในรูปแบบศกั ดินาอย่างสมบูรณ์
แบบโดยเฉพาะอยา่ งย่ิงมกี ารฟ้ื นฟูสมั พนั ธภาพกบั จีน โดยความขดั แยง้ ของทงั้ สองราชสานัก
ในสมยั ราชวงศห์ มิงอกี ครง้ั กินเวลายาวนานประมาณเกือบ 60 ปีจนกระท่ัง
จกั รพรรดิโกะ-คะเมะยะมะ จกั รพรรดิองคท์ ่ี 99 และ
จกั รพรรดิองคส์ ุดทา้ ยแหง่ ราชสานักใตป้ ระกาศยอมแพ้
ตอ่ จกั รพรรดิโกะ-โคะมะสึ แหง่ ราชสานักเหนือทาให้
ยุคสองราชสานักส้ินสุดลงซ่ึงราชสานักญ่ปี ุ่นในปัจจุบนั
นน้ั สืบเช้ือสายจากราชสานกั เหนือ

21

สถาปั ตยกรรมทีส่ าคัญในสมัยมูโระมาจิ

• วดั คินคาคจู ิ (Kinkaku-JI) เป็นวดั ท่ถี ูกสรา้ งข้ึน

ในยุคมูโระมาจิในปีคริสตศักราช 1397 แตเ่ ดิม

สรา้ งข้ึนเพ่ือเป็นท่พี านักของโชกุนผูเ้ รืองอานาจ

อาชิกางะ โยชิมิตสึ (Ashikaga Yoshimitsu) ท่ี

มชี ่ือเดิม คือ วดั โระคุอนจิ (Rokuonji) แตน่ ิยม

เ รี ย ก ก ัน อ ย่า ง แ พ ร่ ห ล า ย ว่า ว ัด ป ร า ส า ท ท อ ง

(Golden Temple) หรือ พลบั พลาทอง

(Golden Pavlon) เป็นวดั ท่มี คี วามงดงามตงั้ อยู่

อย่างโดดเด่นกลางสระน้าขนาดใหญท่ ่ามกลาง

ธรรมชาติท่สี วยงามของพรรณไมโ้ ดยรอบตวั อาคาร

มลี กั ษณะสามชนั้ สีทองอร่ามงดงามตามรปู แบบ

อารยะสถาปัตยกรรมแบบซินเด็น (Shinden

tsukurt) โดยโชกุนเป็นผูส้ รา้ งข้ึนเพ่ือเป็นท่พี านัก

รับรองแขกท่ใี กลช้ ิดในชน้ั แรก ส่วนในชนั้ ที่สอง

สรา้ งในรปู แบบบุกเกะ (Buke tuskur) ตกแตง่ ใน • วดั งิงคาคูจิ (Ginkukul) หรือ วดั ศาลาเงิน
สไตลข์ องบา้ นซามูไร เพ่ือฉายภาพความย่ิงใหญ่ "อารยะสถาปัตยกรรม” ท่งี ดงามถูกรังสรรคข์ ้ึนใน
เกรียงไกรของเหลา่ นักรบซามูไรท่เี ป็นกาลงั สาคญั ปีคริตศกั ราช 1489 โดยโชกุนผูม้ อี านาจนาม อาชิ
ในการสรา้ งชาติใหม้ น่ั คงปราศจากศตั รู ส่วนชนั้ ท่ี กางะ เอระ (Ashikaga Era) เป็นวดั ท่มี คี วาม
สามซ่ึงอยูช่ นั้ บนสุดน้ันสรา้ งข้ึนในรปู แบบวิถีเซ็น วิจิตรงดงามตามวิถี เซ็นโดยจาลองรู ปแบบมาจาก
(Kukkyo Cho) เพ่ือใชส้ าหรับพิธีชงชา (eg วดั ปราสาททองน่ันเอง บางครั้งเรียกวา่ พลบั พลา
ceremony) โดยเฉพาะ ยงั มกี ารตกแตง่ ประดบั ดว้ ย เงิน เดิมสรา้ งข้ึนเพ่ือเป็นท่พี านักของโชกุน แตใ่ น
รูปปั้ นนกฟิ นิ กซ์สีทองอันถือเป็นเสน่ห์ของ เวลาตอ่ มามกี ารบูรณะรังสรรคใ์ หเ้ ป็นวดั เซน็ เป็นวดั
ปราสาทท่งี ดงามแหง่ น้ีอกี ดว้ ย ท่มี สี องชนั้ ตงั้ อยูท่ า่ มกลางสระน้าและแมกไมส้ เี ขยี ว

โครงสร้างของวิหารหลกั ใชแ้ ผน่ เงินแทห้ ุม้ ผนัง

โดยรอบดา้ นนอกบริเวณรอบ ๆ อาคารมีลานชม

จนั ทร์ท่โี รยดว้ ยหินกรวดสีขาวดูพราวตาทราบวา่

ผูส้ รา้ งไดจ้ าลองแบบมาจากทอ้ งทะเลแห่งทรายสี

เงินอนั เป็นมนตเ์ สน่หอ์ กี ดว้ ย

22

ยุคทีส่ ิบ สมัยเซ็งโงกุ(Sengoku)

