มหาชาติ
มหาเวสสันดรชาดก
คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เล่มนี้ ได้จัดทําขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่ง
ของวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท๓๑๑๐๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔/๔
เรื่องมหาเวสสันดรชาดก ในเนื้อหาประกอบด้วย ประวัติผู้แต่ง
ที่มา ลักษณะคำประพันธ์ เนื้อเรื่องและคุณค่าต่างๆที่ได้รับจาก
เนื้อหานับเป็นเรื่องที่ให้ประโยชน์ อย่างยิ่งและให้แง่คิดในการ
ดำรงชีวิต โดยเฉพาะการแสดงถึงความรักความห่วงใยของ
มารดาที่ มีต่อบุตร
๒
สารบัญ
เรื่อง หน้ า ๓
คำนำ ๒
สารบัญ
ผู้แต่ง ๓
ที่ มา ๔-๕
ลักษณะคำประพันธ์
จุดประสงค์ ๖
กัณฑ์ ที่ ๑ ๗
กัณฑ์ ที่ ๒ ๘
๙
กัณฑ์ ที่ ๓ ๑๐
๑๑
กัณฑ์ ที่ ๔ ๑๒
กัณฑ์ ที่ ๕ ๑๓
กัณฑ์ ที่ ๖ ๑๔
กัณฑ์ ที่ ๗ ๑๕
กัณฑ์ ที่ ๘ ๑๖
กัณฑ์ ที่ ๙ ๑๗
กัณฑ์ ที่ ๑๐ ๑๘
กัณฑ์ ที่ ๑๑ ๑๙
กัณฑ์ ที่ ๑๒ ๒๐
กัณฑ์ ที่ ๑๓ ๒๑
ตัวละคร ๒๒-๒๓
ฝนโบกขรพรรษ ๒๔
ทศชาติ ๒๕-๒๖
ข้อคิด ๒๗-๒๘
บรรณานุกรม ๒๙
ผู้แต่ง
๑.เจ้าพระยาพระคลัง(หน)
พระราชนิพนธ์ ๒ กัณฑ์ คือ
• กัณฑ์มัทรี
• กัณฑ์กุมาร
เจ้าพระยาพระคลังท่านนี้ เป็นบุตรเจ้าพระยาบดินทร์สุรินทร์ฦๅชัย
(บุญมี) กับท่านผู้หญิงเจริญ
๒.กรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส
พระราชนิพนธ์ ๔ กัณฑ์ คือ
• กัณฑ์ทศพร • กัณฑ์มหาราช
• กัณฑ์หิมพานต์ • นครกัณฑ์
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส พระนามเดิม พระองค์เจ้า
วาสุกรีเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกฯ
ประสูติเมื่อ พ.ศ. ๒๓๓๓ ต่อมาในรัชกาลที่ ๖ โปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น
สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปรมานุชิตชิโนรส สิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ.
๒๔๙๖ รวมพระชนมายุ ๖๔ พรรษา
๓. พระบาทสมเด็จพระจอมเก้าเจ้าอยู่หัวฯ
พระราชนิพนธ์ ๓ กัณฑ์ คือ
• กัณฑ์วนปเวสน์ • กัณฑ์สักบรรพ
• กัณฑ์จุลพน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ ๒๐
กันยายน พ.ศ. ๒๓๙๖ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า
อยู่หัว
๔
ผู้แต่ง
๔. พระเทพโมลี ( กลิ่น )
พระราชนิพนธ์ ๑ กัณฑ์ คือ
• กัณฑ์มหาพน
พระเทพโมลี (กลิ่น) ท่านเกิดเมื่อประมาณปีพระพุทธศักราช
๒๒๘๓ รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีเชื้อสายรามัญ ท่าน
บรรพชา-อุปสมบท วัดตองปุ อยุธยา สมัยพระเจ้าเอกทัศน์
เมื่อกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย ท่านพระมหาศรีพระขุน พระเทพ
โมลี ครั้งเป็นพระกลิ่น หลบภัยข้าศึก ล่องลงมาทางใต้
๕. สำนักวัดถนน พระราชนิพนธ์ ๑ กัณฑ์ คือ
๖. สำนักวัดสังข์จาย • ทานกัณฑ์
