เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
การบริหารราชการแผ่นดิน ได้กาหนดกรอบการบริหารราชการ
แผ่นดินไว้ 7 ประการ คือ ต้องเป็นไปเพ่ือประโยชน์สุขของประชาชน เกิด
ผลสัมฤทธ์ิต่อภารกจิ ของรฐั ความมปี ระสิทธิภาพ ความคุ้มค่าในเชิงการกิจ
แห่งรัฐ การลดข้ันตอนการปฏิบัติงาน การลดภารกิจและยุบเลิกหน่วยงาน
ที่ไม่จาเป็น การกระจายภารกิจและทรัพยากรให้แก่ท้องถิ่น การกระจาย
อานาจตัดสินใจการอานวยความสะดวกและการตอบสนองความต้องการ
ของประชาชน ทง้ั นี้ โดยมผี รู้ ับผดิ ชอบตอ่ ผลของงาน
1. การจัดระเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นกลาง
ให้จดั ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง ดงั น้ี
1.1 สานกั นายกรฐั มนตรี
1.2 กระทรวง หรอื ทบวงซงึ่ มฐี านะเทียบเท่ากระทรวง
1.3 ทบวง
1.4 กรม
ส่วนราชการทั้ง 4 ส่วน เป็นนิติบุคคลโดยการจัดตั้งการรวม หรือ
การโอนส่วนราชการให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ แต่ถ้าการรวมหรือการ
โอนส่วนราชการ โดยไม่มีการกาหนดตาแหน่งหรืออัตราของข้าราชการ
หรือลูกจ้างเพ่ิมขึ้น หรือยุบให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา และกาหนดให้
สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนและสานักงบประมาณมีหน้าท่ี
ตรวจสอบดูแลมิให้มีการกาหนดตาแหน่งหรืออัตราของข้าราชการหรือ
ลูกจ้างของส่วนราชการท่ีจัดตั้งข้ึนใหม่จนกว่าจะครบกาหนดสามปี หากมี
การเปล่ียนชื่อสว่ นราชการให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
ขา้ ราชการหรือลูกจ้างซงึ่ ตอ้ งพ้นจากราชการเพราะเหตุยุบตาแหน่ง อัน
เน่ืองมาแต่การยุบส่วนราชการให้ข้าราชการหรือลูกจ้างได้รับเงินชดเชยตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดในพระราชกฤษฎีกา การแบ่งส่วนราชการ
ภายในสานักงานรฐั มนตรี กรม ใหอ้ อกเป็นกฎกระทรวงทต่ี ราโดยรัฐมนตรีเจ้า
สั่งกัดและเสนอความเห็นร่วมกับสานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
และสานักงบประมาณ
1.1 การจัดระเบยี บราชการในสานกั นายกรฐั มนตรี
ไดก้ าหนดโครงสรา้ งไว้ ดงั นี้
1.1.1 สานักนายกรฐั มนตรมี ฐี านะเป็นกระทรวง สว่ นราชการภายใน
สานักนายกฯ มีฐานะเป็นกรม มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชา
ข้าราชการและรับผิดชอบในการกาหนดนโยบายเป้าหมาย ให้สอดคล้อง
กับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือท่ีคณะรัฐมนตรี กาหนด
โดยจะให้มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรีเป็น
ผู้ช่วย ท้ังน้ีการส่ังและการปฏิบัติราชการของรองนายกรัฐมนตรีและ
รัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามท่ีนายกรัฐมนตรี
มอบหมาย หากไม่มีนายกรัฐมนตรีด้วยเหตุใดก็ตาม ให้คณะรัฐมนตรี
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรคี นใดคนหน่ึงเป็นผู้ปฏบิ ัติหน้าที่แทน หรือ
รัฐมนตรคี นใดคนหนง่ึ เป็นผู้ปฏบิ ตั ิหนา้ ทแี่ ทนกไ็ ด้
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
1.1.2 นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมีอานาจหน้าที่กากับ
โดยทว่ั ไป ซ่งึ การบริหารราชการแผน่ ดิน ของราชการส่วนกลาง ราชการส่วน
ภูมิภาค และส่วนราชการซ่ึงมีหน้าที่ควบคุมราชการส่วนท้องถิ่น /
มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีกากับการบริหารราชการของกระทรวง หรือ
ทบวงหน่ึงหรือหลายกระทรวงหรือทบวง / บังคับบัญชาข้าราชการฝ่าย
บริหารทุกตาแหน่ง / ส่ังให้ข้าราชการซึ่งสังกัดกระทรวง ทบวง กรมหนึ่งมา
ปฏิบัติราชการ สานักนายกรัฐมนตรี หรือย้ายข้าราชการ ซ่ึงสังกัดกระทรวง
ทบวง กรมหนง่ึ ไปดารงตาแหนง่ ของอีกกระทรวง ทบวง กรมหน่ึง / แต่งต้ังที่
ปรึกษาและข้าราชการการเมืองให้ปฏิบัติราชการในสานักนายกรัฐมนตรี /
วางระเบียบปฏิบัติราชการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ให้ความ
เห็นชอบแล้วสานักนายกรัฐมนตรี นอกจากมีนายกรัฐมนตรีรอง ฯ และ
รัฐมนตรีประจาสานักนายก ฯ ให้มีปลัดสานักนายกรัฐมนตรี (ข้าราชการพล
เรือนสามัญ) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการรองลงมา (ยกเว้นส่วนราชการท่ี
ข้ึนตรงนายก ฯ มีอานาจหน้าที่รับผิดชอบควบคุมราชการประจาในสานัก
นายกรัฐมนตรี)
1.1.3 สานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีฐานะเป็นกรมข้ึนตรงกับ
นายก ฯ มีอานาจหน้าที่เก่ียวกับราชการทางการเมือง มีเลขาธิการ
นายกรฐั มนตรี (ข้าราชการการเมือง) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและให้
มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ข้าราชการการเมือง) และ
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร (ข้าราชการพลเรือนสามัญ) เป็น
ผชู้ ่วย
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
1.1.4 สานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี มีฐานะเปน็ กรมขน้ึ ตรงนายก ฯ
มีอานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และราชการใน
พระองค์มีเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ข้าราชการพลเรือนสามัญ) เป็น
ผบู้ งั คบั บญั ชาข้าราชการ ข้นึ ตรงต่อนายกรฐั มนตรี และให้มีรองเลขาธิการ
คณะรฐั มนตรี (ข้าราชการพลเรือนสามัญ) เป็นผ้ชู ว่ ยสั่งและปฏบิ ตั ิราชการ
1.2 การจัดระเบยี บราชการในกระทรวง
1.2.1 ให้จัดระเบียบราชการของกระทรวงมีสานักงานรัฐมนตรี /
สานกั งานปลดั กระทรวง / กรมกระทรวงมอี านาจหน้าทีต่ ามท่ีกาหนดไว้ใน
กฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ส่วนการจัดระเบียบ
ราชการในกระทรวงท่ีเกี่ยวกับการทหาร และการศึกษา ให้เป็นไปตาม
กฎหมายว่าด้วยการนัน้
1.2.2 ในกระทรวง มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเป็นผู้บังคับบัญชา
ข้าราชการ และรับผิดชอบในการกาหนดนโยบาย เป้าหมาย และ
ผลสัมฤทธิ์ของงานในกระทรวงให้สอดคล้องกับนโยบายท่ีคณะรัฐมนตรี
แถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือที่คณะรัฐมนตรีกาหนด หรืออนุมัติ โดยจะให้มี
รัฐมนตรชี ่วยว่าการกระทรวงเป็นผชู้ ว่ ยสงั่ และปฏิบัติราชการ
1.2.3 ในกระทรวงมปี ลดั กระทรวงเป็นผูบ้ ังกบั บญั ชาข้าราชการรอง
จากรัฐมนตรี มีอานาจหนา้ ท่ีรับผิดชอบควบคุมราชการประจาในกระทรวง
ปฏิบัติราชการ กากับการทางานของส่วนราชการในกระทรวงให้เกิด
ผลสัมฤทธิ์ และประสานการปฏิบัติงานของส่วนราชการในกระทรวงให้มี
เอกภาพสอดคล้องกัน รวมท้ังเร่งรัดติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติ
ราชการของสว่ นราชการในกระทรวง
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
1.2.4 ภายในกระทรวง ให้ส่วนราชการระดับกรมต้ังแต่สองส่วน
ราชการขึ้นไปอยู่ภายใต้ “กลุ่มภารกิจ” เดียวกันก็ได้ มีผู้ดารงตาแหน่งไม่
ต่ากว่าอธิบดี หรือรองปลัดกระทรวงเป็นหัวหน้ากลุ่มภารกิจ ปฏิบัติ
ราชการข้ึนตรงต่อปลัดกระทรวงหรือขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีตามท่ีกาหนดโดย
กฎกระทรวง และในกรณีที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีต้องรายงานผลการ
ดาเนนิ งานตอ่ ปลัดกระทรวงด้วย และให้อานาจหน้าท่ีของปลัดกระทรวงท่ี
เก่ียวกับราชการของส่วนราชการในกลุ่มภารกิจเป็นอานาจหน้าที่ของ
หวั หน้ากลุม่ ภารกจิ
1.2.5 กระทรวงใดมีภารกิจเพิ่มข้ึน มีความจาเป็นที่ต้องมีรอง
ปลัดกระทรวงมากกว่าท่ีกาหนด ให้ ก.พ. และ ก.พ.ร. ร่วมกันพิจารณา
แลว้ นามติดังกลา่ วไปเสนอ ค.ร.ม. (แกไ้ ขเพมิ่ เติมปี 50)
1.2.6 สานักงานรัฐมนตรีมีอานาจหน้าท่ีเกี่ยวกับราชการทาง
การเมือง มีเลขานุการรัฐมนตรี (ข้าราชการการเมือง) เป็นผู้บังกับบัญชา
ข้าราชการและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสานักงานรัฐมนตรีข้ึน
ตรงตอ่ รัฐมนตรี วา่ การกระทรวง
1.2.7 สานักงานปลัดกระทรวงมีอานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการ
ประจาทว่ั ไปของกระทรวง และราชการท่คี ณะรัฐมนตรี มไิ ดก้ าหนดให้เป็น
หน้าท่ีของกรมใดกรมหน่ึงในสังกัดกระทรวงโดยเฉพาะ รวมทั้งกากับและ
เร่งรัดการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวงให้เป็นไปตาม
นโยบาย แนวทางและแผนการปฏิบัตริ าชการของกระทรวง
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
1.3 การจดั ระเบยี บราชการในทบวงซึ่งสงั กดั สานกั นายกรฐั มนตรหี รอื กระทรวง
1.3.1 ทบวง คือ ส่วนราชการท่ีสภาพและปริมาณของงานไม่
เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นกระทรวง และจัดตั้งสังกัดสานักนายกรัฐมนตรี
หรอื กระทรวง เพ่อื ใหม้ ีรัฐมนตรี ว่าการทบวงเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ
โครงสรา้ งและการบริหารราชการเปน็ ไปในลักษณะเคียงกับกระทรวงตาม
ขอ้ 1.2.1- 1.2.6
1.4 การจัดระเบยี บราชการในกรม
1.4.1 กรมแบ่งส่วนราชการ เป็นสานักงานเลขานุการกรม / กอง
หรือส่วนราชการท่ีมีฐานะเทียบกอง หากมีเหตุพิเศษท่ีจะต้องแบ่งส่วน
ราชการภายในกรมเป็นเขตตามพืน้ ท่ตี ้องตราเป็นพระราชกฤษฎกี า
1.4.2 กรมมีอธิบดี เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบใน
การปฏิบัติราชการของกรมให้เกิดผลสัมฤทธ์ิและเป็นไปตามเป้าหมาย
แนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของกระทรวงและในกรณีที่มี
กฎหมายอื่นกาหนดอานาจหน้าท่ีของอธิบดีไว้เป็นการเฉพาะ การใช้
อานาจและการปฏิบัติหน้าท่ีตามกฎหมายดังกล่าวให้คานึงถึงนโยบายที่
คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภาหรือที่คณะรัฐมนตรีกาหนดหรืออนุมัติ
และนโยบาย แนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของกระทรวงด้วย ใน
กรมหนึ่งจะใหม้ ีรองอธบิ ดแี ละผู้ชว่ ยอธบิ ดปี ฏิบัตริ าชการก็ได้
1.4.3 สานักงานเลขานุการกรม มีอานาจหน้าท่ีเก่ียวกับราชการ
ท่ัวไปของกรม มีเลขานุการกรมเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการรับผิดชอบใน
การปฏบิ ตั ิราชการ
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