ยุคเซง็ โงกุเป็นส่วนหน่ึงของยุคมูโระ สงครามปี โอนิง
มาจิ และ ยุคอาซูจิ–โมโมยามะอาจถูกจดั เป็นส่วน
หน่ึงของยุคเซง็ โงกุ

เ ป็ น ช ่ว ง เ ว ล า แ ห่ง ค ว า ม แ ต ก แ ย ก ใ น (Onin no Ran)
ญ่ีปุ่นในช่วงปลายของรัฐบาลโชกุนอาชิกางะ เม่ือ

อานาจของรัฐบาลโชกุ นอาชิกางะเส่ื อมลงจาก

เหตุการณ์สงครามปี โอนิง (Onin no Ran) ทาให้ ในสมัยของอาชิกางะ โยชิมาซะ

รัฐบาลโชกุนสว่ นกลางไมม่ อี านาจในการปกครองแควน้ (Ashikaga Yoshimasa) เกิดความขดั แยง้ ในเร่ืองการ

ทอ้ งถ่นิ ตา่ งๆ ทาใหผ้ ูม้ อี านาจและอิทธิพลตามแควน้ ตา่ งๆ สืบทอดตาแหน่งโชกุน โฮโซกาวะ คัตสึโมโตะ

ในญ่ีปุ่นตั้งตนข้ึนเป็นอิสระจากการปกครองของ (Hosokawa Katsumoto) ใหก้ ารสนับสนุนแกอ่ าชิกา

รัฐบาลโชกุน เจา้ ผูค้ รองแควน้ ในยุคเซง็ โงกุ เรียกวา่ ได งะ โยชิมิ (Ashikaga Yoshimi) ซ่ึงเป็นนอ้ งชายของโช

เมียว (Daimyo) กุนโยชิมาซะ ในขณะท่ียามานะ โซเซ็ง (Yamana

Sozen) ใหก้ ารสนับสนุนแก่อาชิกางะ โยชิฮิซะ
ยุ ค เ ซ็ ง โ ง กุ เ ป็ น ยุ ค แ ห่ ง ค ว า ม

(Ashikaga Yoshihisa) บุตรชายของโชกุนโยชิมาซะ
เปล่ยี นแปลงทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และทางสงั คม

ของญ่ปี ุ่น ในชว่ งปลายยุคเซง็ โงกุวรี บุรุษทงั้ สามไดแ้ ก่ โอ ความขดั แยง้ ระวา่ ขุนศึกทง้ั สองนาไปสู่สงครามปี โอ

ดะ โนบูนางะ, โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ, และ โทกงู าวะ อิ นิง (Onin no Ran) ในค.ศ. 1467 สงครามยืดเย้ือ

เอยาซุ ทาการรวบรวมแวน่ แควน้ ตา่ งๆในญ่ปี ุ่นใหเ้ ป็น เป็นเวลาร่วมสิบปีโดยมนี ครหลวงเกยี วโตอนั เป็นท่ตี ง้ั ของ

หน่ึงเดยี วอกี ครัง้ นาไปสูย่ ุคเอโดะ รัฐบาลโชกุนอาชิกางะเป็นสนามรบ ทาใหร้ ัฐบาลโชกุน

ซ่ึงไดร้ ับความเสียหายอยา่ งมากจากสงครามสูญเสีย

อานาจในการปกครองประเทศ ระบบการปกครอง

ทอ้ งถ่นิ ของรัฐบาลโชกุนจึงลม่ สลายลง

ในยุคมูโระมาจิรฐั บาลโชกุนแตง่ ตงั้ เจา้
ผูค้ รองแควน้ เรียกวา่ ชูโงะ (Shugo) ในการปกครองสว่ น
ทอ้ งถ่ิน เม่ือรัฐบาลโชกุนเส่ือมอานาจลงอานาจของชู
โงะในแต่ละทอ้ งถ่ินจึงเส่ือมลงไปดว้ ย ชูโงะของบาง
แคว้นต้ังตนเป็นอิสระ ในขณะท่ีบา้ งแควน้ ชูโงได
(Shugo-dai ) หรือผูแ้ ทนของชูโงะข้ึนมามอี านาจ และ
บางแควน้ มีซามูไรระดบั ลา่ งหรือแมแ้ ตช่ าวบา้ นตงั้ ตน

ข้ึนมามอี านาจ เป็นยุค "บ่าวลา้ งนาย"

23

ยุคทีส่ ิบเอด็ สมัยอาซจู ิ–โมโมยามะ

(Azuchi-Momoyama)

อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 1568– คริสตศ์ กั ราช 1600

เป็นยุคสงครามระหวา่ ง โอดะ โนบูนางะ และ โทโยโตมิ ฮิเดโยชิ ยกทพั เขา้ สูท่ ่พี านักของ โช

กุนอาชิกางะ คือ ปราสาทอาซูจิ (ในจงั หวดั ชิงะ) และ ฮิเดโยชิ ยกทพั เขา้ สู่ ปราสาทโมโมยามะ (ในกรุงเกยี ว

โต นครหลวงเกา่ ของญ่ปี ุ่น) • คริสตศ์ กั ราช 1583 ศึกโคมากิ นางากูเตะ อิ

เหตุการณ์สาคัญ เอยาซุและไดเมยี วคนอ่ืน ๆ ท่ยี งั แขง็ ขอ้ ตอ่ ฮิเดโย
ชิไดย้ อมสงบศึกกบั ฮิเดโยชิแตม่ ขี อ้ แมค้ ือพวกเขา
ตอ้ งส่งบุตรหลานหรือคนสาคัญในตระกูลไป

