The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การวิเคราะห์รายการค้าและการบันทึกบัญชีในสมุดรายวันขั้นต้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by paradee, 2022-07-04 23:04:28

บทที่ 3 การวิเคราะห์รายการค้าและการบันทึกบัญชีในสมุดรายวันขั้นต้น update.docx

การวิเคราะห์รายการค้าและการบันทึกบัญชีในสมุดรายวันขั้นต้น

บทที่ 3
การวิเคราะหร์ ายการค้าและการบันทกึ บัญชใี นสมุดรายวันข้ันต้น

วัตถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม

1. เขา้ ใจและอธิบายถึงหลกั สมการบญั ชไี ด้
2. เข้าใจและสามารถอธบิ ายลักษณะของรายการคา้ ได้
3. สามารถวิเคราะห์รายการค้าและอธิบายหลักการบนั ทึกบัญชตี ามระบบบัญชีคูไ่ ด้
4. สามารถอธิบายความหมายและประเภทของสมดุ รายวนั ข้ันต้นได้
5. เขา้ ใจและอธิบายการกำหนดผงั บัญชีได้
6. สามารถวเิ คราะห์รายการค้าและบันทึกบัญชีในสมุดรายวันขน้ั ต้นได้อย่างถกู ต้อง
จากท่เี ราได้ศึกษาความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับบัญชีและงบการเงินมาแล้ว เมื่อกิจการเร่ิมดำเนิน
ธุรกิจ กิจการจะเกิดกิจกรรมทางการค้าเกิดขึ้น ส่งผลให้กิจการต้องบันทึกรายการทางการบัญชีเพ่ือ
จดบันทึกเกี่ยวกับรายการค้าที่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงของสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้
และค่าใช้จ่าย ทั้งนี้การบันทึกรายการทางบญั ชีจะต้องมีความถกู ต้อง เพื่อให้งบการเงินสะทอ้ นข้อมูล
เชิงเศรษฐกิจที่มีประโยชน์ ดังนั้นในบทนี้จะต้องศึกษาพื้นฐานของการบันทึกบัญชีตามหลักสมการ
บัญชีและระบบบัญชีคู่ ตั้งแต่การพิจารณาว่ารายการใดเป็นรายการค้า หลักการวิเคราะห์รายการค้า
การบันทึกบัญชใี นสมดุ รายวนั ขัน้ ตน้

สมการบัญชี (Accounting Equation)

สมการบญั ชี แสดงให้เหน็ ถึง สนิ ทรัพย์ท่มี ีอยู่ในความควบคุมของกจิ การ โดยสนิ ทรพั ยน์ ั้น
กจิ การไดม้ าจาก 2 สว่ น คือ

1. จากการก่อหน้ีสิน ซึ่งเกิดจากการที่กิจการกู้เงินจากเจ้าหนี้ เงินกู้ ซื้อสินค้าเป็นเงินเช่ือ
จากเจา้ หนี้รา้ นคา้ และเจ้าหนเี้ งนิ คงคา้ งตา่ งๆ ที่กิจการมภี าระผกู พันอยใู่ นปจั จบุ ัน

2. จากทุนของกิจการ ซึ่งเกิดจากเจ้าของกิจการลงทุนในการจัดตั้งธุรกิจ ก่อให้เกิด
สินทรัพย์เพื่อใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจในอนาคต และสิทธิของเจ้าของกิจการจะมีสิทธิเรียกร้องจาก
สินทรพั ย์คงเหลือหลังจากหกั หนส้ี ินของกิจการแลว้

ดงั นัน้ สมการบญั ชจี งึ เปน็ ดังน้ี
สนิ ทรพั ย์ (Assets) = หนสี้ นิ (Liabilities) + สว่ นของเจา้ ของ (Owner’s Equity)

หรอื
สนิ ทรพั ย์(Assets) = หนสี้ นิ (Liabilities) + ส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity)

+ รายได้ (Revenues) – ค่าใชจ้ า่ ย (Expenses)

54

จากสมการบัญชขี ้างตน้ แสดงให้เหน็ ว่า สนิ ทรพั ย์ของกจิ การประกอบด้วยอะไร เปน็ จำนวน
เงนิ เทา่ ใด บอกแหล่งที่มาของทรัพยส์ นิ วา่ มาจากแหล่งหนสี้ นิ แหลง่ เงินทุนของเจ้าของเปน็ จำนวนเงิน
เท่าใด หากกิจการเลิกดำเนินธุรกิจแล้ว กิจการจะต้องนำสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหน้ี
เสียก่อน จึงจะสามารถนำสินทรัพย์ที่เหลือไปคืนทุนให้แก่ผู้เป็นเจ้าของต่อไป ซึ่งจากสมการบัญชี
ข้างตน้ หากกิจการมีกำไรสทุ ธิ น่นั หมายความว่า ในรอบบญั ชนี นั้ กิจการมรี ายได้มากกวา่ ค่าใช้จ่ายซ่ึง
จะส่งผลให้ส่วนของเจา้ ของเพิ่มขึน้ แต่ในทางกลับกัน หากกิจการมีขาดทุนสุทธิแสดงวา่ ในรอบบัญชี
นน้ั กิจการมคี ่าใชจ้ ่ายมากกวา่ รายไดซ้ ง่ึ จะส่งผลให้สว่ นของเจา้ ของลดลง

วงจรบัญชี (Accounting cycle)

หมายถึง ขั้นตอนของกระบวนการทางการบัญชี ที่แสดงถึงลำดับขั้นตอนในการปฏิบัติงาน
บญั ชี เพอ่ื ให้กระบวนการบญั ชเี สร็จส้ินภายในรอบระยะเวลาบัญชีทก่ี ำหนด โดยมขี ัน้ ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี

วิเคราะหร์ ายการคา้

บนั ทึกรายการ
ในสมุดรายวนั ข้นั ตน้

สมุดรายวัน สมุดรายวนั
ทั่วไป เฉพาะ

ผ่านรายการไปยัง จดั ทำงบทดลองหลงั ปรบั ปรุง
บัญชแี ยกประเภท
เพื่อหายอดคงเหลอื จัดทำงบการเงนิ

จัดทำงบทดลอง ปิดบญั ชีในสมดุ รายวนั ท่วั ไป

การปรับปรุงรายการทางบัญชี งบทดลองหลงั ปิดบัญชี
ในสมดุ รายวนั ท่ัวไป และโอนยอดคงเหลอื

55

รายการคา้ (Business Transaction)

รายการค้า หมายถึง รายการที่กิจการนำมาบันทึกบัญชี ซึ่งเป็นเหตุการณ์ทางการเงินที่
เกดิ ข้ึนจากการดำเนินงานทางธุรกิจ เชน่ การโอนเงนิ การแลกเปลยี่ นสินคา้ การซอ้ื ขายสนิ ค้า เป็นต้น
สิ่งที่มีค่าเป็นตัวเงินระหว่างกิจการค้ากับบุคคลอื่น ซึ่งมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้น หรือ
ลดลง ต่อสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้ ค่าใช้จ่าย ดังนั้นรายการค้าทางบัญชีจะพิจารณา
เกี่ยวกับรายการใดของธุรกิจที่จะถือว่าเป็นรายการค้าทางการบัญชีได้ ซึ่งรายการค้าจะต้อง
ประกอบดว้ ย 2 ลกั ษณะดังน้ี

1) เปน็ รายการที่สามารถวัดค่าเป็นจำนวนเงนิ ได้ ไมว่ ่าจะเปน็ สกุลเงนิ ใด
2) สามารถนำรายการค้านั้น มาบันทึกบัญชีได้ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดการ
เปลย่ี นแปลงในสินทรพั ย์ หน้ีสิน แล้วสว่ นของเจา้ ของกิจการ รายได้ และค่าใชจ้ า่ ย

การวิเคราะหร์ ายการค้า (Business Transaction Analysis)

