The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิเคราะห์เนื้อหาของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by cha-om1, 2021-05-22 02:02:04

วิเคราะห์เนื้อหาของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

วิเคราะห์เนื้อหาของกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน

เน้ือเรอ่ื ง พริก กาพย์เหช่ มเครอ่ื งคาวหวานมเี น้ือหาความบรรยาย
และพรรณนาถงึ อาหารคาวหวาน และผลไมต้ า่ งๆ

บทเห่ชมเครื่องคาว มี ๑๖ อย่าง ได้แก่

๑. แกงมสั มนั่ ๒. ยาใหญ่ ๓. ตับเหล็กลวก ๔. หมแู นม ๕. ก้อยกงุ้

๖. แกงเทโพ ๗. น้ายา ๘. แกงอ่อม ๙. ขา้ วหงุ ๑๐. แกงคว่ั สม้ หมูป่า

๑๑. พลา่ เน้ือ ๑๒. ล่าเตยี ง ๑๓. หรมุ่ ๑๔. รังนกนงึ่ ๑๕. ไตปลา ๑๖. แสร้งวา่

“ และปดิ ท้ายด้วยผกั โฉมและผกั หวาน ”

แกงมัสมั่น นพคุณ พเี่ อย

แกงไก่มสั มั่นเนอื้ เฉียบรอ้ น
พศิ วาส หวงั นา
หอมย่ีหร่ารสฉุน อกให้หวนแสวง
ชายใดบรโิ ภคภุญช์
แรงอยากยอหัตถข์ ้อน

แกงมสั มน่ั

“มัสมัน่ แกงแกว้ ตา หอมยห่ี ร่ารสรอ้ นแรง

ชายใดไดก้ ลนื แกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา”

กาพย์บทนก้ี วีกล่าวถงึ แกงมสั มน่ั ทมี่ กี ล่นิ หอม
ของยีห่ ร่าว่า เมอ่ื ชายใดได้ล้มิ รสแล้วอยากลิม้ รสอยเู่ สมอ

ยาใหญ่

“ยาใหญใ่ ส่สารพดั วางจานจดั หลายเหลือตรา

รสดีด้วยนา้ ปลา ญ่ปี นุ่ ล้าย้ายวนใจ”

กาพยบ์ ทนี้กวกี ล่าวถงึ ยาใหญ่ ทจี่ ัดวางเอาไว้ในจาน
อย่างมากมายและปรงุ รสให้อร่อยขึน้ ดว้ ยน้าปลาญี่ปุ่น

ตบั เหลก็ ลวก

“ตับเหลก็ ลวกหล่อนต้ม เจอื น้าส้มโรยพรกิ ไทย

โอชาจะหาไหน ไม่มเี ทียบเปรียบมอื นาง”

กาพยบ์ ทนก้ี วกี ลา่ วถึงอาหารที่นางอันเป็นท่รี ักปรงุ ให้
คือ ตบั เหล็กลวก ที่ไมม่ ีฝมี อื ของนางใดเทยี บเทยี มได้

หมแู นม

“หมแู นมแหลมเลิศรส พร้อมพรกิ สดใบทองหลาง
พศิ หอ่ เห็นรางชาง ห่างหอ่ หวนป่วนใจโหย”

กาพยบ์ ทนี้กวกี ลา่ วถึงหมูแนมวา่ มรี สชาติอรอ่ ย
รบั ประทานพร้อมกบั พรกิ สดและใบทองหลาง ท่นี อ้ งห่อมา
อยา่ งประณตี

กอ้ ยกุง้

“ก้อยกงุ้ ปรงุ ประทน่ิ วางถึงลน้ิ ดนิ้ แดโดย
รสทพิ ยห์ ยบิ มาโปรย ฤาจะเปรยี บเทียบทนั ขวญั ”

กาพย์บทนีก้ วกี ล่าวถึงกอ้ ยกุ้ง เมอื่ สัมผัสถงึ ลิน้ ก็
เหมอื นไดล้ ิม้ รสอาหารทอี่ รอ่ ยกวา่ อาหารทพิ ย์