พานกั ท่ปี ราสาทโอซากะในฐานะตวั ประกนั

• คริสตศ์ กั ราช 1573 โนบูนางะ มิไดร้ ับ • คริสตศ์ กั ราช 1590 ฮิเดะยะชิ รวมประเทศ

ตาแหน่งโชกุน แตเ่ ป็นเพยี งผูบ้ ญั ชาการทหารและ ไดส้ าเร็จ และต่อมาไดต้ งั้ สภาผูอ้ าวุโสท้ังหา้

ไดน้ ากองทพั พรอ้ มทงั้ ขุนศึกคูใ่ จอยา่ ง โทโยโตมิ ประกอบดว้ ยไดเมยี ว 5 เพ่ือหวงั ใหเ้ ป็นผูส้ าเร็จ

ฮิเดโยชิ และ โทกูงาวะ อิเอยาซุ เขา้ ปราบ ราชการแทนทายาทของฮิเดโยชิ ดว้ ยความ

พวกไดเมยี วท่แี ขง็ ขอ้ ตามแควน้ ตา่ ง ๆ เพ่ือทาการ จงรักภกั ดตี อ่ ไป

รวมประเทศ • คริสตศ์ กั ราช 1600 เม่ือฮิเดโยชิถึงแกก่ รรม ก็
เกิดการแยง่ อานาจกนั ระหวา่ งไดเมยี วทงั้ หา้ โดย
• คริสตศ์ กั ราช 1575 ศึกท่ี นางาชิโนะ โนบูนา

งะ ร่วมกบั อิเอยาซุทาลายกองทพั มา้ อนั เกรียงไกร แบง่ เป็นสองขว้ั อานาจระหวา่ งอิชิดะ มิตสึนาริ

ของทาเกดะ คตั สึโยริ แห่งตระกลู ทาเกดะ (ฝ่ ายตะวนั ตก) กบั โทกงู าวะ อิเอยาซุ (ฝ่ าย

• คริสตศ์ กั ราช 1582 อาเคจิ มิตสึฮิเดะ ตะวนั ออก) ทง้ั สองฝ่ายมกี ารกระทบกระท่งั กนั

ขุนพลคนหน่ึงของโนบูนางะไดน้ ากาลงั ของตน จนเป็นสงครามยอ่ ย ๆ อยูห่ ลายคร้ังแตใ่ นท่สี ุดเม่ือ

เขา้ โจมตวี ดั ฮนโนซ่ึงเป็นท่พี านักของโนบูนางะ ทงั้ สองฝ่ายไดท้ าการรบขน้ั เดด็ ขาดกนั ในยุทธการ

และสังหารโนบูนางะได้ อีกทง้ั ยงั ยกกาลงั เขา้ ตี ท่เี ซกิงาฮาระ ผลคือกองทพั ฝ่ายตะวนั ออกเป็น

ปราสาทนิโจสงั หารบุตรชายคนโตของโนบูนางะ ฝ่ ายไดช้ ัยชนะ ส่วนมิตสึ นาริ ท่ีพ่ายแพก้ ็ถู ก

หลงั จากนั้นอกี หน่ึงสปั ดาห์ มิตสึฮิเดะกถ็ ูกกอง ประหารโดยคาส่งั ของตระกูลโทกูงาวะ

กาลงั ของฮิเดโยะชิท่ีกลบั มาจากการทาศึกกบั • คริสตศ์ กั ราช 1615 กองทพั โทกูงาวะเขา้ โจมตี
ตระกูลโมริเขา้ โจมตดี ว้ ยกาลงั พลมากกวา่ ชยั ชนะ ปราสาทโอซากะอนั เป็นท่พี านักของตระกูลโทโย
โตมิ แมโ้ ทโยโตมิ ฮิเดโยริ (บุตรชายของฮิเดโยชิ)
จึงเป็นของฮิเดโยะชิ

จะตอ่ ตา้ นอยา่ งดุเดือดแตก่ ็พา่ ยแพแ้ ละจบชวี ิต

ตวั เองลงดว้ ยการควา้ นทอ้ งพรอ้ มกบั มารดา

24

สถาปั ตยกรรมทีส่ าคัญในสมัยอาซจู ิ–โมโมยามะ

• ปราสาทโอซากาโจ (Osakajo) เป็นหลกั ฐาน
ทางประวัติศาสตร์ท่ีสาคญั ในยุคโมโมยามะ ซ่ึง
จาลองแบบจากปราสาทเดิมท่ถี ูกสรา้ งโดยโตโยะ
โตมิฮิเดโยชิ (Toyotoml Hideyoshl) ในปีคริสต
ศกั ราช 1585 ใชเ้ วลาในการกอ่ สรา้ งยาวนานถึง
สามปีกวา่ จะเสร็จสมบูรณ์

