เเผนการจัดการเรียนรู้
วิชาภาษาอังกฤษ
ENGLISH
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่1/1
โรงเรียนวภัดากคลาเงรคียลอนงทสี่าม2อ./คล2อง5หล6วง4จ.ปทุมธานี
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 61
วิ ชา ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปี ที่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 ชื่อหน่วย Do You Like Chocolate? จานวน 9 คาบ
เร่อื ง Food and Drink
ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศกึ ษา 2564 เวลา 1 คาบ
_____________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชีว้ ดั ตอบคำถำมเกย่ี วกบั กำรระบปุ ระโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั
มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/3
ภำพรำ้ นอำหำรและเครอ่ื งด่มื
ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.1/3
2. สาระการเรียนรู้
ทุกประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ งึ่ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอยู่ของชนชำตนิ นั้ ๆ
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตอบคำถำมเกย่ี วกบั กำรระบปุ ระโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ภำพรำ้ นอำหำรและเครอ่ื งดม่ื
4. พฤติกรรมการเรยี นรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ด้านความรู้ ( Knowledge : K)
1. คำศพั ท์
2. สำนวนภำษำ
3. หน้ำทภ่ี ำษำ
4. โครงสรำ้ งประโยค/ไวยำกรณ์
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P)
1. กำรฟัง : ระบุรำยละเอยี ด
2. กำรพดู : บรรยำยควำมรสู้ กึ ขอและใหข้ อ้ มลู เปรยี บเทยี บ
3. กำรอ่ำน : อำ่ นออกเสยี ง ระบุรำยละเอยี ด ใจควำมสำคญั หวั ขอ้ เร่อื ง
4. กำรเขยี น : แนะนำขอ้ มูล สรุปควำม
5. กำรรวบรวมขอ้ มลู
6. กำรสำรวจคน้ หำ
ด้านเจตคติ/คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชำติ
2. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ
3. มวี นิ ัย
4. ใฝ่ควำมรู้
5. อยู่อย่ำงพอเพยี ง
6. มุง่ มนั่ ในกำรทำงำน
7. รกั ควำมเป็นไทย
8. มจี ติ สำธำรณะ
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นหลกั สูตรการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะกำรอำ่ น (Reading)
2. ทกั ษะกำร เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะกำรคดิ คำนวณ (Arithmetic)
4. ทกั ษะดำ้ นกำรคดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณและทกั ษะในกำรแกป้ ัญหำ
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะดำ้ นกำรสรำ้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะดำ้ นควำมร่วมมอื กำรทำงำนเป็นทมี และภำวะผนู้ ำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะดำ้ นควำมเขำ้ ใจตำ่ งวฒั นธรรมต่ำงกระบวนทศั น์
(Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดำ้ นกำรสอ่ื สำรสำรสนเทศและรเู้ ท่ำทนั ส่อื
(Communication information and media literacy)
9. ทกั ษะดำ้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรส่อื สำร
(Computing and ICT Literacy)
10. ทกั ษะอำชพี และทกั ษะกำรเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ณุ ธรรม มเี มตตำ กรณุ ำ มรี ะเบยี บวนิ ัย (compassion)
7. การบรู ณาการ
1. บรู ณำกำรรำยวชิ ำอน่ื สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม, สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ
2. บูรณำกำรหลกั สตู ร
STAR STEM…………………………………………………………………………….
3. อ่นื ๆ (ระบ.ุ .....................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
ทกุ ประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ ง่ึ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอย่ขู องชนชำตนิ นั้ ๆ
9. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
เรอ่ื ง Food and Drink
ขนั้ นา
1. นำเขำ้ สบู่ ทเรยี น
- ให้นักเรยี นเปิดหนังสือเรียน หน้ำ 50 อ่ำนออกเสียงช่อื หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 7 เร่อื ง Do You Like
Chocolate? พรอ้ มกบั ใหน้ ักเรยี นอ่ำนออกเสยี งตำม
- ใหน้ กั เรยี นดภู ำพรำ้ นอำหำรในหนังสอื เรยี น หน้ำ 50-51 แลว้ ถำมนกั เรยี นดงั น้ี
- Where are the people?
- What are they doing?
- What foods do you like? Why?
- What foods don’t you like? Why not?
2. แจง้ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
- ถำมนกั เรยี นเกย่ี วกบั หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี 7 ดงั น้ี
- What is this unit about?
- บอกนักเรียนว่ำในหน่วยกำรเรียนรู้น้ีนักเรยี นจะต้องสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรระบุประโยคให้
สมั พนั ธก์ บั ภำพรำ้ นอำหำรและเครอ่ื งด่มื ได้
ขนั้ สอน
กิจกรรม New Language
1. ตรวจสอบควำมรเู้ ดมิ ดำ้ นคำศพั ทอ์ ำหำร
- ใหน้ กั เรยี นดภู ำพรำ้ นอำหำรและเครอ่ื งดม่ื ในหนงั สอื เรยี นหน้ำเดมิ แลว้ ถำมนักเรยี นดงั น้ี
- What do you see in this pictures?