นายทองอยู่ เกิดที่บ้านไผ่จำศีล อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัด
อ่างทอง เมื่ออายุ ๑๐-11 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ได้ผ่านวัดอยู่
วัดหนึ่ง เรียกว่า “วัดถนน” จึงได้พักอยู่วัดนี้ ได้อุปสมบท เรื่อยมา
ท่านทองนับว่าเป็นสถาปนิกชั้นเยี่ยม ท่านได้สร้างเจดีย์ที่งดงาม
รวมถึงได้แต่งร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์ ทานกัณฑ์ แล้ว
ยังแต่งบททำขวัญนาคไว้อย่างไพเราะอีกด้วย
พระราชนิพนธ์ ๑ กัณฑ์ คือ
• กัณฑ์ชูชก
สำนักวัดสังข์กระจายเป็นชื่อสำนักที่ท่านผู้แต่งบวชอยู่ วัดนี้อยู่ริม
คลองบางกอก เป็นวัดโบราณ ส่วนท่านผู้แต่งกัณฑ์ ชูชกนี้ สมเด็จ
พระเจ้าบรมวงศ์ เธอกรมพระยาดำรงนุภาพทรงสันนิษฐานว่า คือ พระ
เทพมุนี(ด้วง) แต่ประวัติของท่านยังไม่เป็นที่แน่ ชัด
๕
ที่มา
ที่มาของมหาเวสสันดรชาดกน่ าจะเป็นเรื่องเล่าหรือนิทานของชาว
พื้นเมืองอินเดียมาก่อน พัฒนาการวรรณกรรมมหาพระเวสสันดร
ในระยะแรกพบว่า เวสสันดรชาดก เป็นชื่อในภาษาบาลี ส่วนภาษา
สันสกฤตเรียกว่า วิศวันตระอวทาน มีเนื้อเรื่องแตกต่างกันบาง
อนุภาค เช่น ไม่ปรากฏชื่อชูชกในภาษาบาลี สำหรับภาษาบาลีใน
พระสุตตันตปิฎก เชื่อว่าแต่งโดยพระพุทธโฆษะเถระ ในพุทธศาสนา
ศรีลังกาในช่วง พุทธศตวรรษที่ ๑๐–๑๑
มาจากร่ายยาวมหาเวสสนดรชาดก ซึ่งเป็นชาดกเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
โดยกล่าวถึงเรื่องราว ของพระโพธิสัตว์ซึ่งเสวยพระชาติเป็นพระ
เวสสันดรเดิมแต่งเป็นภาษาบาลีต่อมามีการแปลเป็น ภาษาไทยใน
สมัยกรุงสุโขไทย ต่อมาในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โปรด
เกล้าฯให้ปราชญราชบัณฑิตแต่งมหาชาติคำหลวง ซึ่งเป็นมหาชาต
สำนวนแรก โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้สวด
ในสมัยพระเจ้าทรงธรรมโปรดเกล้าให้แต่งกาพยม์ หาชาติเพื่อใช้
สำหรับเทศน์ แต่เนื้อความในกาพย์มหาชาติค่อนข้างยาวไม่สามารถ
เทศน์ ให้จบภายใน๑วัน จึงเกิดมหาชาติขึ้นให้มีอีกหลาย สำนวนเพื่อ
ให้เทศน์ จบภายใน๑วัน มหาชาติสำนวนใหม่ เรียกว่ามหาชาติกลอน
เทศน์ หรือ ร่ายยาวมหาเวสสนดรชาดก
๖
ลักษณะคำ
ประพันธ์
ลักษณะคำประพันธ์ มหาเวสสันดรชาดกเป็นมหาชาติกลอนเทศน์
มีลักษณะคำประพันธ์เป็นร่ายยาวที่มีคาถาบาลีนำ ร่ายยาว บท
หนึ่งไม่จำกัดจำนวนวรรค แต่ที่นิยมคือตั้งแต่ ๕ วรรคขึ้นไป และ
แต่ละวรรคก็ไม่จำกัดจำนวนคำเช่นกัน แต่ไม่ควรน้อยกว่า ๕ คำ
ซึ่งคำสุดท้ายของวรรคหน้าจะส่งสัมผัสไปวรรคหลังคำใดก้ได้ แต่
เว้นคำสุดท้ายของวรรคอาจจบลงด้วย “คำสร้อย”
๗
จุดประสงค์
เพื่อที่ จะนำหลักธรรมในพระพุทธ
ศาสนามาสอนประชาชน
๘
กัณฑ์ที่ ๑
กัณฑ์ทศพร
ว่าด้วยเรื่องในอดีตชาติ
พระนางผุสดีอัครมเหสีของ
พระอินทร์ เมื่อถึงคราวจะสิ้น
บุญจากสวรรค์ พระนางได้รับ
พร ๑๐ ข้อจากพระสวามี ก่อน
ที่ จะไปจุติในโลกมนุษย์ เป็น
