ข้อมูลพื้นฐานเพ่ือการวางแผน
๑.ประวัติความเปน็ มาของ กศน.ตำบลตะมะยูง
ทตี่ ั้ง
กศน.ตำบละมะยูง ต้ังอย่ทู ่ีบ้านคลองหงษ์ หมู่ที่ ๓ ตำบลตะมะยงู อำเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธิวาส
หา่ งจากสำนกั งาน ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอศรีสาคร ประมาณ ๘ กโิ ลเมตร
ประวตั คิ วามเปน็ มา
กศน.ตำบลตะมะยูง เป็นสถานที่ของอาคารท่ีได้รับจากองค์การบริหารส่วนตำบลตะมะยูงตั้งอยู่
หมู่ท่ี ๓ ตำบลตะมะยูง อำเภอศรีสาคร จงั หวัดนราธวิ าส เพอื่ ใชเ้ ป็นสถานที่พบกลุ่ม และบริการประชาชน
พร้อมเป็นกศน.ตำบล ปัจจุบันเปิดทำการให้บริการแก่นักศึกษา กศน.และประชาชนในพื้นที่ มีบุคลากรที่
รับผิดชอบงาน กศน.ตำบลตะมะยูงโดยมี นางเจ๊ะกามารีเย๊าะ มะแซ หัวหน้า กศน.ตำบลตะมะยูง และ
นายยาฮารี นากอ ครูอาสาฯประจำตำบลตะมะยูง เปิดบริการให้คำแนะนำ ปรึกษา ด้านการจัดการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยวิธีเรียนการพบกลุ่ม ต้ังแต่เวลา ๐๘.๓๐ น.–๑๖.๓๐ น. ระดับ
มัธยมศึกษาตอนต้นในวันพุธ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น.–๑๖.๓๐ น. .และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในวัน
พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา๐๘.๓๐น.–๑๖.๓๐ น. โดยมี นางเจ๊ะกามารีเย๊าะ มะแซ หัวหน้า กศน.ตำบลตะมะยูง
และ นายยาฮารี นากอ ครอู าสาฯประจำตำบลตะมะยงู เปน็ ผ้ใู หบ้ ริการ
๒. สภาพทางกายภาพของชุมชน (ตำบล/แขวง)
ขนาดพ้นื ที่ ทตี่ ้ังและอาณาเขตติดต่อ ลักษณะทางกายภาพ โครงสรา้ งพ้นื ฐาน การคมนาคมติดต่อส่อื สาร
กศน.ตำบละมะยูง ต้ังอยทู่ ่ีบา้ นคลองหงษ์ หม่ทู ี่ ๓ ตำบลตะมะยงู อำเภอศรีสาคร จังหวัด
นราธิวาส ห่างจากสำนกั งาน ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอศรีสาคร ประมาณ
๘ กโิ ลเมตร
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 1
สภาพทางภูมิศาสตรต์ ำบลศรีสาคร
ลกั ษณะภูมิประเทศ สว่ นใหญ่เปน็ ทีร่ าบสลบั เนินเขาเหมาะสำหรับทำสวนยางพาราและปลกู ไมผ้ ล
เชน่ ลองกอง เงาะ มงั คดุ ทุเรียน
สภาพภูมิอากาศ
อำเภอศรีสาคร มีภมู อิ ากาศเปน็ เขตรอ้ นชน้ื แบ่งเปน็ ๒ ฤดู
๑.ฤดูฝน ฝนตกชุกในเดอื น พฤษภาคม –ธนั วาคม
๒.ฤดรู อ้ น ในชว่ งเดอื น มกราคม-เมษายน
อณุ หภมู ิสงู สุด ประมาณ ๓๒ องศาเซลเซียส
อุณหภูมิตำ่ สด ประมาณ ๑๘ องศาเซลเซยี ส
อุณหภูมิเฉลย่ี ประมาณ ๒๕ องศาเซลเซยี ส
ปรมิ าณนำ้ ฝนเฉล่ยี ประมาณ ๒,๕๑๘.๕ มิลลเิ มตร
อาณาเขตตดิ ต่อ
ทศิ เหนอื ติดตอ่ กับตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พ้นื ที่ อบต. รือเสาะ
ทิศใต้ตดิ ต่อกบั ตำบลซากออ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส พ้นื ที่ อบต. ซากอ
ทิศตะวนั ออกติดต่อกบั ตำบลเชงิ คีรีอ. ศรสี าคร จ.นราธวิ าส พ้นื ที่ อบต. เชงิ คีรี
ทิศตะวนั ตกติดต่อกับตำบลโคกสะตอ อ. รอื เสาะ จ.นราธิวาส พืน้ ที่ อบต. โคกสะตอ
แหล่งนำ้ ทส่ี ำคญั
• ตำบลตะมะยงู มีแหลง่ น้ำตามธรรมชาตจิ ำนวน ๗ แหง่ คอื คลองไอรด์ าฮง, คลองไอร์ริ, คลองไอรป์ เี ยา๊ ะ
, คลองลูโบ๊ะบาตู, คลองจือแรง, แมน่ ้ำสายบรุ ี, บึงตอหลัง
• บ่อนำ้ ต้ืนจำนวน ๖๖๖ แหง่ , บ่อโยก ๘ แหง่ , ประปาภูเขา ๒ แห่ง
จำนวนประชากร
มปี ระชากรทั้งสน้ิ ๕,๒๒๔ คน แยกเปน็ ชาย ๒,๖๔๑ คน หญงิ ๒,๕๘๓ คน
ประชากรมีความหนาแนน่ เฉลี่ย ๑๙๔ คน / ตารางกโิ ลเมตร
หมู่ที่ บ้าน ชาย ประเภท รวมทง้ั ส้นิ จำนวนครวั เรือน
หญิง
๑ บา้ นตอหลัง ๓๘๙ ๔๑๔ ๘๐๓ ๑๕๖
๒ บ้านตะมะยูง ๕๗๒ ๕๔๔ ๑,๑๑๖ ๒๕๖
๓ บ้านคลองหงษ์ ๒๙๑ ๒๘๕ ๕๗๖ ๑๘๖
๔ บ้านลูโบ๊ะบาตู ๕๗๓ ๕๒๗ ๑,๑๐๐ ๒๑๙
๕ บ้านจอื แรง ๔๖๖ ๔๙๕ ๙๖๑ ๑๙๘
๖ บ้านบอื แนนากอ ๓๕๐ ๓๑๘ ๖๖๘ ๑๔๘
รวมท้งั สน้ิ ๒,๖๔๑ ๒,๕๘๓ ๕,๒๒๔ ๑,๑๖๓
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 2
จำนวนครวั เรอื น ๑,๑๖๓ ครวั เรอื นผลิตภณั ฑ์มวลรวมรายได้ผลิตภณั ฑม์ วลรวมเป็นผลผลิตทาง
การเกษตร เช่น ยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจประจำอำเภอทำรายไดใ้ ห้กบั ประชาชน และมีผลไม้ เช่น ลองกอง
เงาะ มงั คุด ทุกเรียนและผลไม้ อ่นื ๆ มากมาย
สภาพทางเศรษฐกิจ
ประชากรสว่ นใหญข่ องตำบลตะมะยงู ประกอบอาชีพ เกษตรกรรมทำสวนยางพาราสวนไม้ผล , รบั จา้ งกรีดยาง
และรบั จ้างทั่วไป
ตารางแสดง : พ้ืนทีท่ ำการเกษตรในตำบลตะมะยงู
หมูท่ ่ี พน้ื ที่ท้ังหมด(ไร่) พน้ื ทท่ี ำการเกษตร พ้ืนท่ี หมายเหตุ
(ไร)่ ท่อี ยู่อาศัย(ไร)่ ชือ่ หม่บู ้าน
๑ ๒,๖๒๕ ๒,๓๕๐ ๑๒๕ ตอหลัง
๒ ๓,๓๕๑ ๓,๑๙๓ ๑๘๙ ตะมะยงู
๓ ๓,๓๘๒ ๓,๐๑๒ ๒๘๐ คลองหงส์
๔ ๒,๗๗๕ ๒,๕๒๐ ๑๗๕ ลโู บะ๊ บาตู
๕ ๓,๕๓๑ ๓,๒๔๘ ๑๘๕ จอื แรง
๖ ๓,๔๖๘ ๓,๒๘๕ ๙๗ บอื แนนากอ
รวม ๑๙,๑๓๒ ๑๗,๖๐๘ ๑,๐๕๑
แหล่งเรียนรู้ในชุมชน
ลำดบั ท่ี ช่อื กศน.ตำบล ที่ตง้ั หมายเหตุ
๑ กศน.ตำบลตะมะยูง หมทู่ ี่ ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๒ บ้านหนังสือชุมชน หมู่ท่ี ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๓ รพ.สต.ตำบลตะมะยูง หมูท่ ่ี ๓ บา้ นคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๔ สถาบันศกึ ษาปอเนาะฯอคี อบี หมทู่ ่ี ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๕ อบต.ตะมะยูง หมู่ที่ ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๖ โรงเรียนศรีวารนิ ทร์ หม่ทู ่ี ๓ บ้านคลองหงส์ ตำบลตะมะยูง
๗ โรงเรียนบ้านบอื แนนากอ หมทู่ ่ี ๖ บ้านบอื แนนากอ ตำบลตะมะยูง
๘ ศูนย์เดก็ เลก็ บ้านจือแรง หมู่ที่ ๕ บ้านจือแรง ตำบลตะมะยงู
๕. ปญั หาและความตอ้ งการทางการศกึ ษาของประชาชนทจ่ี ำแนกตามลกั ษณะของกลุ่มเป้าหมาย
ด้านการรู้หนังสือ ด้านการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สายสามัญ) ด้านอาชีพ ด้านการพัฒนา
ทักษะชวี ติ ด้านการพัฒนาสังคมและชุมชน ดา้ นปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดา้ นการศึกษาตามอธั ยาศัย
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 3
สว่ นท่ี ๒ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม กศน. ตำบล / แขวง (SWOT Analysis)
ขอ้ มูลการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ ม กศน. ตำบล / แขวง (SWOT Analysis) กศน.ตำบลตะมะยูง
ปจั จยั ภายใน การวิเคราะห์ จดุ แข็งและจดุ อ่อน
๑. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
๑.๑ จุดแข็งของ กศน.ตำบล/แขวง (Strengths - S)
ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน.ตำบล/แขวง วิทยากร) ด้านงบประมาณ
ดา้ นอาคารสถานที่ ส่ือ วัสดอุ ุปกรณ์ และดา้ นโครงสร้างองค์กร/การบริหารจดั การ คา่ นยิ มองคก์ ร
.มีการมอบหมายงานตามความถนัดและความสามารถ
๑.ผ้เู รยี นนำเอาความรไู้ ปพัฒนาคุณภาพชีวติ
๒.ผเู้ รยี นสามารถศกึ ษาต่อได้จำนวนมาก
๓.บุคลากรม่งุ มน่ั พฒั นาคุณภาพขององค์กรและผลผลิตอย่างตอ่ เนื่อง
๔.บุคลากรมีความรู้ความสามารถ และมีความรบั ผดิ ชอบ
๕.บุคลากรสามารถให้คำปรกึ ษาและแก้ไขปญั หาแกเ่ พื่อนร่วมงานได้
๖.บคุ ลากรมีมนุษย์สัมพันธ์ดี
๗.บุคลากรปฏิบัติงานสามารถเขา้ ถึงกล่มุ เปา้ หมายไดด้ ี
๘.งบประมาณท่ไี ดร้ ับจดั สรรจากต้นสงั กัดมีเพยี งพอ
๙.มกี ารวางแผนใชง้ บประมาณอยา่ งคุ้มค่า
๑๐.องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ให้การสนับสนนุ งาน กศน.
๑.๒ จุดอ่อนของ กศน.ตำบล / แขวง (Weaknesses - W)
ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน. ตำบล/แขวง วทิ ยากร) ด้านงบประมาณ
ด้านอาคารสถานที่ สอื่ วสั ดอุ ุปกรณ์ และด้านโครงสรา้ งองค์กร/การบรหิ ารจดั การ คา่ นยิ มองค์กร
๑.นโยบายบางอย่างไมอ่ ยใู่ นแผนแตต่ อ้ งปฏบิ ัติ
๒.ผลผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนโดยภาพรวมยังตำ่
๓.บุคลากรสว่ นหน่งึ เป็นลกู จา้ งชัว่ คราวขาดความมัน่ คงเรอ่ื งรายไดแ้ ละสวัสดิการ
๔.การใชง้ บประมาณมีข้อจำกัดบางประการ
๕.ขาดวสั ดุอุปกรณเ์ พ่ือใชใ้ นการเรียนการสอนใน กศน.ตำบล
๖.สื่อและอปุ กรณท์ ่ีมีอยูย่ ังใช้ไม่คุ้มคา่ เท่าท่คี วร
๗.ขาดบคุ ลากรดแู ลอาคารสถานที่
๘.มีการบริหารอยา่ งเป็นระบบแตย่ งั ไม่ครบกระบวนการ
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 4
ปัจจัยภายนอก การวิเคราะห์ โอกาสและอุปสรรค
ปจั จยั O = Opportunities T = Threats
๑. งานการศึกษา ๑. สงั คมชนบททำใหส้ ามารถจดั กิจกรรมได้ ๑. สภาพสังคมเปลย่ี นไปทำให้วถิ ชี วี ติ เปลย่ี น
ขั้นพื้นฐาน สะดวก ๒. ขาดการปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหว่างหนว่ ยงานกับชมุ ชน
๒. สถานศกึ ษาเข้าไปมสี ่วนร่วมในการจัด อยา่ งต่อเนอื่ ง
กจิ กรรมของชมุ ชน ๓. การประชาสมั พันธย์ ังไม่ครอบคลมุ ทกุ กจิ กรรม
๓. ประชาชนต้องการได้รบั การศึกษาเพ่ิมขนึ้ ละเปา้ หมาย
๔. มีภมู ปิ ญั ญาและแหล่งเรียนรู้ครอบคลุมทกุ ๔. ผเู้ รยี น/ผูร้ บั บริการ ยงั ขาดความ เข้าใจงาน
ปจั จยั O = Opportunities T = Threats
๒. งานการศกึ ษา พนื้ ทีท่ ำให้ ผรู้ ับบรกิ ารได้ศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ย ของศนู ย์ กศน.
ต่อเนือ่ ง
ตนเอง ๕. ประชากรบางสว่ นมีความจำเป็นในการ
๓. งานการศกึ ษา
ตามอัธยาศยั ประกอบอาชีพสงู จนไมม่ เี วลาใหก้ บั การศึกษา
๖. สถานะและบทบาททางสงั คมมีผลต่อการเข้า
ร่วมกจิ กรรมในบางกิจกรรม
๑. ผ้เู รยี น/ผรู้ ับบริการ ประกอบอาชีพ ๑. ปัญหาการว่างงานทำให้ขาดความสนใจในการ
เกษตรกรรม และอยใู่ นวยั ทำงานทมี่ รี ายได้ เขา้ รว่ มกจิ กรรม
น้อย ทำให้สามารถเข้าไปสนับสนนุ ส่งเสริม ๒. ประชาชนส่วนใหญ่มีอาชพี รบั จา้ งจึงไมค่ ่อยไม่
การทำเกษตรอินทรีย์ เกษตร มีเวลาใหก้ ารศึกษา
ผสมผสาน การปลกู ผักปลอดสารพษิ
๑. พ.ร.บ การศกึ ษาเปดิ โอกาสให้ท้องถ่นิ มี ๑. มกี ารแบง่ พรรค แบง่ พวก ขาดความสามัคคีใน
สว่ นร่วมในการจัดการศึกษามากขึน้ ทำให้ ชุมชน จากปัญหาด้านการเมืองทำให้การทำงาน
เกดิ การระดมความคิดในการพัฒนาการศกึ ษา ไมค่ ล่องตัว
๒. ได้รับความรว่ มมือจากภาคเี ครือขา่ ย ๒. ผู้นำบางส่วน ไม่เหน็ ความสำคัญ และไม่
องค์กรท้องถ่นิ ประชาชนหรอื ชุมชนบางส่วน สนับสนนุ การศึกษา
ในดา้ นการจดั การศึกษา
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 5
สว่ นท่ี ๓ แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนนิ งานการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
ของ กศน.ตำบล/แขวง
๑. ช่อื สถานศึกษา กศน.ตำบตะมะยงู
๒. ท่ตี ัง้ /การติดต่อ บา้ นคลองหงษ์ หมู่ที่ ๓ ตำบลตะมะยูง อำเภอศรสี าคร จงั หวดั นราธวิ าส
๙๖๒๑๐
๓. สังกดั สำนักงานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั นราธิวาส
สำนกั งาน กศน. สำนกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศึกษาธิการ
อัตลักษณ์ กศน.ตำบลตะมะยูง
“ใฝ่เรียนรู้ คู่คณุ ธรรมมีจติ สาธารณะ”
เอกลกั ษณ์กศน.ตำบลตะมะยูง
“มีความรู้ คู่สามัคคี ตามวถิ พี อเพยี ง”
ปรัชญา
สรา้ งโอกาสทางการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวติ บนพ้ืนฐานเศรษฐกิจพอเพียง
วิสยั ทัศน์
กศน.ตำบลตะมะยูง เป็นหนว่ ยงานหลกั ทจ่ี ัดการศึกษาใหแ้ ห่ประชาชนซงึ่ อยูน่ อกระบบโรงเรียนใหม้ ี
ความรู้ สามารถนำความรู้ไปใชใ้ นการพฒั นาคุณภาพชวี ิตของตนใหด้ ขี น้ึ และพฒั นาชุมชนอย่างยง่ั ยืนตาม
แนวเศรษฐกิจพอเพยี ง
พันธกิจ
๑.จดั และสง่ เสริมการเรียนรูค้ ู่คณุ ธรรมให้กับประชาชนทุกกล่มุ เป้าหมายตามความต้องการในรูปแบบ
การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
๒.จัดและสง่ เสรมิ กระบวนการเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาทักษะการทำงานพัฒนาคณุ ภาพและชดเชยโอกาส
ทางการศกึ ษา
๓.สรา้ งความเข้มแขง็ ของภาคีเครอื ข่ายในการรว่ มจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
ใหเ้ ปน็ กลไกในการส่งเสรมิ การเรียนร้ตู ลอดชวี ิต
๓.พฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยสำหรบั ประชาชน
กลุ่มเปา้ หมายเพื่อให้มีคุณธรรมนำความรแู้ ละทกั ษะการดำเนนิ ชีวิตบนพนื้ ฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
กลยทุ ธ์การดำเนินงาน ๕ประการ
๑.ลยุ ถงึ ทเี่ ขา้ ถงึ กลมุ่ เปา้ หมายที่หลากหลายและท่ัวถึง
๒.จดั กิจกรรมหลากหลายโดนใจผู้เรยี น / ปรบั วิธเี รยี นเปลีย่ นวิธสี อนใหส้ อดคล้องกบั สภาพและความ
ตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถงึ และหลากหลาย
๓.ขยายแหลง่ เรยี นรู้และเทคโนโลยี / พฒั นาแหล่งเรยี นรู้และภูมปิ ญั ญาให้เป็นฐานความร้ขู องชมุ ชน
๔.ผนึกกำลงั ภาคเี ครือขา่ ยและกระจายบรกิ ารการศกึ ษา / ในการจดั การเรยี นรตู้ ลอดชีวิตแก่ชุมชนท่ี
พลาดโอกาสทางการศกึ ษาและให้ชุมชนเลอื กรบั บริการตามความสนใจและความถนัดของตนเอง
๕.พฒั นาประสทิ ธภิ าพการบริหารจดั การ / จดั ระบบบริหารเพ่อื เพ่ิมประสิทธิภาพการบริการประชาชน
อย่างทว่ั ถึง
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 6
เปา้ ประสงค์ และมคี ุณภาพ
เพอื่ ใหป้ ระชาชนได้รบั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอย่างทั่วถงึ
บนพ้นื ฐานปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพื่อสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรู้ คคู่ ุณธรรม
นโยบายและจดุ เนนการดําเนินงาน สาํ นกั งาน กศน.
ประจําปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
วิสยั ทัศน
คนไทยทกุ ชวงวยั ไดรับโอกาสทางการศึกษา และการเรียนรูตลอดชวี ิตอยางมีคุณภาพ มีทกั ษะทีจ่ ําเปน
และสมรรถนะท่สี อดรับกบั ทิศทางการพัฒนาประเทศ สามารถดํารงชวี ิตไดอยางเหมาะสม บนรากฐานของหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
พนั ธกิจ
๑. จัดและสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพ สอดคลองกับหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม เพ่ือยกระดับการศึกษาและ
พัฒนา สมรรถนะ ทักษะการเรียนรูของประชาชนกลุมเปาหมายใหเหมาะสมในแตละชวงวัย ใหพรอมรับการ
เปลี่ยนแปลงและการปรับตัวในการดํารงชีวิตไดอยางเหมาะสม กาวสูการเปนสังคมแหงการเรียนรูตลอดชีวิต
อยางย่งั ยนื
๒. พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู สื่อและนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการศึกษาการ
วดั และประเมนิ ผลในทกุ รปู แบบใหมคี ุณภาพและมาตรฐานสอดคลองกับรปู แบบการจัดการเรียนรูและบริบทใน
ปจจบุ ัน
๓. สงเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนําเทคโนโลยีมาพัฒนาเพ่ือเพ่ิมชองทางและ
โอกาสการเรียนรู รวมถึงการเพ่ิมประสิทธิภาพในการจัดและใหบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อธั ยาศยั ใหกบั ประชาชนกลุมเปาหมายอยางทัว่ ถึง
๔. สงเสริมสนับสนุน แสวงหา และประสานความรวมมอื เชิงรกุ กับภาคีเครือขาย ใหเขามามสี วนรวม
ในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรูตลอดชีวิตในรูปแบบ
ตาง ๆ ใหกบั ประชาชน
๕. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายในองคกรใหมีเอกภาพ เพื่อการบริหารราชการที่ดีบนหลักของ
ธรรมาภิบาล มีประสิทธภิ าพ ประสทิ ธิผล และคลองตัวมากยิ่งขึ้น
๖. ยกระดับการบริหารและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรใหมีความรู ทักษะ สมรรถนะ คุณธรรมและ
จริยธรรมท่ีดี เพอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพของการใหบรกิ ารทางการศึกษาและการเรียนรูท่ีมีคุณภาพมากย่งิ ข้นึ
เปาประสงค
๑. ประชาชนผูดอย พลาด และขาดโอกาสทางการศึกษารวมทั้งประชาชนท่ัวไปไดรับโอกาสทางการ
ศึกษาในรูปแบบการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน การศึกษาตอเน่ือง และการศึกษาตาม
อธั ยาศัยที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและท่ัวถึง เป็นไปตามบริบท สภาพปัญหาและความต้องการของแตละกลุม
เปาหมาย
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 7
๒. ประชาชนไดรบั การยกระดับการศึกษา สรางเสรมิ และปลูกฝงคุณธรรม จริยธรรม หนาที่ความเปน
พลเมืองที่ดีภายใตการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข ท่ีสอดคลองกับหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อันนําไปสูการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสรางความเขมแข็งใหชุมชน เพ่ือ
พฒั นาไปสูความมนั่ คงและย่งั ยืนทางดานเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม ประวัติศาสตร และส่งิ แวดลอม
๓. ประชาชนไดรบั การพัฒนาทักษะการเรียนรูและแสวงหาความรูดวยตนเองผานแหลงเรยี นรู
ชองทางการเรยี นรู และกจิ กรรมการเรยี นรูรูปแบบตาง ๆ รวมทั้งมีเจตคตทิ างสังคม การเมอื ง วทิ ยาศาสตร
และเทคโนโลยที เี่ หมาะสม สามารถคดิ วเิ คราะหแยกแยะอยางมเี หตุผล และนาํ ไปประยกุ ตใชในชวี ิตประจําวนั
รวมถงึ การแกปญหาและพัฒนาคณุ ภาพชีวิตไดอยางสรางสรรค
๔. หนวยงานและสถานศึกษา กศน. มหี ลกั สตู ร สือ่ นวัตกรรม ชองทางการเรยี นรู และกระบวนการ
เรียนรูในรูปแบบทห่ี ลากหลาย ทันสมยั และรองรับกบั สภาวะการเรยี นรูในสถานการณตาง ๆ เพอื่ แกปญหา
และพัฒนาคุณภาพชีวิตตามความตองการของประชาชนและชุมชน รวมท้ังตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลง
บรบิ ทดานเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วฒั นธรรม ประวัติศาสตรและสิง่ แวดลอม
๕. หนวยงานและสถานศกึ ษา กศน.สามารถนาํ เทคโนโลยที างการศึกษาและเทคโนโลยดี ิจิทัลมาพัฒนา
เพ่ือเพ่ิมชองทางการเรียนรู และนํามาใชในการยกระดับคุณภาพในการจัดการเรียนรูและโอกาสการเรียนรูให
กบั ประชาชน
๖. ชุมชนและภาคีเครือขายทุกภาคสวน มีสวนรวมในการจัด สงเสริม และสนับสนุนการศึกษานอก
ระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย รวมทง้ั การขับเคล่อื นกิจกรรมการเรยี นรูของชุมชน
๗. หนวยงานและสถานศกึ ษามีระบบการบริหารจัดการองคกรทีท่ นั สมยั มปี ระสิทธภิ าพ และเปนไป
ตามหลักธรรมาภิบาล
๘. บคุ ลากร กศน. ทกุ ประเภททกุ ระดับไดรับการพฒั นาเพือ่ เพม่ิ ทักษะและสมรรถนะในการปฏิบัติงาน
และการใหบริการทางการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการปฏิบตั ิงานตามสายงานอยาง
มปี ระสิทธภิ าพ
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 8
ตัวชี้วัด
รายละเอียดตวั ช้วี ัด คาเปาหมาย
๑. ตวั ชวี้ ดั เชิงปรมิ าณ
๑.๑ รอยละของผูเรียนที่ไดรับการสนับสนนุ คาใชจายการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษา รอยละ ๘๐
ข้ันพืน้ ฐานตามสทิ ธิทีก่ าํ หนดไว (เทียบกบั เปาหมายตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจาย
ประจําป)
๑.๒ จํานวนของผูลงทะเบยี นเขารวมกิจกรรมการเรียนรู/ ไดรบั บริการกจิ กรรมการศกึ ษา ๗๕๖,๖๗๕ คน
ตอเน่อื ง ทีส่ อดคลองกบั สภาพ ปญหา และความตองการ
๑.๓ จํานวนของผูรับบรกิ าร/เขารวมกิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ๙,๘๐๐ คน
๑.๔ จาํ นวนบันทกึ ขอตกลงความรวมมอื (MOU) รวมกบั ภาคเี ครือขาย ไมนอยกวา
๓,๐๐๐ ฉบับ
๑.๖ จาํ นวนแหลงเรยี นรูในระดับตําบลทีม่ คี วามพรอมในการใหบรกิ าร/การจัดกจิ กรรม ๑,๗๘๗ แหง
การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย
๔๒๔,๕๐๐ คน
๑.๗ จาํ นวนประชาชนท่ีเขารับการพัฒนาทักษะอาชพี เพื่อสรางรายไดและการมีงานทํา ๑๐๐ คน
๑.๘ จํานวน ครู กศน. ตําบล ที่ไดรับการพัฒนาศักยภาพดานการจัดการเรียนการสอน
๒๒,๒๗๒ คน
ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ๖,๘๐๐ คน
๑.๙ จาํ นวนประชาชนที่ไดรับการฝกอบรมภาษาตางประเทศเพื่อการส่ือสารดานอาชพี ๑๘๕,๖๐๐ คน
๑.๑๐ จํานวนผผู านการอบรมหลักสตู รการดูแลผูสูงอายุ
๑.๑๑ จํานวนประชาชนที่ผานการอบรมจากศูนยดจิ ทิ ลั ชมุ ชน
๑.๑๒ จํานวนสอื่ การเรียนออนไลน หลกั สูตรการพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอรเพื่องาน ไมนอยกวา ๓๐
อาชพี วิชา
๑.๑๓ จาํ นวนบุคลากรสังกัดสํานกั งาน กศน. ที่ไดรับการพัฒนาศักยภาพและความกาว ๒,๘๐๗ คน
หนาตามสายงานในอาชพี
๑๐,๐๐๐ คน
๑.๑๔ จํานวนบคุ ลากรสงั กดั สํานักงาน กศน. ทีเ่ ขารับการอบรมดานการปกปองและเชดิ ชู
สถาบนั หลกั ของชาติ ดานความปรองดองสมานฉนั ท ดานการมจี ติ สาธารณะ
และดานทักษะในการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน
๑.๑๕ จํานวนบทความเพอ่ื การเรียนรูตลอดชีวิตในระดับตาํ บล ในหวั ขอตางๆ อาทิ อาชีพ ๘,๐๐๐ ฉบบั
ชุมชน วฒั นธรรมทองถ่นิ ภูมิปญญา
๗๗ แหง
๑.๑๖ จํานวนศนู ยการเรียนรูตนแบบ (Co-Learning Space)
๒. ตวั ชวี้ ัดเชิงคุณภาพ รอยละ ๗๕
๒.๑ รอยละของนักศึกษาที่คาดวาจะจบในทุกระดบั ท่ีสาํ เร็จการศกึ ษาในแตละภาคเรยี น รอยละ ๘๐
๒.๒ รอยละของผูจบหลักสตู ร/กจิ กรรมการศึกษาตอเนอื่ ง ท่สี ามารถนาํ ความรูความเขาใจ
รอยละ ๘๐
ไปใชพัฒนาตนเองไดตามจดุ มุงหมายของหลกั สตู ร/กิจกรรม
๒.๓ รอยละของผูผานการพฒั นาทกั ษะอาชพี สามารถนําความรูไปใชในการประกอบ
อาชีพหรอื พัฒนาตนเองได
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 9
รายละเอียดตวั ช้ีวดั คาเปาหมาย
๒.๔ รอยละของผูเรยี นในเขตพืน้ ทจี่ ังหวดั ชายแดนภาคใตที่ไดรบั การพัฒนาศักยภาพ รอยละ ๘๐
หรอื ทักษะดานอาชีพ สามารถมีงานทาํ หรอื นําไปประกอบอาชีพได รอยละ ๘๐
๒.๕ รอยละของประชาชนท่ไี ดรับบรกิ าร/ เขารวมกิจกรรมการศกึ ษาตามอัธยาศัย
รอยละ ๘๐
มีความรูความเขาใจ/ เจตคติ/ ทกั ษะ ตามจดุ มุงหมายของกิจกรรมท่ีกําหนด
๒.๖ รอยละของผูสูงอายุทเ่ี ปนกลุมเปาหมาย มโี อกาสมาเขารวมกิจกรรมการศึกษา รอยละ ๙๐
ตลอดชีวิต
๒.๗ รอยละของบุคลากรที่ไดรับการพฒั นา ที่มีการพฒั นาตนเองในดานพฤตกิ รรม
บคุ ลิกภาพ ทัศนคติ คานยิ มท่ีพึงประสงค ภาวะผูนาํ และมีจรรยาบรรณวชิ าชีพ
ที่เหมาะสมยง่ิ ขนึ้
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 10
จุดเนนการดําเนินงานประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
๑. นอมนําพระบรมราโชบายดานการศกึ ษาสูการปฏิบตั ิ
๑.๑ สืบสานศาสตรพระราชา โดยการสรางและพัฒนาศูนยสาธิตและเรียนรู “โคก หนอง นา
โมเดล”เพอื่ เปนแนวทางในการจดั การบริหารทรัพยากรรปู แบบตาง ๆ ท้ังดิน น้ำ ลม แดด รวมถึงพชื พันธุตาง ๆ
และสงเสริมการใชพลังงานทดแทนอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ
๑.๒ จดั ใหมี “หนึง่ ชมุ ชน หนึ่งนวัตกรรม การพัฒนาชุมชน” เพอื่ ความกินดี อยูดี มีงานทาํ
๑.๓ การสรางกลุมจิตอาสาพัฒนาชุมชน รวมทั้งปลูกฝงผูเรียนใหมีหลักคิดที่ถูกตองดาน
คุณธรรมจริยธรรม มีทัศนคติท่ีดีตอบานเมือง และเปนผูมีความพอเพียง ระเบียบวินัย สุจริต จิตอาสา ผาน
กิจกรรมการพัฒนาผูเรยี นโดยการใชกระบวนการลกู เสือและยวุ กาชาด
๒. สงเสรมิ การจัดการศึกษาและการเรียนรูตลอดชวี ติ สําหรับประชาชนท่เี หมาะสมกับทุกชวงวัย
๒.๑ สงเสริมการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทํา ในรูปแบบ Re-Skill& Up-Skill และ
การสรางนวัตกรรมและผลิตภัณฑท่ีมีคุณภาพ มีความหลากหลาย ทันสมัย และตอบสนองความตองการของ
ประชาชนผูรบั บรกิ าร และสามารถออกใบรับรองความรูความสามารถเพ่อื นาํ ไปใชในการพัฒนาอาชีพได
๒.๒ สงเสริมและยกระดบั ทกั ษะภาษาองั กฤษใหกับประชาชน (English for All)
๒.๓ สงเสริมการเรียนการสอนที่เหมาะสมสําหรับผูที่เขาสูสังคมสูงวัย อาทิ การฝกอบรม
อาชีพที่เหมาะสมรองรับสังคมสูงวัย หลักสูตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสงเสริมสมรรถนะผูสูงวัย และ
หลักสูตรการดูแลผูสูงวัย โดยเนนการมีสวนรวมกับภาคีเครือขายทุกภาคสวนในการเตรียมความพรอมเขาสู
สังคมสูงวยั
๓. พัฒนาหลักสูตร สื่อ เทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการศึกษา แหลงเรียนรู และรูปแบบการจัด
การศึกษาและการเรยี นรู ในทกุ ระดับ ทกุ ประเภท เพอื่ ประโยชนตอการจดั การศึกษาทเ่ี หมาะสม
กับทกุ กลุมเปาหมาย มีความทันสมัย สอดคลองและพรอมรองรบั กับบริบทสภาวะสังคมปจจบุ ัน ความตองการ
ของผูเรียน และสภาวะการเรียนรูในสถานการณตาง ๆ ทจ่ี ะเกิดข้นึ ในอนาคต
๓.๑ พัฒนาระบบการเรียนรู ONIE Digital Learning Platform ที่รองรับ DEEPของ
กระทรวงศึกษาธกิ ารและชองทางเรียนรูรูปแบบอน่ื ๆ ทัง้ Online On-site และ On-air
๓.๒ พัฒ นาแหลงเรียนรูประเภทตาง ๆ อาทิ Digital Science Museum/ Digital
Science Center/Digital Library ศูนยการเรียนรูทุกชวงวัย และศูนยการเรียนรูตนแบบ กศน. (Co-
Learning Space) เพื่อใหสามารถ “เรยี นรูไดอยางทั่วถงึ ทุกที่ ทุกเวลา”
๓.๓ พัฒนาระบบรับสมัครนักศึกษาและสมัครฝกอบรมแบบออนไลน มีระบบการเทียบโอน
ความรูระบบสะสมหนวยการเรียนรู (Credit Bank System) และพัฒนา/ขยายการใหบริการระบบทดสอบ
อิเลก็ ทรอนิกส(E-exam)
๔. บูรณาการความรวมมือในการสงเสริม สนบั สนนุ และจัดการศึกษาและการเรียนรูใหกบั
ประชาชนอยางมคี ุณภาพ
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 11
๔.๑ รวมมอื กับภาคีเครอื ขายทัง้ ภาครฐั เอกชน ประชาสงั คม และองคกรปกครองสวนทองถ่ิน
รวมทง้ั สงเสรมิ และสนบั สนนุ การมสี วนรวมของชุมชน อาทิ การสงเสรมิ การฝกอาชีพท่ีเปนอตั ลักษณและบรบิ ท
ของชมุ ชนสงเสรมิ การตลาดและขยายชองทางการจาํ หนายเพ่ือยกระดบั ผลติ ภัณฑ/สนิ คา กศน.
๔.๒ บูรณาการความรวมมือกับหนวยงานตาง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ท้ังในสวน
กลางและภูมภิ าค
๕. พัฒนาศกั ยภาพและประสิทธภิ าพในการทาํ งานของบุคลากร กศน.
๕.๑ พัฒนาศกั ยภาพและทักษะความสามารถดานเทคโนโลยีดจิ ทิ ลั (Digital Literacy &
Digital Skills) ใหกับบคุ ลากรทกุ ประเภททุกระดบั รองรับความเปนรฐั บาลดิจทิ ัลอยางมีประสทิ ธิภาพ รวมทั้ง
พฒั นาครูใหมที ักษะความรู และความชํานาญในการใชภาษาอังกฤษ การผลิตสอื่ การเรียนรูและการจัดการ
เรยี นการสอนเพ่อื ฝกทกั ษะการคดิ วิเคราะหอยางเปนระบบและมเี หตผุ ล เปนขัน้ ตอน
๕.๒ จัดกจิ กรรมเสรมิ สรางความสมั พันธของบุคลากร กศน.และกจิ กรรมเพ่ิมประสิทธภิ าพ
ในการทํางานรวมกันในรปู แบบตาง ๆ อาทิ การแขงขนั กฬี า การอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการพัฒนาประสิทธภิ าพใน
การทํางาน
๖. ปรับปรงุ และพฒั นาโครงสรางและระบบบริหารจดั การองคกร ปจจัยพื้นฐานในการจดั
การศกึ ษาและการประชาสมั พนั ธสรางการรับรูตอสาธารณะชน
๖.๑ เรงผลกั ดนั รางพระราชบัญญตั ิสงเสรมิ การเรยี นรู พ.ศ. .... ใหสาํ เร็จ และปรบั โครงสราง
การบริหารและอัตรากาํ ลงั ใหสอดคลองกบั บริบทการเปลีย่ นแปลง เรงการสรรหา บรรจุ แตงตั้งที่มี
ประสทิ ธิภาพ
๖.๒ นาํ นวตั กรรมและเทคโนโลยดี จิ ิทลั มาใชในการบริหารจัดการ พฒั นาระบบการทํางาน
และขอมลู สารสนเทศดานการศกึ ษาทท่ี ันสมยั รวดเร็ว และสามารถใชงานทนั ที โดยจัดตง้ั ศูนยขอมูลกลาง
กศน. เพ่ือจัดทาํ ขอมูล กศน. ท้ังระบบ (ONE ONIE)
๖.๓ พฒั นา ปรบั ปรงุ ซอมแซม ฟนฟูอาคารสถานที่ และสภาพแวดลอมโดยรอบของหนวย
งานสถานศึกษา และแหลงเรียนรูทกุ แหง ใหสะอาด ปลอดภัย พรอมใหบริการ
๖.๔ ประชาสมั พันธ/สรางการรับรูใหกบั ประชาชนท่ัวไปเกี่ยวกบั การบริการทางวชิ าการ/กจิ
กรรมดานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย และสรางชองทางการแลกเปล่ียนเรียนรูดานวชิ าการ
ของหนวยงานและสถานศกึ ษาในสงั กัด อาทิ ขาวประชาสมั พนั ธ ผานสื่อรูปแบบตาง ๆ การจดั นิทรรศการ/
มหกรรมวิชาการ กศน.
การจดั การศกึ ษาและการเรยี นรูในสถานการณการแพรระบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙
(COVID – ๑๙) ของสาํ นกั งาน กศน.
จากสถานการณการแพรระบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID -๑๙) เม่ือเดือน
ธนั วาคม ๒๕๖๒ สงผลกระทบตอระบบการจัดการเรยี นการสอนของไทยในทุกระดบั ชัน้ ซ่ึงรฐั บาลและ
กระทรวงศกึ ษาธิการไดออกประกาศและมมี าตรการเฝาระวังเพือ่ ปองกนั การแพรกระจายของเช้ือไวรัสดงั กลาว
อาทิ กําหนดใหมีการเวนระยะหางทางสงั คม (Social Distancing) หามการใชอาคารสถานท่ขี องโรงเรียนและ
สถาบันการศึกษาทุกประเภท เพือ่ จดั การเรียนการสอน การสอบ ฝกอบรม หรือการทํากิจกรรมใด ๆ ท่ีมผี ูเขาร
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 12
วมเปนจํานวนมาการปดสถานศกึ ษาดวยเหตพุ เิ ศษ การกําหนดใหใชวธิ กี ารจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม
อาทิ การจัดการเรียนรูแบบออนไลน การจัดการเรยี นรูผานระบบการออกอากาศทางโทรทศั น วิทยุ และ
โซเซียลมีเดยี ตาง ๆ รวมถงึ การส่อื สารแบบทางไกลหรือดวยวิธีอเิ ลก็ ทรอนิกส
ในสวนของสาํ นักงาน กศน. ไดมีการพฒั นา ปรับรูปแบบ กระบวนการ และวิธีการดาํ เนนิ งาน
ในภารกิจตอเน่ืองตาง ๆ ในสถานการณการใชชวี ิตประจําวัน และการจัดการเรียนรูเพื่อรองรับการชีวิตแบบ
ปกตวิ ิถใี หม(New Normal) ซึง่ กิจกรรมการเรียนรูตาง ๆ ไดใหความสาํ คญั กบั การดาํ เนินงานตามมาตรการ
การปองกันการแพรระบาดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID -๑๙) อาทิ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรูทุก
ประเภทหากมีความจาํ เปนตองมาพบกลุม หรอื อบรมสมั มนา ทางสถานศึกษาตองมีมาตรการปองกนั ทเ่ี ขมงวด
เจลแอลกอฮอลล์ างมือ ผูรบั บริการตองใสหนากากอนามยั หรือหนากากผา ตองมีการเวนระยะหางระหวาง
บุคคลเนนการใชส่อื ดิจทิ ัลและเทคโนโลยอี อนไลนในการจัดการเรยี นการสอน
ภารกจิ ตอเนือ่ ง
๑. ดานการจัดการศกึ ษาและการเรยี นรู
๑.๑ การศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน
๑) สนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบต้ังแตปฐมวัยจนจบการศึกษาขั้นพ้ืนฐานโดย
ดําเนินการใหผูเรียนไดรับการสนับสนุนคาจัดซ้ือหนังสือเรียน คาจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผูเรียน และคา
จัดการเรียนการสอนอยางท่ัวถึงและเพียงพอเพื่อเพิ่มโอกาสในการเขาถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพโดย
ไมเสยี คาใชจาย
๒) จัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานใหกับกลุมเปาหมายผูดอย พลาดและ
ขาดโอกาสทางการศกึ ษา ผานการเรียนแบบเรียนรูดวยตนเอง การพบกลุม การเรยี นแบบชัน้ เรียน และการจดั
การศกึ ษาทางไกล
๓) พัฒนาประสิทธิภาพ คุณภาพ และมาตรฐานการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษา
ข้นั พน้ื ฐาน ทั้งดานหลักสูตรรูปแบบ/กระบวนการเรียนการสอน ส่อื และนวัตกรรม ระบบการวดั และประเมินผล
การเรยี น และระบบการใหบรกิ ารนักศึกษาในรูปแบบอ่ืน ๆ
๔) จัดใหมีการประเมินเพ่ือเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรูและประสบการณ
ที่มีความโปรงใส ยตุ ธิ รรม ตรวจสอบได มมี าตรฐานตามท่กี ําหนด และสามารถตอบสนองความตองการ
ของกลุมเปาหมายไดอยางมปี ระสิทธภิ าพ
๕) จัดใหมกี ิจกรรมพัฒนาคุณภาพผูเรยี นท่มี คี ุณภาพที่ผูเรียนตองเรยี นรูและเขารวมปฏบิ ัติ
กิจกรรม เพ่ือเปนสวนหนึง่ ของการจบหลกั สูตร อาทิ กิจกรรมเสริมสรางความสามคั คี กิจกรรมเกี่ยวกับการปอง
กันและแกไขปญหายาเสพติดการแขงขันกีฬา การบําเพ็ญสาธารณประโยชนอยางตอเนื่อง การสงเสริมการ
ปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ทรงเปนประมุข กิจกรรมลกู เสือ เนตรนารี และยุวกาชาด
กิจกรรมจติ อาสา และการจดั ตั้งชมรม/ชมุ นุม พรอมทั้งเปดโอกาสใหผูเรยี นนาํ กิจกรรมการบําเพ็ญประโยชนอ่ืน
ๆนอกหลักสูตรมาใชเพ่ิมช่วั โมงกจิ กรรมใหผูเรียนจบตามหลักสตู รได
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 13
๑.๒ การสงเสริมการรูหนงั สือ
๑) พัฒนาระบบฐานขอมูลผูไมรูหนังสือ ใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัยและเปนระบบ
เดยี วกนั ทัง้ สวนกลางและสวนภมู ภิ าค
๒) พฒั นาและปรับปรุงหลักสูตร ส่ือ แบบเรียนเครื่องมือวัดผลและเครื่องมือการดําเนินงานการส
งเสริมการรูหนังสอื ท่ีสอดคลองกบั สภาพและบรบิ ทของแตละกลุมเปาหมาย
๓) พัฒนาครู กศน.และภาคีเครือขายท่ีรวมจัดการศึกษา ใหมีความรู ความสามารถ และทักษะ
การจัดกระบวนการเรียนรูใหกับผูไมรูหนังสืออยางมีประสิทธิภาพ และอาจจัดใหมีอาสาสมัครสงเสริมการรู
หนังสือในพ้นื ทท่ี ม่ี ีความตองการจาํ เปนเปนพเิ ศษ
๔) สงเสริมสนับสนุนใหสถานศึกษาจัดกิจกรรมสงเสริมการรูหนังสือการคงสภาพการรูหนังสือ
การพฒั นาทกั ษะการรหู นังสอื ใหกับประชาชนเพื่อเปนเครือ่ งมือในการศึกษาและเรียนรูอยางตอเนอ่ื งตลอดชวี ิต
ของประชาชน
๑.๓ การศกึ ษาตอเน่ือง
๑) จัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทําอยางยั่งยืน โดยใหความสําคัญกับการจัดการศึกษาอาชีพ
เพ่อื การมีงานทําในกลุมอาชีพเกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม คหกรรม และอาชพี เฉพาะทางหรือการ
บรกิ ารรวมถงึ การเนนอาชีพชางพ้นื ฐาน ทส่ี อดคลองกับศักยภาพของผูเรียน ความตองการและศกั ยภาพของแต
ละพืน้ ที่มีคณุ ภาพไดมาตรฐานเปนทีย่ อมรบั สอดรับกับความตองการของตลาดแรงงาน และการพัฒนาประเทศ
ตลอดจนสรางความเขมแข็งใหกับศูนยฝกอาชีพชุมชน โดยจัดใหมกี ารสงเสรมิ การรวมกลุมวิสาหกิจชุมชน การ
พัฒนาหน่ึงตําบลหนึ่งอาชีพเดน การประกวดสินคาดีพรีเมี่ยม การสรางแบรนดของ กศน. รวมถึงการสงเสริม
และจัดหาชองทางการจําหนายสินคาและผลิตภัณฑ และใหมีการกํากับ ติดตาม และรายงานผลการจัด
การศึกษาอาชพี เพอื่ การมงี านทําอยางเปนระบบและตอเนื่อง
๒) จดั การศึกษาเพ่ือพฒั นาทกั ษะชีวติ ใหกับทุกกลุมเปาหมาย โดยเฉพาะคนพิการ ผูสูงอายุ
ที่สอดคลองกับความตองการจําเปนของแตละบุคคล และมุงเนนใหทุกกลุมเปาหมายมีทักษะการดํารงชีวิต
ตลอดจนสามารถประกอบอาชีพพ่ึงพาตนเองไดมีความรูความสามารถในการบริหารจัดการชีวิตของตนเองให
อยูในสังคมไดอยางมีความสุขสามารถเผชิญสถานการณ ตาง ๆ ที่เกิดข้ึนในชีวิตประจําวันไดอยางมี
ประสิทธิภาพและเตรียมพรอมสําหรับการปรับตัวใหทันตอการเปล่ียนแปลงของขาวสารขอมูลและเทคโนโลยี
สมัยใหมในอนาคตโดยจัดกิจกรรมท่ีมีเนื้อหาสําคัญตาง ๆ เชน การอบรมจิตอาสา การใหความรูเพื่อการปอง
การการแพรระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - ๑๙) การอบรมพัฒนาสุขภาพกายและสุขภาพจิต
การอบรมคุณธรรมและจริยธรรม การปองกันภัยยาเสพตดิ เพศศึกษา การปลูกฝงและการสรางคานิยมที่พึงประ
สงคความปลอดภัยในชีวิตและทรพั ยสนิ ผานการอบรมเรียนรูในรปู แบบตาง ๆ อาทิ คายพฒั นาทกั ษะชวี ิต การ
จดั ต้ังชมรม/ชุมนมุ การอบรมสงเสริมความสามารถพเิ ศษตางๆ เปนตน
๓) จดั การศกึ ษาเพือ่ พฒั นาสังคมและชุมชน โดยใชหลกั สตู รและการจดั กระบวนการเรยี นรู
