ก
คำนำ
แผนพัฒนาตนเอง ปีการศึกษา 2564 ฉบับนี้เป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นเพื่อกำหนดรายละเอียดในการ
พัฒนาตนเอง ในรอบปีการศึกษาอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับสภาพการปฏิบัติงาน ความต้องการจำเป็นองค์
ความรู้ใหม่นโยบาย แผนกลยุทธ์ของหน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการต้นสังกัด มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ร่วมกันในระดับสถานศึกษา ระดับเครือข่ายหรือระดับชาติและแสดงบทบาทในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
(Professional learning Community : PLC) ด้วยความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร ที่มีวิสัยทัศน์ คุณค่า
เป้าหมายและภารกจิ ร่วมกัน ซงึ่ สง่ ผลต่อคุณภาพของเด็ก เพื่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร และสร้างนวัตกรรม
จากการเข้ารว่ มชุมชนการเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ
ขอขอบคุณ คณะกรรมการสถานศกึ ษา คณะคร/ู บุคลากร ตลอดจนผมู้ ีสว่ นเกย่ี วขอ้ งทใี่ ห้การสนับสนุน
ใหค้ ำปรึกษาแนะนำ สนับสนุนงบประมาณ และร่วมในการจดั ทำแผนพฒั นาตนเองของข้าพเจ้า จนสำเรจ็ ลลุ ว่ ง
ไปด้วยดไี ว้ ณ โอกาสน้ี
นางสาวพิไลลักษณ์ ถ่นิ วัน
ผจู้ ัดทำแผนพัฒนาตนเอง
สารบญั ข
คำนำ หน้า
สารบญั ก
สว่ นท่ี 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ข
1
1. ข้อมูลส่วนตวั 1
2. วิชา/สาขา/กลุม่ สาระการเรียนรู้ที่ทำการสอน 1
3. จำนวนช่วั โมงการปฏบิ ตั ิงาน 1
4. ผลงาน ที่เกิดจากการปฏิบตั ิหน้าทใ่ี นตำแหน่งปัจจุบัน (ยอ้ นหลัง 5 ปี) 2
สว่ นที่ 2 ผลการประเมินตนเอง 4
ตอนที่ 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ กคศ. 4
ตอนท่ี 2 ผลการประเมนิ ศักยภาพของผูเ้ รียนในสถานศึกษาตามจดุ เนน้ ของ สพฐ. 7
ตอนท่ี 3 ผลการประเมนิ ศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของ 8
สถาบันครุ พุ ฒั นา
สรุปผลการประเมนิ ตนเอง 9
สว่ นที่ 3 แผนการพฒั นาตนเอง 10
1. อันดบั ความสำคญั /สมรรถนะทจ่ี ะพฒั นา 10
2. วธิ ีการ / รูปแบบการพฒั นา 10
3. ระยะเวลาในการพฒั นา 10
4. การขอรบั การสนับสนนุ จากหนว่ ยงาน 10
5. ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั 10
6. ประวตั ิการเข้าการรบั พฒั นา (ในรอบ 5 ปี ท่ีผา่ นมา) 12
สว่ นที่ 4 ความตอ้ งการในการพฒั นา (กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย)ี 13
1. หลกั สตู รใดท่ีทา่ นต้องการพฒั นา 13
2. เพราะเหตุใดท่านจึงต้องการเขา้ รับการพัฒนาในหลักสตู รน้ี 13
3. ทา่ นคาดหวังส่งิ ใดจากการเขา้ รบั การพัฒนาในหลักสูตรน้ี 13
4. ท่านจะนำความรจู้ ากหลักสูตรไปพฒั นาการสอนของทา่ นอย่างไร 13
1
สว่ นท่ี 1
ข้อมูลส่วนบคุ คล
1. ขอ้ มูลส่วนตัว ช่ือสกลุ ถิน่ วัน
ช่อื นางสาวพไิ ลลักษณ์ วิทยฐานะ ไมม่ ีวทิ ยฐานะ
ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย
วฒุ ิการศึกษา
ปรญิ ญาตรี หรือเทียบเท่าวชิ าเอก เทคโนโลยแี ละส่ือสารการศึกษา
ปริญญาโท หรือเทียบเท่า วิชาเอก -
ปริญญาเอก หรือเทยี บเท่า วชิ าเอก -
อื่นๆ (โปรดระบ)ุ วทิ ยาศาสตรบณั ฑิต (วท.บ.) สาขาวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศ
เขา้ รบั ราชการวันที่ 1 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ โรงเรยี น มุกดาหาร
สังกัด สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษามุกดาหาร สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
อายรุ าชการจนถึงปจั จุบัน 2 ปี - เดือน
เงนิ เดอื น อันดับ คศ. - อัตราเงนิ เดือน 16,720 บาท
สถานท่ีทำงาน
สถานศึกษา/หนว่ ยงาน โรงเรียนมุกดาหาร สำนกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศึกษามุกดาหาร
2. วิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ ่ีทำการสอน จำนวน 5 วิชา รวม 16 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
➢ ภาคเรยี นท่ี 1
วิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การออกแบบและเทคโนโลยี ช้ันระดับ ม.2 จำนวน 8 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
วชิ า/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ช้ันระดับ ม.2 จำนวน 8 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
วิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คอมพวิ เตอร์กราฟิก ช้นั ระดับ ม.3 จำนวน 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์
➢ ภาคเรียนที่ 2
วชิ า/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาการคำนวณ ชน้ั ระดบั ม.2 จำนวน 8 ชั่วโมง/สปั ดาห์
วชิ า/สาขา/กลุม่ สาระการเรียนรู้ การออกแบบและพฒั นาเวบ็ ไซต์ ชน้ั ระดบั ม.3 จำนวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
3. จำนวนช่ัวโมงการปฏิบตั ิงาน
➢ ชว่ั โมงสอนตามตารางสอน 16 ชั่วโมง
➢ ชั่วโมงสนับสนนุ การจดั การเรยี นรู้ 2 ชว่ั โมง
➢ ชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรยี นร้ทู างวชิ าชพี (PLC) 2 ชัว่ โมง
➢ ช่ัวโมงงานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น 2 ชัว่ โมง
4. งานพิเศษตามท่ีไดร้ บั มอบหมาย
➢ จดหมายข่าวโรงเรียนและสพม.มุกดาหาร
➢ งานสารสนเทศ
➢ ครทู ี่ปรกึ ษา มธั ยมศึกษาปีท่ี 2/4
➢ ครทู ่ีปรกึ ษาชมรมทบู ีนัมเบอร์วัน
➢ และอ่นื ๆ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
2
4. ผลงาน ที่เกดิ จากการปฏบิ ัตหิ น้าท่ใี นตำแหน่งปัจจบุ ัน (ย้อนหลงั 5 ปี)
1. ผลทีเ่ กดิ จากการจดั การเรยี นรู้
1.1 มีการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ในรายวิชาหรือกิจกรรมท่ี
รับผิดชอบและออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนทีท่ ำใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีความสุข
1.2 มีการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการมีส่วนร่วมจากผู้เรียน ฝึกเน้นกระบวนการคิดและทักษะ
ตามเนื้อหา มีการให้ทำแบบฝึกหดั ชิน้ งานและการบ้านใหน้ ักเรียนทำอยา่ งเหมาะสม
1.3 มีการวัดและประเมินผลระหว่างเรียนควบคู่กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนที่
กำหนด พร้อมปรบั ปรุงแกไ้ ขผเู้ รียนทีม่ ขี ้อบกพร่อง
1.4 มีการประเมินตัดสินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาที่สอนหรือกิจกรรมที่รบั ผิดชอบ
เมอื่ ส้นิ สุดการเรียนรายภาคเรียน ส่งหัวหนา้ กลุม่ สาระการเรียนรแู้ ละหวั หน้ากิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น
1.5 มีการตรวจสอบสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ประเมินคุณลักษณะและการอ่านคิด
