รายงาน
เรื่องพัฒนาทักษะการอ่านด้วยกระบวนการวิเคราะห์เรื่องสั้น
โดย
นางสาวจินตรา แฟมไธสง เลขที่3
นางสาวพิมพรรษา ศักดิ์อุ ดม เลขที่10
นายณัฐนันท์ อยู่ประเสริฐ เลขที่27
นายณัฐพร บุญคำ เลขที่28
นางสาวนันธวี พรหมสกุลวงศ์ เลขที่35
นางสาวประภัสสร ทองอ้วน เลขที่36
ชั้น มั ธ ย ม ศึ ก ษ า ปี ที่ 4 / 2
รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาค้นคว้า วิชา ทต๑๑๐๒
ภาษาไทยพื้ นฐาน
ภ า ค เ รีย น ที่ 2 ปี ก า ร ศึ ก ษ า 2 5 6 4
โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์
สำนักงานเขตประเวศ สังกัดกรุงเทพมหานคร
รายงาน
เรื่องพัฒนาทักษะการอ่านด้วยกระบวนการวิเคราะห์เรื่องสั้น
โดย
นางสาวจินตรา แฟมไธสง เลขที่3
นางสาวพิมพรรษา ศักดิ์อุ ดม เลขที่10
นายณัฐนันท์ อยู่ประเสริฐ เลขที่27
นายณัฐพร บุญคำ เลขที่28
นางสาวนันธวี พรหมสกุลวงศ์ เลขที่35
นางสาวประภัสสร ทองอ้วน เลขที่36
เสนอ
นางสาวพรทิพย์ เอมเจริญ
คำนำ ก
รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่ อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทยชั้น
มัธยมศึกษาปีที่4เพื่ อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องพัฒนทักษะ
ก า ร อ่ า น
ด้ ว ย ก ร ะ บ ว น ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ เ รื่ อ ง สั้น แ ล ะ ไ ด้ ศึ ก ษ า อ ย่ า ง เ ข้ า ใ จ
เพื่ อเป็นประโยชน์กับการเรียน
ผู้จัดทำหวังว่ารายงานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือ
นักเรียน นักศึกษา ที่กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อแนะนำ
หรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้และขออภัย
มา ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ ข
เ รื่ อ ง หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
เรื่องที่1 ครอบครัวที่อบอุ่น 1
เ รื่ อ ง ที่ 2 ศิ ษ ย์ ที่ ค รู ไ ม่ ต้ อ ง ก า ร 2
เ รื่ อ ง ที่ 3 เ กื อ บ ส า ย ไ ป แ ล้ ว 3
เรื่องที่4 ลูกหมูสามตัว 4
เรื่องที่5 อย่าสู้กับมะเร็งคนเดียว 5
เ รื่ อ ง ที่ 6 บ้ า น นี้ มี แ ต่ รัก 6
ชื่ อเรื่อง ครอบครัวอบอุ่น 1
ชื่ อผู้แต่ง ทองดี สุรดตโช
โ ค ร ง เ รื่ อ ง : คำ ว่ า ค ร อ บ ค รัว เ ป็ น คำ ที่ มี ค ว า ม ห ม า ย ม า ก คื อ ห ม า ย ถึ ง ค ว า ม รัก
ค ว า ม อ บ อุ่ น ค ว า ม เ ป็ น อั น เ ดี ย ว กั น ส มั ย ลู ก เ ป็ น เ ด็ ก ๆ เ ร า อ ยู่ ร่ว ม กั น เ ป็ น
ค ร อ บ ค รัว มี เ สี ย ง หั ว เ ร า ะ ส นุ ก ส น า น มี สิ่ ง ยิ่ ง เ ล่ น วิ่ ง ไ ล่ กั น ไ ด้ ท า น อ า ห า ร ร่ว ม กั น
ได้อะไรด้วยกันดูมันมีชีวิตชีวาแม่พ่อแม่จะทำงานเหน็ดเหนื่ อยกันมาพอเห็น
หน้าลูกๆมาคอยต้อนรับหน้าประตูถามว่าเหนื่ อยไหมในช่วยซื้ อกระเป๋าถือของ
