พลังงานกับการเกิด
สารประกอบไอออนิก
และสมการไอออนิก
กิจกรรมของสมาชิกในกลุ่ม
น.ส.แพรวา กัญจนชุมาบุรพ เลขที่ 22 -หัวหน้ากลุ่ม
-รับผิดชอบการค้นคว้าเรื่องวัฏจักรบอร์น ฮาร์เบอร์
-นำเสนอ
น.ส.เพ็ญพิชชา วันเพ็ญ เลขที่ 21 -รับผิดชอบการศึกษาค้นคว้าเรื่องการเกิดสารประกอบไอออนิก
-นำเสนอ
น.ส.ณวัฒน์ฐินี ชูมนต์ เลขที่ 26 -รับผิดชอบการศึกษาค้นคว้าเรื่องสมการไอออนิก
-นำเสนอ
นายปวิช หิ้นนรานุกูล เลขที่ 6 -รับผิดชอบการศึกษาค้นคว้าเรื่องการคำนวณพลังงาน
-นำเสนอ
เนื้อหา การเกิด การคำนวณ
พันธะไออนิก หาพลังงาน
วัฏจักรบอร์น- สมการไอออนิก
ฮาร์เบอร์
การเกิดพันธะไอออนิก
แรงดึงดูดระหว่างประจุบวก และ ประจุลบที่เกิดจากการให้และรับอิเล็กตรอนของธาตุ
เพื่อให้อิเล็กตรอนวงนอกสุดกลายเป็น 8
พลังงานที่เกี่ยวข้อง
กับโลหะ
โลหะ(s) โลหะ(g) พลังงานการระเหิด(△Hsup)
โลหะ(l) โลหะ(g) พลังงานการระเหย(△H vap )
โลหะ(s) โลหะไอออนบวก(g)+ne- พลังงานไอออไนเซชัน(IE)
พลังงานที่เกี่ยวข้องกับ
อโลหะ
X2(I) X2(g) พลังงานการระเหย(△Hvap)
X2(g ) 2X(g) พลังงานการสลายพันธะ(D)
X(g)+me- Xm-(g) พลังงานสัมพันธภาพอิเล็กตรอน(EA)
พลังงานที่เกี่ยวข้องกับไอออน
บวกและไอออนลบ
โลหะไอออนบวก(g) + โลหะไอออนลบ(g) สารประกอบไอออนิก(s)
พลังงานโครงผลึกหรือพลังงานแลตทิช
Lattice energy : U
พลังงานที่เกี่ยวข้องกับไอออน
บวกและไอออนลบ
โลหะ(s) + อโลหะ(l.g) สารประกอบไอออนิก(g)
พลังงานรวมของการเกิดปฏิกิริยา
heat of formation : △HF
สรุปการเกิดพันธะไออนิก
เกิดกับธาตุที่มีค่า EN ต่ำ(พวกโลหะ) จะให้อิเล็กตรอน และ ธาตุที่มีค่า EN
สูง(พวกอโลหะ) จะรับอิเล็กตรอน
เกิดกับโลหะทรานซิชันกับธาตุอโลหะ
เกิดกับกลุ่มที่เป็นประจุบวกกับธาตุอโลหะ หรือ กลุ่มธาตุประจุลบ
กับธาตุโลหะ
วัฏจักรบอร์น-ฮาร์เบอร์
แผนผังแสดงขั้นตอนการเกิดปฏิกิริยาและการเปลี่ยนแปลงพลังงานในแต่ละขั้น
ดูดพลังงาน [+] คายพลังงาน [-]
สร้าง คาย | สลาย ดูด
ตัวอย่าง NaCl (s)
Na (s) + Cl2(g)
ธรรมชาติของโลหะ สิ่งที่ต้องทำ!
