The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สูจิบัตร งานวิพิธทัศนา..สานสัมพันธ์ไมตรี..

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tim_dexnan-narak, 2021-07-27 10:49:14

สูจิบัตร งานวิพิธทัศนา..สานสัมพันธ์ไมตรี..

สูจิบัตร งานวิพิธทัศนา..สานสัมพันธ์ไมตรี..

วพิ ธิ ทัศนา

สานสัมพนั ธไมตรี

วนั ที่ ๓0 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

โดยนักศกึ ษาหลักสตู รนาฏศิลป์ คณะครุศาสตร์

ณ หอประชุมคณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเชยี งใหม่ ศูนย์แม่ริม
เวลา ๑๓.00 น. เปน็ ตน้ ไป

กิจกรรมงานวิพิธทัศนา ของสาขาวิชานาฏศิลป์ เป็นกิจกรรมการแสดง
ศักยภาพของนักศึกษาทุกชั้นปี หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต กิจกรรมนี้ เป็นการ
นำเสนอผลงานทางการศึกษาของนักศึกษา จากการศึกษาค้นคว้า และได้รับการ
ถ่ายทอดจากอาจารย์ในภาควิชา เพื่อให้นักศึกษาในแต่ละรายวิชาในสาขาวิชานาฏศิลป์
ได้ฝึกปฏิบัติ และได้รับประสบการณ์การทำงานจริง อนึ่ง กิจกรรมนี้ยังเป็น
กิจกรรมเพื่อเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้จากการ
ปฏิบัติงานจริง อันเป็นกระบวนการสำคัญในการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาก่อน
จบออกไปเป็นบณั ฑิตอยา่ งมคี ณุ ภาพ
โดยจะมกี ารแสดงทงั้ หมด ๗ ชดุ การแสดง ดังนี้

การแสดงชดุ ที่ ๑ การแสดงรำเบกิ โรง “ฉยุ ฉายก่ิงไมเ้ งนิ ทอง”
การแสดงชดุ ท่ี ๒ การแสดงรำเด่ยี ว “มโนราหบ์ ูชายัญ”
การแสดงชดุ ท่ี ๓ การแสดงชดุ “ระบำนางกอย”
การแสดงชุดที่ ๔ การแสดงชดุ “ชมุ นมุ เผา่ ไทย”
การแสดงชุดท่ี ๕ การแสดงชุด “ฟ้อนที”
การแสดงชดุ ท่ี ๖ การแสดงชดุ “ระบำร่อนแร่”
การแสดงชุดท่ี ๗ การแสดงชุด “ดงึ ครกดึงสาก”

กำหนดการงานวพิ ธิ ทัศนา

คณะครศุ าสตร์ สาขานาฏศิลป์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั เชยี งใหม่
ประจำปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

ณ หอประชุมคณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเชยี งใหม่

เวลา ๑๒.๓0น. ลงทะเบยี น
เวลา ๑๓.00น – ๑๓.๓0น. พธิ เี ปิดงานวพิ ธิ ทัศนา
เวลา ๑๓.๓0น. การแสดงชดุ ท๑ี่ การแสดงรำเบิกโรง “ฉยุ ฉายก่ิงไม้เงนิ ทอง
การแสดงชุดท๒่ี การรแสดงรำเด่ียว “มโนราห์บูชายัญ”
เวลา ๑๖.00น. การแสดงชุดท๓่ี การแสดงชุด “ระบำนางกอย”
การแสดงชุดท๔ี่ การแสดงชุด “ชุมนุมเผ่าไทย”
การแสดงชุดท๕ี่ การแสดงชุด “ฟ้อนที”
การแสดงชดุ ท๖ี่ การแสดงชุด “ระบำรอ่ นแร่”
การแสดงชุดท๗่ี การแสดงชุด “รำดงึ ครกดึงสาก”
พิธีปิด
ถ่ายรูปภาพร่วมกันกับอธกิ ารบดแี ละคณาจารายส์ าขานาฏศลิ ป์

