51
มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ว ๑.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
ว ๒.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๓ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓
ว ๓.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๔.๒ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
รวม ๗ มาตรฐาน ๒๕ ตัวชวี้ ดั
52
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
ว๑๔๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง
คำอธบิ ายรายวิชา
บรรยายหน้าท่ีของราก ลำต้น ใบ และดอกของพืชดอกโดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ จำแนก
สิ่งมีชีวิตโดยใช้ความเหมือน และความแตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลุ่มสัตว์
และกลุ่มท่ีไม่ใช่พืชและสัตว์ จำแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์
โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ จำแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังโดยใช้
การมีกระดูกสันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ บรรยายลักษณะเฉพาะท่ีสังเกตได้ของสัตว์มี
กระดูก สันหลังในกลุ่มปลา กลุ่มสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก กลุ่มสัตว์เลื้อยคลาน กลุ่มนก และกลุ่ม
สตั ว์เล้ียงลูก ดว้ ยน้ำนม และยกตัวอย่างส่งิ มีชวี ิตในแต่ละกลุ่ม
เปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนำความร้อน และการนำ
ไฟฟ้าของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์จากการทดลองและระบุการนำสมบตั เิ รอ่ื งความแขง็ สภาพ
ยืดหยุ่น การนำความร้อน และการนำไฟฟ้าของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจำวันผ่านกระบวนการ
ออกแบบชิ้นงาน แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นโดยการอภิปรายเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพของวัสดุ
อย่างมีเหตุผลจากการทดลอง เปรียบเทียบสมบัติของสสารทั้ง ๓ สถานะ จากข้อมูลท่ีได้จากการ
สังเกตมวล การต้องการท่ีอยู่ รูปร่างและปริมาตรของสสาร ใช้เครื่องมือเพ่ือวัดมวล และปริมาตรของ
สสารท้ัง ๓ สถานะ ระบุผลของแรงโน้มถ่วงท่ีมตี ่อวัตถจุ ากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ ใชเ้ คร่ืองชัง่ สปริงใน
การวัดน้ำหนักของวัตถุ บรรยายมวลของวัตถุท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุจาก
หลักฐานเชิงประจักษ์ จำแนกวัตถุ เป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง และวัตถุทึบแสง จาก
ลักษณะการมองเห็นส่งิ ต่าง ๆ ผา่ นวัตถนุ ัน้ เปน็ เกณฑ์โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
อธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
สร้างแบบจำลองที่อธิบายแบบรูป การเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ และพยากรณ์รูปร่าง
ปรากฏของดวงจันทร์ สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบ
คาบการโคจรของดาวเคราะห์ต่าง ๆ จากแบบจำลอง
ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จาก
ปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหา
ข้อผิดพลาด และแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาความรู้ และประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล รวบรวม
ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ท่ีหลากหลาย เพ่ือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้ง
ผ้เู กยี่ วข้องเม่ือพบข้อมูลหรือบคุ คลทีไ่ ม่เหมาะสม
53
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ว ๑.๒ ป.๔/๑
ว ๑.๓ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๑ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๒ ๓. ป.๔/๑
ว ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕
รวม ๗ มาตรฐาน ๒๑ ตัวชว้ี ดั
54
คำอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
ว๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๕ เวลา ๑๒๐ ชว่ั โมง