พระราชมารดาของพระ
เวสสันดร พร ๑๐ ข้อนั้ นมี
ดังนี้
๑. ขอให้เกิดในกรุงมัททราช แคว้นสีพี ๖. ขอให้พระครรภ์ งามไม่ป่ องนูนดั่งสตรีสามัญ
๒. ขอให้มีดวงเนตรคมงาม และดำขลับดั่งลูกเนื้อทราย ๗. ขอให้พระถันเปล่งปลั่งงดงามไม่ยานคล้อยลง
๓. ขอให้คิ้วคมขำดั่งสร้อยคอนกยูง ๘. ขอให้เส้นพระเกศาดำขลับตลอดชาติ
๔. ขอให้ได้นาม “ผุสดี” ดังภพเดิม ๙. ขอให้ผิวพรรณละเอียดบริสุทธิ์ดุจทองคำธรรมชาติ
๕. ขอให้มีพระโอรสเกริกเกียรติที่สุดในชมพูทวีป ๑๐. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษที่ต้องอาญาประหารได้
ข้อคิด คำศัพท์
จะได้รู้จักเป้ าหมายในการ ๑.จุติ - ตาย
อธิษฐานใจในการทำบุญทำ ๒.ทิฐิ - ความอวดดื้อถือดี
๓.ดวงเนตร - ดวงตา
กุศล ๔.พระครรภ์ - ตั้งครรถ์ , ตั้งท้อง
๕.พระถัน - นม
๖.พระเกศา - ผม ๙
๗.พระฉวีวรรณ - ผิวหนัง
กัณฑ์ที่ ๒
กัณฑ์หิมพานต์
ว่าด้วยเรื่องเทพธิดาลงมาเกิดเป็นลูกกษัตริย์มัทราชได้ชื่อว่า ผุสดี พอ
อายุ ๑๖ ปีได้แต่งงานกับพระเจ้ากรุงสญชัยเมืองสีพี เกิดมีครรภ์ พอครบ ๑๐
เดือนพระนางผุสดีก็คลอดพระโพธิสัตว์นามว่าพระเวสสันดร มีช้างคู่บารมี
ชื่อปัจจัยนาเคน พออายุ ๑๖ ปีก็แต่งงานกับพระนางมัทรีมีลูกน้อยชื่อชาลี
และกัณหา
ข้อคิด คำศัพท์
ในชั่วชีวิตหนึ่งจะไม่พลัดพราก ๑.เนรเทศ - ขับไล่ให้ออกไปจากถิ่น
๒.ทรงพระครรถ์ - ตั้งท้อง
จากคนรัก ของรัก และยศ ๓.ช้างปัจจัยนาค -ช้างที่ท่องไปใน
ศักดิ์ที่ ตนมี อวกาศ
๑๐
กัณฑ์ที่ ๓
ทานกัณฑ์
ก่อนพระเวสสันดรจะเสด็จออกพระนครสีพีทรงบริจาค “สัตตสกมหา
ทาน” (ทาน ๗ สิ่งๆ ละ ๗๐๐) ทรงมีพระนางมัทรีพระกัณหา และพระชาลี
รวม ๔ ชีวิตตามเสด็จไปประทับที่ป่ าหิมพานต์ ระหว่างทางมียากจกมาทูล
ของพระราชทานรถและม้า พระองค์ก็ทรงเมตตาประทานให้ ในที่สุดทั้ ง
สองพระองค์ทรงอุ้มพระโอรส พระธิดา เสด็จพระดาเนินเข้าสู่ป่ าหิมพานต์
ข้อคิด คำศัพท์
๑.ความรักของแม่ ความเป็นห่วงของภรรยา ๑.สัตตสดกมหาทาน - มหาทาน
๒.เพื่อประโยชน์ สุขของส่วนรวม พึงยอมเสียสละ อย่างละ๑๐๐จำนวน๗หมวด
ประโยชน์ สุขส่วนตัว
๑๑
กัณฑ์ที่ ๔
กัณฑ์วนประเวสน์
ข้อคิด
มิตรแท้ แม้ในยามลำบาก
ทุกข์ยากย่อมไม่ทอดทิ้งกัน
คำศัพท์
๑.อาศรม - ที่อยู่ของ
นักพรต นักบวช
เมื่อพระเวสสันดร พระนางมัทรีพระกัณหา และพระชาลี๔ ชีวิต เสด็จพระ
ดาเนินสู่ป่ าวนาสณฑ์ ความทราบถึงพระเจ้าเจราษฎร์ กษัตริย์แห่งมาตุลน
ครจึงทูลอ้อนวอนให้ทรงเป็นกษัตริย์ครองมาตุลนคร แต่พระเวสสันดรก็
ทรงปฏิเสธ พระเจ้าเจตราษฎร์จึงได้ทรงพรรณนาหนทางไปสู่ป่ าหิมพานต์
ว่าคดเคี้ยวเลี้ยวลด ประการใด โดยทรงให้พรานเจตบุตรเป็นผู้กาหนดจุด
รักษาประตูป่ า เพื่อระวังรักษามีให้ผู้ใดเข้าไปรบกวนครั้งนั้ น พระอินทร์
ทรงมีเทวบัญชาให้พระวิษณุกรรมเทพบุตรเนรมิตศาลาให้ ๒ หลัง พระ
เวสสันดร พระนางมัทรีพระกัณหา และพระชาลี ได้ทรงผนวชเป็นพระ
