The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ขวัญจิรา ชํานาญกุล, 2022-09-19 03:44:15

แผนวิทยาศาสตร์ ป.4

แผนการสอน ป.4

Keywords: แผนการสอน ป.4

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1

รหสั วิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
เร่อื ง ส่งิ มีชวี ติ กล่มุ พชื และกลุ่มสตั ว์ ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชัว่ โมง
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผ้สู อน นางสาวขวญั จริ า ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/1
ขนั้ นา
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1. นกั เรยี นร่วมกันเลน่ เกมไปซ้อื ของท่ตี ลาด (นักเรียนชอื่

1.บอกลักษณะภายนอกของสงิ่ มชี วี ิตกลุม่ พืชและกลุ่มสตั ว์ พชื หรือสตั ว์ท่ีขายในตลาด)
ได้ (K) ขั้นกิจกรรม

2.สบื ค้นขอ้ มูลเก่ยี วกบั ลักษณะภายนอกของส่ิงมีชีวิตกลมุ่ 2. ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกันยกตัวอยา่ งสิ่งมีชีวิตทน่ี ักเรียนรจู้ ัก
พืชและกลมุ่ สตั ว์ (P) คนละ 1 ชนดิ แล้วบันทึกคาตอบของนักเรียนบนกระดาน
3.เป็นผมู้ ีความใฝ่รู้ (A)
3. นกั เรียนรว่ มกันจาแนก (ตวั อยา่ งคาตอบ)
สาระการเรียนรู้ และจัดกลมุ่ สิ่งมชี ีวติ ทีน่ กั เรยี น
ยกตัวอย่างออกเปน็ กลุ่มพืชและ
พชื สว่ นใหญม่ ีส่วนประกอบของราก ลาต้น ใบ ดอก ผลและ กลมุ่ สัตว์ แลว้ บนั ทึกคาตอบ
เมลด็ สามารถสรา้ งอาหารได้(สังเคราะหด์ ้วยแสง) สัตวส์ ว่ น การจดั กลุม่ บนกระดาน
ใหญม่ ีตา หู จมกู ปาก ขาและเท้าไมส่ ามารถสรร้างอาหารได้
4. ครูเสริมความรใู้ ห้นักเรยี น
สมรรถนะสาคัญ วา่ พืชสามารถเคลื่อนไหวได้ แต่
เคลอ่ื นยา้ ยทเี่ องไมไ่ ด้ สามารถ
● การสอื่ สาร ● การคิด ● การแก้ปัญหา สรา้ งอาหารได้ ส่วนสัตวเ์ คล่ือนไหว
● ทักษะชวี ติ และเคล่อื นทไี่ ดเ้ อง ไม่สามารถสรา้ ง
● การใชเ้ ทคโนโลยี อาหารเองได้ ต้องรบั ประทานอาหาร
เขา้ ไปเพือ่ ให้พลงั งานแก่ร่างกาย
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ข้นั สรปุ

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ย่างพอเพียง 5. ครูให้นักเรียนรว่ มกันสรุปลกั ษณะภายนอกและเกณฑ์
ในการจาแนกกลุ่มของสตั ว์และพชื ทส่ี งั เกตได้
○ ซ่อื สตั ย์สุจริต ● มงุ่ มนั่ ในการทางาน
บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
○ มีวนิ ยั ○ รกั ความเป็นไทย ...............................................................................
...............................................................................
● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจติ สาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
ของสถาบัน สสวท. ลงชือ่
(นางสาวขวญั จริ า ชานาญกลุ )
2. เกมไปตลาดไปซอื้ ครูผสู้ อน

การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)

KPA

1. นกั เรยี นทาใบงานการจาแนกสงิ่ มชี ีวติ กล่มุ พืชและสัตว์
2. นกั เรยี นสืบค้นข้อมลู ผา่ นหนังสือ หรอื ไอแพด

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2

รหัสวชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ความหลากหลายของสิง่ มีชีวิต ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
เร่ือง สารวจสิง่ มชี วี ติ ในท้องถิน่
วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ขั้นนา
1. ครถู ามนักเรียนว่าในท้องถ่นิ มสี ่ิงมีชวี ติ ใดอาศยั อยู่บ้าง
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target)
ข้ันกจิ กรรม
1.อธบิ ายลักษณะภายนอกและการดารงชีวิตของ 2. ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กลมุ่ ทากิจกรรมสารวจสง่ิ มีชวี ิตแลว้
สง่ิ มีชวี ติ ทีส่ ารวจพบได้ (K)
2.รวบรวมข้อมลู ส่ิงมีชีวิตทอ่ี าศัยอยู่ในบริเวณท่ศี กึ ษาได้ (P) บันทกึ ผลลงในใบงาน
3.สารวจส่ิงมีชีวิตในโรงเรียน (P) 3. นักเรียนสารวจ สังเกตและวาดภาพ ระบายสสี ่งิ มีชีวติ
4.เปน็ ผู้มคี วามละเอียดรอบคอบและมุ่งมน่ั ในการทางาน (A)
และลกั ษณะการดารงชีวิตของสิ่งมชี ีวิตในท้องถิน่ ทีร่ จู้ กั และ
สาระการเรยี นรู้ ชื่นชอบคนละ 1 ชนิด จดั ทาเปน็ ชนิ้ งาน
ขั้นสรุป
สง่ิ มชี วี ติ บนโลกมจี านวนมากมาย สิง่ มชี ีวติ แต่ละชนิด
มีลกั ษณะและกระบวนการดารงชีวติ ท่ีเหมอื นกันหรือ 4. ครูพานักเรยี นร่วมกนั สรปุ เน้อื หาวา่ “นักวิทยาศาสตร์
แตกตา่ งกนั นกั วทิ ยาศาสตร์ได้จัดจาแนกส่งิ มชี ีวิตไว้เป็น ได้จัดจาแนกสิ่งมชี ีวติ ไวเ้ ปน็ กลมุ่ พืช กลมุ่ สตั ว์ กลมุ่ ท่ีไมใ่ ช่
กลุม่ พชื กลมุ่ สัตว์ กลมุ่ ไมใ่ ช่พืชและสตั ว์ พืชและสัตว์ สงิ่ มชี วี ิตแต่ละกลมุ่ อาศัยอยู่รว่ มกนั บนโลก”

สิง่ มีชีวิตแต่ละกลมุ่ ต่างอาศยั อยู่รว่ มกันในทกุ บริเวณ 5. นักเรยี นรว่ มกนั นาเสนอผลงานภาพวาดของนกั เรียน
บนโลก ให้เพอื่ นๆ และครูฟัง

สมรรถนะสาคัญ สอ่ื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

● การส่ือสาร ● การคิด ● การแกป้ ญั หา 1. หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
● ทักษะชีวติ ของ สสวท.
○ การใช้เทคโนโลยี
2. ภาพสิง่ มีชวี ิตชนดิ ต่าง ๆ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 3. ใบงานเร่อื ง สารวจสง่ิ มชี ีวิตในท้องถิ่น

○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยอู่ ย่างพอเพียง บนั ทึกหลังสอน (Telling)
...............................................................................
○ ซอ่ื สัตย์สจุ รติ ● มุง่ มั่นในการทางาน ...............................................................................
...............................................................................
○ มวี นิ ยั ○ รกั ความเป็นไทย ...............................................................................

● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ ลงช่อื
(นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ )
การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing) ครูผู้สอน

KPA

1. นกั เรียนทาใบงานจัดจาแนกส่ิงมชี วี ิตทีส่ ารวจพบได้
2. นักเรียนสารวจและจาแนกกลุ่มสิ่งมีชวี ิตทีพ่ บใน ร.ร.และ
บนั ทึกผลลงในแบบบนั ทึกผล

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3

รหสั วิชา ว 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 ความหลากหลายของส่ิงมชี วี ติ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรอ่ื ง จาแนกสิง่ มชี วี ิตในท้องถิ่น
วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ข้นั นา
1. ครถู ามนกั เรียนวา่ เราใชเ้ กณฑใ์ ดในการจัดจาแนก
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
สิ่งมีชีวิตในท้องถ่ิน
1. อธิบายการจัดจาแนกสิ่งมีชีวติ ที่สารวจพบได้ (K) ขนั้ กจิ กรรม
2. กาหนดเกณฑใ์ นการจัดจาแนกส่ิงมชี วี ิตได้ (K)
3. จัดจาแนกส่ิงมีชีวิตดว้ ยเกณฑท์ ่กี าหนดได้ (P) 2. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกลมุ่ ทากจิ กรรมจาแนก
4. นาเสนอแผนภาพ การจดั จาแนกกล่มุ สงิ่ ีชวี ิตได้ (P) ส่งิ มชี วี ติ ในท้องถิน่ โดยพจิ ารณาลักษณะภายนอกและ
5. เปน็ ผมู้ ีความซือ่ สตั ย์ (A) การดารงชีวติ ของสิง่ มชี ีวิตทงั้ หมดทกี่ ลมุ่ สารวจพบ แล้ว
กาหนดเกณฑ์ที่ใชใ้ นการจดั จาแนกสิ่งมชี วี ิตทง้ั หมด
สาระการเรยี นรู้ ออกเปน็ กลุม่ จากน้ันเขียนแผนภาพ การจัดจาแนก
สิ่งมชี ีวิต และบันทกึ ผลการทากิจกรรมลงในใบงาน
การจดั จาแนกสงิ่ มชี วี ติ ออกเป็นกลมุ่ โดยอาศยั ข้อมูล
ลกั ษณะและการดารงชีวิตทเี่ หมอื นหรือแตกตา่ งกันเปน็ 3. ครใู ห้นกั เรียนสารวจ สังเกตส่งิ มชี วี ติ ในบรเิ วณ
เกณฑก์ ารจดั จาแนก โรงเรียน เขียนลงในสมุด
ข้นั สรปุ
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ัญหา
4. นักเรยี นนาเสนอแผนภาพ การจดั จาแนกสิ่งมีชีวิต
● การสอื่ สาร ○ การใช้เทคโนโลยี กลุม่ พืชและกลุม่ สัตว์ พรอ้ มพดู อธิบายหน้าชัน้ เรียน
● ทักษะชวี ติ
สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ของ สสวท.

● ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ ● มงุ่ มน่ั ในการทางาน 2. ภาพสงิ่ มชี ีวิต 10 ชนิด
3. ใบงานเรอ่ื ง จาแนกสิ่งมีชีวติ ในทอ้ งถนิ่
○ มวี ินัย ○ รกั ความเป็นไทย
บันทึกหลงั สอน (Telling)
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing) ...............................................................................
...............................................................................
KPA ลงชอ่ื

1. นกั เรียนทาใบงานจดั จาแนกสง่ิ มชี วี ิตที่สารวจพบในท้องถิน่ ได้ (นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ )
2. นักเรียนนาเสนอนาเสนอแผนภาพ การจัดจาแนกกลมุ่ สง่ิ ี ครผู สู้ อน
ชวี ติ ได้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4

รหัสวิชา ว 14101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ความหลากหลายของส่งิ มีชีวติ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
เรอื่ ง การจดั จาแนกสิง่ มีชีวติ กลมุ่ พืชและกลุม่ สัตว์
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง
โดยใช้เกณฑ์ลักษณะภายนอกของสงิ่ มีชวี ิต : 1
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผ้สู อน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ขั้นนา
1. ให้นักเรียนต่อจิ๊กซอภาพชื
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 2. นกั เรยี นสงั เกตบัตรภาพ พืช แลว้ รว่ มกันสนทนาทบทวน

1. อธบิ ายการจดั จาแนกสง่ิ มชี ีวติ กลุ่มพชื ได้ (K) ความรู้เดิม โดยรว่ มกันตอบคาถาม ดงั น้ี “ภาพท่ี 1และ2 คอื ภาพ
2. สืบคน้ ลกั ษณะภายนอกของส่ิงมีชีวิตกลุ่มพชื ด้วย อะไร สงิ่ มีชวี ิตในภาพที่1และ2มีส่วนประกอบอะไรบา้ ง ส่ิงมีชวี ิต
ความใฝร่ ู้ได้ (P) ในภาพเปน็ พืชหรอื สัตว์”
3. เป็นผมู้ คี วามใฝ่รู้ (A)

สาระการเรียนรู้ ข้นั กิจกรรม
2. ครใู หน้ กั เรียนสบื คน้ ขอ้ มลู เก่ยี วกับลักษณะภายนอกของ
การจดั จาแนกส่ิงมชี ีวิตออกเป็นกลมุ่ โดยอาศัยขอ้ มูล
ลักษณะและการดารงชีวติ ทเี่ หมือนหรอื แตกต่างกันเปน็ ส่งิ มีชีวติ กลมุ่ พืช แล้วนาข้อมูลมาเปรียบเทยี บกนั
เกณฑ์การจดั จาแนก 3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรับบัตรภาพ สว่ นประกอบของพชื แล้ว

สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา ร่วมกันวิเคราะห์ เขยี นชอ่ื และโยงส่วนประกอบของพืชให้ถกู ต้อง
ขน้ั สรปุ
● การสอ่ื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี
● ทักษะชีวิต 4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สรปุ สิง่ ที่เข้าใจเปน็ ความรู้รว่ มกนั
เก่ยี วกับลักษณะภายนอกของส่ิงมชี ีวิตกลุ่มพชื
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพยี ง
KPA
○ ซือ่ สัตยส์ ุจรติ ● มุ่งม่นั ในการทางาน
1. นักเรยี นอธิบายลักษณะของส่ิงมชี ีวิตกลมุ่ พืชผ่านการทา
○ มีวินัย ○ รกั ความเป็นไทย กจิ กรรมโดยการตอบคาถาม
2. นักเรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู ลักษณะของสงิ่ มีชีวิตกล่มุ พืชผา่ นหนังสอื
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ และบัตรภาพได้

สื่อ/อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ บนั ทกึ หลังสอน (Telling)
...............................................................................
1.หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ลงช่อื

2.บตั รภาพพืช (นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ )
3. จก๊ิ ซอภาพพชื ครูผสู้ อน
4.บตั รภาพส่วนประกอบของพืช

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5

รหัสวิชา ว 14101 กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ความหลากหลายของส่งิ มีชวี ติ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
เร่ือง การจดั จาแนกสงิ่ มีชวี ิตกลมุ่ พืชและกลมุ่ สตั ว์
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง
โดยใชเ้ กณฑล์ ักษณะภายนอกของสงิ่ มชี ีวิต : 2
วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/1
ขั้นนา
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1. นักเรยี นสงั เกตบัตรภาพนกและแมว แล้วร่วมกันสนทนา

1. อธบิ ายการจัดจาแนกส่งิ มีชวี ติ กลมุ่ พืชและสัตว์โดย ทบทวนความรู้เดมิ โดยรว่ มกนั ตอบคาถาม ดงั นี้ “ภาพที่ 1และ2
ใชเ้ กณฑ์ลักษณะภายนอกของสิ่งมชี ีวิตได้ (K) คือภาพอะไร สงิ่ มชี ีวิตในภาพที่1และ2มสี ว่ นประกอบอะไรบา้ ง
สิ่งมชี วี ิตในภาพเป็นพชื หรือสัตว์”
2. สบื คน้ ลักษณะภายนอกของส่ิงมชี ีวติ กลุ่มพชื และ ขัน้ กจิ กรรม
สตั ว์ได้ (P)
2. ครูใหน้ กั เรียนสบื ค้นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ลักษณะภายนอกของ
3. จัดจาแนกสิง่ มีชีวิตกลมุ่ พืชและสัตวโ์ ดยใช้เกณฑ์ สิ่งมีชวี ิตกลมุ่ สตั ว์ แลว้ นาข้อมลู มาเปรียบเทียบกนั
ลักษณะภายนอกของสง่ิ มชี วี ิตด้วยความใฝ่รู้ได้ (P)
3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรบั บตั รภาพส่ิงมชี ีวิตแล้วแต่ละกลมุ่
4. เป็นผู้มีความใฝร่ ู้ (A) รว่ มกนั อย่างรวมพลงั จาแนกและจัดกลุ่มบัตรภาพโดยใช้เกณฑ์
ลักษณะภายนอกของสง่ิ มชี ีวิต
สาระการเรียนรู้
4. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ นาเสนอการจาแนกและจดั กลุ่ม
การจดั จาแนกสง่ิ มชี ีวิตกลมุ่ พชื และกลุม่ สัตว์ โดยใช้ สงิ่ มชี วี ติ โดยใช้เกณฑ์ลักษณะภายนอกของสิ่งมีชีวติ พร้อม
เกณฑล์ ักษณะภายนอกของส่งิ มีชวี ติ ประกอบการอธบิ ายหนา้ ช้ันเรยี น
ขั้นสรปุ
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแกป้ ัญหา
5. นกั เรียนรว่ มกนั สรุป
● การสอ่ื สาร ● การใช้เทคโนโลยี สง่ิ ทีเ่ ข้าใจเปน็ ความรูร้ ่วมกนั
● ทักษะชีวิต ดังนี้ การจดั จาแนกสิง่ มีชวี ติ
กลุม่ พืชและกลุ่มสัตว์ โดยใช้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เกณฑ์ลกั ษณะภายนอกของ
สง่ิ มีชีวติ
○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยอู่ ย่างพอเพยี ง
การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)
○ ซื่อสตั ย์สจุ ริต ● มุ่งม่ันในการทางาน
KPA
○ มีวินัย ○ รักความเป็นไทย
1. สงั เกตการทากจิ กรรมและการตอบคาถาม
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ 2. ตรวจใบงาน การสรปุ การจดั จาแนกสิง่ มีชีวติ กลมุ่ พชื และกลมุ่
สัตว์ โดยใชเ้ กณฑล์ กั ษณะภายนอกของส่งิ มชี ีวิต
ส่อื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 บันทกึ หลังสอน (Telling)
ของ สสวท. ...............................................................................
2. ภาพอวัยวะของสัตว์ตา่ ง ๆ (แพนดา นกแก้ว ...............................................................................
ปลาทอง กบ กระตา่ ย ก้ิงก่า) ลงช่อื
3.บตั รภาพไก่ ตน้ มะพร้าว กงิ้ กา่ ตน้ กหุ ลาบ กบ
ช้าง กระต่าย ตน้ บวั ผักตบชวา ปลานิล ต้น (นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล)
มะมว่ ง ตน้ เขม็ ววั กุง้ ผเี ส้อื ครูผู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6

รหัสวิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ความหลากหลายของสิ่งมชี ีวิต ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4
เรอ่ื ง การจดั จาแนกส่ิงมีชวี ิตกล่มุ พชื และกล่มุ สตั ว์
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง
โดยใชเ้ กณฑก์ ารดารงชวี ิตของสิ่งมชี ีวติ
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ข้ันนา
1. ครูให้นักเรยี นสงั เกตภาพในหนังสอื เก่ยี วกับการจดั จาแนก
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target)
สิ่งมชี วี ิต โดยใชเ้ กณฑก์ ารดารงชวี ิตของส่งิ มีชีวติ
1. อธบิ ายการจัดจาแนกส่ิงมีชีวิตกลมุ่ พชื และกลมุ่ 2. ครถู ามคาถามว่า “การจัดจาแนกสิง่ มชี วี ิตกลมุ่ พืชและกลมุ่
สัตว์โดยใช้เกณฑ์การดารงชีวติ ของสิ่งมีชีวิตได้ (K)
สัตว์ โดยใช้เกณฑ์การดารงชีวติ ของส่ิงมีชวี ิตมอี ะไรบ้าง”
2. จดั จาแนกส่งิ มชี วี ติ กลุ่มพชื และกล่มุ สตั ว์โดยใช้ ขนั้ กจิ กรรม
เกณฑก์ ารดารงชีวติ ของสง่ิ มีชีวติ ด้วยความใฝ่รู้ได้ (P)
3. ให้นักเรียนแบ่งกล่มุ แลว้ ช่วยกันศึกษาถึงความเหมือนและ
3. เป็นผู้มีความใฝ่รู้ (A) ความแตกต่างของการดารงชีวิตของสิ่งมีชีวติ ระหว่างกลุ่มพืชและกลมุ่
สัตว์
สาระการเรยี นรู้
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รบั บตั รภาพสิง่ มชี ีวิต และจัดกลมุ่ บัตรภาพ
การจัดจาแนกสิง่ มชี วี ิตกลมุ่ พชื และกลุ่มสัตว์ โดยใช้ โดยใชเ้ กณฑ์การดารงชีวติ ของสง่ิ มชี ีวิต
เกณฑก์ ารดารงชีวติ ของส่ิงมีชีวิต
5. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ นาเสนอการจาแนกและจัดกลมุ่ สิง่ มีชวี ิต
1. การสรา้ งอาหารดว้ ยตัวเอง โดยใชเ้ กณฑก์ ารดารงชีวิตของสิ่งมีชีวิต พร้อมประกอบการอธิบาย
2. การเคล่ือนทีด่ ้วยตัวเอง หน้าช้ันเรียน
ขัน้ สรุป
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแก้ปญั หา
6. นักเรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ที่เขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกนั ดงั น้ี
● การส่อื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี การจดั จาแนกส่งิ มีชวี ิตกล่มุ พชื และกลมุ่ สตั ว์โดยใชเ้ กณฑก์ าร
● ทกั ษะชีวติ ดารงชีวติ ของสง่ิ มีชีวติ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1.การสรา้ งอาหารดว้ ยตวั เอง แบง่ เปน็ กลมุ่ พชื สามารถ
สร้างอาหารได้ และกลุ่มสัตว์ ไมส่ ามารถสร้างอาหารเองได้
○ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อย่อู ย่างพอเพียง
2.การเคลอื่ นท่ีด้วยตัวเอง แบ่งเปน็ กลุ่มพืช ไมส่ ามารถ
○ ซื่อสัตยส์ ุจรติ ● มงุ่ มน่ั ในการทางาน เคล่ือนท่เี ปลี่ยนตาแหน่งดว้ ยตัวเองไดแ้ ละกล่มุ สัตว์ สามารถเคลื่อนท่ี
เพือ่ ไปหาอาหาร หรอื หลบหลกี ศตั รไู ด้
○ มีวินัย ○ รักความเปน็ ไทย
การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ
1.การตอบคาถามการจดั จาแนกส่ิงมีชีวิตกลุ่มพชื และกลมุ่
สือ่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ สัตว์
1.หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 2. การนาเสนอ เกณฑ์การจาแนกกลมุ่ สมช.หน้าชนั้ เรียน
ของ สสวท.
2.บตั รภาพนก แมว ไก่ ต้นมะพรา้ ว ก้งิ กา่ ต้นกหุ ลาบ บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
กบ ช้าง กระต่าย ตน้ บวั ผักตบชวา ปลานิล ...............................................................................
ตน้ มะม่วง ตน้ เขม็ ววั กงุ้ ผเี สื้อ ...............................................................................
3.ภาพอวัยวะของสตั ว์ต่าง ๆ (แพนดา นกแก้ว ปลาทอง ลงชื่อ
กบ กระต่าย กิง้ ก่า)
(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล)
ครูผู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 7

รหสั วชิ า ว 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 ความหลากหลายของสงิ่ มชี วี ิต ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4
เรื่อง ส่งิ มีชีวติ กลุ่มไมใ่ ช่พชื และสัตว์
วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง
ผู้สอน .................................................

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/1
ข้ันนา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1.นักเรียนรว่ มกันสังเกตบัตรภาพ แลว้ พดู ชื่อ

1. อธบิ ายเกีย่ วกบั ส่งิ มีชวี ติ กล่มุ ไมใ่ ช่พืชและสัตวไ์ ด้ (K) สิ่งมชี ีวิตแล้วสนทนาทบทวนความรู้เกยี่ วกบั ส่งิ มชี ีวติ กล่มุ
2. สืบสอบขอ้ มลู เกยี่ วกบั ส่งิ มีชีวิตกลมุ่ ไม่ใชพ่ ชื และ พืช และกลุม่ สัตว์
สัตว์ อยา่ งรวมพลัง ด้วยความมงุ่ ม่ันและตงั้ ใจได้ (P)
3. เป็นผ้มู ีความม่งุ มั่นและต้งั ใจ (A) 2.ครูถามคาถามนักเรียนว่า “สงิ่ มชี ีวติ กลุ่มพชื และ
กลมุ่ สัตว์ คือภาพใดบา้ ง” “สงิ่ มชี ีวิตชนดิ ใดทไ่ี ม่สามารถ
สาระการเรียนรู้ จัดเขา้ กลุ่มพชื และสตั ว์ได้”
ขน้ั กจิ กรรม
สิ่งมชี ีวติ ท่ไี ม่สามารถจัดเขา้ กลมุ่ พชื และสตั วไ์ ด้
จัดเป็นสงิ่ มีชวี ิตกลมุ่ ไมใ่ ชพ่ ืชและสตั ว์ 3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั สบื ค้นข้อมลู เกี่ยวกับ
สง่ิ มีชีวติ กลุ่มไมใ่ ชพ่ ชื และสัตว์ จากเอกสาร หนังสือ
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแก้ปญั หา
4.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาขอ้ มูลที่ไดม้ าช่วยกัน
● การส่ือสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี วิเคราะห์ เปรียบเทียบกัน
● ทักษะชีวิต ขัน้ สรุป

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5. นกั เรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันสรุปสิ่งทีเ่ ข้าใจเปน็
ความรรู้ ่วมกนั เกย่ี วกบั ส่ิงมชี ีวิตกลมุ่ ไมใ่ ชพ่ ืชและสัตว์ว่า
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง สิง่ มีชวี ติ ท่ีไมส่ ามารถจดั เข้ากล่มุ พชื และสัตวไ์ ด้ จัดเป็น
สงิ่ มีชีวติ กลุม่ ไมใ่ ช่พชื และสตั ว์
○ ซ่ือสัตย์สุจริต ● มงุ่ ม่ันในการทางาน
6. นักเรียนทาใบงาน เร่อื งการจาแนกกลุ่มสิง่ มีชีวติ
○ มวี นิ ัย ○ รักความเป็นไทย
การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)
● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ
1.การตอบคาถามการจดั จาแนกสิ่งมีชวี ิตกล่มุ พชื และกล่มุ
สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ สตั ว์
2. นักเรยี นทาใบงาน สงิ่ มชี ีวิตกลมุ่ ไมใ่ ช่พชื และสตั ว์
1. หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4
ของ สสวท. บนั ทกึ หลังสอน (Telling)
...............................................................................
2. บัตรภาพมา้ ราบนขนมปัง ตน้ มะขาม เต่า ปลา ...............................................................................
ตน้ หญ้า มด ตน้ ทานตะวัน ตน้ ข้าว เห็ดเขม็ ทอง ...............................................................................
เป็ด เห็ดฟาง ...............................................................................
ลงชือ่
3. ใบงาน เรื่องการจาแนกกลุม่ สิ่งมีชีวติ
(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล)
ครผู ู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8

รหสั วชิ า ว 14101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ความหลากหลายของสง่ิ มีชีวิต ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4
เร่อื ง ค้นหาส่งิ มีชวี ิตท่ไี มใ่ ชพ่ ืชและสตั ว์ : 1
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ข้นั นา
1.นกั เรยี นร่วมกนั สงั เกตภาพสิง่ มีชีวิตต่าง ๆ ทเ่ี จริญเติบโตอยู่
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
บนพื้นดินในปา่ และภาพขนมปังที่วางท้งิ ไวน้ านหลายวนั บน
1. ระบุช่ือสิง่ มีชีวติ ทไี่ มใ่ ช่พืชและสัตว์ได้ (K) กระดาน แล้วรว่ มกนั ตอบคาถามว่า “นกั เรยี นพบส่งิ มีชีวติ ใดบ้างใน
2. บรรยายลักษณะของสิง่ มีชีวติ ท่ีไมใ่ ช่พืชและสัตวท์ ่ี 2 ภาพนี้”
สารวจพบได้ (K) ข้นั กิจกรรม
3. ปฏิบัตกิ ิจกรรม สบื คน้ สง่ิ มีชีวิตกลุ่มทไี่ ม่ใชพ่ ชื และ
สตั ว์ ด้วยความม่งุ มัน่ และต้งั ใจได้ (P) 2.ครูกลา่ วเพิม่ เติมวา่ จุดสีดาทมี่ ีลกั ษณะเปน็ เสน้ ใยบนขนมปัง
4. เปน็ ผู้มคี วามมงุ่ ม่นั และตงั้ ใจ (A) ทว่ี างท้งิ ไวน้ านหลายวนั เรียกว่า รา อาจมีสแี ตกตา่ งกัน เช่น
ราสีเขียว ราสีขาว ราสีดา วนั นเี้ ราจะมาเรยี นสงิ่ มีชีวิตกลมุ่ ทไ่ี มใ่ ช่พืช
สาระการเรียนรู้ และสตั ว์กัน

สงิ่ มชี ีวิตทไี่ มส่ ามารถจดั เข้ากลุ่มพชื และสัตว์ได้ จัดเปน็ 3.ครูให้นักเรียนตอบคาถาม “นอกจากสงิ่ มีชีวิตกลมุ่ พชื และ
สง่ิ มีชีวิตกลุ่มไมใ่ ช่พืชและสตั ว์ เชน่ เห็ด รา และจลุ ินทรยี ์ กลุ่มสตั ว์แล้ว ยังมสี ิง่ มีชีวติ กลมุ่ อื่น ๆ ที่ไม่ใชพ่ ชื และไมใ่ ชส่ ัตว์
อีกหรอื ไม”่
สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแก้ปญั หา
4.ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ แล้วทากจิ กรรมเรอื่ ง การคน้ หา
● การสอื่ สาร ○ การใช้เทคโนโลยี สง่ิ มชี วี ิตที่ไม่ใชพ่ ืชและสตั วล์ งในใบงาน
● ทักษะชวี ิต ขน้ั สรุป

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 5.นกั เรียนร่วมกันสรปุ ผลการทากิจกรรม
6.ครตู ้งั คาถามเพ่ือใหน้ กั เรียนคิด “จากการสารวจ พบสงิ่ มชี ีวติ
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยอู่ ย่างพอเพยี ง ที่คาดว่าจะไม่ใชพ่ ชื และสัตวก์ ชี่ นดิ อะไรบา้ ง” “พบส่งิ มชี ีวติ กี่ชนิดท่ี
ไม่ใช่พืชและไม่ใชส่ ัตว์ อะไรบ้าง” “ลักษณะหรอื การดารงชีวิตแบบ
○ ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ ● มงุ่ มั่นในการทางาน ใด ท่ีทาใหไ้ ม่สามารถจดั ส่ิงมีชวี ติ ชนิดนั้น ๆ เขา้ กลมุ่ พืชหรือกลมุ่
สตั วไ์ ด้”
○ มวี นิ ยั ○ รกั ความเปน็ ไทย 7.ครพู านกั เรียนสรปุ ในประเดน็ “สง่ิ มีชวี ิตบางชนดิ ไม่สามารถ
จดั จาแนกเข้ากลมุ่ พชื หรือกลมุ่ สัตวไ์ ด้ เช่น เห็ด รา จลุ ินทรีย์”
● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจติ สาธารณะ
การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
ส่อื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้
1.หนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 1. การตอบคาถามจากการทากิจกรรม
ของ สสวท. 2. นักเรียนทาใบงานคน้ หาสิ่งมีชีวติ ท่ไี มใ่ ช่ท้ังพชื และสตั ว์
2.ภาพส่งิ มีชวี ติ ทเี่ จรญิ เติบโตอยู่บนพ้นื ดินในป่า
3.ภาพขนมปงั ท่ีวางทง้ิ ไว้นานหลายวัน บันทกึ หลงั สอน (Telling)
4.บีกเกอรข์ นาด แว่นขยาย กลอ้ งจลุ ทรรศนช์ นิดใชแ้ สง ...............................................................................
สไลด์และกระจกปดิ สไลด์ ...............................................................................
5. ใบงานเรอ่ื งคน้ หาส่ิงมีชวี ิตทไี่ ม่ใช่พืชและสตั ว์ ...............................................................................
...............................................................................
ลงชอ่ื

(นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล)
ครูผ้สู อน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9

รหสั วิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ความหลากหลายของส่ิงมีชวี ิต ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4
เรื่อง ค้นหาส่งิ มีชีวติ ที่ไม่ใชพ่ ชื และสตั ว์ : 2
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ขน้ั นา
1.ครทู วนความร้นู ักเรียน โดยถามถึงชั่วโมงท่แี ลว้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
วา่ เรียนเกี่ยวกับอะไรบา้ ง
1. ระบชุ อ่ื ส่ิงมีชวี ิตทไ่ี ม่ใช่พืชและสัตว์ได้ (K) ขัน้ กิจกรรม
2. บรรยายลักษณะของส่ิงมชี วี ติ ทีไ่ มใ่ ช่พืชและสตั ว์ท่ี
สารวจพบได้ (K) 2.ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนสารวจ สงั เกต และวาด
3. วาดภาพและระบายสี สิ่งมชี วี ิตกลุ่มไมใ่ ชพ่ ชื และ ภาพและระบายสี สง่ิ มีชวี ิตกลุ่มไมใ่ ช่พืชและสัตวใ์ น
สตั ว์ ดว้ ยความมุง่ ม่นั และตงั้ ใจได้ (P) ทอ้ งถน่ิ ท่รี ้จู กั พรอ้ มอธิบายลักษณะดว้ ยว่าเหตุใดจงึ จัด
4. เป็นผ้มู ีความม่งุ มั่นและต้งั ใจได้ (A) อย่ใู นกลุ่มสงิ่ มีชีวติ ทไ่ี มใ่ ช่พืชและสตั ว์ คนละ 5 ชนิด
จดั ทาเปน็ ชิน้ งาน
สาระการเรียนรู้ ข้ันสรุป

สิ่งมีชีวติ ที่ไมส่ ามารถจัดเข้ากลมุ่ พชื และสัตวไ์ ด้ จดั เปน็ 3.นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ว่า “ส่ิงมีชวี ติ ทไ่ี ม่สามารถ
สงิ่ มีชวี ิตกลุ่มไมใ่ ช่พชื และสัตว์ เชน่ เหด็ รา จุลินทรีย์ จดั เข้ากล่มุ พชื และสัตว์ได้ จัดเป็นสิ่งมีชวี ติ กลุ่มไม่ใชพ่ ืช
และสัตว์ เชน่ เห็ด รา จุลนิ ทรีย์”
สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแก้ปญั หา
4.ครใู ห้นักเรียนนาเสนอผลงานภาพวาดและ
● การส่อื สาร ○ การใช้เทคโนโลยี ระบายสี ส่งิ มีชวี ติ กลุ่มไม่ใชพ่ ืชและสัตว์ พรอ้ มพูด
● ทักษะชวี ติ อธบิ ายหนา้ ช้นั เรยี น เพื่อน ๆ รว่ มกนั ตรวจสอบและ
แกไ้ ขให้ถกู ต้อง
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยู่อย่างพอเพียง
1. สงั เกตการทากจิ กรรม
○ ซ่ือสัตยส์ จุ รติ ● มุ่งมัน่ ในการทางาน 2. สงั เกตการการนาเสนอผลงาน
3. ตรวจใบกิจกรรม เร่อื ง เหด็ ในท้องถ่นิ
○ มวี นิ ยั ○ รักความเป็นไทย
บันทึกหลังสอน (Telling)
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1. หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ...............................................................................
ของ สสวท.
ลงช่ือ
2. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง เหด็ ในทอ้ งถน่ิ (นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล)
ครผู สู้ อน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 10

รหสั วชิ า ว 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ความหลากหลายของสง่ิ มีชวี ิต ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4
เรือ่ ง เหด็ รา
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/1
ขน้ั นา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1.ครูให้นักเรยี นดูวีดิทศั นเ์ กี่ยวกบั การงอกและเจริญเตบิ โต

1. อธิบายลักษณะของเห็ด ราได้ (K) ของเห็ด รา แลว้ ถามคาถามว่า “นกั เรยี นเคยเห็นเหด็ รา หรอื ไม่
2. สบื คน้ ขอ้ มลู เกยี่ วกบั ลักษณะของเห็ด รา อยา่ งรวม ท่ไี หน”
พลัง ดว้ ยความใฝร่ ูไ้ ด้ (P) ข้ันกจิ กรรม
3. เปน็ ผู้มีความใฝร่ ู้ (A)
2.ครใู ห้นกั เรียนศกึ ษาจากนหนังสือ และครูให้ความร้เู พมิ่ เติม
สาระการเรียนรู้ เกย่ี วกบั เห็ด รา

เห็ด รา เปน็ ส่ิงมีชวี ิตจาพวกยอ่ ยสลายซาก 3. นักเรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกันสังเกตภาพ มดท่กี ัดกินใบไม้
สง่ิ มชี วี ิต พบไดท้ ั่วไปในบริเวณท่มี ซี ากสิ่งมีชวี ิตและ และตายลงบนใบไม้ ไมน่ านก็มรี าเกิดข้นึ บนซากมด แล้วรว่ มกนั
วเิ คราะห์ อภปิ ราย โดยร่วมกันตอบคาถาม ดงั นี้ “ในภาพมี
มคี วามชุ่มช้ืน เจรญิ เติบโตโดยการงอกของสปอรจ์ น สง่ิ มชี ีวิตก่ีชนดิ อะไรบ้าง สิ่งมชี วี ิตชนิดใดในภาพที่ยงั มีชีวิตอยู่
เกิดเป็นเสน้ ใย จัดเปน็ สงิ่ มชี ีวติ ทไ่ี มใ่ ชก่ ลุม่ พืช นกั เรียนคดิ วา่ มดตายเนอ่ื งจากสาเหตใุ ด ส่ิงมชี วี ติ ในภาพจัดอยใู่ น
กลุ่มใด ”
และสตั ว์
4.ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนวาดภาพระบายสี เหด็ ราที่สนใจมา
สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา คนละ 1 ชนิด
ขน้ั สรปุ
● การสอื่ สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี
● ทกั ษะชวี ิต 5. นักเรียนนาเสนอภาพวาดและระบายสี เห็ด รา ทร่ี จู้ กั และ
สนใจ 1 ชนิด พรอ้ มพูดประกอบการอธิบายหนา้ ชั้นเรียน
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
6.ครูพานักเรียนสรปุ เนื้อหา “เห็ด รา เปน็ สงิ่ มีชวี ิตจาพวก
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ย่อยสลายซากสง่ิ มีชีวติ พบไดท้ ัว่ ไปในบริเวณทมี่ ซี ากส่ิงมชี ีวิต
และมคี วามชุ่มชื้น เจริญเติบโตโดยการงอกของสปอร์จนเกดิ เป็น
○ ซื่อสัตยส์ จุ ริต ● มุ่งมั่นในการทางาน เสน้ ใย จัดเปน็ ส่ิงมชี วี ิตท่ไี ม่ใชก่ ลุ่มพืชและสัตว์”

○ มีวินยั ○ รักความเป็นไทย การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)

● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ 1. ประเมินการตอบคาถามจากการทากิจกรรม
2. สังเกตการนาเสนอผลงาน
สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้
บันทึกหลงั สอน (Telling)
1.หนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ...............................................................................
...............................................................................
2.การเจรญิ เตบิ โต ของเห็ด (RotTeeb) ...............................................................................