1.4.4 ในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการภายในกรม สามารถ
จัดต้ัง "หน่วยบริการรปู แบบพิเศษ" (SDU) โดยหน่วยดังกล่าวจะมีลักษณะ
ดังน้ี (แก้ไขเพมิ่ เดมิ ปี 50)
- เป็นงานลักษณะบรกิ าร ในภารกจิ ของกรม
- ไม่มฐี านะเปน็ ส่วนราชการ แตอ่ ยู่ในกากบั ของส่วนราชการนนั้
- รายได้ไมต่ อ้ งนาส่งเงนิ คลงั แผน่ ดิน
2. การจัดระเบียบบริหารราชการสว่ นภมู ิภาค
2.1 จังหวัด
2.1.1 จังหวัดมีฐานะเป็นนิติบุคคล โดยการต้ังยุบ และเปลี่ยนแปลง
เขตจงั หวัด ให้ตราเป็นพระราชบัญญตั ิ
2.1.2 คณะกรมการจังหวัด คือ คณะหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งทา
หน้าท่ีเป็นท่ีปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการแผ่นดิน
ในจังหวัดและให้ความเห็นชอบในการจัดทาแผนพัฒนาจังหวัด โดย
ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจงั หวดั เปน็ ประธาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหน่ึง
คนตามท่ีผู้ว่าราชการจังหวัดมอบหมาย ปลัดจังหวัด อัยการจังหวัดซึ่งเป็น
หัวหน้าที่ทาการอยั การจังหวดั ผูบ้ ังคับการตารวจภูธร จังหวัด และหัวหน้า
ส่วนราชการประจาจังหวัดจากกระทรวงและทบวงต่างๆ เว้นแต่
กระทรวงมหาดไทยซึ่งประจาอยู่ในจังหวัด กระทรวง หรือทบวงละหนึ่งคน
เป็นกรมการจังหวัดและหัวหน้าสานักงานจังหวัดเป็นกรมการจังหวัดและ
เลขานุการ แต่หากผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นสมควรจะแต่งต้ังให้หัวหน้าส่วน
ราชการประจาจังหวดั ในราชการส่วนภูมิภาคเป็นกรมการจังหวดั เพ่มิ ขน้ึ
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
2.1.3 ผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งต้องสังกัดกระทรวงมหาดไทย มีอานาจ
หนา้ ท่ี
(1) บริหารราชการตามกฎหมายและ ระเบียบแบบแผนของทาง
ราชการของจังหวัดในราชการส่วนภูมิภาค ตามที่คณะรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรีกระทรวง ทบวง กรม มอบหมายและตามคาแนะนา คาชี้แจง
ของผ้ตู รวจราชการกระทรวง
(2) กากับดูแลการปฏิบัติราชการอันมิใช่ราชการส่วนภูมิภาคของ
ขา้ ราชการซึง่ ประจาอยใู่ นจงั หวัดนั้น ยกเว้นข้าราชการทหาร ข้าราชการฝ่าย
ตุลาการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย
ขา้ ราชการในสานกั งานตรวจเงนิ แผ่นดินและข้าราชการครู
(3) ประสานงานและร่วมมือกับข้าราชการทหาร ข้าราชการฝ่ายตุลา-
การ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย ข้าราชการ
ในสานักงานตรวจเงินแผ่นดินและข้าราชการครู ผู้ตรวจราชการและหัวหน้า
ส่วนราชการในระดับเขต หรือภาคในการพัฒนาจังหวัดหรือป้องปัดภัยพิบัติ
สาธารณะ
(4) เสนองบประมาณต่อกระทรวงท่ีเกี่ยวข้อง หรือต่อสานักงาน
ประมาณ ตามโครงการหรือแผนพัฒนาจังหวัด และรายงานให้
กระทรวงมหาดไทยทราบ
(5) ควบคมุ ดแู ลการบริหารราชการส่วนท้องถ่ินในจังหวดั ตามกฎหมาย
(6) กากับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานองค์การของรัฐบาลหรือ
รัฐวิสาหกิจ
(7) บรรจุ แต่งตั้ง ให้บาเหน็จ และลงโทษข้าราชการส่วนภูมิภาคใน
จงั หวดั ตามที่ปลัดกระทรวง ปลัดทบวง หรอื อธิบดีมอบหมาย
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
ในกรณีท่ีไม่มีผู้ดารงตาแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจ
ปฏิบัติราชการได้ ให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด
ปลัดจังหวัดรักษาราชการแทนตามลาดับ ถ้ามีรองผู้ว่าราชการจังหวัด
ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัดหลายคน ให้ปลัดกระทรวง
แต่งตั้งรอง หรือผู้ช่วย หรือปลัดจังหวัดคนใดคนหนึ่งแล้วแต่กรณีเป็น
ผรู้ กั ษาราชการแทน
หากไม่มีข้าราชการทั้ง 3 ตาแหน่งข้างต้นให้หัวหน้าส่วนราชการ
ประจาจงั หวดั ซงึ่ มอี าวโุ สตามระเบยี บแบบแผนของทางราชการเปน็ ผรู้ กั ษา
ราชการแทนการยกเว้น จากัด หรือตัดทอน อานาจหน้าท่ีของผู้ว่าราชการ
จังหวัด หรือให้ข้าราชการของส่วนราชการใดมีอานาจหน้าที่ในการบริหาร
ราชการส่วนภูมิภาคเช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัด ต้องตราเป็น
พระราชบญั ญตั ิ
2.1.4 ให้แบง่ สว่ นราชการของจงั หวดั เปน็ 2 ส่วนคือ
(1) สานกั งานจังหวัด มีหน้าทเี่ ก่ียวกับราชการ ท่วั ไปและการวางแผน
พัฒนาจังหวัดของจังหวัดนั้น มีหัวหน้าสานักงานจังหวัดเป็นผู้บังคับบัญชา
ขา้ ราชการ
(2) ส่วนราชการต่าง ๆ ซึ่งกระทรวง ทบวง กรม ได้ตั้งข้ึน มีหัวหน้า
สว่ นราชการประจาจงั หวดั นนั้ ๆ เป็นผ้ปู กครองบงั คับบัญชารบั ผดิ ชอบ
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
2.1.5 พรบ. ฉบบั น้ีแก้ไขเพมิ่ เดมิ ปี 2550 (ฉบับท่ี 7)
กาหนดให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดสามารถของบประมาณรายจ่าย
ประจาปี 2550 ได้ และกาหนดใหจ้ ังหวดั มีหน้าที่ ดงั น้ี
(1) นาภารกิจของรัฐและนโยบายไปปฏิบตั ิใหเ้ กดิ ผลสัมฤทธ์ิ
(2) ดูแลให้มีการปฏิบัติและบังกับการให้เป็นไปตามกฎหมาย เพ่ือให้
เกดิ ความสงบเรยี บร้อยและเปน็ ธรรมในสังคม
(3) จัดให้มีการคุ้มครอง ป้องกัน ส่งเสริม และช่วยเหลือประชาชน
และชุมชนทดี่ อ้ ยโอกาสเพ่ือให้เกิดความเป็นธรรมทง้ั ดา้ นเศรษฐกิจและสังคม
ในการคารงชีวิตอย่างพอเพียง
(4) จัดให้มีการบริการภาครัฐเพ่ือให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอย่าง
เสมอหนา้ รวดเร็วและมคี ณุ ภาพ
(5) จัดให้มีการสง่ เสรมิ อดุ หนนุ และสนบั สนนุ องคก์ รปกครองทอ้ งถ่ิน
เพ่ือให้สามารถดาเนินการตามอานาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และใหมีขีดความสามารถพร้อมท่ีจะดาเนินการตามภารกิจที่ได้รับการถ่าย
โอนจากกรทรวง ทบวง กรม
ให้จังหวัดมีแผนพัฒนาจังหวัด ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนา
เศรษฐกิจและสังคมในระดับชาติ และความต้องการของประชาชนใน
ท้องถ่นิ ในจังหวดั โดยแผนตอ้ งไดจ้ ากการปรึกษาหารือร่วมกันของราชการ
ส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง ท้องถ่ิน ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจท้ังหมดใน
จังหวัด เมื่อจัดทาแผนพัฒนาจังหวัดแล้วแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ิน และแผนของส่วนราชการต่าง ๆ ในจังหวัด ต้อง
สอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาจังหวดั ดงั กล่าว
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
ให้จังหวัดจัดให้มี คณะกรรมการธรรมาภิบาล (ก.ธ.จ.) ประกอบด้วย
ผตู้ รวจสานักนายกรฐั มนตรีเปน็ ประธาน ผ้แู ทนประชาสังคม ผู้แทนสมาชิก
สภาท้องถิ่นท่ีไม่ได้ดารงตาแหน่งผู้บริหาร และผู้แทนภารกิจเอกชน ทา
หน้าท่ีสอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานภาครัฐใน
จงั หวัดใหใ้ ชว้ ิธีการบริหารกจิ การบา้ นเมอื งทีด่ แี ละเป็นไปตามาตรา 3/1
2.2 อาเภอ
2.2.1 อาเภอ เป็นส่วนราชการรองจากจังหวัด โดยการต้ังยุบ และ
เปล่ียนเขตอาเภอ ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา
2.2.2 อาเภอมีหนา้ ที่ภายในเขตอาเภอ ดงั นี้ (แก้ไขเพม่ิ เตมิ ปี 50)
(1) หนา้ ท่ีของจงั หวัดในขอบเขตอาเภอให้เป็นหน้าที่ของอาเภอ
(2) ส่งเสริม สนับสนุน และจัดให้มีการบริการร่วมกันของหน่วยงาน
ของรัฐในลกั ษณะศนู ยบ์ ริการร่วม
(3) ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อร่วมกับชุมชนใน
การดาเนินการ ให้มีแผนชุมชน เพ่ือรองรับการสนับสนุนจากองค์กร
ปกครองสว่ นท้องถิ่น จังหวัด และกระทรวง ทบวง กรม
(4) ไกล่เกล่ียหรือจัดให้มีการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทเพ่ือให้เกิด
ความสงบเรยี บรอ้ ยในสงั คม
2.2.3 นายอาเภอ เป็นข้าราชการสงั กดั กระทรวงมหาดไทย ปกครอง
บังคับบัญชาข้าราชการในอาเภอ และรับผิดชอบงานบริหารราชการของ
อาเภอ โดยมีปลัดอาเภอและหัวหน้าส่วนราชการประจาอาเภอซ่ึง
กระทรวง ทบวง กรมต่าง ๆ ส่งมาประจาให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเหลือ
นายอาเภอ
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
ในกรณีผู้ดารงตาแหน่งนายอาเภอ แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้
นายอาเภอแต่งต้ังปลัดอาเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการประจาอาเภอผู้มี
อาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็นผู้รักษาราชการแทน แต่
ถ้ากรณีที่ไม่มีผู้ดารงตาแหน่งนายอาเภอ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง
ปลัดอาเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการประจาอาเภอผู้มีอาวุโส ตามระเบียบ
แบบแผนของทางราชการเปน็ ผรู้ กั ษาราชการแทน โดยนายอาเภอมอี านาจ
และหน้าทดี่ งั น้ี
(1) บริหารราชการตามกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทาง
ราชการตามท่ีคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีกระทรวง ทบวง กรม
มอบหมาย หรือคาแนะนาและคาชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้มี
หนา้ ทต่ี รวจการอน่ื
(2) ควบคุมดูแลการบริหารราชการส่วนท้องถ่ินในอาเภอตาม
กฎหมาย
(3) ถ้ากฎหมายใดมิได้บัญญัติว่าการปฏิบัติตามกฎหมายนั้นเป็น
หน้าท่ีของผู้ใดโดยเฉพาะ ให้เป็นหน้าที่ของนายอาเภอท่ีจะต้องรักษาการ
ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายนน้ั ดว้ ย
2.2.4 อาเภอแบ่งสว่ นราชการ ดงั น้ี
(1) สานักงานอาเภอ มีหน้าที่ราชการทั่วไปของอาเภอนั้น ๆ มี
นายอาเภอเปน็ ผู้ปกครองบงั กับบญั ชาขา้ ราชการ
(2) สานกั ส่วนตา่ ง ๆ ซง่ึ กระทรวง ทบวง กรม ไดต้ งั้ ข้ึนในอาเภอนั้น
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
3. การจัดระเบียบบริหารราชการสว่ นทอ้ งถิ่น
3.1 มกี ารจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ เปน็ 4 รูปแบบ ดงั น้ี
(1) องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด
(2) เทศบาล
(3) สขุ าภบิ าล (ปจั จุบันไมม่ ีรูปแบบน้อี ีกแล้ว)
(4) ราชการส่วนทอ้ งถิ่นอืน่ ตามทีม่ กี ฎหมายกาหนด (กรงุ เทพมหานคร
เมอื งพทั ยา และ อบต.)