วเิ คราะห์เขยี นของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคลในทกุ ภาคเรียน
1.6 มกี ารนำผลการประเมินไปวิเคราะหเ์ พอ่ื พัฒนาการจัดการเรยี นการสอน
1.7 ให้คำปรึกษาดูแลนักเรียนในฐานะครูประจำชั้นและครูประจำวิชาที่รับผิดชอบอย่าง
ตอ่ เน่อื ง
1.8 มีการพบปะผู้ปกครองทั้งการเยี่ยมบ้านและการรายงานผลการเรียนทำให้ผู้ปกครองมี
ความพงึ พอใจและร่วมกันพัฒนาศักยภาพนักเรยี นให้เตม็ ตามศักยภาพ
2. ผลท่เี กดิ จากการพฒั นาวิชาการ
2.1 มีความเข้าใจในการใชห้ ลักสตู รและมสี ่วนร่วมในการพัฒนาปรับปรุงหลกั สตู รในรายวิชา
ทร่ี บั ผดิ ชอบใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์
2.2 มีการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผ่านกระบวนการ
เรยี นรู้ทจ่ี ัดเนื้อหาสาระและกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกบั ความสนใจ ความถนดั ของผเู้ รยี น
2.3 มีแผนการวัดผลและประเมินผลในรายวิชาที่สอนให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา
สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ และการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
2.4 มีการพัฒนาสื่อ Power Point ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและแนะนำให้
นักเรยี นใช้ส่ือออนไลน์ในการค้นควา้ หาความรอู้ ยา่ งต่อเนื่องสง่ ผลให้นกั เรยี นมีความร้เู พิ่มขึน้
3. ผลทเ่ี กิดกบั ผูเ้ รียน
3.1 นักเรียนมคี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามหลักสูตรและมคี ุณลกั ษณะเปน็ ไปตามโรงเรียน
มาตรฐานสากลทุกข้อ
3.2 นักเรียนมีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นสงู ขน้ึ
3.3 นักเรียนมสี มรรถนะท่สี ำคัญของหลักสตู รท้งั 5 ด้านในระดับดีมาก
3.4 นักเรียนสามารถใช้สื่อออนไลน์ในการแสวงหาความรู้และเลือกรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้
อย่างมีวจิ ารณญาณ
3.5 นกั เรียนเปน็ คนท่ีมคี วามรู้ เปน็ คนดีและมคี ณุ ค่า
3
4. ผลท่ีเกิดกับสถานศึกษา
4.1 สถานศึกษามีการจัดการเรยี นการสอนที่มีคุณภาพและมีประสิทธภิ าพ
4.2 สถานศึกษามีการบริหารจดั การด้วยระบบคุณภาพ
5. ผลทีเ่ กดิ กบั ชุมชน
5.1 เกิดความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีในการพัฒนาผู้เรียนระหว่างครูกับผู้ปกครอง
นักเรยี น
5.2 เกิดความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีในการเข้าร่วมกิจกรรมด้านการศึกษา ด้าน
ศิลปวัฒนธรรม ด้านสาธารณสุข ด้านการเมืองการปกครอง ด้านการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม ของชุมชน
อย่างตอ่ เน่ือง
5.3 ได้รบั ความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นและศรัทธาในการจัดการศึกษาของสถานศึกษาส่งผลให้
ผู้ปกครองนำบุตร หลานมาสมัครสอบแข่งขันเข้าศึกษาต่อในระดับ ม.1 และ ม.4 เป็นจำนวนมากทุกปี
การศกึ ษา
4
สว่ นที่ 2
ผลการประเมินตนเอง
ตอนท่ี 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ระดับความรู้
ดา้ นที่ 1 ความรคู้ วามสามารถในการปฏบิ ตั งิ านในหน้าที่ มีมาก ปานกลาง มีน้อย
(3) (2) (1)
รายการพจิ ารณาตนเอง
1. เนือ้ หา ในรายวชิ า/กล่มุ สาระการเรยี นรู้ท่ีสอน
2. วธิ สี อน ถา่ ยทอดความรูเ้ ชิงเนอ้ื หา กิจกรรม บรบิ ท เปา้ หมายการเรยี นรู้