การแสดงชดุ ที่ ๑
ฉุยฉายกิ่งไมเ้ งินทอง

ฉุยฉายกิ่งไมเ้ งนิ ทอง

เป็นการแสดงเบิกโรงของละครใน ที่มีรูปแบบ และลักษณะการ
แสดง ตลอดจนกระบวนท่ารำที่มีเอกภาพชุดหนึ่ง นับได้ว่าเป็นพระ
อัจฉริยภาพของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๔ ที่ทรงพระราชนิพนธ์บทขับร้อง
ประกอบกับรูปแบบ และลักษณะการแสดง และความสามารถของครู
ทางด้านนาฏศิลป์ไทยที่ร่วมกันประดิษฐ์ รังสรรค์ กระบวนท่ารำข้ึน เพ่ือ
สบื สาน และสืบทอดศิลปะทแ่ี สดงเอกลักษณ์ ความเป็นอารยธรรมของไทย
มาจนทกุ วนั น้ี

การแสดงชดุ ที่ ๒
มโนราหบ์ ูชายัญ

มโนราห์บูชายญั

การแสดงชดุ มโนราหบ์ ชู ายญั อยใู่ นตอนหนงึ่ ของละครเรอ่ื งพระสธุ น-
มโนราห์ เป็นการรำเดย่ี วของนางมโนราห์ ธิดาองค์เลก็ ของทา้ วทุมราชผ้เู ป็นพญา
กนิ นร เม่อื คร้ังนางมโนราห์ถูกพรานบณุ ฑรกิ จบั ตวั ไปถวายแดพ่ ระสธุ น พระสุธนและ
นางมโนราห์จึงไดอ้ ภเิ ษกสมรสกนั ตอ่ มาพระสุธนตอ้ งออกไปทำศึกสงคราม ปโุ รหิต
ซ่งึ มคี วามเคยี ดแคน้ ต่อพระสธุ นอย่แู ล้ว ได้ใส่ความนางมโนราห์ต่อท้าวอทติ ยวงศ์ เจา้
เมอื งปญั จนคร ผูเ้ ปน็ พระบิดาของพระสธุ นวา่ นางมโนราหเ์ ป็นกาลกิณีแกบ่ ้านเมือง
ต้องนำมาบชู ายญั นางมโนราห์จงึ แสรง้ กราบทูลขอพระราชทานอภยั แกท่ ้าวอทติ ยวงศ์
และขอพระราชทานปีกหางของตนคนื เพ่ือจะร่ายรำถวายต่อหน้าประพักตรเ์ ป็นครงั้
สดุ ท้าย ในขณะรา่ ยรำอยู่นัน้ เมื่อได้จังหวะนางก็ไดบ้ นิ หนีกลับไปยงั เมืองของตน
จงึ ทำใหเ้ กดิ การแสดงชุดมโนราห์บูชายัญขน้ึ

การแสดงชุดที่ ๓
ระบำนางกอย

ระบำนางกอย

เป็นระบำชดุ หนึง่ ที่อยใู่ นละครเร่ือง“เงาะป่า” บทพระราชนิพนธ์ใน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีเนื้อเรื่องย่อว่า ฮเนาได้จัด
ขบวนขันหมากมาสู่ขอนางลำหับ บรรดาเพื่อนของลำหับก็มาช่วยกัน
จดั เตรยี มงานมีสาวเงาะที่จะเข้ามาร่วมพิธีของฮเนากับนางลำหับ
ท่านผู้หญงิ แผ้ว สนิทวงศ์เสนี เป็นผู้คดิ ประดษิ ฐท์ า่ รำ

การแสดงชดุ ที่ ๔
ชุมนมุ เผ่าไทย

ชมุ นุมเผา่ ไทย

ระบำชุมนุมเผา่ ไทย เป็นการแสดงทมี่ าจากการละครประวตั ศิ าสตร์
เรื่องอานภุ าพแห่งความเสียสละ บทประพันธข์ อง ฯพณฯ พลตรหี ลวงวิจิตร
วาทการ กรมศลิ ปากรได้จดั การแสดงละครขน้ึ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘ ซงึ่ มรี ะบำ
ชมุ นุมเผา่ ไทยเปน็ ฉากนำ กล่าวถึงการรวมชาวไทยในดนิ แดนสุวรรณภมู ิ ผู้
แสดงจะแต่งกายตามแบบชนชาติไทยเผ่าต่างๆเรมิ่ ดว้ ยชาวไทยในภาคกลาง
ไทยลานนา ไทยใหญ่ ไทยลานชา้ ง ไทยสบิ สองจุไท และไทยอาหม การ
แสดงจะรำออกมาทลี ะเผา่ นายมนตรี ตราโมท ผู้เช่ียวชาญดนตรีไทยและ
ศิลปนิ แห่งชาตเิ ปน็ ผแู้ ตง่ ทำนองเพลง นางลมลุ ยมะคุปต์ ผ้เู ชย่ี วชาญการ
สอนนาฏศลิ ป์ไทย เปน็ ผู้ประดษิ ฐท์ ่ารำ