คำอธิบายรายวิชา
บรรยายโครงสร้างและลักษณะของสิง่ มีชีวิตท่ีเหมาะสมกบั การดำรงชีวิต ซ่ึงเป็นผลมาจาก
การปรับตัวของส่ิงมีชีวิตในแต่ละแหล่งที่อยู่ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิต
และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกบั ส่ิงไม่มีชีวิต เพ่ือประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต เขียนโซ่อาหารและระบุ
บทบาทหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตที่เป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคในโซ่อาหาร ตระหนักในคุณค่าของส่ิงแวดล้อมท่ีมี
ต่อการดำรงชีวิตของส่ิงมีชีวิต โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม อธิบายลักษณะทาง
พันธุกรรม ท่ีมีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช สัตว์ และมนุษย์ แสดงความอยากรู้
อยากเหน็ โดยการถาม คำถามเกี่ยวกับลักษณะทีค่ ลา้ ยคลึงกนั ของตนเองกับพ่อแม่
อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทำให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลงโดยใช้หลักฐาน
เชิงประจักษ์ อธิบายการละลายของสารในน้ำโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ
สารเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์และระบุการเปลี่ยนแปลงท่ี
ผันกลับได้และการเปล่ียนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ อธิบายวิธีการหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนว
เดียวกัน ที่กระทำต่อวัตถุในกรณีท่ีวัตถุอยู่น่ิงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงท่ี
กระทำต่อวัตถุ ท่ีอยู่ในแนวเดียวกันและแรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุ ใช้เครื่องช่ังสปริงในการวัดแรงที่
กระทำต่อวัตถุ ระบุผลของแรงเสียดทานที่มีต่อการเปล่ียนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุจากหลักฐานเชิง
ประจักษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทานและแรงท่ีอยู่ในแนวเดียวกันท่ีกระทำตอ่ วตั ถุ อธิบายการ
ได้ยินเสียงผ่านตัวกลางจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุตัวแปร ทดลอง และอธิบายลักษณะและการ
เกดิ เสียงสูง เสียงตำ่ ออกแบบ การทดลองและอธบิ ายลกั ษณะและการเกดิ เสียงดัง เสียงค่อย วัดระดับ
เสียงโดยใช้เคร่ืองมือวัดระดับเสียง ตระหนักในคุณค่าของความรู้เรื่องระดับเสียงโดยเสนอแนะ
แนวทางในการหลกี เลี่ยงและลดมลพิษทางเสยี ง
เปรียบเทียบความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จากแบบจำลอง ใช้แผนที่ดาวระบุ
ตำแหน่งและเส้นทางการข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้า และอธิบายแบบรูปเส้นทางการข้ึน
และตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟ้าในรอบปี เปรียบเทียบปริมาณน้ำในแต่ละแหล่ง และระบุปริมาณ
นำ้ ที่มนุษยส์ ามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ได้จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้ ตระหนกั ถึงคณุ ค่าของน้ำโดยนำเสนอ
แนวทางการใชน้ ้ำอย่างประหยัดและการอนุรักษน์ ้ำ สร้างแบบจำลองที่อธิบายการหมุนเวียนของน้ำ
ในวัฏจักรน้ำ เปรียบเทียบกระบวนการเกิดเมฆ หมอก น้ำค้าง และน้ำค้างแข็งจากแบบจำลอง
เปรียบเทยี บกระบวนการเกดิ ฝน หิมะ และลกู เหบ็ จากขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้
55
ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จาก
ปัญหาอย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมที่มีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างง่าย ตรวจหา
ข้อผิดพลาด และแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อส่ือสารและทำงานร่วมกัน ประเมินความ
น่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้
ซอฟต์แวร์หรือบริการ บนอินเทอร์เน็ตที่หลากหลาย เพ่ือแก้ปัญหาในชีวิต ประจำวัน ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศอย่างปลอดภัย มีมารยาท เข้าใจสิทธิและหน้าท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจ้ง