แบบบรู ณาการในรูปแบบของการฝกอบรมการประชมุ สัมมนา การจดั เวทีแลกเปล่ยี นเรยี นรูการจัดกิจกรรมจิต
อาสา การสรางชุมชนนักปฏิบัติ และรูปแบบอื่นๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุมเปาหมาย และบริบทของชุมชนแตละ
พ้ืนที่ เคารพความคิดของผูอื่น ยอมรับความแตกตางและหลากหลายทางความคิดและอุดมการณ รวมทั้งสังคม
พหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการใหบุคคลรวมกลุมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรูรวมกัน สรางกระบวนการจิต
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 14
สาธารณะการสรางจิตสํานึกความเปนประชาธิปไตยการเคารพในสิทธิและเสรีภาพ และรับผิดชอบตอหนาที่
ความเปนพลเมืองที่ดีภายใตการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริยเปนประมุข การสงเสริม
คุณธรรม จริยธรรมการเปนจิตอาสา การบําเพ็ญประโยชนในชุมชนการ บริหารจัดการน้ํา การรับมือกับสา
ธารณภัยการอนุรักษพลังงานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม การชวยเหลือซึ่งกันและกันในการพัฒนา
สงั คมและชมุ ชนอยางย่ังยืน
๔) การจัดกิจกรรมการเรียนรูตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงผานกระบวนการเรียนรูตลอด
ชีวิตในรูปแบบตางๆ ใหกับประชาชน เพ่ือเสริมสรางภูมิคุมกัน สามารถยืนหยัดอยูไดอยางม่ันคง และมีการ
บริหารจดั การความเส่ียงอยางเหมาะสม ตามทศิ ทางการพัฒนาประเทศสูความสมดลุ และยง่ั ยืน
๑.๔ การศึกษาตามอธั ยาศยั
๑) พฒั นาแหลงการเรียนรูท่ีมบี รรยากาศและสภาพแวดลอมทเ่ี อ้ือตอการอานและพัฒนาศกั ยภาพ
การเรียนรูใหเกิดขึ้นในสังคมไทย ใหเกิดข้ึนอยางกวางขวางและทั่วถึง เชน การพัฒนา กศน. ตําบล หองสมุด
ประชาชนทุกแหงใหมีการบริการท่ีทันสมัย สงเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครสงเสริมการอาน การสรางเครือข
ายสงเสริมการอาน จัดหนวยบริการหองสมุดเคล่ือนท่ี หองสมุดชาวตลาด พรอมหนังสือและอุปกรณเพ่ือจัด
กิจกรรมสงเสริมการอานและการเรียนรูที่หลากหลายใหบริการกับประชาชนในพื้นท่ีตางๆ อยางท่ัวถึง
สม่ําเสมอ รวมท้ังเสริมสรางความพรอมในดานบคุ ลากร ส่อื อุปกรณเพ่ือสนับสนุนการอาน และการจัดกิจกรรม
เพ่ือสงเสริมการอานอยางหลากหลายรูปแบบ
๒) จัดสรางและพัฒนาศูนยวิทยาศาสตรเพื่อการศึกษา ใหเปนแหลงเรียนรูวิทยาศาสตรตลอด
ชีวิตของประชาชน เปนแหลงสรางนวัตกรรมฐานวิทยาศาสตรและเปนแหลงทองเที่ยวเชิงศิลปะวิทยาการ
ประจําทองถ่ินโดยจัดทําและพัฒนานิทรรศการสื่อและกิจกรรมการศึกษาท่ีเนนการเสริมสรางความรูและสรา
งแรงบันดาลใจดานวทิ ยาศาสตรสอดแทรกวิธกี ารคดิ เชงิ วิเคราะห การคิดเชิงสรางสรรค และปลูกฝงเจตคติทาง
วิทยาศาสตรผานการกระบวนการเรียนรูท่ีบูรณาการความรูดานวิทยาศาสตร ควบคูกับเทคโนโลยี วิศวกรรม
ศาสตรและคณิตศาสตรรวมท้ังสอดคลองกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง บริบทของชุมชน และประเทศ
รวมทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลกเพือ่ ใหประชาชนมีความรูและสามารถนําความรูและทักษะไปประยุกตใชใน
การดําเนินชีวิต การพฒั นาอาชีพ การรกั ษาสิง่ แวดลอม การบรรเทาและปองกันภัยพิบตั ิทางธรรมชาติ รวมท้ังมี
ความสามารถในการปรับตัวรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป นไปอยางรวดเร็วและรุนแรง
(Disruptive Changes) ไดอยางมปี ระสิทธิภาพ
๓) ประสานความรวมมือหนวยงาน องคกร หรือภาคสวนตางๆ ท่ีมีแหลงเรียนรูอื่น ๆ เพ่ือสงเส
ริมการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยใหมีรูปแบบท่ีหลากหลาย และตอบสนองความตองการของประชาชน เชน
พพิ ิธภัณฑศนู ยเรียนรู แหลงโบราณคดี วดั ศาสนาสถาน หองสมดุ รวมถึงภูมปิ ญญาทองถิ่น เปนตน
๒. ดานหลักสตู ร สอื่ รปู แบบการจดั กระบวนการเรยี นรู การวดั และประเมนิ ผลงานบริการ
ทางวชิ าการ และการประกนั คณุ ภาพการศึกษา
๒.๑ สงเสริมการพฒั นาหลักสตู ร รูปแบบการจดั กระบวนการเรยี นรูและกิจกรรมเพื่อสงเสริม
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยท่ีหลากหลาย ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรฐาน
สมรรถนะ และหลักสูตรทองถ่ินท่ีสอดคลองกับสภาพบริบทของพ้ืนที่และความตองการของกลุมเปาหมายและ
ชุมชน
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 15
๒.๒ สงเสริมการพัฒนาส่ือแบบเรียน ส่ืออิเล็กทรอนิกสและส่ืออื่น ๆ ที่เอ้ือตอการเรียนรูของผู
เรียนกลุมเปาหมายทัว่ ไปและกลุมเปาหมายพิเศษ เพอ่ื ใหผูเรยี นสามารถเรียนรูไดทกุ ที ทุกเวลา
๒.๓ พฒั นารูปแบบการจดั การศึกษาทางไกลใหมีความทนั สมยั หลากหลายชองทางการเรียนรู
ดวยระบบหองเรียนและการควบคุมการสอบรปู แบบออนไลน
๒.๔ พฒั นาระบบการประเมินเพือ่ เทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรูและประสบกา
รณเพ่ือใหมีคุณภาพ มาตรฐาน และสามารถตอบสนองความตองการของกลุมเปาหมายไดอยางมปี ระสิทธิภาพ
รวมท้ังมกี ารประชาสมั พนั ธใหสาธารณชนไดรบั รูและสามารถเขาถงึ ระบบการประเมนิ ได
๒.๕ พัฒนาระบบการวัดและประเมินผลการศึกษานอกระบบทกุ หลักสูตร โดยเฉพาะหลักสูตรใน
ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานใหไดมาตรฐานโดยการนําแบบทดสอบกลาง และระบบการสอบอิเล็กทรอนิกส(e-
Exam) มาใชอยางมปี ระสิทธภิ าพ
๒.๖ สงเสริมและสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพ่ือพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู
การวัดและประเมินผล และเผยแพรรูปแบบการจัด สงเสริม และสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัย รวมท้ังใหมีการนําไปสูการปฏิบัติอยางกวางขวางและมีการพัฒนาใหเหมาะสมกับ
บริบทอยางตอเนื่อง
๒.๗ พัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาใหไดมาตรฐาน มีการพัฒนาระบบการ
ประกันคุณภาพภายในที่สอดคลองกับบริบทและภารกิจของ กศน. มากข้ึน เพื่อพรอมรับการประเมินคุณภาพ
ภายนอกโดยพัฒนาบุคลากรใหมีความรู ความเขาใจ ตระหนักถึงความสําคัญของระบบการประกันคุณภาพ
และสามารถดําเนินการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาไดอยางตอเน่ืองโดยใชการประเมินภายในดวย
ตนเอง และจัดใหมีระบบสถานศึกษาพี่เล้ียงเขาไปสนับสนุนอยางใกลชิด สําหรับสถานศึกษาที่ยังไมไดเขารับ
การประเมนิ คณุ ภาพภายนอก ใหพฒั นาคุณภาพการจัดการศึกษาใหไดคุณภาพตามมาตรฐานที่กาํ หนด
๓. ดานเทคโนโลยีเพือ่ การศึกษา
๓.๑ ผลิตและพัฒนารายการวิทยุและรายการโทรทัศนเพ่ือการศึกษาเพื่อใหเช่ือมโยงและ
ตอบสนองตอการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษาเพื่อกระจาย
โอกาสทางการศึกษาสําหรับกลุมเปาหมายตางๆ ใหมีทางเลือกในการเรียนรูที่หลากหลายและมีคุณภาพ
สามารถพัฒนาตนเองใหรเู ทาทันส่อื และเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การส่ือสาร เชน รายการพฒั นาอาชีพเพ่ือการ
มงี านทํา รายการติวเขมเตมิ เตม็ ความรู
รายการ รายการทาํ กินก็ได ทําขายกด็ ี ฯลฯ เผยแพรทางสถานีวทิ ยศุ กึ ษา สถานวี ิทยโุ ทรทัศนเพอ่ื การศึกษา
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ETV) และทางอินเทอรเนต็
๓.๒ พฒั นาการเผยแพรการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยโดยผานระบบ
เทคโนโลยีดิจิทัล และชองทางออนไลนตาง ๆ เชน Youtube Facebook หรือ Application อ่ืน ๆ เพ่ือส
งเสริมใหครู กศน. นําเทคโนโลยีดิจิทัลมาใชในการสรางกระบวนการเรียนรูดวยตนเอง (Do It Yourself :
DIY)
๓.๓ พฒั นาสถานวี ทิ ยุศึกษาและสถานีโทรทศั นเพ่ือการศึกษาเพ่ือเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิต
และการออกอากาศใหกลุมเปาหมายสามารถใชเปนชองทางการเรียนรูท่ีมีคุณภาพไดอยางตอเน่ืองตลอดชีวิต
โดยขยายเครือขายการรับฟงใหสามารถรับฟงไดทุกท่ี ทุกเวลา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศและเพ่ิมชองทางให
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 16
สามารถรับชมรายการโทรทัศนไดท้ังระบบ Ku -Band C -Band Digital TV และทางอินเทอรเน็ต พรอมท่ี
จะรองรับการพัฒนาเปนสถานีวทิ ยุโทรทศั นเพอื่ การศกึ ษาสาธารณะ (Free ETV)
๓.๔ พฒั นาระบบการใหบรกิ ารส่อื เทคโนโลยเี พื่อการศึกษาเพ่ือใหไดหลายชองทางท้งั ทาง
อินเทอรเน็ต และรูปแบบอ่ืน ๆอาทิApplication บนโทรศัพทเคลื่อนท่ี และ Tablet รวมท้ังส่ือ Offline ใน
รูปแบบตางๆเพ่ือใหกลุมเปาหมายสามารถเลือกใชบริการเพ่ือเขาถึงโอกาสทางการศึกษาและการเรยี นรูไดตาม
ความตองการ
๓.๕ สํารวจ วิจัย ติดตามประเมินผลดานการใชสื่อเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอยางตอเนื่องเพ่ือนํา
ผลมาใชในการพัฒนางานใหมีความถูกตอง ทันสมัยและสามารถสงเสริมการศึกษาและการเรียนรูตลอดชีวิต
ของประชาชนไดอยางแทจรงิ
๔. ดานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริ หรือโครงการอันเก่ยี วเนอื่ งจากราชวงศ
๔.๑ สงเสริมและสนบั สนนุ การดําเนินงานโครงการอันเนอ่ื งมาจากพระราชดํารหิ รอื โครงการ
อันเก่ียวเนอ่ื งจากราชวงศ
๔.๒ จัดทําฐานขอมลู โครงการและกิจกรรมของ กศน.ทีส่ นองงานโครงการอันเนื่องมาจาก
พระราชดําริหรือโครงการอนั เก่ียวเน่ืองจากราชวงศเพ่ือนําไปใชในการวางแผน การติดตามประเมนิ ผลและการ
พัฒนางานไดอยางมีประสิทธิภาพ
๔.๓ สงเสริมการสรางเครอื ขายการดาํ เนินงานเพ่ือสนับสนุนโครงการอันเนอื่ งมาจากพระราชดําริ
เพ่อื ใหเกดิ ความเขมแข็งในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
๔.๔ พัฒนาศูนยการเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แมฟาหลวง”เพ่ือใหมีความพรอมในการจัด
การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยตามบทบาทหนาที่ทกี่ าํ หนดไวอยางมีประสทิ ธภิ าพ
๔.๕ จัดและสงเสริมการเรยี นรูตลอดชีวิตใหสอดคลองกบั วิถีชวี ิตของประชาชนบนพื้นท่ีสูง
ถ่ินทุรกันดารและพืน้ ท่ีชายขอบ
๕. ดานการศึกษาในจังหวดั ชายแดนภาคใต พืน้ ท่ีเขตเศรษฐกิจพิเศษและพื้นท่บี ริเวณ
ชายแดน
๕.๑ พัฒนาการจัดการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ในจังหวดั ชายแดนภาคใต
๑) จัดและพัฒนาหลักสูตร และกิจกรรมสงเสริมการศึกษาและการเรียนรูที่ตอบสนองป
ญหาและความตองการของกลุมเปาหมายรวมทง้ั อัตลกั ษณและความเปนพหุวัฒนธรรมของพ้ืนที่
๒) พัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานอยางเขมขนและต
อเนือ่ งเพือ่ ใหผูเรียนสามารถนาํ ความรูทีไ่ ดรับไปใชประโยชนไดจริง
๓) ใหหนวยงานและสถานศึกษาจัดใหมีมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยแกบุคลากร
และนกั ศึกษา กศน.ตลอดจนผูมาใชบริการอยางท่วั ถึง
๕.๒ พัฒนาการจัดการศึกษาแบบบรู ณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพเิ ศษ
๑) ประสานความรวมมือกับหนวยงานท่ีเกี่ยวของในการจัดทําแผนการศึกษาตาม
ยุทธศาสตรและบริบทของแตละจังหวัดในเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษ
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 17
๒) จัดทําหลักสูตรการศึกษาตามบริบทของพ้ืนที่ โดยเนนสาขาท่ีเปนความตองการของ
ตลาดใหเกดิ การพฒั นาอาชพี ไดตรงตามความตองการของพน้ื ท่ี
๕.๓ จัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของศูนยฝกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน
(ศฝช.)
๑) พัฒนาศูนยฝกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน เพื่อใหเปนศูนยฝกและ
สาธิตการประกอบอาชีพดานเกษตรกรรม และศูนยการเรียนรูตนแบบการจัดกิจกรรมตามแนวพระราชดําริ
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง สาํ หรับประชาชนตามแนวชายแดนดวยวิธีการเรยี นรูทีห่ ลากหลาย
๒) มงุ จัดและพัฒนาการศึกษาอาชพี โดยใชวิธีการหลากหลายใชรปู แบบเชิงรุกเพื่อการเข
าถงึ กลุมเปาหมาย เชน การจัดมหกรรมอาชีพ การประสานความรวมมอื กบั เครือขาย การจัดอบรมแกนนาํ ดาน
อาชพี ทเี่ นนเร่อื งเกษตรธรรมชาตทิ ่ีสอดคลองกับบรบิ ทของชมุ ชนชายแดน ใหแกประชาชนตามแนวชายแดน
๖. ดานบุคลากรระบบการบริหารจัดการ และการมสี วนรวมของทุกภาคสวน
๖.๑ การพฒั นาบุคลากร
๑) พัฒนาบุคลากรทุกระดับทุกประเภทใหมีสมรรถนะสูงขึ้นอยางตอเนื่อง ทั้งกอนและ
ระหวางการดํารงตําแหนงเพื่อใหมีเจตคติท่ีดีในการปฏิบัติงานใหมีความรูและทักษะตามมาตรฐานตําแหนง ให
ตรงกับสายงานความชํานาญ และความตองการของบุคลากรสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการการ
ดําเนินงานของหนวยงานและสถานศึกษาไดอยางมีประสิทธิภาพรวมทั้งสงเสริมใหขาราชการในสังกัดพัฒนา
ตนเองเพื่อเลอื่ นตาํ แหนงหรอื เลอ่ื นวิทยฐานะโดยเนนการประเมินวิทยฐานะเชิงประจกั ษ
๒) พัฒนาศึกษานิเทศก กศน. ใหมีสมรรถนะที่จําเปนครบถวน มีความเปนมืออาชีพ
สามารถปฏิบัติการนิเทศไดอยางมีศักยภาพ เพื่อรวมยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ในสถานศึกษา
๓) พัฒนาหัวหนา กศน.ตําบล/แขวงใหมีสมรรถนะสูงข้ึน เพื่อการบริหารจัดการ กศน.
ตําบล/แขวงและการปฏิบัติงานตามบทบาทภารกิจอยางมีประสิทธิภาพ โดยเนนการเปนนักจัดการความรู
และผอู ํานวยความสะดวกในการเรยี นรูเพอื่ ใหผูเรียนเกิดการเรยี นรูที่มปี ระสิทธิภาพอยางแทจริง
๔) พัฒนาครู กศน. และบุคลากรที่เกย่ี วของกับการจดั การศึกษาใหสามารถจดั รูปแบบการ
เรียนรูไดอยางมีคุณภาพโดยสงเสริมใหมีความรูความสามารถในการจัดทําแผนการสอน การจัดกระบวนการ
เรียนรู การวดั และประเมนิ ผล และการวิจยั เบอื้ งตน
๕) พฒั นาศักยภาพบคุ ลากร ทีร่ ับผดิ ชอบการบริการการศึกษาและการเรยี นรู ใหมคี วามรู
ความสามารถและมีความเปนมืออาชพี ในการจัดบรกิ ารสงเสรมิ การเรียนรูตลอดชีวติ ของประชาชน
๖) สงเสริมใหคณะกรรมการ กศน. ทุกระดับ และคณะกรรมการสถานศกึ ษา มีสวนรวมใน
การบรหิ ารการดําเนนิ งานตามบทบาทภารกิจของ กศน.อยางมีประสทิ ธิภาพ
๗) พัฒนาอาสาสมคั ร กศน. ใหสามารถทําหนาท่ีสนบั สนุนการจัดการศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอัธยาศยั ไดอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ
๘) พัฒนาสมรรถนะและเสริมสรางความสัมพันธระหวางบุคลากรรวมท้ังภาคีเครือขายท้ัง
ในและตางประเทศในทุกระดับ โดยจัดใหมีกิจกรรมเพ่ือเสริมสรางสัมพันธภาพและเพิ่มประสิทธิภาพในการ
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 18
ทํางานรวมกันในรูปแบบท่ีหลากหลายอยางตอเนื่องอาทิ การแขงขันกีฬา การอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนา
ประสิทธภิ าพในการทํางาน
๖.๒ การพัฒนาโครงสรางพ้นื ฐานและอตั รากาํ ลัง
๑) จัดทําแผนการพัฒนาโครงสรางพื้นฐานและดําเนินการปรับปรุงสถานที่และวัสดุอุป
กรณใหมคี วามพรอมในการจดั การศึกษาและการเรยี นรู
๒) สรรหา บรรจุ แตงตั้ง และบริหารอัตรากาํ ลังที่มีอยูทั้งในสวนท่เี ปนขาราชการ พนกั งาน
ราชการและลูกจาง ใหเปนไปตามโครงสรางการบริหารและกรอบอัตรากําลัง รวมทั้งรองรับกับบทบาทภารกิจ
ตามทกี่ ําหนดไวใหเกดิ ประสิทธภิ าพสงู สดุ ในการปฏิบตั ิงาน
๓) แสวงหาความรวมมือจากภาคีเครือขายทุกภาคสวนในการระดมทรัพยากรเพ่ือนํามาใช
ในการปรับปรุงโครงสรางพื้นฐานใหมีความพรอมสําหรับดําเนินกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษา
ตามอัธยาศัย และการสงเสริมการเรยี นรูสําหรับประชาชน
๖.๓ การพฒั นาระบบบรหิ ารจดั การ
๑) พัฒนาระบบฐานขอมูลใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัย และเช่ือมโยงกันท่ัว
ประเทศอยางเปนระบบเพื่อใหหนวยงานและสถานศึกษาในสังกัดสามารถนําไปใชเปนเคร่ืองมือสําคัญในการ
บริหารการวางแผน การปฏิบัติงาน การติดตามประเมินผล รวมทั้งจัดบริการการศึกษานอกระบบและ
การศกึ ษาตามอัธยาศยั อยางมปี ระสิทธภิ าพ
๒) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการงบประมาณ โดยพัฒนาระบบการกํากับ ควบคุม
และเรงรดั การเบิกจายงบประมาณใหเปนตามเปาหมายทกี่ าํ หนดไว
๓) พัฒนาระบบฐานขอมูลรวมของนักศึกษา กศน. ใหมีความครบถวน ถูกตอง ทันสมัย
และเชื่อมโยงกันทั่วประเทศ สามารถสบื คนและสอบทานไดทันความตองการเพื่อประโยชนในการจดั การศึกษา
ใหกับผูเรยี นและการบรหิ ารจัดการอยางมปี ระสทิ ธภิ าพ
๔) สงเสริมใหมีการจัดการความรูในหนวยงานและสถานศึกษาทุกระดับ รวมท้ังการศึกษา
วจิ ัยเพ่ือสามารถนํามาใชในการพัฒนาประสิทธภิ าพการดําเนินงานทีส่ อดคลองกับความตองการของประชาชน
และชมุ ชนพรอมท้ังพฒั นาขดี ความสามารถเชิงการแขงขนั ของหนวยงานและสถานศึกษา
๕) สรางความรวมมือของภาคีเครือขายทุกภาคสวน ท้ังภาครฐั เอกชน ประชาสังคมทั้งใน
ประเทศและตางประเทศ รวมท้ังสงเสริมและสนับสนุนการมีสวนรวมของชุมชนเพื่อสรางความเขาใจ และให
เกดิ ความรวมมือในการสงเสริม สนบั สนนุ และจัดการศกึ ษาและการเรยี นรูใหกับประชาชนอยางมีคุณภาพ
๖) สงเสริมการใชระบบสํานักงานอิเล็กทรอนิกส (e -office) ในการบริหารจัดการ เชน
ระบบการลา ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ระบบการขอใชรถราชการ ระบบการขอใชหองประชุม เปนตน
๗) พัฒนาและปรับระบบวิธกี ารปฏิบตั ิราชการใหทันสมยั มีความโปรงใส ปลอดการทจุ ริต
และประพฤติมชิ อบ บริหารจัดการบนขอมลู และหลักฐานเชงิ ประจักษ มุงผลสมั ฤทธมิ์ ีความโปรงใส
๖.๔ การกํากบั นิเทศติดตามประเมนิ และรายงานผล
๑) สรางกลไกการกํากบั นิเทศ ติดตาม ประเมิน และรายงานผลการดําเนินงานการศึกษา
นอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยใหเชอ่ื มโยงกบั หนวยงาน สถานศึกษา และภาคีเครอื ขายทั้งระบบ
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 19
๒) ใหหนวยงานและสถานศึกษาที่เก่ียวของทุกระดบั พัฒนาระบบกลไกการกาํ กบั ติดตาม
และรายงานผลการนํานโยบายสูการปฏิบัติ ใหสามารถตอบสนองการดําเนินงานตามนโยบายในแตละเร่ืองได
อยางมีประสิทธภิ าพ
๓) สงเสริมการใชเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร และสอ่ื อ่ืน ๆ ท่ีเหมาะสม เพ่ือการ
กาํ กับนเิ ทศ ติดตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลอยางมปี ระสิทธิภาพ
๔) พัฒนากลไกการติดตามประเมนิ ผลการปฏิบัตริ าชการตามคํารบั รองการปฏบิ ัติราชการ
ประจําปของหนวยงาน สถานศึกษา เพ่ือการรายงานผลตามตัวช้ีวัดในคํารับรองการปฏิบัติราชการประจําป
ของสํานกั งานกศน.ใหดําเนินไปอยางมปี ระสิทธิภาพ เปนไปตามเกณฑ วธิ ีการ และระยะเวลาท่กี ําหนด
๕) ใหมีการเช่ือมโยงระบบการนิเทศในทุกระดับ ท้ังหนวยงานภายในและภายนอกองคกร
ต้งั แตสวนกลางภูมภิ าค กลุมจังหวดั จังหวัดอําเภอ/เขตและตําบล/แขวง เพ่อื ความเปนเอกภาพในการใชขอมูล
และการพัฒนางานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 20
ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ปี
สาระสำคญั ของยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ –๒๕๗๙)
ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๙ มาตรา ๖๕ได้
กำหนดให้มี “ยุทธศาสตร์ชาติ”เพื่อเป็นยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนาประเทศในระยะยาว พร้อมกับการปฏิรูปและ
การพัฒนาระบบและกลไกการบริหารราชการแผ่นดินในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ให้สามารถนำไปสู่การ
ปฏิบัติอย่างจริงจัง ซงึ่ จะชว่ ยยกระดับคุณภาพของประเทศไทยในทุกภาคสว่ นและนำพาประเทศไทยให้หลุดพ้น
หรือบรรเทาความรุนแรงของสภาพปัญหาที่เกิดข้ึนในปัจจุบัน ท้ังปัญหาทางเศรษฐกิจ ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น และปัญหาความขัดแย้งในสังคมรวมถึงสามารถรับมือกับภัยคุกคามและบริหาร
จดั การความเสยี่ งท่ีจะเกดิ ขึ้นในอนาคตและสามารถเปลี่ยนผ่านประเทศไปพรอ้ มๆ กบั การเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์
ใหม่ของโลกได้ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยยังคงรักษาบทบาทสำคัญของเวทีโลก สามารถดำรงรกั ษาความเป็นชาติ
ให้มีความม่ันคง และคนไทยในประเทศมีความอยู่ดีมีสุขอย่างถ้วนหน้ากัน สาระสำคัญของยุทธศาสตร์ชาติ จะ
ประกอบด้วย วิสัยทัศน์และเป้าหมายของชาติที่คนไทย ทุกคนต้องบรรลุร่วมกัน รวมท้ังนโยบายแห่งชาติและ
มาตรการเฉพาะ ซึ่งเป็นแนวทาง ทิศทาง และวิธีการที่ทุกองค์กรและคนไทยทุกคนต้องมุ่งดำเนินการไปพร้อม
กันอย่างประสานสอดคล้อง เพื่อให้บรรลุซ่ึงสิ่งที่คนไทยทุกคนต้องการ คือ “ประเทศไทยม่ันคง มั่งค่ัง และ
ย่ังยืน ในทุกสาขากำลังอำนาจของชาติ”อันได้แก่ การเมืองภายในประเทศ การเมืองต่างประเทศ เศรษฐกิจ
สังคมจิตวิทยา การศึกษา การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีและการส่ือสาร ดังนี้วิสัยทัศน์: ประเทศมีความมั่นคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศที่
พฒั นาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง หลักการ: เชดิ ชูสถาบัน ประยุกต์ใช้หลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นฐานในการพัฒนาประเทศ และค่านิยมความเป็นไทยเพ่ือสร้างความปรองดอง ซึ่ง
มอี งค์ประกอบคอื
๑) แนวคิด : เป็นปรัชญาที่ช้ีแนะแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนในทางที่ควรจะเป็น โดยมี