2. เสรมิ สรำ้ งควำมรดู้ ำ้ นคำศพั ท์
- ให้นักเรยี นบอกคำศพั ทจ์ ำกภำพร้ำนอำหำรและเคร่อื งด่ืมทน่ี ักเรยี นไม่ทรำบควำมหมำย เขยี นคำศพั ท์
บนกระดำนและบอกให้นกั เรยี นเดำควำมหมำยจำกภำพทใ่ี หม้ ำ เช่น คำว่ำ lettuce ให้นักเรยี นดภู ำพ
lettuce ทอ่ี ยู่ในถว้ ยสลดั แลว้ ใหน้ ักเรยี นเดำว่ำผกั ทอ่ี ยใู่ นถว้ ยคอื ผกั อะไร
- ให้นักเรยี นฟังกำรออกเสยี งคำศพั ท์เกย่ี วกบั อำหำรและเคร่อื งด่มื จำกซดี บี นั ทกึ เสยี ง CD 2 Track 2
ของกิจกรรม New Language พร้อมกับให้นักเรียนช้ีท่ีภำพอำหำรและเคร่ืองด่ืมท่ไี ด้ยินจำกซีดี
บนั ทกึ เสยี ง
- ใชค้ ำถำมนำของกิจกรรม New Language ทถ่ี ำมว่ำ What’s your favorite food? ถำมนักเรยี นเป็น
รำยบุคคล
3. อำ่ นออกเสยี งคำศพั ท์
- ใหน้ ักเรยี นฟังซดี บี นั ทกึ เสยี ง รอบท่ี 2 พรอ้ มกบั ใหน้ กั เรยี นอ่ำนออกเสยี งตำมซดี บี นั ทกึ เสยี ง
- ให้นักเรยี นจบั คู่กบั เพ่อื น นักเรยี นคนหนึ่งช้ที ่ภี ำพของอำหำรและเคร่อื งด่มื และอีกคนหน่ึงพูดออก
เสยี งคำศพั ทข์ องอำหำรและเครอ่ื งดม่ื นนั้ ใหน้ กั เรยี นสลบั กนั ทำกจิ กรรมเช่นน้ีจนครบภำพของอำหำร
และเครอ่ื งดม่ื ในกจิ กรรม New Language
4. เสรมิ สรำ้ งควำมรดู้ ำ้ นโครงสรำ้ งประโยค
- ให้นักเรยี นขดี เสน้ ใต้คำศพั ทอ์ ำหำรในกจิ กรรม New Language ท่เี ติม –s และ –ies ซึ่งไดแ้ ก่คำว่ำ
bites, wings, fries
- ใหน้ กั เรยี นศกึ ษำหลกั กำรใช้ Singular and Plural Nouns จำกกจิ กรรม Grammar ในหน้ำ 53 จำกนนั้
สรุปหลกั กำรใช้ดงั น้ี Singular Noun คอื คำนำมเอกพจน์ซ่ึงเป็นคำนำมท่มี สี งิ่ เดยี ว Plural Noun คอื
คำนำมพหพู จน์ซง่ึ เป็นคำนำมทม่ี มี ำกกว่ำ 1 สง่ิ กำรทำ Singular Noun ใหเ้ ป็น Plural Noun สำมำรถ
ทำไดโ้ ดยกำรเตมิ –s, –es หรอื –ies ทท่ี ำ้ ยคำนำมเอกพจน์นนั้ โดยมหี ลกั กำรใช้ ดงั น้ี
1. เตมิ –s ทำ้ ยคำนำมเอกพจน์ทวั่ ไป เชน่ car = cars
2. เตมิ –es ทำ้ ยคำนำมเอกพจน์ทล่ี งทำ้ ยดว้ ย o เช่น tomato = tomatoes
3. เตมิ –es ทำ้ ยคำนำมเอกพจน์ทล่ี งทำ้ ยดว้ ย ch, sh, s, ss, x และ z เช่น sandwich = sandwiches,
box = boxes, quiz = quizes
4. เตมิ –ies ทำ้ ยคำนำมเอกพจน์ทล่ี งทำ้ ยดว้ ย y เชน่ fry = fries
5. คำนำมบำงคำไม่มรี ปู พหพู จน์ ครูให้นกั เรยี นอำสำสมคั รอำ่ นตวั อย่ำงคำนำมดงั กล่ำวจำกกจิ กรรม
Grammar ภำยใตข้ อ้ สงั เกต (Note) ซงึ่ มคี ำว่ำ chicken, ice cream และ lettuce
- ให้นักเรียนอ่ำนออกเสยี งตวั อย่ำงคำนำมเอกพจน์และพหูพจน์ทใ่ี ห้มำในกิจกรรม Grammar น้ีซ่ึง
ไดแ้ ก่ banana-bananas, mango-mangoes, sandwich-sandwiches และ fry-fries
กิจกรรม Language Check
1. ตรวจสอบควำมเขำ้ ใจกำรระบุประโยคกบั ภำพอำหำรและเคร่อื งดม่ื
- ใหน้ ักเรยี นดูภำพของกจิ กรรม New Language อกี ครงั้ แลว้ ถำมนักเรยี นเกยี่ วกบั ร้ำนอำหำรและรำ้ น
เคร่อื งดม่ื ในศูนยอ์ ำหำรดงั น้ี
- How many stands are there in the food court? What are they?
- Which stand serves salad?
- Which stand serves orange juice?
- Which stand serves chocolate cake?
- ยกตวั อย่ำงโดยเขยี นประโยค Mr. Burger has fries and pizza. บนกระดำน แล้วให้นักเรียนดูภำพใน
หนังสอื เรยี น หนำ้ 50-51 ว่ำประโยคน้สี มั พนั ธก์ บั ภำพหรอื ไม่ ถำ้ สมั พนั ธก์ นั ใหน้ ักเรยี นตอบ True แต่
ถำ้ ไมส่ มั พนั ธก์ นั ใหน้ ักเรยี นตอบ False ซงึ่ ขอ้ น้นี กั เรยี นตอ้ งตอบ False ครใู หน้ ักเรยี นแกไ้ ขประโยคน้ี
ใหถ้ กู ตอ้ งซงึ่ กค็ อื Mr. Burger has fries and hamburger.
- ให้นักเรยี นทำกิจกรรม Language Check และให้นักเรียนอำสำสมคั รอ่ำนคำตอบ และเขียนแกไ้ ข
ประโยคของขอ้ ทต่ี อบ False ใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี ูกตอ้ ง
ขนั้ สรปุ
ประเมนิ กำรตอบคำถำมเก่ยี วกบั กำรระบุประโยคให้สมั พนั ธ์กบั ภำพร้ำนอำหำรและเคร่อื งด่มื จำก
จำนวนคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งในกำรทำกจิ กรรม Language Check ในหนงั สอื เรยี น หนำ้ 50
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
คำตอบท่ไี ด้จำกกำรระบุประโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ภำพรำ้ นอำหำร เคร่อื งด่มื จำกกิจกรรม Language
Check
11. ส่ือการเรยี นรู้ / แหล่งเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี น New World 1 หนำ้ 50, 51 และ 53
2. หนงั สอื แบบฝึกหดั New World 1 หน้ำ 33
12. การประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
ประเมนิ กำรระบุประโยคใหส้ มั พนั ธก์ บั ภำพร้ำนอำหำรและเคร่อื งด่ืมจำกจำนวนคำตอบท่ี
ถกู ตอ้ งในกำรทำกจิ กรรม Language Check
2. เคร่อื งมือ
แบบตรวจ/แบบสงั เกต/แบบประเมนิ
3. การประเมินผลตวั ชี้วดั
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมิน ดีเย่ยี ม (4) ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ตอบคำถำมเกย่ี วกบั กำรระบปุ ระโยค
ใหส้ มั พนั ธก์ บั ภำพรำ้ นอำหำรและเครอ่ื งดม่ื
เกณฑก์ ารประเมิน
1. เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนตดั สนิ ระดบั คณุ ภำพชน้ิ งำน/ภำระงำน
ระดบั 4 หมำยถงึ ดเี ยย่ี ม = 9 - 10 คะแนน
= 7 - 8 คะแนน
ระดบั 3 หมำยถงึ ดี = 5 – 6 คะแนน
= 1 - 4 คะแนน
ระดบั 2 หมำยถงึ พอใช้
ระดบั 1 หมำยถงึ ปรบั ปรงุ
การประเมินสมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละทกั ษะศตวรรษที่ 21
ประเดน็ ประเมิน แหลง่ วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสาคญั ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ/ แบบตรวจ/ - ควำมถูกตอ้ งของ
1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร อธบิ ำยหรอื กำรสงั เกต แบบสงั เกต ชน้ิ งำน
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ กำรนำเสนอ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชน้ิ งำน/กำร กำร แบบประเมนิ -ตรงกบั ควำมเป็น
2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ อธบิ ำย/กำร ประเมนิ จรงิ
3. มวี นิ ยั นำเสนอ
4. ใฝ่ควำมรู้
6. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
8. มจี ติ สำธำรณะ
ทกั ษะศตวรรษที่ 21 ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ แบบตรวจ -ควำมถกู ตอ้ ง
1. Reading อธบิ ำยหรอื ประเมนิ ประเมนิ - ควำมเขำ้ ใจ
2. Writing กำรนำเสนอ ชน้ิ งำน/ ชน้ิ งำน/ กำร -ควำมเหมำะสม
3. Arithmetic กำรสงั เกต สงั เกตกำร
4. Critical thinking and problem กำรอธบิ ำย อธบิ ำยหรอื
solving หรอื กำร กำรนำเสนอ
5. Creativity and innovation นำเสนอ
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information and
media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
บนั ทึกผลหลงั การสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นกั เรยี นจำนวน........................คน
ผ่ำนจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค.์ ...........................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
2. นกั เรยี นมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ (K)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
3. นักเรยี นมคี วำมรเู้ กดิ ทกั ษะ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรยี นมเี จตคต/ิ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อปุ สรรค /แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ครูผสู้ อน นำงสำวสมพร เสำรท์ อง
ตำแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ความเหน็ ของหวั หน้างานวชิ าการ
…………………………………………………………… ………………………………………………………………….
