The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนเผชิญเหตุโรงเรียนหนองขอนวิทยา 2654

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by arpapron8899, 2021-09-22 02:23:50

แผนเผชิญเหตุโรงเรียนหนองขอนวิทยา 2654

แผนเผชิญเหตุโรงเรียนหนองขอนวิทยา 2654

คำนา

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ทั่วโลก ทวีความรุนแรงเพ่ิมมากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศ
สหรฐั อเมรกิ า อนิ เดยี และยโุ รป รวมถึงการแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ในเอเชียโดยเฉพาะสาธารณรัฐแห่งสหภาพ
เมียนมา เกดิ การแพร่ระบาดของโรค ระลอก 2 ขยายวงกวา้ งมากข้นึ และรวดเร็ว พบวา่ มผี ูต้ ิดเชอ้ื ยนื ยันรายใหม่วัน
ละหลายร้อยรายอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อาจส่งผลทำให้บุคลากร
ของสถานศึกษาและผู้ปกค รองเกิดคว ามตระหนั กและว ิตกกังว ลต่อการแพร่ระบาดของ โ ร ค
จึงกำหนดให้ถือปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเข้มข้นและ
ต่อเนื่อง ดังนั้น โรงเรียนหนองขอนวิทยา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และภาคีเครือข่าย เล็งเห็นและ
ตระหนกั ถงึ ความสำคัญอย่างยงิ่ ในการป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จึงไดจ้ ดั ทำ“คู่มอื การเฝ้าระวงั ติดตาม
และแผนเผชญิ เหตุรองรับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศกึ ษา”

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บคุ ลากรของสถานศึกษา ฝา่ ยการศกึ ษา และผู้เก่ียวข้องจะได้นำไปใช้ประกอบและเป็น
แนวปฏิบัติในการเฝ้าระวัง การติดตาม และเตรียมการเตรียมพร้อมต่อการเผชิญเหตุรองรับสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคโควิด 19 อาจเกดิ ขึน้ ในระลอก 2อยา่ งทันเหตกุ ารณ์ อนั จะส่งผลให้นักเรียน บคุ ลากรของสถานศึกษา
และผู้เกี่ยวข้อง ปลอดภัยไม่เสี่ยง ไม่มีอาการป่วยของโรคโควิด 19 และสามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขตามแนว
ชวี ิต วิถีใหม่ (New Normal)

โรงเรียนหนองขอนวทิ ยา

สารบญั

เรอื่ ง หนา้
แผนเผชญิ เหตุรองรับสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19
แนวปฏิบตั แิ ผนเผชญิ เหตรุ องรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19ในสถานศึกษา 1-4
การกาํ กับตดิ ตามและประเมินผล 5-8
แนวทางการวัดและประเมนิ ผล ใน ชน้ั เรียน ในสถานการณ์การแพร่ฯ 9-12
ผพู้ ิทักษ์อนามัยโรงเรียน 13
แนวปฏบิ ัตสิ ำหรบั สถานศกึ ษารองรบั สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 14-20

1

แผนเผชญิ เหตุรองรบั สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19
สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควดิ 19 ในประเทศไทย มีแนวโนม้ คลีค่ ลายเปน็ ไปในทาง
ที่ดีขึ้นแต่สถานการณ์ทั่วโลกและประเทศใกล้เคียงยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ในการเปิดภาคเรียนของ
สถานศกึ ษาใหม้ ีการเรียนการสอนตามปกติ 100% ดังนั้น จึงควรกำหนดใหม้ ีแผนเผชิญเหตรุ องรับสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโรคโควิด 19ในสถานศึกษาเพื่อเป็นการเตรียมการและเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจจะ
เกิดขึน้ อันเป็นแนวปฏิบัตติ ามมาตรการการป้องกนั การแพรร่ ะบาด ของโรคโควดิ 19 อยา่ งเครง่ ครัด

แนวปฏบิ ตั ิแผนเผชญิ เหตุรองรับสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19ในสถานศึกษา มีดงั น้ี

1. การปอ้ งกนั เชือ้ โรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19) จากต่างประเทศ
• มคี รตู ่างประเทศต้องรบั การกักกันในสถานทที่ รี่ ัฐจดั ให้ (State quarantine) เปน็ เวลา 14 วนั
• มีนกั เรยี นนักศกึ ษาตา่ งประเทศ/ต่างดา้ วทีพ่ ักอาศัยอยู่ในประเทศไทย ให้จดั การเรียน
การสอนตามปกติ สำหรบั นกั เรียนนกั ศกึ ษาท่ไี ม่ได้พกั อาศยั อยใู่ นประเทศไทย
เมอื่ เข้าประเทศไทยตอ้ งรับการกักกนั ในสถานทที่ ีร่ ฐั จดั ให้ (State quarantine/Local
quarantine) เป็นเวลา 14 วัน

ขอ้ เสนอการพจิ ารณาสทิ ธปิ ระโยชน์สำหรบั นกั เรียนรหัส G
• การได้รับสิทธิประกนั สังคมหรอื ประกันสขุ ภาพ
• การใช้กองทนุ ของ ศธ. เพอื่ ซอ้ื ประกนั สุขภาพให้นกั เรียนรหสั G
• การใชร้ ะบบการศกึ ษาทางไกลแทนการเข้ามาศึกษาในประเทศไทย
• ด่านชายแดนทางเข้าและ Organizational Quarantine
• ประกันภัยโควิด 19 ระยะเวลา 1 ปี

2. การปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ภายในประเทศ
• มีศนู ย์เฉพาะกิจการจดั การศึกษาทางไกลในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19
• พัฒนาระบบสารสนเทศเพือ่ การบริหารในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
• เปดิ ศนู ย์รบั ฟงั ความคิดเห็นเกย่ี วกับการจัดการศึกษาทางไกลในสถานการณ์การแพรร่ ะบาด.
ของโรคโควดิ 19
• จดั ทำแนวทางการจดั การเรยี นการสอนทางไกลในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
• จดั ทำแพลตฟอร์มการเรียนรู้ ชุดโปรแกรม และแพลตฟอร์มการเรยี นรูค้ รบวงจร
• จดั ทำแนวทางการบรหิ ารจัดการสำหรบั โรงเรยี นเพือ่ ป้องกนั และควบคมุ การแพรร่ ะบาด
ของโรคโควิด 19
• แผนการเตรยี มการรองรับนักเรยี นจากต่างประเทศทีก่ ลบั เข้ามาเรยี นในประเทศไทย
ของสถานศึกษา ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563
• แนวทางรบั มอื ตอบโต้ภาวะฉกุ เฉนิ กรณีการระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศกึ ษา

