The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

อารยธรรมอียิปต์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-01-13 13:56:44

อารยธรรมอียิปต์

อารยธรรมอียิปต์

EGYPT

อ า ร ย ธ ร ร ม อี ยิ ป ต์

คำนำ

รายงานฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาประวัติศาสตร์
ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยมีจุดประสงค์เพื่อการ
ศึกษาความรู้ที่ได้จากเรื่องอารยธรรมอียิปต์ ทั้งนี้ ใน
รายงานฉบับนี้มีเนื้อหาซึ่งประกอบด้วยเรื่องราวต่างๆ
ของอารยธรรมอียิปต์ สมัยอาณาจักรเก่า อาณาจักร
กลาง อาณาจักรใหม่ การเสื่อมอำนาจของอียิปต์และ
ความรุ่งเรื่องของอารายธรรมอียิปต์ เป็นต้น

ผู้จัดทำได้ไปศึกษาค้นคว้า รวบรวมและเรียบเรียง
ออกมาเป็นรายงานเล่มนี้ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาของ
อารยธรรมอียิปต์ ซึ่งผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจและผู้ที่นำไปใช้
ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามความคาดหวังต่อไป

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ 4
6
อารยธรรมอียิปต์ 8
สมัยอาณาจักรเก่า 10
สมัยอาณาจักรกลาง 10
สมัยอาณาจักใหม่ 11
การเสื่อมอำนาจ
ความรุ่งเรืองของอารยธรรมอียิปต์

ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า แ ห่ ง

อารยธรรม
อียิปต์

อารยธรรมอียิปต์

ก่อนที่อียิปต์จะรวมกัน อียิปต์แบ่งออกเป็น
2 อาณาจักร คือ อียิปต์บนและอียิปต์ล่าง
เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช
เมเนสประมุขแห่งอียิปต์ล่างได้รวมดินแดน
ทั้งสองเข้าด้วยกันและสถาปนาเป็นราชวงศ์
ที่ 1 ขึ้นปกครองโดยมีเมืองหลวงอยูที่
เมมฟิส มีการจัดทำระบบชลประทาน
ในระยะเวลาเดียวกันมีหลักฐานว่าอียิปต์ได้
พัฒนาระบบเขียนขึ้น ที่เรียกว่า อักษรไฮโร
กลิฟิก ซึ่งมีลักษณะเป็นภาพอักรภาพจารึก
ในแผ่นศิลาหรือฝาผนังหินขนาดใหญ่
ต่อมาได้พั ฒนาเป็นตัวเขียนที่ง่ายขึ้น
แต่ยังคงเป็นอักษรภาพอยู่ เรียกว่า อักษร
เฮียราติก อักษรไฮโรกลิฟิกของอียิปต์ได้รับ
การพัฒนาและแพร่หลาย และกลายเป็น
ตัวอย่างของตัวอัการที่มีผู้นิยมใช้ลอกเลียน
และดัดแปลงกันทั่วไป แต่ไม่ได้พัฒนาเป็น
ระบบตัวอักษรอัลฟาเบตทั้งระบบแบบของ
ฟินิเซีย

สมัยอาณาจักรเก่า

กบัตริย์อียิปต์หรือฟาโรห์ สามารถสถาปนาอำนาจสูงสุดและ
ควบคุมขุนนางได้ ทรงมีฐานะเป็นเทวราชาที่เป็นเจ้าของผืนดิน
ทั้งหมดของอียิปต์ ฟาโรห์ทรงมีอำนาจควบคุมชลประทาน
การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยวผลผลิตในคลังหลวงเพื่อใช้เลี้ยงดู
ราชสำนัก นักบวช ช่าง และพ่อค้า ตลอดจนประชาชน
ด้วยความื่อว่าฟาโรห์ทรงเป็นพระเจ้า จึงทำให้เกิดวัฒนธรรมการ
เชิดชูฟาโรห์และพระราชวงศ์ โดยการสร้างสุสานขนาดใหญ่
เรียกว่า พีระมิด เพื่อเก็บพระศพหรือมัมมี่

การทำมัมมี่ผ่านกรรมวิธีที่ซับซ้อนเพื่อรักษาไม่ให้เน่าเปื่ อย ศพจะ
ถูกนำไปชำระให้สะอาดแยกอวัยวะสำคัญภายใน และผ่านกรรมวิธี
ที่สลับซับซ้อนก่อนใช้ผ้าขาวทอเป็นแถบยาวพั นรอบศพจะแห้ง
และไม่เน่าเปื่ อย

