If-cluase and gerund

รายงาน



เรื่อง If clause และ gerund



ผู้จัดทำ





นางสาวจุฑาทิพย์ ภูมิชะนะจิตร เลขที่38



ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้อง 8





นำเสนอ



ครูณัฐชนันท์พร ลิปภานนท์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษาที่ 2565

PRE-TEST
IF-CLUASE

1. ………….I known you were coming, I would have met you at the airport.

a. Should b. If

c. Had d. Were

2. If you…………me, I might have forgotten.

a. hadn’t reminded b. would remind

c. should d. were to

3. If you………….him, what will you do?

a. had seen b. saw

c. were to see d. see

4. …………I written her a letter, she would have known about it.

a. Should b. Had

c. If d. Were to

5. I’ll spoil my dinner, …………I have cake for afternoon tea.

a. had b. should

c. were d. will have

6. …………….it rain, I won’t go..

a. Would b. Should

c. Had d. If

7. I will need to buy some gas if the tank………….empty.

a. would have been b. was

c. were d. is

8. I……………do it if I were you.

a. am to b. will

c. wouldn’t d. had

9. ………….it rained yesterday, they wouldn’t have gone.

a. Had b. Would

c. If d. Were

10. If I had won the lottery, I…………….rich.

a. am b. were

c. will be d. would have been

PRE-TEST
GERUND

1. Tanggwa doesn’t enjoy ____________
very much. (cook)
2. I refuse ____________ any more
questions. (answer)
3. I hope ____________ you again soon.
(see)
4. The teacher let Pranee ____________
school early. (leave)
5. Jane asked him ____________ some
coffee. (make)
6. I’ll persude him ____________ to the
doctor’s. (go)
7. lt’s starting ____________. (rain)
8. It started ____________. (rain)
9. Have you finished ____________?
(eat)
10. I like ____________ to the theatre.
(go)

ANSWER

1. c. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form

2. a. hadn't reminded เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3

3. d. see เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1

4. b. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form

5. b. should เป็นการใช้ should แทน if

6. b. Should เป็นการใช้ should แทน if

7. d. is เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1

8. c. wouldn't เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 2

9. a. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form

10. d. would have been เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3

gerund

1) cooking
2) to answer
3) to see
4) leave
5) to make
6) to go
7) to rain
8) raining
9) eating
10) going

PRE-TEST

IF CLAUSE

If clause หรือ Conditional sentence (ประโยคเงื่อนไข) คือ ประโยคที่
ผู้พูดสมมติว่าถ้ามีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น จะมีผลหรือเหตุการณ์อื่นๆ เกิดขึ้น
ตามมา

หลักการใช้ if clause
เรามาดูหลักการใช้ if clause ทั้งการใช้คอมม่า และการใช้ if clause ทั้ง
4 แบบกันเลย (บางที่อาจพูดถึงแค่ 3 แบบ โดยจะตัดแบบที่ 0 หรือที่เรียก
ว่า type 0 ออก)

การใช้ if clause แบบที่ 0
If clause แบบที่ 0 (เรียกอีกอย่างว่า the zero conditional หรือ
type 0) เราจะใช้กับ

สิ่งที่เป็นจริงเสมอ (ถ้าน้ำแข็งละลาย มันจะกลายเป็นน้ำ – ความจริงตาม
ธรรมชาติ)
สิ่งที่เราทำเป็นปกติ (ถ้าฉันไปชายหาด ฉันจะใช้ครีมกันแดด – ฉันใช้ครีม
กันแดดเสมอ เมื่อฉันไปชายหาด)
เช่น If ice melts, it turns into water. -> When ice melts, it
turns into water.

IF CLAUSE

การใช้ if clause แบบที่ 1
If clause แบบที่ 1 (the first conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์
สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต
ตัวอย่างเช่น ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน – มีความเป็นไปได้สูงว่าอนาคตฝนจะตก
ซึ่งถ้าฝนตก ฉันก็จะอยู่บ้าน
If it rains,I will stay home.