4. การปฏบิ ัตริ าชการแทน
อานาจในการสั่ง การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติราชการ หรือ
การดาเนินการอ่ืน ผู้ดารงตาแหน่งอาจมอบอานาจให้ผู้ดารงตาแหน่งอื่น
ปฏิบัติราชการแทนได้โดย ตามที่เห็นสมควร ยกเว้นการมอบอานาจท่ี
กฎหมายกาหนดไว้เป็นการเฉพาะ ในการมอบอานาจท่ีกฎหมายกาหนด
เป็นการเฉพาะ ให้ผู้ดารงตาแหน่งมีอานาจมอบอานาจให้ผู้ว่าราชการ
จังหวัด หรือผู้ว่าอาจมอบอานาจต่อไปได้ตามที่เจ้าของอานาจกาหนด
เงื่อนไข (แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ปี 50)
ตอ้ งจดั ทาเป็นหนังสือ ให้ผู้มอบอานาจพิจารนาถึงการอานวยความ
สะดวกแก่ประชาชนความรวดเร็วในการปฏิบัติราชการ การกระจาย
อานาจความรับผดิ ชอบตามสภาพของตาแหน่งของผู้รับมอบอานาจ เม่ือได้
มอบอานาจแล้ว ผู้มอบอานาจมีหน้าท่ีกากับดูแลและติดตามผลการปฏิบัติ
ราชการของผู้รับมอบอานาจ และมีอานาจแก้ไขหรือแนะนาการปฏิบัติ
ราชการได้
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
5. การรกั ษาราชการแทน
การรกั ษาราชการแทน คอื การสัง่ ให้ข้าราชการของผู้ดารงตาแหน่งที่
ต่ากว่ามาปฏิบัติหน้าท่ีแทนตาแหน่งท่ีว่างหรือผู้ดารงตาแหน่งไม่สามารถ
ปฏิบัติงานได้ โดยมีอานาจเทียบเท่าตาแหน่งน้ันทุกประการ ไม่ว่าจะเป็น
การอานาจที่รบั มอบมาจากตาแหน่งอ่นื หรือการเป็นกรรมการ โดยตาแหน่ง
โดยมหี ลักเกณฑ์ดงั ต่อไปน้ี
5.1 กรณที ี่ไม่มนี ายกรัฐมนตรี
ไม่มีนายกรัฐมนตรี หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองนายกรัฐมนตรี
หรือรัฐมนตรีคนใดคนหน่ึงเป็นผู้รักษาราชการแทนตามลาดับ หากมีผู้ดารง
ตาแหน่งรอง ฯ หรอื รมด. หลายคนใหค้ ณะรัฐมนตรเี ลือกคนใดคนหน่ึง
5.2 ในกรณไี มม่ รี ฐั มนตรวี ่าการกระทรวง
ไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รัฐมนตรี
ช่วยว่าการกระทรวงนั้นเป็นผู้รักษาราชการแทนอันดับแรก หากไม่มีให้
คณะรัฐมนตรมี อบหมายใหร้ ัฐมนตรีคนใดคนหนงึ่ เปน็ ผรู้ กั ษาราชการแทน
5.3 ในกรณที ไี่ มม่ เี ลขานกุ ารรฐั มนตรี
ไ ม่ มี เ ล ข า นุ ก า ร รั ฐ ม น ต รี ห รื อ ไ ม่ อ า จ ป ฏิ บั ติ ร า ช ก า ร ไ ด้ ใ ห้
ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ช่วยเลขานุการ
รัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงน้ันเป็น
ผู้รกั ษาราชการแทน
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
5.4 ในกรณที ไ่ี ม่มีปลดั กระทรวง
ไม่มีปลัดกระทรวง หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองปลัดกระทรวง
เป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองปลัดกระทรวงหลายคน ให้รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงแต่งตงั้ รองปลดั กระทรวงคนใดคนหนง่ึ เป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่
มีผู้ดารงตาแหน่งรองปลัดกระทรวง ให้แต่งต้ังข้าราชการในกระทรวงที่ดารง
ตาแหน่งไมต่ า่ กวา่ อธิบดเี ป็นผูร้ ักษาราชการแทน
5.5 ในกรณีทไี่ มม่ ีอธบิ ดี
ไม่มีอธิบดีหรือไมอ่ าจปฏบิ ัตริ าชการได้ ให้รองอธิบดีเป็นผู้รักษาราชการ
แทน ถ้ามีรองอธิบดีหลายคน ให้ปลัดกระทรวงแต่งต้ังรองอธิบดีคนใดคนหนึ่ง
เป็นผู้รักษาราชการแทนถ้าไม่มีผู้ดารงตาแหน่งรองอธิบดีให้แต่งตั้งข้าราชการ
ในกรมซึ่งดารงตาแหน่งเทียบเท่ารองอธิบดีรักษาราชการแทน ท้ังน้ี
รฐั มนตรีว่าการกระทรวงเห็นสมควรจะแต่งต้ังข้าราชการคนใดคนหน่ึงซึ่งดารง
ตาแหนง่ ไมต่ ่ากว่ารองอธิบดีหรอื เทยี บเท่า เป็นผ้รู ักษาราชการแทนกไ็ ด้
6. การบริหารราชการในตา่ งประเทศ
กฎหมายได้วางกรอบการ โครงสทาหน้าท่ีในการรับนโยบายจากรัฐบาล
มาปฏิบัติร้าง และวิธีการปฏิบัติงานในต่างประเทศ โดยให้มีคณะผู้แทน มี
หัวหน้าคณะผู้แทนเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดใสถานทูต หรือสถานกงสุล
รายละเอยี ด ดังน้ี
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
6.1 คณะผู้แทน
คอื บรรดาข้าราชการฝ่ายพลเรอื น หรอื ข้าราชการฝ่ายทหารประจาการ
ในต่างประเทศซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดารงตาแหน่งในสถานเอกอัศรราชทูต สถาน
กงสุลใหญ่ สถานกงสุลสถานรองกงสุล ส่วนราชการของกระทรวงการ
ต่างประเทศซ่ึงเรียกช่ือเป็นอย่างอ่ืนและปฏิบัติหน้าท่ีเช่นเดียวกับสถาน
เอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ และคณะผู้แทนถาวรไทยประจาองค์การ
ระหว่างประเทศ โดยให้ข้าราชการสังกัดกระทรวงการต่างประเทศเป็นหัวหน้า
คณะผู้แทน
6.2 หัวหน้าคณะผแู้ ทน
เป็นผู้รับนโยบายและคาสั่งจากนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้า
รฐั บาล คณะรฐั มนตรี กระทรวง ทบวง กรม มาปฏิบัติการให้เหมาะสมกับ
การปฏิบัติราชการในต่างประเทศ และเป็นหัวหน้าบังกับบัญชาบุคคลใน
คณะผู้แทน
6.3 รฐั มนตรวี ่าการกระทรวง
รัฐมนตรีว่าการทบวง ปลัดสานักนายกรัฐมนตรีปลัดกระทรวง ปลัด
ทบวง อธิบดหี รือผู้ดารงตาแหนง่ เทยี บเทา่ อาจมอบอานาจใหห้ ัวหน้าคณะ
ผแู้ ทนปฏบิ ัติราชการแทนได้
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
7. คณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ
7.1 คณะกรรมการพฒั นาระบบราชการ
เรียกย่อวา่ "ก.พ.ร." ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี หรอื รองนายก
รัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน รัฐมนตรีหนึ่งคนท่ี
นายกรัฐมนตรีกาหนดเป็นรองประธาน ผู้ซึ่งคณะกรรมการการกระจาย
อานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมอบหมายหน่ึงคน และกรรมการ
ผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสิบคน (วาระ 4 ปี ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน) ซ่ึง
คณะรัฐมนตรีแต่งต้ังจากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในทางด้านนิติศาสตร์
เศรษฐศาสตร์รัฐศาสตรก์ ารบรหิ ารรฐั กิจ การบริหารธุรกิจ การเงินการคลัง
จิตวิทยาองค์การ และสังคมวิทยาอย่างน้อยด้านละหนึ่งคน โดย
คณะรัฐมนตรีอาจกาหนดให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอย่างน้อยสามคนแต่ไม่
เกินห้าคนต้องทางานเต็มเวลา เลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นกรรมการและ
เลขานุการ ก.พ.ร. มอี านาจหนา้ ท่ดี ังตอ่ ไปนี้
7.1.1 เสนอแนะ ให้คาปรึกษา เสนอความเห็นต่อในการตราพระราช
กฤษฎีกาและกฎตีความและวินิจฉัยปัญหา รายงานเม่ือมีการขัดมาตรา 3/1
แก่คณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ และงานของรัฐอย่างอื่น
ซึ่งรวมถึงโครงสร้างระบบราชการ ระบบงบประมาณ ระบบบุคลากร
มาตรฐานทางคุณธรรมและจรยิ ธรรม คา่ ตอบแทน และวิธีปฏิบตั ิราชการอนื่
7.1.2 เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือกาหนดหลักเกณฑ์และมาตรฐานใน
การจัดตั้ง การรวม การโอน การยุบเลิก การกาหนดชื่อ การเปลี่ยนช่ือ การ
กาหนดอานาจหนา้ ที่ และการแบ่งสว่ นราชการภายในของส่วนราชการ
7.13 ติดตาม ประเมินผล และแนะนาเพ่ือให้มีการปฏิบัติตาม
พระราชบญั ญัติน้ี และรายงานตอ่ คณะรัฐมนตรีพร้อมทั้งขอ้ เสนอแนะ
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
7.1.4 จัดทารายงานประจาปีเก่ียวกับการพัฒนาและจัดระบบ
ราชการและงานของรัฐอย่างอื่นเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอต่อสภา
ผแู้ ทนราษฎรและวุฒสิ ภา
7.2 สานักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
รับผิดชอบงานเลขานุการของ ก.พ.ร. โดยเป็นส่วนราชการในสานัก
นายกรฐั มนตรขี นึ้ ตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีเลขาธิการ ก.พ.ร. ซึ่งมีฐานะ
เป็นอธิบดเี ปน็ ผ้บู งั คบั บัญชา
8. ข้อกาหนดอนื่ ๆ ทคี่ วรรู้
8.1 "ทบวงการเมอื ง"
"ทบวงการเมือง" ท่ปี รากฏในกฎหมายอน่ื หมายถงึ กระทรวง ทบวง
กรม (ความเปน็ นติ บิ คุ คล)
8.2 พ.ร.บ. ระเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ประกาศใช้เมื่อ วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2534 เป็นปีที่ 46 ในรัชกาล
ปจั จุบัน อานนั ท์ ปนั ยารชุน เป็นผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
หมวด 1 การบรหิ ารบ้านเมอื งทด่ี ี
มาตรา 6
พระราชกฤษฎีกา มเี ปา้ หมาย ดงั นี้
1) เกดิ ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน
2) เกิดผลสมั ฤทธิ์ต่อภารกจิ ของรัฐ
3) มีประสทิ ธภิ าพและเกดิ ความคมุ้ ค่าในเชงิ ภารกิจของรัฐ
4) ไม่มขี น้ั ตอนการปฏิบตั ิงานเกินความจาเป็น
5) มกี ารปรบั ปรุงภารกิจของสว่ นราชการให้ทันต่อเหตุการณ์
6) ประชาชนไดร้ บั การอานวยความสะดวกและไดร้ ับการตอบสนอง
ความตอ้ งการ
7) มีการประเมินผลการปฏิบัติราชการอย่างสม่าเสมอ
หมวด 2 การบริหารราชการเพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ขุ ของประชาชน
หมายถึง การปฏบิ ัติราชการทม่ี ีเป้าหมายเพอื่ เกดิ ความผาสขุ และ
ความเป็นอยขู่ องประชาชนมีความสงบและปลอดภยั ของสังคมสว่ นรวม
ตลอดจนประ โยชน์สงู สดุ ของประเทศ
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
มาตรา 8
กาหนดให้มแี นวทางบริหารราชการ ดังนี้
1) กาหนดภารกิจของส่วนราชการต้องทาไปเพ่ือความผาสุขของ
ประชาชนและสอดคล้องกับแนวนโยบายแห่งรัฐ และแนวนโยบายของ
รฐั บาล
2) ต้องปฏิบตั ิไปโดยความซ่อื สตั ยส์ ุจริต สามารถตรวจสอบได้
