The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานวิทยาการคำนวณ (2)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by loragwu, 2021-09-28 10:06:28

โครงงานวิทยาการคำนวณ (2)

โครงงานวิทยาการคำนวณ (2)

โครงงานคอมพิวเตอร์

เรอื่ ง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรยี ล

เสนอ

คณุ ครูฐติ ภิ ทั ร ทองมา

จัดทาโดย
1. ด.ญ.ชนดิ าภา อมรรุจิ เลขที่ 6
2. ด.ญ.ณิชานันท์ ต้ังพฒั นาประดิษฐ์ เลขที่ 16
3. ด.ญ.สุพชิ ญา ตันตธิ ญั ญพงษ์ เลขท่ี 34
4. ด.ญ.อรนลิน ธนพงศ์พิพฒั น์ เลขที่ 35

ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3.5

รายงานวชิ าวทิ ยาการคานวณ รหสั วิชา ว23108
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

โรงเรียนสตรีวทิ ยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

1

เกีย่ วกบั โครงงาน
โครงงานคอมพิวเตอร์

เร่ือง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรยี ล

number paradise

กลุ่มสาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี

ผู้จัดทา 1. ด.ญ.ชนิดาภา อมรรจุ ิ เลขท่ี 6

2. ด.ญ.ณิชานันท์ ต้ังพัฒนาประดษิ ฐ์ เลขท่ี 16

3. ด.ญ.สพุ ชิ ญา ตนั ติธัญญพงษ์ เลขที่ 34

4. ด.ญ.อรนลนิ ธนพงศ์พิพัฒน์ เลขที่ 35

ครทู ีป่ รึกษา คุณครูยศวรษิ ฐ์ เพิ่มวณิชย์

สถานศึกษา โรงเรียนสตรีวิทยา เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร

ปกี ารศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

2

บทคดั ยอ่

ชอ่ื โครงงาน แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรยี ล
number paradise
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3.5
ภาคเรียนที่ 1

ปกี ารศึกษา 2564

ครทู ีป่ รึกษา คณุ ครูยศวรษิ ฐ์ เพ่มิ วณิชย์

โครงงานเร่ือง แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรยี ล (number paradise) จดั ทาขึน้ เพ่ือศกึ ษาการสร้างผลงาน
ดา้ นคอมพิวเตอร์ โดยมเี น้อื หาเกีย่ วกบั การแยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรยี ลอย่างมปี ระสทิ ธิภาพและ
รวดเรว็ ซง่ึ เป็นหวั ขอ้ ในการสรา้ งผลงานดา้ นคอมพวิ เตอร์ เนอื่ งจากกล่มุ ขา้ พเจา้ ต้องการศึกษาเร่ืองการแยกตวั
ประกอบและหาแฟกทอเรียล โดยได้จัดทาเปน็ โครงงานเพื่อศึกษาและเพื่อร่นุ ต่อไป
รวมถึงบุคคลท่ัวไปท่ีต้องการศึกษาเพ่ือประเมินความเหมาะสมในการแยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรียล
และนอกจากนย้ี ังมี เน้อื หาอน่ื ท่ีน่าสนใจศึกษาและพัฒนาต่อไปได้อีก

3

กิตติกรรมประกาศ

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เรื่อง แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise) ประกอบวชิ าโครงงาน
คอมพวิ เตอร์ โดยมีการสร้างผลงานด้านคอมพิวเตอร์ สามารถดาเนนิ งานไปอย่างมีระบบ ตามข้นั ตอนทว่ี างไว้
จนทาให้งานสาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี เน่อื งจากการเรียนการสอนและการให้คาปรึกษาแนะนาจาก ครูท่ีปรึกษา
ประจาวชิ าโครงงานคอมพิวเตอร์
ซึ่งใหค้ วามรู้ทางดา้ นวิชาการและตลอดจนการให้คาแนะนาในการทาโครงงาน เรอื่ ง แยกตวั ประกอบและ
หาแฟกทอเรียล (number paradise) พรอ้ มท้งั ยังอธิบายวธิ ีการทาและโปรแกรมทางคอมพวิ เตอร์ คอื เพื่อใช้
ประกอบกบั โครงงาน จากคาแนะนาของครูทป่ี รึกษา ทาให้กล่มุ ขา้ พเจ้ามแี นวทางในการดาเนินงานและทางาน
กันได้อย่างเป็นระบบ จนสาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี จึงขอขอบพระคณุ มาไว้ ณ ท่ีนี้ด้วย

คณะผจู้ ัดทา

1. ด.ญ.ชนิดาภา อมรรจุ ิ เลขท่ี 6p
2. ด.ญ.ณชิ านนั ท์ ตั้งพัฒนาประดิษฐ์ เลขท่ี 16
3. ด.ญ.สุพชิ ญา ตนั ติธญั ญพงษ์ เลขท่ี 34
4. ด.ญ.อรนลนิ ธนพงศ์พพิ ัฒน์ เลขที่ 35

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3.5

4

สารบญั

หน้า

บทคัดย่อ....................................................................................................................... 2
กิตติกรรมประกาศ........................................................................................................ 3
สารบญั ......................................................................................................................... 4
บทที่

1 บทนา.............................................................................................................. 5
แนวคิดและความสาคัญ.................................................................................. 5