3.ภาพมดที่กดั กนิ ใบไม้และตายลงบนใบไม้ ไมน่ านก็ ลงชื่อ
มรี าเกิดขึน้ บนซากมด (นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ )
ครผู ูส้ อน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11

รหสั วชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ความหลากหลายของสิง่ มีชวี ิต ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
เรอ่ื ง เห็ดกินไดก้ บั เห็ดพิษ
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผูส้ อน นางสาวขวญั จริ า ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ขัน้ นา
1.นกั เรียนดวู ดี ิทศั นเ์ กย่ี วกบั อาการของคนที่รบั ประทานเหด็ พิษ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 2.ครูถามคาถาม “คนท่ีรับประทานเห็ดพษิ มอี าการอยา่ งไร เรา

1. บอกลักษณะของเหด็ กนิ ไดก้ ับเห็ดพิษได้ (K) รู้ได้อยา่ งไรวา่ เห็ดใดมีพิษ”
2. สืบสอบข้อมูลเกย่ี วกบั ลักษณะของเห็ดกินไดก้ บั ขัน้ กจิ กรรม
เหด็ พษิ ดว้ ยความใฝ่ร้ไู ด้ (P)
3. เปน็ ผมู้ ีความใฝ่รู้ (A) 3.นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสบื ค้นขอ้ มูลเกยี่ วกับลักษณะ
ของเหด็ กนิ ได้และเหด็ พษิ จากเอกสาร หนงั สอื โดยมีครูคอยแนะนา
สาระการเรียนรู้
4.นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รบั บัตรภาพ กล่มุ ละ 10 ภาพ แลว้ ร่วมกัน
เหด็ กนิ ได้ สว่ นใหญ่เจรญิ ในทงุ่ หญา้ ลกั ษณะก้านส้นั วิเคราะห์ จาแนก และเขยี นเปน็ แผนภาพความคดิ เหด็ กนิ ได้ กับ
อว้ นปอ้ มและไม่โป่งพองออก ผวิ เรียบไม่ขรุขระ เห็ดพษิ
ขั้นสรปุ
ไม่มีสะเกด็ สีผิวของหมวกส่วนใหญ่เป็นสีขาวหรอื สี
น้าตาล ผวิ ของหมวกเหด็ เรียบจนถึงเป็นเส้นใย 5.นักเรยี นรว่ มกันสรุปสิง่ ท่ีเขา้ ใจในรปู แบบตาราง

ครบี แยกออกจากกันชดั เจน มกั มีสีขาว บางชนิดสแี ดง ส่ือ/อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
หรือสีเขียวอมเหลือง 1.หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
ของ สสวท.
เหด็ พษิ สว่ นใหญ่เจริญงอกงามในป่า ลักษณะก้านสงู 2.เตอื นภัยเห็ดพษิ l ออกอากาศ 26 กันยายน 2564
ลาตน้ โปง่ พองออก โดยเฉพาะท่ฐี านกับท่ีวงแหวน 3.บตั รภาพเหด็ กนิ ได้กับเห็ดพิษ

เห็นชัดเจน สีผวิ ของหมวกมไี ดห้ ลายสี ผวิ ของหมวก บันทึกหลังสอน (Telling)
เหด็ ส่วนมากมีเยอื่ หุม้ ดอกเหด็ เหลอื อย่ใู นลกั ษณะ ...............................................................................
...............................................................................
ทีด่ งึ ออกได้ หรอื เปน็ สะเกด็ ติดอยู่ ครีบแยกออกจาก ................................................................................
กนั ในระยะแรกเปน็ สีชมพแู ลว้ เปลีย่ นเปน็ สีน้าตาล ลงชอ่ื

สมรรถนะสาคัญ (นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ )
ครผู สู้ อน
● การส่ือสาร ● การคดิ ● การแก้ปญั หา
● ทักษะชีวติ
● การใชเ้ ทคโนโลยี

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพยี ง

○ ซอ่ื สัตยส์ ุจรติ ● มุ่งม่ันในการทางาน

○ มวี นิ ัย ○ รักความเป็นไทย

● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ

การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)

1. สงั เกตจากการทากจิ กรรมและตรวจใบงาน
2. สงั เกตการตอบคาถาม

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 12

รหสั วชิ า ว 14101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 ความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ิต ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4
เร่อื ง จลุ ินทรยี ์
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/1 ข้นั นา
1.ครใู หน้ ักเรยี นดูวีดทิ ศั นเ์ กี่ยวกับลกั ษณะ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target)
1. อธิบายลักษณะของจุลนิ ทรยี ไ์ ด้ (K) ประโยชน์ และโทษของจุลินทรยี ์
2. สืบสอบข้อมูลเก่ยี วกับลกั ษณะของจุลินทรยี ์ ได้ (P) 2.ครถู ามคาถาม “นักเรยี นเคยเหน็ จลุ นิ ทรีย์หรอื ไม่
3. เป็นผูม้ ีความใฝ่รู้ (A)
จุลินทรยี ์มปี ระโยชน์อยา่ งไร”
สาระการเรยี นรู้ ข้ันกิจกรรม

จลุ นิ ทรีย์ เป็นสง่ิ มชี ีวติ ขนาดเลก็ ทไ่ี ม่สามารถมองเห็น 3.ครูให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ สบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกับ
ไดด้ ้วยตาเปล่า ต้องศึกษาดว้ ยกลอ้ งจุลทรรศน์ ลักษณะของจุลินทรีย์ แลว้ มาอภิปรายรว่ มกนั

พบไดท้ ัง้ บนบก ในนา้ และในอากาศ 4.นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันสงั เกตภาพจลุ นิ ทรยี ์
ชนิดตา่ ง ๆ ทีต่ ิดบนกระดาน แล้ววเิ คราะหแ์ ละร่วมกนั
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแกป้ ญั หา ตอบคาถาม
ขั้นสรุป
● การสื่อสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี
● ทักษะชวี ิต 5.ครพู านักเรียนสรุปเนอ้ื หาทไ่ี ดอ้ ภปิ รายกัน แลว้
ครเู พม่ิ เตมิ ความหมายของจุลนิ ทรีย์ รวมถงึ มีประโยชน์
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และโทษอยา่ งไร

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง 6.ครูให้นักเรียนวาดภาพระบายสจี ุลนิ ทรียท์ ต่ี นเอง
สนใจมาคนละ 1 ชนดิ
○ ซื่อสตั ยส์ ุจริต ● มุ่งมนั่ ในการทางาน
การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
○ มีวินยั ○ รักความเปน็ ไทย
1. สังเกตจากการทากิจกรรม
● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ 2. สงั เกตการตอบคาถาม
3. ตรวจใบงาน
สื่อ/อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
1. หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ...............................................................................
................................................................................
2.วดี ิทศั น์เก่ยี วกับลกั ษณะ ประโยชน์ และโทษของ ................................................................................
จุลินทรีย์
ลงชื่อ
3.ภาพจลุ นิ ทรีย์ แลคโตบาซลิ ลสั คาซอิ ี (นางสาวขวญั จริ า ชานาญกลุ )
4.ภาพจุลินทรยี ์ แซคคาโรไมซสิ เซเรวิซอิ ี ครผู ู้สอน
5.ภาพจุลนิ ทรีย์ ไมโคแบคทีเรียม ทเู บอร์คูโลซสิ
6.ภาพจุลนิ ทรยี ์ วบิ รโิ อ คอเลอเร

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 13

รหสั วิชา ว 14101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 พืชและประเภทของพืช ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรื่ เรื่อง โครงสร้างภายนอกของพชื ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 2 ชวั่ โมง
วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.2 ป.4/1 ขั้นนา
1. นกั เรียนรว่ มกนั อ่านและร้องเพลง ก่ิง ก้าน ใบ แล้ว
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
1.บอกโครงสร้างภายนอกของพืชได้ (K) แสดงท่าทางประกอบตามจนิ ตนาการของนกั เรียน
2.สงั เกตโครงสร้างภายนอกของพืชชนิดตา่ ง ๆ ได้ (P) 2. นกั เรียนสงั เกตภาพตน้ มะเขอื แล้วครใู หต้ อบคาถาม
3.ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมดว้ ยความใฝร่ แู้ ละมุ่งมน่ั ในการทางานได้ (P)
4.เปน็ ผมู้ ีความใฝ่รู้และมงุ่ มน่ั ในการทางาน (A) “โครงสร้างภายนอกพชื มีอะไรบ้าง พชื แตล่ ะท่ีเหมือนหรือ
แตกตา่ งกัน”
สาระการเรยี นรู้ ขั้นกจิ กรรม
พชื มีโครงสรา้ งภายนอก ไดแ้ ก่ ราก ลาต้น ใบ ดอก ผลและ
เมล็ด ซ่งึ แต่ละส่วนทาหนา้ ทแี่ ตกต่างกัน แตจ่ ะทางาน 3.ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะคนสารวจตน้ ไมบ้ รเิ วณรอบ
สมั พนั ธ์กนั อย่างเป็นระบบ โรงเรียน โดยวาดภาพและช้รี ะบุโครงสร้างภายนอกของพืช

สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ○ การแก้ปญั หา 4.นักเรียนนาขอ้ มูลทีไ่ ด้มารว่ มกันวเิ คราะห์ แล้วครูตงั้
คาถามวา่ “บริเวณโรงเรียนมีตน้ ไมอ้ ะไรบา้ ง แต่ละต้นมี
● การสื่อสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี โครงสร้างภายนอกเหมือนหรอื แตกต่างกนั อยา่ งไรบ้าง”
● ทักษะชีวติ ขน้ั สรปุ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 5. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนนาเสนอต้นไมท้ ี่ตนเองสารวจ
ว่ามีโครงสรา้ งภายนอกอยา่ งไรบ้าง
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยู่อย่างพอเพียง
6. ครพู านักเรยี นรว่ มกนั สรุปวา่ “เก่ยี วกบั โครงสร้าง
○ ซอื่ สัตยส์ จุ ริต ● มงุ่ มั่นในการทางาน ภายนอกของพชื วา่ พืชมีโครงสรา้ งภายนอก ได้แก่ ราก ลา
ต้น ใบ ดอก ผลและเมลด็ โดยแต่ละส่วนทาหนา้ ทแ่ี ตกตา่ ง
○ มวี นิ ยั ○ รกั ความเป็นไทย กนั แต่จะทางานสมั พันธ์กัน”

● ใฝ่เรียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ 7. ให้นักเรยี นทาใบงานออนไลน์ เร่อื ง สว่ นประกอบของพชื

ส่ือ/อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ บนั ทึกหลังสอน (Telling)
...............................................................................
1. หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ...............................................................................
...............................................................................
2. ภาพต้นมะเขอื ...............................................................................
3. ใบงานออนไลนส์ ว่ นประกอบของพชื ...............................................................................

การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ลงชือ่
1. สงั เกตจากการร่วมกจิ กรรมและการตอบคาถาม (นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ )
2. ตรวจงาน ภาพโครงสรา้ งของพืช ครผู ้สู อน
3. ประเมนิ การนาเสนอโครงสร้างของพืช

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 14

รหสั วิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 พืชและประเภทของพชื ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรอื่ ง การดูดน้าของรากและการลาเลียงน้าของลาต้น : 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 2 ชั่วโมง
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผสู้ อน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.2 ป.4/1 ขน้ั นา
1.ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตสว่ นประกอบสาคญั ของต้นไม้ แลว้
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target)
ถามคาถาม “นกั เรียนทราบหรือไมว่ ่า รากและลาต้นของพชื มี
1. อธบิ ายหน้าท่ขี องรากและลาต้นของพืชได้ (K) หน้าท่อี ะไร ”
2. ออกแบบการทดลองเก่ยี วกับหน้าท่ขี องรากและลาตน้ ขั้นกจิ กรรม
พชื ได้ (P)
3. ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมดว้ ยความมงุ่ มั่นและเพยี รพยายามได้ (P) 2.ใหน้ ักเรียนเตรยี มการทดลองเรอ่ื ง การดูดน้าของรากและ
4. เป็นผมู้ คี วามมุ่งมัน่ และเพยี รพยายาม (A) การลาเลียงนา้ ของลาต้น โดยมอี ปุ กรณ์ดงั น้ี ผักกระสัง
สผี สมอาหารสีแดง บีกเกอร์ ขนาด 200 ลูกบาศก์เซนติเมตร
สาระการเรยี นรู้ นา้ และใบมีด

รากทาหน้าทดี่ ดู นา้ แลว้ ลาเลียงขึน้ ไปยงั สว่ นอ่นื ของพืช 3.ให้นกั เรยี นออกแบบการทดลอง การดูดนา้ ของพืช
โดยผา่ นทางทอ่ ลาเลยี งน้าไปตามลาตน้ กง่ิ และใบ 4.นักเรยี นร่วมกันสรุปถึงขั้นตอนการทดลอง เพือ่ เตรยี มตัว
ทดลองในช่วั โมงถดั ไป ดงั นี้ “ขั้นตอนการทดลองเก่ยี วกบั การ
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแก้ปญั หา ดูดนา้ ของรากและการลาเลียงน้าของลาตน้ โดยเรม่ิ จากการ
เตรียมน้าผสมสีแดง โดยใช้สีผสมอาหาร นาผักกระสังมา 2 ต้น
● การสือ่ สาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี ต้นหน่งึ ตดั ราก อีกต้นไมต่ ้องตดั จากนัน้ แชผ่ กั กระสังทม่ี รี ากลง
● ทกั ษะชวี ติ ในขวดพลาสตกิ ใบที่ 1 และผกั กระสงั ทตี่ ดั รากออกลงในขวด
พลาสติกใบท่ี 2 ทิง้ ไว้ 60 นาที สังเกตการเปลย่ี นแปลง และ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ บนั ทกึ ผล”
ขน้ั สรปุ
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยอู่ ย่างพอเพียง 5. สมุ่ นกั เรยี นออกมานาเสนอผลการทดลอง
6. นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปผลการทดลอง
○ ซอื่ สัตย์สุจรติ ● มงุ่ มัน่ ในการทางาน
บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
○ มีวินัย ○ รักความเป็นไทย ...............................................................................
...............................................................................
● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1. หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4
ของ สสวท. ลงช่อื
(นางสาวขวญั จริ า ชานาญกุล)
2. ผกั กาดขาว/ตน้ กระสงั บีกเกอร์ สผี สมอาหาร ครผู ้สู อน

การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)
1. สังเกตการทากจิ กรรมการทดลอง
2. ประเมินแบบบันทึกผลการทดลอง
3. ประเมินการนาเสนอผลการทดลอง และตอบคาถาม

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 15

รหสั วชิ า ว 14101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 พชื และประเภทของพืช ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4
เรือ่ ง การดูดนา้ ของรากและการลาเลยี งน้าของลาตน้ : 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.2 ป.4/1 การเตรยี มตวั ล่วงหนา้
นกั เรียนแบง่ กลุ่มขุดผกั กระสังทั้งราก โดยให้มีดนิ ติดราก
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
อย่ไู ว้ล่วงหนา้ ท้ิงไว้ 1 คนื และไมต่ ้องพรมน้า ทัง้ น้ีเพอื่ ใหร้ าก
1. อธบิ ายหนา้ ที่ของรากและการลาเลยี งน้าของลาต้นพืชได้ (K) แหง้ และดูดนา้ ได้ดเี ม่ือนามาทดลอง เม่ือจะทาการทดลองให้ล้าง
2. ปฏิบัติกิจกรรม การดดู นา้ ของรากและการลาเลียงนา้ ของลาตน้ ดนิ ทรี่ ากออก ระวงั อยา่ ให้ รากขาด แลว้ นาผักกระสงั แชไ่ วใ้ นน้า
อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความใฝร่ ไู้ ด้ (P) สี โดยจัดไวล้ ่วงหน้ากอ่ นเรียน 2 ชวั่ โมง
3. เป็นผมู้ คี วามใฝ่รู้ (A) ขน้ั นา

สาระการเรียนรู้ 1.นักเรยี นร่วมกนั สงั เกตเถาวัลยท์ ีอ่ วบนา้ หรอื พืชอวบน้ามา
ตัด นกั เรียนสังเกตสิง่ ทอี่ ยู่ภายใน แลว้ ตอบคาถามครู “เมื่อ
รากและลาตน้ เป็นส่วนประกอบของพชื ทาหนา้ ท่ี พจิ ารณาลกั ษณะภายนอกและภายใน นกั เรยี นคดิ ว่าพชื ท่ีนามามี
แตกตา่ งกนั รากทาหน้าทีด่ ูดนา้ และธาตุอาหาร ลกั ษณะอย่างไร ”

ข้ึนไปยงั ลาต้น ลาตน้ ทาหน้าทลี่ าเลยี งน้าต่อไปยังสว่ น 2.แตล่ ะกลุม่ ร่วมกันทบทวนวิธกี ารทดลอง
ตา่ ง ๆ ของพืช ขนั้ กจิ กรรม

สมรรถนะสาคญั 3.นกั เรยี นเร่มิ ทาการทดลองและบนั ทกึ ผลลงในใบงาน โดยมี
ครคู อยแนะนา
● การส่ือสาร ● การคิด ● การแก้ปัญหา ขัน้ สรปุ
● ทักษะชวี ติ
○ การใชเ้ ทคโนโลยี 4.ครแู ละนักเรยี นสรุปผลเกย่ี วกบั การทดลอง วา่ “การดูดน้า
ของรากและการลาเลยี งน้าของลาต้น รากนอกจากทาหนา้ ท่ยี ึด
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ลาตน้ แล้ว ยงั ดูดน้าไปสู่ลาต้น กงิ่ กา้ น และใบ โดยผ่านทอ่
ลาเลยี ง เรียกว่า ท่อลาเลียงน้า”
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยู่อย่างพอเพยี ง 5. ให้นักเรยี นวาดแผนการลาเลียงนา้ ของตน้ กระสังลงในใบงาน

○ ซอื่ สัตย์สุจริต ● ม่งุ มน่ั ในการทางาน การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
1. สงั เกตและประเมินการตอบคาถาม
○ มวี ินัย ○ รกั ความเปน็ ไทย 2. ตรวจใบงานแผนภาพการดดู น้าของรากและการลาเลยี ง น้า
ของลาตน้
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ

สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
...............................................................................
1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ...............................................................................
...............................................................................
2 ผกั กระสัง สผี สมอาหารสีแดง บีกเกอร์ นา้ ใบมีด ...............................................................................
3. ใบงานเรือ่ ง การดูดน้าของรากและการลาเลยี ง ลงช่อื