เป็นการวิเคราะห์รายการค้าที่เกิดขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ทางการดำเนินธุรกิจ โดย
รายการค้าหนึ่งๆ จะมี 2 เหตุการณ์ขึ้นไป หลังจากนั้นจะนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาวิเคราะห์ตาม
หลักสมการบัญชี เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบต่อการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของสินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของ
เจ้าของ รายได้และค่าใช้จ่าย วา่ มผี ลกระทบอย่างไร ซ่งึ การวิเคราะห์รายการค้าที่ถกู ตอ้ ง จะทำให้การ
บนั ทึกบญั ชถี กู ต้องเช่นกัน

หลักการบญั ชคี ู่ (Double Entry System)

หลังจากวิเคราะห์รายการค้าที่เกิดขึ้นแล้ว จะนำรายการค้านั้นมาบันทึกบันทึกบัญชี 2 ด้าน
ซึ่งได้แก่ ด้านซ้ายมือ คือ เดบิต (Debit) หรือใช้ตัวย่อว่า Dr. และด้านขวามือ คือ เครดิต (Credit)
หรือใชต้ วั ย่อว่า Cr. โดยการบนั ทึกบญั ชีจะต้องบนั ทึกดว้ ยจำนวนเงินทงั้ สองด้านท่ีเทา่ กนั เสมอ

การลงบญั ชีสองด้านอาจมีการบันทึกบญั ชีดา้ นเดบติ หน่ึงบัญชี และดา้ นเครดติ หน่งึ บญั ชี หรือ
ด้านเดบิตมากกว่าหนึ่งบัญชี และด้านเครดิตมากกว่าหนึ่งบัญชี ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ของรายการค้าท่ี
เกดิ ขนึ้ ทง้ั นี้จำนวนเงินในบัญชีทีจ่ ะบันทึกบัญชีจะมีการเพ่ิมข้ึนดา้ นหนึ่งและลดลงอีกด้านหน่ึง ดังนั้น
เพื่อความเขา้ ใจจงึ ขอแสดงการเพิ่มขึ้นหรอื ลดลงรายการทางบัญชีตามระบบบญั ชีคู่ ดงั น้ี

56 หน้สี ิน
เดบิต เครดิต
สนิ ทรัพย์ (เพม่ิ ) (ลด)
เดบิต เครดิต
(เพ่ิม) (ลด)

สว่ นของเจา้ ของ
เดบิต เครดิต
(เพ่มิ ) (ลด)

คา่ ใชจ้ า่ ย รายได้
เดบิต เครดิต เดบิต เครดติ
(เพิ่ม) (ลด) (เพิ่ม) (ลด)

ภาพที่ 3.2 การเพ่ิมขน้ึ หรอื ลดลงของรายการทางบญั ชตี ามระบบบัญชคี ู่

ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของรายการทางบัญชีตามระบบบัญชีคู่ สอดคล้องกับการแสดง
รายการในงบแสดงฐานะการเงินหรือตามหลกั สมการบญั ชี ทก่ี ำหนดให้มกี ารบันทกึ บญั ชี
(วัฒนา ศิวะเกอ้ื และคณะ, 2559 : 46 – 47) ดงั น้ี

1. สินทรัพย์ แสดงอยู่ทางด้านซ้ายมือของสมการบัญชี ดังนั้น บัญชีประเภทสินทรัพย์จึง
แสดงจำนวนเงินอยู่ทางด้านเดบติ การเพิ่มข้นึ ของสินทรัพย์ต้องบนั ทึกรายการทางดา้ นเดบิตของบัญชี
และการลดลงของสินทรพั ย์ตอ้ งบันทึกรายการทางดา้ นเครดติ ของบัญชี

2. หนี้สิน แสดงอยู่ทางด้านขวามือของสมการบัญชี ดังนั้นบัญชีประเภทหนี้สินจึงแสดง
จำนวนเงนิ อยู่ทางด้านเครดิต การเพิ่มขนึ้ ของหน้สี ิน ต้องบันทกึ รายการทางดา้ นเครดิตของบัญชี และ
การลดลงของหนส้ี ินต้องบนั ทกึ รายการทางดา้ นเดบติ ของบัญชี

57

3. ส่วนของเจา้ ของ แสดงอย่ทู างดา้ นขวามือของสมการบัญชีเชน่ เดยี วกบั หน้ีสนิ ดังนน้ั บัญชี
ประเภทส่วนทุน จึงแสดงจำนวนเงินทางด้านเครดิต การเพิ่มขึ้นของส่วนทุนต้องบันทึกรายการ
ทางดา้ นเครดิตของบญั ชีและการลดลงของส่วนทุน ต้องบนั ทึกรายการทางด้านเดบิตของบญั ชี

4. รายได้ ทำให้ส่วนทุนเพม่ิ ขึน้ ดงั นัน้ บัญชปี ระเภทรายได้ จึงแสดงการเพม่ิ ขึน้ และลดลงของ
รายได้เช่นเดียวกับบัญชีประเภทส่วนทุน นั่นคือ การเพิ่มขึ้นของรายได้ต้องบันทึกรายการทางด้าน
เครดติ ของบัญชี และการลดลงของรายได้ ตอ้ งบนั ทกึ รายการทางด้านเดบิตของบัญชี

5. ค่าใช้จ่าย ทำให้ส่วนทุนลดลง ดังนั้นบัญชีประเภทค่าใช้จ่าย จึงแสดงการเพิ่มขึ้นและ
ลดลงของค่าใช้จ่าย ในทางตรงกันข้ามกับบัญชีประเภทส่วนทุน นั่นคือ การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายต้อง
บันทึกรายการทางด้านเดบติ ของบัญชี และการลดลงของค่าใช้จ่ายต้องบนั ทึกทางด้านเครดิตของบัญชี

ดังนั้นเมื่อบัญชีต่างๆ ซ่ึงได้แก่ สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของเจ้าของ รายได้และค่าใช้จ่าย มีการ
บันทึกบัญชี 2 ด้าน ส่งผลให้ด้านหนึ่งแสดงจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น และอีกด้านหนึ่งแสดงจำนวนเงินท่ี
ลดลง ดังนั้นถ้าต้องการทราบวา่ บัญชีนั้นมียอดคงเหลือเท่าใด ก็ต้องคำนวณหาผลต่างระหว่างด้านเด
บิตกับดา้ นเครดติ จำนวนเงนิ ที่ตา่ งกัน จะเรียกว่า ยอดดลุ (Balance)

ทั้งน้ีถ้าจำนวนเงินทางด้านเดบิตมีมากกว่าจำนวนเงินทางด้านเครดิต จะเรียกผลต่างนั้นว่า
ยอดดุลเดบิต (Debit Balance) แต่ถ้าจำนวนเงินทางด้านเครดิตมากกว่าจำนวนเงินทางด้านเดบิต
เรียกผลต่างนั้นว่า ยอดดลุ เครดิต (Credit Balance)

ยอดดุล (Balance) บัญชีประเภทสินทรัพย์และบัญชีประเภทค่าใช้จ่ายโดยปกติจะมียอดดุล
เดบิต (Debit Balance) ส่วนยอดของบัญชีประเภทหนี้สิน บัญชีประเภทส่วนของเจ้าของ และบัญชี
ประเภทรายได้ โดยปกติจะเป็นยอดดุลเครดิต (Credit Balance) ยกเว้นบัญชีบางรายการท่ีเป็นยอด
ปรับลดของบัญชี เช่น ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ทางบัญชีจัดเป็นสินทรัพย์ แต่เป็นบัญชีที่ปรับลดยอด
บัญชีลกู หน้ี ดงั น้นั ยอดดุลของบญั ชีคา่ เผือ่ หน้ีสงสัยจะสญู จึงมยี อดดุลคงเหลือด้านเครดิต เปน็ ตน้

จากภาพที่ 3.2 สามารถสรุปการบันทึกรายการตามระบบบัญชีคู่ ทั้ง 5 ประเภท ที่มีการ
เปล่ียนแปลงเพม่ิ ข้ึนหรอื ลดลง รวมทั้งยอดดุลคงเหลอื สรปุ ได้ดังนี้