แกงเทโพ

“เทโพพนื้ เน้ือท้อง เป็นมันยอ่ งลอ่ งลอยมนั
น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย”์

กาพยบ์ ทนก้ี วกี ลา่ วถงึ แกงปลาเทโพ ท่ีมเี นื้อหน้าทอ้ งเปน็ มันยอ่ ง
เมอื่ ไดซ้ ดน้าแกง กเ็ หมอื นกบั ไดล้ ิม้ รสอาหารสวรรค์

นา้ ยา+แกงอ่อม

“ความรกั ยักเปล่ยี นท่า ทาน้ายาอย่างแกงขม

กลอ่อมกลอ่ มเกลยี้ งกลม ชมไมว่ ายคลับคลา้ ยเหน็ ”

กาพยบ์ ทนก้ี วีกล่าวถงึ ยามเมอ่ื ได้รับประทานนา้ ยากิน
กับแกงขม (มะระ) เหมือนแกงออ่ ม ทีม่ ีรสกลมกล่อม ทาให้
พต่ี ้องชมฝมี อื น้องไม่ขาดปาก และเหมอื นเห็นหน้านอ้ ง

ข้าวหุง

“ข้าวหงุ ปรุงอย่างเทศ รสพิเศษใส่ลกู เอ็น

ใครหุงปรงุ ไม่เป็น เชน่ เชงิ มติ รประดิษฐ์ทา”

กาพย์บทนก้ี วกี ลา่ วถึงข้าวหุง ที่เปน็ อาหาร
ของชาวอสิ ลามวา่ ไมม่ ใี ครอกี แล้ว ที่จะปรงุ ขา้ วหงุ
ได้อร่อยเหมือนนาง

แกงคัว่ ส้มหมปู ่า

“เหลอื ร้หู มูปา่ ต้ม แกงคว่ั ส้มใส่ระกา
รอยแจ้งแห่งความขา ช้าทรวงเศรา้ เจ้าตรากตรอม”

กาพยบ์ ทนี้กวกี ลา่ วถงึ แกงควั่ ส้มท่มี ีสว่ นผสมของ
หมูปา่ และระกา ทาให้กวีนึกถึงอดตี ทเี่ คยปกปดิ ไว้ และ
นกึ ถงึ นางวา่ คงจะอยู่อยา่ งยากลาบาก

พลา่ เนื้อ

“ชา้ ช้าพล่าเน้ือสด ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
คิดความยามถนอม สนทิ เน้ือเจอื เสาวคนธ์”

กาพยบ์ ทนี้กวีกล่าวถึงพล่าเนอื้ สดท่ีมีกล่ินหอม ทาใหก้ วี
คดิ ถงึ ยามท่ีเคยกอดนาง และเนื้อของนางนนั้ มีกลน่ิ หอม

ลา่ เตยี ง

“ล่าเตยี งคดิ เตยี งน้อง นอนเตยี งทองทาเมืองบน

ลดหล่นั ช้นั ชอบกล ยลอยากนิทรคดิ แนบนอน”

กาพย์บทนี้กวกี ล่าวถึงลา่ เตยี งทที่ าเปน็ ช้นั ๆ ทาให้คดิ ถึง
นอ้ งทน่ี อนบนเตยี งทองจากเมอื งบน (เมืองสวรรค)์ ทล่ี ดหลั่นเปน็
ชัน้ ๆ ทาใหก้ วีคดิ อยากท่ีจะนอนกอดนาง

หรุ่ม รุ่มรุ่มเร้าคอื ไฟฟอน
รอ้ นรุมรุ่มกลมุ้ กลางทรวง”
“เหน็ หรุ่มรุมทรวงเศร้า
เจ็บไกลใจอาวรณ์

กาพย์บทนี้กวกี ลา่ วถึง หรมุ่ เม่ือกวเี ห็นหรุม่ กท็ าให้จิตใจของ
กวีร้อนรุม่ ประกอบกบั ความคดิ ถงึ นาง จงึ เหมอื นมีคนมาสุมไฟ