นา้ ของลาต้น (นางสาวขวญั จริ า ชานาญกลุ )
ครผู ้สู อน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 16

รหสั วิชา ว 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 พชื และประเภทของพืช ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
เรอ่ื ง หนา้ ที่ของราก
วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง
ผ้สู อน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.2 ป.4/1
ขัน้ นา
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1.ครใู ห้นักเรียนสังเกตภาพรากของพืชชนิดตา่ งๆแล้วถาม

1. อธิบายหนา้ ท่ีของรากพืชได้ (K) คาถาม “ในภาพมีรากของพืชชนิดใดบา้ ง รากพืชแต่ละชนดิ มี
2. สบื สอบขอ้ มลู เกี่ยวกับหนา้ ท่ขี องรากพชื ได้ (P) ลกั ษณะอยา่ งไร รากคืออะไร และทาหน้าทอี่ ะไร”
3. ปฏบิ ัติกจิ กรรม อย่างรวมพลัง ดว้ ยความใฝร่ ูแ้ ละมงุ่ มน่ั ขั้นกิจกรรม
ในการทางานได้ (P)
4. เป็นผู้มีความใฝ่รู้และมุ่งมั่นในการทางาน (A) 2.ครูให้ความรนู้ กั เรียนเกีย่ วกบั ความหมายของราก หนา้ ที่
ของราก
สาระการเรยี นรู้
3.ครูให้นักเรยี นทาแผนผงั ความคิดเรื่องราก
รากของพชื ทาหน้าทยี่ ดึ ลาตน้ ใหต้ ง้ั ตรงอยู่บนดิน ดดู นา้ ข้นั สรปุ
และธาตุอาหารท่ลี ะลายอยใู่ นดนิ แลว้ ลาเลยี ง
4.นกั เรยี นสรปุ รว่ มกันเกี่ยวกับราก ดังนี้ “รากของพชื
ขึน้ ไปยงั สว่ นอื่นของพืช ซึง่ สว่ นมากจะข้ึนไปทีใ่ บ โดย ทาหนา้ ท่ียดึ ลาต้นให้ตงั้ ตรงอยู่บนดิน ดดู น้าและธาตุอาหารที่
ผา่ นทางลาต้นหรือกง่ิ และสะสมอาหาร ละลายอยูใ่ นดนิ แลว้ ลาเลยี งขน้ึ ไปยังส่วนอน่ื ของพชื ซึง่ ส่วนมาก
จะขนึ้ ไปทใ่ี บ โดยผ่านทางลาตน้ หรอื ก่งิ และรากของพืชบางชนิด
สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ○ การแก้ปญั หา ยังทาหนา้ ทีส่ ะสมอาหาร”

● การสอ่ื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)
● ทกั ษะชวี ิต
1. สังเกตและประเมินการตอบคาถาม
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 2. ตรวจใบงาน หนา้ ท่ขี องราก

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง บนั ทึกหลังสอน (Telling)
...............................................................................
○ ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ● ม่งุ มัน่ ในการทางาน ...............................................................................
...............................................................................
○ มีวนิ ยั ○ รกั ความเป็นไทย
ลงช่ือ
● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ (นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล)
ครผู ู้สอน
สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
ของ สสวท.
2. ภาพรากของพืชชนิดตา่ ง ๆ

3. ใบงาน หนา้ ที่ของราก

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 17

รหัสวชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 พชื และประเภทของพชื ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
เรอ่ื ง หน้าท่ขี องลาต้น
วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง
ผสู้ อน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.2 ป.4/1 ขน้ั นา
1.นกั เรียนร่วมกนั สังเกตลาต้นของพืชในบริเวณโรงเรยี น
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 2.ครูถามคาถามเกี่ยวกับลกั ษณะและหน้าทีข่ องลาตน้ ว่า

1. อธบิ ายหนา้ ทข่ี องลาตน้ พชื ได้ (K) “ลาต้นพชื มลี ักษณะอย่างไร และทาหน้าท่ีอะไร”
2. สืบสอบขอ้ มูลเกย่ี วกับหน้าท่ขี องลาตน้ พืชได้ (P) ขนั้ กจิ กรรม
3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม อย่างรวมพลงั ดว้ ยความใฝร่ ูแ้ ละมงุ่ ม่ัน
ในการทางานได้ (P) 3.ครใู ห้ความรนู้ ักเรยี นเกีย่ วกบั ลักษณะและหนา้ ท่ีของลาต้น
4. เป็นผมู้ ีความใฝร่ แู้ ละม่งุ ม่ันในการทางาน (A) 4.ครูใหน้ ักเรียนทาแผนผงั ความคดิ เร่ืองลาต้นแล้วนาเสนอ
หน้าชั้นเรยี น
สาระการเรียนรู้ ขนั้ สรุป
5.นกั เรียนสรปุ ร่วมกันเกย่ี วกับลาต้น ดงั นี้ “ลาตน้ ของพืชทา
ลาตน้ ของพืช ทาหน้าท่เี ป็นทางลาเลียงน้าและธาตุ หนา้ ท่เี ปน็ ทางลาเลียงน้าและธาตอุ าหารทรี่ ากดดู ขึน้ มาสง่ ต่อไป
อาหารทรี่ ากดดู ข้ึนมาสง่ ต่อไปยังใบและส่วนอืน่ ๆ ของพชื ยงั ใบและสว่ นอ่นื ๆ ของพชื และลาเลียงอาหารท่ใี บสรา้ งข้ึน
และลาเลียงอาหารท่ีใบสรา้ งขน้ึ สง่ ผา่ นไปยงั รากและส่วนอ่ืน ส่งผา่ นไปยงั รากและสว่ นอื่น ๆ ของพืช ชกู ง่ิ กา้ น ใบ และดอกให้
ๆ ของพืช ชูก่งิ กา้ น ใบ และดอกให้ได้รบั แสง และสะสม ได้รบั แสง และลาตน้ ของพืชบางชนิดทาหน้าท่สี ะสมอาหาร”
อาหาร
การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ○ การแกป้ ญั หา
1. สงั เกตและประเมนิ การตอบคาถาม
● การส่อื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี 2. ตรวจใบงาน หนา้ ท่ขี องลาต้น
● ทักษะชีวิต
บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ...............................................................................
...............................................................................
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ...............................................................................
...............................................................................
○ ซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ● ม่งุ ม่ันในการทางาน ลงชอื่

○ มวี นิ ยั ○ รักความเป็นไทย (นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล)
ครผู ู้สอน
● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ

สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้

1. หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
ของ สสวท.

2. ใบงานเร่ืองหน้าท่ขี องราก

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 18

รหัสวิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 พชื และประเภทของพชื ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
เรื่อง การคายน้าของพืช
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 2 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.2 ป.4/1
ขน้ั นา
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1.ครูใหต้ วั แทนนกั เรียนออกมาสาธิตการเติมนา้ ใหเ้ ต็มจนล้นใน

1. อธิบายการคายนา้ ของพชื ได้ (K) กาน้า แลว้ นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยตอบคาถาม ดงั นี้
2. ระบตุ ัวแปรตา่ ง ๆ ตงั้ สมมตุ ิฐาน และสรุปผลการทดลองได้ (K) เพราะเหตใุ ดน้าจึงลน้ ออกมาจากพวยของกาน้า (ปรมิ าณนา้ มาก
3. ปฏบิ ัติกจิ กรรม หนา้ ที่ของใบ (การคายน้าของพืช) ด้วยความ เกินไป) จากเหตุการณข์ า้ งตน้ หากเปลย่ี นกาน้าเปน็ พืช นกั เรยี นคดิ
ว่าจะเกดิ อะไรขนึ้ กับพชื (พืชอาจตายได้ หรือพืชสามารถดารงชวี ิต
ต้งั ใจได้ (P) อยู่ได้เนื่องจากมกี ลไกในการควบคุมน้า
4. เป็นผู้มคี วามตง้ั ใจ (A) ไม่ให้มากเกนิ ไป)

สาระการเรียนรู้ 2.นกั เรียนสงั เกตใบพชื คนละ 1 ใบ แลว้ ร่วมกนั ตอบคาถาม
“นักเรยี นทราบหรอื ไมว่ า่ พชื มีกลไกควบคมุ ปรมิ าณนา้ อย่างไร การ
การคายนา้ ของพืช หมายถงึ การกาจัดน้าท่ีมปี ริมาณมาก คายนา้ หมายความว่าอย่างไร นกั เรียนทราบไดอ้ ยา่ งไรว่าพชื มกี าร
เกินพอออกจากพชื โดยกาจดั ออกในรปู ของไอนา้ คายน้าผ่านทางใบ นกั เรยี นคิดว่าพชื มีการคายน้าออกมาในรปู แบบ
ใด ใบพืชทาหนา้ ทอี่ ะไร ”
ผา่ นทางปากใบ การคายน้าชว่ ยลดอุณหภูมทิ ใี่ บพชื และ ขน้ั กิจกรรม
ทาให้บรรยากาศเกดิ ความชุ่มชน้ื
3.ครูใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่มร่วมกันศกึ ษาวธิ กี ารทดลองเรือ่ ง หนา้ ท่ี
สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแก้ปญั หา ของใบ (การคายนา้ )

● การสอ่ื สาร ○ การใช้เทคโนโลยี 4.นักเรียนเริ่มทาการทดลอง เรื่องการคายนา้ ของพืช และบันทกึ
● ทักษะชีวติ ผลลงใบงาน โดยมคี รูคอยแนะนา
ขั้นสรปุ
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.นักเรยี นรว่ มกนั สรุปผลการทดลองเกี่ยวกบั หน้าที่ของใบ (การ
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยู่อยา่ งพอเพียง คายนา้ ของพชื ) วา่ ใบเปน็ สว่ นของพชื ท่ที าหนา้ ทีค่ ายนา้

○ ซอื่ สตั ย์สจุ รติ ● มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6.ครถู ามต่อวา่ “การคายนา้ ของพืชมีประโยชนต์ อ่ พชื อยา่ งไร
ผลการคายน้าของพืชมีประโยชน์ตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มอย่างไร ”
○ มวี ินยั ○ รกั ความเป็นไทย
7.นักเรยี นร่วมกนั ตอบคาถามของคุณครู
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ
การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
สือ่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
1. สังเกตการทากิจกรรมการทดลอง
1. หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 2. ประเมินแบบบันทกึ ผลการทดลอง
ของ สสวท. 3. ประเมินการนาเสนอผลการทดลอง และตอบคาถาม

2. ใบพืช ต้นไม้ท่ีปลูกใสก่ ระถาง ถงุ พลาสติกใส บนั ทึกหลงั สอน (Telling)
เชอื กสาหรบั รดั ปากถงุ ...............................................................................
...............................................................................
3. ใบงานเรอื่ ง หนา้ ทีข่ องใบ (ตอนท่ี 1 การคายน้า ...............................................................................
ของพืช) ลงชอ่ื

(นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล)
ครผู สู้ อน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 19

รหสั วิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 พชื และประเภทของพชื ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4
เร่อื ง การสรา้ งอาหารของพืช
วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชวั่ โมง
ผู้สอน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.2 ป.4/1 ข้ันนา
1.ครูให้นักเรยี นสังเกตพชื จาพวกหัว เชน่ มนั แกว แลว้ เรียก
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target)
ตวั แทนนกั เรียน 1 คน สาธติ การทดสอบอาหาร โดยหยด
1.อธิบายการสรา้ งอาหารของพชื ได้ (K) สารละลายไอโอดีนลงบนมนั แกว แลว้ ร่วมกนั ตอบคาถาม
2.ทดลองสมบัติของแปง้ ท่ไี ด้จากพืชได้ (P) “สสี ารละลายไอโอดนี มกี ารเปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ พืชมกี ารสะสม
3.ทดลองเพือ่ แสดงว่าพืชสีเขียวสามารถสร้างอาหารเองได้ (P) อาหารประเภทใด อาหารทพี่ ชื สรา้ งไดค้ ืออะไร นักเรยี นจะทดสอบ
4.ปฏิบัตกิ ิจกรรม หน้าทีข่ องใบ (การสรา้ งอาหารของพืช) อาหารท่ีพืชสร้างขึน้ ไดอ้ ย่างไร”
ขั้นกจิ กรรม
ดว้ ยความตง้ั ใจได้ (P)
5.เป็นผ้มู คี วามตั้งใจ (A) 2.ครูใหน้ กั เรียนแบง่ กล่มุ รว่ มกันศกึ ษาวิธีการทดลองเรือ่ ง หนา้ ท่ี
ของใบ (การสร้างอาหารของพชื )
สาระการเรยี นรู้
3.นักเรียนเรมิ่ ทาการทดลอง เรือ่ ง การสรา้ งอาหารของพชื และ
พชื สามารถสรา้ งอาหารเองได้ อาหารที่พืชสร้างคอื นา้ ตาล บนั ทึกผลลงในใบงาน โดยมีครูคอยแนะนา
ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นแปง้ สามารถทดสอบได้ โดยใชส้ ารละลาย ข้นั สรปุ
ไอโอดนี ถา้ พชื ชนิดน้นั มีแป้งสะสมอยู่ สารละลายไอโอดีนจะ
เปล่ียนจากสเี หลืองน้าตาลเป็นสีนา้ เงินเกือบดา 4.นักเรยี นรว่ มกันสรปุ ผลการทดลองเกี่ยวกบั หน้าที่ของใบ (การ
สรา้ งอาหารของพชื ) วา่ อาหารท่ีพืชสรา้ งขนึ้ คอื น้าตาลซึ่งจะ
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแก้ปัญหา เปลี่ยนเป็นแป้ง สามารถทดสอบไดโ้ ดยใชส้ ารละลายไอโอดนี ถา้ พชื
ชนดิ นั้นมแี ปง้ สะสมอยู่ สารละลายไอโอดีนจะเปลี่ยนจาก
● การสอ่ื สาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี สีเหลืองนา้ ตาลเปน็ สีนา้ เงนิ เขม้ เกอื บดา
● ทักษะชวี ติ
5.ครูใหก้ ารบ้านนกั เรยี น โดยให้ตอบคาถาม ดังนี้ “ต้มใบพชื
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ในน้าเดอื ดตา่ งจากต้มในเอทลิ แอลกอฮอลอ์ ยา่ งไร หลงั จากนาใบ
พชื ต้มในเอทิลแอลกอฮอลแ์ ลว้ สารละลายเอทิลแอลกอฮอล์
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง เปลีย่ นเปน็ สอี ะไร ท่ีเป็นเช่นน้เี พราะเหตใุ ด ใบพืชทีท่ ดสอบด้วย
สารละลายไอโอดีนเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร เพราะเหตุใดจงึ เป็นเช่นนั้น
○ ซ่อื สัตยส์ จุ รติ ● มงุ่ มน่ั ในการทางาน สรปุ ผลการทดลองไดว้ า่ อยา่ งไร นอกเหนือจากใบสีเขียวแลว้ ยงั มี
สว่ นใดของพืชอกี บา้ งทีส่ ามารถสรา้ งอาหารได้ ”
○ มวี นิ ยั ○ รักความเป็นไทย
การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing)
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ
1. สงั เกตการทากจิ กรรมการทดลอง
สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ 2. ประเมินแบบบนั ทึกผลการทดลอง
3. ประเมนิ การนาเสนอผลการทดลอง และตอบคาถาม
1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4
ของ สสวท. บนั ทึกหลังสอน (Telling)
...............................................................................
2.อุปกรณก์ ารทดลอง เรอื่ ง การสร้างอาหารของพืช ...............................................................................
3.ใบงานเรือ่ ง หนา้ ทข่ี องใบ (ตอนท่ี 2 การสรา้ ง ลงชื่อ

อาหารของพชื ) (นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ )
ครูผสู้ อน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 20

รหัสวชิ า ว 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 พชื และประเภทของพชื ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4
เร่อื ง หน้าทขี่ องใบ
วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผ้สู อน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.2 ป.4/1
ขั้นนา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1.นกั เรียนรว่ มกนั สังเกตภาพใบพืชชนิดตา่ ง ๆ แล้วร่วมกัน

1.อธิบายหน้าทขี่ องใบพชื ได้ (K) สนทนาเกย่ี วกับลกั ษณะและหนา้ ทข่ี องใบพืช
2.สบื สอบข้อมูลเกย่ี วกับหน้าที่ของใบพชื ได้ (P) 2.ครูต้งั คาถามว่า “ใบพืชมลี ักษณะอยา่ งไร ใบพชื ทาหนา้ ที่
3.ปฏิบตั กิ จิ กรรมดว้ ยความใฝร่ แู้ ละมุ่งมน่ั ในการทางานได้ (P)
4.เป็นผู้มคี วามใฝร่ ู้และมุง่ ม่นั ในการทางาน (A) อะไร”
ขัน้ กิจกรรม
สาระการเรยี นรู้
3.ครูให้ความร้เู พม่ิ เติมแกน่ กั เรยี นเกีย่ วกบั ลักษณะและหน้าท่ี
ใบของพชื ทาหน้าทห่ี ายใจ คายนา้ และสร้างอาหาร ของใบ
อาหารทีพ่ ชื สรา้ งข้ึน คือ นา้ ตาล ซ่งึ จะเปลี่ยน
4.ครใู ห้นักเรียนทาแผนผงั ความคดิ เรือ่ งลาต้นแล้วนาเสนอ
เป็นแปง้ เกบ็ สะสมไว้ หนา้ ชน้ั เรยี น
ข้นั สรปุ
สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ○ การแก้ปัญหา
5.นักเรยี นสรุปเกีย่ วกบั หน้าทข่ี องใบพืชว่า ใบของพืชทา
● การสือ่ สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี หนา้ ทห่ี ายใจ คายนา้ และสรา้ งอาหาร อาหารทพี่ ืชสรา้ งขึ้น คอื
● ทกั ษะชีวติ นา้ ตาล ซึ่งจะเปลยี่ นเปน็ แปง้ เก็บสะสมไว้ ซงึ่ สอดคล้องกับการ
ทดลองในช่วั โมงทผ่ี ่านมา
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพียง
1. สังเกตและประเมนิ การตอบคาถาม
○ ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ ● มุง่ ม่ันในการทางาน 2. ตรวจใบงาน หนา้ ท่ขี องใบ

○ มวี ินัย ○ รักความเป็นไทย บนั ทึกหลงั สอน (Telling)
...............................................................................
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
ส่อื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
ลงชื่อ
1.หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4
ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) (นางสาวขวัญจริ า ชานาญกลุ )
ครผู ูส้ อน
2.ภาพใบชบา
3.ภาพใบกล้วย
4.ภาพใบโกสน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 21