ผเู้ กี่ยวขอ้ งเมื่อพบขอ้ มูลหรือบคุ คล ที่ไม่เหมาะสม
มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ว ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๑.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ว ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๒.๓ ป.๕/๑, ป.๕/๒ ,ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒
ว ๓.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
ว ๔.๒ ป.๕/๑ ,ป.๕/๒ , ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕
รวม ๘ มาตรฐาน ๓๒ ตวั ชวี้ ดั
56
คำอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ว๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๑๒๐ ชั่วโมง
คำอธบิ ายรายวิชา
ระบุสารอาหารและบอกประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ีตนเองรับประทาน
บอกแนวทางในการเลอื กรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วน ในสัดส่วนทีเ่ หมาะสมกับเพศและ
วัย รวมทั้งความปลอดภัยต่อสุขภาพ ตระหนักถึงความสำคัญของสารอาหาร โดยการเลือกรับประทาน
อาหาร ที่ มีสารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนท่ีเหมาะสมกับเพศและวัย รวมท้ังปลอดภัยต่อ
สุขภาพ สร้างแบบจำลองระบบย่อยอาหาร และบรรยายหน้าท่ีของอวัยวะในระบบย่อยอาหาร รวมทั้ง
อธิบายการยอ่ ยอาหารและการ ดูดซึมสารอาหาร ตระหนักถึงความสำคัญของระบบย่อย
อาหาร โดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบย่อยอาหารให้ทำงานเปน็ ปกติ
อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสมโดยการหยิบออก การร่อน การใช้แม่เหล็กดึงดูด
การรินออก การกรอง และการตกตะกอนโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ รวมทั้งระบุวิธีแก้ปัญหาใน
ชีวิตประจำวันเกย่ี วกับการแยกสาร อธิบายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้าซึ่งเกิดจากวัตถทุ ี่ผา่ นการขัดถู
โดยใช้หลักฐาน เชิงประจักษ์ ระบุส่วนประกอบและบรรยายหน้าท่ีของแต่ละส่วนประกอบของ
วงจรไฟฟ้าอย่างง่ายจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้าอย่างง่าย ออกแบบ
การทดลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายวิธีการและผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบ
อนุกรม ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนุกรม โดยบอกประโยชน์และ
การประยุกต์ใช้ในชีวิต ประจำวัน ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีท่ีเหมาะสมในการอธิบาย
การต่อหลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการต่อหลอด
ไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน โดยบอกประโยชน์ ข้อจำกดั และการประยุกต์ใช้ ในชีวิตประจำวัน
อธิบายการเกิดเงามืดเงามัวจากหลักฐาน เชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพรังสีของแสงแสดงการเกิดเงา
มืดเงามัว
สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด และเปรียบเทียบปรากฏการณ์สุริยุปราคาและ
จันทรุปราคา อธิบายพัฒนาการของเทคโนโลยีอวกาศ และยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้
ประโยชน์ ในชีวิตประจำวันจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ เปรียบเทียบกระบวนการเกิดหินอัคนี หินตะกอน
และหินแปร และอธบิ ายวัฏจักรหนิ จากแบบจำลอง บรรยายและยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของหิน
และแร่ ในชีวิตประจำวันจากข้อมูลที่รวบรวมได้ สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดซากดึกดำบรรพ์
และคาดคะเนสภาพแวดล้อมในอดีตของซากดึกดำบรรพ์ เปรียบเทยี บการเกิดลมบก ลมทะเล และมรสุม
รวมท้ังอธิบายผลท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม จากแบบจำลอง อธิบายผลของมรสุมต่อการเกิดฤดูของ
57
ประเทศไทยจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ บรรยายลักษณะและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง
ดินถล่ม แผ่นดินไหว สึนามิ ตระหนักถึงผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัย โดยนำเสนอ