การใช้ if clause แบบที่ 2
If clause แบบที่ 2 (the second conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์
สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย
ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันถูกหวย ฉันจะเที่ยวรอบโลก – ถ้าฉันถูกหวยเป็นเหตุการณ์
สมมติที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย แต่ถ้าฉันถูกหวยตอนนี้หรือในอนาคต ฉันก็จะ
ไปเที่ยวรอบโลก
เช่น If I won the lottery,I would travel around the world.

การใช้ if clause แบบที่ 3
If clause แบบที่ 3 (the third conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์
สมมติในอดีต ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ เพราะอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนั้นฉันตั้งใจเรียน ฉันก็คงสอบผ่าน – ถ้าในอดีตฉันตั้งใจ
เรียน ตอนนั้นฉันก็คงจะสอบผ่าน ซึ่งในความเป็นจริงนั้นฉันสอบไม่ผ่าน
เพราะตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจเรียน
If I had studied hard,I would have passed the exam.

IF CLAUSE

การใช้ if clause แบบ mixed type
นอกจากการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบแล้ว เรายังสามารถใช้ if clause
แบบผสมกันระหว่างแบบที่ 2 และ 3 ได้อีกด้วย ซึ่งก็คือการใช้กับเหตุการณ์
สมมติในอดีตที่ไม่เป็นจริง ที่มีผลมายังปัจจุบัน (ต่างจากแบบที่ 3 ที่มีผล
เฉพาะกับในอดีต)
ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฉันก็คงจะมีหุ่นดี – การ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในตอนนั้น จะทำให้ฉันมีหุ่นดีในตอนนี้ แต่ใน
ความเป็นจริงนั้นฉันไม่ได้ออก
If I had exercised regularly,I would have a great body.

https://youtu.be/TxRvpf49EJ4

GERUND

Gerund คืออะไร?
พูดง่าย ๆ เลยว่า Gerund คือ คำกริยาเติม ing (V-ing)
ที่ทำหน้าที่เป็นคำนาม เรียกกันว่า กริยานาม

หน้าที่ของ Gerund คือ?
อย่างที่กล่าวแล้วว่า Gerund ทำหน้าที่เหมือนคำนาม
สามารถอยู่ได้ทั้งหน้า กลาง และหลังของประโยค ดังนั้น
คำนามทำหน้าที่อะไรได้ Gerund ก็ทำได้เช่นกัน ดังนี้

1) เป็นประธาน (Subject) ในประโยค
เช่น
Dancing is a good exercise.
การเต้นเป็นการออกกำลังกายที่ดี

Apologizing isn’t enough this time.
การขอโทษมันไม่พอหรอกในตอนนี้

Smoking cigarettes isn’t permitted in this restaurant.
ห้ามสูบบุหรี่ในร้านอาหารนี้

2) เป็นกรรมตรง (Direct Object) ในประโยค
เช่น
My mother avoids cooking.
แม่ของฉันหลีกเลี่ยงการทำอาหาร

I enjoy shopping with friends.
ฉันชอบการไปเดินซื้อของกับเพื่อน ๆ

She considered quitting her job.
เธอคิดว่าจะลาออกจากงาน

GERUND

3) เป็นกรรมรอง (Indirect Object) ในประโยค
เช่น
My mother taught me cooking.
แม่ของฉันสอนฉันทำอาหาร

I caught my boyfriend cheating on me.
ฉันจับได้ว่าแฟนของฉันนอกใจฉัน

4) เป็นกรรม (Object) ของบุพบท (Preposition) เช่น in, on, at,
of, with, for, after, before, about, since
เช่น
After studying, we took a break.
หลังจากเรียนเสร็จ เราก็หยุดพัก

We got in trouble for chatting during the test.
เราซวยเพราะว่าคุยกันระหว่างสอบ

5) เป็นส่วนเติมเต็มของประธาน (Subject complement) คือ
คำที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน ส่วนเติมเต็มชนิดนี้จะตาม
หลัง Verb to be เช่น is, am, are, was, were, feel, seem
เช่น
Jane’s favourite activity is singing.
กิจกรรมที่เจนชื่นชอบคือการร้องเพลง

GERUND

6) อยู่หลัง No เพื่อเป็นคำสั่งห้าม
เช่น
No smoking.
ห้ามสูบบุหรี่

No parking.
ห้ามจอด

7) วางหน้าคำนามเพื่อทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ (Adjective)
ขยายคำนาม
เช่น
Swimming pool
สระว่ายน้ำ
Reading room
ห้องอ่านหนังสือ

TEST

1. When it comes to growth, it’s worth……..

1) of pursuing
2) pursuing
3) to pursuing
4) for pursuing

2.Jennifer wants to avoid ….. her ex-girlfriend.

