cooperative
สหกรณ์
หลักการสหกรณ์
1.1 ความหมายและสำคัญ
สหกรณ์ คือ องค์กรของบรรดาบุคคล ซึ่งรวมกลุ่มกันโดยสมัครใจในการ
ดำเนินวิสาหกิจที่พวกเขาเป็นเจ้าของร่วมกัน เพื่อสนองความต้องการอันจำเป็น
และความหวังร่วมกันทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
1.2 อุดมการณ์สหกรณ์
อุดมการณ์สหกรณ์ คือ ความเชื่อร่วมกันที่ว่าการช่วยตนเองและการช่วยเหลือ
ซึ่งกันและกันตามหลักการสหกรณ์จะนำไปสู่การกินดี อยู่ดี และสันติสุขในสังคม
อุดมการณ์สูงสุดของการสหกรณ์ที่จะนำพาสันติสุขมาสู่โลก ประกอบด้วยการ
ช่วยเหลือตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
1.3 หลักการของระบบสหกรณ์
หลักการสหกรณ์ คือ แนวทางที่สหกรณ์ยึดถือปฏิบัติเพื่อให้คุณค่าของสหกรณ์
เกิดผลเป็นรูปธรรม ซึ่งประกอบด้วยหลักการที่สำคัญ 7 ประการ
1. การเป็นสมาชิกโดยสมัครใจและเปิดกว้าง
สหกรณ์เป็นองค์การโดยสมัครใจ เปิดรับบุคคลทุกคนซึ่งสามารถใช้บริการของ
สหกณ์และเต็มใจรับผิดชอบในฐานะสมาชิกโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติในเรื่องเพศ
ฐานะทางสังคม เชื้อชาติ การเมือง หรือศาสนา การเข้าและออกจากการเป็น
สมาชิกจะต้องเป็นไปโดยความสมัครของบุคคล
2. การควบคุมโดยสมาชิกตามหลักประชาธิปไตย
สหกรณ์เป็นองค์กรประชาธิปไตย ควบคุมโดยสมาชิกซึ่งมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน
ในการกำหนดนโยบายและการตัดสินใจของสหกรณ์ ชายและหญิงที่ปฏิบัติงานใน
ฐานะผู้แทนซึ่งได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกต้องรับผิดชอบต่อบรรดาสมาชิก
ในสหกรณ์ขั้นปฐมสมาชิกมีสิทธิออกเสียงเท่ากัน ดังนั้นสมาชิกพึงตระหนักว่าเป็น
หน้าที่ของสมาชิกทุกคนที่จะต้องร่วมแรงกายใจ และสติปัญญาในการดำเนินการ
และควบคุมดูแล การดำเนินงานของสหกรณ์ตามวิถีทางประชาธิปไตยเพื่อให้บรรลุ
วัตถุประสงค์อย่างมีประิทธิภาพ
3. การมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสมาชิก
สมาชิกพึงมีส่วนให้ทุนแก่สหกรณ์อย่างเป็นธรรมและควบคุมการใช้ทุนของ
สหกรณ์ตามแนวทางประชาธิปไตย จากการลงทุนในสหกรณ์นั้นในอัตราอันจำกัด
ตามเงื่อนไขแห่งการเป็นสมาชิก มวลสมาชิกจะจัดสรรเงินส่วนเกินเพื่อความมุ่ง
หมายใดๆ หลักการข้อนี้มุ่งเน้นให้สมาชิกทุกคนพึงตระหนักว่าบทบาทที่สำคัญของ
ตนคือการที่ต้องเป็นทั้งเจ้าของและลูกค้าในคนเดียวกัน จึงต้องทำหน้าที่เป็นทั้งผู้
สมทบทุน ผู้ควบคุม และผู้อุดหนุนหรือผู้ใช้บริการของสหกรณ์ ไม่ใช่เข้ามาเป็น
สมาชิกเพียงเพื่อมุ่งหวังได้รับประโยชน์จากสหกรณ์เท่านั้น
4.การปกครองตนเองและความเป็นอิสระ
สหกรณ์เป็นองค์กรช่วยตนเองและปกครองตนเองซึ่งควบคุมโดยสมาชิก ถ้า
สหกรณ์จะทำข้อตกลงกับองค์กรอื่นๆ รวมทั้งรัฐบาล หรือจะแสวงหาทุนจากแหล่ง