แนวทางในการเฝ้าระวังและปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากภัยธรรมชาติและธรณีพิบัติภัยที่อาจเกิดใน
ท้องถิ่น สร้างแบบจำลองท่ีอธิบายการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก และผลของปรากฏการณ์เรือน
กระจกต่อส่ิงมีชีวิต ตระหนักถึงผลกระทบของปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยนำเสนอแนวทางการ
ปฏิบัติตนเพือ่ ลดกจิ กรรมท่ีก่อใหเ้ กิดแกส๊ เรือนกระจก
ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน
ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดของ
โปรแกรม และแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้ง
ผู้เก่ยี วข้องเม่ือพบขอ้ มูล หรอื บคุ คลทไ่ี ม่เหมาะสม
มาตรฐานตัวช้ีวดั
ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕
ว ๒.๑ ป.๖/๑
ว ๒.๒ ป.๖/๑
ว ๒.๓ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๕, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘
ว ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒
ว ๓.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๕, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/
๙
ว ๔.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวม ๗ มาตรฐาน ๓๐ ตวั ชี้วัด
58
โครงสร้างรายวชิ า
รายวชิ า ว11101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 80 ช่ัวโมง
ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด จำนวน (ช่วั โมง) นำ้ หนกั คะแนน
ตัวเรา พืช และสัตว์ ว 1.1 ป.1/1, ป.1/2 12 15
พชื และสตั ว์ในท้องถ่นิ ว 1.2 ป.1/1, ป.1/2 12 15
วัสดุและการเกดิ เสยี ง ว 2.1 ป.1/1, ป.1/2
ว 2.3 ป.1/1 18 20
หินและท้องฟ้า ว 3.1 ป.1/1, ป.1/2
ว 3.2 ป.1/1 18 20
วิทยาการคำนวณ ว 4.2 ป.1/1, ป.1/2, ป.1/3,
ป.1/4, ป.1/5 20 30
รวม 80 100
15
59
โครงสร้างรายวิชา
รายวิชา ว12101 กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 80 ชวั่ โมง
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ตวั ช้วี ัด จำนวน (ชัว่ โมง) น้ำหนักคะแนน
วฏั จกั รชวี ติ ของพืชดอก ว 1.2 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3 14 18
สิ่งมีชวี ิตและสิ่งไม่มชี ีวิต ว 1.3 ป.2/1 8 10
ธรรมชาตขิ องสสาร ว 2.1 ป.2/1, ป.2/2, ป.2/3,
ป.2/4 18 22
แสงและการเคลอ่ื นท่ี ว 2.3 ป.2/1, ป.2/2 10 10
ดนิ ว 3.2 ป.2/1, ป.2/2 10 10
วิทยาการคำนวณ ว 4.2 ป.2/1 ,ป.2/2, ป.2/3,
ป.2/4 20 30
รวม 80 100
16
60
โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวชิ า ว13101 กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 3 เวลา 80 ชั่วโมง
ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด จำนวน (ชว่ั โมง) น้ำหนักคะแนน
วัฏจักรชีวติ ของสตั ว์ ว 1.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3,
ป.3/4 10 12
วัสดรุ อบตวั ว 2.1 ป.3/1, ป.3/2 88
ธรรมชาติของแรง ว 2.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3,
ป.3/4 10 12
พลงั งานและไฟฟ้า ว 2.3 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 10 12
ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ว 3.1 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3 10 12
อากาศ ว 3.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3,
ป.3/4 12 14
วิทยาการคำนวณ ว 4.2 ป.3/1, ป.3/2, ป.3/3,
ป.3/4, ป.3/5 20 30
รวม 80 100
25
61
โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวิชา ว14101 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 120 ช่ัวโมง
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั จำนวน (ช่ัวโมง) น้ำหนกั คะแนน
สว่ นต่าง ๆ ของพชื ว 1.2 ป.4/1 4 5
พืชและสัตว์ ว 1.3 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 20 16
สมบัตทิ างกายภาพ ว 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4 20 16
แรงโน้มถ่วงของโลก ว 2.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