2

3. การเฝ้าระวงั และการสอบสวนโรค
• คดั กรองนักเรียน ผู้บริหาร ครู บุคลากร และผู้เกย่ี วข้อง มกี ารสวมหนา้ กาก การลา้ งมือ
การเว้นระยะหา่ ง การทำความสะอาด (ห้องเรียน ห้องปฏิบัตกิ าร โรงฝึกงาน อาคารเรียน
โรงอาหาร โรงนอน พืน้ ท่ีส่วนกลาง) และลดความแออดั
• มีแนวปฏิบัติสำหรับผู้บรหิ าร ครู และบุคลากรในสถานศกึ ษาในการดำเนินการเกย่ี วกับ
โรคโควิด 19 เชน่ จัดทำแนวทางการบริหารจัดการสำหรบั โรงเรยี นเพอ่ื ป้องกันและ
ควบคมุ การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 มาตรการคดั กรองสุขภาพดา้ นสาธารณสุข
การดำเนินการเมอื่ มีกลุ่มเส่ยี งหรอื ผปู้ ่วยยนื ยันในสถานศกึ ษา
• การปดิ สถานศึกษาที่เกิดการระบาดและควบคุมการระบาดในสถานศึกษา
• รายงานการประเมินสถานการณ์ผลการดำเนนิ งาน ปญั หาอปุ สรรค และให้ข้อเสนอแนะ
แก่หน่วยงาน ตน้ สังกดั และคณะกรรมการโรคติดต่อระดบั จงั หวดั เพื่อการตดั สินใจ

4. การสร้างความร่วมมือจากทกุ ภาคส่วน
• มีศนู ยป์ ระสานงานและตดิ ตามขอ้ มูลระหว่างสถานศึกษาและหนว่ ยงานตา่ งๆ
• สถานศึกษาจับคู่โรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพตำบลในความร่วมมือ
ป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19
• สถานศกึ ษาแตง่ ต้ังคณะกรรมการป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19 ประกอบดว้ ย
เจ้าหนา้ ท่สี าธารณสขุ เจา้ หน้าท่อี งค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน ฝา่ ยปกครอง คณะกรรมการ
สถานศกึ ษา

3

แนวปฏบิ ตั ิแผนเผชญิ เหตุรองรับการแพรร่ ะบาดของโควิด 19 ในสถานศกึ ษา
******************************************************************

1.การปอ้ งกนั เชอ้ื ไวรสั โคโร 2.การป้องกันการแพร่ 3.การเฝ้าระวงั และการ 4.การสรา้ งความรว่ มมอื
นา 2019 (โควดิ 19) จาก ระบาดของโรคโควดิ 19 สอบสวนโรค จากทกุ ภาคสว่ น

ตา่ งประเทศ ภายในประเทศ -คัดกรอกนกั เรยี น ผู้บริหาร ครู -มีศูนย์ประสานงานและ
-มีครูต่างประเทศ ต้องรับ บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องมีการ ติดตามข้อมูลระหว่าง
การกักตัวในสถานที่ที่รัฐจัด - ม ี ศ ู น ย ์ เ ฉ พ า ะ ก ิ จ ก า ร จั ด สวมหน้ากาก การล้างมือการ สถานศึกษาและหน่วยงาน
ให้ (State quarantine) เปน็ เว้นระยะห่าง การทำความ ต่างๆ
เวลา 14 วนั การศกึ ษาทางไกล สะอาด และลดความแออนั - ส ถ า น ก า ร ณ ์ จ ั บ คู่
-มีนักเรียนนักศึกษา -พฒั นาระบบสารสนเทศเพื่อ -มีแนวปฏิบัติสำหรับผู้บริหาร โ ร ง พ ย า บ า ล ห รื อ
ต่างประเทศ/ต่างด้าวที่พัก การบริหารในสถานการณ์ ครู และบคุ ลากรในสถานศกึ ษา โ ร ง พ ย า บ า ล ส ่ ง เ ส ริ ม
อาศัยอยู่ในประเทศไทย ให้ การแพรร่ ะบาด ในการดำเนินการเกี่ยวกับโรค สุขภาพตำบลในความ
จัดการเรียนการสอน -เปิดศูนย์รับฟังความคิดเห็น โควิด 19 ร่วมมือป้องกันการแพร่
ตามปกติ สำหรับนักเรียน เกี่ยวกับการจัดการศึกษา -การปิดสถานศึกษาที่เกิดการ ระบาดของโรคโควิค 19
นักศึกษาที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ ทางไกล ระบาดและควบคุมการระบาด - ส ถ า น ศ ึ ก ษ า แ ต ่ ง ต้ั ง
ในประเทศไทย เมื่อเข้า -จัดทำแนวทางการจัดการ ในสถานศึกษา คณะกรรมการป้องกันการ
ประเทศไทยต้องรับการกัก เรียนการสอนทางไกลใน - ร า ย ง า น ก า ร ป ร ะ เ มิ น แพร่ระบาดของโรคโควิด
ตัว ในสถานที่ ที่รัฐจัดให้ สถานการณ์ของโรค สถานการณ์ผลการดำเนินงาน 19 ประกอบด้วยเจ้าหน้าท่ี
( State quarantine) เ ป็ น -จัดทำแพลตฟอร์มการ ป ั ญ ห า อ ุ ป ส ร ร ค แ ล ะ ใ ห้ สาธารณสุข เจ้าหน้าท่ี
เวลา 14 วัน เรียนรู้ ชุดโปรแกรมและ ข้อเสนอแนะแก่หน่วยงานต้น องค์กรปกครองส่วน
แพลตฟอร์มการเรียนรู้ครบ สังกัด และคณะกรรมการ ท้องถิ่นฝ่ายปกครอง
วงจร โรคติดตอ่ ระดับจงั หวัดเพือ่ การ คณะกรรมการสถานศกึ ษา
-จัดทำแนวทางการบริหาร ตดั สนิ ใจ
จัดการสำหรับโรงเรียนเพ่ือ
ป้องกันและควบคุมการแพร่
ระบาดของโรคโควดิ 19
-แผนการเตรียมการรองรับ
นักเรียนจากต่างประเทศที่
กลับเข้ามาเรียนในประเทศ
ไทยของสถานศึกษา
-แนวทางรับมือตอบรับได้
ภาวะฉุกเฉิน กรณีการ
ระบาดของโรคโควิด 19 ใน
สถานศึกษา

การจัดตั้งศูนย์ COVID-19 เพ่อื ปอ้ งกันและควบคุมการ
แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ค่อยรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับ
การจัดการศกึ ษาในช่วงสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรค

4

แนวปฏิบัตสิ ำหรบั สถานศกึ ษาในกำรเปิดภาคเรียนใหน้ กั เรยี นมำเรยี นในห้องเรยี นหรอื On site 100 % มีดงั นี้
1. ให้มีการจัดการเรียนการสอนได้ปกติ On site
2. การจัดหอ้ งเรยี นสามารถจัดไดต้ ามจำนวนนักเรยี นปกติโดยจดั ระยะหา่ งให้มากที่สุดเทา่ ทีจ่ ะทำได้
3. กรณีห้องเรยี นเป็นหอ้ งแอร์ ให้เปดิ ประตู หน้าตา่ งชว่ งพกั เท่ยี งหรอื ชว่ งท่ไี มม่ ีการเรยี นการสอนในห้องนัน้
4. มาตรการเสริมตอ้ งเขม้ ขน้ ดังนี้
-การคัดกรองแยกผปู้ ว่ ยสง่ รกั ษา
-การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆลดการจับกลมุ่ พูดคยุ กนั โดยไมจ่ ำเป็น
- ลดกิจกรรมร่วมกันหลายห้อง
- กรณี มีการเดนิ เรียนใหท้ ำความสะอาดพน้ื ผวิ โต๊ะ เกา้ อี้ หรอื อปุ กรณท์ ีใ่ ชร้ ่วมกนั หลงั จบการเรียน
การสอนทุกคาบ
- ทุกห้องเรียนให้ทำสะอาดพ้ืนผิวโต๊ะ เก้าอี้ หรืออุปกรณ์ทีใ่ ช้ร่วมกนั ทกุ สองชว่ั โมง
5. ให้มกี ารบนั ทึกการป่วยด้วยโรคทางเดนิ หายใจการส่งต่อตรวจหาโควดิ 19 และสรปุ ผลการตรวจ
ทกุ สัปดาห์สง่ ตน้ สงั กัดกรณมี ีเด็กป่วยหรอื ขาดเรยี นมากกว่าปกติใหป้ ระสานสำนักงานสาธารณสุข
อำเภอหรือจงั หวัดในพื้นท่ี
6. ให้มกี ารดำเนนิ การผอ่ นคลายมาตรการ กำกบั โดยคณะกรรมการสถานศึกษาและหน่วยงาน
สาธารณสุขในพ้นื ที่
7. การปรับมาตรการให้พจิ ารณาตามสถานการณ์การระบาดและข้อมลู ท่มี ีอยใู่ นขณะนัน้ เปน็ ระยะๆ