ตารางท่ี 3.1 ตารางสรปุ การเพ่มิ ขึน้ หรอื ลดลงของรายการทางบัญชี

ประเภทรายการ เพิ่ม ลด ยอดคงเหลือ
1. สินทรัพย์ เดบิต เครดติ เดบิต
2. หนสี้ นิ เครดติ เดบิต เครดิต
3. สว่ นของเจา้ ของ เครดิต เดบิต เครดติ
4. รายได้ เครดติ เดบิต เครดติ
5. ค่าใชจ้ า่ ย เดบิต เครดิต เดบิต

58

สมดุ รายวันข้นั ต้น (Journal)

หมายถึง สมุดบญั ชลี ำดับแรกทใ่ี ชใ้ นการจดบนั ทึกรายการคา้ ต่างๆ ท่เี กิดขนึ้ โดยเรียงลำดับ
ตามวนั ทกี่ อ่ น-หลังทเ่ี กิดเหตุการณ์ กอ่ นท่ีจะนำไปบันทึกในสมุดบัญชีขนั้ ปลาย โดยสมุดรายวันขั้นต้น
สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. สมดุ รายวนั เฉพาะ (Special Journal)
เป็นสมุดบัญชีรายวันขั้นต้นที่จดบันทึกรายการค้าที่เกิดขึ้นเป็นประจำและเกี่ยวข้องกับ

การดำเนินธุรกิจ โดยส่วนใหญ่เป็นรายการค้าเกี่ยวข้องกับทางธุรกิจ การใช้สมุดรายวันเฉพาะในการ
จดบันทึกรายการค้าจะทำให้ลดความผิดพลาดในการบันทึกบัญชีและลดปริมาณงานในการบันทึก
บัญชีทุกครั้งที่เกิดรายการ เหมาะสำหรับกิจการที่มีรายการค้าเกิดขึ้น ซึ่งสมุดรายวันเฉพาะสามารถ
แบ่งเปน็ สมดุ บญั ชรี ายวันขั้นต่างๆ ดังนี้

1.1 สมุดรายวันซื้อ (Purchases Journal) เป็นสมุดบัญชีรายวันที่ใช้สำหรับบันทึก
รายการค้าทีซ่ อ้ื สนิ คา้ เป็นเงนิ เชอ่ื เท่าน้นั

1.2 สมุดรายวันขาย (Sales Journal) เป็นสมุดบัญชีรายวันที่ใช้บันทึกรายการค้าที่
ขายสินคา้ เปน็ เงินเชอื่ เท่านั้น

1.3 สมุดรายวันจ่ายเงิน (Cash Payments Journal) เป็นสมุดบัญชีรายวันที่ใช้
บันทกึ รายการคา้ ทจ่ี ่ายชำระเป็นเงนิ สดหรือจ่ายโดยเชค็ (เงนิ ฝากธนาคาร) ในกรณตี า่ งๆ เชน่ การซื้อ
สนิ ค้าหรอื บรกิ ารโดยจ่ายเปน็ เงินสด การจ่ายคา่ สาธารณปู โภค การจา่ ยชำระหน้ีใหเ้ จ้าหน้ี เป็นตน้

1.4 สมุดรายวันรับเงิน (Cash Receipts Journal) เป็นสมุดบัญชีรายวันที่ใช้บันทึก
รายการค้าที่รับชำระเป็นเงินสดหรือรับโดยเช็ค (เงินฝากธนาคาร) ในกรณีต่างๆ เช่น การขายสินค้า
โดยรับเป็นเงนิ สด การรบั ชำระหน้ีจากลกู หนี้ เป็นตน้

1.5 สมดุ รายวันส่งคืนสินคา้ (Purchases Returns and Allowance Journal) เป็น
สมุดบัญชีรายวันท่ีใช้บันทึกรายการค้า เมื่อเกิดการส่งคืนสนิ ค้าเฉพาะรายการที่เคยซื้อมาเป็นเงินเชื่อ
เท่านน้ั ไมร่ วมถงึ การสง่ คนื สินค้าทซ่ี อื้ มาเปน็ เงินสด

1.6 สมุดรายวันรับคืนสินค้า (Sales Returns and Allowance Journal) เป็นสมุด
บญั ชรี ายวนั ท่ใี ชบ้ นั ทึกรายการคา้ เม่ือเกิดการรับคืนสินค้าจากลูกค้าท่ีขายสินค้าไปเป็นเงินเชื่อเท่านั้น
ไมร่ วมถึงรบั คนื สินคา้ ทข่ี ายไปเป็นเงินสด

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจในแนวคิด หลักการ และการลงบัญชีในในสมุดรายวนั เฉพาะ
จะขออธิบายในบทท่ี 8 ตอ่ ไป

59

2. สมดุ รายวนั ทว่ั ไป (General Journal)
เป็นสมุดรายวันขั้นต้นทีใ่ ช้บันทึกรายการค้าทีเ่ กิดขึ้นในแต่ละวันจากการดำเนนิ งานทาง

ธรุ กจิ ซึง่ บางกิจการไม่ได้ใชส้ มุดรายวนั เฉพาะในการบนั ทกึ รายการค้าทเี่ กิดขน้ึ ประจำ กิจการสามารถ
เลือกใชส้ มดุ รายวนั ท่วั ไปในการบันทึกบญั ชีทเ่ี กดิ ขึ้นได้

สำหรับกิจการที่ใช้สมุดรายวันเฉพาะในการบันทึกรายการค้า กิจการจะบันทึกในสมุด
รายวันทัว่ ไปก็ตอ่ เมอ่ื เปน็ รายการที่ไม่ไดเ้ กดิ ข้นึ ประจำ เชน่ การปรับปรุงรายการ การปิดบัญชี เป็นต้น
โดยมรี ูปแบบของสมุดรายวนั ทว่ั ไปดงั นี้

ตารางที่ 3.2 แบบฟอรม์ สมดุ รายวันทัว่ ไป

สมดุ รายวนั ท่ัวไป

วนั เดอื น ปี รายการ เลขที่ เดบิต เครดิต
บาท สต บาท สด
บญั ชี

ทง้ั นีเ้ พื่อใหเ้ ขา้ ใจการเกิดขึ้นของรายการค้าแต่ละรายการและการบันทึกรายการทางบัญชีท่ี
เกี่ยวข้องตั้งแต่การลงทุน การซื้อและการขาย การรับชำระหนี้ การจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ จึงขออธิบาย
วิธีการบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไป เพียงอย่างเดียว ดังนั้นสมุดรายวันทั่วไป แต่ละช่องมี
สามารถลงรายการได้ดังน้ี

1. ช่องวัน เดือน ปี เป็นการบันทึกวันที่ เดือน ปี ที่เกิดขึ้นของรายการค้าที่จะบันทึกใน
สมุดรายวนั ทว่ั ไป โดยเรียงตามลำดบั กอ่ นหลงั ของวันทีเ่ กดิ ขนึ้ ของรายการค้า

2. ชอ่ งรายการ เป็นการเขียนชื่อบญั ชีของรายการค้าที่เกิดเหตุการณ์ ซึง่ จะต้องบันทึกช่ือ
บัญชีด้านเดบิตก่อน โดยเขียนชิดเส้นด้านซ้ายมือของช่องรายการ จากนั้นจึงเขียนชื่อบัญชีที่ต้อง
บันทึกด้านเครดิต โดยเขียนเยื้องลงมาอีกหน่ึงบรรทัด และอีกหนึ่งบรรทดั เขียนคำอธิบายรายการคา้
ท่ีเกิดขน้ึ โดยเขยี นสน้ั ๆ เขา้ ใจงา่ ย

3. ช่องเลขที่บัญชี ให้เขียนเลขที่บัญชีตามผังบัญชีที่กำหนด หลังจากได้ผ่านรายการไปยัง

สมุดบัญชีแยกประเภททว่ั ไปแลว้

4. ช่องเดบิตและเครดิต ให้ใส่ตัวเลขจำนวนเงินที่ต้องการจะบันทึกบัญชีด้านเดบิตและ

เครดิตตามท่บี นั ทกึ รายการค้าไว้ในช่องรายการ

60

ผังบัญชี (Chart of accounts)

ผังบัญชีเป็นการกำหนดเพื่อแบ่งกลุ่มประเภทของบัญชีต่างๆ โดยแยกเป็นหมวดหมู่และ

จัดเรียงตามลำดับตามแต่ละประเภทของบัญชี เช่น หมวดหมู่ของกลุ่มสินทรัพย์หมุนเวียน จะ