การแสดงชุดที่ ๕
ฟอ้ นที

ฟ้อนที

คำว่า “ที” หมายถึง “รม่ ” เป็นคำภาษา “ไต” ใชเ้ รยี กในจงั หวดั
แมฮ่ ่องสอน “ที” ทางภาคเหนือมีลกั ษณะและรูปทรงแตกตา่ งกนั ไปแตล่ ะ
จงั หวดั “ท”ี ทีช่ าวแมฮ่ อ่ งสอนนิยมใช้มีรปู ทรงสวยนำมาใช้เป็นอุปกรณ์
ประกอบการรำไดฟ้ ้อนทีเปน็ ผลงานประดษิ ฐส์ ร้างสรรคข์ องวิทยาลัย
นาฏศลิ ปเ์ ชยี งใหม่ จัดแสดงในงานนิทรรศการและการแสดง
ศิลปวัฒนธรรมของสถานศกึ ษาในสงั กดั กองศิลปศกึ ษา กรมศิลปากร
เพ่ือเทดิ พระเกยี รตเิ ดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ในวโรกาส
ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ณ โรงละครแหง่ ชาติ เมอื่ เดอื น
สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๓๕ การแสดงชุดนน้ี ำร่มมาใชป้ ระกอบลลี านาฏศลิ ป์โดยมี
ท่าฟอ้ นเหนือของเชียงใหม่ผสมกับทา่ รำไตของแมฮ่ อ่ งสอน มีการแปแถว
และลีลาการใชร้ ่มในลักษณะตา่ งๆ ที่งดงาม เชน่ การถือรม่ การกางรม่
การหุบร่ม เปน็ ตน้

การแสดงชุดที่ ๖
ระบำร่อนแร่

ระบำรอ่ นแร่

เป็นการแสดงประกอบทา่ ทางข้ันตอนการประกอบอาชีพของชนชาว
ภาคใต้ทอี่ อกจากบา้ นไปหาแร่ ร่อนแร่ และ ตากแร่ แลว้ พากันกลับบา้ น ผู้
แสดง จะเป็นผหู้ ญิงล้วน วิธรี อ่ นแร่ เร่มิ ดว้ ยการใช้เสยี มขดุ ดิน หิน กรวด
ทราย ตลอดจนสงิ่ ต่างๆ ทีป่ นมากบั แรข่ น้ึ มาทง้ั หมด จากน้ันจงึ ใช้มอื ส่าย
หรือร่อน เอาส่ิงทไี่ มต่ อ้ งการออกไป คงเหลอื แตแ่ ร่ การรอ่ นแรส่ ว่ นใหญจ่ ะ
เป็นผ้หู ญิงมากกวา่ ผชู้ าย จะตอ้ งลงไปยนื อยูใ่ นนำ้ น่งุ ผ้าถุงส้ันๆ เหนอื เขา่
เล็กน้อย ท่ีเอวจะทำชายพก เมอ่ื ไดแ้ รแ่ ลว้ จะนำมาใสท่ ่ชี ายพก

การแสดงชุดท่ี ๗
รำดึงครกดงึ สาก

ดึงครกดึงสาก

รำดึงครกดึงสาก” จัดว่าเป็นพิธีทางไสยศาสตร์ที่กระทำเพื่อขอฝน
โดยมีครกสาก ที่ใช้สำหรับตำข้าว เป็นอุปกรณ์สำคัญ โดยมีขั้นตอน คือ
นำครกและสาก ผูกด้วยเชือกอย่างละเส้น แบ่งผูกดึงให้เท่ากัน จับปลาย
เชือกคนละด้าน ตั้งจิตอธิษฐานว่า ถ้าฝนตกขอให้ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะ ถ้าฝน
ไม่ตกให้ ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ชนะท่ารำนั้น ก็ได้ปรับปรุงตามแบบท่ารำแม่ท่าของ
ชาวอีสาน ให้ผสมกับท่าที่เป็นไปตามธรรมชาติ ทำนองเพลง มีการปรับเพ่ิม
เพื่อให้เกิด ความกลมกลืน และเหมาะสมในรูปแบบของศิลปะการแสดงทาง
ภาคอสี าน


Click to View FlipBook Version