…………………………………………………………. ………………………………………………………………….
ลงชอื่ ………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….………………….
(นางขวัญชนกภมู จิ ันทร)์ (นางจรรยา ทองนอ้ ย)
ความเหน็ ของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………….
……………………………………………………………….
.
ลงชือ่ …………………………………………………………
(นายชัยรชั ต์ คงลาภ)
ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ………………………………………………… แล้วมคี วามคิดเห็นดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
................................
(นางสาวสุพชาต ชมุ่ ชนื่ )
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั กลางคลองสาม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 62
วิ ชา ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปี ที่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 ช่ือหน่วย Do You Like Chocolate? จานวน 9 คาบ
เร่ือง Food and Drink
ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2564 เวลา 1 คาบ
_____________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั พดู ถำม-ตอบเกยี่ วกบั อำหำรทช่ี อบและไมช่ อบ
มาตรฐาน ต 1.2 ม.1/5
ตวั ชี้วดั ต 1.2 ม.1/5
2. สาระการเรยี นรู้
ทกุ ประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ งึ่ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอยู่ของชนชำตนิ นั้ ๆ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
พดู ถำม-ตอบเกย่ี วกบั อำหำรทช่ี อบและไม่ชอบ
4. พฤติกรรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ดา้ นความรู้ ( Knowledge : K)
5. คำศพั ท์
6. สำนวนภำษำ
7. หนำ้ ทภ่ี ำษำ
8. โครงสรำ้ งประโยค/ไวยำกรณ์
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P)
7. กำรฟัง : ระบุรำยละเอยี ด
8. กำรพดู : บรรยำยควำมรสู้ กึ ขอและใหข้ อ้ มลู เปรยี บเทยี บ
9. กำรอ่ำน : อำ่ นออกเสยี ง ระบุรำยละเอยี ด ใจควำมสำคญั หวั ขอ้ เรอ่ื ง
10. กำรเขยี น : แนะนำขอ้ มลู สรุปควำม
11. กำรรวบรวมขอ้ มลู
12. กำรสำรวจคน้ หำ
ดา้ นเจตคติ/คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชำติ
2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
3. มวี นิ ัย
4. ใฝ่ควำมรู้
5. อยอู่ ย่ำงพอเพยี ง
6. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
7. รกั ควำมเป็นไทย
8. มจี ติ สำธำรณะ
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนหลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะกำรอำ่ น (Reading)
2. ทกั ษะกำร เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะกำรคดิ คำนวณ (Arithmetic)
4. ทกั ษะดำ้ นกำรคดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณและทกั ษะในกำรแกป้ ัญหำ
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะดำ้ นกำรสรำ้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะดำ้ นควำมร่วมมอื กำรทำงำนเป็นทมี และภำวะผนู้ ำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะดำ้ นควำมเขำ้ ใจตำ่ งวฒั นธรรมต่ำงกระบวนทศั น์
(Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดำ้ นกำรสอ่ื สำรสำรสนเทศและรเู้ ท่ำทนั สอ่ื
(Communication information and media literacy)
9. ทกั ษะดำ้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอ่ื สำร
(Computing and ICT Literacy)
10. ทกั ษะอำชพี และทกั ษะกำรเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ุณธรรม มเี มตตำ กรณุ ำ มรี ะเบยี บวนิ ัย (compassion)
7. การบรู ณาการ
1. บูรณำกำรรำยวชิ ำอน่ื สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม, สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ
2. บูรณำกำรหลกั สตู ร
STAR STEM…………………………………………………………………………….
3. อ่นื ๆ (ระบ.ุ .....................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
ทกุ ประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ ง่ึ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอยขู่ องชนชำตนิ นั้ ๆ
9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
เรื่อง Food and Drink
ขนั้ นา
1. นำเขำ้ ส่บู ทเรยี น
- ถำมนักเรยี นเกยี่ วกบั อำหำร ผลไมแ้ ละเครอ่ื งด่มื ทน่ี ักเรยี นทำนก่อนมำโรงเรยี นดงั น้ี
- What did you eat this morning?
- สอบถำมควำมรูส้ กึ ของนักเรยี นว่ำนักเรยี นชอบอำหำร ผลไมแ้ ละเคร่อื งด่มื ท่ที ำนไปเม่อื เชำ้ หรอื ไม่
เพรำะเหตใุ ด Do you like them? Why or why not?
2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
- บอกนักเรยี นว่ำในหน่วยกำรเรยี นรู้น้ีนักเรยี นตอ้ งสำมำรถพดู ถำม-ตอบเกยี่ วกบั อำหำรท่ชี อบและไม่
ชอบได้
ขนั้ สอน
กิจกรรม Pronunciation
1. กำรออกเสยี ง do you
- อ่ำนออกเสยี งคำสงั่ กิจกรรม Pronunciation ในหนังสอื เรยี น หน้ำ 50 พร้อมกบั อธบิ ำยวิธกี ำรทำ
กจิ กรรม
- ใหน้ ักเรยี นอำสำสมคั รลองอำ่ นประโยคคำถำมทม่ี ี do you ในประโยคของกจิ กรรม Pronunciation
- อธบิ ำยว่ำในประโยคคำถำม คำว่ำ do you จะไม่ออกเสยี งเป็นคำอย่ำงชดั เจนแต่จะลดเสยี งทงั้ 2 คำ
คอื /daya/ หรอื อยำ่ งน้อยกจ็ ะลดเสยี งทค่ี ำวำ่ do คอื /dayuw/
- ใหน้ กั เรยี นฟังกำรออกเสยี ง do you ในประโยคคำถำมจำกกำรฟังซดี บี นั ทกึ เสยี ง CD 2 Track 3 ของ
กจิ กรรม Pronunciation พรอ้ มกบั ใหน้ ักเรยี นสงั เกตกำรออกเสยี ง do you
2. ฝึกกำรอำ่ นออกเสยี ง do you
- ให้นักเรียนจบั คู่กบั เพ่อื นแล้วสลบั กนั อ่ำนประโยคคำถำมท่มี ี do you อยู่ในประโยคของกิจกรรม
Pronunciation เดนิ สำรวจกำรทำกจิ กรรมและช่วยแกไ้ ขเมอ่ื นักเรยี นออกเสยี งไมถ่ กู ตอ้ ง
- เขยี นประโยค Do you like pizza? และ What do you like to drink? บนกระดำนแล้วสุ่มให้นักเรยี น
บำงคนออกเสยี งประโยคดงั กล่ำว
กิจกรรม Grammar
1. ศกึ ษำหลกั กำรใช้ Verb like
- ใหน้ ักเรยี นจบั คู่กบั เพ่อื นเพ่อื ช่วยกนั ศกึ ษำ Verb like จำกกจิ กรรม Grammar ในหนังสอื เรยี น หน้ำ
53
- อธบิ ำยหลกั กำรใช้ Verb like ดงั น้ี
1) ใหน้ ักเรยี นอำสำสมคั รอำ่ นออกเสยี งตวั อย่ำงประโยคบอกเลำ่ (Affirmative) ของกำรใช้ Verb like เม่อื
นกั เรยี นอ่ำนจบอธบิ ำยวำ่ ในกำรพูดเพ่อื บอกควำมรูส้ กึ ชอบต่อสง่ิ หน่ึงสงิ่ ใดใหน้ ักเรยี นใช้โครงสร้ำง
ประโยคดังตัวอย่ำงท่ีให้มำน้ี เขียนประโยคภำษำไทยบนกระดำนแล้วให้นักเรียนแต่งเป็น
ภำษำองั กฤษ เชน่ พวกเรำชอบสม้ = We like oranges.
