The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คาบที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม การกำเนิดวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bunyanut.pt, 2022-03-20 23:17:36

คาบที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม การกำเนิดวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ

คาบที่ 1 ทบทวนความรู้เดิม การกำเนิดวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ



วงจรไฟฟ้า 2



นางสาวบุณยนุช พรมเพชร
ครูมายด์

:ชอ่ งทางตดิ ตอ่ 088-4892329

“ ข้อตกลงการเรียนในห้องเรยี น ”

เรียนทงั้ หมด 17 สัปดาห์ นกั เรยี นเข้า การลา
เรียนไม่ถงึ ร้อยละ 80 หรอื ผปู้ กครองโทรมาแจ้งครูผู้สอนกอ่ น
ขาดเกิน 4 คาบจะมี เขา้ คาบเรยี น หรือแจง้ ด้วยตนเอง
ผลการเรยี น ขร.
สาย 3 ครงั้ = ขาด 1 ครั้ง พร้อมหลักฐาน

“ มผี ลตอ่ คะแนนจติ พสิ ยั ”

3. แต่งกายถกู ตอ้ งระเบียบของโรงเรยี น

4. หา้ มเลน่ โทรศัพทม์ ือถือในเวลาเรียน

5. ห้ามนาอาหาร ลูกอม หมากฝร่งั และเครื่องดม่ื เขา้ มาในห้องเรยี น

6. ช่วยกนั รกั ษาความสะอาดในหอ้ งเรยี น และปฏบิ ัตติ ามเวรประจาอาทติ ย์

“ข้อตกลงการเรียน Online”

เรยี นทัง้ หมด 17 สัปดาห์ นักเรียนเขา้ เร่ิมเช็คชือ่ เวลา 08.45น.
เรียนไมถ่ งึ ร้อยละ 80 หรือ หลังจากเช็คชือ่ คนสดุ ท้าย = สาย
ขาดเกิน 4 คาบจะมี ระบบการเรียนผ่าน Google Meet
ผลการเรยี น ขร. ระบบการสง่ งานผ่าน Google Classroom
สาย 3 ครัง้ = ขาด 1 ครั้ง

คะแนน

“ 100 คะแนน ”

คะแนนเก็บ 60 คะแนน

• ใบงาน, แบบฝึกท้ายบทเรยี น 30 คะแนน
• สมุด 10 คะแนน
• สอบยอ่ ย 20 คะแนน

สอบปลายภาค 20 คะแนน

จิตพิสัย 20 คะแนน

“ การกาเนดิ ไฟฟา้ กระแสสลบั ”

ไฟฟ้าเกดิ จากการเหนีย่ วนา ???

แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนา และ กระแสไฟฟ้าเหน่ยี วนา
ถกู คน้ พบโดยนกั ฟิสกิ สช์ าวองั กฤษ

“ ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) “

“บดิ าแห่งไฟฟ้า”

ปรมิ าณไฟฟ้าทง้ั สองทเ่ี กดิ ข้นึ มาไดจ้ ากการเคลอ่ื นทต่ี ดั ผา่ นกนั ของขดลวดตวั นากบั สนามแมเ่ หลก็

ไมเคลิ ฟาราเดย์ ไดท้ าการคน้ ควา้ และทดลองเก่ยี วกบั แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนาเป็นคนแรก
โดยใชแ้ ท่งแมเ่ หลก็ เคลอ่ื นทผ่ี า่ นเขา้ ไปในขดลวดโซลนิ อยด์

ลกั ษณะของการเกดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนา ทเ่ี กดิ จากการนาขดลวดตวั นาและสนามแมเ่ หลก็
เคลอ่ื นทต่ี ดั ผ่านกนั

พนั ขดลวดสองขดเขา้ รอบแทง่ เหลก็ รูปวงแหวน
โดยต่อขดลวดปฐมภมู เิ ขา้ กบั สวติ ซแ์ ละแบตเตอร่ี
และต่อขดลวดทตุ ยิ ภูมเิ ขา้ กบั กลั วานอมเิ ตอร์

เมอ่ื เปิดสวติ ซ์ กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอร่จี ะไหลเขา้ ไปในขดลวดปฐมภมู ิ เกดิ สนามแมเ่ หลก็ รอบๆ
ขดลวดปฐมภูมิ สนามแมเ่ หลก็ จะเหน่ยี วนาใหเ้กดิ กระแสไฟฟ้าในขดลวดทตุ ยิ ภูมิ สงั เกตไดจ้ าก
การเบนของเขม็ ของกลั วานอมเิ ตอร์

ผลจากการทดลองดงั กลา่ ว ไมเคลิ ฟาราเดย์ ไดต้ งั้ กฎข้นึ มา เรยี กวา่
กฎการเหน่ียวนาของฟาราเดย์
(Faraday's Law of Induction)

กลา่ วไวว้ า่
“ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนาทเ่ี กดิ ข้นึ ในขดลวด

เป็นสดั สว่ นโดยตรงกบั อตั ราการเปลย่ี นแปลงของ
ฟลกั ซแ์ มเ่ หลก็ ทผ่ี ่านขดลวดนนั้ เมอ่ื เทยี บกบั เวลา "

ความสมั พนั ธข์ องแรงดนั ไฟฟ้ าเหน่ียวนาและฟลกั ซแ์ ม่เหลก็

แบง่ ออกไดเ้ป็น 3 ขอ้ ดงั น้ี
1. การเพม่ิ จานวนรอบของขดลวดตดั ผ่านสนามแมเ่ หลก็ ทาใหเ้กดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนามากข้นึ
2. การเพม่ิ ความเรว็ มากข้นึ ในการเคลอ่ื นทข่ี องขดลวดตดั ผา่ นสนามแมเ่ หลก็ ทาให้
เกดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนามากข้นึ
3. การเพม่ิ ความเขม้ ของสนามแมเ่ หลก็ มากข้นึ ทาใหเ้กดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนามากข้นึ