พีระมิดของฟาโรห์ถูกสร้างให้ใหญ่โตสมพระเกียรติ มีห้องเก็บ
พระศพที่ลี้ลับและเป็นความลับเพื่อป้องกันการโจรกรรม มีการ
ตกแต่งด้วยภาพวาดตามผนังอย่างงดงามเช่นเดียวกับวัง และ
บรรจุของใช้ต่างๆที่มีค่าเพื่ อให้พระองค์ทรงใช้หลังจากตื่นจาก
บรรทมอันยาวนาน แม้การสร้างพีระมิดจะช่วยให้ชาวอียิปต์มีงาน
ทำในฤดูน้ำหลากและเป็นการทำงานเพื่ อรับใช้ฟาโรห์ที่เป็น
เทวราชา แต่การใช้ทรัพย์และบุคคลจำนวนนับแสนทั้งทหารและ
ชาวนาและระยะเวลายาวนานในการก่อสร้าง ประกอบกับการทำ
เกษตรกรรมบางช่วงเวลาไม่ได้ผลมีการเก็บภาษีในรูปของข้าว
สัตว์ ผ้า โลหะและอื่นๆเพิ่มขึ้น เป็นชนวนนำไปสู่ความวุ่นวายขึ้น
ในสังคม พวกขุนนางก้าวขึ้นมาใช้อำนาจของฟาโรห์ รวมทั้งการ
อ้างการมีชีวิตอมตะ ทำให้ดินแดนต่างๆแยกตัวเป็นอิสระในที่สุด
เป็นการสิ้นสุดของสมัยอาณาจักรเก่า

สมัยอาณาจักรกลาง

ในสมัยอาณาจักรกลางชาวอียิปต์จะไม่นิยมสร้าง
พี ระมิดขนาดใหญ่อีกต่อไปฟาโรห์ทรงหันไปสนใจ
ทำนุบำรุงสุขแก่ประชาชน มีการจัดทำโครงการ
ระบายน้ำและสร้างเขื่อน ทำให้ในอียิปต์ตอนใต้มี
เขตเพาะปลูกเพิ่มขึ้นถึง 27,000 เอเคอร์
ส่วนประชาชนทั่วไปแม้กระทั่งคนจนก็มีสิทธิที่จะทำ
มัมมี่ของสมาชิกในครอบครัวทำให้พวกเขา
สามารถที่จะแสวงหาชีวิตอมตะได้เช่นเดียวกับ
ฟาโรห์และชนชั้นขุนนางนอกจากนี้ก็ได้มีการ
เปลี่ยนแปลงการก่อสร้างสถาปัตยกรรมขนาด
ใหญ่ เป็นวิหารเพื่อบูชาเทพอะมอน และเทพโอซิริส

สตรีอียิปต์มีศักดิ์ศรีสูงไม่ได้ต่ำต้อยกว่าชายมาก หน่วยพื้นฐานทาง
สังคม ได้แก่ ครอบครัวสามี-ภรรยาคนเดียว แต่การมีภรรยาได้
หลายคนก็ไม่ใช่ข้อห้ามสำหรับสามี ฟาโรห์แม้จะมีนางสนมเป็นจำนวน
มากแต่ก็ต้องมีอัครมเหสีเคียงข้าง โดยราชินีอียิปต์สามารถทำหน้าที่
สำเร็จราชการแทนได้ ที่สำคัญ ได้แก่ ราชินีฮัตเซบสุด แห่งราชวงศ์
ที่ 14 ที่ทรงควบคุมราชกิจของแผ่นดินได้ทั้งหมด ส่วนสตรีทั่วไป
ก็ได้รับสิทธิสืบทอดมรดกและดำเนินธุรกิจได้

สมัยอาณาจักรใหม่

ในสมัยอาณาจักรใหม่ นักบวชได้ก้าวขึ้นมามีอำนาจมากขึ้น ทั้งลัทธิ
บูชาเทพโอซิริสก็เป็นที่นิยมนับถือกันอย่างกว้างขวาง เทพโอซิริสมี
บทบาทในการชั่งน้ำหนักระหว่างหัวใจของผู้ตายกับขนนกแห่งความ
เป็นจริงและหัวใจที่ปราศจากบาปเท่านั้นที่จะมีชีวิตอมตะ เหตุนี้จึง
ทำให้นักบวชอ้างว่าเป็นผู้รู้ความลับที่จะทำให้หัวใจของทุกคนเบาลง
ได้ ซึ่งรวมถึงผู้กระทำบาปหนักด้วย พวกนักบวชจะผูกขาดพิธีกรรม
ต่างๆและเรียกร้องค่าใช้จ่ายสูง ขณะเดียวกันก็มีการแต่งหนังสือ
คัมภีร์มรณะ เพื่อใช้เป็นคู่มือว่าหลังจากเสียชีวิตแล้วควรปฏิบัติตน
อย่างไรก่อนเดินทางไปปรโลก นับเป็นวรรณกรรมชิ้นสำคัญของ
อียิปต์ในยุคนี้ ฟาโรห์อัคเคนาตัน ทรงพยายามทำลายอำนาจของ
กลุ่มนักบวชและปฏิรูปศาสนา โดยเปลี่ยนแปลงแนวคิดการนับถือ
เทพหลายองค์มาเป็นการนับถือเทพองค์เดียว ได้แก่ สุริยเทพอะตัน
ฟาโรห์และพระราชวงศ์เท่านั้นที่มีสิทธิบูชาเทพอะตัน ส่วนประชาชน
ทั่วไปต้องเคารพบูชาฟาโรห์ การปฏิรูปศาสนาของฟาโรห์สร้างความ
แตกแยกขึ้นในกลุ่มชาวอียิปต์ และความขัดแย้งระหว่างฟาโรห์กับ
นักบวชเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำความเสื่อมถอยมาสู่อียิปต์