ดาบส โดยมีอาศรมศาลา ๒ แห่งนี้เป็นที่ทรงอาศัย
๑๒
กัณฑ์ที่ ๕
กัณฑ์ชูชก
บุรุษโทษ ๑๘ ประการของชูชก
๑. เท้าทั้ งสองข้างใหญ่และคด
๒. เล็บทั้ งหมอกุด
ต. ปลีน่ องทู่ยู่ยาน
๔. ริมฝีปากบนย้อยทับริมฝีปากล่าง
๕. นำลายไหลออกเป็นยางยืดทั้ งสองแก้ม
๖. เขี้ยวงอกออกพันปากเหมือนเขี้ยวหมู
๗. จมูกหักฟุบดูน่ าชัง
๘. ท้องป่ องเป็นกระเปาะดั่งหม้อใหญ่
๙. สันหลังไหล่หักค่อม คด โกง
๑๐. ตาถล่มลึกทรลักษณ์ ข้างหนึ่งใหญ่ ข้างหนึ่ง
เล็ก ไม่เสมอกัน
๑๑. หนวดเครามีพรรณดังลวดทองแดง
๑๒. ผมโหรง เหลืองดังสีลาน
๑๓. ตามตัสะครานคลำด้วยแถวเอ็น
๑๔. มีต่อมแมลงวัน และตกกระดังโรยงานูนเกะกะ
๑๕. ลูกตาเหลือง เหลือก เหล่
๑๖. ร่างกายคดค้อมในที่ทั้ งสามคือคอ หลัง สะเอว
๑๗. เท้าทั้ งสองหัน เห ห่างเกะกะ
๑๘. ขนตามตัวหยาบดังแปลงหมู
กล่าวถึงเฒ่าชราตาชูชก ได้เร่ร่อนขอทาบแล้วนำเงินไปฝากเพื่อนไว้
แต่เพื่อนก็นำเงินไปใช้จนหมด เมื่อชูชกไปทวงจึงไม่มีจะให้ จึงยกนา
งอมิตตดาธิดาสาวให้แทน นางปฏิบัติต่อสามีดี จนเป็นเหตุให้พราห
มณีเพื่อนบ้านพากันอิจฉาด่าว่าตบตี เลยไม่ยอมทำงานนอก และแนะ
ให้เฒ่าชูชกไปทูลขอสองกุมารมาเป็นข้าทาสรับใช้
ข้อคิด
อย่าฝากของมีค่า ของสำคัญ หรือของหวงแหนไว้กับผู้อื่น
คำศัพท์
๑.ปรนนิบัติ - เอาใจใส่ คอยดูแลรับใช้
๑๓
กัณฑ์ที่ ๖
กัณฑ์จุลพน
กล่าวถึงชูชกเดินทางไปเขาวงกต พบพรานเจตบุตร ชุชกใช้กลอุบาย
หลอกว่าเป็นราชทูตของพระเจ้ากรุงสัญชัย พร้อมชูกลักพริก กลักขิง
เสบียงกรังที่นางอมิตตดาจัดหาให้ ว่าเป็นพระราช-สาส์นของพระเจ้า
กรุงสัญชัย จนพรานเจตบุตรหลงเชื่อ จึงชี้บอกทางให้ไปจนถึง
อาศรมบทของพระอัจจุตฤาษี
ข้อคิด
การรอบรู้กิจการงาน ผู้ที่ไม่รู้กิจการงานที่ทำ แม้จะเป็นคนฉลาดเฉลียว ก็อาจ
ทำให้การงานเสียหายได้ แต่ถ้าคนฉลาดได้เรียนรู้ก็จะทำภารกิจได้ดี (มีอำนาจ
แต่ขาดปัญญาก็ไม่อาจประสบความสำเร็จในการทำกิจการงาน)
คำศัพท์ ๑๔
๑.คำลวง - ล่อให้หลง,ทำให้หลงผิด
๒.อารักขา - ป้ องกัน,ดูแล,คุ้มครอง
กัณฑ์ที่ ๗
กัณฑ์มหาพน
กล่าวถึงชูชกเดินทางไปพบพระ
อัจจุตฤาษี ได้หลอกลวงพระฤาษี
ใหหลงกลว่าเป็นกัลยาณมิตรของ
พระเวสสันดร จนได้พักค้างคืน
กับพระฤาษี รุ่งขึ้นพระฤาษีได้ให้
กินผลไม้ และชี้ให้ชมเขาลำเนา
ไพรพร้อมบอกระยะทางสภาพป่ า
และหนทางที่ จะไปสู่เขาวงกตให้
แก่ชูชก ซึ่งประกอบไปด้วย เขา
ใหญ่ สระน้ำ และสัตว์ป่ านานา
ชนิด
ข้อคิด
การเป็นคนฉลาด หากขาดสติ ก็อาจพลาดท่าเสียทีได้ ดังนั้ นจึงต้องมีสติ
ไตร่ตรองและรู้เท่าทันเล่ห์ เหลี่ยมคนอื่น
คำศัพท์
๑.ปฏิสันดาร - การทักทายปราศรัยแขกที่มาหา,การต้อนรับแขก
๒.พรรณนา - บรรยาย หรือกล่าวไว้โดยละเอียดเพื่อให้ผู้อ่าน หรือ
ผู้ฟังเห็นภาพ
๑๕
กัณฑ์ที่ ๘
กัณฑ์กุมาร
ชูชกทูลขอสองกุมาร พระเวสสันดรก็ได้มอบให้ แต่ขอให้ชูชกรอมัทรีให้แม่ลูก