- ใหน้ กั เรยี นขดี เสน้ ใตท้ ค่ี ำว่ำ likes แลว้ อธบิ ำยวำ่ like จะเตมิ –s เมอ่ื ประธำนเป็น he, she, it และคำนำม
เอกพจน์ เขยี นประโยคภำษำไทยบนกระดำนแลว้ ใหน้ ักเรยี นแตง่ เป็นภำษำองั กฤษดงั น้ี
- เขำผหู้ ญงิ ชอบน้ำสบั ปะรด (She likes pineapple juice.)
- พวกเรำชอบน้ำชำ (We like tea.)
- ไมคช์ อบพซิ ซ่ำ (Mike likes pizza.)
- ใหน้ ักเรยี นบอกควำมแตกต่ำงของประโยคภำษำไทยและภำษำองั กฤษบนกระดำน
2) ใหน้ ักเรยี นอำสำสมคั รอำ่ นออกเสยี งประโยคตวั อยำ่ งปฏเิ สธ (Negative) ของกำรใช้ Verb like เมอ่ื
นักเรียนอ่ำนจบ อธบิ ำยว่ำในกำรพดู เพ่อื บอกควำมรู้สึกไม่ชอบต่อสง่ิ หน่ึงส่งิ ใด ให้นักเรยี นใช้
don’t like หรอื doesn’t like ขน้ึ อยู่กบั ประธำนของประโยค ถำ้ ประธำนเป็น I, you, we, they และ
คำนำมพหูพจน์ จะใช้ don’t like ถำ้ ประธำนเป็น he, she, it และคำนำมเอกพจน์ จะใช้ doesn’t
like และเขยี นประโยคภำษำไทยบนกระดำนแลว้ ใหน้ กั เรยี นแตง่ ประโยคเป็นภำษำองั กฤษ
- ลซิ ำ่ ไมช่ อบซปุ (Lisa doesn’t like soup.)
- ครสิ ตนิ ่ำและเทด็ ไมช่ อบมนั ฝรงั่ ทอด (Christina and Ted don’t like fries.)
- เขำผชู้ ำยไมช่ อบไอศกรมี (He doesn’t likes ice cream.)
- พวกเรำไมช่ อบแซนดว์ ชิ (We don’t like sandwiches.)
- ฉันไมช่ อบสลดั (I don’t like salad.)
- ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกควำมแตกต่ำงของประโยคภำษำไทยและภำษำองั กฤษบนกระดำน
3) ให้นักเรยี นอำสำสมคั รอ่ำนประโยคถำมตอบกำรใช้ Verb like ในประโยคคำถำมแบบ Yes/No
Questionประโยคตอบรบั และปฏิเสธแบบสนั้ อธบิ ำยว่ำในกำรถำมผู้อ่ืนว่ำเขำชอบสงิ่ หนึ่งสง่ิ ใด
หรอื ไม่ ให้นักเรยี นตงั้ คำถำมแบบ Yes/No Question โดยใช้ Verb do ขน้ึ ตน้ ประโยคคำถำมกบั
ประธำน I, you, we และ they ส่วน does ใชก้ บั ประธำน he, she และ it และเขยี นบทสนทนำ
ภำษำไทยบนกระดำนแลว้ ใหน้ ักเรยี นแต่งประโยคเป็นภำษำองั กฤษ
บทสนทนำท่ี 1
โรเบริ ต์ เขำผหู้ ญงิ ชอบแฮมเบอรเ์ กอรห์ รอื ไม่?
Robert: Does she like hamburgers?
รชิ ำรด์ ไม่ เธอไมช่ อบ
Richard: No, she doesn’t.
บทสนทนำท่ี 2
โรเบริ ต์ คุณชอบไกห่ รอื ไม?่
Robert: Do you like chickens?
รชิ ำรด์ ใช่ ฉันชอบ
Richard: Yes,I do.
- ใหน้ กั เรยี นบอกควำมแตกตำ่ งของประโยคภำษำไทยและภำษำองั กฤษบนกระดำน
- อำ่ นออกเสยี งประโยคในขอ้ สงั เกต (Note) ของกจิ กรรม Grammar แลว้ อธบิ ำยวำ่ นักเรยี นสำมำรถใช้
love แทน like ในประโยคตอบรบั แต่จะไม่ใช้ love แทน like ในประโยคตอบรับแบบปฏิเสธ ให้
นักเรยี นคู่หนง่ึ อ่ำนออกเสยี งบทสนทนำทใ่ี หม้ ำในกจิ กรรม Grammar คอื
A: Do you like chocolate?
B: I love chocolate.