ภายนอก สหกณ์พึงทำข้อตกลงเช่นนั้นภายใต้เงื่อนไขอันมั่นใจได้ว่ามวลสมาชิกยัง
คงควบคุมสหกรณ์ตามแนวทางประชาธิปไตยและจะต้องรักษาไว้ซึ่งสภาพการ
ปกครองตนเองของสหกรณ์ไว้ ต้องสำนึกและตระหนักอยู่เสมอว่าเป็นองค์การช่วย
ตนเองและปกครองตนเอง เพราะฉะนั้นสหกรณ์ต้องเป็นอิสระในการตัดสินใจหรือ
ทำสัญญาตามเงื่อนไขาที่สหกรณ์ยอมรับได้กับบุคคลภายนอกหรือรัฐบาล
5. การศึกษา ฝึกอบรม และสารสนเทศ
พึงให้การศึกาาและฝึกอบรมแก่สมาชิก ผู้แทนจากการเลือกตั้ง ผู้จัดการ และ
พนักงาน เพื่อให้บุคคลเหล่านั้นสามารถมีส่วนช่วยพัฒนาสหกรณ์ของพวกเขา
อย่างมีประสิทธิภาพ สหกรณ์พึงให้ข่าวสารความรู้ในเรื่องลักษณะและประโยชน์
ของสหกรณ์แก่ประชาชนทั่วไป หลักการข้อนี้เป็นจุดอ่อนของสหกรณ์ใน
ประเทศไทยทุกระดับในสหกรณ์ขั้นปฐมและสหกรณ์ขั้นสูง เพราะขาดแผนแม่บทใน
การพัฒนาการศึกษาทางสหกรณ์ให้เป็นบทบาทและความรับผิดชอบของ
ขบวนการสหกรณ์อย่างแท้จริง
6. การร่วมมือระหว่างสหกรณ์
สหกรณ์พึงรับใช้สมาชิกอย่างมีประสิทธิผลสูงสุดและทำให้ขบวนการสหกรณ์
เข้มแข็ง โดยการทำงานด้วยกันภายใต้โครงสร้างอันประกอบด้วยสหกรณ์ระดับ
ท้องถิ่น ระดับชาติ ระดับภูมิภาค ระดับโลก และระดับระหว่างประเทศ หลักการข้อนี้
เป็นหลักการเดียวกันกับการร่วมมือระหว่างบุคคลธรรมดาในการจัดตั้งสหกรณ์
นั่นเอง จะก่อให้เกิดการประหยัดด้วยขนาด มีอำนาจการต่อรองสูงขึ้น นำไปสู่การ
รับใช้สมาชิกอย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น
7. การเอื้ออาทรต่อชุมชน
สหกรณ์พึงดำเนินการเพื่อการพัฒนา ที่ยั่งยืนของชุมชนที่สหกรณ์ตั้งอยู่ตาม
นโยบายที่มวลสมาชิกได้เห็นชอบ สหกรณ์เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและสังคมและ
เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่สหกรณ์ตั้งอยู่ เพราะฉะนั้นการดำเนินงานของสหกรณ์
ต้องเป็นไปเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนนั้นๆ กล่าวคือ เป็นการพัฒนาที่ไม่
ทำลยธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมระบบนิเวศ หรือ การพัฒนาที่สนองความต้องการและ
ความใฝ่ฝันของคนรุ่นปัจจุบัน
1.4 วิธีการสหกรณ์
วิธีการสหกรณ์ คือ การนำหลัการสหกรณ์มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินกิจกรรม
ทางเศรษฐกิจและสังคม เพื่อประโยชน์ของมวลสมาชิกและชุมชน โดยไม่ละเลยหลัก
การธุรกิจที่ดี
สหกรณ์ในประเทศไทย
2.1 วิวัฒนาการของสหกรณ์ในประเทศไทย
ประเทศไทยได้เริ่มมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์
ระบบเศรษฐกิจของชนบทก็ค่อยๆเปลี่ยนจากระบบเศรษฐกิจแบบเพื่อเลี้ยงตัวเองมาสู่
ระบบเศรษฐกิจแบบเพื่อการค้า ความต้องการเงินทุน ชาวนาไม่มีทุนรอนของตนเอง
ก็หันไปกู้ยืมเงินจากบุคคลอื่น ชาวนาจึงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ตลอดเวลา ทำนา
