รายงานการวจิ ยั ในชนั้ เรียน
เร่ือง การอ่าน
ผู้วจิ ัย
ครูประไพ คงศรี
ครูชานาญการพเิ ศษ
ภาคเรียนท่ี 1/2565 ชนั้ ประถมศกึ ษาปี ท่2ี
โรงเรียนหลวงสินธ์ ุราษฎร์ รังสฤษฏ์
สพป.สมุทรสาคร
รายงานการวิจยั ในชัน้ เรียน
เร่ือง การอ่าน
ผ้วู ิจยั ครูประไพ คงศรี โรงเรียนหลวงสนิ ธ์รุ าษฎร์รังสฤษฏ์
สภาพปัญหา
การอ่านภาษาไทยเป็ นทกั ษะพนื ้ ฐานทสี่ าคญั ของผ้เู รียน ผ้เู รียนจะมีสมั ฤทธิผลทางการเรียนได้ก็ตอ่ เม่ือ
ได้พัฒนาทักษะทงั้ 4 ควบคู่ไปด้วยกัน จากการสงั เกตเหตุผลท่ีนกั เรียนไม่ประสบความสาเร็จในการเรียน
ภาษาไทย เนื่องจากผ้เู รียนละเลย ไมต่ ระหนกั ถึงความสาคญั ในการอ่านครูผ้สู อนจึงควรหากลวิธีทาให้เด็กหนั
กลบั มาสนใจทกั ษะการอา่ นเพมิ่ มากขนึ ้ ดงั นนั้ ผ้วู ิจยั จึงเหน็ ควรนาเร่ืองการอา่ นมาทาวิจยั
จดุ ประสงค์การวิจัย
ให้ผ้เู รียนตระหนกั ถงึ ความสาคญั เลง็ เห็นถงึ ประโยชน์และมีเจตคตทิ ่ีดีตอ่ การอา่ น สามารถนาไปใช้ได้
จริงในชีวิตประจาวนั และสอดแทรกนิสยั รักการอา่ นในกิจกรรมท่จี ดั ขนึ ้
ตวั แปรท่ศี กึ ษา ชุดฝึกทกั ษะการอา่ น
1. ตวั แปรต้น คือ จานวนคาทอี่ า่ นได้
2. ตวั แปรตาม คอื
ข้อคิดท่ไี ด้จากการวจิ ยั
จากการทาวจิ ยั เร่ืองการอ่านในครัง้ นี ้สามารถฝึกให้นกั เรียนจานวนหนงึ่ ทมี่ ีปัญหาด้านการอา่ นสะกด
คาภาษาไทยได้พฒั นาการอา่ นและรู้จกั ตวั สระ พยญั ชนะได้ดียิ่งขนึ ้ ซงึ่ สง่ ผลให้นกั เรียนกลมุ่ ทไ่ี ด้วจิ ยั มี
พฒั นาการในการเรียนวชิ าภาษาไทยและวิชาอ่ืนๆ ได้ดีขนึ ้
ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ
นกั เรียนสามารถพฒั นาด้านการอา่ นสะกดคา รู้จกั สระและตวั พยญั ชนะได้ดขี นึ ้ และสามารถนาไปใช้ใน
ชีวิตประจาวนั ได้
ขอบเขตของการวจิ ัย
ใช้นกั เรียนระดบั ประถมศกึ ษาปี ท่ี 2 จานวน 1 คน ใช้ชุดฝึกทกั ษะการอ่านสะกดคา
ขัน้ ตอนการดาเนินงาน
1. จดั เตรียมเอกสารแบบฝึกทกั ษะการอ่าน
2. จดั กิจกรรมสง่ เสริมการอ่านโดยขอความร่วมมอื จากห้องสมดุ โรงเรียน