รหสั วิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 พืชและประเภทของพืช ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4
เรื่อง ส่วนประกอบของดอกไม้
วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง
ผ้สู อน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.2 ป.4/1
เตรยี มตวั ก่อนเรียน
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target) เตรยี มดอกไม้ประมาณ 4-5 ดอก เพือ่ นามาศึกษาในเรื่องนี้
ข้นั นา
1. ระบสุ ่วนประกอบของดอกไมท้ เี่ กีย่ วขอ้ งกบั การสืบพันธไุ์ ด้ (K)
2. สงั เกตส่วนประกอบของดอกไม้ท่ีเกย่ี วข้องกบั การสบื พันธไ์ุ ด้ (P) 1.นกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนประสบการณ์เดิม โดยสังเกตดอก
3. ปฏิบตั ิกิจกรรม ส่วนประกอบของดอกไม้ ด้วยความตัง้ ใจได้ (P) ชบา แล้วครูตง้ั คาถามวา่ “ดอกไมด้ อกนี้คอื ดอกอะไร มลี กั ษณะ
4. เปน็ ผมู้ ีความตั้งใจ (A) อย่างไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง”
ขัน้ กจิ กรรม
สาระการเรยี นรู้
2.ครูใหค้ วามรเู้ พิม่ เตมิ เกยี่ วกบั ส่วนประกอบของดอกไม้
ดอกทาหน้าท่ีในการสบื พันธุ์ ประกอบด้วยสว่ นตา่ ง ๆ 3.ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันศกึ ษาวิธที าและปฏบิ ัติ
ไดแ้ ก่ กลีบเลยี้ ง กลีบดอก เกสรเพศผู้ กิจกรรมเรอ่ื ง สว่ นประกอบของดอกไม้ ในใบงาน
4.นักเรยี นลงมือทากิจกรรม โดยใหส้ งั เกตส่วนประกอบของ
และเกสรเพศเมีย ซ่ึงสว่ นประกอบแต่ละสว่ นของดอกทา ดอกไมแ้ ล้วบนั ทกึ ลงในใบงาน
หน้าท่แี ตกต่างกัน 5.นกั เรียนร่วมตอบคาถามของครู “ดอกท่ีนามาเหมือนหรอื
แตกตา่ งกนั อยา่ งไรบา้ ง เกสรเพศผ้แู ละเพศของแตล่ ะดอกมีสีท่ี
สมรรถนะสาคัญ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร และสว่ นประกอบท่สี าคัญที่สุดของดอกคอื
อะไร”
● การสื่อสาร ● การคดิ ● การแก้ปญั หา ขัน้ สรุป
● ทกั ษะชวี ิต 6.นกั เรียนสรุปเก่ียวกับ ส่วนประกอบของดอกไมว้ า่
● การใชเ้ ทคโนโลยี ส่วนประกอบทีส่ าคญั ของดอกไม้ ไดแ้ ก่ กลีบเล้ยี ง กลบี ดอก เกสร
เพศผู้ และเกสรเพศเมีย ดอกไมบ้ างชนิดมีสว่ นประกอบครบ 4
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ส่วน แต่บางชนดิ มสี ว่ นประกอบไมค่ รบ 4 สว่ น
7. นกั เรียนทบทวนเนอ้ื หาโดยทาใบงานออนไลน์ และบันทึก
○ รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยูอ่ ย่างพอเพยี ง ใสใ่ บงาน

○ ซือ่ สตั ย์สจุ รติ ● มุ่งม่นั ในการทางาน การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)

○ มีวินัย ○ รักความเปน็ ไทย 1. สงั เกตจากการ ทากิจกรรม และประเมินการตอบคาถาม
2. ตรวจใบงานสว่ นประกอบของดอก
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ
บนั ทึกหลงั สอน (Telling)
ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1.หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 ...............................................................................
ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) ...............................................................................
ลงช่ือ
2.ดอกชบา (หรือดอกพรู่ ะหง) พร้อมก้านดอก
3.ใบงานเรือ่ ง สว่ นประกอบของดอกไม้ (นางสาวขวญั จริ า ชานาญกุล)
4. ใบงานออนไลนเ์ ร่ือง ส่วนประกอบของดอกไม้ ครูผู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 22

รหสั วิชา ว 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 พืชและประเภทของพชื ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 4
เร่อื ง หนา้ ท่ขี องดอก
วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชวั่ โมง
ผสู้ อน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.2 ป.4/1 ขั้นนา
1.นักเรยี นทบทวนความรแู้ ละยตวั อยา่ งดอกไมท้ ี่ร้จู กั
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target)
1. อธิบายหน้าที่ของดอกได้ (K) ในท้องถิ่น แลว้ ใหต้ ัวแทนบันทึกบนกระดาน
2. สบื สอบขอ้ มูลเกี่ยวกบั หนา้ ทขี่ องดอกได้ (P) ขน้ั กจิ กรรม
3. ปฏบิ ตั ิกิจกรรม หน้าที่ของดอก ด้วยความใฝ่รแู้ ละมุ่งมน่ั
2.ให้นักเรยี นสบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกบั หน้าทีข่ องดอก
ในการทางานได้ (P) จากในหนงั สอื หรือส่ือรอบๆตัว
4. เปน็ ผู้มีความใฝ่รู้และมงุ่ มนั่ ในการทางาน (A)
3.ครูให้ความรู้เพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับหน้าทีข่ องดอก
สาระการเรยี นรู้ ข้ันสรปุ
ดอก ช่วยลอ่ แมลงใหม้ าผสมเกสร และทาหนา้ ที่สบื พันธ์ุ
4. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ส่งิ ที่เข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกนั
เก่ยี วกับหน้าทขี่ องดอกว่า ดอก ชว่ ยล่อแมลงให้มาผสม
เกสร และทาหนา้ ท่สี ืบพนั ธ์ุ

สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ○ การแกป้ ัญหา

● การสื่อสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี
● ทักษะชีวิต

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อย่อู ย่างพอเพยี ง

○ ซอื่ สัตยส์ ุจรติ ● ม่งุ ม่ันในการทางาน

○ มีวนิ ัย ○ รักความเปน็ ไทย บันทึกหลงั สอน (Telling)
...............................................................................
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1. หนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ลงชอ่ื

การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing) (นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล)
ครูผ้สู อน
1. สงั เกตจากการ ทากจิ กรรม และประเมนิ การตอบคาถาม
2. ตรวจสมุดจากกการบันทึกผลของนักเรียน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 23

รหสั วชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 พืชและประเภทของพืช ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4
เร่ือง พืชไมม่ ดี อกและพชื ดอก
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 2 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/2
ข้ันนา
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1.นักเรียนสงั เกตภาพพืชไมม่ ีดอกและพืชดอกบนกระดานแล้วตอบ
คาถามครู “พืชที่นักเรยี นรจู้ ักมอี ะไรบ้าง พืชทมี่ ีดอกมอี ะไรบา้ ง พืช
1.อธบิ ายความแตกตา่ งระหวา่ งพืชไม่มีดอกกับพืชดอกได้ (K) ทไ่ี ม่มดี อกมีอะไรบ้าง ถา้ ใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ จะจดั จาแนกพืชได้
2.ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ความแตกตา่ งของพชื ไม่มดี อกกบั พืชดอก เปน็ กก่ี ลุม่ อะไรบา้ ง” (ถ้าใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ จาแนกไดเ้ ปน็ พืชไม่มี
ดว้ ยความต้ังใจได้ (P)
3.เปรียบเทียบความแตกตา่ งระหวา่ งพืชไม่มดี อกกบั พืชดอกได้ (P) ดอก หมายถึง พืชท่มี ีส่วนประกอบตา่ ง ๆ ไมค่ รบ และทสี่ าคญั คอื ไม่มีดอก ผล
4.จาแนกพชื ออกเปน็ พชื ดอกและพืชไมม่ ีดอก โดยใช้การมี และเมลด็ เช่น เฟริ น์ มอสส์ ปรง สาหรา่ ย สนสองใบ สนสามใบ พืชดอก
ดอกเปน็ เกณฑไ์ ด้ (P) หมายถงึ พืชที่มสี ่วนประกอบตา่ ง ๆ ครบ และมีดอกเปน็ โครงสร้างทใี่ ชใ้ นการ
5. เป็นผูม้ ีความต้ังใจ (A) สืบพันธุ์ มีผลและเมล็ด เช่น กหุ ลาบ มะลิ มะม่วง)

สาระการเรียนรู้ ขัน้ กจิ กรรม
2. ให้นกั เรยี นสบื คน้ ขอ้ มลู จากและกาหนดเกณฑ์ในการจาแนกจาก
ถา้ ใชก้ ารมดี อกเปน็ เกณฑ์ จาแนกพชื ได้เป็น ใบงานออนไลน์
1. พชื ไม่มีดอก หมายถงึ พชื ท่ีมีสว่ นประกอบต่าง ๆ ไม่ 3. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั ทากิจกรรมเร่อื ง ความแตกต่าง
ครบ คือ มรี าก ลาตน้ ใบ แตไ่ ม่มีดอก ของพชื ไมม่ ดี อกกบั พืชดอกแล้วบันทึกผลลงในใบงาน
2. พืชดอก หมายถงึ พืชทมี่ สี ว่ นประกอบต่าง ๆ ครบ คอื ขน้ั สรปุ
มรี าก ลาต้น ใบ ดอก ผลและเมลด็
3.นักเรยี นร่วมกนั สรุปผลการทากิจกรรมและสรุปส่ิงท่เี ข้าใจเป็น
และมดี อกเป็นอวยั วะสบื พนั ธ์ุของพืช ความรรู้ ่วมกันเกี่ยวกับพืชไมม่ ดี อกกับพืชดอกวา่ ถา้ ใชก้ ารมีดอกเป็น
เกณฑ์ จาแนกพชื ไดเ้ ป็น
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ญั หา
1.พืชไม่มดี อก หมายถึง พืชท่มี ีสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ไม่ครบ คอื
● การสอื่ สาร ○ การใช้เทคโนโลยี มรี าก ลาต้น ใบ แต่ไมม่ ดี อก
● ทักษะชวี ิต
2.พืชดอก หมายถงึ พืชที่มีส่วนประกอบต่าง ๆ ครบ คอื มรี าก
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ลาต้น ใบ ดอก ผลและเมล็ด และมีดอกเป็นอวัยวะสบื พนั ธุ์ของพืช

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
1 หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4
○ ซอื่ สตั ย์สจุ รติ ● มงุ่ มั่นในการทางาน ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2.ตน้ กหุ ลาบ
○ มวี นิ ัย ○ รกั ความเปน็ ไทย 3.ตน้ เฟิร์น
4.ใบงานเรอ่ื ง ความแตกตา่ งของพชื ไม่มีดอกกบั พืชดอก
● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ
บันทกึ หลังสอน (Telling)
การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) (Testing) ...............................................................................
1. สงั เกตจากการ ทากิจกรรม และประเมินการตอบคาถาม ...............................................................................
2. ตรวจใบงาน ...............................................................................
ลงชอ่ื

(นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล)
ครูผู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 24

รหัสวิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 พืชและประเภทของพชื ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4
เร่ือง พชื ในทอ้ งถิ่นของเรา
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/2 ขัน้ นา
1.นกั เรยี นสังเกตพืชในท้องถิ่น แลว้ รว่ มกันยกตัวอยา่ ง พชื ใน
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
1. ระบเุ กณฑท์ ่ใี ช้ในการจาแนกประเภทพชื ได้ (K) ท้องถิ่นทรี่ ้จู ักลงบนกระดาน
2. จาแนกพชื ในทอ้ งถ่ินเปน็ พชื ไม่มีดอกและพืชดอกได้ (P) 2.ครูตัง้ คาถาม “พชื ในทอ้ งถ่นิ สามารถจดั จาแนกได้อยา่ งไร
3. ปฏบิ ตั ิกิจกรรม พชื ในท้องถ่ินด้วยความต้ังใจ (P)
4. เป็นผมู้ ีความตง้ั ใจ (A) บา้ ง”
ขน้ั กจิ กรรม
สาระการเรียนรู้
3.ครูใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมเร่อื ง พชื ในท้องถิ่นของเราลงใน
การจดั จาแนกพชื สามารถใชก้ ารมดี อกเปน็ เกณฑใ์ น ใบงาน โดยให้แบ่งกล่มุ พืชทกี่ าหนดให้ว่าอยกู่ ลุ่มใด
การจดั จาแนก ไดเ้ ป็นพชื ไม่มีดอกและพชื ดอก ข้ันสรุป

สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแก้ปัญหา 4.นักเรยี นรว่ มกันสรุปผลการทากจิ กรรมและสรุปสิง่ ทเ่ี ขา้ ใจ
เปน็ ความรู้รว่ มกันเกย่ี วกบั การจดั จาแนกพืชในท้องถ่นิ วา่ การจัด
● การส่อื สาร ● การใช้เทคโนโลยี จาแนกพชื สามารถใชก้ ารมดี อกเป็นเกณฑใ์ นการจดั จาแนก
● ทกั ษะชีวิต ได้เป็นพืชไม่มีดอกและพืชดอก

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) (Testing)
1. สังเกตจากการทากิจกรรม
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2. ประเมินการตอบคาถาม
3. ตรวจใบงาน
○ ซอื่ สัตย์สจุ รติ ● มุ่งม่ันในการทางาน
บนั ทกึ หลังสอน (Telling)
○ มีวนิ ยั ○ รักความเป็นไทย ...............................................................................
...............................................................................
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
ส่ือ/อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1.หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4
ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) ลงชือ่
(นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล)
2.พชื ชนดิ ตา่ ง ๆ ได้แก่ พทุ ธรกั ษา เฟิร์น ชบา ครผู สู้ อน
กล้วย สนสองใบ กหุ ลาบ มอสส์ ปรง มะลิ และ
มะพรา้ ว
3.ใบงานเร่อื ง พืชในท้องถน่ิ ของเรา

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 25

รหัสวิชา ว 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 สัตว์และประเภทของสตั ว์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4
เรื่อง ความหลากหลายของสตั ว์
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง
ผ้สู อน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/3
ขน้ั นา
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1.ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกันสงั เกตภาพแมว
1. อธิบายความหลากหลายของสัตวไ์ ด้ (K)
2. สบื สอบขอ้ มูลเกีย่ วกับความหลากหลายของสตั ว์ ได้ (P) หลากหลายชนิดพันธ์ุ
3. เปน็ ผู้มคี วามมงุ่ มน่ั และตั้งใจ (A) 2.ครตู ้งั คาถาม “แมวในภาพมกี ่ีชนดิ นกั เรียนรู้จกั

สาระการเรียนรู้ แมวชนิดใดบา้ ง”
ข้นั กิจกรรม
สตั ว์ เป็นสงิ่ มีชวี ติ มลี ักษณะเฉพาะตัวและมคี วามแตกต่าง
กันไป ทาให้เกิดความหลากหลายของสตั ว์ 3.ครใู หค้ วามรู้เพิม่ เตมิ เกีย่ วกับความหลากหลาย
ของสิ่งมชี วี ิต
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ัญหา ข้ันสรุป

● การสือ่ สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี 4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันสรปุ สงิ่ ที่เข้าใจเป็น
● ทักษะชีวติ ความร้รู ่วมกนั เกี่ยวกับความหลากหลายของสตั ว์ลงใน
สมดุ
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ย่างพอเพยี ง
1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
○ ซ่ือสตั ย์สจุ รติ ● มุง่ มัน่ ในการทางาน ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)

○ มวี ินยั ○ รักความเปน็ ไทย 2. ภาพภาพความหลากหลายของแมว

● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ บนั ทกึ หลังสอน (Telling)
...............................................................................
การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing) ...............................................................................
...............................................................................
1. ประเมนิ จากการตอบคาถาม ...............................................................................
2. การประเมินงานจากสมุด ...............................................................................
...............................................................................
ลงชื่อ

(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล)
ครูผ้สู อน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 26

รหสั วชิ า ว 14101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 สตั ว์และประเภทของสตั ว์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
เรือ่ ง การจดั จาแนกสตั ว์
วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/3
ขน้ั นา
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1.นกั เรยี นรว่ มกนั ยกตัวอยา่ งสัตว์ชนิดตา่ ง ๆ ในท้องถ่ิน และ

1. ระบปุ ระเภทของสัตวโ์ ดยใช้การมีกระดูกสันหลังเปน็ เขียนบนกระดาน
เกณฑ์ได้ (K) 2.ครูตงั้ คาถาม “เราจะจัดจาแนกสตั วข์ องเราไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง ”

2. ยกตวั อย่างชนิดของสัตว์ในแต่ละประเภทได้ (K) ขัน้ กจิ กรรม
3. ปฏิบตั ิกจิ กรรม การจัดจาแนกสตั ว์ อยา่ งรวมพลงั ดว้ ย 3.ครใู ห้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกันทากจิ กรรมทเ่ี ร่ือง การจดั
ความตัง้ ใจได้ (P)
4. เป็นผมู้ ีความตัง้ ใจ (A) จาแนกสตั ว์ โดยจัดสตั วใ์ ห้เข้ากลมุ่ ทาลงในใบงาน
ข้ันสรปุ
สาระการเรยี นรู้
4.นกั เรียนร่วมกันสรปุ ผลการทากิจกรรมและสรปุ ส่ิงทีเ่ ข้าใจ
การจดั จาแนกสตั ว์ สามารถใช้การมกี ระดกู สันหลงั เป็น เป็นความรรู้ ่วมกนั เกยี่ วกบั การจัดจาแนกสตั ว์วา่ การจดั จาแนก
เกณฑ์ในการจดั จาแนกไดเ้ ปน็ สัตว์โดยใช้การมีกระดกู สันหลังเป็นเกณฑ์ แบง่ ได้ 2 ประเภท ดังน้ี

สัตวม์ ีกระดูกสันหลัง และสตั ว์ไม่มีกระดูกสันหลัง 1.สัตวไ์ มม่ กี ระดกู สันหลงั คือ สัตว์ท่ีไมม่ ีโครงกระดกู ใน
ตัว และไมม่ ีกระดกู สันหลงั
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ัญหา
2.สตั ว์มกี ระดูกสันหลงั คือ สัตวท์ ่มี โี ครงกระดูกในตวั
● การส่อื สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี และมีกระดกู สันหลัง
● ทกั ษะชีวติ
5.ครใู ห้นักเรยี นเล่นเกมเปิดแผน่ ป้ายเพอื่ ทบทวนความรู้
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้
○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อย่อู ย่างพอเพียง
1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4
○ ซอื่ สัตย์สุจริต ● มงุ่ มนั่ ในการทางาน ของ สสวท.