ได้ข้าวเท่าใด ก็ต้องขายใช้หนี้เกือบหมด
จากสภาพปัญหาความยากจนของชาวนาในสมัยนั้น ทำให้ทางราชการคิดหาวิธี
ช่วยเหลือ ด้วยการจัดหาเงินทุนมาให้กู้และคิดดอกเบี้ยในอัตราต่ำ 2 วิธี
วิธีที่ 1 จัดตั้งธนาคารเกษตรเพื่อให้เงินกู้แก่ชาวนา แต่ขัดข้องในเรื่องเงินทุนและ
หลักประกันเงินกู้ ความคิดนี้จึงระงับ
วิธีที่ 2 วิธีการสหกรณ์ประเภทหาทุน เกิดจากรัฐบาลโดยกระทรวงพระคลังมหา
สมบัติ โดยมีที่ดินและหลักทรัพย์อื่นเป็นหลักประกันเพื่อป้องกันมิให้ชาวนาที่กู้ยืมเงิน
ทอดทิ้งที่นาหลบหนี้สิน จนกระทั่งปี 2458 ได้เปลี่ยนกรมสถิติพยากรณ์เป็นกรม
พาณิชย์และสถิติพยากรณ์ ประกอบด้วยส่วนราชการ 3 ส่วน การพาณิชย์ การ
สถิติพยากรณ์ และการสหกรณ์ แสดงให้เห็นว่าการนำวิธีการสหกรณ์เข้ามาช่วย
แก้ไขความเดือดร้อนของชาวนาได้ผล รัฐบาลจึงได้คิดขยายกิจการสหกรณ์ไปยัง
จังหวัดอื่นๆ แต่การจัดตั้งสหกรณ์ในระยะแรกนั้น
การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ คือ การควบสหกรณ์ หาทุนเข้าด้วยกัน เปิดโอกาส
ให้สหกรณ์หาทุนขนาดเล็กที่ดำเนินธุรกิจเพียงอย่างเดียว ด้วยเหตุนี้สหกรณ์แห่ง
ประเทศไทยได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อเป็นสถาบันสำหรับให้การศึกษาแก่สมาชิก
สหกรณ์ มีหน้าที่ติดต่อประสานงานกับสถาบันสหกรณ์ต่างประเทศ และความร่วม
มือกันระหว่างสหกรณ์สากลในด้านอื่นๆ ซึ่งประเทศไทยได้กำหนดประเภทสหกรณ์
ไว้ 6 ประเภท สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์นิคม สหกรณ์ประมง สหกรณ์ออม-
ทรัพย์ สหกรณ์ร้านค้า และสหกรณ์บริการ
ผลกำไรของสหกรณ์เพิ่มขึ้นทุกปี ประเทศไทยจึงมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจ
ของประเทศ โดยเฉพาะต่อประชาชนที่ยากจน เนื่องจากสหกรณ์เป็นองค์กรท่ง
เศรษฐกิจและสังคมที่ช่วยแก้ปัญหาในการประกอบอาชีพและยกระดับความเป็นอยู่
2.2 ประเภทและตัวอย่างของสหกรณ์ในประเทศไทย
สหกรณ์ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 ภาคใหญ่ๆ
1)สหกรณ์การเกษตร คือ ที่จัดตั้งขึ้นในกลุ่มอาชีพเกษตร โดยรวมกันจัดตั้งขึ้น
และจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลต่อนายทะเบียนสหกรณ์ เพื่อแก้ไขความเดือดร้อรใน
การประกอบอาชีพ วัตถุประสงค์ของสหกรณ์การเกษตรดำเนินธุรกิจแบบ
อเนกประสงค์เพื่อส่งเสริมให้สมาชิกดำเนินธุรกิจร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
สำหรับประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ คือ ทำให้สมาชิกมีปัจจัยการผลิตเพิ่มขึ้นจาก
การกู้เงินสหกรณ์ในอัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำมาประกอบอาชีพ ทำให้มีที่ดินทำกินเป็น
ของตนเองหรือมีที่ดินทำกินมากกว่าเดิม ตั้งแต่การใช้พันธุ์พื พันธุ์สัตว์ การใช้ปุ๋ย