พ้ืนฐานมาจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนไทย และเป็นการมองโลกเชิงระบบท่ีมีการเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลา
มุ่งเนน้ การรอดพน้ จากภัยเพอื่ ความม่นั คง
๒) คุณลักษณะ : เศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติได้ในทุกระดับ โดยเน้น
การปฏบิ ัตบิ นทางสายกลาง และการพฒั นาอยา่ งเป็นขน้ั เป็นตอน
๓) คำนิยาม :ความพอเพียงประกอบด้วย ๓ คณุ ลักษณะ ได้แก่ ความพอประมาณคือความพอดีท่ีไม่
น้อยหรือมากเกินไป ความมีเหตุมีผล คือการตัดสินใจโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัย และคำนึงถึงผลท่ีคาดว่าจะ
เกิดข้ึนอย่างรอบคอบ การมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว คือการเตรียมพร้อมรับผลกระทบและความเปลี่ยนแปลงที่
คาดการณว์ ่าจะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต
๔) เงื่อนไข : การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงน้ัน ต้องอาศัยทั้ง
ความรู้และคุณธรรมเปน็ พืน้ ฐาน ๒ เงื่อนไข ได้แก่ เงื่อนไขความรู้ อันประกอบด้วยความรเู้ กี่ยวกบั วิชาการต่างๆ
ท่ีเกีย่ วข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบท่ีจะใช้ความรู้นั้นมาพิจารณาให้เช่อื มโยงกันเพื่อประกอบการวางแผน
มีความระมัดระวังในขั้นตอนการปฏิบัติ และเงื่อนไขคุณธรรมอันประกอบด้วย มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความ
อดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ติปัญญาในการดำรงชวี ิต
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 21
วตั ถปุ ระสงค์:
๑) เพ่ือสรา้ งความปรองดองสมานฉนั ท์
๒) เพอ่ื เพิม่ กระจายโอกาสและคุณภาพการให้บริการของรฐั อย่างทวั่ ถึง เท่าเทียม เปน็ ธรรม
๓) เพื่อลดต้นทุนให้ภาคการผลติ และบริการ
๔) เพอ่ื เพ่ิมมูลคา่ สนิ คา้ เกษตร อุตสาหกรรม และบริการดว้ ยนวตั กรรม
ยุทธศาสตรห์ ลกั :
๑) ยทุ ธศาสตร์สรา้ งความมน่ั คงให้กบั ประเทศ
๒) ยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ
๓) ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาและเสรมิ สรา้ งศักยภาพคน
๔) ยุทธศาสตร์สร้างโอกาสบนความเสมอภาคและความเท่าเทยี มกันทางสังคม
๕) ยุทธศาสตรก์ ารเติบโตบนคุณภาพชวี ติ ทเ่ี ป็นมิตรกบั สิง่ แวดล้อม
๖) ยุทธศาสตร์การปรบั สมดลุ และพฒั นาระบบ
๒.๑ เปา้ หมายความม่ันคง
๒.๑.๑ การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงท้ังภายในประเทศและ
ภายนอกประเทศในทุกระดับ ท้ังระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความม่ันคง
ในทุกมิติ ทง้ั มติ ิเศรษฐกจิ สังคม สิ่งแวดลอ้ ม และการเมอื ง
๒.๑.๒ ประเทศมีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนา และ
พระมหากษัตริย์ท่ีเข้มแข็ง เป็นศูนย์กลางและท่ียึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความม่ันคง
เป็นกลไกทน่ี ำไปสกู่ ารบริหารประเทศทตี่ ่อเน่ืองและโปรง่ ใสตามหลกั ธรรมาภิบาล
๒.๑.๓ สงั คมมีความปรองดองและความสามคั คี สามารถผนึกกำลังเพ่ือพัฒนาประเทศ ชุมชน
มคี วามเข้มแข็ง ครอบครวั มีความอบอุ่น
๒.๑.๔ ประชาชนมีความมน่ั คงในชีวิต มีงานและรายได้ท่ีม่ันคงพอเพียงกับการดำรงชีวิต มีท่ี
อยอู่ าศัยและความปลอดภยั ในชวี ิตทรพั ย์สิน
๒.๑.๕ ฐานทรัพยากรและสง่ิ แวดลอ้ ม มคี วามมน่ั คงของอาหาร พลังงาน และนำ้
๒.๒ เป้าหมายความม่งั คั่ง
๒.๒.๑ ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ือง ยกระดับเป็นประเทศในกลุ่ม
รายได้สูง ความเหล่ือมล้ำของการพัฒนาลดลง ประชากรได้รับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเท่าเทียมกัน
มากข้ึน
๒.๒.๒ เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขนั สูง สามารถสร้างรายได้ทง้ั ภายในและภายนอก
ประเทศ สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต และเป็นจุดสำคัญของการเช่ือมโยงในภูมิภาค ทั้งการ
คมนาคมขนส่ง การผลิต การคา้ การลงทนุ และการทำธุรกิจ มีบทบาทสำคัญในระดับภูมิภาคและระดับโลก เกิด
สายสัมพนั ธท์ างเศรษฐกิจและการคา้ อย่างมีพลงั
๒.๒.๓ ความสมบูรณ์ในทุนท่ีจะสามารถสร้างการพัฒนาคนอย่างต่อเน่ืองได้แก่ทุนมนุษย์ ทุน
ทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนที่เป็นเครื่องมือเคร่ืองจักร ทุนทางสังคม และทุนทรัพยากร ธรรมชาติและ
สง่ิ แวดลอ้ ม
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 22
๒.๓ เปา้ หมายความยั่งยืน
๒.๓.๑ การพัฒนาท่ีสามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้
เพ่มิ ขึน้ อย่างตอ่ เน่อื ง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจทไ่ี ม่ใช้ทรพั ยากรธรรมชาตเิ กินพอดี ไม่สรา้ งมลภาวะ
ต่อส่งิ แวดลอ้ มจนเกินความสามารถในการรองรบั และเยยี วยาของระบบนิเวศน์
๒.๓.๒ การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของ
ประชาคมโลก ซ่ึงเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมมีคุณภาพดี
ขนึ้ คนมคี วามรับผิดชอบตอ่ สงั คม มคี วามเออ้ื อาทร เสียสละเพ่ือผลประโยชน์สว่ นรวม
๒.๓.๓ ประชาชนทกุ ภาคส่วนในสงั คมยดึ ถอื และปฏิบตั ติ ามปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒
สาระสำคัญของแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๕)
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติฉบับท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๕) สำหรับใช้เป็นแผนพัฒนาประเทศไทยในระยะ ๕ ปี
ซึ่งเป็นการแปลงยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเตรียมความพร้อมและ
วางรากฐานในการยกระดบั ประเทศไทยใหเ้ ปน็ ประเทศท่ีพฒั นาแลว้ มีความม่ันคง มัง่ ค่ัง ยง่ั ยนื ด้วยการพฒั นา
ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซ่ึงการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบบั ท่ี ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๕) ได้กำหนดสาระสำคัญไว้ ดังนี้
วสิ ัยทัศน์:
มุ่งสู่การเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศ ท่ีมีรายได้สูง
มคี วามมนั่ คงและย่ังยืน สงั คมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และนำไปสู่การบรรลุวสิ ยั ทัศนร์ ะยะยาว “ม่ันคง มัง่ ค่ัง
ยั่งยืน”ของประเทศ
หลักการ :
๑) น้อมนำและประยุกต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในทุกมิติการพัฒนาอย่างบูรณา
การบนทางสายกลางมคี วามพอประมาณ มเี หตผุ ล และมีระบบภมู ิคมุ้ กนั ทด่ี ี
๒) คำนึงถึงการพัฒนาท่ีย่ังยืนโดยให้คนเป็นศูนย์กลาง เพ่ือสร้างความมั่นคงของชาตแิ ละเป็น
กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม และการบริหาร
จัดการ และ
๓) มุ่งเสริมสร้างกลไกการพัฒนาประเทศ ท้ังกลไกท่ีเป็นกฎหมายและกฎ ระเบียบต่างๆ
เพ่ือให้เอื้อต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกระดับ ควบคู่กับการพัฒนากลไกในรูปแบบของคณะกรรมการใน
การขับเคลือ่ นยุทธศาสตรร์ ะดบั ประเทศและระดับพน้ื ที่
วตั ถปุ ระสงค:์
๑) เพ่ือให้คนไทยทุกช่วงวัยมีทักษะความรู้ความสามารถ สามารถพัฒนาตนเองได้ต่อเน่ือง
ตลอดชีวติ
๒) เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจมโี ครงสร้างทเ่ี ขม้ แข็ง มีเสถียรภาพ แขง่ ขนั ได้ ยัง่ ยนื
๓) เพ่ือรักษาทุนธรรมชาตแิ ละคณุ ภาพสง่ิ แวดล้อมสคู่ วามสมดุลของระบบนิเวศน์
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 23
๔) เพ่ือสร้างความม่ันคงภายในประเทศ ป้องกันและลดผลกระทบจากภัยคุกคามข้ามชาติ
และ
๕) เพื่อให้การทำงานเชงิ บูรณาการในลักษณะเช่ือมโยงระหว่างหน่วยงานทย่ี ึดหน้าทแ่ี ละพ้ืนที่
ทำให้ภาครัฐมีประสทิ ธิภาพและปราศจากคอรปั ชน่ั
ยุทธศาสตร์:
๑) ยทุ ธศาสตร์การเสรมิ สร้างและพฒั นาศกั ยภาพทุนมนุษย์
๒) ยทุ ธศาสตร์การสรา้ งความเปน็ ธรรมและความเหลอ่ื มล้ำในสงั คม
๓) ยทุ ธศาสตรก์ ารสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกจิ และแขง่ ขันได้อย่างยั่งยืน
๔) ยทุ ธศาสตรก์ ารเตบิ โตท่ีเปน็ มิตรกบั ส่งิ แวดล้อมเพือ่ การพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื
๕) ยทุ ธศาสตร์การความมั่นคงแหง่ ชาตเิ พือ่ การพฒั นาประเทศสู่ความมัง่ คงั่ และย่ังยืน
๖) ยุทธศาสตร์การบรหิ ารจัดการในภาครัฐ การปอ้ งกันการทุจริตประพฤติมิชอบและ
ธรรมาภิบาลในสงั คมไทย
๗) ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจสิ ตกิ ส์
๘) ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ัย และนวตั กรรม
๙) ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาภาค เมือง และพนื้ ที่เศรษฐกจิ
๑๐) ยุทธศาสตร์ความรว่ มมอื ระหว่างประเทศเพอ่ื การพฒั นา
เป้าหมายรวม:
๑) คนไทยมีคุณลักษณะเป็นคนไทยท่ีสมบูรณ์ สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความเป็น
พลเมืองตื่นรู้ ท าประโยชน์ต่อส่วนรวม เป็นนวัตกรรมสร้างสรรคท์ างสังคม มีความสุขท้ังมติ ิทางกาย ใจ สังคม
และจิตวิญญาณ มีวิถีชีวิตท่ีพอเพียง มีความเป็นไทย และมีความสามารถเชิงการแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างมี
ศกั ดศ์ิ รี
๒) ความเหล่ือมล้ำทางด้านรายได้และความยากจนลดลง เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็ง
ประชาชนทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากร การประกอบอาชีพ และบริการทางสังคมที่มีคุณภาพอย่าง
ท่ัวถึงและเป็นธรรม
๓) ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โครงสร้างเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐาน
บริการและดิจิทัล เน้นอุปสงค์นำการผลิตมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และมีผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาด
เล็กท่เี ข้มแข็งมีการลงทุนในการผลติ และบริการฐานความรู้ชน้ั สงู ใหม่ๆ โดยกระจายฐานการผลิตและ การ
ให้บริการสู่ภูมิภาคเพื่อลดความเหลื่อมล้ำโดยเศรษฐกิจไทยมีอัตราการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ ๕ ต่อปี
และมีปัจจัยสนบั สนุน อาทิ ระบบโลจสิ ติกส์ พลงั งาน และการลงทุนวิจัยและพฒั นา
๔) ทุนทางธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมสามารถสนับสนุนการเติบโตที่เป็นมิตรกับ
ส่งิ แวดล้อม มคี วามมน่ั คงทางอาหาร พลงั งาน และน้ำ
๕) มีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย สังคมปลอดภัย สามัคคี สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และ
เพ่ิมความเชื่อม่ันของนานาประเทศต่อประเทศไทยความขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดในสังคมลดลง
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 24
ปัญหาอาชญากรรมลดลง ปริมาณความสูญเสียจากภัยโจรสลัดและการลักลอบขนส่งสินค้า และการค้ามนุษย์
ลดลง มคี วามพร้อมในการปกป้องประชาชนจากการกอ่ การรา้ ยและภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ
๖) มีระบบบริหารจัดการภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย โปร่งใส ตรวจสอบได้ กระจาย
อำนาจและมีส่วนร่วมจากประชาชน ลดปัญหาคอร์รัปช่ัน การใช้จ่ายภาครัฐต้องมีประสิทธิภาพสูง และมี
บุคลากรทม่ี ีความร้คู วามสามารถและปรบั ตวั ได้ทนั กับยุคดิจทิ ลั เพ่ิมขนึ้
แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ –๒๕๗๙
สาระสำคัญของแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙
สำนักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษาได้จดั ทำแผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ เพ่อื ใชเ้ ป็น
แผนยุทธศาสตร์ระยะยาวสำหรับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการศึกษาของประเทศ ท้ังท่ีอยู่ในกระทรวง
ศึกษาธิการและนอกกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำไปใช้เป็นกรอบและแนวทางการพัฒนาการศึกษาและเรียนรู้
สำหรับพลเมืองทุกช่วงวัยต้ังแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมายท่ีสำคัญของแผนคือ การมุ่งเน้นการ
ประกนั โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา และการศกึ ษาเพ่ือการมีงานทำและสรา้ งงานได้ ภายใตบ้ ริบท
เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกที่ขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งความ
เป็นพลวัตร เพ่ือให้ประเทศไทยสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว
ซ่ึงภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ ได้กำหนดสาระสำคัญสำหรับบรรลุเป้าหมายของ
การพัฒนาการศึกษาใน ๕ ประการ ได้แก่ การเข้าถึง (Access)ความเท่าเทียม (Equity) คุณภาพ (Quality)
ประสิทธภิ าพ (Efficiency) และตอบโจทยบ์ รบิ ททเี่ ปลี่ยนแปลง (Relevancy) ในระยะ ๑๕ ปขี ้างหน้า ดังน้ี
วิสัยทัศน์: ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อเป็นกลไก
หลักของการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของทุนมนุษย์ และรองรับการศึกษา การเรียนรู้ และความ
ท้าทายท่ีเป็นพลวัตรของโลกศตวรรษที่ ๒๑
หลักการ :๑) รัฐมีหน้าท่ีจัดการให้พลเมืองทุกคนได้รับการศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน สามารถ
พฒั นาขีดความสามารถที่มีอยู่ในตวั ตนของแต่ละบุคคลให้เตม็ ตามศักยภาพ จากการมสี ่วนรว่ มของทุกภาคส่วน
ในสงั คม
๒) รัฐจะประกันโอกาสและความเสมอภาค ในการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพและ
มาตรฐานตามศกั ยภาพและความสามารถของแต่ละบุคคล
๓) แยกบทบาท อำนาจหน้าท่ีและความรับผิดชอบของรัฐ ในฐานะผู้กำกับนโยบายและแผน
ผู้กำกบั การศึกษา ผู้ประเมนิ ผลการศึกษา ผ้สู ่งเสริมสนบั สนนุ และผ้จู ัดการศึกษาออกจากกัน
๔) รฐั พึงปฏบิ ตั ิต่อสถานศกึ ษาภายใต้กฎกตกิ า ระเบียบ วิธีปฏบิ ตั ิ ท่ีเป็นมาตรฐานเดยี วกนั
๕) ทุกภาคส่วนของสังคม ซ่ึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการได้รับ
การศึกษาของพลเมอื งต้องมีส่วนร่วมระดมทุน และรว่ มรับภาระคา่ ใชจ้ ่ายเพ่ือการศึกษา
๖) สถานศึกษาต้องบริหารและจัดการท่ีแสดงความรับผิดชอบ (Accountability) ต่อคุณภาพ
และมาตรฐานของบริการการศกึ ษาทใ่ี ห้แกผ่ เู้ รยี น
๗) รัฐจะกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนากำลังคน จำแนกตามระดับ/ประเภทการศึกษา
คณะ/สาขาวชิ าทส่ี นองตอบต่อความตอ้ งการของตลาดแรงงานและการพฒั นาประเทศ และ
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 25
๘) หลักสูตร กระบวนการจัดการเรียนการสอนต้องมีความยืดหยุ่นหลากหลาย สนองตอบ
ความตอ้ งการของผเู้ รยี น ทั้งผ้ทู อี่ ยใู่ นวยั เรยี น และผ้ทู ีอ่ ยูใ่ นกำลังแรงงาน
ยทุ ธศาสตร์:
๑) ยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักสูตร การเรียนการสอน กระบวนการเรียนรู้ การวัดและ
ประเมินผล
๒) ยุทธศาสตร์ยกระดับคุณภาพ มาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากร ทาง
การศกึ ษา
๓) ยุทธศาสตร์ผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรมรองรับความต้องการของ
ตลาดงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ
๔) ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาระบบขอ้ มูลสารสนเทศ และเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล
๕) ยุทธศาสตร์พฒั นาคณุ ภาพคนทุกชว่ งวัยและการสรา้ งสงั คมแห่งการเรยี นรู้
๖) ยุทธศาสตรพ์ ัฒนาระบบบรหิ ารจัดการ และการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของทุกภาค
สว่ น
๗) ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบการเงินเพื่อการศึกษา
เปา้ หมายสดุ ท้าย:
๑) ระบบการศึกษาท่ีมีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถเป็นกลไกในการพัฒนาศักยภาพ
และขีดความสามารถของทุนมนุษย์ (Productivity) ท่ีตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและการ
พัฒนาประเทศ เพื่อให้ประเทศสามารถก้าวข้ามกับดักของประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศท่ีพัฒนา
แล้วอยา่ งย่ังยนื ภายใต้พลวตั รของโลกศตวรรษท่ี ๒๑
๒) ประชากรทุกช่วงวยั สามารถเข้าถงึ โอกาสและความเสมอภาคทางการศกึ ษาและการเรยี นรู้
จากระบบการศึกษาท่มี คี วามยืดหยุ่น หลากหลาย และตอบสนองความต้องการของผ้เู รยี น เพ่ือยกระดบั ชนชั้น
ของสังคม ภายใต้ระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ (Knowledge Based Economy) ที่เอื้อต่อการสร้างสังคมแห่ง
ปญั ญาและการสร้างสภาพแวดล้อมที่เออื้ ต่อการเรียนรู้ ท่ีประชาชนสามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ได้อย่าง
ตอ่ เนือ่ งตลอดชีวติ
๓) ผู้เรียนแต่ละระดับการศึกษา ได้รับการพัฒนาขีดความสามารถเต็มตามศักยภาพท่ีมีอยู่ใน
ตัวตนของแต่ละบุคคล และมีคุณลักษณะนิสัยที่พึงประสงค์ มีองค์ความรู้ท่ีสำคัญและทักษะการเรียนรู้ใน
ศตวรรษท่ี ๒๑ รวมท้ังทักษะการดำรงชวี ิต และทักษะความรู้ความสามารถ และสมรรถนะในการปฏิบัติงานท่ี
ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดแรงงานและการพฒั นาประเทศ
๔) ภาคการศึกษามีทรัพยากรและทุนที่เพียงพอสำหรับการจัดการศึกษาท่มี ีคุณภาพมาตรฐาน
จากการส่วนร่วมในการระดมทุนและสนองทุนเพ่ือการศึกษาจากทุกภาคส่วนในสังคม ผ่านการ เสียภาษีตาม
สิทธิและหน้าท่ขี องพลเมือง การบริจาค และการรว่ มรบั ภาระคา่ ใช้จ่ายทางการศกึ ษา
๕) สถานศึกษามรี ะบบบริหารจดั การท่ีมีประสิทธภิ าพ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล
สามารถให้บริการท่ีตอบสนองความต้องการบริบทเชิงพ้ืนท่ี ระดับประเทศและระดับภูมิภาคในฐานะที่เป็น
ศนู ย์กลางของการบริการด้านการศึกษาในภูมิภาคอาเซยี น (Hub for Education) และเป็นภาคเศรษฐกิจหน่ึง
ของระบบเศรษฐกิจของประเทศและของภูมิภาค ทส่ี รา้ งรายไดใ้ หก้ บั ประเทศไทย
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 26
ความเช่อื มโยงระหว่างยุทธศาสตรช์ าติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙) แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คม
แห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๖๕) และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ -๒๕๗๙ กับทิศ
ทางการพฒั นาการศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารในมิติดา้ นตา่ งๆ
๕.๑ มิตดิ า้ นความมั่นคง
๕.๑.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี : ยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ ความ
ม่ันคงเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในทุกมิติ โดยเฉพาะการเจริญเติบโตและความมั่นคงทาง
เศรษฐกิจ ความเชื่อมั่นกับนานาชาติด้านการลงทุนและการท่องเที่ยว และ ความสงบสุขของสังคมโดยรวม
ดงั นั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการสร้างเสถียรภาพภายในประเทศ ลด/ป้องกันภัยคุกคามจากภายนอก และสรา้ ง
ความเช่ือมน่ั ในอาเซียนและประชาคมโลก มีกรอบแนวทางทต่ี ้องให้ความสำคญั ดงั นี้
๑) เสริมสร้างความมนั่ คงของสถาบนั หลักของชาติและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างจิตสำนึกของคนในชาติให้มีความจงรักภักดี และธำรงรักษาสถาบันหลัก
คอื ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
๒) ปฏิรูปกลไกการบริหารประเทศ ขจัดคอร์รัปชั่นสร้างความเป็นธรรม ลดความเหล่ือมล้ำ
กระจายอำนาจและสรา้ งความเช่ือม่ันในกระบวนการยุตธิ รรม
๓) ป้องกันและแกไ้ ขการก่อความไมส่ งบในจังหวัดชายแดนภาคใต้เน้นเสริมสร้างกระบวนการ
สนั ติสขุ และสนั ตวิ ิธี ขจัดความขดั แย้ง ลดความรุนแรงตามแนวทาง “เข้าใจ เขา้ ถงึ พฒั นา”
๕.๑.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ : ยุทธศาสตร์ความมั่นคงเพื่อให้
เกิดความมั่นคงในการพัฒนาประเทศระยะยาวตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี ท่ีมีความสัมพันธ์
ระหว่างการเมอื ง เศรษฐกจิ สงั คมจติ วทิ ยา จึงกำหนดวัตถปุ ระสงค์ของยทุ ธศาสตรค์ วามมนั่ คง ดังนี้
๑)เพื่อแก้ไขปัญหาภัยคุกคามความม่ันคงภายใน ไม่ให้ลุกลามเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะภัยคุกคามต่อสถาบันหลักของประเทศ ปัญหาความขัดแย้งแตกแยกใน
สังคมไทยและความรุนแรงในพนื้ ท่จี ังหวดั ชายแดนภาคใตใ้ ห้ไดร้ บั การแก้ไขในระดบั หนึง่ และไมข่ ยายตัวต่อไป
๒) เพ่ือให้ทุกภาคส่วนท้ังหน่วยงานรัฐ เอกชนและภาคประชาชนมีความพร้อมในการผนึก
กำลังรับภัยคุกคามและมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการด้านความม่ันคง มีศักยภาพในการป้องกันและ
แก้ไขสถานการณ์ทีอ่ าจเกิดขน้ึ จากภัยคกุ คาม เช่น ภยั คุกคามทางเทคโนโลยสี ารสนเทศและไซเบอร์
๓) เพ่ือให้นโยบายด้านความมั่นคงกับนโยบายเสถียรภาพและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มในทุกมิติ ใหส้ ามารถพฒั นาไปในทิศทางเดยี วกันอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
