ชนดิ และหน้าที่
“คาสรรพนาม”
คาสรรพนาม
คาท่ีใชแ้ ทนชือ่ คน สตั ว์ สง่ิ ของตา่ ง ๆ
มักใช้ในการพูด เช่น ผม ดฉิ นั คุณ ท่าน เขา เรา
ประเภทของคาสรรพนาม
๑. บรุ ษุ สรรพนาม ๒. นิยมสรรพนาม
คาสรรพนามท่ีใชใ้ นการพูด คาสรรพนามชีร้ ะยะ
๓. ปฤจฉาสรรพนาม ๔. อนยิ มสรรพนาม
คาสรรพนามทีใ่ ช้เป็นคาถาม คาสรรพนามบอกความไม่เจาะจง
๕. วิภาคสรรพนาม ๖. ประพันธสรรพนาม
คาสรรพนามบอกความชี้ซ้า คาสรรพนามเช่ือมประโยค
๗. คาสรรพนามที่เน้นคานามท่ีอยขู่ ้างหน้า
๑. บรุ ษุ สรรพนาม คาสรรพนามท่ใี ช้ในการพดู
เปน็ คาสรรพนามทีใ่ ช้สาหรับพดู จาสอื่ สารกัน ระหวา่ ง
ผูพ้ ูด ผ้ฟู ัง และผูท้ ถี่ กู กลา่ วถงึ แบ่งออกเป็น ๓ ชนิด
๑. บรุ ุษสรรพนาม คาสรรพนามทใ่ี ช้ในการพดู
สรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๑ ใชแ้ ทนผ้สู ่งสาร (ผู้พดู )
ดฉิ ัน ฉัน กระผม ผม ขา้ พเจา้ เรา หนู
สรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๒ : ใช้แทนผู้รับสาร (ผฟู้ งั หรือผทู้ เ่ี ราพดู ด้วย)
ท่าน คุณ เธอ แก มงึ
สรรพนามบุรษุ ที่ ๓ : ใช้แทนผทู้ ่ีถูกกล่าวถึง
ท่าน เขา เธอ มัน แก
๑. บรุ ษุ สรรพนาม คาสรรพนามทใี่ ช้ในการพูด
ดังนั้น การที่จะบอกว่าคา ๆ นั้น เป้นคาชนิดใด ทาหน้าที่
อะไรในประโยค เราต้องพิจารณาว่าคาสรรพนามนั้นวางอยู่
ตาแหน่งใดของประโยค และพิจารณาบริบทแวดล้อม จึงจะ
พจิ ารณาความหมายได้ถูกตอ้ ง
๒. นยิ มสรรพนาม คาสรรพนามชีร้ ะยะ
คาสรรพนามท่ีใช้แทนคานามที่อยู่ใกล้ ห่างหรือไกลจากผู้พูด
เชน่ น่ี นั่น โน่น
ตัวอยา่ ง
นเ่ี ส้อื ของใคร (นี่ เป็นสรรพนามแทนนามท่อี ย่ใู กลผ้ ู้พูด)
น่ันเปน็ กระเปา๋ ของเธอหรอื (นั่น เปน็ สรรพนามแทนนามทีอ่ ยู่ห่างผ้พู ดู )
โนน่ เพอื่ นเธอใชไ่ หม (โน่น เป็นสรรพนามแทนนามท่อี ยู่ไกลผู้พดู )
๓. ปฤจฉาสรรพนาม คาสรรพนามทใ่ี ชเ้ ป็นคาถาม
เปน็ คาสรรพนามท่ใี ช้แทนนาม เพือ่ ตอ้ งการคาตอบทช่ี ัดเจน
ตวั อยา่ ง
หนงั สือของใครวางอยบู่ นโตะ๊
อะไรอยใู่ นกล่องใบน้ี
ไหนของทีฉ่ นั ฝากซือ้
๔. อนยิ มสรรพนาม คาสรรพนามบอกความไม่เจาะจง
เป็นคาสรรพนามทใี่ ชแ้ ทนนาม กล่าวถึงโดยไม่ไดเ้ จาะจง
หรือไม่ต้องการคาตอบ
ตัวอย่าง
ใครกไ็ ดช้ ่วยปดิ หน้าตา่ งหน่อย
อะไร ๆ ก็ไม่เปน็ ไปอย่างท่หี วัง
๕. วิภาคสรรพนาม คาสรรพนามบอกความช้ีซ้า
เปน็ คาสรรพนามท่ใี ช้แทนคานามทอี่ ยู่ขา้ งหน้า บอกความช้ซี ้า
แบง่ พวกหรือรวมพวก เช่น ต่าง บา้ ง กัน
ตวั อย่าง
นกั เรียนห้องนนั้ ตา่ งแยง่ กนั ตอบคาถาม (รวมพวก)
นักเรยี นบ้างก็เลน่ บา้ งกน็ ่งั ทาการบ้าน (แยกพวก)
เด็ก ๆ นัดทาการบ้านกนั ท่ีหอ้ งสมดุ (ชีซ้ ้า)
๖. ประพันธสรรพนาม คาสรรพนามเชอื่ มประโยค
เปน็ คาสรรพนามท่ใี ช้แทนคานามทีอ่ ยู่ข้างหนา้ ใชเ้ ม่อื ตอ้ งการจะกล่าวซ้าอีกคร้งั
และสามารถเช่ือมประโยค ๒ ประโยคเข้าด้วยกนั ไดแ้ ก่ ที่ ซงึ่ อนั ผู้
ตัวอย่าง
บ้านท่ีทาสขี าวเปน็ บา้ นของเธอ
(ที่ แทน บา้ น
เชอ่ื มประโยคที่ ๑ บา้ นทาสขี าวกบั ประโยคที่ ๒ บา้ นของเธอ)
๗. คาสรรพนามที่เน้นคานามทอี่ ยูข่ า้ งหนา้
เพือ่ บอกความรสู้ กึ ของผู้พดู ท่ีมีต่อผทู้ ก่ี ล่าวถงึ ขา้ งหน้า
คาสรรพนามประเภทน้ีมกั เป็นคาสรรพนามบุรษุ ท่ี ๓
ตวั อยา่ ง
คณุ พ่อทา่ นเปน็ คนอารมณด์ ี
(คาว่า ทา่ น แทน คุณพอ่ ซ่ึงผ้พู ูดกลา่ วถงึ ด้วยความเคารพ)
หน้าที่ของคาสรรพนาม
๑. ทาหนา้ ท่เี ปน็ ประธานของประโยค
ตวั อย่าง
ผมซื้อของมาฝากคุณยายครับ
ฉันกาลังไปตลาด
หน้าที่ของคาสรรพนาม
๒. ทาหนา้ ทีเ่ ปน็ กรรมของประโยค
ตัวอยา่ ง
คณุ แม่ใหฉ้ นั ไปตลาด
เราถูกนายจ้างใหอ้ อกจากงาน
หน้าทข่ี องคาสรรพนาม
๓. ทาหนา้ ที่เปน็ คาขยาย
ตัวอย่าง
ปลายฟ้าหยิบกระเปา๋ ใบน้ันใหฉ้ นั หนอ่ ย
ของที่ถอื อยู่น่ันเป็นอะไร