การใช้ยาปราบศัตรูพืช การเก็บรักษาผลผลิตอย่างมีคุณภาพ ส่งผลให้สหกรณ์
และบุคลในครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา
และการอนามัย
2) สหกรณ์ประมง คือ สหกรณ์ที่จัดตั้งขึ้นในหมู่ชาวประมงเพื่อแก้ไขปัญหาและ
อุปสรรคในการประกอบอาชีพ โดยยึดหลักการช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและ
กัน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ทางด้านวิชาการ รวมทั้งให้การจัดหาเงินทุนให้
สมาชิกกู้ไปลงทุนประกอบอาชีพ สหกรณ์การประมงแห่งแรกจัดตั้งขึ้นใน
พ.ศ.2492 ชื่อว่าสหกรณ์ประมงพิษณุโลกจำกัด เป็นสหกรณ์ประเภทน้ำจืด สำหรับ
ประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับคือ ทำให้สมาชิกมีแหล่งเงินกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำมา
ลงทุนประกอบอาชีพ ซื้อวัสดุอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็น
3) สหกรณ์นิคม สหกรณ์การเกษตรในรูปแบบหนึ่งที่มีการดำเนินการจัดสรร
ที่ดิน ทำกินในราษฎร ปัจจัยการผลิตและสิ่งของที่จำเป็น การแปรรูปการเกษตร
การส่งเสริมอาชีพ สหกรณ์นิคมมีวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ เพื่อจัดนิคม และ
การจัดสหกรณ์ มีขั้นตอนการดำเนินการดังนี้
1) การจัดหาที่ดิน
1. สหกรณ์นิคม เพื่อการครองชีพ นำมาจัดสรรให้ราษฎรเข้าครอบครองทำ
ประโยชน์ และส่งเสริมให้จัดตั้งขึ้นเป็นสหกรณ์ ก็จะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ได้รับ
จัดสรรนั้นในที่สุด
2. สหกรณ์การเช่าซื้อที่ดิน ดำเนินการโดยอาศัยประมวลกฎหมายที่ดินและ
นโยบายของรัฐบาล ซึ่งเมื่อสมาชิกได้ชำระเงินค่าเช่าซื้อที่ดินและปฏิบัติตามข้อ
บังคับ
3. สหกรณ์การเช่าที่ดิน ดำเนินการโดยกรมส่งเสริมอจะนำที่ดินป่าสงวนแห่ง
ชาติ สมาชิกจะมีสิทธิ์เข้าครอบครอง โดยเสียค่าเช่าในอัตราต่ำ
2) การวางผังและปรับปรุงที่ดิน
จะสำรวจราบละเอียดสภาะภูมิประเทศ ชนิดและลักษณะดิน ปริมาณน้ำฝน จาก
นั้นจะวางแผนผังการใช้ดินว่าควรดำเนินการสร้างบริการสาธาณูปโภคใดบ้าง
3) การรับสมัครและคัดเลือกบุคคลเพื่อรับการจัดสรรที่ดิน
4) การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดิน
5) การกำหนดเงื่อนไขการใช้ที่ดินและการได้กรรมสิทธิ์ที่ดิน
ทำให้ประโยชน์ในที่ดินที่จัดหามาเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการราวบรว
มราษฎรที่ได้รับจัดสรรที่ดินนั้นจัดตั้งเป็นสหกรณ์ขึ้น และจดทะเบียนตามพระราช
บัญญัติสหกรณ์ เพื่อให้เกษตรมีสื่อกลางในการให้บริการด้านต่างๆ
สำหรับประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ คือ ทำให้มีสหกรณ์เป็นสถาบันที่เป็นสื่อกลาง
ในการขอรับบริการต่างๆ จากรัฐบาล การรวมกันซื้อและรวมกันขาย การส่งเสริม
