The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รัตนโกสินทร์สมัยปรับปรุงและปฏิรูปประเทศ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Warawut Aiadmee, 2022-07-10 13:08:42

รัตนโกสินทร์สมัยปรับปรุงและปฏิรูปประเทศ

รัตนโกสินทร์สมัยปรับปรุงและปฏิรูปประเทศ

กกรรุุงงรรััตตนนโโกกสสิินนททรร์์


ตตออนนตต้้นน

คำนำ

E-Book เล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชา

ประวัติศาสตร์เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ใน เรื่องกรุงรัตนโกสินทร์

ตอนต้นและได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่ อเป็ นประโยชน์กับการเรียน

ผู้จัดทำหวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือ

นักเรียน ที่กำลังหาข้อมูล เรื่องนี้อยู่ หากมีข้อแนะนำหรือข้อผิด

พลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้ อมรับไว้และขออภัย มา ณ ที่นี้

ด้วย

ด.ญ.ณัฐนิดา พันธรักษ์
04 / กรกฎาคม / 2565

สารบัญ หน้า

เรื่อง ก.
ข.
คำนำ 1.
สารบัญ 2.
การสถาปนากรุงเทพฯเป็ นราชธานี
ลักษณะของราชธานีใหม่ 3-4.
การปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์ 5.
ตอนต้น 6.
การปกครองประเทศราช 7.
การปรับปรุงกฎหมาย
การฟื้ นฟูเศรษฐกิจ

อาณาจักรรัตนโกสินทน์ตอนต้น

กรุงรัตนโกสินทร์ สมัยฟื้ นฟูบ้านเมือง
รัชกาลที่ 1-3(ยุครัตนโกสินทร์ตอนต้นพ.ศ.2325-2394)

การสถาปนากรุงเทพฯเป็นราชธานี

การสถาปนากรุงเทพฯเป็ นราชธานี
เมื่อขึ้นครองราชย์ ใน พ.ศ.2325 พระบาทสมเด็จ

พระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชโปรดเกล้าฯ ให้ย้าย

ราชธานีใหม่จากกรุงธนบุรีมายังฝั่งตะวันออก (ฝั่ง

ซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา) และสร้างกรุงเทพฯเป็น

ราชธานีขึ้น ณ ที่แห่งนี้
เหตุผลที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกฯ

ทรงย้ายราชธานี

1.พระราชวังเดิมของกรุงธนบุรีคับแคบ มีวัด

ขนาบอยู่ทั้ง 2 ด้าน คือ วัดอรุณราชวราราม (วัด

แจ้ง) และวัดโมฬีโลกยาราม (วัดท้ายตลาด) จึงยาก

แก่การขยายพระราชวัง

2.ความไม่เหมาะสมด้านภูมิประเทศ

เนื่องจากฝั่งตะวันตก หรือราชธานีเดิมเป็นท้องคุ้ง

อาจถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพังได้ง่าย แต่ฝั่งตะวันออก

(กรุงเทพฯ) เป็นแหลมพื้นดินจะงอกขึ้นเรื่อยๆ

3.ความเหมาะสมต่อการขยายเมืองในอนาคต

พื้ นที่ฝั่ งตะวันออกเป็ นที่ราบลุ่มกว้างขวางสามารถ

ขยายตัวเมืองไปทางเหนือและตะวันออกได้

4.กรุงธนบุรีไม่เหมาะทางด้านทำเลที่ตั้ง

ยุทธศาสตร์ กล่าวคือ มีแม่น้ำเจ้าพระยาผ่ากลาง

เปรียบเสมือนเมืองอกแตก เมื่อใดที่ข้าศึกยกทัพมา

ตามลำแม่น้ำก็สามารถตีถึงใจกลางเมืองได้โดยง่าย

ลักษณะของราชธานีใหม่

กรุงเทพมหานครเป็นราชธานีใหม่ของไทย สร้างขึ้นโดย

เลียนแบบกรุงศรีอยุธยากำหนดพื้ นที่เป็ นสามส่วนคือ

1.บริเวรพระบรมมหาราชวัง ประกอบด้วย วังหลวง วัง

หน้ า วังในพระบรมมหาราชวัง (วัดพระศรีรัตนศาสดาราม) และ

รวมทั้งทุ่งพระเมรุ (ท้องสนามหลวง)

2.บริเวรที่อยู่อาศัยภายในกำแพงเมือง อาณาเขตกำแพง

เมืองประตูเมืองและป้ อมปราการ สร้างขึ้นตามแนวคลองรอบกรุง

ได้แก่ คลองบางลำพู และคลองโอ่งอ่าง

3.บริเวรที่อยู่อาศัยภายนอกกำแพงเมือง เป็นพื้นที่

เกษตรกรรม มีบ้านเรือนราษฎรตั้งอยู่ด้านนอกของคลองรอบกรุง

มีคลองขุดในรัชกาลที่ 1 คือคลองมหานาค

การปกครองในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

ในสมัยรัชกาลที่ 1-3 พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจ

สูงสุดในการปกครองประเทศ การจัดระเบียบการปกครองยังคงยึดถือ

ตามแบบอย่างสมัยอยุธยาตอนปลาย มีดังนี้

1.การปกครองส่วนกลาง มีเสนาบดีทำหน้ าที่บริหารราชการ

ได้แก่
1.1 สมุหกลาโหม มีอำนาจบังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายใต้ ทั้งทหารและ