3. ทดสอบทกั ษะการอา่ น
4. ตรวจสอบความก้าวหน้าและพฒั นาการทกั ษะการอา่ นจากแบบฝึกทกั ษะการอา่ น
5. รวบรวมและสรุปผลการวิจยั เพือ่ นาเสนอ
ทางเลือกท่คี าดว่าจะแก้ปัญหา
1. แบบฝึกทกั ษะการอ่าน
2. กิจกรรมสง่ เสริมการอ่านของห้องสมดุ
แบบทดสอบชุดท่ี 1 ซ
ถ
************************************************************************************** ม
ให้อา่ นพยญั ชนะตอ่ ไปนี ้ ฮ
กขฃคฅฆง จฉช
ฌญฎ ฏ ฐ ฑฒณด ต
ทธ นบปผฝพฟภ
ย ร ลว ศษสหฬอ
แบบฝึ กหดั ชุดท่ี 2
*************************************************************************************
คาสง่ั ให้นกั เรียนอ่านสระตอ่ ไปนี ้
-ะ อา่ นวา่ สระ อะ อา อา่ นวา่ สระ อา
-า อา่ นวา่ สระ อา ใ- อา่ นวา่ สระ ไอไม้ม้วน
อิ อา่ นวา่ สระ อิ ไ- อา่ นวา่ สระ ไอไม้มลาย
อี อา่ นวา่ สระ อี เ อี ยะ อา่ นวา่ สระ เอียะ
อุ อา่ นวา่ สระ อุ เ-อ อา่ นวา่ สระ เออ
อู อา่ นวา่ สระ อู เ-อะ อา่ นวา่ สระ เออะ
เ- อา่ นวา่ สระ เอ โ-ะ อา่ นวา่ สระ โอะ
เ-ะ อา่ นวา่ สระ เอะ โ- อา่ นวา่ สระ โอ
เ-า อา่ นวา่ สระ เอา -อ อา่ นวา่ สระ ออ
เ-าะ อา่ นวา่ สระ เอาะ เ อื อ อา่ นวา่ สระ เออื
เ อี ย อา่ นวา่ สระ เอีย อวั อา่ นวา่ สระ อวั
อึ อา่ นวา่ สระ อึ
ออื อา่ นวา่ สระ ออื
แ-ะ อา่ นวา่ สระ แอะ
แ- อา่ นวา่ สระ แอ
จงอ่ านคาต่ อไปนี ้ แบบทดสอบชุดท่ี 3 พี่น้อง
ดดี
มดี รีดไถ นวิ ้ ชี ้ หบี
ปี ก ซีด ฉีดยา สินค้า
คมี ซีก จีบ จาปี
รีบ จีน ปี น มตี า
ชะนี หมี ชีดเส้น ปี นี ้
จิง้ หรีด บีบ ดีใจ ยนิ ดี
ผีดุ สีดา เป่ าปี่ ชีวิต
ชลุ ี หนี ผกั ชี
กรีด กลีบ ครีบปลา
ที่นี ้ จี ้ ตี
แบบทดสอบชุดท่ี 4
จงอ่ านคาต่ อไปนี ้ งาช้าง ฝาชี หน้าตา่ ง
นาฬิกา ดาว จาม
กานา้ ป้ าย ยาถา่ ย ลาหาย
ปลาทู ตา่ งจาก วาดภาพ คลาน
ปากกา หมาเหา่ ม้า อาหารปลา
หญ้าคา ป้ าตามอา กราบพระ ตามานา
แมค่ ้า ตาทาสี หล้าว่ายนา้ พายเรือ
ยากมาก ขาดเรียน ถาดข้าว พยาธิ
จานชาม นาน ขาด สาว
บาดหมาง ดาบ จาม ยาย