การเสื่อมอำนาจ
อียิปต์ได้ถูกอัสซีเรียเข้ายึดครอง ต่อมาถูกเปอร์เซีย กรีก และโรมัน
ปกครองตามลำดับ จนสุดท้ายอียิปต์หันไปนับถือศาสนาอิสลาม

ความรุ่งเรืองของอารยธรรมอียิปต์

ด้านดาราศาสตร์
การมี 1 ปี มี 12 ดือน ในรอบ 1 ปียัง

แบ่งเป็น 3 ฤดูที่กำหนดตามวิถีการประกอบ
อาชีพ คือ ฤดูน้ำท่วม ฤดูไถหว่าน และฤดู
เก็บเกี่ยว

ด้านคณิตศาสตร์
โดยเฉพาะการคำนวณขั้นพื้นฐาน ได้แก่

การบวก ลบ และหาร และการคำนวณพื้นที่
วงกลม สี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยม ความรู้ดัง
กล่าวเป็นฐานของวิชาฟิสิกส์ ซึ่งชาวอียิปต์
ใช้คำนวณในการก่อสร้างพีระมิด วิหาร เสา
หินขนาดใหญ่ ฯลฯ

ด้านอักษรศาสตร์
อักษรไฮโรกลิฟิกเป็นอักษรรุ่นแรกที่

อียิปต์ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อประมาณปี 3100 ปี
ก่อนคริสต์ศักราช เป็นอักษรภาพแสดง
ลักษณ์ต่างๆ ต่อมามีการพัฒนาตัวอักษร
เป็นแบบพยัญชนะในระยะแรกชาวอียิปต์
จารึกเรื่องราวด้วยการแกะสลักอักษรไว้ตาม
กำแพงและผนังของสิ่งก่อสร้าง

สถาปัตยกรรม
เอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมอียิปต์

คือพีระมิด ซึ่งสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ทาง
ศาสนาและอำนาจทางการปกครองด้วยความ
เชื่อทางศาสนา ฟาโรห์ของอียิปต์จึงสร้าง
พีระมิดสำหรับหรับตนเอง นอกจากพีระมิด
แล้ว อียิปต์ยังสร้างวิหารจำนวนมาก เพื่อ
บูชาเทพเจ้าแต่ละองค์และเทพประจำท้องถิ่น
ภายในวิหารมักจะประดับด้วยเสาหินขยาด
ใหญ่ซึ่งแกะสลักลวดลายอย่างงดงาม
วิหารที่สำคัญและยิ่งใหญ่ของอียิปต์ ได้แก่
วิหารแห่งเมืองคาร์นัก

จิตรกรรม
ชาวอียิปต์มีผลงานด้านจิตรกรรม

จำนวนมาก มักพบในพีระมิดและสุสานต่างๆ
ภาพวาดของชาวอียิปต์ส่วนใหญ่มีสีสันสดใส
มีทั้งภาพสัญลักษณ์ของเทพเจ้าที่ชาวอียิปต์
นับถือ พระราชกรณียกิจของฟาโรห์และ
สมาชิกในราชวงศ์ ภาพบุคคลทั่วไปและภาพ
ที่สะท้อนวิถีชีวิตของชาวอียิปต์ เช่น
การประกอบเกษตรกรรม

จัดทำโดย

1.นายกฤตลักษณ์ ทิพย์มณเฑียร ม.6/6 เลขที่ 2
2.นายธนกฤติ สิงห์เส ม.6/6 เลขที่ 9
3.นายธราเทพ อินสว่าง ม.6/6 เลขที่ 11
4.นายภูสิทธิ์ พิพัฒน์เจษฎากุล ม.6/6 เลขที่ 18
5.น.ส. จารวี กาชัย ม.6/6 เลขที่ 25
6.น.ส. ชวพร แก้วนวม ม.6/6 เลขที่ 26
7.น.ส. ณภัทร เตชะกุลวัฒนา ม.6/6 เลขที่ 28
8.น.ส. ปิยธิดา ขันเขตร์ ม.6/6 เลขที่ 36
9.น.ส. พิมพ์ลพัฒน์ โชคบุญมานนท์ ม.6/6 เลขที่ 37
10.น.ส. ปัทมาภรณ์ พันธะศรี ม.6/6 เลขที่ 40


Click to View FlipBook Version