ได้ร่ำลากันก่อน ชูชกไม่ยอม ด้วยเกรงว่านางมัทรีจะไม่ยกสองกุมารให้ตน ก่อนชู
ชกจะพาสองกุมารจากไป พระเวสสันดรได้ตั้งราคาค่าตัวสองกุมารว่า ถ้าใครจะไถ่
ตัวกัณหาชาลีไป ต้องให้ ทาส ทาสี ช้าง ม้า โคนม ทองคำ สิ่งละ ๑๐๐ จากนั้ น ชูชก
ได้ใช้เถาวัลย์มัดข้อมือสองกุมาร ลากจูงพาออกไป สองกุมารขัดขืน ก็ใช้ไม้โบยตี
สองกุมารได้รับความลำบากเป็นอันมาก
ข้อคิด
ความเป็นผู้รู้จักกาลเทศะ รู้จักโอกาส รู้ความควรไม่ควร จะเป็นผู้ประสบ
ความสำเร็จในสิ่ งที่ ตนเองปรารถนา
คำศัพท์ ๑๖
๑.ตกระกำลำบาก - คำแสดงความรู้สึกเดือดร้อนเพราะกรรมหรือชะตากรรม
ของตนในอดีต
๒.ราตรี- กลางคืน,เวลามืด
กัณฑ์ที่ ๙
กัณฑ์มัทรี
พระนางมัทรีเสด็จกลับจาก
หาผลไม้ในป่ า ไม่เห็นสอง
กุมาร ได้ร้องเรียกติดตามหา
ก็ไม่พบ พระนางถึงกับสลบ
ต่อพระพักตร์พระเวสสันดร
เมื่อทรงฟื้ นแล้วพระ
เวสสันดรตรัสเล่าความจริง
เกี่ยวกับสองพระกุมาร
พระนางทรงอนุโมททนาปุ
ตตทานด้วย
คำศัพท์ ข้อคิด
๑.เคหา - บ้าน,เรือน,ที่อยู่ ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่เท่า
๒.พนะภัสดา - สามี
ความรักของพ่อแม่
๓.สรวล - หัวเราะ
๔.พระชนนี - แม่
๕.วิสัญญี - หมดความรู้สึก,สิ้นสติ,สลบ
๑๗
กัณฑ์ที่ ๑๐
กัณฑ์สักกบรรพ
พระอินทร์เกรงว่าหากมีผู้มาขอ
พระนางมัทรีพระเวสสันดรก็จะ
บริจาคเป็นทาน พระอินทร์ไม่อยาก
ให้พระนางมัทรีตกไปเป็นภรรยา
ของผู้อื่น จึงแปลงเป็นพราหมณ์ ชรา
มาทูลขอพระนางมัทรีเมื่อพระ
เวสสันดรมอบให้ตนแล้ว ก็ไม่เอา
ไป ได้ถวายคืนแก่พระเวสสันดร
โดยห้ามพระองค์ประทานนางแก่ผู้
ใดอีก ก่อนจากไปพระอินทร์ได้
ประทานพรให้พระเวสสันดร ๘
ประการ คือ
๑. ขอให้พระบิดามีพระเมตตาเสด็จออกมารับพระองค์กลับ ข้อคิด
เข้าไปครองราชย์ สมบัติในพระนครสีพี
๒. ขอให้ได้ปลดปล่อยนักโทษจากเรือนจำทั้ งมวล การทำความดี แม้ไม่มีใครเห็น
๓. ขอให้ได้อนุเคราะห์ คนยากจนในแว่นแคว้นให้บริบูรณ์ แต่เทวดาอารักษ์ ย่อมรู้ย่อมเห็น
ด้วยสรรพโภคสมบัติ
๔. ขออย่าให้ลุอำนาจสตรีล่วงภรรยาผู้อื่น ให้พอใจเฉพาะใน คำศัพท์
ชายาของพระองค์เท่านั้ น
๕. ขอให้พระโอรสทั้ งสอง คือพระชาลีกุมารและกัณหากุมารี ๑.ดำริ- ตริ, คิด, ไตร่ตรอง
มีชนมายุยืน และได้เป็นพระมหากษัตริย์สืบราชสมบัติต่อไป ๒.เข็ญใจ - ยากจนข้นแค้น
๖. ขอให้ฝนแก้ว ๗ ประการ ตกลงในเมืองสีพี ขณะเมื่อ ๓.สำแดง - แสดง, ทำให้เห็น
พระองค์ไปถึงพระนคร
๑๘
๗. ขอให้สมบัติในท้องพระคลังอย่ารู้หมดสิ้นในเวลาบริจาค
แก่ยาจกทั่ วเมือง
๘. เมื่อทิวงคตแล้ว ขอให้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต เมื่อจุติ
ลงมาเป็นมนุษย์ ให้ได้บรรลุพระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณ
กัณฑ์ที่ ๑๑
กัณฑ์มหาราช
ชูชกโบยตี ลากจูงชาลี กัณหาเดินทางออกจากป่ าหิมพานต์ จนไปถึงทางสองแพร่ง ซึ่ง
