หนันั นั ง นั งสืสืสื อ สื ออิอิ อิ เ อิ เล็ล็ ล็ ก ล็ กทรอนินิ นิ ก นิ กส์ส์ส์ส์
ประเพณีปักธงชัย โรงเรียนประชาสงเคราะห์พิทยา ขึ้นเขาช้างล้วง
ประเพณีปักธงชัย เป็นประเพณีของชาวนครไทย ที่สืบทอดกัน มาตั้งแต่รุ่นโบรานกาล เป็นประเพณีที่รวมคนให้เป็นน้ำ หนึ่งใจ เดียวกัน ซึ่งผู้จัดทำ ได้รวบรวมประวัติของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ รวมทั้ง ประเพณีการปักธงชัยและการขึ้นเขาช้างล้วง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ กัน มาตั้งแต่โบราณกาล โรงเรียนประชาสงเคราะห์พิทยา ผู้จัดทำ ประเพณีปักธงชัย โรงเรียนประชาสงเคราะห์พิทยา ขึ้นเขาช้างล้วง คำ นำ
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3
ประวัติความเป็นมาของนครไทย ประวัติพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ประวัติประเพณีปักธงชัย การขึ้นเขาช้างล้วง กิจกรรมการแสดง ธิดาพ่อขุนบางกลางท่าว ประเพณีปักธงชัย โรงเรียนประชาสงเคราะห์พิทยา ขึ้นเขาช้างล้วง สารบัญ
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย ประชาชนในพื้นที่อำ เภอนครไทย มีหลายชาติพันธุ์ นอกจากคนนครไทยพื้นบ้านแล้วยัง มีชาวลาว ชาวจีน ชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ชาวน่าน และชาวไทยเลย ทำ ให้เกิดการกระจาย และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับถิ่นอื่น มีการนำ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ามาใช้อย่างหลาก หลาย ชาวบ้านส่วนใหญ่ในอำ เภอนครไทยมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เรียนรู้วัฒนธรรมจากรุ่น สู่รุ่น จากการศึกษาในเรื่องภูมิปัญญาของชาวอำ เภอนครไทย พบว่าในปัจจุบัน ภูมิปัญญาบางส่วนไม่ค่อยมีผู้สืบทอดและเริ่มสูญหายไปจากอำ เภอนครไทย เช่น ภูมิปัญญาการแทงหยวกประดับแลแห่นาค ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวนครไทย เพราะ การแห่นาคของชาวอำ เภอนครไทย จะใช้แลซึ่งเป็นคานหามสำ หรับให้นาคขึ้นนั่ง และ แห่รอบชุมชนก่อนที่จะเข้าสู่พิธีกรรมของการบวชนาคตามประเพณีท้องถิ่น แลแห่นาค ของชาวนครไทยจะมีลักษณะคล้ายเสลี่ยงของกลุ่มชุมชนภาคเหนือทั่วไป คนนครไทยจะ ใช้ไม้และไม้ไผ่ที่มีในท้องถิ่นมาสร้างเป็นแล ที่มีคานหามและนำ หยวกกล้วยมาแกะ สลักลวดลาย เรียกว่า ศิลปะการแทงหยวก มาประดับบนแลให้สวยงาม พร้อมทั้ง ตกแต่งด้วยผ้าทอพื้นเมือง ดอกไม้ที่ประดิษฐ์จากกระดาษและพวงมาลัย การทำ แลแห่ นาคของคนนครไทยจึงมีที่มาจากการนำ ต้นกล้วยที่มีอยู่มากในชุมชนเพราะคนนครไทย นิยมปลูกกล้วยไว้ตามบ้านมาตั้งแต่ในอดีตและขยายพื้นที่การทำ สวนกล้วยเพื่อธุรกิจใน ชุมชนตามการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม เศรษฐกิจและวัฒนธรรม จนมีการนำ ความรู้ จากปราชญ์ท้องถิ่นใกล้เคียงและต่างพื้นที่มาประยุกต์ใช้ในการทำ แลแห่นาค ทำ ให้แล แห่นาคของคนนครไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใช้ศิลปะการแทงหยวกเป็นเอกลักษณ์ที่ โดดเด่น สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประวัติความเป็นมาของนครไทย
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประวัติความเป็นมาของนครไทย อำ เภอนครไทย เป็นชุมชนโบราณที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ มีมนุษย์ เข้ามาตั้งถิ่นฐานประมาณ 5,000 - 1,000 ปี ล่วงมาแล้ว เมืองนครไทยโบราณตั้งอยู่ บนพื้นที่ที่เป็นที่ราบหุบเขามีรูปร่างแบบกระทะหงาย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง มี ภูเขา ป่าไม้ มีแม่น้ำ แควน้อยและสาขาของแม่น้ำ แควน้อยไหลผ่าน นำ ดินตะกอนมาตก ทับถมกัน ทำ ให้พื้นที่เหมาะแก่การเพาะปลูก
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ หรือพระนามเต็ม กมรเตงอัญศรีอินทรบดินทราทิตย์ หรือพระนามเดิม พ่อขุนบางกลางหาว เป็นพระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรสุโขทัย และเป็นปฐมกษัตริย์แห่ง ราชวงศ์พระร่วง ตามประวัติศาสตร์ไทย ทรงครองราชย์ตั้งแต่ พ.ศ. 1718 ตราบจนเสด็จสวรรคต สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประวัติพ่อขุนศรีอินทราทิตย์