รังนก โอชารสกว่าทง้ั ปวง
เหมอื นเรยี มร้างหา่ งห้องหวน”
นึ่ง “รงั นกนึ่งน่าซด

นกพรากจากรงั รวง

กาพย์บทน้ีกวกี ลา่ วถึงรกั นกน่งึ ทน่ี ่าซด เพราะว่ามีรส
อร่อยกวา่ อาหารท้งั หมด แล้วเปรียบเทียบวา่ นกพรากจากรังก็
เหมอื นกบั กวใี นขณะน้ีทต่ี ้องพรากจากนาง

ไตปลา/แสรง้ วา่

“ ไตปลาเสแสรง้ วา่ ดุจวาจากระบดิ กระบวน
ใบโศกบอกโศกครวญ ให้พี่เคร่าเจา้ ดวงใจ ”

กาพย์บทนเ้ี ป็นบทเปรยี บเทยี บ ไตปลากับแสรง้ ว่า
ว่าเหมือนดังวาจาของน้องทแ่ี กลง้ เจรจา ครนั้ แลไปเห็น
ใบโศกทาใหก้ วตี อ้ งโศกเศร้าเพราะรอเวลาทีจ่ ะได้พบนาง

ผักโฉมและผกั หวาน

“ผกั โฉมช่อื เพราะพรอ้ ง เปน็ โฉมนอ้ งฤาโฉมไหน

ผักหวานซา่ นทรวงใน ใคร่ครวญรักผกั หวานนาง”

กาพยบ์ ทน้กี วกี ล่าวถึงผักสองชนิด คือ ผกั โฉมและ
ผกั หวาน แล้วเปรยี บเทยี บวา่ ผักโฉมนคี้ อื โฉมของน้อง
หรือโฉมของนางใด ส่วนผกั หวานนั้นเมอื่ กวีได้แลเห็นก็
ทาใหค้ วามรกั อนั หวานซ้ึงแผ่ซ่านไปทว่ั หวั ใจ

# ภาษาไทยไมจ่ ั๊กเดียม

เนอ้ื เรื่อง ผลไมม้ ี ๑๔ ชนิด คือ

๑. ลกู ชิด ๕. มะม่วง ๙. ผลเกด ๑๓. เงาะ
๒. ลูกตาล ๖. ลน้ิ จ่ี ๑๐. ทับทิม ๑๔. สละ
๓. ผลจาก ๗. ลกู พลบั ๑๑. ทเุ รยี น
๔. มะปราง ๘.นอ้ ยหนา่ ๑๒. ลางสาด

ลกู ชดิ เอมใจ

ผลชิดแช่อม่ิ โอ้ อกชู้
ฤาดุจ น้ีแม
หอมชื่นกลนื หวานใน แต่เน้อื นงพาล ๚
รนื่ รนื่ รสรมย์ใด
หวานเลิศเหลอื ร้รู ู้

ลกู ชดิ หอมตรลบล้าเหลอื หวาน
หวานเหลอื แล้วแก้วกลอยใจ”
“ผลชิดแช่อม่ิ อบ

รสไหนไม่เปรยี บปาน

ผลชิด มกี ลิ่นหอมตลบ และมีรสชาติหอมหวาน
เมอื่ ทานแลว้ ก็คดิ ถึงนอ้ งนาง

ลกู ตาล รสเย็นย่ิงยง่ิ เย็นใจ
หมายเหมือนจรงิ ยิ่งอยากเห็น”
“ตาลเฉาะเหมาะใจจรงิ

คดิ ความยามพสิ มัย

ผลตาลเฉาะ มรี สเย็น ๆ ทานแลว้ ถกู ใจ
ทาใหใ้ จเยน็ ขน้ึ ทาให้คดิ ถึงนาง

ผลจาก บอกความแล้วจากจาเป็น
เป็นทกุ ข์ทา่ หน้านวลแตง”
“ผลจากเจา้ ลอยแกว้

จากช้านา้ ตากระเดน็

ผลจากลอยแก้ว เหมอื นจะบอกถึงการ
พลดั พรากจากกนั เป็นบอ่ เกิดของความทกุ ขโ์ ศก

มะปราง

“หมากปรางนางปอกแลว้ ใส่โถแกว้ แพรว้ พรายแสง

ยามชืน่ รนื่ โรยแรง ปรางอิ่มอาบซาบนาสา”