เรียงลำดับก่อนหลัง โดยเรียงตามตามสภาพคล่องของสินทรัพย์ที่สามารถแปรสภาพให้เป็นเงินสดได้

เร็ว หรือหมวดหมู่ของกลุ่มหนี้สินหมุนเวียน จะเรียงลำดับก่อนหลัง โดยเรียงตามภาระหนี้สินที่ถึง

กำหนดการจา่ ยชำระก่อน เป็นต้น

การกำหนดผังบัญชีจะกำหนดเป็นตัวเลข ทั้งนี้การกำหนดเลขที่บัญชีแต่ละกิจการอาจจะ

กำหนดไม่เหมือนกนั เนื่องจากไมม่ ีกฎเกณฑ์แน่นอน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและการนำไปใชใ้ ห้เกิด

ประโยชน์ตามต้องการ ดังนั้นการกำหนดจำนวนหลักของเลขที่บัญชีจะกำหนดเลข 3 หลักขึ้นไป

ข้ึนอยูก่ ับกิจการว่ามีรายการทางบญั ชีมากน้อยเพยี งใด ทงั้ นก้ี ารกำหนดรหสั ตัวเลขของเลขท่บี ัญชีหลัก

แรก แต่ละกิจการจะกำหนดเหมือนกัน เพราะรหัสตัวเลขหลักแรก เป็นรหัสตัวเลขที่บอกถึงประเภท

ของบญั ชี (วัฒนา ศิวะเก้ือ และคณะ, 2559 : 57 - 58) ดังนี้

บญั ชแี ยกประเภท สนิ ทรพั ย์ ให้เลขตัวแรกเป็นเลข 1

บัญชีแยกประเภท หน้สี นิ ใหเ้ ลขตัวแรกเป็นเลข 2

บัญชแี ยกประเภท สว่ นของเจ้าของ ใหเ้ ลขตวั แรกเปน็ เลข 3

บญั ชีแยกประเภท รายได้ ให้เลขตัวแรกเป็นเลข 4

บัญชแี ยกประเภท คา่ ใช้จา่ ย ให้เลขตวั แรกเป็นเลข 5

เมื่อกำหนดตัวเลขตัวแรกแล้ว ตัวเลขตัวที่สองของเลขที่บัญชี อาจแสดงชนิดของบัญชีว่า
เป็นสนิ ทรพั ย์ประเภทใด ตวั เลขท่ีสาม แสดงวา่ เป็นสนิ ทรพั ยช์ นดิ ใด เช่น บญั ชีแยกประเภทสินทรัพย์
ให้ตัวเลขไว้ 3 ตำแหน่งแรกของตัวเลข หมายถึง บัญชีแยกประเภทสินทรัพย์ ตำแหน่งที่สองของ
ตัวเลขแสดงให้ทราบว่าเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ตำแหน่งที่สามของตัวเลข
กำหนดชนดิ ของสนิ ทรพั ยแ์ สดงใหท้ ราบว่าเปน็ เงินสด ลูกหน้ีการค้า ท่ดี นิ อาคาร เป็นต้น

ต่อไปน้เี ป็นตวั อยา่ งของการกำหนดผงั บัญชีของบริษัทแห่งหนง่ึ 61

ประเภท ชื่อบัญชี เลขทีบ่ ญั ชี
สนิ ทรพั ย์ 100-199
สินทรพั ยห์ มุนเวยี น บญั ชีเงินสด 101
บญั ชตี ๋วั เงินรบั 102
สินทรัพย์ไม่หมนุ เวยี น บญั ชเี งนิ ลงทนุ ระยะสั้น 103
บัญชลี ูกหน้กี ารค้า 104
หน้สี นิ บัญชีเงินให้กยู้ ืมระยะส้ัน 105
หนี้สินหมนุ เวียน บญั ชสี ินค้าคงเหลือ 106
บญั ชีวสั ดสุ ิ้นเปลอื ง 107
หนส้ี นิ ไม่หมุนเวียน บญั ชีคา่ ประกันภัยจ่ายลว่ งหน้า 108
สว่ นของผถู้ ือหุ้น บัญชเี งนิ ลงทนุ ระยะยาว 121
บัญชีเงินให้กูย้ ืมระยะยาว 122
บญั ชที ดี่ ิน 131
บญั ชอี าคาร 132
บญั ชีอปุ กรณส์ ำนักงาน 133
บญั ชเี ครอ่ื งจักร 134
200-299
บัญชเี จ้าหนกี้ ารค้า 201
บัญชีต๋วั เงินจ่าย 202
บัญชีคา่ สาธารณูปโภคค้างจา่ ย 203
บญั ชภี าษเี งนิ ไดค้ ้างจา่ ย 204
บัญชีเจ้าหน้เี งนิ กู้ 231
บญั ชีตว๋ั เงนิ จา่ ย (ระยะยาว) 232
300-399
บัญชที ุนหุ้นสามญั 301
บัญชกี ำไรสะสม 302
บัญชเี งนิ ปันผลจา่ ย 303
บัญชีสรุปยอดรายได้ค่าใช้จ่าย 304

62

รายได้ บัญชีรายไดจ้ ากการใหบ้ รกิ าร 401-499
คา่ ใช้จ่าย บญั ชเี งนิ ปนั ผลรบั 401
บญั ชดี อกเบ้ยี รบั 402
บญั ชีรายได้เบด็ เตลด็ 403
404
บญั ชีเงินเดือนและคา่ แรง 501-699
บญั ชีค่าเชา่ อาคาร 501
บัญชีคา่ พาหนะ 502
บญั ชคี า่ ซอ่ มแซม 503
บญั ชคี า่ โฆษณา 504
บญั ชีคา่ เบย้ี ประกนั ภยั 505
บญั ชคี ่าสาธารณูปโภค 506
507

การกำหนดเลขท่ีบัญชี นอกจากจะกำหนดอย่างมีหลักเกณฑ์แลว้ กิจการควรจะพิจารณา
ถึงบัญชีที่อาจจะเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย ดังนั้นควรสำรองเลขที่บัญชีไว้ให้บัญชีเหล่านั้นตามลำดับที่
ควรจะแสดงในงบการเงิน

รายการเปดิ บัญชี (Opening Entry)

เป็นการบนั ทึกรายการค้าในสมดุ รายวันทว่ั ไปเมื่อมีการนำสินทรัพย์มากกว่า 1 รายการ หรอื

หนีส้ ินต่างๆ มาลงทนุ ครั้งแรกในกิจการ หรอื การเร่มิ งวดบญั ชี ตัวอย่างเชน่

นางสวยดี ได้ลงทุนกิจการเปิดร้านเสริมสวย ชื่อ ร้านสวยดีซาลอน โดยนำสินทรัพย์ต่าง ๆ

และหนี้สิน มาลงทุนในวันที่ 1 กันยายน 25X1 ได้แก่ เงินสด 500,000 บาท เงินฝากธนาคาร

200,000 บาท อปุ กรณเ์ สริมสวย 230,000 บาท และเงนิ กู้ 300,000 บาท ดงั นน้ั จงึ สามารถวิเคราะห์

รายการคา้ และบนั ทึกสมุดรายวันท่วั ไปได้ดังน้ี

สินทรัพย์ = หนส้ี นิ + สว่ นของเจ้าของ

เงนิ สด (+) = เงินกู้ (+) + ทนุ – สวยดี (+)

500,000 300,000 + 630,000

เงนิ ฝากธนาคาร (+)

200,000

อุปกรณ์เสรมิ สวย (+)

230,000

63

สมุดรายวนั ท่ัวไป

วนั เดือน ปี รายการ เลขที่ เดบติ เครดติ
บาท สต บาท สต
25X1 บัญชี 500,000 -
200,000 - 300,000 -
ก.ย 1 เงนิ สด 230,000 - 630,000 -