วตั ถุประสงค์.................................................................................................... 5
ขัน้ ตอนการดาเนนิ งาน.................................................................................... 5
แผนการดาเนินงาน......................................................................................... 5
ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ.............................................................................. 5
2 เอกสารทเี่ กี่ยวข้อง.......................................................................................... 7
โครงงานคอมพิวเตอร์
ความหมายของโครงงานคอมพวิ เตอร์............................................................ 7
องค์ประกอบของโครงงานคอมพิวเตอร์.......................................................... 7
ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์.................................................................. 8
ขนั้ ตอนการทาโครงงานคอมพิวเตอร์.............................................................. 8
โปรแกรมทีใ่ ช้ในการทาโครงงาน
ลกั ษณะและรปู ลักษณ์ของโปรแกรม............................................................... 12
คมู่ ือการใชโ้ ปรแกรม....................................................................................... 12
3 วธิ ีดาเนินการ................................................................................................. 14
การเตรยี มพัฒนาโครงงาน............................................................................... 14
การลงมอื พัฒนา............................................................................................. 14
4 ผลการดาเนินการ............................................................................................ 15
5 อภปิ รายผล ประโยชนท์ ไี่ ด้รบั จากโครงงาน และขอ้ เสนอแนะ..................... 17
อภิปรายผล………………………………………………................................................ 17
ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากโครงงาน……………………………......................................... 17
ข้อเสนอแนะ.................................................................................................... 17
6 ภาคผนวก
ก ประมวลภาพในการทางาน…………………………………………………................ 19
7 ประวตั ผิ ู้จัดทา………………………………………………….............……….................. 20
8 บรรณานกุ รม……………………………………………………………………………............. 21

5

บทที่ 1
บทนา

แนวคิด และความสาคญั
จุดมงุ่ หมายของการแยกตวั ประกอบคือการลดทอนวตั ถุใหเ้ ลก็ ลงอาทจิ ากจานวนไปเปน็ จานวนเฉพาะ จากพหุ
นามไปเปน็ พหุนามลดทอนไม่ได้ (irreducible polynomial) การแยกตัวประกอบจานวนเตม็ เป็นส่วนหน่ึง
ของทฤษฎบี ทมูลฐานของเลขคณิต ส่วนการแยกตัวประกอบพหุนามเปน็ สว่ นหนึ่งของทฤษฎีบทมูลฐานของ
พชี คณิต สาหรบั พหนุ ามสง่ิ ท่ีตรงข้ามกบั การแยกตวั ประกอบคือการกระจายพหนุ าม (polynomial
expansion) ซงึ่ เป็นการคูณตัวประกอบทกุ ตวั เขา้ ด้วยกันเป็นพหนุ ามใหม่
การแยกตัวประกอบจานวนเต็มสาหรบั จานวนขนาดใหญ่อาจกลายเป็นขอ้ ปญั หาท่ยี งุ่ ยาก ซึง่ ไม่มีวธิ ีใดท่ี
สามารถแยกตัวประกอบจานวนขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเรว็ กลุ่มเราจึงคดิ โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่องการแยกตัว
ประกอบและหาแฟกทอเรียลขึน้ มา

วตั ถปุ ระสงค์
1. เพอ่ื ใชแ้ ยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียล
2. เพ่อื ใช้แก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ได้อยา่ งรวดเรว็
3. เพอ่ื ให้ผใู้ ชม้ ีความสะดวกสบายในการใช้งาน

ขนั้ ตอนการดาเนนิ งาน

1. คิดหวั ข้อเร่ืองโครงงาน
2. ศกึ ษาและคน้ คว้าข้อมลู ในการทางานโปรแกรม
3. จดั ทาผังงาน (Flowchart) และอลั กอรทิ ึม (Algorithm)
4. เร่มิ การทาแอปพลิเคช่ัน (Application)
5. นาเสนอ
6. ปรบั ปรงุ แอปพลิเคช่ัน (Application)
7. จัดทาเอกสารรายงาน
8. ประเมนิ ผลงาน

6

แผนการปฏิบตั ิงาน
1. สามารถแยกตวั ประกอบได้
2. สามารถหาแฟกทอเรยี ลได้
3. สามารถป้อนตัวเลขไปยงั ช่องได้

ประโยชนท์ ่คี าดวา่ จะได้รับ
1. เพ่อื อานวยความสะดวกในการแยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรยี ล
2. เพอื่ ใหค้ วามรวดเร็วในการหาตวั ประกอบและแฟกทอเรยี ล
3. เพือ่ เปน็ การรวมฟงั กช์ ่ันหลายฟังกช์ ่ันไวใ้ นแอปพลเิ คชนั้ ชน่ั เดียว

7

บทที่ 2
เอกสารทีเ่ กี่ยวข้อง

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เร่อื ง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise) จัดทาขน้ึ เพ่ืออานวย
ความสะดวกในการหาตวั ประกอบและการหาแฟกทอเรียล ประกอบวชิ าพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยมี
เนื้อหาเกีย่ วกับการแยกตวั ประกอบ, หาตวั ประกอบและการหาแฟกทอเรียล เพอื่ ใหผ้ ู้ใช้งานไดร้ ับความสะดวก
และรวดเร็วในการคดิ เลขและจดั เปน็ โครงงานคอมพิวเตอร์ประเภทการประยกุ ต์ใช้งาน มหี ลักและทฤษฎที ี่
เก่ียวขอ้ งดงั น้ี