5

การกํากับตดิ ตามและประเมินผล
*****************************************
แนวทางการกํากับติดตามและประเมินผลการจัดการเรียนการสอนและการดําเนินการตาม มาตรการการ
ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในสถานศึกษา แบบบูรณาการ
กระทรวงศึกษาธิการได้กําหนดให้มีการตรวจราชการและกํากับติดตามประเมินผลการ จัดการเรียนการสอนใน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในพื้นที่ทั่วประเทศ และรายงานผล
การตรวจติดตามนโยบายการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์ การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID - 19)เพอ่ื เป็นขอ้ เสนอเชงิ นโยบายประกอบ การวนิ จิ ฉัยสงั่ การของรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ
เปน็ ข้อมูลในการขับเคลอื่ นนโยบาย การจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโร
นา 2019 (COMID - 19) โดยลงพื้นที่ติดตามผลการดําเนินงานตามนโยบายดังกล่าว รวมถึงการเก็บรวบรวมข้อมูล
ผา่ นระบบ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เพอื่ การตรวจติดตามนโยบายการจดั การเรยี นการสอนในสถานการณก์ ารแพร่ระบาด ของ
โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
การตรวจติดตาม หลังเปิดภาคเรียนที่ 1/2563 (1 กรกฎาคม 2563) กระทรวงศึกษาธิการและ กระทรวง
สาธารณสุข ได้มีการบูรณาการการทํางานร่วมกัน โดยได้กําหนดแนวทางการกํากับติดตาม ประเมินผลการจัดการ
เรยี นการสอนและการดําเนนิ การตามมาตรการปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของ โรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID –
19) หลงั เปดิ ภาคเรียนท่ี 1/2563 (ตงั้ แตว่ ันท่ี 1 กรกฎาคม 2563) ตามแนวทางของศนู ย์บรหิ ารสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) (ศบค.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อํานวยการศูนย์ดังกล่าว ให้
กระทรวงศกึ ษาธิการบูรณา การรว่ มกับกระทรวงสาธารณสุข ดําเนนิ การกํากับตดิ ตามประเมินผล หลังเปดิ ภาคเรียน
ที่ 1/2563 กระทรวงศึกษาธิการกับกระทรวงสาธารณสุข จึงได้จัดประชุมชี้แจงการขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพ
โรงเรียน และการกํากับติดตามประเมินผลการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในสถานศึกษา แบบบูรณา
การ เมือ่ วันท่ี 29 มถิ ุนายน 2563 โดยมปี ลัดกระทรวงศกึ ษาธิการเป็นประธานการประชุม ท่ปี ระชุมได้มอบหมายให้
ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสขุ ศึกษาธิการภาค และรองศึกษาธิการภาค
ร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่สถานศึกษา เพื่อกํากับติดตามประเมินผล และมีการรายงานผล
ความคืบหน้าต่อศูนยบ์ ริหารสถานการณก์ ารแพร่ ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (โควดิ 19) (ศบค.) ด้วย
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในประเทศไทย มีแนวโน้ม
คลี่คลายเปน็ ไปในทางท่ีดีข้ึนยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเน่ือง เนอ่ื งจากสถานการณ์ทัว่ โลก ยังมคี วามรุนแรงเพ่ิมมาก
ขึ้น โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและยุโรป ทั้งนี้ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด 19) ไดแ้ ถลงขา่ วเมื่อวันที่ 10 สงิ หาคม 2563 ไมม่ ผี ู้ติดเช้อื ภายในประเทศ รวม 77 วัน กอปรกับ ศบค.
ได้มีมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 5 และ ระยะ 6 ตามลําดับ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตปกติมากขึ้น
กระทรวงศึกษาธิการให้สถานศึกษา สามารถเปิดเรียนไดร้ ้อยละ 100 และยงั ไม่พบผู้ติดเช้ือในสถานศึกษา ดงั น้ัน จึง
ไดจ้ ัดทาํ แนวทาง การตรวจติดตามประเมินผลการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในสถานศึกษาแบบบูรณาการ ตามแผนผังการกํากับติดตาม ประเมินผลร่วมกับ
กรมอนามยั กระทรวงสาธารณสขุ ดงั น้ี

6

7

กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ได้จัดทําแนวทางการกํากับติดตามและประเมินผล การ
จัดการเรยี นการสอนและการดาํ เนินการตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรสั โคโรนา 2019
(COVID - 19) ในสถานศึกษาแบบบูรณาการลังเปิดภาคเรียนที่ 1 / 2564 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564เป็นต้นไป
เพอื่ ให้หน่วยงานในสงั กัดที่เกย่ี วข้อง รวมถงึ หนว่ ยงาน ในพนื้ ท่ี เช่น สาํ นกั งานศกึ ษาธกิ ารภาค สาํ นักงานศึกษาธิการ
จังหวัด สถานศึกษา เป็นต้น ได้ดําเนินการร่วมกัน โดยมีกลไกการตรวจราชการและการกํากับติดตามประเมินผล
ดงั นี้

ฝ่ายกระทรวงศกึ ษาธิการ
1. ผู้ตรวจราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ
2. ผเู้ ชย่ี วชาญ / ผู้ตรวจราชการกรม
3. ศกึ ษาธิการภาค
4. ศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด
5. คณะกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวัด
6. เขตพ้นื ท่ีการศึกษา : สพป. / สพม.