เงนิ ฝากธนาคาร

อุปกรณ์เสริมสวย

เงนิ กู้

ทุน – สวยดี

นางสวยดีนำสินทรพั ย์และ

หน้ีสินมาลงทุน

เพื่อความเข้าใจในการวิเคราะห์การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของรายการทางบัญชีตามหลักสมการ
บัญชี และการบันทึกบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป จึงขอยกตัวอย่างรายการค้าของธุรกิจบริการ
ร้าน “นานาซักรีด” ซึ่งนางนานา ลงทุนเปิดกิจการซักรีด เมื่อเดือนมีนาคม 25X1 โดยมีรายการค้า
ระหว่างเดอื นดงั น้ี
25X1
มี.ค. 2 นางนานานำเงนิ สด 300,000 บาท มาลงทุนในกจิ การ

3 นำเงนิ สดไปเปิดบัญชีเงนิ ฝากธนาคาร (กระแสรายวนั ) 200,000 บาท
4 ซื้ออุปกรณซ์ ักรดี เป็นเงินเชื่อจากรา้ นรุ่งเรอื งการไฟฟ้า 60,000 บาท
5 ซ้อื วสั ดุในการซักรีดเปน็ เงนิ สด 8,000 บาท
7 จ่ายค่าเชา่ ร้านเป็นเชค็ 5,000 บาท
8 รบั เงินคา่ บรกิ ารซกั รีดจากลกู ค้า 5,000 บาท
12 ออกบลิ เรียกเกบ็ เงนิ จากนางพมิ พ์มาดามเปน็ ค่าบริการซักรีด 7,000 บาท

ยังไม่ได้รบั เงิน
15 จา่ ยเงนิ เดือนให้พนกั งานคร่ึงเดือนแรก 3,000 บาท
16 รับชำระหน้ีจากนางพิมพม์ าดามเป็นเงินสด 4,000 บาท
20 จ่ายเชค็ ชำระหน้ีบางสว่ นให้ร้านรุ่งเรือง 20,000 บาท
25 นางนานาถอนเงนิ สดไปใช้ส่วนตัว 10,000 บาท
28 รบั เช็คคา่ บรกิ ารซักรดี จากลกู ค้า 3,000 บาท นำฝากธนาคารทนั ที
31 จา่ ยเงินเดอื นให้พนกั งานครง่ึ เดือนหลงั 3,000 บาท

64

โดยกจิ การนานาซักรีด ได้กำหนดเลขทบ่ี ัญชี ดังรายละเอียดต่อไปน้ี

101 เงนิ สด 201 เจา้ หนก้ี ารคา้

102 เงินฝากธนาคาร 301 ทุน – นานา

103 ลูกหนี้การค้า 401 รายไดค้ ่าบริการ

106 วสั ดซุ กั รดี 501 เงนิ เดอื น

121 อุปกรณ์ซักรีด 502 คา่ เชา่

การวเิ คราะห์รายการค้าโดยใชห้ ลกั สมการบัญชี

จากรายการคา้ ขา้ งต้นกิจการสามารถวเิ คราะห์รายการคา้ ในรปู แบบของสมการบัญชีและมี
ผลกระทบต่องบการเงิน (งบแสดงฐานะการเงนิ ) ไดด้ ังน้ี

ม.ี ค. 2 นางนานานำเงนิ สด 300,000 บาท มาลงทนุ ในกจิ การ

สนิ ทรัพย์ = หนสี้ ิน + ส่วนของเจา้ ของ

เงินสด (+) = -ไม่ม-ี + ทุน – นานา (+)

300,000 = - 0 - + 300,000

รา้ นนานาซกั รดี

งบแสดงฐานะการเงิน

ณ วันท่ี 2 มนี าคม 25X1

สินทรัพย์ หนีส้ นิ และส่วนของเจ้าของ

เงนิ สด 300,000 ทนุ – นานา 300,000

รวม 300,000 รวม 300,000

65

3 นำเงินสดไปเปดิ บัญชีเงนิ ฝากธนาคาร (กระแสรายวัน) 200,000 บาท

สินทรัพย์ = หน้สี นิ + ส่วนของเจ้าของ

เงนิ สด (-) เงนิ ฝากธนาคาร (+) = -ไมม่ -ี + -ไมม่ -ี

200,000 200,000 = -0- + -0–

ร้านนานาซักรีด

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วันท่ี 3 มนี าคม 25X1

สนิ ทรพั ย์ หนส้ี ินและสว่ นของเจ้าของ
เงนิ สด
เงนิ ฝากธนาคาร 100,000 ทนุ – นานา 300,000

200,000

รวม 300,000 รวม 300,000

4 ซ้อื อปุ กรณ์ซักรดี เปน็ เงินเช่ือจากรา้ นรุ่งเรอื งการไฟฟ้า 60,000 บาท

สนิ ทรพั ย์ = หนสี้ ิน + ส่วนของเจ้าของ

อุปกรณ์ซักรดี (+) = เจ้าหนี้ (+) + -ไม่ม-ี

60,000 = 60,000 + -0-

ร้านนานาซกั รีด

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วันท่ี 4 มนี าคม 25X1

สินทรัพย์ หนส้ี ินและส่วนของเจา้ ของ
เงินสด
เงนิ ฝากธนาคาร 100,000 เจ้าหนี้การคา้ 60,000
อุปกรณ์ซักรีด
200,000 ทนุ – นานา 300,000

60,000

รวม 360,000 รวม 360,000

66

5 ซ้อื วัสดุในการซักรีดเปน็ เงนิ สด 8,000 บาท

สนิ ทรพั ย์ = หน้ีสนิ + สว่ นของเจา้ ของ

เงนิ สด (-) , วัสดุซักรดี (+) = -ไมม่ -ี + -ไม่มี-

8,000 , 8,000 = -0- + -0–

รา้ นนานาซักรดี

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วันที่ 5 มีนาคม 25X1

สินทรัพย์ หน้สี นิ และสว่ นของเจ้าของ
เงินสด
เงินฝากธนาคาร 92,000 เจ้าหน้ีการคา้ 60,000
วัสดซุ กั รดี
อปุ กรณ์ซกั รดี 200,000 ทนุ – นานา 300,000

8,000

60,000

รวม 360,000 รวม 360,000

7 จา่ ยคา่ เช่ารา้ นเปน็ เชค็ 5,000 บาท

สนิ ทรพั ย์ = หนี้สนิ + ส่วนของเจ้าของ

เงนิ ฝากธนาคาร (-) = -ไมม่ -ี + ค่าเช่าร้าน (-) *

5,000 = - 0 - + 5,000

* คา่ เช่าร้านเป็นค่าใช้จา่ ยส่งผลกระทบใหส้ ่วนของเจ้าของลดลง เนอื่ งจากทำใหม้ ีกำไรลดลง

รา้ นนานาซกั รดี

งบแสดงฐานะการเงิน

ณ วนั ที่ 7 มีนาคม 25X1

สินทรพั ย์ หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ
เงินสด
เงนิ ฝากธนาคาร 92,000 เจ้าหนี้การค้า 60,000
วสั ดุซักรีด
อุปกรณ์ซักรดี 195,000 ทนุ – นานา 295,000

8,000

60,000

รวม 355,000 รวม 355,000

67

8 รับเงินคา่ บรกิ ารซกั รีดจากลูกค้า 5,000 บาท

สนิ ทรพั ย์ = หนสี้ นิ + สว่ นของเจ้าของ

เงนิ สด (+) = -ไมม่ -ี + รายได้คา่ ซักรดี (+) *

5,000 = - 0 - + 5,000

* รายไดค้ า่ ซักรดี ทำใหส้ ่วนของเจ้าของเพิ่มขนึ้ เนอ่ื งจากทำให้มีกำไรเพ่มิ ขึน้