3) ก่อนเริ่มดาเนินการ ต้องศึกษาวิเคราะห์ผลดี และผลเสียให้
ครบถ้วนด้วยความโปร่งใส ภารกิจใดมีผลกระทบต่อประชาชน ต้ังรับฟัง
ความคดิ เห็นของประชาชนตระหนักถงึ ประโยชนส์ ่วนรวมท่ีจะไดร้ บั
4) เปน็ หน้าทีต่ ้องรบั ฟังความคดิ เห็น ความพึงพอใจของสงั คม และ
ประชาชนท่ีได้รับบริการเพ่ือนามาปรับปรุงเสนอแนะผู้มีอานาจปรับปรุง
ให้เหมาะสม
5) พบปัญหาอุปสรรคการดาเนินการ ให้รีบแก้ไขปัญหาอุปสรรค
โดยเร็ว หากพบวา่ ปัญหาอุปสรรคเกิดจากสว่ นราชการ ระเบียบ ข้อบังคับ
รีบแจ้งให้ส่วนราชการเกี่ยวข้องทราบเพื่อปรับปรุงโดยเร็ว และแจ้งให้
ก.พ.ร.ทราบด้วย
หมวด 3 การบรหิ ารราชการเพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลผลสมั ฤทธติ์ อ่ ภารกจิ ของรฐั
มาตรา 9
เพ่ือใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธ์ิตอ่ ภารกิจของรฐั ให้ส่วนราชการปฏบิ ัติ ดังน้ี
1) กอ่ นดาเนนิ การ ต้องจดั ทาแผนปฏิบตั ิราชการไวเ้ ปน็ การลว่ งหน้า
2) ในแผนปฏิบัติราชการ ต้องมีรายละเอียดของข้ันตอน ระยะเวลา
และงบประมาณที่ต้องใช้เป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธ์ิ และตัวช้ีวัด
ความสาเรจ็
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
3) ตอ้ งจัดใหม้ ีการติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติ
ราชการ
4) การปฏิบัติตามแผนปฏิบัติราชการเกิดผลกระทบต่อประชาชน
ตอ้ งรบี แกไ้ ขหรอื บรรเทาหรือเปลี่ยนแปลงแผนปฏิบตั ริ าชการใหเ้ หมาะสม
มาตรา 10
ภารกิจใดมีความเกี่ยวข้องกับหลายส่วนราชการ ให้ส่วนราชการที่
เก่ียวข้องกาหนดแนวปฏิบัติราชการ เพ่ือให้เกิดการบริหารราชการบูรณา
การพร้อมกัน โดยมงุ่ ให้เกิดผลสมั ฤทธต์ิ ่อภารกิจของรัฐ
มาตรา 11
การพัฒนาความรู้ในส่วนราชการ ที่มีลักษณะเป็นองค์แห่งการเรียนรู้
อยา่ งสม่าเสมอเพื่อนาความรู้มาประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ส่งเสริม
พัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์และเปล่ียนทัศนคติ ให้มีการ
เรียนร้รู ่วมกัน
มาตรา 16
ให้ส่วนราชการจัดทาแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการน้ัน โดย
จัดทาเป็นแผน 4 ปี สอดคล้องกับแผนบริหารราชการแผ่นดิน แต่ละ
ปีงบประมาณให้จัดทาแผนปฏิบตั ิการประจาปี โดยระบุสาระสาคัญเก่ียวกับ
นโยบายการปฏิบัติราชการ เป้าหมายและผลสัมฤทธ์ิของงาน รวมท้ัง
ประมาณการรายได้รายจ่ายเมื่อสิ้นปีงบประมาณให้จัดทารายงานแสดงผล
สมั ฤทธ์ขิ องแผนปฏบิ ตั ริ าชการ
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
หมวด 4 การบรหิ ารราชการอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพในเชงิ ภารกจิ ของรฐั
มาตรา 20
ใหส้ ่วนราชการกาหนดเปา้ หมาย แผนการทางาน ระยะเวลาแล้วเสรจ็
ของงานหรือโครงการและงบประมาณที่จะต้องใช้ และต้องเผยแพร่ให้
ขา้ ราชการและประชาชนทราบ
มาตรา 23
การจัดซ้ือหรือจัดจ้าง ให้ดาเนินการโดยเปิดเผยและเท่ียงธรรม
พิจารณาถึงประโยชน์และผลเสียทางสังคม ภาระต่อประชาชน คุณภาพ
วัตถุประสงค์ที่จะใช้ ราคาและประโยชน์ระยะยาวของส่วนราชการที่จะ
ได้รับประกอบกันในกรณีท่ีวัตถุประสงค์ในการใช้เป็นเหตุต้องคานึงถึง
คุณภาพ การดแู ลรกั ษาเป็นสาคัญ ให้สามารถทาไดโ้ ดยไม่ต้องถือราคาต่าสุด
ในการเสนอซื้อหรือจา้ งเสมอไป
มาตรา 24
ภารกจิ ใด หากจาเปน็ ต้องได้รบั อนุญาต อนุมตั ิ หรือเหน็ ชอบจากส่วน
ราชการอ่ืนให้ส่วนราชการน้ันแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบภายใน 15 วัน
นบั แตว่ ันท่ีได้รับคาขอ
มาตรา 25
ในการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหา ให้ต้ังคณะกรรมการ หากผู้แทนส่วน
ราชการนั้นมีความคิดเห็นแตกต่างกันให้บันทึกความเห็นของฝ่าขน้อยให้
ปรากฎในเรอื่ งนัน้ หา้ มมใิ ห้ใชบ้ ังคบั การวนิ ิจฉัยในปญั หาด้านกฎหมาย
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
มาตรา 26
การส่ังราชการให้ทาเป็นลายลักษณ์อักษร เว้นแต่ผู้บังคับบัญชามี
ความจาเป็นไม่อาจส่ังได้ ให้ผู้รับคาสั่งบันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษร และ
เม่ือปฏบิ ตั ิแล้วให้บันทกึ รายงานอ้างกาส่ังดว้ ยวาจาไวด้ ้วย
หมวด 5 การลดขน้ั ตอนการปฏบิ ตั งิ าน
มาตรา 27
ให้กระจาขอานาจการบริหารตดั สนิ ใจใหแ้ กผ่ ดู้ ารงตาแหนง่ รับผดิ ชอบ
เร่ืองนั้นๆ โดยตรง ต้องมุ่งผลให้เกิดความสะดวกรวดเร็วในการบริการ
ประชาชนลดขั้นตอน กล่ันกรองงาน หากใช้เทคโนโลยีสารสนเทศหรือ
โทรคมนาคมจะเป็นการเพ่ิมประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่ายมาตรา 28
ให้ส่วนราชการจัดทาแผนภูมิข้ันตอนและระยะเวลาการดาเนินการ รวมทั้ง
รายละเอียดอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้องโดยเปิดเผย ณ ที่ทาการเพ่ือให้ประชาชนหรือ
ผู้เกย่ี วข้องเขา้ ตรวจดูได้
มาตรา 30
ให้มีศนู ยบ์ รกิ ารประชาชนรวมทั้งประจาจงั หวัด อาเภอ
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
หมวด 6 การปรบั ปรงุ ภารกจิ ของสว่ นราชการ
มาตรา 33
ส่วนราชการต้องจัดให้มีการทบทวนภารกิจของตน มีความจาเป็น
หรือสมควรดาเนินการต่อไป โดยคานึงถึงแผนการบริหารราชการแผ่นดิน
นโยบาย คาส่ังงบประมาณ ความคุ้มค่าของภารกิจ ทั้งน้ี ก.พ.ร.จะกาหนด
หากมีการปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงต้องให้คณะรัฐมนตรเี หน็ ชอบ
มาตรา 36
ในกรณีที่สานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่ากฎหมาย กฎ
ระเบียบ ข้อบังกับหรือประกาศ ไม่สอดคล้องหรือเหมาะสมกับสถานการณ์
ปัจจุบัน ไม่เอื้อต่อการพัฒนาเป็นอุปสรรคต่อการดารงชีวิตของประชาชน
ใหแ้ นะนาสว่ นราชการน้ันดาเนนิ การแกไ้ ขโดยเร็ว
หมวด 7 การอานวยความสะดวกตามความตอ้ งการของประชาชน
มาตรา 37
ให้ส่วนราชการกาหนดระยะเวลาแล้วเสร็จของงานแต่ละงาน และ
ประกาศให้ประชาชนและข้าราชการทราบเป็นการทั่วไป ให้เป็นหน้าท่ีของ
ผบู้ งั คบั บัญชาตอ้ งตรวจสอบใหก้ ารปฏบิ ตั ิงานแล้วเสรจ็ ตามกาหนดไว้
มาตรา 38
เมื่อส่วนราชการได้รับติดต่อสอบถามเป็นหนังสือจากประชาชนหรือ
สว่ นราชการดว้ ยกัน ต้องตอบคาถามหรือแจง้ ดาเนนิ การให้ทราบภายใน 15
วนั หรอื ตามกาหนดไวใ้ นมาตรา 37
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
มาตรา 39
ใหส้ ว่ นราชการจัดใหม้ ีระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศของสว่ นราชการเพือ่
อานวยความสะดวกแก่ประชาชน สามารถติดตอ่ สอบถามหรือขอข้อมูลหรือ
แสดงความคิดเห็น
มาตรา 41
เมือ่ ได้รับคาร้องเรียน เสนอแนะ หรือความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติ
หนา้ ท่ี พบปญั หาอุปสรรค ปัญหาจากบุคคล เป็นหน้าท่ีของส่วนราชการนั้น
ต้องพิจารณาดาเนินการปรับปรุง แล้วแจ้งให้บุคคลท่ีร้องเรียนทราบด้วย
หากสามารถตดิ ต่อได้ หรอื แจ้งผา่ นระบบเครือข่ายสารสนเทศ
มาตรา 44
ต้องจัดให้มีการเปิดเผยข้อมูลเก่ียวกับงบประมาณรายจ่ายแต่ละปี
รายการเก่ียวกับการจัดซ้ือจัดจ้าง และสัญญาใดท่ีมีการอนุมัติให้จัดซื้อจัด
จ้าง ใหป้ ระชาชนสามารถขอดตู รวจสอบได้ ณ ทที่ าการหรือระบบเครือข่าย
สารสนเทศ ทั้งน้ีต้องไม่เกิดความได้ เปรียบเสียเปรียบแก่บุคคลเก่ียวข้อง
หรือกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อห้าม ตกลงไว้ในสัญญาต้องได้รับความ
คุ้มครอง
หมวด 8 การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ริ าชการ
มาตรา 45
ใหส้ ่วนราชการจดั ใหม้ ีคณะผปู้ ระเมินอสิ ระดาเนินการประเมนิ ผลการ
ปฏบิ ตั ิราชการของส่วนราชการเก่ียวกับผลสัมฤทธิ์ของภารกิจ คุณภาพการ
ใหบ้ ริการ ความพงึ พอใจของประชาชนผู้รับบรกิ าร ความคุม้ คา่ ในภารกจิ
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
มาตรา 46
จัดให้มีการประเมินภาพรวมของผู้บังกับบัญชาแต่ละระดับ หรือ
หน่วยงานในส่วนราชการก็ได้ ท้ังนี้ ต้องกระทาเป็นความลับและเป็น
ประโยชนแ์ ห่งความสามคั คขี องข้าราชการ
มาตรา 47
การประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการ เพ่ือประโยชน์ในการ
บรหิ ารงานบุคคลให้คานึงถึงผลการปฏิบัติงานเฉพาะตัวของข้าราชการผู้นั้น
ในตาแหน่งที่ปฏิบัติ ประโยชน์และผลสัมฤทธิ์ที่หน่วยงานผู้นั้นสังกัด
ปฏิบัติงาน
มาตรา 48
ส่วนราชการใดดาเนินการให้บริการท่ีมีคุณภาพและเป็นไปตาม
เป้าหมาย รวมท้ังความพึงพอใจแก่ประชาชน ให้ ก.พ.ร.สนอคณะรัฐมนตรี
จัด ส ร ร เ งิน เ พ่ิ ม พิ เศ ษ เ ป็ น บา เ ห น็ จ ค ว า ม ช อ บ หรื อ น า ไปใช้ ปรั บปรุ ง ก า ร
ปฏิบตั ิงาน
มาตรา 49
ส่วนราชการใดได้ดาเนินงานไปตามเป้าหมาย สามารถเพ่ิมผลงาน
และผลสัมฤทธ์ิ โดยไม่เพิม่ ค่าใช้จ่ายและคุ้มค่าภารกิจ สามารถลดค่าใช้จ่าย
ต่อหน่วยตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.พ.ร. กาหนดให้ ก.พ.ร. เสนอคณะรัฐมนตรี
จดั สรรเงินรางวลั การเพ่ิมประสทิ ธิภาพให้แก่สว่ นราชการน้ัน
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
การจดั ทาแผนปฏบิ ตั ริ าชการ
ปรับการจัดทาแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการให้มีความ
สอดคลอ้ งกับยทุ ธศาสตรช์ าตแิ ละแผนอนื่ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง
เปลี่ยนจากการจัดทาแผนปฏิบัติราชการระยะ 4 ปี เป็นการจัดทา
แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี โดย