จะมีสถานะเป็น
ของแข็ง (s) 1) โลหะ—> ion+ ในสถานะ gas
2) อโลหะ —> ion - ในสถานะ gas
Na (s) → Na (g) ; ΔH1 = +107 kJ/mol
Na (g) → Na+(g) + e- ; ΔH2 = + 496 kJ/mol
Cl2(g) → Cl (g) ; ΔH3 = +122 kJ/mol
Cl (g) + e- → Cl-(g) ; ΔH4 = -349 kJ/mol
Na+(g) + Cl-(g) → NaCl (s) ; ΔH5 = -787 kJ/mol
สมการรวม Na(s) + Cl2(g) → NaCl(s) ; ΔHf = -411 kJ/mol
Na+ (g) + e- + Cl (g)
4 EA = -349 kJ
3 1/2 D = +122 kJ Na+(g) + Cl -(g)
Na+(g) + e + 1/2 Cl2 (g)
Na (g) + 1/2 Cl 2(g) 2 IE = +496 kJ
Na (s) + 1/2 Cl2(g)
5 U = -787 kJ
1 Hsub = +107 kJ
H f = -411 kJ
NaCl (s)
แผนภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงพลังงานการเกิดโซเดียมคลอไรด์
Na+ (g) + e- + Cl (g)
4 EA = -349 kJ
3 1/2 D = +122 kJ Na+(g) + Cl -(g) Cl รับ e
Na+(g) + e- + 1/2 Cl2 (g)
Na (g) + 1/2 Cl 2(g) 2 IE = +496 kJ
Na (s) + 1/2 Cl2(g)
5 U = -787 kJ
เปลี่ยนสถานะ 1 Hsub = +107 kJ
H f = -411 kJ
NaCl (s)
H f = (+107)+(+122)+(+496)+(-349+(-787) = -411 kJ/mol
Li+(g) + e-+ F (g)
4 EA = -328 kJ
Li+(g) + e + 1/2 F 2(g) 3 1/2 D = +75.3 kJ Li+ (g) + F-(g)
Li (g) + 1/2 F2 (g) 2 IE = +520 kJ
Li (s) + 1/2 F2 (g)
5 U = -1017 kJ
1 Hsub = +155.2 kJ
H f = -594.1 kJ
LiF (s)
แผนภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงพลังงานการเกิดลิเทียมฟลูออไรด์
การคำนวนพลังสารไอออนิก
ปฎิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นจะมีการเปลี่ยนเเปลงพลังงานการเกิด การสร้างพันธะจะมีการ
คายความร้อน แต่การสลายพันธะจะมีการดูดความร้อน แต่ในทางปฎิบัติจะไม่สามารถ
วัดพลังงานโครงผลึกได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องคำนวนจากปฎิกิริยาย่อยหลายๆปฎิกิริยา
ตามวัฎจักร บอร์น ฮาเบอร์
1.พลังงานการระเหิด
2.พลังงานพันธะ
3.พลังงานไออนไนเซชั่น
4.สัมพรรคภาพอิเล็กตรอน
5.พลังงานโครงผลึก
ค่าพลังงานสามารถคำนวนได้จาก
พลังงานการเกิด=พลังงานการระเหิด
+พลังงานพันธะ+พลังงานไออิไนเซชั่น+สัมพรรคภาพ
อิเล็กตรอน+พลังงานแลตทิซ
เมื่อเเทนค่าจะได้ว่า
-411=107+496+121+(-349)+พลังงานแลคทิช
ดังนั้น พลังงานแลคทิช=-786 kJ/mol. มีค่าพลังงานเป็นลบ
แสดงว่าเป็นการคายความร้อน
สมการไอออนิก
คือ สมการที่แสดงไอออนบวกและไอออนลบของสารประกอบไอออนในสารละลายทั้งหมด
หลักการเขียนสมการไอออนิก
1.เขียนเฉพาะไอออนหรือโมเลกุลที่ทำปฏิกิริยากัน
2.ถ้าสารที่เกี่ยวข้องในปฏิกิริยาเป็นสารที่ไม่ละลายน้ำหรือไม่แตกตัวเป็นไอออนให้เขียนสูตรโมเลกุลของ
สารนั้นในสมการได้
3.ดุลสมการไอออนิก โดยทำให้จำนวนอะตอมและจำนวนไอออนของทุกธาตุเท่ากัน รวมทั้งประจุรวม
ทั้งซ้ายและขวาต้องเท่ากันด้วย
ไอออนิกสุทธิ
คือ สมการที่แสดงเฉพาะไอออนบวกและไอออนลบที่ทำปฏิกิริยากัน
หลักการเขียนสมการไอออนิกสุทธิ
1.สมการเชิงโมเลกุล เขียนปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งระบุสถานะและดุลสมการที่ได้
2.สมการไอออนิกรวม เขียนการแตกตัวของเกลือที่ละลายน้ำ ส่วนเกลือที่ไม่ละลายน้ำจะไม่
ถูกแตกตัวออกมา
3.สมการไอออนิกสุทธิจะเขียนเฉพาะไอออนบวก/ไอออนลบที่ทำให้เกิดเกลือที่ไม่ละลายน้ำ
โดยหักล้างไอออนบวก/ไอออนลบ ที่เหมือนกันจากสมการไอออนิกรวม
ตัวอย่าง
Thank You For
YOUR ATTENTION
See you next time!