12 14
ตวั กลางของแสง ว 2.3 ป.4/1 10 5
ดวงจนั ทรแ์ ละระบบสุรยิ ะ ว 3.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3 14 14
วิทยาการคำนวณ ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3,ป.4/4, ป.4/5
40 30
รวม 21 120 100
62
โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวชิ า ว15101 กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 120 ช่วั โมง
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ตัวชีว้ ัด จำนวน (ชั่วโมง) นำ้ หนักคะแนน
สิง่ มชี ีวิตและสิง่ ไม่มีชีวิต ว 1.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 12 9
พนั ธุกรรมของพืชและสตั ว์ ว 1.3 ป.5/1, ป.5/2 10 5
สถานะของสาร ว 2.1 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 12 9
แรง ว 2.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 12 16
เสียง ว 2.3 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4 12 10
ดาว ว 3.1 ป.5/1, ป.5/2 10 5
นำ้ และการเปลี่ยนแปลง ว 3.2 ป.5/1, ป.5/2, ป.5/3, ป.5/4, ป.5/5 12 16
วทิ ยาการคำนวณ ว 4.2 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5 40 30
รวม 31 120 100
63
โครงสร้างรายวิชา
รายวชิ า ว16101 กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 120 ชว่ั โมง
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั จำนวน (ช่ัวโมง) นำ้ หนกั คะแนน
10 9
สารอาหาร และระบบยอ่ ยอาหาร ว 1.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5 86
86
การแยกสาร ว 2.1 ป.6/1
16 20
แรงไฟฟา้ ว 2.2 ป.6/1
วงจรไฟฟ้า ว 2.3 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, 10 9
ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8
สุริยปุ ราคา จันทรุปราคาและ ว 3.1 ป.6/1, ป.6/2 18 20
เทคโนโลยีอวกาศ 40 9
โลกและการเปล่ียนแปลง ว 3.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4, ป.6/5, 120 100
ป.6/6, ป.6/7, ป.6/8, ป.6/9
วทิ ยาการคำนวณ ว 4.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4
รวม 30
64
อภธิ านศพั ท์
ศพั ท์ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ตวั ชี้วดั กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์
ท่ี ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ความหมาย
1. กำหนดปญั หา define problem
ระบุ คำถาม ป ระเด็นห รือ
2. แกป้ ัญหา solve problem ส ถ า น ก า ร ณ์ ที่ เป็ น ข้ อ ส ง สั ย
เพ่ื อน ำไป สู่การแก้ปั ญ ห า
3. เขยี นแผนผงั /วาดภาพ construct diagram/ หรืออภิปรายร่วมกัน
4. คาดคะเน illustrate
predict หาคำตอบของปัญหาที่ยังไม่รู้
5. คำนวณ วิธีการม าก่อ น ทั้ งปั ญ ห า
6. จำแนก calculate ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์
7. ตง้ั คำถาม classify โ ด ย ต ร ง แ ล ะ ปั ญ ห า ใ น
8. ทดลอง ask question ชีวิตประจำวันโดยใช้เทคนิค
conduct/experiment และวธิ กี ารตา่ ง ๆ
นำเสนอข้อมูล หรือผลการ
สำรวจตรวจสอบด้วยแผนผัง
กราฟ หรือภาพวาด
คาดการณ์ ผลท่ี จะเกิดข้ึน
ใน อ น า ค ต โ ด ย อ า ศั ย ข้ อ มู ล
ท่ีสังเกตได้และประสบการณ์
ทีม่ ี
หาผลลัพธ์จากข้อมูล โดยใช้
หลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการ
ทางคณิตศาสตร์
จัดกลุ่มของสง่ิ ต่างๆ โดยอาศัย
ลั ก ษ ณ ะที่ เห มื อ น กั น เป็ น
เกณฑ์
พูดหรือเขียนประโยค หรือวลี
เพื่ อให้ ได้ม าซึ่งการค้น ห า
คำตอบที่ต้องการ
ปฏิบัติการเพื่อหาคำตอบของ
คำถาม หรือปัญ หาในการ
ทดลอง โดยต้ังสมมติฐาน
เพื่ อ เป็ น แ น ว ท า งใน ก า ร
กำหนดตัวแปรและวางแผน
ดำเนินการเพื่ อตรวจสอบ
สมมติฐาน
ที่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 65
9. นำเสนอ present
10. บรรยาย describe ความหมาย
แ ส ด ง ข้ อ มู ล เร่ื อ ง ร า ว
11. บอก tell หรือความคิด เพ่ือให้ผ้อู น่ื รับรู้
12. บนั ทึก record หรือพิจารณา
13. เปรียบเทียบ compare ให้รายละเอียดของเหตุการณ์