○ มีวินยั ○ รกั ความเป็นไทย 2. ภาพสัตว์ชนดิ ต่าง ๆ (ปะการัง กบ ฟองน้า ปลงิ เปด็
แมว ไสเ้ ดอื นดิน ปลานลิ เตา่ หอยแครง ดาวทะเล กงุ้ )
● ใฝเ่ รียนรู้ ● มจี ติ สาธารณะ 3.ภาพสตั ว์ 12 ภาพ (กุง้ ปลงิ เปด็ ฉลาม พยาธิ
เสน้ ด้าย หอยแครง ปะการัง จิงโจ้ กบ ฟองน้า
การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing) ดาวทะเล เต่า)
1. ตรวจสอบผลงาน 4.ใบงานเร่อื ง การจดั จาแนกสัตว์
2. ประเมนิ ทักษะการจาแนกประเภทของสัตว์
3. สงั เกตการร่วมกิจกรรม บนั ทึกหลังสอน (Telling)
...............................................................................
...............................................................................
...............................................................................
...............................................................................
ลงชื่อ

(นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ )
ครผู ู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 27

รหัสวชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 สัตว์และประเภทของสตั ว์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4
เรอ่ื ง สตั วไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลัง : 1
ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวญั จริ า ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/3
ข้นั นา
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1.นักเรยี นดูวดี ิทัศน์สตั วไ์ ม่มีกระดกู สันหลงั แล้วร่วมกนั

1. บอกลกั ษณะสาคัญและยกตัวอยา่ งสัตวไ์ มม่ กี ระดกู สนั สนทนาทบทวนความรเู้ กย่ี วกับ
หลงั ได้ (K) สตั วไ์ มม่ กี ระดูกสันหลงั โดยรว่ มกนั ตอบคาถามสาคญั ดังน้ี
“สัตว์ไมม่ ีกระดกู สันหลงั แบง่ เป็นกี่ประเภท ไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง”
2. สืบสอบข้อมลู เกีย่ วกับลกั ษณะสาคัญและตัวอย่างสตั ว์ ขนั้ กิจกรรม
ไมม่ กี ระดกู สนั หลงั ด้วยความต้ังใจได้ (P)
2.ครูให้นกั เรยี นแบ่งกล่มุ 7 กลุม่ เพอ่ื จะเป็นตวั แทนของ
3. เป็นผมู้ ีความตงั้ ใจ (A) ส่งิ มชี ีวิตนน้ั ๆ 7 กล่มุ มดี งั นี้

สาระการเรียนรู้ 1) ฟองน้า
2) กะพรุน ปะการงั กลั ปงั หา ดอกไมท้ ะเล
สัตว์ไม่มกี ระดูกสันหลัง คือ สัตวท์ ่ไี มม่ โี ครงกระดกู ในตวั 3) พยาธแิ ละหนอนตวั กลม
และไม่มกี ระดูกสนั หลงั แบ่งเปน็ 7 ประเภท 4) สัตว์ท่มี ีลาตัวเป็นปล้อง ไม่มขี า
5) หอยและหมกึ
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแกป้ ญั หา 6) สตั ว์ที่มีลาตวั เป็นปล้องและมขี าเป็นข้อ
7) สตั วท์ มี่ ีลาตัวเป็นหนาม
● การส่อื สาร ● การใช้เทคโนโลยี 3.นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาและสบื ค้นขอ้ มลู สัตวท์ ่ี
● ทกั ษะชีวิต แต่ละกลมุ่ ได้ไป เพ่อื นามาแลกเปลี่ยนกนั
4. ให้นักเรยี นเล่นเกมบงิ โก สตั ว์ไมม่ กี ระดูกสนั หลงั
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ขัน้ สรปุ
5.ครพู านกั เรียนสรปุ ผลกิจกรรมเกย่ี วกบั ลกั ษณะสาคญั
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง และตัวอย่างสตั ว์ไม่มีกระดูกสันหลงั แตล่ ะประเภท
6. ใหน้ ักเรียนทาใบงานการจาแนก สัตว์ไมม่ ีกระดูกสันหลงั
● ซ่อื สัตย์สจุ รติ ● มงุ่ มัน่ ในการทางาน
บนั ทึกหลงั สอน (Telling)
○ มีวินยั ○ รกั ความเปน็ ไทย ...............................................................................
...............................................................................
● ใฝเ่ รยี นรู้ ● มีจิตสาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
สอื่ /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
1. หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 ...............................................................................
ของ สสวท.
2. วดี ทิ ศั น์สตั วไ์ ม่มกี ระดกู สนั หลงั ลงชือ่
3. ใบงานการจาแนก สตั ว์ไม่มกี ระดกู สันหลงั (นางสาวขวญั จริ า ชานาญกลุ )
ครูผู้สอน
การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing)

1. ตรวจสอบผลงาน
2. ประเมินทักษะการจาแนกประเภทของสตั ว์
3. สงั เกตการรว่ มกจิ กรรม
4. ประเมนิ การนาเสนอ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 28

รหัสวิชา ว 14101 กล่มุ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 สัตวแ์ ละประเภทของสัตว์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 4
เรื่อง สัตวไ์ มม่ ีกระดูกสันหลัง : 2
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง
วันที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ผ้สู อน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 1.3 ป.4/3
ข้ันนา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1.ครูทบทวนความรู้เรือ่ ง สตั วไ์ มม่ ีกระดกู สันหลัง

1. บอกลกั ษณะสาคัญและยกตัวอยา่ งสตั วไ์ ม่มีกระดกู สัน ข้นั กจิ กรรม
หลงั ได้ (K) 2.นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกนั วางแผน สารวจ สตั ว์ไมม่ ี

2. ทาสมุดภาพสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สันหลงั ด้วยความม่งุ มั่น (P) กระดกู สันหลัง ตดั ภาพภาพ ระบายสี ลงใน A4
3. จัดจาแนกสตั ว์ไมม่ ีกระดูกสนั หลงั ออกเปน็ ประเภทต่าง ๆ ข้นั สรุป
ได้ (P)
4. เป็นผมู้ ีความม่งุ มั่นและตัง้ ใจ (A) 3. นักเรยี นรว่ มกันสรุปส่งิ ท่ีเข้าใจ ดังน้ี
สัตวไ์ มม่ กี ระดกู สนั หลงั คอื สตั ว์ไมม่ ีโครงกระดูกในตวั และไม่มี
สาระการเรยี นรู้ กระดกู สนั หลงั แบ่งเปน็ 7 ประเภท ได้แก่

สัตวไ์ ม่มีกระดูกสันหลัง คอื สัตวท์ ไ่ี ม่มโี ครงกระดูกในตัว 1.ฟองนา้ ลักษณะสาคญั มรี พู รนุ เล็ก ๆ กระจายทว่ั
และไม่มกี ระดกู สันหลงั แบ่งเป็น 7 ประเภท ท้ังตัว ไมม่ รี ยางค์

สมรรถนะสาคญั 2.กะพรุน ปะการัง กัลปงั หา ดอกไมท้ ะเล ลกั ษณะ
สาคญั มเี น้ือน่ิมและใส รูปร่างเป็นทรงกระบอก หรือคล้ายต้นไม้
● การส่ือสาร ● การคดิ ● การแกป้ ญั หา
● ทักษะชวี ิต 3.พยาธิและหนอนตัวกลม ลักษณะสาคญั ลาตัวอ่อน
● การใช้เทคโนโลยี นม่ิ อาศัยอย่ใู นตับ ลาไสข้ องมนุษย์ และสัตว์ และบางพวก
ดารงชวี ติ อสิ ระ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
4.สัตวท์ ี่มีลาตัวเปน็ ปล้อง ไม่มีขา ลักษณะสาคญั ลาตวั
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ย่างพอเพียง กลมยาว แต่ละปล้องไม่มีขา มเี ดอื ยใช้ในการเคล่อื นท่ี

○ ซื่อสัตยส์ จุ ริต ● มุ่งมนั่ ในการทางาน 5.หอยและหมกึ ลกั ษณะสาคัญ ลาตัวนม่ิ ไม่เป็นปล้อง
มีเปลือกแขง็ หมุ้ ลาตัว
○ มีวนิ ัย ○ รกั ความเปน็ ไทย
6.สตั วท์ ่ีมลี าตัวเป็นปลอ้ งและมขี าเปน็ ข้อ ลักษณะ
● ใฝ่เรียนรู้ ● มีจิตสาธารณะ สาคญั ลาตัวแบง่ เป็นสว่ น หัว อก ท้อง และมขี าเปน็ ขอ้ ๆ ลาตวั
ปกคลุมด้วยเปลอื กหนาและแข็ง
สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้
7.สตั ว์ท่มี ลี าตัวเป็นหนาม ลกั ษณะสาคัญ ผวิ ลาตัว
1. หนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 ขรขุ ระ รูปรา่ งกลมแบน พบในทะเล
ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
บนั ทกึ หลังสอน (Telling)
2. กระดาษ A4 กรรมไกร สี ภาพสตั วไ์ ม่มีกระดกู ...............................................................................
สันหลงั ...............................................................................
...............................................................................
การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing) ...............................................................................
ลงชอ่ื
1. ประเมินจากการทากิจกรรม
2. ประเมนิ ผลงาน สมุดภาพสตั วไ์ มม่ กี ระดกู สันหลัง (นางสาวขวญั จริ า ชานาญกุล)
ครูผู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 29

รหัสวิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 สัตวแ์ ละประเภทของสัตว์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4
เรอ่ื ง สตั ว์มกี ระดูกสนั หลงั : 1
ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 1 ชว่ั โมง
วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ผู้สอน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/3 ว 1.3 ป.4/4 ขน้ั นา
1.นกั เรียนดูวีดทิ ัศน์สัตว์มีกระดกู สันหลัง แลว้ รว่ มกนั สนทนา
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target)
ทบทวนความร้เู ก่ยี วกับสตั ว์มกี ระดกู สนั หลัง โดยรว่ มกันตอบ
1. บอกลกั ษณะสาคัญและยกตวั อย่างสตั ว์มีกระดูกสนั หลังได้ (K) คาถามสาคัญ ดงั นี้ “สตั วม์ ีกระดูกสันหลัง แบ่งเป็นกีป่ ระเภท
2. จาแนกกล่มุ ของสัตว์มกี ระดกู สันหลงั ได้ (K) ได้แก่อะไรบา้ ง”
3. สืบค้นข้อมลู เก่ยี วกับลักษณะสาคญั และตวั อย่างสตั วม์ กี ระดูก ข้ันกจิ กรรม
สนั หลังได(้ P)
4. เปน็ ผมู้ ีความมุง่ ม่นั และต้ังใจ (A) 2.ครูให้นกั เรยี นแบง่ กล่มุ 5 กลมุ่ เพอ่ื จะเปน็ ตวั แทนของ
สิง่ มชี ีวิตน้นั ๆ 5 กลุม่ มดี งั นี้ 1.ปลา
สาระการเรยี นรู้
2. สตั วส์ ะเทินน้าสะเทินบก
สัตว์มกี ระดูกสันหลัง คือ สตั ว์ทมี่ ีโครงกระดกู ในตัว และมี 3. สัตว์เล้อื ยคลาน
กระดกู สันหลัง ทาให้รา่ งกายคงรูปอยไู่ ดจ้ ดั เปน็ สัตวช์ ั้นสงู 4. สตั ว์ปกี
แบง่ เปน็ 5 ประเภท 5. สัตวเ์ ลี้ยงลูกด้วยน้านม
3.นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาและสืบคน้ ข้อมลู สัตวท์ แี่ ต่
สมรรถนะสาคญั ● การคดิ ● การแก้ปัญหา ละกล่มุ ไดไ้ ป เพื่อนามาแลกเปล่ียนกนั
ขนั้ สรุป
● การสือ่ สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี 4. นักเรยี นสรุปผลกิจกรรมเกย่ี วกับลักษณะสาคัญ
● ทักษะชวี ิต และตวั อยา่ งสตั วท์ ี่มกี ระดูกสนั หลงั แต่ละประเภท
5. ทบทวนความรู้ ผา่ น เกมตีตวั ตุน่ สตั วไ์ ม่มกี ระดูกสนั หลัง
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 6. ให้นกั เรยี นทาใบงาน สัตวท์ ี่มกี ระดูกสนั หลัง

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยู่อย่างพอเพยี ง การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing)
1. สังเกตการทากจิ กรรม
● ซอื่ สัตย์สุจรติ ● มุ่งมั่นในการทางาน 2. ประเมนิ การนาเสนอ
3. ตรวจใบงาน
○ มวี ินัย ○ รกั ความเปน็ ไทย
บนั ทกึ หลังสอน (Telling)
● ใฝ่เรียนรู้ ● มจี ิตสาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
ส่อื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1. หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ...............................................................................
ลงช่อื
2. วดี ทิ ัศนส์ ตั วม์ กี ระดูกสนั หลงั
(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ )
3.เกมตตี ัวตุ่นสตั ว์ไม่มีกระดกู สันหลัง ครผู ู้สอน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 30

รหสั วชิ า ว 14101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3 สตั วแ์ ละประเภทของสัตว์ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4
เรอื่ ง สตั วม์ ีกระดกู สันหลงั : 2
ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 2 ชัว่ โมง
วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ผูส้ อน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 1.3 ป.4/3 ขน้ั นา
1.ครทู บทวนความร้เู ร่ือง สตั วม์ กี ระดกู สนั หลัง
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
ขน้ั กจิ กรรม
1. บอกลกั ษณะสาคญั และยกตัวอยา่ งสัตวม์ กี ระดูก 2.นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั วางแผน สารวจ สัตว์มกี ระดกู
สันหลังได้ (K)
สันหลงั ในท้องถ่นิ แล้ววาดภาพ ระบายสี ลงในกระดาษ A4
2. ทาสมดุ ภาพ สัตว์มกี ระดูกสนั หลงั ดว้ ยความมุ่งมนั่ ขน้ั สรปุ
และตั้งใจได้ (P)
3.นักเรียนร่วมกนั สรุปสง่ิ ท่ีเข้าใจเป็นความร้รู ่วมกัน ดงั นี้
3. จดั จาแนกสตั ว์มีกระดกู สนั หลังเป็นประเภทต่าง ๆ ได้ (P) สตั วม์ ีกระดกู สันหลงั คือ สัตวท์ ่ีมีโครงกระดูกในตวั และมีกระดูก
4. เปน็ ผ้มู ีความมุ่งมน่ั และตง้ั ใจ (A) สันหลงั ทาให้รา่ งกายคงรปู อยไู่ ด้ จัดเปน็ สัตว์ชั้นสงู แบ่งเป็น 5
ประเภท ไดแ้ ก่
สาระการเรยี นรู้
1.ปลา ลกั ษณะสาคัญ หายใจด้วยเหงอื ก ใชค้ รบี ใน
สัตวม์ ีกระดกู สนั หลงั คอื สตั วท์ ม่ี ีโครงกระดูกในตัว และมี การเคล่อื นไหวและทรงตัว เปน็ สัตว์เลอื ดเยน็ แบ่งเป็นปลกระดูก
กระดูกสันหลงั ทาใหร้ า่ งกายคงรูปอย่ไู ด้ แข็ง ลาตวั จะมเี กล็ดปกคลุม และปลากระดูกอ่อน ลาตัวมเี กลด็
ปกคลมุ ขนาดเลก็ มาก
จัดเป็นสตั วช์ ั้นสงู แบง่ เป็น 5 ประเภท
2.สตั ว์สะเทินนา้ สะเทินบก ลกั ษณะสาคญั เป็นสัตวท์ ่ี
สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแก้ปัญหา วางไข่ในน้า ตัวออ่ นหายใจดว้ ยเหงือกตัวเต็มวยั หายใจดว้ ยปอด
และผวิ หนัง ผวิ หนงั เปยี กชน้ื ตลอดเวลา
● การสื่อสาร ● การใช้เทคโนโลยี
● ทักษะชวี ิต 3.สตั วเ์ ลื้อยคลาน ลกั ษณะสาคญั ดารงชีวติ อยบู่ นบก
หายใจดว้ ยปอด ลาตวั มีเกลด็ ปกคลุมเปน็ สตั วเ์ ลอื ดเยน็
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
4.สัตว์ปีก ลกั ษณะสาคัญ เป็นสตั ว์เลือดอนุ่ มขี นเปน็
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยู่อย่างพอเพยี ง แผง มีจะงอยปาก หายใจดว้ ยปอด ออกลูกเปน็ ไข่

○ ซ่อื สัตยส์ ุจรติ ● มงุ่ ม่นั ในการทางาน 5.สัตว์เล้ยี งลูกด้วยน้านม ลักษณะสาคญั เป็น
สัตวเ์ ลือดอนุ่ เพศเมียมีตอ่ มสรา้ งน้านมสาหรับเลีย้ งลกู ออ่ น
○ มีวนิ ัย ○ รักความเปน็ ไทย หายใจดว้ ยปอด

● ใฝ่เรียนรู้ ● มีจิตสาธารณะ บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
...............................................................................
สื่อ/อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ...............................................................................
...............................................................................
1. หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ...............................................................................

2. กระดาษ A4 กรรมไกร สี ภาพสตั ว์ไม่มีกระดูกสันหลัง

การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing) ลงช่อื
(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล)
1. ประเมนิ จากการทากจิ กรรม ครูผสู้ อน
2. ประเมนิ ผลงาน สมุดภาพสตั ว์ไม่มีกระดูกสนั หลงั

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 31

รหัสวชิ า ว 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 สมบัติของวัสดุรอบตัวเรา ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4
เรื่อง วสั ดุรอบตัวเรา
วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง
ผสู้ อน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2 ข้ันนา

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1.ครใู หน้ กั เรยี นสังเกตส่ิงของรอบๆตัว แลว้ ตงั้ คาถามว่า สง่ิ ของ

1. ระบุวสั ดรุ อบตวั เราได้ (K) รอบตวั เราทามาจากวสั ดุชนิดใดบ้าง
2. จัดจาแนกประเภทของวสั ดุที่ใชท้ าส่งิ ของ ได้ (P)
3. เปน็ ผู้มคี วามใฝ่รู้ (A) (ดินสอ โต๊ะ เกา้ อี้ ทาจากไม้ ยางลบ ทาจากยาง

ไม้บรรทัด ถังน้า ทาจากพลาสตกิ แก้วนา้ ทาจากแก้ว

ผ้าเช็ดหน้า ถุงเท้า ทาจากผ้า จาน ชาม ทาจากดิน

ชอ้ น ส้อม ทาจากเหลก็ ไม้ถพู ื้น ทาจากเหล็ก และผ้า)

ขัน้ กิจกรรม

สาระการเรยี นรู้ 2.ครูใหน้ กั เรยี นสารวจสิง่ ตา่ งๆรอบตัวอยา่ งนอ้ ยคนละ 10 ชนดิ

วัสดุ หมายถงึ สิง่ ทีน่ ามาทาของเล่น ของใช้ โดยวสั ดุรอบ แลว้ บันทึกผลลงในตารางเพอื่ จัดจาแนกชนดิ ของวัสดทุ ่ใี ชท้ า
ๆ ตัวเรามที ง้ั วสั ดุธรรมชาติ ซ่งึ ไดจ้ ากสิง่ มชี วี ิตและส่ิงไม่มชี ีวิต
และวัสดุสงั เคราะห์ สง่ิ ของเหลา่ น้ัน(ทาลงในสมดุ )

3. นกั เรยี นร่วมกนั วิเคราะห์ จดั จาแนก และจัดกลุม่ ชนดิ ของ

วสั ดทุ ี่ใชท้ าสิ่งของท่ีสารวจเป็นวัสดุธรรมชาติ และวัสดุ

สังเคราะห์ แลว้ บนั ทึกลงสมดุ

สมรรถนะสาคัญ ขั้นสรุป

● การส่ือสาร ● การคิด ○ การแกป้ ัญหา 4. นักเรยี นร่วมกันสรปุ สงิ่ ทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรูร้ ่วมกันเกย่ี วกับวัสดุ
● ทักษะชีวติ
○ การใชเ้ ทคโนโลยี รอบตัวเราวา่ วัสดทุ ีใ่ ชท้ าสิง่ ของมที งั้ วสั ดุธรรมชาติ และวัสดุ

สังเคราะห์

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 5.ใหน้ กั รยี นสารวจสิง่ ของรอบตัวนกั เรียนในโรงเรยี นหรอื ในบา้ น