การเกษตร การฝึกอบรม
2.สหกรณ์นอกภาคการเกษตร มี 4 ประเภท
1) สหกรณ์ร้านค้า คือ สหกรณ์ที่ผู็บริโภครวมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อจัดหา
สินค้า เครื่องอุปโภค บริโภคมาจำหน่ายแก่สมาชิกและบุคคลทั่วไป โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อจัดหาสิ่งของและบริการที่สมาชิกมีความต้องการมาจำหน่าย
ช่วยจำหน่ายผลิตผล ผลิตภัณฑ์ของสมาชิก ส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ทางด้าน
สหกรณ์และด้านการค้าให้แก่สมาชิกสหกรณ์
2) สหกรณ์ออมทรัพย์ คือ สถาบันการเงินแบบหนึ่งที่มีสมาชิกเป็นบุคคล
ซึ่งมีอาชีพอย่างเดียวกันหรือที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
ส่งเสริมให้สมาชิกรู้จักการออมทรัพย์และกู้ยืมเมื่อจำเป็น ส่งเสริมการออมทรัพย์
โดยการรับฝากเงินและให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย สหกรณ์ออมทรัพย์แห่ง
แรกในประเทศไทย จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2492 คือสหกรณ์
ข้าราชการสหกรณ์ ทำให้สมาชิกรู้จักเก็บออมเงินและไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบ
3) สหกรณ์บริการ ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องเดียวกัน รวมตัวกันยึด
หลักการประหยัด การช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อ
ดำเนินธุรกิจด้านการบริการตามรูปแบบของสหกรณ์ สหกรณ์บริการแห่งแรกจัด
ขึ้นใน พ.ศ. 2484 ชื่อ สหกรณ์ผู้ทำร่มบ่อสร้าง สำหรับประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ
คือ เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาฝีมือการผลิต มีแหล่งรวมซื้อรวมขายผลิตภัณฑ์
และอุปกรณ์ในการผลิต ช่วยให้สมาชิกสหกรณ์ประกอบอาชีพได้
4) สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คือสหกรณ์อเนกประสงค์ อาศัยอยู่ในชุมชน
เดียวกันหรือสถานที่เดียวกัน ประกอบอาชีพเดียวกัน เพื่อการรู้จักช่วยเหลือตนเอง
อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นให้สมาชิกประหยัดและออมเพื่อการรู้จักช่วยตนเองเป็น
เเบื้องต้นและเป็นพื้นฐานในการสร้างความมั่นคงแก่ตนเองและครอบครัว เพื่อส่ง
เสริมให้เกิดการรวมคนเพื่อทำกิจกรรมเรื่องการออมและพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น
สหกรณ์ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นแห่งแรก คือ สหกรณ์เครดิตยูเนี่่ยนแม่มูล จำกัด
สำหรับประโยชน์ที่สมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนจะได้รับ 4 ประการ คือ
(1) รู้จักประหยัดและออม สมาชิกของสหกรณ์จึงมีสะสมเงินที่สะดวกและรวดเร็ว
(2) ช่วยแก้ไขปัญหาการเงิน มีความเดือดร้อนหรือความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่าย