ให้เท่านี้ก็หายเหนื่ อยแล้วเห็นลูกกินได้นอนหลับพ่อแม่ก็สบายใจนี่แหละลูก
เ อ๊ ย ที่ เ ข า ว่ า ค ร อ บ ค รัว ที่ อ บ อุ่ น ต อ น นี้ ลู ก ก็ โ ต กั น แ ล้ ว ห า ก ส า ม า ร ถ เ ส ก เ ป่ า ไ ด้ พ่ อ
กั บ แ ม่ ก็ อ ย า ก จ ะ เ ส ร็จ เ ป ล่ า ใ ห้ ค ร อ บ ค รัว ข อ ง เ ร า เ ป็ น ค ร อ บ ค รัว ที่ อ บ อุ่ น พ ร้อ ม
ห น้ า พ ร้อ ม ต า กั น เ ห มื อ น ต อ น เ ป็ น เ ด็ ก ท า น ข้ า ว ด้ ว ย กั น ทำ ใ ห้ สุ ก ข อ ง กั น แ ล ะ กั น
ไ ด้ อุ้ ม ห ล า น ตั ว เ ล็ ก น้ อ ย เ ท่ า นั้น เ ข า ยื น อ า ยุ ใ ห้ พ่ อ กั บ แ ม่ ไ ด้ อี ก ห ล า ย ปี แ ล้ ว ลู ก เ อ๊ ย
คุ ณ ค่ า ด้ า น ว ร ร ณ ศิ ล ป์
ด้านภาษา
ก า ร ใ ช้ ภ า ษ า ที่ ถู ก ต้ อ ง ต า ม ห ลั ก ภ า ษ า ไ ท ย ชั ด เ จ น แ ล้ ว เ ข้ า ใ จ ง่ า ย เ ป็ น ก า ร ถ่ า ย ท อ
ห นั ง สื อ ม า เ ป็ น ตั ว ด้ า น สั ง ค ม เ ป็ น ก า ร ส ะ ท้ อ น ใ ห้เ ห็น ถึ ง สั ง ค ม อ ย่ า ง อ ย่ า ง ห นึ่ ง ใ น ปั
การงานการเรียนทางด้านสุขภาพทั้งกายและจิตใจ
ข้ อ คิ ด ที่ ไ ด้ จ า ก ก า ร อ่ า น
1 รู้จั ก ช่ ว ย เ ห ลื อ ซึ่ ง กั น แ ล ะ กั น
2 รู้จักความเป็นอยู่ของครอบครัวเวลาพ่อแม่
ทำงานหาเงินมาซื้ อกับข้าวพ่อกับแม่ต้องทน
เหน็ดเหนื่ อยมากขนาดไหนเพื่ อจะให้ลูกๆอยู่กินมี
ความสุข
การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ก า ร แ บ่ ง เ บ า ภ า ร ะ จ า ก ก า ร ที่ พ่ อ แ ม่ ไ ป ทำ ง า น
แ ล ะ ก ลั บ บ้ า น ม า อ ย่ า ง ห นั ก โ ด ย เ ร า ค ว ร ช่ ว ย กั น
ทำความสะอาดบ้านทำความสะอาดภายในบ้าน
ให้เรียบร้อยเพื่ อแบ่งเบาภาระให้พ่อแม่
ศิษย์ที่ครูไม่ต้องการ 2
ชื่อเรื่อง ศิษย์ที่ครูไม่ต้องการ
ชื่อผู้แต่ง พินิตย์ พันธประวัติ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว ปีที่พิมพ์ 2525
สรุปสาระสำคัญที่ได้จากการอ่าน
เด็กชายเดช เดชากุล เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นลูกคน
เดียวของผู้มีอันจะกินคนหนึ่งถูกพ่อแม่ตามใจมากเกินไป เดชเป็นเด็ก
ฉลาดแต่เขาไม่สนใจต่อการเรียนขาดเรียนบ่อย เอาแต่ใจตนเอง วันหนึ่ง
เดชมาเรียนตามปกติครูพรทิพย์จึงเรียกเดชมาพบที่โต๊ะหน้ าห้องแต่เดช
ไม่ยอมออกมาทำเป็ นไม่สนใจต่อคำพูดของคุณครูและมีการโต้ตอบทำให้
ครูไม่สามารถ ข่มใจได้อีกจึงพูดสั่งสอนเดชอย่างโมโห วันรุ่งขึ้นเดชมา
เรียนเพียงครึ่งวันแล้วก็หิ้วกระเป๋ าเดินคอตกกลับบ้าน ครูพรทิพย์สังเกตุ
ว่าช่วงนี้เดชมาเรียนทุกวันแต่งกายเรียบร้อยแต่ซึมเศร้า ครูพรทิพย์ทำ
เป็นไม่สนใจเดชไม่ใยดีจนกระทั่งถึงวันสอบอ่านวิชาภาษาไทยเดชก็ เข้า
มาจะสอบแต่ครูไม่สนใจไม่พูดด้วยเขาก็เดินออกไปแล้วเดินกลับบ้าน
น้ำตาซึม วันรุ่งขึ้นเดชไม่มาเรียนหลายวันและครูได้ข่าวว่าเดชไม่สบายครู