ก้ามปู บาง หนา
บ้าน สา่ ย บาน หาง
สาม มะขาม มะนาว สาย
หมาย คะน้า สะพาน การบ้าน
ภาษาไทย ผกั กาด
ขา่ สบาย
แบบบันทกึ พฤตกิ รรมการอ่าน
ช่ือ เด็กชายชวลั วทิ ย์ เรืองสงั ข์ ชนั ป.2
ครัง้ ท่ี จานวนพยญั ชนะ - สระ อา่ นได้ อา่ นไม่ได้
1 44 ตวั ก – ฮ 43 1
2 44 ตวั ก – ฮ 43 1
3 44 ตวั ก – ฮ 44 -
4 15 ตวั -ะ - แ- 12 3
5 15 ตวั -ะ - แ- 13 2
6 11 ตวั อา - อวั 6 5
7 11 ตวั อา - อวั 8 3
8 11 ตวั อา - อวั 6 5
9
10
11
12
13
14
15
แบบบันทกึ พฤตกิ รรมการอ่าน
ช่ือ เด็กชายชวลั วิทย์ เรืองสงั ข์ ชนั้ ป.2
ครัง้ ท่ี จานวนพยญั ชนะ - สระ อา่ นได้ อา่ นไม่ได้
1 12 9 3
2 12 10 2
38 8 -
4 20 18 2
5 20 16 4
6 12 9 3
78 5 3
8 15 10 5
9
10
11
12
13
14
15
ผลการอ่าน พยัญชนะ จานวน 44 ตวั
สรุปผลได้ดงั นี ้
ด.ช. ชวลั วทิ ย์ เรืองสงั ข์
ครัง้ ท่ี 1 จานวนพยญั ชนะ 44 ตวั
จานวนตวั ที่อา่ นได้ 43 ตวั คดิ เป็ นร้อยละ 97.72
ครัง้ ท่ี 2 จานวนพยญั ชนะ 44 ตวั
จานวนตวั ทีอ่ ่านได้ 43 ตวั คดิ เป็ นร้อยละ 97.72
ครัง้ ท่ี 3 จานวนพยญั ชนะ 44 ตวั
จานวนตวั ทอ่ี ่านได้ 44 ตวั คดิ เป็ นร้อยละ 100
ผลการอ่าน สระ จานวน 26 ตวั
สรุปผลได้ดงั นี ้ จานวน 15 ตวั
ครัง้ ท่ี 1 12 ตวั คิดเป็ นร้อยละ 80.00
จานวนตวั ทอ่ี า่ นได้ จานวน 15 ตวั
ครัง้ ท่ี 2 13 ตวั คดิ เป็ นร้อยละ 86.66
จานวนตวั ที่อา่ นได้ จานวน 11 ตวั
ครัง้ ท่ี 3 6 ตวั คิดเป็ นร้อยละ 54.54
จานวนที่อา่ นได้ จานวน 11 ตวั
ครัง้ ท่ี 4 11 ตวั คดิ เป็ นร้อยละ 72.72
จานวนที่อ่านได้ จานวน 11 ตวั
ครัง้ ท่ี 5 6 ตวั คิดเป็ นร้อยละ 54.54
จานวนที่อา่ นได้ จานวน 26 ตวั
ครัง้ ท่ี 6 22 ตวั คิดเป็ นร้อยละ 84.61
จานวนท่ีอา่ นได้ จานวน 22 ตวั
ครัง้ ท่ี 7 22 ตวั คดิ เป็ นร้อยละ 84.61
จานวนทีอ่ ่านได้
ผลการอ่านคา จานวน 92 คา
สรุปผลได้ดงั นี ้ จานวน 12 คา
ครัง้ ท่ี 1 9 คา คดิ เป็ นร้อยละ 75.00
จานวนคาทอ่ี ่านได้ จานวน 10 คา
ครัง้ ท่ี 2 8 คา คดิ เป็ นร้อยละ 83.33