2. ตรวจสอบควำมเขำ้ ใจหลกั กำรใช้ Verb like
- ใหน้ ักเรยี นทำกจิ กรรม Grammar A ในหนังสอื เรยี น หน้ำ 53
- ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบ
กิจกรรม Practice
1. ฟังกำรออกเสยี งบทสนทนำ
- ใหน้ กั เรยี นคนหนง่ึ อ่ำนออกเสยี งคำสงั่ กจิ กรรม Practice ในหนงั สอื เรยี น หน้ำ 51
- ให้นักเรยี นฟังบทสนทนำกำรพูดถำมตอบเกี่ยวกบั อำหำรท่ชี อบและไม่ชอบจำกซีดี CD 2 Track 4
ของกจิ กรรม Practice พรอ้ มกบั ใหน้ ักเรยี นอำ่ นตำมในใจ
- ให้นักเรยี นฟังซีดีบันทกึ เสยี ง รอบท่ี 2 หยุดซีดบี นั ทึกเสียงทุกครงั้ ท่ีจบแต่ละประโยคพร้อมทงั้ ให้
นกั เรยี นอำ่ นออกเสยี งตำม
2. พดู ถำม-ตอบเกยี่ วกบั อำหำรทช่ี อบและไม่ชอบ
- สำธติ กำรทำกิจกรรมโดยให้นักเรียนคู่หน่ึงออกมำพูดถำม-ตอบตำมบทสนทนำท่ีกำหนดมำให้ใน
กจิ กรรม
Practice และใหน้ ักเรยี นสลบั บทบำทกนั
- ให้นักเรียนจบั คู่กับเพ่อื นและทำกิจกรรม Practice โดยในรอบแรกให้นักเรยี นแต่ละคู่สลับกันรับ
บทบำท
เป็น A และ B แล้วให้พูดถำม-ตอบตำมบทสนทนำท่กี ำหนดมำให้ ในรอบท่ี 2 ให้นักเรยี นเปล่ยี น
คำศพั ท์
เกย่ี วกบั อำหำร ผลไม้ และเครอ่ื งดม่ื โดยใชค้ ำศพั ทท์ เ่ี รยี นมำแลว้ ในกจิ กรรม New Language
ขนั้ สรปุ
ประเมนิ กำรพดู ถำม-ตอบเกี่ยวกบั อำหำรทช่ี อบและไม่ชอบจำกกำรทำกิจกรรม Practice ในหนังสอื
เรยี น หนำ้ 51 โดยใชแ้ บบประเมนิ กำรสนทนำกจิ กรรมคู่
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
ถอ้ ยคำพดู ถำม-ตอบเกย่ี วกบั อำหำรทช่ี อบและไม่ชอบจำกกำรทำกจิ กรรม Practice
11. ส่ือการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น New World 1 หน้ำ 50, 51 และ 53
2. ซดี บี นั ทกึ เสยี ง
3. เคร่อื งเลน่ ซดี ี
12. การประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
ประเมนิ กำรพดู ถำม-ตอบเกย่ี วกบั อำหำรทช่ี อบและไมช่ อบจำกกำรทำกจิ กรรม Practice โดย
ใชแ้ บบประเมนิ กำรสนทนำกจิ กรรมคู่
2. เครอ่ื งมือ
แบบตรวจ/แบบสงั เกต/แบบประเมนิ
3. การประเมินผลตวั ชี้วดั
เกณฑก์ ารประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมิน ดีเย่ียม (4) ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
พดู ถำม-ตอบเกย่ี วกบั อำหำรทช่ี อบและไม่
ชอบ
เกณฑ์การประเมิน
2. เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนตดั สนิ ระดบั คุณภำพชน้ิ งำน/ภำระงำน
ระดบั 4 หมำยถงึ ดเี ยย่ี ม = 9 - 10 คะแนน
= 7 - 8 คะแนน
ระดบั 3 หมำยถงึ ดี = 5 – 6 คะแนน
= 1 - 4 คะแนน
ระดบั 2 หมำยถงึ พอใช้
ระดบั 1 หมำยถงึ ปรบั ปรงุ
การประเมินสมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละทกั ษะศตวรรษที่ 21
ประเดน็ ประเมิน แหลง่ วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสาคญั ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ/ แบบตรวจ/ - ควำมถูกตอ้ งของ
1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร อธบิ ำยหรอื กำรสงั เกต แบบสงั เกต ชน้ิ งำน
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ กำรนำเสนอ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชน้ิ งำน/กำร กำร แบบประเมนิ -ตรงกบั ควำมเป็น
2. ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ อธบิ ำย/กำร ประเมนิ จรงิ
3. มวี นิ ยั นำเสนอ
4. ใฝ่ควำมรู้
6. ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน
8. มจี ติ สำธำรณะ
ทกั ษะศตวรรษที่ 21 ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ แบบตรวจ -ควำมถกู ตอ้ ง
1. Reading อธบิ ำยหรอื ประเมนิ ประเมนิ - ควำมเขำ้ ใจ
2. Writing กำรนำเสนอ ชน้ิ งำน/ ชน้ิ งำน/ กำร -ควำมเหมำะสม
3. Arithmetic กำรสงั เกต สงั เกตกำร
4. Critical thinking and problem กำรอธบิ ำย อธบิ ำยหรอื
solving หรอื กำร กำรนำเสนอ
5. Creativity and innovation นำเสนอ
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information and
media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
บนั ทึกผลหลงั การสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นกั เรยี นจำนวน........................คน
ผ่ำนจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค.์ ...........................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
2. นกั เรยี นมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ (K)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
3. นักเรยี นมคี วำมรเู้ กดิ ทกั ษะ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรยี นมเี จตคต/ิ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อปุ สรรค /แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ครผู สู้ อน นำงสำวสมพร เสำรท์ อง
ตำแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ความเหน็ ของหวั หน้างานวชิ าการ
…………………………………………………………… ………………………………………………………………….
…………………………………………………………. ………………………………………………………………….
ลงชอื่ ………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….………………….
(นางขวัญชนกภมู จิ ันทร)์ (นางจรรยา ทองนอ้ ย)
ความเหน็ ของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………….
……………………………………………………………….
.
ลงชือ่ …………………………………………………………
(นายชัยรชั ต์ คงลาภ)
ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ………………………………………………… แล้วมคี วามคิดเห็นดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
................................
(นางสาวสุพชาต ชมุ่ ชนื่ )
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั กลางคลองสาม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 63
วิ ชา ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปี ที่ 1
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 ชื่อหน่วย Do You Like Chocolate? จานวน 9 คาบ
เรื่อง Food and Drink
ภาคเรียนที่ 2 ปี การศกึ ษา 2564 เวลา 1 คาบ
_____________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตวั ชี้วดั ตอบคำถำมจำกกำรอำ่ นบทสนทนำกำรซอ้ื ขำยอำหำรจำนด่วน
มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/4
ตวั ชีว้ ดั ต 1.1 ม.1/4
2. สาระการเรยี นรู้
ทกุ ประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ งึ่ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอย่ขู องชนชำตนิ นั้ ๆ
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ตอบคำถำมจำกกำรอำ่ นบทสนทนำกำรซอ้ื ขำยอำหำรจำนดว่ น
4. พฤติกรรมการเรียนรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ดา้ นความรู้ ( Knowledge : K)
9. คำศพั ท์
10. สำนวนภำษำ
11. หน้ำทภ่ี ำษำ
12. โครงสรำ้ งประโยค/ไวยำกรณ์
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P)
13. กำรฟัง : ระบรุ ำยละเอยี ด
14. กำรพดู : บรรยำยควำมรสู้ กึ ขอและใหข้ อ้ มูล เปรยี บเทยี บ
15. กำรอำ่ น : อ่ำนออกเสยี ง ระบรุ ำยละเอยี ด ใจควำมสำคญั หวั ขอ้ เร่อื ง
16. กำรเขยี น : แนะนำขอ้ มลู สรุปควำม
17. กำรรวบรวมขอ้ มูล
18. กำรสำรวจคน้ หำ
ดา้ นเจตคติ/คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชำติ
2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
3. มวี นิ ยั
4. ใฝ่ควำมรู้
5. อย่อู ย่ำงพอเพยี ง
6. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
7. รกั ควำมเป็นไทย
8. มจี ติ สำธำรณะ
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะกำรอำ่ น (Reading)
2. ทกั ษะกำร เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะกำรคดิ คำนวณ (Arithmetic)
4. ทกั ษะดำ้ นกำรคดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณและทกั ษะในกำรแกป้ ัญหำ
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะดำ้ นกำรสรำ้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะดำ้ นควำมร่วมมอื กำรทำงำนเป็นทมี และภำวะผนู้ ำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะดำ้ นควำมเขำ้ ใจตำ่ งวฒั นธรรมต่ำงกระบวนทศั น์
(Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดำ้ นกำรสอ่ื สำรสำรสนเทศและรเู้ ท่ำทนั สอ่ื
(Communication information and media literacy)
9. ทกั ษะดำ้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอ่ื สำร
(Computing and ICT Literacy)
10. ทกั ษะอำชพี และทกั ษะกำรเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ุณธรรม มเี มตตำ กรณุ ำ มรี ะเบยี บวนิ ัย (compassion)
7. การบรู ณาการ
1. บูรณำกำรรำยวชิ ำอน่ื สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม, สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ
2. บูรณำกำรหลกั สตู ร
STAR STEM…………………………………………………………………………….