ความรูพ้ ื้นฐาน การปรบั พ้ืนฐาน และอุปสรรคการเรยี นรูข้ องผู้เรียน
3. หลักการสอน และกระบวนการเรียนรู้
4. หลักสตู ร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมิน และแนวทางการ
เรยี นรู้ในแตล่ ะเน้ือหา
5. พนื้ ฐานการศึกษา หลกั การศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวทิ ยาสงั คม
นโยบายการศกึ ษา จุดมุ่งหมายการจัดการศึกษาตง้ั แต่ระดบั ชาติจนถงึ
ระดบั หลักสูตร
6. การจัดการศึกษาแบบรวม และการตอบสนองต่อความหลากหลายของ
ผ้เู รียน
7. ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ และจติ วิทยาการเรยี นรู้
8. การใชเ้ ทคโนโลยี และส่อื นวตั กรรมเพื่อการเรียนรู้ 6 14 -
9. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้
อยู่ในระดบั ปานกลาง
รวม
คะแนนรวม/แปลผล
เกณฑ์ คะแนน 9 – 15 ระดบั ความรนู้ ้อย คะแนน 16 – 21 ระดับความรู้ปานกลาง
คะแนน 22 – 27 ระดบั ความรมู้ าก
จากผลการประเมิน พบว่า
ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ด้านที่ 1 ความรูค้ วามสามารถในการปฏิบตั งิ านใน
หนา้ ท่ี รวมคะแนน 20 คะแนน อยูใ่ นระดับความรูป้ านกลาง
5
ดา้ นที่ 2 ทักษะการปฏบิ ตั ิงาน ระดบั ความสามารถ
รายการพจิ ารณาตนเอง ทำได้ดี พอใช้ ไมค่ อ่ ยได้ทำ
1. การสร้างและหรอื พฒั นาหลกั สูตร (3) (2) (1)
2. การออกแบบหน่วยการเรียนรู้
3. การจัดทำแผนการจดั การเรียนรู้
4. กลยุทธใ์ นการจัดการเรยี นรู้
5. การสรา้ งและการพฒั นาส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและ
แหลง่ เรยี นรู้
6. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
รวม
คะแนนรวม/แปลผล
68 -
อยู่ในระดบั ปานกลาง
เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับทกั ษะน้อย คะแนน 14 – 19 ระดับทักษะปานกลาง
คะแนน 20 – 24 ระดบั ทักษะมาก
จากผลการประเมิน พบวา่
ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ด้านที่ 2 ทักษะการปฏิบัติงาน รวมคะแนน 14
คะแนน อยใู่ นระดับทกั ษะปานกลาง
6
ด้านท่ี 3 ความเป็นครู ระดับความเป็นครู
รายการพจิ ารณาตนเอง สงู มาก ปานกลาง ยังต้องปรับปรงุ
1. ยดึ มนั่ ผูกพนั ศรัทธาในวิชาชพี และทุ่มเทเพือ่ การเรียนรู้ของ (3) (2) (1)
ผเู้ รียน
2. มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และปฏิบตั ติ นเปน็ แบบอยา่ งท่ดี แี ก่
ผู้เรียนทัง้ กาย วาจา และจิตใจ ดำรงตนให้เปน็ ท่ีเคารพ ศรัทธา
และน่าเชอื่ ถือท้ังใน และนอกสถานศกึ ษา
3. ปฏบิ ตั ติ นตามจรรยาบรรณวิชาชพี ครู
4. มวี ินยั และการรักษาวนิ ยั
5. เปน็ บคุ คลแหง่ การเรียนรู้ ปรับปรุง และพัฒนาตนเองอยา่ ง
ต่อเนื่อง ใหม้ ีความรคู้ วามชำนาญในวิชาชพี เพ่มิ ขน้ึ
6. ปฏบิ ตั ติ นโดยนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้
7. มที ัศนคตทิ ่ีดีต่อบ้านเมือง
รวม
คะแนนรวม/แปลผล
21 - -
อยใู่ นระดับสูงมาก
เกณฑ์ คะแนน 8 – 13 ระดับความเป็นครูน้อย คะแนน 14 – 19 ระดบั ความเป็นครปู านกลาง
คะแนน 20 – 24 ระดบั ความเป็นครมู าก
จากผลการประเมิน พบวา่
ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ด้านที่ 3 ความเป็นครู รวมคะแนน 21 คะแนน
อยู่ในระดับความเปน็ ครูมาก
7
ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ ศักยภาพของผู้เรยี นในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ.
ระดับศกั ยภาพ
รายการศักยภาพผูเ้ รียนตามจดุ เนน้ สงู มาก ปานกลาง ยงั ต้องปรบั ปรงุ
1. ดา้ นอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคลอ่ ง (3) (2) (1)
2. ด้านคิดเลขเป็น คดิ เลขคล่อง
3. ด้านการคิดข้นั พ้นื ฐาน
4. ด้านการคดิ ข้นั สงู
5. ดา้ นการส่อื สารอยา่ งสร้างสรรคต์ ามชว่ งวยั
6. ด้านการใช้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
7. ดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยเี พื่อการเรยี นรู้
8. ด้านการแสวงหาความรู้ดว้ ยตนเอง
9. ดา้ นใฝเ่ รียนรู้
10. ด้านใฝ่ดี
11. ดา้ นทักษะชีวิต
12. ดา้ นอยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่นั ในการศกึ ษาและการทำงาน
รวม
คะแนนรวม/แปลผล
21 10 -
อยูใ่ นระดับสูงมาก
เกณฑ์ คะแนน 12 – 20 ระดับศกั ยภาพน้อย คะแนน 21 – 28 ระดับศักยภาพปานกลาง
คะแนน 29 – 36 ระดบั ศักยภาพสงู มาก
จากผลการประเมนิ พบวา่
ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. รวมคะแนน 31
คะแนน อยู่ในระดบั ศักยภาพสูงมาก
8
ตอนที่ 3 ผลการประเมนิ ศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลักสูตรของ สถาบันครุ พุ ัฒนา
ระดบั ศักยภาพ
รายการศักยภาพผู้เรียนตามจดุ เน้น สูงมาก ปานกลาง ยังต้องปรับปรงุ
(3) (2) (1)
1. การสอนในศตวรรษที่ 21
2. การแก้ปัญหาผูเ้ รียน
3. จิตวิทยาการแนะแนว/จติ วทิ ยาการจัดการเรยี นรู้
4. การจัดการชน้ั เรยี น
5. การวิจัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรยี นรูทางวชิ าชีพ
6. การพัฒนาหลักสตู ร
7. สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education)
8. การใชสื่อและเทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู
9. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
10. การออกแบบการเรยี นรู้
รวม
คะแนนรวม/แปลผล 18 8 -
อยู่ในระดบั ปานกลาง
เกณฑ์ คะแนน 10 – 16 ระดบั ศาสตรก์ ารสอนนอ้ ย
คะแนน 17 – 23 ระดับศาสตรก์ ารสอนปานกลาง
คะแนน 24 – 30 ระดับศาสตร์การสอนสูงมาก
จากผลการประเมิน พบวา่
ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของ สถาบันคุรุพัฒนา
รวมคะแนน 26 คะแนน อยใู่ นระดบั ศาสตรก์ ารสอนสงู มาก
9
สรปุ ผลการประเมนิ ตนเอง
ตอนที่ 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ.
ดา้ นที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ที่
ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ กคศ. ดา้ นที่ 1 ความรูค้ วามสามารถในการปฏบิ ัตงิ านใน
หน้าที่ รวมคะแนน 20 คะแนน อยู่ในระดับความรู้ปานกลาง ควรปรับปรุงและพัฒนาความรู้ความสามารถใน
การปฏิบัติงานในหนา้ ทใ่ี หส้ งู ขึ้น
ดา้ นที่ 2 ทักษะการปฏบิ ตั งิ าน
ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ด้านที่ 2 ทักษะการปฏิบัติงาน รวมคะแนน 14
คะแนน อยู่ในระดับทกั ษะปานกลาง ควรปรบั ปรงุ และพฒั นาทกั ษะการปฏบิ ัติงานให้เพม่ิ มากข้ึน
ด้านท่ี 3 ความเป็นครู
ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ กคศ. ด้านที่ 3 ความเป็นครู รวมคะแนน 21 คะแนน
อยใู่ นระดบั ความเปน็ ครูมาก ควรรักษามาตรฐานและปฏิบัติใหด้ ียิ่งๆ ขึ้นไป
ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ ศกั ยภาพของผ้เู รียนในสถานศึกษาตามจุดเนน้ ของ สพฐ.