มะปราง นอ้ งนางปอกใส่โถแก้วแพรวพราว

เมอ่ื ทานแล้วรสู้ กึ สดช่ืน รสู้ กึ อมิ่ เอบิ ใจ เหมอื นได้

ใกลช้ ิดแกม้ นาง

มะม่วง

“หวนหว่ งม่วงหมอนทอง อีกอกร่องรสโอชา

คดิ ความยามนิทรา อุราแนบแอบอกอร”

มะมว่ งพันธหุ์ มอนทองและอกร่อง มีรสหวานอร่อย
เม่ือทานแล้วก็นกึ ถงึ ยามนอนแนบชิดอกกับน้องนาง

ลน้ิ จี่

“ลิ้นจมี่ ีครุ่นครนุ่ เรยี กสม้ ฉุนใช้นามกร

หวนถวิลลน้ิ ลมงอน ชะออ้ นถอ้ ยร้อยกระบวน”

ล้ินจี่ บ้างครั้งเรียก ส้มฉนุ มรี สเปรีย้ วหวานกลม
กล่อมกนั น่าทาน เม่อื ได้ทานก็ร้สู กึ โหยหาความหอมหวาน
ของนอ้ งอกี ครั้ง

ลกู พลบั

“พลับจนี จักด้วยมดี ทาประณีตน้าตาลกวน
ยลยง่ิ พลับยับยบั พรรณ”
คดิ โอษฐอ์ อ่ นยิ้มยวน

พลับจีน รสชาตินา่ ทาน ยิ่งมนี ้าตาลกวนด้วยแล้ว
ทานแล้วนึกถึงรอยยิ้ม ที่อ่อนหวานเหมือนรสชาติของ
พลบั จีน

นอ้ ยหน่า

“นอ้ ยหนา่ นาเมลด็ ออก ปล้อนเปลือกปอกเปน็ อัศจรรย์

มือใครไหนจักทนั เทยี บเทยี มที่ฝีมือนาง”

น้อยหน่า น่าอัศจรรย์ที่นางปลอกเปลือกและนา
เมล็ดออก เม่ือนาเมล็ดออกทานแล้ว รสฝาดแต่อร่อยไม่มี
ใครมีฝมี ือเทยี บเท่านาง

ผลเกด

“ผลเกดพิเศษสด โอชารสล้าเลศิ ปาง

คานึงถงึ เอวบาง สางเกศเส้นขนเมน่ สอย”

ผลเกด รสชาตหิ อมหวานน่าทาน
เมือ่ ทานแลว้ นกึ ถึงเอวบางอรชรที่น่งั สางผม

ผลเกด

“ทับทมิ พริ้มตาตรู ใส่จานดดู ุจเมด็ พลอย

สกุ แสงแดงจักยอ้ ย อยา่ งแหวนกอ้ ยแกว้ ตาชาย”

ทับทมิ มลี ักษณะสแี ดงคลา้ ยเมด็ พลอย
เหมอื นแหวนทน่ี อ้ งนางที่รกั

ทเุ รยี น เน้ือดีดเู หลอื เรอื งพราย
สายสวาทพ่ีท่ีคคู่ ิด”
“ทุเรียนเจียนตองปู

เหมือนศรีฉวีกาย

ทเุ รยี นทว่ี างไว้บนใบตองมีเนื้อสีเหลืองสวย
ดนู ่ารับประทาน เปรยี บไดก้ บั ผิวของน้องอันเปน็ ท่รี กั

ลางสาด

“ลางสาดแสวงเนอ้ื หอม ผลงอมงอมรสหวานสนิท

กลืนพลางทางเพ่งพิศ คดิ ยามสารทยาตรามา”