เป็นทางไปเมืองกลิงคราฐและเมืองสีพี ชูชกหลงเลือกทางไปเมืองสีพี เดินทางไปถึง
ในตัวเมือง พวกข้าหลวงจำชาลี กัณหาได้ จึงจับชูชกพาไปเข้าเฝ้ าพระเจ้ากรุงสญชัย
พระเจ้ากรุงสญชัยได้ไถ่สองกุมาร และพระราชทานอาหารเลี้ยงชูชกมากมาย ชูชกกิน
มากเกินไป อาหารไม่ย่อยและถึงแก่กรรม
ข้อคิด คำศัพท์
๑.จะเป็นผู้มีบุญรักษาเทวดาคุ้มครอง ๑.สุบิน - ความฝัน
สิ่ งที่ รักเสียไปจะได้คืนมาโดยเร็ว ๒.พระกรรณ - หู
๓.พระนาสา - จมูก
๒.คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ๔.บรรทม - นอน
๕.ปราโมทย์ - ปราโมช, ความยินดี,
ย่อมได้รับการคุ้มครอง ปกป้ องใน ความบันเทิงใจ
ทุกที่ ทุกสถาน
๑๙
กัณฑ์ที่ ๑๒
กัณฑ์ฉกษัตริย์
กล่าวถึงพระเจ้าสญชัย ให้พระชาลีทรงช้างปัจจัยนาค นำกองทัพมารับพระ
เวสสันดร เมื่อหกกษัตริย์ได้พบกันก็บังเกิดความรู้สึกทั้ งดีพระทัยและเศร้า
โศกอย่างรุนแรง ทรงกรรแสงสุดจะประมาณจนสลบไปบรรดาเสวกามาตย์ก็
สลบลงหมด ครั้งนั้ นแผ่นดินสั่ นไหวและท้าวสหัสนัยเทวนราชบันดาลฝน
โบกขรพรรษตกลงมาประพรมชุบชีพให้ชื่นบานฟื้ นคืนลมปฤดีทุกคน
ข้อคิด
การให้อภัยสามารถลบรอยร้าวฉานและความบาดหมางทั้ งปวง ก่อให้เกิด สันติสุขแก่ส่วน
รวม
คำศัพท์
๑.วิปโยค - ความพลัดพราก, ความกระจัดกระจาย, ความจากกัน, ความพ้นไปจาก
๒.โศกศัลย์ - ทุกข์โศกมาก
๓.ฝนโบกชรพรรษ - น้ำฝนวิเศษไม่เปียกผู้ที่ไม่ต้องการให้เปียก (เหมือนน้ำที่ตกลงบน
ใบบัว) ตกลงแล้วไหลซึมซาบดินหายไปโดยเร็ว
๒๐๔.อารารนา - เชื้อเชิญ, นิมนต์, อ้อนวอน, ใช้แก่พระภิกษุสามเณร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์
กัณฑ์ที่ ๑๓
นครกัณฑ์
กล่าวถึงพระเวสสันดรได้รับคำ
ทูลเชิญให้ลาผนวช (สึก) เพื่อรับ
ราชสมบัติและให้ทำพิธีราชาภิเษก
ในบริเวณพระอาศรมแล้วจึงทรง
ช้างปัจจัยนาคเดินทางกลับนครสีพี
บรรดาสัตว์ น้ อยใหญ่ที่ เคยได้
อาศัยร่มบารมี คุ้มครองป้ องกัน
อันตรายภัยพิบัติต่างพากันเศร้า
โศกเสียใจ เมื่อพระเวสสันดรกลับ
มาครองพระนครก็มีห่าฝนสัตต
รัตนมาศตกไปทั่ วพระนคร ให้เป็น
ทานแก่ชนทั้ งหลายพระเวสสันดร
ครองนครสีพีจนพระชนมายุ ๑๒๐
พรรษา ก็สวรรคตไปบังเกิดใน
ดุสิตเทวโลก
ข้อคิด
การทำความดี ย่อมได้รับผลตอบแทน การใช้ธรรมะในการปกครองจะทำให้ บ้าน
เมืองมีแต่ความสงบร่มเย็น
คำศัพท์
๑.ประวิง - ถ่วงเวลาให้เนิ่นช้าออกไป, หน่ วงไว้ให้นานออกไป
๒.ทศพิธราชธรรม - จริยาวัตรที่พระเจ้าแผ่นดินควรประพฤติเป็นหลักธรรมประจำ
พระองค์ หรือคุณธรรมของผู้ปกครองบ้านเมือง มี ๑๐ ประการคือ ทาน ศีล บริจาค
อาชวะ มัทวะ ตบะ อักโกระ อวิหิงสา ขันติ อวิโรธนะ
๓.พงไพร - คงหญ้าหรือดงไม้ที่รวมกันเป็นผืนป่ า
๒๑
ตัวละคร
๑. พระเวสสันดร ๒. พระนางมัทรี
เป็นพระโอรสของพระเจ้ากรุงสญชัย เป็นพระราชธิดาแห่งกษัตริย์ มัทราช
และพระนางผุสดีแห่งเมืองสีพีมีอุปนิสัย อภิเษกสมรสกับพระเวสสันดร มี