3. อ่นื ๆ (ระบ.ุ .....................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
ทกุ ประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ ง่ึ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอยขู่ องชนชำตนิ นั้ ๆ
9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
เร่อื ง Food and Drink
ขนั้ นา
1. นำเขำ้ สบู่ ทเรยี น
- ใหน้ ักเรยี นดภู ำพดำ้ นบนของหนังสอื เรยี น หนำ้ 52 แลว้ ใหพ้ ดู บรรยำยภำพ โดยถำมนักเรยี นดงั น้ี
- Who are the people?
- Where are they?
- What are they doing?
- What food do you see?
- ให้นักเรยี นคำดเดำสง่ิ ทจ่ี ะได้เรยี นรู้โดยถำมคำถำมนักเรยี นดงั น้ี What is the conversation about?
และ What do you think you are going to study today?
2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
- บอกนกั เรยี นวำ่ ในหน่วยกำรเรยี นรนู้ ้นี กั เรยี นตอ้ งสำมำรถตอบคำถำมจำกกำรอ่ำนบทสนทนำกำรซ้อื
ขำยอำหำรจำนด่วนได้
ขนั้ สอน
กิจกรรม Conversation
กิจกรรมก่อนการอา่ น
1. เสรมิ สรำ้ งควำมรดู้ ำ้ นคำศพั ทแ์ ละสำนวน
- ให้นักเรยี นฟังบทสนทนำกำรซ้อื ขำยอำหำรจำนด่วนจำกซีดบี นั ทกึ เสยี ง CD 2 Track 5 ของกจิ กรรม
Conversation ในหนงั สอื เรยี น หนำ้ 52 พรอ้ มกบั ชต้ี ำมประโยคทไ่ี ด้ยนิ และขดี เส้นใตค้ ำศพั ท์และสำนวน
ทน่ี กั เรยี นไม่ทรำบควำมหมำย
- เขียนคำศัพท์และสำนวนบนกระดำนซึ่งน่ำจะมีคำว่ำ order, banana split และ flavors บอก
ควำมหมำยของคำศพั ทแ์ ละสำนวนเหล่ำนนั้
- ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั บำนำนำ สปลติ (Banana Split) และผคู้ ดิ คน้ ไอศกรมี ซนั เดย์
2. ตงั้ จุดประสงคใ์ นกำรอำ่ น
- ให้นักเรยี นคนหนึ่งอ่ำนออกเสียงคำสงั่ และคำถำมของกิจกรรม About the Conversation และให้
นกั เรยี นบอกวธิ กี ำรทำกจิ กรรม
- ใหน้ ักเรยี นใช้คำถำมของกิจกรรม About the Conversation เป็นจุดประสงค์ในกำรอ่ำน คอื อ่ำนบท
สนทนำเพอ่ื ตอบคำถำมเหลำ่ น้ี
กิจกรรมระหว่างการอ่าน
1. ฟังและอำ่ นบทสนทนำ
- ใหน้ กั เรยี นฟังซดี บี นั ทกึ เสยี ง รอบท่ี 2 พรอ้ มกบั อำ่ นตำมในใจ
- ใหน้ ักเรยี นฟังซดี บี นั ทกึ เสยี ง รอบท่ี 3 หยุดซดี บี นั ทกึ เสยี งทุกครงั้ ทจ่ี บประโยค
เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นอ่ำนออกเสยี งตำม
ขนั้ สรปุ
กิจกรรมหลงั การอา่ น
1. ตรวจสอบควำมเขำ้ ใจกำรอำ่ นบทสนทนำ
- ใหน้ ักเรยี นตอบคำถำมของกิจกรรม About the Conversation และให้บอกตำแหน่งของคำตอบทอ่ี ยู่
ในบทสนทนำ และใหน้ ักเรยี นแกไ้ ขประโยคของขอ้ ทต่ี อบ False ใหเ้ ป็นประโยคทถ่ี กู ตอ้ ง
- ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั บอกคำตอบ
2. ประเมนิ กำรอ่ำนบทสนทนำ
- ประเมนิ กำรอ่ำนบทสนทนำกำรซ้อื ขำยอำหำรจำนด่วนจำกจำนวนคำตอบทถ่ี กู ตอ้ งในกำรทำกจิ กรรม
About the Conversation ในหนังสอื เรยี น หนำ้ 52
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
คำตอบทไ่ี ดจ้ ำกกำรทำกจิ กรรม About the Conversation
11. สื่อการเรียนรู้ / แหล่งเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น New World 1 หนำ้ 52
2. หนงั สอื แบบฝึกหดั New World 1 หน้ำ 34
3. ซดี บี นั ทกึ เสยี ง
4. เครอ่ื งเล่นซดี ี
5. ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
12. การประเมินผลการเรยี นรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
ประเมนิ กำรอ่ำนบทสนทนำกำรซ้อื ขำยอำหำรจำนด่วนจำกจำนวนคำตอบทถ่ี ูกต้องในกำร
ทำกจิ กรรม About the Conversation
2. เครอื่ งมือ
แบบตรวจ/แบบสงั เกต/แบบประเมนิ
3. การประเมินผลตวั ชีว้ ดั
เกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑก์ ารประเมิน ดีเย่ยี ม (4) ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ตอบคำถำมจำกกำรอำ่ นบทสนทนำ
กำรซ้อื ขำยอำหำรจำนด่วน
เกณฑก์ ารประเมิน
3. เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนตดั สนิ ระดบั คุณภำพชน้ิ งำน/ภำระงำน
ระดบั 4 หมำยถงึ ดเี ยย่ี ม = 9 - 10 คะแนน
= 7 - 8 คะแนน
ระดบั 3 หมำยถงึ ดี = 5 – 6 คะแนน
= 1 - 4 คะแนน
ระดบั 2 หมำยถงึ พอใช้
ระดบั 1 หมำยถงึ ปรบั ปรุง
การประเมินสมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละทกั ษะศตวรรษที่ 21
ประเดน็ ประเมิน แหล่ง วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสาคญั ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ/ แบบตรวจ/ - ควำมถูกตอ้ งของ
1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร อธบิ ำยหรอื กำรสงั เกต แบบสงั เกต ชน้ิ งำน
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ กำรนำเสนอ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชน้ิ งำน/กำร กำร แบบประเมนิ -ตรงกบั ควำมเป็น
2. ซ่อื สตั ยส์ ุจรติ อธบิ ำย/กำร ประเมนิ จรงิ
3. มวี นิ ัย นำเสนอ
4. ใฝ่ควำมรู้
6. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
8. มจี ติ สำธำรณะ
ทกั ษะศตวรรษท่ี 21 ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ แบบตรวจ -ควำมถกู ตอ้ ง
อธบิ ำยหรอื ประเมนิ ประเมนิ - ควำมเขำ้ ใจ
1. Reading กำรนำเสนอ ชน้ิ งำน/ ชน้ิ งำน/ กำร -ควำมเหมำะสม
2. Writing กำรสงั เกต สงั เกตกำร
3. Arithmetic กำรอธบิ ำย อธบิ ำยหรอื
4. Critical thinking and problem หรอื กำร กำรนำเสนอ
solving นำเสนอ
5. Creativity and innovation
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information and
media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
บนั ทึกผลหลงั การสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นกั เรยี นจำนวน........................คน
ผ่ำนจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค.์ ...........................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
2. นักเรยี นมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ (K)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
3. นักเรยี นมคี วำมรเู้ กดิ ทกั ษะ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรยี นมเี จตคต/ิ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อปุ สรรค /แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ครูผสู้ อน นำงสำวสมพร เสำรท์ อง
ตำแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ความเหน็ ของหวั หน้างานวชิ าการ
…………………………………………………………… ………………………………………………………………….