ผลลางสาดต้องหาผลที่มีเนื้อหอม ผลสุกงอม
กินแล้วมีรสชาติหวาน เมื่อได้กินแล้วทาให้นึกถึง
เทศกาลตรุษสารท

เงาะ

“ผลเงาะไมง่ ามแงะ มลอ่ นเมล็ดและเหลือปัญญา
จา๋ เจ้าเงาะเพราะเหน็ งาม”
หวนเหน็ เช่นรจนา

แม้ภายนอกผลเงาะจะไม่งาม แต่รสชาติแสน
อร่อย เห็นแล้วถึงความรักของรจนากับเจ้าเงาะที่
รจนาไม่ได้มองคนแต่ภายนอก

สละ

“สละสาแลงผล คิดลาต้นแนน่ หนาหนาม

ทา่ ทิม่ ปิม้ ปืนกาม นามสละมละเมตตา”

ผลสละนั้นเมื่อมองผลแล้วทาให้คิดถึงลาต้นของมันท่ี
เต็มไปด้วยหนาม เปรียบได้กับพี่ที่เหมือนมีหนามทิ่มแทงใจ
เพราะนอ้ งมาสละสน้ิ ไร้เมตตาตอ่ พ่ี

เนอ้ื เร่ือง เครือ่ งหวานมี ๑๖ ชนิด คือ

๑. ข้าวเหนียวสังขยา ๕. ลดุ ตแ่ี ผ่นกลม ๙. ขนมผงิ ๑๓. จ่ามงกฎุ

๒. ซา่ หรมิ่ ๖. ขนมจบี ๑๐. ขนมเรไร ๑๔. บัวลอย

๓. ลาเจียก ๗. ขนมเทยี น ๑๑. ทองหยอด ๑๕. ช่อม่วง
๔. มัศกอด ๘. ทองหยบิ ๑๒. ทองม้วน ๑๖. ฝอยทอง

ขา้ วเหนยี วสงั ขยา

“สงั ขยาหน้าไข่คุน้ เคยมี

แกมกับข้าวเหนยี วสี โศกยอ้ ม

เปน็ นยั นาวาที สมรแม่ มาแม

แถลงวา่ โศกเสมอพอ้ ม เพยี บแออ้ กอร”

ขา้ วเหนียวสังขยา ข้าวเหนยี วใสส่ ีโศกแสดง
แจ้งวา่ เจ้าเศรา้ โศกเหลอื ”
“สงั ขยาหนา้ ตงั้ ไข่

เป็นนัยไม่เคลือบแคลง

สังขยาไข่กับข้าวเหนียวสีโศก น่าจะสีขุ่นขาว เทา ๆ
เป็นความหมายท่ีแน่นอนว่าเจ้าเศรา้ มากเหลอื เกิน

ซา่ หรมิ่

“ซ่าหรม่ิ ลิ้มหวานลา้ แทรกใส่น้ากะทิเจอื

วติ กอกแหง้ เครอื ไดเ้ สพหรม่ิ พิมเสนโรย”

ซา่ หรม่ิ กนิ แลว้ หวาน ใส่นา้ กะทิดว้ ย กินจนหวิ นา้

ลาเจยี ก

“ลาเจยี กชือ่ ขนม นกึ โฉมฉมหอมชวยโชย

ไกลกลิ่นดน้ิ แดโดย โหยไห้หาบุหงางาม”

ขนมลาเจยี ก กล่นิ หอมหวาน พอห่างจนไม่ได้กล่นิ
กท็ รมานใจ รอ้ งไหห้ านาง

มศั กอด

“มศั กอดมัศกอดกอดอยา่ งไร นา่ สงสัยใคร่ขอถาม

กอดเคล้นจะเหน็ ความ ขนมนามนี้ยงั แคลง”

คนแตง่ เขาสงสยั วา่ ทาไมขนมน้ีถึงชื่อวา่
“มศั กอด” แล้วมันกอดอย่างไร

ลุดตี่

“ลดุ ตี่นนี้ า่ ชม แผแ่ ผน่ กลมเพียงแผ่นแผง

โอชาหนา้ ไก่แกง แคลงของแขกแปลกกล่ินอาย”