จานวนคาที่อา่ นได้ จานวน 8 คา
ครัง้ ท่ี 3 8 คา คดิ เป็ นร้อยละ 100
จานวนคาทอ่ี า่ นได้ จานวน 20 คา
ครัง้ ท่ี 4 18 คา คิดเป็ นร้อยละ 90.00
จานวนคาทอ่ี ่านได้ จานวน 20 คา
ครัง้ ท่ี 5 16 คา คิดเป็ นร้อยละ 80.00
จานวนคาทอ่ี ่านได้ จานวน 12 คา
ครัง้ ท่ี 6 9 คา คดิ เป็ นร้อยละ 75.00
จานวนคาทีอ่ ่านได้ จานวน 8 คา
ครัง้ ท่ี 7 5 คา คดิ เป็ นร้อยละ 62.50
จานวนคาที่อ่านได้ จานวน 15 คา
ครัง้ ท่ี 8 10 คา คดิ เป็ นร้อยละ 66.66
จานวนคาที่อ่านได้
สรุปผล
จากผลการทาวจิ ยั เร่ืองการอา่ น ทาให้เด็กชายชวลั วทิ ย์ เรืองสงั ข์ มีพฒั นาการอ่านดขี นึ ้ จากเดก็ ทย่ี งั
ไมแ่ มน่ ด้านพยญั ชนะและสระ สามารถเรียนรู้จากแบบฝึกทกั ษะการอา่ นและสามารถอา่ นสะกดคาได้ดขี นึ ้
แบบบันทกึ พฤตกิ รรมการอ่าน
ช่ือ เดก็ ชายชวลั วทิ ย์ เรืองสงั ข์ ชนั้ ป.2 อา่ นไม่ได้
ใช้เวลา 10 นาที ตอ่ ครัง้
อา่ นได้ 4
ครัง้ ท่ี จานวนพยญั ชนะ - สระ 3
40 4
1 44 ตวั ก - ฮ 41 2
2 44 ตวั ก - ฮ 40 2
3 44 ตวั ก – ฮ 42 4
4 44 ตวั ก – ฮ 42 2
5 44 ตวั ก – ฮ 40 -
6 44 ตวั ก – ฮ 42 5
7 44 ตวั ก – ฮ 44 5
8 44 ตวั ก – ฮ 5 5
9 สระ 10 ตวั 5 4
10 สระ 10 ตวั 5 3
11 สระ 10 ตวั 1 2
12 สระ 5 ตวั 2 2
13 สระ 5 ตวั 2
14 สระ 4 ตวั เ-,เ-ะ,เ-า,เ-าะ 8 1
15 สระ 10 ตวั สระ เ-ะ, เ-าะ อา่ น -
9 7
ไม่ได้ 10 4
16 สระ 10 ตวั สระ เ-ะ ยงั ไมไ่ ด้ 5 1
17 สระ 10 ตวั 11
18 สระ 11 ตวั 14
19 สระ 15 ตวั
20 สระ 15 ตวั
แบบบนั ทกึ พฤตกิ รรมการอ่าน
ช่ือ เดก็ ชายชวลั วิทย์ เรืองสงั ข์ ชนั้ ป.2
ครัง้ ท่ี จานวนคา อา่ นได้ อา่ นไมไ่ ด้
1 12 อา่ นไม่คลอ่ ง 8 4
2 12 อา่ นแบบสะกดอยู่ 8 4
3 12 อา่ นไม่คลอ่ ง 9 3
4 16 อา่ นไมค่ ล่อง 9 7
5 16 อา่ นไม่คล่อง 8 8
6 16 อา่ นไมค่ ล่อง 10 6
7 20 อา่ นแบบสะกด 10 10
8 20 อา่ นแบบสะกด 10 10
9 8 อา่ นไม่คลอ่ ง 6 4
10 16 อา่ นแบบสะกด 7 9
11 16 อา่ นแบบสะกด 8 8
12 12 อา่ นแบบสะกด 7 5
13 16 อา่ นแบบสะกด 8 8