พลเรือนมียศและราชทินนามว่า เจ้าพระยามหาเสนา ใช้ตราคชสีห์เป็น

ตราประจำตำแหน่ง
1.2 สมุหนายก มีอำนาจบังคับบัญชาหัวเมืองฝ่ายเหนือ ทั้งกิจการ

ทหารและพลเรือนมียศและราชทินนามว่า เจ้าพระยาจักรี หรือ

เจ้าพระยาบดินทร์เดชานุชิต ใช้ตราราชสีห์เป็นตราประจำตำแหน่ง
1.3 เสนาบดีจตุสดมภ์ เป็นตำแหน่งรองลงมา ประกอบด้วย
(1) กรมเวียง หรือกรมเมือง เสนาบดี คือ พระยายมราช มีหน้ าที่ดูแล

กิจการทั่วไปในพระนคร
(2) กรมวัง เสนาบดี คือ พระยาธรรม มีหน้ าที่ดูแลพระราชวังและตั้ง

ศาลชำระความ
(3) กรมคลัง หรือกรมท่า เสนาบดี คือ พระยาราชภักดี, พระยาศรี

พิพัฒน์หรือพระยาพระคลัง มีหน้ าที่ด้านการเงิน การคลัง และการต่าง

ประเทศ
(4) กรมนา เสนาบดี คือ พระยาพลเทพ มีหน้ าที่ดูแลไร่นาหลวง และ

เก็บภาษีข้าว

2. การปกครองส่วนภูมิภาค หรือการปกครองหัวเมือง
2.1 หัวเมืองฝ่ายเหนือ (รวมทั้งหัวเมืองอีสาน) อยู่ในความรับผิดชอบ

ของสมุหนายก หั้วเมืองฝ่ายเหนือแบ่งตามฐานะตามระดับความสำคัญ

ดังนี้
(1) หัวเมืองชั้นใน (หัวเมืองจัตวา) อยู่ไม่ห่างไกลจากราชธานี มีเจ้า

เมืองหรือ“ผู้รั้ง”เป็ นผู้ปกครอง
(2) หัวเมืองชั้นนอก (เมืองชั้นตรี โท เอก) มีขุนนางชั้นสูงหรือ

พระบรมวงศานุวงศ์เป็นผู้ปกครอง ได้แก่ เมืองพิษณุโลก นครสวรรค์

พิจิตร ฯลฯ
2.2 หัวเมืองฝ่ายใต้ ขึ้นสังกัดสมุหกลาโหม นับตั้งแต่เมืองเพชรบุรีลง

ไป จนถึงนครศรีธรรมราช ไชยา พังงา ถลาง และสงขลา เป็นต้น มี

ฐานะเป็ นหัวเมืองชั้นนอกทั้งสิ้น
2.2 หัวเมืองชายฝั่ทงทะเลตะวันออกของอ่าวไทย เป็นหั้วเมืองชั้น

นอก ได้แก่ นนทบุรี สมุทรปราการ สาครบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี

ฯลฯ อยู่ในความรับผิดชอบของพระคลัง หรือกรมท่า

การปกครองประเทศราช

ฐานะของประเทศราช คือ เมืองของชนต่างชาติต่างภาษา

มีกษัตริย์ของตนเองเป็นผู้ปกครอง มีหน้ าที่ต้องส่งเครื่องราช

บรรณาการมาถวายตามกำหนด และส่งทหารมาช่วยเมื่อเมือง

หลวงมีศึกสงคราม

ประเทศราชของไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีทั้งดิน

แดนล้านนา ลาว เขมร และหั้วเมืองมลายู ได้แก่ เชียงใหม่

เชียงแสน หลวงพระบาง เวียงจันทร์ จำปาศักดิ์ เขมร ปัตตานี

ไทรบุรี กลันตัน ฯลฯ

การปรับปรุงกฎหมาย

1. กฎหมายตราสามดวง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอด

ฟ้ าจุฬาโลกฯโปรดเกล้าฯให้รวบรวมและชำระกฎหมายเก่าที่ใช้

กันมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และคักลอดไว้ 3 ฉบับ ทุกฉบับ

ประทับตราคชสีห์ ตราราชสีห์ และตราบัวแก้ว จึงเรียกว่า

กฎหมายตราสามดวง

2.กฎหมายตราสามดวง หรือประมวลกฎหมายรัชกาลที่

1 ใช้เป็นหลักปกครองประเทศมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ก่อนที่

จะมีการปฏิรูปกฎหมายไทยและการศาลให้เป็ นระบบสากล

การฟื้ นฟูเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจของไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเริ่มฟื้ น

ตัวในตอนปลายรัชกาลที่ 2 เป็นต้นมา และเจริญรุ่งเรืองอย่าง

มากในสมัยรัชกาลที่ 3ผลผลิตทางการเกษตรและการค้าทาง

เรือสำเภากับต่างประเทศขยายตัวขึ้นมาก รายได้ของประเทศ

ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น มีที่มา 2 ทางดังนี้

1. รายได้จากการค้ากับต่างประเทศ
2. รายได้ภายในประเทศ


Click to View FlipBook Version