๔) เพ่อื สร้างความรว่ มมือดา้ นความมนั่ คงกับมติ รประเทศท้ังในระดบั โลกภูมิภาคและประเทศ
รอบบ้าน เป็นเครอ่ื งมอื รกั ษาผลประโยชนข์ องชาตแิ ละความสงบสขุ ของประเทศ
๕) เพ่ือลดความเส่ียงจากภัยก่อการร้ายและการโจมตีด้านไซเบอร์ ไม่ให้มีผลกระทบต่อการ
พฒั นาประเทศ
๖) เพื่อลดและบรรเทาปัญหาทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม และสาธารณภัยต่างๆ ได้แก่
ภยั แลง้ ภยั หนาว อุทกภยั ดนิ โคลนถล่ม ไฟป่าและหมอกควนั
เพ่ือให้เกิดความสอดคล้องกับกรอบทิศทางและวัตถุประสงค์ภายใต้มิติด้านความม่ันคงของ
ประเทศในข้างต้น กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 27
ผลลัพธ์ หรือผลกระทบภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้นักเรียน นักศึกษา
และประชาชน สามารถได้รบั การเสริมสร้างท้ังทางทฤษฎีและปฏิบตั ิให้เกิดความสำนึกท่ีจะช่วยกันแก้ไขปัญหา
และพัฒนาสงั คมไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาขอ้ โต้แย้งด้วยสันติวิธี การอย่รู ่วมกนั ด้วยความสามัคคี
และการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศชาติ อีกท้ังควรกำหนดให้ประชากรวัยเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดน
ภาคใต้ สามารถเขา้ ถึงการจดั การศกึ ษาอย่างเสมอภาค เหมาะสมและสอดคล้องกบั อัตลักษณแ์ ละความตอ้ งการ
ของพื้นท่ี
๕.๒ มิตดิ า้ นเศรษฐกจิ
๕.๒.๑ ยุทธศาสตร์ชาติระยะ ๒๐ปี :ยุทธศาสตร์สร้างความสามารถในการแข่งขันของ
ประเทศ
๑) การพัฒนาภาคการผลิตและบริการประเทศไทยมีฐานการผลิตที่หลากหลายท่ียังสามารถ
พัฒนาคุณภาพให้เป็นกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญได้ แต่ยังต้องเผชิญกับปัญหาซ่ึงต้องเร่งรัดดำเนินการ
แกไ้ ข ดงั น้ี
๑.๑) พัฒนาอุตสาหกรรมศักยภาพ พัฒนาอุตสาหกรรมส่งออกท่ีมีศักยภาพสูง โดย
การผลักดนั ไทยเป็นฐานการผลติ และการส่งออกยานยนต์และชน้ิ ส่วน พรอ้ มกับเน้นการสร้างมูลค่าเพ่ิมด้วยการ
ยกระดบั มาตรฐานและผลิตภณั ฑเ์ ฉพาะ พัฒนาเครือขา่ ยวสิ าหกิจและบุคลากรและเทคโนโลยกี ารผลิตตลอดจน
สร้างความเขม้ แขง็ ใหก้ ับผปู้ ระกอบการไทย นอกจากนี้ จะพัฒนาไทยให้เป็นฐานการผลิต การพฒั นาเทคโนโลยี
เพ่ือผลิตสินค้าที่มีความละเอียดสูง และการส่งออกเคร่ืองใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ีสำคัญพร้อมท้ังมีตรา
สนิ คา้ ของไทยและเป็นทร่ี จู้ ักในเอเชยี
๑.๒) การสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว โดยพัฒนากลุ่มเมืองท่องเท่ียว และผลักดัน
ให้ไทยเป็นศูนย์กลางท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ รวมทั้งขับเคล่ือนการท่องเท่ียวให้สามารถสร้างรายได้เพ่ิมข้ึนอย่าง
ต่อเน่ือง โดยจะให้ความสำคัญกับการตลาด การดึงดูดนักท่องเท่ียวท้ังในและต่างประเทศ พัฒนาระบบ โลจิ
สติกส์เพื่อการท่องเท่ียว สร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัย และพัฒนาการท่องเท่ียวเชิงศิลปะและ
วัฒนธรรม เชือ่ มโยงสนิ คา้ OTOP กับการท่องเท่ียวและสง่ เสรมิ การทอ่ งเท่ยี วเชิงสุขภาพและสปา
๑.๓) ศูนยก์ ลางการให้บริการสุขภาพ พฒั นาไทยเป็นศูนย์กลางให้บริการสุขภาพของ
ภูมิภาคอาเซียนเพื่อสร้างรายได้ แล้วนำไปยกระดับคุณภาพบริการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำภายในประเทศโดย
การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านบริการสุขภาพ (Health Services) โดยเฉพาะในโรงพยาบาล
เอกชนท่ีมีความพร้อม และส่งเสริมและพัฒนาสถานบริการสุขภาพ (Wellness Health) เช่น สปานวดแผน
ไทย เปน็ ตน้ ในแหลง่ ท่องเทยี่ วที่สำคัญ รวมท้ังเพิ่มศกั ยภาพในการผลติ ยาสมุนไพรและผลิตภัณฑส์ มุนไพรใหไ้ ด้
มาตรฐานและสง่ เสริมการตลาดในเชิงรุก ตลอดจนพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการศึกษาวิชาการ และงานวิจัย
ดา้ นการแพทย์ของภูมภิ าค
๒)พัฒนาผู้ประกอบการและเศรษฐกิจชุมชนผลการวิเคราะห์ของทั้ง World Economic Forum
(WEF) แ ล ะ International Institute for Management Development (IMD) พ บ ว่า ศั ก ยภ าพ ข อ ง
ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เม่ือเทียบกับต่างประเทศยังไม่สูง จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดเล็ก ผู้ประกอบการสินค้าหนึ่งตำบลหน่ึงผลิตภัณฑ์ และวิสาหกิจชุมชนโดยมีแนวทางใน
การดำเนินการที่สำคัญ ดงั นี้
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 28
๒.๑) พัฒนาทักษะและองค์ความรู้ของผู้ประกอบการไทยในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการ
รูปแบบใหม่ให้มีจุดเด่น และสามารถต่อยอดด้วยความคิดและนวัตกรรม รวมทั้งสร้างความได้เปรียบจากความ
หลากหลายและเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมและความเป็นไทย เพ่ือตอบสนองความต้องการของตลาดไลฟ์สไตล์
และก้าวทนั ต่อกระแสการเปล่ยี นแปลงของสงั คมโลก ตลอดจนสง่ เสรมิ สถาบันการศึกษาในท้องถ่นิ ให้เป็นแหล่ง
รวบรวมและศกึ ษาเก่ียวกบั ภมู ิปญั ญาชาวบา้ นในการพฒั นาผลติ ภณั ฑท์ ี่มคี วามเปน็ เอกลกั ษณแ์ ละพฒั นา
ผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เพ่ือสนองตอบผู้บริโภคทุกระดับและรณรงค์ส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้
ผ้ปู ระกอบการเห็นความสำคัญในการสร้างเครื่องหมายการค้าของตนเองและสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทยใหเ้ ป็น
ท่ียอมรบั ของคนท่วั โลก
๒.๒) พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อยสู่สากล (SMEs) ให้มีการรวมกลุ่มคลัสเตอร์ที่
เข้มแข็งเพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้เอ้ือต่อการดำเนินธุรกิจ และ
เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน อาทิ พัฒนาและยกระดับผรู้ ับช่วงการผลิตและพัฒนาผลิตภณั ฑ์ และ
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพ่ือเพิ่มมูลค่า เป็นต้น รวมท้ังส่งเสริมให้เติบโตอย่างสมดุลตามศักยภาพของพื้นท่ี ด้วย
การกำหนดธรุ กจิ ท่มี ีศกั ยภาพและเช่อื มเครือข่ายธุรกจิ ในแต่ละพ้ืนที่ เพ่ิมมูลค่าสนิ คา้ และบริการด้วยภูมิปัญญา
และเอกลกั ษณ์ของท้องถนิ่ ตลอดจนสนับสนุน SMEs ที่มศี ักยภาพขยายการลงทุนไปในตา่ งประเทศ
๒.๓) พัฒนาวิสาหกิจชุมชนและสหกรณ์ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และกลุ่ม
ประชาชน/เกษตรกรในชุมชน ให้เป็นฐานในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมท้ังให้สามารถพงึ่ พาตนเอง โดย
ในส่วนของการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนจะเน้นการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ สรา้ งเครือข่ายตลาด จัดตั้งกองทุน
วิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมการเรียนรู้ในการประกอบวิสาหกิจชุมชนและเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่ อ
สนับสนนุ วิสาหกิจชุมชนอย่างมีประสทิ ธิภาพ สำหรบั การพัฒนาสหกรณ์จะให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพ
การเชื่อมโยงระบบการผลิตกับการตลาด ส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินใช้ระบบสหกรณ์เป็นกลไกใน
การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมชุมชน รวมท้ังพัฒนาการเรยี นรู้และทกั ษะการสหกรณ์ สวู่ ิถชี ีวิตประชาชน
นอกระบบการศึกษา
๓) การพัฒนาพ้ืนท่ีพิเศษและเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน พัฒนาเป็นฐานการผลิตใหม่
กระจายกิจกรรมเศรษฐกิจและความเจริญสู่ภูมิภาค สร้างความมั่นคงในพื้นท่ีชายแดนเชื่อมโยงกับประเทศ
เพื่อนบ้านทง้ั ในด้านการผลติ ร่วมและช่องทางการตลาดรว่ มกนั
๔) การลงทุนพฒั นาโครงสรา้ งพ้ืนฐาน
๔.๑) ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร เนน้ การพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน ICTทีเ่ ป็น
อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงให้ทันสมัยและกระจายทั่วถึง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถและเช่ียวชาญ
ระดบั มาตรฐานสากล เพ่ิมขีดความสามารถของอุตสาหกรรม ICT และใช้ ICTในการสรา้ งนวัตกรรมการบรกิ าร
ภาครัฐแบบบูรณาการประยุกต์ ICT เพ่ือสร้างความเข้มแข็งของภาคการผลิต การศึกษาและพาณิชย์
อเิ ลก็ ทรอนิกส์
๔.๒) การวจิ ยั และพฒั นา มีเป้าหมายทเ่ี พมิ่ สัดส่วนคา่ ใชจ้ ่ายวจิ ัยและพัฒนาไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ
๓ โดยมีสัดส่วนรัฐต่อเอกชน ๒๐ : ๘๐ โดยบูรณาการงานวิจัยระหว่างหน่วยงานวิจัยหลักของประเทศและ
สนับสนุนวิจัยท่ีมุ่งเป้าตอบสนองความต้องการในการพัฒนาประเทศ อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา โลจิ
สติกส์และหว่ งโซอ่ ปุ ทาน อาหารแปรรปู และสุขภาพและชีวเวชศาสตร์ อากาศยาน และผลติ ภัณฑ์ไบโอเบส
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 29
รวมทั้งงานวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม นอกจากนี้จะเพ่ิมจำนวนบุคลากรด้านวิจัยและพัฒนาเป็น ๗๐ คนต่อ
ประชากร ๑๐,๐๐๐ คน เช่น พัฒนานักวิจัยและสนับสนุนนักเรียนทุนรัฐบาลด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบคุ ลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในภาคการผลิต
และบรกิ ารเปน็ ตน้
๕) การเชื่อมโยงกับภูมภิ าคและเศรษฐกิจโลก
๕.๑) ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจ การให้บริการทางการศกึ ษาการ
ให้บริการด้านการเงิน การให้บริการด้านสุขภาพ การให้บริการด้านโลจิสติกส์ และการลงทุนเพื่อการวิจัยและ
พฒั นา รวมทง้ั เป็นฐานความรว่ มมอื ในเอเชีย
๕.๒) เพ่ิมบทบาทและการมีส่วนร่วมของไทยในองค์การระหว่างประเทศในการผลักดันการ
พัฒนาในอนุภูมิภาคและภูมิภาค รวมทั้งประเทศกำลังพัฒนาในภูมภิ าคอื่น ๆ และให้ความช่วยเหลือทั้งในด้าน
การเงินและทางเทคนิคกับประเทศกำลังพัฒนา ในการพัฒนาด้านความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจสังคมและการ
พัฒนาทนุ มนุษย์
๕.๓) สนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้า ท้ังในระดับทวิภาคี ภูมิภาค และพหุภาคี และส่งเสริม
การค้ากับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเดียวกัน(Intra-Regional Trade) มากข้ึนเปิดโอกาสให้ทุกภาค
สว่ นทีเ่ ก่ยี วขอ้ งได้เข้ามามสี ่วนร่วมในการกำหนดท่าทีเจรจาการคา้ ระหว่างประเทศ เร่งรัดการใช้ประโยชน์จาก
ข้อตกลงที่มีผลบังคบั ใชแ้ ลว้ ตลอดจนใชโ้ อกาสจากการเปิดเสรกี ารคา้ และการลงทุน
๕.๒.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ : ยุทธศาสตร์สร้างความเข้มแข็งทาง
เศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนยุทธศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม
ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง ภาค และพ้ืนท่ี
เศรษฐกจิ ยุทธศาสตรด์ า้ นการตา่ งประเทศ ประเทศเพือ่ นบ้าน และภมู ิภาค
๑) การเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการอันจะนำมา
ซึ่งความเข้มแข็งของทั้งเศรษฐกิจในภาพรวมและเศรษฐกิจฐานราก ตามหลักการพัฒนาท่ีย่ังยืน โดยมีแนว
ทางการพัฒนา ดงั นี้
๑.๑) พัฒนาปัจจัยสนับสนุนในการบริหารจัดการภาคเกษตร โดยสร้างบุคลากรด้าน
การเกษตร การผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่หรือดำเนินนโยบายบัณฑิตคืนถ่ิน จัดทำหลักสูตรการศึกษาเพื่อสร้าง
เกษตรกรที่มคี วามรู้และความสามารถในการยกระดับการผลิต แปรรูปการตลาดและการบริหารจดั การ
๑.๒) ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมศักยภาพในปัจจุบันให้เข้าสู่การใช้เทคโนโลยีข้ันก้าวหน้า
เพ่ือผลิตสินค้าที่รองรับความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค โดยส่งเสริมการท างานร่วมกันอย่างใกล้ชิด
ระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมท้ังด้านการพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมและเตรียมความ
พร้อมของบคุ ลากรทจี่ ะเข้าส่ภู าคอตุ สาหกรรม โดยผ่านระบบการศึกษาทวภิ าคแี ละสหกจิ ศกึ ษา
๑.๓) สร้างระบบกลไกและเครือข่ายท่ีเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงความ
ร่วมมือของภาคธุรกิจในลักษณะคลัสเตอร์ ระหว่างภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ เช่น มาตรการที่
สนับสนุนสถาบันการศึกษา/สถาบันวิจัยและพัฒนา ให้มีบทบาทเป็นกลไกหลักในการเชื่อมโยงความร่วมมือ
ระหว่างธุรกิจหรอื สถานประกอบการต่าง ๆ ทร่ี วมตัวกันเป็นคลสั เตอร์
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 30
๑.๔) วางรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมสำหรับอนาคต มุ่งสร้างอุตสาหกรรมใหม่ท่ีผสาน
โอกาสจากแนวโน้มบริบทโลก และการปรับเปลี่ยนเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์
อัตโนมัติ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน อุตสาหกรรมการผลิตเคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และ
อุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ โดยวางแผนและพัฒนากำลังคนรองรับอุตสาหกรรมอนาคต ซ่ึงต้องดำเนินการ
ร่วมกันท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศกึ ษา และสถาบันวจิ ัยต่าง ๆ เพอ่ื ใหไ้ ปในทิศทางเดียวกัน ส่งเสริมให้
ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรม และระบบการศึกษาเร่งรัดเพื่อให้สามารถผลิตบุคลากรท่ีมี
ทกั ษะรองรบั อุตสาหกรรมอนาคตระยะแรกได้อย่างทันการณ์ สำหรับการวางแผนพัฒนากำลงั คนในระยะต่อไป
๑.๕) เสรมิ สร้างขดี ความสามารถการแข่งขนั ในเชิงธุรกิจของภาคบริการที่มศี ักยภาพให้เติบโต
และสนับสนุนภาคการผลติ เชน่ การบริการสุขภาพ การศึกษานานาชาติธุรกจิ บรกิ ารขนส่งและโลจิสติกส์
๑.๖) พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเท่ียวเชิงบูรณาการ ส่งเสริมการสร้างรายได้จากการท่องเท่ียว
โดยพัฒนาทักษะฝีมือบุคลากรในภาคบริการและการท่องเที่ยวจัดฝึกอบรมมัคคุเทศก์ภาษาต่างประเทศทั่ว
ประเทศ
๑.๗) ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่มี
ทักษะในการทำธุรกิจ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการกำหนดหลักสูตรท่ีเกี่ยวกับทักษะการเป็นผู้ประกอบการทั้งใน
ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ระดับอุดมศึกษา และสายอาชีพให้มคี วามรคู้ วามเข้าใจในการเร่มิ ตน้ ธุรกิจ ตลอดจน
สรา้ งสภาพแวดล้อมในสถานศกึ ษาใหเ้ ออ้ื ตอ่ การเรยี นร้แู ละกระตุ้นการเป็นผปู้ ระกอบการ
๒) เร่งส่งเสริมให้เกิดสังคมนวัตกรรม ผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ และพัฒนาสภาวะ
แวดลอ้ มของการพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ยั และนวัตกรรม
๒.๑) ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีบทบาทหลักด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและร่วมกำหนด
กำหนดทิศทางการพัฒนานวัตกรรมกับสถาบันการศึกษาสถาบันวิจัย ภาครัฐ และภาคสังคมหรือชุมชน อาทิ
ปรับกฎระเบียบให้สามารถสนับสนุนทุนวิจัยในภาคเอกชน การร่วมทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีแบบก้าว
กระโดด
๒.๒) เร่งสร้างความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเต็มศักยภาพของภาครัฐ ท้ัง
การเข้าถึงและการเช่ือมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ของภาครัฐและการเข้าถึงข้อมูลของภาครัฐจาก
สาธารณชน
๒.๓) สง่ เสริมให้ภาคสังคมนำงานวิจัยพัฒนาและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสมไปใช้ปรับปรงุ คุณภาพ
ชีวิต และสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิต โดยอาศัยกลไกการดำเนินงานอย่างเป็นเครือข่ายระหว่าง
สถาบันการศึกษา สถาบันการวิจัย ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนหรือชุมชนไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี
การศกึ ษา เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร เทคโนโลยเี พ่ือผ้พู กิ าร เทคโนโลยเี พ่อื ผสู้ งู อายุ
๒.๔) ใช้การตลาดนำการวิจัย เพื่อดำเนินการวิจัยท่ีมุ่งเป้าตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
ประโยชน์เป็นสำคัญ โดยเชื่อมโยงการท างานอย่างเป็นเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย
สถาบนั การเงนิ ภาครฐั ภาคธุรกจิ
๒.๕) ส่งเสริมระบบการเรียนการสอนท่ีเชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM Education)และเพ่ิมจำนวนนักเรียนท่ีสนใจในด้านดังกล่าว เพอื่ ผลิ
ตก าลงั คนและครูในเชิงคณุ ภาพ พร้อมไปกบั การเพ่ิมแรงจูงใจในอาชพี ครวู ิทยาศาสตร์
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 31
๒.๖) ส่งเสริมการเรียนรู้สู่การเป็นผู้ประกอบการ เพ่ือสร้างความเข้าใจในการเร่ิมต้นทำธุรกิจ
โดยมุ่งเน้นให้ภาคเอกชนเป็นผู้มีส่วนร่วมพัฒนาหลักสูตรกับภาครัฐ สถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยในการ
ผลิตบคุ ลากรเพื่อให้เกิดการเช่ือมโยงระหวา่ งการเรียนร้กู ับการทำงาน และส่งเสรมิ ให้นกั เรียนดา้ นวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีได้มีโอกาสฝึกงานในสาขาเทคโนโลยี (Technology Sector) และด้านเทคนิคต่างๆ และขยาย
ผลการเคล่อื นย้ายบุคลากรวจิ ัยภาครัฐไปทำงานในอุตสาหกรรมเปา้ หมายใหม้ ากยิ่งขึ้น
๒ .๗) ปรับปรุงและพัฒนาระบบ รองรับเทคโนโลยีสำคัญๆให้เกิดประสิทธิภาพ อาทิ
เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร เทคโนโลยีกราฟิก เทคโนโลยีทางการศึกษาเทคโนโลยีเพือ่ ผู้สงู อายุและผู้
พกิ าร เทคโนโลยกี ารขนส่งและโลจิสตกิ ส์
๓) การสนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งโลจสิ ติกส์ และพัฒนาเศรษฐกิจดิจทิ ลั
๓.๑) สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเน่ืองท่ีเกิดจากการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน
โดยยกระดบั ขดี ความสามารถของบุคลากรในระบบขนส่งให้มีความรูค้ วามสามารถในองคค์ วามรูแ้ ละเทคโนโลยี
สมัยใหม่ และสามารถปรบั ตัวให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงของกระแสโลก โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรด้านการ
ขนส่งทางอากาศให้หน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้อง รว่ มหารือกบั สถาบันการศกึ ษาที่ไดม้ าตรฐานดา้ นการบนิ เพ่ือพจิ ารณา
วางแผนก าลังคนในอุตสาหกรรมการบินของประเทศ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางยกระดับมาตรฐานหลักสูตร
และอุปกรณ์การเรยี นการสอนของสถาบนั การศึกษาต่าง ๆ
๓.๒) พัฒนาบุคลากรและวางแผนจัดการกำลังคนด้านโลจิสติกส์ให้สอดคล้องกับความ
ตอ้ งการของภาคธรุ กิจ โดยเน้นการเพิ่มผลิตภาพแรงงานโดยหน่วยงานภาครัฐรว่ มดำเนินการกับภาคเอกชนใน
การปรับปรงุ หลกั สูตรการศกึ ษาสาขาโลจิสติกส์ระดับอาชีวศึกษาและระดับปริญญาฝึกอบรมวิชาชีพเฉพาะหรือ
เทคนิคเฉพาะด้าน และส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการฝึกอบรมระดับปฏิบัติงาน เพื่อให้กำลังคน
ด้านโลจิสตกิ สม์ ีคุณภาพ มาตรฐาน และสอดคล้องกบั ความต้องการของภาคธุรกจิ
๓.๓) ส่งเสรมิ นวัตกรรม การวจิ ัยและพฒั นาอตุ สาหกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยอี วกาศของไทย
โดยพัฒนาบุคลากรภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษาให้มีความรู้ความสามารถรองรับต่อการ
พฒั นาเทคโนโลยดี ิจทิ ัลและสอดคล้องกบั ความต้องการของภาคอตุ สาหกรรมในอนาคต
๔) การพฒั นาในระดับภาค เมอื ง และพ้นื ที่เศรษฐกจิ
๔.๑) การพัฒนาภาคในระยะต่อไป จะให้ความสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของ
ประชาชนอย่างต่อเน่ือง ทั่วถึง และเป็นธรรม โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ทั้ง
ระบบท่ีเน้นการดำเนินการอย่างบูรณ าการยึดประเด็นการพัฒ นาที่ส ำคัญ โดยเช่ือมโยงบทบาทและสร้าง
เครอื ขา่ ยการมีสว่ นรว่ มของชมุ ชน สถาบนั และภาคกี ารพฒั นาที่เกี่ยวขอ้ ง
๔.๒) เสริมสร้างกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองศูนย์กลางธุรกิจติดต่อทางการค้า การเงิน การบริการ
และความร่วมมอื กับนานาชาติ รวมทัง้ เป็นศนู ย์กลางการศึกษาและการบรกิ ารด้านการแพทย์และสุขภาพระดับ
นานานชาติ พัฒนาเมืองปริมณฑลให้เป็นเมืองศูนย์กลางการบริการธุรกิจและการพาณิชย์ ศูนย์กลางขนส่ง
และโลจิสติกส์ ศูนย์บริการด้านสุขภาพและการศึกษาและเมืองที่อยู่อาศัย พัฒนาเมืองเชียงใหม่ พิษณุโลก
ขอนแก่น และนครราชสีมา ให้เป็นเมืองศูนย์กลางการค้า การบริการสุขภาพ การศึกษาโดยปรับปรุงเส้นทาง
คมนาคมทงั้ สายหลกั และสายรอง และเชอ่ื มโยงกับโครงสร้างพืน้ ฐานของภาค
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 32
๔.๓) พฒั นาพื้นที่เศรษฐกิจ โดยพัฒนาโครงสร้างพ้นื ฐานและคุณภาพบริการสังคมเพื่อรองรับ
การดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนและเป็นฐานเศรษฐกิจหลักของประเทศ ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาด้าน
อาชีวศึกษา วิศวกรรมและเทคโนโลยี เพื่อผลิตบุคลากรเฉพาะทางให้สอดคล้องสามารถรองรับกิจกรรม
เศรษฐกิจในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม สนับสนุนการศึกษาวิจัยให้ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษาหรือ
สถาบนั วิจยั ในพ้นื ทีร่ ่วมดำเนินการ
๔.๔) พัฒนาพื้นท่ีเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ๑๐ พ้ืนที่ ได้แก่ ตาก สระแก้ว สงขลา หนองคาย
นครพนม มุกดาหาร ตราด กาญจนบุรี เชียงราย และนราธิวาส โดยส่งเสริมให้ภาคประชาชนและภาคีการ
พฒั นาที่เกี่ยวขอ้ ง เขา้ มามีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากการพัฒนา โดยเน้นการเสริมสร้างขีดความสามารถ
ของวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการในพ้ืนท่ี พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และชุมชนให้สามารถใช้ประโยชน์จาก
การพัฒนา
๕) การพัฒนาและส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจและบริการ และการ
ลงทุนที่มสี มรรถนะสูง และเปน็ ที่ยอมรับในภูมิภาค ทั้งการให้บริการทางการศึกษาการให้บริการด้านการเงิน
การให้บริการดา้ นสุขภาพ การให้บริการดา้ นโลจสิ ตกิ ส์ และการลงทุนเพอื่ วิจยั และพัฒนา รวมทั้งเป็นฐานความ
ร่วมมือในเอเชีย และส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศเพ่ือขยายฐานการผลิตการค้า/การบริการของ
ผู้ประกอบการไทย สร้างผลตอบแทนจากเงินทุนและองค์ความรู้ของไทย และพัฒนาประเทศไทยไปสู่การเป็น
ชาติการคา้ (Trading Nation) ซ่ึงเป็นการปรบั ตัวรับการเปลยี่ นแปลงดา้ นอปุ าทาน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์
จากการเป็นประชาคมอาเซียนภายหลังปี พ.ศ.๒๕๕๘ โดยมงุ่ พัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์เทคโนโลยี และนวตั กรรม
ส่งเสริมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ มุ่งเน้นการวิจัยพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าให้กับธุรกิจ สินค้า และบริการอย่าง
ต่อเนอื่ ง สร้างความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนากับประเทศในอนุภมู ิภาค ภูมภิ าค และนานาประเทศ ทั้งในระดับทวิ
ภาคี พหุภาคี เพิ่มบทบาทของประเทศไทยในการให้ความช่วยเหลือทางการพัฒนาแก่ประเทศกำลังพัฒนาใน
ดา้ นตา่ งๆ เช่น การวจิ ัยและพัฒนา การพฒั นาทุนมนษุ ย์
เพ่ือให้เกิดความสอดคล้องกับกรอบทิศทางและวัตถุประสงค์ภายใต้มิติด้านเศรษฐกิจข้างต้น
กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือ
ผลกระทบ ภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้นักเรียน นักศึกษาทุกระดับทุก
ประเภท ได้รับการฝึกปฏบิ ัติงานอาชพี ตามความถนดั และความสนใจ พร้อมทัง้ ได้มโี อกาสปฏิบัติงานจริงในด้าน
การจัดการ การใช้เทคโนโลยีการผลิต การซื้อการขาย การท างานร่วมกันในรูปแบบสหกรณ์ตามกระบวนการ
ให้ครบวงจร จนเกดิ ความตระหนักในความสำคัญของการเรียนสายอาชีพ และควรกำหนดใหน้ ักเรียน นักศึกษา
ที่สำเร็จในแต่ละระดับการศึกษาได้รับการศึกษาต่อเนื่องเพ่ือเพิ่มความรู้ ทักษะความสามารถในด้านการ
ประกอบอาชีพ ที่ตรงกับสภาพตลาดแรงงานในแต่ละท้องถิ่น/พ้ืนท่ี ที่สำคัญควรกำหนดให้ผู้เรียนและผู้สำเร็จ
การศึกษาอาชีวศึกษา มีสมรรถนะตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ มีปริมาณ
เพียงพอสำหรับรองรับตลาดแรงงานในประเทศ รองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษและโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของ
รัฐบาล
๕.๓ มติ ดิ า้ นสังคม
๕.๓.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ : ยุทธศาสตร์การสร้างโอกาสบนความเสมอภาคและความเท่าเทียม
กันทางสังคมเพ่ือพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศและลดความเหลื่อมล้าในสังคม
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 33
โดยมีเป้าหมายท่ีจะพัฒนาคนให้มีคุณภาพและมีความม่ันคงท้ังทางด้านเศรษฐกิจและสังคม มีโอกาสในการ
เข้าถึงทรัพยากรอย่างท่ัวถึงและเป็นธรรมและมีการพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการมีคุณภาพชีวิตท่ีดีใน
สงั คมสูงวยั ซง่ึ มีแนวทางการดำเนนิ งานทสี่ ำคัญ ดงั นี้
๑) การสร้างความอยดู่ ีมีสุขของครอบครัวไทยใหเ้ อ้ือต่อการพัฒนาคนโดยเสรมิ สรา้ งศกั ยภาพ
และบทบาทหน้าท่ีของสถาบันครอบครัวในการบ่มเพาะ วางรากฐานจริยธรรม คุณธรรมของสมาชิกใน
ครอบครัว การสรา้ งความอบอ่นุ และความม่ันคงให้ครอบครัว และการสร้างสมดุลระหว่างการท างานและชีวิต
สว่ นตัว
๒) การพัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัยให้สนบั สนนุ การเจริญเติบโตของประเทศโดยในช่วงวัย
เดก็ ตง้ั แต่แรกเกดิ ให้มีพฒั นาการท่ีสมวัยในทุกดา้ น วยั เรยี น วยั รุ่นให้มีทักษะการเรียนรู้ ทักษะชีวิต สามารถอยู่
ร่วมกับผู้อ่ืนภายใต้บริบทสังคมท่ีเป็นพหุวัฒนธรรม วัยแรงงานให้มีการพัฒนายกระดับสมรรถนะฝีมือแรงงาน
เพื่อสร้างผลิตภาพเพิ่มให้กับประเทศ วัยผู้สูงอายุให้มีการท างานท่ีเหมาะสมตามศักยภาพและประสบการณ์มี
รายได้ในการด ารงชีวิต มีการสรา้ งเสริมและฟนื้ ฟูสุขภาพเพอื่ ป้องกันหรือชะลอความทพุ พลภาพและโรคเร้ือรัง
ต่างๆ ที่กอ่ ใหเ้ กิดภาระแกป่ จั เจกบุคคล ครอบครัว และระบบบริการสุขภาพ
๓) การสร้างความมั่นคงและการลดความเหลื่อมล้าทางด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยสร้าง
ความม่ันคงทางด้านรายได้และการออม กระจายทรัพยากรให้ทั่วถึงและเป็นธรรม ท้ังในด้านบริการสาธารณะ
ขนั้ พื้นฐานและฐานทรัพยากรตา่ งๆ โดยเฉพาะกลุม่ ผูม้ ีรายไดน้ ้อยและกลุ่มด้อยโอกาส เช่น การเข้าถึงปัจจัย
การผลิต/ท่ีดินทำกินของเกษตรรายย่อย การได้รับบริการด้านการศึกษาและสาธารณสุขที่มีคุณภาพของเด็ก
ยากจนและการสร้างหลักประกันทางรายได้ให้กับแรงงานนอกระบบท่ีมีรายได้น้อย เป็นต้น รวมท้ังการ
จดั รูปแบบสวัสดิการพ้ืนฐานที่จำเป็นและเหมาะสมตามกลุ่มเป้าหมาย (customize welfare) ที่คำนึงถึงฐานะ
ทางเศรษฐกิจและสังคมท่ีแตกต่างกนั โดยมแี นวทางการรับภาระคา่ ใชจ้ า่ ยร่วมกัน (cost sharing)
๔) การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เท่าเทียมและท่ัวถึงโดยการ
ปฏริ ูปโครงสรา้ งและระบบบริหารจดั การการศึกษาจัดโครงสร้างจดั การการศึกษาใหมเ่ พ่ือสร้างความรับผิดชอบ
ต่อผลลัพธ์ (Accountability) ปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษาเพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพการจัด
การศึกษาโดยการจัดสรรงบประมาณตรงสู่ผู้เรียน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา
ปรับระบบการผลิตและพัฒนาครูผู้สอน พัฒนาระบบการประเมินและการรับรองคุณภาพที่เน้นผลลัพธ์ท่ีตัว
ผ้เู รียน โดยมุ่งจัดการเรียนรู้เพอ่ื สรา้ งสมรรถนะกำลังคนท้ังระบบตั้งแต่ระดับปฐมวยั จนถึงการเรยี นรูต้ ลอดชีวิต
การวจิ ัยและการใช้เทคโนโลยแี ละส่อื เพื่อการเรียนรู้
๕) การพัฒนาระบบสขุ ภาพบูรณาการระบบหลักประกันสุขภาพภาครัฐ ๓ กองทุน เพอื่ ใหเ้ กิด
ความเป็นเอกภาพในการบรหิ ารจัดการ มีการใช้ทรพั ยากรอย่างมีประสทิ ธภิ าพ และลดความเหลื่อมล้าในระบบ
หลักประกันสุขภาพภาครัฐ พัฒนาการบริหารจัดการระบบสุขภาพด้วยการมีและการใชร้ ะบบข้อมูลสารสนเทศ
เพ่ือการบรหิ ารทรัพยากรด้านสาธารณสุข การส่งเสริมการอภิบาลระบบสุขภาพในลักษณะที่มีการใช้ทรัพยากร
ร่วมกัน การสนับสนุนความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาระบบบริการที่มีการลงทุน
และใช้ทรัพยากรร่วมกัน การส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์เพ่ือรองรับการเป็น
สังคมผู้สูงอายุ รวมท้ังการสรา้ งโอกาสในการเป็นศูนยก์ ลางสุขภาพนานาชาติท้ังในด้านศูนย์กลางบริการสุขภาพ
(Medical Service Hub) ศูนย์กลางบริการเพ่ือส่งเสริมสุขภาพ (Wellness Hub) โดยนำรายได้กลับมาใช้
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 34
ยกระดับคุณภาพบริการสาธารณสุขในประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการให้ความสำคัญกับมิติสุขภาพในทุก
นโยบายสาธารณะ (Health in All Policies) เพ่ือสร้างความเข้าใจและตระหนักถึงผลกระทบของนโยบาย
สาธารณะทม่ี ีตอ่ สขุ ภาพของประชาชน
๖) การสร้างความเข้มแข็งของสถาบันทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรมโดยการฟื้นฟูบทบาท
สถาบันศาสนาในการส่งเสริมศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมตามหลักคำสอนทางศาสนา การธำรงรักษา
วัฒนธรรมที่ดีงามเพ่ือเป็นฐานรากท่ีเข้มแข็งในสังคมท่ามกลางวัฒนธรรมท่ีหลากหลาย และการบริหารจัดการ
ทุนทางวัฒนธรรมเพอ่ื สร้างมลู คา่ เพ่ิมทางเศรษฐกิจ
๕.๓.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๑๒ : ยุทธศาสตร์การเสริมสร้างและพฒั นา
ทุนศักยภาพมนุษย์ ยุทธศาสตรก์ ารสรา้ งความเป็นธรรมลดความเหลือ่ มลา้ ในสังคม
๑) เป้าหมายการพัฒนา
๑.๑) คนไทยทุกกลุ่มวัยมีทักษะและความรู้ความสามารถท่ีจะเป็นฐานในการพัฒนาประเทศ
เด็กปฐมวยั มีพฒั นาการเต็มตามศักยภาพ สามารถเติบโตเป็นคนดี มีคณุ ภาพ และทำประโยชน์ต่อสงั คมโดยรวม
เด็กวัยเรียนมีนิสัยรักการอ่านและมีทักษะการเรียนรู้ในเชิงคิดสังเคราะห์ สร้างสรรค์ต่อยอดไปสู่การสร้าง
นวตั กรรมความรู้ มีทักษะชีวติ และอาชพี ทักษะทางการเงิน ทกั ษะสารสนเทศ ส่ือและเทคโนโลยี วัยแรงงาน
เพ่ิมสมรรถนะท้ังความรู้ ทักษะ คุณลักษณะให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน มีความรู้และทักษะ
การบริหารจัดการทางการเงินที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ วัยสูงอายุ มีงานทำและรายได้ที่
เหมาะสมกับศักยภาพผู้สงู อายุ
๑.๒) คนไทยมีการเรียนรู้อย่างต่อเน่ืองตลอดชีวิตพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและ
ภายนอกประเทศ
๑.๓) คนไทยมพี ฤตกิ รรมเสย่ี งทางสขุ ภาพทล่ี ดลงและมีคุณภาพชวี ิตทีด่ ีข้ึน
๑.๔) คนไทยมีจิตสำนึกพลเมอื งท่ีมที ศั นคติและพฤตกิ รรมท่ีมปี ระโยชน์ต่อส่วนรวมมีคุณธรรม
จรยิ ธรรมและมีค่านยิ มตามบรรทดั ฐานที่ดขี องสังคมไทย
๑.๕) เพม่ิ โอกาสการเข้าถงึ บริการพนื้ ฐานทางสังคมของภาครฐั
๒) แนวทางการพัฒนา
๒.๑) พัฒนาศักยภาพคนทุกกลุ่มวัยให้มีทักษะและความรู้ความสามารถโดยส่งเสริมให้เด็ก
ปฐมวัยมีการพัฒนาทักษะสมองและทักษะทางสังคมที่เหมาะสม พัฒนาเด็กวัยเรียนให้มีทกั ษะการคิดวิเคราะห์
อย่างเป็นระบบ มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะการท างานและการใช้ชีวิตท่ีพร้อมเข้าสู่ตลาดงาน ส่งเสริม
แรงงานให้มีความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการ ท้ังทักษะขั้นพื้นฐาน ทักษะ
เฉพาะในวชิ าชีพ และทักษะในการเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ พัฒนาศักยภาพของกลุ่มผูส้ ูงอายุให้มีโอกาสเข้า
สตู่ ลาดงานเพ่ิมข้ึน
๒.๒) ยกระดับคณุ ภาพการศึกษาและสรา้ งสภาพแวดลอ้ มทเี่ อ้ือต่อการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ โดย
๒.๒.๑) ยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ความเป็นเลิศ โดยขยายผลความร่วมมือ
ระหว่างสถาบันอาชวี ศึกษา สถาบันอุดมศึกษา ภาคเอกชน และผู้และผู้เช่ียวชาญทั้งในและต่างประเทศในการ
พฒั นาสาขาทมี่ คี วามเชยี่ วชาญเฉพาะด้าน การน าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน
รวมทงั้ ขยายการจัดทำและการใชห้ ลกั สตู รฐานสมรรถนะใหม้ ากขน้ึ
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 35
๒.๒.๒) ส่งเสริมมาตรการสร้างแรงจูงใจให้สถานประกอบการขนาดกลางท่ีมี
ศักยภาพเข้าร่วมระบบทวิภาคี หรือสหกิจศกึ ษารวมทั้งสร้างความรู้ความเขา้ ใจให้กบั ผู้ประกอบการ ครูฝึกหรือ
ครูพี่เลี้ยงให้ทราบถึงบทบาทในการร่วมวางแผนการจัดการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ และการติดตาม
ประเมนิ ผลผู้เรยี น
๒.๒.๓) พฒั นาคณุ ภาพครโู ดยปรับหลักสตู รการผลิตครใู ห้อิงสมรรถนะ มีจติ วิญญาณ
ความเป็นครู ให้เป็นผู้แนะนำ รวมท้ังศึกษาแนวทางการกำหนด “สมรรถนะครูระดับชาติ”ที่จะนำไปสู่การ
ออกแบบวิชาชีพครูท้ังระบบ ตั้งแต่หลักสูตรการผลิตครูใหม่ การพัฒนาครูประจำการ การประเมินวิทยฐานะ
ทางวิชาชีพ การส่งเสริมการเรยี นร้ตู ลอดชวี ติ ของครู
๒.๒.๔) พัฒนาส่ือการเรียนรู้ท่ีหลากหลายให้เอื้อต่อคนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ง่าย
สะดวกท่วั ถึง ไม่จำกัดเวลาและสถานท่ี มกี ารจัดทำสื่อระบบการเรยี นรู้โดยใชส้ ื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส์ทีส่ ามารถใช้งาน
ผ่านระบบอุปกรณ์สื่อสารเคล่ือนท่ี รวมถึงใช้มาตรการทางภาษีจูงใจให้ภาคเอกชนผลติ หนังสอื ส่ือการอา่ นและ
การเรยี นรทู้ ม่ี คี ณุ ภาพและราคาถูก
๒.๒.๕) ส่งเสริมการสร้างเครอื ข่ายระหว่างบ้าน วดั โรงเรียน ในการพฒั นาแหล่งการ
เรียนรู้มีชีวิตในชุมชนและให้มีการใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า อาทิ พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุดโบราณสถาน อุทยาน
ประวัติศาสตร์ โรงเรียนผู้สูงอายุ และการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางสังคมที่แสดงถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรม จารีต
ประเพณี ศลิ ปหัตถกรรมท่ีสบื ทอดมาจากอดีต รวมท้ังพัฒนาระบบจัดการความรูบ้ นฐานนวัตกรรมการเรยี นรู้ท่ี
สอดคล้องกบั ภมู ิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และภูมิสงั คม
๒.๓) หล่อหลอมคนไทยให้มีความเป็นพลเมืองท่ีดีตามบรรทัดฐานของสังคมและส่งเสริมให้
ภาคธุรกิจทำธุรกิจเพ่ือสังคม โดยสร้างค่านิยมในการดำเนินชีวิต การศึกษา และการท างานตามบรรทัดฐาน
ของสังคม โดยการปลูกฝังและหล่อหลอมสมาชิกในครอบครัวให้มีความเอ้ืออาทร การช่วยเหลือเก้ือกูลกัน มี
คุณธรรมจริยธรรม สถาบนั การศกึ ษามีการจัดการเรียนการสอนทีม่ ีกิจกรรมเกี่ยวกับคุณธรรม จรยิ ธรรมปรัชญา
ชีวิต มีการเสริมสร้างวัฒนธรรมค่านิยมการท างานท่ีคำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม ท างานเป็นทีม มี
ระเบียบวินัย ยอมรบั ความคิดเหน็ ตา่ ง ความมมุ านะในการแสวงหาความรู้
๒.๔) ให้ความช่วยเหลือทางสังคมเพื่อเป็นแต้มต่อแก่กลุ่มเป้าหมายประชากรร้อยละ ๔๐ ท่ีมี
รายได้ต่ำสุด ให้ได้รับการศึกษาท่ีสูงขึ้นและพัฒนาทักษะฝีมือเพ่ือสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและ
ยกระดับรายได้ ให้ได้รับการคุ้มครองทางสังคม (Social Protection) และสวัสดิการ (Welfare) ท่ีเหมาะสม
อยา่ งทั่วถึงและเป็นธรรม สร้างโอกาสการเขา้ ถึงการศกึ ษาที่มคี ุณภาพใหแ้ ก่กลุ่มเปา้ หมายฯ อยา่ งต่อเนอ่ื งและมี
คณุ ภาพโดยไม่ถูกจำกดั ศักยภาพจากสภาพครอบครัว พนื้ ท่ี และสภาพร่างกาย โดยการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กให้มี
คุณภาพและได้มาตรฐาน การดูแลและป้องกันนักเรียนที่ยากจนท่ีอาศัยในพื้นท่ีห่างไกลโรงเรียน ไม่ให้เด็กออก
จากโรงเรียนกลางคันโดยให้ความช่วยเหลือแก่เด็กนักเรียนยากจนท่ีครอบคลุมตั้งแต่การสร้างรายได้ของ
ครัวเรอื น การสนับสนุนค่าเดินทางไปยงั สถานศกึ ษา การให้ทุนการศึกษาต่อระดบั อุดมศึกษาแก่เดก็ เรียนดีและ
ยากจน โดยมีเงื่อนไขเม่ือจบการศึกษาแล้วต้องกลับไปทำงานที่บ้านเกิด และสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพ่ือ
สง่ เสริมการเรยี นรใู้ นพ้ืนทีห่ ่างไกล
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 36
๒.๕) กระจายการให้บริการภาครัฐทั้งด้านการศึกษาสาธารณสุข โครงสร้างพื้นฐาน และการ
จัดสวัสดิการในภูมิภาคให้มีความครอบคลุมและทั่วถึงทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ รวมท้ังการจัดสรร
ทรัพยากรใหม้ กี ารกระจายตัวอย่างเป็นธรรม
ตลอดจนการสร้างปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจ รวมทั้งกฎหมายกฎระเบียบให้เกิดการแข่งขันท่ี
เป็นธรรม เพ่ือให้เกิดความสอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภายใต้มิติด้านสังคมข้างต้น
กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงานให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือ
ผลกระทบ ภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการเพ่ือให้ผู้เรียนและสถานศึกษาในส่วน
ภูมิภาค/ชนบท ได้รับการยกระดับคุณภาพการให้บริการทางการศึกษาเกิดความเสมอภาคทางการศึกษาทุก
ระดับ ทุกประเภท โดยเฉพาะระดับก่อนประถมศึกษาประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น โดยประสาน
ทรัพยากรทางการศึกษาในจังหวัด/ท้องถ่ิน เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย และควรกำหนดให้ระบบและวิธีการ
ส่งเสริม คัดเลือกเพื่อการศึกษาต่อในระดับที่สูงข้ึน ได้รับการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาให้เกิดความเป็นธรรม
ความเสมอภาคแก่นักเรียน นักศึกษาทุกระดับทุกประเภทการศึกษา รวมท้ังควรกำหนดให้ผู้เรียนและผู้สำเร็จ
การศึกษาอุดมศึกษามีปริมาณเหมาะสมสอดคล้องในสาขาความต้องการแต่ละสายอาชีพ มีองค์ความรู้และ
ทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ มีเจตคตแิ ละคณุ ลักษณะนสิ ัยท่พี งึ ประสงค์
๕.๔ มติ ดิ ้านการบริหารจดั การภาครัฐทมี่ ีประสทิ ธิภาพ
๕.๔.๑ ยุทธศาสตร์ชาติ : ยุทธศาสตร์การปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหาร
จัดการภาครัฐ เพือ่ ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างมีประสิทธภิ าพ เกิดประสิทธิผล มีความคุ้มค่า
โปร่งใส และเกิดความเป็นธรรมในการให้บริการสาธารณะ และเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางและบริบทการ
เปล่ียนแปลงของโลก ซึ่งมีแนวทางในการดำเนินงานที่สำคัญคือ การเพ่ิมประสิทธิภาพภาครัฐโดยการปรับ
โครงสรา้ งระบบราชการใหส้ ามารถตอบสนองการเปล่ียนแปลงและความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
และมีประสิทธภิ าพ เช่น พัฒนา e-government และ e-service เพอ่ื เพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการท างานและการ
ให้บริการ เป็นต้น และพัฒนาและบริหารกำลังคนภาครัฐเพ่ือปรับบทบาทให้สอดคล้องกับภารกิจท่ีมีอยู่ และ
เตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน เช่น พัฒนาหลักสูตรและดำเนินการฝึกอบรมต่าง ๆ จัดทำร่าง
ยุทธศาสตร์บริหารกำลังคนภาครัฐ วิเคราะห์อัตรากำลังคนภาครัฐตามยุทธศาสตร์ประเทศ เป็นต้น รวมทั้งลด
ปัญหาคอร์รัปช่ัน เพื่อสร้างความโปร่งใสในการบริหารจัดการภาครัฐ และสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในการ
บริหารงานของหน่วยงานภาครัฐ เช่น สร้างและใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานและลดขั้นตอนในการ
ทำงาน นำระบบ ICT มาใช้ในการดำเนินงาน ตลอดจนปฏิรูปกฎหมายให้ทันสมัยเพ่ือเสริมสร้างขีด
ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
๕.๔.๒ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๑๒ :ยุทธศาสตรก์ ารเพิ่มประสทิ ธิภาพ
การบริหารจดั การในภาครฐั และธรรมาภบิ าลในสงั คมไทย
๑) เปา้ หมาย
๑.๑) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการให้บริการของภาครัฐและ
ประสทิ ธิภาพในการประกอบธรุ กจิ ของประเทศ ให้อยูใ่ นอันดับสองของอาเซียน
๑.๒) เพม่ิ จำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ แตล่ ะประเภท ทม่ี กี ารบริหารจัดการท่ดี ี
๑.๓) เพ่มิ คะแนนดชั นภี าพลกั ษณค์ อร์รัปชนั่ อยสู่ ูงกวา่ รอ้ ยละ ๕๐
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 37
๑.๔) ลดข้อร้องเรียนของประชาชนท่ีไม่ได้รับการอำนวยความยุติธรรมอย่างเสมอ
ภาคและเปน็ ธรรม
๒)แนวทางการพฒั นา
๒.๑) ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน บทบาท ภารกิจและคุณภาพบุคลากรภาครัฐ ให้มีความ
โปร่งใส ทันสมัย คล่องตวั มีขนาดที่เหมาะสม เกดิ ความคุ้มค่า สามารถให้บริการประชาชนในรูปแบบทางเลือก
ที่หลากหลายและมีคุณภาพ โดยกำหนดภารกิจขอบเขตอำนาจหน้าที่ของการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วน
ภมู ิภาค และส่วนท้องถ่ินให้ชัดเจนและไม่ซ้ำซ้อน พัฒนาบุคลากรและปฏิรูประบบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ
ให้มีประสิทธิภาพ มีความรคู้ วามสามารถสอดคล้องกับการปฏิบัตงิ านในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล จัดทำยุทธศาสตร์
การพัฒนารัฐวิสาหกิจในระยะยาวใหม้ ีความชดั เจนและสามารถปฏบิ ตั ิได้จริง
๒.๒) ปรับปรุงกระบวนการงบประมาณและสร้างกลไกในการติดตามตรวจสอบการเงินการ
คลังภาครัฐ เพื่อให้การจัดสรรและการใช้จ่ายงบประมาณมีประสิทธิภาพ และให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมใน
การตัดสนิ ใจกระบวนการงบประมาณ โดยแก้ไขพระราชบัญญัติวธิ กี ารงบประมาณ พ.ศ.๒๕๐๒ และกฎหมายที่