โครงงานคอมพวิ เตอร์
1. โครงงานคอมพิวเตอร์ คอื กจิ กรรมการเรยี นท่ีนักเรียนมีอสิ ระในการเลือกศึกษาปัญหา โดยจะตอ้ งวาง
แผนการดาเนนิ งาน ศกึ ษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวศิ วกรรมซอฟต์แวร์ เครื่อง
คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณท์ เี่ ก่ียวขอ้ ง ตลอดจนทกั ษะพนื้ ฐานในการพัฒนาโครงงาน
2. องค์ประกอบของโครงงานคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วย
2.1 ชือ่ โครงงาน ถ้าเป็นโครงงานเกยี่ วกับเวบ็ ไซต์ ใช้ช่อื โครงงานว่า การพฒั นาเว็บไซต์ เร่ือง number
paradiseข้างตน้ ได้แก่ โครงงานพัฒนาสอื่ เพ่ือการศึกษา โครงงานพัฒนาเครอ่ื งมือ โครงงานประเภทการ
ทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทการประยุกต์ใชง้ าน และโครงงานพฒั นาเกม
2.2 ชอ่ื -สกลุ ผทู้ าโครงงาน
2.3 ช่อื อาจารยท์ ่ีปรึกษาโครงงาน
2.4 ระยะเวลาดาเนนิ งาน ให้ระบุเวลาเปน็ จานวนวัน
2.5 แนวคิด ทีม่ า และความสาคัญ เร่ืองที่ทาเป็นเร่ืองใหม่หรอื มผี ้อู ่นื ศึกษาค้นควา้ มาก่อนแล้ว ถ้ามีผอู้ ่ืนศึกษา
มาก่อนแลว้ ผลท่ีได้เป็นอยา่ งไร และเรื่องที่ทาน้ีจะปรบั ปรุงจากเรอ่ื งทผ่ี อู้ ่ืนทาไว้อย่างไร หรอื เป็นการทาซา้ เพื่อ
เพิ่มประสทิ ธิภาพ
2.6 วตั ถุประสงค์ หลกั การเขียนตอ้ งเขียนเปน็ ข้อๆ และสัมพนั ธม์ าจากช่ือเรอื่ งของโครงงาน
2.7 หลักการและทฤษฎี อธิบายถงึ หลักการและทฤษฎที ีเ่ ก่ียวข้องกบั โครงงาน เช่น โครงงานพฒั นาเว็บไซต์
ควรจะกล่าวถึงองค์ประกอบในการออกแบบเวบ็ ไซต์และข้อพิดพลาดในการสร้างเวบ็ ไซต์ เป็นต้น
2.8 วธิ ดี าเนินงาน
- อุปกรณ์ทตี่ ้องใช้ ระบุวัสดุอุปกรณ์ทีจ่ าเป็นต้องใช้มีอะไรบา้ ง วัสดอุ ุปกรณเ์ หล่าน้นั อยู่ที่ใด และมชี ้ินใดบ้างที่
ตอ้ งจัดซ้ือหรอื หยิบยกมาจากทตี่ ่างๆ
- กาหนดคุณลักษณะของผลงาน และเทคนคิ ท่ีใชใ้ นการพัฒนา

8
- แนวทางการศึกษาคน้ คว้าและพัฒนา อธบิ ายถึงกระบวนการแก้ปัญหาที่ออกแบบไว้ และการเกบ็ ข้อมูล
การวิเคราะห์ การพฒั นา การทดสอบ และการนาเสนอผลงาน
- งบประมาณที่ใช้
2.9 แผนปฏบิ ัตงิ าน ใชร้ ะบวุ ่า มีแผนหรอื ข้นั ตอนทาอะไรบ้าง แต่ละข้นั ตอนใชเ้ วลากี่วนั เป็นต้น
2.10 ผลทคี่ าดว่าจะไดร้ ับ
2.11 เอกสารอ้างอิง
3. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น
3.1 โครงงานพฒั นาสื่อเพื่อการศกึ ษา
3.2 โครงงานพัฒนาเครอื่ งมือ
3.3 โครงงานจาลองทฤษฎี
3.4 โครงงานประยุกตใ์ ชง้ าน
3.5 โครงงานพฒั นาเกม
4. ขนั้ ตอนการพัฒนาโครงงานคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วย 6 ข้นั ตอน ดังน้ี

4.1 การคดั เลือกหวั ข้อท่ีสนใจ เร่อื งท่นี ามาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ ได้มาจากปัญหา
คาถาม ความสนใจ การสังเกต ประสบการณห์ รือสิ่งของต่างๆ รอบตวั ท่ีเก่ียวเนื่องกับระบบคอมพิวเตอร์ เชน่
การอา่ นคน้ คว้าจากหนังสอื เอกสาร หนังสอื พิมพ์ วารสาร เวบ็ ไซด์ การเยี่ยมชมสถานทต่ี ่างๆ การฟังบรรยาย
ทางวชิ าการ รายการวิทยแุ ละโทรทัศน์ การสนทนา การแลกเปล่ยี นความคิดเห็นกับบุคคลอื่น กิจกรรมการ
เรยี น การสอนในโรงเรยี น งานอดเิ รก อยา่ งไรก็ตาม ในการตดั สินใจเลือกหวั ข้อท่ีจะนามาพัฒนาการโครงงาน
คอมพิวเตอร์ ควรคานงึ ถึงองค์ประกอบสาคัญตอ่ ไปนี้
- ต้องมีความรูแ้ ละทักษะพืน้ ฐานอยา่ งเพยี งพอในหวั ข้อที่จะศึกษา
- สามารถจดั หาเคร่ืองคอมพิวเตอร์และซอฟตแ์ วร์ทเี่ กยี่ วข้องได้
- มแี หล่งความรู้เพยี งพอท่จี ะศึกษา
- มเี วลาเพียงพอในการจัดทาโครงงาน
- มีงบประมาณเพยี งพอในการจัดซ้อื อุปกรณ์เพื่อทาโครงงาน
- มคี วามปลอดภัยจากอุบัตเิ หตุที่อาจเกดิ ขึน้ จารการทางาน