แลว้ ออกแบบและเขียนแผนภาพความคดิ จดั จาแนกประเภท

○ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง วัสดุรอบตวั เราที่เปน็ วสั ดุธรรมชาติและวัสดุสังเคราะห์

○ ซือ่ สัตย์สจุ ริต ● มุง่ ม่ันในการทางาน

○ มีวนิ ยั ○ รกั ความเปน็ ไทย

● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ

สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ บันทกึ หลงั สอน (Telling)
...............................................................................
1.หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 ...............................................................................
ของ สสวท. ...............................................................................
...............................................................................
2.ดนิ สอ ยางลบ ไม้บรรทัด แกว้ นา้ ผ้าเชด็ หนา้ ลงชื่อ
ถุงเทา้ ไม้ถูพนื้ โตะ๊ เกา้ อี้ ถงั น้า จาน ชาม ช้อน
(นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ )
การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing) ครูผู้สอน

1. สงั เกตจากการทากิจกรรม และความร่วมมือในการทางาน
2. ประเมนิ จากผลงงาน
3. ประเมินทกั ษะการจดั จาแนกประเภท

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 32

รหัสวชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 สมบัติของวสั ดุรอบตวั เรา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรอื่ ง ความแข็งของวสั ดุ
วนั ท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2 ข้นั นา
1. นักเรียนสงั เกตก้อนหินและดินน้ามนั แล้วรว่ มกันทบทวน
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) ความรเู้ ดิมเรือ่ งสมบตั ิวสั ดุ แล้วครตู งั้ คาถาม “ก้อนหินกับดิน
น้ามันอะไรแขง็ กวา่ กนั ความแขง็ ของวสั ดหุ มายความวา่ อยา่ งไร
1. อธบิ ายความแขง็ ของวสั ดุตา่ งชนิดกนั ได้ (K) วสั ดตุ ่างชนิดกนั มคี วามแข็งแตกต่างกันหรือไม่ ”
2. ทดสอบความแขง็ ของวสั ดตุ า่ ง ๆ ได้ (P) ขน้ั กจิ กรรม
3. ปฏิบตั กิ จิ กรรม ความแขง็ ของวัสดุ อยา่ งรวมพลัง ดว้ ย 2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมเร่อื ง ความแข็งของวสั ดุ โดย
ความม่งุ มน่ั และต้งั ใจได้ (P) เปรียบเทยี บความแข็งของวัสดจุ ากรอยขูดของตะปูที่เกิดขนึ้ แลว้
4. เป็นผ้มู คี วามมุง่ มัน่ และต้ังใจ (A) บันทกึ ผลลงในใบงาน
3. ให้นักเรยี นตอบคภาม“วสั ดุชนิดใดบ้างท่พี บรอยขดู บนพน้ื ผิว
สาระการเรยี นรู้ วัสดนุ ั้น(พลาสติก หิน และไม้) วัสดชุ นดิ ใดบ้างที่ไมพ่ บรอยขดู บน
พน้ื ผิววสั ดนุ ั้น(แกว้ และโลหะ) สรุปผลการทดลองไดว้ ่าอยา่ งไร
ความแขง็ ของวสั ดุ คอื ความสามารถทนต่อการขดู ขดี (วัสดุแตล่ ะชนดิ มีความแข็งแตกต่างกัน วสั ดุท่ไี มพ่ บรอยขูดบน
ขว่ น หรือทาให้วสั ดุสึกกรอ่ น พืน้ ผวิ ไดแ้ ก่ แกว้ โลหะ แสดงวา่ วสั ดนุ นั้ มีความแข็งเท่ากบั ตะปู
สว่ นวสั ดทุ ีพ่ บรอยขูดบนพ้นื ผิว ไดแ้ ก่ พลาสตกิ หนิ ไม้
วัสดุแตล่ ะชนดิ มคี วามแข็งแตกต่างกัน วสั ดุท่มี ีความ แสดงวา่ วัสดุน้ันมคี วามแข็งนอ้ ยกว่าตะปู)”
แขง็ นอ้ ยเมอื่ ถกู ขูดขีดจะเป็นรอยง่าย ขนั้ สรปุ
4. นักเรียนรว่ มกนั สรุปผลการทากิจกรรมและสรุปสง่ิ ที่เขา้ ใจเป็น
หรอื ถูกตัดใหข้ าดจากกันงา่ ย วสั ดทุ ี่มีความแข็งมาก ความรรู้ ว่ มกนั เก่ียวกับ ความแข็งของวัสดุวา่ วสั ดแุ ตล่ ะชนิดมี
เม่อื ถูกขูดขดี จะเปน็ รอยน้อย หรอื ไมเ่ ป็นรอย ความแข็งแตกต่างกนั วสั ดทุ ี่ไมพ่ บรอยขดู บนพื้นผวิ ได้แก่ แก้ว
โลหะ แสดงว่าวสั ดนุ ้นั มีความแข็งเทา่ กบั ตะปู สว่ นวัสดทุ พ่ี บรอย
หรือถกู ตดั ให้ขาดจากกันยาก ขูดบนพนื้ ผิว ได้แก่ พลาสติก หิน ไม้ แสดงว่าวสั ดุน้ันมคี วามแขง็
นอ้ ยกวา่ ตะปู
สมรรถนะสาคญั
การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing)
● การส่ือสาร ● การคดิ ● การแกป้ ัญหา
● ทักษะชวี ติ 1. สงั เกตจากการทากิจกรรม และความร่วมมอื ในการทางาน
○ การใช้เทคโนโลยี 2. ประเมนิ จากใบงาน ความแขง็ ของวสั ดุ
3. ประเมินทักษะการจดั จาแนกประเภท
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
บนั ทึกหลังสอน (Telling)
○ รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพยี ง ...............................................................................
...............................................................................
○ ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ ● มุ่งมนั่ ในการทางาน ...............................................................................
ลงช่อื
○ มวี นิ ยั ○ รกั ความเป็นไทย
(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ )
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ

สอื่ /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้
1.หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4
ของ สสวท.
2.กอ้ นหินและดินนา้ มนั
3.ส่ิงของตา่ ง ๆ ทีท่ าจากวัสดุ ได้แก่ พลาสตกิ แก้ว
หนิ ไม้ โลห ตะปู
4.ใบงานเรอ่ื ง ความแขง็ ของวัสดุ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 33

รหัสวิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 สมบตั ขิ องวัสดุรอบตัวเรา ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรือ่ ง ทดสอบสภาพยืดหย่นุ ของวัสดุ
วันท่ี........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2
ขนั้ นา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1. นักเรียนสังเกตลกั ษณะภายนอกของฟองน้า ดนิ นา้ มัน และ
แผ่นเหล็ก แล้วใหต้ ัวแทนนักเรียนคน ออกมาทดลองใช้นวิ้ มือกด
1. อธบิ ายสภาพยืดหยุน่ ของวัสดุต่างชนิดกนั ได้ (K) ลงบนวสั ดุขา้ งต้น แลว้ ยกนิ้วมือทก่ี ดข้ึน
2. ทดสอบสภาพยดื หยุ่นของวสั ดุต่าง ๆ ได้ (P) 2.นกั เรยี นตอบคาถาม“วัสดุตา่ งชนิดกันมีสมบัติดา้ นสภาพ
3. ปฏิบตั ิกจิ กรรม สภาพความยดื หยนุ่ ของวัสดุ อยา่ งรวม ยดื หยนุ่ แตกต่างกนั หรอื ไม่ อย่างไร” (วสั ดุแต่ละชนิดมีสภาพ
พลงั ด้วยความมุง่ มั่นและตัง้ ใจได้ (P) ยืดหยุ่นแตกต่างกัน วัสดทุ ่ีมีสภาพยืดหยนุ่ มีลกั ษณะดงั นี้
4. เปน็ ผมู้ ีความมุ่งมั่นและต้งั ใจ (A) ลักษณะของวัสดเุ ม่ือถูกดึง บีบ หรอื กระแทก แลว้ สามารถคืนสู่
สภาพเดมิ หรือใกลเ้ คียงสภาพเดิมได้)
สาระการเรยี นรู้ ข้ันกจิ กรรม
3.ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ทากจิ กรรมเรอ่ื ง สภาพยืดหยนุ่ ของ
สภาพยืดหยนุ่ ของวัสดุ หมายถึง ลกั ษณะของวสั ดุเมื่อถูก วัสดุ (ตอนท่ี 1 ทดสอบสภาพยืดหยุ่นของวัสดุ) ลงในใบงาน
ดงึ บบี หรือกระแทก และสามารถคืนส่สู ภาพเดิมได้ ขั้นสรุป
4. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ผลการทากจิ กรรมและสรุปสิ่งทีเ่ ข้าใจเปน็
หรือใกล้เคียงสภาพเดิมได้ แต่ถา้ วสั ดุทม่ี ีสภาพยืดหย่นุ ถูก ความรู้รว่ มกันเก่ียวกบั สภาพยดื หยนุ่ ของวัสดวุ า่ วสั ดแุ ตล่ ะชนดิ
แรงกระทาให้เกดิ สภาพยดื หย่นุ มาก ๆ จะทาใหว้ ัสดนุ ัน้ ๆ มีสภาพยืดหยุ่นแตกตา่ งกนั วสั ดุท่ีมสี ภาพยืดหยุ่น ได้แก่ ฟองนา้
สญู เสียสภาพยืดหย่นุ ได้ และยางลบ ส่วนวสั ดทุ ี่ไมม่ สี ภาพยืดหยุ่น ได้แก่ ดินนา้ มนั และ
แผ่นเหล็ก
สมรรถนะสาคัญ ● การคดิ ● การแกป้ ญั หา
การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing)
● การสือ่ สาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี
● ทักษะชวี ิต 1. สงั เกตจากการทากจิ กรรม และความรว่ มมือในการทางาน
2. ประเมินจากใบงาน ใบงานเร่ือง สภาพยืดหยนุ่ ของวสั ดุ
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
บันทกึ หลงั สอน (Telling)
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพียง ...............................................................................
...............................................................................
○ ซอ่ื สัตย์สจุ ริต ● มุ่งมัน่ ในการทางาน ...............................................................................
...............................................................................
○ มวี ินยั ○ รักความเป็นไทย ...............................................................................

● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มีจิตสาธารณะ ลงชอ่ื
(นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล)
สอ่ื /อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ ครูผสู้ อน

1. หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4
ของ สสวท.

2.ฟองน้า ดนิ นา้ มัน แผ่นเหล็ก ยางลบ
3.ใบงานเร่อื ง สภาพยืดหยนุ่ ของวสั ดุ (ตอนที่ 1

ทดสอบสภาพยดื หยุ่นของวสั ดุ)

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 34

รหัสวิชา ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 สมบัตขิ องวสั ดรุ อบตัวเรา ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 4
เรื่อง การเปลยี่ นแปลงสภาพยืดหยุ่นของวัสดุ
วันที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2
ข้ันนา
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1. นกั เรยี นสังเกตก้อนหนิ กบั ยางรัด แลว้ ครูตัง้ คาถามเพื่อกระตุ้น
“นักเรยี นคดิ วา่ ก้อนหินกบั ยางรดั สิง่ ใดมสี ภาพยืดหยุ่นมากกวา่
1. อธบิ ายการเปลย่ี นแปลงสภาพยดื หยนุ่ ของวัสดุได้ (K) กัน (ยางรัด) สภาพยดื หยุ่นของวสั ดหุ มายถึงอะไร (สภาพยืดหยุ่น
2. ทดสอบการเปล่ยี นแปลงสภาพยืดหยนุ่ ของวัสดไุ ด้ (P) ของวัสดุ หมายถึง ลกั ษณะของวสั ดุเมื่อถูกดงึ บบี หรอื กระแทก
3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม สภาพยดื หยนุ่ ของวสั ดุ อยา่ งรวมพลงั และสามารถคนื สสู่ ภาพเดมิ ได้ หรือใกลเ้ คยี งสภาพเดิมได้)
ด้วยความม่งุ ม่ันและตง้ั ใจได้ (P) วัสดแุ ต่ละชนิดมสี ภาพยืดหยุ่นเท่ากันหรอื ไม่ (ไมเ่ ท่ากัน)”
4. เป็นผมู้ ีความม่งุ ม่ันและตงั้ ใจ (A) ข้นั กจิ กรรม
2.นกั เรยี นร่วมกนั ยกตัวอยา่ งวัสดุที่มสี ภาพยืดหยนุ่ ได้ ลงบน
สาระการเรยี นรู้ กระดาน
3.ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ทากิจกรรมเรื่อง สภาพยืดหยนุ่ ของ
สภาพยดื หยนุ่ ของวัสดุ หมายถงึ ลกั ษณะของวสั ดุเม่ือ วสั ด(ุ ตอนที่ 2 การเปลีย่ นแปลงสภาพยืดหย่นุ ของวสั ดุ) แล้ว
ถกู ดึง บีบ หรือกระแทก และสามารถคนื สสู่ ภาพเดิมได้ บนั ทึกลงในใบงาน
ขนั้ สรุป
หรือใกลเ้ คียงสภาพเดมิ ได้ แตถ่ ้าวสั ดทุ ่มี ีสภาพ 3. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ผลการทากิจกรรมและสรุปสิ่งท่เี ข้าใจเป็น
ยดื หย่นุ ถูกแรงกระทาใหเ้ กิดสภาพยืดหยุ่นมาก ๆ จะทา ความรู้ร่วมกนั เกีย่ วกับ การเปลีย่ นแปลงสภาพยดื หยุน่ ของวสั ดุ
ให้ วสั ดนุ ้นั ๆ สญู เสียสภาพยดื หยุ่นได้ ว่า วัสดทุ ี่มีสภาพยืดหยุน่ สามารถหมดสภาพยดื หยุน่ ได้
หากมีแรงมากระทาเปน็ ระยะเวลานาน ๆ
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแก้ปัญหา
○ การใชเ้ ทคโนโลยี การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing)
● การสื่อสาร
● ทักษะชีวิต 1. สงั เกตจากการทากิจกรรม และความร่วมมอื ในการทางาน
2. สังเกตการตอบคาถาม
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3. ประเมนิ จากใบงาน ใบงานเรอ่ื ง สภาพยืดหยุ่นของวัสดุ

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ○ อยู่อยา่ งพอเพยี ง บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
...............................................................................
○ ซือ่ สตั ยส์ ุจริต ● มุ่งมัน่ ในการทางาน ...............................................................................
...............................................................................
○ มีวนิ ัย ○ รักความเป็นไทย ลงชือ่

● ใฝ่เรียนรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ (นางสาวขวญั จริ า ชานาญกุล)
ครูผสู้ อน
ส่ือ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

1. หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4
ของ สสวท.

2.อปุ กรณ์การทากจิ กรรม
3.ใบงานเร่อื ง สภาพยืดหยุ่นของวสั ดุ (ตอนท่ี 2

การเปล่ยี นแปลงสภาพยืดหยนุ่ ของวสั ดุ)

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 35

รหัสวชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 สมบัตขิ องวัสดรุ อบตัวเรา ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4
เร่ือง การนาความร้อนของวัสดุ
วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2 ข้นั นา
1. นักเรยี นรว่ มกันสนทนาทบทวนประสบการณ์เกี่ยวกับการนา
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) ความรอ้ นของวัสดุ โดยร่วมกันตอบคาถาม ดงั นี้
การนาความรอ้ นของวัสดุหมายความวา่ อย่างไร (การนาความ
1. อธบิ ายความหมายของการนาความร้อนของวัสดไุ ด้ (K) ร้อนของวัสดุ หมายถงึ ความสามารถของวสั ดใุ นการสง่ ผา่ น
2. สืบสอบขอ้ มลู เกีย่ วกับความหมายของการนาความร้อน ความรอ้ นจากทห่ี นึ่งไปยงั อกี ทีห่ นึง่ ได้)
ของวสั ดุ อยา่ งรวมพลงั ดว้ ยความมุ่งม่ันได้ (P) ขัน้ กจิ กรรม
3. เปน็ ผู้มีความมงุ่ ม่ัน (A) 2.ครใู หค้ วามรกู้ ับนกั เรียนเกยี่ วกับการนาความร้อนของวัสดุ
ขน้ั สรุป
สาระการเรียนรู้ 3. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันสรปุ ส่ิงทเี่ ขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกัน
เกีย่ วกับความหมายของการนาความร้อนของวสั ดุ
การนาความร้อนของวสั ดุ หมายถึง ความสามารถของ 4. บนั ทึกข้อความรูล้ งในสมดุ
วสั ดุในการส่งผา่ นความรอ้ นจากทีห่ นงึ่
การวดั และประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing)
ไปยงั อกี ที่หนึง่ ได้
1. สงั เกตจากการทากิจกรรม
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ○ การแกป้ ัญหา 2. สังเกตการตอบคาถาม
3. ประเมินงานจากสมุด การบันทกึ ความหมายของการนาความร้อนของ
● การสอื่ สาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี
● ทกั ษะชีวิต วัสดุ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ บนั ทึกหลงั สอน (Telling)
...............................................................................
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง ...............................................................................
...............................................................................
○ ซือ่ สัตยส์ จุ รติ ● มุ่งม่นั ในการทางาน ...............................................................................
ลงช่อื
○ มีวนิ ัย ○ รกั ความเป็นไทย
(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล)
● ใฝ่เรียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ ครผู ู้สอน

สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้

1. หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
ของ สสวท.