14. แปลความหมาย interpret ห รื อ ป ร า ก ฏ ก า ร ณ์ ที่ เกิ ด ขึ้ น
15. ยกตัวอย่าง give examples ให้ผู้อื่นได้รับรู้ด้วยการบอก
16. ระบุ identify หรอื เขียน
17. เลือกใช้ select ให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง แก่ผู้อ่ืน
18. วดั ด้วยการพูด หรือเขยี น
19. วเิ คราะห์ measure เขยี นข้อมูลท่ีไดจ้ ากการสังเกต
20. สร้างแบบจำลอง analyze เพ่ื อช่ วย จำ ห รือ เพื่ อ เป็ น
construct model หลกั ฐาน
บอกความเหมอื น และ/หรอื
ความแตกตา่ ง ของสงิ่ ที่
เทียบเคียงกนั
แสดงความหมายของข้อมูล
จ า ก ห ลั ก ฐ า น ท่ี ป ร า ก ฏ
เพื่อลงขอ้ สรปุ
ใ ห้ ข้ อ มู ล เ ห ตุ ก า ร ณ์
หรอื สถานการณ์ เพอื่ แสดง
ความเข้าใจในสง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้
ชี้บอกส่ิงต่าง ๆ โดยใช้ข้อมูล
ประกอบอยา่ งเพียงพอ
พจิ ารณา และตัดสนิ ใจนำวัสดุ
ส่ิงของ อุปกรณ์ หรอื วิธกี าร
มาใช้ได้อย่างเหมาะสม
ห า ข น า ด ห รื อ ป ริ ม า ณ
ของสิง่ ตา่ ง ๆ โดยใชเ้ คร่อื งมอื
ทเี่ หมาะสม
แ ย ก แ ย ะ จั ด ร ะ บ บ
เป รี ย บ เที ย บ จั ด ล ำ ดั บ
จดั จำแนก หรือเชือ่ มโยงขอ้ มลู
นำเสนอแนวคิดหรือเหตุการณ์
ในรูปของแผนภาพ ช้ินงาน
สมการ ข้อความ คำพูดและ/
หรือใชแ้ บบจำลองเพือ่ อธิบาย
ความคิด วัตถุ หรอื เหตุการณ์
ตา่ ง ๆ
ที่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 66
21. สงั เกต observe
ความหมาย
22. สำรวจ explore หาข้อมูลด้วยการใช้ประสาท
สัมผัสทั้งห้า ที่เหมาะสมตาม
23. สืบค้นขอ้ มลู search ข้อเท็จจริงที่ปรากฏ โดยไม่ใช้
24. ส่ือสาร communicate ประสบการณ์เดิมของผสู้ งั เกต
หาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ
25. อธิบาย explain โดย ใช้วิธีการแ ละเท ค นิ ค
26. อภิปราย discuss ทเ่ี หมาะสม เพอ่ื นำข้อมูลมาใช้
ตามวัตถุประสงคท์ ี่กำหนดไว้
27. ออกแบบการทดลอง design experiment ห าข้อ มู ล ห รือ ข้อ ส น เท ศ
ท่ีมีผู้รวบรวมไว้แล้วจากแหล่ง
ตา่ ง ๆ มาใชป้ ระโยชน์
นำเสนอ และแลกเป ล่ียน
ความคิด ข้อมูล หรือผลจาก
การสำรวจตรวจสอบ ด้วยวิธี
ที่เหมาะสม
ก ล่ า ว ถึ งเรื่ อ ง ร า ว ต่ า ง ๆ
อย่างมีเหตุผล และมีข้อมูล
หรือประจกั ษ์พยานอ้างองิ
แสดงความคิดเห็นต่อประเด็น
ห รื อ ค ำ ถ า ม อ ย่ า ง มี เห ตุ ผ ล
โ ด ย อ า ศั ย ค ว า ม รู้ แ ล ะ
ประสบการณ์ของผู้อภิปราย
และขอ้ มูลประกอบ
กำหนด และวางแผนวิธีการ
ท ด ล อ งให้ ส อ ด ค ล้ อ งกั บ
สมมติฐานและตัวแปรต่าง ๆ
รวมทั้งการบันทึกขอ้ มลู
67
ศพั ทท์ ี่เก่ียวขอ้ งกบั ตวั ชี้วดั สาระเทคโนโลยี
ที่ ภาษาไทย ภาษาองั กฤษ ความหมาย
1. การใช้ลิขสทิ ธิ์ของผอู้ ่นื fair use
การนำส่ือ หรือข้อมูลท่ีเป็น
โดยชอบธรรม debugging ลิขสิทธิ์ของผู้อ่ืนไปใช้โดยชอบ
data processing ด้วยกฎหมาย ภายใต้เงื่อนไข
2. การตรวจและแก้ไข data collection บางประการ เชน่
ขอ้ ผิดพลาด primary data 1) น ำ ไป ใช้ ใน ก า ร ศึ ก ษ า
หรอื การค้า
3. การประมวลผลข้อมูล technology 2) งานน้ันเป็นงานวิชาการ
4. การรวบรวมข้อมูล หรือบนั เทงิ
5. ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ 3) คัด ลอกเพี ยงส่วน น้ อ ย
6. เทคโนโลยี หรือคัดลอกจำนวนมาก
4) ท ำ ใ ห้ เ จ้ า ข อ ง เ สี ย
ผล ป ระโยช น์ ท างก ารเงิน
มากนอ้ ยเพยี งใด
ก ร ะ บ ว น ก า ร ใ น ก า ร ค้ น ห า
ข้ อ ผิ ด พ ล า ด ข อ ง โ ป ร แ ก ร ม
เพื่อแก้ไขใหท้ ำงานได้ถูกต้อง
การดำเนินการต่างๆ กับขอ้ มูล
เ พ่ื อ ใ ห้ ไ ด้ ผ ล ลั พ ธ์ ท่ี มี
ความหมายและมีประโยชน์
ตอ่ การนำไปใช้งานมากยิง่ ขึ้น
กระบวนการในการรวบรวม
ข้ อ มู ล ท่ี เก่ี ย ว ข้ อ ง จ า ก
แหลง่ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ
ข้อมูลที่รวบรวมโดยตรงจาก
แหล่งข้อมูลข้ันต้น โดยอาจใช้
วิธีการสังเกต การทดลอง
การสำรวจ การสมั ภาษณ์
สิง่ ท่ีมนุษย์สร้างหรือพัฒนาขึน้
ซึ่ งอ า จ เป็ น ได้ ทั้ งชิ้ น งา น
หรือวิธีการ เพ่ือใช้แก้ปัญหา
สนองความตอ้ งการ หรือเพิ่ม
ความสามารถในการทำงาน
ของมนุษย์
68
ที่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความหมาย
7. แนวคดิ เชิงคำนวณ computational thinking
8. แนวคดิ เชงิ นามธรรม กระบวนการในการแก้ปัญหา
9. ระบบทางเทคโนโลยี abstraction การคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
technological system เป็นข้ันตอน เพื่อหาวิธีการ
10. เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ แก้ปัญหาในรูปแบบท่ีสามารถ
11. เหตผุ ลวิบัติ logical reasoning นำไปประมวลผลได้
12. อัตลักษณ์ logical fallacy
การพิจารณ ารายละเอียด
Identity ที่สำคัญของปัญหา แยกแยะ
สาระสำคัญ ออกจากส่วน
ที่ไมส่ ำคญั
กลุ่มของส่วนต่าง ๆ ต้ังแต่
สองส่วนขึ้นไป ประกอบเข้า
ด้วยกัน และทำงานร่วมกัน
เพ่ื อ ใ ห้ บ ร ร ลุ วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์
โดยในการทำงานของระบบ
ท า ง เท ค โ น โ ล ยี จ ะ ป ร ะ ก อ บ
ไ ป ด้ ว ย ตั ว ป้ อ น (input)
ก ร ะ บ ว น ก า ร (process)
แ ล ะ ผ ล ผ ลิ ต (output)
ท่ี สั ม พั น ธ์กั น น อ ก จ าก น้ี
ระบบทางเทคโนโลยี อาจมี
ข้อมูลย้อนกลับ (feedback)
เพื่อใช้ปรับปรุงการทำงานได้
ตามวัตถปุ ระสงค์
การใช้เหตุผล กฎ กฎเกณฑ์
ห รื อ เงื่ อ น ไข ท่ี เก่ี ย ว ข้ อ ง
เพ่ื อ แ ก้ ปั ญ ห า ได้ ค ร อ บ ค ลุ ม
ทุกกรณี
การใช้เหตุผลท่ผี ิดพลาด ไม่อยู่
บนพื้นฐานของความจริง ไม่มี
น้ ำห นั ก ส ม เห ตุส ม ผล ม า
สนับสนุน หรือช้ีนำข้อสรุป
ท่ผี ิดให้ดนู ่าเชื่อถือ
ลักษณ ะเฉพาะหรือข้อมูล
สำคัญท่ีบ่งบอกถึงความเป็น
ตั ว ต น ข อ ง บุ ค ค ล ห รื อ ส่ิ ง ใ ด
ส่ิงหน่ึง เช่น ชื่อบัญ ชีผู้ใช้
ใบหนา้ ลายนิ้วมอื
69
ที่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ความหมาย
13. อัลกอริทมึ algorithm
ขั้ น ต อ น ใน ก ารแ ก้ ปั ญ ห า
14. แอปพลเิ คชนั software application หรือการทำงาน โดยมีลำดับ
ของคำสั่งหรือวิธีการท่ีชัดเจน
ท่ีคอมพิวเตอร์สามารถปฏิบัติ
ตามได้
ซอฟต์แวร์ประยุกต์ ท่ีทำงาน
บนคอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน
แ ท็ บ เล็ ต ห รื อ อุ ป ก ร ณ์
เทคโนโลยีอ่นื ๆ
70
ภาคผนวก
71
คำสัง่ โรงเรยี นบ้านท่าเกวียน
ที่ ๒๐/๒๕๖๓
เรื่อง แต่งตง้ั คณะกรรมการปรบั ปรุงและพัฒนาหลักสูตรโรงเรียนบา้ นทา่ เกวียน
พุทธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
(ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๐)
-----------------------------------
เพอื่ ให้การบริหารหลักสตู รและงานวชิ าการสถานศึกษาข้ันพน้ื ฐานเปน็ ไปอยา่ งมี
ประสิทธภิ าพสอดคล้องกับการเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม สภาพแวดล้อม
ความรูท้ างวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ที่เจรญิ กา้ วหนา้ อยา่ งรวดเร็ว ในปีการศึกษา ๒๕๖๓
โรงเรียนบา้ นท่าเกวยี น ตอ้ งดำเนินการจัดการศกึ ษาตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร จงึ มี
ความจำเป็นตอ้ งดำเนนิ การปรบั ปรงุ หลกั สูตรสถานศกึ ษาให้สอดคล้องกับนโยบายของ
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร อาศัยอำนาจตามมาตรา ๓๗ แหง่ พระราชบัญญัติระเบยี บบรหิ ารราชการ
กระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และมาตรา ๒๗ (๑) แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บบริหาร
ราชการครู และบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๗ และแกไ้ ขเพ่ิมเติม พ.ศ.
๒๕๕๑ และพ.ศ. ๒๕๕๓ จงึ แต่งตัง้ ครู และบุคลากรทางการศึกษาทำหนา้ ท่ปี รับปรุง
พฒั นาหลักสตู รโรงเรียนบา้ นทา่ เกวียน พุทธศกั ราช ๒๕๖๓ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๐) ดังต่อไปน้ี
๑. นายปรนิ ทร์ ศรีษะเนตร ผู้อำนวยการโรงเรียนบา้ นท่าเกวียน ประธานกรรมการ
๒. นายแสน แยม้ ศรี ประธานกรรมการสถานศึกษาฯ ทปี่ รึกษา
๓. นางสวุ ารี ไวยวฒุ ินันท์ ครูชำนาญการพเิ ศษ ผทู้ รงคณุ วุฒิ
๔. นางสาวละออง มุ่งแซกกลาง หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย กรรมการ
๕. นางสาวจรรยา สวามีชัย หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กรรมการ
๖. นางอไุ ร ภายสันใจ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ กรรมการ