4.2 การศึกษาคน้ คว้าเอกสาร การไดศ้ ึกษาโครงงานคอมพวิ เตอร์ในแหล่งข้อมูลต่างๆ รวมถงึ
การขอคาปรึกษาจากผู้เช่ยี วชาญ จะช่วยใหม้ แี นวคิดในการกาหนดขอบเขตของเรอ่ื งที่จะศึกษาได้
เฉพาะเจาะจงมากยง่ิ ขึ้น รวมทั้งไดร้ บั ความรู้เพิ่มเตมิ ในเร่อื งทจี่ ะศึกษาจนสามารถออกแบบและวางแผน
ดาเนนิ การทาโครงงานนัน้ ไดอ้ ย่างเหมาะสม โดยจะต้องบนั ทกึ สรุปสาระสาคัญไวด้ ้วยเสมอ เมอ่ื ศกึ ษาค้นคว้า
และบันทึกข้อมลู มาแลว้ จึงนาโครงงานคอมพิวเตอรม์ าวเิ คราะห์ โดยมีประเดน็ ท่ตี อ้ งพิจารณา ดังน้ี

9

1) มลู เหตุจูงใจ และเป้าหมายในการทาโครงงาน

2) การดาเนินการพฒั นาโครงงาน

3) วัสดุ อุปกรณต์ ่างๆ ซงึ่ รวมถงึ เครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ทีต่ ้องใช้ในการดาเนินการและตัวแปลภาษา

โปรแกรมทีต่ ้องใช้

4) ความต้องการของผ้ใู ช้และคณุ ลกั ษณะของผลงาน

5) กลุม่ ผทู้ ดลองใชโ้ ครงงานและวิธีการประเมนิ ผล 6) วิธีการ

พฒั นาโครงงาน

7) ขอ้ สรุปของโครงงาน

8) ความแปลกใหม่ ความคิดสรา้ งสรรคข์ องผู้ทาโครงงาน

9) แนวทางในการปรับปรุงหรือขยายการทดลองจากงานเดิม

ผลทไ่ี ดจ้ ากการดาเนินงานขั้นตอนนี้ จะช่วยใหไ้ ด้แนวคิดในการกาหนดขอบขา่ ยหรือเค้าโครงของเรอื่ งทจี่ ะ
ศกึ ษาชดั เจนว่า จะทาอะไร ทาไมต้องทา ต้องการให้เกิดอะไร ทาอยา่ งไร ใช้ทรัพยากรอะไร ทากับใคร และจะ
เสนอผลงานอยา่ งไร

4.3 การจดั ทาข้อเสนอโครงงาน เปน็ การกาหนดกรอบแนวคิดและวางแผนการพฒั นาไวล้ ่วงหน้าเพอ่ื ชว่ ยให้
สามารถคาดการณ์หรือความเป็นไปได้ของการทาโครงงานน้ี เสนอหวั ข้อโครงงานเพ่ือขอคาปรึกษาจากอาจารย์
ท่ปี รกึ ษา หรือผูเ้ ชย่ี วชาญทเี่ ก่ียวขอ้ ง ซง่ึ โดยท่ัวไปการทาข้อเสนอโครงงานคอมพวิ เตอร์มีขัน้ ตอนทีส่ าคัญ ดังน้ี
1) ศกึ ษาคน้ ควา้ เอกสารอ้างอิง และรวบรวมข้อมลู ที่ไดจ้ ากผู้เชยี วชาญ
2) วเิ คราะห์ข้อมลู เพ่อื กาหนดขอบเขตและลักษณะของโครงงานทจี่ ะพฒั นา
3) ออกแบบการพฒั นา มกี ารกาหนดลกั ษณะของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วรแ์ ละตัวแปล ภาษาโปรแกรม
และวสั ดุตา่ งๆ ท่ตี ้องใช้ กาหนดคณุ ลักษณะของผลงาน ระบเุ ทคนคิ ทีใ่ ชใ้ นการพฒั นา พร้อมทั้งกาหนดตาราง
การปฏบิ ตั ิงาน
4) ทาการพัฒนาโครงการขนั้ ตน้ เพ่อื ศึกษาความเปน็ ไปได้ โดยอาจจะทาการพฒั นาส่วนยอ่ ยๆ บางสว่ นตามม่ี
ได้ออกแบบไว้ แล้วนาผลศึกษาไปปรับปรงุ ผลการทดลองท่ีได้ออกแบบให้เหมาะสม
5) จดั ทาและเสนอขอ้ เสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ ตอ่ อาจารยท์ ป่ี รกึ ษา เพื่อขอคาแนะนาและปรับปรงุ แกไ้ ข ให้
สามารถวางแผนและดาเนินการทาโครงงานต่อไปเป็นขั้นเป็นตอนตง้ั แต่เริ่มจนเรียบรอ้ ย

4.4 การพัฒนาโครงงาน เปน็ การลงมอื ทาโครงงานตามข้อเสนอโครงงานทวี่ างแผนไว้ ตามขน้ั ตอนตอ่ ไปน้ี
1) การเตรยี มการ เปน็ การเตรียมเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ซอฟตแ์ วร์ และวัสดุอน่ื ๆ ที่จะใชใ้ นการทดลอง พร้อม
ท้งั จัดเตรียมสถานท่ีสาหรบั ใช้ในการทาโครงงาน เตรยี มสมุดบนั ทึกการทากจิ กรรมต่างๆ