เงิน มีสิทธิที่จะกู้เงินจากสหกรณ์ได้
(3) สร้างความมั่นคงแก่สมาชิกและครอบครัว จะจัดให้มีบริการีในรูปแบบต่างๆ
แล้วแต่ความต้องการของสมาชิก และเงินทุนที่สหกรณ์มีอยู่
(4) สามารถพัฒนาชุมชนและสังคม ช่วยให้ประชาชนในชุมชนเกิดการประหยัด
และออม เพื่อสร้างกองทุนขึ้นในชุมชน เพื่อช่วยเหลือบำบัดความทุกข์ร้อนที่เกิดขึ้น
สหกรณ์กับการพัฒนาเศรษฐกิจ
ในชุมชนและประเทศ
ระบบสหกรณ์เป็นการช่วยตนเองและช่วยเหลือกันและกัน ซึ่งจะนำสังคไปสู่การ
กินดี อยู่ดี และมีสันติสุข แม้ว่าประเทศไทยจะประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจในช่วง
พ.ศ. 2540 แต่การดำเนินธุรกิจของกระบวนการสหกรณ์ไม่ได้รับผลกระทบ
ดังนั้นถือได้ว่าขบวนการสหกรณ์มีความสำคัญต่อประชาชนที่เป็นสมาชิกทั้ง
ในระดับชุมชนและระดับประเทศ เป็นอย่างยิ่ง
สหกรณ์เป็นสถาบันการเงินที่มีรูปแบบการดำเนินงานแตกต่างจากองค์กร
ธุรกิจเอกชนและรัฐวิสาหกิจที่เน้นปัจจัยด้านการเงินเป็นหลัก แต่สหกรณ์ใช้เงินทุน
ของสมาชิกมาลงทุนอย่างคุ้มค่า มีการควบคุมโดยสมาชิก และไม่มุ่งหวังผล
ประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากเกินไป นอกจากนี้ สหกรณ์ยังเป็นองค์กรธุรกิจที่ไม่มี
เพียงผลตอบแทนแก่สมาชิกผู้ถือหุ้นเท่านั้น
การดำเนินธุรกิจของสหกรณ์มีส่วนสำคัญในการรักษาความรุ่งเรืองทาง
เศรษฐกิจในชุมชน ท้องถิ่น และเอื้อประโยชน์ต่อสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น ตลอด
จนครอบครัวของสมาชิกสหกรณ์ มีการวางแผนธุรกิจอย่างเหมาะสม กับสภาพ
ความเป็นจริงโดยอาศัยการจัดการงบประมาณและขั้นตอนการทำงานที่ตรวจสอบ
ได้ ซึ่งทำให้การบริหารงานมีความยืดหยุ่นและมีอำนาจต่อรองทางธุรกิจมากขึ้น
ซึ่งมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ทุนดำเนินการมี
การขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นทุนภายในมารจากทุนเรือนหุ้น
ที่สมาชิกเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดกับเงินฝากที่สามชิกเป็น ผู้ฝากรายใหญ่เช่นกัน นับ
เป็นจุดแข็งของภาคสหกรณ์ไทย
เศรษฐกิจในชุมชน
4.1 ความหมายของเศรษฐกิจในชุมชน
ในชุมชนเมืองและชนบท อาศัยอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันและมีผลประโยชน์
ร่วมกัน ดังนั้น เศรษฐกิจในชุมชนจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการผลิต การจำหน่ายจ่าย
แจก ปละการบิโภคใช้สอยสิ่งต่างๆในชุมชนนั้นๆ
4.2 ปัญหาทางเศรษฐกิจในชุมชน
ชุมชนในเมืองและชุมชนชนบท มีเศรษฐกิจชุมชนน้อย มีผลผลิตและรายได้ที่
จำกัด และยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างจริงจัง คนในชุมชนมีรายได้ไม่เพียงพอกับ
การจัดบริการสาธารณะพื้นฐานให้ครบถ้วนได้ และมีความล้าหลัง ไม่เติบโต
ตัวอย่างปัญหาในชุมชน