๗. นางสาวละออง มุ่งแซกกลาง หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศกึ ษา
ศาสนา และวัฒนธรรม กรรมการ
๘. นางสาวศริ กิ าญจน์ รงุ่ เป้า ผชู้ ่วยหวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา
ศาสนา และวัฒนธรรม กรรมการ
72
๙. นายสุพรรณ ตะบุบผา หวั หน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษา
และพลศกึ ษา กรรมการ
๑๐. นางสาวสวุ ารี ไวยวุฒินันท์ หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ กรรมการ
๑๑. นายพสิษฐ์ นาหว่าน หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
และเทคโนโลยี กรรมการ
๑๒. นางสาวธนพร คำสวสั ดิ์ หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ กรรมการ
๑๓. นางสาวจรรยา สวามีชัย หัวหน้างานกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น กรรมการ
๑๔. นางสาวสคุ นธลักษณ์ คำไทย หัวหนา้ ครผู ้สู อนระดบั ปฐมวยั กรรมการ
๑๕. นางสาวฑัณทกิ า อิฐไธสง ผูช้ ่วยครผู ูส้ อนระดับปฐมวัย กรรมการ
๑๖. นางสาวละออง มงุ่ แซกกลาง หัวหนา้ กลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ กรรมการและ
เลขานุการ
มีหน้าที่
๑. วางแผนการดำเนินงานวชิ าการ กำหนดสาระรายละเอยี ดของหลักสตู รระดับสถานศกึ ษา
และแนวทางการจัดสดั ส่วนสาระการเรยี นรู้ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นของสถานศึกษาให้สอดคล้อง
กับหลกั สูตรการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน สภาพเศรษฐกิจ สังคม ศลิ ปวัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาของทอ้ งถิ่น
๒. จัดทำคู่มือการบริหารหลักสตู รและงานวิชาการของสถานศึกษา นิเทศ กำกบั ติดตาม
๓. ใหค้ ำปรกึ ษาเก่ียวกับการพัฒนาหลักสตู ร การจดั กระบวนการเรียนรู้ การวดั และ
ประเมินผล และการแนะแนวใหส้ อดคล้องและเปน็ ไปตามมาตรฐานหลักสูตร
การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
๔. ส่งเสริมและสนับสนุนการพฒั นาบคุ ลากรเกีย่ วกับการพัฒนาหลักสูตร การจดั กระบวนการ
เรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลและการแนะแนวให้เป็นไปตามจดุ หมายและแนวทางการดำเนนิ การ
ของหลักสตู ร
๕. ประสานความรว่ มมือจากบคุ คล หนว่ ยงาน องคก์ รต่าง ๆ และชุมชน เพ่ือให้การใช้
หลกั สตู รเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพและมคี ณุ ภาพ
๖. ประชาสมั พันธห์ ลักสตู รและการใชห้ ลักสตู รแกน่ กั เรยี น ผูป้ กครอง ชุมชน และผู้ที่
เกี่ยวข้อง และนำขอ้ มูลป้อนกลับจากฝ่ายต่าง ๆ มาพจิ ารณาเพ่อื การปรบั ปรงุ และ
พฒั นาหลักสูตรของสถานศึกษา
๗. สง่ เสรมิ และสนับสนุนการวจิ ยั เก่ียวกับการพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้
๘. ติดตามผลการเรียนของนกั เรยี นรายบคุ คล ระดบั ชั้น ระดับชว่ งชั้น และระดับกลมุ่ สาระ
การเรยี นรใู้ นแตล่ ะปกี ารศกึ ษา เพือ่ ปรับปรุงและพัฒนาการดำเนนิ งานด้านตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา
๙. ตรวจสอบ ทบทวน ประเมนิ มาตรฐานการปฏบิ ตั ิงานของครูและการบริหารหลักสตู ร
ระดบั สถานศกึ ษาในรอบปีท่ีผา่ นมา แลว้ ใชผ้ ลการประเมนิ เพื่อวางแผนพัฒนาการปฏิบตั งิ านของครู
และการบรหิ ารหลกั สูตรปีการศกึ ษาต่อไป
73
๑๐. รายงานผลการปฏิบัติงานและผลการบรหิ ารหลักสูตรสถานศึกษา โดยเนน้ ผลการพัฒนา
คุณภาพนักเรียนต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน คณะกรรมการบริหารหลกั สูตรระดับเหนือ
สถานศกึ ษา สาธารณชนและผเู้ กยี่ วข้อง
๑๑. ให้ดำเนนิ การประชุมคณะกรรมการอย่างน้อย ภาคเรยี นละ ๒ คร้งั
ท้งั น้ี ให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งปฏิบตั ิหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสทิ ธิภาพ และบรรลุตาม
วัตถุประสงคท์ ตี่ งั้ ไว้ ตั้งแต่บัดนี้เปน็ ต้นไป
สั่ง ณ วันท่ี ๑๖ เดือน เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๓
ลงช่อื
(นายปรนิ ทร์ ศรษี ะเนตร)
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทา่ เกวยี น