10
ระหว่างทากจิ กรรมโครงงาน ดงั นี้ วธิ กี ารปฏบิ ตั ิ ผลการปฏิบตั ิ ปัญหาและแนวทางแก้ไข รวมท้ังขอ้ สังเกต
ต่างๆ ท่พี บ เก็บเปน็ แฟ้มข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพวิ เตอร์
2) การลงมือพัฒนา เป็นการปฏิบตั ติ ามแผนงานที่วางไว้ในข้อเสนอโครงงาน แต่อาจเปล่ยี รแปลงหรอื เพ่ิมเตมิ
ได้ นอกจากนย้ี ังรวมถึงจดั ระบบการทางานโดยทาเปน็ สว่ นหลกั สาคญั ๆ ให้แลว้ เสรจ็ ก่อน จงึ คอ่ ยทา
สว่ นประกอบหรือสว่ นเสรมิ เพื่อใหโ้ ครงงานมีความสมบรู ณม์ ากขึ้น โดยคานึงถงึ ความปลอดภัย และระยะเวลา
ในการทางาน
3) การตรวจสอบผลงานและแกไ้ ข เป็นการตรวจสอบความถกู ต้องของผลงานเพื่อให้แน่ใจวา่ ผลงานท่ี
พฒั นาขึ้นมาน้นั ทางานได้ถูกต้องตรงกบั ความต้องการที่ระบุไวใ้ นเปา้ หมาย และมีประสิทธภิ าพหรือไม่
4) การอภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ เป็นการสรุปการพฒั นาโครงงานด้วยข้อความท่ีกระชบั ครอบคลุม และ
ทาการอภปิ รายผลเพ่ือช่วยให้ผูอ้ า่ นไดเ้ ขา้ ใจถึงสง่ิ ที่ค้นพบจากการทาโครงงาน สามารถพิจารณาข้อมลู และผล
ท่ไี ด้ พร้อมกับนาไปหาความสมั พันธ์กับผลงานท่ีผู้อี่นได้ศกึ ษาไวแ้ ลว้ ทั้งนย้ี งั รวมถงึ การนาหลักการ ทฤษฎี
หรือผลงานของผูอ้ น่ื มาใช้ประกอบการอภปิ รายผลที่ไดด้ ว้ ย
5) แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ เปน็ การเขยี นข้อเสนอแนะและสิง่ ท่ีควรจะศกึ ษา
ต่อไป ซึง่ อาจไดม้ าจากท่นี ักเรียนพบข้อสังเกต ประเดน็ ที่สาคัญหรอื ปัญหาตา่ งๆ ในระหวา่ งการพฒั นา
โครงงาน

4.5 การจัดทารายงาน เป็นการรวบรวมข้อมลู ผลการวเิ คราะหแ์ ละอภปิ ราย ผลการพัฒนาโครงงานซงึ่
รวมถึงคู่มือการใช้งานมาจัดทาเปน็ รายงาน เพ่ือสอ่ื ความหมายให้ผู้อืน่ ได้เข้าใจแนวคิด วิธกี ารดาเนินการศึกษา
ค้นคว้า ข้อมูลท่ีได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกย่ี วกับโครงงาน ในการเขียนรายงานควรใช้
ภาษาที่เข้าใจง่าย ชดั เจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลมุ หัวขอ้ ตา่ งๆ ดงั ต่อไปนี้

1) สว่ นนา เปน็ การให้ข้อมลู เกย่ี วกบั โครงงาน ซง่ึ ประกอบด้วย ชือ่ โครงงาน ช่อื สาขาของงานวจิ ยั ช่ือผทู้ า
โครงงาน ช่อื อาจารย์ทป่ี รึกษา คาขอบคณุ บุคลากรหรอื หน่วยงานต่างๆ ทม่ี ีสว่ นช่วยใหโ้ ครงงานนส้ี าเร็จ และ
บทคดั ย่อซง่ึ อธิบายทีม่ าความสาคญั ของโครงงาน วตั ถุประสงค์ วิธีการดาเนนิ งาน และผลที่ได้รับ ตลอดจน
ข้อสรุปต่างๆอย่างย่อ

2) บทนา เปน็ รายละเอียดเนื้อหาของโครงงาน ประกอบด้วยทม่ี าและความสาคัญของโครงงาน วตั ถปุ ระสงค์
และขอบเขตของโครงงาน

3) หลกั การและทฤษฎี เป็นสว่ นสรปุ ขอ้ มลู ทไี่ ด้จากการศึกษาหาข้อมลู หรอื หลกั การ ทฤษฎีหรอื วิธีการทจ่ี ะ
นามาใช้ในการพฒั นาโครงงาน รวมถึงการระบผุ ลงานของผอู้ ่ืนมาเปรียบเทยี บหรือพัฒนาเพมิ่ เติม

4) วิธีดาเนินการ เปน็ การอธิบายข้ันตอนการดาเนนิ งานโดยละเอยี ด ระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบ วิธีการที่ใช้
แก้ไข พร้อมทง้ั ระบุวสั ดุ อปุ กรณ์ท่ตี ้องใชใ้ นการทางาน

11

5) ผลการศกึ ษา เปน็ การนาเสนอขอ้ มูลใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจโครงงานได้โดยงา่ ย ดว้ ยการนาเสนอเปน็ ตาราง หรือ
กราฟ หรอื ขอ้ ความ

6) สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ เปน็ การอธบิ ายผลสรุปท่ไี ด้จากการทางาน ถา้ มีการตัง้ สมมุติฐานควรระบดุ ว้ ยวา่
ข้อมลู ที่ได้ สนบั สนนุ หรือคดั ค้านหรือยงั สรปุ ไม่ได้ นอกจากนน้ั ควรกล่าวถึงการนาผลการทดลองไปใช้