จึงไปเยี่ยม ที่บ้านเดชขอโทษคุณครู คุณครูพรทิพย์ให้อภัยเดชทุกอย่าง
เพราะเดชได้ปรับปรุงตัวเองจนกลายเป็นคนละคน คุณครูพรทิพย์มีความ
สุขสุดที่จะกล่าว
ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน
ได้รู้ถึงความรักที่ครูมีต่อลูกศิษย์ความอดทนเพื่ อให้ลูกศิษย์เป็ นคนดี
คุณครูต้องการลูกศิษย์ทุกคนขึ้นอยู่ที่ตัวเราว่าจะทำตัวให้ครูต้องการหรือ
ไม่ต้องการ
การนำข้อคิดที่ได้จากการอ่านไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน
ทำให้เราคิดได้ว่าถ้าไม่สนใจต่อการเรียนเราจะไม่เป็ นที่รักของคุณครู
ทำให้เราปรับปรุงตัวเองกับการเรียนในชีวิตประจำวันของเราให้ดียิ่งขึ้น
ข้อความประทับใจ/ข้อคิดเห็นของนักเรียน
ข้อความที่ครูให้อภัยต่อเดช สะท้อนให้เห็นความมีเมตตาสงสารพร้อม
ที่จะให้อภัยเมื่ อเรากลับตัวเป็ นคนดี
ชื่อเรื่อง เกือบสายไปแล้ว 3
ชื่อผู้แต่ง ถวัลย์ มาสจรัส
สำนักพิมพ์ คุรุสภาลาดพร้าว ปีทีพิมพ์ 2539
สรุปสาระสำคัญที่ได้จากการอ่าน
ช่วงวัยของชีวิตไม่มีใครปฏิเสธได้เลยว่าวัยรุ่นวัยเรียนนั้นน่าสนุก
ที่สุด เพราะเมื่อเราจากไกลบ้านแล้วนั้นเท่ากับว่าไม่มีผู้ใหญ่คอยขีดขวางอีก
แล้ว กับการมีชีวิตตามลำพังมีบททดสอบมากมายให้ลองผิดลองถูกทุกอย่าง
ขึ้นอยู่กับ เราตัดสินเลือกหนทางเดินเองทั้งสิ้นดั้งนั้นคนคนหน่งที่เรารู้จักโดย
บังเอิญ ชีวิตวัยเด็กเขาเป็นเด็กดีมากถูกเลี้ยงมาอย่างดีเขาเป็นลูกคนเดียว
จึงุถูก ตามใจในทุกๆเรื่องหลังจบชั้นประถมก็ต่อชั้นมัธยมเมื่อออกสู่โลก
ภายนอกทำให้ เขาหลงระเริงกับสภาพบรรยากาศใหม่ๆเรียนได้ไม่กีปีชีวิตเขาก็
เปลี่ยนไป ทุกอย่างทางที่ไม่ดีไม่ใส่ใจการเรียนติดยานานวันก็ยิ่งหนักขึ้นเป็น
ตัวปัญหา ที่ว่าสังคมไม่ต้องการทางบ้านจึงได้ส่งตัวไปเมืองนอกเผื่อส่าจะดี
ขึ้นแต่ กลับรุนแรงเข้าไปอีกเมื่อทางบ้านทราบข่าวสิ่งที่หวังจึงหมดหนทาง
สุดท้ายเขา ถูกส่งตัวกลับบ้านหลังจากนั้นเขาทำอะไรก็ไม่มีใครสนใจจนเขาเอง
ก็รู้สึกกเเปลกใจวันหนึ่งเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้
เขาเกือบ ตายในขณะที่เขาอาการโคม่าเขาได้สำนึกถึงการกระทำอันเลวร้ายที่
ผ่านมาเขาได้ สัญญากับตัวเองว่าหากเขาหายจากอาการแล้วคนแรกที่จะ
ขอโทษคือพ่อแม่และจะเป็น คนดีตลอดชีวิตถ้ามีชีวิตกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน
ชีวิตของเรามีค่ามหาศาลก่อนที่เราจะทำสิ่งไม่ดีให้นึกถึงพ่อแม่เสียก่อนในยามที่
เราไม่สบายและท้อแท้คนที่อยู่เคียงค้างเราคือพ่อแม่
นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
เรานั้นต้องทำหน้ าที่ลูกให้ดี อย่ามั่วแต่หลงใหลในยความสนุก จนลืมไปว่า เรานั้น
ต้องดูแลพ่อแม่ ในวันที่เราไม่สบายพ่อแม่นั้นคอยเป็นห่วงอยู่ข้างๆเสมอ
4