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 36

รหัสวชิ า ว 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 สมบตั ขิ องวสั ดรุ อบตัวเรา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรือ่ ง ชนดิ ของวัสดทุ ี่นาความรอ้ น
วนั ท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 2 ชัว่ โมง
ผ้สู อน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2 ขน้ั นา
1.ครใู ห้ตวั แทนนักเรยี นทดลองใช้มอื แตะแก้วพลาสตกิ ท่ใี สน่ า้ รอ้ นกับ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) แก้วโลหะท่ใี ส่นา้ รอ้ นจากนนั้ นกั เรียนรว่ มกนั สงั เกตและสนทนา
เก่ียวกบั ผลการทดลองดังกลา่ ว
1. อธิบายการนาความร้อนของวสั ดุตา่ ง ๆ ได้ (K) 2.นักเรียนตอบคาถาม“พลาสติกกับโลหะ สิ่งใดเป็นวสั ดทุ ี่นาความ
2. ทดสอบการนาความรอ้ นของวัสดตุ ่างชนดิ กันได้ (P) ร้อน (โลหะ) การนาความรอ้ นของวสั ดุ หมายถงึ อะไร (การนาความ
3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ชนิดของวสั ดทุ นี่ าความร้อนได้ ร้อนของวสั ดุ หมายถึง ความสามารถของวัสดใุ นการสง่ ผ่านความ
ร้อนจากที่หนึ่งไปยังอีกท่ีหนึ่งได้ การนาความร้อนจะเกดิ ข้นึ ไดด้ ใี น
และตรงตอ่ เวลาได้ (P) ของแขง็ ) เราจะเห็นวา่ มีวสั ดหุ ลายอย่างทน่ี ามาทาของใช้เก่ยี วขอ้ ง
4. เปน็ ผู้มคี วามรอบคอบและตรงตอ่ เวลา (A) กบั ความรอ้ น วสั ดุบางอย่างรอ้ นง่ายบางอย่างรอ้ นยาก วัสดแุ ต่ละ
ชนิดส่งผา่ นความร้อนได้เทา่ กนั หรือไม่ (ไม่เทา่ กัน ข้นึ อยู่กับชนิดของ
สาระการเรยี นรู้ วัสดุ วัสดบุ างชนิดนาความร้อนได้เร็ว
วัสดบุ างชนิดนาความรอ้ นได้ช้า วสั ดุบางชนดิ ไมน่ าความรอ้ น)
การนาความร้อนของวัสดุ หมายถงึ ความสามารถของ วัสดชุ นดิ ใดสามารถนาความรอ้ นได้ (ตัวอย่างคาตอบ วสั ดุท่เี ปน็
วสั ดใุ นการส่งผ่านความร้อนจากท่ีหนึ่ง โลหะ)”
ขั้นกจิ กรรม
ไปยังอีกท่ีหนึ่งได้ วสั ดุทน่ี าความร้อนจะร้อนได้เรว็ เมือ่ 3.ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ทากจิ กรรมเร่อื ง ชนดิ ของวสั ดุท่นี าความ
ไดร้ บั ความร้อน วสั ดุแตล่ ะชนดิ เมือ่ ได้รบั ร้อนไดล้ งในใบงาน
ขัน้ สรุป
ความรอ้ นจะยอมให้ความร้อนผา่ นได้ไม่เทา่ กนั วัสดทุ ี่ 4. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปผลการทากิจกรรมและสรปุ สงิ่ ทีเ่ ข้าใจเป็น
ยอมให้ความรอ้ นผ่านไดด้ ี เรียกว่า ตวั นาความร้อน ความรูร้ ่วมกันเกี่ยวกบั ชนิดของวัสดุท่นี าความรอ้ นว่า วัสดแุ ตล่ ะ
ชนิดสามารถนาความร้อนได้แตกต่างกนั วัสดุที่นาความรอ้ นได้คือ
สว่ นวสั ดุทไ่ี ม่ยอมใหค้ วามร้อนผา่ นได้ เรียกว่า ฉนวน โลหะ สว่ นวัสดุท่ีไม่สามารถนาความร้อนได้ คือ ไม้ พลาสตกิ แกว้
ความรอ้ น
ส่อื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแก้ปัญหา 1. หนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4
ของ สสวท.
● การส่ือสาร ○ การใชเ้ ทคโนโลยี 2.อปุ กรณท์ ากิจกรรม
● ทักษะชีวิต 3.ใบงานเรื่อง ชนดิ ของวสั ดทุ ่นี าความร้อนได้

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ บันทึกหลังสอน (Telling)
...............................................................................
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อย่อู ยา่ งพอเพยี ง ...............................................................................
...............................................................................
○ ซื่อสตั ยส์ จุ รติ ● มงุ่ มั่นในการทางาน ลงช่ือ

○ มีวนิ ัย ○ รักความเป็นไทย (นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ )
ครผู ู้สอน
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจิตสาธารณะ

การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing)

1. สงั เกตจากการทากิจกรรม
2. สังเกตการตอบคาถาม
3. ประเมนิ งาน จากใบงานเร่ือง ชนดิ ของวัสดุท่ีนาความรอ้ นได้

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 37

รหสั วิชา ว 14101 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 สมบตั ขิ องวสั ดุรอบตวั เรา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
เรื่อง การนาไฟฟ้าของวสั ดุ
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชว่ั โมง
ผสู้ อน นางสาวขวญั จริ า ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2 ขัน้ นา
1. นักเรียนรว่ มกันสนทนาทบทวนประสบการณ์
จุดประสงค์การเรยี นรู้ (Target)
เก่ียวกบั การนาไฟฟา้ ของวัสดุ โดยรว่ มกนั ตอบคาถาม
1. อธิบายความหมายของการนาไฟฟ้าของวสั ดไุ ด้ (K) ดงั น้ี การนาไฟฟ้าของวสั ดุหมายความวา่ อยา่ งไร (การนา
2. สืบสอบข้อมูลเก่ียวกบั ความหมายของการนาไฟฟา้ ของ ไฟฟา้ ของวัสดุ หมายถงึ ความสามารถของวสั ดทุ ่ยี อมให้
วสั ดุ อย่างรวมพลงั ดว้ ยความมุ่งม่ันได้ (P) พลงั งานไฟฟา้ เคลื่อนทผ่ี า่ นวสั ดุนี้ได้)
3. เปน็ ผู้มคี วามมงุ่ ม่นั (A)
ขั้นกิจกรรม
สาระการเรยี นรู้ 2.ครูให้ความรกู้ บั นกั เรยี นเกย่ี วกบั การนาไฟฟา้ ของ

การนาไฟฟา้ ของวัสดุ หมายถงึ ความสามารถของวสั ดทุ ่ี วสั ดุ
ยอมใหพ้ ลงั งานไฟฟ้าเคลือ่ นทผ่ี า่ นวสั ดุน้ีได้
ขนั้ สรปุ
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ○ การแก้ปญั หา 3. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ รว่ มกันสรปุ ส่ิงท่ีเขา้ ใจเป็น

● การส่ือสาร ● การใชเ้ ทคโนโลยี ความรรู้ ว่ มกันเก่ยี วกับความหมายของการนาไฟฟ้าของ
● ทักษะชวี ติ วัสดุ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4. นักเรยี นบนั ทึกขอ้ ความรูใ้ นสมุด

○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ○ อยู่อย่างพอเพียง บันทึกหลังสอน (Telling)
...............................................................................
○ ซอื่ สัตยส์ จุ ริต ● มุ่งม่นั ในการทางาน ...............................................................................
...............................................................................
○ มวี นิ ัย ○ รักความเปน็ ไทย ...............................................................................
...............................................................................
● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มจี ิตสาธารณะ
ลงชื่อ
ส่ือ/อปุ กรณ์/แหล่งเรยี นรู้ (นางสาวขวัญจริ า ชานาญกลุ )
ครผู สู้ อน
1. หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4
ของ สสวท.

การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing)

1. สงั เกตจากการทากจิ กรรม
2. สังเกตการตอบคาถาม
3. ประเมินงาน จากบนั ทึก ในสมุด

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 38

รหัสวชิ า ว 14101 กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 สมบตั ิของวัสดรุ อบตัวเรา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
เรื่อง ชนิดของวัสดุทน่ี าไฟฟา้
วันท่ี........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 1 ชัว่ โมง
ผสู้ อน นางสาวขวญั จิรา ชานาญกลุ

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2
ข้นั นา
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (Target) 1. นกั เรยี นสงั เกตลวดเสยี บกระดาษ ยางรดั เศษผา้ แลว้ รว่ มกัน
สนทนาเก่ยี วกบั สมบตั ขิ องวสั ดุในด้านการนาไฟฟา้ ของวสั ดุ
1. อธบิ ายการนาไฟฟ้าของวัสดตุ า่ ง ๆ ได้ (K) ตวั นาไฟฟา้ และฉนวนไฟฟา้
2. ทดสอบการนาไฟฟ้าของวสั ดตุ ่างชนิดกันได้ (P) 2.ครตู ัง้ คาถาม “นกั เรยี นคิดว่าลวดเสยี บกระดาษ ยางรัด และ
3. ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ชนิดของวสั ดทุ น่ี าไฟฟ้าได้ ด้วยความ เศษผา้ สิ่งใดสามารถนาไฟฟ้าได้ (ลวดเสยี บกระดาษ) การนา
รอบคอบและตรงตอ่ เวลาได้ (P) ไฟฟ้าหมายความวา่ อยา่ งไร (การนาไฟฟ้าของวัสดุ หมายถึง
4. เป็นผมู้ ีความรอบคอบและตรงตอ่ เวลา (A) ความสามารถของวัสดทุ ่ียอมใหพ้ ลงั งานไฟฟ้าเคล่อื นท่ี
ผา่ นวสั ดนุ ไ้ี ด)้ วสั ดแุ ตล่ ะชนิดนาไฟฟ้าเหมอื นกนั หรอื ไม่ อย่างไร
สาระการเรยี นรู้ (ไม่เหมือนกนั โดยวัสดุบางชนิดนาไฟฟ้า แตบ่ างชนดิ ไมน่ าไฟฟา้
) นอกจากวัสดุมสี มบตั ใิ นการนาความร้อนแล้ว นกั เรยี นทราบ
การนาไฟฟ้าของวสั ดุ หมายถึง ความสามารถของวสั ดุ หรือไม่วา่ วัสดชุ นิดใดสามารถนาไฟฟ้าไดบ้ ้าง (วสั ดทุ นี่ าไฟฟา้ ได้
ท่ียอมใหพ้ ลงั งานไฟฟ้าเคล่ือนที่ผ่านวัสดุน้ีได้ เชน่ เงิน ทองแดง เหลก็ อะลมู ิเนียม)”
ขน้ั กจิ กรรม
วัสดุแตล่ ะชนดิ สามารถยอมใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นได้ 3. นักเรยี นแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ทากิจกรรมเรือ่ ง ชนิดของวสั ดทุ ีน่ า
แตกตา่ งกนั วสั ดทุ ยี่ อมให้กระแสไฟฟ้าผา่ น ไฟฟ้าได้ลงในใบงาน
ขั้นสรุป
ไดด้ ี เรียกวา่ ตวั นาไฟฟา้ วสั ดุทไ่ี ม่ยอมใหก้ ระแสไฟฟา้ 4. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ผลการทากิจกรรมเกย่ี วกับชนิดของวัสดุที่
ไหลผา่ นได้ เรยี กวา่ ฉนวนไฟฟ้า นาไฟฟา้ วา่ วสั ดุบางชนิดสามารถนาไฟฟ้าได้ บางชนิดไม่สามารถ
นาไฟฟา้ ได้
สมรรถนะสาคญั ● การคิด ● การแก้ปญั หา
การวัดและประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing)
● การสอ่ื สาร ○ การใช้เทคโนโลยี
● ทกั ษะชีวติ 1. สังเกตจากการทากจิ กรรม การทดสอบวัสดผุ า่ น simulation
2. สงั เกตการตอบคาถาม
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 3. ประเมนิ ผลงาน ใบงาน ชนิดของวสั ดทุ ่นี าไฟฟา้ ได้

○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยู่อย่างพอเพียง บันทึกหลงั สอน (Telling)
...............................................................................
○ ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ ● มุ่งมั่นในการทางาน ...............................................................................
ลงชอ่ื
○ มีวินยั ○ รักความเป็นไทย
(นางสาวขวญั จิรา ชานาญกุล)
● ใฝเ่ รยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ ครูผู้สอน

ส่อื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้
1.หนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
ของ สสวท.
2.อุปกรณ์วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่าย
3.ใบงานเร่อื ง ชนิดของวัสดุทนี่ าไฟฟา้ ได้
4. เวบ็ ไซต์การทดลองเสมือน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 39

รหสั วิชา ว 14101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 สมบตั ขิ องวสั ดรุ อบตวั เรา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
เรื่อง ประโยชนข์ องวสั ดุ : 1
วนั ที่........เดอื น......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 1 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)
ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2
ข้นั นา
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) 1.นักเรยี นสงั เกตสง่ิ ของเคร่อื งใช้ท่บี ้าน โรงเรยี น หรอื สถานทตี่ ่าง
ๆ แลว้ ตอบคาถามครู “นกั เรยี นร้จู กั ของใชใ้ ดบ้าง ของใช้รอบตวั
1. บอกสมบตั ิทางกายภาพทีน่ ามาใชท้ าสง่ิ ของต่าง ๆได้ (K) ทาจากวัสดุชนิดใดบ้าง และเพราะเหตุใด
2. สารวจการใชป้ ระโยชน์จากสมบัติของวัสดไุ ด้ (P) จึงต้องทาจากวสั ดุชนดิ นั้น(ตัวอย่างคาตอบ เก้าอี้ ทาจากไม้
3. ปฏิบัติกจิ กรรม ประโยชน์ของวสั ดุ อยา่ งรวมพลงั ดว้ ย เพราะมีความแข็ง)”
ความมุ่งม่นั และตงั้ ใจได้ (P) ขัน้ กิจกรรม
4. เป็นผมู้ คี วามมุ่งมัน่ และตัง้ ใจ (A) 2.ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ทากจิ กรรมเร่อื ง ประโยชน์ของ
วสั ดลุ งในใบงาน
สาระการเรียนรู้ ขัน้ สรปุ
3.นักเรยี นร่วมกันสรุปผลการทากิจกรรมเก่ียวกบั ประโยชน์ของ
สมบัตขิ องวัสดุมหี ลายอย่าง ซ่งึ วัสดชุ นดิ ตา่ ง ๆ จะมีสมบตั ิ วสั ดุว่า สง่ิ ของเครอื่ งใช้ทาจากวัสดุชนิดต่าง ๆ กนั และส่ิงของ
เฉพาะตัวทัง้ ความแข็ง สภาพยืดหยุน่ เหลา่ นนั้ ตอ้ งทาจากวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน

การนาความรอ้ น การนาไฟฟา้ และฉนวนไฟฟ้า ดังนั้น สื่อ/อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้
จึงมีการนาสมบัตติ า่ ง ๆ ของวสั ดมุ าใชใ้ น
1. หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4
กระบวนการออกแบบชิ้นงานเพ่อื ใช้ประโยชนต์ าม ของ สสวท.
ความเหมาะสมกบั การใชง้ าน
2.ของใช้ต่าง ๆ ทอ่ี ยรู่ อบตวั
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแก้ปัญหา 3.สิง่ ของเครอื่ งใช้ทีบ่ ้าน โรงเรียน หรือสถานท่ีต่าง ๆ
4.ใบงานเรอื่ ง ประโยชนข์ องวสั ดุ
● การสอ่ื สาร ○ การใช้เทคโนโลยี
● ทักษะชีวิต บันทกึ หลังสอน (Telling)
...............................................................................
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ...............................................................................
...............................................................................
○ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ○ อยู่อยา่ งพอเพียง ...............................................................................
ลงชือ่
○ ซ่ือสัตย์สุจรติ ● มุง่ ม่ันในการทางาน
(นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล)
○ มีวินัย ○ รักความเป็นไทย ครผู ู้สอน

● ใฝเ่ รียนรู้ ○ มีจติ สาธารณะ

การวัดและประเมนิ (คะแนนเตม็ 10) ) (Testing)

1. สังเกตจากการทากจิ กรรม
2. สงั เกตการตอบคาถาม
3. ประเมนิ งาน จากใบงานเรื่อง ประโยชนข์ องวสั ดุ

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 40

รหัสวชิ า ว 14101 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 สมบตั ขิ องวสั ดุรอบตวั เรา ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4
เรอ่ื ง ประโยชนข์ องวสั ดุ : 2
วนั ที่........เดือน......................พ.ศ. ........... ภาคเรียนที่ 1 เวลา 2 ชั่วโมง
ผ้สู อน นางสาวขวัญจริ า ชานาญกุล

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ัด การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (Teaching)

ว 2.1 ป.4/1 ว 2.1 ป.4/2 ขนั้ นา
1.ครทู บทวนความร้เู กยี่ วกับเร่ืองที่เรยี นไปท้งั หมดในหน่วย
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ (Target) สมบตั ขิ องวสั ดรุ อบตวั เรา
ขน้ั กจิ กรรม
1. บอกสมบัติทางกายภาพทีน่ ามาใชท้ าส่งิ ของตา่ ง ๆ ได้ (K) 2.ครูให้นักเรียนแบง่ กลมุ่ 4 กลุม่
2. สารวจการใช้ประโยชนจ์ ากสมบัตขิ องวัสดุได้ (P) 3.นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั สบื ค้นข้อมูลจากแหลง่ ต่างๆ โดย
3. สบื ค้นขอ้ มูลเกีย่ วกับประโยชน์ของสมบตั ิของวสั ดุได้ (P) แบง่ หวั ข้อดังนี้ •กลุ่มที่ 1 ประโยชน์จากความแขง็ ของวัสดุ
4. เปน็ ผมู้ ีความมุง่ ม่นั และตง้ั ใจ (A)
•กลมุ่ ที่ 2 ประโยชนจ์ ากสภาพยืดหย่นุ ของวัสดุ
สาระการเรียนรู้ •กลุ่มท่ี 3 ประโยชน์จากการนาความร้อนของวสั ดุ
•กลุ่มที่ 4 ประโยชนจ์ ากการนาไฟฟา้ ของวัสดุ
สมบตั ขิ องวสั ดุมหี ลายอยา่ ง ซงึ่ วัสดุชนดิ ตา่ ง ๆ จะมี 4.นกั เรียนแต่ละกลุ่มวางแผน หาภาพหรอื ถ่ายภาพสิ่งของ
สมบัติเฉพาะตวั ท้งั ความแขง็ สภาพยดื หย่นุ เครอื่ งใชภ้ ายในบา้ นหรือโรงเรียนจากน้ันจาแนกประเภทตาม
ประโยชน์จากสมบัตขิ องวสั ดุ จัดทาเป็นสมุดภาพ จดั ทาเป็น
การนาความร้อน การนาไฟฟ้าและฉนวนไฟฟา้ ดังน้ัน แผนผังความคิด
จึงมีการนาสมบตั ิต่าง ๆ ของวสั ดุมาใชใ้ น ขั้นสรุป
5. นกั เรียนรว่ มกันสรุปสง่ิ ทีเ่ ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ่วมกัน ดงั นี้
กระบวนการออกแบบชน้ิ งานเพื่อใช้ประโยชนต์ าม สมบตั ขิ องวสั ดมุ หี ลายอยา่ ง ซ่งึ วสั ดชุ นิดตา่ ง ๆ จะมีสมบตั ิ
ความเหมาะสมกับการใช้งาน เฉพาะตัวทง้ั ความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน การนา
ไฟฟา้ และฉนวนไฟฟา้ ดังนัน้ จึงมีการนาสมบตั ติ า่ ง ๆ ของวสั ดุ
สมรรถนะสาคัญ ● การคิด ● การแก้ปญั หา มาใช้ในกระบวนการออกแบบช้นิ งานเพ่อื ใช้ประโยชนต์ ามความ
เหมาะสมกับการใช้งาน
● การสอ่ื สาร ● การใช้เทคโนโลยี 6.ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอในหวั ข้อทต่ี นเองไดร้ ับ
● ทักษะชวี ิต
การวดั และประเมนิ (คะแนนเต็ม 10) ) (Testing)
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. สงั เกตจากการทากจิ กรรม
○ รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ● อยอู่ ย่างพอเพียง 2. สังเกตการตอบคาถาม
3. ประเมนิ การทากจิ กรรมกลุ่มและการนาเสนอ
○ ซ่อื สัตยส์ ุจรติ ● มุง่ มัน่ ในการทางาน 4. ประเมนิ งาน จากสมุดภาพ แผนผังความคิด

○ มวี ินยั ○ รกั ความเป็นไทย บนั ทกึ หลงั สอน (Telling)
...............................................................................
● ใฝ่เรยี นรู้ ○ มจี ติ สาธารณะ ...............................................................................
...............................................................................
ส่อื /อปุ กรณ์/แหลง่ เรยี นรู้ ...............................................................................
ลงชอ่ื
1. หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4
ของ สสวท. (นางสาวขวัญจิรา ชานาญกุล)
ครผู ้สู อน
2.ส่ิงของเคร่อื งใชท้ บ่ี า้ น โรงเรียน หรือสถานท่ตี า่ ง


Click to View FlipBook Version