ประโยชน์ อปุ สรรคและข้อผดิ พลาดท่เี กดิ ข้นึ จากการทาโครงงาน รวมทง้ั ข้อเสนอแนะเพ่ือใช้เปน็ แนวทางใน
การปรับปรุง หากมผี ู้สนใจศกึ ษาคน้ คว้าควรระบุประโยชน์ท่ไี ดร้ บั จากการทาโครงงาน รวมถึงประโยชนท์ จ่ี ะ
ได้รับจากการนาผลงานไปใช้

7) บรรณนกุ รม เปน็ การรวบรวมรายชือ่ หนงั สอื วารสาร เอกสาร และเว็บไซต์ต่างๆ ทผ่ี ทู้ าโครงงานใช้ค้นคว้า
เพ่อื ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดตา่ งๆ เพื่อนามาใชป้ ระโยชน์ในการทาโครงงาน

8) คมู่ ือการใช้งาน หากโครงงานท่จี ดั ทาเป็นการพฒั นาขนึ้ มาใหม่ ควรจัดทาคู่มืออธบิ ายวิธีการใชง้ านโดย
ละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
(1) ชอื่ ผลงาน
(2) ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ เปน็ การระบรุ ายละเอียดของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้
ผลงานนนั้
(3) ความตอ้ งการของซอฟตแ์ วร์ เป็นการระบุราบช่อื ซอฟต์แวรท์ ต่ี ้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพอ่ื จะให้
ผลงานน้ันทางานได้อยา่ งสมบูรณ์
(4) คุณลักษณะของผลงาน อธบิ ายวา่ ผลงานนัน้ ทาหน้าทอ่ี ะไรบา้ ง ข้อมูลรบั เขา้ และข้อมูลสง่ ออกคืออะไร
(5) วิธกี ารใช้งานของของแตล่ ะฟงั กช์ ัน อธิบายว่าต้องกดคาสงั่ ใด หรอื กดปุ่มใดเพื่อใหท้ างานฟงั ก์ชนั ตา่ งๆ ได
(6) ข้อแนะนาในการใช้งาน เพื่อใหผ้ ลงานนน้ั สามารถทางานได้ดีทีส่ ดุ

คมู่ อื การใช้งาน สามารถแยกออกจากรายงานฉบับสมบรู ณ์ หรือใส่ไว้เปน็ ภาคผนวกของรายงานฉบบั สมบูรณ์
กไ็ ด้ ซึง่ ผู้เขยี นรายงานควรเขียนใหช้ ดั เจน ใชศ้ ัพทเ์ ทคนิคที่ถูกต้อง ใช้ภาษาทีเ่ ข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา และ
ครอบคลุมประเดน็ สาคัญทงั้ หมดของโครงงาน

4.6 การนาเสนอและเผยแพร่ เปน็ ขนั้ ตอนท่ีทาใหผ้ ู้อ่ืนได้รับรูแ้ ละเข้าใจถึงผลงานของผู้จัดทาซ่งึ นาเสนอได้
หลายรูปแบบ เชน่ การแสดงผลงานโดยไมม่ กี ารอธบิ ายประกอบ การจดั นิทรรศการ การใชเ้ ครื่องฉายภาพทบึ
แสงหรือโปร่งแสงร่วมกบั เอกสาร การใชค้ อมพวิ เตอร์และเพาเว่อพอยตน์ าเสนอรว่ มกับโพรเจกเตอร์และ
จอรบั ภาพ การสร้างเวบ็ เพจl

12

โปรแกรมทใ่ี ช้ในการทาโครงงาน
FoxPro
เร่อื ง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise)

การสร้างระบบงานขึน้ มาสกั หนึง่ ระบบนนั้ จาเปน็ อย่างยิ่งท่ีจะต้องมกี ารเขยี นโปรแกรมมาควบคมุ การทางาน
ของสว่ นตา่ งๆ ให้เป็นไปตามความต้องการของผูใ้ ชง้ าน ในการเขยี นโปรแกรมแตล่ ะภาษาจะมีวธิ ีการเขยี น
แตกตา่ งกนั ออกไป แต่โดยหลักการแล้วไมว่ ่าคุณจะทาการเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษาอะไรกต็ ามคาสง่ั และ
ฟังกช์ ัน่ จะไมเ่ หมือนกันซกั ทเี ดียว แต่หลกั และวธิ กี ารเขียนโปรแกรมจะเป็นในแนวทางเดียวกันในยคุ ปัจจบุ ันนี้
วธิ ีการเขยี นโปรแกรม ได้พฒั นาไปเป็นการเขียนโปรแกรมเชงิ วัตถุ (Object-Oriented Programming OOP)
ซึ่งกอ่ นหน้านเ้ี ราเคยชินกับการเขียนโปรแกรม แบบโครงสร้าง(Structure Programming) จะสังเกตไดว้ า่
พฒั นาการดา้ นโปรแกรมได้มีความกา้ วหนา้ ขนึ้ เร่ือยๆ ซึง่ จะอานวยความสะดวกในการเขยี นโปรแกรมให้แก่
ผู้พัฒนาระบบงานมากยิ่งข้ึนกวา่ เม่ือก่อน Visual FoxPro ก็เป็นอีกหน่ึงโปรแกรมทไ่ี ด้พัฒนามาจนกระทัง่ เปน็
โปรแกรมแบบ OOP ซ่งึ กอ่ นจะพัฒนามาเปน็ Visual FoxPro นน้ั โปรแกรมได้พฒั นาเริ่มต้นมาจาก FoxBase,
FoxPro แล้วก็มาถงึ Visual FoxPro ที่เรากาลังกลา่ วถึงอยู่นี้
เรมิ่ เขยี นโปรแกรมแรก
เม่อื คุณเขา้ สโู่ ปรแกรม Visual FoxPro แล้ว ใหค้ ุณสรา้ งโปรแกรมตามตวั อยา่ งดังน้ี