-ชื่อเรื่อง ลูกหมูสามตัว
-ผู้เขียน Ariana Candell. ผู้แปล ดุจเดือน กลั่นคูวัด
-โครงเรื่อง
ลูกหมูสามตัวสร้างบ้านของตัวเอง ลูกหมูตัวที่หนึ่งขี้เกียจหาอิฐจึงเอา
ฟางมาสร้างบ้าน ลูกหมูตัวที่สองเดินเข้าป่าไปหาไม้มาสร้างบ้าน ส่วนลูก
หมูตัวที่สามเดินทางไปในเมืองเพื่อหาอิฐมาสร้างบ้าน วันหนึ่งหมาป่าหิว
อยากกินลูกหมู หมาป่าจึงเป่าบ้านลูกหมูตัวที่หนึ่งพัง ลูกหมูตัวที่หนึ่งวิ่ง
หนีไปบ้านลูกหมูตัวที่สอง หมาป่าตามไปเตะบ้านลูกหมูตัวที่สองล้มลูกหมู
สามตัววิ่งหนีไปบ้านลูกหมูตัวที่สาม หมาป่าก็ตามไปอีก แต่อิฐแข็งแรง
มาก หมาป่าเป่าจนหมดลมแล้วตาย ลูกหมูสามตัวอยู่ด้วยกันอย่างมี
ความสุข
-คุณค่าด้านวรรณศิลป์
เป็นบทพูดกันเองเป็นคำพูดที่สุภาพไพเราะ
-คุณค่าด้านสังคม
หมาป่าเป่าบ้านลูกหมูตัวที่หนึ่งลูกหมูตัวที่หนึ่งวิ่งไปบ้านลูกหมูตัวที่สอง
หมาป่าเป่าบ้านลูกหมูตัวที่สองลูกหมูตัวที่สองวิ่งไปบ้านตัวที่สามที่เป็น
บ้านอิฐ
-ข้อคิดที่ได้รับ
การที่เราขี้เกียจไม่ได้ทำให้เราสบายเเต่จะทำให้นำภัยพิบัติมาสู่ตัวเรา
-การนำไปปรับใช้
เราควรช่วยพ่อเเม่ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆเช่นกวาดบ้าน ถูบ้านซักผ้า ล้าง
จาน
5
อย่าสู้กับมะเร็งคนเดียว
ชื่อผู้แต่ง ipalidar
วันนี้ฉันเป็ นนักศึกษาพยาบาลและได้ฝึ กงานอยู่ที่โรงพยาบาลมะเร็ง
แห่งหนึ่ง ในวันๆหนึ่งฉันต้องเจอแต่ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง ไม่มีคนไข้คน
ไหนยิ้มแม้แต่คนญาติคนไข้เองก็เช่นกัน ทุกๆวันต้องมีคนมารักษา
ด้วยคีโมและเคมีบำบัด ถึงแม้มันทำให้หายจากโรคแต่ผลข้างเคียง
ของยาก็ต้องทำให้พวกเขาทรมาน คนไข้ทุกๆคนต่างก็มีร่างกายที่ซูบ
ผอม ฉันได้เจอกับคุณตาคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไข้เตียงหนึ่งเป็นเตียงที่อยู่
ใกล้กับเคาน์เตอร์พยาบาลคุณตานอนอยู่บนเตียงคนเดียว ฉันพยายาม
มองหาญาติของคุณตา แต่ก็ไม่มีใครเลย แต่ในวันต่อมา ฉันเห็นคุณ
ยายยืนอยู่ข้างๆเตียง ในตอนที่พี่พยาบาลทำแผลให้คุณตาคุณตาร้อง
ด้วยความเจ็บปวดแต่ข้างกันนั้นเองก็มีมือของคุณยายที่กุมมือปลอบ
คุณตาอยู่จะเสร็จแล้ว... ตลอดเวลาที่คุณตาร้องไม่มีใครควรสู้กับ
มะเร็งเพียงคนเดียวฉันและเพื่ อนๆต่างหันไปยิ้มให้กันมันเป็ นภาพที่
น่ารักมาก บ่ายสองของวันหนึ่งชีพจรของคุณตาเต้นเร็วซึ่งมันไม่ปกติ
เพื่อนจึงรีบเรียกอาจารย์ให้มาดูในขณะที่เพื่อนและอาจารย์กำลังวัด
สัญญาณชีพคุณตาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจฉันก็เหลือบไปมองคุณยาย
คุณยายกุมมือคุณตาไว้ตลอดเวลาปากก็บอกคุณตาซ้ำไปซ้ำมาว่าไม่
เป็ นไรแล้ว...พูดวนไปวนมาพร้อมกับลูบมือคุณตาเบาแววตาของคุณ
ยายที่มองคุณตาเหมือนอยากจะบอกกับคุณตาว่าฉันอยู่ตรงนี้นะ..ฉัน
ยังอยู่ข้างๆเธอนะ..