และพฤติกรรมที่สำคัญคือ การบริจาค พระโอรสชื่อพระชาลีและมีพระธิดา
ทานพระราชกุมารเวสสันดรทรงบริจาค ชื่อพระกัณหา
ทานตั้งแต่ เกิด
๓. พระชาลี ๔. พระกัณหา
เป็นพระราชโอรสของพระ เป็นผู้หนึ่งที่ ทำให้พระเวสสันดรได้
เวสสันดรกับพระนางมัทรีเป็น บำเพ็ญบุตรทานบารมีซึ่ งเป็นทาน
พระเชษฐาของพระกัณหา อันยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ทั้ งหลายไม่
สามารถทำได้
๒๒
ตัวละคร
๕.ชูชก ๖. ท้าวสักกเทวราช
เป็นตัวละครประกอบอยู่ในวรรณคดีเรื่องร่าย (พระอินทร์)
ยาวมหาเวสสันดรชาดกเป็นผู้เกิดในตระกูล
พราหมณ์ โภวาทิกชาติซึ่งเป็นพราหมณ์ พวกที่ เป็นพระราชสวามีของพระนาง
ผุสดีขณะสถิตอยู่ณ สวรรค์ชั้น
ถือตนว่ามีกำเนิดสูงกว่าผู้อื่นมักใช้คำว่า
“โภ”แปลว่า “ผู้เจริญ ดาวดึงส์
๗. พระนางผุสดี ๘. พระเจ้ากรุงสญชัย
เป็นพระราชธิดาของพระเจ้าพันธุมราชชื่อ เป็นพระราชาแห่งกรุงสีพีราษฎร์
สุธัมมาต่อมาได้บังเกิดเป็นอัครมเหสีของ พระราชบิดาของพระเวสสันดร
สมเด็จพระอมรินทราธิราชชื่อผุสดี เมื่อจุติ
จากสวรรค์ได้ถือกำเนิดเป็นพระราชธิดา ๒๓
ของพระเจ้ามัททราช
ฝนโบกขรพรรษ
ฝนโบกขรพรรษมีลักษณะ ดังนี้
๑. น้ำฝนมีสีแดงดังเท้านกพิราบ เสียงสนั่ นลั่นออกไปดังสายฝนธรรมดา
๒. ผู้ใดปรารถนาจะให้เปียกกายจึงจะเปียก หากมิได้ปรารถนาแม้แต่เม็ดหนึ่งก็มิได้เปียก
๓. เมื่อถูกกายแล้วจะหล่นสู่พื้นดินเสมือนหยาดน้ำที่ตกลงสู่ใบบัวแล้วกลิ้งตกลงไปฉะนั้ น
๔. ไม่เจิ่งนองพื้นดิน เมื่อตกลงแล้วก็ซึมหายไปในแผ่นดินทันที
ครั้งพระพุทธเจ้าเสด็จโปรดพระประยูรญาติ เมื่อพระองค์เสด็จถึงพระนครกบิลพัสดุ์
แล้ว ฝ่ ายพระประยูรญาติมีพระเจ้าสุทโธทนะเป็นประธานเสด็จมาต้อนรับ ต่างก็ยังมี
ทิฐิมานะแรงกล้าไม่ยอมนอบน้อมนมัสการพระบรมศาสดา ด้วยเห็นว่าพระพุทธองค์มี
วัยอ่อนกว่าตนพระพุทธองค์ได้ทอดพระเนตรเห็นเหตุดังนั้ น จึงทรงแสดงปาฏิหาริย์
เสด็จลอยขึ้นไปจงกรมอยู่บนอากาศ ให้ธุลีละอองพระบาทหล่นลงมาบนพระเศียร
เหล่าพระประยูรญาติลำดับนั้ นหมู่พระประยูรญาติต่างพากันคลายทิฐิมานะประคอง
อัญชลีนมัสการชื่นชมโสมนัสด้วยบุญญาภินิหารของพระพุทธองค์ ขณะนั้ น “ฝน
โบกขรพรรษ” ก็ตกลงมาเป็นที่น่ าอัศจรรย์
๒๔
ทศชาติ
ทศชาติชาดก คือเรื่องราว ๑๐ พระชาติสุดท้ายของ
พระพุทธเจ้า ได้รับความนิยมแพร่หลายมาตั้งแต่สมัย
อยุธยา โดยพระชาติทั้ ง ๑๐ ประกอบด้วย
เตมียชาดก (เต)
เพื่อบำเพ็ญเนกขัมมบารมี - หมายถึง การออกบวช
มหาชนกชาดก (ชะ)
เพื่อบำเพ็ญวิริยบารมี - หมายถึง ความพากเพียร
สุวรรณสามชาดก (สุ)
เพื่อบำเพ็ญเมตตาบารมี - หมายถึง การแผ่ไมตรีจิตคิดจะให้
สัตว์ทั้ งปวงเป็นสุข
เนมิราชชาดก (เน)
เพื่อบำเพ็ญอธิษฐานบารมี - หมายถึง ความตั้งมั่นคง
มโหสถชาดก (มะ)
เพื่อบำเพ็ญปัญญาบารมี - หมายถึง ความทั่ วถึงสิ่งที่ควรรู้
๒๕
ทศชาติ