1. จากเมนู File เลอื กคาส่ัง New
2. เลอื ก Program
3. พมิ พ์ชือ่ โปรแกรม วา่ Program1 หรอื ทาการพมิ พค์ าสงั่ ผา่ นทาง Command Window โดยพมิ พ์
คาสงั่ MODIFY COMMAND Program1 แล้วกดปุม่ Enter
Visual FoxPro จะทาการสร้างหน้าต่างข้นึ มาให้โดยมีชือ่ ว่า Program1 ซง่ึ กค็ ือชอ่ื ไฟล์ ถึงตอนน้ีคณุ กท็ าการ
ป้อนคาส่ังตามตัวอยา่ งเข้าไปไดเ้ ลย
หลงั จากทป่ี ้อนเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว ใหท้ าการบนั ทึกโปรแกรม โดยการกดปุ่ม Ctrl-W หรอื จากเมนู File เลือก
คาสง่ั Save ก็ได้

13

ตอนนเ้ี รากส็ ามารถเรียกโปรแกรมข้ึนมาใชง้ านไดแ้ ล้วโดย
1. จากเมนู Program เลือกคาส่งั Do
2. เลือกโปรแกรมทต่ี อ้ งการ ซึ่งก็คือ Program1 แลว้ คล๊กิ ท่ปี ่มุ DO หรอื ทาการพิมพ์คาสัง่ ผ่านทาง

Command Window โดยพมิ พ์ คาสง่ั DO Program1 แลว้ กดปุ่ม Enter
ถงึ ตอนน้ีถา้ คุณทาสาเร็จคุณก็จะไดเ้ หน็ หนา้ ต่างขยาย แลว้ ก็เคลอ่ื นท่ีได้ ก็ขอแสดงความยนิ ดีกบั คณุ ดว้ ย
ในตอนนี้คุณยงั ไม่ต้องไปสนใจว่าโปรแกรมน้ีมคี าสง่ั อะไรทาไมถึงเขยี นแบบเดก็ ๆ ซึ่งคาส่ังและวิธีการต่างๆ ผม
จะทาการอธิบายให้เข้าใจในตอนตอ่ ๆไป
ในกรณีที่คุณต้องการแก้ไขโปรแกรม

1. จากเมนู File เลอื กคาส่ัง Open
2. เปล่ีย file of type เปน็ Program
3. เลือกโปรแกรมทต่ี อ้ งการ แลว้ คลิก๊ ป่มุ OK หรอื ทาการพมิ พค์ าส่งั ผา่ นทาง Command Window
โดยพิมพ์ คาสงั่ MODIFY COMMAND Program1 แล้วกดป่มุ Enter

14

บทท่ี 3
วธิ ดี าเนินการ

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เรอ่ื ง แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรยี ล (number paradise) จัดทาข้นึ เพื่ออานวย
ความสะดวกในการหาตัวประกอบและการหาแฟกทอเรียล ประกอบวิชาพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ โดยมี
เน้อื หาเก่ยี วกบั การแยกตวั ประกอบ, หาตัวประกอบและการหาแฟกทอเรียล เพือ่ ใหผ้ ใู้ ชง้ านได้รบั ความสะดวก
และรวดเร็วในการคิดเลขและจัดเป็นโครงงานคอมพวิ เตอร์ประเภทการประยุกต์ใช้งาน

วเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรม

1.เลอื กหวั ข้อโครงงาน เรอื่ ง แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรยี ล (number paradise)
2.ศึกษาคน้ คว้าข้อมลู จากเอกสาร เวบ็ ไซต์ และแหลง่ ข้อมลู อื่นๆ เกี่ยวการทาแอปพลิเคช่นั แยกตัวประกอบ
และหาแฟกทอเรียล และวธิ กี ารทาแอปพลิเคช่นั โดยใช้โปรแกรม FoxPro รวมถงึ ขอคาปรกึ ษาจากคุณครทู ี่
ปรกึ ษา
3.นาข้อมูลทร่ี วบรวมได้จากแหลง่ ข้อมูลมาวิเคราะห์ แลว้ ทาการออกแบบแอปพลิเคชน่ั จัดทาผงั งาน
(flowchart) และเขยี นอัลกอรทิ ึม (algorithm)
4.ลงมือทาแอปพลิเคช่นั แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรียล โดยใช้โปรแกรม FoxPro
5.ตรวจสอบและปรบั ปรุงแก้ไขแอปพลเิ คชัน่ ให้มีความสมบูรณ์มากย่ิงขึน้
6.ทารปู เลม่ โครงงาน แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรยี ล (number paradise)
7.เตรียมนาเสนอโครงงาน

วิธีการใชง้ านแอปพลเิ คชัน่
1.เปิดโปรแกรม
2.ป้อนตัวเลข
3.เลอื กวา่ จะแยกตัวประกอบ หาตวั ประกอบ หรอื หาแฟกทอเรยี ล
4.กดตกลง (enter)
5.แสดงผลลัพธท์ ่ีได้
6.จบการทางาน