ระดบั ศักยภาพของผเู้ รยี นในสถานศกึ ษาตามจดุ เนน้ ของ สพฐ.
ผลการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในสถานศึกษาตามจุดเน้นของ สพฐ. รวมคะแนน 31
คะแนน อยู่ในระดบั ศักยภาพสูงมาก ควรรักษามาตรฐานและปฏบิ ัตใิ ห้ดยี ง่ิ ๆ ขึ้นไป
ตอนที่ 3 ผลการประเมนิ ศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลกั สตู รของสถาบนั คุรุพัฒนา
ระดบั ศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลักสูตรของสถาบันครุ พุ ฒั นา
ผลการประเมินศาสตร์การสอน ตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของ สถาบันคุรุพัฒนา
รวมคะแนน 26 คะแนน อย่ใู นระดบั ศาสตร์การสอนสูงมาก ควรรักษามาตรฐานและปฏบิ ตั ิใหด้ ียิง่ ๆ ข้นึ ไป
10
สว่ นท่ี 3
แผนการพัฒนาตนเอง
1. อันดบั ความสำคญั /สมรรถนะทจ่ี ะพัฒนา
(ใหใ้ ส่หมายเลขเรยี งลำดับความสำคัญของสมรรถนะที่จะพัฒนา)
( ) การสอนในศตวรรษที่ 21
( ) การแกป้ ัญหาผูเ้ รยี น
( ) จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจดั การเรียนรู้
( 3 ) การจดั การชัน้ เรียน
( 4 ) การวิจัยพัฒนาการเรียนการสอน/ชมุ ชนแห่งการเรียนรู้ทางวชิ าชพี
( ) การพัฒนาหลกั สูตร
( 5 ) สะเตม็ ศึกษา (STEM Education)
( 1 ) การใช้ส่อื และเทคโนโลยใี นการจดั การเรียนรู้
( 2 ) การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
( ) การออกแบบการเรยี นรู้
2. วธิ กี าร / รูปแบบการพฒั นา
รูปแบบ Online
3. ระยะเวลาในการพัฒนา
เร่มิ ต้น 16 พฤษภาคม 2564 สิน้ สดุ 31 มีนาคม 2565
4. การขอรับการสนบั สนุนจากหนว่ ยงาน
-
5. ประโยชนท์ ่ีคาดว่าจะไดร้ ับ
5.1 ผลลัพธท์ ี่คาดหวัง
ด้านความรู้
ได้รบั ความรใู้ หม่ๆ และพัฒนาความร้ทู ่ีมีอยู่ให้เพ่ิมมากย่ิงข้นึ
ด้านทกั ษะ
ได้ใช้เทคโนโลยีในการอบรม และทักษะที่จะได้จากการอบรมเพื่อนำกลับมาพัฒนา
และปรับปรุงใช้กับนกั เรยี นท่สี อน
ด้านความเปน็ ครู
เกิดการเรียนรู้ ปรบั ปรงุ และพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง ให้มีความรคู้ วามชำนาญใน
วชิ าชพี เพ่ิมมากขนึ้
5.2 ผลการนำไปใช้ในการพัฒนางาน
นำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน และนำมาปรับปรุง พัฒนารูปแบบการ
เรยี นการสอนในรายวชิ าของตนเอง
5.3 การสร้างชมุ ชนการเรยี นรู้ PLC Online เครอื ข่ายระดับชาติ
เขา้ รว่ ม การสร้างชุมชนการเรียนรู้ PLC Online เครือข่ายระดับชาติ สำหรับ
หลักสูตรทจ่ี ะพฒั นาทุกหลักสตู ร
11
ลงชอ่ื
(นางสาวพิไลลักษณ์ ถ่นิ วนั )
ผ้จู ดั ทำแผนพัฒนาตนเอง
ความเหน็ ของผบู้ ังคับบัญชา
ลงชอ่ื
(นายเลียง ผางพันธ์)
ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นมุกดาหาร
12
6. ประวัติการเขา้ การรับพัฒนา (ในรอบ 5 ปี ที่ผา่ นมา)
ลำดับท่ี เร่ือง หนว่ ยงาน จำนวน หมายเหตุ
สพฐ. ชว่ั โมง
ปีการศกึ ษา 2563 15 ออนไลน์