…………………………………………………………. ………………………………………………………………….
ลงชอื่ ………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….………………….
(นางขวัญชนกภมู จิ ันทร)์ (นางจรรยา ทองนอ้ ย)
ความเหน็ ของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………….
……………………………………………………………….
.
ลงชือ่ …………………………………………………………
(นายชัยรชั ต์ คงลาภ)
ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ………………………………………………… แล้วมคี วามคิดเห็นดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
................................
(นางสาวสุพชาต ชมุ่ ชนื่ )
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั กลางคลองสาม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 64
วิ ชา ภาษาอังกฤษ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปี ท่ี 1
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 ช่ือหน่วย Do You Like Chocolate? จานวน 9 คาบ
เร่ือง Food and Drink
ภาคเรยี นท่ี 2 ปี การศึกษา 2564 เวลา 1 คาบ
_____________________________________________________________________________
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ดั ตอบคำถำมจำกกำรฟังบทสนทนำเกยี่ วกบั กำรสงั่ รำยกำรอำหำร
มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/4
ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.1/4
2. สาระการเรยี นรู้
ทกุ ประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ งึ่ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอยขู่ องชนชำตนิ นั้ ๆ
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ตอบคำถำมจำกกำรฟังบทสนทนำเกย่ี วกบั กำรสงั่ รำยกำรอำหำร
4. พฤติกรรมการเรยี นรู้ Knowledge Practice Attitude ( K P A )
ด้านความรู้ ( Knowledge : K)
13. คำศพั ท์
14. สำนวนภำษำ
15. หนำ้ ทภ่ี ำษำ
16. โครงสรำ้ งประโยค/ไวยำกรณ์
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P)
19. กำรฟัง : ระบรุ ำยละเอยี ด
20. กำรพดู : บรรยำยควำมรสู้ กึ ขอและใหข้ อ้ มูล เปรยี บเทยี บ
21. กำรอำ่ น : อ่ำนออกเสยี ง ระบรุ ำยละเอยี ด ใจควำมสำคญั หวั ขอ้ เร่อื ง
22. กำรเขยี น : แนะนำขอ้ มลู สรุปควำม
23. กำรรวบรวมขอ้ มูล
24. กำรสำรวจคน้ หำ
ดา้ นเจตคติ/คณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ (Attitude: A)
1. รกั ชำติ
2. ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
3. มวี นิ ยั
4. ใฝ่ควำมรู้
5. อย่อู ย่ำงพอเพยี ง
6. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน
7. รกั ควำมเป็นไทย
8. มจี ติ สำธำรณะ
5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียนหลกั สตู รการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
1. ควำมสำมำรถในกำรสอ่ื สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผเู้ รยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C )
1. ทกั ษะกำรอำ่ น (Reading)
2. ทกั ษะกำร เขยี น (Writing)
3. ทกั ษะกำรคดิ คำนวณ (Arithmetic)
4. ทกั ษะดำ้ นกำรคดิ อยำ่ งมวี จิ ำรณญำณและทกั ษะในกำรแกป้ ัญหำ
(Critical thinking and problem solving)
5. ทกั ษะดำ้ นกำรสรำ้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรม (Creativity and innovation)
6. ทกั ษะดำ้ นควำมร่วมมอื กำรทำงำนเป็นทมี และภำวะผนู้ ำ
(Collaboration, teamwork and leadership)
7. ทกั ษะดำ้ นควำมเขำ้ ใจตำ่ งวฒั นธรรมต่ำงกระบวนทศั น์
(Cross-cultural understanding)
8. ทกั ษะดำ้ นกำรสอ่ื สำรสำรสนเทศและรเู้ ท่ำทนั สอ่ื
(Communication information and media literacy)
9. ทกั ษะดำ้ นคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยสี ำรสนเทศและกำรสอ่ื สำร
(Computing and ICT Literacy)
10. ทกั ษะอำชพี และทกั ษะกำรเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
11. มคี ุณธรรม มเี มตตำ กรุณำ มรี ะเบยี บวนิ ัย (compassion)
7. การบรู ณาการ
1. บรู ณำกำรรำยวชิ ำอน่ื สงั คมศกึ ษำ ศำสนำ และวฒั นธรรม, สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ
2. บูรณำกำรหลกั สตู ร
STAR STEM…………………………………………………………………………….
3. อ่นื ๆ (ระบ.ุ .....................................................)
8. สาระการเรยี นรู้
ทกุ ประเทศมอี ำหำรประจำชำตซิ ง่ึ บง่ บอกวถิ ชี วี ติ ควำมเป็นอยขู่ องชนชำตนิ นั้ ๆ
9. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
เร่ือง Food and Drink
ขนั้ นา
1. นำเขำ้ สบู่ ทเรยี น
- ใหน้ กั เรยี นดูภำพดำ้ นลำ่ งของหนังสอื เรยี น หน้ำ 52 แลว้ ถำมนกั เรยี นเกย่ี วกบั ภำพดงั น้ี
- What are the couple doing?
- Where are they?
- What are their name?