1) being text
2) to text
3) texting
4) having texted
3.Everyone can improve their English by………. the
internet.

1) accessing
2) being access
3) having been accessing
4) accessed
4. Jenny is fond of …. outdoor.

1) cooked
2) being cook
3) having cook
4) cooking
5.Tina is looking forwards to …….. to the USA.

1) gone
2) having gone
3) having been
4) going
6.Danny enjoys……….Netflix.
1) washing
2) watching
3) having washed
4) having been watched

TEST

7. Sofia can’t bear…………her ex-boyfriend with his
new girl.
1) seeing
2) having seen
3) having being seen
4) having been seeing

8. Before………………on the airplane, one must
check one’s belongings.

1) get
2) getting
3) having getting
4) having been getting

9. After……….your breakfast, don’t forget to wash
your dishes.
1) finished
2) finishing
3) having finished
4) having been finishing

10. Avoid……………eyes contact to the monkeys, so
they won’t attack you.
1) made
2) having making
3) having being make
4) making

TEST

11. If you…………me, I might have forgotten.

a. hadn’t reminded b. would remind

c. should d. were to

12.If you study hard, you ______ pass the exam.

13.If I won the lottery, I _____ travel around the

world.


14.If I _____ money, I would have bought a bike.

15.If I were you, I _____ take the offer.

16.If I _____ her, I will tell her everything.

17.If I had studied hard, I _____ the test.

18.I _____ be happy if I had one million baht.

19.If I _____ money, I will buy a bike.

20.You will feel better, if you _____ enough.

ANSWER

1.(2 ) When it comes to growth, it’s worth
pursuing.
แปล เพื่อที่จะต้องเติบโต มันคุ้มค่าที่จะไขว่คว้า
2.(3 ) Jennifer wants to avoid texting her ex-
girlfriend.
แปล เจนนิเฟอร์ต้องการจะหลีกเลี่ยงการส่งข้อความให้
แฟนสาวของเธอ
3.(1) Everyone can improve their English by
accessing the internet.
แปล ทุกคนสามารถเรียนภาษอาังกฤษได้ด้วยการเข้าถึง
อินเทอร์เน็ต
4.(4 ) Jenny is fond of cooking outdoor.
แปล เจนนี่เป็นคนชอบทำอาหารนอกบ้าน
5.(4) Tina is looking forward to going to the USA.
แปลว่า ตีน่าตั้งตารอที่จะไปสหรัฐอเมริกา
6.(2) Danny enjoys watching Netflix.
แปลว่า แดนนี่สนุกกับการดู Netflix
7.(1) Sofia can’t bear seeing her ex-boyfriend
with his new girl.
แปลว่า โซเฟียทนเห็นแฟนเก่าของเธอกับแฟนใหม่ไม่ได้
8.(2) Before getting on the airplane, one must
check one’s belongings.
แปลว่า ก่อนขึ้นเครื่องบินต้องตรวจสัมภาระ
9.(2 ) After finishing your breakfast, don’t forget
to wash your dishes.
แปล หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อย่าลืมล้าง
จาน
10.(4) Avoid making eyes contact to the monkeys,
so they won’t attack you.
แปลว่า หลีกเลี่ยงการสบตากับลิง แล้วพวกมันจะไม่โจมตี
คุณ

ANSWER

11. a. hadn't reminded เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3
12.will
13.would
14.had had
15.would
16.see
17. woukd have passed
18.would
19.have
20.sleep

TEST

REFERENCE

https://meowdemy.com/gerund-
%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD
%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/#:~:text=Ger
und%20%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20v
erb%20%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%20%
2Ding,%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B
8%87%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8
%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%20%E2%80%9C%E0%
B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B

8%B4%E0%B8%99%E2%80%9D



















https://www.globish.co.th/blog/professional/ifclau
se