14 8 อา่ นไมค่ ลอ่ ง 5 3
15 4 ตวั สะกดง่ายๆ 4 -
16 6 ตวั สะกดงา่ ยๆ 5 1
17 10 ไม่มีตวั สะกด 8 2
18 8 ตวั สะกดง่ายๆ 6 2
19 8 ตวั สะกดง่ายๆ 7 1
20 10 ไมม่ ีตวั สะกด 8 2
สรุปผลการอ่าน
จากการสงั เกตในขณะที่เรียนวิชาภาษาไทย ในชัว่ โมงแรกของการเริ่มเรียน ในปี การศึกษา 2546 ครู
ทดสอบให้นกั เรียนอ่านบทเรียนเป็ นรายบุคคลจงึ พบวา่ ด.ช.ชวลั วทิ ย์ ไมส่ ามารถอา่ นหนงั สอื ได้เลยจงึ ได้ทาการ
วิจยั โดยทาแบบทดสอบพยญั ชนะไทย 44 ตวั โดยให้ฝึกอา่ นดงั นี ้
แบบทดสอบชุดท่ี 1 อา่ นพยญั ชนะ ครัง้ ท่ี 1 นกั เรียนอา่ นได้ดงั นี ้ จาก 44 ตวั อ่านได้ 40 ตวั ตวั
ท่ีอ่านไม่ได้สว่ นมากจะเป็ น ฎ, ฏ, ษ, ฐ แบบทดสอบชุดท่ี 1 ทาการทดสอบถึง 8 ครัง้ ครัง้ ที่ 8 นกั เรียนจึง
อา่ นได้ถกู ต้องหมดทกุ ตวั นกั เรียนยงั อ่านได้ไม่คลอ่ งเทา่ ท่ีควร
แบบทดสอบชุดท่ี 2 การอ่านสระจากการทดสอบทงั้ หมด 12 ครัง้ ครัง้ แรก จะอ่านได้ แต่ อะ, อา,
อิ, อี, อุ, อู เท่านี ้ สระท่ีเหลอื นกั เรียนยงั อ่านไม่ได้ จึงทาการอ่านรูปสระอย่โู ดยใช้เวลาฝึกทงั้ หมด 12 ครัง้
ด้วยกนั แตน่ กั เรียนก็อา่ นได้ยงั ไมค่ ลอ่ งเทา่ ทค่ี วร ครูจึงทาการฝึกอา่ นสระและพยญั ชนะให้ได้แม่นยาก่อนจึงจะ
ฝึกให้อา่ นเป็ นคา แตน่ กั เรียนก็ยงั ไมส่ ามารถอา่ นได้หมด
แบบทดสอบชุดท่ี 3 ลองฝึกให้อ่านเป็ นคาทงั้ หมดมี 56 คา ตอ่ การทาวิจยั ใน 3 เดือน นกั เรียน
สามารถอ่านได้เฉพาะคาทีไ่ ม่มีตวั สะกดและงา่ ยๆ สว่ นตวั ท่มี ีตวั สะกดจะอ่านได้เฉพาะคาท่ีสะกดในมาตรา แม่
กง , แม่ กม , แม่ กบ , แม่ กด และเป็ นตวั สะกดที่ตรงมาตรามีทงั้ หมด 20 คา และอ่านแบบสะกดคาก่อนทุก
ครัง้ ท่เี หลอื จะเริ่มฝึกอา่ นอีกครัง้ ในเทอม 2
สรุปผลการวิจยั
จากการสงั เกตพฤตกิ รรรมของ ด.ช.ชวลั วิทย์ เรืองสงั ข์ ปรากฏวา่ นกั เรียนมีเจตคตทิ ีด่ ีตอ่ การอ่านและ
มีความพยายามทจ่ี ะฝึกอ่านด้วยตนเองมากขนึ ้ และในขณะท่เี รียนนกั เรียนสามารถอ่านได้บ้างตามศกั ยภาพ
ของตนเอง