ฝา่ ยกระทรวงสาธารณสุข
1. ผตู้ รวจราชการกระทรวงสาธารณสุข / สาธารณสขุ นเิ ทศ
2. นายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวัด
3. ผู้แทนคณะกรรมการโรคติดต่อจงั หวัด
4. ผอู้ ํานวยการศนู ยอ์ นามยั ผอู้ ํานวยการสาํ นักงานป้องกนั ควบคมุ โรค ผู้อํานวยการศนู ย์สขุ ภาพจติ
5. ผ้พู ิทักษอ์ นามัยโรงเรยี น

บทบาทหนา้ ที่
1. ใหค้ าํ ปรึกษา แนะนํา การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID - 19)
2. แลกเปลี่ยน เรียนรู้ ปัญหาอุปสรรคการดําเนินงานของสถานศึกษา และเสนอแนวทางการดําเนินงาน
รว่ มกันระหวา่ งกระทรวงศกึ ษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข
3. สรปุ ประเด็นและข้อเสนอเชงิ นโยบายต่อการดําเนนิ งานปอ้ งกัน การแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)

ระยะเวลาดาํ เนินการ
หลังเปิดภาคเรยี นท่ี 1 - 2 ปีการศึกษา 2563
หลังเปดิ ภาคเรยี น ปีการศกึ ษา 2564

8

การกํากบั ตดิ ตามและประเมินผล
การกํากับติดตามและประเมินผลของกระทรวงศึกษาธิการโดยผู้ตรวจราชการกระทรวง ศึกษาธิการและ

ศึกษาธกิ ารภาค ร่วมกบั กระทรวงสาธารณสุข มีประเดน็ ดังน้ี
1. ข้อมูลท่ัวไปของสถานศกึ ษา (สงั กดั ประเภทการจดั การศกึ ษา ระดบั ทีเ่ ปดิ สอน ขนาดสถานศกึ ษา)
2. การเปดิ เรียน (กรณีเปิดเรยี น On Site)
3. รปู แบบการจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online), ความพรอ้ มของผ้ปู กครอง
4. การดําเนนิ การตามแผนเผชิญเหตรุ องรบั การแพรร่ ะบาดโควิด 19 ของหน่วยงานตน้ สงั กดั หรอื
ทางราชการกาํ หนด
5. การดําเนินงานตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019
(COVID -
19) ของกระทรวงสาธารณสขุ หรอื ทางราชการกําหนด
6. การเตรียมแผนรองรบั กรณีพบครูหรอื บุคลากรของสถานศึกษา มีไข้และ/หรอื มีอาการของระบบทางเดิน
หายใจอย่างใดอยา่ งหนงึ่ (กรมอนามยั )
7. การปฏบิ ตั เิ พ่อื ผอ่ นคลายมาตรการส่กู ารจัดการเรียนการสอนตามปกติ
8. ปัญหา อุปสรรค ข้อจํากัดในการจัดการเรียนการสอนและมาตรการป้องกันในสถานการณ์การแพร่
ระบาด
ของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
9. ขอ้ เสนอแนะ

เคร่ืองมือท่ีใชต้ ดิ ตามประเมินผล
แบบติดตามประเมินผลการจัดการเรียนการสอนและการดําเนินการตามมาตรการ การป้องกันการแพร่

ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ระดับสถานศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวง
สาธารณสุข ภาคเรยี นที่ 1/2563 (ฉบบั ที่ 3 เดอื นกนั ยายน 2563) ตามภาคผนวก

ระบบการรายงานผล
การรายงานผลการติดตามประเมินผลการจัดการเรียนการสอนและการดําเนินการตาม มาตรการการ

ป้องกันในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) โดยการรวบรวมข้อมูลจาก
การลงพ้ืนทต่ี ดิ ตาม (Site Visit) ของคณะตรวจราชการและกาํ กับติดตาม ประเมินผลฯ ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ
และกระทรวงสาธารณสุข และการรายงานผลการดําเนินงาน ของสถานศึกษา โดยกรอกข้อมูลผ่านทางระบบ
อิเล็กทรอนิกส์การตรวจติดตามจัดการเรียนการสอน ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID - 19) ซึ่งพัฒนาระบบโดย ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สํานักงานปลัดกระทรวง
ศกึ ษาธิการ (WWW.COvid.moe.go.th) หรือ ระบบ Thai Stop Covid

9

แนวทางการวดั และประเมินผล ใน ช้นั เรียน ในสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัส
โคโรนา2019 (COVID-19)

จากแนวคิดที่ว่า “การเรียนรู้ของนักเรียนทุกคนจะเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่องและเท่าเทียมกัน เพราะการ
เรียนรนู้ ําการ ศกึ ษา โรงเรียนอาจหยุดได้ แตก่ ารเรียนรหู้ ยดุ ไม่ได้ และ การเรยี นรเู้ กดิ ขน้ึ ได้ทกุ ที่ ทุกเวลา การเรียนรู้
ของผู้เรียน ไม่ได้จํากัดเฉพาะในชั้นเรยี นเทา่ นั้น" ประกอบ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน มีนโยบาย
ให้สถานศกึ ษาจดั การเรยี นการสอนท่ีหลากหลายรปู แบบ ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา
2019 (COVID-19) โดยให้สถานศึกษา พิจารณารูปแบบการจัดการศึกษาที่ขึ้นอยู่กับสภาพ บริบท ความเหมาะสม
และความปลอดภัยของพื้นท่ี แตล่ ะแห่ง

จากแนวคิดและแนวปฏิบัติเชิงนโยบายดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าเมื่อการเรียนรู้ของนักเรียนเกิดข้ึน
อย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง ทั้งสถานที่จัดการเรียนรู้และเวลาที่เรียนรู้ โดยที่การวัดและประเมินผลผู้เรียนก็ควบคู่ไป
พร้อมกับการจัดการเรียนรู้ของครูเช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อให้การวัดและประเมินผลสามารถสะท้อนคุณภาพ
ของผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 2561 และสามารถนําผลไปใช้พัฒนาผู้เรียนได้
อย่างแท้จริง สอดคล้องกับบริบทแต่ละพ้ืนฐาน สํานักทดสอบทางการศึกษา สํานักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้น
พื้นฐาน จึงได้จัดทําแนวปฏิบัติการวัดและประเมินผลในชั้นเรียนในสถานการณ์แพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา2019 (COVID-19) โดยให้คํานึงถึงมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ไวรัสโคโรนา2019
(COVID-19) สําหรับให้สถานศึกษาและครผู ู้สอนนําไปใช้วางแผนและเป็นกรอบในการดาํ เนินงาน ดงั นี้

การวัดและประเมินผลผ้เู รียน แต่ละระดบั การศึกษา เนอ่ื งจากผูเ้ รียนแตล่ ะระดับการศกึ ษา มีธรรมชาติ
และความซับซ้อนของพฤติกรรมการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ดัง นั้น การวัดและประเมินผลผู้เรียน จึงต้องกําหนด
รูปแบบ และวิธีการให้เหมาะสมกับธรรมชาติและระดับความรู้ ความสามารถของผู้เรียนในระดับมัธยมศึกษาศึกษา
ดงั น้ี

ระดับมัธยมศึกษา เป็นการประเมินที่มุ่งเน้นตรวจ สอบความรู้ความสามารถ ทักษะ และคุณลักษณะของ
ผู้เรียน ตามมาตรฐานและตัวชี้วัดในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศกั ราช 2551 การจัดการเรยี นการสอนให้กับผู้เรยี นในระดับการศกึ ษาน้ี จึงมงุ่ เนน้ ให้มีความรู้ความ สามารถท้ัง
ด้านความรู้ ความคิด ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถทั้ง ด้านการอ่าน
การเขียน คิดคํานวณ และการสื่อสารด้วย วิธีการต่าง ๆ รวมทั้งผู้เรียนยังมีความสามารถในด้าน การใช้เทคโนโลยี
เป็นอย่างดี โดยมีแนวปฏิบัติไดด้ ังนี้