ขนมลุดตี่ เป็นแผ่นกลม ๆ น่ามอง รสชาติอร่อย
กินกับแกงไก่ คิดว่าน่าจะเป็นขนมของแขกเพราะมี
กลน่ิ อายความเป็นแขกอยู่

ขนมจีบ

“ขนมจบี เจ้าจีบหอ่ งามสมสอ่ ประพิมพ์ประพาย

นึกน้องนุ่งจบี กราย ชายพกจบี กลีบแนบเนียน”

ขนมจีบ จีบห่อสวยงามเรียบร้อย ทาให้นึกถึงจีบ
ผา้ นุ่งของน้องนาง

ขนมเทียน ประดิษฐ์ทาขนมเทยี น

“รสรกั ยักลานา เทยี นหล่อเหลาเกลากลงึ กลม”
คานงึ นว้ิ นางเจียน

ขนมจีบ จีบห่อสวยงามเรียบร้อย ทาให้นึกถึงจีบ
ผ้านุง่ ของนอ้ งนาง

ทองหยิบ

“ทองหยิบทพิ ยเ์ ทียมทัด สามหยบิ ชัดน่าเชยชม

หลงหยบิ ว่ายาดม กม้ หนา้ เมินเขนิ ขวยใจ”

ขนมทองหยิบที่ใช้เป็นของหวานบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ใช้นิ้วสามนิ้วบรรจงหยิบน่าชมเชย หลงคิดว่ามันคือยาดม
ก้มหน้าทาอยา่ งเขนิ อาย

ขนมผิง

“ขนมผงิ ผิงผ่าวรอ้ น เพียงไฟฟอนฟอกทรวงใน

รอ้ นนกั รกั แรมไกล เม่ือไรเหน็ จะเยน็ ทรวง”

ขนมผิงตอ้ งใชค้ วามรอ้ นเผา เหมือนเช่นร้อน ไฟในอก
มคี วามรักกบั คนทางไกล เม่ือไรเห็นกจ็ ะสบายใจ

รงั ไร

“รังไรโรงด้วยแปง้ เหมือนนกแกล้วทารังรวง

โอ้อกนกทั้งปวง ยังยนิ ดดี ้วยมีรัง”

ขนมรังไรเปน็ ขนมทร่ี ูปร่างเหมือนรงั นก
ทมี่ ว้ นสานกันไปมา

ทองหยอด

“ทองหยอดทอดสนิท ทองม้วนมิดคดิ ความหลัง

สองปีสองปดิ บัง แต่ลาพงั สองตอ่ สอง”

ทองหยอดกับทองม้วนก็เหมอื นคนสองคน
ท่จี ากกันไปนาน มาน่ังย้อนความหลัง

จา่ มงกฎุ ใสช่ ื่อดุจมงกฎุ ทอง
สะอิง้ นอ้ งน้นั เคยยล”
“งามจริงจา่ มงกฎุ

เรยี มร่าคานึงปอง

จา่ มงกุฎ สวยงาม มีประกายเหมือน มงกุฏทอง

บัวลอย

“บัวลอยเล่ห์บวั งาม คิดบวั กามแกว้ กบั ตน
สถนนุชดจุ ประทมุ ”
ปล่งั เปลง่ เครง่ ยุคล

บัวลอยเลียนแบบบัวงาม คดิ ถึงน้องกับพ่ี
เปลง่ ปลงั่ ทงั้ คู่นมนอ้ งดุจดอกบวั ตมู

ชอ่ ม่วง

“ชอ่ มว่ งเหมาะมรี ส หอมปรากฏกลโกสมุ

คิดสสี ไลคลมุ หุม้ หอ่ มว่ งดวงพดุ ตาน”

ช่อม่วงมีรสดี หอมอย่างดอกไม้ คิดสี

สไบคลุม หุ้มห่อม่วงดวงพุดตาล คิดให้มีสีม่วง

พดุ ตาล เหมอื นผ้าสไบห่อหุ้มไว้


Click to View FlipBook Version