15

บทท่ี 4
ผลการดาเนนิ การ

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เรอ่ื ง แยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise) จัดทาขน้ึ เพ่ืออานวย
ความสะดวกในการหาตัวประกอบและการหาแฟกทอเรยี ล ประกอบวิชาพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยมี
เนอื้ หาเก่ียวกบั การแยกตัวประกอบ, หาตัวประกอบและการหาแฟกทอเรียล เพื่อใหผ้ ใู้ ช้งานได้รบั ความสะดวก
และรวดเร็วในการคดิ เลขและจัดเปน็ โครงงานคอมพวิ เตอร์ประเภทการประยุกต์ใช้งาน
รปู แบบหนา้ จอพรอ้ มอธิบาย

หน้าแรกแอปพลเิ คช่นั

ปอ้ นตัวเลขพร้อมเลือก ‘หาตัวประกอบ’

16
เพ่ิมตวั เลขพรอ้ มเลอื ก ‘แยกตัวประกอบ’

เพิ่มตวั เลขพรอ้ มเลอื ก ‘N!’ (เป็นการหาแฟกทอเรยี ล)

17

บทท่ี 5
อภิปรายผล ประโยชน์ทไี่ ด้รบั จากโครงงาน และข้อเสนอแนะ

โครงงานคอมพวิ เตอร์ เรอ่ื ง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise) จดั ทาขึ้น เพื่อศึกษา
การแยกตวั ประกอบและหาแฟกทอเรียลอย่างรวดเรว็ ประกอบวชิ าพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยมีเนื้อหา
เกย่ี วกับการแยกตวั ประกอบทาใหผ้ ู้ใช้งานได้นาไปใช้งานไดอ้ ย่างสะดวกสบายและรวดเร็วและจดั เป็นโครงงาน
คอมพิวเตอรป์ ระเภทการประยุกตใ์ ชง้ าน

อภปิ รายผล

จากการดาเนินงานโครงงานคอมพิวเตอร์ เรื่อง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise) ทา
ใหท้ ราบวา่ ตัวโปรแกรมสามารถแยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียลได้ ซง่ึ ตรงตามวตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี ั้งไว้

ประโยชนท์ ี่ได้รับจากโครงงาน

จากการดาเนนิ งานโครงงานคอมพวิ เตอร์ เรื่อง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise) ทา
ใหไ้ ด้รับประโยชนค์ ือ สามารถคานวณหาตวั ประกอบและแฟกทอเรยี ลได้อยา่ งรวดเรว็ และมีประสทิ ธภิ าพ
นอกจากน้ันยงั สามารถใช้งานไดห้ ลายฟงั ก์ชั่นได้ในแอปพลเิ คชั่นเดยี วเปน็ การเพ่ิมความสะดวกสบายย่ิงขึ้น

ขอ้ เสนอแนะในการพัฒนาโครงงานในอนาคต

จากการดาเนนิ งานโครงงานคอมพวิ เตอร์ เร่อื ง แยกตัวประกอบและหาแฟกทอเรียล (number paradise) ใน
ครง้ั ตอ่ ไปควรจะเพ่มิ การทางานเก่ยี วกบั ประวตั ิการค้นหาเพื่อเพ่ิมความสะดวกสบายมากย่ิงข้ึน

18

ภาคผนวก ก

19

20

ประวตั ผิ จู้ ัดทา

ชื่อ เด็กหญงิ ชนิดาภา อมรจุ ิ ชัน้ ม.3.5 เลขที่ 6
รูปถ่าย ทีอ่ ยู่ 88/87 ม.เดอะแพลนท์ หมู่5 ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บา้ นใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

E-mail : [email protected] facebook : Chanidapa Amornruji

ชื่อ เด็กหญิงณิชานันท์ ตง้ั พฒั นาประดิษฐ์ ช้ัน ม.3.5 เลขท่ี 16
รูปถ่าย ท่ีอยู่ 190/19 ถนนสระแก้ว ต.พระประโทน อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม 73000

E-mail : [email protected] facebook : Nichanan Tangpattanapradit

ช่ือ เด็กหญิงสพุ ชิ ญา ตนั ติธญั ญพงษ์ ชนั้ ม.3.5 เลขที่ 34
รูปถ่าย ท่อี ยู่ 16 หมู่บ้านรางทอง หมู่3 ซอย13 ต.ท่งุ น้อย อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม 73000

E-mail : [email protected] facebook : Supitchaya Tantithanyaphong

ช่ือ เดก็ หญงิ อรนลิน ธนพงศ์พิพฒั น์ ช้นั ม.3.5 เลขท่ี 35
ทีอ่ ยู่ 58/5-6 หมู่9 ถนนเศรษฐกจิ 1 ต.คลองมะเด่ือ อ.กระท่มุ แบน จ.สมุทรสาคร 74110
E-mail : [email protected] facebook : Ornnalin Tanapongpipat

21

บรรณานกุ รม

Marcus Code. (2560). ภาษาไพทอน. [ออนไลน์]. สืบคน้ จาก http://marcuscode.com/lang/python

Michal Jaworski and Tarek Ziade. (2561). Expert python programming. สืบค้นจาก https://
docs.python.org/3/faq/general.html#why-is-it-called-python

ไม่ปรากฏชอ่ื ผ้แู ตง่ . (2560). โปรแกรมแยกตัวประกอบเฉพาะ. สบื คน้ จาก https://sites.google.com/site
/korlacoder/exemple/factors

unknown. (2556). โปรแกรมคานวณคา่ factorial. สบื ค้นจาก http://factorial402.blogspot.com/
ณัฐพล. (2559). การเขยี นโปรแกรมภาษาไพทอน. สืบค้นจาก http://python.nattapon.com/lesson1-

intro-to-python/


Click to View FlipBook Version