• ปราสาทมทั ซึโมะโตะ (Matsu moto Castle)
ปราสาทดา หรือ ปราสาทอีกา (Crow Castle)
เน่ื องจากตัวอาคารภายนอกมีสีดาทั้งหลัง แต่
กระเบ้ืองมุงหลงั คานั้นเคลือบดว้ ยสีทองดูงดงาม.
สรา้ งข้ึนในปีคริสตศกั ราช 157 โดย ยูกิตะฮิเดอิ
เอะ (Utta Hidee) ตอ่ มามกี ารบูรณะข้ึนใหม่
หลายคร้ัง แต่ก็ยังคงอนุ รักษ์รู ปแบบอารยะ
สถาปัตยกรรมดง้ั เดิมเอาไวอ้ ยา่ งสมบูรณ์แบบท่สี ุด
เป็นอนุสรณส์ ถานท่สี าคญั ทางประวตั ิศาสตร์อนั ลา้
คา่ ท่สี ุดของยุคโมโมยามะ

• ปราสาทโอโกยาม่า เดิมมชี ่ือวา่ ปราสาทฟูกะชิ
(Fakashl) แตโ่ ชกุนอิชิกาวะ โนะริมะสะ
(Ishikawa Norimasa) ไดบ้ ูรณะรังสรรคข์ ้ึนโดย
การต่อเติมโครงสร้างใหม้ ีความงดงามย่ิงข้ึนมี
หอคอยสูงโดดเดน่ ลอ้ มรอบดว้ ยคูคลองมสี ะพานสี
แดงสุด Classsic ทอดขา้ มไปยงั ตวั ปราสาทส่วน
บริเวณรอบนอกมีกาแพงหินท่มี ่นั คงแขง็ แรงดูโดด
เดน่ เป็นสงา่

• ปราสาทชิโระอิชิ (Shiroishi Castle) เป็น
ปราสาทโบราณ สรา้ งในปีคริสตศกั ราช 1591



26

ยุคทีส่ ิบสอง สมัยเอโดะ(Edo)
อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 1600 – คริสตศ์ กั ราช 1867

ยุคท่มี ไี ดเมียวตระกูลโทกูงาวะเป็นโช การศึกษาและวิชาการกเ็ จริญรุ่งเรือง
กุน เร่ิมเม่ือโทกูงาวะ อิเอยาซุ ไดร้ วบอานาจและตง้ั ชนชน้ั นักรบเลา่ เรียนปรชั ญาของขงจ๊ือและหลกั คา
รัฐบาลโชกุนข้ึนท่ีเอโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) ใน สอนจูจื่อ (Shushi-gaku) ซ่ึงเป็นปรัชญาพ้ืนฐานท่คี า้
คริสตศ์ กั ราช 1603 และหลงั จากนั้นอกี 260 ปี การ จุนการปกครองของรฐั บาลเอโดะ การศึกษาเก่ยี วกบั
ปกครองทง้ั หลายกต็ กอยูใ่ นอานาจของตระกูลโทกูงาวะ ญ่ปี ุ่นและดตั ช์ (ฮอลนั ดา) เจริญรุ่งเรืองตง้ั แตศ่ ตวรรษท่ี
รัฐบาลเอโดะไดล้ ิดรอนอานาจจากจกั รพรรดิ เช้ือพระ 18 เป็นตน้ มา มกี ารเปิดโรงเรียนตามหวั เมืองตา่ ง ๆ เพ่ือ
วงศ์ และพระสงฆจ์ นหมดส้ิน และปกครองเกษตรกรไปที ลูกหลานของชนชน้ั นักรบ ราษฎรสามญั เองกน็ ิยมส่ง
ละเล็กละน้อย เม่ือเกษตรกรอนั เป็นฐานอานาจของ ลูกหลานเรียนหนังสือเชน่ กนั
รัฐบาลเอโดะยากจนลงจนเดือดรอ้ น การปกครองของ
ตระกูลโทกูงาวะกเ็ ร่ิมส่นั คลอนลงตง้ั แตเ่ ขา้ ศตวรรษท่ี
19

ยุคน้ีเป็นยุคท่ีวฒั นธรรมของราษฎร
สามญั เจริญจนถึงท่สี ุด ตงั้ แตป่ ลายศตวรรษท่ี 17 จนถึง
ตน้ ศตวรรษท่ี 18 เป็นยุคของวัฒนธรรมเก็นโรกุ
(Genroku-bunka) ซ่ึงเป็นของนักรบผสมกบั ราษฎร
สามญั มศี ูนยก์ ลางอยูท่ ่เี มืองใหญ่ ๆ อยา่ งเกยี วโตหรือโอ
ซากะ เอกลกั ษณ์ คือ ละครหุ่น ละครคาบูกิ และ
หตั ถกรรมต่าง ๆ มีศิลปินกาเนิดจากราษฎรสามญั
มากมาย เชน่ นักเขยี นอยา่ ง อิฮาระ ไซกากุ (Ihara
Saikaku) นักกลอนไฮกุอยา่ ง มตั สึโอะ บาโช
(Matsuo Bashou) นักแตง่ บทละครหุน่ ละครคาบูกิ
อ ย่ า ง ชิ ก า มัต สึ ม น ซ า เ อ ม ง ( Chikamatsu
Monzaemon) จนเม่ือศตวรรษท่ี 19 ศูนยก์ ลางของ
วฒั นธรรมไดย้ า้ ยไปอยูเ่ อโดะ เป็นยุคของวฒั นธรรม คะ
เซ (Kasei-bunka) ซ่ึงเป็นวฒั นธรรมของชนชาวเมือง
อนั ไดแ้ ก่ นวนิยาย ละครคาบูกิ ภาพอูกิโยะ บุนจิงงะ
เป็นตน้