จดั ทาแผนระยะที่ 1 ในห้วงเวลา 3 ปีแรก คือ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 -
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565
ปรับโครงสรา้ งสว่ นราชการ
ให้ส่วนราชการทบทวนภารกิจของหน่วยงานว่าภารกิจใดมีความ
จาเป็น หรือ สมควรยกเลิกปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงการดาเนินการ
(มาตรา 7) ห้ามจัดตั้งส่วนราชการท่ีมีภารกิจหรือหน้าท่ีเหมือนกันส่วน
ราชการที่ยุบเลิก โอน หรือรวมไปแล้วยกเว้นเพื่อรักษาความม่ันคงของรัฐ
หรือเศรษฐกิจของประเทศ หรือการรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของ
ประชาชน และตอ้ งได้รับความเหน็ ชอบจาก ก.พ.ร. จงึ จะจดั ตัง้ ได้ (มาตรา 8)
การยกระดบั การทางานของภาครฐั โดยการเชอื่ มโยงแพลตฟอรม์ ดจิ ทิ ลั กลาง
การใหบ้ ริการประชาชนและการติดตอ่ ประสานงานระหว่างหน่วยงาน
ราชการด้วยกัน ต้องกระทาโดยแพลตฟอร์มดิจิทัลกลางท่ีสานักงานพัฒนา
รัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) จัดทาข้ึน (มาตรา 6) สานักงานพัฒนา
รัฐบาลดิจิทัล จัดทาแพลตฟอร์มจิทัลกลางภายใน 90 วันหลังจากน้ัน
หวั หนา้ ส่วนราชการจะตอ้ งดาเนินการให้มกี ารใช้แพลดฟอร์มดิจิทัลกลางให้
แล้วเสร็จภายใน 2 ปี (มาตรา 10) เพ่ือสามารถติดต่อประสานงานระหว่าง
หน่วยราชการและใหบ้ ริการประชาชนไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
1. การพจิ ารณาของอธดิ กี รมการปกครอง ตอ้ งอยภู่ ายใตบ้ ังกบั บญั ชาของ
พ.ร.บ. วธิ ปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครอง
2. การเตรยี มการของเจา้ หนา้ ทเ่ี พื่อจัดให้มีคาสัง่ ทางปกครองการ ดาเนนิ
การของเจา้ หนา้ ท่ีเพ่อื จัดใหม้ ีคาสง่ั ทางปกครอง, การเตรยี มการของ
เจา้ หนา้ ที่เพื่อออกกฎ, การดาเนนิ การของเจา้ หน้าท่ีเพื่อออกกฎ คือวธิ ี
ปฏบิ ัตริ าชการทางการปกครอง
3. การออกระเบยี บ ไม่ใชค่ าส่งั ทางปกครอง
4. การประกาศเตอื น ไมใ่ ชค่ าส่ังทางปกครอง
5. พระราชบัญญตั ิไมใ่ ชก่ ฎ
6. การเตรยี มการดาเนินการของเจ้าหน้าที่เพอ่ื จดั ให้มีคาสัง่ ทางปกครอง
คอื การพิจารณาทางปกครอง
7. เจ้าหนา้ ทจี่ ะทาการพจิ ารณาทางปกครองไมไ่ ด้ ถ้าคู่หมนั้ หรอื คู่สมรสของ
คกู่ รณี, ญาติของคกู่ รณ,ี นายจ้างของกูก่ รณี หรอื เปน็ คกู่ รณีเองไมไ่ ด้
8. ถ้ากรณีเคยเป็นลกู จ้างของคู่กรณี เจ้าหนา้ ที่ทาการพิจารณาทางปกครอง
9. ค่กู รณไี ม่มสี ทิ ธินาทนายความของตนเข้ามาในการพิจารณาทางปกครอง
10. คกู่ รณีไมม่ สี ทิ ธิแตง่ ตง้ั บุคคลหนง่ึ บุคคลใดแทนตนในการพิจารณาทาง
ปกครอง
11. เจา้ หน้าท่ีไม่มีสทิ ธิหา้ มการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีของผแู้ ทนของคกู่ รณที ไี่ ม่ทราบ
ข้อเทจ็ จรงิ ในเรือ่ งท่พี ิจารณาทางปกครองอย่างพียงพอ
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
12. เมื่อมกี ารแตง่ ตง้ั ตวั แทนรว่ มของคกู่ รณีๆ จะยกเลิกการให้ตัวแทนร่วม
ดาเนินการแทนตนมิได้
13. ในการพิจารณาทางปกครองเจ้าหนา้ ที่จะต้อง แจ้งสิทธิและหนท้ ีใ่ น
กระบวนการพจิ ารณาทางปกครองใหค้ ูก่ รณีทราบ , ใหค้ กู รณมี ี โอกาส
ทีจ่ ะได้รบั ทราบข้อเทจ็ จรงิ อย่างเพยี งพอ , ให้คู่กรณมี โี อกาสไดโ้ ต้แย้ง
และแสดงหลกั ฐานของตนเอง , ไมอ่ นญุ าตให้ตรวจดูเอกสารหรือพยาน
หลักฐานได้ ในกรณีทีต่ ้องรักษาไว้เปน็ ความลบั
14. คาสง่ั ทางปกครองทอ่ี าจอทุ ธรณ์หรอื โตแ้ ย้งตอ่ ไปได้ ให้ระบกุ รณีท่อี าจ
อุทรรณ์หรอื โตแ้ ย้งไวใ้ นคาส่งั ดว้ ย
15. คาส่งั ทางปกครองท่ีทาเปน็ หนงั สอื ตอ้ งจัดให้มีเหตุผลไว้ด้วย
16. คาสง่ั ทางปกครองทีม่ ีข้อผิดพลาดเลก็ นอ้ ย เจ้าหนา้ ท่อี าจแกไ้ ขเพ่ิมเติม
ไดเ้ สมอ
17. คาสั่งทางปกครองทต่ี อ้ งให้เจา้ หนา้ ทอ่ี น่ื ใหค้ วามเหน็ ชอบกอ่ น จะไม่เสยี
ไปถ้าเจา้ หน้าท่ีน้ันได้ให้ความเห็นชอบในภายหลังถือวา่ ใชไ้ ด้
18. การอทุ ธรณ์คาสง่ั ทางปกครองท่ีไมอ่ อกโดยรฐั มนตรี ตอ้ งยื่นต่อเจา้ หนา้ ที่
ผูท้ าคาส่ังทางปกครองภายใน 15 วัน
19. คาสง่ั ของรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทยไม่ต้องอุทธรณ์ภายในฝ่าย
ปกครอง คกู่ รณีสามารถฟ้องต่อศาลปกครองได้
20. คาสงั่ ของคณะกรรมการวินิจฉยั ขอ้ พิพาท ไมส่ ามารถอทุ ธรณ์ได้แตส่ ามารถ
ฟ้องศาลปกครองได้
21. หากไดร้ บั การวินิจฉัยความผิดถึงท่ีสดุ และเห็นว่าคาสงั่ ทางปกครองทไ่ี ดร้ บั
ไมเ่ ป็นธรรมสามารถฟอ้ งศาลปกครองภายใน 90 วันนบั แตว่ ันรบั ทราบ
คาสง่ั
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
22. เจ้าหน้าทต่ี ้องพจิ ารณาคาอุทธรณ์ภายใน 30 วนั นับแตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั อุทธรณ์
23. การอุทธรณ์ไมเ่ ปน็ เหตุให้ทุเลาการบังคับตามคาสง่ั ทางปกครอง
24. กรณีเห็นดว้ ยกบั อทุ ธรณ์ ใหด้ าเนนิ การเปลยี่ นแปลงคาสั่งทางปกครองตาม
ความเหน็ ของตน
25. กรณีไม่เห็นดว้ ยกบั อทุ ธรณ์ ให้รายงานความเหน็ พร้อมเหตผุ ลไปยงั ผูม้ ี
อานาจพิจารณาอุทธรณ์
26. การเพกิ ถอนคาส่งั ทางปกครองทล่ี กั ษณะเป็นการให้ประโยชนต์ ้องกระทา
ภายใน 90 วนั นบั แตร่ ู้ถึงเหตทุ ่จี ะเพกิ ถอนคาสง่ั นนั้
27. ผู้ท่ีไม่ร้ถู ึงความไมช่ อบด้วยกฎหมายของคาสั่งทางปกครองในขณะที่รบั คา
ส่ังทางปกครองสามารถอ้างความเชื่อโดยสจุ รติ ได้เม่อื ถกู เพิกถอนคาส่งั ทาง
ปกครอง
28. ผู้ทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากการเพิกถอนคาสงั่ ปกครองตอ้ งรอ้ งขอคา่ ทดแทน
ภายใน 180 วนั นบั แต่ไดร้ ับแจ้งให้ทราบถึงการเพกิ ถอนนนั้
29. การยืน่ ขอใหพ้ จิ ารณาใหม่ ตอ้ งกระทาภายใน 90 วนั นบั แตว่ นั ผู้น้ันได้รูถ้ งึ
เหตซุ งึ่ อาจขอให้พิจารณาใหม่
30. เจา้ หน้าท่อี าจยดึ อายัดทรัพย์สินของผู้ท่ีไม่ชาระเงนิ ตามกาหนดของคาสัง่
ทางปกครอง
31. คาสง่ั ทางปกครองท่ีกาหนดให้ละเวน้ กระทา หากฝา่ ฝืนต้องชาระค่าปรบั
ทางปกครองไม่ตา่ กวา่ 20,000 บาทตอ่ วนั
32. คาส่ังทางปกครองท่ีกาหนดใหก้ ระทาแล้วไมป่ ฏบิ ตั ติ าม เจา้ หนา้ ท่สี ามารถ
เขา้ ดาเนนิ การด้วยตนเองได้
33. เจา้ หนา้ ทอี่ าจใชก้ าลงั เขา้ ดาเนนิ การเพื่อใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรการบงั คับทาง
ปกครองได้ หากมกี ารตอ่ สขู้ ัดขวาง
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
34. การแจ้งคาสง่ั ทางปกครอง เจา้ หน้าท่จี ะกระทาด้วยวาจากไ็ ด้
35. การแจง้ ทางไปรษณีย์ตอ้ งแจง้ โดยไปรษณีย์ตอบรับเทา่ นน้ั
36. การแจง้ ภายในประเทศให้ถอื ว่าไดร้ ับเมื่อครบกาหนด 7 วันนับต้ังแตว่ ันสง่
ภูมิภาค
37. การแจ้งคาสัง่ ทางปกครองจะกระทาไดโ้ ดยการประกาศในหนังสือพิมพ์ ใน
กรณี ไมร่ ตู้ ัวผ้รู บั กรณีร้ตู ัวแต่ไม่รู้ภมู ิลาเนา กรณีมีผรู้ ับเกนิ 100 คนข้ึนไป
38. ในกรณปี ระกาศหรือลงหนงั สือพิมพ์ใหถ้ อื วา่ ได้รับแจ้งเมื่อพน้ 15 วันนับแต่
วนั ไดแ้ จง้
39. ในกรณีที่เจ้าหน้าทก่ี ระทาการอยา่ งหนึ่งอย่างใด ให้นับวนั สิ้นสดุ ของระยะ
เวลานน้ั รวมเขา้ ดว้ ยกนั แม้วนั สุดท้ายจะเป็นวนั หยุดการทางาน
40. นายกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบล ไม่สามารถจะเปน็ พยานในการส่งหนงั สือ
เพอื่ แจง้ คาสั่งทางปกครองในกรณผี ู้รบั ไมย่ อมรับหรอื ไม่มีผรู้ ับ
41. คา่ ปรบั ทางปกครองมี 4 ระดบั คอื 20,000 บาทสาหรับคณะกรรมการ และ
รัฐมนตรี
42. 15,000 บาทสาหรบั ปลดั อธิบดี ผวู้ า่ ฯ
43. 10,000 บาทสาหรบั นายอาเภอ หวั หน้าสว่ นราชการประจาจงั หวดั ผ้บู รหิ าร
ท้องถ่ิน ผูแ้ ทนของรัฐวิสาหกิจหรอื หนว่ ยงานรัฐอน่ื ๆ
44. 5,000 บาทสาหรบั พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีตามกฎหมายอื่นๆ ส่วนเอกชนทใ่ี ช้
อานาจทางปกครองตอ้ งเสนอใหร้ ัฐมนตรพี ิจารณาเป็นรายไปทงั้ นี้ไม่เกนิ
1,000 บาท
45. ชัน้ ศาลปกครองไดแ้ ก่ ศาลปกครองช้นั ต้น และศาลปกครองสงู สุด
46. ศาลปกครองชน้ั ต้นแบง่ ออกเปน็ สองประเภท ได้แกศ่ าลปกครองกลาง และ
ศาลปกครองสว่ น
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
47. ในวาระแรกกฎหมายไดก้ าหนดใหจ้ ดั ต้ังศาลปกครองในรปู ภูมภิ าคจานวน
16 แห่ง
48. การเปดี ทาการของศาลปกครองในภมู ภิ าค กฎหมายกาหนดให้เปิดทาการ
ไม่น้อยกวา่ ปลี ะ 7 ศาล
49. คดที ไ่ี มอ่ ยใู่ นศาลปกครองมีการคาเนินการเก่ียวกับวินยั ทหาร, คดที ่อี ยใู่ น
อานาจศาลแรงงาน,คดีท่ีอยู่ในอานาจศาลภาษอี ากร, คดที อ่ี ยู่ในอานาจศาล
ล้มละลาย
50. การเฟื้องในคดโี ต้แย้งคาส่งั ทางปกครองต้องฟอ้ งภายใน 90 วนั นับแต่วัน
ทราบคาสัง่
51. การฟอ้ งเก่ียวกบั สญั ญาทางปกครองตอ้ งฟอ้ งภายใน 1 ปนี บั แตว่ ันที่รู้หรือ
ควรร้ถู ึงเหตุแหง่ การฟอ้ งคดี
52. ผูฟ้ ้องคดตี ้องเป็นผ้เู ดือดรอ้ นเสยี หายอนั เนอ่ื งมาจากการกระทาทางปกครอง
53. ผูท้ ่จี ะไดแ้ ตง่ ต้ังเป็นตุลาการในศาลปกครองชั้นต้น ตอ้ งมอี ายุ 35 ปี
54. ก.ศป. หมายถึงตุลาการศาลปกครอง
55. คณะกรรมการตลุ าการศาลปกครองมี 13 คน
56. องค์คณะของศาลปกครองชั้นต้นตอ้ งมีอย่างนอ้ ย 3 คน
57. สานกั งานศาลปกครองเป็น หน่วยงานอสิ ระ
58. ประธานศาลปกครองสูงสดุ เปน็ ประธารกรรมการตุลาการศาลปกครองสงู สุด
59. การฟ้องคดที ศ่ี าลปกครองในกรณขี อให้ศาลปกครองสั่งให้หนว่ ยงานของรัฐ
ชดใช้เงนิ ต้องเสยี คา่ ธรรมเนียมศาล ร้อยละ 2.5 ไมเ่ กนิ 200,000 บาท