รา้ นนานาซกั รีด

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วนั ท่ี 8 มนี าคม 25X1

สนิ ทรพั ย์ หน้ีสินและส่วนของเจ้าของ

เงินสด 97,000 เจ้าหน้ีการคา้ 60,000

เงินฝากธนาคาร 195,000 ทนุ – นานา 300,000

วสั ดุซกั รีด 8,000

อปุ กรณ์ซักรีด 60,000

รวม 360,000 รวม 360,000

12 ออกบลิ เรียกเกบ็ เงินจากนางพมิ พม์ าดามเปน็ คา่ บริการซักรีด 7,000 บาท

ยังไม่ไดร้ บั เงิน

สนิ ทรพั ย์ = หนี้สนิ + ส่วนของเจ้าของ

ลูกหนี้ (+) = -ไมม่ -ี + รายได้คา่ ซักรีด (+) *

7,000 = - 0 - + 7,000

* รายไดค้ ่าซักรีดทำใหส้ ่วนของเจา้ ของเพ่ิมขน้ึ เนือ่ งจากทำให้มีกำไรเพ่ิมขึ้น

รา้ นนานาซกั รีด

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วนั ที่ 12 มีนาคม 25X1

สินทรพั ย์ หนสี้ นิ และส่วนของเจ้าของ

เงนิ สด 97,000 เจา้ หน้ีการค้า 60,000

เงินฝากธนาคาร 195,000 ทนุ – นานา 307,000

ลูกหนี้การค้า 7,000

วสั ดุซกั รดี 8,000

อปุ กรณ์ซักรีด 60,000

รวม 367,000 รวม 367,000

68

15 จา่ ยเงนิ เดือนให้พนกั งานคร่งึ เดือนแรก 3,000 บาท

สินทรพั ย์ = หนส้ี นิ + ส่วนของเจา้ ของ

เงนิ สด (-) = -ไม่ม-ี + เงนิ เดือนพนกั งาน (-) *

3,000 = - 0 - + 3,000

* เงนิ เดอื นพนักงานเป็นคา่ ใช้จา่ ยส่งผลกระทบใหส้ ว่ นของเจ้าของลดลง เน่ืองจากทำใหม้ ี

กำไรลดลง

ร้านนานาซกั รีด

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วันท่ี 15 มนี าคม 25X1

สนิ ทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจา้ ของ

เงนิ สด 94,000 เจ้าหนี้การค้า 60,000

เงนิ ฝากธนาคาร 195,000 ทนุ – นานา 304,000

ลูกหนี้การค้า 7,000

วสั ดุซักรดี 8,000

อุปกรณ์ซักรดี 60,000

รวม 364,000 รวม 364,000

16 รับชำระหนีจ้ ากนางพมิ พม์ าดามเปน็ เงินสด 4,000 บาท

สินทรัพย์ = หนสี้ นิ + ส่วนของเจ้าของ

เงินสด (+) ลกู หนี้ (-) = -ไมม่ -ี + -ไม่ม-ี

4,000 4,000 = - 0 - + - 0 -

ร้านนานาซักรีด

งบแสดงฐานะการเงิน

ณ วันท่ี 16 มีนาคม 25X1

สินทรัพย์ หน้ีสนิ และสว่ นของเจา้ ของ
เงินสด
เงินฝากธนาคาร 98,000 เจา้ หน้ีการคา้ 60,000
ลกู หน้ีการค้า
วสั ดุซักรีด 195,000 ทุน – นานา 304,000
อุปกรณ์ซักรดี
3,000
รวม
8,000

60,000

364,000 รวม 364,000

69

20 จา่ ยเชค็ ชำระหนบี้ างสว่ นใหร้ ้านรงุ่ เรือง 20,000 บาท

สินทรัพย์ = หนีส้ นิ + สว่ นของเจ้าของ
-ไมม่ -ี
เงนิ ฝากธนาคาร (-) = เจา้ หนี้ (-) + -0-

20,000 = 20,000 +

รา้ นนานาซักรีด

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วนั ที่ 20 มนี าคม 25X1

สินทรัพย์ หนีส้ นิ และสว่ นของเจา้ ของ
เงนิ สด
เงินฝากธนาคาร 98,000 เจา้ หนี้การคา้ 40,000
ลกู หน้ีการค้า
วัสดซุ กั รีด 175,000 ทนุ – นานา 304,000
อปุ กรณ์ซกั รีด
3,000
รวม
8,000

60,000

344,000 รวม 344,000

25 นางนานาถอนเงินสดไปใชส้ ว่ นตัว 10,000 บาท

สินทรัพย์ = หน้ีสิน + สว่ นของเจ้าของ

เงินสด (-) = -ไมม่ -ี + ถอนใชส้ ่วนตัว (-)

10,000 = - 0 - + 10,000

รา้ นนานาซกั รดี

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วนั ที่ 25 มนี าคม 25X1

สินทรพั ย์ หน้ีสินและสว่ นของเจา้ ของ
เงนิ สด
เงินฝากธนาคาร 88,000 เจ้าหนี้การค้า 40,000
ลกู หนี้การค้า
วสั ดซุ ักรีด 175,000 ทนุ – นานา 294,000
อุปกรณ์ซกั รดี
3,000
รวม
8,000

60,000

334,000 รวม 334,000

70

28 รบั เช็คคา่ บรกิ ารซักรดี จากลกู คา้ 3,000 บาท นำฝากธนาคารทนั ที

สนิ ทรัพย์ = หนสี้ นิ + ส่วนของเจ้าของ

เงนิ ฝากธนาคาร (+) = -ไมม่ -ี + รายได้คา่ ซักรดี (+) *

3,000 = -0- + 3,000

* รายไดค้ ่าซักรีดทำใหส้ ่วนของเจา้ ของเพิ่มข้ึน เนอื่ งจากทำให้มกี ำไรเพ่ิมขึ้น

ร้านนานาซักรีด

งบแสดงฐานะการเงนิ

ณ วันที่ 28 มีนาคม 25X1

สินทรัพย์ หนส้ี ินและสว่ นของเจ้าของ
เงนิ สด
เงนิ ฝากธนาคาร 88,000 เจา้ หนี้การค้า 40,000
ลกู หนี้การคา้
วัสดซุ กั รดี 178,000 ทนุ – นานา 297,000
อปุ กรณ์ซักรดี
3,000

8,000

60,000

รวม 337,000 รวม 337,000

31 จา่ ยเงินเดือนให้พนกั งานครึ่งเดือนหลัง 3,000 บาท

สินทรพั ย์ = หนส้ี ิน + สว่ นของเจ้าของ

เงินสด (-) = -ไมม่ -ี + เงนิ เดอื นพนักงาน (-) *

3,000 = - 0 - + 3,000

* เงนิ เดอื นพนักงานเป็นค่าใช้จ่ายส่งผลกระทบให้สว่ นของเจ้าของลดลง เน่ืองจากทำให้มี

กำไรลดลง

71

รา้ นนานาซกั รีด

งบแสดงฐานะการเงิน

ณ วนั ที่ 28 มนี าคม 25X1

สนิ ทรพั ย์ หนส้ี นิ และส่วนของเจา้ ของ
เงนิ สด
เงินฝากธนาคาร 85,000 เจา้ หนี้การค้า 40,000
ลกู หนี้การค้า
วสั ดุซกั รีด 178,000 ทนุ – นานา 294,000
อุปกรณ์ซักรีด
3,000
รวม
8,000

60,000

334,000 รวม 334,000

การบนั ทกึ รายการคา้ ในสมดุ รายวันทว่ั ไป

เมื่อวิเคราะห์รายการค้าของกิจการนานาซักรีดแล้ว จะนำผลการวิเคราะห์ดังกล่าวไป
บันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไปตามหลักการของระบบบัญชีคู่ โดยรายการค้าที่เกิดขึ้นจะต้อง
บันทกึ รายการได้ 2 ดา้ น ได้แก่ ดา้ นเดบิตและด้านเครดิต โดยขอยกตัวอยา่ งวันที่ 2 ม.ี ค. 25X1 ดังนี้

ม.ี ค. 2 นางนานานำเงินสด 300,000 บาท มาลงทุนในกิจการ

สนิ ทรพั ย์ = หนสี้ นิ + สว่ นของเจ้าของ

เงนิ สด (+) = -ไม่ม-ี + ทนุ – นานา (+)

300,000 = - 0 - + 300,000

ดังนัน้ สินทรัพย์ เพมิ่ ข้นึ (+) ไดแ้ ก่ เงินสด การบนั ทกึ บัญชจี ะบันทึกด้าน เดบิต