27

สถาปั ตยกรรมทีส่ าคัญในสมัยเอโดะ

• ปราสาทโอคาซากิ (Okazaki-jo / Okazaki
Castle) เป็นปราสาทเกา่ แกแ่ ละเป็นสถานท่เี กิด
ของอิเอยาสึ แมต้ วั ปราสาทสวยงามท่เี ห็นอยูใ่ น
ปัจจุบนั จะเป็นเพยี งการบูรณะสรา้ งข้ึนมาใหมเ่ พ่ือ
เปิดเป็นพิพิธภณั ฑจ์ ดั แสดงวตั ถุโบราณเหมือนกบั
ปราสาทอ่ืนๆ ในญ่ปี ุ่น แตย่ งั คงบรรยากาศและกล่ิน
อายสุดขลงั สะทอ้ นความรุ่งเรืองของโอกาซากิใน
อดตี

• ปราสาทอิงะ อุเอโนะ(Iga Ueno Castle) อกี ช่ือ
หน่ึงวา่ “ฮาคุโฮโจ” หรือ ปราสาทนกฟิ นิกสส์ ี
ขาว ปราสาทไดส้ รา้ งข้ึนโดย “โทโด ทาคาโทระ”
นักรบผูป้ กครองพ้ืนท่ใี นปี 1608 หรือเม่ือราว 400
ปีกอ่ น โทโด ทาคาโทระซ่ึงเป็นยอดฝมี ือในการสรา้ ง
ปราสาทเป็นเจา้ ของผลงานปราสาทสุดสง่างาม
มากมายไมว่ า่ จะเป็น ปราสาทอุวาจิมะ และ
ปราสาทอิมาบาริ รวมถึงปราสาทซาซายามะ

• สะพานคินไทเคียว (Kintaikyo Bridge)ถูก
สร้างในปี 1673 และเป็ นสะพานไม้ท่ีเป็ น
สัญลกั ษณ์ของญ่ีปุ่น สะพานน้ีเป็นสะพานไมท้ ่ี
โครงสรา้ งโคง้ เรียงกนั ถึงหา้ สว่ น ถือเป็นภาพท่หี าได้
ยากแมน้ อกญ่ปี ุ่น เป็นสุดยอดของเทคนิคขนั้ สูง
และสะพานแห่งน้ีอยูส่ ืบตอ่ มาแมจ้ ะมีการเปล่ยี น
คานสะพาน



29

ยุคทีส่ ิบสาม สมัยเมจิ(Meji)
อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 1868 – คริสตศ์ กั ราช 1912

เป็นยุคสมยั ซ่ึงถือวา่ เป็นการเขา้ สู่ ยุค มีการประกาศยกเลิกการครอบครอง

ใหม่ (Modern Era) ของญ่ปี ุ่น ท่ดี ินในระบบศกั ดินานาท่ดี นิ แจกจา่ ยใหช้ าวไร่ชาวนาทรง

ยุ คเมจิเร่ิ มต้นหลังจากท่ีกลุ่มหัว สรา้ งระบบการคมนาคมทง้ั ถนน ทางรถไฟ ระบบ
กา้ วหนา้ ในแควน้ โชชูและแควน้ ซตั สึมะ ผนึกกาลงั กนั ลม้ ขนส่งทางทะเล เพ่ือเสริมสร้างการคา้ ภายในและ

ลา้ งระบอบโชกุนและระบบซามูไร หลงั จากลม้ ระบอบโช ภายนอก ปรับปรุงระบบไปรษณีย์ การเงินและธนาคาร

กุนไดแ้ ลว้ กส็ ถาปนารัฐธรรมนูญและรัฐบาลใหมท่ ่มี อี งค์ และวางรากฐานการพัฒนาประเทศใหเ้ ป็นประเทศ

จกั รพรรดิเป็นศูนยก์ ลางแหง่ อานาจ จกั รพรรดิทรงยา้ ย อุตสาหกรรม โดยรัฐบาลเขา้ มาลงทุนอุตสาหกรรม

เมืองหลวงจากเกียวโตไปยงั เอโดะ แลว้ เปล่ยี นช่ือ หลกั เชน่ อุตสาหกรรมเหลก็ อุตสาหกรรมเหลก็ กลา้

เป็นโตเกียว คณะรัฐบาลในสมเด็จพระจกั รพรรดิได้ และสนับสนุ นเอกชนให้มีส่วนร่วมในการพัฒนา

ร่วมมือกนั ปฏริ ูปญ่ปี ุ่นในทุก ๆ ดา้ น มกี ารทาสงครามกบั อุตสาหกรรม ใน ค.ศ. 1911 ประเทศญ่ปี ุ่นกม็ อี านาจใน

จกั รวรรดิรัสเซียและมีชยั เหนือรัสเซียซ่ึงเป็นหน่ึงใน การจดั ตง้ั ภาษีศุลกากรไดส้ าเร็จ และในชว่ งเดยี วกนั