60. การฟอ้ งคดปี กครองเก่ยี วกบั การกระทาละเมิดหรอื สญั ญาทางปกครอง
จะต้องยนื่ ฟอ้ งภายในระยะเวลา 5 ปีนบั แตว่ ันทีไ่ ดร้ ้หู รือควรรู้ถึงเหตุแห่งการ
ฟอ้ งคดี
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 76
วรรค 3 กาหนดให้ "รัฐพึงจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพ่ือให้หน่วยงาน
ของรัฐใช้เป็นหลักในการกาหนดประมวลจริยธรรมสาหรับเจ้าหน้าท่ีของรัฐ
ในหนว่ ยงานนนั้ ๆ ซึง่ ตอ้ งไมต่ ่ากวา่ มาตรฐานทางจริยธรรมดงั กลา่ ว"
ดังนั้น เพ่ือให้การจัดทาประมวลจริยธรรมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
และมีมาตรฐานเดียวกันควรมี "กฎหมายว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมใช้
เป็นหลักในการจัดทาประมวลจริยธรรมของหน่วยงานของรัฐเพ่ือใช้เป็น
หลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตนของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ กระบวนการรักษา
จริยธรรมของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ รวมทั้งมาตรการและกลไกท่ีมีประสิทธิภาพ
เพ่ือเสริมสร้างให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม" จึงจาเป็นต้องตรา
พระราชบัญญัตินี้
สาระสาคญั ของพระราชบญั ญตั มิ าตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562
พระราชบัญญัตมิ าตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 ประกอบด้วย
3 หมวด 1 บทเฉพาะกาลรวม 22 มาตรามีผลใช้บังคับต้ังแต่วันถัดจากวัน
ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา (ประกาศฯ เมื่อวันท่ี 16 เมษายน 2562 จึงมี
ผลใช้บงั คบั ตง้ั แตว่ ันท่ี 17 เมษายน 2562) มสี าระสาคญั โดยสรปุ ดงั น้ี
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
1. สภาพการใชบ้ งั คบั (มาตรา 3)
เป็นหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติตนของ "เจ้าหน้าท่ีของรัฐ" หมายความ
ว่า ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างหรือผู้ปฏิบัติงานอ่ืนในหน่วยงานของรัฐ ใน
สังกัดกระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอ่ืนและมีฐานะเป็น
กรม ราชการส่วนท้องถ่ิน รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือหน่วยงานอื่น
ของรัฐในฝ่ายบริหารแต่ไม่หมายความรวมถึง หน่วยงานธุรการของรัฐสภา
องคก์ รอิสระ ศาล และองคก์ ร อัยการ
2. มาตรฐานทางจรยิ ธรรมของเจา้ หนา้ ทขี่ องรัฐ (มาตรา 5)
คือ หลกั เกณฑ์การประพฤตปิ ฏิบตั อิ ยา่ งมีคณุ ธรรมของเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั
ซึ่งจะต้องประกอบด้วย
1 ) ยึดมน่ั ในสถาบันหลักของประเทศ อนั ไดแ้ ก่ ชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์
ทรงเป็นประมุข
2) ซือ่ สัตย์สุจรติ มีจติ สานกึ ที่ดี และรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่
3) กล้าตดั สินใจและกระทาในสิ่งท่ถี กู ตอ้ งชอบธรรม
4) คดิ ถงึ ประโยชน์ส่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตวั และมีจิตสาธารณะ
5) ม่งุ ผลสัมฤทธขิ์ องงานปฏบิ ัติหนา้ ที่อย่างเป็นธรรมและไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ
7) ดารงตนเปน็ แบบอยา่ งที่ดแี ละรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
มาตรฐานทางจริยธรรมท้ัง 7 ข้อน้ี ให้ใช้เป็นหลักสาคัญในการจัดทา
ประมวลจริยธรรมของหน่วยงานของรัฐที่จะกาหนดเป็นหลักเกณฑ์ในการ
ปฏิบัติตนของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ เกี่ยวกับสภาพคุณงามความดีท่ีเจ้าหน้าท่ี
ของรัฐต้องยดื ถือ สาหรบั การปฏบิ ตั ิงาน การตัดสินความถูกผิด การปฏิบัติท่ี
ควรกระทาหรือไม่ควรกระทา ตลอดจนการดารงตนในการกระทาความดี
และละเวน้ ความชว่ั
3. ผ้รู ับผดิ ชอบในการจดั ทาประมวลจรยิ ธรรม (มาตรา 6)
ให้องค์กรกลางบรหิ ารงานบุคคลของหนว่ ยงานของรัฐ (ก.พ.) มีหน้าที่
จดั ทา "ประมวลจริยธรรม" สาหรับเจ้าหน้าท่ีของรัฐที่อยู่ในความรับผิดชอบ
ทั้งน้ี หน่วยงานของรัฐอาจจัดทา "ข้อกาหนดจริยธรรม" เพ่ือใช้บังคับกับ
เจา้ หน้าท่ีของรฐั ในหน่วยงานนั้นเพ่ิมเติมจากประมวลจริยธรรมให้เหมาะสม
แก่ภารกจิ ทม่ี ีลกั ษณะเฉพาะของหน่วยงานของรัฐนั้นด้วยก็ได้
4. คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรม (ก.ม.จ.) (มาตรา 8,13 และ 14)
ให้มีคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า
"ก.ม.จ." มหี น้าท่ีและอานาจดงั ตอ่ ไปน้ี
1) เสนอแนะและให้คาปรึกษาเก่ียวกับนโยบายและยุทธศาสตร์ด้าน
มาตรฐานทางจริยธรรมและการส่งเสริมจริยธรรมภาครัฐต่อคณะรฐั มนตรี
2) กาหนดแนวทางหรือมาตรการในการขับเคล่ือน การดาเนิน
กระบวนการรักษาจริยธรรม รวมท้ังกลไกและการบังคับใช้ประมวล
จริยธรรมสาหรบั เจ้าหน้าทขี่ องรัฐเพ่ือให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคล หรือ
ผู้บงั คบั บญั ชานาไปใช้ในกระบวนการบริหารงานบุคคลอยา่ งเปน็ รปู ธรรม
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
3) กาหนดแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาเพ่ือเสริมสร้าง
ประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐมีความรู้ความเข้าใจ เก่ียวกับมาตรฐาน
ทางจริยธรรมและยึดถือแนวทางปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมรวมทั้ง
เสนอแนะมาตรการในการเพ่ิมพูนประสิทธิภาพและเสริมสร้างแรงจูงใจใน
การปฏบิ ัตติ ามประมวลจรยิ ธรรมแก่หน่วยงานของรฐั ต่อคณะรฐั มนตรี
4) กากับ ติดตาม และประเมินผลการดาเนินการตามมาตรฐานทาง
จริยธรรม โดยอยา่ งนอ้ ยตอ้ งให้หนว่ ยงานของรัฐ จดั ให้มกี ารประเมินความรู้
ความเขา้ ใจเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรม และให้มีการประเมินพฤติกรรม
ทางจริยธรรมสาหรบั เจ้าหน้าท่ีของรัฐในหนว่ ยงานนั้น
5) ตรวจสอบรายงานประจาปีของหน่วยงานของรัฐ และรายงาน
สรุปผลการดาเนินงานดังกล่าวเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพ่ือทราบอย่างน้อยปี
ละหน่งึ ครัง้
6) ตคี วามและวนิ ิจฉยั ปญั หาทเี่ กิดจากการใช้บงั คบั พระราชบัญญตั นิ ้ี
7) ปฏิบัติหน้าที่อ่ืนตามท่ีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติน้ีหรือตามที่
คณะรัฐมนตรมี อบหมาย
8) กาหนดหลักเกณฑ์เป็นระเบียบ คู่มือ หรือแนวทางปฏิบัติเพื่อให้
องค์กรกลางบริหารงานบุคคลและหน่วยงานของรัฐ ใช้เป็นหลักเกณฑ์
สาหรับการจัดทาประมวลจริยธรรมและข้อกาหนดจริยธรรม รวมท้ังการ
กาหนดกระบวนการรกั ษาจริยธรรม ของเจ้าหน้าทขี่ องรฐั โดยมหี นา้ ทใ่ี ห้
คาแนะนาแก่องค์กรกลางบริหารงานบุคคล และหน่วยงานของรัฐในการ
ปฏิบัติตามพระราชบัญญตั นิ ี้
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
9) ในกรณีที่ปรากฏแก่ ก.ม.จ. ว่าการจัดทาประมวลจริยธรรมของ
องคก์ รกลางบริหารงานบุคคลหรอื ขอ้ กาหนดจรยิ ธรรมของหนว่ ยงานของรฐั
แห่งใดไม่สอดคล้องกับมาตรฐานทางจริยธรรมหรือมีการปฏิบัติท่ีไม่เป็นไป
ตามหลกั เกณฑ์ ท่ี ก.ม.จ. กาหนด ให้ ก.ม.จ. แจง้ ใหอ้ งคก์ รกลางบรหิ ารงาน
บุคคล หรือหน่วยงานของรัฐแห่งน้ันคาเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง และให้เป็น
หน้าท่ีขององค์กรกลางบริหารงานบุคคล หรือหน่วยงานของรัฐท่ีจะต้อง
ดาเนินการ โดยเรว็
5. การรกั ษาจรยิ ธรรมของเจ้าหนา้ ทข่ี องรฐั และนาจรยิ ธรรมไปใชใ้ น
กระบวนการบรหิ ารงานบุคคล (มาตรา 19 และ 20)
ใหห้ นว่ ยงานของรฐั ดาเนินการ ดงั ตอ่ ไปนี้
1) กาหนดให้มีผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการรักษาจริยธรรมประจา
หนว่ ยงานของรฐั ในการน้ีอาจมอบหมายให้ส่วนงานท่ีมีหนา้ ทแ่ี ละการกิจใน
ด้านจริยธรรม ธรรมาภิบาล หรือท่ีเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล หรือ
คณะกรรมการและกลุ่มงานจริยธรรมประจาหน่วยงานของรัฐท่ีมีอยู่แล้ว
เป็นผูร้ บั ผดิ ชอบกไ็ ด้
2) คาเนินกิจกรรมการส่งเสริม สนับสนุน ให้ความรู้ ฝึกอบรม และ
พฒั นาเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ในหน่วยงานของรัฐ และจดั ให้มีมาตรการและกล ไก
ที่มีประสิทธิภาพเพ่ือเสริมสร้างให้มีการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม
รวมทั้งกาหนดกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ
พฤติกรรมของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ตลอดจนสร้างเครือข่ายและประสานความ
ร่วมมือระหว่างหนว่ ยงานของรัฐและภาคเอกชน
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
6. การใช้บังคบั ประมวลจรยิ ธรรม / หลักเกณฑเ์ ดมิ (มาตรา 22)
บรรดาประมวลจริยธรรม กฎ ระเบียบ หรือหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับ
จ ริ ย ธ ร ร ม ข อ ง เ จ้ า ห น้ า ที่ ข อ ง รั ฐ ท่ี มี ผ ล ใ ช้ บั ง กั บ อ ยู่ ใ น วั น ก่ อ น วั น ท่ี
พระราชบัญญตั ินี้ใช้บังคับให้คงมีผลใช้บังคับได้ต่อไปเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับ
พระราชบัญญัติน้ี จนกว่าจะมีการกาหนดประมวลจริยธรรม หรือ
หลักเกณฑเ์ กี่ยวกับจริยธรรมตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
แนวทางการปฏบิ ัตติ นของขา้ ราชการทดี่ ี
ข้าราชการ คือ บุคคลที่ปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความเสียสละเป็นที่พึ่งของ
ประชาชนและทาคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ โดยยึดถือความถูกต้อง มี
จริยธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ มีความซ่ือสัตย์สุจริตไม่กระทาตนออกนอก
ทางหรือประพฤติตนในทางท่ีเส่ือมเสียต่อหน้าท่ีการงาน มุ่งประโยชน์
ส่วนรวมเป็นที่ตงั้ ให้สมเกียรติศกั ด์ิ แหง่ จรรยาข้าราชการท่ดี ี
วันที่ 1 เมษายน ของทุกปี จึงกาหนดให้เป็นวันข้าราชการพลเรือน
เน่ืองจากข้าราชการเป็นผู้ท่ีทางาน ต่างพระเนตรพระกรรณพระมหากษัตริย์
ในการบริหารดูแลประชาชน ดังน้ัน การจะเป็นข้าราชการท่ีดีน้ัน นอกจาก
การเป็นคนดีตามกฎหมายและสังคมแล้วข้าราชการยังต้องมีวินัยและจรรยา
ข้าราชการที่ให้ถือปฏิบัติ ทั้งน้ี เพื่อศักด์ิศรีและความมีเกียรติของตาแหน่งซ่ึง
เป็นสง่ิ สาคญั ท่ีถือปฏิบัตกิ นั มาแตอ่ ดีต
ข้าราชการท่ีดี นอกจากจะยึดหลักจรรยาข้าราชการท่ีกาหนดไว้ใน
พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 แล้ว ยังควรน้อมนา
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานแก่ข้าราชการพลเรือน เม่ือวันที่ 30 มิถุนายน 2556 มาใช้ใน
การปฏบิ ัตหิ นา้ ทด่ี ว้ ยความว่า "ขา้ ราชการ ไม่ว่าอยใู่ นตาแหน่งใด ระดับไหน
มหี นา้ ท่ีอย่างไร ล้วนแตม่ ีความสาคัญอยู่ในงานของแผ่นดิน ท้ังสิ้นทุกคนทุก
ฝ่ายจงึ ไมค่ วรจะถอื ตวั แบง่ แยกกัน หากต้องยกย่องนับถือให้เกียรติกันสมัคร
สมาน ร่วมมือ ร่วมคิด กันให้การปฏิบัติบริหารงานของแผ่นดินดาเนินไป
อย่างมีเอกภาพ และไดผ้ ลพงึ ประสงค์ สมบูรณ์พรอ้ มทกุ สว่ น
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
ปัจจุบันจรรยาข้าราชการเป็นไปตามพระราชบัญญัติ ระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 หมวด 5 การรักษาจรรยาข้าราชการ
มาตรา 78 กาหนดว่าขา้ ราชการพลเรือนสามัญ ตอ้ งรักษาจรรยาข้าราชการ
ตามที่ส่วน ราชการกาหนดในเร่ืองการยึดม่ันและยืนหยัดทาในสิ่งที่ถูกต้อง
ความซ่ือสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบการปฏิบัติ หน้าที่ด้วยความโปร่งใส
ตรวจสอบไดป้ ฏิบตั ิหน้าทโ่ี ดยไม่เลือกปฏิบัติ และมุง่ สัมฤทธผ์ิ ลของงาน
"จรรยาข้าราชการ" หมายถึง แนวทางในการประพฤติปฏิบัติตนของ
ข้าราชการ เพ่ือให้การปฏิบัติหน้าท่ีมี ประสิทธิภาพสูงสุด และดารงตนใน
สงั คมอย่างเหมาะสมทัง้ นี้ เพอื่ ประโยชน์สุขของประชาชน
"ข้าราชการ" หมายถึง ข้าราชการพลเรือน พนักงานราชการ และ
ลูกจ้างในสังกัดข้าราชการพลเรือนการทางานราชการเป็นการทางานเพ่ือ
ประเทศชาติและประชาชน ซึ่งเป็นงานท่ีมีผลกระทบทั้งในปัจจุบัน และ
อนาคตต่อสังคมมากกว่าที่จะมีผลต่อตนเองและพวกพ้อง ดังนั้น อาชีพ
ราชการในทุกชาติทุกสังคมจึงได้รับ ความคาดหวังจากประชาชนใน
ประเทศชาติว่าข้าราชการจะปฏิบัติงานปฏิบัติตนโดยยึดถือความถูกต้อง
เป็นธรรม ซ่ือสัตย์ รับผิดชอบ เสียสละ และมีจริยธรรมในการทางานสูง
ขา้ ราชการจงึ เป็นบคุ คลที่ต้องทาหน้าที่ในการ สาธารณประโยชน์ต่อ
ประชาชนโดยไม่เลือกข้างและต้องนานโยบายของชาติมาปฏิบัติให้เกิด
ประสิทธิผล การปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ประชาชนอย่างมีคุณภาพจึงขึ้นอยู่กับ
การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการซ่ึงจะต้องซ่ึงจะต้องมีจิตสานึกใน หน้าท่ี
กระทาในสิ่งทถ่ี กู ต้อง เป็นธรรมเสยี สละ และมงุ่ ประโยชน์ส่วนรวมเป็นท่ตี ั้ง
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
ขา้ ราชการทกุ ทา่ นตอ้ งรกั ษาจรรยาขา้ ราชการตามทสี่ ว่ นราชการ
กาหนดไวโ้ ดยมุ่งประสงคใ์ หข้ ้าราชการทด่ี มี ีเกยี รตแิ ละศกั ดศ์ิ รี
ความเปน็ ข้าราชการ โดยเฉพาะในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ี
1. การยึดม่ันและยืนหยัดทาในสิ่งท่ีถูกต้อง ข้าราชการพ่ึงยึดมั่นใน
ระบบคุณธรรม ปฏิบัติหน้าท่ีตามกรอบ มายด้วยความถูกต้อง เช่น ปฏิบัติ
หน้าที่ โดยยึดถือความถูกต้องตามหลักวิชาการกฎหมายกล้าที่จะปฏิเสธต่อ
สนอหรือผลประ โยชน์ที่ไม่ถูกต้องและปฏิบัติหน้าท่ีอย่างถูกต้องตามคาสั่ง
ของผบู้ งั คบั บัญชาท่ถี กู กฎหมายกฎเกณฑ์ เหตผุ ลอนั ชอบธรรม
2. ความซ่ือสัตย์สุจริตและความรับผิดชอบ ข้าราชการต้องปฏิบัติ
หน้าท่ีด้วยความซ่อื สัตย์ สุจริตท้ังต่อ เองและผู้อ่ืน ไม่แสวงหาผลประ โยชน์
โดยมิชอบตระหนักและสานึกในหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง
หน่วยงาน และต่อสังคม เช่น ไม่ใช้เวลาราชการเพื่อไปทางานนอกท่ีให้ผล
ประโยชน์ตอ่ ตนเองและครอบครวั ไม่มุ่งหวังหรือแสวงหาประโยชน์อันมิควร
ได้จากการปฏิบัติงาน ไม่รับของขวัญหรือของกานันอันมีค่ามากเกินกว่า ที่
กฎหมายกาหนด และใช้ดุลพินิจในการตัดสินใจด้วยความสุจริตใจ ตรงตาม
เจตนารมณ์ของกฎหมาย
3. การปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ โปร่งใสเปีดเผยอย่างมีเหตุผลด้วย
ความบริสุทธิ์ใจ พร้อมรับการตรวจสอบ เช่น กาหนดระยะเวลาในการ
ปฏิบัติงาน ของแต่ละขั้นตอน เก็บหลักฐานการปฏิบัติงานไว้พร้อมสาหรับ
การตรวจสอบ หรือกรณีท่ีไม่สามารถปฏิบัติหรือ กระทาตามคาขอของ
ผ้รู บั บริการ สามารถช้แี จงหรือใหเ้ หตุผลท่เี หมาะสมได้
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
4. การปฏิบัติหน้าที่โดยไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ข้าราชการ
ต้องปฏิบัติหน้าท่ีด้วยความเสมอภาค เป็นธรรม และปราศจากอกติ เช่น
ปฏิบัติหน้าท่ีต้องกระทาอย่างถูกต้องบนพื้นฐานของความเสมอภาศมี
มาตรฐาน ในการใช้หลักการและเหตุผลอย่างเสมอต้นเสมอปลายไม่กระทา
การอนั ใดเป็นการชว่ ยเหลอื อปุ ถมั ภ์ หรอื เลอื ก ปฏิบัติอยา่ งไมเ่ ป็นธรรม
5. การมุ่งผลสัมฤทธ์ิของงาน ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ
มุ่งมนั่ กระตือรือรน้ อยา่ งเต็มความ สามารถเพื่อให้งานสาเร็จสมบูรณ์ อย่าง
มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เช่น ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท
สติปัญญา ความรู้ ความคิดที่มีอยู่ให้กับงานอย่างเต็มท่ีมุ่งมั่นปฏิบัติงานให้
บรรลผุ ลตามเป้าหมายโดยวิธีการ กระบวนการท่ีถกู ตอ้ ง และเป็นธรรม ด้วย
ความเป็นมืออาชีพและพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและ
ความชานาญในการปฏิบัติงานหากข้าราชการทุกท่านมีความมุ่งม่ัน ต้ังใจที่
จะปฏิบัติตามจรรยาข้าราชการข้างต้นอย่างจริงจังโดยยึด ประโยชน์ของ
ประเทศชาติ และประชาชนเป็นสาคัญแล้วความดีงามทั้งหลายจะส่งผลให้
การปฏิบัติงานราชการ มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ มีประสิทธิภาพ
คุณภาพของงานเพิ่มมากยิ่งขึ้นทั้งเป็นท่ีศรัทธาเช่ือถือ ของประชาชน สร้าง
ภ า พ ลั ก ษ ณ์ ท่ี ดี ใ ห้ กั บ ห น่ ว ย ง า น แ ล ะ น า พ า ป ร ะ เ ท ศ ช า ติ ใ ห้ มี ค ว า ม
เจรญิ รุ่งเรืองต่อไป
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
1. ข้าราชการต้องยึดมั่นในจริยธรรม และยืนหยัดกระทาในส่ิงที่
ถูกต้อง และเป็นธรรม
2. ข้าราชการต้องมีจิตสานึกที่ดี และความรับผิดชอบต่อหน้าท่ี
เสียสละ ปฏบิ ตั ิหน้าทีด่ ้วยความรวดเร็ว โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
3. ขา้ ราชการตอ้ งแยกเรอ่ื งสว่ นตวั ออกจากตาแหนง่ หนา้ ที่ และยดึ ถือ
ประโยชนส์ ่วนรวมของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์สว่ นตน
4. ข้าราชการต้องละเว้นจากการแสวงประโยชน์ที่มิชอบโดยอาศัย
ตาแหน่งหน้าท่ี
5. ข้าราชการต้องเคารพ และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
อยา่ งตรงไปตรงมา
6. ข้าราชการต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม เป็นกลาง
ทางการเมอื ง ให้บรกิ ารแก่ประชาชนโดยมีอัธยาศยั ท่ีดี
7. ข้าราชการต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของทาง
ราชการอย่างเคร่งครัด และรวดเร็ว ไม่ถ่วงเวลาให้เน่ินช้า และใช้ข้อมูล
ข่าวสารที่ได้มาจากการดาเนินงานเพื่อการในหน้าท่ี และให้ข้อมูลข่าวสาร
แก่ประชาชนอยา่ งครบถว้ น ถูกต้อง ทนั การณ์ และไมบ่ ิดเบอื นข้อเท็จจริง
8. ขา้ ราชการตอ้ งมุ่งผลสมั ฤทธข์ิ องงาน รกั ษาคณุ ภาพ และมาตรฐาน
แหง่ วชิ าชีพ โดยเคร่งครดั
9. ข้าราชการต้องยืดม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ
10. ข้าราชการต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการดารงตน รักษาชื่อเสียง
และภาพลักษณข์ องราชการโดยรวม
เพจ : รวมขอ้ สอบครูผชู้ ว่ ย
พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช
มพี ระบรมราชโองการ โปรดเกลา้ ฯ ใหป้ ระกาศวา่
“โดยทส่ี มควรมกี ฎหมายวา่ ดว้ ยความรบั ผดิ ทางละเมดิ ของเจ้าหนา้ ท่ี
จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบัญญตั ขิ น้ึ ไวโ้ ดยคาแนะนา
และยนิ ยอมของรฐั สภา” ดังต่อไปน้ี
มาตรา 1
พระราชบัญญัตินเ้ี รียกว่า พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของ
เจ้าหนา้ ที่ พ.ศ. 2539
มาตรา 2
พระราชบัญญัติน้ีใหใ้ ช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป
มาตรา 3
บรรดากฎหมาย กฎ และข้อบังคับใด ๆ ในส่วนท่ีมีบัญญัติไว้แล้วใน
พระราชบัญญัตินี้หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทแห่งพระราชบัญญัติน้ี ให้ใช้
พระราชบญั ญตั นิ แ้ี ทน
มาตรา 4
ในพระราชบัญญตั ินี้ "เจา้ หนา้ ที่" หมายความว่า ข้าราชการ พนักงาน
ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นการแต่งต้ังในฐานะเป็น
กรรมการหรือฐานะอ่ืนใด
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
"หน่วยงานของรัฐ" หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วน
ราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ราชการส่วนภูมิภาค
ราชการส่วนท้องถ่ิน และรัฐวิสาหกิจท่ีตั้งข้ึนโดยพระราชบัญญัติหรือพระ
ราชกฤษฎีกา และให้หมายความรวมถึงหน่วยงานอื่นของรัฐท่ีมีพระราช
กฤษฎกี ากาหนดให้เปน็ หน่วยงานของรฐั ตามพระราชบัญญตั นิ ้ีดว้ ย
มาตรา 5
หน่วยงานของรฐั ตอ้ งรับผดิ ต่อผู้เสียหายในผลแห่งละเมิดที่เจ้าหน้าที่
ของตนได้กระทาในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ในกรณีนี้ผ้เู สียหายอาจฟอ้ งหน่วยงาน
ของรัฐดังกล่าวได้โดยตรง แต่จะฟ้องเจ้าหน้าท่ีไม่ได้ถ้าการละเมิดเกิดจาก
เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐแห่งใดให้ถือว่ากระทรวงการคลัง
เปน็ หน่วยงานของรฐั ท่ีตอ้ งรับผดิ ตามวรรคหนึ่ง
มาตรา 6
ถ้าการกระทาละเมิดของเจ้าหนา้ ทมี่ ใิ ชก่ ารกระทาในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี
เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดในการน้ันเป็นการเฉพาะตัว ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจ
ฟ้องเจา้ หนา้ ที่ไดโ้ ดยตรง แต่จะฟอ้ งหน่วยงานของรัฐไม่ได้
มาตรา 7
ในคดีท่ีผู้เสียหายฟ้องหน่วยงานของรัฐ ถ้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่า
เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าท่ีต้องรับผิดหรือต้องร่วมรับผิด หรือในคดีที่ผู้เสียหาย
ฟอ้ งเจา้ หนา้ ทีถ่ ้าเจ้าหนา้ ทีเ่ ห็นวา่ เป็นเร่ืองท่ีหน่วยงานของรัฐต้องรับผิดหรือ
ต้องร่วมรับผิด หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีสิทธิขอให้ศาลที่
พิจารณาคดนี น้ั อยูเ่ รยี กเจา้ หนา้ ที่หรือหนว่ ยงานของรฐั
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
แล้วแต่กรณี เข้ามาเป็นคู่ความในคดีถ้าศาลพิพากษายกฟ้องเพราะ
เหตุท่ีหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่ถูกฟ้องมิใช่ผู้ต้องรับผิดให้ขยายอายุ
ความฟ้องร้องผู้ที่ต้องรับผิดซ่ึงมิได้ถูกเรียกเข้ามาในคดีออกไปถึงหกเดือน
นบั แตว่ ันทีค่ าพพิ ากษาน้ันถึงทสี่ ดุ
มาตรา 8
ในกรณที ีห่ นว่ ยงานของรัฐต้องรับผิดใช้คา่ สินไหมทดแทนแกผ่ ู้เสยี หาย
เพื่อการละเมดิ ของเจ้าหนา้ ท่ี ใหห้ นว่ ยงานของรัฐมีสิทธเิ รยี กให้เจ้าหน้าทผี่ ูท้ า
ละเมิดชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนดงั กลา่ วแกห่ นว่ ยงานของรฐั ได้ ถา้ เจ้าหนา้ ทไี่ ด้
กระทาการน้ันไปด้วยความจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง สิทธิเรียก
ใหช้ ดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนตามวรรคหนงึ่ จะมีได้เพียงใดใหค้ านงึ ถงึ ระดบั ความ
รา้ ยแรงแหง่ การกระทาและความเปน็ ธรรมในแต่ละกรณีเปน็ เกณฑ์โคยมิต้อง
ให้ใช้เต็มจานวนขอความเสียหายก็ได้ ถ้าการละเมิดเกิดจากความผิดหรือ
ความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐหรือระบบการดาเนินงานส่วนรวม ให้หัก
ส่วนแห่งความรับผิดดังกล่าวออกด้วยในกรณีท่ีการละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่
หลายคน มิให้นาหลักเรื่องลูกหนี้ร่วมมาใช้บังคับและเจ้าหน้าที่แต่ละคนต้อง
รับผดิ ใช้คา่ สนิ ไหมทดแทนเฉพาะสว่ นของตนเท่านนั้
มาตรา 9
ถ้าหน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่
ผู้เสียหาย สิทธิที่จะเรียกให้อีกฝ่ายหนึ่งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ตนให้มี
กาหนดอายุความหนึ่งปีนับแต่วันที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ได้ใช้ค่า
สนิ ไหมทดแทนนั้นแกผ่ ู้เสียหาย
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย
มาตรา 10
ในกรณีที่เจ้าหน้าที่เป็นผู้กระทาละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะ
เป็นหน่วยงานของรัฐที่ผู้นั้นอยู่ในสังกัดหรือไม่ ถ้าเป็นการกระทาในการ
ปฏิบตั ิหน้าทก่ี ารเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่ให้นาบทบัญญัติ
มาตรา 8 มาใช้บังกับโดยอนุโลม แต่ถ้ามิใช่การกระทาในการปฏิบัติหน้าท่ี
ให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์สิทธิ
เรียกร้องคา่ สนิ ไหมทดแทนจากเจ้าหน้าทท่ี ง้ั สองประการตามวรรคหน่ึง ให้มี
กาหนดอายุความสองปีนับแต่วันท่ีหน่วยงานของรัฐรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัว
เจา้ หน้าท่ี ผ้จู ะพงึ ต้องใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทน และกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐเห็น
ว่าเจ้าหน้าท่ีผู้นั้นไม่ต้องรับผิด แต่กระทรวงการคลังตรวจสอบแล้วเห็นว่า
ตอ้ งรับผิด ใหส้ ิทธเิ รียกรอ้ งด่าสินไหมทดแทนนน้ั มีกาหนดอายุความหนงึ่ ปี
นับแตว่ นั ทห่ี น่วยงานของรฐั มคี าส่งั ตามความเหน็ ของกระทรวงการคลงั
มาตรา 11
ในกรณีท่ีผู้เสียหายเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดตามมาตรา 5
ผู้เสียหายจะยื่นคาขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหม
ทดแทนสาหรับความเสียหายทีเ่ กิดแกต่ นก็ได้ ในการนี้หน่วยงานของรัฐต้อง
ออกใบรับคาขอให้ไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาคาขอนั้นโดยไม่ชักช้า เม่ือ
หน่วยงานของรัฐมีคาส่ังเช่นใดแล้วหากผู้เสียหายยังไม่พอใจในผลการ
วินิจฉัยของหน่วยงานของรัฐก็ให้มีสิทธิร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัย
ร้องทกุ ขต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยคณะกรรมการกฤษฎีกาไดภ้ ายในเก้าสบิ วนั นบั
แต่วันท่ีตนได้รับแจ้งผลการวินิจฉัยให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาคาขอที่
ไดร้ บั ตามวรรคหน่งึ ให้แลว้ เสร็จภายในหน่ึง 180 วนั
เพจ : รวมข้อสอบครูผชู้ ว่ ย
หากเรื่องใดไม่อาจพิจารณาได้ทันในกาหนดนั้นจะต้องรายงานปัญหา
และอุปสรรคให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือกากับหรือควบคุมดูแลหน่วยงานของ
รัฐแห่งน้ันทราบและขออนุมัติขยายระยะเวลาออกไปได้ แต่รัฐมนตรี
ดังกล่าวจะพิจารณาอนมุ ตั ิให้ขยายระยะเวลาใหอ้ ีกไดไ้ ม่เกนิ 180 วัน
มาตรา 12
ในกรณีที่เจ้าหน้าทต่ี อ้ งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนท่ีหน่วยงานของรัฐได้
ใช้ให้แก่ผู้เสียหายตามมาตรา 8 หรือในกรณีท่ีเจ้าหน้าที่ต้องใช้ค่าสินไหม
ทดแทนเน่ืองจากเจ้าหน้าท่ีผู้น้ันได้กระทาละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐตาม
มาตรา 10 ประกอบกับมาตรา 8 ให้หน่วยงานของรัฐท่ีเสียหายมีอานาจ
ออกคาสงั่ เรยี กใหเ้ จ้าหน้าทีผ่ ู้นัน้ ชาระเงนิ ดังกล่าวภายในเวลาท่ีกาหนด
มาตรา 13
ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีระเบียบเพ่ือให้เจ้าหน้าที่ซึ่งต้องรับผิดตาม
มาตรา 8 และมาตรา 10 สามารถผ่อนชาระเงินที่จะต้องรับผิดนั้นได้โดย
คานึงถึงรายได้ฐานะครอบครัวและความรับผิดชอบ และพฤติการณ์แห่ง
กรณปี ระกอบดว้ ย
มาตรา 14
เมื่อได้มีการจัดตั้งศาลปกครองข้ึนแล้ว สิทธิร้องทุกข์ต่ อ
คณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกข์ตามมาตรา 11 ให้ถือว่าเป็นสิทธิฟ้องคดีต่อ
ศาลปกครอง
เพจ : รวมขอ้ สอบครผู ชู้ ว่ ย
มาตรา 15
ใหน้ ายกรัฐมนตรีรกั ษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี ผ้รู บั สนองพระบรม
ราชโองการ บรรหาร ศิลปะอาชา นายกรฐั มนตรี
หมายเหตุ
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ การที่เจ้าหน้าท่ี
ดาเนินกิจการต่าง ๆ ของหน่วยงานของรัฐนั้น หาได้เป็นไปเพ่ือประ โยชน์
อันเป็นการเฉพาะตัวไม่ การปล่อยให้ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
ในกรณีที่ปฏิบัติงานในหน้าท่ีและเกิดความเสียหายแก่เอกชนเป็นไปตาม
หลักกฎหมายเอกชนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จึงเป็นการไม่
เหมาะสมก่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่า เจ้าหน้าท่ีจะต้องรับผิดในการกระทา
ต่าง ๆ เป็นการเฉพาะตัวเสมอไปเม่ือการท่ีทาไปทาให้หน่วยงานของรัฐต้อง
รับผิดต่อบุคคลภายนอกเพียงใดก็จะมีการฟ้องไล่เบี้ยเอาจากเจ้าหน้าที่เต็ม
จานวนน้ัน ทั้งที่บางกรณีเกิดข้ึนโดยความไม่ต้ังใจ หรือความผิดพลาดเพียง
เล็กนอ้ ยในการปฏิบตั หิ นา้ ที่ นอกจากนั้น ยังมีการนาหลักเร่ืองลูกหน้ีร่วมใน
ระบบกฎหมายแพง่ มาใชบ้ ังคับใหเ้ จ้าหน้าท่ีต้องร่วมรับผิดในการกระทาของ
เจ้าหน้าที่ผู้อื่นด้วย ซ่ึงระบบน้ันมุ่งหมายแต่จะได้เงินครบโดยไม่คานึงถึง
ความเป็นธรรมที่จะมีต่อแต่ละคน กรณีเป็นการก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม
แก่เจ้าหน้าท่ีและยังเป็นการบ่ันทอนกาลังขวัญในการทางานของเจ้าหน้าที่
ด้วยจนบางครั้งกลายเป็นปัญหาในการบริหารเพราะเจ้าหน้าท่ีไม่กล้า
ตัดสินใจดาเนินงานเท่าที่ควร เพราะเกรงความรับผิดชอบท่ีจะเกิดแก่ตน
ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเพ่ิมพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
ของรฐั จึงจาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญตั นิ ี้
เพจ : รวมข้อสอบครผู ชู้ ว่ ย