1) ใช้การวัดและประเมินผลผู้เรียนด้วยวิธีการและรูปแบบที่หลากหลายผสมผสานกันไป เช่น การสังเกต
การ สัมภาษณ์ การตรวจผลงาน การประเมินภาคปฏิบัติ การ ประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมผลงาน และการทดสอบ
เป็นต้น

2) อาจมีทง้ั การทดสอบ โดยใช้ข้อสอบและกระดาษคาํ ตอบผา่ นระบบการสอบออนไลน์ การทดสอบโดยใช้
โปรแกรมสาํ เร็จรปู เป็นต้น

3) มีการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สําหรับการบริหาร จัดการทดสอบและประเมินผู้เรียน ดังนั้นในการวัด
และ ประเมินผล ครูผู้สอนสามารถจัดระบบให้ผู้เรียนสามารถ ส่งข้อมูลสารสนเทศผลการประเมินย้อนกลับได้ด้วย
ตนเองไปให้ครูผู้สอน โดยใชจ้ ดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-Mail) หรอื ชอ่ งทางการสื่อสาร อื่น ๆ

10

4) ประสานขอความรว่ มมอื จากผู้ปกครองใหเ้ ขา้ มามี สว่ นรว่ มในการประเมนิ ผเู้ รยี น
5) สามารถไปตรวจเยี่ยมบ้านของผู้เรียนเพื่อประเมิน และตรวจสอบความรู้ความสามารถของผู้เรียน โดย
คาํ นงึ สภาพและความพรอ้ มของแตล่ ะพน้ื ที่
6) จัดทําตารางนัดหมายผู้เรียนเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อทํากิจกรรมการเรียนการสอนควบคู่กับการวัดและ
ประเมินผล ทงั้ ท่ีสถานศึกษาและทบ่ี า้ นนกั เรยี น

การวัดและประเมินผลตามพฤตกิ รรมของมาตรฐานและตัวชีว้ ัด
เนื่องจากมาตรฐานและตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 แต่ละกลมุ่
สาระการเรียนรู้ มีลักษณะพฤติกรรมที่แสดงออก 3 ด้าน คือ ด้านความรู้ (Knowledge) ด้านทักษะกระบวนการ
(Process skill) และดา้ นคุณลกั ษณะ (Attribute) ดงั นัน้ การวดั และประเมนิ คุณภาพผู้เรยี น จงึ จาํ เปน็ ต้องพิจารณา
และกาํ หนดรูปแบบวิธีการให้เหมาะสมกบั ลกั ษณะของพฤติกรรมท่ีตอ้ งการวัด ดังน้ี

1 ดา้ นความรู้ (Knowledge)
1) การวัดและประเมินผลใช้การทดสอบเป็นหลักข้อสอบที่ใช้ในการทดสอบมีทั้งข้อสอบแบบ

เลอื กตอบ และข้อสอบแบบเขียนตอบ ควรใชว้ ิธกี ารทดสอบที่หลาก หลาย ไดแ้ ก่ การใชโ้ ปรแกรมสําเร็จรูป
ท้งั รูปแบบ ออนไลน์ และรปู แบบทไ่ี มไ่ ดเ้ ชอ่ื มตอ่ ในคอมพิวเตอร์ เครอื ขา่ ย (ออฟไลน์) โดยใหผ้ ูเ้ รียนสามารถ
สอบท่ีบ ได้ ยืดหยนุ่ ตามสถานการณท์ เ่ี กิดข้ึน

2) มีการมอบหมายงาน นัดหมายเป็นกลุ่ม สําหรับการใช้ข้อสอบแบบเลือกตอบ ควรจัดทําชุด
ข้อสอบตาม มาตรฐานและตวั ช้วี ัด และมีการนดั หมายช่วงเวลาใน การทดสอบกับผู้เรยี นล่วงหนา้ เกดิ ขึน้

3) การทดสอบดว้ ยข้อสอบแบบเขยี นตอบ ควรกาํ หนดให้ผเู้ รียนเขยี นคําตอบลงในกระดาษคําตอบ
แลว้ จดั ส่ง ขอ้ มูลการทําขอ้ สอบมาใหค้ รผู ้สู อนผา่ นระบบเทคโนโลยี สารสนเทศตา่ ง ๆ

4) สามารถวัดพฤติกรรมด้านความรู้ของผู้เรียนผ่านการทํารายงานที่สะท้อนถึงพฤติกรรมตาม
ตัวชว้ี ัดแล้วจดั สง่ รายงานย้อนกลบั มายงั ครผู ้สู อน ผา่ นระบบ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ

2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (Process skill)
1) การวัดและประเมินผลใช้การประเมินภาคปฏิบัติเป็น หลัก เน้นการประเมินตามสภาพจริงที่

บ้าน ใช้แบบ ประเมินการปฏิบัติงาน แบบตรวจสอบรายการ แบบ บันทึกผลงาน และแบบบรรยายการ
ปฏิบัตงิ าน เปน็ ต้น

2) วิธีการจัดส่งงาน สามารถใช้การถ่ายวีดิทัศน์ การถ่ายรูปภาพผลงาน การบันทึกเสียง
โดยประสานขอความร่วมมอื จากผปู้ กครองเขา้ มามีสว่ นรว่ มในการ ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการของผ้เู รยี น

3) สามารถไปตรวจเย่ียมบ้านของผ้เู รียน เพื่อประเมนิ และตรวจสอบความสามารถด้านทักษะและ
การปฏบิ ตั ิ งานของผเู้ รียน โดยพจิ ารณาถงึ สภาพความปลอดภัยและมาตรการของแต่ละพื้นที่

4) มีการมอบหมายงานเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ให้ปฏิบัติงานทั้ง ที่บ้านหรือสถานศึกษา เพื่อจะได้ทําการ
ประเมินทกั ษะ การปฏบิ ัติงานของผู้เรยี น

11

3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (Attribute)
1) การวัดและประเมินผล ใช้การสังเกตและตรวจสอบ พฤติกรรมเป็นหลัก เครื่องมือวัดและ

ประเมินผู้เรียนมี หลากหลายประเภท เช่น แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต แบบตรวจสอบรายการ และแบบ
ประเมินตนเอง เป็นต้น

2) ควรประสานขอความร่วมมือกบั ผู้ปกครองในการ ประเมินพฤติกรรมของผู้เรียนผ่านการดําเนนิ
ชวี ติ ประจํา วนั การทาํ กจิ กรรมท่ีบ้าน การมอบหมายใหป้ ฏิบัติงาน เปน็ ต้น

3) สามารถไปตรวจเยี่ยมบ้านของผู้เรียนเพื่อประเมิน และตรวจสอบคุณลักษณะของผู้เรียน โดย
พจิ ารณาถงึ สภาพ ความปลอดภัย และมาตรการของแต่ละพนื้ ที่

4) มกี ารมอบหมายงานใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ัติงาน นดั หมาย ร่วมกนั เปน็ กลุ่มเลก็ ๆ เพ่ือสังเกตพฤติกรรม
และตรวจ สอบคณุ ลกั ษณะของผ้เู รียน

การวดั และประเมนิ ผลแต่ละจดุ มงุ่ หมาย การวดั และประเมนิ ผลผู้เรยี นมีจุดมงุ่ หมายสําคัญ คอื