มหาอานาจในขณะนนั้ ปร ะ เ ท ศ ญ่ ีป่ ุ น ก็เ ป็ น ปร ะ เ ท ศ อุ ตส า ห ก ร ร ม ท่ ีส า ค ัญ ใ น

รัฐบาลใหมไ่ ดย้ กเลิกระบอบศกั ดินา ภูมิภาคเอเชยี

สวามิภกั ด์ิและมกี ารรวมศูนยอ์ านาจไวใ้ นกรุงโตเกยี ว มี มกี ารประกาศยกเลิกสิทธิพิเศษของ

การสถาปนาสภานิติบญั ญตั ิในสมเดจ็ พระจกั รพรรดิ ซามไู ร ประชาชนทุกคนมฐี านะเทา่ เทยี มกนั ค.ศ. 1872

ข้ึน มา ต า ม แ บบ อ ย่า ง ขอ ง รัฐ ส ภ า อังก ฤ ษ อัน รัฐบาลประกาศนโยบายการศึกษาใหป้ ระชาชนเลา่ เรียน

ประกอบด้วยสภาขุนนาง (สภาสูง) และสภา กนั ทุกคน มกี ารปลูกฝงั ความคิดและคา่ นิยมแบบดงั้ เดิม
ผูแ้ ทนราษฎร (สภาล่าง) แมจ้ ะมกี ารเลือกตงั้ แตก่ ไ็ ม่ คือ ลทั ธิขงจื๊อในแผนการศึกษาเพ่ือเนน้ ความจงรักภกั ดี

อาจเรียกไดว้ า่ เป็นระบอบประชาธิปไตยได้ เน่ืองจาก ต่อองค์จักรพรรดิ จัดใหม้ ีการเกณฑท์ หารตามแบบ

อานาจและอิทธิพลทางการเมืองส่วนใหญอ่ ยูท่ ่เี หลา่ ขุน มาตรฐานสากลจดั ตง้ั กระทรวงกลาโหมดูแลการทหาร

นางในสภาสูง โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงคณะเก็นโรเป็นกลุม่ ปรับปรุ งกองทพั ใหม้ ีประสิทธิภาพทงั้ ระเบียบวินัยของ

บุคคลท่มี อี ทิ ธิพลท่สี ุดในระบบการเมือง กองทพั และศกั ยภาพของอาวุธทาใหป้ ระเทศญ่ปี ุ่นกา้ วข้ึน

เป็นมหาอานาจชาตหิ น่ึงของโลก

การปฏิรูปสมยั เมจิใชเ้ วลาเพยี ง 20 ปี
กส็ ามารถพฒั นาประเทศญ่ปี ุ่นจากประเทศดอ้ ยพฒั นามา
เป็นประเทศท่พี ฒั นาแลว้ ในภูมิภาคเอเชยี

30

สถาปั ตยกรรมทีส่ าคัญในสมัยเมจิ

• พิพิธภณั ฑเ์ มจิมูระ(Meiji Mura) ตง้ั อยูภ่ ายใน
เมืองอินุยามะ(Inuyama) จงั หวดั ไอจิ(Aichi) เป็น
พิพิธภณั ฑส์ ไตลก์ ลางแจง้ ท่มี คี วามเป็นมายาวนาน
ไมเ่ บาเลยละ่ คะ่ เพราะท่นี ่ีนั้นอาคารบางสว่ นเป็น
อาคารจริงในสมยั เมจิท่คี งเหลืออยูใ่ นประเทศญ่ปี ุ่น
โดยท่นี ่ีนน้ั มกี ารจดั แสดงอาคารกวา่ 60 หลงั ในชว่ ง
ยุคเมจิราวๆปี ค.ศ.1868-1912 ซ่ึงเป็นชว่ งกอ่ นจะ
ส้ินสุดยุคศกั ดนิ าของญ่ปี ุ่นจึงทาใหส้ ถาปัตยกรรมมี
เอกลกั ษณ์เฉพาะตวั จากตะวนั ตกอาคารท่ยี งั คง
อนุ รักษ์สถาปัตยกรรมแบบโบราณ ส่วนท่ียงั คง
หลงเหลือไวก้ ม็ ี หอ้ งโถงทางเขา้ ของโรงแรมโตเกยี ว
อิมพเี รียลเกา่ (Tokyo’s old Imperial Hotel) และ
วิ ห า ร เ กีย ว โ ต เ ซ น ต ์ฟ ร า น ซิ ส ซ า เ วี ย ร์ ( Kyoto’s
St.Francis Xavier’s Cathedral)