ข้อคิดที่ได้จากการอ่าน
คนที่ดูแลคนป่ วยอย่าอ่อนแอให้เค้าเห็นเพราะเขาต้องมีกำลังใจที่ดีใน
การสู้กับโรคร้าย
ย่อย
ชื่อเรื่องบ้านนี้มีแต่รัก 6
ชื่อผู้แต่ง ประภาศรี เทียนประเสริฐ
อรวีเป็นสาวน้ อยร่างโปร่งผิวขาวและเป็นลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจชื่อดังเธอ
เกิดในครอบครัวที่มีฐานะความเป็ นอยู่ดีแต่เธอไม่มีความสุขสบายดังฐานะของ
เธอ เลย ชีวิตของอรวีจึงเป็นชีวิตแบบหนึ่งในสังคมปัจจุบัน ตอนนี้อรวีเรียนอยู่
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เขาน้ อยอกน้ อยใจตลอดเวลาถ้าคิดถึงเรื่องภายใน
ครอบครัวของเขาเพราะพ่อแม่ ของอรวีไม่เคยมีเวลาให้เขาเลยแม้แต่วันหยุด
เรียนก็ยังต้องออกไปพบปะสังคมภาย นอกปล่อยให้เธออยู่บ้านตามลำพังคน
เดียวไม่มีคนที่จะปรึกษาไม่มีคนคอยถามข่าว การเรียนของเขาเลย อรวีตื่นแต่
เช้าออกจากบ้านเพื่อจะไปเรียนหนังสือดดยที่แม่กับพ่อของเขายัง ไม่ตื่นนอน
เลยพอกลับมาถึงบ้านก็ไม่มีใครอยู่มีแต่คนใช้เพราะพ่อกับแม่ไปทำ งานกว่าจะ
กลับอรวีก็เขานอนแล้วชีวิตของอรวีเป็นอย่างนี้ทุกวันจนบางครั้งทำ ให้อรวีไม่
อยากกลับบ้านเลยเขาไม่เคยมีความสุขเขาอยากมีชีวิตเหมือนคนปกติถึง แม้จะ
มีฐานะไม่ร่ำรวยแต่เขาขอแค่พ่อแม่ลูกอยู่พร้อมหน้ ากินข้าวด้วยกันแค่ นี้ก็พอใจ
แล้ววันหนึ่งเขาไปเรียนตามปกติก็มีเพื่อนของเขาคนหนึ่งมาคุยกับอร วีบอกว่า
เขาเสียตัวให้กับผู้ชายที่พึ่งรู้จักจากการไปเที่ยวพับกลางคืนอรวี ตกใจมากจาก
เรี่องที่ได้ฟังทำให้อรวีคิดได้ว่าไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยและอบอุ่น เท่าบ้านของเขา
เองไม่มีใครที่จะให้ความรักกับเราเท่าพ่อกับแม่
คุณค่าด้านสังคม
อรวีน้ อยใจที่เขาและครอบครัวไม่มีเวลาให้กันและกันเพราะต่างคนต่าง
ต้องทำหน้ าที่ของตนเองจนไม่ได้มีเวลาทำกิจกรรมร่วมกัน
ข้อคิดที่ได้รับ
ครอบครัวจะเป็นสุขได้ถ้าทุกคนรู้จักหน้ าที่ยอมรับฟังความคิด
เห็นซึ่งกันและกันรู้จักให้อภัยกันค และเป็นกระจกเงาให้กัน
และกันภายในบ้านก็จะอบอุ่นด้วยไอรัก