1) การวัดและประเมินผลเพ่ือปรับปรุงและพัฒนา (Formative Assessment/Assessment For
Learning/ Assessment As Learning bax เป็นการวัดและประเมินคณุ ภาพผเู้ รียนท่เี กิดข้ึนระหว่าง
การเรียนการสอนตลอดปีการศึกษา/ภาคเรียน สรปุ แนว ปฏบิ ตั ไิ ดด้ งั นี้

1.1) ยึดหลักการประเมินและการเรียนรู้ของผู้เรียนเป็น เรื่องเดียวกัน ไม่แยกส่วน เน้นการ
ประเมินเพ่อื พัฒนา และตรวจสอบพฒั นาการเรียนร้ขู องผเู้ รยี นอยา่ งต่อเน่ือง

1.2) ออกแบบและวางแผนเกี่ยวกับวิธีการและเครื่องมือที่ ใช้ในการวัดและประเมินผลตาม
มาตรฐานและตัวชี้วัด ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการประเมินผลท่ี
หลากหลาย เชน่ การทดสอบ การสังเกตพฤติกรรม การสอบปากเปล่า การสมั ภาษณ์ หรอื การซกั ถาม การ
เขยี นสะท้อนการเรยี นรู้ การประเมิน ภาคปฏิบตั ิ การประเมนิ ด้วยแฟม้ สะสมงาน การประเมนิ ตนเอง การ
ประเมนิ ตามสภาพจริง เป็นตน้

1.3) วัดและประเมินผลผู้เรียนในแต่ละช่วงเวลาของการ จัดการเรียนรู้ พร้อมทั้งบันทึกข้อมลู
ผลการเรียนรขู้ องผู้ เรยี นอย่างตอ่ เนอ่ื ง และนําข้อมลู ทไี่ ด้ไปสกู่ ารวจิ ัยและ พัฒนาการเรยี นรู้ของผเู้ รยี น

1.4) มีการประสานขอความร่วมมือจากผู้ปกครองให้เข้า มามีส่วนร่วมในการประเมินผลและ
สะท้อนผลการเรียนรู้ (Feedback) กลับไปยังครูผูส้ อนอย่างต่อเนือ่ ง

1.5) นําและฝึกการใช้คําถามประเภทต่าง ๆ เพื่อกระตุ้น คิดให้กับผู้เรียน ให้มีการสามารถ
แสดงความคิดเห็น อภิปราย และวิพากษเ์ ชงิ สร้างสรรค์ ท้ังรายบคุ คลและรายกลมุ่

1.6) ควรจัดทําแนวทางการพัฒนาตนเองของผู้เรียน มีการนําเสนอองค์ความรู้ที่ได้หรือ
แหลง่ ข้อมูลในการ พัฒนาตนเองของผู้เรยี น เพอ่ื มอบหมายใหน้ ักเรียนปฏบิ ตั ิงานมีการประเมนิ ตนเองอย่าง
ตอ่ เน่อื ง เพือ่ กํากบั การเรียนรขู้ องตนเอง

1.7) จดั สง่ ข้อมูลผลการประเมนิ ยอ้ นกลบั ไปใหค้ รูผูส้ อน ผ่านชอ่ งทางการสอื่ สารต่าง ๆ

12

2) การวัดและประเมินผลเพื่อสรุปผลการเรียนรู้ (Sumative Assessment/Assessment of Learning)
ดงั นน้ั ครูผูส้ อนควรกําหนดรปู แบบและ แนวทางการวัดและประเมินผลในแต่ละจุดมุ่งหมาย ดังน้ี

เปน็ การวัดและประเมินคุณภาพผ้เู รยี นหลงั สิน้ สดุ ปีการ ศกึ ษา/ภาคเรียน สรุปแนวปฏิบตั ิได้ดังน้ี
2.1) ควรกําหนดมาตรฐานและตัวชี้วัดสําคัญที่ผู้เรียนจําเป็นต้องรู้และสามารถสะท้อนคุณภาพ
ผเู้ รยี นตลอดปี การศึกษา/ภาคเรียน
2.2) ควรใชว้ ธิ ีการหรอื รูปแบบการทดสอบต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับจาํ นวนและลักษณะธรรมชาติของ
ผ้เู รียน เช่น การ ใชโ้ ปรแกรมทดสอบสําเร็จรูป ในการทดสอบแบบ ออนไลน์ ท่ีสะดวกและงา่ ยต่อการเข้าถึง
การจัดทําชุด ข้อสอบตามมาตรฐานและตวั ช้ีวัด แลว้ นัดหมายชว่ งเวลา ในการทดสอบกับผเู้ รยี นลว่ งหน้า
2.3) อาจนดั หมายผ้เู รยี นมาสอบเป็นกลุม่ ยอ่ ย ๆ ผ่านชอ่ ง ทางตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม
2.4) จัดส่งขอ้ สอบให้ผู้เรยี นทาํ ทบี่ ้านแลว้ ให้นักเรียนจดั ส่งข้อสอบกลบั คนื ครูผ้สู อนผ่านชา่ งทางการ
ส่ือสารตา่ ง ๆ
2.5) อาจนําผลการวัดและประเมินผลผู้เรียนที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ในบทเรียนหรือหน่วยการ
เรยี นรตู้ ่าง ๆ หรือผลงาน ชน้ิ งานทเ่ี กิดจากการเรียนร้ขู องผู้เรยี นผา่ นรูปแบบและวิธีการต่าง ๆ มาวิเคราะห์
และสรุปผลเพื่อตัดสินโดยภาพรวม โดยยึดหยุ่นตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่จําเป็นต้องใช้การทดสอบ
ความรเู้ พยี งวธิ เี ดียว
2.6) ครูผู้สอนสามารถเลือกใช้ข้อสอบมาตรฐานที่มีการให้บริการจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ระบบคลัง
ข้อสอบ มาตรฐาน (SIBS) ระบบคลังข้อสอบตามแนวทางการ ทดสอบ PISA (PISA Online Testing)
ที่สํานักทดสอบทางการศึกษาสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพัฒนาขึ้น ทั้งในการวัดและ
ประเมิน เพ่ือปรับปรุงและพฒั นาและการวัดและประเมนิ ผลเพือ่ สรุปผลการเรียนรูไ้ ดอ้ ีกดว้ ย

การตัดสินผลการเรยี นในแต่ละกลุ่มสาระการเรยี นรู้ การตัดสินผลการเรียนในแต่ละกลุม่ สาระการ
เรยี นรู้ ให้ยดึ ตามแนวปฏบิ ัติการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 ที่สาํ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน กาํ หนดขึ้นโดยการตัดสินผลการเรียนใช้
ผลการประเมินระหว่างป/ี ภาคเรียนและผลการประเมนิ ปลายป/ี ภาคเรียน ตามสดั สว่ นท่สี ถานศึกษากําหนด
ลงิ คส์ าํ หรบั โหลด https://bet.obec.go.th/New20 20/?p=2637

13

ผ้พู ิทักษ์อนามยั โรงเรียน
การเปิดภาคเรียนของสถานศึกษา ในสภาวะที่ยงั มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา

2019 (โควดิ 19) ควรตอ้ งคาํ นึงถึงความเป็นอยู่ของเด็กและคุณภาพชวี ิตของเด็ก ท้งั ด้านโภชนาการ ความปลอดภัย
สขุ อนามยั ส่วนบคุ คล สขุ ภาพกาย สขุ ภาพจติ และการจดั สภาพแวดลอ้ มที่เออื้ ตอ่ การมสี ุขภาพดขี องนักเรียน จึงเห็น
ควรมีการสร้างผู้พิทักษ์อนามัยโรงเรียน ใหป้ ฏบิ ัติหน้าท่ีเปน็ ท่ีปรึกษาและกํากับติดตามการปฏิบัติตามมาตรการของ
สถานศึกษาตามนโยบาย ทางราชการท่กี าํ หนด พรอ้ มรายงานใหก้ ับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขรับทราบ
เพ่อื ให้ วางแผนการช่วยเหลอื ตามสถานการณ์อย่างทันทว่ งทีด่ งั นั้น จงึ กําหนดใหม้ ีบทบาทหนา้ ท่ี ดงั น้ี

บทบาทหนา้ ทข่ี องผพู้ ทิ กั ษอ์ นามัยโรงเรยี น
1. เป็นผู้ให้คําปรึกษา แนะนํา (Health Coach) การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า

2019 (โควดิ 19) ในสถานการศกึ ษาและชุมชน
2. รว่ มทมี ตรวจราชการระดบั จังหวัด และการกาํ กบั ตดิ ตามประเมินผลการปอ้ งกัน การแพร่ระบาดของโรค

ติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา่ 2019 (โควิด 19) ในสถานศกึ ษา
3. เป็นผู้ประเมินภายนอกในการเฝ้าระวังการปฏิบัติตามคู่มือการปฏบิ ัติสําหรับสถานศึกษา ในการป้องกัน

การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยสุ่มประเมินสถานศึกษา จํานวน 3 แห่งต่อเดือน ตามแบบประเมินตนเอง
สําหรับสถานศึกษาในการเตรียมความพร้อมหลังเปิดภาคเรียน และการประเมินตนเองของนักเรียนในการเตรียม
ความพร้อมหลังเปิดเรียนในการป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด 19) จํานวน 10
คน ตอ่ โรงเรยี นและบันทกึ รายงาน แบบออนไลน์

4. เป็นผู้ประเมินภายนอกในการเฝ้าระวงั และปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือ ไวรสั โคโรน่า 2019 (โค
วิด 19) ในชุมชน โดยสุ่มประเมนิ จํานวน 3 แห่งต่อเดือน ตามแบบตรวจประเมนิ เพื่อการเฝ้าระวังและปอ้ งกันการ
ติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ประเภทตลาด (1 แห่ง ต่อเดือน) และประเภทร้านอาหารหรือเครื่องดื่ม รถเข็น หาบเร่
แผงลอย การเฝ้าระวังและป้องกัน New ผู้พิทักษ์ การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (2 แห่งต่อเดือน) พร้อมลุ่ม
ประชาชนที่มารับบริการฯ ข้างต้นรายงาน รายงานผลการ จังหวัดละ ให้ประเมินตนเองในการป้องกันการแพร่
ระบาด ของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรน่า 2019 (โควดิ 19)

14

แนวปฏิบตั สิ ำหรับสถานศึกษารองรบั สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคโควิด 19
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีความรุนแรงมากขึ้นทั่วโลกและประเทศใกล้เคียง อาทิ
สาธารณรัฐแหง่ สหภาพเมยี นมา ซ่ึงประเทศไทยมพี ื้นที่ชายแดนด้านเมยี นมา กำลงั เปน็ พนื้ ทว่ี กิ ฤตทีส่ ดุ จำนวนผปู้ ่วย
ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจเป็นภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคโควิด 19 ในเขตพื้นที่ของชุมชน และ
สถานศึกษา อาจสง่ ผลกระทบตอ่ การจดั การเรียนการสอน ดังน้นั สถานศึกษาควรมีแนวปฏิบัติในการจัดการ
เรยี นการสอนตามตารางประสานสอดคล้องตามสถานการณ์ความรนุ แรงของการแพรร่ ะบาดของโรค โควดิ 19 ของ
สถานศกึ ษา จำแนกตามสถานศกึ ษาแตล่ ะประเภทมดี ังน้ี
สถานศึกษาประเภทการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน
1. กล่มุ นักเรยี น - สถานศกึ ษาจัดการเรยี นการสอนตามปกติ (ครบคนครบห้องครบช้ันเรยี น)

สขี าว-สเี ขียว - สถานศกึ ษาที่ตงั้ อยูใ่ นพื้นทท่ี ีไ่ มพ่ บผ้ตู ิดเชอื้ ไมน่ ้อยกว่า 90 วนั (พืน้ ทส่ี เี ขยี ว)
ได้รบั การพิจารณาอนุญาตจากศูนยป์ ฏบิ ัติการควบคุมโรคจงั หวัดให้จัดการเรียน
การสอนไดต้ ามปกติ
- โรงเรยี นมีมาตรการให้นักเรียน ครู บคุ ลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าทท่ี กุ คน
สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยมีอปุ กรณล์ า้ งมือและลา้ งมอื บ่อยๆ
มกี ารทำความสะอาดหอ้ งเรยี น ห้องปฏบิ ัตกิ ารหรอื โรงฝกึ งานและทำความสะอาด
อุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นการเรียนการสอนการฝึกปฏิบัตกิ ่อนและหลงั ใชง้ านทุกครงั้
ตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

สเี หลือง-สสี ้ม - สถานศึกษาจดั การเรียนการสอนแบบผสมผสานโดยมกี ารสลับวันเรียนแตล่ ะช้นั เรยี น
หรือมีการแบง่ จำนวนนักเรยี นใหเ้ หมาะสมกับการเว้นระยะหา่ ง ระหว่างกัน
(Social distancing)
- มมี าตรการให้นกั เรยี น ครู บคุ ลากรทางการศกึ ษาและเจ้าหน้าท่ที ุกคน สวมหนา้ กากผ้า
หรือหนา้ กากอนามัย มีอุปกรณล์ า้ งมือและล้างมือบ่อยๆ
- มีการทำความสะอาดห้องเรียน ห้องปฏิบตั ิการหรอื โรงฝึกงาน และทำความ
สะอาดอปุ กรณ์ที่ใช้ในการเรยี นการสอน การฝึกปฏิบตั ิก่อนและหลังใชง้ านทุกครง้ั

สแี ดง - สถานศึกษาจัดการเรยี นการสอนแบบ Online หรือ On air

15

แนวทางปฏิบัติการปดิ หรอื ไม่ปิดสถานศกึ ษากรณเี กิดโรคโควดิ 19

นยิ าม
⧫ ผ้ปู ่วยยืนยนั โรคโควิด 19 หมายถึงผูท้ ่ีมผี ลตรวจทางห้องปฏิบัตกิ ารพบวา่
ตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019