เก่ียวข้อง เช่น พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๓๔พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการ
บริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ.๒๕๕๑ รวมท้ังปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนพัฒนา
ระดับพ้ืนที่ให้เช่ือมโยงต้ังแต่ระดับชุมชนถึงระดับจังหวัดซ่ึงค่าของบประมาณของจังหวัดควรมีความชัดเจนว่า
เป็นวงเงินตามภารกิจของกระทรวงและวงเงินตามค่าขอของจังหวัด นอกจากน้ีให้ปรับปรุงระบบติดตาม
ประเมินผลใหส้ ามารถวดั ผลสัมฤทธิก์ ารใชจ้ ่ายงบประมาณได้อย่างแทจ้ ริง
๒.๓) เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการให้บริการสาธารณะให้ได้มาตรฐาน สากล โดยปรับ
รูปแบบและวิธีดำเนินการของภาครัฐให้มีความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน ประชาสังคมในลักษณะรูปแบบ
ประชารัฐปรับรูปแบบการให้บริการของรัฐจากรูปแบบเดิมไปสู่การให้บริการผ่านระบบดิจิทัลอย่างเป็นระบบ
สร้างระบบโครงสร้างพ้ืนฐานกลางของภาครัฐและเอกชน (Data Center) ผ่านบริการเครือข่ายภาครัฐ บูรณา
การขอ้ มลู ขา้ มหนว่ ยงานผ่านระบบดจิ ทิ ัลรองรบั การใชป้ ระโยชน์จากข้อมลู ภาครฐั ร่วมกนั
๒.๔) ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อให้สังคมไทยมีวินัย โปร่งใส
และยุติธรรม โดยปลูกฝังจิตสำนึกและค่านิยมท่ีดีของสังคมไทยให้กับเด็กและเยาวชน ผ่านกลไกครอบครัว
สถาบนั การศกึ ษาส่ือมวลชน และเครือข่ายทางสังคม ยกระดบั มาตรฐานจรยิ ธรรมของขา้ ราชการและเจ้าหน้าท่ี
ของรฐั ผา่ นกลไกการบริหารงานบคุ คล วางระบบและกระบวนการจัดการต่อการทุจริตให้มปี ระสทิ ธภิ าพ
๕.๔.๓ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ -๒๕๗๔ : ยุทธศาสตร์การพัฒนาหลักสูตรการเรียน
การสอน กระบวนการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ยุทธศาสตร์ยกระดับคุณภาพ มาตรฐานวิชาชีพครู
คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา ยุทธศาสตร์ผลติ และพัฒนากำลงั คน การวิจยั และนวัตกรรม รองรับ
ความต้องการของตลาดงานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศยุทธศาสตร์การพัฒนา
ระบบข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล ยุทธศาสตร์พัฒนาคุณภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคม
แห่งการเรียนรู้ยุทธศาสตร์พัฒนาระบบบริหารจัดการ และการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของทุกภาค
สว่ น ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาระบบการเงนิ เพือ่ การศึกษา
๑) ความคาดหวัง:
๑.๑) ลดความแตกต่างในคุณภาพและมาตรฐานการศกึ ษาระหวา่ งสถานศึกษา
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 38
๑.๒) เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึงบรกิ ารการศึกษาท่ีมีคุณภาพและมาตรฐาน
๑.๓) กระจายอำนาจและความรบั ผดิ ชอบไปส่สู ถานศึกษาเพ่ือการพฒั นาทย่ี ัง่ ยืน
๑.๔) เพ่ิมประสิทธิภาพและลดความสูญเปล่าของการบริหารจัดการ เพ่ือรองรับการแข่งขัน
อย่างเปน็ ธรรมภายใต้กำกบั ของรัฐ
๑.๕) สร้างการมสี ่วนร่วมในการระดมทนุ และการสนองทนุ เพื่อการศึกษาจากทุกภาคสว่ นของ
สงั คม
๒) มาตรการ:
๑.๑) ออกแบบและพัฒนาโครงสร้างระบบข้อมูลและสารสนเทศที่บูรณาการและเช่ือมโยง
ระหว่างหน่วยงานส่วนกลาง หน่วยงานส่วนภูมิภาค และสถานศึกษา ภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน
เพ่ือการกำกับ ติดตามประเมินผล การบริหารจัดการ และการตัดสินใจเชิงนโยบายของผู้บริหาร พัฒนาระบบ
ฐานข้อมูลสารสนเทศที่บูรณาการและเช่ือมโยงกับระบบการประกันคุณภาพภายในการประเมินคุณภาพ
ภายนอก การติดตามประเมินผลของหน่วยงานส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
๑.๒) จัดทำแผนท่ีต้ังสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานโดยใช้ระบบ GIS เพื่อกำหนดจำนวนและท่ีตั้ง
สถานศกึ ษาที่เหมาะสม สอดคล้องกับความตอ้ งการของผเู้ รยี น จัดทำแผนและข้ันตอนการควบรวมสถานศึกษา
ข้ันพื้นฐาน แบ่งกลุ่มสถานศึกษาข้ันพื้นฐานตามศักยภาพและความพร้อม เพื่อลดความแตกต่างของคุณภาพ
และมาตรฐานระหว่างสถานศกึ ษา
๑.๓) ส่งเสริมให้สถาบันอาชีวศึกษา /สถาบันอุดมศึกษาผลิตและพัฒนากำลังคนในสาขาท่ีมี
ความเชี่ยวชาญ เพ่ือให้สถาบันมีขนาดและจำนวนการผลิตที่สอดคล้องกับจำนวนผู้เรียนท่ีมีแนวโน้มลดลง
รวมท้ังสนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษาท้ังของรับและเอกชนเข้ามามีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษาโดยอาศัยกลไก
ทางการเงนิ ดา้ นอปุ สงค์ ผ่านกองทุนเงนิ ให้กูย้ ืมทผี่ ูกกบั รายไดใ้ นอนาคต
๑.๔) ปรับโครงสร้างการบริหารราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และสถานศึกษา ตามแนว
ทางการกระจายอำนาจไปสู่สถานศกึ ษา รวมท้ังปรับบทบาทของหน่วยงานส่วนกลาง หน่วยงานส่วนภมู ิภาคให้
ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับนโยบาย แผน มาตรฐาน ติดตามประเมินผล ส่งเสริมสนับสนุน และกระจายอำนาจให้
สถานศึกษาทำหนา้ ทเี่ ป็นผจู้ ดั การศกึ ษา
๑.๕) ปรับระบบการจัดสรรเงินอุดหนุนรายหัวของรัฐและเอกชนที่สะท้อนคุณภาพมาตรฐาน
ประสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ล ตามความแตกต่างของคุณลักษณะสถานศึกษาและคุณลักษณะของผเู้ รียนด้วยความ
เปน็ ธรรม และส่งเสริมสนับสนุนใหภ้ าคเอกชนทมี่ ีศักยภาพและความพรอ้ มเข้ามามีสว่ นร่วมในการบริหารและ
จดั การศึกษา
๑.๖) กำหนดแผนความต้องการการผลิตครูใหม่ การพัฒนาครูประจำการ โดยจำแนกตาม
สาขาวิชาท่ีขาดแคลน และกำหนดให้มีแผนพัฒนาผู้บริหารสถานศึกษา ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เก่ียวข้องกับ
ระบบการบรหิ ารงานบคุ คลของครู ผู้บรหิ าร และบุคลากรทางการศกึ ษา
๑.๗) ปรับเปลี่ยนระบบการจัดสรรเงินจากเดิมที่จัดสรรผ่านด้านอุปทานหรือสถานศึกษา มา
เป็นจัดสรรผ่านด้านอุปสงค์หรือตัวผู้เรียนในสัดส่วนที่เหมาะสม และกำหนดแผนและขั้นตอน การเปลี่ยนผ่าน
ระบบการจัดสรรเงินเพื่อการศึกษา เพ่ือมิให้สถานศึกษาได้รบั ผลกระทบจากการเปลี่ยนระบบ การจัดสรรเงิน
สนับสนุนการจัดต้ังกองทุนเงินให้เปล่าสำหรับผู้เรียนที่ด้อยโอกาสและยากจน ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาท่ีมี
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 39
คุณภาพมาตรฐาน รวมท้ังออกแบบและพัฒนาระบบบัญชีสถานศึกษาตามเกณฑ์คงค้างเพ่ือ การรายงาน
การเงนิ
๑.๘) พฒั นาระบบและกลไกการส่งเสริมสนับสนุนให้ทกุ ภาคส่วนของสังคมเข้ามามีสว่ นร่วมใน
การผลิตและพัฒนาสื่อ ตำรา สิ่งพมิ พ์และสือ่ อิเล็กทรอนิกส์ทม่ี ีคณุ ภาพและมาตรฐาน รวมทัง้ สอ่ื เพือ่ การพฒั นา
ผ้บู ริหาร ครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จำแนกตามระดับ/ประเภทการศึกษาผ่านระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสอ่ื สารทที่ นั สมยั
๑.๙) ส่งเสริมให้มีแหล่งเรียนรู้ของชุมชนในทุกพ้ืนท่ี โดยการจัดตั้งศูนย์การเรียนท้องถ่ิน ภูมิ
ปัญญาท้องถ่ิน ศูนย์พัฒนาทักษะ ความรู้และความสามารถในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่ประชากรทุกช่วงวัย
รวมท้ังสนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ พ้ืนท่ีพิเศษ และพื้นท่ีในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ตามความเหมาะสมของพนื้ ที่
เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภายใต้มิติด้านบริหารจัดการ
ภาครัฐที่มีประสทิ ธิภาพในข้างต้น กระทรวงศึกษาธิการควรมีการกำหนดเป้าหมายหรือแนวทางการดำเนินงาน
ให้เกิดผลผลิต ผลลัพธ์ หรือผลกระทบภายใต้ทิศทางการพัฒนาการศึกษา เพื่อให้โครงสร้างของการบริหาร
การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพ มีความคล่องตัว โดยกระจายอำนาจ
หรือมอบอำนาจจากส่วนกลางลงไปสู่หน่วยปฏิบัติ ส่วนภูมภิ าค กำหนดกลไกและส่งเสรมิ ใหท้ ุกภาคสว่ นมีส่วน
รว่ มในการจัดการศึกษาและสนบั สนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษารวมทั้งสรา้ งเครือข่ายความร่วมมือทางการศกึ ษา
กับองค์กรหรือหนว่ ยงาน
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 40
ยทุ ธศาสตรก์ ารศกึ ษาจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙)
๑ แนวคิดการจัดการศกึ ษา
๑.๑ หลักการจัดการศกึ ษา
๑) หลักการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for all) เป็นการจัดการศึกษาเพ่ือให้
ประชาชนทุกคน ทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กปฐมวัย วัยเรียน วัยทำงาน และผู้สูงวัยมีโอกาสในการศึกษาและการ
เรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อให้แต่ละบุคคลได้พัฒนา ตามความพร้อมและความสามารถให้บรรลุขีดสูงสุด มีความรู้
ทักษะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ในการดำรงชีวิต และการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคม รวมท้ังมีสมรรถนะใน
การท างานเพ่ือการประกอบอาชีพ ตามความถนัดและความสนใจ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน
และการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศ อันจะนำไปพัฒนาตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
แผนยุทธศาสตร์การศึกษา จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงต้องกำหนดเป้าหมายการจัดการศึกษาที่ครอบคลุม โดย
ไมป่ ลอ่ ยปละละเลย หรอื ทิง้ ใครไวข้ ้างหลัง
๒) หลักการจัดการศึกษาเพ่ือความเท่าเทียม (Inclusive Education) เป็นการจัดการศึกษา
สำหรับผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้เรียนกลุ่มปกติ กลุ่มด้อยโอกาสท่ีมีความยากลำบาก และขาด
โอกาสเน่ืองด้วยสภาวะทางเศรษฐกิจและภูมิสังคม ซึ่งรัฐ ต้องดูแลจัดสรรทรัพยากรทางการศึกษา สนับสนุน
ผู้เรียนกลุ่มน้ีให้ได้รับการศึกษาตามศักยภาพและ ความพร้อมอย่างเท่าเทียม กลุ่มท่ีมีความต้องการจำเป็น
พิเศษ ซ่ึงหมายรวม กลุ่มผู้มีความบกพร่อง ทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา สังคม อารมณ์ การส่ือสารและการ
เรียนรู้ หรือร่างกายพิการ หรือ ทพุ พลภาพ รวมทง้ั บุคคลซ่ึงไมส่ ามารถพ่ึงตนเองได้หรอื ไม่มีผู้ดูแล รฐั ตอ้ งจัดให้
บคุ คลดงั กลา่ วมสี ิทธิ และโอกาสได้รับการศึกษารว่ มกับเด็กปกติในกรณีที่สามารถเรยี นได้ เพื่อให้เขาไดม้ ีโอกาส
เรียนรู้ แลกเปล่ียนความรู้ ความคิดและปรับตัวให้เข้ากับผู้อ่ืนในสังคม หรือจัดให้เป็นพิเศษตามระดับ ความ
บกพร่อง นอกจากนี้บุคคลซึ่งมีความสามารถพิเศษ รัฐต้องจัดรูปแบบการศึกษาที่เหมาะสม โดยคำนึงถึง
ความสามารถของบุคคลนั้น ด้วยเหตุผลสำคัญคือบุคคลที่มีความสามารถพิเศษเป็นทรัพยากร ท่ีสำคัญของ
ประเทศ หากจัดการศึกษารูปแบบปกติ อาจทำให้ไม่สามารถพัฒนาบุคคลดังกล่าวให้มีความรู้ ความสามารถ
ตามศักยภาพของเขาได้ รัฐจึงมีหน้าท่ีลงทุนพิเศษสำหรับบุคคลเหล่าน้ี และถือเป็นสิทธิ ของบุคคลซ่ึงมี
ความสามารถพิเศษที่จะได้รับบริการทางการศึกษาซ่ึงเหมาะสมสำหรับการพัฒนาศักยภาพ ของตน แผน
ยุทธศาสตร์การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงต้องกำหนดยุทธศาสตร์และแนวทาง การพัฒนาท่ีครอบคลุม
การดแู ลและพัฒนาบุคคลทุกกลมุ่ เปา้ หมายอย่างเท่าเทียมและท่ัวถึง
๓) หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการดำรงชีวิตและการประพฤติปฏิบัติตน
ของประชาชนทุกระดับ เพื่อการดำรงชีวิตในสังคมอย่างพอเพียง เท่าทันและเป็นสุข การศึกษาจึงต้องพัฒนา
ผู้เรียนให้มีความรอบรู้ มีทักษะที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคมและวัฒนธรรมจากโลก
ภายนอก โดยยึดหลัก ความพอประมาณ ที่เป็นความพอดีท่ีไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่เบียดเบียน
ตนเองและผู้อ่ืนการตัดสินใจที่มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะ
เกิดข้ึน จากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ และมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ซึ่งเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับ
ผลกระทบ และการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดข้ึนโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ท่ี
คาดว่า จะเกิดข้ึนในอนาคตทั้งใกล้และไกล โดยใช้ความรอบร้เู กย่ี วกับวิชาการตา่ ง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 41
มีความรอบคอบท่ีจะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและ ความ
ระมัดระวังในข้ันปฏิบัติ มีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต อดทน พากเพียร และใช้สติปัญญา
ในการดำเนนิ ชีวติ
๔) หลักการมีสว่ นร่วมของทุกภาคสว่ น (all for Education) การจดั การศึกษาอยา่ งมคี ุณภาพ
และมีประสิทธิภาพให้กับประชาชนทุกคน เป็นพันธกิจที่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของสังคมทุกภาคส่วน
เนื่องจากรัฐต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ในการจัดการศึกษาท่ีต้องครอบคลุมทุกช่วงวัย ทุกระดับการศึกษา
และทุกกลุ่มเป้าหมายด้วยรูปแบบ วิธีการท่ีหลากหลาย สนองความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล
และสนองยุทธศาสตร์ชาติและ ความจำเป็นในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐจึงต้องให้
ความสำคัญและสนับสนุน การมีส่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอ่ืนในการ
จัดการศึกษา โดยบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรต่าง ๆ จะได้รับการส่งเสริมให้เข้ารว่ มจัดการศึกษา เสนอแนะ
กำกับ ติดตาม และสนับสนุนการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ ตามความพร้อมเพ่ือประโยชน์ของสังคม
โดยรวม
๕) หลักการอยู่ร่วมกันในสงั คมพหุวัฒนธรรม การจดั การศึกษาใหอ้ ยู่ร่วมกันอยา่ งมีความสุข มี
ความมุ่งหมายเพ่ือพัฒนาคน ให้มีวัฒนธรรมในการดำรงชีวิตร่วมกับคนอ่ืนอย่างมีความสุข โดยเฉพาะการอยู่
ร่วมกันในสังคม พหุวัฒนธรรม เป็นการอยู่ร่วมกันของบุคคลท่ีมีความแตกต่างทางด้านเช้ือชาติ ศาสนา ภาษา
วัฒนธรรม ประเพณี รวมท้ังทัศนคติ ความเชื่อ ดังน้ัน การเรียนรู้เพื่อยอมรับในความแตกต่างและความ
หลากหลาย ของสังคมพหุวัฒนธรรม จำเปน็ อยา่ งยง่ิ ท่จี ะต้องเรียนรู้ เพือ่ การอยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ติ
๑.๒ เป้าหมายการพัฒนาที่ย่ังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs ๒๐๓๐) เป็น
เปา้ หมายท่ีประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ จำนวน ๑๙๓ ประเทศได้ลงมติ รับรองในการประชุมสมัชชา
ใหญ่แห่งสหประชาชาติ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยจะใช้เป็นวาระแห่งการพัฒนา ของโลกในอีก ๑๕ ปีข้างหน้า
(ค.ศ. ๒๐๑๖ - ๒๐๓๐) มีท้ังหมด ๑๗ เป้าหมาย โดยเป้าหมายด้าน การศึกษา คือ เป้าหมายที่ ๔ สร้าง
หลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาท่ีมีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่า เทียมและสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้
ตลอดชีวิตแผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดชายแดนภาคใต้จึงต้องพัฒนาคุณภาพ
และประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของประเทศเพ่ือสร้าง หลักประกันว่าเด็กปฐมวัยทุกคนจะได้รับการเตรียม
ความพร้อมก่อนเข้าเรียนประถมศึกษาทุกคนสำเร็จ การศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาท่ีมีคุณภาพ
และมีผลลัพธ์ทางการเรียนที่มีประสทิ ธิผลทกุ คน สามารถเข้าถึงการศึกษาระดับอาชีวศึกษาและอุดมศึกษาด้วย
ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและมีคุณภาพกำลัง แรงงานมีทักษะที่จำเป็นรวมถึงทักษะทางเทคนิคและอาชีพสำหรับ
การจ้างงาน การมีงานที่ดีและ การเป็นผู้ประกอบการ กลุ่มผู้พิการและด้อยโอกาสเข้าถึงการศึกษาและการฝึก
อาชีพทกุ ระดับอย่างเท่าเทียม มีการเพม่ิ จำนวนครูที่มีคุณภาพ เพื่อการศกึ ษาสำหรบั การพัฒนาอย่างยั่งยืนและ
การมวี ิถีชีวิตทย่ี ่ังยืน
๑.๓ ยุทธศาสตร์ชาติ (National Strategy) ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙) ซ่ึงได้กำหนด
เป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลเพ่ือใช้เป็น กรอบในการจัดทำแผนต่าง ๆ ให้
สอดคล้องและบูรณาการกันเพ่ือให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกัน ไปสู่เป้าหมายกรอบยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าว
ครอบคลุมนโยบายการพัฒนาประเทศไทยสู่อุตสาหกรรม ๔.๐ การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของ
กศน.ตำบลตะมะยงู
หนา้ 42
ประเทศ (Growth & Competitiveness) การสร้าง โอกาสบนความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม
(Inclusive Growth) และการปรับสมดลุ และ พัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครฐั
๑.๔ แผนการศึกษาแห่งชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ได้กำหนดเป้าหมายของการจัด
การศึกษาของประเทศ เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทาง ในการจัดทำแผนต่างๆ ให้สอดคล้องและบูรณาการกนั ให้เกิด
เป็นพลังขบั เคลื่อนร่วมกนั ไปสูเ่ ปา้ หมาย เปา้ หมายการศึกษาครอบคลมุ ๕ ด้าน ไดแ้ ก่ การเข้าถงึ โอกาสทางการ
ศึกษา (Access)ความเท่าเทียม ทางการศึกษา (Equity)ด้านคุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ
(Efficiency) และการตอบโจทย์ บริบทท่เี ปลีย่ นแปลง (Relevancy)
๒ วิสัยทัศน์ (Vision) “ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิต
อย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิตอย่างเป็นสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และ การเปลยี่ นแปลงของโลกในศตวรรษที่ ๒๑”
๓ พนั ธกจิ (Mission)
๑. เสริมสร้างความมั่นคงแก่สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ปลูกฝังคุณธรรม
จริยธรรมและการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ในสังคมพหุวัฒนธรรมบนพ้ืนฐานหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจ
พอเพยี ง
๒. พัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับสู่มาตรฐานสากลและพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันสู่
ความม่นั คง มั่งคง่ั ยัง่ ยืน
๓. พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาแบบบูรณาการในพื้นท่ีให้มีประสิทธิภาพ ตามหลัก
ธรรมาภบิ าล
๔ เป้าประสงคห์ ลัก มน่ั คง
๑. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยึดมั่นสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ มี
จิตสำนกึ ในความเปน็ พลเมือง มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม อยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสขุ ในสังคมพหุวัฒนธรรม มัง่ คั่ง
๒. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทักษะการดำรงชีวิตในศตวรรษ ท่ี ๒๑ โดยเน้น
ทักษะการเรียนรู้ ทักษะชีวิต ทักษะการทำงาน รวมท้ังทักษะการส่ือสาร และเทคโนโลยี สามารถ พ่ึงพาตนเอง
ได้
๓. กำลังคนมีคุณภาพมีทักษะที่สำคัญและมีสมรรถนะตรงความต้องการของตลาดงาน เป็น
ฐานรองรับการขับเคลอื่ นประเทศไทย ๔.๐ ยั่งยนื
๔. หน่วยงานการศึกษาและสถานศึกษามีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทันสมัย
โปร่งใส มีการบูรณาการการท างานทกุ ระดับในพ้นื ท่ีและมสี ว่ นร่วมจากประชาชน
๕. ผเู้ รียนทกุ กลุม่ เป้าหมายไดร้ ับบริการทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเทา่ เทยี ม
๖. ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พ่ึงพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 43
๕ ยทุ ธศาสตร์ เปา้ หมาย ตัวช้ีวดั กลยุทธ์ และแนวทางปฏิบตั ิของกลยุทธ์
ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การศกึ ษาเพ่อื เสรมิ สร้างความมนั่ คง เปา้ หมายเชงิ ยุทธศาสตร์
๑. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความภาคภูมิใจและความจงรักภักดีต่อสถาบันหลัก
และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ
๒. ประชาชนในจังหวดั ชายแดนภาคใตอ้ ย่รู ว่ มกนั อยา่ งมคี วามสุข ในสังคมพหวุ ัฒนธรรม
๓. ประชาชนในจงั หวัดชายแดนภาคใต้มีคุณธรรม จริยธรรม มคี วามเปน็ พลเมืองไทย และพล
โลก สามารถดำรงตนได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กลยทุ ธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ัตขิ องกลยทุ ธต์ ามยุทธศาสตร์ที่ ๑
กลยุทธ์ท่ี ๑ เสริมสร้างความภาคภูมิใจ และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และ
พระมหากษตั ริย์
๑) พัฒนาหลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมความภาคภูมิใจ ความจงรักภักดี
ตอ่ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
๒) ส่งเสริมสนับสนุนให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างความภาคภูมิใจและความ