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย สำ หรับพระนามแรก คือ พ่อขุนบางกลางหาว นั้นเป็นพระนามดั้งเดิมเมื่อครั้งเป็น เจ้าเมืองบางยาง เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า พ่อขุนบางกลางหาวเป็น พระนามสมัย เป็นเจ้าเมืองบางยาง โดยแท้จริง พระนามที่สองนั้น เป็นพระนามแบบทางการตามอย่างราชประเพณีขอม เป็น พระนามทรงใช้เมื่อเข้ารับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแล้ว พระนาม "ศรีอินทราทิตย์" มี กล่าวไว้อยู่ในศิลาจารึกหลักที่ 2 วัดศรีชุมว่า "ศรีอินทรปตินทราทิตย" ซึ่งเป็นพระนาม เกียรติยศที่พระเจ้าแผ่นดินขอมแต่โบราณสถาปนาให้แก่พ่อขุนผาเมืององค์รัชทายาทผู้ ครองเชลียงสุกโขไทในราชวงศ์ศรีนาวนำ ถม ต่อมาภายหลังพ่อขุนผาเมืองทรงยกให้แก่ พระสหายพ่อขุนบางกลางหาวแทน สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประวัติพ่อขุนศรีอินทราทิตย์
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 คลิปวิดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=1BFG-PRIoRk
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประเพณีปักธงชัย ประเพณีปักธงชัย คือ ประเพณีที่ชาวนครไทยพร้อมใจกันนำ ธงผ้าขาว ๓ ผืนไปปักบน ยอดเขาฉันเพลยอดเขาฮันไฮ หรือยอดเขาย่านชัย และยอดเขาช้างล้วง ที่ทำ ให้เกิดสิริ มงคลแก่ผู้ปฏิบัติ แสดงถึงพลังศรัทธาที่ชาวนครไทยมีต่อ "พ่อขุนบางกลางหาว"
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย ประเพณีปักธงชัย ประเพณีปักธงชัย เป็นประเพณีท้องถิ่นที่สำ คัญชองอำ เภอนครไทยประเพณีหนึ่งที่ได้ปฏิบัติ สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากชาวอำ เภอนครไทยส่วนใหญ่มีความเชื่อ และยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นอย่างมาก ประเพณีปักธงชัยเป็นประเพณีที่ชาว นครไทยได้จัดทำ ขึ้น ในวันที่ 14 -15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งขึ้นอยู่กับความพร้อมของชุมชน ชาว นครไทยในอดีตที่ประกอบด้วย ชาวบ้านวัดหัวร้อง บ้านในเมือง บ้านวัดเหนือ บ้านหนองลาน และหมู่บ้านใกล้เคียงจะนำ ธงที่ชาวบ้านร่วมกันทอไปปักที่เขาช้างล้วง ซึ่งเป็นเทือกเขาที่ ทอดตัวขนานไปกับถนนสายนครไทย - ชาติตระการ ห่างจากตัวอำ เภอนครไทยไปทางทิศ ตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 6 กิโลเมตร เป็นประจำ ทุกปี โดยชาวนครไทยส่วนใหญ่ได้ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการนำ ธงไปปักบนยอดเขาช้างล้วงและความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีปักธง สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3
สืบสานประเพณีไทย ชาวอำ เภอนครไทย เชื่อว่าการปักธงจะทำ ให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข กินดีอยู่ดี โดยมีความเชื่อว่าถ้าปีใดไม่ ไปปักจะทำ ให้เกิดภัยพิบัติหรือเพทภัยต่างๆ ที่ทำ ให้ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อนหรือ เสียชีวิตได้ เนื่องมาจากสาเหตุต่างๆ เช่น นาคราชจะมาล้างบ้านล้างเมือง , ยักษ์จะมา กินคน หรือช้างจะมากินข้าวที่ชาวบ้าน ทำ การเพาะปลูก จากคำ บอกเล่า ของพระครูประ พัฒน์ธรรมคุณ เจ้าคณะอำ เภอนครไทย และเจ้าอาวาสวัดเหนือ ได้กล่าวว่า ชาวบ้าน ได้ติดตามช้างไป พบว่ารอยเท้าช้างจะหายไปบริเวณเขาช้างล้วงทุกปี เป็นต้น ความเชื่อ ในเรื่องนี้เป็นที่ยอมรับและกล่าวถึงอยู่เสมอในหมู่ชาวนครไทย เพราะชาวบ้านหยิบยก เรื่องราว ที่ปีหนึ่งชาวนครไทยไม่ได้ไปปักธง ในปีนั้นชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านต่างๆ เสียชีวิตไปหลายคน ตั้งแต่บ้านวัดเหนือ จนถึงหัวร้อง ในช่วงเวลาเดียวกัน ในปีนั้น ชาวบ้านต้องขึ้นไปปักธงภายหลัง สำ นักงานเขตพืื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประเพณีปักธงชัย