คำนำ
เอกสารรายงานผลการดำเนินโครงการเสริมสร้างความจงรักภักดี ยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ
ศาสนา พระมหากษัตริย์ และขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดีงามของไทยประจำปีงบประมาณ 2562 เพื่อ
ส่งเสริมให้บุคลากร มีความตระหนักถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์และ
ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดีงามของไทยและเป็นแบบอย่างทดี่ ีให้แก่ผู้เรียน และเพ่ือใหน้ ักเรียนยึดถือปฏิบัตใิ น
การแสดงออกถึงความจงรกั ภกั ดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์และขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดงี ามของ
ไทย
โดยในการดำเนินโครงการคร้ังนี้ได้รับความร่วมมือจาก หลายฝา่ ยตอ้ งขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ในการ
ดำเนนิ โครงการ อาจมขี ้อผิดพราดบางประการ ขออภัยไว้ ณ โอกาสน้ี
ผู้จดั ทำ
นายปรีชา สโุ พอง
ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพทั ลุง
สารบัญ
เรื่อง หน้า
บทท่ี 1 บทนำ 1
บทที่ 2 เอกสารที่เกยี่ วข้อง 6
บทท่ี 3 วิธกี ารดำเนินงาน 57
บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล 62
บทที่ 5 สรุป ประเมินผลและอภิปรายผล 66
ภาคผนวก
บทท่ี 1
บทนำ
หลกั การและเหตผุ ล
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ได้กำหนดประเดน็
การสรา้ งภูมิคุ้มกนั ของประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถรองรับผลกระทบการเปล่ียนแปลงได้อยา่ งมี
ประสิทธภิ าพ ซ่ึงประเทศไทยมกี ารปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ
สถาบันพระมหากษัตรยิ เ์ ป็นสถาบนั หลักที่ยดึ โยงคนไทยให้เกาะเก่ียวคนในชาติอยา่ งแนน่ แฟ้น เป็นแบบอย่างใน
การดำเนินชีวติ ของคนในสังคม
พระราชบญั ญัตทิ างการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๒ และแกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ที่๒) พ.ศ.๒๕๔๕
ม่งุ จดั การศึกษาเพื่อพฒั นาคนไทย ให้เป็นมนุษย์ท่ีสมบรู ณเ์ ป็นคนดี มีความสามารถและอยู่ร่วมกนั ในสังคมอยา่ ง
มคี วามสขุ ดว้ ยภาวะปัจจบุ ันความเจริญทางด้านเทคโนโลยแี ละการสอ่ื สารกา้ วหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ส่งผลต่อ
เด็กและเยาวชนอย่างมากดังน้ัน เพ่ือให้นักเรียนมีเจตคติ มรี ะเบียบวินัย มคี วามรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง สังคม
ประเทศชาติ ปลกู ฝังใหน้ กั เรียนมีคุณธรรมทดี่ งี ามมจี ิตไดส้ ำนกึ ในการทำความดี และนักเรยี นสามารถนำธรรมะ
ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้อย่างมคี วามสขุ ดว้ ยหลักการดงั กลา่ ว
จากนโยบายรฐั บาลเสริมสร้างและสนบั สนนุ ให้ทุกหนว่ ยงานท้งั ภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมหรือ
จัดพธิ ีการ โดยกำหนดให้ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาเข้ารว่ มกจิ กรรมเพอ่ื ประกอบพิธีการต่างๆใน
วันสำคัญหรอื พระราชพธิ ี ดว้ ยเหตุผลดังกลา่ วศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษ ประจำจังหวดั พัทลุง จงึ ได้ดำเนนิ การจดั
โครงการดงั กลา่ วโดยใหบ้ ุคลากรของศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพัทลุง ไดเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมพธิ ีการในวนั
สำคญั หรอื พระราชพิธีโดยถว้ นหนา้
วัตถุประสงค์ของโครงการ
๒.๑ เพ่อื ส่งเสริมใหบ้ คุ ลากร มีความตระหนักถึงความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
และขนบธรรมเนยี มประเพณีทีด่ ีงามของไทยและเปน็ แบบอย่างทด่ี ีให้แก่ผู้เรียน
๒.๒ เพ่ือให้นักเรียนยึดถอื ปฏิบตั ใิ นการแสดงออกถงึ ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และ
พระมหากษัตริย์และขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดงี ามของไทย
วตั ถปุ ระสงค์ของการประเมิน
1.เพือ่ ประเมนิ ความพงึ พอใจตอ่ การดำเนินโครงการเสริมสรา้ งความจงรกั ภกั ดี ยึดม่นั ในสถาบันหลกั
ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดงี ามของไทย
2.เพ่ือรวบรวมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อมูลท่ีได้ เสนอต่อผทู้ ่ีเก่ยี วข้องทราบเพื่อเปน็ แนวทาง
พฒั นาการจดั โครงการอื่นๆในคร้งั ตอ่ ไป
2
ขอบเขตของการประเมิน
การประเมนิ ผลการจัดการอบรมโครงการเสรมิ สร้างความจงรกั ภักดี ยึดมัน่ ในสถาบนั หลักของชาติ
ศาสนา พระมหากษตั ริย์ และขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดงี ามของไทย มขี อบเขตการประเมนิ ดงั นี้
1.ดา้ นปริมาณ
- กจิ กรรมวนั คลา้ ยวนั สวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร
บุคลากร ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดพัทลงุ จำนวน 30 คน
- กจิ กรรมวันปิยมหาราช
บคุ ลากร ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวดั พทั ลงุ จำนวน 10 คน
- กิจกรรมวันฝนหลวง
บคุ ลากร ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง จำนวน 10 คน
- กิจกรรมวันชาตแิ ละวันคล้ายวันเฉลมิ พระชนพรรษารัชการที่ ๙
บุคลากร ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพัทลงุ จำนวน 30 คน
- กิจกรรมวนั มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
บคุ ลากร ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง จำนวน 1๐ คน
- กจิ กรรมวันทอ้ งถนิ่ ไทย
บุคลากร ศูนย์การศกึ ษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพทั ลงุ จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันท่ีระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกลา้ เจ้าอยู่หวั พรมหาเจษฎาราชเจ้า (รัชการท๓่ี )
บุคลากร ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจังหวดั พัทลุง จำนวน 10 คน
- กิจกรรมวันคลา้ ยวนั พระราชสมภพ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
บคุ ลากร ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพทั ลงุ จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันจักรี
บคุ ลากร ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพทั ลงุ จำนวน 10 คน
- กิจกรรมวนั คล้ายวนั สวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
บุคลากร ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพัทลงุ จำนวน 10 คน
- กิจกรรมงานพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก
บคุ ลากร ศูนย์การศกึ ษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลงุ จำนวน 30 คน
- กิจกรรมในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี
บุคลากร ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพทั ลุง จำนวน 62 คน
- กิจกรรมวนั สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
บุคลากร ศนู ย์การศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันเฉลิมชนพรรษา รชั กาลท่ี 10
บุคลากร ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพทั ลงุ จำนวน 62 คน
- กจิ กรรมวันแมแ่ หง่ ชาติ
บุคลากร ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพัทลงุ จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันมาฆบูชา
บคุ ลากร ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง จำนวน ๕๐ คน
3
- กิจกรรมวนั วสิ าขบูชา จำนวน ๕๐ คน
บุคลากร ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจังหวัดพทั ลงุ จำนวน ๕๐ คน
จำนวน ๕๐ คน
- กจิ กรรมวนั เข้าพรรษา
บุคลากร ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษ ประจำจังหวดั พัทลงุ
- กจิ กรรมวนั ไหวค้ รู
บุคลากร ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพทั ลงุ
๒ ดา้ นคณุ ภาพ
บุคลากร ศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจังหวัดพัทลุง มีความสามคั คี และแสดงออกถงึ ความจงรักภักดี
ตอ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์ โดยคดิ เปน็ ร้อยละ ๘๐ ของทุกกิจกรรม
นิยามศัพทท์ ใี่ ช้ในการประเมิน
ความพึงพอใจ หมายถึง ความรสู้ ึกและความพงึ พอใจของกลมุ่ ตัวอย่างผูต้ อบแบบสอบถามที่มีต่อ
การจัดโครงการการบริหารจัดการลดความเสี่ยงจากภัยพิบตั ิในสถานศึกษา
ผู้เขา้ รว่ มอบรม หมายถึง ครูและบุคลากรในศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพัทลงุ
การประเมินความพงึ พอใจ หมายถึง การประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารว่ มโครงการการบรหิ าร
จดั การลดความเส่ียงจากภัยพิบัตใิ นสถานศึกษา
ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับจากการประเมนิ
1.ทราบถงึ ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของผเู้ ข้ารว่ มการอบรม
2.เพือ่ ได้ขอ้ มูลสารสนเทศที่สำคัญสำหรบั เสนอแก่ผูท้ ่เี กี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการจดั ก
กิจกรรมครั้งต่อไป
พน้ื ทด่ี ำเนินการ
กจิ กรรมท่ี ๑ กจิ กรรมวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร
-ศาลากลางจังหวัดพัทลุง
กจิ กรรมที่ ๒ กจิ กรรมวันปยิ มหาราช
-ศาลากลางจังหวัดพัทลงุ
กิจกรรมที่ ๓ วนั ฝนหลวง
-ศาลากลางจังหวัดพัทลงุ
4
กิจกรรมที่ ๔ กจิ กรรมวนั ชาติและวันคลา้ ยวันเฉลิมพระชนพรรษารัชการท่ี ๙
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลุง
กจิ กรรมท่ี 5 วนั มาตรฐานฝีมอื แรงงานแห่งชาติ
-ศาลากลางจังหวดั พัทลงุ
กิจกรรมที่ 6 วันทอ้ งถนิ่ ไทย
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลุง
กิจกรรมที่ 7 กิจกรรมวนั ที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจา้ อยหู่ วั พรมหาเจษฎาราชเจา้ (รัชการท๓่ี )
-ศาลากลางจังหวดั พัทลงุ
กิจกรรมที่ 8 กิจกรรมวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
-ศาลากลางจงั หวดั พัทลงุ
กิจกรรมที่ 9 กจิ กรรมวนั จักรี
-ศาลากลางจงั หวดั พัทลุง
กจิ กรรมท่ี ๑0 กจิ กรรมวนั คลา้ ยวนั สวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
-ศาลากลางจงั หวดั พัทลงุ
กจิ กรรมท่ี ๑1 กจิ กรรมงานพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก
-ศาลากลางจังหวัดพัทลงุ
กิจกรรมท่ี 12 กิจกรรมในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ี
-ศาลากลางจังหวดั พัทลุง
กจิ กรรมที่ 13 กจิ กรรมวันสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลุง
กจิ กรรมที่ ๑4 กิจกรรมวันเฉลมิ ชนพรรษา รชั กาลที่ 10
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลงุ
กิจกรรมท่ี 15 กจิ กรรมวันแมแ่ หง่ ชาติ
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลุง
กจิ กรรมท่ี ๑6 กจิ กรรมวนั มาฆบชู า
-วดั บ้านสวน
กิจกรรมท่ี ๑7 กิจกรรมวันวสิ าขบชู า
-วดั บา้ นสวน
กิจกรรมที่ ๑8 กจิ กรรมวนั เข้าพรรษา
-วัดบา้ นสวน
กิจกรรมท่ี 19 กิจกรรมวันไหว้ครู
-ศนู ย์การศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพทั ลุง
ระยะเวลาดำเนนิ การ
1 ตลุ าคม 2561 – 30 กนั ยายน 2562
5
ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ
๑ บุคลากร มีความตระหนกั ถึงความจงรกั ภกั ดีตอ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริยแ์ ละ
ขนบธรรมเนยี มประเพณีท่ีดีงามของไทยและเป็นแบบอย่างทด่ี ใี ห้แก่ผเู้ รยี น
๒ นักเรยี นยึดถอื ปฏบิ ัติในการแสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริยแ์ ละ
ขนบธรรมเนียมประเพณีทด่ี งี ามของไทย
บทที่ 2
เอกสารทเ่ี กยี่ วข้อง
เอกสารงานวิจยั ที่เก่ยี วข้องกับโครงการเสริมสรา้ งความจงรกั ภกั ดี ยึดมั่นในสถาบนั หลกั ของชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ และขนบธรรมเนียมประเพณีท่ดี ีงามของไทย ซึง่ ประกอบด้วย 18 กิจกรรมแนวคดิ และทฤษฎที ี่
เกีย่ วขอ้ งมรี ายละเอียดดงั น้ี
1.วนั คล้ายวนั สวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม
นาถบพิตร
2.วนั ปิยมหาราช
3.วันฝนหลวง
4.วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
5.วนั ทอ้ งถิ่นไทย
6.วนั ท่รี ะลกึ พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยหู่ ัวพรมหาเจษฎาราชเจา้ (รชั การท๓่ี )
7.วนั คล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกมุ ารี
8.วันจักรี
9.วันคล้ายวันสวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
10.งานพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษก
11.วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี
12.วันสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
13.กจิ กรรมวนั เฉลิมชนพรรษา รัชกาลที่ 10
14.วันแม่แห่งชาติ
15.วันมาฆบชู า
16.วนั วสิ าขบูชา
17.วันเขา้ พรรษา
18.วนั ไหว้ครู
19.โครงการเสรมิ สรา้ งความจงรักภักดี ยดึ ม่ันในสถาบนั หลกั ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
และขนบธรรมเนียมประเพณีทีด่ ีงามของไทย
20.แบบสอบถามแต่ละกิจกรรม 19 กจิ กรรม
21.บันทกึ ขออนุญาตเล่ือนการจดั กิจกรรม
1.วนั คล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (พระราชสมภพ 5
ธนั วาคม พ.ศ. 2470 – สวรรคต 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559) หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลย
เดช เป็นพระมหากษัตรยิ ์ไทยรัชกาลท่ี 9 แหง่ ราชวงศจ์ กั รี ครองราชยต์ ั้งแตว่ ันท่ี 9 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2489 นับเป็น
พระมหากษัตรยิ ์ไทยท่ีทรงครองราชสมบตั ยิ าวนานที่สุดในประเทศไทย[1] พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมอื่ วันท่ี 5
7
ธันวาคม พ.ศ. 2470 ท่ีโรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐ เป็นพระราชโอรสใน
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก กับ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็น
พระราชนดั ดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว กับสมเดจ็ พระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสา
อัยยิกาเจ้า พระองคท์ รงเป็นพระมหากษัตริยภ์ ายใตร้ ัฐธรรมนูญ และไดท้ รงหยุดยั้งการกบฏ เชน่ กบฏเมษาฮาวาย
ในปี พ.ศ. 2524 และ กบฏทหารนอกราชการ ในปี พ.ศ. 2528 กระน้ัน ในสมัยของพระองค์ได้มีการทำ
รฐั ประหารโดยทหารหลายคณะ เช่น จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ในปี พ.ศ. 2500 กับพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ในปี
พ.ศ. 2549 ตลอดระยะเวลา 70 ปี 4 เดือน 4 วัน ท่ีทรงรองราชย์ เกิดรัฐประหารโดยกองทัพ 11 ครั้ง
รัฐธรรมนูญ 16 ฉบับ และนายกรฐั มนตรี 27 คน ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่เคารพพระองค์[2][3][4] อน่ึง ตาม
รฐั ธรรมนูญ พระมหากษตั ริยท์ รงอยูใ่ นฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ และผใู้ ดจะละเมิดมไิ ด้ สว่ นประมวลกฎหมาย
อาญาบัญญัติไว้ว่า การดูหม่ิน หมิ่นประมาท หรืออาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์เป็นความผิดอาญา[4]
คณะรัฐมนตรีหลายชุดท่ีได้รับการเลือกต้ังมาก็ถูกคณะทหารล้มล้างไปด้วยข้อกล่าวหาว่านักการเมืองผู้ใหญ่หม่ิน
พระบรมเดชานุภาพ[5][6] กระน้ัน พระองค์เองได้ตรัสเมื่อปี พ.ศ. 2548 ว่า "สาธารณชนพึงวิพากษ์วิจารณ์
พระองค์ได้"[7] พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทยเก่ียวกับพระราชดำริในเร่ืองปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
โคฟี แอนนัน เลขาธกิ ารสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสดุ ด้านการพัฒนามนุษย์แด่พระองค์[8] ด้าน
สินทรัพย์ของพระองค์นิตยสารฟอบส์จัดอันดับให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ผู้มีพระราชทรัพย์มากที่สุดในโลก
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ถึง พ.ศ. 2556[9] เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 พระองค์มีพระราชทรัพย์ 30,000
ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ดูหมายเหตุด้านล่าง)[10] สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์น้ันใช้สินทรัพย์เพื่อ
สวัสดิการสาธารณะ เช่น เพ่ือพัฒนาเยาวชน แต่ได้รับการยกเว้นมิต้องจ่ายภาษีและให้เปิดเผยการเงินต่อ
พระมหากษัตริย์แต่พระองค์เดียว[11] ขณะท่ีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชก็ได้ทรงอุทิศพระ
ราชทรัพย์ไปในโครงการพัฒนาประเทศไทยหลายต่อหลายโครงการ โดยเฉพาะในทางเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม
สาธารณสขุ การส่งเสริมอาชีพ ทรัพยากรน้ำ สวัสดิการทางคมนาคม และสวัสดิการสาธารณะ[12] นับต้ังแต่เดือน
ตุลาคม พ.ศ. 2557 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเสด็จแปรพระราชฐานไป
ประทับรักษาพระอาการพระโรคไข้หวัดและพระปัปผาสะอักเสบ ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
ตลอดมา แต่พระอาการประชวรได้ทรุดหนักลงตามลำดับ และเสด็จสวรรคตเมื่อวันพฤหัสบดีท่ี 13 ตุลาคม พ.ศ.
2559 เวลา 15:52 น. สิริพระชนมพรรษา 88 พรรษา 313 วัน[13]
2.วนั ปิยมหาราช
วันที่ 23 ตุลาคม เป็นวนั คลา้ ยวันสวรรคตของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยู่หวั รชั กาลที่ 5 โดย
พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคณุ อนั ยิง่ ใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสง่ิ ท่โี ดดเดน่ คือ การประกาศเลิกทาส
เปน็ การหยดุ วงจรการเปน็ ทาส เพราะเม่ือสมัยกอ่ นหากพ่อแม่เปน็ ทาส ลูกท่ีเกดิ มาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรอื่ ยๆ ทาง
ราชการจงึ ได้ประกาศใหว้ ันที่ 23 ตลุ าคมของทกุ ปีเป็นหน่งึ ในวนั ระลกึ ถงึ ความสำคญั ของเหตุการณใ์ นชาติ โดย
เรยี กวา่ “วนั ปยิ มหาราช” พร้อมทง้ั กำหนดใหว้ ันน้ีเปน็ วันหยุดราชการ
ความสำคัญ
8
วนั ปยิ มหาราชเปน็ วันสวรรคต ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั รชั กาลที่ 5 ในทุกๆ ปี
หน่วยงานราชการจะมีการวางพวงมาลาดอกไม้ ที่พระบรมรปู ทรงมา้ อย่างพร้อมเพรียง เพอ่ื รำลึกถึงพระมหา
กรุณาธิคุณของสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว
การเลิกไพร่ เลิกทาส
แตด่ ้งั เดิมนน้ั ประเทศไทยของเรา มพี ลเมืองที่เปน็ ชนชัน้ ทาสมากกว่า 30% ของพลเมืองท้งั ประเทศ
เน่ืองจากการไดร้ บั วรรณะทาสนนั้ จะถกู สืบจากสายเลือด หากพ่อแมเ่ ป็นทาส ลูกกจ็ ะเปน็ ทาสดว้ ย โดยทาสนัน้ แบ่ง
ออกเป็น 7 ประเภทใหญ่ๆ
ทาสสินไถ:่ เกดิ จากการขายตัวเปน็ ทาส ทาสประเภทนีม้ ักยากจน
ทาสในเรือนเบยี้ : เกิดจากการท่แี ม่เปน็ ทาส พ่อเป็นนายทาส
ทาสมรดก: เกิดจากการสง่ ต่อมรดกของนายทาสทเ่ี สียชีวิตลง ส่งให้นายทาสคนต่อไป
ทาสทา่ นให้: ทานท่ีไดร้ บั มาจากผูอ้ ่นื
ทาสทัณฑ์โทษ: กรณที บ่ี ุคคลนน้ั ถกู ลงโทษ แต่ไมส่ ามารถหาเงนิ มาชดใช้ได้หมด ถ้าหากมีนายทาสมา
ช่วยเหลอื ถอื ว่าบุคคลนั้นกลายเป็นทาสของนายทาสคนนั้น
ทาสทช่ี ่วยไว้จากความอดอยาก: คอื การขายตนเองให้นายทาส เพ่อื หลกี หนจี ากความอดอยากทเ่ี ผชิญอยู่
ทาสเชลย: เกิดจากการท่ปี ระเทศหรอื พลเมืองนน้ั ๆ แพ้สงคราม จงึ ถกู ผ้ชู นะสงครามนำคนเหลา่ น้นั ไปเปน็
ทาสรับใช้
การจะหลุดออกจากการเปน็ ทาสนน้ั มี 6 วิธี
การหาเงนิ มาไถ่ถอนตนเอง
การบวชทตี่ อ้ งไดร้ บั การยินยอมจากนายทาส
การหลบหนีจากการเป็นเชลยในสงคราม
การแตง่ งานกบั ชนชัน้ สูงกว่า
การแจง้ ความนายจ้างว่าเปน็ กบฏ และตรวจสอบวา่ เป็นจริง
การประกาศจากรัชกาลท่ี 5 ใหม้ ีการเลกิ ทาส
3.วันฝนหลวง
โครงการฝนหลวง เปน็ โครงการท่ีเกดิ ข้ึนจากพระราชดำริส่วนพระองค์ในพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิ
เบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช เพือ่ สร้างฝนเทียมสำหรบั บรรเทาปญั หาความแหง้ แล้งขาดแคลนนำ้ ใน
การเกษตร เม่ือคราวทพ่ี ระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช เสด็จพระราชดำเนิน
เยยี่ มเยยี นพสกนิกร เม่ือปี พ.ศ. 2498 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ทรงรับทราบถงึ ความเดอื ดร้อนทุกขย์ าก
ของราษฎรและเกษตรกรที่ขาดแคลนนำ้ อุปโภคบริโภคและการเกษตร จึงได้มีพระมหากรุณาธิคณุ พระราชทาน
โครงการพระราชดำริ "ฝนหลวง"(Artificial rain) ใหก้ บั ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เทวกลุ ไปดำเนินการ ซึ่งต่อมาได้เกดิ เปน็
โครงการค้นคว้าทดลองปฏิบัติการฝนเทยี มหรือฝนหลวงข้ึน ในสังกดั สำนักงานปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เมอื่ ปี พ.ศ. 2512 ด้วยความสำเรจ็ ของ โครงการ จงึ ได้ตราพระราชกฤษฎกี ารก่อตง้ั สำนักงานปฏบิ ัตกิ ารฝนหลวง
9
ขน้ึ ในปี พ.ศ. 2518 ในสังกดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพ่อื เป็นหนว่ ยงานรองรับโครงการพระราชดำริฝน
หลวงต่อไป
การทำฝนเทยี มหรอื ฝนหลวงเปน็ กรรมวธิ ีการเหน่ียวนำนำ้ จากฟ้า ใช้เครือ่ งบินบรรจุสารเคมขี ึ้นไปโปรยใน
ทอ้ งฟ้า โดยดูจากความช้ืนของเมฆและสภาพทิศทางลมประกอบกนั ปจั จยั สำคัญทท่ี ำให้เกดิ ฝนคอื ความร้อนชนื้
ปะทะความเยน็ และมีแกนกลัน่ ตวั ที่มีประสทิ ธิภาพในปริมาณท่เี หมาะสม กลา่ วคือ เมื่อมวลอากาศรอ้ นช้ืนทรี่ ะดบั
ผวิ พืน้ ขึ้นส่อู ากาศเบื้องบน อุณหภมู ิของมวลอากาศจะลดต่ำลงจนถึงความสูงทีร่ ะดบั หนึ่ง หากอณุ หภูมิท่ีลดตำ่ ลง
นน้ั มากพอก็จะทำให้ไอน้ำในมวลอากาศอม่ิ ตวั จะเกดิ ขบวนการกล่ันตวั เองของไอน้ำในมวลอากาศขึ้นบนแกนกลน่ั
ตวั เกิดเป็นฝนตกลงมา ฉะนั้นสารเคมีที่ใชจ้ ึงประกอบดว้ ย "สูตรรอ้ น" ใช้เพื่อกระต้นุ เร่งเร้ากลไกการของ
บรรยากาศ, "สูตรเย็น" ใชเ้ พ่ือกระตนุ้ กลไกการรวมตัวของละอองเมฆใหโ้ ตขึ้นเปน็ เม็ดฝน และสตู รทใ่ี ช้เปน็ แกนดูด
ซับความช้นื เพ่ือใช้กระตนุ้ กลไกระบบการกล่ันตวั ใหม้ ีประสิทธิภาพสงู ขึน้
ขนั้ ตอนการทำฝนหลวง
ข้ันตอนที่หน่ึง : "กอ่ กวน"
เปน็ ขน้ั ตอนทเ่ี มฆธรรมชาตเิ ร่ิมกอ่ ตวั ทางแนวตัง้ การปฏบิ ตั ิการในขนั้ ตอนน้มี ุ่งใช้สารเคมีกระตุ้นให้
มวลอากาศลอยตัวขึน้ สู่เบ้ืองบน เพ่ือให้เกดิ กระบวนการชักนำไอนำ้ หรอื ความชนื้ เขา้ สรู่ ะบบการเกดิ เมฆ ระยะเวลา
ทจ่ี ะปฏบิ ตั ิการในขน้ั ตอนนีไ้ ม่ควรเกิน 10.00 น. ของแตล่ ะวนั โดยการใช้สารเคมที ่ีสามารถดูดซบั ไอนำ้ จากมวล
อากาศได้ (แม้จะมเี ปอรเ์ ซน็ ต์ความช้นื สมั พัทธ์ค่า critical relative humidity ต่ำ) เพ่อื กระตนุ้ กลไกของ
กระบวนการกลนั่ ตวั ไอนำ้ ในมวลอากาศ (เปน็ การสรา้ งสภาพแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสมต่อการเจรญิ เติบโตของเมฆด้วย)
ทางดา้ นเหนือลมของพ้นื ท่เี ป้าหมาย เม่ือเมฆเริ่มก่อตัวและเจรญิ เติบโตทางตงั้ แลว้ จงึ ใช้สารเคมีท่ใี หป้ ฏกิ ริ ยิ าคาย
ความร้อนโปรยเป็นวงกลมหรือเป็นแนวถัดมาทางใต้ลมเปน็ ระยะทางส้นั ๆ เข้าส่กู ้อนเมฆ เพื่อกระตุ้นให้เกดิ กลมุ่
แกนรว่ ม (main cloud core) ในบรเิ วณปฏบิ ัติการ สำหรับใชเ้ ป็นศูนยก์ ลางที่จะสร้างกลมุ่ เมฆฝนในข้นั ตอนต่อไป
ขัน้ ตอนที่สอง : "เลี้ยงให้อ้วน"
เป็นข้ันตอนทเี่ มฆกำลังกอ่ ตัวเจริญเตบิ โตซ่ึงเปน็ ระยะสำคญั มากในการปฏิบตั ิการ เพราะจะตอ้ งเพ่ิม
พลงั งานให้แก่การลอยตัวขึน้ ของกา๊ ซ (updraft) ใหย้ าวนานออกไป ต้องใช้เทคโนโลยีและประสบการณ์การทำฝน
ควบคูไ่ ปพร้อมกันเพอ่ื ตดั สนิ ใจโปรยสารเคมีชนิดใด ณ ทใ่ี ดของกล่มุ ก้อนเมฆ และในอัตราใดจงึ เหมาะสม เพราะ
ต้องให้กระบวนการเกิดละอองเมฆสมดุลกับความแรงของ updraft มฉิ ะนน้ั จะทำใหเ้ มฆสลาย
ขน้ั ตอนที่สาม : "โจมตี"
เป็นข้ันตอนสุดท้ายของกรรมวธิ ปี ฏบิ ตั ิการฝนหลวง เมฆ หรอื กลุ่มเมฆฝนมคี วามหนาแน่นมาก
พอที่จะสามารถตกเปน็ ฝนได้ ภายในกลุ่มเมฆจะมเี มด็ นำ้ ขนาดใหญม่ ากมาย หากเครื่องบินเขา้ ไปในกลุม่ เมฆฝนนี้
จะมีเมด็ น้ำเกาะตามปีกและกระจังหน้าของเครื่องบิน เป็นข้ันตอนทสี่ ำคัญ ตอ้ งอาศยั ประสบการณ์มาก เพราะ
จะตอ้ งปฏบิ ัติการเพอื่ ลดความรนุ แรงของ updraft หรือทำให้อายุของ updraft หมดไป สำหรับการปฏบิ ตั กิ ารใน
ขนั้ ตอนน้ี จะตอ้ งพิจารณาจดุ มุ่งหมายของการทำฝนหลวง ซงึ่ มอี ยู่ 2 ประเด็นคือเพื่อเพิ่มปรมิ าณฝนตก และ
เพือ่ ให้เกิดการกระจายการตกของฝน จงึ ทำให้เกดิ ฝนข้ึน
วันชาติและวันคล้ายวนั เฉลิมพระชนพรรษารชั การท่ี ๙
10
“วันชาต"ิ โดยทว่ั ไปมกั จะหมายถึง วันเฉลิมฉลองท่ีประเทศน้นั ๆ ได้รับอสิ รภาพ เปน็ เอกราช หรือเป็นวันสถาปนา
ประเทศ รัฐ ราชวงศ์ วนั พระราชสมภพของกษตั รยิ ์ วันเกิดประมขุ ของรฐั หรืออาจจะเป็นวันทมี่ คี วามสำคญั ทาง
ประวตั ิศาสตร์อืน่ ๆ แตม่ ักจะถือเปน็ วันหยดุ ประจำของชาติ ซ่ึง“วนั ชาต”ิ ของแต่ละประเทศจะเปน็ วันใด ก็ขนึ้ อยู่
กับการกำหนดของประเทศนั้นๆ
ความเป็นมาของวันชาติไทย แต่เดมิ กำหนดใหเ้ ปน็ วันท่ี 24 มิถนุ ายน เพราะเป็นวนั เปลยี่ นแปลงการ
ปกครองมาเปน็ ระบอบประชาธิปไตย ซงึ่ วันชาตขิ องไทยน้ันอยมู่ านานถงึ 21 ปี นบั ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2503 ก็ไดม้ กี าร
เปล่ยี นแปลงให้ถือวนั คล้ายวันพระบรมราชสมภพ เปน็ “วันชาติ" มาจนถึงปจั จุบนั
วนั ที่ 5 ธนั วาคม ของทุกปี จะเป็นวนั คลา้ ยวนั เฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอ
ดุลยเดช บรมนาถบพติ ร รัชกาลท่ี 9 และเป็นวันพ่อแห่งชาติ ซึ่งมขี ้นึ ครั้งแรก เมือ่ วนั ท่ี 5 ธนั วาคม 2523
เน่ืองจากพ่อเปน็ บคุ คลผมู้ พี ระคณุ และมบี ทบาทสำคัญต่อครอบครวั ดังนนั้ จึงถือเอาวนั ที่ 5 ธนั วาคม ของทุกปี ซึง่
เปน็ วันคลา้ ยวนั เฉลมิ พระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร จัดตั้ง
เป็น “วันพอ่ แห่งชาต”ิ
สมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร (รัชกาลที่ 10) โปรดเกล้าฯ ให้วนั ที่ 5
ธนั วาคม ของทกุ ปี เปน็ วันคล้ายวนั เฉลมิ พระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร, วนั พอ่ แหง่ ชาติ และวันชาติ (ประเทศไทย) เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธคิ ุณของพระบาทสมเด็จ
พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร ทรงอุทิศพระวรกาย พระราชหฤทยั และพระสติปญั ญาของ
พระองค์ บำเพ็ญพระราชกรณยี กิจอนั ยังประโยชนส์ ขุ ให้แก่ราษฎรของพระองค์มาโดยตลอด
4.วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแหง่ ชาติ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว ทรงสนพระราชหฤทยั ในงานช่างต้ังแต่ยังทรงศกึ าาอยู่ในสวติ เซอร์แลนด์ ได้
ทรงประดิษฐข์ องเลน่ ด้วยพระองคเ์ อง เชน่ เครอ่ื งรอ่ น และเรอื รบจำลอง หลงั จากท่ไี ดเ้ สด็จข้นึ ครองราชสมบตั แิ ล้ว
ไดท้ รงปฏบิ ัติพระราชภารกจิ ต่างๆ มากมาย เพราะทรงตระหนักว่า ประโยชนส์ ขุ ของมหาชนชาวสยามต้องมี
ความสำคัญก่อนเสมอ และจากการท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงสนพระราชหฤทยั ในกฬี าเรือใบเปน็ อยา่ ง
ย่ิง ประกอบกบั ทรงพระปรีชาสามารถทางการช่าง จงึ ทำให้ทรงมผี ลงานการออกแบบ และตอ่ เรือใบท่ีดเี ลศิ โดย
ทรงชนะเลิศการแข่งขนั กีฬาเรือใบในการแข่งขนั กีฬาแหลมทอง ครงั้ ที่ 4 พุทธศักราช 2510 ณ ประเทศไทย ด้วย
เรอื ทท่ี รงตอ่ ขึน้ ด้วยพระองค์เองจึงเปน็ ทป่ี ระจักษว์ า่ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวมพี ระอัจฉริยภาพทางการชา่ ง
อยา่ งแท้จริง เมือ่ วันท่ี 2 มนี าคม 2513 เป็นวนั ที่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั เสดจ็ พระราชดำเนินทรงเป็น
ประธานในพิธีเปิดงาน แนะแนวอาชพี และแข่งขันฝีมือแห่งชาติครัง้ ที่ 1 ณ ลมุ พนิ สี ถาน และมีพระราชดำรสั
เกย่ี วกบั ความเปน็ ชา่ งของคนไทย ความตอนหน่ึงว่า "...ช่างทุกประเภท เป็นกลไกสำคญั อยา่ งยง่ิ ในชีวิตของ
บ้านเมอื งและของคนทุกคน เพราะตลอดชีวิตของเรา เราต้องอาศัยและใชบ้ รกิ ารหรือสิ่งตา่ งๆ ท่มี าจากฝมี ือของ
ช่างอยูท่ ุกวีท่ ุกวนั ผู้เป็นช่างจงึ สมควรไดร้ ับความเอาใจใส่ สนับสนุนจากทกุ ๆ ฝา่ ย ยิง่ ในสมัยปัจจุบนั วิทยาการทุก
อยา่ งเจรญิ กา้ วหนา้ ยิ่งจำเป็นตอ้ งส่งเสรมิ มากเปน็ พิเศษ เพ่ือใหไ้ ดช้ ่างทมี่ ีความสามารถสูง ให้มีสงิ ใชส้ อยท่ีมี
คุณภาพดีและเพียงพอกบั ความตอ้ งการในการส่งเสริมน้นั มีปญั หาอันควรจะได้พจิ ารณาช่วยเหลอื อยู่สามประการ
-ประการแรก ไดแ้ ก่ ปัญหาเรื่องการใหค้ วามรู้ทางหลักวิทยาการ และความรู้ทางการออกแบบ
11
-ประการท่สี อง ได้แก่ ปญั หาเร่ืองฝมี อื ซง่ึ ต้องปรบั ปรุงให้มีความประณตี และประสทิ ธภิ าพไดม้ าตรฐาน
จริงๆ
-ประการท่สี าม ไดแ้ ก่ ปญั หาเร่ืองการจดั หางานและหาตลาด เพอื่ ช่วยให้ชา่ งได้มีงานทำ มตี ลาดทจ่ี ะสง่
สนิ คา้ ท่ีผลติ ได้ไปจำหน่าย การชว่ ยเหลอื ท้ังสามประการนี้จะตอ้ งการทำให้สอดคลอ้ งกนั ไป เพ่ือใหช้ า่ งมรี ายได้และ
ผลกำไรสำหรับนำมาเป็นทุนรอนสร้างฐานะและความก้าวหน้า ข้าพเจ้าใคร่ขอฝวากความคิดท้ังนี้ไวเ้ ปน็ แนวปฏบิ ตั ิ
ของท่านทงั้ หลายต่อไป...."
ดงั นั้น เพ่ือเป็นการเทดิ พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั กระทรวงแรงงาน จงึ เห็นสมควรถวาย
พระราชสมญั ญา "พระบดิ าแห่งมาตรฐานการช่างไทย" แด่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว โดยกำหนดใหว้ ันที่ 2
มีนาคมของทุกปีเปน็ "วนั มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาต"ิ กระทรวงแรงงาน โดยกรมพฒั นาฝีมอื แรงงาน ไดน้ ้อม
นำมาเปน็ แรงดลใจให้ทกุ ภาคส่วนได้เหน็ ถึงความสำคัญของการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีมาตรฐาน เพอ่ื พัฒนาคน
เพือ่ พัฒนาชาติ และได้ดำเนินการจดั งานวันมาตรฐานฝมี ือแรงงานแห่งชาตขิ นึ้ ในวันที่ 2 มีนาคม ของทุกปี นาย
เผดมิ ชยั สะสมทรพั ย์ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงแรงงาน ประธานในพธิ เี ปิดงาน วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแหง่ ชาติ
เผยวา่ "ปีนี้เราจดั งานระหว่างวันที่ 2-4 มนี าคม นอกจากจะเทดิ พระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ภมู ิพลอ
ดุลยเดช พระบดิ าแห่งมาตรฐานการช่างไทย แล้ว ยังเปน็ การกระตนุ้ ให้แรงงานหันมาเห็นความสำคัญของการเพม่ิ
ความรู้ ทักษะ ฝีมือ ใหไ้ ด้ตามมาตรฐานฝมี อื แรงงานแหง่ ชาติซึง่ จะชว่ ยเพม่ิ ศกั ยภาพในการผลิตสนิ คา้ และบริการที่
ดแี ก่ผบู้ ริโภค และสรา้ งความเชอ่ื มั่นแก่นักลงทุนท้งั ในและต่างประเทศ ในดา้ นคณุ ภาพมาตรฐานของสินค้า และ
การบรกิ ารที่ดีแรงงานไทยต้องใช้มาตรฐานฝมี ือแรงงานแห่งชาติ ใหเ้ ปน็ ประโยชนก์ บั ตวั เอง ซงึ่ จะส่งผลดตี อ่ การ
ได้รับคา่ จ้างทเ่ี ปน็ ธรรม ดา้ นสถานประกอบกจิ การยังสามารถเพม่ิ ผลิตภาพของสินค้าและบรกิ ารใหม้ ีคุณภาพตาม
ระดับฝีมอื ของช่าง และประโยชน์ในภาพรวมของประเทศทจ่ี ะสง่ ผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นไปในทิศทาง
ทีด่ ขี นึ้ และเป็นการเตรียมความพร้อมใหแ้ ก่แรงงานเพ่ือเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน" การแขง่ ขันทางด้าน
เศรษฐกิจของประเทศไทย หมดยุคใช้แรงงานราคาถกู แลว้ จงึ ต้องใชแ้ รงงานทมี่ ฝี ีมือและมีผลติ ภาพ ดงั นั้นผูท้ มี่ ี
ฝมี อื ได้มาตรฐาน จึงเป็นแรงงานท่ีมีผลิตภาพสูงกว่าแรงงานทัว่ ไป สามารถประกนั คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ทีเกิดจาก
แรงงานเหล่านัน้ ไดว้ า่ มีมาตรฐานและคุณภาพดี
5.วันท้องถิน่ ไทย
ตามท่ีประชมุ คณะรัฐมนตรี มีมตเิ หน็ ชอบประกาศใหว้ นั ที่ 18 มีนาคมของทุกปเี ปน็ “วันทอ้ งถ่ินไทย”
ตามทก่ี ระทรวงมหาดไทยเสนอมา เน่ืองจากรฐั บาลให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจให้กบั องคก์ รปกคร อง
สว่ นทอ้ งถ่ินและเพื่อเปน็ การนอ้ มรำลึกถงึ พระมหากรุณาธิคณุ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั
รัชกาลที่ 5 ท่ีทรงมีต่อการปกครองสว่ นท้องถ่ินไทยทั้งน้ี การกำหนดวันทอ้ งถ่ินไทยใหต้ รงกับวันที่ 18 มีนาคมของ
ทกุ ปี มีแนวคิดมาจากการที่ จังหวดั สมุทรสาคร จัดงานประเพณี 18 มีนาคม สุขาภิบาลท่าฉลอม โดยมจี ุดกำเนิด
มาจากการท่สี ขุ าภบิ าลทา่ ฉลอมเป็นสขุ าภบิ าลแห่งแร กของประเทศไทย และมีการจดั งานเป็นประจำทุกปี
“สบื เน่ืองจาก พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หวั รชั กาลที่ 5 ทรงมพี ระราชดำรัสในวันประชุมเสนาบดี
ภายหลังเสดจ็ ฯ ประพาสเมืองนครเขื่อนขันธ์ วา่ โสโครกเหมอื นกับตลาดทา่ จนี (ท่าฉลอม) นค่ี ือจุดพฒั นาจน
ก่อกำเนดิ สุขาภบิ าลแหง่ แรกของประเทศไทย” ท่าฉลอม เดิมเป็นตำบลหนึ่งอยู่ในการปกครองของอำเภอเมือง
12
สมุทรสาคร ตงั้ อยรู่ ิมฝ่งั แมน่ าํ้ ท่าจนี ตรงข้ามกับตำบลมหาชัย ซ่งึ เปน็ ท่ีตง้ั ของจังหวัดสมุทรสาคร ในอดตี การ
คมนาคมระหวา่ งตำบลท่าฉลอมกับตำบลมหาชยั มีอย่ทู างเดียว คือต้องนง่ั เรือข้ามแม่นํ้าท่าจนี ซง่ึ มีท่าเรอื อยูห่ น้า
เมอื ง จงึ เป็นที่มาของเพลง “ท่าฉลอม กบั มหาชัย” ที่ครูเพลงชาลี อินทรวิจติ ร แต่งให้ ชนินทร์ นันทนาคร ร้องจน
โดง่ ดังเป็นเพลงอมตะท่ชี าวสมุทรสาครและคนทวั่ ไปรูจ้ ักเพล งน้เี ปน็ อยา่ งดี แตป่ จั จบุ นั ถนนและสะพานตดั ขา้ ม
แม่นํา้ ทา่ จีนเชอ่ื มต่อถนนพระราม 2 ถงึ ท่าฉลอม จึงทำใหก้ ารคมนาคมมีความสะดวกสบายมากย่งิ ขน้ึ สขุ าภิบาล
ทา่ ฉลอม ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นสขุ าภิบาลแหง่ แรกของประเทศไทย ที่
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อย่หู ัว รัชกาลท่ี 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มพี ระบรมราชโองการประกาศ
จดั ตงั้ สขุ าภิบาลตลาดทา่ ฉลอม พรอ้ มกบั พระราชทานชอ่ื ถนนว่า“ถนนถวาย” ซง่ึ ประชาชนชาวตำบลท่าฉลอมได้
รว่ มกนั สละทีด่ นิ และเงินสร้างไว้ เม่ือวนั ที่ 18 มีนาคม พ.ศ.2448 จนถงึ วันน้กี น็ ับเปน็ เวลาได้ 106 ปี แล้วยอ้ น
อดตี ไปในปี พ.ศ.2440 พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู ัว รชั กาลที่ 5 มพี ระราชดำริทจ่ี ะกระจาย
อำนาจไปสู่ทอ้ งถิ่น โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ.
(รตั นโกสนิ ทรศ์ กที่) 116 ขึน้ ภายหลงั ที่ทรงสง่ คนไปศึกษาดูงานการปกครองในแถบประเทศยโุ รป และไดเ้ รมิ่ ทำ
การทดลองศกึ ษาขน้ึ ในกรงุ เทพมหานครสุขาภบิ าลน้ใี นชั้นตน้ ใหม้ หี น้าทีท่ ำลายขยะมูลฝอย การจดั เก็บที่ถา่ ย
อุจจาระ และปัสสาวะของประชาชนคนท่วั ไป จัดการห้ามต่อไปภายหนา้ อย่าได้ปลูกสรา้ งหรอื ซ่อมโรงเรอื นท่จี ะเ
ป็นเหตุใหเ้ กดิ โรค ขนยา้ ยส่ิงโสโครกและส่ิงรำคาญของมหาชนไปใหพ้ ้นเสยี การบริหารงานของสขุ าภิบาลกรุงเทพฯ
น้ี ดำเนนิ การโดยข้าราชการทั้งหมด โดยมเี สนาบดีกระทรวงนครบาลเปน็ ผู้กำหนด เมื่อพิจารณารูปแบบการ
ปกครองแล้วจึงไม่อาจกลา่ วได้ว่า สขุ าภบิ าลกรงุ เทพฯ ร.ศ.116 เปน็ การปกครองท้องถ่ิน เนือ่ งจากประชาชนมไิ ด้
มสี ่วนรว่ มแต่อย่างใด เป็นการดำเนนิ การโดยข้าราชการและใช้จา่ ยงบประมาณจากส่วนกลาง พระบาทสมเด็จพระ
จลุ จอมเกล้าเจา้ อยู่หวั ครัง้ เสด็จประพาสเมืองนครเขื่อนขนั ธ์ (เมอื งพระประแดง สมุทรปราการ) เม่ือวันที่ 30
กรกฎาคม ร.ศ.124 ทรงทอดพระเนตรเห็นสภาพตลาดเมืองนครเข่ือนขนั ธส์ กปรกมาก และทรงมีพระราชดำรสั ใน
ที่ประชมุ เสนาบดีวา่ “โสโครกเหมือนกบั ตลาดท่าจนี ” (ตลาดท่าฉลอม) จึงเป็นเหตุใหส้ มเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ เสนาบดกี ระทรวงมหาดไทย รอ้ นพระทยั มากทรงคิดหาวธิ ีรว่ มกับ พระยาพิไชยสนุ ทร
ผ้วู ่าราชการเมืองสมุทรสาคร ทางพระยาพิไชยสนุ ทรจึงได้เชิญกำนนั ผูใ้ หญ่บ้าน และพ่อคา้ ชาวจนี ในตลาดท่า
ฉลอมมาประชมุ เพื่อร่วมกันพิจารณาหาทาง ปรบั ปรุงแก้ไข ซง่ึ ได้ข้อสรุปวา่ ประชาชนและพ่อคา้ ชาวจีน ยนิ ดที ่จี ะ
ออกเงินซ้ือ อฐิ ปูถนน แตข่ อใหท้ างผูว้ ่าราชการเมืองเปน็ ผู้ทำถนน โดยใช้แรงงานนักโทษทำการปรบั พื้นดินและเก็บ
กวาดขยะมูลฝอยขนไปเท ทง้ิ เปน็ ครงั้ คราว โดยสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ได้เสด็จ
ออกตรวจดกู ารดำเนินงานก่อสรา้ งถนนในวนั ท่ี 13 กุมภาพันธ์ ร.ศ.124 ถนนสายนข้ี ้าราชการ พอ่ ค้า ประชาชน
ไดเ้ ร่ยี ไรกันเปน็ จำนวนเงนิ 5,472 บาท เป็นถนนปอู ิฐกวา้ ง 2 วา ยาว 11 เสน้ 14 วา และทรงมีพระดำริว่า
ถนนสายนเ้ี ปน็ ของราษฎรได้ลงทุนเสยี สละเงนิ เป็นจำนวนมาก หากไมม่ แี ผนรองรับการซ่อมแซมไวใ้ หด้ ีแล้วอาจ
ชำรดุ เสยี หาย ทรงเหน็ เปน็ โอกาสทดี่ ีทีจ่ ะใช้ภาษีโรงรา้ นให้เป็นภาษีสำหรบั สขุ าภบิ าล จงึ กราบบงั คมทลู ขอ
พระราชทานเงนิ ภาษโี รงร้านตลาดท่าฉลอมมาใชท้ ำน ◌บุ ำรุงท้องถิ่นในกจิ การ 3 ประเภท คือ ซ่อมแซมถนน จุด
โคมไฟใหม้ แี สงสวา่ งในเวลาค่ําคนื และจดั จ้างคนงานสำหรับกวาดขยะมูลฝอยข้อเสนอในการใช้ภาษโี รงรา้ นนี้
ไดร้ ับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ั ว รชั กาลที่ 5 เมื่อวนั ที่ 9 มนี าคม พ.ศ.
2448 จึงนับได้ว่าเปน็ วันกำเนดิ สขุ าภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย โดยมีคณะกรรมบริหารชุดแรกประกอบดว้ ย
13
1.หลวงพฒั นาการภักดี กำนันตำบลทา่ ฉลอม 2.ขนุ พิจารณน์ รกิจ 3.ขนุ พินจิ นรภาร 4.จีนพกั 5.จนี ศุข 6.จนี เน่า
7.จีนอดู๊ และ 8.จีนโป๊ะ ผใู้ หญบ่ ้าน จากน้ันในวันท่ี 18 มีนาคม พ.ศ.2448 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจา้ อย่หู วั ทรงเสดจ็ พระราชดำเนินมายงั เมืองสมุทรสาครโดยทางรถไฟเพอ่ื ทรงเปิ ด “ถนนถวาย” ที่ประชาชนชาว
ตำบลทา่ ฉลอมมคี วามสามคั คี ร่วมแรงร่วมใจกันเสียสละเพ่ือพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง ต่อมาจงึ ได้ถือเอาวนั ที่ 18
มนี า
6.วันทร่ี ะลึกพระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกล้าเจ้าอยหู่ ัวพรมหาเจษฎาราชเจา้ (รัชการที่๓)
วนั ทร่ี ะลกึ พระบาทสมเด็จพระน่ังเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ตรงกบั วันท่ี ๓๑ มีนาคม ของ
ทุกปี เป็นวันคลา้ ยวนั พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระนงั่ เกล้าเจ้าอยู่หัว รชั กาลท่ี 3
พระบาทสมเด็จพระน่งั เกล้าเจา้ อย่หู ัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า รัชกาลท่ี ๓ แห่งพระบรมราชจกั รีวงศ์ เป็นพระราช
โอรสพระองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลัย และเจ้าจอมมารดาเรยี ม ซ่งึ ต่อมาได้รับการสถาปนา
พระอิสริยศักดิ์เป็น สมเดจ็ พระศรีสุลาลัยเสด็จพระราชสมภพ เมอื่ วนั จนั ทร์ท่ี ๓๑ มนี าคม พ.ศ.๒๓๓๐ ณ
พระราชวงั เดมิ กรุงธนบุรี ทรงสวรรคต เมอ่ื วันที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๓๙๔ รวมพระชนมายุ ๖๓ พรรษา กับ ๑๑
วัน เสด็จดำรงในสิรริ าชสมบัติ ๒๕ ปี ๗ เดือน ๒๓ วัน พระบาทสมเด็จ พระน่งั เกล้าเจ้าอยูห่ วั มีพระนามเดมิ วา่
พระองคเ์ จ้าชายทบั พระองคไ์ ดป้ ฎิบตั ริ าชการแผน่ ดินดัง้ แต่รัชสมัยของพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลก
ซึง่ ขณะนัน้ สมเด็จพระบรมชนกนาถยังทรงดำรงตำแหน่ง กรมพระราชวงั บวรสถานมงคล พระองค์ทรงไดร้ บั
มอบหมายใหป้ ฏบิ ัตริ าชการในตำแหน่งสำคญั ๆ สืบมาในรัชสมยั ของพระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลิศหลา้ นภาลยั ใน
พ.ศ. ๒๓๕๖ เม่อื พระชนมพรรษาได้ ๒๖ พรรษา ทรงไดร้ บั การสถาปนาขึ้นเปน็ เจา้ ตา่ งกรม ทรงพระนามว่า พระ
เจ้าลกู เธอกรมหม่ืนเจษฏาบดินทร์ โดยทรงได้รับการไวว้ างพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ ใหท้ รง
กำกบั ราชการกรมท่า กรมพระคลงั มหาสมบัติ กรมพระตำรวจว่าความฎกี า นอกจากน้ียังโปรดเกล้าฯ ให้รับ
ราชการต่างพระเนตรพระกรรณดว้ ย ทางราชการถือเป็นวันสำคัญของชาตเิ พื่อใหร้ ฐั บาลและประชาชนชาวไทย
ไดร้ ำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองคท์ ่ีทรงมีต่อราษฎรและแผ่นดนิ ไทย พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดี ศรี
สินทรมหาเจษฎาบดินทร์พระนั่งเกลา้ เจา้ อยู่หัว ในรชั สมยั แหง่ การครองราชย์นั้นทรงปกครองบ้านเมือง ให้ร่มเยน็
เป็นสขุ และพัฒนาให้ชาตไิ ทย มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ดา้ น รวมท้งั ด้านการเมือง การทหาร ท่ีทรงทำนุ
บำรงุ และสามารถรักษาความเปน็ ชาตอิ ธปิ ไตยไว้ได้ ครัน้ เมื่อพระองค์เสดจ็ สวรรคตล่วงเลยมา ๔๓ ปี พระองค์ก็ยัง
ได้โปรดพระราชทานพระราชทรัพยส์ ว่ นพระองค์ "เงนิ ถุงแดง" ไวเ้ พ่ือประโยชนแ์ ก่แผน่ ดิน และเงินจำนวนน้ี
สามารถใช้กอบกู้เอกราชในดินแดนบางสว่ นและรกั ษาอำนาจอธปิ ไตย ไว้ได้จนทุกวันน้ี
ประชาชนชาวไทยและรัฐบาลจงึ พรอ้ มใจกันประดษิ ฐานพระราชานสุ าวรยี ์ ณ ลานพลบั พลา มหาเจษฎา
บดินทร์หน้าวดั ราชนัดดาราม ในปี พ.ศ.๒๕๔๑ ทางราชการได้มีการถวายพระราชสมญั ญาว่า "พระมหาเจษฎา
ราชเจา้ " และไดไ้ ชช้ ื่อวนั งานใหม่ว่า "วันท่ีระลึกพระบาทสมเด็จพระนง่ั เกล้าเจ้าอย่หู วั พระมหาเจษฎาราชเจ้า"
7.วนั คลา้ ยวันพระราชสมภพ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
ศาสตราจารย์ พลเอกหญงิ พลเรอื เอกหญงิ พลอากาศเอกหญิง สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจา้ กรมสมเด็จ
พระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟา้ มหาจักรสี ิรินธร มหาวชริ าลงกรณวรราชภักดี สริ ิกิจการณิ ีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากร
14
ปยิ ชาติ สยามบรมราชกุมารี (พระราชสมภพ 2 เมษายน พ.ศ. 2498) เปน็ พระราชธิดาในพระบาทสมเดจ็ พระ
มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี
พันปีหลวง เปน็ พระโสทรกนิษฐภคินใี นพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หวั เปน็ เจ้านายพระองค์แรกท่ีได้รับ
สถาปนาพระอิสรยิ ยศท่ี “สยามบรมราชกุมารี” ปจั จบุ ันดำรงตำแหนง่ นายกสภาสถาบันเทคโนโลยีจติ รลดา [1]
ประธานกรรมการมูลนิธหิ ัวใจแหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถมั ภ[์ 2] พระองคม์ ีพระปรีชาสามารถในหลาย ๆ
ด้าน โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงทางด้านอกั ษรศาสตรแ์ ละดนตรไี ทย ซ่ึงพระองคไ์ ด้นำมาใชใ้ นการอนรุ ักษ์ ส่งเสริม และให้
การอุปถมั ภใ์ นด้านศิลปวฒั นธรรมของประเทศ จากพระราชกรณยี กิจในด้านศลิ ปวฒั นธรรมนี้ พระองคจ์ ึงไดร้ บั
การทลู เกลา้ ทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญาวา่ “เอกอัครราชูปถมั ภกมรดกวฒั นธรรมไทย” และ “วศิ ิษฏศิลปิน”
[3] นอกจากนี้ พระองคย์ งั ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการศึกษา การพฒั นาสงั คม โดย
ทรงมโี ครงการในพระราชดำริสว่ นพระองค์หลายหลากโครงการ ซงึ่ โครงการในระยะเริ่มต้นนน้ั มุ่งเน้นทางด้านการ
แกป้ ญั หาการขาดสารอาหารของเด็กในท้องถิน่ ทุรกนั ดาร และพฒั นามาส่กู ารให้ความสำคัญทางดา้ นการศึกษาเพื่อ
การพฒั นาราษฎร[4]
8.วนั จักรี
วันพระบาทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และ วนั ท่ีระลึกมหาจักรบี รมราชวงศ์ หรอื วนั จกั รี
เปน็ วันทร่ี ะลึกถึงพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราชและมหาจักรบี รมราชวงศ์ ตรงกับวันท่ี 6
เมษายนของทุกปี
วนั ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 เปน็ วนั ทพี่ ระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเสด็จ
ปราบดาภิเษกข้นึ ครองราชสมบตั เิ ป็นพระมหากษตั ริย์แหง่ ราชวงศ์จกั รีและทรงสถาปนากรงุ เทพมหานครเปน็ เมือง
หลวงของประเทศไทย ด้วยพระมหากรุณาธิคณุ ดงั กล่าว ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้
เจ้าอยูห่ วั จงึ โปรดเกลา้ ฯ ให้หลอ่ พระบรมรปู พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั 4 พระองค์ ไดแ้ ก่ พระบาทสมเด็จพระ
พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนงั่ เกล้าเจ้าอยหู่ ัว และ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั เพื่อประดิษฐานไวใ้ ห้พระมหากษตั ริย์องค์ตอ่ มา พระบรมวงศานุวงศ์
ขา้ ราชการ และประชาชนได้ถวายบงั คมระลึกถึงพระมหากรณุ าธคิ ุณเปน็ ธรรมเนียมปีละครง้ั และโปรดเกล้าฯ ให้
อญั เชิญไปประดิษฐานไวบ้ นพระท่ีนง่ั ดุสิตมหาปราสาท แต่มีการย้ายสถานที่ในการประดิษฐานหลายครงั้ เช่น พระ
ทน่ี ง่ั สทุ ไธสวรรยปราสาท และพระท่ีนง่ั ศวิ าลยั มหาปราสาท เปน็ ตน้ ตอ่ มาในรชั สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ
เกลา้ เจ้าอยหู่ วั โปรดให้ยา้ ยพระบรมรูปมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบดิ ร ในวัดพระศรรี ัตนศาสดาราม พร้อมกับพระ
บรมรูปของรชั กาลท่ี 5 พระบรมชนกนาถ จนกระท่งั ในเดอื นเมษายน พ.ศ. 2461 การซ่อมแซมก่อสรา้ งและ
ประดษิ ฐานพระบรมรปู ทง้ั 5 รัชกาล จึงสำเร็จลลุ ่วง และได้มพี ระบรมราชโองการประกาศต้งั พระราชพธิ ถี วาย
บังคมพระบรมรูป ในวนั ที่ 6 เมษายนปีนั้น และต่อมาโปรดฯ ให้เรยี กวนั ท่ี 6 เมษายนวา่ “วนั จักรี”
9.วันคลา้ ยวันสวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดมิ วา่ พระนเรศ หรือ "พระองค์ดำ" เป็นพระราชโอรสในสมเดจ็
พระมหาธรรมราชาและพระวิสทุ ธกิ ษัตรีย์ เสดจ็ พระราชสมภพเมือ่ พ.ศ. 2098 ทีพ่ ระราชวงั จนั ทน์ เมือง
15
พษิ ณโุ ลก มีพระเชษฐภคนิ ีคือพระสุพรรณกัลยา มีพระอนชุ าคอื สมเดจ็ พระเอกาทศรถ (องคข์ าว) เสด็จขึน้
ครองราชย์เม่ือวันท่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเม่ือวันท่ี 25 เมษายน พ.ศ.
2148 สริ พิ ระชนมายุ 50 พรรษา
พระนามของพระองคป์ รากฏในลายลกั ษณ์อกั ษรหลายฉบับ เชน่ พระนเรศ วรราชาธิราช, พระนเรศ, องค์
ดำ จึงยังไมส่ ามารถสรปุ ได้วา่ พระนาม "นเรศวร" ได้มาจากทีใ่ ด สนั นิษฐานเบ้อื งต้นว่า เพ้ียนมาจาก สมเดจ็ พระ
นเรศ วรราชาธริ าช มาเป็น สมเด็จพระนเรศวร ราชาธิราช[ต้องการอา้ งอิง]
ราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นเหตุการณท์ ย่ี ่งิ ใหญ่และสำคัญยง่ิ ของชาตไิ ทย พระองค์ได้กู้
อสิ รภาพของไทยจากการเสียกรงุ ศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผอ่ ำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกวา้ งใหญ่
ไพศาล นับตงั้ แตป่ ระเทศพม่าตอนใตท้ ้ังหมด น่ันคือ จากฝ่ังมหาสมทุ รอินเดียทางด้านตะวันตก ไปจนถงึ ฝงั่
มหาสมุทรแปซิฟิกทางดา้ นตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไปถงึ แหลมมลายู ทางดา้ นทิศเหนือกถ็ ึงฝั่งแม่น้ำโขงโดย
ตลอด และยงั รวมไปถึงรฐั ไทใหญ่บางรฐั
10.งานพระราชพิธบี รมราชาภิเษก
พระราชพิธบี รมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 เปน็ พระราชพิธีบรมราชาภเิ ษกสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหา
วชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกูร เสดจ็ เถลิงถวลั ยราชสมบัตเิ ปน็ พระมหากษัตรยิ แ์ หง่ ประเทศไทย พรอ้ มทั้งเฉลิม
พระปรมาภไิ ธย พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยูห่ วั พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แหง่ ราชวงศ์จกั รีอยา่ ง
สมบูรณต์ ามโบราณราชประเพณี
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น ประกอบดว้ ย พระราชพธิ ีเบ้ืองตน้ ระหวา่ งวันที่ 6-23
เมษายน พ.ศ. 2562 ตอ่ จากนั้นเปน็ พระราชพิธีเบือ้ งกลางและพระราชพิธบี รมราชาภิเษก ซ่ึงประกอบด้วย การ
สักการะสง่ิ ศกั ดิส์ ิทธิก์ อ่ นการพระราชพธิ ี และการพระราชพิธีบรมราชาภเิ ษก ซงึ่ มขี ้ันตอนคือ พิธสี รงพระมุรธา
ภเิ ษก, พธิ ถี วายน้ำอภเิ ษก ตอ่ ดว้ ยพระราชพิธีเฉลมิ พระปรมาภไิ ธย พระนามาภิไธย สถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระ
บรมวงศ,์ การเสดจ็ พระราชดำเนนิ เลยี บพระนครโดยริ้วกระบวนพยุหยาตราทางสถลมารค และการเสดจ็ ออกมหา
สมาคมรบั การถวายพระพรชัยมงคล ระหวา่ งวันที่ 4-6 พฤษภาคม ปีเดยี วกนั ณ พระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
กรุงเทพมหานคร และสดุ ท้ายคอื พระราชพธิ ีเบ้ืองปลาย ซ่ึงเป็นการเสดจ็ พระราชดำเนินเลียบพระนครโดยริว้
กระบวนพยุหยาตราชลมารค ซง่ึ ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้มีขนึ้ ในวนั ท่ี 12 ธันวาคม ปีเดียวกัน
ทั้งน้ี พระราชพิธบี รมราชาภิเษก พุทธศกั ราช 2562 เป็นพระราชพิธบี รมราชาภเิ ษกคร้ังแรกในประเทศ
ไทยท่ีมกี ารถ่ายทอดผา่ นทางสถานโี ทรทศั น์ โดยทุกสถานจี ะเช่ือมสัญญาณการถ่ายทอดสดจากโทรทัศน์รวมการ
เฉพาะกิจแหง่ ประเทศไทย[1]
11.วนั เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี
พลเอกหญงิ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พชั รสธุ าพมิ ลลักษณ พระบรมราชนิ ี (เดิม: สทุ ิดา ติดใจ; พระราช
สมภพ: 3 มิถนุ ายน พ.ศ. 2521) เปน็ พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยหู่ ัว[2]
16
เดมิ ทรงเปน็ พนกั งานตอ้ นรับบนเครือ่ งบิน ต่อมาทรงเขา้ รับราชการทหารในหนว่ ยบญั ชาการถวายความปลอดภัย
รักษาพระองค์ ทรงดำรงตำแหน่งสูงสดุ เปน็ รองผู้บัญชาการหน่วยบญั ชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
(อตั รา พลเอกพิเศษ)[3] นอกจากน้ยี งั ทรงดำรงตำแหนง่ เป็นราชองครักษเ์ วรในพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์
หลายพระองค[์ 4]
วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกบั พระบาทสมเด็จพระวชิร
เกลา้ เจา้ อยูห่ ัว[5] ณ พระที่น่ังอมั พรสถาน พระราชวงั ดสุ ิต[6] จึงทรงไดร้ ับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระราชินี
สุทิดา ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสรยิ ยศ ฐานนั ดรศักดแ์ิ ห่งพระราชวงศ์[7] ในการพระราชพิธบี รมราชาภิเษก
พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกลา้ เจ้าอยหู่ ัวโปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระเกียรตยิ ศสมเด็จพระราชนิ ขี ้นึ เป็นสมเด็จ
พระบรมราชินี ทรงพระนามว่า สมเด็จพระนางเจา้ สทุ ิดา พัชรสธุ าพมิ ลลกั ษณ พระบรมราชิน[ี 2]
12.วันสมเด็จพระนารายณม์ หาราช
พระราชประวตั ิ พระราชสมภพ
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช เสด็จพระราชสมภพเมอ่ื วันจนั ทร์ เดือนยี่ ปีวอก พ.ศ. 2175 เป็นพระราช
โอรสในสมเด็จพระเจา้ ปราสาททอง กับพระราชเทวไี มป่ รากฏพระนาม[1] คำให้การชาวกรงุ เกา่ ระบวุ า่ พระชนนี
ของพระองค์ชือ่ พระสุรยิ า[2] สว่ น คำใหก้ ารขนุ หลวงหาวดั ระบพุ ระนามวา่ พระอบุ ลเทว[ี 3] และหมอ่ มหลวงมา
นิจ ชุมสาย ระบพุ ระนามวา่ พระนางศริ ิธดิ า[4] และมีพระขนิษฐารว่ มพระมารดาคือกรมหลวงโยธาทิพ (หรอื พระ
ราชกลั ยาณ)ี [5][6][7]
พระราชบดิ าและพระราชมารดาเปน็ เครอื ญาตกิ นั หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย ระบุวา่ พระมารดาของพระ
นารายณ์เปน็ "...พระขนิษฐาต่างมารดาของพระเจ้าปราสาททอง"[4] แตง่ านเขียนของนิโคลาส์ เดอ แซร์แวส ระบุ
วา่ มารดาเป็นพระราชธดิ าในสมเดจ็ พระเจ้าทรงธรรม[8] ส่วนพระราชบิดาคือสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ฟาน
ฟลตี ระบวุ า่ เป็นลกู ของน้องชายพระราชมารดาในสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม[9]
พระองค์มีพระนมท่คี อยอุปถัมภ์อำรงุ มาแตย่ ังทรงพระเยาวค์ ือเจ้าแมว่ ัดดสุ ติ ซึ่งเปน็ ญาตหิ ่าง ๆ ของพระเจ้า
ปราสาททองเช่นกัน[4] กบั อีกทา่ นหนึ่งคือพระนมเปรม ที่ฟร็องซวั อ็องรี ตรุ แปง (François Henry Turpin) ระบุ
วา่ เปน็ เครอื ญาติของสมเดจ็ พระนารายณ[์ 10]
สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชเปน็ พระอนชุ าต่างพระมารดาในสมเดจ็ เจ้าฟ้าไชย และยังมีพระอนุชาต่าง
พระมารดาอีก ได้แก่ เจ้าฟา้ อภยั ทศ (เจา้ ฟ้างอ่ ย[11]) เจา้ ฟา้ นอ้ ย พระไตรภวู นาทติ ยวงศ์ พระองค์ทอง และพระ
อินทราชาใน คำให้การขนุ หลวงหาวัด ระบุวา่ พระองค์มีพระนามาภิไธยเดิมวา่ พระนรนิ ทกุมาร[12] หรอื
คำให้การชาวกรุงเกา่ เรียกว่า พระสรุ ินทกุมาร[2] เม่ือแรกเสด็จพระบรมราชสมภพนน้ั พระญาติเห็นพระโอรสมีส่ี
กร พระราชบดิ าจึงโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานนามว่า พระนารายณ์ หรือ พระเจา้ ลูกเธอพระนารายณ์ราชกุมาร
[13] สว่ นในคำให้การชาวกรุงเก่าและคำให้การขนุ หลวงหาวดั เลา่ ว่าเม่อื เพลิงไหม้พระท่นี ั่งมงั คลาภเิ ษก พระโอรส
เสดจ็ ไปช่วยดับเพลิง ผคู้ นเห็นเปน็ สก่ี ร จึงพากันขนานพระนามว่า พระนารายณ์ พระราชประวัติของสมเดจ็ พระ
นารายณน์ น้ั เกย่ี วกับเรื่องปาฏิหาริย์อยมู่ าก แสดงให้เหน็ ถึงอิทธพิ ลของพราหมณ์ เมอ่ื เทียบกับกษัตริย์องคก์ ่อน ๆ
ด้วยเหตนุ ้ีเองพระราชประวตั ิของพระองคจ์ ึงกล่าวถงึ ปาฏหิ าริย์มหศั จรรยต์ ามลำดับ คอื เมือ่ พระนารายณ์มีพระ
ชนม์ได้ 5 พรรษา ขณะเลน่ น้ำ พระองค์ทรงถูกอสนีบาต พวกพี่เล้ยี ง นางนม สลบหมดสิ้น แต่พระองคไ์ มเ่ ป็นไร
17
แมแ้ ต่น้อยเม่ือพระนารายณ์มีพระชนม์ได้ 9 พรรษา พระองค์ทรงถูกอสนีบาตที่พระราชวงั บางปะอนิ แตพ่ ระองค์ก็
ปลอดภัยดี สมเด็จพระนารายณท์ รงรบั การศึกษาจากพระโหราธิบดี ซ่งึ เป็นข้าราชการระดับสูงในพระราชวัง และ
พระอาจารยพ์ รหม พระพิมลธรรม รวมท้งั สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์และพระสงฆท์ ่มี สี มณศักดริ์ ะดบั สูงในพระ
นคร
ตราพระราชลัญจกร
สมเดจ็ พระนารายณม์ ีส่วนสำคญั ในการข้ึนครองราชยข์ องสมเด็จพระศรสี ธุ รรมราชา โดยพระองค์ได้
รว่ มมือกับสมเดจ็ พระศรสี ธุ รรมราชาในการชิงราชสมบัตจิ ากสมเดจ็ เจ้าฟ้าไชย ซึง่ เปน็ พระเชษฐาของพระองค์ โดย
หลงั จากทพ่ี ระองค์ชว่ ยสมเด็จพระศรสี ุธรรมราชาข้นึ ครองราชสมบัตไิ ดแ้ ลว้ นัน้ สมเดจ็ พระศรีสธุ รรมราชาทรง
แตง่ ตง้ั ให้พระองค์ดำรงตำแหน่งพระมหาอุปราชและใหเ้ สด็จไปประทับทพ่ี ระราชวงั บวรสถานมงคล หลงั จาก
สมเดจ็ พระศรีสุธรรมราชาขึ้นครองราชสมบตั ิได้ 2 เดอื นเศษ พระองค์ทรงชิงราชสมบัติจากสมเด็จพระศรีสธุ รรม
ราชา สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราชเสดจ็ ขน้ึ ครองราชสมบตั ิ เมอ่ื เวลาสองนาฬกิ า วนั พฤหัสบดี แรม 2 คำ่ เดอื น
12 จลุ ศักราช 1018 ปีวอก (ตรงกับวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2199) ขณะมีพระชนมายุ 25 พรรษา มีพระนาม
จารึกในพระสุพรรณบฏั วา่ สมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรสี รรเพชญ์บรมมหาจักรพรรดศิ วร ราชาธริ าชรา
เมศวรธรธราธิบดี ศรสี ฤษดริ กั ษ์สังหารจักรวาฬาธเิ บนทร์ สุรเิ ยนทราธบิ ดบี ดนิ ทร์ หรหิ รินทราธาดาธิบดี ศรีสุวบิ ลุ
คุณอัคนติ วิจิตรรูจี ตรภี วู นาทิตย์ ฤทธพิ รหมเทพาธบิ ดินทร์ ภูมินทราธริ าช รัตนากาศมนุวงศ์ องค์เอกาทศรทุ วิ
สทุ ธิยโสดม บรมอธั ยาศัย สมุทยดโรมนต์ อนนั ตคุณวิบลุ ยสนุ ทรธรรมิกราชเดโชชัย ไตรโลกนาถบดนิ ทร์ อรินทราธิ
ราช ชาตพิ ิชติ ทศิ ทศพลญาณ สมันตมหันตผารติ วชิ ยั ไอศวรรยาธปิ ตั ย์ ขตั ติยวงศ์ องคป์ รมาธบิ ดี ตรภี ูวนาธิเบศ โลก
เชษฐวสิ ทุ ธิ มงกุฎรัตนโมลี ศรปี ระทุมสรุ ิวงศ์ องค์สรรเพชญ์พุทธางกูร บรมบพติ รพระพุทธเจา้ [14] หลังจาก
ประทบั ในกรงุ ศรีอยธุ ยาได้ 10 ปี พระองคจ์ ึงโปรดเกล้าฯ ให้สรา้ งเมืองลพบรุ ีข้ึนเปน็ ราชธานแี ห่งท่ี 2 เมอื่ ปี พ.ศ.
2209 และเสดจ็ ไปประทับที่ลพบุรีทกุ ๆ ปี ครง้ั ละเป็นเวลานานหลายเดอื น ด้วยเหตุผลว่า ทงั้ สองรัชกาลนมี้ ีศัตรู
มากมายรายรอบพระองค์ เนื่องจากการเข่นฆ่าฟันล้างบางพระราชวงศ์ด้วยกนั มาหลายคร้งั หลายหน รวมท้ังเรอื่ ง
ของเสนาบดีใหม่และเก่า[15] สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราช มิเคยได้เปน็ พระมหากษตั รยิ ์ "ทรงธรรม" หรอื "ธรรม
ราชา" ในสายตาของทวยราษฎร์เลยแมแ้ ต่น้อย ดงั ปรากฏใน คำให้การชาวกรงุ เกา่ ท่มี ีการเปรียบเทียบพระองค์กับ
สมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวบรมโกศ ก็จะพบว่าเชลยไทยช่ืนชมพระมหากษัตรยิ ์พระองค์หลงั เสียมากกวา่ นอกจากนี้ยงั
ปรากฏในเอกสารของชาวตะวนั ตกทยี่ นื ยันความไมเ่ ปน็ ทน่ี ิยมของราษฎรอย่างชดั แจง้ ท้ังนี้ก็เพราะตลอดรัชสมัย
ของพระองคล์ ้วนมีการสงครามทัง้ กับต่างประเทศและการปราบกบฏภายในประเทศ ชาวนาจงึ ต้องถกู เกณฑ์ไปรบ
หรืออาจทนทุกข์เพราะความแร้นแคน้ ของภาวะสงคราม ยังความทุกข์สูท่ วยราษฎร์และไม่มีประโยชนอ์ นั ใดต่อ
ชาวนา[16]
การเสด็จสวรรคต
สมเด็จพระนารายณ์ทรงประชวรหนักในเดอื นพฤษภาคม พ.ศ. 2231 ไม่สามารถว่าราชการได้[17]
ต่อมาได้เสด็จสวรรคตเม่ือ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2231 ณ พระทีน่ ่ังสทุ ธาสวรรย์ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จงั หวดั
ลพบรุ ี[18] รวมครองราชสมบัติเป็นเวลา 32 ปี มีพระชนมายุ 56 พรรษา ภายหลังพระเพทราชาโปรดให้อญั เชญิ
พระบรมศพจากลพบุรสี ูก่ รงุ ศรอี ยธุ ยาผา่ นทางเรือพระทน่ี ง่ั ศรสี มรรถชัย
18
13.กิจกรรมวนั เฉลมิ ชนพรรษา รชั กาลที่ 10
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกล้าเจา้ อยู่หัว[3] (พระราช
สมภพ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2495) เปน็ พระมหากษตั รยิ ์ไทยรัชกาลท่ี 10 แหง่ ราชวงศ์จกั รี เสดจ็ ขน้ึ ครองราชย์
เมอื่ วนั ท่ี 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 จนถึงปจั จบุ ัน เปน็ พระราชโอรสพระองค์เดยี วในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิ
พลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร และสมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินนี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปี
หลวง พระองค์ทรงมีพระเชษฐภคินีและพระขนษิ ฐภคนิ ีร่วมพระราชชนนีถงึ 3 พระองค์
เมอ่ื พระบาทสมเดจ็ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร เสด็จสวรรคตในวนั ท่ี 13 ตุลาคม พ.ศ.
2559 ตามกฎมณเฑียรบาลวา่ ดว้ ยการสบื ราชสันตติวงศ์ พระพทุ ธศักราช 2467 พระองคจ์ ะสบื ราชสมบัติต่อ ทงั้
พลเอก ประยุทธ์ จนั ทร์โอชา นายกรฐั มนตรี ก็ยนื ยันว่าพระองคจ์ ะทรงเป็นพระมหากษัตริยพ์ ระองค์ใหม[่ 43] แต่
ทรงขอผ่อนผันเน่ืองจากทรงต้องการร่วมทกุ ขโ์ ศกกับปวงชนชาวไทย จนกว่าจะผา่ นพระราชพิธพี ระบรมศพไป
ระยะหน่งึ [44] พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ ประธานองคมนตรี จึงเป็นผ้สู ำเรจ็ ราชการแทนพระองคโ์ ดยตำแหน่ง
ไปพลางก่อน[45]
จนกระทง่ั วนั ท่ี 29 พฤศจิกายน สภานติ บิ ัญญัตแิ หง่ ชาติได้จดั ประชุมวาระพเิ ศษ เพ่ือรบั ทราบเรอื่ งการ
อัญเชิญพระองค์เสดจ็ ข้นึ ครองราชย์ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบบั ชัว่ คราว)
พทุ ธศักราช 2557 มาตรา 2 วรรค 2 ประกอบกับรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2550 มาตรา
23 วรรค 1[46] และพรเพชร วชิ ติ ชลชัย ประธานสภานิตบิ ญั ญัตแิ หง่ ชาติ กราบบังคมทูลเชิญเสดจ็ ขน้ึ ครองราชย์
เมอ่ื วันท่ี 1 ธันวาคม พระองค์มีพระราชดำรัสตอบรับการข้ึนครองราชยอ์ ย่างเปน็ ทางการ[47] ทงั้ นี้ในทางนติ นิ ยั
ถอื วา่ พระองค์ได้เสด็จขนึ้ ครองราชยต์ งั้ แต่วันที่ 13 ตลุ าคม พ.ศ. 2559[48] และโปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระ
ปรมาภไิ ธยวา่ "สมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร"[49] [วะชิราลงกอน บอดนิ ทฺระเทบ
พะยะวะรางกนู ]
ในปี พ.ศ. 2560 พระองค์ทรงตราพระราชบญั ญตั ิจัดระเบียบทรัพย์สนิ ฝา่ ยพระมหากษัตรยิ ์ โดย
พระมหากษัตรยิ ม์ ีอำนาจตงั้ ผู้อำนวยการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรยิ ต์ ามพระราชอธั ยาศยั [50] ในปี พ.ศ.
2561 มีการเปลยี่ นช่อื ผถู้ ือหุ้นจากสำนักงานทรัพยส์ ินสว่ นพระมหากษัตริยเ์ ปน็ พระปรมาภิไธยสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกรู ด้านสำนักงานทรัพยส์ นิ ส่วนพระมหากษัตริยช์ ีแ้ จงว่า เน่ืองจากมี
การเปล่ียนแปลงกฎหมายจึงตอ้ งมีการถวายทรัพยส์ นิ ในความดแู ลคืนให้พระมหากษัตริย์มีพระบรมราชวนิ จิ ฉยั
และวา่ ทรพั ยส์ ินท่ีพระองค์เป็นเจา้ ของจะมีการเสียภาษีอากรเชน่ เดยี วกับประชาชนท่ัวไป[51]
ในวนั ท่ี 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 พระองค์ทรงประกอบพระราชพธิ รี าชาภเิ ษกสมรสกับพลเอกหญิง สุทดิ า วชิรา
ลงกรณ์ ณ อยุธยา และมีพระราชโองการโปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมใหส้ ถาปนาขึ้นเป็นสมเดจ็ พระราชนิ ี[52][53]
เมื่อวนั ท่ี 4 พ.ค. 2562 ในพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกหลังจากพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ทรงมีพระ
ปฐมบรมราชโองการแล้ว ในวันท่ี 5 พ.ค. 2562 ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ สถาปนาพระอสิ ริยยศ
และเฉลิมพระนามพระบรมวงศานุวงศ์ในรชั กาลท่ี 10
บรมราชาภเิ ษก
พระองค์ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมใหต้ ง้ั การพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ในวันท่ี 4–6
พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ณ พระบรมมหาราชวงั เขตพระนคร กรงุ เทพมหานคร โดยทรงเฉลมิ พระปรมาภไิ ธย
19
ตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏวา่ "พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดีศรีสนิ ทรมหาวชริ าลงกรณ มหิศรภมู ิพล
ราชวรางกูร กติ ิสริ ิสมบรู ณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกลา้ เจา้ อยหู่ วั '" และมี
พระปฐมบรมราชโองการความวา่ "เราจะสบื สาน รกั ษา และต่อยอด และครองแผน่ ดินโดยธรรม เพ่ือประโยชน์สขุ
แห่งอาณาราษฎรตลอดไป"[54]
14.วนั แม่แห่งชาติ
วนั แมแ่ ห่งชาติ ในประเทศไทย ปจั จบุ ันตรงกับวันท่ี 12 สิงหาคม ของทุกปี ซ่งึ ตรงกบั วันคลา้ ยวันพระราช
สมภพของสมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ิติ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเร่ิมใช้วนั ดงั กล่าวเปน็ วัน
แม่แหง่ ชาติเม่ือ พ.ศ. 2519 กอ่ นหน้านนั้ เคยใชว้ นั ที่ 10 มนี าคม, 15 เมษายน, และ 4 ตลุ าคม
สญั ลกั ษณท์ ี่ใชใ้ นวนั แม่คือ ดอกมะลิซึ่งมสี ีขาว สง่ กลิ่นหอมได้ไกลและได้นาน อกี ท้งั ยงั ออกดอกไดต้ ลอดทั้งปี โดย
ตคี วามเปรยี บกบั ความรกั บริสทุ ธขิ์ องแม่ทม่ี ตี ่อลกู ไมเ่ ส่ือมคลายไป
ความเปน็ มาของวันแม่แหง่ ชาติในประเทศไทย
งานวันแมแ่ หง่ ชาตจิ ัดขึน้ ครง้ั แรกเม่ือวันที่ 10 มนี าคม พ.ศ. 2486 ณ สวนอมั พร โดยกระทรวง
สาธารณสุข แตช่ ว่ งนั้นเกิดสงครามโลกคร้งั ที่ 2 งานวนั แมใ่ นปีต่อมาจึงตอ้ งงดไป เม่อื วิกฤติสงครามสงบลง หลาย
หนว่ ยงานได้พยายามใหม้ ีวนั แม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไมป่ ระสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมกี ารเปลย่ี นกำหนดวนั แมไ่ ป
หลายครั้ง ต่อมาวนั แม่ทร่ี ัฐบาลรับรอง คือวนั ที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจดั ต้ังแตป่ ี พ.ศ. 2493 แต่กต็ ้องหยุดลงอีก
ในหลายปีต่อมา เนื่องจากกระทรวงวฒั นธรรมถกู ยบุ ไป สง่ ผลให้สภาวฒั นธรรมแห่งชาตซิ ่ึงรบั หนา้ ที่จัดงานวนั แม่
ขาดผสู้ นบั สนุน[1] ตอ่ มาสมาคมครูคาทอลิกแหง่ ประเทศไทย ไดจ้ ัดงานวันแม่ข้นึ อีกครั้ง ในวันท่ี 4 ตลุ าคม พ.ศ.
2515 แตจ่ ดั ไดเ้ พียงปเี ดียวเท่านั้น จนกระท่ังในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์
แหง่ ประเทศไทย ในพระบรมราชปู ถัมภ์ จงึ ไดก้ ำหนดวนั แม่ขึ้นใหมใ่ หเ้ ป็นวันที่แนน่ อน โดยถือเอาวันเสด็จพระราช
สมภพของสมเดจ็ พระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง วนั ที่ 12 สงิ หาคมเป็นวนั แม่
แหง่ ชาติ และกำหนดให้ดอกไมส้ ญั ลักษณ์ของวนั แม่ คือ ดอกมะลิ นาบต้ังแต่นั้นเป็นตน้ มา
15.วันมาฆบูชา
"มาฆะ" เปน็ ชื่อของเดอื น ๓ มาฆบูชาน้ัน ย่อมาจากคำว่า"มาฆบรุ ณมี" แปลว่าการบูชาพระในวันเพญ็
เดือน ๓ วนั มาฆบูชาจึงตรงกับวันขึ้น ๑๕ คำ่ เดือน ๓ แต่ถ้าปใี ดมเี ดือน อธิกมาส คือมเี ดือน ๘ สองคร้ัง วนั
มาฆบูชากจ็ ะเลือ่ นไปเปน็ วนั ข้ึน ๑๕ คำ่ เดอื น ๔ เปน็ วนั สำคัญวันหน่ึง ในวันพุทธศาสนา คือวนั ทีม่ ีการประชุมสงั ฆ
สันนิบาตคร้ังใหญใ่ นพุทธศาสนา ทเ่ี รียกวา่ "จาตุรงคสนั นิบาต" และเป็นวันท่ีพระสมั มาสัมพทุ ธเจ้าได้ทรงแสดง
โอวาทปฎโิ มกข์แกพ่ ระสงฆส์ าวกเปน็ ครัง้ แรก ณ เวฬุวนั วิหาร กรงุ ราชคฤห์ เพ่ือให้พระสงฆน์ ำไปประพฤตปิ ฏิบตั ิ
เพอื่ จะยังพระพุทธศาสนาให้เจริญรงุ่ เรืองต่อไป
โอวาทปาฏโิ มกข์
โอวาทปาฏโิ มกข์ - หลกั คำสอนสำคญั ของพระพุทธศาสนา หรือคำสอนอันเปน็ หัวใจของพระพุทธศาสนา
ได้แก่ พระพทุ ธพจน์ ๓ คาถากึ่ง ทพ่ี ระพุทธเจา้ ตรัสแก่พระอรหันต์ ๑,๒๕๐ รปู ผู้ไปประชมุ กันโดยมไิ ด้นัดหมาย ณ
พระเวฬุ วนาราม ในวันเพญ็ เดอื น ๓ ที่เราเรียกกันว่าวนั มาฆบชู า (ถรรถกถากลา่ ววา่ พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาท
20
ปาฏโิ มกข์ น้ี แก่ทปี่ ระชุมสงฆ์ตลอดมา เปน็ เวลา ๒๐ พรรษา กอ่ นท่จี ะโปรดใหส้ วดปาฏโิ มกข์อย่างปัจจบุ ันน้ีแทน
ตอ่ มา),
คำวา่ "จาตุรงคสนั นบิ าต" แยกศัพทไ์ ด้ดงั นี้ คือ "จาตรุ " แปลว่า ๔ "องค์" แปลว่า ส่วน "สนั นิบาต" แปลวา่ ประชุม
ฉะนัน้ จาตุรงคสันนบิ าตจงึ หมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ ๔" กล่าวคือมเี หตุการณ์พเิ ศษทเ่ี กดิ ขึน้ พร้อมกนั ใน
วนั นี้ คือ
๑. เป็นวันท่ี พระสงฆ์สาวกของพระพทุ ธเจา้ จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกนั ทเี่ วฬวุ ันวิหารในกรุง
ราชคฤห์ โดยมไิ ดน้ ัดหมาย
๒. พระภกิ ษสุ งฆ์เหลา่ นี้ลว้ นเปน็ "เอหภิ กิ ขุอุปสัมปทา" คือเปน็ ผู้ทีไ่ ดร้ บั การอปุ สมบทโดยตรงจาก
พระพทุ ธเจ้าท้งั สน้ิ
๓. พระภกิ ษสุ งฆ์ทุกองค์ที่ได้มาประชมุ ในครั้งน้ี ล้วนแต่เปน็ ผุ้ไดบ้ รรลุพระอรหนั ตแ์ ลว้ ทุก ๆองค์
๔. เป็นวนั ทพ่ี ระจันทรเ์ ต็มดวงกำลังเสวยมาฆฤกษ
การปฎิบตั ิตนสำหรบั พทุ ธศาสนาในวันนก้ี ค็ อื การทำบุญตักบาตรในตอนเช้า หรือไม่กจ็ ัดหาอาหารคาว
หวานไปทำบุญฟังเทศน์ท่ีวดั ตอนบา่ ยฟังพระแสดงพระธรรมเทศนา ในตอนกลางคนื จะพากนั นำดอกไม้ ธูปเทียน
ไปทว่ี ัดเพื่อชุมนมุ กนั ทำพิธีเวยี นเทียนรอบพระอโุ บสถพร้อมกบั พระภกิ ษุสงฆ์ โดยเจา้ อาวาสจะนำว่า นะโม ๓ จบ
จากน้นั กลา่ วคำถวายดอกไมธ้ ูปเทยี น ทุกคนว่าตาม จบแล้วเดนิ เวยี นขวา ตลอดเวลาให้ระลกึ ถงึ พระพทุ ธคุณ พระ
ธรรมคุณ พระสังฆคุณ จนครบ ๓ รอบ แลว้ นำดอกไม้ ธูปเทยี นไปปักบูชาตามที่ทางวดั เตรียมไว้เปน็ อนั เสร็จพิธี
16.วันวิสาขบชู า
ความหมาย คำว่า "วสิ าขบูชา" หมายถึงการบชู าในวนั เพ็ญเดอื น ๖ วิสาขบูชา ย่อมาจาก " วิสาขปรุ ณมี
บูชา " แปลว่า " การบชู าในวนั เพญ็ เดือนวสิ าขะ " ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มเี ดือน ๘ สองหน กเ็ ลื่อนไปเป็น
กลางเดือน ๗
ความสำคญั วันวสิ าขบชู า เปน็ วนั สำคญั ยิ่งทางพระพทุ ธศาสนา เพราะเป็นวันท่ีพระพุทธเจ้าประสูติ คอื
เกดิ ไดต้ รัสรู้ คือสำเร็จ ไดป้ รินิพพาน คอื ดับ เกิดข้ึนตรงกันทงั้ ๓ คราวคือ
๑. เมอ่ื เจ้าชายสทิ ธัตถะประสูติทพี่ ระราชอทุ ยานลุมพินีวัน ระหว่างกรงุ กบลิ พสั ดุ์กับเทวทหะ เม่ือเช้าวนั
ศุกร์ ขนึ้ ๑๕ คำ่ เดือน ๖ ปีจอ กอ่ นพุทธศักราช ๘๐ ปี
๒. เม่อื เจา้ ชายสิทธัตถะตรสั รู้ เปน็ พระพุทธเจา้ เม่ือพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ณ ใตร้ ่มไม้ศรมี หาโพธิ์ ฝง่ั
แมน่ ้ำเนรัญชรา ตำบลอรุ เุ วลาเสนานคิ ม ในตอนเชา้ มืดวนั พุธ ขึ้น ๑๕ คำ่ เดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี
หลงั จากออกผนวชได้ ๖ ปี ปจั จบุ ันสถานที่ตรัสรูแ้ ห่งนเี้ รียกว่า พทุ ธคยา เป็นตำบลหนงึ่ ของเมืองคยา แห่งรฐั พิหาร
ของอินเดยี
๓. หลงั จากตรสั รแู้ ลว้ ไดป้ ระกาศพระศาสนา และโปรดเวไนยสตั ว์ ๔๕ ปี พระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา ก็
เสด็จดับขนั ธปรนิ พิ พาน เมอ่ื วันอังคาร ขึน้ ๑๕ คำ่ เดือน ๖ ปมี ะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษตั ริย์ เมืองกุสิ
นารา แควน้ มัลละ (ปัจจบุ นั อยู่ในเมืองกสุ ีนคระ แควน้ อุตตรประเทศ ประเทศอินเดยี )
นบั วา่ เป็นเรื่องที่นา่ อศั จรรยย์ ิ่ง ที่เหตุการณ์ทง้ั ๓ เกี่ยวกบั วิถชี วี ติ ของพระสมั มาสมั พทุ ธเจ้า ซงึ่ มชี ว่ ง
ระยะเวลาหา่ งกนั นับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกดิ ขึ้นในวันเพญ็ เดือน ๖ ดงั นัน้ เม่อื ถงึ วนั สำคญั เช่นน้ี ชาวพทุ ธทง้ั
21
คฤหสั ถ์ และบรรพชติ ได้พร้อมใจกนั ประกอบพธิ ีบูชาพระพุทธองคเ์ ป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรณุ าธิคุณ
พระปัญญาธิคุณ และพระบริสทุ ธคิ ณุ ของพระองค์ทา่ นผูเ้ ป็นดวงประทีปของโลก
ประวัตคิ วามเปน็ มาของวนั วิสาขบูชาในประเทศไทย
วนั วิสาขบชู าน้ี ปรากฏตามหลักฐานว่า ไดม้ มี าตั้งแตค่ ร้ังกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ซงึ่ สนั นิษฐานวา่ คงจะได้
แบบอย่าง มาจากลงั กา กลา่ วคอื เมื่อประมาณ พ.ศ. ๔๒๐ พระเจ้าภาติกุราช กษัตรยิ แ์ ห่งกรงุ ลงั กา ได้ประกอบพธิ ี
วิสาขบชู าอย่าง มโหฬาร เพ่ือถวายเปน็ พุทธบชู า กษตั ริยล์ งั กาในรชั กาลต่อ ๆ มา ก็ทรงดำเนนิ รอยตาม แม้ปัจจุบัน
ก็ยงั ถือปฏบิ ัติอยู่ สมัยสุโขทยั นนั้ ประเทศไทยกบั ประเทศลังกามีความสมั พนั ธ์ด้านพระพุทธศาสนาใกลช้ ิดกันมาก
เพราะพระสงฆช์ าวลงั กา ได้เดนิ ทางเขา้ มาเผยแพรพ่ ระพุทธศาสนา และเชื่อว่าได้นำการประกอบพิธีวิสาขบชู ามา
ปฏบิ ตั ิในประเทศไทยด้วย ในหนังสอื นางนพมาศได้กลา่ วบรรยากาศการประกอบพิธีวิสาขบชู าสมยั สุโขทยั ไว้ พอ
สรปุ ใจความไดว้ ่า " เมือ่ ถงึ วันวิสาขบูชา พระเจา้ แผน่ ดิน ข้าราชบรพิ าร ทัง้ ฝ่ายหน้า และฝา่ ยใน ตลอดท้งั
ประชาชนชาวสโุ ขทัยทั่วทกุ หมูบ่ ้านทกุ ตำบล ต่างช่วยกันทำความสะอาด ประดบั ตกแตง่ พระนครสโุ ขทัยเปน็ การ
พเิ ศษ ด้วยดอกไม้ของหอม จุดประทปี โคมไฟแลดูสวา่ งไสวไปทั่วพระนคร เปน็ การอุทศิ บูชาพระรตั นตรัย เป็นเวลา
๓ วนั ๓ คนื พระมหากษัตรยิ ์ และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล และทรงบำเพญ็ พระราชกุศลต่างๆ คร้นั ตกเวลาเยน็ ก็
เสดจ็ พระราช ดำเนิน พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และนางสนองพระโอษฐต์ ลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า
และฝ่ายใน ไปยังพระ อารามหลวง เพือ่ ทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน สว่ นชาวสโุ ขทัยชวนกันรกั ษาศีล ฟังธรรม
เทศนา ถวายสลากภตั ถวายสังฆทาน ถวายอาหารบณิ ฑบาต แดพ่ ระภิกษุ สามเณรบรจิ าคทรพั ย์แจกเป็นทานแก่
คนยากจน คนกำพร้า คนอนาถา คนแก่ คนพิการ บางพวกก็ชวนกันสละทรพั ย์ ปล่อยสตั ว์ ๔ เท้า ๒ เทา้ และเตา่
ปลา เพอ่ื ชีวิตสตั วใ์ ห้เป็นอสิ ระ โดยเชอื่ วา่ จะทำให้คนอายุ ยนื ยาวตอ่ ไป " ในสมยั อยธุ ยา สมัยธนบรุ ี และสมัย
รตั นโกสนิ ทร์ตอนตน้ ด้วยอำนาจอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์ เข้าครอบงำประชาชนคนไทย และมีอิทธพิ ลสูงกวา่
อำนาจของพระพุทธศาสนา จึงไม่ปรากฎหลกั ฐานวา่ ได้มีการประกอบพิธีบูชาในวนั วสิ าขบชู า จนมาถงึ รชั สมัย
พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลิศหลา้ นภาลยั รชั กาลท่ี ๒ แหง่ กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ (พ.ศ. ๒๓๖๐) ทรงดำริกับ สมเดจ็
พระสังฆราช (ม)ี สำนักวดั ราชบูรณะ มีพระราชประสงคจ์ ะให้ฟื้นฟู การประกอบพระราชพิธีวันวิสาขบูชาขึ้นใหม่
โดย สมเดจ็ พระสังฆราช ถวายพระพรใหท้ รงทำขนึ้ เป็นคร้ังแรกในวันข้ึน ๑๔ ค่ำ ๑๕ คำ่ และวนั แรม ๑ ค่ำ เดือน
๖ พ.ศ. ๒๓๖๐ และให้จัดทำตามแบบอยา่ งประเพณีเดิมทุกประการ เพ่ือมีพระประสงค์ใหป้ ระชาชนประกอบการ
บญุ การกุศล เปน็ หนทางเจริญอายุ และอยเู่ ญ็นเปน็ สุขปราศจากทุกขโ์ ศกโรคภัย และอุปทั วันตรายต่างๆ โดยทวั่
หน้ากนั ฉะนั้น การประกอบพธิ ีในวนั วิสาขบูชาในประเทศไทย จึงได้รื้อฟืน้ ใหม้ ีข้นึ อีกครั้งหนงึ่ ในรชั สมัย
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลัย รชั กาลท่ี ๒ และถอื ปฏิบตั ิมาจวบจนกระทั่งปัจจุบนั
การจดั งานเฉลมิ ฉลองในวนั วิสาขบชู าทย่ี งิ่ ใหญ่กว่าทกุ ยุคทุกสมยั คงไดแ้ ก่การจัดงานเฉลิมฉลอง วนั วิ
สาขบูชา พ.ศ.๒๕๐๐ ซึ่งทางราชการเรียกวา่ งาน " ฉลอง ๒๕ พทุ ธศตวรรษ " ต้งั แตว่ นั ท่ี ๑๒ ถงึ ๑๘ พฤษภาคม
รวม ๗ วัน ไดจ้ ัดงานส่วนใหญข่ นึ้ ท่ีท้องสนามหลวง ส่วนสถานท่รี าชการ และวดั อารามต่างๆ ประดบั ธงทวิ และโคม
ไฟสว่างไสวไปท่ัวพระ ราชอาณาจกั ร ประชาชนถือศลี ๕ หรอื ศลี ๘ ตามศรัทธาตลอดเวลา ๗ วนั มกี ารอปุ สมบท
พระภกิ ษสุ งฆร์ วม ๒,๕๐๐ รูป ประชาชน งดการฆ่าสัตว์ และงดการดม่ื สรุ า ตั้งแตว่ ันที่ ๑๒ ถงึ ๑๔ พฤษภาคม
รวม ๓ วัน มกี ารก่อสรา้ ง พุทธมณฑล จดั ภัตตาหาร เลยี้ งพระภิกษุสงฆ์วันละ ๒,๕๐๐ รปู ตง้ั โรงทานเล้ยี งอาหาร
แกป่ ระชาชน วนั ละ ๒๐๐,๐๐๐ คน เป็นเวลา ๓ วนั ออกกฎหมาย สงวนสัตว์ปา่ ในบรเิ วณนั้น รวมถงึ การฆ่าสัตว์
22
และจบั สตั ว์ในบริเวณวัด และหน้าวัดดว้ ย และได้มีการปฏบิ ัติธรรมอนั ยงิ่ ใหญ่ อยา่ งพรอ้ มเพรียงกัน เปน็ กรณี
พิเศษ ในวันวสิ าขบชู าปีนนั้ ด้วย
17.วันเข้าพรรษา
วันเข้าพรรษา (วนั แรม 1 คำ่ เดอื น 8) หรือเทศกาลเขา้ พรรษา (วนั แรม 1 ค่ำ เดอื น 8 ถงึ วันขึ้น 15 ค่ำ
เดอื น 11) ถือวา่ เปน็ วันสำคัญทางศาสนาพุทธที่สำคัญวนั หน่ึงของประเทศไทย โดยมกี ำหนดระยะเวลา 3 เดอื น
ในช่วงฤดูฝน ซึ่งวนั เข้าพรรษาเปน็ วนั สำคัญทางพระพุทธศาสนาท่ีต่อเน่ืองมาจากวันอาสาฬหบชู า (วันขึน้ 15 คำ่
เดอื น 8) พุทธศาสนกิ ชนชาวไทย รวมถึงพระมหากษตั รยิ ์และบุคคลท่ัวไปไดส้ ืบทอดประเพณีการปฏิบตั ิและการ
ทำบุญในวนั เข้าพรรษามาชา้ นานต้งั แต่สมัยสุโขทยั
สาเหตุท่ีพระพทุ ธเจา้ ไดท้ รงอนุญาตให้จำพรรษาอยู่ ณ สถานทใ่ี ดสถานที่หน่ึงตลอดระยะเวลา 3 เดือนแก่
พระสงฆ์นัน้ ก็เพื่อให้พระสงฆ์ไดห้ ยุดพักจากการจาริกเผยแพร่ศาสนายังสถานทต่ี า่ งๆ ท่ีจะเปน็ ไปดว้ ยความ
ยากลำบากในช่วงฤดฝู น โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงชว่ งเวลาจำพรรษตลอด 3 เดอื นน้นั เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญใน
รอบปที ่ีพระสงฆจ์ ะไดม้ าอยู่จำพรรษารวมกนั ภายในอาวาส หรือสถานทีใ่ ดสถานท่หี นึง่ เพ่ือศึกษาพระธรรมวนิ ัยจาก
พระสงฆ์ที่ทรงความรู้ นบั ว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณแ์ ละสร้างความสามัคคใี นหม่คู ณะสงฆด์ ้วยเอง อีกทั้ง
ในวนั เข้าพรรษาและชว่ งฤดูพรรษากาลตลอด 3 เดือนนนั้ พุทธศาสนกิ ชนชาวไทยถือวา่ เป็นโอกาสอนั ดีทจ่ี ะได้
บำเพญ็ กศุ ลด้วยการเข้าวัดทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา และนบั เปน็ โอกาสพเิ ศษท่ีมากกวา่ วันสำคญั อ่ืนๆ
โดยในวันเริม่ ต้นพรรษาน้ี จะมีการถวายหลอดไฟ หรือเทยี นเขา้ พรรษา และผ้าอาบน้ำฝน (ผ้าวสั สกิ สาฏก) แก่
พระสงฆ์ เพ่ือไว้สำหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้ตลอดการอยู่จำพรรษา ซง่ึ ในอดตี ชายไทยทีเ่ ป็นพทุ ธศาสนกิ ชนและมีอายุ
ครบบวช (20 ปี) จะนยิ มถือบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆเ์ พื่ออยจู่ ำพรรษาตลอดท้ัง 3 เดอื น โดย
พทุ ธศาสนกิ ชนชาวไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพ่ือจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า บวชเอาพรรษา
นอกจากน้เี มื่อปี พ.ศ. 2551 รฐั บาลได้ประกาศใหว้ นั เขา้ พรรษาเป็น วนั งดด่มื สุราแห่งชาติ ซึง่ ในปถี ัด
มายังได้ประกาศใหว้ ันเข้าพรรษาเป็นวันท่หี า้ มขายเคร่ืองดมื่ แอลกอฮอลท์ ่วั ราชอาณาจักร ทง้ั น้ี เพอื่ เป็นการ
รณรงค์ให้ชาวไทยตงั้ สัจจะอธิษฐานงดการด่ืมสรุ าในวันเข้าพรรษาและในช่วง 3 เดือนระหวา่ งฤดเู ขา้ พรรษา หวัง
เพือ่ เป็นการสง่ เสริมค่านิยมที่ดีให้แก่สังคมไทย
18.วนั ไหว้ครู
วนั ไหว้ครู นบั เป็นวนั ท่ีศษิ ย์จะได้แสดงถงึ คุณธรรมภายในจิตใจ คำวา่ “ไหวค้ รู” ถงึ แมว้ ่าจะเป็นถ้อยคำท่ี
แสนธรรมดาสามญั ทใ่ี ครหลายๆ คนตา่ งเข้าใจกันดีอยู่ แต่จริงๆ แลว้ วนั ไหวค้ รู คอื วนั ท่ีบรรดาศิษยท์ ้งั หลายจะได้
แสดงความเคารพและสกั การะต่อครบู าอาจารย์ผ้มู พี ระคุณ ตลอดจนผเู้ สยี สละช้ที างและใหแ้ สงสวา่ งแกศ่ ิษยโ์ ดยไม่
คำนงึ ถึงความยากลำบาก ซึง่ แนวความคดิ วนั ไหว้ครูเกิดขน้ึ ในที่ประชุมครทู วั่ ประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2499 จากคำ
ปราศรยั ของ จอมพล ป. พบิ ูลสงคราม นายกรัฐมนตรแี ละประธานกรรมการอำนวยการคุรสุ ภากติ ติมศักด์ใิ น
ขณะนน้ั ต่อมาไดม้ ีการจดั งานวนั ครขู ้นึ เปน็ ครัง้ แรก เม่ือวนั ท่ี 16 มกราคม 2500
การไหวค้ รู เป็นเอกลกั ษณ์อย่างหนึง่ ของชาวไทย เพราะครเู ป็นคนที่ศิษย์ให้ความเคารพนับถือ เปน็ ผถู้ ่ายทอด
สรรพวชิ าความรใู้ ห้กบั ศิษย์ด้วยความรกั ความเมตตา และความปราถนาดี ครู จงึ เปน็ บุคคลผู้ทำหน้าท่ีทม่ี ี
23
ความสำคญั ต่อประเทศชาติ เม่ือคร้ังอดีต หนังสือ หรอื ส่อื การเรียนการสอนยงั ไมม่ ีแพร่หลาย ความรู้ทป่ี ระชาชน
จะไดร้ ับ คือความร้ทู ี่มาจากบุคคลผ้มู คี วามรู้ ความเช่ียวชาญ ซึ่งเราเรยี กกันว่า "คร"ู
ถึงแมใ้ นทุกวนั นี้เทคโยโลยตี า่ งๆ จะมคี วามเจริญก้าวหนา้ มากข้ึน สอื่ การเรยี นการสอนมีอยูแ่ พร่หลาย แต่คนไทยก็
ยังคงใหค้ วามสำคญั กบั ครดู ว้ ยเหตผุ ลท่ีวา่ ความรู้ท่มี าจากการทอดโดยบคุ คลเป็นความรู้ท่เี ป็นทกั ษะเฉพาะ เป็นสิง่
ท่เี กดิ จากการสั่งสมความรู้ ประสบการณ์และการปฏบิ ตั ิจนเชย่ี วชาญท่อี าจไมส่ ามารถถ่ายทอดเปน็ ตวั หนงั สือได้
ครูจงึ เปรียบเสมอื นพ่อและแม่คนที่ 2 ของศษิ ย์ ผ้ทู ่ปี ระสบความสำเร็จได้เปน็ เพราะมีแม่เป็นผใู้ ห้กำเนิด มีครูเป็น
ผ้ใู หค้ วามรู้ ความคิด สติปญั ญา และชีท้ างสว่างให้กับชวี ิต ประเพณีการไหวค้ รูจึงยงั สบื ทอดต่อมาจนถงึ ปัจจุบัน
กจิ กรรมในวนั ไหว้ครู
ได้มกี ารปรับปรุงเปล่ยี นแปลงกิจกรรมในวนั ไหว้ครู เพ่ือใหส้ อดคล้องกับการเปลีย่ นแปลงของสังคม
ตลอดเวลา ซ่งึ รูปแบบการทำกิจกรรมทชี่ ัดเจนในปัจจบุ ัน คือ การไหวค้ รูในสถานศึกษา ทม่ี ีตง้ั แต่ระดบั อนบุ าล ไป
จนกระทั่งถึงระดับอุดมศึกษา มพี ิธที างศาสนา พธิ ีรำลึกถงึ พระคณุ บูรพาจารย์ ต่อด้วยพิธีปฏิญาณตน การกล่าวคำ
ระลกึ ถึงพระคณุ บรู พาจารย์ และการแข่งขันประกวดพานไหวค้ รู โดยให้นักเรียนไดแ้ สดงความคิดสรา้ งสรรค์และใช้
ดอกไม้ทสี่ ัญลักษณข์ องวันไหวค้ รูมาประดบั ตกแต่งใหเ้ กิดความสวยตามสมัยนิยม ทปี่ ระกอบไปด้วย ดอกมะเขือ
หญ้าแพรก ข้าวตอก ดอกเข็ม
24
19.โครงการเสรมิ สร้างความจงรักภกั ดี ยดึ มนั่ ในสถาบันหลกั ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณที ่ีดีงามของไทย
ชื่อโครงการ เสริมสร้างความจงรักภักดี ยึดมนั่ ในสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณีท่ีดีงามของไทย
สนองยุทธศาสตร์ชาติ ที่
ยุทธศาสตรท์ ่ี ๑ ยทุ ธศาสตร์ดา้ นความมน่ั คง
สนองยุทธศาสตร์ สพฐ. ที่
ยทุ ธศาสตร์ที่ 1 การพฒั นาคุณภาพผู้เรียนในระดับการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน
ขอ้ ท่ี 1 เสริมสร้างความเข้มแขง็ ให้กับการพัฒนาผู้เรยี นอยา่ งมีคุณภาพ
ข้อท่ี 2 สรา้ งการมสี ่วนรว่ มพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น
ยุทธศาสตรท์ ี่ ๓ การพฒั นาคุณภาพครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
ข้อที่ ๕ ส่งเสริม สนับสนุนครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู การ
เป็นครูมืออาชีพ และยึดมน่ั ในจรรยาบรรณของวิชาชีพ
กลยุทธ/์ จุดเน้นของ สศศ.
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพฒั นาประสทิ ธิภาพการบรหิ ารจัดการศกึ ษาเพื่อคนพิการและผู้ด้อยโอกาส
ยุทธศาสตร์ท่ี ๓ การพัฒนาครู ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรที่เก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาเพ่ือคน
พิการและผู้ด้อยโอกาส ให้มีความรู้ความเข้าใจเร่ืองคนพิการและผู้ด้อยโอกาส สามารถบริหารจัดการ บริหาร
หลกั สูตรและวางแผนการจดั การศึกษาได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
สนองมาตรฐานศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจังหวัดพทั ลุง
มาตรฐานที่ ๑ คุณภาพของผ้เู รยี น
คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงคข์ องผู้เรียน
๑) ผูเ้ รยี น รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ มวี ินัยในตนเอง และมจี ติ สาธารณะ
๒) ผู้เรียนมีความภูมิใจในท้องถ่ิน และความเป็นไทย ตามศักยภาพของผู้เรียนแต่ละ
บุคคล
ลักษณะโครงการ ( ) โครงการตอ่ เนอื่ ง (/) โครงการใหม่
๑. หลกั การและเหตผุ ล
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ได้กำหนดประเดน็ การ
สรา้ งภมู คิ ุ้มกันของประเทศ เพอ่ื ให้ประเทศไทยสามารถรองรบั ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ซ่ึง
ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
25
เป็นสถาบันหลกั ที่ยึดโยงคนไทยใหเ้ กาะเกี่ยวคนในชาติอย่างแนน่ แฟน้ เปน็ แบบอยา่ งในการดำเนินชีวติ ของคนใน
สังคม
พระราชบัญญัติทางการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๒ และแกไ้ ขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี๒) พ.ศ.๒๕๔๕ มงุ่
จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาคนไทย ให้เปน็ มนุษย์ทส่ี มบูรณ์เป็นคนดี มีความสามารถและอยูร่ ่วมกนั ในสังคมอยา่ งมี
ความสุขด้วยภาวะปจั จุบันความเจริญทางด้านเทคโนโลยแี ละการสอื่ สารก้าวหนา้ ไปอย่างไมห่ ยดุ ยัง้ ส่งผลต่อเด็กและ
เยาวชนอย่างมากดงั น้ัน เพ่ือใหน้ ักเรยี นมีเจตคติ มีระเบียบวนิ ยั มีความรบั ผิดชอบต่อตนเอง สังคมประเทศชาติ
ปลกู ฝังใหน้ ักเรยี นมคี ุณธรรมท่ีดงี ามมจี ติ ไดส้ ำนึกในการทำความดี และนักเรยี นสามารถนำธรรมะ ไปใช้ใน
ชีวติ ประจำวนั ได้อย่างมีความสุขดว้ ยหลักการดังกล่าว
จากนโยบายรฐั บาลเสรมิ สรา้ งและสนับสนุน ให้ทกุ หน่วยงานทง้ั ภาครัฐและเอกชนเข้ารว่ มหรือจดั พธิ ี
การ โดยกำหนดใหข้ ้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารว่ มกจิ กรรมเพื่อประกอบพธิ ีการต่างๆในวันสำคัญ
หรือพระราชพิธี ด้วยเหตผุ ลดงั กลา่ วศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจังหวดั พทั ลุง จงึ ไดด้ ำเนินการจัดโครงการ
ดังกล่าวโดยให้บคุ ลากรของศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพทั ลงุ ได้เขา้ ร่วมกจิ กรรมพิธีการในวนั สำคัญหรือ
พระราชพิธีโดยถว้ นหน้า
๒. วตั ถุประสงค์
๒.๑ เพ่อื ส่งเสรมิ ให้บคุ ลากร มคี วามตระหนักถึงความจงรักภักดตี อ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์และ
ขนบธรรมเนียมประเพณีทด่ี งี ามของไทยและเปน็ แบบอย่างท่ดี ีใหแ้ ก่ผ้เู รียน
๒.๒ เพ่ือใหน้ กั เรียนยดึ ถือปฏิบัตใิ นการแสดงออกถึงความจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริยแ์ ละ
ขนบธรรมเนียมประเพณีทดี่ ีงามของไทย
๓. เป้าหมาย
๓.๑ ดา้ นปรมิ าณ
- กจิ กรรมวันคล้ายวนั สวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพติ ร
บคุ ลากร ศนู ย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดพทั ลุง จำนวน 30 คน
- กจิ กรรมวนั ปิยมหาราช
บุคลากร ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษ ประจำจังหวัดพทั ลุง จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันฝนหลวง
บคุ ลากร ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจังหวดั พัทลงุ จำนวน 10 คน
- กิจกรรมวนั ชาติและวนั คล้ายวนั เฉลิมพระชนพรรษารชั การท่ี ๙
บคุ ลากร ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง จำนวน 30 คน
- กิจกรรมวนั มาตรฐานฝมี ือแรงงานแหง่ ชาติ
บุคลากร ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจังหวดั พัทลุง จำนวน 1๐ คน
- กิจกรรมวันทอ้ งถน่ิ ไทย
26
บคุ ลากร ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพทั ลงุ จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันท่ีระลึกพระบาทสมเด็จพระน่ังเกลา้ เจ้าอยหู่ ัวพรมหาเจษฎาราชเจา้ (รัชการท๓่ี )
บุคลากร ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลงุ จำนวน 10 คน
- กิจกรรมวนั คล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกมุ ารี
บคุ ลากร ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลงุ จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวนั จักรี
บคุ ลากร ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวัดพทั ลุง จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันคลา้ ยวนั สวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
บคุ ลากร ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง จำนวน 10 คน
- กิจกรรมงานพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
บุคลากร ศนู ย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดพทั ลุง จำนวน 30 คน
- กจิ กรรมในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
บคุ ลากร ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพัทลงุ จำนวน 62 คน
- กจิ กรรมวนั สมเด็จพระนารายณม์ หาราช
บคุ ลากร ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษ ประจำจังหวดั พัทลุง จำนวน 10 คน
- กจิ กรรมวันเฉลิมชนพรรษา รชั กาลท่ี 10
บุคลากร ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวัดพัทลุง จำนวน 62 คน
- กจิ กรรมวนั แมแ่ ห่งชาติ
บคุ ลากร ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ ประจำจงั หวดั พัทลงุ จำนวน 10 คน
- กิจกรรมวันมาฆบูชา
บุคลากร ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง จำนวน ๕๐ คน
- กจิ กรรมวันวิสาขบชู า
บุคลากร ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษ ประจำจังหวัดพทั ลงุ จำนวน ๕๐ คน
- กจิ กรรมวนั เข้าพรรษา
บคุ ลากร ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจงั หวดั พัทลงุ จำนวน ๕๐ คน
- กจิ กรรมวนั ไหว้ครู
บุคลากร ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวดั พทั ลุง จำนวน ๕๐ คน
๓.๒ ดา้ นคณุ ภาพ
บุคลากร ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดพัทลุง มีความสามัคคี และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ
ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ โดยคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๘๐ ของทกุ กิจกรรม
27
๔. วิธีดำเนินการ/ขนั้ ตอนการดำเนนิ งาน
ที่ รายการ ระยะเวลา ผู้รบั ผดิ ชอบ
๑. วางแผนการดำเนินงาน (P)
1.1 เขยี น เสนอโครงการ เพื่อขออนมุ ตั ิ พฤศจิกายน นายปรชี า สุโพฮง
1.2 แตง่ ต้ังคณะกรรมการดำเนินงาน ๒๕๖๑
1.3 ประชมุ คณะกรรมการทำความเขา้ ใจ/มอบหมายงาน
๒ ดำเนินการตามแผน (D)
กจิ กรรมที่ ๑ กิจกรรมวนั คลา้ ยวันสวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระ ๑๓ ตลุ าคม น.ส.พรปวณี ์
บรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ของทุกปี ปานเพชร
1.๑ ขออนมุ ตั ิจัดกิจกรรม
1.๒ จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระ
บรมชนกาธเิ บศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
กิจกรรมท่ี ๒ กจิ กรรมวนั ปยิ มหาราช ๒๓ ตลุ าคม น.ส.พรปวีณ์
2.๑ ขออนุมัติจัดกจิ กรรม ของทกุ ปี ปานเพชร
2.๒ จดั กจิ กรรมวนั ปิยมหาราช
กจิ กรรมท่ี ๓ วันฝนหลวง ๑๔ พฤศจกิ ายน น.ส.พรปวีณ์
3.๑ ขออนุมัตจิ ัดกจิ กรรม ของทกุ ปี ปานเพชร
3.๒ จัดกจิ กรรมวนั ฝนหลวง ๕ ธันวาคม น.ส.พรปวณี ์
กจิ กรรมที่ ๔ กิจกรรมวนั ชาติและวนั คล้ายวันเฉลมิ พระชน ของทุกปี ปานเพชร
พรรษารชั การท่ี ๙
4.๑ ขออนุมัตจิ ดั กจิ กรรม
4.๒ จดั กิจกรรมวันชาตแิ ละวันคล้ายวนั คล้ายวันเฉลมิ พระชน
พรรษารชั กาลท่ี ๙ น.ส.กณั ฑ์นภสั
ชชู ว่ ย
กิจกรรมที่ 5 วันมาตรฐานฝมี อื แรงงานแห่งชาติ 2 มีนาคม
5.๑ ขออนมุ ัติจัดกิจกรรม
ของทุกปี
5.๒ จดั กจิ กรรมวันมาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ
น.ส.กัณฑน์ ภัส
กจิ กรรมที่ 6 วนั ท้องถ่ินไทย
6.๑ ขออนมุ ตั จิ ัดกิจกรรม 18 มนี าคม ชูช่วย
6.๒ จัดกจิ กรรมวันท้องถิน่ ไทย ของทุกปี
กิจกรรมที่ 7 กิจกรรมวนั ทีร่ ะลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า น.ส.กณั ฑน์ ภัส
28
ที่ รายการ ระยะเวลา ผูร้ บั ผิดชอบ
31 มนี าคม ชูชว่ ย
เจา้ อยู่หวั พรมหาเจษฎาราชเจา้ (รัชการที๓่ )
7.๑ ขออนุมัตจิ ดั กิจกรรม 2562 น.ส.กณั ฑ์นภสั
7.๒ จัดกิจกรรมวนั ทร่ี ะลกึ พระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกลา้ ชูชว่ ย
๒ เมษายน
กิจกรรมที่ 8 กิจกรรมวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จ ของทุกปี น.ส.กณั ฑน์ ภัส
พระเทพรตั นราชสุดาสยามบรมราชกมุ ารี ชชู ่วย
๖ เมษายน
8.๑ ขออนุมตั จิ ดั กจิ กรรม ของทุกปี น.ส.กัณฑน์ ภัส
8.๒ จัดกิจกรรมวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพ 25 เมษายน ชูช่วย
รัตนราชสุดาสยามบรมราชกมุ ารี ของทุกปี
กิจกรรมที่ 9 กิจกรรมวนั จักรี น.ส.กัณฑน์ ภสั
9.๑ ขออนมุ ัติจัดกิจกรรม 6 พฤษภาคม ชชู ่วย
9.๒ จดั กิจกรรมวันจกั รี 2562
กิจกรรมท่ี ๑0 กจิ กรรมวนั คล้ายวันสวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวร น.ส.กณั ฑ์นภัส
มหาราช 3 มถิ นุ ายน ชชู ว่ ย
10.๑ ขออนุมัติจัดกจิ กรรม ของทกุ ปี
10.๒ จัดกจิ กรรมวนั คล้ายวันสวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวร น.ส.กณั ฑ์นภสั
มหาราช ๑๑ กรกฎาคม ชชู ่วย
กิจกรรมท่ี ๑1 กิจกรรมงานพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก ของทุกปี
11.๑ ขออนมุ ตั ิจดั กจิ กรรม น.ส.กัณฑน์ ภัส
11.๒ จัดกิจกรรมงานพระราชพิธบี รมราชาภิเษก ๒๘ กรกฎาคม ชชู ่วย
กจิ กรรมท่ี 12 กิจกรรมในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ของทุกปี
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ี น.ส.กณั ฑน์ ภัส
12.๑ ขออนุมัติจดั กิจกรรม
12.๒ จดั กิจกรรมในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเดจ็
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ี
กิจกรรมท่ี 13 กจิ กรรมวนั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
13.๑ ขออนุมตั จิ ัดกิจกรรม
13.๒ จดั กจิ กรรมวนั สมเด็จพระนารายณ์มหาราช
กจิ กรรมท่ี ๑4 กิจกรรมวันเฉลมิ ชนพรรษา รัชกาลท่ี 10
14.๑ ขออนมุ ตั จิ ดั กิจกรรม
14.๒ จดั กจิ กรรมวันเฉลมิ ชนพรรษา รัชกาลท่ี 10
29
ที่ รายการ ระยะเวลา ผู้รบั ผดิ ชอบ
กจิ กรรมท่ี 15 กจิ กรรมวนั แม่แห่งชาติ ๑๒ สิงหาคม ชชู ว่ ย
15.๑ ขออนุมัตจิ ดั กจิ กรรม ของทกุ ปี
15.๒ จดั กิจกรรมวนั แมแ่ ห่งชาติ นางลลิดา
กิจกรรมที่ ๑6 กิจกรรมวนั มาฆบูชา ขนึ้ 15 ค่ำเดือน เขียวจนั ทร์
๑6.๑ ขออนุมตั จิ ดั กจิ กรรม 3 ของทุกปี
๑6.๒ จัดกิจกรรมวันคล้ายวนั มาฆบูชา นางลลิดา
กจิ กรรมท่ี ๑7 กิจกรรมวันวสิ าขบูชา ข้นึ 15 คำ่ เดือน เขียวจันทร์
๑7.๑ ขออนุมตั ิจดั กจิ กรรม 6 ของทุกปี
๑7.๒ จดั กิจกรรมวันวสิ าขบชู า นางลลดิ า
กิจกรรมท่ี ๑8 กิจกรรมวนั เข้าพรรษา แรม 1 คำ่ เดอื น เขยี วจนั ทร์
๑8.๑ ขออนุมตั จิ ัดกิจกรรม 8 ของทุกปี
๑8.๒ จดั กิจกรรมวนั เข้าพรรษา นางลลิดา
กิจกรรมที่ 19 กิจกรรมวันไหว้ครู เดอื นมิถุนายน เขียวจนั ทร์
19.๑ ขออนุมตั จิ ัดกิจกรรม ของทกุ ปี
19.๒ จดั กิจกรรมวันไหว้ครู
๓. ติดตาม/ตรวจสอบการดำเนินโครงการ (C) สงิ หาคม ๒๕๖๒ นายปรชี า สโุ พฮง
- ตดิ ตามและสรุปผลการดำเนนิ งานแต่ละฝา่ ย
๔. การปรบั ปรุงแก้ไขการดำเนินโครงการครัง้ ตอ่ ไป (A)
๔.๑ ประชุมกรรมการเพ่ือให้ข้อเสนอแนะในการนำผลการ พฤศจิกายน นายปรีชา สโุ พฮง
ประเมนิ ไปใช้ในการปรับปรุงการดำเนนิ โครงการในคร้ังต่อไป ๒๕๖๒
๔.๒ สรุปรายงานผลการดำเนินโครงการ
๕. งบประมาณ
๕.๑ รวมงบประมาณทง้ั สิ้น จำนวน 22,000 บาท
รายละเอียดในการใช้งบประมาณ (ถัวเฉล่ยี ทุกรายการ)
รายละเอียดในการใชง้ บประมาณ คา่ ตอบแทน งบดำเนนิ งาน รวม ผู้รบั ผิดชอบ
- คา่ ใช้สอย ค่าวัสดุ
กจิ กรรมท่ี ๑ กิจกรรมวนั แสดงความอาลัย 1,000 น.ส.พรปวีณ์
พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอุลย 500 500 ปานเพชร
เดช
- วางพวงพ่มุ ดอกไม้สด
30
รายละเอียดในการใช้งบประมาณ งบดำเนนิ งาน ผ้รู บั ผิดชอบ
กจิ กรรมท่ี ๒ กิจกรรมวันคล้ายวันสวรรคต
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิ - 500 500 1,000 น.ส.พรปวีณ์
พลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ปานเพชร
- วางพวงมาลา -
กิจกรรมท่ี ๓ วันฝนหลวง - 500 500 1,000 น.ส.พรปวีณ์
- วางพานพมุ่ ทอง -พานพุ่มเงิน - ปานเพชร
กจิ กรรมท่ี ๔ กจิ กรรมวนั ชาตแิ ละวนั คล้ายวนั -
เฉลิมพระชนพรรษารชั การท่ี ๙ - 500 500 1,000 น.ส.พรปวณี ์
- ปานเพชร
กิจกรรมท่ี 5 วันมาตรฐานฝีมือแรงงาน -
แหง่ ชาติ - 500 500 1,000 น.ส.กณั ฑน์ ภัส
- วางพวงพ่มุ ดอกไม้สด - ชูชว่ ย
กจิ กรรมที่ 6 วันท้องถ่ินไทย -
- 500 500 1,000 น.ส.กัณฑน์ ภัส
กจิ กรรมท่ี 7 กจิ กรรมวนั ทรี่ ะลึก ชูชว่ ย
พระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกลา้ เจา้ อย่หู ัวพรมหา
เจษฎาราชเจา้ (รชั การท่ี๓) 500 500 1,000 น.ส.กณั ฑน์ ภสั
- วางพวงพ่มุ ดอกไมส้ ด ชชู ่วย
กิจกรรมที่ 8 กิจกรรมวนั คลา้ ยวนั พระราช
สมภพ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าสยามบรม 500 500 1,000 น.ส.กัณฑ์นภสั
ราชกมุ ารี ชูช่วย
กิจกรรมท่ี 9 กจิ กรรมวันจักรี
500 500 1,000 น.ส.กณั ฑน์ ภัส
กิจกรรมท่ี ๑0 กจิ กรรมวันคล้ายวนั สวรรคต ชชู ว่ ย
สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
- วางพวงมาลา 500 500 1,000 น.ส.กัณฑ์นภัส
กจิ กรรมท่ี ๑1 กจิ กรรมงานพระราชพธิ บี รม ชชู ว่ ย
ราชาภเิ ษก
- วางพานพมุ่ ทอง -พานพุ่มเงิน 2,000 500 2,000 น.ส.กัณฑ์นภัส
กิจกรรมที่ 12 กิจกรรมในโอกาสวนั เฉลิม ชูชว่ ย
พระชนมพรรษาสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระ
บรมราชนิ ี 500 500 1,000 น.ส.กัณฑ์นภัส
- วางพานพ่มุ ทอง -พานพุ่มเงิน ชชู ว่ ย
31
รายละเอียดในการใชง้ บประมาณ งบดำเนนิ งาน ผู้รบั ผิดชอบ
กจิ กรรมที่ 13 กิจกรรมวันสมเดจ็ พระ - น.ส.กัณฑ์นภัส
นารายณ์มหาราช ชชู ่วย
- วางพวงมาลา 500 500 1,000
กิจกรรมท่ี ๑4 กิจกรรมวันเฉลมิ ชนพรรษา - น.ส.กณั ฑ์นภัส
รัชกาลที่ 10 ชูชว่ ย
- วางพานพมุ่ ทอง -พานพุ่มเงิน 500 500 1,000
กจิ กรรมที่ 15 กิจกรรมวันแม่แห่งชาติ - 500 500 1,000 น.ส.กณั ฑน์ ภสั
- วางพานพ่มุ ทอง -พานพุ่มเงิน ชูชว่ ย
กจิ กรรมที่ ๑6 กิจกรรมวนั มาฆบูชา -- นางลลิดา
1,000 1,000 เขยี วจันทร์
- ชดุ สงั ฆทาน
กิจกรรมท่ี ๑7 กจิ กรรมวันวิสาขบูชา -- นางลลิดา
- ชุดสงั ฆทาน 1,000 1,000 เขยี วจนั ทร์
กิจกรรมท่ี ๑8 กิจกรรมวนั เข้าพรรษา - นางลลิดา
- เทยี นเขา้ พรรษา 500 1,500 2,000 เขยี วจันทร์
กจิ กรรมท่ี 19 กจิ กรรมวนั ไหวค้ รู - นางลลิดา
- พานไหวค้ รู ท้งั 11 หนว่ ยบรกิ าร 500 1,500 2,000 เขียวจนั ทร์
รวม 22,000
หมายเหตุ ถัวเฉล่ยี ทุกรายการ
๖. ผลผลติ ของโครงการ (output)
6.๑ บุคลากร มีความตระหนักถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์แ ละ
ขนบธรรมเนียมประเพณที ีด่ ีงามของไทยและเปน็ แบบอย่างทด่ี ีให้แก่ผเู้ รียน
6.๒ นักเรียนยึดถือปฏิบัติในการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณีท่ดี ีงามของไทย
๗. ผลลพั ธ์ของโครงการ (Outcome)
๗.๑ ได้แลกเปล่ียนประสบการณ์กบั บุคคลในองค์กรอน่ื ๆ
๗.๒ ได้ประชาสัมพนั ธ์บทบาทงานดา้ นการศึกษาพเิ ศษ ให้องคก์ รเครอื ขา่ ยและสาธารณชนใหเ้ ป็นท่รี จู้ ัก
๘. สถานที่ดำเนนิ การ
32
กจิ กรรมที่ ๑ กิจกรรมวันคลา้ ยวนั สวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรม
นาถบพิตร
-ศาลากลางจังหวดั พัทลงุ
กจิ กรรมที่ ๒ กจิ กรรมวันปิยมหาราช
-ศาลากลางจังหวดั พัทลุง
กจิ กรรมที่ ๓ วันฝนหลวง
-ศาลากลางจังหวดั พัทลงุ
กจิ กรรมท่ี ๔ กจิ กรรมวันชาติและวันคล้ายวนั เฉลมิ พระชนพรรษารชั การที่ ๙
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลงุ
กจิ กรรมที่ 5 วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแหง่ ชาติ
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลุง
กจิ กรรมท่ี 6 วนั ทอ้ งถ่นิ ไทย
-ศาลากลางจงั หวดั พัทลงุ
กจิ กรรมท่ี 7 กิจกรรมวนั ท่ีระลกึ พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจา้ อยหู่ ัวพรมหาเจษฎาราชเจา้ (รชั การท๓่ี )
-ศาลากลางจงั หวดั พัทลุง
กจิ กรรมท่ี 8 กจิ กรรมวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกมุ ารี
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลงุ
กจิ กรรมที่ 9 กจิ กรรมวนั จกั รี
-ศาลากลางจังหวดั พัทลงุ
กจิ กรรมท่ี ๑0 กิจกรรมวนั คลา้ ยวนั สวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลงุ
กจิ กรรมท่ี ๑1 กิจกรรมงานพระราชพิธบี รมราชาภิเษก
-ศาลากลางจงั หวัดพัทลุง
กิจกรรมที่ 12 กิจกรรมในโอกาสวนั เฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี
-ศาลากลางจังหวดั พัทลงุ
กจิ กรรมที่ 13 กจิ กรรมวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
-ศาลากลางจังหวดั พัทลงุ
กิจกรรมท่ี ๑4 กจิ กรรมวันเฉลิมชนพรรษา รัชกาลที่ 10
-ศาลากลางจังหวัดพัทลุง
กจิ กรรมที่ 15 กิจกรรมวนั แม่แห่งชาติ
-ศาลากลางจังหวัดพัทลงุ
กจิ กรรมที่ ๑6 กจิ กรรมวันมาฆบูชา
-วดั บ้านสวน
กจิ กรรมท่ี ๑7 กจิ กรรมวันวสิ าขบูชา
33
-วัดบา้ นสวน
กจิ กรรมที่ ๑8 กิจกรรมวนั เข้าพรรษา
-วดั บ้านสวน
กจิ กรรมท่ี 19 กิจกรรมวนั ไหวค้ รู
-ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง
๙. หน่วยงาน/ผทู้ ่ีเก่ียวข้อง
กจิ กรรมท่ี ๑ กจิ กรรมวนั คล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร
-หนว่ ยงานราชการภายในจังหวัดพัทลงุ
กิจกรรมท่ี ๒ กจิ กรรมวนั ปยิ มหาราช
-หน่วยงานราชการภายในจงั หวดั พัทลงุ
กจิ กรรมท่ี ๓ วันฝนหลวง
-หน่วยงานราชการภายในจังหวดั พทั ลงุ
กจิ กรรมที่ ๔ กิจกรรมวนั ชาติและวนั คลา้ ยวันเฉลิมพระชนพรรษารัชการท่ี ๙
-หน่วยงานราชการภายในจังหวัดพทั ลงุ
กจิ กรรมที่ 5 วนั มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
-หนว่ ยงานราชการภายในจังหวัดพัทลงุ
กิจกรรมที่ 6 วันท้องถิ่นไทย
-หนว่ ยงานราชการภายในจังหวัดพัทลุง
กจิ กรรมที่ 7 กิจกรรมวันทีร่ ะลกึ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยูห่ ัวพรมหาเจษฎาราชเจ้า (รัชการที่๓)
-หนว่ ยงานราชการภายในจงั หวัดพัทลุง
กิจกรรมท่ี 8 กิจกรรมวนั คลา้ ยวนั พระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าสยามบรมราชกุมารี
-หน่วยงานราชการภายในจงั หวัดพัทลงุ
กจิ กรรมที่ 9 กิจกรรมวนั จกั รี
-หน่วยงานราชการภายในจงั หวดั พัทลุง
กจิ กรรมท่ี 10 กิจกรรมวันคลา้ ยวันสวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช
-หนว่ ยงานราชการภายในจงั หวดั พทั ลงุ
กจิ กรรมท่ี ๑1 กิจกรรมงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
-หน่วยงานราชการภายในจงั หวดั พัทลงุ
กิจกรรมท่ี 12 กจิ กรรมในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี
-หน่วยงานราชการภายในจงั หวัดพัทลุง
กิจกรรมท่ี 13 กิจกรรมวันสมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช
-หน่วยงานราชการภายในจังหวดั พัทลุง
กิจกรรมที่ ๑4 กิจกรรมวันเฉลิมชนพรรษา รชั กาลที่ 10
34
-หน่วยงานราชการภายในจังหวัดพทั ลุง วธิ กี ารประเมิน เครอื่ งมอื ท่ีใช้
กิจกรรมท่ี 15 กจิ กรรมวนั แม่แหง่ ชาติ การตอบ แบบประเมิน
ความพึงพอใจ
-หนว่ ยงานราชการภายในจงั หวัดพทั ลงุ แบบสอบถาม
กิจกรรมที่ ๑6 กิจกรรมวนั มาฆบชู า แบบประเมนิ
การตอบ ความพงึ พอใจ
- วัดบา้ นสวน แบบสอบถาม แบบประเมิน
กิจกรรมท่ี ๑7 กจิ กรรมวันวิสาขบชู า ความพงึ พอใจ
การตอบ แบบประเมนิ
- วดั บ้านสวน แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ
กจิ กรรมที่ ๑8 กจิ กรรมวนั เข้าพรรษา
การตอบ แบบประเมนิ
- วดั บา้ นสวน แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ
กิจกรรมที่ 19 กจิ กรรมวันไหวค้ รู แบบประเมนิ
- ศูนย์การศึกษาพเิ ศษ ประจำจงั หวดั พัทลุง การตอบ ความพึงพอใจ
แบบสอบถาม แบบประเมนิ
๑๐. วธิ ีประเมินผล ความพงึ พอใจ
การตอบ
ตวั ช้วี ัดความสำเร็จ แบบสอบถาม
กิจกรรมที่ ๑ กิจกรรมวนั คล้ายวนั สวรรคต พระบาทสมเดจ็ พระบรม การตอบ
ชนกาธิเบศร มหาภมู ิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แบบสอบถาม
-ร้อยละ ๘๐ ของผเู้ ข้ากจิ กรรมมคี วามพงึ พอใจในกิจกรรม
กิจกรรมที่ ๒ กจิ กรรมวันปิยมหาราช
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้ากจิ กรรมมคี วามพึงพอใจในกิจกรรม
กิจกรรมท่ี ๓ วนั ฝนหลวง
-รอ้ ยละ ๘๐ ของผู้เขา้ กจิ กรรมมคี วามพึงพอใจในกจิ กรรม
กิจกรรมที่ ๔ กิจกรรมวันชาตแิ ละวนั คล้ายวนั เฉลิมพระชนพรรษา
รชั การท่ี ๙
-รอ้ ยละ ๘๐ ของผเู้ ข้ากจิ กรรมมคี วามพงึ พอใจในกจิ กรรม
กจิ กรรมท่ี 5 วันมาตรฐานฝีมือแรงงานแหง่ ชาติ
-รอ้ ยละ ๘๐ ของผเู้ ข้ากจิ กรรมมีความพงึ พอใจในกิจกรรม
กิจกรรมที่ 6 วันทอ้ งถ่ินไทย
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้ากิจกรรมมีความพึงพอใจในกิจกรรม
กิจกรรมที่ 7 กจิ กรรมวันทรี่ ะลึกพระบาทสมเดจ็ พระน่ังเกล้า
เจ้าอยหู่ ัวพรมหาเจษฎาราชเจ้า (รัชการที่๓)
-ร้อยละ ๘๐ ของผูเ้ ข้ากจิ กรรมมีความพงึ พอใจในกจิ กรรม
35
ตวั ช้ีวดั ความสำเรจ็ วธิ ีการประเมิน เครือ่ งมือที่ใช้
กิจกรรมที่ 8 กจิ กรรมวนั คลา้ ยวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพ
รัตนราชสดุ าสยามบรมราชกมุ ารี การตอบ แบบประเมนิ
กจิ กรรมที่ 9 กิจกรรมวนั จักรี แบบสอบถาม ความพึงพอใจ
-ร้อยละ ๘๐ ของผเู้ ขา้ กจิ กรรมมคี วามพึงพอใจในกจิ กรรม แบบประเมนิ
กิจกรรมที่ 10 กิจกรรมวันคล้ายวนั สวรรคตสมเดจ็ พระนเรศวร การตอบ ความพึงพอใจ
มหาราช แบบสอบถาม แบบประเมนิ
-รอ้ ยละ ๘๐ ของผเู้ ข้ากิจกรรมมคี วามพึงพอใจในกจิ กรรม ความพงึ พอใจ
กิจกรรมท่ี 11 กจิ กรรมงานพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก การตอบ
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เขา้ กจิ กรรมมคี วามพงึ พอใจในกิจกรรม แบบสอบถาม
กจิ กรรมท่ี 12 กิจกรรมในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จ
พระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ี การตอบ แบบประเมิน
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้ากิจกรรมมคี วามพงึ พอใจในกิจกรรม แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ
กจิ กรรมที่ 13 กิจกรรมวันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แบบประเมิน
-รอ้ ยละ ๘๐ ของผู้เขา้ กิจกรรมมคี วามพงึ พอใจในกิจกรรม การตอบ ความพงึ พอใจ
กิจกรรมที่ ๑4 กจิ กรรมวันเฉลมิ ชนพรรษา รชั กาลท่ี 10 แบบสอบถาม
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้ากิจกรรมมคี วามพึงพอใจในกิจกรรม
กิจกรรมที่ 15 กจิ กรรมวนั แม่แหง่ ชาติ การตอบ แบบประเมนิ
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เขา้ กจิ กรรมมคี วามพึงพอใจในกิจกรรม แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ
กจิ กรรมท่ี ๑6 กจิ กรรมวันมาฆบชู า แบบประเมิน
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เขา้ กจิ กรรมมีความพึงพอใจในกจิ กรรม การตอบ ความพึงพอใจ
กิจกรรมที่ ๑7 กิจกรรมวนั วิสาขบชู า แบบสอบถาม แบบประเมิน
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เขา้ กจิ กรรมมคี วามพึงพอใจในกิจกรรม ความพึงพอใจ
กิจกรรมท่ี ๑8 กจิ กรรมวนั เข้าพรรษา การตอบ แบบประเมิน
-ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้ากิจกรรมมีความพงึ พอใจในกจิ กรรม แบบสอบถาม ความพึงพอใจ
กจิ กรรมท่ี 19 กิจกรรมวันไหว้ครู แบบประเมนิ
-ร้อยละ ๘๐ ของผเู้ ข้ากิจกรรมมคี วามพึงพอใจในกจิ กรรม การตอบ ความพึงพอใจ
แบบสอบถาม แบบประเมนิ
๑๑. ผลท่คี าดว่าจะได้รบั ความพึงพอใจ
การตอบ แบบประเมิน
แบบสอบถาม ความพงึ พอใจ
การตอบ
แบบสอบถาม
การตอบ
แบบสอบถาม
36
11.๑ บุคลากร มคี วามตระหนกั ถงึ ความจงรกั ภกั ดีตอ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์และขนบธรรมเนยี ม
ประเพณีท่ดี งี ามของไทยและเป็นแบบอย่างที่ดใี ห้แก่ผเู้ รียน
11.๒ นกั เรียนยึดถอื ปฏบิ ัตใิ นการแสดงออกถงึ ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์และ
ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ีดีงามของไทย
๑๒. ผู้รับผิดชอบโครงการ
นายปรชี า สุโพฮง
37
20.แบบสอบถามแต่ละกิจกรรม 19 กิจกรรม
แบบประเมนิ ความพึงพอใจสำหรบั ผู้เขา้ รว่ ม
โครงการเสริมสร้างความจงรักภักดี ยึดม่นั ในสถาบันหลกั ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และ
ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของไทย
กจิ กรรมท่ี 1 กิจกรรมวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธเิ บศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร
*********************************************************************************
คำอธบิ าย แบบประเมนิ ฉบับนีม้ ีทงั้ หมด 3 ตอน ขอให้ผตู้ อบแบบประเมินตอบให้ครบทั้ง 3 ตอนเพ่อื ใหก้ าร
ดำเนนิ งานเปน็ ไปตามวัตถุประสงคแ์ ละเพ่อื เป็นประโยชน์ในการนำไปใชต้ ่อไป
ตอนที่ 1 ข้อมูลทัว่ ไป
คำชแี้ จง โปรดทำเครือ่ งหมาย √ ลงในชอ่ งส่ีเหลี่ยมหน้าข้อความ
1) เพศ ชาย หญิง
2) สถานะภาพ
นกั เรยี น/นักศึกษา ลูกจ้างหน่วยงานราชการ พนกั งานราชการ
ข้าราชการ ผู้บริหาร อน่ื ๆ
ตอนท่ี 2 ระดับความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมโครงการ
คำช้ีแจง โปรดทำเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับความพงึ พอใจ
ประเด็น / หัวข้อ การพจิ ารณา มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย
ท่สี ุด (4) กลาง (2) ที่สดุ
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานท่ีในการจัดกิจกรรม
2.ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม
3.พธิ ีการและขนั้ ตอนการดำเนนิ งานมีความเหมาะสม
4.การมสี ่วนร่วมของบุคลากร และหน่วยงานต่าง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจัดกิจกรรม
6.การประชาสมั พนั ธก์ จิ กรรมอย่างท่ัวถึง
7.การจดั กจิ กรรมมุ่งสง่ เสริมความจงรักภักดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์
8.การมีระเบียบวนิ ัยของบคุ ลากรในการเข้าร่วมกจิ กรรม
9.ความสะดวกในการเข้าร่วมกจิ กรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการรว่ มกิจกรรม
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
38
...................................................................................................................................................................