สว่ นของเจา้ ของ เพิ่มขน้ึ (+)ไดแ้ ก่ ทุน–นานา การบันทกึ บัญชจี ะบนั ทกึ ด้าน เครดติ

สมดุ รายวันทั่วไป

วัน เดือน ปี รายการ เลขที่ เดบิต เครดติ

บญั ชี บาท สต บาท สด

มี.ค. 2 เงินสด 101 300,000 -

ทุน – นานา 301 300,000 -

นานานำเงนิ สดมาลงทนุ

72

ดงั นัน้ การบนั ทึกรายการค้าในสมดุ รายวนั ทว่ั ไปสามารถบันทึกได้ดังน้ี

สมุดรายวันท่วั ไป

วัน เดอื น ปี รายการ เลขท่ี เดบิต เครดติ

25X1 บัญชี บาท สต บาท สต

ม.ี ค. 1 เงนิ สด 101 300,000 - 300,000 -

ทุน – นานา 301 200,000 - 200,000 -
60,000 -
นางนานานำเงินสดมาลงทุน 60,000 - 8,000 -
5,000 -
3 เงินฝากธนาคาร 102 8,000 - 5,000 -
เงินสด 101 7,000 -
5,000 - 3,000 -
นำเงินสดไปเปิดบัญชีธนาคาร
5,000 -
อปุ กรณ์ซกั รดี 121
4 เจา้ หน้ีการค้า 201 7,000 -

ซือ้ อุปกรณ์ซักรีดเป็นเงินเช่อื 3,000 -

วสั ดซุ ักรดี 106
101
5 เงนิ สด
ซื้อวสั ดุซกั รีดเปน็ เงินสด

คา่ เช่า 502
เงนิ ฝากธนาคาร 102

7 จา่ ยค่าเชา่ สำหรับเดอื นเป็นเช็ค

เงนิ สด 101
รายได้คา่ บรกิ าร 401

8 รับเงินค่าบรกิ ารซักรดี จากลูกค้า 103
ลกู หนี้การคา้ 401
รายไดค้ ่าบรกิ าร
ออกบิลเรยี กเกบ็ ค่าบริการซักรดี 501
101
12 เงินเดือน
เงินสด

จา่ ยเงนิ เดือนให้พนักงาน

73

วนั เดอื น ปี รายการ เลขท่ี เดบิต เครดิต

25X1 บญั ชี บาท สต บาท สต

เงินสด 101 4,000 -
15 ลูกหนี้การค้า 103 4,000 -

รบั ชำระหนบ้ี างสว่ นจากลกู หน้ี

16 เจา้ หนี้ 201 20,000 - 20,000 -
เงินฝากธนาคาร 102

จ่ายเชค็ ชำระหนบี้ างส่วน

ถอนใชส้ ว่ นตวั 302 10,000 - 10,000 -
20 เงินสด 101

นานาถอนเงินสดไปใช้สว่ นตัว

เงินฝากธนาคาร 102 3,000 -
25 รายได้ค่าบริการ 401
3,000 -
รับเช็คค่าบรกิ ารนำฝากธนาคาร

เงินเดือน 501 3,000 -
เงินสด 101 3,000 -

28 จ่ายเงินเดือนให้พนกั งาน

31

74

บทสรุป
การดำเนินธุรกิจทำให้มีเหตุการณ์ทางธรุ กิจและรายการคา้ เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทำให้นักบัญชี

จะตอ้ งนำรายการค้ามาวเิ คราะห์ เพ่ือบนั ทึกบญั ชีในสมุดรายวนั ผลของการวิเคราะห์รายการค้าจะทำ
ให้เกิดการเพิ่มขึ้นหรือลดลงของบัญชีสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของเจ้าของ ตามหลักการของสมการ
บัญชี ที่ต้องมียอดที่เท่ากัน คือ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ โดยการวิเคราะห์รายการค้า
จะใช้แนวคิดระบบบัญชีคู่ คือ บันทึกบัญชีด้านซ้าย ซึ่งเรียกว่า ด้านเดบิต และด้านขวา เรียกว่า ด้าน
เครดติ ในจำนวนที่เท่ากันเสมอ แล้วจึงนำรายการไปบนั ทึกบัญชใี นสมุดบัญชขี น้ั ต้น

สมุดบัญชีขั้นต้น มี 2 ประเภท คือ สมุดรายวันทั่วไปและสมุดรายวันเฉพาะ ซึ่งในบทนี้ได้
อธิบายถึงการบนั ทึกบัญชใี นสมุดรายวันท่ัวไป โดยสมดุ รายวันท่ัวไป เปน็ สมดุ รายวันข้ันต้นท่ีใช้บันทึก
รายการค้าที่เกิดขึ้น โดยบันทึกเรียงตามลำดับเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนก่อนและหลัง เมื่อบันทึกรายการคา้
แต่ละรายการในสมุดรายวันทั่วไปแล้ว จะทำการผ่านรายการบัญชีไปยังสมุดบัญชีแยกประเภทซึ่งจะ
ได้กล่าวในบทท่ี 4 ต่อไป

75

แบบฝึกหดั บทท่ี 3

ขอ้ 3-1 ใหย้ กตวั อยา่ งรายการค้าทีม่ ีผลกระทบต่อสมการบญั ชแี ต่ละรายการดังตอ่ ไปน้ี
1. สินทรพั ยล์ ดและหนีส้ ินเพิ่ม
2. สนิ ทรัพยเ์ พ่ิมและหน้ีสนิ ลด
3. สินทรพั ย์เพิ่มและหนส้ี นิ เพมิ่
4. หนี้สินเพม่ิ และส่วนของเจา้ ของลด
5. หน้สี ินลดและหน้ีสินเพมิ่
6. สินทรพั ยเ์ พ่ิมและส่วนของเจา้ ของเพิ่ม
7. สนิ ทรพั ยล์ ดและหนี้สินลด

ขอ้ 3-2 จงวิเคราะหร์ ายการคา้ ของกิจการแสนดบี ริการซกั รดี ซ่ึงเป็นรา้ นซักรดี เสื้อผ้าแห่งหน่ึง โดย

ระบจุ ำนวนเงินและชนิดของรายการทท่ี ำให้สนิ ทรัพย์ หน้สี ิน ส่วนของเจา้ ของ รายได้ และ

ค่าใช้จ่ายเพ่ิมข้นึ หรือลดลง

ตวั อย่าง หมวดบญั ชี ช่อื บัญชี (+/-) จำนวนเงนิ

1. เจา้ ของกิจการนำเงินสดมาลงทนุ 250,000 บาท สินทรัพย์ เงินสด + 250,000.-

ส่วนของเจ้าของ ทนุ + 250,000.-

2. ซอื้ อุปกรณซ์ ักรดี ราคา 60,000 บาท โดยจา่ ยเปน็ เงินสด 35,000 บาท ท่เี หลือเป็นเงินเช่อื
3. ไดร้ ับเงนิ สดเปน็ ค่าบริการซักรีด 5,000 บาท
4. จ่ายค่าเช่าร้านจำนวน 10,000 บาท
5. ซอ้ื วัสดใุ นการซักรีดเปน็ เงินเช่อื 3,000 บาท
6. ซอ้ื เครอ่ื งตกแต่งร้านเปน็ เงินสด 8,000 บาท
7. ส่งบิลเรยี กเก็บคา่ บริการซักรดี จากลูกค้า 12,000 บาท
8. จา่ ยชำระหน้ีคา่ อุปกรณ์ที่ซื้อมาตามรายการท่ี 2
9. กูเ้ งนิ ธนาคาร 50,000 บาท
10. จ่ายค่าไฟฟา้ 3,500 บาท
11. ลูกค้านำเงินสดมาจ่ายชำระตามรายการที่ 7
12. นำเงนิ สดฝากธนาคาร 20,000 บาท
13. เจ้าของกิจการถอนเงินสดไปใชส้ ว่ นตวั 6,000 บาท
14. จ่ายเงินเดือน 9,000 บาท
15. เจ้าของกิจการนำเงินสดมาลงทนุ เพิม่ 10,000 บาท