• ศาลเจา้ เมจิ (Meiji Shrine) เป็นศาลเจา้ แบบ
ชินโต ซ่ึงมคี วามเช่ือวา่ จกั รพรรดิเป็นประมุขของ
ศาสนา สืบสายเลือดมาจากเทพ การสรา้ งศาลเจา้
กเ็ พ่ืออุทิศใหก้ บั จกั รพรรดิเมจิ (Emperor Meiji)
และ พระราชินีโชเคง (Empress Shoken) ศาล
เจ้าเมจิสร้างข้ึนในปี ค.ศ. 1915 ภายหลังท่ี
จกั รพรรดิเมจิ ไดเ้ สียชวี ิตลง การสรา้ งศาลเจา้ แหง่
น้ีเป็นงานย่ิงใหญร่ ะดบั ชาติ มีการออกแบบ และ
สรา้ งโดยนักออกแบบชน้ั นา และ ชา่ งฝีมือ ชาว
ญ่ปี ุ่นไดม้ สี ว่ นร่วมในการเป็นสว่ นหน่ึงของศาลเจา้
เมจิ ดว้ ยการบริจาคตน้ ไมเ้ พ่ือปลูกเป็นป่ ารอบๆ
ศาลเจา้ มตี น้ ไมถ้ ูกสง่ มาจากทว่ั ญ่ปี ุ่นถึง 100,000
ตน้ มากเพยี งพอท่จี ะทาใหเ้ ป็นป่ ากลางเมือง ในชว่ ง
สงครามโลกครั้งท่ี 2 มีการโจมตที างอากาศโดย
เคร่ืองบินรบของสหรัฐอเมริกา มผี ลทาใหศ้ าลเจา้
ไดร้ ับความเสยี หาย หลงั จากสงครามเสร็จส้ินจึงมี
การสรา้ งข้ึนใหม่ และเสร็จในปี ค.ศ. 1958

31

ยุคทีส่ ิบสี่ สมัยไทโช(Taisho)

อ ยู่ใ น ป ร ะ วัติ ศ า ส ต ร์ ข อ ง ญ่ีปุ่ น ใ น ช่ว ง
คริสตศ์ กั ราช 1912 – คริสตศ์ กั ราช 1926 เป็นชว่ งญ่ปี ุ่นหลงั
สงครามโลกคร้ังท่ี 1 เป็นยุคท่ปี ระชาธิปไตยเร่ิมเบง่ บาน ภายใต้
กระแสของลทั ธิจกั รวรรดินิยมหรือชาตินิยม ดว้ ยความแรงของ
กระแสหลงั ไดผ้ ลกั ดนั ใหญ้ ่ปี ุ่นเขา้ สูส่ งครามเป็นเวลา 15 ปี

ยุคทีส่ ิบห้า สมัยโชวะ(Showa)

การนับชว่ งยุคหน่ึงในประวตั ิศาสตร์ญ่ปี ุ่นใน
รัชกาลของสมเด็จพระจกั รพรรดิฮิโระฮิโตะ (โชวะ) รัชกาล
เดียว เร่ิ มตน้ ข้ึนใน คริ สต์ศักราช 1926 และส้ินสุ ดใน
คริสตศ์ กั ราช 1989 รวมระยะเวลาทงั้ ส้ิน 62 ปี 14 วนั ซ่ึงนับ
ไดว้ ่าเป็นชว่ งรัชกาลท่ยี าวท่สี ุดในประวตั ิศาสตร์ของประเทศ
ญ่ปี ุ่น

ยุคทีส่ ิบหก สมัยเฮเซ(Heisei)
อยูใ่ นประวตั ิศาสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 1989 – คริสตศ์ กั ราช 2019

เป็ นช่ ือยุคและช่ ือรัชศกของประเทศ ดว้ ยเหตุน้ี ปี ค.ศ. 1989 จึงนับเป็น
ญ่ปี ุ่นในรชั สมยั ของสมเด็จพระจกั รพรรดิอากิฮิโตะ ศกั ราชโชวะปีท่ี 64 จนถึงวนั ท่ี 7 มกราคม ค.ศ. 1989
ตงั้ แตว่ นั ท่ี 8 มกราคม ค.ศ. 1989 ถึงวนั ที่ 30 และเป็นศกั ราชเฮเซปีท่ี 1 (Heisei gannen, gannen
เมษายน ค.ศ. 2019 ซ่ึงเป็นวนั ท่สี ละราชสมบตั ิ รัช มคี วามหมายวา่ "ปีแรก") ตงั้ แตว่ นั ท่ี 8 มกราคมเป็นตน้
ศกเฮเซ เร่ิมตน้ เม่ือวนั ท่ี 8 มกราคม ค.ศ. 1989 โดย ไป ยุคเฮเซส้ินสุดเม่ือวนั ท่ี 30 เมษายน ค.ศ. 2019
เร่ิมนับจากวนั ท่ีสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะข้ึน (ศกั ราชเฮเซปีท่ี 31) ซ่ึงเป็นวนั ท่มี พี ระราชพิธสี ละราช
ครองราชยเ์ ป็นจกั รพรรดิลาดบั ท่ี 125 ในวนั หลงั วนั บลั ลงั กด์ อกเบญจมาศของสมเดจ็ พระจกั รพรรดิอากิฮิ
สวรรคตของสมเดจ็ พระจกั รพรรดิฮิโระฮิโตะ พระราช โตะ ยุคถดั จากยุคเฮเซคือยุคเรวะ เร่ิมตน้ ในวนั ท่ี 1
บิดา ตามธรรมเนียมของประเทศญ่ีปุ่น สมเด็จพระ พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ในเวลาเท่ียงคืนตามเวลา
จักรพรรดิฮิโรฮิโตะไดร้ ับการขนานพระนามว่า ทอ้ งถ่ินญ่ปี ุ่น ซ่ึงเป็นวนั ท่สี มเดจ็ พระจกั รพรรดินารู ฮิ
"จกั รพรรดิโชวะ" เม่ือวนั ท่ี 31 มกราคม ค.ศ. 1989 โตะข้ึนเถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ิ