ทศชาติชาดก คือเรื่องราว ๑๐ พระชาติสุดท้ายของ
พระพุทธเจ้า ได้รับความนิยมแพร่หลายมาตั้งแต่สมัย
อยุธยา โดยพระชาติทั้ ง ๑๐ ประกอบด้วย
ภูริทัตชาดก (ภู)
เพื่อบำเพ็ญศีลบารมี -หมายถึง การรักษาศีล
จันทชาดก (จะ)
เพื่อบำเพ็ญขันติบารมี - หมายถึง ความอดทน
นารทชาดก (นา)
เพื่อบำเพ็ญอุเบกขาบารมี - หมายถึง การวางเฉย
วิทูรชาดก (วิ)
เพื่อบำเพ็ญสัจจบารมี - หมายถึง ความสัตย์
เวสสันดรชาดก (เว)
เพื่อบำเพ็ญทานบารมี - หมายถึง การบริจาคทาน
๒๖
ข้อคิด
๑ .การเป็นคู่สามีภรรยาที่ดี การเสียสละซึ่งกันและกัน
๒.ให้แง่คิดเกี่ยวกับบทบาทหน้ าที่ ของผู้หญิงในฐานะที่
เป็นแม่และเป็นภรรยาที่ดี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
๓. การเลือกคู่ครองที่ดีให้ดูมัทรีเป็นแบบอย่าง ไม่หลง
ระเริง ในยามสุขไม่ละเลยคู่ทุกข์ในยามยาก
๔.การสียสละแบ่งปันเป็นหัวใจ ของการสร้างสรรค์สังคม
๕. ความรักของแม่ความห่วงใยของเมีย ยิ่งใหญ่กว่ารัก
และ ห่วงใยของใคร ๆในโลก
๖.ชีวิตเป็นอนิจจัง อย่าจริงจัง จนเกินไปนัก
๗. คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด แต่ความโง่ถ้าไม่
เบียดเบียนใคร ย่อมดีกว่าความฉลาดที่เอาเปรียบคนอื่น
๘. ความผิดพลาดเป็นเรื่องของ มนุษย์ การให้อภัยเป็นวิสัย
ของ เทวดา และการรู้จักปรับปรุง แก้ไขเป็นวิสัยของบัณฑิต
๒๗
บรรณานุกรม
มหาชาติมหาเวสสันดรชาดก.//ข้อคิด.//สืบค้นเมื่อ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕,/
จาก/https://www.thaichildrights.org/projects/donatemahachart/
มหาชาติมหาเวสสันดรชาดก.//รูป.//สืบค้นเมื่อ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕,/
จาก/https://watthong.com/index.php/en/2014-12-09-01-27-44
มหาชาติมหาเวสสันดรชาดก.//ความหมายทศชาติ.//สืบค้นเมื่อ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕,/
จาก/https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/31987
มหาชาติมหาเวสสันดรชาดก.//ทศชาติ.//สืบค้นเมื่อ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕,/
จาก/https://www.guideubon.com/2.0/candlefestival/candlefestival-10chadok/
๒๘
พระมหาเวสสันดรชาดก
จัดทำโดย
นาย บดินทร์ภัทร สุวรรณเลิศล้ำ เลขที่ ๒
เลขที่ ๕
นาย รัฐโรจน์ เรืองเพ็ชร์ เลขที่ ๗
นาย กฤษฎิ์เมธา ธีร์บวรเดชาธัญ เลขที่ ๑๙
เลขที่ ๒๐
นางสาว กันตา ศิริอริยะ เลขที่ ๒๑
นางสาว ชาลิสา ฤทธิ์จันทิกานนท์ เลขที่ ๒๒
เลขที่ ๒๓
นางสาว ณฐารินทร์ ภู่ไหม
นางสาว ธนัชพร สมสมัย
นางสาว มัณฑนกานต์ อุปถัมภ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔/๔
เสนอ
ครูสุชาติ พิบูลย์วรศักดิ์
ผลงานนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้
รายวิชา ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย ๒
ปีการศึกษา ๒๕๖๕