76

ขอ้ 3-3 นายภทั รพงษ์ เปิดกิจการรับจ้างทำระบบประปาอาคารชื่อร้าน ภทั รการช่าง โดยในระหว่าง
เดือนพฤษภาคม 25X2 มรี ายการค้าเกดิ ข้ึนดงั ต่อไปนี้
พ.ค. 1 นายภัทรพงษ์นำเงินสดมาลงทุนในกจิ การ 850,000 บาท โดยนำเงินสดฝาก
ธนาคารทันที 50,000 บาท
3 ซือ้ อปุ กรณ์การช่าง 50,000 บาท
5 ซื้อรถกระบะมือสอง ราคา 450,000 บาท จากบริษัท ชาติยนต์ จำกัด จ่ายเชค็
ชำระทนั ที 50,000 บาท หนี้ทเี่ หลอื ขอชำระเปน็ งวด ๆ 10 งวด
8 ซื้อท่อนำ้ 10,000 บาท โดยจา่ ยชำระเปน็ เงนิ สด
11 จ่ายคา่ เช่าอาคารด้วยเงินสด 5,000 บาท
12 รับเงินค่าบริการเปน็ เงินสด 80,000 บาทและส่งบิลเกบ็ เงนิ จากนางอนงค์
ซง่ึ กจิ การให้บริการไปแลว้ 42,000 บาท ยังไมไ่ ด้รับเงนิ
16 ซอื้ อุปกรณ์การชา่ งเพม่ิ เติมดว้ ยเงนิ สด 10,000 บาท
20 รับชำระหนี้จากลูกค้าตามบิลเรยี กเก็บเงนิ ลงวันท่ี 12 พฤษภาคม ท้ังหมด
24 รับเงินค่าบริการ 15,000 บาท นำเงนิ ที่ได้เข้าฝากธนาคารทนั ที
26 นำรถกระบะไปซ่อมรถ 5,000 บาท ทร่ี า้ นพอการป๊ัม โดยจา่ ยเปน็ เงนิ สด
28 ออกบลิ เรียกเกบ็ เงนิ จากนางสมศรีเปน็ เงิน 12,000 บาท ยังไมไ่ ด้รบั เงิน
31 จา่ ยเงินเดอื น 20,000 บาท จ่ายคา่ นำ้ คา่ ไฟ 3,000 บาท

ให้ทำ 1. วเิ คราะหร์ ายการค้าโดยใช้สมการบัญชี
2. บนั ทกึ รายการค้าข้างต้นในสมดุ รายวนั ทัว่ ไป

77

ข้อ 3-4 รา้ น “สยามมติ ติ้ง” เปน็ กิจการใหเ้ ชา่ สถานท่ีประชมุ ในระหวา่ งเดือนกนั ยายน 25X1
มีรายการค้าเกดิ ขึน้ ดงั น้ี
ก.ย.1 นายสยามซ่ึงเป็นเจ้าของไดน้ ำเงนิ สด 300,000 บาท ทดี่ นิ 500,000 บาท และ
อาคาร 700,000 บาท มาลงทนุ ในกจิ การ
4 ซ้ือเครื่องเก็บเงินราคา 40,000 บาท จากร้านมีทอง เปน็ เงินเชอื่
6 จ่ายเงนิ สดซอ้ื เคร่ืองเขยี นแบบพมิ พ์ 2,000 บาท
11 ซือ้ เคร่ืองตกแตง่ สำนักงานจากรา้ น ดีดีเคร่ืองตกแต่ง ราคา 90,000 บาท
จ่ายเงินสดทันที 20,000 บาท ทเ่ี หลือออกเปน็ ตว๋ั เงินอายุ 30 วัน ให้กับรา้ น
12 จา่ ยชำระหนี้คา่ เครื่องเก็บเงินทซ่ี ื้อเมื่อวนั ท่ี 4 กันยายน ท้ังหมด
13 รับเงนิ ค่าเชา่ สถานทีป่ ระชมุ จำนวน 90,000 บาท
14 กเู้ งินจากธนาคารกรุงเทพ 120,000 บาท
20 รับเงินค่าเชา่ สถานท่ปี ระชมุ จำนวน 45,000 บาท
28 จ่ายค่าสาธารณูปโภค 45,000 บาท และเงินเดือนพนักงาน 42,000 บาท

ให้ทำ 1. วเิ คราะหร์ ายการค้าโดยใชส้ มการบญั ชี
2. บันทึกรายการคา้ ขา้ งต้นในสมดุ รายวันทว่ั ไป

78

ขอ้ 3-5 ตอ่ ไปน้ีเป็นรายการค้าของ สำนกั งานจัดหางานดวงดี ทเ่ี กิดข้นึ ในเดือนมนี าคม 25X7
มี.ค. 1 นางดวงดไี ด้นำเงนิ สดมาลงทุน 500,000 บาท
3 นำเงินสดฝากธนาคาร 300,000 บาท
5 ซ้อื เคร่ืองใชส้ ำนักงานเป็นเงินสด 80,000 บาท
9 รบั เงนิ สดเปน็ ค่าบริการ 60,000 บาท
12 จ่ายค่าโฆษณา 3,500 บาท
17 ซอ้ื รถยนต์ 1 คัน โดยจ่ายเป็นเงนิ สด 150,000 บาท และจา่ ยเป็นเชค็ ล่วงหนา้
ลงวันท่ี 15 พฤษภาคม 25X7 200,000บาท
20 สง่ บลิ เก็บคา่ บริการจากลกู ค้า 55,000 บาท
22 นางดวงดีได้ถอนเงินสดของกิจการไปใช้สว่ นตวั 12,000 บาท
24 จา่ ยคา่ ใชจ้ า่ ยเบ็ดเตล็ด 1,500 บาท
28 รบั ชำระหน้ีจากลูกหนี้ 40,000 บาท
29 จ่ายค่าเช่าสำนักงาน 18,000 บาท
30 ถอนเงนิ ฝากจากธนาคาร 500,000 บาท
31 จ่ายคา่ สาธารณูปโภค 2,900 บาท และจา่ ยเงนิ เดอื นพนักงาน 25,000 บาท

ใหท้ ำ บันทึกรายการค้าขา้ งตน้ ในสมุดรายวนั ทว่ั ไป

79

ขอ้ 3-6 สำนักงานบัญชี “จนั ทรฉ์ าย” เริม่ เปดิ ดำเนนิ งานเมอื่ วนั ท่ี 1 ตลุ าคม 25X9 โดยรายการค้า
เกดิ ขนึ้ ดงั นี้
ต.ค. 1 นางจนั ทร์ฉายนำเงินสดมาลงทุน 5,000,000 บาท
5 ซื้ออาคารพรอ้ มส่ิงปลูกสรา้ งเปน็ เงินสด 2,500,000 บาท
6 ซอ้ื อปุ กรณ์ 60,000 บาท และวัสดสุ ิ้นเปลือง 10,000 บาท เป็นเงนิ เชือ่ จาก
บริษทั ไทอปุ กรณ์ จำกัด
8 ได้รบั เงินสด 20,000 บาท เป็นคา่ บริการทางบญั ชี
10 สง่ บิลเรียกเกบ็ เงินคา่ บรกิ ารทางบญั ชีจาก หา้ งห้นุ ส่วน นำโชค จำกัด 10,000
บาท ยงั ไม่ได้รับเงิน
15 จ่ายเงินเดือนพนักงานคร่ึงเดอื นแรก 10,000 บาท
17 ชำระหนค้ี ่าอุปกรณแ์ ละวัสดุสน้ิ เปลอื งท้ังหมด
20 หา้ งหุ้นส่วน นำโชค จำกัด นำเงินคา่ บรกิ ารทางบญั ชีมาจา่ ยเพยี ง 6,000 บาท
22 ซื้ออุปกรณ์เพิ่มเตมิ 10,000 บาทเป็นเงินเชอ่ื จากบรษิ ัท ไทอุปกรณ์ จำกัด
25 จ่ายเงินเดือนพนักงานครึง่ เดือนหลงั 10,000 บาท
30 จา่ ยค่าสาธารณูปโภค 4,500 บาท

ให้ทำ บนั ทกึ รายการค้าขา้ งตน้ ในสมดุ รายวนั ทั่วไป


Click to View FlipBook Version