32

ยุคทีส่ ิบเจ็ด สมัยเรวะ(Reiwa)
อยูใ่ นประวตั ศิ าสตร์ของญ่ปี ุ่นในชว่ งคริสตศ์ กั ราช 2019 – ปัจจุบนั

เป็นศกั ราชของญ่ปี ุ่น โดยรัชศกเรวะ
เริ่มตน้ ตงั้ แต่วนั ท่ี 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 ซ่ึง
เร่ิมนบั จากวนั ท่สี มเด็จพระจกั รพรรดินารูฮิโตะ พระ
ราชโอรสของสมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ข้ึน
ครองราชย์เป็นจักรพรรดิลาดบั ท่ี 126 ในวันหลัง
สมเดจ็ พระจกั รพรรดิอากิฮิโตะสละราชบลั ลงั กใ์ นวนั ท่ี
30 เมษายน ซ่ึงถือเป็นวนั ส้ินสุดของยุคเฮเซ

โดยนามรัชศกเรวะไดม้ กี ารประกาศ
เผยแพร่ตอ่ สาธารณชนเป็นครั้งแรกเม่ือวนั จนั ทร์ท่ี 1
เมษายน ค.ศ. 2019 โดยนาย โยชิฮิเดะ ซู งะ
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีไดเ้ ป็นผูป้ ระกาศนามรัชศกใน
คร้ังน้ี รัฐบาลญ่ปี ุ่นไดป้ ระกาศรัชสมยั ใหม่ เรวะ เพ่ือ
ตอ้ นรับรัชสมยั ของสมเดจ็ จกั รพรรดิพระองคใ์ หม่ โดย
เร่ิมใชอ้ ยา่ งเป็นทางการในวนั ท่ี 1 พฤษภาคม ซ่ึงเป็น
ว ัน ท่ ีส ม เ ด็จ จ ัก ร พ ร ร ดิ พ ร ะ อ ง ค ์ใ ห ม่ข้ ึ น ค ร อ ง ร า ช ย ์
นอกจากน้ียงั ถือวา่ เป็นการส้ินสุดของยุครัชสมยั เฮเซ
ท่มี รี ะยะเวลายาวนานกวา่ 30 ปีอกี ดว้ ย

โยชิฮิเดะ ซูงะ เลขาธิการรัฐมนตรี
ญ่ปี ุ่น ไดอ้ ธิบายถึงช่ือของรัชสมยั ใหม่ โดยคาว่า “เร”
หมายถึง ความรุ่งเรืองหรือคาสงั่ ส่วนคาว่า “วะ”
หมายถึง สนั ติภาพหรือความสามคั คี



บรรณานกุ รม

กรี ติ. (ม.ป.ป.). เจ็ดมิติแห่งความมหศั จรรย์ ณ แดนอาทิตยอ์ ุทยั . กรุงเทพฯ : ส.เอเชยี เพรส.
กลั ยณี สตี สุวรรณและคณะ. (2528). กญุ แจ 77 ดอกส่อู ารยธรรมญี่ป่ ุน. กรุงเทพฯ : รวม

สาสน์.
ดวงธิดา ราเมศวร์. (2537). ประวตั ิอารยธรรมอาเซีย ญี่ป่ ุน. กรุงเทพฯ : ยูโรปา เพรส.
ทองสุก เกตุโรจน์. (2543). ประวตั ิศาสตรญ์ ่ีป่ นุ สมยั ใหม่. กรุงเทพฯ : ศูนยพ์ ฒั นาการหนงั สือ

กรมวิชาการ.
เพญ็ ศรี กาญจโนมยั . (2530). อารยธรรมญี่ป่ ุน. กรุงเทพฯ : วรวุฒกิ ารพมิ พ.์
วรี ชยั โชคมุกดา. (2554). ประวตั ิศาสตรญ์ ี่ป่ นุ ฉบบั สรา้ งชาติ. กรุงเทพฯ : ยปิ ซี กรุ๊ป จากดั .

ออนไลน์
วิกพิ ิเดยี . (ม.ป.ป.). ประวตั ิศาสตรญ์ ี่ป่ ุน. [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก :

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B. [2563, ตุลาคม 20].
Ashikaga. (ม.ป.ป.). ประวตั ิศาสตรญ์ ่ีป่ นุ . [ออนไลน์]. เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://social-

line.com/category/%e6%ad%b4%e5%8f%b2//. [2563, ตุลาคม 20].

ประวตั ศิ าสตรอ์ ารยธรรมญ่ปี ุ่น

รหสั รายวิชา 1233503
รายวิชา อารยธรรมตะวนั ออก
จดั ทาโดย 611122209 นางสาวอรอนงค์ ขอ้ หลา้
611122213 นางสาวธญั รตั น์ รอดศรี
อาจารยท์ ่ปี รึกษา 611122217 นางสาวบุษยมาศ เขมน้ เขตการ
611122219 นางสาวชลธิชา ดอยแกว้ ขาว
นกั ศึกษาชนั้ ปีท่ี 3 โปรแกรมวิชา สงั คมศึกษา
คณะ ครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฎั กาแพงเพชร
ผศ.รัตตกิ าล โสภคั คศ์ รีกุล


Click to View FlipBook Version