⧫ ผู้สำผสั ท่ีมคี วามเสยี่ งต่อการติดเชื้อสงู (High risk contact) (ผู้สัมผสั เสี่ยงสงู ) หมายถึง
ผ้สู ัมผัสใกลช้ ดิ กบั ผู้ป่วยยืนยนั โรคโควดิ 19 ตามลกั ษณะข้อใดข้อหน่ึง ดังน้ี
- ผ้ทู ่เี รียนผอู้ าศยั รว่ มห้องพัก หรอื ทำงานในหอ้ งเดียวกนั คลกุ คลีกัน
- ผู้สมั ผสั ที่มีการพดู คยุ กับผปู้ ว่ ยในระยะ 1 เมตร นานกวา่ 5 นาที
หรือถกู ไอ จาม รด จากผปู้ ่วยโรคโควดิ 19 โดยไมม่ ีการปอ้ งกัน
เช่น ไมส่ วมหนา้ กากอานามยั หรือหนา้ กากผา้
- ผู้ทีอ่ ยใู่ นบริเวณท่ปี ิดไม่มีการถ่ายเทอากาศ เช่น ในรถปรับอากาศ
ในหอ้ งปรบั อากาศ รว่ มกับผ้ปู ว่ ยโรคโควิด 19 และอย่หู ่างจาก
ผูป้ ่วยไมเ่ กิน 1 เมตร นานกวา่ 15 นาที โดยไม่มีการปอ้ งกัน
เช่น ไมส่ วมหน้ากากอานามัยหรือหน้ากากผา้

⧫ ผู้สมั ผัสทมี่ ีความเส่ยี งตอ่ การติดเชอ้ื ต่ำ (Low risk contact)
(ผสู้ ัมผสั เสี่ยงต่ำ) หมายถึง ผ้ทู ่ที ำกจิ กรรมอ่นื ๆ
ร่วมกับผู้ปว่ ยโรคโควดิ 19 แตไ่ มเ่ ขา้ เกณฑค์ วามเสยี่ งสูง

⧫ ผใู้ กล้ชิด
- ผู้ใกล้ชดิ กับผสู้ มั ผัสเส่ยี งสงู จดั เปน็ ผ้ทู ่มี ีความเสยี่ งต่อการตดิ เชื้อตำ่
- ผู้ใกล้ชดิ กับผู้สัมผัสเส่ียงตำ่ จดั เป็นไมม่ คี วามเส่ยี ง (No risk)

16

แนวทางปฏบิ ัตเิ ม่ือพบผ้ปู ่วยยืนยันโรคโควดิ 19 ในสถานศกึ ษา
ให้ ปิดห้องเรียน/ชน้ั เรยี น/สถานศกึ ษากรณพี บผปู้ ่วยยืนยนั โรคโควดิ 19

1. เมือ่ พบผู้ป่วยยืนยันโรคโควดิ 19 จำนวน 1 รายขึน้ ไป ใหป้ ดิ หอ้ งเรยี น
เป็นเวลา 3 วนั เพื่อทำความสะอาด

2. เมอื่ พบผู้ป่วยยนื ยนั โรคโควดิ 19 มากกวา่ 1 หอ้ งเรยี น ให้ปิดชนั้ เรียน
เปน็ เวลา 3 วันเพอ่ื ทำความสะอาด

3. หากมหี ลกั ฐานและความจำเปน็ ต้องปิดสถานศกึ ษา ให้ขอความเห็นชอบ
จากคณะกรรมการโรคติดตอ่ จงั หวัด

ไม่ต้องปิด ห้องเรยี น/ชน้ั เรยี น/สถานศกึ ษา กรณที ไี่ ม่พบผู้ปว่ ยยืนยนั โรคโควดิ 19 ในสถานศกึ ษา

โดยมแี นวทางดำเนนิ การ ดังน้ี
1. ผู้สัมผสั ทมี่ คี วามเส่ยี งตอ่ การติดเช้อื สูง (High risk contact) ในสถานศกึ ษา ดังนี้
• ผู้สมั ผสั ทมี่ ีความเสี่ยงต่อการติดเชอื้ สงู (High risk contact) ใหส้ งั เกตอาการ
ท่บี า้ นเป็นเวลา อยา่ งนอ้ ย 14 วัน หากพบอาการผดิ ปกติให้ไปพบแพทยเ์ พอื่ ตรวจวนิ ิจฉัย
ระหว่างรอผลให้กักตวั ท่บี ้าน
• สถานศกึ ษา ดำเนนิ กจิ กรรมไดต้ ามปกตแิ ละสอ่ื สารใหผ้ ูท้ เี่ กย่ี วข้องเข้าใจความเส่ยี งและ
แนวทางการดำเนินการในระยะต่อไป

2. ผูส้ ัมผสั ทีม่ ีความเส่ียงตอ่ การตดิ เชือ้ ตำ่ (Low risk contact) ใหส้ งั เกตอาการ เปน็ เวลา 14 วนั
ไมจ่ ำเปน็ ต้องหยุดเรียน และไม่จำเป็นต้องปิดสถานศกึ ษา (รกั ษาตามอาการหายปว่ ยแล้วเรียนตอ่ ได้)

3. ผูใ้ กล้ชิด
• ผู้ใกล้ชดิ กบั ผสู้ ัมผัสเสย่ี งสงู จดั ว่ามีความเสย่ี งตำ่
ไม่จำเป็นตอ้ งหยดุ เรยี นแต่ให้สงั เกตอาการเปน็ เวลา 14 วนั
• ผูใ้ กล้ชดิ กบั ผสู้ ัมผัสเสี่ยงตำ่ จดั ว่า ไมม่ คี วามเสย่ี ง
ไม่จำเปน็ ตอ้ งหยุดเรียน แตใ่ หส้ ังเกตอาการเปน็ เวลา 14 วัน

หมายเหตุ ท้ังนใ้ี นทกุ กรณี ขอให้ดำเนินการบนพ้นื ฐานของขอ้ มูลการสอบสวนทางระบาดวทิ ยาและ
สถานการณ์โรคในพ้นื ท่ี

17

18

19

6. มาตรการหลักในการป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -19 ในสถานศกึ ษาประกอบด้วย
1. มีมาตรการคัดกรองวัดไข้และอาการเส่ยี งก่อนเขา้ สถานศกึ ษา (อณุ ภูมไิ มเ่ กนิ 37.5 c)

- กรณีปกติใหต้ ิดสัญลักษณผ์ า่ น
- กรณมี ีไขส้ งู กว่าปกติ ใหน้ ัง่ พกั 5 – 10 นาทแี ละวดั ซำ้
- กรณีมีไข้สูงกว่า ปกติ หรือมีอาการของระบบทางเดินหายใจ ให้กันแยกไว้ต่างหากและบันทึกข้อมูล และแจ้ง
เจา้ หนา้ ที่สาธารณสขุ ในพืน้ ทีเ่ พื่อรบั ตรวจสอบตามมาตรการของสาธารณสุขต่อไป
2. สวมหน้ากากผ้าหรือหนา้ กากอนามยั ตลอดเวลา
3. จดั จุดลา้ งมอื หรือเจลแอลกอฮอลอ์ ย่างเพียงพอ
4. จดั ระยะห่างระหว่างบคุ คลอยา่ งน้อย 1-2 เมตร
5. ทำความสะอาดห้องเรยี น/พน้ื ผิวสมั ผสั ร่วม เปิดหนา้ ตา่ งประตู ระบายอากาศ
6. ไมจ่ ดั กิจกรรมรวมกล่มุ คนจำนวนมาก เหลอื่ มเวลา ลดเวลาทำกิจกรรม

20

จดุ คัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ
กอ่ นเขา้ สถานศึกษา


Click to View FlipBook Version