2. แจง้ จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
- บอกนกั เรยี นว่ำในหน่วยกำรเรยี นรนู้ ้นี ักเรยี นจะตอ้ งสำมำรถตอบคำถำมเพ่อื ระบุรำยกำรอำหำรทส่ี งั่ จำก
บทสนทนำทฟ่ี ังได้
ขนั้ สอน
กิจกรรม Listening
กิจกรรมก่อนการฟัง
1. อธบิ ำยกำรทำกจิ กรรม
- อ่ำนออกเสยี งคำสงั่ Listening ในหนังสอื เรยี น หนำ้ 52 และอธบิ ำยวธิ กี ำรทำกจิ กรรม
2. ตงั้ จุดประสงคใ์ นกำรฟัง
- ใหน้ กั เรยี นคนหน่ึงอำ่ นออกเสยี งคำศพั ท์เก่ียวกบั อำหำรและเคร่อื งดม่ื ในกิจกรรม Listening อธบิ ำยว่ำ
นักเรยี นจะไดฟ้ ังบทสนทนำกำรสงั่ อำหำรของ Karen และ Michael ให้นักเรยี นฟังแล้วตอบคำถำม
โดยกำรทำเครอ่ื งหมำยลงในตำรำงใหต้ รงกบั รำยกำรอำหำรและเคร่อื งดม่ื ทบ่ี คุ คลทงั้ 2 สงั่
- ใหน้ กั เรยี นใชค้ ำถำมเหลำ่ น้เี ป็นจดุ ประสงคใ์ นกำรฟัง
กิจกรรมระหว่างการฟัง
1. ฟังบทสนทนำกำรสงั่ รำยกำรอำหำร
- ให้นักเรียนฟังซีดีบนั ทกึ เสียง CD 2 Track 6 กิจกรรม Listening ในหนังสือเรยี น หน้ำ 52 เพ่อื ให้
นกั เรยี นฟังรำยละเอยี ดในภำพรวม
- ให้นักเรียนฟังซีดีบันทึกเสียง รอบท่ี 2 เพ่ือให้นักเรียนฟังว่ำ Karen และ Michael สงั่ อำหำรและ
เครอ่ื งด่มื อะไรบำ้ ง
- ให้นักเรยี นฟังซดี บี นั ทกึ เสยี ง รอบท่ี 3 เพ่อื ให้นักเรยี นฟังแลว้ ทำเคร่อื งหมำยลงในช่องตำรำงอำหำร
และเคร่อื งดม่ื ท่ี Karen และ Michael สงั่
ขนั้ สรปุ
กิจกรรมหลงั การฟัง
1. ตรวจสอบควำมเขำ้ ใจ
- ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั บอกคำตอบ และใหน้ กั เรยี นฟังซดี บี นั ทกึ เสยี งอกี ครงั้ เพ่อื ตรวจสอบคำตอบ
2. ประเมนิ กำรฟังบทสนทนำ
- ประเมนิ กำรฟังบทสนทนำจำกจำนวนคำตอบทถ่ี ูกตอ้ งจำกกำรทำกจิ กรรม Listening ในหน้ำ 52
10. ชิ้นงาน/ภาระงาน
คำตอบทไ่ี ดจ้ ำกกำรทำกจิ กรรม Listening
11. ส่ือการเรียนรู้ / แหลง่ เรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น New World 1 หนำ้ 52
2. ซดี บี นั ทกึ เสยี ง เครอ่ื งเลน่ ซดี ี
12. การประเมินผลการเรียนรู้
1. วิธีการวดั และประเมินผล
ประเมนิ กำรฟังบทสนทนำกำรสงั่ รำยกำรอำหำรจำกกำรทำกจิ กรรม Listening
2. เคร่อื งมือ
แบบตรวจ/แบบสงั เกต/แบบประเมนิ
3. การประเมินผลตวั ชี้วดั
เกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics)
เกณฑ์การประเมิน ดีเย่ียม (4) ระดบั คณุ ภาพ / คะแนน
ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ตอบคำถำมจำกกำรฟังบทสนทนำ
เกยี่ วกบั กำรสงั่ รำยกำรอำหำร
เกณฑ์การประเมิน
4. เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนนตดั สนิ ระดบั คณุ ภำพชน้ิ งำน/ภำระงำน
ระดบั 4 หมำยถงึ ดเี ยย่ี ม = 9 - 10 คะแนน
= 7 - 8 คะแนน
ระดบั 3 หมำยถงึ ดี = 5 – 6 คะแนน
= 1 - 4 คะแนน
ระดบั 2 หมำยถงึ พอใช้
ระดบั 1 หมำยถงึ ปรบั ปรงุ
การประเมินสมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคแ์ ละทกั ษะศตวรรษที่ 21
ประเดน็ ประเมิน แหลง่ วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การให้
คะแนน
สมรรถนะสาคญั ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ/ แบบตรวจ/ - ควำมถูกตอ้ งของ
1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร อธบิ ำยหรอื กำรสงั เกต แบบสงั เกต ชน้ิ งำน
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ กำรนำเสนอ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ
4. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ชน้ิ งำน/กำร กำร แบบประเมนิ -ตรงกบั ควำมเป็น
2. ซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ อธบิ ำย/กำร ประเมนิ จรงิ
3. มวี นิ ยั นำเสนอ
4. ใฝ่ควำมรู้
6. ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน
8. มจี ติ สำธำรณะ
ทกั ษะศตวรรษที่ 21 ชน้ิ งำน/กำร กำรตรวจ แบบตรวจ -ควำมถกู ตอ้ ง
1. Reading อธบิ ำยหรอื ประเมนิ ประเมนิ - ควำมเขำ้ ใจ
2. Writing กำรนำเสนอ ชน้ิ งำน/ ชน้ิ งำน/ กำร -ควำมเหมำะสม
3. Arithmetic กำรสงั เกต สงั เกตกำร
4. Critical thinking and problem กำรอธบิ ำย อธบิ ำยหรอื
solving หรอื กำร กำรนำเสนอ
5. Creativity and innovation นำเสนอ
6. (Collaboration, teamwork and
leadership)
7. Cross-cultural understanding
8. Communication information and
media literacy
9. Computing and ICT Literacy
11. Compassion
บนั ทึกผลหลงั การสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
1. นกั เรยี นจำนวน........................คน
ผ่ำนจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นร.ู้ ..............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
ไม่ผำ่ นจุดประสงค.์ ...........................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ.................................
2. นกั เรยี นมคี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ (K)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
3. นักเรยี นมคี วำมรเู้ กดิ ทกั ษะ (P)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
4. นักเรยี นมเี จตคต/ิ คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อปุ สรรค /แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
ครผู สู้ อน นำงสำวสมพร เสำรท์ อง
ตำแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ความเหน็ ของหวั หน้างานวชิ าการ
…………………………………………………………… ………………………………………………………………….
…………………………………………………………. ………………………………………………………………….
ลงชอื่ ………………………………………………… ลงช่ือ…………………………………….………………….
(นางขวัญชนกภมู จิ ันทร)์ (นางจรรยา ทองนอ้ ย)
ความเหน็ ของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
……………………………………………………………….
……………………………………………………………….
.
ลงชือ่ …………………………………………………………
(นายชัยรชั ต์ คงลาภ)
ความเหน็ ของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ของ………………………………………………… แล้วมคี วามคิดเห็นดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
ดมี าก
ดี
พอใช้
ควรปรบั ปรงุ
2. การจัดกิจกรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้
เน้นผูเ้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่
นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้
4. ข้อเสนอแนะอืน่ ๆ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
................................
(นางสาวสุพชาต ชมุ่ ชนื่ )
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวดั กลางคลองสาม