39
แบบประเมินความพึงพอใจสำหรบั ผูเ้ ข้าร่วม
โครงการเสรมิ สรา้ งความจงรักภักดี ยึดม่ันในสถาบนั หลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณที ีด่ ีงามของไทย
กจิ กรรมที่ 2 วนั ปิยมหาราช
*********************************************************************************
คำอธิบาย แบบประเมนิ ฉบับนี้มที ง้ั หมด 3 ตอน ขอให้ผ้ตู อบแบบประเมนิ ตอบใหค้ รบท้งั 3 ตอนเพ่ือให้การ
ดำเนนิ งานเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเพ่อื เป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อไป
ตอนที่ 1 ข้อมลู ทวั่ ไป
คำชีแ้ จง โปรดทำเครือ่ งหมาย √ ลงในช่องสเ่ี หลี่ยมหน้าข้อความ
1) เพศ ชาย หญิง
2) สถานะภาพ
นักเรียน/นกั ศึกษา ลกู จา้ งหนว่ ยงานราชการ พนกั งานราชการ
ข้าราชการ ผ้บู ริหาร อน่ื ๆ
ตอนที่ 2 ระดับความพึงพอใจต่อการเข้าร่วมโครงการ
คำช้ีแจง โปรดทำเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งทตี่ รงกบั ความพึงพอใจ
ประเด็น / หัวข้อ การพจิ ารณา มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย
ที่สุด (4) กลาง (2) ทีส่ ุด
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานท่ีในการจดั กิจกรรม
2.ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม
3.พิธีการและข้นั ตอนการดำเนินงานมีความเหมาะสม
4.การมสี ว่ นรว่ มของบคุ ลากร และหน่วยงานต่าง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจัดกิจกรรม
6.การประชาสมั พันธก์ ิจกรรมอย่างทวั่ ถึง
7.การจัดกิจกรรมมุ่งสง่ เสรมิ ความจงรกั ภักดตี ่อสถาบนั พระมหากษัตริย์
8.การมรี ะเบียบวินัยของบุคลากรในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
9.ความสะดวกในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการรว่ มกจิ กรรม
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
40
แบบประเมนิ ความพึงพอใจสำหรับผเู้ ข้าร่วม
โครงการเสรมิ สรา้ งความจงรักภกั ดี ยึดมนั่ ในสถาบนั หลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณที ดี่ ีงามของไทย
กจิ กรรมท่ี 3 วันฝนหลวง
*********************************************************************************
คำอธิบาย แบบประเมินฉบับน้มี ที ัง้ หมด 3 ตอน ขอให้ผู้ตอบแบบประเมินตอบใหค้ รบท้งั 3 ตอนเพอ่ื ให้การ
ดำเนนิ งานเปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงคแ์ ละเพื่อเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อไป
ตอนที่ 1 ข้อมลู ทวั่ ไป
คำชแี้ จง โปรดทำเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งสีเ่ หล่ียมหนา้ ข้อความ
1) เพศ ชาย หญิง
2) สถานะภาพ
นักเรยี น/นักศกึ ษา ลกู จา้ งหน่วยงานราชการ พนกั งานราชการ
ข้าราชการ ผบู้ รหิ าร อ่ืน ๆ
ตอนที่ 2 ระดับความพึงพอใจตอ่ การเข้ารว่ มโครงการ
คำช้ีแจง โปรดทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องท่ีตรงกับความพงึ พอใจ
ประเดน็ / หวั ข้อ การพิจารณา มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย
ทส่ี ุด (4) กลาง (2) ทีส่ ุด
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานที่ในการจดั กิจกรรม
2.ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรม
3.พิธกี ารและข้ันตอนการดำเนินงานมีความเหมาะสม
4.การมสี ว่ นร่วมของบุคลากร และหนว่ ยงานตา่ ง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจดั กิจกรรม
6.การประชาสัมพันธก์ จิ กรรมอย่างทวั่ ถึง
7.การจัดกิจกรรมมุ่งสง่ เสริมความจงรักภกั ดีต่อสถาบันพระมหากษตั ริย์
8.การมรี ะเบียบวินยั ของบุคลากรในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
9.ความสะดวกในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการร่วมกจิ กรรม
ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
41
แบบประเมนิ ความพึงพอใจสำหรบั ผูเ้ ข้าร่วม
โครงการเสริมสรา้ งความจงรักภักดี ยึดมนั่ ในสถาบันหลกั ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณีทด่ี ีงามของไทย
กิจกรรมที่ 4 วนั มาตรฐานฝีมอื แรงงานแหง่ ชาติ
*********************************************************************************
คำอธบิ าย แบบประเมนิ ฉบับนมี้ ีทงั้ หมด 3 ตอน ขอให้ผู้ตอบแบบประเมินตอบใหค้ รบทงั้ 3 ตอนเพื่อให้การ
ดำเนนิ งานเปน็ ไปตามวตั ถุประสงคแ์ ละเพอื่ เปน็ ประโยชน์ในการนำไปใชต้ อ่ ไป
ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทัว่ ไป
คำชแ้ี จง โปรดทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องสีเ่ หล่ียมหนา้ ข้อความ
1) เพศ ชาย หญิง
2) สถานะภาพ
นกั เรยี น/นักศกึ ษา ลกู จ้างหนว่ ยงานราชการ พนักงานราชการ
ข้าราชการ ผบู้ ริหาร อื่น ๆ
ตอนท่ี 2 ระดบั ความพงึ พอใจต่อการเข้าร่วมโครงการ
คำชี้แจง โปรดทำเคร่ืองหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับความพึงพอใจ
ประเดน็ / หวั ข้อ การพจิ ารณา มาก มาก ปาน น้อย น้อย
ท่ีสดุ (4) กลาง (2) ทีส่ ุด
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานท่ีในการจัดกจิ กรรม
2.ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม
3.พิธีการและขัน้ ตอนการดำเนินงานมีความเหมาะสม
4.การมสี ว่ นรว่ มของบคุ ลากร และหนว่ ยงานต่าง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจัดกิจกรรม
6.การประชาสัมพันธก์ ิจกรรมอยา่ งทว่ั ถึง
7.การจดั กจิ กรรมมุ่งส่งเสริมความจงรักภกั ดีต่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์
8.การมีระเบยี บวนิ ยั ของบุคลากรในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
9.ความสะดวกในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจากการร่วมกจิ กรรม
ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
42
แบบประเมนิ ความพงึ พอใจสำหรับผูเ้ ข้าร่วม
โครงการเสริมสรา้ งความจงรักภกั ดี ยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และ
ขนบธรรมเนียมประเพณีท่ดี ีงามของไทย
กจิ กรรมที่ 5 วันทอ้ งถิ่นไทย
*********************************************************************************
คำอธบิ าย แบบประเมนิ ฉบับน้ีมีทง้ั หมด 3 ตอน ขอให้ผ้ตู อบแบบประเมนิ ตอบใหค้ รบท้งั 3 ตอนเพื่อให้การ
ดำเนินงานเป็นไปตามวัตถุประสงคแ์ ละเพื่อเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อไป
ตอนที่ 1 ข้อมูลทวั่ ไป
คำชแ้ี จง โปรดทำเคร่อื งหมาย √ ลงในชอ่ งสี่เหลี่ยมหนา้ ข้อความ
1) เพศ ชาย หญิง
2) สถานะภาพ
นักเรยี น/นักศึกษา ลูกจ้างหนว่ ยงานราชการ พนกั งานราชการ
ข้าราชการ ผู้บรหิ าร อน่ื ๆ
ตอนที่ 2 ระดบั ความพึงพอใจตอ่ การเขา้ รว่ มโครงการ
คำชีแ้ จง โปรดทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับความพงึ พอใจ
ประเด็น / หัวข้อ การพิจารณา มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย
ทสี่ ุด (4) กลาง (2) ทีส่ ุด
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานที่ในการจดั กิจกรรม
2.ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม
3.พิธีการและขัน้ ตอนการดำเนินงานมคี วามเหมาะสม
4.การมีส่วนร่วมของบคุ ลากร และหนว่ ยงานตา่ ง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจดั กิจกรรม
6.การประชาสมั พนั ธ์กิจกรรมอยา่ งทว่ั ถึง
7.การจดั กจิ กรรมมุ่งสง่ เสริมความจงรกั ภกั ดตี ่อสถาบันพระมหากษัตรยิ ์
8.การมรี ะเบียบวนิ ัยของบคุ ลากรในการเขา้ ร่วมกิจกรรม
9.ความสะดวกในการเข้ารว่ มกจิ กรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการรว่ มกจิ กรรม
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
43
แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผูเ้ ข้าร่วม
โครงการเสริมสร้างความจงรักภักดี ยดึ ม่นั ในสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณที ีด่ ีงามของไทย
กิจกรรมที่ 6 วันท่ีระลกึ พระบาทสมเด็จพระน่ังเกลา้ เจ้าอยู่หัวพรมหาเจษฎาราชเจ้า (รชั การท่ี๓)
*********************************************************************************
คำอธบิ าย แบบประเมินฉบับนมี้ ที ้ังหมด 3 ตอน ขอให้ผู้ตอบแบบประเมินตอบใหค้ รบทงั้ 3 ตอนเพื่อให้การ
ดำเนินงานเป็นไปตามวตั ถปุ ระสงค์และเพ่ือเปน็ ประโยชนใ์ นการนำไปใช้ต่อไป
ตอนท่ี 1 ข้อมลู ทวั่ ไป
คำช้ีแจง โปรดทำเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งสีเ่ หล่ียมหน้าข้อความ
1) เพศ ชาย หญิง
2) สถานะภาพ
นกั เรียน/นักศกึ ษา ลกู จ้างหน่วยงานราชการ พนกั งานราชการ
ข้าราชการ ผู้บรหิ าร อนื่ ๆ
ตอนท่ี 2 ระดับความพึงพอใจตอ่ การเขา้ ร่วมโครงการ
คำชี้แจง โปรดทำเครอื่ งหมาย √ ลงในชอ่ งทีต่ รงกับความพึงพอใจ
ประเด็น / หัวข้อ การพจิ ารณา มาก มาก ปาน น้อย น้อย
ทส่ี ดุ (4) กลาง (2) ทีส่ ุด
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานท่ีในการจดั กิจกรรม
2.ระยะเวลาในการจดั กจิ กรรม
3.พิธีการและขน้ั ตอนการดำเนนิ งานมีความเหมาะสม
4.การมสี ว่ นร่วมของบคุ ลากร และหน่วยงานต่าง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจัดกจิ กรรม
6.การประชาสมั พันธก์ จิ กรรมอยา่ งทว่ั ถึง
7.การจัดกิจกรรมมุ่งสง่ เสริมความจงรักภกั ดตี ่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์
8.การมรี ะเบยี บวนิ ัยของบุคลากรในการเข้าร่วมกิจกรรม
9.ความสะดวกในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชน์ที่ไดร้ ับจากการรว่ มกิจกรรม
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
44
แบบประเมินความพงึ พอใจสำหรับผ้เู ขา้ รว่ ม
โครงการเสรมิ สร้างความจงรักภกั ดี ยดึ ม่ันในสถาบันหลกั ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณีทด่ี ีงามของไทย
กิจกรรมท่ี 7 วันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาสยามบรมราชกุมารี
*********************************************************************************
คำอธิบาย แบบประเมนิ ฉบับนีม้ ีทั้งหมด 3 ตอน ขอให้ผ้ตู อบแบบประเมนิ ตอบใหค้ รบทัง้ 3 ตอนเพอ่ื ใหก้ าร
ดำเนนิ งานเป็นไปตามวัตถปุ ระสงคแ์ ละเพ่ือเปน็ ประโยชนใ์ นการนำไปใชต้ ่อไป
ตอนท่ี 1 ข้อมูลทวั่ ไป
คำชแี้ จง โปรดทำเครอ่ื งหมาย √ ลงในช่องสเ่ี หลี่ยมหน้าข้อความ
1) เพศ ชาย หญงิ
2) สถานะภาพ
นักเรยี น/นกั ศึกษา ลูกจ้างหน่วยงานราชการ พนักงานราชการ
ขา้ ราชการ ผู้บรหิ าร อ่ืน ๆ
ตอนท่ี 2 ระดับความพึงพอใจตอ่ การเขา้ ร่วมโครงการ
คำชแ้ี จง โปรดทำเครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ความพงึ พอใจ
ประเดน็ / หวั ข้อ การพิจารณา มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย
ทสี่ ดุ (4) กลาง (2) ทีส่ ุด
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานที่ในการจดั กิจกรรม
2.ระยะเวลาในการจดั กิจกรรม
3.พธิ กี ารและขัน้ ตอนการดำเนินงานมีความเหมาะสม
4.การมีส่วนร่วมของบุคลากร และหน่วยงานต่าง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจัดกิจกรรม
6.การประชาสมั พนั ธ์กิจกรรมอย่างทั่วถึง
7.การจดั กจิ กรรมมุ่งส่งเสรมิ ความจงรกั ภักดตี ่อสถาบันพระมหากษตั ริย์
8.การมรี ะเบยี บวนิ ยั ของบุคลากรในการเขา้ รว่ มกิจกรรม
9.ความสะดวกในการเข้าร่วมกจิ กรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการรว่ มกจิ กรรม
ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................
45
แบบประเมินความพึงพอใจสำหรับผู้เข้ารว่ ม
โครงการเสรมิ สร้างความจงรักภักดี ยึดมัน่ ในสถาบนั หลกั ของชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ และ
ขนบธรรมเนยี มประเพณีทด่ี ีงามของไทย
กจิ กรรมที่ 8 วันจกั รี
*********************************************************************************
คำอธิบาย แบบประเมนิ ฉบับนม้ี ีทง้ั หมด 3 ตอน ขอให้ผู้ตอบแบบประเมินตอบให้ครบทั้ง 3 ตอนเพือ่ ให้การ
ดำเนินงานเปน็ ไปตามวตั ถปุ ระสงคแ์ ละเพ่ือเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ตอ่ ไป
ตอนท่ี 1 ข้อมูลทว่ั ไป
คำชแ้ี จง โปรดทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องส่เี หล่ียมหน้าข้อความ
1) เพศ ชาย หญงิ
2) สถานะภาพ
นักเรียน/นกั ศึกษา ลูกจา้ งหน่วยงานราชการ พนักงานราชการ
ขา้ ราชการ ผูบ้ รหิ าร อืน่ ๆ
ตอนท่ี 2 ระดับความพงึ พอใจตอ่ การเข้ารว่ มโครงการ
คำช้ีแจง โปรดทำเครื่องหมาย √ ลงในชอ่ งทีต่ รงกบั ความพงึ พอใจ
ประเด็น / หวั ข้อ การพิจารณา มาก มาก ปาน น้อย น้อย
ทส่ี ดุ (4) กลาง (2) ทีส่ ุด
(5) (3) (1)
1.ความเหมาะสมของสถานท่ีในการจัดกจิ กรรม
2.ระยะเวลาในการจัดกิจกรรม
3.พิธีการและข้นั ตอนการดำเนินงานมีความเหมาะสม
4.การมสี ่วนร่วมของบคุ ลากร และหน่วยงานต่าง ๆ
5.บรรยากาศ และภาพรวมของการจัดกจิ กรรม
6.การประชาสัมพนั ธก์ จิ กรรมอยา่ งท่วั ถึง
7.การจัดกิจกรรมมุ่งส่งเสรมิ ความจงรกั ภักดีต่อสถาบนั พระมหากษตั ริย์
8.การมีระเบียบวินยั ของบุคลากรในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม
9.ความสะดวกในการเข้าร่วมกจิ กรรม
10.ความสำคัญ/ประโยชน์ทไี่ ดร้ บั จากการรว่ มกจิ กรรม
ตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะ
...................................................................................................................................................................