ความสมั พนั ธ์

แรงดนั ไฟฟ้ าเหน่ียวนาและฟลกั ซแ์ ม่เหลก็

การเพม่ิ จานวนรอบของขดลวดตดั ผ่านสนามแมเ่ หลก็
ทาใหเ้กดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนามากข้นึ

การเพม่ิ ความเรว็ มากข้นึ ในการเคลอ่ื นทข่ี องขดลวดตดั ผ่าน
สนามแมเ่ หลก็ ทาใหเ้กดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนามากข้นึ

การเพม่ิ ความเขม้ ของสนามแมเ่ หลก็ มากข้นึ
ทาใหเ้กดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนามากข้นึ

9.2

ทศิ ทางการเกดิ แรงดนั ไฟฟ้ าเหน่ียวนา กฎมอื ขวาของเฟลมมงิ
ข้ึนในขดลวดตวั นา (Fleming's Right Hand Rule)

ขั้นท่ี 1. แบมือขวาพรอ้ มกางหัวแม่มือ
ออก แล้วช้ีน้ิวท้งั ส่ีไปตามแนวการ
เคลือ่ นทข่ี องอนภุ าค(v)

ขั้นที่ 2. หันหนา้ มือแบไปตามทิศของ
สนามแม่เหลก็ ( B )

ขน้ั ท่ี 3. หวั แม่มอื ที่กางออกจะชี้บอกทิศ
ของแรงที่เกิด( F )

(Fleming's Right Hand Rule)

น้วิ ช้ี = ทศิ ทางสนามแมเ่ หลก็ (B)
น้วิ หวั แมม่ อื = ทศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องตวั นา (F)
น้วิ กลาง = ทศิ ทางของกระแสทไ่ี หลในตวั นา (I)

การหาทศิ ทางการเกดิ แรงดนั ไฟฟ้ าเหน่ียวนาข้ึนในขดลวดตวั นา
หาไดด้ ว้ ยกฎมอื ขวาของเฟลมมงิ (Fleming's Right Hand Rule)

"ใหก้ างน้วิ หวั แมม่ อื น้วิ ช้ี และน้วิ กลางวางใหต้ ง้ั ฉากซง่ึ กนั และกนั
ทศิ ทางน้วิ หวั แมม่ อื จะช้ที ศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องขดตวั นา

ทศิ ทางน้วิ ช้จี ะช้ที ศิ ทางการเคลอ่ื นทข่ี องเสน้ แรงแมเ่ หลก็ จากขวั้ เหนอื ไปขวั้ ใต้ และ
ทศิ ทางน้วิ กลางจะช้ที ศิ ทางการเกดิ แรงดนั ไฟฟ้า (และกระแสไฟฟ้าไหล)"

“ การกาเนิดไฟฟ้ ากระแสสลบั ”

ไฟฟ้ ากระแสสลบั (Alternating Currant) หรอื ไฟฟ้ า AC

ไฟฟ้าทผ่ี ลติ จากเคร่อื งกาเนิดไฟฟ้ากระแสสลบั ทเ่ี รยี กวา่ เอซเี จเนอเรเตอร์ (AC Generator)
เรยี กวา่ อลั เทอรเ์ นเตอร์ (AIternator)

ใชห้ ลกั การทางานเช่นเดยี วกบั การกาเนดิ แรงดนั ไฟฟ้าเหน่ยี วนา

โครงสรา้ งเบ้อื งตน้ ของเคร่อื งกาเนิดไฟฟ้ ากระแสสลบั

แมเ่ หลก็ ถาวร ขว้ั เหนอื (N) และขว้ั ใต้ (S)
วางขนานหา่ งกนั เพอ่ื ใหเ้กดิ สนามแมเ่ หลก็ มขี ดลวดตวั นา วางอยู่ตอนกลางในสนามแมเ่ หลก็
ขดลวดตวั นาสามารถหมนุ เคลอ่ื นทร่ี อบตวั เองได้ เพอ่ื ใหเ้กดิ การตดั ผ่านสนามแมเ่ หลก็ ตลอดเวลา

ทาใหม้ แี รงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั เกดิ ข้นึ ในขดลวดตวั นา



แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ทถ่ี กู ผลติ ข้นึ มาจะมคี ่าแรงดนั ไฟฟ้าไมค่ งท่ี
มกี ารเปลย่ี นแปลงไปมาตลอดเวลาในลกั ษณะคลน่ื ไซน์ ซง่ึ เกดิ ข้นึ จากการทข่ี ดลวด

ตวั นา (อารเ์ มเจอร)์ เคลอ่ื นทต่ี ดั ผ่านสนามแมเ่ หลก็ มมี มุ ตดั ผา่ นแตกต่างกนั

ทาใหเ้กดิ การเหน่ยี วนาสนามแมเ่ หลก็ ได้
ไมเ่ ท่ากนั สภาวะทข่ี ดลวดตวั นาเคลอ่ื นทต่ี ดั ผา่ น

สนามแมเ่ หลก็ ครบ 1 รอบ จะไดค้ ลน่ื ไซน์
ออกมารอบคลน่ื พอดี

ต่อในคาบเรยี นถดั ไป...

Illustrations

Editable Maps

Editable Maps

INDONESIA

PERU PHILIPPINES

USA ECUADOR
MEXICO
SPAIN MALAYSIA

AUSTRALIA

UNITED KINGDOM AUSTRIA

Diagram Infographics

Diagram Infographics

Social media icons

Graph icons

Emotion icons


Click to View FlipBook Version