จงรกั ภักดี ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์
๓) ผลติ ส่ือสรา้ งสรรคใ์ นทุกช่องทางการสื่อสารที่เสริมสร้างความมน่ั คงแก่สถาบันชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์
๔) ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ผ่าน
กระบวนการเรยี นการสอนกจิ กรรมสภานักเรยี นและการจดั กจิ กรรมเสรมิ ในรูปแบบตา่ งๆ
กลยุทธ์ที่ ๒ เสริมสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างมคี วามสขุ ในสงั คมพหวุ ัฒนธรรม
๑) สง่ เสรมิ ให้สถานศกึ ษาจัดการเรียนรกู้ ารอย่รู ่วมกันในสงั คมพหวุ ัฒนธรรม
๒) ส่งเสริมให้สถานศึกษานำกระบวนการสันติศึกษา ไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อการอยู่
ร่วมกันอย่างมีความสุขผ่านกิจกรรมต่างๆจัดตั้งพัฒนาศูนย์การเรียนรู้หรือแหล่งเรียนรู้พหุวัฒนธรรม จังหวัด
ชายแดนภาคใต้ในสถานศกึ ษา
กลยุทธ์ที่ ๓ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมที่เน้นความมีวินัย ในตนเอง ความเป็นพลเมืองไทย
พลโลก และการดำรงตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจและ สงั คม
๑) พัฒนาผูน้ ำ ผบู้ ริหารการศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาท้ังภาครัฐและเอกชนผ่านหลักสูตร
และกิจกรรมการพัฒนาท่ีหลากหลายเข้มข้น ให้มีศักยภาพในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของแต่ละพื้นที่
อย่างต่อเนื่องยงั่ ยนื
๒) ส่งเสริมการจัดทำและพัฒนาหลักสูตรเก่ียวกับคุณธรรมจริยธรรมท่ีสอดคล้องกับวิถีชีวิต
และความเป็นอตั ลักษณข์ องพน้ื ที่
๓) ส่งเสริมให้สถานศึกษาจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม ความเป็น
พลเมือง ไทยและพลโลกเพ่ือเสริมสร้างความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงใน
อนาคต
กศน.ตำบลตะมะยูง
หน้า 44
๔) ปลูกฝังความมีวินัยในตนเองผ่านกิจกรรมต่างๆท่ีหลากหลายเช่น ลูกเสือ-เนตรนารี
ยุวกาชาด กิจกรรมกีฬาค่ายเยาวชนกลุ่มเยาวชนจิตอาสาอย่างหลากหลาย ภายใต้ความร่วมมือจากผู้ปกครอง
ชุมชน และผลิตสือ่ สรา้ งสรรค์ในการส่งเสริมการปลูกฝังคณุ ธรรม จริยธรรม
๕) ส่งเสริมการนอ้ มนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสกู่ ารปฏิบตั ทิ ี่เปน็ รูปธรรม โดย การ
พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นสถานศึกษาพอเพียงที่ย่ังยืน พัฒนาศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ในสถานศึกษา
และชุมชนให้ครอบคลมุ ทุกพน้ื ท่ี
ยุทธศาสตร์ท่ี ๒ การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป้าหมายเชิง
ยุทธศาสตร์
๑. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถตามช่วงวัย และมี
ศักยภาพ รองรบั การพฒั นาพ้นื ท่ี เขตพัฒนาพเิ ศษเฉพาะกิจจงั หวัดชายแดนภาคใต้
๒. ประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตพร้อมรับบริบท การ
เปลีย่ นแปลง ทง้ั ภายในและภายนอกประเทศ
กลยทุ ธ์และแนวทางการปฏิบตั ขิ องกลยทุ ธ์ตามยทุ ธศาสตร์ท่ี ๒
กลยุทธท์ ่ี ๑ ส่งเสรมิ และพัฒนาผู้เรียนใหม้ ีคุณภาพและมที ักษะทจี่ ำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑
๑) ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการเด็กปฐมวยั ให้มีพัฒนาการท่ีเหมาะสมตามวัยการพัฒนา
ศักยภาพของครแู ละผู้สอนการพัฒนาคุณภาพสภาพแวดล้อมและห้องเรียนปฐมวัยการใช้วรรณกรรมเป็น ฐาน
และการพฒั นาการสร้างองค์ความรู้แกผ่ ปู้ กครองและการจัดหาผลิตส่ือสร้างสรรค์ท่ีเหมาะสมกบั การเรียนรโู้ ดย
การบูรณาการรว่ มกันของทกุ หน่วยงานที่รับผดิ ชอบทัง้ ภาครัฐ สว่ นท้องถ่ินและเอกชน
๒) พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานให้มีคุณภาพ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางและ
บรบิ ท ของพนื้ ที่
๓) จัดทำและพัฒนาหลักสูตรด้านอาชีพเช่ือมโยงกันต้ังแต่ระดับประถม มัธยมศึกษ า
อาชีวศกึ ษา อดุ มศกึ ษาการศึกษานอกระบบการศึกษาตามอธั ยาศยั ตามบริบทของพน้ื ท่ี
๔) พัฒนารูปแบบการเรียนรทู้ ่ีจำเป็นสำหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ ๒๑ ส่งเสริมการเรียนรู้แบบ
คดิ วิเคราะห์ การสร้างและพฒั นานวัตกรรม อาทิ การเรยี นการสอนแบบสะเต็มศึกษา การสอนแบบโครงงาน
๕) ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาต่อเน่ืองตลอดชีวิต โดยเนน้ การพัฒนาศูนย์การ
เรยี นรรู้ ะดบั ตำบล ให้มคี วามพร้อมและได้มาตรฐาน
๖) พัฒนาทักษะการใช้ภาษาแม่ และภาษาท่ี ๒ เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษามลายู
กลาง ภาษาจนี ภาษาอาหรบั
๗) การใช้ICT เพื่อการส่ือสาร การประกอบอาชีพ และการจัดตั้งศูนย์ภาษาและเทคโนโลยี ท่ี
ทันสมัยให้ครอบคลุมพ้ืนท่ี
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 45
กลยุทธ์ท่ี ๒ ผลิตและพัฒนาครู ใหม้ ีศักยภาพ และขีดความสามารถในการจัดการเรยี น การสอน
ให้สอดคล้องกบั บริบทของพน้ื ท่ี
๑) ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษา กำหนดคุณลักษณะและผลิตครู ให้สอดคล้องกับบริบทของ
พ้นื ท่ี
๒) จัดต้ังศนู ย์พัฒนาครู บุคลากรทางการศกึ ษา และผู้สอนสำหรบั จังหวดั ชายแดนภาคใต้ โดย
เนน้ อุดมการณข์ องการเป็นครู
๓) ส่งเสริมการพัฒนาครู ผู้สอน และบุคลากรทางการศึกษา ในรูปแบบท่ีหลากหลาย
สอดคล้อง กับความต้องการที่แท้จริง เน้นการสร้างเครือข่ายการพัฒนาในรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทาง
วิชาชีพ (PLC) และสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาครู ผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาทั้งภาครัฐและ
เอกชน
๔) จัดให้มีการนำผลการพัฒนามาใช้ในการปฏิบัติงาน พัฒนาประเมินผลการปฏบิ ัติงานอย่าง
เป็น ระบบครบวงจร
กลยุทธ์ท่ี ๓ ส่งเสริมและพัฒนา ส่ือการเรียนรู้ต่างๆ แหล่งเรียนรู้ให้มีมาตรฐาน เปิด โอกาสให้
ประชากรทกุ ช่วงวัยได้เข้าถึงแหล่งเรยี นรู้ ทส่ี อดคลอ้ งกบั บรบิ ทของพื้นที่
๑) จัดหา พัฒนา ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่สอดคล้องกับ ความ
ต้องการ จำเป็นและบริบทของพ้ืนท่ีโดยจัดตั้ง “ศูนย์ผลิต พัฒนาส่ือและเทคโนโลยีการศึกษา” ท่ีเหมาะกับ
สภาพสงั คมโดยความร่วมมอื ของหนว่ ยงาน ทัง้ ภาครฐั เอกชนและองค์กรเอกชน เพื่อสาธารณประโยชน์ (NGO)
๒) สร้างและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ท่ีทันสมัย ได้แก่อุทยานการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ทาง
ประวตั ศิ าสตร์ ศนู ย์การเรียนรชู้ ุมชน หอ้ งสมุดชุมชน
๓) ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการรวบรวม อนุรักษ์ และใช้ ปราชญ์ชาวบ้านและภูมิปัญญา
ท้องถิ่น ทสี่ อดคลอ้ งกับอตั ลกั ษณ์ของพ้นื ที่
๔) ส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่ายสังคมรูปแบบต่างๆ เพ่ือ
สรา้ ง สังคมแหง่ การเรยี นรูแ้ ละการเรียนรู้ตลอดชวี ิต
กลยุทธ์ที่ ๔ พัฒนาศักยภาพกลุ่มผู้สูงวัยให้สามารถประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับวัยและ การ
ดำรงชีวิตอยา่ งมคี วามสุข
๑) ส่งเสริมการรวมกลุ่มการเรียนรู้ร่วมกันของผู้สูงวัย โดยการจัดตั้งศูนย์ฝึกอาชีพผู้สูงวัย ใน
ชมุ ชนใหค้ รอบคลมุ พืน้ ที่
๒) ส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมและแลกเปล่ียนประสบการณ์ร่วมกันของผู้สูงวัยในชุมชน
ส่งเสริม ให้ผู้สูงวัยท่ีเป็นปราชญ์ชาวบ้าน ครูผู้ทรงคุณค่าที่มีศักยภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการ
สอน ในสถานศึกษาตามความสมัครใจ
ยทุ ธศาสตร์ที่ ๓ การผลิตและพัฒนากำลงั คนใหม้ สี มรรถนะในการแขง่ ขนั
เปา้ หมายเชิงยุทธศาสตร์
๑. ประชากรวัยแรงงานมที กั ษะและสมรรถนะทั้งความรู้ ทักษะ คุณลกั ษณะดา้ นอาชีพ สอดคล้องกับ
ความตอ้ งการของตลาดงาน และได้รบั การสง่ เสริมสนับสนุนสคู่ วามเป็นเลศิ
๒. ประชากรวัยทำงานมคี วามเชีย่ วชาญ และมคี วามเปน็ เลิศเฉพาะดา้ น
กศน.ตำบลตะมะยงู
หน้า 46
กลยุทธแ์ ละแนวทางการปฏบิ ัติของกลยุทธต์ ามยทุ ธศาสตร์ท่ี ๓
กลยุทธ์ท่ี ๑ ผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีคุณภาพและปริมาณให้สัมพันธ์กับความต้องการ ของ
ตลาดแรงงานในพนื้ ท่ีระดบั ประเทศและระดับสากล
๑) ศึกษาและจัดทำข้อมูลความต้องการการผลิตและพัฒนากำลังคน ทั้งด้านปริมาณและ
คุณภาพ ตามนโยบายเมืองต้นแบบสามเหล่ียมม่ันคง มั่งคั่งและย่ังยืน และตามกรอบความร่วมมือกลุ่ม
ประชาคม เศรษฐกิจอาเซยี นและสากล
๒) พัฒนาคุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษาด้วยการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ
ฝีมือ แรงงานผู้เรยี นสมู่ าตรฐานสากล
๓) พัฒนาครู ผู้สอนและบุคลากรทางการศึกษาให้สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ สอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรด้านอาชพี
๔) พัฒนาระบบการแนะแนวให้มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาครูที่ปรึกษาให้เป็น ครู
แนะแนว และเพ่ิมประสทิ ธิภาพการแนะแนวอาชีพ เพอื่ เพ่ิมสัดสว่ นผู้เรยี นสายอาชีพใหส้ งู ขน้ึ
๕) เพมิ่ ปริมาณผู้เรยี นหลักสูตรทวศิ กึ ษา/ทวภิ าคี ภายใต้ความร่วมมือกับสถานประกอบการ
กลยุทธ์ที่ ๒ ส่งเสรมิ การผลติ และพัฒนากำลงั คนที่มคี วามเชยี่ วชาญและเป็นเลิศเฉพาะดา้ น
๑) พัฒนาหลกั สตู รสมรรถนะในสาขาทตี่ รงกับความตอ้ งการของตลาดและการพฒั นาประเทศ
๒) ส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนระดับอาชีวศึกษาให้มีสมรรถนะ และมีความพร้อมสู่ความ
ตอ้ งการของตลาดงาน เชน่ อตุ สาหกรรมฮาลาล อาหารทะเลแปรรูป
๓) พัฒนาหลักสูตรเพ่ือเสริมความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ แบบครบวงจร ทั้งกระบวนการ
ผลติ แปรรูปการจัดจำหน่าย การตลาดและการดำเนนิ การในเชงิ ธุรกิจ
๔) ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษามีความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยการใช้งานวิจัยท้องถ่ินและ
การสรา้ งนวตั กรรม เพือ่ เป็นฐานในการพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมในพนื้ ท่ี
๕) สานฝันกีฬา สู่ความเป็นเลิศและอาชีพ พร้อมร่วมกับหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ ผลักดันให้มี
การ สร้างความพรอ้ มรองรบั การแข่งขันกีฬาระดบั ภาค ระดบั ชาตแิ ละระดับนานาชาติ
๖) ส่งเสริมสนับสนุนการจัดห้องเรียนพิเศษ(ห้องเรียนกีฬา ห้องเรียนศิลปะ ห้องเรียนดนตรี
ห้องเรียนอาชีพ) แผนการเรียนเฉพาะด้าน (แผนการเรียนวิทย์–กีฬา แผนการเรียนศิลป์ภาษา–กีฬา แผนการ
เรียนศิลป์ –อาชีพ)
๗) พัฒนาสถานศึกษาท่ีเน้นการเรียนการสอน ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อย่างน้อย
จงั หวัดละ ๑ แห่ง
๘) พัฒนาระบบการจัดกจิ กรรมการแข่งขนั วชิ าการใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพเนน้ การดำเนินงานที่เป็น
ระบบครบวงจรและการมีส่วนร่วมอย่างท่ัวถึงของทุกภาคและส่งเสริมการจัดประกวด แข่งขนั ส่ิงประดิษฐ์ และ
นวตั กรรมในประเทศและระหว่างประเทศ
๙) พัฒนาสถานศึกษาท่ีมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ให้มีความพร้อม เพื่อยกระดับเป็น
โรงเรียน ท่ีมีวัตถุประสงค์พิเศษด้านต่างๆ และพัฒนาสู่การศึกษาระดับนานาชาติ และการจัดการศึกษาใน
รูปแบบ โรงเรียนพกั นอนตามความเหมาะสมตามบรบิ ทพ้ืนท่ี
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 47
กลยทุ ธ์ที่ ๓ การเพ่ิมโอกาสการเรยี น และการฝกึ อบรมวิชาชพี ให้กบั กล่มุ ผ้อู ยู่นอกระบบ
๑) พฒั นาและตอ่ ยอดผลติ ภัณฑ์ชุมชนสู่มาตรฐานเพ่ือยกระดับเป็นผลิตภัณฑ์สรา้ งสรรค์ ของ
ชุมชน
๒) ฝึกอาชพี ระยะส้ันตามความต้องการของตลาดงาน
๓) จัดการเทยี บโอนประสบการณ์ในการท างานเพื่อให้คณุ วฒุ ทิ างการศึกษา
๔) ส่งเสริม สนับสนุนอบรมวิชาชีพเพื่อการพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิมหรือสร้างอาชีพใหม่
สำหรับผูป้ ระกอบอาชีพอสิ ระ
ยุทธศาสตรท์ ี่ ๔ การสรา้ งโอกาสความเสมอภาคและเทา่ เทียมกนั ทางการศกึ ษา
เป้าหมายเชิงยทุ ธศาสตร์
๑. ประชาชนกลุ่มที่ด้อยโอกาสทางสังคมได้รับการช่วยเหลือให้มีความพร้อมในการเข้าถึง
บริการการศึกษา
๒. ประชาชนได้รับโอกาสในการเขา้ ถึงบริการการศกึ ษาอย่างมีคณุ ภาพต่อเน่ืองตลอดชีวิต
กลยุทธแ์ ละแนวทางการปฏิบตั ิของกลยทุ ธ์ตามยทุ ธศาสตร์ท่ี ๔
กลยทุ ธท์ ่ี ๑ ลดความเหล่อื มลำ้ ทางการศกึ ษา
๑) ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ด้อยโอกาสทุกกลุ่มมีความพร้อมในการศึกษา อาทิ การสนับสนุน
ทุนการศึกษาสำหรับผู้ด้อยโอกาส คนพิการ หรือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ ทุนการศึกษา
สำหรบั ผู้เรียนในการศึกษาต่อ
๒) ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ใหผ้ ู้ดอ้ ยโอกาส คนพิการได้รบั การศึกษาทมี่ ีคุณภาพเสมอภาค
๓) การจัดการศึกษาทางไกลโดยใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาและการส่ือสาร อาทิ DLIT,
DLTV, ETV อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
๔) ขยายเครือข่ายบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกพ้ืนพ้ืนที่ เพียงพอกับผู้เรียน
และ จดั ให้มศี ูนย์บรกิ ารอินเทอรเ์ นต็ ในสถานศกึ ษาทมี่ ีความพร้อมในการให้การบรกิ ารชุมชน
กลยทุ ธ์ที่ ๒ เพมิ่ โอกาสการเขา้ ถึงการศกึ ษาท่มี ีคุณภาพอยา่ งเท่าเทียมและทว่ั ถึง
๑) พัฒนาระบบข้อมูลด้านการศึกษาท่ีมีมาตรฐานเช่ือมโยงและเข้าถึงได้ระหว่างหน่วยงาน
การศึกษาและหน่วยภายนอกที่เกี่ยวข้องโดยการจัดทำแผนที่การศึกษา (Education Mapping) และ น า
SMART Card มาใชใ้ นการใหบ้ ริการการศึกษา
๒) รณรงค์ให้ประชากรวัยเรียนได้เข้าถึงบริการระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน ผ่านการ
ประชาสัมพนั ธ์ เชิงรุกและความร่วมมือของเครอื ขา่ ยชมุ ชน และหนว่ ยงานในพื้นที่
๓) เรง่ พัฒนาสถานศึกษาใหม้ มี าตรฐานการศกึ ษาทีท่ ดั เทยี มและใกล้เคยี งกัน
๔) พัฒนาระบบการเทียบโอนผลการเรียนรู้ระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ
การศึกษาตามอธั ยาศัย และประสบการณจ์ ากการทำงาน
ยทุ ธศาสตร์ที่ ๕ การจดั การศึกษาเพอื่ เสรมิ สรา้ งคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกบั ส่งิ แวดล้อม
เป้าหมายยุทธศาสตร์
๑. ประชาชนมีองค์ความรู้จิตสำนึกในการใช้และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่งิ แวดล้อม
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 48
๒. สถานศึกษาชมุ ชนมีความเขม้ แข็งในการอนุรักษ์ฟื้นฟู ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม
กลยทุ ธแ์ ละแนวทางการปฏิบัตขิ องกลยทุ ธต์ ามยทุ ธศาสตรท์ ่ี ๕
กลยุทธท์ ่ี ๑ สง่ เสรมิ สนบั สนุนการสรา้ งจติ สำนึกรบั ผิดชอบต่อทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
๑) จัดทำหลักสูตร การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมในระดับการศึกษาต่างๆ
ทงั้ ในระบบและนอกระบบ
๒) ปลกู ฝงั และสง่ เสรมิ การสร้างสำนกึ รกั ษส์ ิง่ แวดล้อม
๓) พัฒนาครู ผู้สอนและบคุ ลากรทางการศึกษาเกี่ยวกับการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร
กบั สิง่ แวดล้อม
๔) กำหนดมาตรฐานสถานศึกษานา่ อยู่นา่ เรยี นรู้ และพัฒนาสถานศึกษาเข้าสมู่ าตรฐาน พรอ้ ม
ทงั้ ยกยอ่ งเชิดชเู กียรติสถานศึกษาทผ่ี ่านเกณฑม์ าตรฐาน
๕) สร้างเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนา อนุรักษ์และฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติ
สงิ่ แวดล้อม ในสถานศกึ ษาและชมุ ชน
กลยุทธ์ที่ ๒ พัฒนาองค์ความรู้การคิดค้นนวัตกรรมเพ่ือเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับ
สิ่งแวดล้อม
๑) พัฒนาฐานข้อมูลแหลง่ เรยี นรูท้ เ่ี กีย่ วข้องกบั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อมในชมุ ชน
๒) สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจในการใช้และอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
๓) ส่งเสริมให้สถานศึกษา ศึกษาวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรมท่ีเกี่ยวกับการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม โดยมงุ่ เน้นการแสวงหาแหล่งพลงั งานใหมท่ เ่ี ปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ ม
ยทุ ธศาสตร์ท่ี ๖ การพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การศึกษา
เปา้ หมายยทุ ธศาสตร์
๑. ผู้เรียน ครู คณาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา มีความปลอดภัยในชีวิต
และทรัพยส์ นิ มีขวญั กำลงั ใจในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี
๒. หน่วยงาน/สถานศึกษามีระบบบริหารจัดการและมีการทำงานเชิงการบูรณาการกับ ทุก
หน่วยงานในพ้ืนที่อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพทนั สมยั โปรง่ ใส ตรวจสอบได้
๓. ทกุ ภาคส่วนเข้ามามีสว่ นในการจดั การศกึ ษาในรปู แบบการสานพลังประชารัฐ
กลยุทธ์และแนวทางการปฏบิ ัตขิ องกลยทุ ธ์ตามยุทธศาสตรท์ ี่ ๖
กลยุทธ์ท่ี ๑ รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เรียน ครู คณาจารย์ บุคลากร ทาง
การศึกษา สถานศึกษาและหนว่ ยงานทางการศกึ ษา
๑) สรา้ งความเขม้ แข็งของเครือข่ายทุกภาคส่วนในการเฝ้าระวังเหตกุ ารณค์ วามไม่สงบ
๒) ส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนที่ได้รับรู้ข่าวสารและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสถานการณ์
จรงิ
๓) ส่งเสริมให้ประชาชนในพ้ืนที่ร่วมกันกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นท่ีตนเอง
ในการดแู ลชีวิตและทรพั ย์สินของผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา สถานศึกษาและหนว่ ยงานทางการศึกษา
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 49
๔) นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ความไม่สงบในสถานศึกษาและ
หนว่ ยงานทางการศึกษา
กลยทุ ธท์ ี่ ๒ การเสริมสรา้ งขวัญและกำลังใจแกผ่ ปู้ ฏิบตั ิหน้าท่ีในพื้นทจ่ี ังหวดั ชายแดนภาคใต้
๑) สร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าท่ีของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ทกุ ระดับ โดยการยกยอ่ ง เชดิ ชเู กียรตเิ ป็นกรณีพิเศษสำหรบั พน้ื ทจ่ี ังหวดั ชายแดนภาคใต้
๒) ส่งเสริมให้มีค่าตอบแทนพิเศษแก่ข้าราชการครูและบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าท่ีในพ้ืนท่จี ังหวัด
ชายแดนภาคใต้และส่งเสริมให้ผูป้ ฏิบัตหิ น้าท่ีในจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ไดม้ ีโอกาสบรรจุเขา้ รับราชการ เป็นกรณี
พิเศษ
๓) ส่งเสริม สนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มี
สวสั ดิการดา้ นท่อี ยอู่ าศัย
๔) ผลักดันให้มีการกำหนดเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะ หรือเกณ ฑ์การประเมิน
ความก้าวหน้า ในวิชาชีพ ของครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็น
กรณพี เิ ศษ
กลยุทธท์ ี่ ๓ พฒั นาประสิทธิภาพการบรหิ ารจดั การศึกษา
๑) พัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษาที่สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษาแต่ละ
ระดบั ท่ีครอบคลมุ ทัง้ มาตรฐาน รปู แบบการประเมนิ รูปแบบการพฒั นาตามผลการประเมิน และการรับรอง ผล
การประเมิน
๒) สร้างความเข้มแข็งของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบทุกระดับท้ังภาครัฐ เอกชน ให้
สอดคล้อง กบั เจตนารมณ์การแก้ปญั หาจงั หวดั ชายแดนภาคใต้
๓) พัฒนาระบบการบริหารจัดการของหน่วยงานทางการศึกษาสู่ความเป็นองค์กรท่ีมี ขีด
สมรรถนะสูง โดยใช้รูปแบบการบริหารสมัยใหม่และนำเทคโนโลยีท่ีทันสมัยมาใช้ในการเพิ่ม ประสิทธิภาพการ
บริหารจัดการศกึ ษาทั้งระบบทกุ ระดบั สู่ SMART Office
๔) ปรบั ปรุงประสิทธิภาพการติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานทางการศึกษา
และสถานศกึ ษา ให้เป็นระบบครบวงจร
๕) สร้างภาพลักษณ์ของหน่วยงานทางการศึกษา และสถานศึกษาให้เป็นที่ยอมรับ ด้วยการ
ส่ือสาร องคก์ ร การประชาสมั พันธ์ และการตลาดเชงิ รุกแบบมืออาชพี
กลยุทธ์ที่ ๔ ส่งเสริมการท างานเชิงบูรณาการการศึกษากับหน่วยงานทุกระดับและการมี ส่วน
รว่ มการจัดการศกึ ษา
๑) ส่งเสริมให้มีการบูรณาการ การจัดการศึกษาระหว่างหน่วยงานการศึกษาและหน่วยงาน
อื่น ในพื้นที่เพือ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุดในการใช้ทรัพยากรรว่ มกนั
๒) สร้างความเข้มแข็งขององค์คณะบุคคลทางการศึกษาและภาคีเครือข่าย ในการบูรณาการ
การพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาในพืน้ ท่ี
๓) เสริมสร้างความเข้มแขง็ ของศูนย์ประสานงานและบริหารการศกึ ษาจังหวดั ชายแดนภาคใต้
(ศปบ.จชต.) ให้เป็นองค์กรในการบูรณาการ การจัดการศึกษาทุกระดับทุกประเภท ในพ้ืนท่ีได้อย่างมี
ประสิทธภิ าพ
กศน.ตำบลตะมะยูง
หนา้ 50