1 การเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งในการจดั เกบ็ สพฐ. รว่ มกับ สสวท 16 วุฒบิ ัตร
ข้อมลู สารสนเทศด้านการจบการศกึ ษาและ สพม. เขต 22
การให้บรกิ ารข้อมลู ทางการศึกษาสำหรับเขต คุรสุ ภา 20 วุฒิบัตร
พ้ืนทกี่ ารศกึ ษาและสถานศึกษา โดยระบบ
อเิ ล็กทรอนิกส์ (e-learning) สพฐ. - เกียรติ
บัตร
2 การเขา้ ร่วมอบรมการเขยี นโปรแกรม
Scratch 15 วฒุ ิบตั ร
3 การเข้าร่วมการฝกึ อบรมเจา้ หน้าทีแ่ ละ สพฐ. รว่ มกบั สสวท. 16 วฒุ บิ ตั ร
ผบู้ งั คบั บญั ชายุวกาชาด
สสวท. รว่ มกบั ม.บูรพา - เกียรติ
4 การเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการ เน่อื งใน และ สวคท. บัตร
โอกาสงานวันครู คร้งั ท่ี 65 พ.ศ. 2564
(รปู แบบออนไลน์) สำนักงาน ก.พ. 3 ออนไลน์
5 การเขา้ ร่วมอบรมการเสรมิ สร้างความเข้มแข็ง สพฐ. 20 ออนไลน์
ในการจดั เก็บขอ้ มูลสารสนเทศดา้ นการจบ
การศึกษาและการให้บริการข้อมลู ทาง โรงเรยี นมกุ ดาหาร 8
การศกึ ษาสำหรบั เขตพน้ื ที่การศึกษาและ
สถานศึกษา โดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-
learning)
6 การเข้าร่วมอบรมการเขียนโปรแกรมภาษา
Python
7 การเข้าร่วมประชุมวิชาการวทิ ยาศาสตร์
คณิตศาสตร์ในโรงเรยี น ระดับชาติ ครงั้ ท่ี 24
(วทร. 24) ในรปู แบบออนไลน์
ปกี ารศึกษา 2562
1 การพัฒนาทางไกลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์
(HRD : e-Learning) วิชา การใช้ Microsoft
Excel เพื่อการบริหารข้อมลู
2 อบรมโครงการโรงเรียนปลอดภัยในประเทศ
ไทย หลกั สตู รการลดความเส่ียงภยั พิบัติ
ธรรมชาติและการปรับตัวรบั การเปลย่ี นแปลง
สภาพภมู อิ ากาศ
3 เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบตั กิ าร PLC to e-
Exams Smart School
13
สว่ นท่ี 4
ความตอ้ งการในการพฒั นา (กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี)
1. หลกั สตู รใดท่ีทา่ นตอ้ งการพัฒนา ช่ือหลักสูตร
ลำดับที่ รหสั หลกั สูตร
1 Python Programming
2. เพราะเหตุใดท่านจึงต้องการเข้ารบั การพฒั นาในหลักสูตรน้ี
เพอื่ เรียนรูส้ ง่ิ ใหมๆ่ และนำมาพฒั นาการจัดการเรียนการสอนให้กบั นักเรียน
3. ท่านคาดหวงั สง่ิ ใดจากการเขา้ รบั การพฒั นาในหลกั สูตรนี้
สามารถเขียนโปรแกรมดว้ ยภาษา Python ได้
4. ท่านจะนำความรู้จากหลักสตู รไปพัฒนาการสอนของทา่ นอย่างไร
จากเดิมในรายวิชาวิทยาการคำนวณ จะทำการสอนโปรแกรม Scratch ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้
งานง่าย เพียงลากแล้วปล่อยบล็อกคำสั่ง แต่มีนักเรียนบางรายที่อยากเรียนการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา
Python ซ่งึ ในหนังสือใหเ้ ลือกเรียนอย่างใดอยา่ งหนึ่ง จึงจะนำไปเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนในแต่ละกลุ่ม เพ่ือ
ตอบสนองความตอ้ งการทห่ี ลากหลายของผ้เู รยี น