1.ด้านการส่งเสริมอาชีพ เช่น คนในชุมชนไม่อาจยึดอาชีพใดอาชีพหนึ่งเป็นหลัก
ได้เนื่องจากไม่มีตลาดรับซื้อที่แน่นอนไม่มีการรวมกลุ่ม และปัจจัยการผลิตสูง
2.ด้านการตลาด เช่น ปัญหาผู้ประกอบอาชีพการประมงไม่มีสถานที่และช่องทาง
จำหน่ายอาหารทะเล ทำให้ต้องขายนอกพื้นที่หรือริมถนน
3.ด้านเงินทุน เช่น ปัญหาขาดทุนในการดำเนินการทำให้ต้องกู้เงินจากหลายแหล่ง
ที่มีดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้โอกาสในการเพิ่มรายได้มีจำกัด
4.3 แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมนุม
1.การเสริมสร้างศักยภาพของสถาบันเกษตรและการรวมกลุ่ม
โดยอาศัยแนวคิดและกระบวนการสหกรณ์เป็นพื้นฐานในการเสริมสร้างความเข้ม
แข็งให้กับเกษตรกรและประชาชนในทุกพื้นที่และขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายระบบ
การผลิต การตลาด การเงิน กลุ่มเกษตรกร ซึ่งวัตถุประสงค์ของการรวมกลุ่มแบ่ง
ออกเป็น 3 ลักษณะ ได้แก่ 1) การรวมกลุ่มกันเพื่อช่วยเหลือคนในชุมชน โดยคนใน
ชุมชนจะช่วยกันแก้ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นร่วมกัน 2) การรวมกลุ่มอาชีพ คนใน
ชุมชนที่มีรายได้ไม่เพียงพอและต้องการเพิิ่มรายได้ให้เพียงพอต่อการครองชีพ
และมีการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจะมารวมกลุ่มอาชีพกัน 3) การรวมกลุ่มเพื่อส่วน
รวม โดยเป็นการรวมกลุ่มกันของคนในชุมชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาในชุมชน
2.การพัฒนาและปรับระบบการผลิต
โดยการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้กับปัจจัยพื้นฐานและทุนทางเศรษฐกิจ
รวมทั้งสนับสนุนการสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
และลดต้นทุนการผลิต
3.การยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารให้เข้าสู่ระบบมาตรฐานและ
สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาวะ
1) พัฒนาระบบมาตรฐานสินค้าการเกษตรและอาหารให้เป็นที่ยอมรับในระดับ
สากล 2) ส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรและอาหารให้ได้คุณภาพมาตรฐานและ
ปลอดภัย 3) ขับเคลื่อนการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง
4. การพัฒนาวิสาหกิจขนาดย่อย ขนาดเล็กและขนาดกลาง วิสาหกิจชุมชน
และวิสาหกิจเพื่อสังคม
เพื่อขยายฐานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความครอบคลุมมากขึ้น โดย
ดำเนินการควบคู่ไปกับการพัฒนาและส่งเสริมสังคมผู้ประกอบการ เพื่อส่งเสริมผู้
ประกอบการที่ผลิตได้และขายเป็น
จัดทำโดย
5/6
1) พรดา วงษ์ราช เลขที่ 3
2) ณิชารีย์ อัศวราชันย์ เลขที่ 8
3) นวมล บุญเจียก เลขที่ 9
4) พรพนิต บุญรักษาทรัพย์ เลขที่ 10
5) ณัฐกานต์ เอี่ยมสังวาล เลขที่ 13
6) มนธิชา กุมภะสิงห์ เลขที่ 28